คงจะดีไม่น้อยหากเราได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆ เช้าของวันใหม่ และในทุกๆ พลบค่ำก่อนเข้านอน ให้ชีวิตได้อยู่อาศัยบนความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งมีอยู่โครงการหนึ่งที่ตอบโจทย์ครับ นั่นก็คือ สราญสิริ ศรีวารี 2 (Saransiri Srivaree 2) ซึ่งบอกเลยว่าเป็น First Impression ที่งดงามและตราตรึงมากทีเดียว
เพราะนอกจากบรรยากาศภายในโครงการที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี และได้ดื่มด่ำกับวิวทะเลสาบด้านหน้าแล้ว แม้แต่การออกแบบบ้าน รวมถึงฟังก์ชันและส่วนกลาง ยังมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จากเส้นสายของธรรมชาติอีกด้วยครับ ขณะเดียวกันโครงการ สราญสิริ ศรีวารี 2 ยังคงให้ความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตในเมืองทั้งการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่อุดมสมบูรณ์บนทำเลศักยภาพในโซนลาดกระบังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถ้าใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในบรรยากาศแบบนี้ อ่าน รีวิว สราญสิริ ศรีวารี 2 ได้ในบทความนี้เลยครับ
ข้อมูลโครงการ
สราญสิริ ศรีวารี 2
Saransiri Srivaree 2
ชื่อโครงการ |
สราญสิริ ศรีวารี 2 Saransiri Srivaree 2 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
ที่ตั้งโครงการ | ถ.ทางหลวงชนบทสมุทรปราการ 2001 (ซอยลาดกระบัง 54 และถนนศรีวารีน้อย) ต.ศรีษะจรเข้น้อย อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ |
ขนาดที่ดิน | ประมาณ 83-2-39.70 ไร่ |
ประเภทที่ดิน | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 363 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | 187 ยูนิต |
แบบบ้าน | มีแบบบ้านทั้งหมด 6 แบบ
|
ราคาขายเริ่มต้น |
(ราคา ณ เดือนธันวาคม 2566) |
พิกัดนำทางไปยังโครงการ | คลิกที่นี่ |
เบอร์โทรติดต่อโครงการ | 1685 |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
LOCATION : ทำเลโครงการสราญสิริ ศรีวารี 2
โดดเด่นตั้งแต่การตั้งอยู่ของโครงการ Saransiri Srivaree 2 เพราะอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เปรียบเหมือนกับอาณาจักรของแสนสิริ ซึ่งตัวโครงการนี้จะอยู่บริเวณเดียวกับโครงการ สราญสิริ ศรีวารี ที่เราก็เคยพาไปชมกันมาแล้วครับ โดยต้องการทำให้ที่นี่เป็นเหมือนกับ Srivaree Community จากหนึ่งใน Sansiri Community ที่อยู่บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล นั่นเอง
โดยตัวโครงการสราญสิริ ศรีวารี 2 ที่เรามารีวิวกันในวันนี้จะอยู่ตรงช่วงถนนลาดกระบัง 54 หรือถนนศรีวารีน้อย ซึ่งเส้นนี้จะสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง คือ ฝั่งถนนลาดกระบัง ที่เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 3 กิโลเมตรก็ถึงโครงการ และถนนบางนา-ตราด ช่วง กม.18 ซึ่งจะเข้ามาไกลกว่าหน่อย โดยความสำคัญของถนนทั้งสองนี้ จะช่วยให้เราวิ่งเข้าเมืองไปเส้นสุขุมวิท อ่อนนุช เอกมัย ทองหล่อได้ หรือหากจะออกนอกเมืองก็สะดวกสบายไม่แพ้กันครับ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทางเลือกในการเดินทาง นั่นก็เพราะว่าโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) และถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออก ที่เพิ่มโอกาสในการถึงจุดหมายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นอยู่ตรงที่การใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที* อีกทั้งยังไม่ไกลจาก รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีลาดกระบัง ให้ใช้บริการในวันที่เร่งรีบหรือไม่อยากขับรถได้ครับ


ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียว ซึ่งมีให้เลือกเที่ยวเลือกช้อปทั้งฝั่งบางนา-ตราด และฝั่งลาดกระบัง ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัลวิลเลจ, เมกาบางนา, คิงพาวเวอร์ ศรีวารี, Le Nayasoll, มาร์เก็ต วิลเลจ, ฟู้ดแลนด์ บางนา, โรบินสัน ลาดกระบัง, โลตัส ลาดกระบัง, ตลาดศรีวารี รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ อีกเพียบ


ขณะที่สถานศึกษาเองก็มีครบทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย อย่าง ม.พระจอมเกล้า ลาดกระบัง ม.หัวเฉียว ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ รร.สาธิต นานาชาติ พระจอมเกล้า และ รร.อัสสัมชัญ วิทยาเขต สุวรรณภูมิ ด้านสถานพยาบาลก็มีทั้ง รพ.ลาดกระบัง รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ เป็นต้น
รวมทั้งยังเป็นแหล่งงานทั้งภาคธุรกิจเอกชน และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงาน MK โรงงานสี TOA โรงงาน Yamaha Motor และอีกมากมายที่ตั้งอยู่บริเวณนี้ครับ
The Project
ขอบอกก่อนเลยว่าความรู้สึกแรกที่เมื่อเข้ามา รีวิว สราญสิริ ศรีวารี 2 มีแต่คำว่างดงามมองไปทางไหนก็เพลิดเพลินไปหมด เพราะโครงการสร้างคาแรคเตอร์ชัดเจนตั้งแต่คอนเซ็ปต์ Urban Farmhouse ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในแบบ Road Trip Journey สร้างบรรยากาศร่มรื่นให้ฟีลเหมือนอยู่ยุโรปในทุกๆ วัน
โดยมีจุดให้โฟกัสทุกตารางเมตร เนื่องด้วยมีการออกแบบของ Landscape ที่คิดคำนวณพิถีพิถันมาเป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ เป็นถนนวงเวียนขนาดใหญ่ ที่เกาะกลางนอกจากจะมีต้นไม้แล้วยังเพิ่มไอคอนิกด้วย Sculpture รูปกวาง ยิ่งช่วยสื่อให้เห็นถึงความเป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
ประกอบกับวิวทะเลสาบในรูปแบบ Free From ตกแต่งด้วยน้ำพุ และโอบล้อมด้วยต้นไม้ใบหญ้าหลากหลายนานาพันธุ์ พร้อมดีไซน์ทางเดิน Walk Way ให้มาเดินเล่นหรือออกกำลังกายในยามเช้าและยามเย็นท่ามกลางความเขียวขจี
และอีกจุดที่ไม่อาจละสายตาไปได้อยู่ตรงการออกแบบของ Main Gate ที่เชื่อมต่อไปยัง Clubhouse โดยดีไซน์ผ่านทรงจั่วสลับซับซ้อนกันไป ด้วยอินสไปร์จากทิวภูเขา ทำให้เกิดรูปแบบสถาปัตยกรรมที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ จนเกิดอิมแพ็คตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน
อย่างไรก็ตามความปลอดภัยยังคงเป็นอันดับแรกๆ ที่โครงการให้ความใส่ใจ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสูงจากแสนสิริ ด้วยระบบ LIV-24 ไม่ว่าจะเป็นการแยกช่องทางเข้า-ออกแบบกั้นแยกชัดเจน ระหว่างลูกบ้าน ที่จะใช้ระบบ Pass Tag System และผู้มาเยือน ที่จะมีการบันทึกด้วยระบบ VMS
โดยประตูทางเข้าจะเป็นประตูรั้วแบบ Auto Gate รวมถึงมีระบบป้องกันความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ Digital Fence ระบบรั้วป้องกันผู้บุกรุก Analytic System กล้อง CCTV ตรวจจับในจุดอับสายตา Real Time Guard Tour เจ้าหน้าที่รปภ.เดินตรวจตราทั้งวัน ให้ลูกบ้านมั่นใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Facilities : พื้นที่ส่วนกลาง
