สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชมคอนโด The Base Garden-Rama 9 เป็นคอนโด High-rise สูง 36 ชั้น ตัวใหม่ล่าสุดในแบรนด์ The Base จากแสนสิริค่ะ คอนโดเดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 นี้ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้กับแยกรามคำแหงค่ะ ตัวที่ตั้งโครงการห่างจากรถไฟฟ้า Airport Rail link สถานีรามคำแหง ซึ่งในอนาคตบริเวณถนนรามคำแหงจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านด้วย สถานีที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงเดอะ มอลล์ รามคําแหงค่ะ
คอนโด The Base Garden-พระราม 9 จะเปิด Pre Sale ในวันนี้ 10-11 ก.ย. 59 นี้ ตัวสำนักขายโครงการนั้นก็เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างแล้วค่ะ เราเลยไปเก็บข้อมูลรายละเอียดมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ
ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ
The Base Garden-Rama 9
(เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9)
- เจ้าของโครงการ >>> Sansiri ร่วมทุนกับ BTS ภายใต้ชื่อ Sansiri BTS Holding Seven
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนพระราม 9
- ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 3 ไร่
- จำนวนชั้น >>> 36 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน ขนาด 26.50 – 34.75 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน ขนาด 49.75 – 55 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 639 ยูนิต และ ร้านค้า 1 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> ประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.19 ล้านบาท (ณ วันที่เปิดตัว)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ประมาณ 99,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.746589, 100.605987
- เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
- โทร >>>1685
คอนโด The Base การ์เด้น-พระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 ซึ่งวิ่งคู่ขนานไปกับทางพิเศษศรีรัช ใกล้กับแยกรามคำแหง ที่ตัดเข้าถนนรามคำแหงค่ะ บริเวณรอบๆ นั้นในส่วนของถนนรามคำแหง นอกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงและสนามราชมังคลากีฬาสถานแล้ว ก็จะมีห้างศูนย์การค้าอย่าง เดอะ มอลล์ รามคำแหง ซึ่งบนถนนรามคำแหงในอนาคตจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มด้ วยนอกจากนี้ก็ยังมีบิ๊กซีและฟู้ดแลนด์ ส่วนถ้าไปตามเส้นพระราม 9 ถ้าออกไปทางตะวันออก ซึ่งเป็นทางออกนอกเมือง ก็จะมีตลาดเสรีมาร์เก็ต และ เดอะไนน์ พระราม 9 ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ค่ะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ใกล้ที่สุดในปัจจุบันจะเป็น Airport Rail Link รามคำแหงที่อยู่ห่างไปประมาณ 700 เมตร ห่างจากสถานีมักกะสันที่เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT ใต้ดินสถานีเพชรบุรีอยู่ 1 สถานีค่ะ
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
วันนี้เราเดินทางไป เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 ด้วย Airport Rail Link ค่ะ ลงสถานีรามคำแหง แล้วสามารถเดินผ่านคอมมูนิตี้มอลล์ Nasa street ที่เดิมที่ชื่อว่า A-Link Square ค่ะ จากตัวสถานีจะมีทางเชื่อมไปฝั่งตรงข้ามลงหน้าโรงแรม Nasa Vegas เดินย้อนศรกับทางรถวิ่งไปตามถนนรามคำแหง จนถึงแยกรามคำแหงก็เดินเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 เลยค่ะ ตัวโครงการอยู่ห่างจาก ARL รามคำแหงไป 700 เมตร ซึ่งถ้าไม่อยากเดิน ตรงตัวสถานีเลยก็มีพี่วินมอไซค์และ Taxi จอดอยู่ค่ะ
The Base Garden-Rama 9 จะอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้แยกรามคำแหง มีทางพิเศษศรีรัชและสะพานยกระดับพาดผ่านด้านหน้าโครงการ และมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์พาดเหนือถนนไปอีกด้าน หากไปตามถนนพระราม 9 ฝั่งขาออกนอกเมือง จะไปถนนศรีนครินทร์ บริเวณนั้นจะมีตลาดเสรีมาร์เก็ต และ เดอะไนน์ พระราม 9 ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังตรงไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ และสามารถขึ้นทางด่วนศรีรัช, มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี หรือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้สบายๆ
บริเวณที่ตั้งโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น และที่โล่งค่ะ ติดกับโครงการมีมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ ส่วนอีกด้านจะเป็นโชว์รูมรถปอร์เช่ ตรงบริเวณพระราม 9 ซอย 36 จะเป็นที่ตั้งของสภาสถาปนิก (หมายเลข 2) ตรงแยกรามคำแหงฝั่งตรงข้ามเฉียงกับบริเวณที่ตั้งโครงการจะมีโครงการ The Base พระราม 9 (หมายเลข 1) คอนโดรุ่นพี่แบรนด์เดียวกันตั้งอยู่ค่ะ เลยไปอีกนิดมีคอนโด Low-rise อย่าง D condo รามคำแหง จากแสนสิริเช่นกัน เส้นรามคำแหงนี้จะเป็นเขตชุมชนที่มีความคึกคัก เพราะมี มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมถึงสนามราชมังคลากีฬาสถานค่ะ นอกจากนั้นก็มีทั้ง Food Land รามคำแหง, The Mall รามคำแหง, Major Cineplex รามคำแหง, Major Hollywood และ Huamark Town Center ที่เป็นที่ตั้งของบิ๊กซีด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์นับว่าสะดวก แต่ถ้าหากต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะแล้ว สามารถใช้ Airport Rail Link สถานีรามคำแหง เข้าตัวเมืองไปต่อ MRT เพชรบุรี, BTS พญาไท ได้ หรือไปทางสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวก ซึ่งตัวสถานีอยู่บริเวณถนนรามคำแหง ห่างไปประมาณ 700 เมตรค่ะ บริเวณถนนรามคำแหง ฝั่งที่จะไปแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ใกล้กับคลองเขมรจะมีโรงแรมอัล มีรอซ (Al Meroz Hotel Bangkok) (หมายเลข 4) ส่วนคอนโดอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกเดียวกันจะมี Fuse Mobius รามคำแหง (หมายเลข 5) อยู่ในซอยรามคำแหง 3/1 และ Plum condo รามคำแหง สเตชั่น (หมายเลข 6) นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของการไฟฟ้านครหลวง บางกะปิ (หมายเลข 7) อีกด้วยค่ะ
จากโครงการไม่ไกลก็ถึงตัว Airport Rail Link รามคำแหงแล้วค่ะ ติดกับตัวสถานีเลยจะเป็น Nasa street หรือชื่อเดิมคือ A-Link Square (หมายเลข 9) เป็น community mall มีทางเชื่อมไป Nasa Vegas Hotel (หมายเลข 8) อีกด้านนึงของ ARL สถานีรามคำแหง จะมีอาคารจอดรถให้ด้วย สามารถไปขึ้นท่าเรือราม 1 ได้ นอกจากมียังมี Nasa Vegas Service Apartment (หมายเลข 10) และ โรงผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามโครงการฝั่งถนนกำแพงเพชร 7 พอดี พอเลยไปถึงแยกที่ตัดกับถนนเพชรบุรี และถนนพัฒนาการ ก็จะเข้าสู่ถนนสุขุมวิท 71 สามารถไปออก BTS พระโขนงได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปรอบๆ พื้นที่ใกล้กับสำนักงานคอนโด The Base Garden-พระราม 9 กันเลยค่ะ

