รอบนี้ทีมงาน Yusabuy จะพาไปรีวิวโครงการที่นับว่าเป็นรางวัลชีวิตชิ้นใหญ่ สำหรับคนฝันอยากมีบ้านในทำเลที่สามารถทำธุรกิจได้ เรียกว่าเห็นแล้วต้องอยากได้มาครอบครองเป็นเจ้าของกับ NUE HYBE Suksawat (นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์) โครงการทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์สูง 3.5-4 ชั้น จาก โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์
แนวคิดการพัฒนาโครงการ NUE HYBE Suksawat นี้ออกแบบโปรดักส์แตกต่างจากโครงการอื่นในทำเลใกล้เคียงกัน เลือกวางประเภทโปรดักส์ให้สัมพันธ์กับ Insight ของลูกค้าที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ ที่มักจะพักอาศัยในอาคารพาณิชย์หรือทาวน์โฮมที่สามารถเปิดทำธุรกิจไปด้วยได้ ลักษณะการเลือกที่อยู่อาศัยจึงมีรายละเอียดที่แตกต่างจากทำเลอื่น ๆ พอสมควรครับ ภายในโครงการจึงกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่สามารถทำธุรกิจไปได้ด้วย เป็น HYBRID LIVING ที่มีทั้งโซนที่เป็นพื้นที่อาคารพาณิชย์, ส่วนของทาวน์โฮมที่เหมาะกับการทำธุรกิจควบคู่กับการอยู่อาศัย และส่วนของทาวน์โฮมที่เน้นการอยู่อาศัยรวมถึงความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ตอบโจทย์การใช้ชีวิต-การทำงาน-การค้า (LIVE-WORK-COMMERCE)
สำหรับในรีวิว นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ นี้เราจะพาไปเจาะลึกในส่วนของทาวน์โฮมกันครับ
ข้อมูลโครงการ
นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์
Nue Hybe Suksawat
ชื่อโครงการ | NUE HYBE Suksawat ( นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ ) |
ผู้พัฒนาโครงการ | บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) |
ที่ตั้งโครงการ | ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. 10140 |
ขนาดที่ดิน | 15–3–31.25 ไร่ |
ประเภทบ้าน | ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ 3.5-4 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต |
แบบบ้าน |
|
ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว |
Urban Home เริ่มต้น 8 ล้านบาท * (ตุลาคม 2566) Urban Hybrid Home เริ่มต้น 12 ล้านบาท * (ตุลาคม 2566) |
พิกัดที่ตั้งโครงการ | เปิดแผนที่ด้วย Google Map |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 02-251-9955 |
LOCATION : ทำเลโครงการ NUE HYBE Suksawat
ทำเลที่ตั้งของ NUE HYBE สุขสวัสดิ์ อยู่ติดถนนใหญ่เส้นสุขสวัสดิ์แบบไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยย่อยซอกแซกไปมาครับ ทำให้เป็นโครงการที่มี Exposure เด่นเด่นโดยเฉพาะในเรื่องการเข้าถึง เพราะส่วนใหญ่แล้วโครงการบ้านแนวราบในย่านนี้มักจะเขยิบเข้าไปอยู่ในซอย นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ตรงสะพานพระราม 9 ทำให้เดินทางเชื่อมต่อเข้าใจกลางเมืองทางฝั่งสาทรและพระราม 3 ได้สะดวกมาก เป็นทำเลใกล้เมืองที่ราคายังจับต้องได้ง่ายครับ
นอกจากนั้นก็ยังสามารถใช้สะพานสำคัญต่าง ๆ อย่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สะพานกรุงเทพ สะพานภูมิพล ได้สะดวกมากอีกด้วย หรือจะออกนอกเมืองไปทางฝั่งสมุทรปราการ, พระราม 2 ก็ใช้เวลาไม่นาน
