AIS / AP Thailand / KBank โชว์พันธกิจยกระดับศักยภาพคนไทยและขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทไทย ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ผนึกพลังมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเปิด The Stanford Thailand Research Consortium การทำวิจัยระดับโลกภายใต้การดูแลของ SEAC
- ครั้งแรกของโลก ที่รวมศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 20 คนจากกว่า 9 สาขาวิชาเพื่อดำเนินการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเจาะลึกเต็มรูปแบบ
- ครอบคลุม 4 มิติองค์ความรู้เพื่ออนาคต ได้แก่
- ยกระดับความสามารถคนไทยให้เท่าทันโลก
- นำเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจไทย
- เสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยให้สูงขึ้น อย่างยั่งยืน
- ส่งเสริมการพัฒนาสังคมเมืองที่คิดถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
- ดำเนินการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยผ่านหลากหลายโครงการวิจัยและพัฒนาในระยะเวลา 5 ปี
ภายใต้การดูแลและสนับสนุนจาก เอสอีเอซี (SEAC) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน
.
ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังส่งผลเชิงลบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากบทสรุปของ “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (World Economic Forum: WEF)” ประจำปี 2562 ประเมินสถานการณ์ตลาดแรงงานในอีก 4 ปีข้างหน้าว่าจะมีจำนวนงานกว่า 75 ล้านตำแหน่งหายไปและจะมีตำแหน่งงานใหม่ๆ เกิดขึ้น ถึง 113 ล้านตำแหน่ง ซึ่งนับว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้ทรัพยากรมนุษย์ปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเฉพาะโซนพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกเป็นจำนวนมากเพราะ “คน” ในตลาดแรงงานส่วนใหญ่ยังคงทำงานในกลุ่มเกษตรกรรมและถ้าต้องการก้าวให้ทันตามกระแสเศรษฐกิจโลก กลุ่มประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องปรับตัวจากธุรกิจเกษตรกรรมไปสู่ธุรกิจบริการหรือนำเทคโนโลยีมาเพิ่มผลผลิตและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ(Productivity) ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ “คน” มากกว่า 28 ล้านคนใน 10 ประเทศสูญเสียตำแหน่งงานเดิมภายใน 10 ปี ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยหลายองค์กรและบริษัทชั้นนำต่างร่วมมือศึกษาและวิจัยเพื่อหาแนวทางในการพัฒนาทรัพยากรคนและองค์กร รวมทั้งพัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจเพื่อแข่งขันบนเวทีโลก
มร. พอล มาร์คา ผู้บริหารระดับสูง Stanford Center for Professional Development (SCPD) มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า “มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เราจึงได้เร่งคิดค้นกลวิธีเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาดังกล่าวจนพบว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ในแต่ละประเทศให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิสรัปชั่นได้อย่างทันท่วงที จากการเฝ้าสังเกตสถานการณ์โลกมาอย่างยาวนานทำให้เราเห็นข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนั้น ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีการทำวิจัยอย่างเจาะลึกเป็นจำนวนหลายหมื่นวิจัยต่อปีเพื่อวิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาที่องค์กรกำลังเผชิญหรือการคิดค้นและเร่งพัฒนาองค์กรสู้ “ความท้าทายใหม่” (Challenges) ที่กำลังเข้ามาจนเกิดมาเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ ประสิทธิภาพสูง พร้อมประสิทธิผลที่เป็นรูปธรรมทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว
สำหรับประเทศไทย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของคนไทยรวมไปถึงขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรไทย ล่าสุดเราได้เข้ามาเริ่มดำเนินการเพื่อศึกษาระบบต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และธรรมชาติวิทยา เป็นต้น โดยได้รับความดูแลและสนับสนุนจาก เอสอีเอซี (SEAC) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนเป็นเสมือนผู้แทนและศูนย์กลางในการเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย
.
