สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายนำไอเดียรีโนเวทตึกแถวสวยๆ 2 แบบ 2 สไตล์ ที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกันมาฝาก หลังแรกอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ส่วนอีกหลังนึงเป็นไอเดียบ้านจากเนเธอร์แลนด์ค่ะ ทั้งสองหลังเลือกใช้วัสดุต่างกัน สวยงามไปคนละแบบ แต่มีความท้าทายเดียวกันคือ ความกว้างของตึกแถวที่แคบและมีช่องแสงน้อย ดูซิว่าสถาปนิกแต่ละมุมโลกเค้ามีไอเดียกันอย่างไร

เริ่มต้นจะพาบินไปดูตึกแถวงามๆ ที่ประเทศไต้หวันกันก่อน หลังนี้รีโนเวทตึกแถวเก่าที่มีอายุกว่า 50 ปี ปรับปรุงใหม่ให้โมเดิร์นทันสมัย โดย KC Design Studio

ความกว้างของบ้านหลังนี้แค่ 3.7 เมตรเท่านั้น ซึ่งแคบกว่าตึกแถวในเมืองไทยที่จะกว้างประมาณ 4 เมตร มี 3 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ครัวเปิด ชั้นสองเป็นห้องนั่งเล่นหรือ Play area และห้องนอนอยู่ชั้นบนสุด
ตึกแถวแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่จอแจ มีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา จึงมีเสียงดังรบกวนอยู่เสมอ เจ้าของบ้านจึงอยากให้ปรับปรุงเป็นบ้านที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นปลอดภัยมากขึ้น และลดเสียงดังรบกวนจากนักท่องเที่ยว พร้อมกับเพิ่มแสงธรรมชาติภายในบ้านด้วย

โจทย์แรกคือต้องการตัดแสงรบกวน สถาปนิกจึงออกแบบให้ฝั่งที่ติดถนนทุกชั้น กั้นแบ่งพื้นที่ด้านหน้าเป็น Semi-Outdoor ทำหน้าที่เป็นแนวกั้น (Buffer) ลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนในบ้าน ประมาณว่าถอยร่น (Set-Back) ตัวบ้านจริงๆ หลบจากถนนมากขึ้น และพื้นที่ Semi-Outdoor ตามชั้นต่างๆ ก็ยังออกมานั่งเล่นหรือใช้งานได้ อย่างชั้น 2 และ 3 สามารถปลูกต้นไม้หรือทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้

โจทย์ที่สองคือ เพิ่มแสงธรรมชาติภายในบ้าน ลดความอึดอัดของตึกแถว ผนังที่ตัวบ้านจึงเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่ ส่วนผนังด้านนอกสุด (Facade) เลือกใช้แผ่น Perforated (เหล็กฉลุลาย) ทำหน้าที่ทั้งกรองแสงแดด พรางสายตา แต่ยังปล่อยให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าไปในตัวบ้านได้

แต่แสงจากหน้าต่างหน้าบ้านอาจจะยังไม่พอ จึงทำ Sky Light ที่หลังคา ซึ่งแน่นอนว่าจะให้แสงส่องไปถึงชั้นล่างนั้นต้องมีโถงโล่งตรงกลาง แต่หากทำเป็นโถงพื้นที่ใช้งานก็น้อยลงไปด้วย เลยทำพื้นกลางบ้านให้เป็นกระจกใส เพื่อให้แสงทะลุลงมาถึงทุกชั้น
ชั้นบนสุดเป็นห้องนอน จะอยู่ใกล้กับ Skylight หลังคามากที่สุด

ส่วนผนังอื่นๆ เช่นผนังบริเวณบันไดก็เลือกใช้กระจกใส, กระจกฝ้าแทนผนังคอนกรีตทึบ เพื่อให้ภายในบ้านดูโล่งที่สุดและไม่บล็อกแสงที่ส่องลงมา

โทนของตกแต่งภายในเน้นสีเทา และสีขาว พื้นปูไม้สีขาว ผนังคอนกรีตสีเทา ส่วนประกอบอื่นๆ บ้างก็เป็นสแตนเลส ทั้งช่วยให้บ้านดูกว้างมากขึ้น และยังช่วยสะท้อนแสงให้กระจายไปทั่วบ้าน