นอกจากนั้นบนแนวถนนสุขสวัสดิ์กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาสักหน่อย แต่ในอนาคตโครงการนี้จะกลายเป็นทำเลที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนหรือรถไฟฟ้าครับ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีราษฎร์บูรณะ ห่างจากหน้าโครงการประมาณ 300 เมตร ซึ่งถ้าเดินก็ใช้เวลาแค่ราวๆ 4 นาที เท่านั้นเอง โครงการบ้านในโซนนี้ที่สามารถเดินขึ้นรถไฟฟ้าได้มีน้อยมากครับ
อ่อ … แล้วก็ยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) ที่อยู่บนถนนประชาอุทิศ เชื่อมต่อพุทธบูชาด้วยนะครับ ส่วนความคึกคักของย่านนี้ ในแง่สิ่งอำนวยความสะดวกแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ก็มีพอสมควรเลยทีเดียว ไล่เรียงตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ ตลาด เช่น ตลาดไทยสมบูรณ์สแควร์, ตลาดบางประกอก ตลาดสุขสวัสดิ์ 39 และตลาดอินดี้ ดาวคะนอง เป็นต้น รวมถึงบนถนนสุขสวัสดิ์เองก็มี Hyper Market ขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซี และโลตัส ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกันด้วย ส่วนถ้าจะศูนย์การค้าใหญ่ก็มีเซ็นทรัล พระราม 2 หรือจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งเซ็นทรัล พระราม 3 , Terminal 21 ก็ได้ครับ
ไฮเปอร์มาร์เก็ตในโซนนี้มีเยอะมาก มี บิ๊กซี สุขสวัสดิ์ อยู่เลยโครงการไปไม่ไกล, บิ๊กซี ราษฎรณ์บูรณะ, Lotus’s ราษฎรณ์บูรณะ แล้วก็ยังมี Makro Food Service รวมถึงยังมี Home Pro และไทวัสดุ ที่อยู่ในระยะไม่ไกลด้วยครับ

(https://m.facebook.com/BigcsuksawatMarket/?wtsid=rdr_0Q0ESvy8IyRABiqyR)
นอกจากนี้คอมมูนิตี้มอลล์ ไปจนถึงห้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการทั้ง Central พระราม 2, Central พระราม 3, Asiatique The Riverfront, Terminal 21 พระราม 3

(https://www.dailynews.co.th/news/1589848/)

แม้แต่สถานศึกษาชื่อดังก็มีให้เห็นพอสมควร เช่น รร.สารสาสน์สุขสวัสดิ์ รร.สารสาสน์พิทยา รร.นานาชาติ King’s College รร.นานาชาติ Shrewsbury และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

(https://stg.kmutt.ac.th/)
สถานพยาบาลก็มี ได้แก่ รพ.บางปะกอก 9, อินเตอร์เนชั่นแนล, รพ.สุขสวัสดิ์อินเตอร์ รพ.บางปะกอก 1, รพ.ไอเอ็มเอช ธนบุรี เป็นต้น

(https://m.facebook.com/bangpakok9internationalthailand)
Urban Hybrid Living : ชีวิตไฮบริดที่เป็นได้ทุกอย่าง
LIVE – WORK – COMMERCE
สำหรับตัวโครงการ นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ เป็นทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์สูง 3.5-4 ชั้น ทั้งหมด 156 ยูนิต บนที่ดินขนาด 15–3–31.25 ไร่ มาในคอนเซปต์ Urban Hybrid Living ชีวิตไฮบริดที่เป็นได้ทุกอย่าง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังสามารถเป็นพื้นที่ทำงานได้อย่างอิสระ โดยยึด 3 แกนหลัก ได้แก่
- Flexible ปรับเปลี่ยนแปลนและฟังก์ชันได้ตามต้องการ
- Individual สร้างสรรค์พื้นที่และรองรับความเป็นส่วนตัวได้อย่างแตกต่าง
- Nature การได้สัมผัสและใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
โดยดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ภายในโครงการ และภายในบ้าน
เน้นตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ LIVE – WORK – COMMERCE
ให้สามารถพักอาศัย ทำงาน และทำธุรกิจการค้า ได้ในที่เดียวกัน

