วันนี้เรามารีวิวคอนโดมิเนียม The Origin Ram 209 Interchange (ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์) โครงการคอนโดมิเนียม High rise แบรนด์ใหม่จาก Origin ที่นำชื่อของบริษัทมาตั้งเป็นส่วนหนึ่งของชื่อแบรนด์ใหม่ ซึ่งคอนโดแบรนด์ The Origin นั้นทำออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า First jobber หรือวัยเริ่มต้นทำงานที่ต้องการคอนโดราคาเบาๆ ที่สามารถจับต้องได้ค่ะ
ทำเลที่ตั้งของโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอรเชนจ์ ตั้งอยู่ในย่านใหม่ที่เรียกว่า New EBD — Extension Business District เป็นย่านที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจต่างๆ ออกมารอบนอก พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ครบครันอย่าง จุดเชื่อมต่อกันระหว่างรถไฟฟ้า 2 สายอย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าสายสีชมพู และถนนรามคำแหงกับถนนรามอินทรา เป็นทำเลในอนาคตที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตขยายการเจริญจากใจกลางเมืองออกไป สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ New EBD เป็นย่านใหม่ที่ความเจริญกำลังรุกคืบเข้ามาในไม่ช้านี้
และกลยุทธ์ที่ทาง origin ได้ลงเล่นในสนามนี้คือ “กลยุทธ์ทะเลสีคราม” ที่เคยใช้และประสบความสำเร็จมาแล้วในย่านเทพารักษ์ เน้นเข้าถึงตลาด Local Demand เข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างแท้จริง ซึ่งเทคนิคนี้มีประสิทธิภาพมากจึงทำให้ทางผู้พัฒนาฯ ได้นำกลยุทธ์เดิมนี้มาใช้กับจุดตัดใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีส้ม
ในปีนี้ The Origin จะเปิดตีตลาดใน 6 ทำเล ทั้งรามคำแหง สุขุมวิท รัชดา ลาดพร้าว รามอินทราและพหลโยธิน โดยเปิดทำเลรามคำแหงเป็นที่แรกกับโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ที่มากับจุดเด่นใกล้รถไฟฟ้าสถานีอินเตอร์เชนจ์ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้มและรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีมีนบุรีค่ะ
ตัวโครงการ The Origin ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 31 ชั้น มีจำนวน 1,007 ยูนิต ทำแบบห้องมาให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 22-34 ตร.ม. โดยโครงการยังออกแบบห้องขนาด 25 ตร.ม แบบพิเศษที่มี walk-in closet มาให้เฉพาะในแบรนด์ The Origin เท่านั้นอีกด้วย เล่าขนาดนี้แล้วไปตามอ่านรายละเอียดกันต่อเลยดีกว่าค่ะ
ก่อนจะไปดูโครงการก็ขอเกริ่นถึงแบรนด์ The Origin (ดิ ออริจิ้น) อีกสักเล็กน้อยค่ะ อย่างที่บอกว่าตัวแบรนด์ทำออกมาในกลุ่มราคาที่จับต้องได้ง่าย (Affordable Segment) ทำให้รูปแบบการดีไซน์ของโครงการดูออกมาวัยรุ่น มี mood & tone ของความสนุกสนานอยู่ ตั้งแต่เรื่อง Logo ที่เลือกใช้สีสันสดใส นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นที่ตัว O ของคำว่า Origin ให้เป็นรูปทรงหกเหลี่ยม เพิ่มเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ให้สะดุดตาและจดจำง่ายมากยิ่งขึ้น
ลิงค์วีดีโอ Youtube.com/The Origin Ram 209 Interchange
คอนโด The Origin Ram 209 Interchange จะเป็นโครงการแรกที่เปิดตัว ซึ่งทำเลอยู่ใกล้ รถไฟฟ้าสายสีส้มและ รถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงนำสีของสายรถไฟฟ้ามาใช้ใน Logo โครงการอีกด้วย สุดท้ายขอกระซิบบอกกันอีกสักนิดว่า โครงการ The Origin วางแผนจะพัฒนาโครงการให้อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าทั้งหมด ส่วนโครงการต่อไปจะเปิดทำเลไหน ใกล้รถไฟฟ้าสีอะไรก็รอติดตามกันได้ค่ะ
The Origin Ram 209 Interchange
( ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ )
- เจ้าของโครงการ >>> Origin Property Public Company Limited
- ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนรามคำแหง ใกล้ซอยรามคำแหง 209
- ขนาดที่ดิน >>> 4-0-87 ไร่
- จำนวนอาคาร >>>
- อาคารพักอาศัย 1 อาคาร สูง 31 ชั้น
- อาคารจอดรถ 1 อาคาร สูง 8 ชั้น
- ประเภทห้อง >>>
- Studio ขนาด 22 ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 30-34 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 1,007 ยูนิต + 4 ร้านค้า
- ที่จอดรถ >>> ประมาณ 33% รวมจอดซ้อนคัน
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> เริ่ม 1.29 ล้านบาท ได้ห้องแบบ Fully Fitted
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 69,500 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.811088, 100.733692
- เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
- โทร >>> 020-300-000
.
คอนโด ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหงช่วงปลาย ใกล้แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตมีนบุรีค่ะ พื้นที่รอบโครงการมีถนนหลัก 3 สาย คือ ถนนรามคำแหง ถนนร่มเกล้า และถนนเสรีไทย นอกจากนี้ในอนาคตยังมีเส้นรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านหน้าโครงการอีกด้วย โดยมีสถานีมีนบุรีอยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ห่างไปเพียง 80 เมตร ซึ่งสถานีมีนบุรีนี้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์กันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้มและรถไฟฟ้าสายสีชมพูด้วยนะคะ (สามารถกดขยายรูปได้)
การเดินทาง
การเดินทางไปโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ สามารถมาได้ทั้งถนนรามคำแหง ถนนร่มเกล้าและถนนมีนพัฒนาค่ะ วันนี้เราเลือกใช้เส้นทางรามคำแหงในการเดินทาง ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามป้ายมีนบุรี จนเจอ Big C สุขาภิบาล 3 ให้ขับขึ้นสะพานไปค่ะ เมื่อลงมาแล้วให้ชิดซ้าย ก็ถึงตัวโครงการ The Origin Ram 209 Interchange แล้วค่ะ
มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
มาส่องดูแผนที่แบบกว้างๆ กันดีกว่าค่ะ ตัวโครงการ The Origin Ram 209 Interchange นั้นตั้งอยู่ในเขตมีนบุรี พื้นที่โดยรอบส่วนมากจะเป็นแหล่งชุมชน บ้านพักอาศัย และพื้นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา ทำให้พื้นที่ในย่านนี้ยังเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้แหล่งงานอย่างศูนย์ราชการมีนบุรีและนิคมบางชันอีกด้วย ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รามคำแหงช่วงปลาย ใกล้แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ที่สามารถเชื่อมไปออกยัง ถ.ร่มเกล้า, ถ.สุวินทวงศ์ และถ.สีหบุรานุกิจ ทำให้เดินทางออกจากเมืองได้สะดวกไม่ว่าจะไปลำลูกกา หรือจะวิ่งออกไปจังหวัดฉะเชิงเทราก็ง่าย เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ตั้งแต่ตลาด ร้านค้า ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ๆ อย่าง The Promenade และ Fashion Island ก็ต้องขับรถไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลำบากมากนักค่ะ
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วิ่งมาเชื่อมกันเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์บริเวณใกล้โครงการอีกด้วย ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้นเป็นสายที่สำคัญสายหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเป็นเส้นที่วิ่งตั้งแต่กรุงเทพฝั่งตะวันตกผ่านใจกลางเมืองไปยังฝั่งกรุงเทพตะวันออกมีนบุรี เชื่อมกับรถไฟฟ้าหลายสาย คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการกันในปี 2566 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นจะวิ่งฝั่งกรุงเทพตะวันออกตอนบนมาจบที่มีนบุรี คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการกันในปี 2564 ค่ะ สถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีมีนบุรี ที่เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ ห่างจากตัวโครงการประมาณ 80 เมตรค่ะ
ขอซูมดูสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการกันสักหน่อย บริเวณเส้นถนนรามคำแหงระยะใกล้ๆ โครงการนั้นมี Big C สุขาภิบาล 3 และ Tesco Lotus สุขาภิบาล 3 ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการก็มีร้านไทวัสดุ สาขามีบุรีค่ะ ส่วนถนนใกล้ๆกันอย่างถนนร่มเกล้าก็มีทั้ง SCG Home Solution ร่มเกล้า, Big C ร่มเกล้า และ มหาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ค่ะ