และเนื่องจากบ้านแคบ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อย่างโซฟา, ชั้นวางทีวี จะจัดเรียงชิดผนังทั้งหมด เพื่อให้ตรงกลางบ้านโล่งมากที่สุด

ส่วนไหนที่รวมฟังก์ชั่นกันได้ก็จะรวม เช่น ใช้พื้นที่เหลือใต้บันไดก็ทำเป็นเคาน์เตอร์ครัว หรือตู้เก็บของ เพื่อประหยัดพื้นที่

หลังต่อไปที่เราจะพาไปดูกันเป็นบ้าน Skinny House ในเมือง Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ หลังนี้เจ้าของเป็นคู่รักสถาปนิกชาวดัทช์ค่ะ เลยออกแบบบ้านเองซะเลย
ความกว้างของบ้านหลังนี้แคบกว่าหลังที่แล้วอีกค่ะ ถ้าใครเคยไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์ จะเห็นว่าบ้านแต่ละหลังของเค้าหน้าบ้านจะแคบมากๆ ความกว้างของตัวบ้านหลังนี้แค่ 3.4 เมตร เท่านั้น แต่มีความสูงพื้น-พื้นเยอะมาก รวมสูง 3 ชั้นสูงตั้ง 20 เมตรแหน่ะ คอนเซ็ปต์ที่เจ้าของบ้านต้องการคือบ้านสไตล์ Lofty และได้แสงธรรมชาติเยอะๆ เข้าตัวบ้าน

ข้อดีของบ้านหลังนี้คือ เป็นกลุ่มตึกแถวที่อยู่ล้อมรอบสวนสาธารณะ หน้าบ้านติดถนน หลังบ้านติดสวน ทำให้สามารถเจาะหน้าต่างบานใหญ่ได้ทั้งจากหน้าบ้านและหลังบ้าน เป็นผังเมืองที่น่ารักมากเลยค่ะ

อาคารเพื่อนบ้านข้างเคียงผนังจะก่อด้วยอิฐ ซึ่งเป็นที่นิยมในยุคศตวรรตที่ 19-20 เจ้าของหรือสถาปนิกเองก็เลยเลือกใช้อิฐนี่แหละเป็นผนังบ้าน (Facade) เพื่อให้กลมกลืนกับสภาพบ้านเรือนข้างเคียง แต่ขอมีดีไซน์ด้วยการเลือกใช้อิฐสีดำ ออกแบบ Pattern ของการก่ออิฐใหม่ และเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ให้ทันสมัยมากขึ้น … ถนนหน้าบ้านเป็นซอยเล็กๆ แต่มีต้นไม้ใหญ่มากอ่ะ บรรยากาศดีจุง

ความโดดเด่นของบ้านหลังนี้แม้จะใช้วัสดุทั่วไป เช่น อิฐ แต่มีรายละเอียดอยู่ที่ Pattern ผนังหน้าบ้านมีหน้าต่างขนาดใหญ่ 2 บาน ยื่นออกมานอกตัวอาคารเล็กน้อย สามารถมานั่งเล่นบริเวณหน้าต่างดูคนผ่านไปมาได้

ผนังบางส่วนก่ออิฐเว้นช่องเป็น Pattern เรียบง่าย บังหน้าต่างกระจกที่อยู่ด้านใน หากเปิดไฟตอนกลางคืนจะเห็นช่องเล็กๆ เหล่านี้ชัดขึ้น

หากมองจากภายในบ้านจะเห็นช่องกระจกบานใหญ่ที่ยื่นออกไปจากตัวบ้านกลายเป็นที่นั่งเล็กๆ ส่วนหน้าต่างทางขวาเป็นบานเปิด จะตรงกับช่องอิฐด้านนอกพอดี สามารถเปิดรับอากาศได้แต่ก็ยังบังสายตาจากคนภายนอก

ผนังหลังบ้านจะก่ออิฐบางก้อนให้ยื่นออกมานอกตัวบ้าน เป็น Pattern เหมือนกันทั้งผนัง และยังเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ เพื่อรับวิวสวนด้านหลังบ้าน

เนื่องจากความกว้างของบ้านแคบ แถมยังมีเสากลางบ้าน เพื่อความสวยงามและประหยัดพื้นที่จึงใช้แผ่นไม้ Plywood มาปิดล้อมตัวเสาเอาไว้ แทนที่จะปล่อยเป็นเสาคอนกรีตเฉยๆ และทำเป็นตู้ Built-in ติดกับเสาไปเลย ซึ่งการใช้ก็ขึ้นอยู่กับว่าชั้นนั้นๆ เป็นห้องอะไร อย่างชั้นล่างสุดในภาพเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ชั้นที่อยู่ตรงเสาก็ทำเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ในครัว

เสาที่อยู่กลางบ้านเอาแผ่นไม้ (Plywood) มาปิดเสาเอาไว้ ทำให้ดูเบา ไม่ทึบตัน และยังเนียนเป็นชั้นเก็บของในห้องนั่งเล่นด้วย ส่วนบันไดขึ้นชั้นต่างๆ ก็จะไม่มีลูกตั้ง เพื่อให้บันไดดูโปร่ง แสงสามารถลอดผ่านช่องบันไดไปได้และยังมองเห็นห้องชั้นอื่นๆ ด้วย

บางชั้นก็ก็ต่อเป็นห้องติดกับเสา เป็นห้องน้ำ, พื้นที่อาบน้ำ

จุดอื่นๆ ในบ้านอย่างโซนพื้นที่นั่งเล่นชั้นสอง หลังบ้านจะเปิดเป็นหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นสวนหลังบ้าน พื้นก็เปลี่ยนเป็นตาข่ายที่ลงไปนั่งเล่น นอนอ่านหนังสือได้ ส่วนผนังชั้น 1 จะเป็นประตูกระจกบานเฟี้ยมใกล้กับพื้นที่กินข้าว เปิดออกไปเดินเล่นในสวนได้ค่ะ

ชั้นเกือบบนสุดเป็นห้องอาบน้ำ ทั้งฝักบัว, โถสุขภัณฑ์, อ่างอาบน้ำ จะจัดไว้อยู่กลางบ้าน เป็นห้องน้ำที่ไม่ธรรมดา เพราะเปิดโล่ง อาบน้ำริมผนังกันอย่างงี้เลย ด้านที่เห็นจะเป็นฝั่งอาบน้ำฝักบัวค่ะ ลดระดับส่วนอาบน้ำลงไปเล็กน้อย กั้นน้ำกระเด็นด้วยกระจกใส

ถัดมาเป็นอ่างอาบน้ำที่ทาผนังด้วย Epoxy-Coated Cement จะได้ทำความสะอาดง่าย แทนการปูกระเบื้อง และยังอยู่ตรงกับช่องแสงบนหลังคาอีกด้วย

ที่มา >>> www.dezeen.com
จบแล้วค่ะสำหรับไอเดียรีโนเวทตึกแถวกับบ้านสองหลังสองสไตล์ หลังนึงแก้ปัญหาเสียงโดยการร่นตัวอาคารเข้ามาด้านใน ใช้ Semi-Outdoor เป็น Buffer ทั้งเพิ่มความเป็นส่วนตัวของคนในบ้าน ช่วยลดเสียงจากคนภายนอกแต่ก็ยังมีแสงส่องเข้ามาในตัวบ้านด้วย และแก้ปัญหาให้แสงส่องถึงทั่วโดยการใช้ Skylight บนหลังคากับพื้นกระจก ส่วนอีกหลังก็โชคดีที่ตัวบ้านเปิดหน้าต่างกว้างได้ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน แสงจึงส่องทั่วถึง แต่ดันมีเสาอยู่กลางบ้านเลยใช้ประโยชน์จากเสาทำหน้านี้เป็นชั้นเก็บของต่างๆ ทั้งยังทำบันไดให้โปร่งเพื่อมองเห็นห้องอื่นๆ เชื่อมห้องในบ้านอีกด้วย
The post ไอเดียรีโนเวทตึกแถว 2 แบบ 2 สไตล์ ตอบโจทย์ชีวิตในเมือง appeared first on รีวิวคอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โดยอยู่สบาย.คอม (YuSabuy.com).