เริ่มจากบรรยากาศทางเท้าด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ ค่อนข้างกว้าง เดินสบายๆ ด้านหน้าโครงการ ประมาณ 30 เมตร ที่เห็นมีตอม่อทางด่วนอยู่จะเป็นพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยค่ะ ซึ่งทางโครงการทำเป็นสวนด้านหน้าโครงการไว้ให้เลย

ถนนพระราม 9 ด้านหน้าโครงการเป็นฝั่งขาเข้าเมืองค่ะ ถ้ามาจากในเมืองต้องไปกลับรถก่อน ซึ่งที่กลับรถก็อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการค่ะ

911 Assistant เป็นโชว์รูม Porsche อยู่ติดด้านข้างโครงการ

มัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ ด้านข้างโครงการเช่นกัน

ที่กลับรถจะอยู่ใกล้ๆ กับมัสยิดค่ะ เวลาออกจากโครงการจะกระชั้นอยู่พอควร

บ้านพักอาศัยบริเวณพระราม 9 ซอย 32

พระราม 9 ซอย 34 ก็เป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้นค่ะ

สภาสถาปนิก อยู่ตรงพระราม 9 ซอย 36

ถนนพระราม 9 บริเวณด้านหน้าที่ตั้งโครงการ ถ้ามาจากแยกพระราม 9 วิ่งขึ้นทางยกระดับจะเลยตัวโครงการค่ะ ต้องไปกลับรถอีกจุด เลยสภาสถาปนิกไปนิดหน่อย ถ้าขึ้นสะพานมาบางทีก็น่าจะสะดวกกว่า เพราะไม่ได้รอรถติดแยกรามคำแหงค่ะ

ตลาดเสรีมาร์เก็ต และ เดอะไนน์ พระราม 9
มาดูบริเวณถนนรามคำแหงกันต่อค่ะ

จากถนนพระราม 9 ด้านหน้าโครงการ เลี้ยวเข้าถนนรามคำแหง ห่างไป 80 เมตร

บริเวณแยกรามคำแหง ที่มีทั้งสะพานยกระดับและทางด่วน ซ้อนทับกันอยู่หลายชั้น

ทางม้าลายข้ามไปถนนพระราม 9 ฝั่งตรงข้าม

ถนนพระราม 9 ฝั่งขาออกค่ะ ด้านนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์และที่โล่ง

อาคารพาณิชย์หัวมุมถนนพระราม 9 ตัดกับถนนรามคำแหง ตอนนี้เปิดเป็นคลินิค

The BASE พระราม 9-รามคำแหง สูง 35 ชั้น สร้างเสร็จไปปี 2557

ถนนรามคำแหงฝั่งมุ่งหน้าไป Airport Link ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็เข้าถนนพระราม 9 ค่ะ

Food Land รามคำแหง

จุดลงทางยกระดับบริเวณถนนรามคำแหงค่ะ

The Mall รามคำแหง มีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนเลยค่ะ ในอนาคตบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของตัวสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มด้วย

The Mall รามคำแหง อีกฝั่ง

ทางยกระดับอีกจุดบนถนนรามคำแหง

Major Cineplex รามคำแหง

หัวหมาก ทาวน์เซ็นเตอร์ ด้านในมี บิ๊กซี

เมเจอร์ ฮอลลีวูด รามคำแหง

มหาวิทยาลัยรามคำแหง

สนามราชมังคลากีฬาสถานแห่งชาติ และ อินดอร์สเตเดี่ยมหัวหมาก

ซอยรามคำแหง 24 ออกไปถนนพระราม 9 ได้
มาดูบริเวณถนนรามคำแหง ฝั่งที่จะไปตัวสถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link รามคำแหงกันต่อค่ะ

เริ่มจากบริเวณสะพานข้ามคลองเขมร

คลองเขมรที่อยู่เกือบจะติดกับด้านหลังโครงการ

ซอยรามคำแหง 4/1 ใกล้กับแยกรามคำแหง

ด้านในจะเป็นตึกแถวค่ะ อยู่ติดคลอง

ตึกแถวขนานไปกับถนนรามคำแหง

โชว์รูมฟอร์ด

โรงแรมอัล มีรอช ( Al Meroz Hotel ) อยู่หน้าปากซอยรามคำแหง 5

Fuse Mobius รามคำแหง

ปั๊มน้ำมันปตท. และมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย

สำนักงานขาย Plumcondo Ramkamhaeng Station

ปากรามคำแหงซอย 1 ค่ะ มีตึกแถวสูง 4 ชั้นอยู่ด้านหน้า ในซอยจะเป็นสมาคมตระกูลหวาง (อึ้ง) แห่งประเทศไทย

อาคารสำนักงานของการไฟฟ้านครหลวง บางกะปิ

สะพานลอยอยู่ด้านหน้าการไฟฟ้า

โรงแรมนาซ่าเวกัส

ถนนรามคำแหงบริเวณใกล้กับตัวสถานีรถไฟ

รางรถไฟธรรมดาวิ่งขนานไปกับ Airport Rail Link

คอนโดนาซ่าเวกัสค่ะ สีอาคารเหมือนกับโรงแรม นาซ่า เวกัส เลย แต่อยู่คนละฝั่งของรางรถไฟ

Nasa Street ติดรถไฟฟ้า มีร้าน Starbucks Coffee, Subway, 7-Eleven, ธนาคารธนชาต, ร้านทำฟัน, ร้านขายเสื้อผ้า, ร้านกาแฟชาวดอย

Sky walk จากตัวคอมมูนิตี้มอลล์ไปยังโรงแรมค่ะ ถ้าจะเดินไปคอนโดก็ข้ามไปฝั่งโรงแรมจะสะดวกกว่า แต่ถ้าไม่อยากเดิน ใต้สถานีรามคำแหงจะมีพี่วินมอเตอร์ไซต์อยู่ทางขวามือด้วย

ทางขึ้นสถานีรามคำแหง

จาก Sky walk ตรงสถานีมองไปถนนรามคำแหงฝั่งทางแยกคลองตันค่ะ อาคารสีเหลืองอ่อนทางซ้ายคือ Nasa Vegas Condominium ส่วนอาคารขวามือกระจกสีน้ำเงินคืออาคารสำนักงาน UM Tower และคอนโดตรงกลางที่อยู่ไกลๆ คือ โครงการ U Delight พัฒนาการ-ทองหล่อ

จบด้วยวิวถนนฝั่งไปแยกรามคำแหงกัน หมู่คอนโดสูงตรงกลางภาพนั้นคือคอนโด Fuse Mobius รามคำแหงค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่ดูภายในสำนักงานคอนโด The Base Garden-Rama 9 กันก่อนเลยค่ะ
เริ่มจากทางเท้าด้านหน้าของสำนักงานและที่ตั้งโครงการกันก่อนค่ะ
ทางเข้าออกรถยนต์ของสำนักงานขายค่ะ ซึ่งตำแหน่งทางเข้าออกจริงๆ ของโครงการก็อยู่ประมาณนี้เลยค่ะ
ป้ายโครงการ THE BASE สีทองตัดขาว ดูหรูหรา
สวนด้านหน้าก่อนถึงสำนักงานขายค่ะ ซึ่งตัวสำนักขายนั้น พอโครงการเสร็จจะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นฟิตเนสค่ะ
ทางเดินเท้าเข้าตัวสำนักงานขายค่ะ ส่วนด้านหลังจะเป็นที่จอดรถสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมสำนักงานขายค่ะ
สวนด้านหน้าที่ทางโครงการจัดไว้ให้ ขนาด 30 เมตร เป็นที่ดินของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งในอนาคตกทม จะเป็นคนดูแล พอโครงการเสร็จจะกั้นรั้วโครงการแยกไว้ค่ะ
ด้านหน้าของสำนักงานขายก็ตกแต่งพื้นที่เป็นสวนให้เข้ากับแนวคิด GARDEN OF CREATION
สวนด้านข้างอีกรูปค่ะ ด้านหลังก็กั้นพื้นที่ขอบเขตโครงการไว้แล้ว ถ้าตามผังอีกหน่อยพื้นที่ด้านข้างจะถูกเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำค่ะ
เริ่มร้อนแล้ว เข้ามาด้านในสำนักงานกันเลยดีกว่าค่ะ
ด้านในสำนักงานขายค่ะ ซึ่งในอนาตจะปรับเปลี่ยนไปเป็นห้องฟิตเนส ความสูงฝ้าของสำนักงานขาย จะอยู่ที่ประมาณ 4.50 เมตรค่ะ เป็นอาคารชั้นเดียว
โครงการนี้เป็นโครงการที่ 5 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Sansiri และ BTS ภายใต้ชื่อ Sansiri BTS Holding Seven
ตัวเคาท์เตอร์ Sale office จะเห็นด้านหลังที่เป็นลายหินอ่อนนั้น ของจริงตรง Multipurpose Room ที่ชั้น 1 จะแต่งคล้ายๆ แบบสำนักงานขายค่ะ คือจะติดตั้งตัวหินตั้งแต่พื้ถึงตัวฝ้าเพดานเลย
ด้านหน้าทางเข้าออกสำนักงานขายจะวางตัวโมเดลเอาไว้ค่ะ
พื้นที่นั่งด้านข้างค่ะ มองออกไปเห็นสวนด้านนอกค่ะ
ทางเดินไปห้องตัวอย่างด้านในค่ะ
ห้องตัวอย่างจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
ทางเข้าอีก 1 จุดด้านหลังที่ใกล้กับที่จอดรถค่ะ
จบด้วยภาพสวนด้านข้างโครงการจากทางด้านหลัง จากโครงการมองออกไปจะเห็นตัวทางด่วนสูงประมาณตึก 5 ชั้นค่ะ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ตัวที่ดินของ The Base Garden-Rama 9 นั้น มีทางเข้าออกอยู่ติดถนนพระราม 9 ค่ะ พื้นที่ด้านหน้าเป็นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยที่ทางโครงการให้ปรับภูมิทัศน์ไว้ให้เรียบร้อย ด้านบนจะเป็นทางด่วนพาดผ่านค่ะ ทางเข้าโครงการจะอยู่ชิดริมด้านตะวันออกติดกับโชว์รูมรถปอร์เช่ ซึ่งเวลากลับรถใต้สะพานยกรับระดับบริเวณด้านหน้ามัสยิดที่อยู่ติดกับที่ตั้งโครงการแล้ว ก็ชิดซ้ายเข้าโครงการได้ทันอยู่ จากตัวถนนไปถึงตัวอาคาร ระยะทางจะอยู่ที่ประมาณ 70 เมตรค่ะ มัสยิดที่อยู่ติดกับรั้วโครงการนั้น โดยทั่วไปจะมีการเปิดเสียงละหมาดวันละ 5 เวลา ซึ่งทางโครงกาแจ้งว่ารจะใช้กระจกอินซูเลท ที่เป็นกระจกหนาพิเศษ นอกจากจะกันความร้อนแล้วยังช่วยกันเสียงได้ในระดับนึงด้วยค่ะ ซึ่งจะกันได้ขนาดไหนคงต้องรอดูตอนสร้างเสร็จจริงแล้วอีกที ส่วนด้านหลังจะมีคลองเขมรอยู่ แต่จะไม่ได้ติดกับรั้วโครงการค่ะ รอบๆ บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้นเป็นหลัก ไม่ได้มีอาคารสูงขึ้นค่ะ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
แปลนอาคารของคอนโด The Base Garden-Rama 9 จะเป็นรูปตัว Z วางห่างจากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 70 -80 เมตร จะมีด้านหน้าที่หันเข้าหาถนนใหญ่กับทางด่วน และ ด้านหลังที่หันเข้าหาคลองค่ะ ห้องฝั่งด้านหลังจะโดดแดดเยอะกว่า ด้วยความที่อยู่ในทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปจนถึงตะวันตกเฉียงใต้ แดดก็จะร้อนกว่าอีกด้านทีหันเข้าหาถนน แต่ก็มีข้อดีคือฝุ่นและเสียงก็น้อยกว่าฝั่งที่หาถนนใหญ่และทางด่วนตรงๆ ค่ะ แต่การวางอาคารเป็นรูปตัว Z นั้นจะช่วยให้มุมของอาคารบังแดดซึ่งกันและกันได้อยู่บ้างค่ะ ส่วนห้องทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็อาจจะต้องคำนึงในเรื่องของเสียงละมาดจากมัสยิดอยู่ด้วยค่ะ
โมเดลอาคาร
มาดูตัวโมเดลอาคาร The Base Garden-Rama9 เพื่อที่จะให้เห็นภาพรวมของโครงการให้ชัดเจนขึ้นกันดีกว่าค่ะ จะเห็นว่าสวนด้านหน้าทางเข้าโครงการในส่วนที่ของการทางพิเศษฯ จะมีรั้วกั้นระหว่างพื้นที่โครงการกับเอาไว้ค่ะ ถนนด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนพระราม 9 นั้น จะมีทางพิเศษศรีรัชพาดผ่านด้วย ถ้าชั้นเตี้ยๆ หน่อยอย่างชั้น 5 ก็อาจจะมองไปเจอทางด่วนเต็มๆ ค่ะ ส่วนในชั้นสูงๆ ก็วิวโล่งๆ สบายๆ ซื้อชั้นล่างๆ ต้องเล็งมุมกันดีๆ
พอเข้ามาด้านในโครงการก็จะเป็นสวนและพื้นที่สวนกลางของโครงการ อย่างตัวอาคารชั้นเดียวที่เห็นในโมเดล นั้นก็คือสำนักงานขายในปัจจุบัน ซึ่งในอนาคตจะถูกปรับเป็นฟิตเนสค่ะ ด้านข้างฟิตเนสจะเป็นสระว่ายน้ำ และมีบ้านต้นไม้ให้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีพื้นที่สวนส่วนกลางอีกจุดตรงชั้น 5
ตัวอาคารจะเป็นสีน้ำตาลแดง เลียนแบบสีของเปลือกไม้ให้เข้ากับ Concept ค่ะ
ด้านข้างทางทิศตะวันออก
ตัวอาคารด้านหลัง ฝั่งที่หันเข้าหาคลอง ที่จอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-4 ของตัวอาคาร
สวนส่วนกลางที่ชั้น 5 มีอยู่ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
หน้าตาอาคารค่ะ จะเห็นห้องที่เป็นแบบพิเศษที่เรียกว่า Bay Window คือห้องที่ยื่นออกมา ในแต่ละชั้นจะอยู่ที่ตำแหน่งไม่เหมือนกันค่ะ
ฝั่งที่ติดกับมัสยิดค่ะ
จบด้วยพื้นที่สวนด้านหน้าอีกรูปค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 และ ชั้น 5 ค่ะ ที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่สวนด้านหน้าอาคาร ด้านในจะมีอาคารฟิตเนสชั้นเดียว สูง 4.5 เมตร และสระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร และ สระเด็กยาว 5 เมตร รวมเป็น 30 เมตรค่ะ ด้านข้างของสระว่ายน้ำจะมีบ้านต้นไม้ ไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้ค่ะ ส่วนเข้ามาด้านในของอาคารจะมีห้องอเนกประสงค์ หรือ Multi-Purpose Room และ ร้านค้า 1 ร้านค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นพื้นที่สวนด้านนอกอาคารอีก 2 จุดอยู่ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ เวลามองลงมาจากห้องพักอาศัยด้านฝั่งที่หันเข้าถนนใหญ่จะเห็นเป็นพื้นที่สวนชั้น 5 และ ชั้น 1 เชื่อมต่อกันอยู่ค่ะ
สำหรับลิฟต์โดยสารจะมี 3 ตัว เฉลี่ยในภาพรวมออกมาอยู่ที่ 213 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ส่วนที่จอดรถของโครงการจะอยู่บริเวณชั้น 1-4 คิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่ส่วนกลางค่ะถ้ามองจากด้านบนห้องพักอาศัย จะเห็นพื้นที่สวนที่ชั้น 5 เชื่อมต่อลงมายังพื้นที่สวนที่ชั้น 1 พอดี
พื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าอาคารที่เป็นอาคารฟิตเนส สระว่ายน้ำ และบ้านต้นไม้ค่ะ
จากบริเวณที่ติดกับรั้วโครงการ มองเข้าไปด้านในค่ะ
อาคารฟิตเนสสูง 4.5 เมตร ได้วิวสระว่ายน้ำ
ด้านในอาคารที่เป็น Lobby แบบ Double Volume ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติด้วยไม้ และหินอ่อนค่ะ
ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับ Lobby บริเวณนี้ต้องมีคีย์การ์ดในการเข้าออกใช้งานค่ะ ตรงกลางนั้น ทางโครงการบอกไปว่า จะเป็นหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลีติดสูงไปจนถึงฝ้าเพดานให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในถ้ำหินอ่อน
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Master Plan คอนโด The Base Garden-พระราม 9
จากถนนใหญ่เข้ามาถึงตัวอาคารเดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 จะอยู่ที่ประมาณ 70 เมตรค่ะ พื้นที่ชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งแบบ Outdoor และ Indoor ค่ะ มีสวนอยู่ด้านหน้าอาคาร พร้อมอาคารฟิตเนส และบ้านต้นไม้ ตัว Drop-off จะอยู่บริเวณด้านข้างก่อนถึงตัวอาคาร ด้านในตัวอาคารจะเป็น Lobby, Multi-Purpose room และร้านค้าค่ะ รอบๆ จะเป็นพื้นที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1-4 มีทั้งด้านนอกอาคาร และอยู่ด้านในอาคารค่ะ ลักษณะการวางผังแบบนี้ทำให้คนสามารถเดินเข้าออกโครงการผ่านสวนและสระว่ายน้ำ รวมถึงพื้นที่สีเขียวไปยังล็อบบี้ได้โดยที่ไม่ต้องเดินลงไปบนถนนในโครงการที่มีรถวิ่งเลยค่ะ
Floor Plan ชั้น 5 คอนโด The Base Garden-Rama 9
ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 ค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่สวนส่วนกลางทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคาร โดยที่บริเวณโถงลิฟต์จะมีคีย์การ์ดกันไว้อีกจุด เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่พักอาศัยในชั้นนี้ค่ะ แต่ละชั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 19 ห้องค่ะ มีทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ซึ่งแบบ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมเป็นหลัก นอกจากนี้ก็ยังมี 1 ห้องนอนที่เป็นห้องมุมด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 30 กว่าตารางเมตรค่ะ
Floor Plan ชั้น 6, 9 และ 12 คอนโด The Base Garden-Rama 9
ขึ้นมาที่ชั้น 6 นั้นจำนวนห้องก็จะเท่าๆ กันค่ะ รวมไปถึงตำแหน่งการวางห้องด้วย เพียงแต่ในแต่ละชั้นจะมีห้องที่เป็น Bay Window หรือห้องทีมีกระจกยื่นออกมาจากห้องปกติ Random แตกต่างกันไปในแต่ละชั้นค่ะ ถ้าดูจากตัวโมเดลจะเห็นตัวหน้าตาอาคารจะมีห้องที่ยุบยื่นออกไป เป็นลูกเล่นให้กับตัวอาคารค่ะ อย่างที่ชั้น 6,9 และ 12 จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type 1B-BW ขนาดประมาณ 32.75 ตารางเมตร (กรอบสีแดง) วางอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับห้องมุมค่ะ ชั้นนี้จะมีห้องแบบ Bay Window เพียงห้องเดียว
Floor Plan ชั้น 7 และ 10 คอนโด The Base การ์เด้น-พระราม 9
พอขึ้นมาที่ชั้น 7 และ ชั้น 10 ตัวห้องแบบ Bay Window จะกลายเป็นห้องมุม 2 ห้องนอนฝั่งที่หันออกถนนใหญ่แทนค่ะ แล้วห้องที่เป็น Bay Window แบบ 1 ห้องนอนด้านหลังก็จะหายไป เปลี่ยนเป็น 1 ห้องนอนแบบธรรมดาแทน
Floor Plan ชั้น 28, 30, 32, 34 และ 36 คอนโด The Base การ์เด้น-พระราม 9
เอาตัวอย่างแปลนมาให้ดูอีกแบบค่ะ ที่ชั้น 28, 30, 32, 34 และ 36 ชั้นนี้ตำแหน่งของห้อง Bay Window จะเพิ่มเป็น 2 ห้องตามกรอบที่แดง คืออยู่ในมุมตะวันออกเฉียงใต้ด้านหลังค่ะ ซึ่งอย่างที่บอกไป ห้องแบบ Bay Window แต่ละชั้นก็ไม่เหมือนกันค่ะ มีประมาณ 1-3 ห้องต่อชั้น
แปลนห้องดีไหม?
แปลนคอนโด เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 จะมี 1-2 ห้องนอนค่ะ แบบ 1 ห้องนอน จะเริ่มที่ขนาดประมาณ 26.50-27 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 30 ตารางเมตร ซึ่งจะมีค่อนข้างหลากหลายแบบค่ะ ทั้งแบบที่เป็นครัวเปิดและครัวปิด หรือ ห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเปิดปกติและกระจกบานเลื่อน ส่วนแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เป็นขนาดประมาณ 49.75 – 55 ตารางเมตรค่ะ ซึ่งทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ก็จะมีห้อง Type พิเศษ ซึ่งเป็นห้องแบบ Bay Window เพิ่มขึ้นมาอย่างที่ให้ดูผังกันไปแล้ว ซึ่งตำแหน่งห้อง bay window แต่ละชั้นก็จะแตกต่างกันไปค่ะ เราเลือกเอาแบบตัวอย่างมาให้ดูกัน 5 Type ค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Base Garden-Rama 9
แบบ 1 ห้องนอน 1A ขนาด 27 ตารางเมตร
เริ่มจากแปลน 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 27 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบห้องไซส์เล็กสุดในโครงการค่ะ แปลนห้องจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบๆ เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวที่ปูเป็นพื้นกระเบื้องให้ อยู่ติดกับระเบียง แต่ว่าจะไม่ได้กั้นห้องครัวปิดไว้ให้ค่ะ เพราะด้วยความที่พื้นที่ห้องค่อนข้างเล็ก การกั้นพื้นที่เพิ่มเติมก็อาจจะทำให้ห้องดูคับแคบลงไปอีก แต่ถ้าเป็นคนชอบทำครัวอยากทำอาหารจริงจังก็กั้นเพิ่มได้ค่ะ กลิ่นจะได้ไม่ออกมารบกวน ส่วนห้องนอนนั้นจะอยู่แยกออกมา มีห้องน้ำอยู่ด้านในห้องนอนค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Base Garden-Rama 9
แบบ 1 ห้องนอน 1B ขนาด 31-31.50 ตารางเมตร
และ 1B-BW ขนาด 32.50-33 ตารางเมตร
แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31-31.50 ตารางเมตรค่ะ มองเผินๆ หน้าตาแปลนห้องจะคล้ายๆ กับ 1 ห้องนอน 27 ตารางเมตรแบบแรกเลย แต่ด้วยความที่ขนาดเพิ่มขึ้น แบบนี้ก็เลยกั้นพื้นที่ครัวไว้ให้เลยค่ะ สามารถวางโต๊ะทานข้าวในห้องครัวได้ ส่วนห้องน้ำนั้นก็เข้าจากตรงพื้นที่นั่งเล่น และอยู่ใกล้กับทางเข้าห้องนอนแทน ทำให้ได้พื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับแบบ 1A ซึ่งแบบห้องนี้จะมี Type ที่เป็นห้อง Bay Window ด้วย จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นตรงห้องนอนยื่นออกมาเป็นหน้าต่างเข้ามุมค่ะ ห้องที่เป็น bay window แม้ขนาดจะเพิ่มมานิดเดียวแต่ความโปร่งจะแตกต่างกันมากแน่นอน เพราะได้พื้นที่หน้าต่างมามากกว่าค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Base Garden-Rama 9
แบบ 1 ห้องนอน 1B-1 ขนาด 31.25 ตารางเมตร
และ 1B-1-BW ขนาด 32.50 ตารางเมตร
1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31.25 ตารางเมตรค่ะ แบบนี้จะได้ห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแทน ข้อดีคือ ทำให้สเปซห้องดูกว้างขึ้นค่ะ เพราะพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่นอนจะอยู่เชื่อมต่อกับเลย แล้วเอาพื้นที่ครัว ห้องน้ำและระเบียงวางชิดริมเอาไว้ค่ะ ส่วนครัวของแบบนี้ก็จะได้เป็นครัวปิดเช่นกัน เพียงแต่แบบก่อนหน้านี้ โต๊ะรับประทานอาหารจะสามารถวางไว้ที่ครัวได้ แต่แบบนี้จะต้องเอาโต๊ะรับประทานอาหารมาไว้ตรงพื้นที่นั่งเล่นแทนค่ะ ซึ่งตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารตรงนี้ก็สามารถเอามาใช้เป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเขียนหนังสือไปด้วยได้ และห้องแบบนี้ก็จะมี Type ที่เป็น Bay Window เช่นกันค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Base Garden-Rama 9
แบบ 1 ห้องนอน 1C ขนาด 33.50-34 ตารางเมตร
1 ห้องนอน ตำแหน่งห้องมุม ขนาด 33.50-34 ตารางเมตรค่ะ ครัวในห้องนี้จะได้เป็นตัวเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารค่ะ ด้วยความที่เป็นห้องมุม ข้อดีก็คือทำให้ห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเท่าๆ กัน เพราะอย่างแบบก่อนหน้านี้ ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับทางเข้าออกห้องที่ถูกบังแสงด้วยห้องนอนค่ะ
เปิดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น มีระเบียงอยู่ที่พื้นที่นั่งเล่นด้วย ส่วนด้านในจะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนค่ะ
แปลนห้องคอนโด The Base Garden-Rama 9
แบบ 2 ห้องนอน 2A ขนาด 53.50 ตารางเมตร
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดประมาณ 50 กว่าตารางเมตร เปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นค่ะ มีระเบียงอยู่ตรงพื้นที่นั่งเล่น 1 จุด ติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นทางเข้าห้องครัว ซึ่งเป็นครัวปิด มีระเบียงเล็กติดกับครัวอีก 1 จุด ซึ่งทั้ง 2 ระเบียงนี้ไม่สามารถเดิมเชื่อมถึงกันได้ค่ะ ตัวห้องน้ำจะอยู่บริเวณใกล้ๆ กับตำแหน่งที่วางโต๊ะทานข้าว โดยที่ด้านในสุดของห้องจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ห้องนอน ขนาดแตกต่างกันด้วย ซึ่งห้อง Master Bedroom ก็จะไม่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ต้องเดินออกมาใช้ด้านนอก โดยรวมแล้วก็ถือว่าจัดแปลนออกมาดีนะคะ
ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน Type 1B ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน Type 2A ขนาด 53.50 ตารางเมตร ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไป คือ 2.55 เมตร ห้องจริงจะได้แบบ Fully Fitted ได้แอร์, เคาท์เตอร์ครัว, สุขภัณฑ์ห้องน้ำ เหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์แบบในห้องตัวอย่าง ทางโครงการก็มี Furniture Package ที่สามารถสั่งทำเพิ่มกับโครงการได้ค่ะ โดยที่บวกราคาเพิ่มประมาณแสนนิดๆ
ห้องตัวอย่าง คอนโด เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9
แบบ 1 ห้องนอน 1B ขนาด 31 ตารางเมตร
เริ่มจากแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร เปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อน ส่วนด้านในจะแบ่งออกเป็น 2 ห้องคือ ห้องครัวกับห้องนอนค่ะ ผนังห้องจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดาค่ะ
ครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นเป็นสัดเป็นส่วน สามารถทำอาหารหนักได้สบาย กลิ่นไม่รบกวนบริเวณห้องด้านในค่ะ
จากครัวมองออกไปทางเข้าออกห้องค่ะ
ระยะดูทีวีก็ค่อนข้างกว้างค่ะ ด้านข้างจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ
เข้ามาดูในห้องนอนกันต่อ
หน้าต่างตรงห้องนอนจะได้แบบเต็มบานค่ะ
พื้นที่บริเวณเตียงนอนไปถึงหน้าต่างห้องค่ะ เดินได้สบายๆ
ระหว่างตู้เสื้อผ้ากับเตียงค่ะ ถ้าซื้อแพคเกจเฟอร์นิเจอร์ จะได้ตู้เสื้อผ้าแบบให้ห้องตัวอย่างซึ่งเป็นบานเลื่อนกระจกค่ะ ด้วยขนาดพื้นที่เท่านี้ ถ้าใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดก็อาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ถ้าไปซื้อตู้เสื้อผ้ามาเองหรือทำ built-in ก็ควรเลือกแบบบานเลื่อนเท่านั้น
จากห้องนอนมองออกไปด้านนอกค่ะ แอร์ให้ห้องนอนตามห้องตัวอย่างก็จะได้ตามนี้เลยค่ะ มี 2 ตัวที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ห้องตัวอย่าง คอนโด เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9
แบบ 2 ห้องนอน 2A ขนาด 53.50 ตารางเมตร
มาดูกันที่แบบ 2 ห้องนอนกันบ้างค่ะ เข้าห้องมาก็จะเป็นพื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น ด้านในจะเป็นห้องนอนค่ะ แบบนี้จริงๆ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ห้อง แต่ในห้องตัวอย่างมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยคือ ทำเป็นห้องนอน+walk in closet แทน ซึ่งถ้าต้องการห้องแบบนี้ก็สามารถติดต่อโครงการได้ค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียงค่ะ
ระยะดูทีวีตรงส่วนของพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าทางเข้าออกห้องนอน
อีกด้านบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นห้องน้ำค่ะ
จากหน้าห้องน้ำ มองออกมาบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น จะเห็นทางเข้าห้องครัวอยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่น
มาดูในห้องนอนกันต่อ ถ้าดูจากใน Key plan จะเห็นเป็น 2 ห้องนอนค่ะ แต่ในห้องตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็น 1 ห้องนอนแทน
หน้าต่างห้องก็ได้มาเต็มบาน
พื้นที่ปลายเตียงก็พอที่จะวางชั้นวางทีวีได้อยู่
ระหว่างเตียงนอนกับหน้าต่างด้านนอกค่ะ มีระยะห่างกันพอสมควร
อีกด้านซึ่งถ้าเป็นห้องมาตราฐานจะต้องกั้นเป็นห้องนอนเล็กค่ะ แต่ในห้องตัวอย่างดัดแปลงเป็น Walk-in Closet เอาไว้ให้ลูกค้าดู
ซูมเข้ามาดูในพื้นที่ Walk-in closet กันต่อ
พื้นที่ตรงห้องนอนเล็กจะได้หน้าต่างบานกระจกยาวจรดเพดานเช่นกัน แต่ความกว้างจะแคบกว่าตรงห้องนอนใหญ่ค่ะ
จบด้วยมุมมองจากห้องนอนเล็กมองออกไปห้องนอนใหญ่ค่ะ ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนเป็นห้องแต่งตัวแล้ว ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงานได้อีกด้วยค่ะ
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
ในภาพรวมนั้นวัสดุได้มากลางๆ ค่อนไปดีค่ะ ห้องจริงจะได้ชุดครัวตามห้องตัวอย่าง, สุขภัณฑ์ห้องน้ำ และแอร์ 2-3 ตัว แล้วแต่ Type ห้องค่ะ ซึ่งทางโครงการมี Furniture Package เพิ่มเติม ถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ตามห้องตัวอย่าง แต่ก็ต้องบวกราคาเพิ่มจากราคาห้องประมาณแสนต้นๆ ค่ะ
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
เพิ่มเติมในส่วนของวัสดุที่เป็น Furniture Package แบบในห้องตัวอย่างค่ะเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นแบบที่แสนสิริสั่งทำขึ้นมาเองค่ะ ซึ่งถ้าซื้อเป็นห้องมาตราฐานจะไม่ได้นะคะ แบบ 1 ห้องนอนจะเพิ่มเงินประมาณ 110,000-120,000 บาท แล้วแต่ขนาดของห้อง ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ที่ 150,000 บาทค่ะ เอาตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ของแบบ 1 ห้องนอนมาให้ดูกัน
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (29 สิงหาคม 2559) แบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26.50 ตารางเมตร ซึ่งเป็นไซส์เล็กที่สุดของโครงการจะเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท หรือ ประมาณ 82,640 บาทต่อตารางเมตร ส่วนราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการจะอยู่ที่ 99,000 บาทต่อตารางเมตรค่ะ ส่วนราคาห้องปกตินั้นต้องรอวัน Presale 10-11 ก.ย. 2559 นี้ค่ะ
ราคา ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2559
ราคาเริ่มต้น :
1 ห้องนอน 26.50 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท เฉลี่ย 82,640 บาท/ตร.ม.
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
1 ห้องนอน จอง 10,000-20,000 บาท / ทำสัญญา 20,000-30,000 บาท
2 ห้องนอน จอง 30,000 บาท / ทำสัญญา 40,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
n/A
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,190,000 บาท ผ่อนประมาณ 14,457บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,190,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,279 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,190,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,656 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,190,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,166 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 ห้องนอน พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,190,000 บาท ผ่อนประมาณ 24,542 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
คอนโด The Base Garden-Rama 9 การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกเพราะติดถนนใหญ่ มีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกล ใกล้แยกรามคำแหง และไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และมอเตอร์เวอร์กรุงเทพฯ-ชลบุรี ทำให้เดินทางไปได้หลายเส้นทาง ทั้งเข้าและออกเมือง จากแยกรามคำแหง ตรงตามถนนพระราม 9 ได้ไปทาง RCA, แยกพระราม 9 หรือจะไปทางถนนศรีนครินทร์ก็ได้ ถ้าตรงเข้าถนนรามคำแหงไปจะมีมหาวิทยาลัยรามคำแหงและศูนย์การค้าหลายที่ เป็นชุมชนคนอยู่หนาแน่นค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธาณะหน้าโครงการอาจจะค่อนข้างลำบากกว่าเมื่อเทียบกับโครงการบนถนนรามคำแหง เพราะถ้าจะขึ้นรถเมล์ต้องเดินมาตรงเส้นรามคำแหงจะมีให้เลือกเยอะกว่า ส่วน Airport Rail Link สถานีรามคำแหง อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 700 เมตร พอเดินได้แต่ก็เป็นระยะที่เริ่มเหนื่อย การใช้รถไฟฟ้า Airport Link จะเชื่อมได้ทั้ง MRT ที่สถานีเพชรบุรี และ BTS ที่สถานีพญาไท ออกไปทางสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีนบุรี – ศูนย์วัฒนธรรม มาผ่านแยกรามคำแหงด้วย โดยสถานีใกล้สุดจะอยู่แถวหน้า The Mall รามคำแหง ห่างไปประมาณ 750 เมตรค่ะ ส่วนของเดิมอย่าง Airport Rail Link มีโครงการที่จะขยายจากสถานีพญาไท ไปถึงบางซื่อและสนามบินดอนเมือง, จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ส่วนต่อขยาย (จากที่สร้างเสร็จไปแล้วช่วงตลิ่งชัน – บางซื่อ) จะต่อเพิ่มเป็น บางซื่อ – รามคำแหง – พัฒนาการ ซึ่งจะทำให้การเดินทางจากทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก ง่ายขึ้นเยอะค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
คอนโด The Base Garden-Rama 9 นั้น ตัวอาคารเป็นโทนสีน้ำตาลแดง โครงการบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากการเลียนแบบสีของเปลือกไม้ให้เข้ากับบรรยากาศด้านในของโครงการที่ทำเป็นคอนเซ็ปสวนค่ะ แปลนของอาคารเป็นรูปตัว Z ห่างจากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 70-80 เมตร ห้องพักอาศัยจะมีหันออกฝั่งที่เป็นถนนใหญ่กับฝั่งด้านหลังที่เป็นคลอง ซึ่งชั้นล่างๆ ของทั้ง 2 ฝั่งจะมองเห็นสวนในโครงการได้เหมือนกัน ฝั่งถนนใหญ่จะได้วิวสวนที่มากกว่า แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ซึ่งมีทางด่วนพาดผ่านแล้ว เรื่องของเสียงและฝุ่นก็มีตามมาด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนวิวด้านหลังที่สงบกว่า แต่แดดก็ร้อนกว่าเช่นกัน ก็ต้องแลกๆ กันไป ด้วยความที่ทำเลอยู่ใกล้ทั้งทางด่วน ทางโครงการเลยให้กระจกฉนวนความร้อน (Insulating Glass) มาให้ด้วย กันความร้อนและเสียงไปในตัว แต่จะได้ในส่วนของห้องนอนเท่านั้นค่ะ ซึ่งก็ถือเป็นความตั้งใจในการใช้วัสดุมาแก้ปัญหาจากภายนอกไปในตัวค่ะ
ห้องพักอาศัยนั้นที่นี่จะมีแบบ 1-2 ห้องนอน แต่จะมีแบบห้องและขนาดห้องให้เลือกค่อนข้างหลากหลายค่ะ ซึ่งฟังก์ชั่นของแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไป รองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการต่างกันไป อย่างเช่น บางห้องจะเป็นครัวแบบเปิด บางห้องจะได้ครัวแบบปิด เป็นต้นค่ะ รวมๆ แล้วถือว่าทำออกมาได้ดี ไม่ได้มีจุดที่ติอะไรมากมาย ที่พิเศษคือจะมียูนิตที่เป็น Bay Window เพิ่มมา ที่ตรงส่วนของห้องนอนจะได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น ได้วิวที่ยื่นออกมามากกว่าห้องปกติทั่วไปค่ะ ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้น ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนให้ห้องที่กั้นเป็น 2 ห้องนอน มาเป็น 1 ห้องนอนตามห้องตัวอย่างได้ แต่อันนี้ต้องคุยกับทางโครงการอีกทีค่ะ
ด้านวัสดุคอนโด เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 จะค่อนข้างดีกว่า The Base ตัวก่อนๆ (มีคนแซวว่าเป็น The Base สเปค The Line) แต่ราคาก็อัพขึ้นมาตามวัสดุที่ดีขึ้นมาเช่นกัน พวกวัสดุทั่วไปอย่างพื้นไม้ลามิเนต พื้นกระเบื้อง รวมไปถึงประตูและหน้าต่าง ดูแข็งแรง สวยงามดี ตัวชุดครัว Top เคาท์เตอร์ครัวเป็นกระเบื้องพอร์ชเลนลายหินขนาดใหญ่ พื้นผิวดีกว่า Top ลามิเนตทั่วไป ด้านหลังเคาท์เตอร์ปูกระเบื้องกันเปื้อนให้ ตู้ลอยเป็นบานกระจกสีดำ ชุดสุขภัณฑ์ดูดี มีฉากกั้นอาบน้ำห้องน้ำให้ ในห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะได้แอร์ด้วยค่ะ
ด้านพื้นที่ส่วนกลางของ The Base Garden-Rama 9 ซึ่งโครงการก็เอาคำว่า “Garden” ขึ้นมาใส่ไว้ในชื่อแบบนี้ แน่นอนว่า ก็ต้องได้พื้นที่สวนมาพอสมควร ที่ชั้น 1 จะมีสวนด้านหน้าโครงการ มีสระว่ายน้ำ อาคารฟิตเนส และบ้านต้นไม้ ด้านในอาคารจะมีห้องอเนกประสงค์ ตกแต่งออกมาสวยงาม หรูหรา (ดูของจริงจากที่เป็นสำนักงานขายอยู่) และร้านค้า 1 ร้าน ส่วนที่ชั้น 5 จะมีพื้นที่สวน อยู่ทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ห้องทั้ง 2 ด้านก็จะได้วิวสวนที่ชั้น 5 เหมือนกันค่ะ สัดส่วนการใช้ลิฟต์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 213 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว จัดว่าค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรเลยค่ะ ที่จอดรถเกือบ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ก็กลางๆ ด้วยทำเลนี้ คิดว่ารถยนต์ยังจำเป็นอยู่ค่ะ เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ซึ่งเป็นสายสำคัญด้วย
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