พอขยับขึ้นบนเส้นสีหบุรานุกิจ ซึ่งเป็นเส้นที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีทั้งร้านค้า ตลาดมีนบุรี ตลาดใหญ่ของคนในย่านนี้และยังมีศูนย์ราชการมีนบุรีอย่าง ศาลจังหวัด สำนักงานเขต สำนักงานที่ดินตั้งอยู่ด้วยกัน บนถนนสุวินทวงศ์นั้นก็ มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่แพ้กันทั้ง เมกาโฮม ร้านขายอุปกรณ์สร้างบ้าน Tesco Lotus มีนบุรี ร้าน Uniqlo สาขามีนบุรี ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Big C สุวินทวงศ์ค่ะ โรงพยาบาลใกล้ๆ ก็มีให้เลือกทั้งรพ.เสรีรักษ์ และรพ.นวมินทร์ 9
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
จากที่เราได้ดูแผนที่ตั้งโครงการกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูบรรยากาศรอบๆ โครงการกันสักหน่อย เริ่มกันที่ถนนรามคำแหงฝั่งติดกับแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า
มาดูที่เส้นร่มเกล้ากันสักเล็กน้อย
ไปดูบรรยากาศถนนสีหบุรานุกิจกันบ้าง
เส้นสุดท้ายที่เราจะพามาทัวร์กันคือ ถนนสุวินทวงศ์
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
ไปดูทำเลรอบๆ โครงการกันมาแล้ว ก็ถึงเวลามาชมสำนักงานขายกันต่อ ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่ที่เดียวกับที่ตั้งโครงการ The Origin Ram 209 Interchange ซึ่งออกแบบมาดูทันสมัย เล่น Facade เป็นมุมเหลี่ยมตามรูปทรงของโลโก้แบรนด์ และยังทำให้เป็นสีขาวสะดุดตา ส่วนใครที่ต้องการเข้ามาชมโครงการ หรือสอบถามข้อมูล สามารถมาได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ค่ะ
มีที่จอดรถให้บริการอยู่ด้านใน ไม่ต้องไปจอดรถริมถนน
ภายในสำนักงายขายตกแต่งออกมาให้ดูเรียบหรู คุมโทนด้วยสีน้ำตาลตัดกับสีขาว
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ดูจากผังของโครงการแล้วจะเห็นได้ว่าตัวที่ดินมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวลึกเข้าไปจนถึงคลองแสนแสบ สามารถเข้าออกได้เพียงทางเดียวจากถนนใหญ่รามคำแหง ด้านหลังโครงการทางทิศเหนือติดคลองแสนแสบ ใครที่อยู่ชั้นสูงๆ ด้านนี้ก็จะมองเห็นวิวฝั่งมีนบุรีได้ ด้านทิศตะวันออกจะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น ไม่มีปัญหาเรื่องจะมีใครมาบังวิวเลยค่ะ อีกด้านนึงทางทิศตะวันตกจะเป็นพื้นที่เปล่า ทิศใต้จะติดกับถนนรามคำแหง
มาดูทิศของแดดกันต่อค่ะ จากการวางตำแหน่งของตึกทำให้ห้องพักภายในโครงการนั้นจะหันหน้าไปทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ใครที่ไม่ค่อยชอบแดดก็เลือกห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใครอยากได้ลมเกือบตลอดปีก็เลือกฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้นะคะ
ที่ตั้งของโครงการ The Origin Ram 209 Interchange ค่ะ มุมนี้เป็นมุมด้านหลังสำนักงานขายนะคะ จะเห็นว่าพื้นที่รอบๆ ไม่มีตึกสูงมาบังวิวเลย
ด้านหน้าถนนรามคำแหงค่ะ บริเวณหน้าโครงการมีสะพานลอยอยู่ด้วย
ฝั่งตรงข้ามโครงการคาดว่าจะเป็นเส้นทางเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีส้มค่ะ
ส่วนด้านซ้ายจะติดกับบ้านพักอาศัยและร้านอาหาร
Perspective
ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ทำอาคารออกมาเป็น 2 อาคาร บนพื้นที่ 4-0-87 ไร่ โดยอาคารด้านหน้าเป็นอาคารพักอาศัยสูง 31 ชั้น ซึ่งสูงที่สุดในเขตมีนบุรี (ทำรีวิวมิถุนายน 2019) ส่วนอาคารด้านหลังจะเป็นอาคารจอดรถ สูง 8 ชั้น การออกแบบโดยรวมเป็นสไตล์โมเดิร์นทันสมัย คุมโทนสีด้วยสีน้ำเงินตัดกับสีเทา ส่วนชั้นที่ 27 ของคอนโดเป็นชั้น Facilities จะทำเป็นกระจกล้อมรอบเพื่อให้เราสามารถมองเห็นวิวมุมสูงได้เวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
