บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ เมลานี แบงคอก ( Melanie Bangkok) ในทำเลใกล้ใจกลางย่านธุรกิจถนนจันทน์ – สาทร ชูแนวคิดพัฒนาคอนโดมิเนียม Slow Life ย่านชุมชนเก่า สร้างเสน่ห์ดึงดูดให้การอยู่อาศัยใจกลางเมืองในราคาสุดคุ้ม เปิดให้ชมห้องตัวอย่างตกแต่งหรูด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม พร้อมให้จองยูนิตทันทีเริ่มพื้นที่ตั้งแต่ 27 – 77 ตารางเมตรมีจำกัดเพียง 123 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
พงษ์ อิงคสิทธิ์ ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด กล่าวว่า โครงการเมลานี แบงคอก เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของบริษัทฯ ซึ่งใช้แนวคิดการจัดสรรพื้นที่ในย่านชุมชนเก่าของกรุงเทพฯ มาพัฒนาเป็นที่พักอาศัยที่มีความทันสมัยตอบรับชีวิตเมืองให้มีเสน่ห์และสไตล์ที่น่าสนใจ โดยใช้ความโดดเด่นของทำเลที่เป็นชุมชนเก่าในปัจจุบันซึ่งมักจะตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางย่านธุรกิจมาเป็นจุดเด่นของโครงการ
“เราเรียกทำเลแบบนี้ว่า นิชโลเคชั่น (niche location) เป็นทำเลพิเศษที่มีคุณค่าเฉพาะตัว หาได้ยากในปัจจุบัน มีเส้นทางคมนาคมสะดวก และราคาที่ดินไม่สูงเท่ากับทำเลที่อยู่ใจกลาง CBD ตอบรับกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีความคุ้มค่าในการลงทุนซื้อเป็นสินทรัพย์ โดยโครงการของเราเปิดราคาเริ่มต้นที่ 110,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น” ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ กล่าว
จากการศึกษาตลาดเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับโครงการ Melanie Bangkok พงษ์พบว่า ศักยภาพทำเลมีความน่าสนใจมาก แม้ถนนจันทน์จะไม่ใช่สุดยอดทำเลใจกลางย่านธุรกิจ ทั้งยังไม่ใช่ทำเลที่อยู่ติดหรือใกล้กับเส้นทางรถไฟฟ้า แต่ถนนจันทน์ช่วงต้นเป็นย่านพักอาศัยที่อยู่ชิดติดแหล่งธุรกิจชั้นนำย่านถนนสาทร-สีลมมากที่สุด ผู้อยู่อาศัยในย่านนั้น ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ย่านเก่าซึ่งขยายตัวมาจากถนนเจริญกรุงและเยาวราชจึงเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อสูงเพราะเป็นเจ้าของกิจการหลากหลายประเภทรวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการค้า นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนเหล่านี้ต่างส่งผ่านกิจการครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นมายังลูกหลานซึ่งเป็นคนยุคใหม่แต่ยังอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่เพื่อดูแลกิจการ และคนกลุ่มนี้คือลูกค้าเป้าหมายของโครงการเมลานี แบงคอก
การพัฒนาที่ดินในทำเลพิเศษเช่นนี้นับเป็นความท้าทายของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยพงษ์เชื่อมั่นว่าแนวคิดการพัฒนาโครงการที่เน้นเรื่องความมีคุณภาพของสินค้า มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในการสร้างและออกแบบอาคารและยูนิตพักอาศัยให้มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่นในการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวภายใต้ความทันสมัยครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ
โครงการ Melanie Bangkok ได้รับการออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ครึ่ง บนพื้นที่ 1-0-36.2 ไร่ ตั้งอยู่ต้นถนนจันทน์ (ซอย 9) ระยะทางเพียง 200 เมตรจากโครงการเดินทางถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระบบคมนาคม อำนวยความสะดวกทุกทิศทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง โดยระบบขนส่งสาธารณะ BRT รถไฟฟ้า BTS และทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกสบายโดยใช้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 3 – นางลิ้นจี่ จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ 1 และทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ซึ่งใช้จุดขึ้นลงถนนจันทน์
ด้วยทำเลที่ติดกับย่าน CBD ใจกลางกรุงเทพฯ โครงการเมลานี แบงคอก จึงแวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ แหล่งธุรกิจและสถานที่ราชการใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล, โลตัส, แม็คโคร, โรบินสัน และสถานศึกษาชั้นนำ ได้แก่ โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ,โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก , โรงเรียนวัดสุทธิวราราม เป็นต้น
ความโดดเด่นนอกเหนือจากทำเลพิเศษอันเป็นที่ตั้งโครงการแล้ว Melanie Bangkokยังเป็นที่พักอาศัยทันสมัยด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยูโรเปียนคลาสสิก รูปทรงอาคารโดดเด่นสวยสง่าท่ามกลางชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพฯ พร้อมสวนสวยและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางโครงการซึ่งเป็นการออกแบบภูมิสถาปัตย์ที่ช่วยให้ทุกๆ วันของการอยู่อาศัยและการทำงานเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง โครงการยังมอบความพิเศษเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นสวนลอยฟ้าอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร
สำหรับการดีไซน์ยูนิตเน้นความโปร่งโล่งด้วยเบย์วินโดว์ (Bay Window) ซึ่งแตกต่างจากการออกแบบยูนิตโครงการในละแวกเดียวกัน ทั้งยังครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัยเคร่งครัดตลอด 24 ชั่วโมง และสำคัญที่สุดโครงการเมลานี แบงคอก ยังมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจ ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 123 ยูนิต จัดสรรพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 27 – 77 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ในราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
โครงการMelanie Bangkok บริหารงานโดยบริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ สำนักงานขายโครงการเมลานี แบงคอก ถนนจันทน์ – สาทร พร้อมให้ผู้สนใจจองยูนิตได้ทันที พิเศษช่วงพรีเซลตลอดเดือนธันวาคม 2559 จองพร้อมทำสัญญารับไอโฟน 7 และเฟอร์นิเจอร์แพคเกจ รวมมูลค่าสูงสุดถึง 350,000 บาท (จำนวนจำกัด) รับข้อมูลเพิ่มที่ www.melaniebangkok.com ติดต่อตัวแทนขาย บริษัท เจแอลแอล (ประเทศไทย) จำกัด 09-2925-2555
Melanie Bangkok
เจ้าของและผู้บริหาร >>> คุณพงษ์ อิงคสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด
ประเภทโครงการ >>> คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 1 ชั้นครึ่ง
ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนจันทน์ – สาทร (ใกล้ BRT สถานีถนนจันทน์เพียง 200 เมตร)
เนื้อที่โครงการ >>> 1-0-36.2 ไร่
จำนวนยูนิต >>> 123 ยูนิต
แบบยูนิต >>> 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
ขนาดยูนิต >>> 27 – 77 ตารางเมตร
ราคาขาย >>> เริ่มต้น 110,000 – 130,000 บาท / ตารางเมตร
จุดเด่นโครงการ
ทำเล โครงการตั้งอยู่ต้นถนนจันทน์ (ซอย 9) ระยะทางเพียง 200 เมตรจากโครงการ ถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์อันเป็นจุดเชื่อมต่อระบบคมนาคมอำนวยความสะดวกทุกทิศทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ BRT , BTS และทางด่วน
ถนนจันทน์ เป็นถนนซอยตัดจากถนนสายหลักความยาวเพียง 7 กิโลเมตร เป็นชุมชนดั้งเดิมของนักธุรกิจเชื้อสายจีนย่านเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งขยายตัวมาจากย่านถนนเจริญกรุงและเยาวราช จึงเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อสูงเพราะเป็นเจ้าของกิจการหลากหลายประเภทรวมทั้งเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการค้า
ถนนจันทน์ เป็นทำเลที่ใกล้แหล่งธุรกิจและสถานที่ราชการใจกลางเมืองย่านสาทร-สีลม
ถนนจันทน์ อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ เซ็นทรัล โลตัส แม็คโคร โรบินสัน
ถนนจันทน์ อยู่ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ อาทิ โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
การคมนาคม
๐ ใกล้สถานี BRT สถานีถนนจันทน์ เชื่อมต่อกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ สามารถเดินทางผ่านเข้าสู่ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวก ซึ่งในอนาคตอันใกล้ ทางกรุงเทพมหานครมีแผนงานปรับเปลี่ยนโครงการ BRT ให้เป็นโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ( Monorail)
๐ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1) สามารถเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 3 – นางลิ้นจี่ จุดขึ้นลงทางด่วนสาธุประดิษฐ์ 1 และทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ใช้จุดขึ้นลงถนนจันทน์
ความเป็นส่วนตัว (Low Density) โครงการเมลานี แบงคอก มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดในการอยู่อาศัยใกล้ใจกลางย่านธุรกิจ ด้วยการออกแบบอาคารสูงเพียง 8 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ครึ่ง กับจำนวนยูนิตเพียง 123 ยูนิต จึงเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่ให้บรรยากาศอบอุ่นสบายๆ ของการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัว
การออกแบบ
๐ รูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นแบบยูโรเปียนคลาสสิกที่ผสมผสานสไตล์ความเป็นอยู่อย่างอบอุ่นสไตล์ ตะวันออก
๐ ภูมิสถาปัตย์ มีสวนสวยเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางโครงการพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสวนลอยฟ้าบนชั้นบนสุด เปิดมุมมองที่สบายตา และเป็นส่วนตัว
๐ ดีไซน์ยูนิต เน้นความโปร่งโล่ง มีเบย์ วินโดว์ (Bay Window) เปิดรับแสงแดดธรรมชาติช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายใน
๐ มาตรฐานวัสดุ เทียบเคียงมาตรฐานสากล สะท้อนรสนิยมหรูของผู้พักอาศัย
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ฯลฯ
ทีมงานมืออาชีพ ที่ปรึกษาโครงการอ.นิวัติ ลมุนพันธ์
สถาปนิก >>> At Forty Co.,Ltd.
ดีไซน์เนอร์ >>> Abacus Design Co.,Ltd.
ตัวแทนขาย >>> บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด
เล่าเรื่องเบื้องหลัง
พงษ์ เป็นนักธุรกิจมากประสบการณ์ เวลาเกือบ 30 ปีในวงการธุรกิจบ่มเพาะวิสัยทัศน์และสายตาอันเฉียบคมในทางธุรกิจ ตลอดช่วงชีวิตการทำงาน เขาทำธุรกิจมาแล้วหลายอย่าง เริ่มต้นเมื่อเขาตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าช่วง 10 ปีแรกของการทำงาน ต้องเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ให้มากที่สุดเพื่อก้าวไปถึงเป้าหมายการเป็นเจ้าของกิจการของตนเองในที่สุดหลังจากเรียนจบคณะบริหารธุรกิจการตลาดจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พงษ์จึงเข้ามาคลุกคลีอยู่ในแวดวงการตลาด
ตามสายงานที่เรียนมาโดยทำงานให้กับบริษัทตัวแทนโฆษณาแห่งหนึ่งดูแลลูกค้าหลากหลายธุรกิจ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การวางแผนธุรกิจ ใช้การตลาดสร้างแบรนด์สินค้า กระทั่งย้ายมาดูแลการตลาดและสร้างแบรนด์ให้กับกลุ่มธุรกิจวังเพชรบูรณ์เจ้าของโครงการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ (ปัจจุบันคือศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์) ก่อนจะมารับงานบริหารภาพลักษณ์และกำหนดตำแหน่งทางการตลาดใหม่ให้กับสินค้าเวชสำอางค์แพนคอสเมติก ใช้การตลาดครบวงจรมาเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ให้สินค้าฮิตติดตลาด จากนั้นเขาเปลี่ยนแนวทางมาจับสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบดื่มชอบเที่ยวและไม่สูบบุหรี่ แต่ก็สามารถก่อร่างสร้างแบรนด์วิสกี้ส์ ต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักในตลาดเมืองไทยและสร้างมาร์เก็ตแชร์ได้ตามเป้าหมาย
ปี 2539 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของพงษ์ เมื่อเขาแต่งงานและมีความคิดว่าพร้อมแล้วสำหรับการสร้างกิจการของตนเอง ความคิดแรกคือการมองกลับไปสู่พื้นฐานธุรกิจที่เขาเคยคุ้นมาตั้งแต่วัยเยาว์ นั่นคือ การก้าวเข้าสู่ ธุรกิจกระเป๋าและเครื่องหนัง ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ตั้งแต่สมัย คุณพ่อ เขากลับมาพร้อมกับแนวความคิดในการพัฒนาแบรนด์ของตนเองขึ้นมา แทนที่จะผลิตในรูปแบบ OEM สภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นไม่เอื้อต่อการริเริ่มลงทุนใดๆ ทั้งสิ้น แต่พงษ์กลับมองว่า นั่นคือโอกาส หากสามารถทำธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ได้ นั่นแปลว่าเขาสามารถผ่านจุดตกต่ำที่สุดของวงจรเศรษฐกิจแล้ว
“สภาพเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเริ่มธุรกิจ ผมมองว่าอยู่ที่ความพร้อมของตัวเองมากกว่า คุณรู้ในสิ่งที่คุณจะทำมากพอหรือยัง คุณเห็นโอกาสที่จะทำมันให้เติบโตหรือไม่ คุณมีเงินทุนพอจะรับความเสี่ยงที่น่าจะเกิดขึ้นในระดับใด และคุณเห็นคนที่จะเป็นลูกค้าของคุณชัดเจนหรือยัง ถ้ามีพร้อมที่พูดมา คุณทำธุรกิจได้” พงษ์บอกว่า เพียง 2 ปีหลังจากการเปิดรับงาน OEM แบบรับจ้างผลิตกระเป๋าภายใต้ Corporate Brand ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ การแข่งขันในขณะนั้นสูงมาก และ ราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้า เขาจึงเริ่มสร้างแบรนด์ “ฮัสกี้ส์” ของตัวเองและเปิดตัวสู่ตลาดโดยใช้ กลยุทธ์ Premium Product เน้นคุณภาพของสินค้า การออกแบบและประโยชน์ใช้สอยให้กระเป๋าฮัสกี้ส์แต่ละใบเป็นตัวนำ และเป็นจุดเด่นทำให้ตัวสินค้าสามารถขายตัวของมันเองได้ ประกอบกับการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดครบวงจรมาเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี สำหรับการสร้างแบรนด์ฮัสกี้ส์จนเป็นที่รู้จัก และมีลูกค้าที่เป็นสมาชิก Huskies อยู่ 30,000 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันฮัสกี้ส์เป็นแบรนด์กระเป๋าแฟชั่น กระเป๋าเดินทางชั้นนำคุณภาพมาตรฐานสากลที่ตลาดต่างประเทศให้การยอมรับ แม้แต่คนไทยในยุคนี้ก็อาจคิดว่า “ฮัสกี้ส์” เป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพจากต่างประเทศโดยหารู้ไม่ว่าทั้งโรงงานผลิตและโชว์รูมสินค้าตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 กรุงเทพมหานคร นี่เอง