รีวิว ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง (Supalai Veranda รามคำแหง) คอนโดสูงบนถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก ใกล้สนามกีฬาราชมังคลาฯ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม

วันนี้จะพาไปรีวิวคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง (Supalai Veranda Ramkhamhaeng) ในย่านรามคำแหงกันค่ะ ที่นี่ถือเป็นโครงการคอนโดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของศุภาลัย รองจากโครงการ Supalai Oriental Sukhumvit 39 โดยที่ตั้งของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง อยู่บนทำเลที่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องความคึกคักของผู้คนและการจราจรแล้ว ล่าสุดก็กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มบนถนนรามคำแหงหน้าโครงการ ซึ่งถ้าแล้วเสร็จก็จะมีสถานีราชมังคลามาตั้งอยู่ติดหน้าทางเข้าโครงการกันเลยทีเดียว

Supalai Veranda รามคำแหง ตั้งอยู่บนที่ดินรูปร่างเป็นสี่แหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แปลงที่ดินยาวตั้งแต่ถนนรามคำแหงไปจนถึงถนนหัวหมาก เข้าออกได้ 2 ทาง ทำให้ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกบ้านที่ใช้รถส่วนตัว สามารถเข้าถึงโครงการได้จากถนนหลักหลายเส้นทาง …ที่นี่เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ ถูกออกแบบให้มีห้องพักอาศัยทั้งหมดถึง 2,073 ยูนิต และยังมีพื้นที่สำหรับร้านค้าอีก 25 ร้านให้ด้วย เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเมืองขนาดย่อมๆ เมืองหนึ่งในย่านรามคำแหงกันเลยทีเดียว …ตามอ่านรีวิวพร้อมบทวิเคราะห์ครบถ้วนทุกประเด็นจากทีมงานอยู่สบายกันต่อเลยค่า

Supalai Veranda Ramkhamhaeng

( ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
• ขนาดที่ดิน >>> 15-1-95.9 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์
• จำนวนชั้น >>>
  • TOWER A สูง 33 ชั้น
  • TOWER B สูง 35 ชั้น
  • TOWER C สูง 27 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 2,073 ยูนิต + 25 ร้านค้า
• ประเภทห้อง >>>
  • Studio ขนาด 28 – 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 35 – 42 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 42 – 44 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 59 – 67 ตร.ม.
• ที่จอดรถ >>> 55% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  (13/9/2561)
  • Studio ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 75,000 บาท/ตร.ม.
• เริ่มก่อสร้าง >>> ประมาณกลางปี 2562
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ประมาณกลางปี 2565
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 13.760561, 100.628014
• เว็บไซต์โครงการ >>> Supalai Veranda Ramkhamhaeng 
• โทร >>> 1720

Additional Info

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานพร้อมรับส่วนลด 10,000 บาทได้ที่นี่เลยค่ะ >>> http://www.supalai.com/verandaram/

Quick Review

จากที่คอนโดสูงย่านรามคำแหงค่อนข้างเงียบมานาน ล่าสุด Supalai Veranda รามคำแหง ก็จัดซะใหญ่โตบนพื้นที่ 15-1-95.9 ไร่ บนที่ดินยาวตั้งแต่ถนนรามคำแหงไปจนถึงถนนหัวหมากซึ่งเป็นถนนสายหลักของย่านรามคำแหง เข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง โดยโครงการจะมีอาคารพักอาศัย 1 อาคารแต่มี 3 ทาวเวอร์ พื้นที่ส่วนกลางให้มาหลากหลาย มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่สตูดิโอไปจนถึง 2 ห้องนอน ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งคนโสดและครอบครัวขนาดเล็ก ตามความเห็นของทีมงานอยู่สบาย ที่นี่น่าจะให้ดาวเด่นในเรื่องของทำเลและการเดินทางค่ะ ส่วนด้านอื่นๆ ก็จะรองๆ ลงไปหน่อย

• ด้านทำเล เนื่องจากทางเข้าออกมี 2 ทาง ติดถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก การเชื่อมต่อกับถนนสายหลักทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ก็ทำได้ง่าย ทั้งถนนลาดพร้าว, ถนนพระราม 9, ถนนศรีนครินทร์ และถนนกรุงเทพกรีฑา และแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญของโซนรามคำแหง อย่างสนามกีฬาราชมังคลาฯ, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัย ABAC วิทยาเขตหัวหมาก, และโรงพยาบาลรามคำแหง เป็นต้น
• การเข้าถึง มีทั้งเส้นทางหลัก และซอยย่อยลัดเลาะได้หลายซอยค่ะ มีป้ายรถเมล์อยู่แถวหน้าโครงการด้วย หรือจะเลือกเดินทางด้วยเรือโดยสารก็มีท่าเรืออยู่ไม่ไกล สำหรับรถไฟฟ้าใกล้บ้านปัจจุบันมี ARL สถานีรามคำแหง ที่ห่างออกไป 3.7 กม. ให้ใช้ แต่ในอนาคตปี 2566 ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านมาหน้าโครงการบนถนนรามคำแหง และมีสถานีราชมังคลาอยู่ติดหน้าทางเข้าโครงการเลย

ด้านอื่นๆ ก็อยู่ในเกณฑ์โอเค

• ความอุดมสมบูรณ์ โครงการตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยและย่านชุมชน หาของกินได้ไม่ยากเลยค่ะทั้งบนถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก จะมีร้านอาหารตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เลยหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงไปหน่อยก็จะมีบิ๊กซี รามคำแหง และ The Mall รามคำแหง 3 ด้วย
• ส่วนกลาง จะกระจายตัวกันอยู่หลายจุดคือมีที่ชั้น 1 ชั้น 6 และบนดาดฟ้าของแต่ละทาวเวอร์เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านให้ได้ทั่วถึงทั้ง 2,073 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางที่เด่นๆ ของชั้น 1 คือจะแยก Lobby ของแต่ละทาวเวอร์ ส่วนนี้ออกแบบมาสวยและดูหรูหราดีค่ะ บนชั้น 6 จะมีสระว่ายน้ำให้ 2 สระ สำหรับเด็กและผู้ใหญ่แยกกัน มี Jogging Track สำหรับคนชอบวิ่งออกกำลังกายกลางแจ้งด้วย ส่วนกลางบนชั้นนี้จะมีติหน่อยก็ตรงที่ห้องฟิตเนสของที่นี่ให้มาขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้าน  ส่วนบนชั้นดาดฟ้าก็จะมีห้องนั่งเล่น พักผ่อนและทำงาน มีวิวมุมสูงเป็นจุดขายตามสไตล์คอนโด High Rise

• วัสดุ ให้มากลางๆ คุณภาพมาตรฐานค่ะ พื้นส่วนพักผ่อนเป็นลามิเนตลายไม้ พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. กรอบบานกระจกใช้เป็น uPVC น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงดีค่ะ ห้องที่นี่จะขายแบบ Partly Fitted คือได้ชุดครัว แอร์ และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด รวมทั้งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย
• แปลนห้อง มีห้องหลายแบบ คือ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, และ 2 Bedrooms ห้องขนาดกลางจะมีรูปแบบการวางแปลนให้เลือกหลากหลายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละคนได้ดี การจัดวางพื้นที่ใช้งานของห้องแต่ละแบบค่อนข้างลงตัว ไม่รู้สึกคับแคบหรือกว้างจนเกินไป ทุกห้องจะได้ขนาดระเบียงที่มีความกว้างยาวสมดุล ใช้งานได้จริง

——–>

เหมาะกับใคร ?? :

คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ทำมาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทั้งคนรุ่นใหม่ วัยทำงานไปจนถึงคนที่มีครอบครัวขนาดเล็ก ระดับราคาไม่สูงจนเกินไป อยู่ในทำเลที่มีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษาตั้งแต่ระดับประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัยเลย มีการเดินทางเชื่อมต่อที่สะดวกหลายทาง ถ้ามองในแง่ความพร้อมของทำเลกับระดับราคานี้ถือว่าสมเหตุสมผลอยู่นะคะ โดยถ้าคิดจากราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท ต้องมีกำลังผ่อน 10,700 บาท** /เดือน หรือมีรายได้ประมาณ 26,750 บาท**/เดือนค่ะ 

**บนสมมติฐานการกู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี / กำลังผ่อนคิดเป็น 40% ของรายได้

**สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ “เปิดกระเป๋า ดูสตางค์” ด้านล่างนะคะ

——–>

การเดินทาง

ทีมงานอยู่สบายได้นำเสนอเส้นทางการเดินทางไป ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ให้ 3 ทางเลือก แวะเข้าไปเลือกเส้นทางที่ถนัดได้ใน พรีวิวทำเล “ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง”

ตอนที่เราเดินทางไปสำรวจทำเลของโครงการนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้า เลยเลือกใช้เส้นทางไปจากถนนลาดพร้าว (เส้นสีแดง) แต่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่ เนื่องจากมีการปิดช่องทางจราจรบางส่วนเพื่อเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ส่งผลให้ช่วงเวลาเร่งด่วนรถติดเอาการอยู่ เราเลยแนะนำให้ใช้ถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงจะสะดวกกว่านะคะ โดยสามารถเลือกเข้าโครงการได้ทั้งจากทางถนนรามคำแหง  (เส้นสีเขียว) และถนนหัวหมาก (เส้นสีม่วง)

สำหรับคนเดินที่ทางด้วยรถสาธารณะ แนะนำให้ใช้รถไฟฟ้า Airport Rail Link ลงที่สถานีรามคำแหง แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง, รถแท็กซี่หรือรถเมล์ ไปอีกประมาณ 3.7 กม. ก็จะถึงโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ โครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

คอนโด Supalai Veranda รามคำแหง อยู่ในย่านรามคำแหงซึ่งหลายคนรู้จักกันดี เพราะเป็นทำเลที่มีมหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, และการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งภายในจะมีพื้นที่ของอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก และสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ทำให้นอกจากจะมีพื้นที่ให้ได้ออกกำลังกายกลางแจ้งใกล้บ้านแล้ว ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ดูได้ตลอดทั้งปี ทั้งการแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศ และคอนเสิร์ต เป็นต้น

อาหารการกินคนย่านนี้มีให้เลือกตั้งแต่ Street food ไปจนถึงร้านอาหารขนาดกลาง มีอาหารใต้ให้เลือกทานเยอะ เพราะโซนนี้คนใต้อยู่กันหนาแน่น ใครชอบทานอาหารรสชาติจัดจ้าน อยู่แถวนี้น่าจะน้ำหนักขึ้นได้ ^_^ ส่วนแหล่งช้อปปิ้งบนถนนรามคำแหงก็จะมี Big C รามคำแหง และศูนย์การค้า The Mall รามคำแหง 3

ในอนาคตอันใกล้ คนย่านรามคำแหงก็กำลังจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันออกตั้งแต่ศูนย์วัฒนธรรมฯ – บางกะปิ – มีนบุรี พาดผ่านมาบนถนนรามคำแหง โดยจะมีสถานีราชมังคลา ตั้งอยู่ติดกับหน้าโครงการ มาอำนวยความสะดวกและทำให้คอนโด Supalai Veranda รามคำแหง เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้ากันไป ซึ่งคาดว่าคอนโดจะสร้างเสร็จในปี 2565 ในขณะที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม จะพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2566 ต้องยอมรับสภาพการจราจรที่ติดหนักบ้างในบางช่วงประมาณ 1 ปีหลังจากคอนโดสร้างเสร็จ  ถ้ารถไฟฟ้าเสร็จเมื่อไหร่ ชีวิตการเดินทางของคนแถวนี้ดีขึ้นอีกมากแน่นอนค่ะ

ในภาพรวมทำเลของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ต้องยอมรับว่าสิ่งอำนวยความสะดวกและการคมนาคมในปัจจุบันไปจนถึงโครงการในอนาคตอันใกล้ มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ ยังมีอีกหลายประเด็นเจาะลึกครบถ้วนทั้งที่กิน ที่เที่ยว ทางเลือกการเดินทางและเส้นทางลัดเกี่ยวกับโครงการนี้อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย >>  พรีวิวทำเล “ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง”

เปิดประตูดูโครงการ

สำนักงานขายของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ตั้งอยู่ส่วนหน้าของแปลงที่ดินซึ่งติดกับถนนรามคำแหง ถ้ามาจากทางฝั่งซอยรามคำแหงเลขคู่ จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ แถวรามคำแหงซอย 24

แต่ถ้ามาจากทางฝั่งซอยรามคำแหงเลขคี่ พอผ่านซอยรามคำแหง 65 ก็เตรียมชิดขวาเพื่อเลี้ยวขวาเข้าพื้นที่โครงการได้เลยค่ะ

สำนักงานขายอยู่ในอาคารกระจกสูง 1 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นเส้นสายการตกแต่งโทนสีดำและหลังคาสีน้ำตาลเข้ม ทุกโครงการใหม่ๆ ของศุภาลัยทุกวันนี้ตอกย้ำภาพลักษณ์ความโมเดิร์นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ จนแทบจะนึกไม่ออกแล้วว่าสไตล์ความเป็นป้าศุแบบเดิมเมื่อหลายปีก่อนเป็นอย่างไร

เข้ามาจอดรถด้านข้างอาคารแล้วมองย้อนกลับไปทางเข้า ถนนกว้างรถวิ่งสวนกันได้สบาย

จริงๆ แล้วสำนักงานขายอยู่ในอาคารกระจกสี่เหลี่ยมสูง 1 ชั้นธรรมดาๆ ค่ะ แต่พอออกแบบหลังคามาเก๋ไก๋โฉบเฉี่ยวแบบนี้ ใครขับรถผ่านไปผ่านมา ยังไงก็ต้องเหลียวมอง สวยดีค่ะ ชอบๆ^^

ภายในสำนักงานขายได้ฝ้าเพดานสูง ใช้วัสดุปิดผิวพื้น ผนัง และเคาน์เตอร์พนักงานขายด้วยลายหินอ่อน เน้นเส้นสายตกแต่งด้วยวัสดุโลหะสีทอง ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูเรียบง่าย แต่หรูหราดีค่ะ

ด้านข้างเคาน์เตอร์เซลล์จะเป็นทางเดินไปชมห้องตัวอย่างซึ่งอยู่ทางผนังฝั่งซ้ายมือ 

หันกลับมาดูด้านหน้าเคาน์เตอร์เซลล์จะมีแท่นวางโมเดลอาคาร และแบบห้องพักให้ดูด้วย แสงจากภายนอกเข้ามาได้เต็มที่ แทบไม่ต้องใช้ไฟส่องโมเดลและไฟในอาคารกันเลย

ชุดที่นั่งโซฟามีซุ้มระแนงไม้คลุมแยกเป็น 2 โซน เน้นให้สเปซตรงนี้ดูน่านั่ง และยังได้ความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งสำหรับคุยเรื่องการซื้อขาย

EXTERIOR

ดูสำนักงานขายแล้ว เราเริ่มดูโปรดักส์ของ Supalai Veranda รามคำแหง กันต่อค่ะ จากภาพจำลองมุมมองทางฝั่งถนนรามคำแหง จะเห็นตัวอาคารหันด้านแคบออกมา พื้นที่ตอนหน้าใกล้ทางเข้าออกจะถูกออกแบบให้เป็น Shopping area มีพื้นที่สำหรับร้านค้าในส่วนนี้อยู่ 10 ร้าน …ทางด้านขวาของทางเข้าโครงการจะมีสถานีราชมังคลา ของรถไฟฟ้าสายสีส้มมาจ่ออยู่ติดกับหน้าโครงการเลย

หากคอนโด Supalai Veranda รามคำแหง สร้างเสร็จแทบจะเป็นไอค่อนของแถวนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นอาคารสูงกว่าเพื่อนบ้านแวดล้อม แถมยังวางตัวเรียงกัน 3 ทาวเวอร์ กินพื้นที่ยาวตั้งแต่ถนนรามคำแหง (ทางขวามือ) และถนนหัวหมาก (ทางซ้ายมือ) แถมได้แบ็คกราวน์เป็นสนามหญ้าสีเขียวของการกีฬาแห่งประเทศไทย และสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานอีกด้วย

จากภาพจำลอง ทีมงานเราเก็บภาพโมเดลอาคารมาให้เติมเต็มจินตนาการกันต่อค่ะ

มุมมองนี้มองจากทางฝั่งถนนรามคำแหง จะเห็นด้านแคบของทาวเวอร์ A ซึ่งสูง 33 ชั้น ส่วนที่เป็นผนังโค้งสีเขียวเป็นทางขึ้นไปที่จอดรถค่ะ

จากถนนเส้นเดิม มองจากทางด้านข้างฝั่งขวา จะเห็น 3 ทาวเวอร์ เรียงตัวกันไล่ตั้งแต่ Tower A, Tower B และ Tower C (โครงการไม่ได้โชว์โมเดลทาวเวอร์ B เนื่องจากต้องการให้เห็นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้น 6 ของ Tower B) ส่วนชั้น 2 – 5 ของทั้ง 3 ทาวเวอร์จะเป็นที่จอดรถที่วิ่งเชื่อมถึงกันได้ทั้งหมด