จากนั้นเรามาดูกันทีละอาคารนะคะ เริ่มกันที่อาคารสำหรับพักอาศัยกันก่อน ต้องบอกก่อนว่าทางโครงการออกแบบให้ห้องขนาด 25 ตร.ม. แบบมี Walk-in closet ให้มีชั้นละ 4 ห้อง และห้องขนาด 34 ตร.ม. จะมีชั้นละห้องเท่านั้น โดยจะอยู่ในตำแหน่งห้องมุมติดกับทางหนีไฟค่ะ
Floor Plan ชั้น 1
เมื่อเดินเข้ามาภายในตึกจะเจอกับโถงล็อบบี้ก่อน ซึ่งมี Meeting room แยกเอาไว้สำหรับลูกบ้านที่นัดเจอแขกมาที่คอนโดแล้วอยากพูดคุยเป็นการส่วนตัวค่ะ
Floor Plan ชั้น 2-25
แปลนชั้นพักอาศัยของ The Origin ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ที่นี่ทุกชั้นจะเป็น Typical Floor Plan เหมือนกันหมดค่ะ มี 38 ยูนิตต่อชั้น โดยวางตำแหน่งโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องที่อยู่ริมสุดของอาคารไม่ต้องเดินไกลเกินไปค่ะ ที่ปลายสุดของทางเดินจะมีช่องหน้าต่างเอาแสงเข้ามาได้ ห้องพักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ทั้งหมด ใครที่ชอบแดดเช้าก็เลือกห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใครอยากได้ลมเกือบตลอดทั้งปี ก็เลือกฝั่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้แทนค่ะ
Floor Plan ชั้น 26
ยังคงเป็นชั้นพักอาศัยแต่แปลนจะสั้นลง เพราะว่าต้อง set back ระยะถอยร่นตามกฎหมายนั่นเองค่ะ ทำให้ชั้นนี้มีจำนวนห้องเพียง 19 ยูนิตนะคะ
Floor Plan ชั้น 27
จะเป็นชั้นของ Facilities ที่มีทั้ง Fitness Room, Co-Working Space, Co-Passion Room, Multi Function Studio, Co-Kitchen, Game room และ Swimming Pool ที่เป็นสระระบบเกลือค่ะ
Floor Plan ชั้น 27 M
ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ชั้นลอยของชั้น 27 ที่ทำออกมาเอาใจคนสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะเป็น Sky Lounge ที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และมี Private Dining Room พื้นที่สำหรับจัดงานแบบเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
Floor Plan ชั้น 28-31
ชั้นนี้ก็จะเป็นชั้นสำหรับพักอาศัยเช่นกัน แปลนเหมือนกันกับชั้น 26 เลยค่ะ
Floor Plan ชั้น Rooftop Garden
ชั้นดาดฟ้าสามารถขึ้นมาชมวิวแบบ 360 องศาได้
Floor Plan ชั้น Rooftop Parking Building
ชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถมีสนามบาสเก็ตบอล, Jogging track และพื้นที่สีเขียวค่ะ
Facilities
พื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการจะอยู่บนชั้น 27 โดยทำมารองรับการใช้งานที่หลากหลายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนส หรือนัดเพื่อนมาพบปะ ทำงานด้วยก็มีพื้นที่ Co-Working Space และ Co-Passion Room เอาไว้ให้ หากเบื่อๆ ไม่อยากอยู่ห้องก็มี Multi Function Studio และ Game Room ให้เรามาสามารถมาใช้งาน เล่นเกมกันได้ ส่วนของสระน้ำจะเป็นระบบเกลือ ยาว 25 เมตร และแยกสระของเด็กเอาไว้ให้นะคะ
ส่วนในชั้น 27 M ที่เป็นชั้นลอย ก็จะเป็นพื้นที่สำหรับสายปาร์ตี้ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโซนนั่งชิลล์ จิบไวน์ที่ Sky Lounge หรือจะเป็นโซนห้องจัดปาร์ตี้แบบ Private ก็มีให้เลือกกันค่ะ ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถจะเน้นเป็นพื้นที่ออกกำลังกายแบบ Outdoor ที่มีทั้ง Street Basketball, Jogging Track และพื้นที่สวนค่ะ
พื้นที่สวนชั้นล่าง ที่ด้านหลังของโครงการ
แปลนห้องดีไหม?
โครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ จะทำห้องออกมาในขนาดกะทัดรัด เป็นแบบ compact size ซึ่งก็ทำให้สามารถทำราคาขายออกมาได้จับต้องง่าย ตามกลุ่มลุกค้าเป้าหมายที่วางไว้เป็น First Jobber หรือวัยเริ่มต้นทำงานนั้นเองค่ะ
แบบห้องในโครงการให้เลือกเป็น Studio, 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ขายห้องแบบ Fully Fitted นะคะ
แปลนห้องคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบสตูดิโอ ขนาด 22 ตารางเมตร
เริ่มกันที่ห้อง Studio ขนาด 22.0 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือมีงบประมาณไม่มากนัก ภายในเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเป็นห้องครัวปิดที่มีเคาน์เตอร์เตรียมอาหารไว้ให้เป็นสัดส่วน ประตูบานเลื่อนที่กั้นส่วนห้องนอนทำให้กลิ่นทั้งจากห้องครัวและห้องน้ำไม่เข้าไปรบกวนห้องนอนค่ะ สำหรับสเปซในห้องนอนจะเป็นสตูดิโอซึ่งมีทั้งส่วนพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีและส่วนที่วางเตียงนอนอยู่รวมเป็นสเปซเดียวกันค่ะ มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ แต่ขนาดไม่ใหญ่นัก
ภาพรวมก็ถือว่าเป็นห้องสตูดิโอที่จัดออกมาแล้วใช้พื้นที่ได้คุ้มดี เป็นแบบแปลนที่เราเห็นออริจิ้นใช้ในหลายๆ โครงการก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ แม้ว่าจะไม่ใช่คอนโดแบรนด์ The Origin ก็ตาม
แปลนห้องคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร (B2)
ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีให้เลือก 2 แบบนะคะ ขนาด 25 ตร.ม. เท่ากัน แต่การจัดวาง Layout ต่างกันนะคะ
เรามาเริ่มกันที่แบบ B2 ก่อน เป็นการจัดวางฟังก์ชั่นแบบแปลนมาตรฐานที่นิยมทำกันในท้องตลาดของคอนโดไซส์นี้และใช้งานได้ดีค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่ง และมีโต๊ะทำงานด้านข้างได้ ห้องนอนมีประตูบานเลื่อนกั้นแยกไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะอยู่แนวเดียวกัน ซึ่งห้องครัวได้เป็นครัวปิด พื้นที่ระเบียงขนาดไม่ใหญ่นักค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร (B3)
ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม.อีกแบบหนึ่ง (B3) เป็นแบบที่ออริจิ้นพัฒนาขึ้นมาใหม่ค่ะ มีความพิเศษ คือ มีพื้นที่ Walk-In Closet ใหญ่มากกกก โดยมีเพียงชั้นละ 4 ห้องเท่านั้น ดีไซน์แบบนี้ทำมารองรับคนที่ต้องการตู้เสื้อผ้าเยอะ หรือใครจะดัดแปลงทำเป็นตู้เก็บของก็ได้ ซึ่งคอนโดไซส์เล็กปกติมักจะขาดแคลนสเปซส่วนนี้ไปค่ะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องครัวซึ่งเป็นครัวปิด ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนซึ่งมีสเปซเชื่อมต่อกัน จากพื้นที่ Walk-In Closet จะสามารถเดินเข้าห้องน้ำได้สะดวกเลย เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าเยอะๆ แต่ถ้ามีเพื่อนมาเยี่ยมแล้วจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่าน Walk-In Closet ก่อนนะคะ ได้อย่างเสียอย่าง แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30-34 ตารางเมตร
ห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส มีขนาดตั้งแต่ 30.0-34.0 ตร.ม. การจัดวาง Layout แบ่งเป็น 2 โซน เมื่อเข้าไปโซนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร รวมถึงมี Pantry ครัว และห้องน้ำอยู่ในโซนเดียวกัน ถัดเข้าไปโซนด้านใน จะมี 2 ห้อง คือ ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้สามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือ Walk-In Closet ได้แล้วแต่ความต้องการ แต่ถ้าหากเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. พื้นที่ในห้องอเนกประสงค์จะใหญ่พอที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ทำเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องได้เลยค่ะ
ห้องตัวอย่างของ The Origin ที่เราจะพาไปรีวิวกันในวันนี้มีทั้งหมด 3 ห้องเลย เป็นห้อง Studio, 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัสค่ะ ซึ่งโครงการจะขายห้องแบบ Fully Fitted ให้ชั้นวางทีวี, ตู้รองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียง 5 ฟุต, แอร์, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ, พื้นที่ครัว (เตา,เคาน์เตอร์ครัว,ที่ดูดควันและซิงค์ล้างจาน) นะคะ มาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเองอีกไม่กี่ชิ้นก็เข้าอยู่ได้เลย ที่พิเศษขึ้นมาหน่อยคือแบบ 1 ห้องนอน พลัส จะได้ Smart Mirror ในห้องน้ำมาด้วย
นอกจากนี้ก็มี Home Automation อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน โดยในตัว App สามารถควบคุมปิด-เปิดไฟภายในห้อง ควบคุมแอร์ และสั่งควบคุม Digital door lock ได้ เรียกว่าถึงเป็นคอนโดราคาไม่แพงก็มีระบบนี้ให้เช่นกัน
ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ Studio ขนาด 22 ตร.ม.
เปิดกันด้วยห้อง Studio เวลาเข้าห้องมาจะเห็นทางเดินยาวเข้าไป โดยมีโซนครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า พร้อมทั้งทำประตูบานเลื่อน 3 ตอนมากั้นห้องให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยเวลาทำอาหารกลิ่นก็จะไม่ไปรบกวนส่วนนอนค่ะ ถ้าเป็นห้องสตูดิโอทั่วไปนี่เวลาทำอาหารแล้วกลิ่นติดเตียงไปหมด
เข้ามาส่องภายในห้องน้ำ มีการแยกโซนเปียก โซนแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย
เดินออกมายังโซนนอนกันต่อ ทางโครงการจัดพื้นที่วางเตียงและพื้นที่นั่งเล่นอยู่ในสเปซเดียวกันตามสไตล์ห้องแบบ Studio แต่บรรยากาศภายในห้องไม่ได้ดูอึดอัดค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่ติดตั้งมาให้ทั้งหมด
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งนี้จริงๆ แล้วจะได้เป็นพื้นที่โล่ง เราสามารถต่อเติมเป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือแบบในห้องตัวอย่างได้นะคะ
ถึงจะต่อเติมเป็นที่นั่งข้างเตียงเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีสเปซข้างเตียงให้สามารถเดินได้
ระเบียงห้องด้านนอกมีขนาดกะทัดรัด ใครที่ชอบปลูกต้นไม้ก็หาต้นไม้กระถางเล็กๆ มาตกแต่งเพิ่มความสดชื่นให้กับห้องของเราก็ดีไปอีกแบบนะคะ แต่ถ้าจะใช้ราวตากผ้า ควรเป็นแบบพับได้เท่านั้นเพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม. (B2)
แบบห้องนี้เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอพื้นที่สเปซที่เชื่อมกันของโซนนั่งเล่นและที่รับประทานอาหาร ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นห้องนอน
พื้นที่นั่งเล่นกว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้ ไม่เบียด
ห้องนอนนั้นมีการกั้นแยกโซนออกจากห้องต่างๆ พื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ชิดผนังได้พอดี
ทางเดินเชื่อมไปยังห้องครัวและห้องน้ำค่ะ ทางโครงการ Built-in โต๊ะเอาไว้ให้ จะทำเป็นมุมวางของ หรือเราเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็คงถูกใจสาวๆ นะคะ
ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ทำให้ไม่มีกลิ่นอาหารเข้าไปรบกวนภายในห้องนอน และมีประตูออกไปยังระเบียงด้านนอกด้วยค่ะ
พื้นที่ระเบียงสามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานได้ เหลือพื้นที่อีกนิดหน่อยสำหรับตากผ้า
ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เลย
ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ram 209 Interchange
แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 30 ตร.ม.
เข้ามาภายในห้องจะเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน คือ เป็นพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหาร
ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ให้โต๊ะอาหารแบบพับ 2 ที่นั่งมาด้วย ถ้าไม่ใช้ก็พับเก็บช่วยประหยัดพื้นที่ภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น
ภายในห้องวางเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ได้แล้วยังเหลือพื้นที่นะคะ บรรยากาศดูไม่อึดอัด
โซนครัวของแบบ 1 ห้องนอนพลัสจะได้เป็นแบบเปิด พร้อมทั้งมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดมาตรฐานได้อีกด้วย
ห้องที่อยู่ติดกับครัวเป็นห้องอเนกประสงค์ ทำประตูบานเลื่อน 3 ตอนมากั้นแยกโซนเอาไว้ให้
พื้นที่ระเบียงด้านนอก
ห้องน้ำจะได้ตามนี้เลยค่ะ แยกโซนแห้ง โซนเปียกเอาไว้ให้
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
วัสดุในภาพรวมของคอนโด The Origin Ram 209 Interchange ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะคะ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Cotto หรือเทียบเท่า ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in และเครื่องปรับอากาศ ตัวห้องจะได้พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนพื้นตรงห้องครัวจะเป็นแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าฉาบเรียบสีขาวค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ราคา ณ วันที่ 3 มิ.ย. 2562
ราคาเริ่มต้น :
Studio ขนาด 22 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,290,000 บาท
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ที่ตั้งของ The Origin Ram 209 Interchange อยู่ทางกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ล้อมรอบด้วยถนนหลัก 3 เส้น คือ รามคำแหง, เสรีไทย และร่มเกล้าค่ะ การขับรถเข้าสู่ตัวเมืองจึงสามารถใช้ถนนได้ 2 เส้นหลัก คือ รามคำแหงที่สามารถตรงมาออกพระราม 9 ได้ หรือจะใช้ถนนร่มเกล้าที่เชื่อมกับลาดพร้าวก็ได้ค่ะ ส่วนถนนร่มเกล้านั้นจะวิ่งลงใต้ไปทางลาดกระบังและสุวรรณภูมินะคะ สำหรับการใช้รถสาธารณะบริเวณนั้นก็มีรถเมล์ รถแท็กซี่ ขับผ่านไปมาตลอด ที่สำคัญคือในอนาคตจะเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้า 2 สายนั่นเอง
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ถ้าจะพูดถึงการเติบโตของตลาดคอนโดในเส้นรามคำแหงตอนปลายนั้น ยังมีการแข่งขันไม่มากนัก และหาคอนโด High rise ได้ยาก แต่ก็มีโอกาสพัฒนาอีกพอควร ซึ่งก็ต้องรอช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านถนนเส้นนี้ค่ะ ส่วนบริเวณใกล้ๆ โครงการมีสถานีมีนบุรีตั้งอยู่ ห่างออกไปแค่ 80 เมตร ซึ่งสถานีนี้ยังเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์กันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วง แคราย-มีนบุรี โดยสายสีส้มคาดว่าจะเสร็จในปี 2566 และสายสีชมพูเสร็จปี 2564 ค่ะ ทำให้การเดินทางในอนาคตนั้นสบายหายห่วง
นอกจากนี้บริเวณสถานีมีนบุรียังมีศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า และมีอาคารจอดรถที่สามารถจอดได้ประมาณ 3,000 คันเอาไว้อีกด้วย
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
The Origin Ram 209 Interchange นั้นเป็นแบรนด์ใหม่ของ ออริจิ้น ที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ First jobber หรือเรียกว่าเป็นคนที่ซื้อคอนโดหลังแรกในราคาไม่แพงค่ะ จึงทำตึกออกมาเรียบๆ คุมโทนด้วยสีน้ำเงินตัดกับสีเทา สร้างบรรยากาศให้ดูสบายตา วางผังโครงเป็นแนวยาวลึกเข้าไปตามแนวที่ดิน โดยวางอาคารพักอาศัยแยกกับอาคารจอดรถ จากการวางตัวตึกแบบนี้ทำให้มีห้องพักหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น