ส่วนการออกแบบดีไซน์ภาพรวมจะมาในสไตล์ Modern เน้นความเรียบง่าย มินิมอลนิดๆ แต่ดูแตกต่าง ตามสไตล์และ Brand DNA ของทางโนเบิลที่มีภาพจำชัดเจน เริ่มตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการโทนสีขาว แบบกล่องเรียบ ๆ แต่สะดุดตา โดยแบ่งทางเข้า-ออกเป็นสองฝั่งชัดเจน พร้อมระบบ CCTV และรปภ.คอยดูแลตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมงครับ
และเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ทางโครงการได้ทำ Triple Gate Security ซึ่งจุดแรกคือ Main Gate หน้าโครงการ ต่อด้วยจุดระหว่างโซนของ Shophouse และ Urban Hybrid Home บริเวณหน้าคลับเฮ้าส์และพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนสุดท้ายจุดที่ 3 จะอยู่ตรงทางเข้าโซน Urban Home ครับ
ทางเข้าโครงการติดถนนใหญ่ ที่กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน- ราษฎร์บูรณะ)
FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง นิว ไฮบ์ สุวสวัสดิ์
มาถึงจุดสำคัญอย่างพื้นที่ส่วนกลางกันต่อครับ ซึ่งรู้สึกเซอร์ไพรส์กับ Club House ขนาดใหญ่ที่ให้มาถึง 3 ชั้น พื้นที่ตรงนี้จะอยู่เป็นรอยต่อระหว่างโซนของ Shophouse และ Urban Hybrid Home ในช่วงกลางของแปลงที่ดินโครงการ ทำให้ไม่ว่าจะซื้อบ้านแบบไหนก็ยังสามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกครับ
เริ่มตั้งแต่โซน Outdoor ชั้นล่าง เป็นสระว่ายน้ำที่แยกระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งเล่นริมสระ
บริเวณแนวขอบสระว่ายน้ำที่ขนานกับแนวถนนมีการปลูกต้นไม้เพื่อพรางสายตาจากคนที่ผ่านไปมา ใช้สร้างความเป็นส่วนตัวให้คนที่มาว่ายน้ำในสระครับ
ห้องน้ำบริเวณสระว่ายน้ำก็แยกชาย-หญิง มาให้เรียบร้อยครับ
ชั้น 2 จะเจอกับห้องฟิตเนส เตรียมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายมาให้หลากหลาย พร้อมชมวิวสวนด้านนอกผ่านกระจกใส
ชั้น 3 คือห้อง Business Lounge ซึ่งแยกย่อยออกเป็นหลายโซน มี Meeting Room กั้นห้องด้วยกระจกใสแบบเป็นส่วนตัวไว้นั่งทำงาน หรือนัดประชุม
และยังมีโซนที่เป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่แบบจริงจังอีกหนึ่งจุด ไว้รองรับสำหรับลูกบ้านที่อยากมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน
สุดท้ายเป็นมุมโซฟาไว้นั่งพักผ่อนแบบชิลๆ สบายๆ
นอกจากนี้ยังมี Facilities พื้นที่สวนสีเขียวกว้างขวาง โอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ อยู่ตรงข้าม Club House ที่จัดไว้ทั้งสนามเด็กเล่น และมุมนั่งเล่นผ่อนคลายรับลมเย็นๆ
HOME TYPE : แบบบ้าน Nue Hybe Suksawat
เดินทางมาถึงพอยท์หลักที่น่าจับตามองที่สุดกับแบบบ้านของโครงการ Nue Hybe สุขสวัสดิ์ โดยมีแบบบ้านที่พักอาศัยให้เลือกคือ Urban Home ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น มีจำนวน 67 ยูนิต และ Urban Hybrid Home ทาวน์โฮม 4 ชั้น มีจำนวน 56 ยูนิต บนพื้นที่ใช้สอย 174-256 ตารางเมตร ซึ่งจะมีรูปร่างหน้าตายังไง จะสวยขนาดไหน และมีฟังก์ชันครบครันยังไง ตามไปอ่านรีวิวกันต่อได้เลยครับ
แบบบ้าน Urban Home
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 17.70 ตร.วา
ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ
สตาร์ทกันที่ Urban Home ซึ่งมีความสูง 3.5 ชั้น ตัวบ้านหน้ากว้าง 5.45 เมตร โดยทางโครงการติดตั้ง Digital Door Lock ไว้ให้เรียบร้อยในทุกยูนิต ส่วนการออกแบบแปลนบ้านทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียวครับ
อย่างพื้นที่ใช้สอยภายในตั้งแต่ชั้นล่างก็สร้างจุดเด่นด้วยการให้ความสูงแบบ Double Volume สูงถึง 5.7 เมตร เชื่อมต่อพื้นที่ชั้นลอยที่เป็นสเปซอเนกประสงค์ของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วทาวน์โฮมทั่วไปมักจะวางห้อง Living area เอาไว้ที่ชั้น 1 ด้านหน้าบ้าน แต่แปลนแบบ Urban Home เลือกวางตำแหน่งไว้ด้านหลังบ้าน เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยที่เราสามารถเลือกจะวางตำแหน่งของ Living room ไว้ที่ชั้น 1 หรือบริเวณชั้นลอยก็ได้ครับ
ส่วนชั้น 2 จะมีห้องด้านหน้าบ้านและด้านหลังบ้าน จะเลือกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานก็ย่อมได้ ขนาดกว้างขวางพอที่จะใช้เป็นสตูดิโอส่วนตัวย่อม ๆ ได้เลย ตอบโจทย์ LIVE-WORK ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ห้องชั้นบนความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร โดยไฮไลต์ชั้นนี้อยู่ที่จะได้ต้นไม้ 1 ต้นบนพื้นที่ชั้น 2 เพื่อให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
ชั้นสุดท้ายคือ Master Bedroom ที่มีความพิเศษในทุก ๆ ดีเทลตั้งแต่ได้สเปซขนาดใหญ่จัดเต็ม พร้อมระเบียงส่วนตัว รวมถึงมีสเปซ Walk-in Closet แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน และห้องน้ำในตัว ที่ทำ Skylight เป็นลูกเล่นเก๋ ๆ และมีประโยชน์ นอกจากนั้นยังสามารถมองเห็นแนวพุ่มต้นที่ปลูกไว้ที่ชั้น 2 ได้ด้วยครับ
ภายนอกตัวบ้านยังคงไม่ทิ้งคอนเซปต์ของความเป็นโมเดิร์น มีความเรียบ เท่ โดยจะเน้นโทนสีเทาเป็นหลักทำให้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนบ้านก็ยังไม่โทรมและดูใหม่อยู่เสมอ ซึ่งพอตัดกันกับความเขียวของต้นไม้ก็ยิ่งทำให้บ้านโดดเด่นสวยงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นด้านหน้ายังเห็นองค์ประกอบของตัวบ้านอย่างแผงอะลูมิเนียมบังสายตา ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ช่วยแก้ Pain Point ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวจากบ้านตรงข้าม แต่ยังสามารถระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ดีครับ
ลูกเล่นของ Facade ด้วยระแนงอลูมิเนียมสีขาว ที่ช่วยพรางสายตาจากคนภายนอกได้เป็นอย่างดี บวกกับการกรุช่องแสงขนาดใหญ่ในทุกๆ ชั้น ทำให้เมื่อหลอมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้ว ก็ให้ความรู้สึกกลมกลืนเข้ากันได้อย่างลงตัว
พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน และยังมีจุด Junction Box สำหรับติดตั้ง EV Charger ไวัให้ด้วยครับ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Foyer พื้นที่โล่งๆ ซึ่งส่วนตัวชอบการออกแบบบ้านแบบนี้ครับ เพราะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย
เดินมาด้านในอีกนิดจะสัมผัสได้ถึงความโอ่โถงของสเปซตรงนี้ ทั้งด้วยความสูงของ Floor to Ceiling แบบ Double Volume ถึง 5.7 เมตร ประกอบกับช่องแสงขนาดใหญ่แทบจะเต็มผนังสุดเพดาน ที่นอกจากมองเห็นวิวสวน ได้รับแสงธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายแบบทวีคูณ
โดยพื้นที่ตรงนี้มีทั้งส่วนที่เป็นครัวแบบเปิด ซึ่งจะเชื่อมต่อกันกับพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ได้ถึง 6 ที่นั่ง หรือจะไว้สำหรับรับรองแขกหรือเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมก็ทำได้ครับ
ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นแบบ Powder Room พร้อมหน้าต่างระบายอากาศ
ขึ้นไปยังชั้นลอยของบ้านจะพบกับโซนนั่งเล่นดูทีวี ที่เปรียบเหมือนศูนย์รวมของสมาชิกทุกคนภายในบ้านก็ว่าได้ครับ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่คอนเน็กลงไปยังชั้น 1 ได้อีกด้วย
พื้นที่บริเวณชั้นลอยเราสามารถกั้นสเปซให้กลายเป็นห้องแยกออกมาได้ถ้าหากต้องการพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว และเสียงไม่ไปรบกวนคนที่อยู่ชั้น 1 ครับ โดยสเปซตรงนี้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้งฝั่งหน้าบ้านและทางด้านหลังบ้านผ่านบริเวณโถง Double Volume ช่วยให้พื้นที่ดูโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด
มาถึงชั้น 2 ตรงโถงบันไดจะมีกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นต้นไม้ที่ปลูกด้านนอก เปิดออกไปรดน้ำต้นไม้ได้ครับ
ชั้น 2 จะมีห้องนอน 2 ห้อง โดยห้องแรกจะอยู่ด้านหน้าบ้าน ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการออกแบบเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ถ้าจะทำเป็นห้องนอนก็วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ๆ ใครทำงานที่บ้านหรือมีงานเสริมนอกจากงานประจำก็สามารถใช้พื้นที่ห้องนี้ตอบโจทย์ Hybrid Living ของแต่ละคน เป็นออฟฟิศขนาดย่อม ๆ ได้เลยครับ
อีกหนึ่งห้องนอนที่อยู่ถัดไป มีขนาดลดหย่อนลงมาหน่อย แต่ก็ยังวางเตียง 6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ครบเซต
โดย 2 ห้องนอนนี้จะใช้ห้องน้ำร่วมกัน ตรงโถงทางเดิน ให้พื้นที่มากว้างขวางประมาณหนึ่ง พร้อมจัดเตรียมสุขภัณฑ์ไว้ให้ครบครัน โครงการเลือกใช้โทนสีและวัสดุต่าง ๆ ได้ละมุนตามาก ๆ
บนสุดของชั้น 3 คือ Master Bedroom มีขนาดใหญ่เลยทีเดียวครับกินพื้นที่ทั้งชั้นแบบ Penthouse สามารถวางเตียง 6 ฟุต และปลายเตียงติดตั้งทีวี ก็ยังมีระยะให้เดินผ่านไปมาได้สะดวก
โดดเด่นด้วยช่องแสงของประตูระเบียงทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะแก่การพักผ่อน
ขณะที่ระเบียงด้านนอกมีสเปซให้วางพื้นที่นั่งเล่น Outdoor โดยที่ยังได้ความเป็นส่วนตัวด้วยระแนงอะลูมิเนียมสีขาว ช่วยพรางสายตาจากเพื่อนบ้านได้ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องกรองแดด ไม่ให้ความร้อนสัมผัสตัวบ้านโดยตรง ช่วยให้ภายในบ้านร่มเย็นขึ้น
แผงระแนงบังสายตาตรงนี้เป็นโครงเหล็กยึดกับฟินอะลูมิเนียมครับ
เราสามารถออกไปใช้พื้นที่ระเบียงในลักษณะ Semi-Outdoor Balcony ได้ มีอากาศถ่ายเท ช่วยพรางสายตาจากบ้านตรงข้าม ไม่ทึบเกินจนอึดอัด แต่ก็ไม่ได้ดูโปร่งเกินจนรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวครับ
กลับเข้ามาด้านในอีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet ที่แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนได้อย่างลงตัว
ติดกันเป็นห้องน้ำที่เห็นไฮไลต์ นั่นก็คือ Sexy Bath กระจกใสเข้ามุม ด้านในห้องน้ำเองก็มีขนาดกว้างขวางพอสมควร
ได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ เพิ่มความพิเศษด้วยอ่างอาบน้ำ ห้องน้ำบ้านจริงที่ส่งมอบจะได้วัสดุแบบในบ้านตัวอย่างยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำ ก็แนะนำให้ติดตั้งแบบบ้านตัวอย่างไปเลย เพื่อแยกโซนเปียกโซนแห้ง
ปิดท้ายด้วยกิมมิค Skylight ช่องแสงจากด้านบน ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เกือบทุกทิศทุกทาง
.