โดย The Stanford Thailand Research Consortium – การรวมกลุ่มทำวิจัยระดับโลกที่เจาะลึกเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญขององค์กรที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในอนาคต ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS, บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทร่วมสนับสนุนงานวิจัย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยมี เอสอีเอซี (SEAC) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียนเป็นผู้ดูแลและสนับสนุนการดำเนินการหัวข้อวิจัยที่ครอบคลุม 4 มิติองค์ความรู้เพื่ออนาคต ได้แก่
1. การยกระดับความสามารถของคนไทยให้เท่าทันโลก
2. การนำเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจไทย
3. เสริมสร้างมาตรฐานคุณภาพชีวิตของคนไทยให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน
4. ส่งเสริมการพัฒนาสังคมเมืองที่คิดถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาหลากหลายโครงการ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกและประเทศไทยที่ได้ร่วมมือกับศาสตร์จารย์และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดมากกว่า 20 คน จาก 9 สาขาวิชา อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะวิศวกรโยธาและสิ่งแวดล้อม, คณะบริหารวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์, คณะวิศวกรรมชีวเวช, คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, คณะบริหารธรุกิจ, คณะภูมิศาสตร์ พลังงานและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม, คณะแพทยศาสตร์ และคณะจิตวิทยา ในการดำเนินการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเจาะลึกอย่างเต็มรูปแบบต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อสำเร็จโครงการแล้วจะนำข้อสรุปและผลสำเร็จของงานวิจัยมาต่อยอดในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของประเทศไทยเพื่อนำ “คุณค่า” กลับคืนสู่ประเทศไทยในบริบทใหม่ฟื้นฟูและผลักดันศักยภาพทรัพยากร “มนุษย์” เรื่ององค์ความรู้และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อก้าวข้ามขีดความสามารถครั้งสำคัญขององค์กรไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มภาคภูมิและพร้อมเข้าสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจที่จะนำไปสู่การขยายศักยภาพและการเติบโตขององค์กรบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลกในมุมมองของการเลือกหัวข้อวิจัยนั้น ทั้ง 3 บริษัทมีความมุ่งหวังตรงกันในเรื่องการพัฒนาและยกระดับประเทศไทยในหลากหลายแง่มุม โดยในเบื้องต้นทาง AIS มุ่งเน้นไปที่เรื่องการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ AP ในมุมเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถของคนและการศึกษา และ KBank เป็นในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย
.
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับ เอพี ไทยแลนด์ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนเพื่อยกระดับศักยภาพประเทศไทยกับการก่อตั้ง “The Stanford Thailand Research Consortium” ซึ่งเป็นการทำวิจัยระดับโลกครั้งแรกของไทย ในการนำความรู้ ความสามารถ ตลอดจนทรัพยากรต่างๆ ที่มีมาช่วยพัฒนาศักยภาพประเทศไทยของเราในหลากหลายมิติ ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้นมากมาย ‘คุณภาพของคน’ คือ ประเด็นสำคัญที่โลกธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ ดังนั้นประเด็นเรื่อง การยกระดับความสามารถของคนไทยให้เท่าทันโลก นี้เองจะเป็นหัวข้อหนึ่งในงานวิจัยที่ทาง The Stanford Thailand Research Consortium จะหยิบขึ้นมาทำการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเจาะลึกอย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับประเทศของเรา ผมเชื่อมั่นว่าด้วยการจัดตั้ง The Stanford Thailand Research Consortium ในครั้งนี้ซึ่งมีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่ได้รับการสนับสนุนอันดีจากสมาชิกในปัจจุบันและอนาคตรวมถึงองค์ความรู้ที่ประเทศไทยเราจะได้รับจากศาสตร์จารย์และผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาศักยภาพคนไทย ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นำประเทศก้าวเดินไปสู่มาตราฐานใหม่ ให้เท่าทันกับบริบท ของโลกธุกิจ และสังคมที่เปลี่ยนไป”
นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในวันนี้ คำว่า Digital Disruption ไม่ใช่เพียงกระแสที่พัดเข้ามาแล้วจากไป แต่เอไอเอสเชื่อว่า สิ่งที่ท้าทายมากไปกว่าการปรับตัวให้ทันกระแสโลกยุคดิจิทัลนั่นคือ การเตรียมพร้อมให้คนไทยมีความเข้าใจ ตื่นตัว และพร้อมนำองค์ความรู้ใหม่ๆ ไปคิดค้นต่อยอดทำสิ่งใหม่ๆ โดยมีพื้นฐานจากความคิดสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยในวงกว้าง ซึ่งการเข้าร่วมศึกษาวิจัยกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่างมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและ SEAC ในครั้งนี้ จึงถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยยกระดับองค์ความรู้ของคนไทยได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยยกระดับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป”
.
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยมีความมุ่งมั่นในการช่วยแก้ไขปัญหาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทยโดยเน้นสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและประชาสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการรักษ์ป่าน่านโดยร่วมขับเคลื่อนโครงการ Nan Sandbox เพื่อปฏิรูปและหาวิธีแก้ปัญหารากฐานของความถดถอยของทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการพัฒนาเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหากับจังหวัดอื่นๆ ในอนาคต สำหรับโครงการ The Stanford Thailand Research Consortium ครั้งนี้ จะเป็นการทำวิจัยเพื่อยกระดับการแก้ปัญหาของประเทศไทยให้เป็นที่ตระหนักและเข้าใจมากขึ้น และด้วย DNA ของ Stanford ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องการพัฒนาผู้นำให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงจะเป็นกลไกสำคัญในการสร้าง DNA ให้กับทีมงานและผู้นำในทุกภาคส่วน เพื่อพร้อมผลักดันให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อไป และผลลัพธ์จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งในเรื่องของ “Do Good” และ “Do Well”
นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC กล่าวว่า “SEAC เป็นหนึ่งในองค์กรที่มุ่งมั่นให้คนไทยสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้อันนำมาซึ่งโอกาสและทักษะชีวิตใหม่ๆ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถใช้ต่อกรกับความเปลี่ยนแปลงของโลกท่ามกลางกระแสดิสรัปชั่นได้สำหรับ The Stanford Thailand Research Consortium – การรวมกลุ่มทำวิจัยระดับโลกที่เจาะลึกเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทยนั้น SEAC ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและช่วยเหลือการดูแลหัวข้อวิจัยในทุกๆ ด้านตลอดระยะเวลา 5 ปี เราจึงเป็นเหมือนสะพานเชื่อมสำคัญระหว่าง 3 องค์กรและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศชาติในภายภาคหน้า นอกจากนั้น SEAC ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำวิจัยโดยเฉพาะที่เป็นในระดับประเทศเช่นนี้เพราะจากข้อมูลสถิติทั่วโลกพบว่าประเทศที่ลงทุนและให้ความสำคัญเรื่องการทำวิจัยมากเท่าไหร่จะส่งผลโดยตรงต่ออัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ SEAC จึงต้องการร่วมกับมหาวิทยาลัยระดับโลกอย่างสแตนฟอร์ดทำให้ The Stanford Thailand Research Consortium เกิดขึ้นมาในประเทศไทย โดยเราอยากผลักดันการทำวิจัยทั้งในส่วนที่เป็นการพัฒนาความสามารถขององค์กรและเพิ่มศักยภาพของคนไทย และประเทศไทยในระยะยาวเพื่อสร้างให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวไกลของประเทศอย่างยั่งยืน”
The post AIS/AP Thailand/KBank โชว์พันธกิจยกระดับศักยภาพคนไทยทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ผนึกพลังมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด appeared first on รีวิวคอนโด รีวิวบ้านเดี่ยว รีวิวทาวน์เฮ้าส์ รีวิวทาวน์โฮม โดย YUSABUY.COM.