สวัสดีค่า ปลายปีนี้พี่แสนจะเปิดคอนโดใหม่อีกโครงการบนถนนเพชรบุรีค่ะ ซึ่งที่ดินโครงการนี้ล้อมรั้วเอาไว้นานมากแล้ว อยู่ทางฝั่งเพชรบุรีขาเข้าห่างจากเส้นทองหล่อประมาณ 400 เมตร ค่ะ โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ The Base เพชรบุรี-ทองหล่อ และก็น่าจะคาดหวังได้ว่าโครงการนี้คงเป็นตัวเลือกหนึ่งของคนวัยทำงานที่หาคอนโดที่เข้าถึงทองหล่อ-เอกมัย ไม่ยากนัก แต่ราคาย่อมเยาลงมาเยอะ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก >>> THE BASE PETCHABURI-THONGLOR
เรามีข้อมูลโปรดักส์แบบห้องมาให้คร่าวๆ แต่รายละเอียดเชิงลึกนั้นยังมีข้อมูลไม่มากนักค่ะ เราเลยจะพาไปดูพื้นที่รอบๆ โครงการในระยะไม่ไกลมากก่อน ว่ามีแหล่งไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยวและความงาม อะไรบ้างในย่านชิคๆ อย่าง เพชรบุรี-ทองหล่อ-เอกมัย ตามเราไปนั่ง Cafe ชิคๆ กินขนมอร่อยๆ กันค่ะ
แต่ก่อนจะไปในย่านชิคๆ คาเฟ่ขนมอร่อยๆ เราขอเกริ่นเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ The Base Petchaburi-Thonglor ที่กำลังจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างปลายปีนี้แล้วกันซักหน่อย ตัวโครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ ตั้งอยู่ในระยะแบบเดินถึงทองหล่อได้เลยเพียง 400 เมตรเท่านั้น และที่อยากกระซิบบอกคือราคาเปิดตัวมาสามารถจับต้องได้เพียง 2.69 ล้านบาทหรือ 98,000 บาท/ตารางเมตร เท่านั้น เมื่อเทียบกับคอนโดในเส้นทองหล่อหรือเอกมัยพบว่าคอนโดส่วนใหญ่ราคาต่อตารางเมตรจะเริ่มที่แสนปลายๆ กันหมดแล้ว โครงการนี้ทางเรามองว่าน่าจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง เดินทางสะดวกทั้งขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เข้า-ออกเมืองสะดวก เชื่อมต่อย่านสำคัญต่างๆ มากมายอย่าง ทองหล่อ, เอกมัย, พร้อมพงษ์, อโศก ค่ะ
โครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 496 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ฝั่งมุ่งหน้าไปอโศก ทำเลที่ตั้งอาจจะไม่ได้ใกล้สถานีรถไฟฟ้าไหนเป็นพิเศษ แต่สามารถไปได้หลายเส้นทาง โดยห่างจาก MRT เพชรบุรี และ Airport Link มักกะสัน ที่ขับรถไปเพียง 10 นาทีก็ถึงหรือจะไป BTS พร้อมพงษ์ ก็สามารถไปได้ง่ายเพียง 5 นาทีถึงที่ท้ายซอยสุขุมวิท 39 หรือจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกเช่นเดียวกันด้วยที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เข้าออกสะดวกไม่ต้องเข้าซอย ทั้งถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญต่างๆ อย่าง อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, พัฒนาการ เป็นต้น ใกล้ทางด่วนศรีรัชไปได้ทั้งฝั่งแจ้งวัฒนะและบางนาในเพียงไม่นานค่ะ
ทำเลในย่านนี้ ทางทีมงานของแบ่งออกเป็น 3 ส่วนง่ายๆ ได้แก่ เพชรบุรี, ทองหล่อ และ เอกมัย เพื่อการที่ง่ายต่อการอธิบายและเข้าใจของผู้อ่านนะคะ
1. เพชรบุรี : ถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักสำคัญเส้นหนึ่งในกรุงเทพฯ เชื่อมต่อถนนสายหลักต่างๆ มากมายอย่างถนนพัฒนาการ, ถนนพิษณุโลก, ถนนวิทยุ, ถนนราชดำริ, ถนนชิดลม, ถนนอโศก, ถนนทองหล่อ, ถนนเอกมัย, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และยังเชื่อมต่อถนนเพชรอุทัยที่สามารถต่อตรงถึงถนนพระราม 9 ได้อีก นี่ยังไม่รวมถึงทางด่วนศรีรัชที่สามารถไปได้ทั้งฝั่งบางนาและฝั่งแจ้งวัฒนะได้อย่างง่ายดายอีกด้วย บนถนนสายนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดจาก Listed Developer หนึ่งในนั้นก็คือโครงการ THE BASE PETCHABURI-THONGLOR นั่นเองและ Office Building แทบทั้งถนน พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, Singha Complex เป็นต้น
2. ทองหล่อ : ขึ้นชื่อว่าทองหล่อน่าจะคุ้นหู คุ้นตากันมาพอสมควรสำหรับคนยุคนี้ ย่านราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นไวยิ่งกว่าทอง ทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 ได้กลายเป็นพื้นที่ Rare Item ที่คนทั่วไปต่างต้องการที่อยู่อาศัยท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์ ย่านกิน ดื่ม เที่ยว ภายในถนนมีทั้งโรงพยาบาล, โรงแรม, คอมมูนิตี้มอลล์, ร้านกินดื่ม มากมายให้เลือกสรรทั้งไทยและต่างชาติระดับพรีเมี่ยม
3. เอกมัย : ย่านนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ต่างจากทองหล่อเลย รวมร้านชิคๆ แหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่าทองหล่อเป็นยังไง เอกมัยก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ เป็นถนน 2 เส้นที่คู่ขนานกันและเคาะรูปแบบร้านค้า ร้านกินดื่มออกมาได้เหมือนกันแทบจะเป๊ะๆ ทีเดียว อย่างร้านดังๆ ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ก็จะมี ร้านนั่งเล่น, DND, Thay Ekamai, (UN) Fashion Cafe เป็นต้น และถนนเส้นนี้ยังเชื่อมกันกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมไปยังโซนเลียบด่วนและทางด่วนศรีรัชได้โดยตรงอีกด้วย
.
พูดถึงทำเลแล้วเราก็จะทำตามสัญญาพามาเดินเล่นกิน ดื่ม เที่ยว เล่น บนทำเลใกล้ๆ โครงการ THE BASE PETCHABURI-THONGLOR กันบ้างค่ะ แน่นอนว่าที่ที่เราจะไม่พลาดพาทุกคนไปนั่นก็คือ ย่านทองหล่อ-เอกมัย ดินแดนแห่งคาเฟ่ ไลฟ์สไตล์ชิคๆ อินเทรนด์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 3 ที่ที่เราจะพาไปนั้นไม่ว่าจะตั้งอยู่บนทองหล่อหรือเอกมัยก็สามารถเดินถึงกันได้ทั้งหมด ทริปนี้พากินเสร็จแล้วก็ต้องเดินย่อยกันสิ เนอะ!
ที่แรกที่เราจะพาไปก็คือ LUKA MOTO CAFE BANGKOK ตั้งอยู่ในโครงการ The Taste Thonglor เป็นคาเฟ่สไตล์ All-day-breakfast แต่ที่เจ๋งกว่านั้นคือในร้านไม่ได้ขายแค่อาหารแต่ยังมีเครื่องดื่มมากมายให้ลองกันด้วยไม่ว่าจะเป็นชา, กาแฟ, Mocktail, Cocktail หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มี! และในแต่ละประเภทนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีทั้งคุณภาพและรสชาติที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน
และเมนูที่เราอยากให้ลองกันนั้นคือเมนู LUKA BREAKFAST BURRITO ที่นำแป้งตอร์ติญ่ามาห่อไข่ ชีส ไส้กรอก ควินัวร์ อโวคาโดและ capsicum รสชาติอร่อย กลมกล่อมลงตัว เสิร์ฟมากับเผือกทอดและมันม่วงทอดพร้อมดิปซอสซัลซ่า ที่อยากจะบอกว่าลงตัวมากๆ แล้วก็มีซอสมาให้เลือกราดได้ 2 แบบด้วยนะคือซอย Jalapeno & Pineapple(spicy-สีเขียว) และซอส Jalapono & pineapple(spicy-สีส้ม) ที่เราไม่รู้จะบอกว่าความแตกต่างอยู่ตรงไหน เพราะจากลองชิมทั้ง 2 แล้วอร่อยเหมือนกันต่างกันแค่สี ใครรู้คอมเม้นต์บอกกันได้นะ ps.ภาพในเมนูของร้านอาจจะดูว่าเสิร์ฟมา portion ที่เล็กกินไม่พอ แต่อยากจะบอกว่าของจริงใหญ่มาก กินไม่หวาดไม่ไหวจ่ะ American portion ทีเดียวเลยแหละ
ส่วนเครื่องดื่มที่เราสั่งมาระหว่างรออาหารก็น่าสนใจไม่แพ้กันคือ FLORE DE JAMAICA (organic) เป็นชาออแกนิคที่พอยกมาเสิร์ฟจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องเทศเบาๆ และที่เราถูกใจมากกว่านั้นคือรสชาติออกหวานอมเปรี้ยวช่วย refresh ร่างกายได้อย่างดีและวิธีการดื่มที่ทางร้านจะให้มาพร้อมกับนาฬิกาทราย เมื่อครบ 3 นาทีให้ยกตรงที่ชงชาออกแล้วเทดื่มแล้วถ้าจะดื่มใหม่ก็ให้นำกลับไปวางอีก 3 นาทีแล้วเทดื่มอีกครั้งนึง ดูเป็นการดื่มที่มีวัฒนธรรมมาก ชอบๆ
.
ทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้วเราก็จะพามาเดินย่อยกันก่อนนิดนึงที่ DON DON DONKI MALL THONGLOR 10 เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมากันแล้ว ที่นี่เป็นห้างชื่อดังจากญี่ปุ่นข้างในมีทั้งขนม ของกิน ของใช้ เครื่องสำอางต่างๆ มากมายให้เลือกช็อปกันให้กระเป๋าสตางค์ขาดกันไปเลย!
แต่ก่อนที่จะเข้าห้างทางเราก็โดนดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของมันเผาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าซะแล้ว มันเผาของที่นี่จะราคาหัวละ 80 บาทแต่อย่าเพิ่งคิดว่าแพงไปเพราะมันต่างจากมันเผาในบ้านเรามากทีเดียว ทางร้านจะขายให้เรามาแบบร้อนๆ เปิดออกมามีน้ำเชื่อมจากมันเผาไหลอยู่ หอมหวานมากกกกกก ชิ้นเดียวไม่เคยพอ นอกจากขายมันเผาแล้วที่นี่ยังมีของทอดอื่นๆ ขายด้วยนะ ทางเราเคยได้ลองชิมแล้วอร่อยเหมือนกัน
เข้ามาด้านในกันบ้างในวันนี้จากธีมของกินเรา เพราะงั้นเราเลยจะพาชมเฉพาะส่วนของกินละกัน เพราะแค่เดินวนๆ อยู่ในโซนนี้ก็อาจจะหมดตัวกันได้แล้วแหละ น่ากินทั้งนั้น เปิดมาด้วยขนมจากญี่ปุ่นกันเลย ใครที่เคยชอบเล่นทำอาหารตอนเด็กๆ น่าจะชอบนะ มีให้เลือกหลายแบบเลยทั้งดังโงะ, ซูชิ, ไอศครีม, เบอร์เกอร์ เป็นต้น
และถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นสิ่งที่หลายๆ คนชอบซื้อมาฝากคงหนีไม่พ้นคิทแคทรสชาติแปลกๆ ที่ในไทยไม่มีขาย แต่ตอนนี้มีขายที่นี่แล้วนะ ไม่ต้องหิ้วกลับมาให้เปลืองน้ำหนักกระเป๋าเลย แต่มีรสนึงสะดุดตากับเงินในกระเป๋าเรามากเห็นจะเป็นรส Daily Luxury Rum-Raisen Cranberry Almond ออกหวานหอมมีสัมผัสมันๆ กรุบๆ จากอัลมอนข้างในด้วย
แต่ของเด็ดจริงๆ คือโซนผลไม้ที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของญี่ปุ่น อย่างหน้าหนาวก็จะมีสตอเบอร์รี่มาวางขาย ส่วนช่วงนี้ก็จะเป็นพีชและองุ่นมาให้ได้ซื้อกันในราคาน่ารักๆ
นอกจากผลไม้แล้ว โซนที่คนเค้าร่ำลือกันหนาหูคือโซนของสดอย่าง เนื้อหมู วัว และอาหารทะเลอย่างปลาแซลมอน, Uni, หอยเชลล์ เป็นต้น อย่างเนื้อวัวก็มีให้เลือกมากมายทั้ง Wagyu, Saga Beef, Kobe Beef (Wine Beef), Hokkaido Ohira Beef และอื่นๆ อีกมากมาย ด้านอาหารทะเลก็ไม่น้อยหน้ามีให้เลือกทั้งแบบซาซิมิ, ซูชิ และแบบสดๆ สำหรับนำกลับไปปรุงอาหารเองได้ด้วย
.
เดินช็อปจนเพลิน อาหารที่ทานไปย่อยจนเกือบหมดแล้ว เราจะพาเดินต่อจากดองกิมาอีกนิดนึงก็จะถึงถนนเอกมัย ตรงที่เราจะพาไปต่อจากนี้คือ เวิ้งโบราณ เอกมัย บนถนนเอกมัยนั่นเอง หลายๆ คนอาจจะเคยแวะเวียนมากันแล้วในตอนกลางคืนที่ตรงนี้จะมีร้านกินดื่มชื่อดังตั้งอยู่อย่าง The Cassette Music Bar, KIKI Korean Bar และบ้านเพื่อนเอกมัย แต่วันนี้เราจะพามาเดินเล่นที่เวิ้งนี้ตอนกลางวันกันบ้าง ซึ่งเวิ้งนี้ตอนกลางวันร้านรวงต่างๆ ที่เปิดส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าแบบไลฟ์สไตล์เช่น (UN) Fashion Dining, Smile, Club Hair Diner, KIKI Camp Korean BBQ Store, The Esquire Barber Club, Moola Cafe, In The Garden The Nail Painter ในบริเวณเวิ้งโบราณนี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างและร่มรื่น พร้อมด้วยที่จอดรถสะดวกสบาย เหมาะแก่การมานั่งเล่น นัดคุย พบปะเพื่อนฝูงช่วงกลางวัน
ส่วนร้านที่เราจะพามาชิลล์กันวันนี้ชื่อว่า (UN) Fashion Cafe ที่ตั้งอยู่ติดกับถนนเอกมัยในพื้นที่ของเวิ้งโบราณนี่แหละ คาเฟ่ด้านนอกจะดูเก่าๆ เหมือนเอาตู้คอนเทนเนอร์ที่สนิมขึ้นทั้งตู้มาทำยังไงยังงั้น แต่อีกมุมนึงก็ยังให้ feeling cozy อบอุ่น น่ารักอยู่ในตัวไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก เข้ามาด้านในก็จะเจอกับที่นั่งคล้ายเวลาเรานั่งรถไฟในต่างประเทศมีโต๊ะเล็กๆ คั่นกลาง นอกจากนี้ยังมีที่นั่งบนชั้น 2 อีกด้วยนะ
ที่ (UN) Fashion Cafe นี่เค้าดังเรื่องกาแฟมากนะ มีหลายคนเลยที่ชมเรื่องนี้เพราะงั้นเราจึงพลาดไม่ได้ที่จะสั่งกาแฟมาลองกันดู ตัวที่เราลองสั่งสุ่มๆ มานั้นชื่อว่า MOROCCO COFFEE เป็นกาแฟด้านล่างสุดของแก้วจะเป็นช็อกโกแลตผสมถั่วกรุบๆ ตัวกาแฟนั้นสมชื่อเข้มข้นหอมมากลงตัวกับช็อกโกแลตข้างล่างแบบพอดีมากๆ ส่วนวิปครีมด้านบนไว้ตัดความขมได้อย่างลงตัว เอาจริงๆ เหมือนกินขนมหวานที่เป็นน้ำกาแฟมากกว่า ไม่ใช่ว่ามันหวานหรืออะไรนะ แต่ด้วยองค์ประกอบและวิธีเสิร์ฟทำให้พาลคิดไปแบบนั้นจริงๆ
และแน่นอนว่าจิบกาแฟจะไม่มีขนมได้อย่างไรกันเล่า ขนมที่ร้านนี้มีให้เลือกหลายแบบพอสมควรและหน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลย
จากทั้ง 3 อย่างแน่นอนว่าเราเลือก New York Cheese Cake มาทานกับกาแฟค่า ชีสเค้กที่ไม่หวานไม่เลี่ยนเกินไป ตัดกันลงตัวได้ดีกับผลไม้สดด้านบน และยิ่งดื่มกาแฟตามนี่ไม่ต้องพูดเลย ยิ้มได้ยันวันพรุ่งนี้
.
ทั้งหมดที่พามาเดินเล่นกันวันนี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ ที่ย่านทองหล่อ-เอกมัยมีเท่านั้น ยังมีร้านน่ารักๆ ชิคๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายตั้งอยู่ในย่านนี้ซึ่งเรียกว่าใกล้มากกับโครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ ที่ให้ได้มากกว่าทำเลจุดอื่นคือ ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ทั้งที่กิน ดื่ม เที่ยวหรือแม้กระทั่งทำงานทั้งในระยะเดินได้อย่างทองหล่อในระยะ 400 เมตร หรือระยะขับรถอย่างเอกมัย 1 กิโลเมตร, อโศก 10 นาที และซอยสุขุมวิท 39 เพียง 5 นาทีเท่านั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตอย่างลงตัว เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น The Emquatier, The Emporium, J Avenue ทองหล่อ, The Common ทองหล่อ, Singha Complex, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนสาธิต มศว., มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, Bangkok Prep International School, Ekamai International School, Shrewsbury International School เป็นต้น
ภายในโครงการมีแบบห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 4 แบบด้วยกันคือ
1. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 27.25-29.25 ตารางเมตร
2. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 31.75 – 40 ตารางเมตร
3. แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45.75 ตารางเมตร
4. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 61.25 ตารางเมตร
*ps. *ยังไม่ใช่ภาพอย่างเป็นทางการจากแสนสิริ
ด้าน Facilities ทางโครงการ The Base เพชรบุรี-ทองหล่อ จัดมาให้อย่างไม่น้อยหน้า กระจายอยู่ทั่วทั้งอาคารที่ชั้น G, 6, 36 และ Rooftop
ชั้น G : มี Clubhouse ภายในประกอบด้วย ร้านสะดวกซื้อและ Co-Working Space, สวน, Lobby ขนาดใหญ่และ Co-Living Space
ชั้น 6 : Swimming Pool, Fitness and Changing Room
ชั้น 36 : Sky Lounge, Sky Theatre
และที่ ชั้น Rooftop : Roof Terrace, Backyard Garden และ Organic Garden
พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access และ Smart Command Centre ปลอดภัยทุกการเข้าออก อุ่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดฝันขึ้นได้ค่ะ
.
สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งกิน เที่ยว ช้อป ไลฟ์สไตล์ ย่านเพชรบุรี-ทองหล่อ โครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อาจจะโดนใจใครหลายๆ คนทั้งเรื่องทำเลและราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาทหรือเพียง 98,000 บาท/ตารางเมตรซึ่งหาไม่ได้แล้วในย่านทองหล่อหรือใกล้ขนาดนี้ เรียกได้ว่าที่น่าคบหาทีเดียวค่ะ
ใครชอบทำเลที่คึกคักตลอดเวลาแบบนี้อย่าช้า รีบลงทะเบียนรอรับสิทธิพิเศษลดสูงสุด 100,000 บาท* ไว้ก่อนใครได้เลยนะ
คลิกที่นี่เลย >> THE BASE PETCHABURI-THONGLOR OFFICIAL WEBSITE
— สำหรับวันนี้ทางทีมงานอยู่สบายขอลาไปก่อน ครั้งหน้าเราจะเอาอะไรเกร๋ๆ คอนโดโดนใจที่ไหนมาฝาก ต้องรอติดตามกันในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่า —
The post THE BASE PETCHABURI-THONGLOR (เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ) ใกล้ชิดทุกย่าน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง appeared first on รีวิวคอนโด รีวิวบ้านเดี่ยว รีวิวทาวน์เฮ้าส์ รีวิวทาวน์โฮม โดย YUSABUY.COM.