แบบ Urban Hybrid Home
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 22.20 ตร.วา
สำหรับ Urban Hybrid Home ออกแบบมารองรับการใช้งานแบบ Hybrid ที่สามาถใช้เป็นพื้นที่ประกอบกิจการหรือทำธุรกิจต่าง ๆ โดย Balance ทั้งในเรื่องของ Exposure ในการทำธุรกิจและ Privacy ของการอยู่อาศัยได้ดีครับ ลักษณะของการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ จะมีความจริงจังในการทำธุรกิจหรือติดต่องานต่าง ๆ กับคนนอกมากกว่าแบบ Urban Home ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโจทย์ของแต่ละคนว่าต้องการบ้านแบบไหนครับ
ตัวบ้าน Urban Hybrid Home เป็นทาวน์โฮมที่ปรับฟังก์ชันเป็นโฮมออฟฟิศได้ หน้ากว้างถึง 7.5 เมตร ทำให้จอดรถได้เยอะขึ้น 4 คัน ถ้าที่ดินแปลงใหญ่อาจจะจอดเพิ่มได้อีกครับ มีแยกทางเข้าบริเวณโรงจอดรถและคนเดินแต่ก็เชื่อมถึงกันได้เพื่อความสะดวกในการมาติดต่อธุรกิจ โดยที่การแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่ได้กั้นเป็นห้อง ๆ ทำให้เราสามารถอออกไอเดียฟังก์ชันใช้งานเองได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าจะทำเป็นห้องนอนก็กั้นได้ถึง 4 ห้องนอน เลยครับ โดยที่ทางโนเบิลเองก็ได้มีการทดลองวางแปลนในรูปแบบต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถรองรับดีเทลความต้องการของแต่ละประเภทธุรกิจได้ อย่างแปลนที่ลงไว้ในรีวิวนี้ก็เป็นเพียง Option หนึ่งในการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยเท่านั้นครับ
สำหรับดีไซน์ภายนอกจะคล้ายกับ Urban Home ที่เอ่ยมาข้างต้น ทั้งในเรื่องของสไตล์โมเดิร์น โทนสี และ Facde ที่ยังคงดูสวย เท่ ชิค และทันสมัย เวลาที่เรามองจากภายนอกเข้าไปจะได้เรื่องของความเป็นส่วนตัว อย่างรูปนี้ทดลองขึ้นไปถ่ายรูปจากบ้านฝั่งตรงข้าม จะเห็นว่าแผงอะลูมิเนียมช่วยพรางสายตาได้ดีทีเดียวครับ
สำหรับทางเข้าบ้านจะมีทั้งสำหรับทางเข้ารถที่เป็นแบบ Shutter Door พร้อมมอเตอร์ และทางเข้าประตูเหล็กสำหรับให้คนเดินเข้า-ออกได้สะดวก และสามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน
ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Foyer โดยมีพื้นที่ไว้สำหรับทำตู้เก็บรองเท้า เก็บของต่างๆ ครับ