ด้านในจะเจอกับ Clubhouse ขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Saran Club ซึ่งมีความน่าสนใจตรงการออกแบบตัวอาคารที่สวยงามดูแกรนด์อย่างมีเอกลักษณ์ทั้ง 2 ด้าน ทำให้มองเห็นวิวแบบพาโนราม่า 360 องศา ทั้งทางที่มองออกไปด้านนอกเห็น Lake View และด้านในที่เป็นวิวสนามหญ้า Open Lawn พื้นที่แห่งความรัก ใจกลางธรรมชาติ
ซึ่งสวนส่วนกลาง Botanic Garden ไม่ได้มีดีแค่ขนาดใหญ่และตรงตามคอนเซ็ปต์เพียงอย่างเดียว แต่โครงการยังใส่ใจไปถึงการเลือกต้นไม้ ดอกไม้ ที่มีการปลูกสลับสับเปลี่ยนของสายพันธุ์ให้มีความหลากหลาย สร้างพื้นที่สีเขียวขจีได้อย่างมีมิติ
โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นหลายโซน ตั้งแต่ทำเป็นทางเดิน และ Jogging Track
ต่อเนื่องไปที่โซน Educational Playground สนามเด็กเล่นเสริมทักษะ ให้ได้สนุกสนานกัน
รวมถึง Dog Park สเปซส่วนตัวสำหรับเจ้าสี่ขาน้องหมาน้องแมว ได้ออกมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ
และ Sport Area พื้นที่ไว้ออกกำลังกายกิจกรรมกลางแจ้ง อีกหนึ่งจุดเอาใจเพื่อคนรักสุขภาพ
แต่ที่เป็นไฮไลต์ของ Facilites ต้องยกให้สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ที่มี 2 โซน คือฝั่งสระว่ายน้ำในร่มของผู้ใหญ่ ขนาดยาวประมาณ 21 เมตร ที่จะได้วิวของทะเลสาบด้านนอก
อีกฝั่งจะเป็นสระเด็ก และมุม Jacuzzi รับทิวทัศน์ของสวนสีเขียวภายในโครงการ
พิเศษไปอีกขั้นกับ Co-Working Space เป็นพื้นที่ต้อนรับแขก และให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นนั่งทำงาน ที่โดดเด่นด้วย Double Volume ที่สูงถึง 8 เมตร และสามารถเทควิวทั้งทะเลสาบและสระว่ายน้ำได้ในระนาบเดียวกัน
ชั้นสองของ Clubhouse คือส่วนของ Fitness ที่จัดสรรอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้ครบครัน แถมยังได้มุมมองของการชมทิวทัศน์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่แน่นอนว่ายังคงมองเห็นทั้งฝั่ง Lake View และทางด้านสวนสีเขียว
โดยก่อนจะพาไปชมบ้านขอแวะปิดท้ายด้วยถนนเมน ที่ออกแบบด้วยการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ตลอดสองข้างทาง ที่พอจะมองภาพในอนาคตออกเลยว่าเมื่อต้นไม้เติบใหญ่ขึ้น จะทำให้ตรงนี้กลายเป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่จะสร้างบรรยากาศร่มรื่นร่มเย็นให้แก่ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติในทุกๆ พื้นที่ภายในโครงการ
HOME TYPE : แบบบ้าน Saransiri Srivaree 2
เติมเต็มความรู้สึกของการอยู่อาศัยด้วยแบบบ้านจาก Saransiri ศรีวารี 2 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ให้ความรู้สึกเหมือนตั้งอยู่ใจกลางธรรมชาติ มีทั้งหมด 363 ยูนิต บนขนาดที่ดิน 83 ไร่ครึ่ง โดยมีแบบบ้านให้เลือกถึง 6 แบบ ดังนี้
- แบบ Gypso บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
- แบบ Buttercup บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนอเนกประสงค์ 1 ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม.
- แบบ Daisy บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน มีห้องนอนล่าง 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนทานอาหารพร้อม Bay Window 1 ส่วนอเนกประสงค์ 1 ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
- แบบ Camelia บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขก 1 ส่วนทานอาหารพร้อม Bay Window 1 ส่วนอเนกประสงค์ 1 ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม.