สำหรับแปลนห้องของ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ทำออกมาให้เลือก 3 แบบ ด้วยกันคือ Studio, 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส โดยภาพรวมทำห้องในไซส์ไม่ใหญ่มาก (22-34 ตร.ม.) เน้นการใช้สเปซอย่างคุ้มค่า โดยห้องทุกแบบในโครงการจะกั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเท่านั้น ไม่ใช้ผนังทึบ เพื่อเน้นให้ห้องดูกว้างและโล่งค่ะ การจัดสัดส่วนของแปลนต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีไม่ได้เหลือพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ที่ไม่ได้ใช้งานนะคะ นอกจากนี้โครงการยังพัฒนาแปลนใหม่ ขนาด 25 ตร.ม. ที่ความพิเศษคือ มีส่วน Walk-in Closet ใหญ่มาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านที่ซื้อห้องขนาดเล็กแต่อยากได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ แยกออกมาเป็นสัดส่วนค่ะ ซึ่งห้องนี้จะมีแค่ 4 ห้องต่อชั้น ส่วนใครอยากได้แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34 ตร.ม. ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ จะมีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น
ด้านวัสดุโครงการภาพรวมถือว่าเทียบกับราคาแล้วก็คุ้มอยู่ ซึ่งจะขายห้องแบบ Fully Fitted ได้เคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood ของ Teka ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto หรือเทียบเท่า เฟอร์นิเจอร์ Built-in อย่างชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า โต๊ะรับประทานอาหาร ก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์อีกไม่กี่อย่างก็เข้าอยู่ได้นะคะ ส่วนในห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส จะเพิ่ม Smart Mirror เข้ามาให้
ด้านพื้นที่ส่วนกลาง เน้นรองรับกลุ่มลูกค้าวัยทำงานสมัยใหม่ ที่มีทั้ง Mult Function Studio, Game Room, Co-working space, Co-Passion Room, Co-Kitchen และ Meeting Room ส่วนใครที่ชอบออกกำลังกายก็มี Fitness Room, Jogging Track และ Street Basketball มาให้เลือกเล่นกัน นอกจากนี้ยังทำพื้นที่สำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะเอาไว้ให้ด้วย ที่ชั้น 27 M ที่มี Sky Lounge และ Private Dining Room มีพื้นที่สีเขียวให้ 3,000 ตร.ม.ค่ะ ที่ดูจำกัดหน่อยก็เป็นเรื่องที่จอดรถที่ได้ 33% แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามความเหมาะสมของระดับราคาในตลาดนะคะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ในวันที่ 29 มิ.ย. 62 นี้ ทางโครงการจะเปิดจองห้องเป็นครั้งแรก! กับราคาที่ดีที่สุดในกรุงเทพเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษและรับ Privilege Card เพื่อใช้เป็น ส่วนลด 200,000 บาท เมื่อจองในวันงาน >> https://bit.ly/30PX7Gv
#TheOrigin
#LiveYourValue
#EmpathyDesignThinking
#จัดจ้านย่านอินเตอร์เชนจ์
#คอนโดใหม่ของคนมีนบุรี
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ ^_____^
The post รีวิวคอนโดมิเนียม The Origin Ram 209 Interchange (ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์) คอนโด High rise สูงที่สุดในย่านนี้ ใกล้สถานีอินเตอร์เชนจ์มีนบุรี จาก ออริจิ้น appeared first on รีวิวคอนโด รีวิวบ้านเดี่ยว รีวิวทาวน์เฮ้าส์ รีวิวทาวน์โฮม โดย YUSABUY.COM.