ลักษณะการวางตัวอาคารทางฝั่งถนนหัวหมากก็จะเห็นคล้ายกับทางฝั่งถนนรามคำแหง โดย Tower C สูง 27 ชั้น จะหันด้านแคบมาทางฝั่งถนนนี้ รถที่วิ่งเข้ามาทางด้านนี้ก็จะวิ่งขึ้นที่จอดรถใต้ Tower C ได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งผ่านเข้าไปในตัวโครงการ ค่อนข้างสะดวกในการจอดรถดีค่ะ

ขยับขวาหน่อยก็จะเห็นด้านข้างของตัวอาคาร ซึ่งก็จะเรียงตั้งแต่ Tower C, Tower B และ Tower A ตามลำดับ ชั้นจอดรถจะมีการตกแต่งแนวผนังด้วยเส้นสาย ทำให้ตัวอาคารดูสวยขึ้น และเส้นสายเหล่านี้ก็จะนำสายตาไปยังจุด Drop Off ของแต่ละทาวเวอร์ด้วย

โทนสีของอาคารจะเป็นสีน้ำตาลเฉดอ่อนไปจนถึงเข้ม บวกกับเส้นสายการตกแต่งที่เป็นเส้นตรง มีมุมโค้งผสมกับมุมฉาก ทำให้โดยรวมดูมีความโมเดิร์นผสมกับกลิ่นอายความคลาสสิคหน่อยๆ เป็นการรักษาภาพลักษณ์ความเป็นผู้ใหญ่แบบศุภาลัยดั้งเดิมไว้บ้าง ผสมผสานกับความทันสมัยเพื่อเอาใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้ด้วย

การออกแบบของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน โดยจะใช้กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร ซึ่งช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศและประหยัดไฟมากขึ้น ประตูและหน้าต่างของห้องพักอาศัยใช้กรอบ uPVC ซึ่งช่วยลดเสียงจากภายนอก นอกจากนี้ยังใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานทั่วทั้งอาคารอีกด้วย

ชั้นดาดฟ้าของทั้ง 3 ทาวเวอร์ก็ไม่ได้สูญเปล่า ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่สีเขียว และห้องสำหรับนั่งเล่น พักผ่อน และทำงานได้

ผนังข้างอาคารของชั้น 2-5 ซึ่งเป็นชั้นที่จอดรถ จะออกแบบผนังกึ่งโปร่งเพื่อพรางสายตของรถที่จอดอยู่ด้านบน ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามมากขึ้นเมื่อมองมาจากด้านนอก

เส้นแนวนอนที่โค้งลงมารวมกันที่จุด Drop Off ของแต่ละ Tower เป็นการออกแบบที่ได้ประโยชน์ 2 ต่อค่ะ คือทั้งตกแต่งอาคาร และเน้นจุดสังเกตจุดจอดรับส่งได้ด้วย

จากทางเข้าโครงการ ขับรถตรงเข้าไปไม่กี่เมตรก็สามารถเลี้ยวเข้าอาคารเพื่อวนทางลาดขึ้นไปยังที่จอดรถได้เลย ข้อดีคือรถไม่วิ่งกันวุ่นวายในพื้นที่ของตัวโครงการ

จากชั้นล่าง ขึ้นมาดูส่วนกลางบนชั้น 6 กันหน่อย จะมีสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่อยู่ช่วงระหว่าง Tower A กับ Tower B

ชั้น 6 ของ Tower B จะเป็นพื้นที่สำหรับห้องฟิตเนส ห้องเล่นบาส มีห้องน้ำและห้องซาวน่าให้ด้วย

ระหว่าง Tower B กับ Tower C จะเป็นพื้นที่ของสระน้ำของเด็กๆ ค่ะ

ดูที่ตั้งโครงการ  เพื่อนบ้านแวดล้อม

ลักษณะที่ดินของโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวหน้าแคบ ฝั่งทิศเหนือติดถนนรามคำแหง ทิศใต้จรดถนนหัวหมาก  อาคารพักอาศัยเลยวางแนวยาวขนานไปกับตัวที่ดินและร่นระยะห่างจากถนนพอสมควร เนื่องจากก่อสร้างเป็นอาคารสูง จะต้องมีระยะ Set Back จากถนนนั่นเอง Tower A จะอยู่ใกล้กับทางด้านถนนรามคำแหง Tower B อยู่ตรงกลาง และ Tower C จะอยู่ใกล้ถนนหัวหมากค่ะ

เพื่อนบ้านโดยรอบทางทิศเหนือ-ใต้ไม่มีปัญหาการถูกบังวิวค่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 5 ชั้น ทิศตะวันออก-ตกเป็นทิศหลักของห้องพักในโครงการนี้ ซึ่งทางฝั่งทิศตะวันออกจะมีอาคารพาณิชย์สูง 4-7 ชั้น ยาวขนานไปกับแนวรั้วโครงการเลย ก็จะมีห้องพักชั้น 6-7 บางส่วนเท่านั้นที่จะถูกบังวิวบ้าง ชั้นบนๆ ขึ้นไปก็จะได้วิวเมืองฝั่งบางกะปิค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันตกจัดว่าได้วิวสวยสุดค่ะ เพราะจะได้เห็นสวนสุขภาพและสนามกีฬาราชมังคลาฯ ห้องชั้นบนๆ นี่แทบจะได้ดูฟุตบอลฟรีทุกแมตช์กันเลยทีเดียว ^_^ แต่ฝั่งนี้จะมีห้องพักของอาคาร A ริมซ้ายบางส่วนที่จะมองเห็นอาคาร 25 ชั้น ของที่ทำการการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ก็อยู่ในระยะไกลพอสมควรค่ะ ไม่ได้อยู่ประชิดติดรั้วโครงการ

ผังโครงการกับทิศทางแดด

การวางตัวของอาคารพักอาศัยของ Supalai Veranda Ramkhamhaeng มีการบิดตัวจากแนวแกนทิศเหนือใต้นิดหน่อย โดย Tower A จะอยู่ทางด้านทิศเหนือ Tower C อยู่ฝั่งทิศใต้ ห้องพักทั้งหมดหันระเบียงไปทางฝั่งทิศตะวันออกหรือไม่ก็ทิศตะวันตก เพราะฉะนั้นเรื่องแดดและความร้อนเข้าห้องก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ทั้งสองฝั่งค่ะ สำหรับเรื่องวิวคนชอบบรรยากาศเมือง มีตึกรามบ้านช่องหนาแน่นหน่อยก็ต้องเลือกทางฝั่งทิศตะวันออก ส่วนคนชอบวิวสวนสีเขียว สลับกับตึกของการกีฬาแห่งประเทศไทย และของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ต้องเลือกห้องที่มีระเบียงหันทางทิศตะวันตกค่ะ

ผังโครงการกับการเข้าถึง

การเข้าถึงคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง สำหรับรถที่วิ่งเข้ามาจากทางถนนรามคำแหง ขับตรงเข้ามาในพื้นที่โครงการแล้วเลี้ยวขวาเข้า Tower A เพื่อขึ้นไปที่จอดรถชั้น 2 ได้เลย (เส้นสีฟ้า) ในขณะที่รถที่มาจากทางถนนหัวหมาก ก็จะวิ่งขึ้นที่จอดรถได้จาก Tower C (เส้นสีฟ้า) ค่ะ  ส่วนการเอารถออกจากที่จอด จะวิ่งวนลงที่ Tower B ซึ่งอยู่ช่วงกลางอาคาร แล้วเลี้ยวออกซ้ายหรือขวาแล้วแต่ว่าจะออกไปทางฝั่งถนนเส้นไหน (เส้นประสีแดง)

สำหรับการจอดส่ง จะวิ่งผ่านหน้าอาคารและจอดส่งตามจุด Drop Off ของแต่ละทาวเวอร์ (เส้นสีชมพู)

[ คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย ]

FLOOR PLAN

Master Plan

ผังโครงการของคอนโด Supalai Veranda รามคำแหง จะวางตัวอาคารไว้ประมาณกลางแปลงที่ดิน พื้นที่ด้านหน้าติดถนนสองฝั่งจะกันไว้สำหรับร้านค้า โดยรอบอาคารจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถแบบไม่มีหลังคาคลุม

ภายในตัวอาคารของชั้นล่างนี้ จะมี Lobby แยกกันของแต่ละทาวเวอร์เชื่อมต่อกับจุด Drop Off พอดี พื้นที่ที่เหลือก็จะมีห้องนิติบุคคล และมีร้านค้าให้เช่าอีก 5 ร้านด้วย

[คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย]

ภาพขยายชั้นล่าง Tower A, Tower B และ Tower C ตามลำดับ

แปลนชั้น 6

Tower A และ Tower C จะเริ่มมีห้องพักอาศัยที่ชั้น 6 ในขณะที่ Tower B ซึ่งอยู่ตรงกลาง จะกันพื้นที่ของชั้นนี้สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง โดยจะมีสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่, สระเด็ก และ Jogging Track รองรับกิจกรรม outdoor ของลูกบ้าน ส่วนพื้นที่สำหรับกิจกรรม indoor ก็จะมีห้อง Fitness, ห้องเล่นบาสเก็ตบอล, ห้องซาวน่าและห้องน้ำแยกชายหญิง

[คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย]

ภาพขยายพื้นที่ส่วนกลางของชั้น 6

Tower A – แปลนชั้น 7-32

ตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 32 ของ Tower A จะเป็นห้องพักทั้งชั้น โดยห้องพักจะหันระเบียงไปทางด้านทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว อยู่ประมาณช่วงกลางของอาคาร ห้องแบบ 2 ห้องนอนอยู่ปีกซ้ายขวาของทาวเวอร์ฝั่งละ 2 ห้อง ห้องสตูดิโอจะอยู่ช่วงกลางใกล้กับโถงลิฟต์ ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ระหว่างกลุ่มห้องสตูดิโอและห้องแบบ 2 ห้องนอน

Tower B – แปลนชั้น 7-34

Tower B จะสูงกว่า Tower A ขึ้นไปอีก 2 ชั้น คือมีชั้น 33 และชั้น 34 ค่ะ แต่จำนวนลิฟต์โดยสารและลิฟต์เซอร์วิสยังเท่ากับของ Tower A และอยู่ช่วงกลางตัวอาคาร การวางผังห้องพักก็จะคล้ายกับ Tower A

Tower C – แปลนชั้น 7-26

Tower C มีจำนวนชั้นน้อยกว่าอีกสองทาวเวอร์ มีจำนวนลิฟต์โดยสารให้ 3 ตัว การวางผังห้องพักก็จะคล้ายกับ Tower A เช่นกัน

FACILITIES

พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง นั้นให้มาครบทีเดียวค่ะ หลักๆ จะรวมกันอยู่ที่ชั้น 6 ช่วงกลางอาคาร ลูกบ้านจากทั้ง 3 Tower สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยจะมี

• Infinity Edge Swimming Pool เป็นสระผู้ใหญ่ ระบบน้ำเกลือ ลึก 1.10 เมตร
• สระสำหรับเด็ก ลึก 0.60 เมตร
• Jogging track
• ห้อง Fitness และ Aerobic
• Basketball Court
• Suana แยกชายหญิง

บนชั้นดาดฟ้าของแต่ละทาวเวอร์ ก็จะมีพื้นที่สวน และห้องรองรับกิจกรรมหลากหลาย พร้อมกับได้วิวบนตึกสูงด้วย ประกอบด้วย

• Roof Garden
• Panoramic Sky Bar
• Sky Lounge
• Co-Working and Co-Living Space

มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV, ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ดูภาพจำลองพื้นที่ส่วนกลางของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง กันค่ะ เริ่มต้นกันที่จุด Drop Off ของแต่ละทาวเวอร์ จะเป็นซุ้มทางเข้าหลังคาสูง มีครีบตกแต่งผนังอาคารด้านบนช่วยบังความไม่เรียบร้อยภายในชั้นจอดรถและเส้นสายโค้งที่ลงมารวมกันเกิดเป็นลวดลายเหนือซุ้มประตู เน้นให้ส่วนนี้ดูเด่นอย่างกับทางเข้าโรงแรมกันเลยทีเดียว

บรรยากาศภายใน Lobby ได้ฝ้าเพดานสูง และผนังกระจกเต็มความสูงฝ้าทำให้ดูโล่งโปร่ง แสงธรรมชาติเข้าได้เต็มที่ วัสดุปิดผิวพื้นและผนังบางส่วนใช้เป็นวัสดุลายหินอ่อน มีเส้นโลหะสีทองตกแต่งทำให้ดูหรูหราขึ้น

ขึ้นมาบนชั้น 6 จะมี Infinity Edge Swimming Pool เป็นสระผู้ใหญ่

สระเด็กลึก 0.60 เมตร และมี Jogging track รองรับกิจกรรมกลางแจ้งให้ด้วย

ระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่จะเป็นห้อง Fitness ได้ผนังกระจกสูงดูวิวนอกอาคารและสระว่ายน้ำได้เต็มที่

ภายในห้องฟิตเนส จะมีชั้นลอยซึ่งออกแบบไว้เป็นห้องรองรับกิจกรรมที่หลากหลายของลูกบ้าน เช่น โยคะ หรือเต้นแอโรบิค

บนดาดฟ้าของทั้ง 3 ทาวเวอร์ก็จะมี roof garden และห้องนั่งเล่นพักผ่อน

อยากดูวิวแบบ 360 องศาก็ต้องขึ้นไปบนชั้น 33 ของ Tower A จะมี Panoramic Sky Bar ให้ได้ใช้งานกัน ผนังกระจกสูงรอบด้าน กับที่นั่งอาร์มแชร์หลายมุม นั่งชิลๆ ดูพระอาทิตย์ตกดินกันไป

บรรยากาศจำลองของ Co-Working and Co-Living Space บนชั้นดาดฟ้าของ Tower C

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของคอนโด Supalai Veranda รามคำแหง มีให้เลือกครบทุกรูปแบบค่ะ ตั้งแต่ห้องสตูดิโอ ไปจนถึง 2 ห้องนอน แต่ละแบบก็จะมีการวางแปลนที่ต่างกันออกไปเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลาย โดยแบบห้องประกอบด้วย

• Studio ขนาด 28 – 30 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตอยู่ 46%
• 1 Bedroom ขนาด 35 – 42 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตอยู่ 30%
• 1 Bedroom Plus ขนาด 42 – 44 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตอยู่ 10%
• 2 Bedrooms ขนาด 59 – 67 ตร.ม. มีจำนวนยูนิตอยู่ 14%

มาดูหน้าตาการวางแปลนห้องแต่ละแบบกัน…

• Studio ขนาด 28-30 ตร.ม.

รูปร่างแปลนห้องสตูดิโอจะเป็นห้องแนวยาว วางตำแหน่งของครัวแบบเปิดและห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูห้อง ขนาบซ้ายขวาของทางเดินเข้าไปสู่ส่วนพักผ่อนซึ่งอยู่ในสุด ส่วนนั่งเล่นจะอยู่ตรงกลาง และถัดเข้าไปจะเป็นเตียงนอน อยู่ใกล้กับที่นั่งติดริมหน้าต่างและระเบียง

ห้องนี้แม้จะมีจำนวนยูนิตเยอะสุด แต่ไม่มีห้องตัวอย่างตกแต่งให้ดูค่ะ เพราะการวางแปลนห้องสำหรับสตูดิโอแปลนสี่เหลี่ยมผืนผ้าลักษณะนี้ จะเป็นรูปแบบที่ค่อนข้าง Standard เลย จะมีให้เห็นบ่อยๆ ในหลายโครงการ

ระเบียงให้พื้นที่มาประมาณครึ่งหนึ่งของหน้ากว้างห้อง ความลึกระเบียงประมาณ 1 เมตร ใช้งานได้กำลังพอดีสำหรับ 1 คนไม่รู้สึกอึดอัด

• 1 Bedroom ขนาด 35 – 42 ตร.ม.

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน จะไม่มีห้องตัวอย่างและโมเดลให้ดูค่ะ เพราะเป็นอีกรูปแบบการวางแปลนที่เห็นได้บ่อยๆ ซึ่งห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีการวางแปลน 2 รูปแบบมาให้เลือก

รูปร่างแปลนห้องนี้เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมเกือบจัตุรัส แบ่ง 1 ใน 3 ส่วนของแปลนตามแนวยาวสำหรับห้องน้ำ ห้องครัว และต่อเนื่องไปถึงระเบียงอยู่ทางฝั่งซ้ายของแปลน ห้องน้ำเข้าได้จากทางห้องครัว ทำให้พื้นที่ที่เหลืออีก 2 ใน 3 ส่วนใช้สำหรับส่วนพักผ่อน ห้องนี้จะได้ส่วนพักผ่อนที่กว้างขวาง มีประตูบานเลื่อนกั้นฟังก์ชันแต่ละส่วนให้สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเพื่อเชื่อมสเปซห้องนั่งเล่น กับห้องนอนให้รวมกันเป็นห้องใหญ่ได้ โดยส่วนพักผ่อนจะได้วิวจากทางระเบียง แปลนห้องแบบนี้จะเหมาะกับคนชอบใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับส่วนพักผ่อนเป็นหลัก ไม่เน้นการทำครัว

อีกรูปแบบของแปลนห้อง 1 ห้องนอน ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น วางแปลนให้ส่วนนั่งเล่นอยู่ติดกับประตูห้อง ต่อเนื่องไปสู่ครัวแบบปิดที่มีระเบียงในตัว ส่วนห้องนอนจะมีประตูตรงกับประตูเข้าห้อง ได้วิวจากทางหน้าต่าง ห้องน้ำของแปลนห้องแบบนี้จะสามารถเข้าได้จากทางห้องนอน ช่องทางเดินไปห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้เสื้อผ้า กึ่งๆ เป็น Walk-in Closet ขนาดย่อมๆ ได้ ทำให้ดูเป็นสัดส่วนดี

• 1 Bedroom Plus ขนาด 42-44 ตร.ม.

ห้องนี้ได้ขนาดพอๆ กับแบบ 1 ห้องนอนที่เราเพิ่งดูไป แต่แบ่งผนังกั้นกลางห้องให้ฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้าเป็นส่วนของครัวแบบเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ถัดเข้าไปในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์กั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสามตอน ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของห้องทางฝั่งซ้าย จะเป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมดซึ่งมีห้องน้ำและระเบียงในตัว ห้องนี้จะได้ส่วนพักผ่อนที่แคบๆ ยาวๆ แต่ก็ไม่ได้แคบจนรู้สึกอึดอัดหรือต้องสไลด์ตัวเดินนะคะ แถมยังมีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาไว้ทำเป็นห้องทำงาน หรือมุมนั่งเล่นส่วนตัวอีกห้องได้ด้วย ห้องนอนอาจจะแคบกว่าแบบ 1 ห้องนอนธรรมดาหน่อยนึง แต่แลกกับการได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย

ห้องนี้มีโมเดลและห้องตัวอย่างจัดไว้ให้ดูด้วยค่ะ เราเก็บภาพห้องตัวอย่างมาให้ได้ชมกันด้วยในหัวข้อถัดไป ดูโมเดลสเปซห้องเป็นน้ำจิ้มไปพลางๆ ก่อนเนาะ

ระเบียงก็จะได้พื้นที่มาประมาณครึ่งหนึ่งของหน้ากว้างห้อง ความลึกให้มาประมาณ 1 เมตรค่ะ กว้างดี ใช้งานสบายๆ

• 2 Bedrooms ขนาด 59-67 ตร.ม.

แปลนห้องนี้ทั้งได้ขนาดใหญ่ และยังได้รูปร่างแปลนคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้วย ทำให้สัดส่วนฟังก์ชันการใช้งานแต่ละห้องจะออกมาค่อนข้างลงตัว โดยแบ่งแปลนเป็นสามส่วนขนาดใกล้เคียงกัน กลางห้องต่อเนื่องกับประตูเป็นที่วางโต๊ะทานอาหาร ใช้สเปซเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่นและมีระเบียงในตัว ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอนหลักที่มีห้องน้ำในตัว ทางเข้าห้องน้ำสามารถกั้นเป็น Walk-in Closet เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ ส่วนฝั่งขวาของแปลนจะเป็นพื้นที่ของห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำและในสุดเป็นห้องนอนเล็ก พื้นที่แต่ละห้องค่อนข้างสมดุลค่ะ ในห้องครัวที่ให้พื้นที่มากว้าง สามารถวางเครื่องซักผ้า และบิลท์อินตู้เก็บของเพิ่มได้อีก

ห้องนี้มีโมเดลและห้องตัวอย่างมาให้ดูด้วยนะ

เนื่องจากแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมทั้งหมด ก็จะได้ช่องหน้าต่างเยอะสมฐานะความเป็นห้องมุมกันไป ช่องระเบียงจะอยู่ช่วงกลางห้องเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่น

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างที่ทาง Supalai Veranda รามคำแหง จัดไว้ให้ดูจะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 43 ตารางเมตร และ 2 Bedrooms ขนาด 67 ตารางเมตร ความสูงของฝ้าอยู่ที่ 2.55 เมตร ประตูหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงในกรอบ uPVC สีขาว ส่วนพักผ่อนปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ พื้นครัวและระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนผิวด้าน ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังห้องติด Wallpaper ให้ ส่วนในห้องน้ำปูกระเบื้องสีขาวควันบุหรี่ผิวกันลื่นแผ่นใหญ่ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังส่วนอาบน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินผิวมันเงา

เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งทุกห้องจะได้แบบ Partly Fitted คือได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว แอร์ และสุขภัณฑ์ครบชุดในห้องน้ำ รวมถึงมีฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วย เฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆ จะอยู่ในเงื่อนไข Promotion คือลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์พร้อมส่วนลด หรือจะเอาเป็นส่วนลดอย่างเดียวก็ได้ จัดโปรโมชั่นมาแบบนี้ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งคนอยากได้ห้องเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และคนที่ชื่นชอบการตกแต่งห้องเองล่ะค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่จัดตกแต่งอยู่ในห้องตัวอย่างที่เราเก็บภาพมาให้ชมกัน จะเป็นของจริงที่ได้เฉพาะในส่วนของพื้น ฝ้าเพดาน ชุดครัว และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้นนะคะ ในส่วนอื่นๆ ถ้าอยากรู้ว่าจะได้เฟอร์นิเจอร์หน้าตาแบบไหน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขาย หรือจะดูอ้างอิงได้จาก รีวิว ศุภาลัย เวอเรนด้า สุขุมวิท 117  เนื่องจากจะให้ชุดเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับของโครงการนี้ค่ะ

 Supalai Veranda Ramkhamhaeng

ห้องตัวอย่าง

1 Bedroom Plus ขนาด 43 ตารางเมตร

สำหรับห้องนี้เข้าห้องมาจะเจอส่วนของพื้นที่ครัวแบบเปิดก่อน ถัดเข้าไปช่วงกลางจะเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อน และในสุดจะเป็นพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์

ยังอยู่กันที่แถวหน้าห้อง เอียงตัวดูผนังทางด้านขวามือ จะเห็นเป็นชุดครัว ต่อเนื่องกับผนังหลังโซฟา ครัวจะมีให้ทั้งตู้ล่างและตู้แขวนด้านบน มีฟังก์ชันตู้บานเปิด ช่องโล่งและตู้ลิ้นชักให้ครบค่ะ โดยห้องจริงที่ได้จะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าไมโครเวฟ และเตาไฟฟ้าให้มานะคะ แต่ทางโครงการจะเตรียมท่อสำหรับติดตั้งเครื่องดูดควันไว้ให้ทุกห้อง

เอียงตัวดูผนังทางซ้ายมือกันบ้าง ช่องผนังฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวสามารถวางตู้เย็น เครื่องซักผ้าและบิลท์อินตู้รองเท้าและชั้นวางของเพิ่มได้ ส่วนนี้จะได้เป็นช่องผนังเปล่าๆ มาค่ะ จินตนาการแต่งห้องเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานกันได้เต็มที่เลย ถัดเข้าไปจะเป็นช่องประตูเข้าห้องนอน และผนังทีวี

เดินเข้ามาแถวหน้าผนังทีวีแล้วมองย้อนกลับไปดูที่ส่วนครัว เคาน์เตอร์บาร์ที่นั่งทานอาหารในห้องตัวอย่างนี่เป็นการตกแต่งนะคะ ห้องจริงที่ได้จะไม่ได้แบบนี้ คนที่ไม่ชอบทานอาหารบนโต๊ะแบบเคาน์เตอร์บาร์ ก็เลือกเป็นชุดแบบที่ชอบมาวางตรงนี้แทนได้

เคาน์เตอร์ครัวจะมีบิลท์อินซิ้งค์ล้างจานแบบ 1 หลุม พร้อมถาดวางพักจาน ท็อปเคาน์เตอร์จะปิดผิวด้วยเมลามีนลายหินสีเทาเข้ม ผนังหลังเคาน์เตอร์ปูกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนสีครีมให้ และติดตั้งเต้าเสียบให้ 2 ชุด ทุกห้องจะไม่มีเตาไฟฟ้าให้นะคะ ห้องตัวอย่างติดตั้งเป็นไอเดียให้ดูเฉยๆ

พื้นครัวจะปูกระเบื้องสีเทาอ่อนผิวด้านให้ เหมาะสมกับการใช้งานจริง และเป็นการแบ่งแยกโซนพื้นที่การใช้งานด้วย

ส่วนนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดกลางได้ 1 ชุด มีระยะห่างระหว่างหน้าโซฟาถึงผนังทีวีเกือบเมตรค่ะ เดินไปมาสวนกันได้สะดวก ถัดเข้าไปในสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ กั้นผนังทึบ 1 ใน 3 เพื่อให้บิลท์อินตู้หรือโต๊ะเพิ่มได้ ส่วนที่เหลือจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนสูงเต็มความสูงฝ้า เวลาเปิดเต็มบาน ส่วนนั่งเล่นก็จะได้แสงเข้ามาจากทางหน้าต่างห้องอเนกประสงค์ด้วย

ผนังทีวีขนาดกำลังพอดี ไม่กว้างหรือแคบเกินไป อยู่ข้างทางเข้าห้องนอน

เดินเข้ามาดูสเปซในห้องอเนกประสงค์ ห้องตัวอย่างออกแบบเป็นห้องทำงาน แต่ถ้าจะทำเป็นห้องนอนเล็กน่าจะเหมาะกับวางเป็นโซฟาเบดนะคะ เพราะจะทำให้มีพื้นที่ทางเดินเหลือเยอะกว่าการวางเตียงเดี่ยว

หน้าต่างของห้องอเนกประสงค์จะเป็นบานติดตายและบานกระทุ้ง มือจับบานเป็นของ AMIGO

ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนที่กั้นระหว่างห้องอเนกประสงค์และส่วนนั่งเล่นจะเป็นเฟรม uPVC สีขาว บานไม่หนักเหมือนเฟรมอะลูมิเนียมเลื่อนง่ายค่ะ ส่วนตัวคิดว่าถ้าซ่อนบานเลื่อนเก็บที่ผนังทึบทางด้านซ้ายมือ น่าจะทำให้ได้ช่องเปิดตรงนี้กว้างขึ้นได้อีก สเปซของสองพื้นที่จะเชื่อมกัน ดูโล่งขึ้นด้วย

เฟรมประตูบานเลื่อนฝังบนพื้น เรียบเกือบเสมอระดับพื้นห้องค่ะ เดินไม่สะดุด ส่วนไฟในห้องทั้งหมดเป็นดาวน์ไลท์กลมแบบฝังในฝ้า

ออกจากห้องอเนกประสงค์มาชมห้องนอนหลักกันต่อ ห้องนี้เป็นห้องแนวยาว สามารถวางเตียง King Size ได้สบายค่ะ ห้องนี้จะมีระเบียงและห้องน้ำในตัว

ความกว้างของห้องพอใช้ได้นะคะ ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ข้างเตียงจะเป็นประตูบานเลื่อนเดินออกไประเบียงได้

ทางเดินข้างเตียงกว้างไม่ต่ำกว่า 50 ซม. เดินคนเดียวไปมาสบาย ไม่ต้องเบี่ยงตัวค่ะ

ระเบียงมีความลึกประมาณ 1 เมตรกว่า ถือว่ากำลังดีค่ะ วางชุดเก้าอี้สวยๆ ได้ 1 ชุดเลย ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทำสี ส่วนนี้ดีไซน์ธรรมดาค่ะไม่มีอะไรมาก

อีกฝั่งของระเบียงเป็นช่องสำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom Plus จะได้แอร์มา 3 ตัวคือในห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ และพื้นที่ส่วนนั่งเล่น

มือจับและกลอนล็อคประตูบานเลื่อนจะเป็นของ AMIGO ทั้งหมด

พื้นระเบียงด้านนอกปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 ซม. ธรณีประตูกั้นระหว่างภายในห้องกับระเบียงสูงประมาณ 10 ซม. // แอร์แขวนผนังเป็นของ TRANE

จากระเบียง หมุนตัวกลับมาดูภายในห้อง ตรงไปจะเป็นประตูห้องน้ำ ผนังขวามือต่อเนื่องกับหัวเตียงเหมาะสำหรับบิลท์อินตู้เสื้อผ้า และผนังตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าสามารถวางโต๊ะแต่งตัวได้ 1 ชุด หรือจะทำเป็นตู้เก็บของเพิ่มแทนก็ยังได้นะคะ

เดินตรงผ่านหน้าตู้เสื้อผ้าเข้ามาดูในห้องน้ำ วางแปลนให้อ่างล้างหน้าอยู่กลางห้องตรงกับประตูห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องอาบน้ำ

ส่วนฝั่งซ้ายจะติดตั้งโถสุขภัณฑ์ไว้ให้

อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนังของ COTTO พร้อมกระจกเงากว้างพอดีกับขอบอ่างแบบไม่มีกรอบ ติดกาวเข้าไปกับผนังเลย

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์บานเลื่อน

มือจับฉากกั้นอาบน้ำจะเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ เล็กไปหน่อย แต่สามารถใช้เป็นที่แขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย //  โถสุขภัณฑ์ครบชุดของ COTTO

ในห้องอาบน้ำจะมีขยักผนังเข้าไปหน่อยและบิลท์อินชั้นหินสังเคราะห์ไว้ให้ 1 ชั้นสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ ส่วนฝักบัวจะเป็นแบบกลมมาพร้อมกับชุดเครื่องทำน้ำอุ่นที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ด้วยทุกห้อง ที่แขวนฝักบัวมีราวปรับระดับได้ด้วยนะ

ธรณีประตูที่กั้นระหว่างพื้นห้องนอนกับพื้นห้องน้ำ จะเป็นหินเทียมสูง 5 ซม. ส่วนภายในห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งก็วางธรณีประตูเป็นหินเทียมสูงประมาณ 1 ซม. มีขอบรางประตูฉากกั้นอาบน้ำสูงขึ้นอีก 5 ซม. กันน้ำไหล

Supalai Veranda รามคำแหง

ห้องตัวอย่าง

2 Bedrooms ขนาด 67 ตารางเมตร

ห้องนี้เป็นห้องใหญ่สุดของโครงการเหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว โดยให้ส่วนวางโต๊ะทานอาหารอยู่ใกล้กับทางเข้าห้อง ต่อเนื่องกับส่วนนั่งเล่นและระเบียง ห้องนอนหลักจะอยู่ทางด้านขวามือมีห้องน้ำในตัว ส่วนผนังทางด้านซ้ายจะเป็นห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำและห้องนอน 2 ตามลำดับ

เดินเข้ามาดูห้องครัวกันก่อนค่ะ ห้องนี้ติดตั้งชุดครัวหน้าตาและฟังก์ชันเหมือนกับห้อง 1 Bedroom Plus ทางเดินหน้าเคาน์เตอร์กว้างประมาณ 1.2 เมตร เดินไปมาสวนกันได้สะดวก ถ้าของเยอะจะบิลท์อินตู้เก็บของลึก 40 ซม. ที่ผนังฝั่งขวามือเพิ่มก็ยังพอไหวนะคะ

ที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom Plus คือห้องนี้จะได้เป็นห้องครัวแบบปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้ มีช่องผนังทางขวาใกล้กับประตูไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย

ออกจากห้องครัวมาก็จะเป็นที่วางโต๊ะทานอาหาร ผนังหลังโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องนอน 1

ทางเข้าห้องนอน 1 อยู่ข้างผนังทีวี ซึ่งผนังทีวีห้องนี้ได้หน้ากว้างผนังมาเยอะตกแต่งตู้บิลท์อินสวยๆ เพิ่มเติมได้ค่ะ

ระยะห่างจากหน้าโซฟาถึงผนังทีวีเหลือเกือบ 2 เมตร ทำให้ส่วนพักผ่อนดูโล่งโปร่ง นั่งสบาย ได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากทางระเบียงด้วย

ขอบราวระเบียงของห้องนี้จะยื่นออกไปจากตัวอาคารหน่อยหนึ่ง ทำให้รับวิวได้มุมมองที่กว้างขึ้นอีก

อีกด้านของระเบียงจะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ หันด้านเป่าลมร้อนออกมาที่ระเบียง โดยห้องนี้จะติดตั้งแอร์ให้ที่ห้องนอนทั้งสองห้อง และอีกตัวอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น ราวระเบียงส่วนที่บังคอมเพรสเซอร์แอร์จะเป็นราวเหล็กสูงเต็มความสูงระเบียงเลย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของอาคารในภาพรวมจากการมองมาจากภายนอก

ระเบียงห้องนี้ได้ความกว้างเต็มหน้าห้องนั่งเล่นพอดี ลึกประมาณ 1.20 เมตร พอวางเก้าอี้สวยๆ ไว้นั่งเล่นได้ 1 ชุดค่ะ

เดินผ่านส่วนนั่งเล่นมาดูห้องนอนใหญ่กันต่อ ตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่มุมอาคาร ทำให้ได้หน้าต่างรับแสงจากภายนอกได้ทั้งทางด้านข้างและทางหัวเตียง

ช่องผนังของหน้าต่างข้างเตียงบิลท์อินเป็นที่นั่งเล่น หรือจะวางโต๊ะทำงานก็เหมาะสมลงตัวดีนะคะ

ทางเดินข้างเตียงสองฝั่งรวมกันประมาณ 1 เมตร สามารถขยับซ้ายขวาเพื่อปรับความกว้างทางเดินได้อีก ซึ่งก็อยู่ในระยะที่เดินได้สบาย

ทางเดินปลายเตียงกว้างประมาณ 80 ซม. ถ้ามีการติดตั้งทีวีที่ผนังปลายเตียงก็ยังเดินไปมาผ่านส่วนนี้ได้ไม่ต้องเบี่ยงตัวค่ะ

มองกลับมาดูผนังอีกด้านของห้องนอน 1 ฝั่งนี้จะเป็นช่องทางเดินไปห้องน้ำ ผนังข้างทางเข้าห้องน้ำเหมาะกับบิลท์อินตู้เสื้อผ้า คนชอบ Walk-in Closet จะกั้นประตูกระจกบานเลื่อนสวยๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องแต่งตัวก็ยังทำได้นะคะ

ภายในห้องน้ำ วางแปลนเหมือนห้อง 1 Bedroom Plus ที่เราพาดูไปแล้ว คือให้อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกับประตูเข้าห้อง ขวามือเป็นห้องอาบน้ำ

ทางฝั่งซ้ายจะติดตั้งโถสุขภัณฑ์ และมีราวแขวนผ้าติดที่ผนังฝั่งซ้ายนี้ด้วย

ภายในห้องอาบน้ำได้ชุดฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นลักษณะแบบนี้เลย ที่วางของในห้องน้ำจะเป็นหินเทียมสีขาวติดอยู่หน้าผนัง

ธรณีประตูระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำจะเป็นหินเทียมลายหินสีเทากลางสูงประมาณ 5 ซม. // ห้องน้ำของห้องนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ด้วยเปิดระบายอากาศได้ 1 ชุด …ข้อดีของห้องมุมค่ะ ช่องหน้าต่างให้มาเยอะสะใจยังกับบ้านเดี่ยวเลย^^

พอออกมาจากห้องนอนใหญ่ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ ช่องประตูทางขวาเป็นห้องนอนเล็ก

ลักษณะการวางผังห้องน้ำและชุดสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนกับห้องในห้องนอน 1

สำหรับห้องนอน 2 ขนาดห้องสามารถวางได้ทั้งเตียงเดี่ยวไปจนถึงเตียงคู่ค่ะ แต่ห้องตัวอย่างวางเป็นเตียงเดี่ยว เพื่อให้เหลือพื้นที่ใกล้หน้าต่างทำเป็นส่วนนั่งเล่นและโต๊ะทำงาน ห้องนี้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเกือบเต็มช่องผนัง 1 ด้านเลย ทำให้ห้องดูสว่างมาก ไม่ต้องเปิดไฟในห้องเยอะ

พื้นที่ใกล้หน้าต่างบิลท์อินเป็นโต๊ะทำงาน และชุดโซฟาอีก 1 ชุด เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานในห้องให้หลากหลายขึ้น

ผนังข้างเตียงอีกด้านบิลท์อินตู้เสื้อชุดใหญ่ได้อีก 1 ชุด

ทางเดินข้างเตียงกว้างเดินไปมาใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในห้องได้สะดวก ไม่รู้สึกแคบ

ทางเดินปลายเตียงก็พอดีสำหรับหนึ่งคน ติดทีวีที่ผนังก็ยังเหลือทางเดินพอสมควร

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

คอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ขายห้องสตูดิโอขนาดเล็กสุดแบบ Partly Fitted ซึ่งราคาขายเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทนั้นอยู่ที่ Tower C  โดยราคาห้องบน Tower A และ B จะสูงกว่านี้ เนื่องจาก Tower A อยู่ใกล้ทางเข้าหลักของโครงการฝั่งถนนรามคำแหงและใกล้รถไฟฟ้า  ส่วน Tower B เป็นตึกที่มี Facilities อยู่ที่ชั้น 6 นั่นเอง โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละ 75,000 บาท (ข้อมูลช่วงกลางเดือนกันยายน 2561) เป็นระดับราคาที่คนวัยเริ่มต้นทำงานยังสามารถเข้าถึงได้อยู่นะคะ มาดูราคาของห้องแต่ละแบบและเงื่อนไขการวางเงินจองกันหน่อยดีกว่า

ราคา ณ วันที่  13 กันยายน 2561

ราคาเริ่มต้น :

Studio ขนาด 28 – 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท

1 Bedroom ขนาด 35 – 42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท

1 Bedroom Plus ขนาด 42 – 44 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท

2 Bedrooms ขนาด 59 – 67 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

Studio  –  จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 39,000 บาท

1 Bedroom  –  จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 49,000 บาท

1 Bedroom Plus  –  จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 59,000 บาท

และ 2 Bedrooms จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 69,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 350 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขอ้างอิงได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) 

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 10,700 บาท/เดือน

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคา 2.3 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 13,000 บาท/เดือน

1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 15,300 บาท/เดือน

2 Bedrooms ขนาด 59 ตร.ม. ราคา 3.7 ล้านบาท – ผ่อนประมาณ 21,000 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 11,400 บาท/เดือน

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคา 2.3 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 13,900 บาท/เดือน

1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 16,300 บาท/เดือน

2 Bedrooms ขนาด 59 ตร.ม. ราคา 3.7 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 22,400 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 12,600 บาท/เดือน

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคา 2.3 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 15,400 บาท/เดือน

1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 18,000 บาท/เดือน

2 Bedrooms ขนาด 59 ตร.ม. ราคา 3.7 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 24,800 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 14,800 บาท/เดือน

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคา 2.3 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 18,000 บาท/เดือน

1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 21,000 บาท/เดือน

2 Bedrooms ขนาด 59 ตร.ม. ราคา 3.7 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 29,000 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

Studio ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 19,300 บาท/เดือน

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ราคา 2.3 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 23,500 บาท/เดือน

1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 27,400 บาท/เดือน

2 Bedrooms ขนาด 59 ตร.ม. ราคา 3.7 ล้านบาท  –  ผ่อนประมาณ 37,800 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ในภาพรวมของการเดินทางไป ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ถือว่าสะดวกสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และทางเรือค่ะ ซึ่งการใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถเข้าออกได้ทั้งถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก มีเส้นทางหลักให้เลือกได้หลายทางได้แก่ การใช้ถนนลาดพร้าวหรือถนนพระราม 9 เข้าสู่ถนนรามคำแหง และการใช้ถนนศรีนครินทร์หรือถนนกรุงเทพกรีฑาเข้าสู่ถนนหัวหมาก ก็ยังจะมีซอยย่อยใช้เป็นทางลัดได้อีกหลายเส้นทาง โดยฝั่งซอยรามคำแหงเลขคี่ที่อยู่ตรงข้ามโครงการ ใช้วิ่งเชื่อมระหว่างทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และถนนลาดพร้าว ในขณะที่ซอยรามคำแหงฝั่งเลขคู่พาลัดไปออกถนนพระราม 9 เพื่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิและใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่วิ่งไปโซนภาคตะวันออกได้อย่างสะดวกสบาย

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าทำเลนี้มีผู้คนอยู่เยอะ ทั้งคนท้องที่เดิม นักเรียน นักศึกษา ไปจนถึงคนย้ายมาอยู่เพื่อทำงานแถวนี้ ซึ่งพอมีคนอยู่จำนวนมาก อสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงก็โตตามไปด้วย ทั้งเพื่อเช่าและเพื่อซื้อขาย แต่เป็นการโตแบบเรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรนัก จากการสำรวจของศุภาลัยเองก็พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาย่านรามคำแหงมีคอนโดเปิดใหม่ค่อนข้างน้อย โดยมี Supply อยู่ประมาณ 5,600 ยูนิต ขายไปแล้วประมาณ 4,400 ยูนิต มีอัตราการดูดซับประมาณ 78%

ล่าสุดก็กำลังมีการพัฒนาทางด้านคมนาคมขนส่งอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้นกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งวิ่งมาจากถนนลาดพร้าวยาวไปตามแนวถนนศรีนครินทร์ และรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะวิ่งเหนือถนนรามคำแหง เราก็เลยจะได้เห็นดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่ๆ หลายเจ้าในวงการเริ่มมาจับจองฐานที่มั่นเพื่อดึงกลุ่มลูกค้าโซนนี้ ศุภาลัยเองก็ทุ่มงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท สร้างคอนโดที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับ 2 ตั้งแต่ศุภาลัยได้พัฒนาโครงการ High Rise มา เพื่อจับลูกค้าโซนนี้ก่อนเจ้าอื่น มีจุดเด่นตรงที่เข้าออกได้ 2 ถนนหลัก และในอนาคตก็ยังจะมี สถานีราชมังคลา มาจ่อติดหน้าโครงการเลย มีสถานีเชื่อมต่อกับสายสีเหลืองแถวแยกลำสาลี ที่อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ไปเพียง 2 สถานีเท่านั้น คอนโดนี้นับเป็นโครงการแนวสูงชุดแรกๆ ที่เริ่มก่อสร้างไปพร้อมๆ กับรถไฟฟ้า ราคาเลยยังไม่แพงมาก ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จราคาก็คงจะพุ่งขึ้นไปได้อีกแน่นอนค่ะ ซึ่งถ้ามองจากปัจจัยเหล่านี้สำหรับการซื้อเพื่อลงทุนดูมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะต้องหาข้อมูลด้านอื่นๆ เพิ่มเติมและไปสัมผัสบรรยากาศของทำเลนี้ด้วยตัวเองก่อนการตัดสินใจค่ะ เพราะบทเรียนจากคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ลงเสาเข็มโครงการไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างรางรถไฟฟ้า ทำออกมามากไปจนเกินดีมานด์ที่แท้จริงไปมาก ทำให้การซื้อคอนโดโซนนั้นเพื่อเก็งกำไรถึงกับจุกไปตามๆ กัน

ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งคือ พื้นที่ติดถนนทั้งทางฝั่งถนนรามคำแหง และถนนหัวหมากถูกกันพื้นที่ไว้สำหรับทำร้านค้าให้เช่าฝั่งละ 10 ร้าน และยังมีชั้นล่างของอาคารอีก 5 ร้าน รวมแล้วทั้งหมด 25 ร้านค้า ซึ่งถ้ามีร้านค้าเต็มทุกยูนิตจริงๆ คอนโดนี้ก็แทบจะเป็นเมืองขนาดย่อมๆ เมืองหนึ่งในย่านรามคำแหงได้เลยทีเดียว พอสิ่งแวดล้อมคึกคัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านค้า ร้านอาหารมาครบ ก็น่าจะเป็นอีกแรงหนุนที่ช่วยส่งเสริมราคาห้องพักอาศัยของที่นี่ให้สูงขึ้นตามไปด้วย แต่คงต้องติดตามสอบถามความชัดเจนของแผนพัฒนาร้านค้ากับทางเซลล์ที่โครงการอีกทีว่าจะออกมาในทิศทางไหน

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

เนื่องจากที่ดินของคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว และแคบ ความกว้างยาวของแปลงที่ดินดูไม่ค่อยสมดุล แต่สถาปนิกแก้ปัญหาและออกแบบผังโครงการมาได้ดีค่ะ คือออกแบบฐานอาคารเป็นแนวยาวขนานไปกับแนวที่ดิน แต่แยกส่วนของห้องพักเป็น 3 ทาวเวอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อลดการปะทะของแรงลมกับตัวอาคาร ช่องระหว่างตึกจะช่วยให้ลมไหลผ่านแต่ละทาวเวอร์ได้ดีขึ้น ผังทางเดินแต่ละชั้นก็จะไม่ยาวเหยียดจนเกินไป และตัวอาคารก็ไม่บล็อควิวกันเองด้วย โทนสีและการตกแต่งหน้าตาอาคารออกแบบมาดูโมเดิร์นแต่ก็ยังมีองค์ประกอบที่ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ตอบโจทย์ภาพลักษณ์ของกลุ่มคนวัยทำงานที่ดูภูมิฐาน

ผังคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ทั้ง 3 ทาวเวอร์วางตัวบิดแกนแนวเหนือใต้เล็กน้อย ห้องพักทั้งหมดจะได้วิวทางด้านทิศตะวันตก หรือทิศตะวันออก โดยห้องฝั่งทิศตะวันออกจะได้วิวเมืองโซนบางกะปิ ส่วนคนชอบวิวที่ได้เห็นธรรมชาติ ต้องเลือกทิศตะวันตกค่ะ เพราะได้เห็นวิวสวนและสนามหญ้าสีเขียวในพื้นที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย

โถงลิฟต์อยู่ช่วงกลางของทาวเวอร์ ห้องสตูดิโอจะเกาะอยู่ช่วงกลางอาคารใกล้กับโถงลิฟต์ ส่วนห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอน จะอยู่ปีกซ้ายและขวาฝั่งละ 2 ห้อง ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ระหว่างห้องสตูดิโอกับห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งห้องทุกแบบมีให้เลือกทั้งหันระเบียงไปฝั่งทิศตะวันออกหรือไม่ก็ทิศตะวันตก เลือกได้ว่าชอบวิวฝั่งไหนมากกว่ากัน โดยทั้ง 2 ฝั่งไม่มีเพื่อนบ้านเป็นตึกสูงมาบล็อกวิว

สำหรับแปลนห้องแบบ Studio ของโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว จัดเรียงให้พื้นที่ส่วนใช้สอยอยู่ในสุดของห้อง มีที่นั่งเล่นริมหน้าต่าง และระเบียงก็ค่อนข้างกว้างดี ห้องแบบ 1 Bedroom มีแปลนให้เลือก 2 รูปแบบ ถ้าชอบห้องที่ดูเป็นสัดส่วนก็ต้องเลือก แบบ 1 Bedroom ขนาด 41-42 ตร.ม. แต่ถ้าเน้นห้องที่ส่วนพักผ่อนกว้างขวางอยู่สบาย ต้องเลือกห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35-42 ตร.ม. สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom Plus มีแปลนมาให้เลือกแบบเดียว ตอบโจทย์คนที่อยากได้ห้องเพิ่มเพื่อใช้ประโยชน์อเนกประสงค์ค่ะ ในส่วนของห้องขนาดใหญ่สุดแบบ 2 Bedrooms ออกแบบวางผังแต่ละห้องได้พื้นที่ลงตัวดีทีเดียว ไม่มีห้องไหนที่รู้สึกว่าแคบและอึดอัดจนเกินไป ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่พอกั้นห้อง Walk-in Closet ได้ด้วย

วัสดุที่ให้มาของ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร ส่วนพักผ่อนปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ ส่วนครัวและระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนผิวด้าน ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังห้องติด Wallpaper ให้ ส่วนในห้องน้ำปูกระเบื้องสีขาวควันบุหรี่ผิวกันลื่นแผ่นใหญ่ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังห้องอาบน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนผิวมันเงา ประตูหน้าต่างใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสงในกรอบ uPVC สีขาว บานไม่หนักแต่แข็งแรงดี

เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งทุกห้องจะได้แบบ Partly Fitted คือได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งอ่างล้างจานให้แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน มีแอร์ให้ และในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์ครบชุดของ COTTO รวมถึงได้ฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย เฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆ จะอยู่ในเงื่อนไข Promotion ส่งเสริมการขายของทางโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง ให้ฟังก์ชันมาหลากหลายค่ะ ทั้งสำหรับกิจกรรม indoor และ outdoor โดยหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่, สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก, Jogging track, ห้อง Fitness และ Aerobic, Basketball Court และ Suana แยกชายหญิง บนชั้นดาดฟ้าของแต่ละทาวเวอร์ ก็จะมีเป็นพื้นที่สวน, Panoramic Sky Bar, Sky Lounge, และ Co-Working & Co-Living Space เพื่อรองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้ง 2,073 ยูนิต จะมีติหน่อยก็ตรงขนาดห้องฟิตเนสที่ดูไม่ค่อยสมดุลกับจำนวนลูกบ้านเลย

สำหรับสัดส่วนการใช้ลิฟต์นั้น Tower A มีจำนวน 729 ยูนิต มีสัดส่วนการใช้ลิฟต์ 182 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว, Tower B มีจำนวน 756 ยูนิต มีสัดส่วนการใช้ลิฟต์ 189 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว และ Tower C มีจำนวน 588 ยูนิต มีสัดส่วนการใช้ลิฟต์ 196 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว ส่วนที่จอดรถให้มาถึง 55% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) อันนี้ถือว่าดีงามเกินระดับราคาค่ะ

เจาะลึกรีวิวกันไปอย่างละเอียดยิบแล้ว  ก็ขอสรุปจบท้ายคะแนนกันอีกสักรอบนะค้าาาา…  เห็นด้วยหรือไม่ตรงไหน  แชร์ไอเดียกันได้ค่ะ ^___^

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

Additional Info

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานพร้อมรับส่วนลด 10,000 บาทได้ที่นี่เลยค่ะ >>> http://www.supalai.com/verandaram/

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^