- แบบ Calendula บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขกพร้อม Double Volume Living 1 ส่วนทานอาหาร 1 ส่วนพักผ่อนชั้นบน 1 ห้องครัวไทย 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
- แบบ Verbena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ส่วนรับแขกพร้อม Double Volume Living 1 ส่วนทานอาหาร 1 ส่วนพักผ่อนชั้นบน 1 ห้องครัวไทย 3 ที่จอดรถ, 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Camelia
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา
บ้านตัวอย่างที่จะรีวิวต่อไปนี้ไม่ใช่ขนาดเริ่มต้น แต่เป็น Type กลางๆ ของโครงการที่ค่อนข้างไปทางใหญ่ครับ โดยออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในของชั้นล่างให้เชื่อมต่อในทุกฟังก์ชัน เพื่อให้ครอบครัวได้ใช้พื้นที่ส่วนรวมร่วมกัน และโดดเด่นด้วยช่องแสงแบบ Bay Window ซึ่งห้องนอนที่ 4 จะอยู่ที่ชั้นล่างด้วย โดย Floor to Ceiling มีความสูงอยู่ที่ 2.7 เมตร

ขณะที่สเปซส่วนตัวจะอยู่ที่ชั้นสองของบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมด 3 ห้องนอน ด้าน Master Bedroom มาพร้อม Walk-in Closet ห้องน้ำ และระเบียง ส่วนอีก 2 ห้องนอนจะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงโถงกลาง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์อีกหนึ่งจุดตรงบริเวณนี้เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ทุกยูนิตของโครงการจะมี Smart Home สัญญาณกันขโมยชนิด Magnetic Sensor เพิ่มความปลอดภัยให้ และมี Motion Sensor ติดตั้งไว้บริเวณโถงบันได รวมถึงติดตั้ง Solar Cell ขนาด 1.8 kW ให้ด้วยครับ
สำหรับแบบบ้านมาในคอนเซ็ปต์ Urban Farmhouse ที่ได้อินสไปร์มาจากบ้านยุโรปสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ แต่มาดัดแปลงให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น เน้นความเรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่สวยงาม ให้ความเป็นโฮมมี่รู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย
โดยออกแบบ Facade ให้เป็นทรงจั่วคล้ายกับ Main Gate และ Clubhouse เพิ่มกิมมิกด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ รวมถึงการทำซุ้มโค้งตรงเฉลียงบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน และเน้นโทนสีขาวเป็นหลักตัดกับสีเทา ซึ่งพอหลอมรวมการดีไซน์ทั้งหมดเข้าด้วยกันทำให้บ้านดูมีมิติเข้ากับทุกยุคทุกสมัย
นอกจากความสวยงามแล้วโครงการยังลงดีเทลไปถึงการเลือกวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาที่ได้ Solar Roof ฉนวนกันความร้อน กระจกเขียวตัดแสงลดทอนความแรงของแสงแดดที่ส่องเข้ามา และยังใช้สีชนิดพิเศษ UV Shield ที่ช่วยสะท้อนความร้อนได้เป็นอย่างดี
บริเวณโรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คันสบายๆ ครับ
หลังจากนั้นจะพบกับ Common Area พื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น
ซึ่งห้องนั่งเล่นจะอยู่มุมข้างบ้านทำให้ได้ช่องแสงแบบจัดเต็ม ทั้งประตูกระจกแบบบานเลื่อนและบานฟิกซ์ รวมถึงได้หน้าต่างทางข้างหลังบ้านอีกด้วย
โดยจัดสรรพื้นที่มาให้กว้างขวาง วางเฟอร์นิเจอร์ไซส์ใหญ่ขนาด 3-4 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบตัวไอและตัวแอล พร้อมบิวท์อินชั้นวางทีวีได้เต็มผนัง ก็ยังเหลือสเปซโล่งๆ พอสมควร
ต่อเนื่องไปที่ห้องกินข้าวซึ่งทางโครงการเลือกวางโต๊ะแบบขนาด 4 ที่นั่ง และแบ่งพื้นที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นตรงริมหน้าต่างฝั่งโรงจอดรถ แต่เราสามารถเลือกปรับเป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งก็ได้เหมือนกันครับ
แต่จุดที่เป็นไฮไลต์และดูน่ารักมากเหมือนอยู่บ้านยุโรปของจริง คือการที่โครงการดีไซน์ Bay Window ทำเป็นฟังก์ชันนั่งเล่นให้มองวิวสวนภายนอกได้อย่างแตกต่างไม่ซ้ำใคร