ต่อเนื่องไปที่ชั้น 2 เป็น Open Plan พื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการจัดวางโต๊ะทำงานได้หลายที่นั่ง และวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบครับ
โดดเด่นด้วยช่องแสงของประตูระเบียงขนาดใหญ่ ทำให้ห้องสว่าง ไม่รู้สึกอึดอัด บรรยากาศเหมาะแก่การนั่งทำงานได้อย่างสบายใจ
อีกหนึ่งระเบียงทางด้านหลังบ้านของชั้น 2 ครับ ในส่วนของคอยล์ร้อนแอร์แต่ละชั้นจะอยู่ตำแหน่งนี้ ทำให้ด้านหน้าบ้านดูเรียบร้อยสวยงามครับ
ห้องน้ำก็จัดสรรพื้นที่มาได้มาตรฐาน ครบทั้งทำธุระส่วนตัวและอาบน้ำได้ครับ
เขยิบขึ้นไปที่ชั้น 3 ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทางโครงการกั้นเป็นห้องแบบเป็นสัดเป็นส่วนได้ 2 ห้อง เป็นแนวทาง เพราะอย่างที่บอกไปว่าบ้านจริงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งหากใครอยากทำแบบนี้ก็สามารถอยู่อาศัยได้สบายๆ
แบ่งได้ทั้งห้องนอนและส่วน Living Area พร้อมห้องน้ำอีก 1 ห้องที่มีให้อยู่แล้ว ซึ่งก็ครบทุกฟังก์ชันใช้งาน
ท้ายที่สุดคือชั้น 4 ยังคงให้เราสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิม เพราะของจริงจะได้เป็น Open Plan แต่จะทำเป็น Master Bedroom แบบบ้านตัวอย่างก็น่าสนใจทีเดียว
แบ่งมุมพักผ่อนวางที่นอน 6 ฟุต ก็ยังเหลือสเปซนั่งดูทีวี วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ก็ยังรู้สึกกว้างขวาง ซึ่งมาพร้อมระเบียงส่วนตัว
ที่สำคัญยังกั้นพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่
ในส่วนของห้องน้ำโครงการวางแปลนออกแบบไว้ให้เรียบร้อย ได้อ่างล้างหน้า His&Her สุขภัณฑ์ และอ่างอาบน้ำแบบที่เห็นในภาพเลย ส่วนที่ไม่ได้คือฉากกั้นอาบน้ำนะครับ
ราคาโครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ (Nue Hybe Suksawat)
โครงการ นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ เป็นโครงการทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ซึ่งจะได้เป็นบ้านเปล่า สำหรับแบบบ้านพักอาศัยมีราคาเริ่มต้น ดังนี้
- UT (Urban Home) เริ่มต้น 8.00 ล้านบาท
- UO (Urban Hybrid Home) เริ่มต้น 12.00 ล้านบาท
*หมายเหตุ รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ รายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง
SUMMARY
.
ภาพรวมโครงการ
- Nue Hybe Suksawat เป็นโครงการทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ บนทำเลสุขสวัสดิ์
- ตั้งอยู่บนขนาดที่ดินประมาณ 15 ไร่ ทั้งโครงการมีจำนวน 156 ยูนิต ทางเข้าออกโครงการมี Triple Security 3 จุด
- โครงการออกแบบแยกเป็นสัดเป็นส่วนระหว่างที่พักอาศัย (Urban Home) และอาคารพาณิชย์ (Urban Shophouse) เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยมีโซนของทาวน์โฮมแบบ Urban Hybrid Home อยู่ตรงกลาง
- คอนเซปต์ Urban Hybrid Living ชีวิตไฮบริดที่เป็นได้ทุกอย่าง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพราะยังสามารถเป็นพื้นที่ทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด ตามคอนเซ็ปต์ LIVE – WORK – COMMERCE
- Club House มีความโดดเด่นขนาดใหญ่ด้วยพื้นที่ 3 ชั้น และสวนสีเขียวกว้างขวางรองรับลูกบ้านได้เพียงพอ ตั้งอยู่โซนตรงกลางโครงการ ทำให้ทุกคนสามารถมาใช้งานได้สะดวก
- มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบคือ Urban Home 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 174 ตร.ม. เน้นการอยู่อาศัยจริงมีความเป็นส่วนตัว และ Urban Hybrid Home 4 ชั้น เน้นการอยู่อาศัยและทำธุรกิจควบคู่กันไปด้วย พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
- ตัวบ้านออกแบบสวยงามในสไตล์โมเดิร์น และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ผ่านการดีไซน์ Facade ด้วยระแนงอะลูมิเนียมสีขาวที่สามารถพรางสายตาได้ดีแต่ยังระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้
- ฟังก์ชันใช้งานครบครัน มีรายละเอียดในทุกๆ จุดและพื้นที่ใช้สอยมีความยืดหยุ่น ง่ายต่อการออกแบบและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย
- ทาวน์โฮม Urban Home เหมาะแก่การอยู่อาศัยเป็นครอบครัว ออกแบบแปลนได้ดีในทุกๆ ชั้น ได้ Double Volume สูงถึง 5.7 เมตร ดูโปร่งโล่งกว่าทาวน์โฮมทั่วไป Master Bedroom ห้องใหญ่ มีลูกเล่นที่ห้องน้ำด้วย Skylight และ Sexy Bath กระจกใสเข้ามุม
- ทาวน์โฮม Urban Hybrid Home พื้นที่ใช้สอยเยอะ รองรับ 4 ที่จอดรถ สามารถปรับฟังก์ชันเป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงานในหลังเดียว พื้นที่ภายในเป็นแบบ Open Plan ทำให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามใจชอบ
ทำเล / การเดินทาง
- โครงการติดถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ ไม่ต้องเข้าซอยให้วุ่นวาย ซึ่งน้อยมากที่โครงการแนวราบในย่านนี้จะอยู่ติดถนนใหญ่
- สามารถคอนเน็กไปยังโซนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น พระราม 2 พระราม 3 ประชาอุทิศ ศรีนครินทร์ และพุทธบูชา
- เชื่อมถนนและสะพานสายสำคัญต่างๆ ทั้งถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สะพานพระราม 9 สะพานกรุงเทพ สะพานภูมิพล และทางพิเศษเฉลิมมหานคร
- อนาคตข้างหน้าจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้วิ่งผ่านหน้าโครงการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีราษฎร์บูรณะ ห่างแค่ประมาณ 300 เมตร เท่านั้น
- อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งร้านสะดวกซื้อ ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์ และห้างสรรพสินค้า
- ใกล้สถานศึกษาชื่อดัง เช่น รร.สารสาสน์สุขสวัสดิ์ รร.สารสาสน์พิทยา รร.นานาชาติ King’s College รร.นานาชาติ Shrewsbury และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด)
เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับใครที่กำลังมองหาบ้านที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ ฟังก์ชันครบครัน
- ผู้ที่อยากได้บ้านที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงาน มีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต
- เหมาะกับคนที่ชื่นชอบสไตล์โมเดิร์นแต่แตกต่างไม่ซ้ำใคร และให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว
- กลุ่มคนที่ทำงานแถวสุขสวัสดิ์ หรือโซนพระราม 2 พระราม 3
- กลุ่มคนที่ทำงานในเมืองโซน CBD สาทร ที่ไม่อยากอยู่คอนโดในเมือง อยากได้บ้านที่มีพื้นที่เยอะ แต่ยังเดินทางไปทำงานสะดวก
- กลุ่มครอบครัวที่กำลังขยับขยาย รวมถึงคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โซนนี้มาก่อน
- สำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านตั้งแต่ 8 ล้านบาท ขึ้นไป
The post รีวิว Nue Hybe Suksawat สัมผัสประสบการณ์ล้ำค่ากับที่สุดของการอยู่อาศัย ให้บาลานซ์ชีวิตทำงานและธุรกิจได้อย่างอิสระ บนทำเลติดถนนใหญ่ l นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ appeared first on รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ.