รีวิว NC Tiwa ปิ่นเกล้า-สาย 5 บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ใน Classic Luxury Collection สะท้อนความเป็นส่วนตัว รองรับครอบครัวขยาย จาก NC Group

หากใครกำลังมองหาบ้านที่มาทางโซนศาลายา พุทธมณฑล และต้องการความเงียบสงบแบบเป็นส่วนตัวอย่างเหนือระดับ ที่สามารถอยู่อาศัยได้ตลอดทั้งการใช้ชีวิต อยากให้ลองแวะไปเยี่ยมชมโครงการ เอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5 (NC Tiwa Pinklao-Sai 5)

เพราะทั้งโครงการมีเพียง 46 ยูนิตเองครับ นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย NC Tiwa Pinklao-Sai 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นสุดหรู จาก NC Group ซึ่งแบรนด์ NC Tiwa นับเป็น Segment บนสุดของ Developer นี้ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงฟังก์ชันจะต้องออกมามีประสิทธิภาพในระดับที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยประทับใจและพร้อมอยู่เคียงข้างไปทุกๆเจเนอเรชั่นของครอบครัว

ข้อมูลโครงการ

เอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5 

NC TIWA Pinklao-Sai 5

LOCATION : ทำเลโครงการเอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5

ต้องบอกก่อนเลยครับว่า พุทธมณฑล นับเป็นโลเคชันที่ NC Group ครองตลาดอยู่พอสมควร มีหลายโครงการที่สร้างขึ้นบนทำเลนี้และได้รับผลตอบรับดีทีเดียว ซึ่ง NC Tiwa ปิ่นเกล้า-สาย5 ก็เป็นหนึ่งในโครงการใหม่ล่าสุดที่ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 5 หรือแถวศาลายา ที่เข้ามาในซอยบางกระทึก 2 หรือถนนดอนหวายไฮเวย์ 3414 ประมาณ 700 เมตรก็ถึงโครงการ ซึ่งซอยนี้สามารถเข้า-ออกได้อีกทางหนึ่งคือซอยบางเตย 2 ที่อยู่ข้างโลตัส ศาลายาครับ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำดอนหวาย สถานที่ขึ้นชื่อของย่านนี้

โดยหากขยายภาพให้กว้างขึ้นจะเห็นว่าโซนพุทธมณฑล จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนมาก ซึ่งก็มีหมู่บ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอย่างถนนบรมราชชนนี ที่พาเข้าเมืองไปทางฝั่งปิ่นเกล้า-ธนบุรี ต่อเนื่องไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนราชพฤกษ์ ถนนสิรินธร รวมถึงถนนเพชรเกษม ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑล สาย 5 ด้วยครับ

แต่การเดินทางยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะตัวโครงการยังอยู่ใกล้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี และทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก นอกจากนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีน้ำเงินเข้ามารองรับการเดินทางที่หลากหลาย ที่แม้ว่าโซนนี้จะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตและน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

เพราะในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิต ก็ถือว่ามีครบถ้วน ถ้าใกล้ที่สุดก็เป็นตลาดน้ำดอนหวาย, โลตัส ศาลายา, เซ็นทรัล ศาลายา, ไชน่าทาวน์ ศาลายา, ฟู้ดแลนด์, ตลาดศาลายา, บิ๊กซี อ้อมใหญ่, ไทวัสดุ, โฮมโปร, แม็คโคร ศาลายา รวมถึงร้านอาหารต่างๆ ที่มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็หาของกินได้สบายๆ

ขณะเดียวกันโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดัง อย่างมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ส่วนโรงเรียนและมหาลัยอื่นๆ ก็มีทั้ง รร.อัสสัมชัญ ธนบุรี รร.สาธิตนานาชาติ ม.มหิดล  รร.อนุบาลเด่นหล้า รร.โยแซฟอุปถัมภ์ มหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์

ส่วนสถานพยาบาลก็มีพร้อมรองรับ เช่น ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก รพ.วิชัยเวชอินเตอร์ รพ.มหาชัย 2 รพ.เมตตาประชารักษ์ รพ.ธนบุรี 2 และรพ.ศาลายา เป็นต้น

The Project

เดินทางเข้ามารีวิวกันต่อภายในโครงการ เอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5 โดยสำหรับที่นี่มีแนวคิดคือ Timeless Memory in Classical Living Story ซึ่งมีการออกแบบดีไซน์ที่สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์อย่าง Classic Luxury Collection ที่ให้ความหรูหราผสมผสานกับความคลาสสิกเรียบง่ายอย่างมีอัตลักษณ์

ตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการที่ใช้โทนสีขาวตัดกับสีดำของหลังคาขนาดใหญ่สร้างความโดดเด่นให้แก่ Main Gate ได้อย่างสวยงาม ทำทางเข้า-ออก และช่องแยกระหว่างลูกบ้านและผู้มาเยือนชัดเจน

โดยระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Double Gate ที่มีทั้งไม้กระดกกั้นและประตูรั้วรางเลื่อนอัตโนมัติ และยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV รวมถึงรปภ.คอยดูแลอารักขาความปลอดภัยตลอดทั้งวันทั้งคืน

Facilities : พื้นที่ส่วนกลาง

โครงการ NC Tiwa Pinklao-Sai 5 สร้างอาณาเขตส่วนกลางขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่ ที่มาพร้อม Clubhouse ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามในสไตล์ Modern Classic ตกแต่งด้วยขอบบัวบวกกับการเลือกใช้โทนสีขาวและสีดำช่วยเพิ่มความหรูหราได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการออกแบบในส่วนของทางลาดสำหรับรถเข็นอีกด้วยครับ

Facilities ที่รอ Welcome เป็นอย่างแรกคือสระว่ายน้ำ ที่แน่นอนว่าแบ่งแยกสระเด็กเอาไว้เรียบร้อย พร้อม Sunbed ด้านข้างสระว่ายน้ำ

ด้านข้างเป็นส่วนอาบน้ำล้างตัวก่อนขึ้น-ลงสระ และห้องน้ำแยกชาย-หญิงครับ

แต่ถ้าหากลูกบ้านอยากต้อนรับแขกที่มาเยือน ด้านใน Clubhouse จะเป็นส่วนของ Lobby และ Co-Working Space ซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ลูกบ้านด้วย Double Volume Space ที่กลมกลืนไปกับการออกแบบในสไตล์โมเดิรน์ ดูโอ่โถงและสวยงามในทุกๆ จุด

ชั้นสองจะเป็น Fitness ครับ แต่ตอนไปถ่ายยังเป็นห้องโล่งๆ ซึ่งสอบถามได้ความว่าเครื่องออกกำลังกายจะครบครันแน่นอน

แต่ที่ขาดไม่ได้คือสวนสีเขียว พื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่นอกจากได้ความร่มรื่นของสีเขียวขจีจากต้นไม้ใบหญ้าแล้ว ยังได้ความสบายตาเพลิดเพลินด้วยการตกแต่งของน้ำพุ

โดยจัดสรรพื้นที่สำหรับ Play Ground สนามเด็กเล่นของเด็กๆ ให้ได้เล่นกันแบบสนุกสนาน

HOME TYPE   : แบบบ้าน NC TIWA Pinklao-Sai 5 

อีกหนึ่งความพิเศษ ที่ทำให้โครงการ NC Tiwa ปิ่นเกล้า-สาย5 น่าสนใจคือการออกแบบบ้าน ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โดยให้ความสำคัญถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ให้มีสเปซของแต่ละครอบครัวได้มากที่สุด เพราะมีเพียง 46 ครอบครัวเท่านั้นครับ โดยอยู่บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ครึ่ง ซึ่งมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้

• แบบ MEDICI บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.

• แบบ LYSIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.

.

แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น LYSIS

4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 3 คัน

พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 76 ตร.วา

.

บ้าน Type นี้เป็นบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ ที่มีจุดเด่นฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายทั้งชั้นล่างและชั้นบนตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งชั้นล่างจะเป็น Common Area เปิดพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกันทั้งหมด ได้ Floor to Ceiling สูง…… เมตร ที่สำคัญอยู่ตรงห้องนอนชั้นล่างที่รองรับผู้สูงอายุตามแนวคิด Elder Care 

ส่วนชั้นบนของบ้านก็จัดฟังก์ชันการพักผ่อนเป็น 3 ห้องนอน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาพร้อม Walk-in Closet ส่วนอีก 2 ห้องนอน ก็ได้ห้องน้ำในตัว นอกจากนี้ที่ชั้น 2 ยังมี Living Room ให้เพิ่มเติม และทุกยูนิตมี Smart Home ที่โครงการติดตั้ง Home Automation มาให้เรียบร้อย

แต่จุดที่อยากให้โฟกัสอยู่ตรงที่การก่อสร้าง ซึ่งเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน หรือ Conventional Process ทำให้ง่ายและสะดวกสบายในการต่อเติมมากยิ่งขึ้น

เห็นแปลนบ้านแล้วมาดูของจริงกันบ้างครับ โดยสถาปัตยกรรมของตัวบ้านยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็น Classic Luxury Collection ออกแบบในสไตล์ Modern Classic ที่ได้อินสไปร์มาจากงานสถาปัตยกรรมยุคโรมันในเรื่องของเส้นสาย บวกกับตัวอาคารของอิตาลี โรม อังกฤษ

โดยเพิ่มความหรูหราด้วย Facade คิ้วบัวสไตล์ย้อนยุคสลับกับความเงาของวัสดุ ซึ่งจะเน้นโทนสีเทาคราม สีเทาเข้ม และสีขาว ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงงานออกแบบที่ดูเรียบง่ายคลาสสิกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวย

ส่วนพื้นที่บริเวณโรงจอดรถในร่ม สามารถจอดได้ 3 คันแบบสบายๆ และยังมีประตูทางเข้าที่สองจากตรงนี้ อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปยังเฉลียงด้านหน้าบ้านอีกด้วยครับ

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะพบกับพื้นที่ในลักษณะตัวแอลแบบ Open Plan ขนาดใหญ่ ซึ่งคอนเน็กฟังก์ชันถึงกันระหว่างห้องรับรองแขก ห้องกินข้าว และห้องพักผ่อน

ห้องรับรองแขกคือส่วนแรกที่เจอโดยจะอยู่ด้านหน้าบ้าน ซึ่งมีสเปซให้วางโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้โดยไม่ทำให้แขกที่มาเยี่ยมหรือผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด

ทั้งนี้ระบบ Home Automation ทางโครงการจะติดไว้ให้ที่ห้องรับรองแขกครับ

ถัดไปเป็นโซน Dining Area นอกจากโดดเด่นด้วยช่องแสงจากทางด้านหลังบ้านแล้ว แม้แต่พื้นที่ใช้สอยก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เลือกวางโต๊ะกินข้าวขนาด 4-6 ที่นั่ง หรือจะแบ่งพื้นที่บิวท์แพนทรี่เป็นครัวฝรั่งก็ได้ตามใจชอบ

แต่จุดที่เป็นไฮไลต์คือ Living Area ที่อยู่ด้านข้างบ้าน มีความพิเศษตรงที่ได้ทั้งหน้าต่างจากหลังบ้าน และประตูที่ออกไปสู่สวนด้านข้างบ้านได้อีกด้วย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นพอสมควร สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างอิสระ

มองย้อนกลับไปจะเป็นห้องครัว ที่ได้เป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งให้พื้นที่มากว้างพอสมควร บิวท์เคาน์เตอร์ครัวทำอาหาร แบ่งสเปซทำเป็นมุมซักผ้า ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือครับ โดยประตูนี้จะออกไปยังซักล้างด้านข้างบ้าน

ติดกันจะเป็นห้องน้ำใต้บันไดให้สุขภัณฑ์ครบทั้งโซนทำธุระส่วนตัวและอาบน้ำ

แต่ชั้นล่างนี้ยังมีดีเทลสำคัญอีกหนึ่งจุดนั่นก็คือห้องนอน ที่ออกแบบเป็น Elder Care รองรับผู้สูงอายุได้อย่างลงตัว

โดยทางโครงการได้ติดตั้งปุ่ม SOS ไว้กดยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะดังส่งสัญญาณเตือนให้สมาชิกภายในบ้านได้รับรู้

ขณะที่ฟังก์ชันใช้งานสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนได้ครบเซต อีกทั้งการวาง Layout ให้อยู่บริเวณหน้าบ้าน จะช่วยให้ได้ช่องแสงรอบทิศทางทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น

มาพร้อมห้องน้ำในตัวที่ยังคงคอนเซ็ปต์รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การดีไซน์ให้ไม่มีสเต็ปธรณีกั้น โดยใช้การฝังรางน้ำเรียบไปกับพื้นแทน รวมถึงมีที่นั่งอาบน้ำ และมีอุปกรณ์มือจับช่วยในการพยุงตัว เพิ่มความปลอดภัยทุกตารางเมตร

ซึ่งหากชั้นล่างออกแบบพื้นที่ส่วนรวมมาได้สมบูรณ์แบบแล้ว บอกเลยครับว่าชั้นบนกับพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนก็ทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว

แต่ขอพาไปดู Family Room ที่อยู่ตรงโถงบันไดที่ให้พื้นที่มากว้างขวางมากพอให้มีหลายฟังก์ชันใช้งาน ทั้งมุมนั่งเล่นและเชื่อมเป็น Working Area ได้ หรือจะกั้นห้องทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน

ยิ่งไปกว่านั้นคือมีระเบียง Outdoor ทำให้ได้ช่องแสงที่ส่องเข้ามาทางประตู รวมถึงการมีหน้าต่างด้านข้างบ้าน ทำให้บริเวณนี้สว่างไสว และเป็นช่องเปิดรับลมให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

มาถึงโซนส่วนตัวห้องแรกที่เป็นห้องนอนใหญ่สุดของบ้าน ที่จะขอเรียกว่า Grand Master Bedroom เพราะมีขนาดกว้างขวางที่วางการใช้งานไว้ได้หลากหลายรูปแบบ

แน่นอนว่าฝั่งหนึ่งเป็นมุมพักผ่อนซึ่งวางเตียง 6 ฟุตได้แบบเหลือเฟือ

แต่นอกจากนี้ยังมีมุม Living Area ที่จัดสรรสเปซให้สามารถวางได้ทั้งโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี ก็ยังมีพื้นที่ว่างแบบรอบด้านเลยทีเดียว

ต่อเนื่องไปที่ Walk-in Closet ที่ทางโครงการกั้นห้องให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งก็ยังมีพื้นที่ให้บิวท์ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไซส์ใหญ่ได้ครับ

ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่แยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ด้วยการลดสเต็ป หรือจะเลือกติดฉากกั้นเพิ่มเติมก็ทำได้เช่นเดียวกัน

ส่วนสองห้องนอนที่เหลือจะอยู่ด้านหลังบ้าน ห้องที่อยู่ติดกับ Grand Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่กว่าอีกห้อง วางเตียง 5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างเพียงพอ

มาพร้อมห้องน้ำในตัว เพื่อสะดวกในการใช้งานของผู้อยู่อาศัย

.

แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น MEDICI

4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน

พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 62 ตร.วา

.

แม้ Type นี้จะมีขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่หากดูพื้นที่ใช้สอยแล้วถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรครับ จัดสรรพื้นที่ชั้นล่างมาได้อย่างพอเหมาะพอดีในทุกการใช้งาน ได้พื้นที่ Open Plan เชื่อมต่อกัน และมีห้องนอนที่ชั้นล่างให้เหมือนกับบ้านหลังแรก

ขณะที่ชั้น 2 ของบ้าน Layout การจัดวางจะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง Master Bedroom พร้อม Walk-in Closet ที่มีพื้นที่กว้างขวาง ส่วนอีก 2 ห้องนอนที่เหลือก็ให้สเปซการอยู่อาศัยแบบเป็นส่วนตัวได้ครบทุกฟังก์ชันการใช้งานและมีห้องน้ำให้ในตัว

ดีไซน์การออกแบบยังคงเป็นสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก ที่มีความหรูหราแต่เรียบง่าย โดยหน้าตา Facade รวมถึงโทนสีจะคล้ายกับแบบบ้านหลังแรกที่พาไปชมครับ โดยตกแต่งด้วยขอบบัวและงานเส้นสาย ที่มาพร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ และเน้นการเลือกใช้สีขาว สีคราม ตัดกับสีเทาเข้ม ทำให้ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูสวยงาม

พื้นที่โรงจอดรถเป็นแบบในร่ม มีประตูทางเข้ารองและเชื่อมกับเฉลียงด้านหน้าบ้านเหมือนกัน แต่แตกต่างตรงที่จอดรถได้ 2 คัน

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Function Area ขนาดใหญ่ ที่เปิดพื้นที่โล่งเชื่อมต่อถึงกันระหว่าง Living Room และ Dining Room

โดดเด่นสะดุดตาด้วยช่องแสงที่ยาวตลอดแนวด้านข้างบ้านไปจนถึงด้านหลังบ้าน ประกอบกับเมื่อรวมกับช่องแสงจากทางประตูด้านหน้าบ้านด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งสบายตามากเลยครับ

ซึ่งโซนแรกที่เห็นจะเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ที่ได้สเปซมามากพอให้วางเฟอร์นิเจอร์ไซส์ใหญ่ และเลือกทีวีแบบ 55 นิ้วขึ้นไป ก็ยังอยู่ในระยะการดูที่ได้มาตรฐาน

เชื่อมต่อไปยัง Dining Room ที่โอบล้อมด้วยช่องแสง โดยจัดฟังก์ชันได้ทั้งส่วนของโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง และบิวท์แพนทรี่ทำเป็นครัวนอกได้ หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นการใช้งานแบบอื่นก็ได้ทั้งนั้น เพราะให้พื้นที่มากว้างขวางเลยทีเดียว

ซึ่งโซนนี้จะมีประตูพาออกไปยังสวนด้านข้าง ที่สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับลมข้างนอก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดในการรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้เป็นอย่างดี

ส่วนประตูกระจกที่เห็นด้านข้างคือห้องครัว บิวท์เคาน์เตอร์และตู้เก็บของรูปตัวไอได้แบบเต็มผนัง โดยมีประตูที่ทะลุออกไปยังโซนซักล้างได้

ก่อนขึ้นไปชั้น 2 จะเจอห้องน้ำใต้บันได ที่จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบครันครับ

ติดกันเป็นห้องนอนชั้นล่าง ที่บ้านไหนมีผู้สูงอายุจะทำเป็นห้องนอนรองรับพวกท่านก็สะดวกสบาย หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ดูดีไม่น้อยเลย

เดินขึ้นไปชั้น 2 ของบ้านกันต่อ ซึ่งจะเป็นห้องนอนแบบเป็นส่วนตัวทั้งหมด เริ่มที่ Master Bedroom ที่ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงท้ายบ้าน ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นมุมพักผ่อนให้วางเตียง 6 ฟุต และมีสเปซเหลือปลายเตียงให้บิวท์ชั้นวางทีวีได้ครับ

อีกทั้งยังมีพื้นที่ด้านข้างให้วางโต๊ะทำงาน หรือโซฟาเดี่ยวให้นั่งเล่นผ่อนคลายก่อนเข้านอน

ด้านในสุดเป็น Walk-in Closet เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ซึ่งพื้นที่ภายในห้องน้ำค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก และให้ทุกอย่างครบตามที่เห็นในภาพ

ออกมาจาก Master Bedroom ทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนที่ 2 จะมีขนาดใหญ่รองลงมาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าบ้าน ซึ่ง Layout ของห้องนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ช่วยให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วน

จบด้วยห้องนอนที่ 3 ซึ่งแม้ว่าจะมีขนาดเล็กสุดของบ้าน แต่ก็ยังมีสเปซมากพอให้วางเตียง 5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้ครบทุกการใช้งานในห้องนอน  ที่สำคัญคือได้ห้องน้ำในตัวโดยไม่ต้องใช้ร่วมกับใครด้วยครับ

ราคา เอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5  (NC TIWA Pinklao-Sai 5) 

โครงการ เอ็นซี ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5 ส่งมอบเป็นบ้านเปล่า แต่มีจุดเด่นตรงที่เป็นการก่อสร้างแบบ Conventional Process ทำให้ต่อเติมได้ง่ายไม่ยุ่งยากเท่าการก่อสร้างแบบอื่นๆ ราคาเริ่มต้น 9-13 ล้านบาท*  โดยบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ  

• แบบ MEDIC พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท*
• แบบ LYSIS พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท*

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 

• ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตารางวา/เดือน

*หมายเหตุ :  ข้อมูลรีวิวเป็นข้อมูลที่ทีมงานรวบรวมมา ณ วันเขียนบทความเท่านั้น  โปรดสอบถามรายละเอียดโดยตรงจากโครงการอีกครั้ง

Summary

.

ภาพรวมโครงการ

• โครงการ NC Tiwa Pinklao-Sai 5 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โซนพุทธมณฑล ศาลายา
• ตัวโครงการมีจำนวนที่พักอาศัยทั้งหมด 46 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ครึ่ง ได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเหนือระดับ
• คอนเซ็ปต์โครงการ Classic Luxury Collection ดีไซน์การออกแบบในสไตล์ Modern Classic 
• ส่วนกลางครบครัน Clubhouse ขนาดใหญ่ ได้ Double Volume Space สร้างความโอ่อ่าให้ส่วนกลาง
• แบบบ้านมีให้เลือก 2 แบบ ตั้งแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 200-255 ตร.ม. และขนาดที่ดินตั้งแต่……. ตร.วา ตอบโจทย์ครอบครัวทุกรูปแบบ
• โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกว้างขวาง เชื่อมต่อถึง 3 ฟังก์ชันใช้งาน ทั้งห้องรับแขก ห้องครัว และห้องพักผ่อน 
• มี Grand Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
• จัดสรร Smart Home & Smart Elder Care Technology

.

ทำเลและการเดินทาง

• ที่ตั้งโครงการ NC Tiwa  ปิ่นเกล้า-สาย 5 บนโลเคชันถนนพุทธมณฑล สาย 5
• อยู่ในซอยบางกระทึก 2 หรือถนนดอนหวายไฮเวย์ 3414 จากถนนพุทธมณฑล สาย 5 เข้ามาประมาณ 700 เมตรก็ถึงโครงการ
• ซอยโครงการนี้สามารถเข้า-ออกได้อีกทางหนึ่งคือซอยบางเตย 2 ที่อยู่ข้างโลตัส ศาลายา
• ทำเลเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอย่างถนนบรมราชชนนี ไปปิ่นเกล้า-ธนบุรี ถนนกาญจนาภิเษก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนราชพฤกษ์ รวมถึงถนนเพชรเกษม ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนพุทธมณฑล สาย 5
• ใกล้ตลาดน้ำดอนหวาย สถานที่ขึ้นชื่อของย่านนี้
• ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดัง คือ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
• แหล่งไลฟ์สไตล์มีล้อมรอบโครงการอย่าง โลตัส ศาลายา, เซ็นทรัล ศาลายา, ไชน่าทาวน์ ศาลายา, ฟู้ดแลนด์, ตลาดศาลายา, บิ๊กซี อ้อมใหญ่, ไทวัสดุ, โฮมโปร, แม็คโคร ศาลายา และอีกมากมาย

เหมาะกับใคร

• ผู้ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่โซนพุทธมณฑลและศาลายา
• คนที่ทำงานอยู่แถวเส้นถนนบรมราชชนนี หรือฝั่งปิ่นเกล้า-ธนบุรี 
• ผู้ที่มีลูกหลานเรียนอยู่มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงเรียนชื่อดังรอบโครงการ
• กลุ่มที่ครอบครัวกำลังขยับขยาย มีจำนวนสมาชิกมากขึ้น และต้องการพื้นที่รองรับขนาดใหญ่
• เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด อยากได้ความเงียบสงบในการอยู่อาศัย
• กลุ่มเจ้าของกิจการย่านนครปฐม กระทุ่มแบน พุทธมณฑล
• พนักงานบริษัทระดับผู้บริหาร CEO มีรายได้ 200,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
• ผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยในระดับราคา 9-13 ล้านบาท