ติดกันเป็นห้องครัวที่ได้ประตูแบบกระจกบานเลื่อน ซึ่งให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะเลยทีเดียว อีกทั้งโครงการยังบิวท์เคาน์เตอร์ครัวมาให้ทั้งสองฝั่งเรียบร้อย รวมถึงได้ช่องแสงถึง 2 จุด ไว้ระบายอากาศได้ โดยมีประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้าง
ถัดไปเป็นห้องนอนที่ 4 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน สามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานหรือบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุก็ทำเป็นห้องนอนให้พวกท่านได้ครับ
มีห้องน้ำที่อยู่ติดกันให้ใช้งานได้สะดวก จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบครันพร้อมใช้งาน
ขึ้นบันไดมายังชั้น 2 ของบ้าน จะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ ตรงโถงบันได ให้เลือกออกแบบฟังก์ชันได้ตามใจชอบ
ส่วนห้องพักผ่อน Master Bedroom จะเป็นห้องหน้ากว้างที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน โดดเด่นด้วยช่องแสงที่ส่องเข้ามาจากหลายทิศทาง ประกอบกับการได้พื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง
สามารถเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย ฝั่งพักผ่อนเลือกวางได้ทั้งเตียง 6 ฟุต ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานเข้ามุม โดยจะมีประตูออกไปยังระเบียง Outdoor ที่ได้สเปซมาประมาณหนึ่งเลย
อีกฝั่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังและโต๊ะเครื่องแป้งแบบครบเซตเข้าชุด
ห้องน้ำได้พื้นที่มากว้างขวางพอสมควร ได้สุขภัณฑ์ครบทั้งอ่างล้างหน้าฝังกับเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ และฝักบัวอาบน้ำ ที่ทำธรณีกั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน
ถัดมาคือห้องนอนที่อยู่ติดกับ Master Bedroom ซึ่งทางโครงการทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เยอะมีลูกคนเดียว หรือจะทำเป็นห้องนอนสำหรับบ้านไหนที่มีลูก 2 คนก็ได้เช่นเดียวกัน
สุดท้ายของห้องนอนจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ที่สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ แต่ความจริงแล้วด้วยสเปซที่กว้างขวาง จะเลือกวางเตียง 5 ฟุตก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเรียนและตู้เสื้อผ้าได้โดยไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน
โดยทั้งสองห้องนอนนี้จะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงโถงบันได ซึ่งแบ่งการใช้งานทั้งโซนทำธุระส่วนตัวและโซนอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น Calendula
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ 3 คัน
พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา
หลังนี้ที่จะพาไปชมกันมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ปจาก Type ก่อนหน้านี้ครับ ซึ่งยังคงให้ความสำคัญกับสเปซส่วนรวม เพื่อให้ทุกสมาชิกภายในบ้านได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน แต่รูปแบบ Layout การจัดวางของชั้นล่างจะไม่เหมือนกับแบบบ้านที่แล้ว อีกทั้งยังมีความพิเศษตรงที่ได้ Double Volume Loving เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งน่าอยู่อาศัย

ขณะเดียวกันชั้น 2 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง และได้ห้องน้ำในตัวทุกห้อง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัย โดยมีห้องนั่งเล่นที่ชั้นบนเพิ่มอีกหนึ่งจุดตรงบริเวณโถงบันได

ในด้านของสถาปัตยกรรมตัวบ้านยังคงไว้ซึ่งความสวยงามดูทันสมัยในสไตล์ Modern Farmhouse เช่นเดียวกับ Mood & Tone ยังคงมองแล้วสบายตารู้สึกอบอุ่นนิดๆ โฮมมี่หน่อยๆ ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดที่แสดงออกให้เห็นถึงความประณีตได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ Facade ยังมีลักษณะเป็นทรงหน้าจั่วและเน้นโทนสีขาวและสีเทาเป็นหลัก แต่ส่วนตัวที่ชอบสุดๆ อยู่ตรงที่การออกแบบช่องแสงขนาดใหญ่ในแนวดิ่งตั้งแต่พื้นจรดหลังคา ทำให้เห็นถึงความโอ่อ่าที่มองเห็นได้จากภายนอกเลยทีเดียว
โดยพื้นที่โรงจอดรถของบ้าน Type นี้ สามารถจอดได้ถึง 3 คัน และโครงการยังติดตั้ง EV-Charger มาให้ด้วย และอีก Type ที่มีเหมือนกันจะเป็นแบบบ้าน Verbena
ก้าวแรกที่เข้ามาข้างในจะพบกับ Foyer ที่ทำหน้าที่แจกจ่าย ไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน
โดยจะขอพุ่งตรงไปยังจุดที่กระทบสายตามากที่สุด อย่างห้องนั่งเล่น ที่นอกจากได้ความสูงในแนวดิ่งแบบ Double Volume Living ถึง 6 เมตรแล้ว ยังเพิ่มลูกเล่นพิเศษผ่านช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้ให้มาแค่ฝั่งเดียว แต่กลับได้ถึง 2 ฝั่ง!! ให้ความรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมและมองเห็นวิวภายนอกได้แบบสุดสายตา ดูโอ่โถงโปร่งโล่งสบายให้นั่งเล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
ส่วนพื้นที่แนวราบก็ให้มากว้างขวาง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลายรูปทรงได้อย่างอิสระ
และคอนเน็กไปยังห้องรับประทานอาหาร ที่วางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบ ที่สำคัญคือการได้ช่องแสงจากด้านข้างบ้าน ที่เกือบจะเต็มผนังเลยก็ว่าได้
ด้านข้างของห้องนี้จะเป็นห้องครัว ซึ่งได้พื้นที่มามากพอให้บิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอลไซส์ใหญ่ได้สบายๆ แน่นอนว่าโครงการได้บิวท์มาให้สวยงามตามที่เห็นในภาพเลย
อีกฟากหนึ่งของบ้านจะเจอกับห้องนอนที่ 4 ครับ ซึ่งเลือกวางเตียงได้ตั้งแต่ 3.5-5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน
ติดกันเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของทุกสมาชิกภายในบ้าน โดยมีส่วนที่อาบน้ำได้เพื่อรองรับคนที่นอนอยู่ชั้นล่างครับ
เดินขึ้นบันไดมาตรงโถงทางเดิน มีพื้นที่สำหรับทำเป็นโซนนั่งเล่นเพิ่มเติม ซึ่งเปิดโล่งเพื่อให้เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ข้างล่าง และยังได้รับช่องแสงที่ส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง
Master Bedroom จะได้ Layout คล้ายกับบ้านแบบแรกคืออยู่โซนหน้าบ้านและมีขนาดใหญ่ แต่แตกต่างที่การดีไซน์และการวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์
โดยจัดมุมพักผ่อนไว้ที่ฝั่งหนึ่ง วางเตียง 6 ฟุต สตูลปลายเตียง และชั้นวางทีวี ก็ยังมีระยะให้เดินผ่านไปมาได้สบายๆ ซึ่งหน้าต่างฝั่งหนึ่งจะเปิดออกไปยังโซนนั่งเล่นที่เป็น Double Volume Living ช่วยให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติรอบทิศทาง
มองย้อนกลับมาคือ Walk-in Closet ที่แนะนำว่าให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังแบบบ้านตัวอย่าง จะทำให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะขึ้น
เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำที่ได้ทุกอย่างครบตามที่เห็นในภาพเลยครับ
อีกสองห้องนอนที่เหลือจะอยู่โซนหลังบ้าน ซึ่งให้พื้นที่ใช้สอยมาเท่าๆ กัน โดยห้องนอนที่ 2 จัดฟังก์ชันการใช้งานให้ดูว่าสามารถทำเป็นห้องนอนเด็กได้สะดวกสบาย และมีห้องน้ำให้ในตัวอีกต่างหาก
เช่นเดียวกับห้องนอนที่ 3 ที่วางเฟอร์นิเจอร์ของห้องนอนได้แบบครบเซต ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะ ที่มาพร้อมห้องน้ำในตัวครับ
ราคา สราญสิริ ศรีวารี 2 (Saransiri Srivaree 2)
โครงการ Saransiri Srivaree 2 ส่งมอบเป็นบ้านเปล่า ราคาเริ่มต้น 5.79-12 ล้านบาท* สำหรับค่าส่วนกลางคือ 45 บาท/ตร.วา/เดือน และที่สำคัญคือบริการหลังการขาย โดย Plus Property ที่มั่นใจได้ว่าจะดูแลให้ได้มาตรฐานสูงสุด โดยบ้านที่เราพาไปดูครั้งนี้คือแบบ
- แบบ Camelia พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม.
- แบบ Calendula พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตารางวา/เดือน
*หมายเหตุ : ข้อมูลรีวิวเป็นข้อมูลที่ทีมงานรวบรวมมา ณ วันเขียนบทความเท่านั้น โปรดสอบถามรายละเอียดโดยตรงจากโครงการอีกครั้ง
Summary
ภาพรวมโครงการ
- โครงการ Saransiri ศรีวารี 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โซนลาดกระบัง ศรีวารี เชื่อมต่อบางนา-ตราด
- ตัวโครงการมีจำนวนที่พักอาศัยทั้งหมด 363 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 83 ไร่ครึ่ง
- คอนเซ็ปต์โครงการชัดเจน Urban Farmhouse ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในแบบ Road Trip Journey
- โดดเด่นด้วยทะเลสาบขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวธรรมชาติ เพิ่มไอคอนิกด้วย Sculpture รูปกวาง สื่อให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์
- ส่วนกลางครบครัน Clubhouse ขนาดใหญ่ มองวิวได้รอบด้าน 360 องศา และโดดเด่นด้วยสวนสีเขียวขจี รวมถึงมีอุโมงค์ต้นไม้ตรงถนนเมน เพื่อสร้างบรรยากาศให้โครงการมีความร่มรื่น และลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
- แบบบ้านมีให้เลือกถึง 6 แบบ ตั้งแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 130-280 ตร.ม. และขนาดที่ดินตั้งแต่ 50-140 ตร.วา ตอบโจทย์ตั้งแต่ครอบครัวเล็กไปจนถึงครอบครัวใหญ่ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เริ่มเพียง 5.79-12 ลบ.
- โดดเด่นด้วย Bay Window สเปซนั่งเล่นมองวิวสวนภายนอก และ Double Volume Living ที่ให้ความโอ่อ่ารู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
- พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกว้างขวาง จัดวางฟังก์ชันใช้งานส่วนรวมให้มีความยืดหยุ่น ขณะเดียวกันพื้นที่ส่วนตัวก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี
- ติดตั้ง Solar Cell ขนาด 1.8 kW ให้ในทุกยูนิต
- ระบบไฟรองรับการติดตั้ง EV Charger ในทุกแบบบ้าน และทำ Junction Box สำหรับแบบบ้าน 160-280 ตร.ม. เป็นต้นไป
- ระบบรักษาความปลอดภัยให้มาแบบ Full Scale ตามมาตรฐานแสนสิริ อุ่นใจแน่นอน
.
ทำเลและการเดินทาง
- ที่ตั้งโครงการ สราญสิริ ศรีวารี 2 อยู่บนถนนศรีวารีน้อย หรือถนนลาดกระบัง 54
- เข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง คือฝั่งถนนลาดกระบัง ที่เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 3 กิโลเมตรก็ถึงโครงการ และถนนบางนา-ตราด ช่วงกม.18
- อยู่ใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) และถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออก
- ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที*
- อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีลาดกระบัง
- สิ่งอำนวยความสะดวกแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้โครงการมีทั้งเซ็นทรัลวิลเลจ เมกาบางนา คิงพาวเวอร์ ศรีวารี Le Nayasoll มาร์เก็ต วิลเลจ โลตัส ลาดกระบัง ตลาดศรีวารี และอีกมากมายให้ได้เลือกเที่ยวเลือกช้อปกัน
เหมาะกับใคร
- เหมาะกับกลุ่มคนที่กำลังหาบ้านโซนสุวรรณภูมิ แถวลาดกระบัง และย่านศรีวารี
- กลุ่มคนที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิ อย่าง นักบิน สจ๊วต แอร์โฮสเตส และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ทำงานในสนามบิน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับการบินในพื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิ
- คนที่ทำงานในเมืองโซนอ่อนนุช พัฒนาการ ลาดกระบัง และใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก
- กลุ่มที่เริ่มต้นสร้างครอบครัวใหม่ หรือกลุ่มครอบครัวที่กำลังขยับขยาย ที่ต้องการพื้นที่รองรับสมาชิกเพิ่มมากขึ้น
- เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยขั้นสูง และต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีน่าอยู่อาศัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
- คนที่เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ไม่ลืมเรื่องของดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
- พนักงานบริษัทและเจ้าของธุรกิจ ที่มีรายได้ 40,000-100,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
- ผู้ที่มองหาบ้านโดยมีงบประมาณ 6 ล้านบาท ขึ้นไป
The post สราญสิริ ศรีวารี 2 บ้านดีไซน์ Urban Farmhouse ที่ให้ใช้ชีวิตบนพื้นที่แห่งความรัก ใจกลางธรรมชาติ วิวทะเลสาบ โอบล้อมพื้นที่สีเขียวในโซนบางนา – ลาดกระบัง เริ่ม 5.79-12 ล้านบาท* appeared first on รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ.