หนึ่งในแผนของความสำเร็จสำหรับใครหลายๆ คน อาจจะมีมากมายหลายสิ่งอย่าง แต่ร้อยทั้งร้อยจะต้องมีคำว่า “บ้าน” เป็นองค์ประกอบหลักของแผนชีวิตกันแทบทั้งนั้น และเพราะแบบนี้ แสนสิริ จึงอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสที่สุดของประสบการณ์การอยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นตัวแทนของความสำเร็จได้ครบทุกมิติ และสามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจตั้งแต่วันที่ได้ครอบครองไปจนถึงอนาคตข้างหน้า ที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ไม่มีที่สิ้นสุด
โครงการ เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ (Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi) เป็นบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic เน้นความร่วมสมัยเรียบหรูของงานสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงามในทุกรายละเอียด สะท้อนแนวคิด Timeless Design ที่ทรงคุณค่าได้อย่างยาวนาน เป็นโครงการที่สิ่งสะท้อนความสำเร็จของเจ้าของบ้าน ตามแนวคิด Portrait Of Success “ทุกความสำเร็จให้บ้านพูดแทนคุณ” ได้เป็นอย่างดี
บรรยายมาขนาดนี้คงจะอยากเห็นของจริงกันแล้วใช่ไหมแต่ขอแอบสปอยล์เล็กน้อยว่า Setthasiri บางนา-สุวรรณภูมิ สวยจนละสายตาไม่ได้ และไม่ใช่แค่นั้นเพราะฟังก์ชันการใช้งาน คือตอบโจทย์ในฉบับที่เข้าใจว่าการใช้ชีวิตอย่างภาคภูมิใจเป็นอย่างไร
ข้อมูลโครงการ
เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ
(Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi)
ชื่อโครงการ |
เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ (Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi) |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
ที่ตั้งโครงการ | ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ |
ขนาดที่ดิน | ประมาณ 53-1-63.25 ไร่ |
ประเภทบ้าน | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 178 ยูนิต |
แบบบ้าน | มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้
|
ขนาดที่ดิน | 50-120 ตร.วา |
ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว | ราคาเริ่ม 12-30 ล้านบาท * |
พิกัดที่ตั้งโครงการ | เปิดแผนที่ด้วย Google Map |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
โทร | 1685 |
LOCATION : ทำเลโครงการ
ต้องขอเล่าก่อนว่าส่วนตัวอยู่คนละฟากกับทำเลที่ตั้งโครงการนี้เลย แต่ก็มารีวิวอยู่บ่อยครั้งทั้งบ้านและคอนโด นั่นก็เพราะว่าบนทำเลโซนบางนา ที่โครงการ เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ เลือกปักหมุดลงไปนั้น เป็นประตูสู่ภาคตะวันออก ที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ EEC และยังเป็นย่านเศรษฐกิจแห่งใหม่ ซึ่งมีความเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดจากการขยายตัวของเมือง ทำให้เกิดการรวมตัวของที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบเป็นจำนวนมาก
โดยถ้าเจาะลึกลงไปอีกนิด ตัวโครงการจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กิ่งแก้ว ซึ่งเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งทางฝั่งถนนบางนา-ตราด ที่สามารถเข้าเมืองผ่านบางนา และวิ่งเส้นสุขุมวิทตรงยาวไปเอกมัย ทองหล่อได้
หรือจะวิ่งอีกเส้นจากถนนกิ่งแก้ว ที่มุ่งหน้าไปทางถนนลาดกระบัง ออกถนนอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 ก็จะพาเข้าเมืองผ่านย่านพระโขนงตรงไปจนถึงอโศกได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้งโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี และไม่ไกลจากทางด่วนบูรพาวิถีอีกด้วย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ
สำหรับรถสาธารณะอาจไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพราะเชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วคงใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลัก แต่เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเดินทางที่สะดวกสบายรอบด้าน โดยทำเลกิ่งแก้ว-บางนา จะมี ARL ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการที่สุด คือสถานีลาดกระบัง ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงแล้ว นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่เปิดให้ใช้บริการในปีนี้เป็นที่เรียบร้อย
แต่ที่จะเน้นเลยคือสิ่งอำนวยความสะดวกด้านแหล่งไลฟ์สไตล์ที่เที่ยวที่ช้อป ไม่ว่าจะเป็น The Paseo Mall, Little Walk ลาดกระบัง, Sky Lane สุวรรณภูมิ, Makro ลาดกระบัง, Market Village, King Power ศรีวารี, Robinson Lifestyle ลาดกระบัง, Central Village และ MEGA & IKEA บางนา รวมถึงยังมี Mega Project อย่าง The Forestias พื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ และ Bangkok Mall ที่จะเปิดให้ใช้บริการในเร็วนี้ๆ คือมีให้เลือกเยอะมาก





ส่วนสถานศึกษาย่านนี้ก็ขึ้นชื่อในการเป็นศูนย์รวมโรงเรียนนานาชาติชื่อดังทั้ง รร.นานาชาติแพน-เอเชีย รร.นานาชาติเวลลิงตัน รร.นานาชาติไทย-จีน รร.นานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวมหาวิทยาลัยอัญสัมชัญ หัวหมาก และม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้า ลาดกระบัง
THE PROJECT
เดินทางมาถึงความเป็นที่สุดของความคุ้มค่าที่สร้างมูลค่าได้แบบไม่รู้จบกับโครงการ Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi ซึ่งให้ความสำคัญตั้งแต่จุดเริ่มต้นอย่างแนวคิดของแบรนด์เศรษฐสิริ Portrait Of Success ภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ อธิบายง่ายๆ คือบ้านเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงความสำเร็จได้ชัดเจนที่สุด หรือทุกความสำเร็จของคุณให้เศรษฐสิริพูดแทน
ซึ่งทุกโครงการของแบรนด์นี้จะมีคอนเซปต์โดยเฉพาะต่างกันออกไป อย่างของ เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ ก็คือ “มั่งคั่งเต็มภาคภูมิ” ที่สะท้อนให้เห็นผ่านการดีไซน์ในสไตล์ Modern Classic สร้างสรรค์ให้เกิดความหรูหราแต่ดูเรียบง่ายอย่างมีระดับ ในทุกดีเทลตั้งแต่แรกเริ่มที่ก้าวเข้ามา ชวนให้เราสัมผัสได้ถึงการออกแบบที่เหนือกาลเวลา สู่นิยามการเป็น Timeless Design ขนานแท้
โครงการเปิดให้เห็นความงดงามตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า ถ้าเราขับรถดูตลอดแนวถนนกิ่งแก้ว จะเห็นว่า เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการบ้านที่ทางเข้าอลังการงานสร้าง ที่สุดบนถนนกิ่งแก้วแล้ว ยิ่งช่วงเช้ามืดหรือหัวค่ำที่โครงการเปิดไฟด้านหน้าก็ยิ่งช่วยส่งเสริมภาพความสง่างามของโครงการมากขึ้นไปอีก
ซึ่งความพิเศษของ Main Gate อยู่ที่การออกแบบประติมากรรมที่เป็นสัญลักษณ์พดด้วง ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลาง ซึ่งนอกจากได้ความสวยงามแล้ว ก็ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์มงคลแอบแฝงอยู่นั่นก็คือ “ความมั่นคง มั่งคั่ง และมั่งมี”
ไม่เพียงเท่านั้นเพราะยังมีความพิเศษซ่อนอยู่อีกชั้น ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีตัว S ถูกสลักไว้บนพดด้วง เพิ่มความมงคลไปอีก 3 ขั้น ทั้งในเรื่องสัญลักษณ์ที่สื่อความเป็นแบรนด์เศรษฐสิริ หรือมองเป็นเลข 8 โดยเกี่ยวเนื่องกับบ้านเลขที่ของโครงการที่ขึ้นต้นด้วย “888” สุดท้ายยังเป็น Symbolic ที่เหมือนกับ Infinity แสดงถึงความไม่หยุดนิ่งของความสำเร็จและความร่ำรวย
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเองก็ให้ความใส่ใจไม่แพ้กัน ด้วยการเพิ่ม Moment Feature จัดน้ำพุขนาดใหญ่ทั้งสองด้าน โดยเลือกใช้สี Plain Tone อย่างสีขาว ดำ และทอง แต่กลับสร้างอิมแพ็คได้อย่างมาก มองแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งนับเป็นการต้อนรับกลับบ้านได้น่าประทับใจอย่างมากทีเดียว นอกจากนั้นเสียงน้ำตกยังช่วยสกรีนเสียงรถราความวุ่นวายจากภายนอกบนถนนกิ่งแก้วออกไปได้เยอะมาก
เรื่องความปลอดภัยเองก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะแสนสิริมีเทคโนโลยี LIV-24 ยกระดับความมั่นใจ 24 ชั่วโมง กับระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคารเต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาฯไทย ไม่ว่าจะเป็น Main Gate ประตัวรั้วอัตโนมัติ ที่แบ่งช่องทางเข้า-ออกชัดเจน ระหว่างฝั่ง Resident ซึ่งจะใช้ระบบ RFID SENSOR อุปกรณ์ติดหน้ารถเข้าออกอัตโนมัติ
และฝั่ง Visitor ที่จะใช้ VMS SYSTEM ระบบบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ รวดเร็วแม่นยำ รวมถึง CCTV-VIDEO ANALYTICS ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และ REAL-TIME GUARD TOUR ตรวจสอบการเดินตรวจของรปภ.แบบเรียลไทม์
FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง
ข้างหน้าว่าสวยแล้วแต่พอเห็นส่วนกลางของ Setthasiri บางนา-สุวรรณภูมิ คือเซอร์ไพรส์เลย!! เป็นส่วนกลางที่ให้ความรู้สึกแบบ Embassy Look ดูยิ่งใหญ่ภูมิฐาน ผ่านดีไซน์ในการวางผังอาคารคลับเฮาส์ให้มีความสมมาตร (Symmetrical Balance) และรายล้อมไปด้วย Landscape ของต้นไม้นานาพันธุ์
โดยตัวอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ออกแบบในสไตล์ Modern Classic เรียบง่ายแต่หรูหรา และเพิ่มมิติด้วยการเล่นระดับของช่องเสา ประตู และหน้าต่าง ซึ่งจะได้ช่องแสงแบบ Full Height โดยเน้นโทนสีขาวตัดกับสีเทาเข้ม เมื่อรวมเข้าด้วยกันทั้งหมดแล้วช่วยบอกเล่าความสง่างามของโครงการได้เป็นอย่างดี
ด้านในอาคารจะสัมผัสได้ถึงความโอ่อ่าโปร่งโล่ง ด้วย Double Volume สูง 7 เมตร และยังได้ช่องแสงที่เข้ามาแทบจะทุกทิศทางอีกด้วย การออกแบบที่ทำให้สเปซภายในของอาคารคลับเฮาส์แบบ Embassy Look ดูเป็นมิตรน่าใช้งานก็คือ การเลือกเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส มีชีวิตชีวา และดูสนุกสนานเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ทางแสนสิรินำมาใช้กับโครงการใน Luxury Segment มากมายหลายโครงการ
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Lobby ที่จัดโซฟารองรับไว้หลากหลายมุม เหมาะสำหรับต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน หรือลูกบ้านจะมานั่งพักผ่อนก็ได้เช่นเดียวกัน
แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็มีอีกหนึ่งจุดนั่งเล่นที่ชั้น 2
หรือหากอยากนั่งทำงานแบบจริงจังหรือมีประชุมสำคัญ ก็มีห้อง Co-Working Space ซึ่งจัดโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งให้ได้ใช้งานกัน
ส่วนห้อง Fitness จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายไว้ให้ครบครัน พร้อมรับชมวิวด้านนอกได้แบบสบายตา
ออกไปดูโซน Outdoor ก็จะพบกับสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8×25 เมตร โดยแบ่งออกเป็นส่วนที่ให้ว่ายออกกำลังกายได้จริง
และแยกสระเด็กที่แยกชัดเจน เพื่อความปลอดภัย
คนที่อยากนั่งแช่น้ำผ่อนคลายความเหนื่อยล้า ก็มีจุด Jacuzzi Seat พร้อมเตียงผ้าใบให้นอนพักริมสระว่ายน้ำชิลล์ๆ หรือสามารถนั่งเฝ้าลูกหลานได้แบบใกล้ชิด
จบด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมและกระจายตัวสอดแทรกอยู่โดยรอบ Clubhouse สร้างการเชื่อมต่อของพื้นที่สีเขียวให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
HOME TYPE : แบบบ้าน เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ “บ้าน” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่องเล่าในครั้งนี้ โดยโครงการ Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi มีบ้านทั้งหมดเพียง 178 ยูนิต บนขนาดที่ดิน 53-1-63.25 ไร่ ทำให้แต่ละครอบครัวจะได้รับความเป็นส่วนตัวสูง
ขณะเดียวกันการออกแบบบ้านยังคงยึดความเป็น Modern Classic ซึ่งได้รับอินสไปร์มาจากต้นศตวรรษที่ 16-19 เน้นความโดดเด่นของศิลปะร่วมสมัย หลอมรวมไปกับความสมัยใหม่ ที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถตอบโจทย์ได้ทุกเจเนอเรชัน สะท้อนแนวคิด Timeless Design ได้อย่างลงตัว ใช้องค์ประกอบเส้นสายที่ดูหนักแน่น มั่นคง และมีความภูมิฐาน มีรายละเอียดของงานออกแบบที่พอเหมาะพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
อีกทั้งโครงการยังพิถีพิถันไปถึงการคัดสรรนวัตกรรมบ้านสีเขียว เพื่อความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประหยัดพลังงานพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Solar Panels บนหลังคา รวมถึงเลือกใช้ Roof Ventilation ฝ้าระบายอากาศและความร้อนเหนือฝ้าชายคา และยังมีอีกมากมาย ที่เดี๋ยวเราจะเล่าตอนพาไปชมบ้านตัวอย่าง แต่บอกเลยว่าคุ้มค่าทุกตารางเมตร ตั้งแต่ภายนอกจรดภายในแน่นอน
โดยโครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ให้ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 204-407 ตารางเมตร บนขนาดที่ดิน 50-120 ตารางวา ซึ่งเราจะพาไปชมถึง 3 แบบด้วยกัน ไว้ให้เป็นตัวเลือกและได้เห็นภาพอย่างชัดเจน
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น GLORY
– – – ความสำเร็จรุ่งโรจน์ในชีวิต – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น …. ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
เริ่มกันที่ขนาดเล็กสุดของโครงการ แต่พื้นที่ใช้สอยไม่เล็กเลย โดยให้ความสำคัญกับสเปซส่วนรวมที่ชั้นล่าง เปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง Living Area และ Dining Area มาพร้อมกับห้องครัวขนาดใหญ่ โดยได้ความสูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.7 เมตร
ขณะที่สเปซส่วนตัวก็จัดสรรมาอย่างลงตัวได้ห้องนอนที่ชั้น 1 ส่วนอีก 3 ห้องจะอยู่ชั้น 2 และห้องน้ำในตัวทุกห้อง โดยชั้นบนจะได้ความสูงของเพดานอยู่ที่ 2.9 เมตร
ซึ่งในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โครงการก็ยังให้ความใส่ใจ สังเกตจากบริเวณหน้าต่างจะมีช่องเพื่อระบายอากาศ หรือเรียกว่า Breeze Panel และติดตั้ง Home EV Charger รวมถึงยังให้ความปลอดภัยโดยติดตั้ง Home Security ระบบสัญญาณกันขโมย พร้อมเชื่อมต่อผ่าน Smart Phone ซึ่งตรงส่วนนี้ทั้งหมดจะได้เหมือนกันทุกยูนิต
ก่อนจะพาชมข้างในบ้านอยากให้ทุกคนได้เห็นการออกแบบบ้านภายนอก ที่มาในคอนเซปต์ Modern Classic ที่มีความโอ่อ่าด้วยดีเทลองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง Facade ด้วยบัวผนัง และเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่แบ่งเฟรมแบบสมมาตร
รวมถึงการดีไซน์ให้ประตูทางเข้าหลักเชื่อมต่อในแนวดิ่งกับระเบียงชั้นบน ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะที่ระเบียงเหล็กดัดก็มีลวดลายคลาสสิก โดยเน้นโทนสีเรียบง่ายอย่างสีขาว ตัดกับสีเทาเข้ม ทำให้ภาพรวมออกมาดูหรูหราสวยงาม
บริเวณโรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน และยังมีประตูทางเข้ารอง เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย
เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่ Open Plan ในแนวยาว โดดเด่นด้วยช่องแสงยาวแทบจะตลอดผนังด้านข้างบ้าน เมื่อรวมกับประตูทางเข้าหน้าบ้านและหลังบ้าน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งน่าอยู่อาศัย
โดยโครงการแต่งบ้านในสไตล์ Eclectic ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นโมเดิร์นและแนววินเทจให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีขนาดกว้างขวาง จึงเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบ
ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหาร วางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง หรือจะขยายเป็น 8 ก็ยังได้
แต่ที่ชอบคือการให้หน้าต่างมาทั้งแบบบานเลื่อนและบานติดตาย เชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านกับพื้นที่สีเขียวข้างบ้านได้กลมกลืน
ติดกันเป็นห้องครัวแบบปิดโดยได้เป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งพื้นที่ภายในมีขนาดใหญ่ ช่วยกันทำอาหาร 2 คนก็ยังไม่รู้สึกอึดอัด
ที่สำคัญคือโครงการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของมาให้อย่างดี โดยที่ไม่ต้องสร้างหรือรื้อทำใหม่เลย
ส่วนห้องนอนชั้นล่าง จะได้วิวทางด้านหลังบ้าน ใครมีผู้สูงอายุห้องนี้คือตอบโจทย์ หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ทั้งนั้น
ติดกันเป็นห้องน้ำ ได้อ่างล้างหน้าฝังกับเคาน์เตอร์ ที่ของจริงก็ได้หน้าบานแบบนี้ พร้อมสุขภัณฑ์ห้องน้ำครบชุด
บริเวณทางขึ้นบันไดได้หน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มาก
ขึ้นมาชั้นสองจะพาไปดู Master Bedroom ให้พื้นที่มากว้างขวางยาวตั้งแต่หน้าไปถึงหลังบ้าน โดยแบ่งออกเป็นฝั่งพักผ่อนส่วนหน้าบ้าน ที่มีประตูเชื่อมออกไปยังระเบียง เลือกวางเตียงคิงไซส์ ชั้นวางทีวีที่ปลายเตียง และยังเหลือสเปซด้านข้างให้วางโซฟาหรือโต๊ะทำงานได้อีกด้วย
ฝั่งด้านในจะเป็น Walk-in Closet แบ่งพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน บิวท์ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังและโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ
เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำได้อ่างล้างหน้าแบบจัดเต็ม รวมถึงกระจกก็ยังเป็นแบบตู้ที่เก็บของด้านในได้อีก แถมโซนอาบน้ำก็ติดฉากกั้นมาให้เรียบร้อย
ห้องนอนถัดมาจะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom ที่เข้ามาแล้วจะเจอกับโซนแต่งตัวก่อนเป็นอันดับแรก
ขณะที่ห้องน้ำจะอยู่บริเวณทางเข้าห้องเช่นเดียวกัน ได้สุขภัณฑ์ครบครันใช้งานได้จริง
ด้านในสามารถวางเตียง 5 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงพอสมควรให้วางโต๊ะนั่งทำการบ้าน โดยไม่รู้สึกคับแคบแต่อย่างใด
อีกหนึ่งห้องนอนจะอยู่ทางหลังบ้าน แต่ลักษณะการวางแปลนจะเหมือนกับห้องนอนก่อนหน้านี้
เข้ามาแล้วจะเจอกับตู้เสื้อผ้าทางซ้ายมือ และห้องน้ำในตัวให้พื้นที่มากว้างขวางประมาณหนึ่ง ทำธุระส่วนตัวได้ชิลล์ๆ
ถัดไปเป็นมุมพักผ่อนที่เลือกวางเตียง 5 ฟุต บิวท์ชั้นวางของตรงปลายเตียงหรือจะปล่อยโล่งก็สบายตาไปอีกแบบ ซึ่งจะเห็นว่าพื้นที่ฝั่งหัวเตียงว่างพอให้วางโต๊ะเรียนได้อีกด้วย
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น MASTERY
– – – ความมีอำนาจปกครอง และการเลือกสิ่งต่างๆ ให้ชีวิต – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 281 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น …. ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
ครอบครัวไหนที่มีสมาชิกในบ้าน 4-5 คน บ้านแบบนี้ถือว่ารองรับได้อย่างเพียงพอ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านที่แบ่งพื้นที่ส่วนรวมและส่วนตัวได้อย่างเหมาะสม ซึ่งลักษณะการออกแบบ Layout จะแตกต่างจากทั่วไป เพราะขยับห้องนอนที่ 4 มาไว้หน้าบ้าน และดันพื้นที่ Living Area และ Dining Area ไปไว้ด้านหลังบ้าน อีกทั้งยังมีห้องแม่บ้านไว้ให้ที่ส่วนของหลังบ้าน
ด้านชั้น 2 ของบ้าน ก็จะมีความแตกต่างจากบ้านก่อนหน้าที่รีวิวไป ที่นอกจากมีพื้นที่พักผ่อนเพิ่มเติมแล้ว การออกแบบห้องนอน นอกจากได้ Master Bedroom ขนาดใหญ่แล้ว ห้องนอนที่ 2 ก็จัดสรรมาให้พอๆ กันเลย เหมาะสำหรับบ้านไหนที่มีลูกคนเดียว และอยากให้เค้าได้พื้นที่ส่วนตัวซึ่งสามารถอยู่ได้ตั้งแต่เด็กจนโต
แน่นอนว่าในส่วนของการออกแบบบ้านไทป์ MASTERY จะมีความคล้ายคลึงกับบ้านแบบแรก ที่ยังคงความเป็นโมเดิร์นคลาสสิกได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพิ่มเติมคือพื้นที่ขนาดจอดรถที่สามารถจอดได้ถึง 3 คัน พร้อมห้องเก็บของสำหรับใช้งานนอกบ้าน
พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอเหมือนกับโถงทางเดินโล่งๆ สร้างความเป็นส่วนตัว ที่ต้องเดินเข้ามาอีกนิดถึงจะพบกับ Common Area ขนาดใหญ่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าว โดยตกแต่งในสไตล์ Mid Century ที่ได้ทั้งความเท่และอบอุ่นในสไตล์เดียว
โซนห้องนั่งเล่นจะอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ยังคงวางโซฟาได้หลายรูปแบบ ติดทีวีไซส์ใหญ่ได้เหมือนเดิม
ข้างๆ จัดเป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งจะเลือกเป็นโต๊ะกลมหรือโต๊ะเหลี่ยม ก็จัดได้ตามใจชอบ
ติดกันเป็นห้องครัวแบบอลังการมาก ให้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวยูทำให้มีพื้นที่ในการทำกับข้าว เตรียมอาหาร และพื้นที่วางของแบบเหลือเฟือ พร้อมหน้าต่างระบายอากาศ อีกทั้งยังเชื่อมไปยังพื้นที่ซักล้าง
มาถึงห้องนอนที่ 4 ซึ่งนอกจากได้พื้นที่กว้างขวางแล้วยังมีห้องน้ำให้ในตัว ทำให้ไม่ต้องออกไปใช้งานข้างนอกร่วมกับสมาชิกคนอื่นภายในบ้าน ถ้าครอบครัวไหนไม่ได้มีผู้สูงอายุก็อาจจะใช้เป็นห้องทำงาน หรือใช้เป็นฟังก์ชันอื่นๆ ได้ตามชอบใจ
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินที่จัดเป็นพื้นที่ Family Area หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆ ก็สามารถทำได้
ต่อเนื่องไปที่ Master Bedroom ที่ยังเป็น Layout หน้ากว้างโดยยาวตั้งแต่หน้าบ้านจรดท้ายบ้าน ซึ่งให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายด้วยประตูระเบียงและหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง
ขณะที่พื้นที่ใช้สอยก็มีความยืดหยุ่นในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ วางได้ครบทั้งเตียงคิงไซส์ โต๊ะหัวเตียง ชั้นวางทีวี โต๊ะทำงาน หรือโซฟา รับรองว่าไม่อึดอัดแน่นอน
เขยิบเข้าไปด้านในจะเป็น Walk-in Closet สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังสุดเพดาน และยังมีพื้นที่มากพอให้เพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปอีกชุด
แต่ที่เป็นไฮไลต์คือห้องน้ำ ใครชอบใช้เวลาในห้องน้ำเป็นเวลานานบอกได้คำเดียวว่านี่คือสวรรค์เลย เพราะนอกจากขนาดใหญ่แล้ว อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ใช้งานคือมาแบบ Full Option ทั้งอ่างล้างหน้าแบบ His&Her พื้นที่แยกส่วนอาบน้ำชัดเจนด้วยฉากกั้น และยังได้ Bathtub ลอยตัว ให้นอนแช่น้ำผ่อนคลายแบบฟินๆ
ความพิเศษของชั้นบนยังไม่หมดเพียงเท่านี้ จะพาไปดูห้องนอนที่มีขนาดพอๆ กันกับ Master Bedroom ที่อยู่โซนหน้าบ้าน
ด้วยพื้นที่กว้างขวางเลือกวางเตียง 6 ฟุตก็ยังได้ หรือจะปรับเป็น 5 ฟุต ก็ยิ่งทำให้มีสเปซโล่งมากยิ่งขึ้น
แถมแบ่งพื้นที่ทำเป็น Walk-in Closet ก็ยังได้ อีกทั้งยังได้ช่องแสงอีกหนึ่งจุดบริเวณนี้คือลงตัวเลย
และห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนห้องนอนสุดท้ายก็ให้สเปซมาไม่เล็กเลย เพราะสามารถวางเตียง 5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้แบบครบเซต
มาพร้อมห้องน้ำในตัว ที่จัดมาให้ได้ไซส์มาตรฐานและใช้งานได้จริง
แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น MAJESTY
– – – ความมีอำนาจในการเลือกและกำหนดสิ่งต่างๆ ในชีวิต – – –
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 319 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น …. ตร.วา
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
1 พื้นที่พักผ่อน 1 พื้นที่เตรียมอาหาร 1 ห้องแม่บ้าน 1 ลานซักล้าง 3 ที่จอดรถ
ปิดท้ายกันด้วยความพิเศษของบ้าน MAJESTY ได้บ้านหน้ากว้างมีทางเข้า-ออกสองทาง พื้นที่ใช้สอยภายใน โดดเด่นด้วยโถงบันไดแบบ Double Volume ขณะที่ส่วนของนั่งเล่นและรับประทานอาหารแม้จะเป็นแบบ Open Plan แต่ก็ดูเป็นสัดเป็นส่วน

ชั้นสองจะมีการวางแปลนห้องนอนแตกต่างไปจาก 2 แบบแรก แต่มีห้องน้ำในตัวทุกห้องเหมือนกัน และได้ส่วนของ Family Area ตรงโถงบันได ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่อยู่กัน 5-6 คนได้อย่างมีความสุข

สะดุดตาตั้งแต่การออกแบบของตัวบ้านภายนอก ที่แม้ว่าจะยังคงอยู่ในธีม Modern Classic แต่รูปลักษณ์แตกต่างจากบ้านที่เคยรีวิวไปก่อนหน้า คือมีความสวยงามยิ่งใหญ่อลังการมากขึ้น
โดย Facade ได้เรื่องของช่องแสงให้หน้าต่างมาแบบเต็มพื้นที่หน้าบ้าน โดดเด่นด้วยประตูทางเข้าหลักที่อยู่ตรงกลางบ้าน และมีช่องแสงแบบ Full Height ตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน ให้ความรู้สึกโอ่อ่าเรียบง่ายแต่หรูหราอย่างแท้จริง
โดยพื้นที่ใช้สอยภายในของบ้านตัวอย่าง แต่งออกมาในสไตล์ Rustic เป็นการผสมผสานระหว่างวินเทจ และความเป็น Netural ที่เลือกใช้โทนสีธรรมชาติ
เมื่อเข้ามาข้างในหลังนี้สิ่งที่สัมผัสได้เป็นอย่างแรกคือความโอ่โถงตรงบริเวณทางเข้าซึ่งอยู่ติดกับบันได ด้วยการดีไซน์สเปซในแนวดิ่งแบบ Double Volume บวกกับช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้น่าอยู่อาศัยแบบทวีคูณ
และที่ดูแตกต่างไม่ซ้ำใครอยู่ตรงที่เราจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่งที่เป็นส่วนของ Dining Area และพื้นที่เตรียมอาหารก่อนห้องนั่งเล่น ซึ่งมีพื้นที่เหลือมากพอให้บิวท์เป็นตู้เก็บของเต็มผนังด้านข้างเพิ่มเติมได้
ซึ่งพื้นที่ตรงส่วนกินข้าวยังเชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าบ้าน ที่แม้ว่าจะเป็นสเปซแบบ Open Plan แต่ด้วยการออกแบบทำให้ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น
เดินย้อนกลับไปตรงพื้นที่เตรียมอาหารจะมีห้องครัวอยู่ด้านหลัง ที่โครงการบิวท์เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวไอมาให้สองฝั่ง ซึ่งห้องนี้จะมีประตูเชื่อมไปยังพื้นที่ซักล้างในร่มได้อีกด้วย
อย่างห้องนอนชั้นล่างก็มีห้องน้ำให้เช่นเดียวกัน แถมยังเหลือสเปซส่วนพักผ่อนมาให้กว้างขวางพอสมควร เหมาะแก่การทำเป็นห้องผู้สูงอายุ หรือไว้รับรองญาติและเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมเยียน
ห้องน้ำชั้นล่างออกแบบมารองรับผู้สูงอายุ บริเวณอาบน้ำมีที่นั่งให้ ใช้งานสะดวกสบาย
พาเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 กันต่อ
บริเวณโถงชั้น 2 จะพบกับพื้นที่พักผ่อนหรือ Family Area เผื่อวันไหนมีแขกของคนในบ้านมาหา สมาชิกที่เหลือก็จะได้มีอีกหนึ่งพื้นที่ไว้นั่งผ่อนคลายร่วมกัน
ด้าน Master Bedroom ยังคงน่าประทับใจเหมือนเดิมซึ่ง Layout การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็จะคล้ายกับบ้านที่เราพาไปดูข้างต้น
ห้องนอนถัดมาจะอยู่ด้านหลังบ้าน แบ่งฟังก์ชันใช้งานระหว่างพื้นที่พักผ่อน และ Walk-in Closet ได้อย่างพอเหมาะพอดี พร้อมห้องน้ำในตัว
สเปซห้องนอนทุกห้องจะมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet เป็นสัดส่วน เดินเข้าใช้สอยพื้นที่ภายในห้องน้ำได้สะดวกสบาย
ราคาโครงการเศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ
(Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi)
เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ มาในรูปแบบโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โดยโครงสร้างเป็น Precast นวัตกรรมแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปจาก Sansiri Precast Factory ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งภายในจะได้เป็นบ้านเปล่า แต่ว่าจะได้บิวท์อินอย่างเคาน์เตอร์ครัว ส่วนอื่นๆ แนะนำให้สอบถามทางเซลล์ประจำโครงการอีกที สำหรับบ้านพักอาศัยมีราคาเริ่มต้น 12-30 ล้านบาท*
ค่าส่วนกลางของโครงการอยู่ที่ 35 บาท/ตร.วา./เดือน
*หมายเหตุ รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ รายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง
SUMMARY
.
ภาพรวมโครงการ
- Setthasiri Bangna-Suvarnabhumi เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น บนทำเลกิ่งแก้ว-บางนา
- ตั้งอยู่บนขนาดที่ดินประมาณ 53 ไร่ ทั้งโครงการมีจำนวนเพียง 178 ยูนิต
- มีแนวคิดความเป็นแบรนด์เศรษฐสิริ “Portrait Of Success ทุกความสำเร็จให้บ้านพูดแทนคุณ” ออกแบบเพื่อสะท้อนความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ สะท้อนความมั่งคั่งเต็มภาคภูมิ
- ออกแบบในสไตล์ Modern Classic เน้นสถาปัตยกรรมที่มีความเรียบง่ายแต่หรูหรา สะท้อนแนวคิดของ Timeless Design ได้อย่างลงตัว
- ดีไซน์ทางเข้าได้อย่างสง่างามมีความ Grand ที่สุดในย่านนี้ ผ่านประติมากรรมที่เป็นสัญลักษณ์พดด้วง
- ส่วนกลางให้มาครบครันสมบูรณ์แบบทั้งส่วนของ Clubhouse 2 ชั้น รวมถึงโซน Outdoor และพื้นที่สีเขียวที่ล้อมรอบขนาดใหญ่
- มีแบบบ้านมาให้เลือกถึง 5 แบบ ตั้งแต่พื้นที่ใช้สอยขนาด 204-407 ตารางเมตร พร้อมฟังก์ชันการใช้งานรวมถึงพื้นที่ใช้สอยทั้งแบบส่วนร่วมและส่วนตัวที่ตอบโจทย์ได้ทุกเจเนอเรชัน
- สถาปัตยกรรมของตัวบ้านมีความโอ่อ่าสวยงาม ให้ความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
- คัดสรรนวัตกรรมบ้านสีเขียว เพื่อความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประหยัดพลังงานพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทำเล / การเดินทาง
- โครงการตั้งอยู่บนถนนใหญ่กิ่งแก้ว เป็นประตูสู่ภาคตะวันออก ที่เชื่อมต่อกรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ EEC
- เชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญได้หลายสาย เช่น ถนนบางนา-ตราด ถนนลาดกระบัง ออกถนนอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 และถนนกาญจนาภิเษก
- ใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี และไม่ไกลจากทางด่วนบูรพาวิถีอีกด้วย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออยู่ในรัศมีสนามบินสุวรรณภูมิ
- ใกล้ ARL ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการที่สุด คือสถานีลาดกระบัง ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึงแล้ว นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจะที่เที่ยวที่กินหรือที่ช้อปก็มีรองรับครบทุกความต้องการ
- ใกล้สถานศึกษาโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้แก่ รร.นานาชาติแพน-เอเชีย รร.นานาชาติเวลลิงตัน รร.นานาชาจิไทย-จีน รร.นานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ เป็นต้น
เหมาะกับใคร?
- กลุ่มที่คุ้นเคยกับทำเลเดิมย่านบางนา-ตราด
- เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในเมืองอย่างเอกมัย ทองหล่อ อ่อนนุช หรือพระราม 9 ที่ต้องการบ้านหลังใหญ่ที่เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก
- ผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัวหรือนักลงทุน
- กลุ่มครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านที่ได้ทั้งความสวยงามอลังการและอยู่อาศัยได้จริง
- คนที่มีสมาชิกในครอบครัวหลายช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน
- สำหรับคนที่มีฐานรายได้ 200,000 บาท/เดือน ขึ้นไป
The post เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ ที่สุดแห่งความสำเร็จในการเป็นเจ้าของได้อย่างเต็มภาคภูมิ สู่การเป็นมรดกอันเลอค่าที่ส่งต่อได้แบบมั่งคั่งและยั่งยืน appeared first on รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ.