หนึ่งในสัญลักษณ์ที่บ่งบอกนิยามการใช้ชีวิต ที่สะท้อนตัวตนออกมาได้อย่างมีรสนิยมและสมบูรณ์แบบก็คือ ‘ที่อยู่อาศัย’ นั่นจึงทำให้เรามีความพิถีพิถันในการเลือกเป็นพิเศษ และสำรวจดูหลายๆ โครงการเพื่อเฟ้นหาบ้านที่ใช่ แต่เชื่อไหมว่า เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 (Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2) จะกลายเป็นโครงการหนึ่งเดียวในใจทันที เมื่อเราได้เข้าไปสัมผัสพื้นที่อยู่อาศัยที่สร้างสรรค์ขึ้นมาได้อย่างงดงาม
เพราะโครงการ Setthasiri กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 เป็นบ้านที่มากกว่าแค่คำว่าบ้าน ผ่านการออกแบบบ้านในสไตล์ Modern Classic อย่างปราณีต มีมุมมองที่แตกต่างด้วยรูปแบบบ้านที่เป็น Timeless Design กับทัศนียภาพที่งดงามด้วยวิวสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ ทำให้ภาพรวมของโครงการดูเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความโดดเด่นและร่วมสมัยสง่างาม สงบและเป็นส่วนตัว สะท้อนถึงแนวคิดของแบรนด์ “เศรษฐสิริ” ที่ต้องการบอกเล่า Portrait Of Success “ทุกความสำเร็จให้บ้านพูดแทนคุณ” ทำให้ Setthasiri กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 จึงเป็นบ้านที่สามารถบอกเล่าตัวตนของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลโครงการ
เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2
Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2
ชื่อโครงการ |
เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
ที่ตั้งโครงการ | ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.นนทบุรี |
ขนาดที่ดิน | ประมาณ 27-1-82.98 ไร่ |
ประเภทบ้าน | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต |
แบบบ้าน | มีให้เลือกทั้งหมด 8 แบบ ดังนี้
|
ขนาดที่ดิน | 54-196 ตร.วา |
ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว | ราคาเริ่ม 12-30 ล้านบาท * |
พิกัดที่ตั้งโครงการ | เปิดแผนที่ด้วย Google Map |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1685 |
LOCATION : ทำเลโครงการ
ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้เข้าไปรีวิวโครงการ Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2 แอบเซอร์ไพรส์นิดๆ เพราะว่าตัวโครงการอยู่ห่างจากบ้านเราที่อยู่เส้นราชพฤกษ์ 345 ไม่ถึง 15 นาที!! ซึ่งเรียกได้ว่าถิ่นนี้แสนสิริครองก็ว่าได้ เพราะยังมีอีกหลายแบรนด์หลายโครงการจากแสนสิริ ที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ตั้งแต่เส้น ราชพฤกษ์ 345 เส้น 346 รวมถึงชัยพฤกษ์ (แอบบอกว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยแหละ><)
โดย ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการนี้ที่ปัจจุบันถือว่ามีความเจริญเติบโตค่อนข้างรวดเร็วทีเดียว ทำถนนหนทางตัดผ่านกับถนนสายสำคัญเส้นอื่นๆ อย่างถ้าจะไปดอนเมือง สรงประภา ศรีสมาน หรือเจาะจงไปที่สนามบินดอนเมือง สามารถใช้เส้นที่จะไปเชื่อมสะพานนนทบุรีได้ ซึ่งเส้นนี้รถจะไม่ค่อยติดเท่าไหร่ ทำให้หากเราไปสนามบินก็จะใช้เส้นนี้เหมือนกัน
แต่ถ้าจะออกไปโซนรังสิต แนะนำว่าใช้ถนน 345 ที่ไปยังสะพานปทุมธานี 2 จะใกล้กว่าพอสมควร ซึ่งจริงๆ เส้นนี้ก็วิ่งมาทางดอนเมืองได้เหมือนกัน ถือว่าให้เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทาง
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของ 345 จะไปได้ทั้งถนนกาญจนาภิเษก และออกไปทางถนนราชพฤกษ์ ที่จะไปเชื่อมต่อได้ทั้งชัยพฤกษ์ และถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งไม่ว่าจะวิ่งเส้นทางไหนก็ใช้เวลาในการเดินทางไปถึงจุดหมายในเวลาไม่นาน
บวกกับมีทางด่วนอุดรรัถยา ด่านศรีสมาน ที่ขนานไปกับทางยกระดับโทลเวย์ ให้สามารถวิ่งเข้าเมืองไปโซนดินแดง พระราม 9 ได้สบายๆ
ซึ่งหากเจาะลึกให้แคบลงไปยังที่ตั้งของ เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 ก็จะอยู่ติดกับสนามกอล์ฟ Flora Ville Golf & Country Club โดยเข้าจากถนนหลักมาประมาณ 2-3 กิโลเมตร* ก็ถึงโครงการแล้ว

แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่แถบนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก แต่อยากให้เห็นภาพรวมของการเติบโตในการเป็นทำเลศักยภาพ ด้วยการมาถึงของรถไฟฟ้า ที่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโครงการ จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เขยิบออกไปจะเป็นสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) และสายสีม่วง (บางซื่อ-เตาปูน)

ที่สำคัญไปกว่านั้นในการที่จะเกิดโครงการนี้ได้ นั่นแปลว่าสิ่งอำนวยความสะดวกบนโลเคชันแห่งนี้ก็ต้องครบครัน ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อไปจนถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยนับเส้นหลักอย่างฝั่งปทุมธานีก็จะมี The Tree Community, Big C ปทุมธานี, Lotus’s ปทุมธานี, The Nine Center ติวานนท์, Robinson Lifestyle ศรีสมาน, ไทวัสดุ ปทุมธานี

อีกด้านหนึ่งทางราชพฤกษ์ก็มีให้เที่ยวให้ช้อปเยอะ ซึ่งเราอยู่ฝั่งนี้ก็จะไปได้ทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์, Lotus’s North ราชพฤกษ์, Home Pro ชัยพฤกษ์, Index Living Mall และ The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ นอกจากนี้ก็ยังมี Central Plaza แจ้งวัฒนะ รวมถึง Central Plaza Westgate และ Ikea บางใหญ่

ขณะที่สถานศึกษาบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะรายล้อมไปด้วยทั้งโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนเอกชนชื่อดัง และมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น SISB Nonthaburi, Harrow International School Bangkok, Denla British School, รร.สาธิตปทุม, รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์, รร.นวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี และมหาวิทยาลัยรังสิต

ส่วนสถานพยาบาลก็อยู่ใกล้โครงการทั้ง รพ.ปทุมธานี, รพ.ปากเกร็ด 2, รพ.เซนต์คาลอส, รพ.เวิลด์เมดิคอล และรพ.ปทุมเวช เป็นต้น

THE PROJECT
เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยผ่านโครงการ Setthasiri กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 ที่พร้อมจะถ่ายทอดทุกองค์ประกอบให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ภายใต้แนวคิดของความเป็นแบรนด์เศรษฐสิริ Portrait Of Success ทุกความสำเร็จให้บ้านพูดแทนคุณ ส่วนคอนเซปต์ของโครงการนี้คือ ทรรศนะที่ภาคภูมิ
ซึ่งพอมาเห็นของจริงบอกได้คำเดียวว่าคอนเซปต์นี้ไม่เกินจริงเลย กับวิวสีเขียวขจีของสนามกอล์ฟขนาดใหญ่และติดริมน้ำ เป็นทัศนียภาพที่สวยสดงดงามสะกดทุกสายตาแบบ Llimited Edition ของแท้
สอดรับกับการออกแบบของโครงการ เป็นที่สุดแห่ง Timeless Design เหนือกาลเวลากับสไตล์ Modern Classic โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ ตั้งแต่ทางเข้าที่ดีไซน์ได้แบบอลังการงานสร้างด้วยบ่อน้ำพุตรงกลางล้อไปกับสวนสีเขียวตลอดแนวทั้งสองฝั่ง
ด้านซุ้มโครงการเองก็ให้ความเป็น Luxury ตัวผนังจรดเพดานส่วนใหญ่เน้นเป็นโทนสีเทาเข้ม ที่เพิ่มลูกเล่นเป็นลายทางแนวตั้ง เข้ากันกับผนังลายหินสีเทาอ่อน ตัดกันกับสี Copper ของเหล็กดัดประดับลวดลายและใส่กิมมิกด้วยการทำเป็นทรงโค้งครึ่งวงกลม ยิ่งทำให้บริเวณนี้ดูแพงสร้างความหรูหราอย่างมีระดับ
แต่ที่ให้ความใส่ใจไม่แพ้กันคือเรื่องของความปลอดภัย โดยโครงการเลือกใช้ประตูรั้วอัตโนมัติแบบ Main Gate ทำทางเข้า-ออกแยกชัดเจน มีการแบ่งในส่วนของ Resident ซึ่งใช้ RFID Sensor เป็นระบบอัตโนมัติ
และส่วน Visitor จะใช้ระบบ VMS System บันทึกผู้มาติดต่อที่มีความรวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ต้องแลกบัตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี LIV-24 ระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคาร เต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาฯไทย
นอกจากนี้ยังมี CCTV-Video Analytics ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ Real-Time Guard Tour ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real-Time และ Digital Fence รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence เวลามีสิ่งผิดปกติ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกบ้านไร้กังวลได้ตลอด 24 ชั่วโมง
FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง
ก่อนจะพาไปชมส่วนกลางที่เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของโครงการ Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2 ขอคั่นด้วย Master Plan ซึ่งโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 28-1-30.38 ไร่ และจะเห็นได้ว่าลักษณะที่ดินเป็นรูปทรงแบบ Freeform มีความโค้งไปมาโดยพื้นที่ที่อยู่ติดกับสนามกอล์ฟและริมน้ำ จะมีทั้งส่วนของบ้านอาศัยรวมถึงส่วนกลาง
กล้าพูดเลยว่าเป็นหนึ่งในโครงการอันดับต้นๆ ในใจเราที่ทำส่วนกลางออกมาได้น่าประทับใจมาก ต้อนรับกันด้วย Clubhouse 2 ชั้น คงความเป็น Modern Classic เรียบง่ายแต่คลาสสิก เพิ่มความทันสมัยด้วยการกรุกระจกรอบด้านแบบ Full High เพิ่มความสวยงามมากยิ่งขึ้น
เมื่อเข้ามาด้านในจะสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่งสบาย ซึ่งเหมือนเป็นการรวมตัวของ Lobby และ Co-Working Space เข้าไว้ด้วยกัน จัดพื้นที่สำหรับนั่งทำงานแบบจริงจังด้วยโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง
แต่เพิ่มความพิเศษด้วยพื้นที่นั่งผ่อน ที่โอบล้อมด้วยกระจกทำให้มองเห็นวิวสนามกอล์ฟและสระว่ายน้ำภายนอกแบบเต็มสายตา
ซึ่งเชื่อเลยว่าจะเป็นมุมโปรดของลูกบ้านแน่นอน เหมาะแก่การถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียลสุดๆ
ไปต่อกันที่ชั้น 2 จะเจอกับ Living Area อีกหนึ่งมุมพักผ่อนที่ตอบโจทย์คนอยากนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่นแบบเงียบสงบ แต่ก็อยากเห็นบรรยากาศภายนอกได้เช่นเดียวกัน
ติดกันเป็น Fitness อุปกรณ์ครบครัน รองรับการออกกำลังกายทุกรูปแบบ ใครสายรักสุขภาพน่าจะชอบไม่น้อย แถมยังมองเห็นวิวแบบจัดเต็ม
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Outdoor ให้ออกมานั่งผ่อนคลายรับลม พร้อมชมวิวมุมสูงที่เห็นทั้งผืนน้ำ สีเขียวของสนามกอล์ฟ และสระว่ายน้ำ ที่การันตีเลยว่าตอนเย็นบรรยากาศดีมากจริงๆ
ต่อเนื่องลงไปยังโซนพื้นที่กลางแจ้งชั้นล่าง สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ Half Olympic สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง
นอกจากนี้ยังมีสเปซเว้าเข้าไปให้นั่งแช่น้ำชิลๆ ตกแต่งด้วยน้ำพุ ช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
โดยแบ่งแยกสระเด็กไว้อย่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัย พร้อมดีไซน์ด้วยน้ำพุแบ่งคั่นกลาง
แต่ที่ชื่นชอบมากคือการได้เห็นทัศนียภาพ ของความเขียวขจีจากสนามกอล์ฟและผืนน้ำแบบใกล้ชิด
เดินเลยไปอีกนิดนี่คือไฮไลต์ที่อยากนำเสนอ เพราะโครงการออกแบบ Landscape ได้ตรึงตาตรึงใจมาก ผ่านสวนสีเขียวขนาดใหญ่กว้างขวาง
สร้างความโดดเด่นด้วย Pavilion ซุ้มโค้งสไตล์โมเดิร์นเน้นโทนสีเข้มสวยงาม ดีไซน์ต่อเนื่องยาวไปถึงทางเดิน
ภายในจัดวางที่นั่งไว้ประมาณหนึ่ง สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศออกมานั่งเล่นนอกบ้าน
ติดกันเป็น Education Playground สนามเด็กเล่นเปิดจินตนาการของเหล่าเด็กๆ ให้สนุกสนานและได้พัฒนาทักษะไปด้วยในตัว พร้อมรับแรงกระแทกทำให้เล่นได้อย่างสบายใจ หายห่วง ขณะเดียวกันก็ยังมี Jogging Lane สำหรับผู้ใหญ่ให้เดินออกกำลังกาย
ปิดท้ายส่วนกลางด้วยไฮไลต์ Sansiri Backyard แปลงพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิด ที่ลูกบ้านสามารถมาเก็บไปใช้ทำอาหารได้
มาพร้อมการออกแบบที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ดีไซน์ประตูโค้งสีดำทำเป็นทางเข้า-ออก และจัดพื้นที่สวนภายในให้ดูมีมิติสวยงาม
พื้นที่ตรงนี้ทั้งหมดให้ความรู้สึกได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ได้สัมผัสและเห็นวิวทิวทัศน์ของพื้นที่สีเขียวทั้งทางฝั่งโครงการเองและฝั่งสนามกอล์ฟที่ติดกับผืนน้ำแบบ Panorama พร้อมให้ความร่มรื่นร่มเย็นอย่างแท้จริง
ทิ้งท้ายส่วนกลางด้วยบรรยากาศยามเย็น คือดีมากแบบมากอากาศดีลมเย็น มองไปทิศทางไหนก็สวยงามไปหมด
HOME TYPE : แบบบ้าน เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2
.
ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวคืออีกหนึ่งความพิถีพิถันที่โครงการ Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2 มอบให้โดยเฉพาะ เพราะทั้งโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีจำนวนที่พักอาศัยเพียง 70 ยูนิตเท่านั้น แต่ก็ยังให้ความสำคัญต่อรูปแบบบ้าน เพราะมีมาให้เลือกถึง 8 แบบด้วยกัน ซึ่งมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 200-425 ตารางเมตร
ไม่เพียงแค่นั้นเพราะโครงการยังให้ในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมอย่าง Home EV Charger ติดตั้ง มาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ยังมี Solar Roof พร้อมฝ้าชายคาที่ระบายความร้อนและระบายอากาศได้ดีอีกด้วย อีกทั้งตรงบริเวณหน้าต่างทางโครงการออกแบบ Breeze Panel ช่องระบายอากาศ ซึ่งมีข้อดีตรงที่อากาศภายในบ้านจะถ่ายเทได้สะดวก และยังมีระบบ fresh 0 ที่เป็นการฟอกอากาศบริสุทธิ์ในตัวบ้านอีกด้วย
ก่อนจะรีวิวบ้านขอสารภาพก่อนว่าเราไม่สามารถให้ดูทุกแบบได้จริงๆ เพราะบ้านหลังใหญ่มาก เลยขออนุญาตพาไปชม 3 แบบตามนี้เลย!!!
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น GLORY
– – – ความสำเร็จรุ่งโรจน์ในชีวิต จนได้มาในสิ่งที่ตัวเองมุ่งหมาย – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แม้ว่าบ้าน Type แรกจะมีขนาดเล็กสุดในโครงการ แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยถึง 200 ตร.ม.ขนาดนี้ จะบอกว่าเล็กก็ยังไงอยู่เพราะจัดสรรพื้นที่ส่วนรวมที่ชั้นล่าง ระหว่างห้องรับแขกและห้องกินข้าวได้อย่างลงตัว สามารถเพิ่มไซส์เฟอร์นิเจอร์ให้มีขนาดใหญ่และได้หลายรูปแบบ โดยชั้นนี้จะได้ Floor to Ceiling 2.7 เมตร
ขณะเดียวกันก็ให้พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละสมาชิกในบ้านได้อย่างกว้างขวางเพราะมีถึง 4 ห้องนอน โดยชั้นสองของบ้านที่มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง จะได้ห้องน้ำในตัวทุกห้องตั้งแต่ Type เริ่มต้น โดย Floor to Ceiling ของชั้นบนจะได้ถึง 2.9 เมตร
นอกจากนี้ทุกยูนิตจะได้ Digital Door Lock , Home Security ระบบMagnetic และ Motion Sensor ติดตั้งสัญญาณกันขโมยรักษาความปลอดภัยเพิ่มอีกชั้น พร้อมเชื่อมต่อผ่าน Smart Phone
โดยสถาปัตยกรรมของบ้านโครงการนี้ออกแบบเป็นสไตล์ Modern Classic สร้างความเรียบหรูอย่างมีระดับ ที่ต่อให้จะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงสวยงามและทันสมัย มีการตกแต่ง Facade ด้วยคิ้วบัวช่วยให้บ้านมีมิติ
พร้อมช่องแสงของประตูและหน้าต่างที่ออกแบบเป็นกระจกเขียวตัดแสง เพิ่มกิมมิกด้วยกรอบลายตารางสีดำ เช่นเดียวกับระเบียงเหล็ก ส่วนตัวบ้านเน้นโทนสีขาวและสีเทา เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน คือเหมาะแล้วกับคำว่า Timeless Design งดงามเหนือกาลเวลา
บริเวณลานจอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน ซึ่งจะมีประตูตรงโรงจอดรถให้เข้าข้างในบ้านได้สะดวก โดยไม่ต้องไปเข้าหน้าบ้าน
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Living Area ที่เชื่อมต่อไปยัง Dining Area ได้หน้าต่างทั้งแบบบานเลื่อนและบานฟิกซ์ตรงด้านข้างบ้าน โดยพื้นของชั้นนี้ปูด้วยแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว ที่นอกจากจะทำให้ห้องดูสว่างแล้วยังดูแพงอีกด้วย
ห้องนั่งเล่นเลือกวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบตัวไอและตัวแอล ตรงข้ามจะเลือกชั้นวางทีวีแบบลอยตัวหรือบิวท์อิน เพิ่มโต๊ะกลางอีกตัวคือเพอร์เฟกต์เลย
ต่อด้วยห้องรับประทานอาหาร จะได้ช่องแสงของประตูด้านหลังบ้าน ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาทุกทิศทาง
โดยสเปซตรงนี้ เลือกวางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งได้สบาย
ติดกันเป็นห้องครัวแบบปิดที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ให้พื้นที่มากว้างขวาง โดยให้หน้าต่างมา 2 ฝั่ง และประตูออกไปยังลานซักล้าง ช่วยระบายอากาศและกลิ่นอาหารออกไปได้ดี
ส่วนตัวที่ชอบคือโครงการบิวท์เคาน์เตอร์ครัว พร้อมตู้เก็บของด้านบน ซิงค์ล้างจาน 2 หลุม และติดหน้าบานสีน้ำเงินมาให้เรียบร้อย แต่ที่พิเศษคือได้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า 2 หัว และเตาแก๊ส 2 หัว จากแบรนด์ Teka
ห้องนอนที่ 4 จะอยู่บริเวณชั้นล่าง โดยพื้นจะถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Absorption Floor พื้นลดแรงกระแทก เหมาะสำหรับทำเป็นห้องผู้สูงอายุ แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นเดียวกัน
ถัดไปเป็นห้องน้ำ จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบถ้วน ได้อ่างล้างหน้าฝังเคาน์เตอร์ ข้างใต้เป็นตู้เก็บของหน้าบานสีน้ำเงินแบบเดียวกับห้องครัว โถสุขภัณฑ์ Hand Shower และหน้าต่างระบายอากาศ
ก่อนจะขึ้นไปชั้นสองหากมองย้อนกลับไปตรงหน้าห้องน้ำ ทางโครงการได้กรุกระจกใส ที่มองออกไปจะเป็นบริเวณโรงจอดรถ ซึ่งก็จะได้เรื่องของแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาตรงพื้นที่นี้ แถมใต้บันไดยังมีห้องเก็บของให้อีกด้วย
ขึ้นมาตรงโถงบันไดจะได้หน้าต่างแบบบานกระทุ้งและบานฟิกซ์
เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้อง Master Bedroom ทางขวามือ ซึ่งจัดพื้นที่มาให้กว้างขวางยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนสุดหลังบ้าน
โดยบริเวณหน้าบ้านจะเป็นส่วนพักผ่อน สามารถวางเตียง 6 ฟุต และบิวท์ชั้นวางทีวีก็ยังมีสเปซเหลือโดยรอบ ติดกันจะมีพื้นที่อีกประมาณหนึ่งให้เลือกวางโต๊ะทำงานหรือทำเป็นมุมนั่งเล่นได้
ขณะที่ช่องแสงทางด้านหน้าบ้านจะเป็นส่วนของประตูระเบียง และได้ช่องแสงอีกสองจุดทางด้านข้างบ้าน
เขยิบเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Walk-in Closet ให้บิวท์เสื้อผ้าได้สุดเพดานและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่
เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ได้อ่างล้างหน้าฝังเคาน์เตอร์ พร้อมตู้เก็บของข้างใต้ และยังได้กระจกเงาที่ทำเป็นตู้เก็บของ ใครที่มีของใช้ในห้องน้ำเยอะน่าจะถูกใจ รวมถึงได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ
พร้อมกับแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนด้วยประตูกระจกฉากกั้นอาบน้ำ รวมถึงได้ Hand Shower และ Rain Shower แบบครบเซต
ด้านห้องนอนที่ 2 และ 3 จะมีไซส์พอๆ กัน โดยห้องหนึ่งจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน โดดเด่นด้วยช่องแสงที่ได้ทั้งจากทางหน้าบ้านและด้านข้าง
ขนาดของห้องเองสามารถเลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ บวกกับโต๊ะเรียนหรือโต๊ะทำงาน ก็ไม่ได้ทำให้ห้องรู้สึกแคบลงแต่อย่างใด
ผนังฝั่งหนึ่งสำหรับบิวท์ตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำเพื่อสะดวกในการใช้งาน
ห้องน้ำก็จัดเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย เป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ต้องแชร์กับสมาชิกคนอื่นในบ้าน
อีกหนึ่งห้องนอนจะอยู่ทางด้านหลังบ้าน ซึ่งลักษณะ Layout ก็จะคล้ายกับห้องก่อนหน้า พร้อมห้องน้ำให้ในตัว
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น VICTORY
– – – ชัยชนะของชีวิตที่ก้าวมาสู่จุดสำเร็จ – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 64 ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
ขยับไซส์ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิกภายในบ้าน 4-5 คน โดยออกแบบพื้นที่ Connect ถึงกันเป็นรูปตัวแอล ซึ่ง Type ก่อนหน้าจะเชื่อมแค่ห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าว แต่หลังนี้จะเพิ่มพื้นที่ส่วนของเตรียมอาหารเข้าไปด้วย
ส่วนของห้องนอนจะมีที่ชั้นล่าง 1 ห้อง และชั้นบนอีก 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องแม่บ้านที่จะอยู่ด้านข้างบ้านติดกับลานซักล้างและห้องครัว เพื่อให้ทำงานได้สะดวกและไม่รบกวนเจ้าของบ้าน
แน่นอนว่ารูปแบบของอาคารภายนอกจะยังคงคลุมคอนเซปต์ความเป็นโมเดิร์น เรียบง่ายและคลาสสิก ซึ่งหน้าตาก็จะคล้ายกับแบบแรกเลย แตกต่างกันเพียงองค์ประกอบบางส่วน ที่จะขอพูดในบรรทัดต่อไป
โรงจอดรถจอดได้ 2 คัน และให้ประตูเข้าด้านในบ้านจากบริเวณนี้เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือห้องเก็บของ
อีกทั้งยังทำเฉลียงทางเดินไล่สเต็ปเชื่อมต่อจากโรงจอดรถไปยังด้านหน้าบ้าน
เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ บวกกับช่องแสงแทบจะรอบด้าน ยิ่งทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายตาน่าอยู่อาศัย
โซน Living Area มีสเปซพอสมควรเลยทีเดียว ช่วยให้ไอเดียเปิดกว้างในการเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำได้หลายสไตล์ตามใจชอบ
ถัดมาเป็นมุมรับประทานอาหาร ที่พอเปิดม่านแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่าทางโครงการใส่ใจกับช่องแสงไม่น้อยเลย ด้านข้างเป็นประตูออกสู่ข้างนอกบ้าน และยังได้หน้าต่างทั้งแบบบานเลื่อนและบานฟิกซ์
ขณะเดียวกันพื้นที่ก็มีความยืดหยุ่นในการจัดวางโต๊ะกินข้าวจะเลือกขนาด 6 ที่นั่งแบบบ้านตัวอย่างก็ดูเข้าท่า หรือจะปรับเป็น 8 ที่นั่งก็ดูดีไม่ธรรมดา
ติดกันเป็นส่วนของเตรียมอาหาร ทางโครงการบิวท์อิน Pantry เป็นรูปตัวแอลมาให้คล้ายกับบ้านตัวแต่ต่างกันที่รูปลักษณ์หน้าตาเท่านั้น สำหรับจัดเตรียมของกินเล็กๆ น้อยๆ อย่างอาหารเช้า หรืออาหารที่ทำง่ายๆ ไม่มีกลิ่น มาพร้อมหน้าต่างระบายอากาศ
ซึ่งถ้าจะทำอาหารจริงจังก็มีห้องครัวแบบครัวปิดด้วยประตูไม้บานทึบ โดยจะได้เคาน์เตอร์ครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกับที่รีวิวไปก่อนหน้า
ไปต่อกันที่ห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านและติดกับโรงจอดรถ ที่หากใครมีผู้สูงอายุห้องนี้คือใช่เลย แต่ถ้าไม่มีจะปรับเป็นห้องต่างๆ ก็แล้วแต่ผู้อยู่อาศัย
ส่วนของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ติดกับประตูทางเข้า-ออกตรงลานจอดรถ ได้สุขภัณฑ์ครบทุกอย่างตามที่เห็นในภาพเลย
ก่อนขึ้นไปชั้นสองจะเห็นว่า มีประตูห้องเก็บของใต้บันไดทางขวามือ และถ้ามองตรงไป จะเป็นห้องเก็บระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
พอขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 การวาง Layout จะคล้ายกับบ้านแบบแรกที่ได้รีวิวไป แต่แตกต่างกันที่ขนาดของพื้นที่ใช้สอย โดยเดินตรงไปสุดทางจะเป็น Master Bedroom ที่ให้พื้นที่ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน
ฝั่งหนึ่งสำหรับวางเตียง 6 ฟุต ชั้นวางทีวี และโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ก็ให้ความรู้สึกว่าห้องยังคงกว้างขวาง
โดยมุมพักผ่อนจะอยู่ใกล้กับระเบียงที่อยู่ทางหน้าบ้าน ให้ออกมานั่งเล่นชมวิวได้
ด้านในสุดของอีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ที่มีพื้นที่มากพอให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
ติดกันเป็นห้องน้ำที่จัดสุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน
ส่วนอีกสองห้องนอนจะแบ่งเป็นห้องนอนทางด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยจะพาไปชมห้องที่อยู่หน้าบ้านก่อน ยังคงโดดเด่นด้วยช่องแสงที่เรียงรายกันถึง 3 บาน ช่วยให้ห้องสว่าง
แบ่งพื้นที่มุมหนึ่งวางเตียงได้ 5 ฟุต ก็ยังมีสเปซให้เดินได้รอบด้าน
ด้านในจะเป็นเหมือน Walk-in Closet ซึ่งก็เพียงพอให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังสุดเพดาน พร้อมวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ
มาพร้อมห้องน้ำภายในตัว ทำให้ไม่ต้องลุกออกไปใช้งานนอกให้ยุ่งยาก
ห้องนอนสุดท้าย ด้านหลังบ้านจะมีขนาดลดหลั่นลงมาเล็กน้อย แต่ยังคงวางเฟอร์นิเจอร์ได้แบบครบเซต
ที่แน่นอนว่ายังคงได้ห้องน้ำในตัวเหมือนกับห้องอื่นๆ
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น MASTERY
– – – การมีอำนาจปกครอง มีอำนาจเลือกสิ่งต่าง ๆ ให้ชีวิต – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 285 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 69.63 ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
แล้วก็มาถึง Type สุดท้ายของบ้านตัวอย่าง คือรีวิวกับแบบทุกตารางเมตร ซึ่งหลังนี้จะมีขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบกับ 2 หลังก่อนหน้า แต่ว่ายังมีอีก 5 แบบที่ขนาดใหญ่กว่านี้ ซึ่งต้องบอกว่า Layout จะเหมือนกันกับแบบบ้าน VICTORY เพียงแต่ว่าจะขยายขนาดใหญ่ขึ้น เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนและอยากได้สเปซเยอะๆ เช่นเดียวกับชั้น 2 ที่มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือพื้นที่พักผ่อนตรงบริเวณโถงบันได
ในส่วนของสถาปัตยกรรมภายนอกบ้านมีรูปลักษณ์เหมือนกับหลัง VICTORY ทั้งในเรื่องของสไตล์ Modern Classic การได้ช่องแสงหน้าบ้านขนาดใหญ่ทั้งชั้นล่างและชั้นบน รวมไปถึงโทนสีที่เน้นสีขาวและสีเทาเป็นหลัก ตัดกับระเบียงเหล็กสีดำได้อย่างสวยงามตัว
ขณะที่โรงจอดรถยังคงจอดได้ 2 คัน รวมถึงได้ห้องเก็บของและทางเข้ารองที่ตรงบริเวณนี้ด้วย
ต่อเนื่องไปถึงเฉลียงที่เชื่อมจากโรงจอดรถไปยังหน้าบ้านแบบในร่ม หมดห่วงเรื่องโดนแดดหรือตากฝน
เมื่อเข้ามาด้านในแล้วส่วนแรกที่เจอคือการเปิดพื้นที่ถึงกันทั้งหมด ทำให้หากรวมสมาชิกทุกคนในบ้านมาอยู่โซนนี้ ก็รับประกันเลยว่าจะไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบแน่นอน
โดยห้องนั่งเล่นจัดวางโซฟาขนาด4-6 ที่นั่งได้สบายๆ และติดตั้งทีวีไซส์ใหญ่ได้แบบจัดเต็ม เพราะมีระยะห่างการดูพอสมควร
เชื่อมต่อไปยังห้องรับประทานอาหาร ซึ่งจะเห็นว่าทางโครงการวางโต๊ะกลมขนาด 6 ที่นั่งให้ดูเป็นไอเดีย ก็ยังเหลือสเปซอีกมาก
ติดกันเป็นพื้นที่เตรียมอาหารที่ให้สเปซมาพอสมควร อีกทั้งยังบิวท์ Pantry รูปตัวยูมาให้เรียบร้อย ซึ่งหน้าตาอาจจะไม่เหมือนกับบ้านตัวอย่างแต่รับรองว่าสวยไม่แพ้กัน เหมาะสำหรับทำอาหารง่ายๆ และนั่งกินตรงนี้ได้เลยในวันที่เร่งรีบ
ห้องครัวจะอยู่ข้างหลังที่นอกจากได้สเปซขนาดใหญ่ พร้อมเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ก็ยังได้หน้าต่างระบายอากาศ ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
มาต่อกันที่ห้องนอน 4 ชั้นล่าง ซึ่งมีขนาดกว้างขวางให้วางเตียงได้ถึง 6 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อีก 2-3 ชิ้น
ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะใช้ร่วมกัน ที่อยู่ติดกับทางเข้า-ออก โรงจอดรถ
ด้านห้องเก็บของในบ้านจะอยู่ใต้บันได และอีกจุดหนึ่งสำหรับเก็บงานระบบไฟฟ้า
ก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ของบ้านจะพบกับโถงบันไดที่จัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับนั่งพักผ่อน หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องทำการบ้านของเด็กๆ ก็ปรับเปลี่ยนได้ดั่งใจ
ขณะที่ Master Bedroom จะได้สเปซแบบหน้ากว้างตั้งแต่หน้าบ้านจนไปสุดที่ท้ายบ้าน ทำให้ห้องมีขนาดใหญ่มากพอที่จะวางทั้งเตียง 6 ฟุต หรือไซส์สั่งทำพิเศษก็ยังรองรับได้เพียงพอ
ซึ่งโซนพักผ่อนจะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ได้ช่องแสงจากทางประตูระเบียงและหน้าต่างด้านข้างบ้านอีก 2 บาน
ฝั่งหลังบ้านนั้นจะเป็นพื้นที่ของ Walk-in Closet สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าได้เต็มพื้นที่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง สายแฟชั่นน่าจะถูกใจไม่น้อย
ต่อเนื่องไปยังห้องน้ำที่มีไฮไลต์อยู่ตรงได้ Bathtub แบบลอยตัวเข้ามาเสริมทัพ ทำให้ห้องน้ำน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
ห้องนอนถัดมาจะอยู่ติดกับพื้นที่พักผ่อนด้านหน้าบ้าน จัดสรรพื้นที่มากว้างขวางเลือกวางเตียง 5 ฟุต ชั้นวางทีวี และโต๊ะเรียนหรือโต๊ะทำงาน
ฝั่ง Walk-in Closet จะหลบมุมอยู่ในสุดของห้อง แนะนำให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังสุดเพดานเหมือนบ้านตัวอย่าง จะทำให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะขึ้น
ห้องน้ำในตัวสร้างความสะดวกสบายและใช้งานได้จริง
ปิดจบอีกหนึ่งห้องนอนอยู่ทางหลังบ้าน ที่เข้ามาแล้วจะเจอกับ Walk-in Closet ก่อนเป็นอย่างแรก
ติดกันเป็นห้องน้ำในตัวให้พื้นที่มากว้างขวางประมาณหนึ่ง สุขภัณฑ์ทุกอย่างจัดเตรียมให้เรียบร้อย
ด้านในคือมุมพักผ่อนที่นับว่าทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่างได้น่าสนใจทีเดียววางเตียง 5 ฟุต พร้อมบิวท์โต๊ะเรียนติดกับผนังทางฝั่งปลายเตียง ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านไปมาได้สะดวก
สำหรับ 5 แบบบ้านที่เหลือ จะมีดังต่อไปนี้
แบบ MAJESTY 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 พื้นที่พักผ่อน 1 Pavilion 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 324 ตร.ม.
แบบ SPLENDOUR 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 พื้นที่พักผ่อน 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 332 ตร.ม.
แบบ PRIME 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 พื้นที่พักผ่อน 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม.
แบบ GRANDEUR 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 พื้นที่พักผ่อน 1 Pavilion 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 371 ตร.ม.
แบบ HONOUR 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 พื้นที่พักผ่อน พื้นที่ Double Living 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน โรงจอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 425 ตร.ม.
ราคา โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2
(Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2)
โครงการ เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โครงสร้างเป็น Precast นวัตกรรมแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปจาก Sansiri Precast Factory ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งภายในจะได้เป็นบ้านเปล่า รวมถึงบิวท์อินและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน สำหรับบ้านพักอาศัยมีราคาเริ่มต้น 12-30 ล้านบาท*
ค่าส่วนกลางของโครงการอยู่ที่ 50 บาท/ตร.วา./เดือน
*หมายเหตุ รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ รายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง
SUMMARY
.
ภาพรวมโครงการ
- Setthasiri Krungthep-Pathumthani 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนทำเลปทุมธานี ใกล้กรุงเทพโซนเหนือ
- ตั้งอยู่บนขนาดที่ดินประมาณ 28 ไร่ ทั้งโครงการมีจำนวนเพียง 70 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวเงียบสงบ
- การออกแบบสะท้อนถึงแนวคิดของแบรนด์เศรษฐสิริ “Portrait Of Success ทุกความสำเร็จให้บ้านพูดแทนคุณ” ตัวบ้านและพื้นที่ของโครงการช่วยส่งเสริมความภาคภูมิใจในการครอบครองและเป็นเจ้าของ
- โดดเด่นด้วยทัศนียภาพของวิวสีเขียวขจีจากสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ แปลงที่ดินเป็นรูป Free form ไปตามแนวของที่ดินของสนามกอล์ฟ เปิดมุมมองให้เห็นพื้นที่สีเขียวทั้งในส่วนบ้านพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง
- การออกแบบของโครงการเป็นที่สุดแห่ง Timeless Design เหนือกาลเวลากับสไตล์ Modern Classic โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์
- ส่วนกลางอลังการจัดเต็มทั้งในส่วนของ Clubhouse 2 ชั้น และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ แบบ Panoramic View
- มีแบบบ้านมาให้เลือกถึง 8 แบบ ตั้งแต่พื้นที่ใช้สอยขนาด 200-425 ตารางเมตร พร้อมฟังก์ชันการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ
- สถาปัตยกรรมของตัวบ้านมีความสวยงามเรียบหรูดูแพง ที่คำนึงมาแล้วว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังคงทันสมัย
- ภายในบ้านบิวท์อินและให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาบางส่วน รวมถึงการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาใช้ในโครงการในทุกๆ จุด
.
ทำเล / การเดินทาง
- โครงการตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี ติดกับสนามกอล์ฟ Flora Ville Golf & Country Club โดยเข้าจากถนนหลักมาประมาณ 2-3 กิโลเมตร* แต่เป็นโซนที่มีเฉพาะบ้านพักอาศัย ไม่พลุกพล่าน
- เชื่อมต่อไปยังถนนหลักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถนน 345 ที่ไปยังสะพานปทุมธานี 2 ออกรังสิตได้ อีกเส้นหนึ่งของถนน 345 จะไปเชื่อมสะพานนนทบุรี ไปสนามบินดอนเมืองได้ง่าย และยังไปได้ทั้งถนนกาญจนาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ ที่จะไปเชื่อมต่อได้ทั้งชัยพฤกษ์ และถนนรัตนาธิเบศร์
- ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา ด่านศรีสมาน ที่ขนานไปกับทางยกระดับโทลเวย์ เส้นวิภาวดี – ดอนเมือง ให้สามารถวิ่งเข้าเมืองไปโซนดินแดง พระราม 9 ได้สบายๆ
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งแต่ขนาดเล็กอย่างร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทั้งทางฝั่งปทุมธานีและราชพฤกษ์
- ใกล้สถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้แก่ SISB Nonthaburi, Harrow International School Bangkok, รร.สาธิตปทุม, รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์, รร.นวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี และมหาวิทยาลัยรังสิต
.
เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับคนที่คุ้นชินพื้นที่เดิมโซนนนทบุรีและปทุมธานีที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่
- กลุ่มครอบครัวที่กำลังขยับขยายมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น ต้องการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
- ผู้ที่อยากได้ความเงียบสงบเป็นส่วนตัว
- เหมาะกับคนที่ชื่นชอบทัศนียภาพธรรมชาติสีเขียวขจี อยากได้บ้านเดี่ยวในบรรยากาศพักผ่อน
- กลุ่มนักธุรกิจหรือเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ในพื้นที่รอยต่อของกรุงเทพฯ และจังหวัดปทุมธานี
- คนที่ชอบการตีกอล์ฟ ชอบวิวสนามกอล์ฟ
- สำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านมากกว่า 12 ล้านบาท ขึ้นไป
The post รีวิว เศรษฐสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี 2 ควรค่าแก่การครอบครองด้วยบ้านเดี่ยวหรู งดงามเหนือกาลเวลา พร้อมวิวสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ ที่หาได้ยากยิ่ง appeared first on รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ.