รีวิวนี้ผมพาเพื่อนๆ ไปดูบ้านเดี่ยวโครงการ The City สุขสวัสดิ์ กันครับ โครงการนี้อยู่ในเขตทุ่งครุ บนถนนประชาอุทิศ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางมด ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่มีทั้งกลุ่มคนไทย จีน และอิสลาม อยู่ร่วมกัน โครงการ The City Suksawat เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่เปิดตัวพร้อมกับ The City อีกโซนคือ The City บางใหญ่ รายละเอียดแปลนบ้านเหมือกัน แต่แตกต่างกันที่การใส่ดีเทลในตัวโครงการ ซึ่งเป็นผลมาจากการวางคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันครับ
เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ ออกแบบโครงการมาด้วยสไตล์ Modern Moroccan ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะเป็นอย่างไร ผมจะรีวิวจุดเด่น จุดด้อย ให้อ่านกันในทุกแง่มุมครับ
ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ
The City Suksawat
(เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์)
- เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนประชาอุทิศ ใกล้ซอยประชาอุทิศ 60 และ Tesco Lotus ตลาด ประชาอุทิศ
- ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 16-0-81.1 ไร่
- ประเภท >>> บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- จำนวนหลัง >>> 70 ยูนิต
- พื้นที่ใช้สอย >>>
- แบบ Stella – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 169.61 ตารางเมตร
- แบบ Esther – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 185.92 ตารางเมตร
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> (ราคา ณ วันที่ 4/11/2016)
- แบบ Stella (Type S) – ที่ดินเริ่มต้น 50.60 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
- แบบ Esther (Type M) – ที่ดินเริ่มต้น 52.70 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 7.90 ล้านบาท
- พิกัด GPS >>> 13.637254, 100.501481
- เว็ปไซต์โครงการ >>> The City สุขสวัสดิ์
- ติดต่อโครงการ >>> 1623
ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ >> คลิกที่นี่
.
แนวถนนประชาอุทิศนั้นเชื่อมออกมาจากถนนสุขสวัสดิ์ ตรงบริเวณจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร จากแยกนั้นจะตรงมาจนถึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และเลี้ยวซ้ายที่สามแยกนาหลวง ลงใต้ขนานไปกับถนนสุขสวัสดิ์ ตัวโครงการ The City สุขสวัสดิ์ จะอยู่ห่างจากสามแยกนาหลวง ประมาณ 1.4 กิโลเมตร ครับ ถ้านับจากปากทางตรงถนนสุขสวัสดิ์ก็ประมาณ 4.5 กิโลเมตร และเนื่องจากถนนประชาอุทิศช่วงที่โครงการตั้งอยู่ จะขนานกับถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้มีซอยย่อยหลายซอยที่สามารถทะลุเชื่อมระหว่างถนน 2 เส้นนี้ได้ เช่น ซอยสุขสวัสดิ์ 64 หรือ ซอยสุขสวัสดิ์ 70 เป็นต้น
(สามารถกดที่แผนที่เพื่อดูภาพขยายได้เลยครับ)
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
วันนี้ผมขับรถไปดูโครงการโดยมาจากทางดาวคะนอง พอถึงปากทางเข้าถนนประชาอุทิศ ก็ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านหน้าพระจอมเกล้าบางมด (ต่อไปนี้จะขอเรียกชื่อย่อนะครับ) พอถึงสามแยกนาหลวงก็เลี้ยวซ้าย ตรงไปจนผ่าน Max Valu ประชาอุทิศ ทางซ้ายมือ และเห็น Tesco Lotus ตลาด ประชาอุทิศ ทางขวามือ ก็ให้เตรียมชิดขวาเพื่อเลี้ยวเข้าโครงการได้
ความอุดมสมบูรณ์ของประชาอุทิศช่วงนี้กินบริเวณค่อนข้างกว้างครับ การมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มาตั้งเมื่อนานมาแล้วทำให้เกิดการขยายตัวของชุมชนจำนวนมาก ใกล้กับ มจธ. ก็มีศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ที่ด้านในมีสนามฟุตบอลที่ใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรบางกอกเอฟซี ติดกับรั้วของ มจธ. เป็นสวนธนบุรีรมย์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และเป็นเสมือนปอดของชุมชนย่านนี้
จากตรงหน้าศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติและสวนธนบุรีรมย์ เมื่อเทียบความหนาแน่นของการอยู่อาศัยทางฝั่งถนนประชาอุทิศจะมีมากกว่าถนนพุทธบูชาพอสมควร ตลอดแนวถนนประชาอุทิศในช่วงต้นนี้มีตึกแถวอาคารพาณิชย์อยู่ตลอด 2 ข้างทาง มีบ้านและทาวน์เฮ้าส์อยู่กระจายเข้าไปตามซอยเล็กซอยน้อยต่างๆ โครงการหมู่บ้านจัดสรรช่วงนี้มักจะเป็นทาวน์เฮ้าส์โครงการเก่าที่สร้างไปเป็นสิบๆ ปีแล้ว ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวเก่าๆ ก็มีแต่จะอยู่เลยออกไปทางปลายถนนประชาอุทิศอีก
โครงการ The City สุขสวัสดิ์ จะอยู่เลยซอยประชาอุทิศ 60 ไปหน่อย แถวนี้มีตลาดทุ่งครุพลาซ่า และตลาดใหม่ทุ่งครุ ใกล้กับโครงการจะมี Max Valu ประชาอุทิศ ซึ่งแต่ก่อนตรงนี้เคยเป็นจัสโก้ ประชาอุทิศ ที่เป็นต้นกำเนิดคอมมูนิตี้มอลล์ แห่งแรกๆ ในเมืองไทย เยื้องกับ Max Valu ประชาอุทิศ จะเป็น Tesco Lotus ตลาด ประชาอุทิศ ซึ่งสามารถเดินจากที่โครงการ เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ ผ่านซอยประชาอุทิศ 60 มาจับจ่ายซื้อของได้เลย สะดวกมาก
พื้นที่รอบที่ดินของ เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ นั้นเป็นที่ว่างอยู่เยอะ ซึ่งก็เป็นที่ดินของทาง AP เอง (หมายเลข 1, 2) ที่แบ่งเอาไว้พัฒนาโครงการอื่นในอนาคต ตรงปากทางเข้าโครงการจะมีสะพานลอยและป้ายรถเมล์อยู่ (หมายเลข 3) ถ้าข้ามสะพานลอยไปลงฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงเรียนอิสลามวิทยาลัย ส่วนทางด้านข้างของโครงการเป็นหมู่บ้านเก่าชื่อประชาสุขซิตี้ (หมายเลข 5) และตลอดสองฝั่งถนนจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ (หมายเลข 4) ที่ประกอบกิจการต่างๆ แตกต่างกันไป และสุดท้ายตรง หมายเลข 6 จะเป็นมัสยิดอัสอีสดิกอมะห์ของชาวชุมชนอิสลามในย่านนี้
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ไปดูภาพถ่ายรอบๆ โครงการเพิ่มกันอีกสักหน่อย ก่อนที่จะเข้าสำนักงานขายกันครับ
ดูผังโครงการ การเข้าถึง
การเข้าถึงโครงการ The City สุขสวัสดิ์ จะต้องผ่านถึง 3-4 ชั้น เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดินครับ ทาง AP เป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่มากตรงนี้ แต่จากรูปที่ทำกราฟิกให้ดูจะเห็นว่าถ้านับเฉพาะตัวที่ดินของ เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ นั้นจะอยู่ลึกเข้ามาจากถนนใหญ่ และมีซอยประชาอุทิศ 60 ตัดผ่านระหว่างทางเข้าหลักที่มาจากถนนประชาอุทิศ เลยต้องมีไม้กระดกกั้นเป็น Security หลายชั้นหน่อย ซึ่งแบ่งเป็น 3 จุด ครับ
- จุด A เป็นซุ้มประตูทางเข้าใหญ่สุด กั้นด้วยไม้กระดก ใช้ได้ทั้งลูกบ้านโครงการ The City สุขสวัสดิ์ และโครงการอื่นๆ ของ AP ที่จะอยู่ในพื้นที่นี้ในอนาคต
- จุด B เป็นไม้กระดก มี รปภ.เฝ้าไว้ เพื่อป้องกันคนภายนอกเข้ามาจากซอยประชาอุทิศ 60
- จุด C เป็นซุ้มประตูทางเข้าเฉพาะของลูกบ้านโครงการ The City สุขสวัสดิ์ เท่านั้น เป็นประตูเลื่อนมี รปภ. คอยควบคุม
เดี๋ยวลองดูภาพข้างล่างประกอบนะคร้าบ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้าไปในโครงการกัน
ตรงนี้เป็นทางทางเข้าหลักจากถนนประชาอุทิศครับ (ตำแหน่งจุด A)
ขับรถเข้ามาอีกนิดก็จะเจอป้อมยาม มีไม้กระดกกั้นตรงจุดตำแหน่ง B เพราะทางที่เห็นด้านหน้าเป็นซอยประชาอุทิศ 60 ครับ
ผ่านมาแล้วก็จะมาที่ตำแหน่ง C ซึ่งเป็นทางเข้าใหญ่ของโครงการ The City Suksawat โดยเฉพาะ ตำแหน่งนี้ถ้าใครจะเข้าออกต้องแลกบัตรกับทาง รปภ. เพื่อความปลอดภัยครับ
ซุ้มประตูตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อนและเหล็กฉลุลวดลาย ดูขาวสะอาดตา
ประตูทางเข้าก็ใช้แพทเทิร์นการออกแบบเดียวกัน
เข้ามาที่ Sale Gallery เพื่อดูบ้านตัวอย่างกันครับ
ภายในสำนักงานขาย โครงการนี้ออกแบบ Feature ต่างๆ โดยใช้คอนเซ็ป Modern Morroccan เป็นอาหรับแบบที่เรียบและดูโมเดิร์นขึ้น ใช้องค์ประกอบรูปเรขาคณิต มีแผงเหล็กฉลุลวดลายเพื่อทำให้เกิดแสงและเงาในช่วงเวลาต่างๆ กัน ซึ่งไอเดียนี้ก็จะได้นำมาใช้ยังพื้นที่ต่างๆ ของโครงการ อย่างเช่น ระเบียงบ้าน หรือว่าสวนสาธารณะ รวมถึงคลับเฮ้าส์ด้วย เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันต่อครับ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางของบ้านเดี่ยว The City Suksawat มีคลับเฮ้าส์และสวนสาธารณะอยู่ด้านหน้าโครงการ เข้ามาจะเจอเลย การวางผังสวนส่วนกลางใช้แนวแกนชัดเจน เป็นรูปทรงเรขาคณิต มีการใช้น้ำพุเข้ามาตกแต่ง รวมถึงมีศาลานั่งพักผ่อนในสวน โดยแกนในสวนก็จะตรงไปยังคลับเฮ้าส์ ดีไซน์เป็นโทนสีขาวโดยใช้กระเบื้องหินอ่อน (Full body porcelain tile) และแผง Perforated Metal ครอบเอาไว้ เพื่อเล่นกับแสงเงาที่ตกกระทบลงบนตัวอาคาร ในคลับเฮ้าส์มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ด้านบนมีฟิตเนส และห้องอเนกประสงค์ ครับ
.
เมื่อเลี้ยวเข้าโครงการ The City สุขสวัสดิ์ มาจะเห็นสวนอยู่ทางซ้ายมือครับ
ลักษณะการวางผังของสวนจะมีแนวแกน และลำดับการเข้าถึงชัดเจน ใช้ทั้งแนวต้นไม้ และองค์ประกอบต่างๆ ในการแบ่งสเปซ
มีศาลานั่งพักผ่อนในสวน
แนวแกนจากน้ำพุจะยิงตรงไปยังคลับเฮ้าส์ฝั่งตรงข้าม
ใช้ชื่อว่า The City Club ซึ่งตัวคลับเฮ้าส์จะเป็นสีขาวโพลนทั้งหมด ด้านล่างบุด้วยกระเบื้องหินอ่อน ด้านบนเป็น Perforated Metal
อีกมุมหนึ่ง ดีไซน์กึ่งทึบกึ่งโปร่งแบบนี้ช่วยทำให้ตัวอาคารด้านบนดูเบาลง
ซูมให้ดูดีเทลรอยต่อต่างๆ
สระว่ายน้ำในคลับเฮ้าส์ มองไปจะเห็นทางเข้าโครงการเลย ตำแหน่งแบบนี้เวลาเข้ามาจากด้านหน้าโครงการ จะเห็นคลับเฮ้าส์อลังการมาก แต่เวลาว่ายน้ำอาจจะเขินๆ กันบ้าง โดยส่วนตัวแล้วผมชอบสเปซแบบที่มีการพรางสายตาบ้าง มากกว่าสเปซเปิดโล่งแบบนี้ครับ
มุมล้างตัวก่อนลงสระ เก๋ดี
ฟิตเนสด้านบนครับ
พอเดินดูรอบโครงการ จะเห็นตามแนวฟุตบาทจะปูหญ้าไว้ให้ ช่วยลดความกระด้างของสีปูน และให้ทำให้ดูภาพรวมเขียวขึ้น
เปิดแปลนบ้าน
บ้านในโครงการ The City Suksawat จะมี 2 แบบ มีแบบ Type S ชื่อว่า Stella และ Type M ชื่อว่า Esther ซึ่งฟังก์ชั่นหลักจะคล้ายกัน คือ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แต่แบบ Esther จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และหน้าบ้านจะกว้างกว่าครับ
- แบบ Stella – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 50.70 ตารางวา - แบบ Esther – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ใช้สอย 185.92 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 52.70 ตารางวา
แปลนบ้าน The City Suksawat
แบบบ้าน Stella
ในแปลนบ้านที่ได้มา ชั้นบนกับชั้นล่างจะเป็นคนละสเกลกันนะครับ .. เข้าในรั้วบ้าน ที่จอดรถจะอยู่ใต้ห้องนอนชั้น 2 ที่ช่วยบังแดดให้ ทางเข้าจะอยู่ทางหน้าบ้านตรงสเปซส่วนรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ด้านข้างจะมีห้องนอนเล็กต่อยื่นออกไปในสวน ทำให้มีสวนล้อมรอบห้องนี้ ถ้ามีผู้สูงอายุที่เดินขึ้นลงบันไดไม่ไหว ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนได้ ส่วนห้องครัวจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นพื้นที่ครัวปิด มีสเปซด้านหน้าห้องครัวพอจะทำเคาน์เตอร์บาร์สวยๆ ได้ ในห้องครัวจะมีประตูออกไปลานซักล้างหลังบ้านด้วย
ตำแหน่งบันไดจะอยู่ด้านข้างของตัวบ้าน วนขึ้นไปชั้น 2 แล้วเป็นโถงเล็กๆ เพื่อเข้าห้องนอนแต่ละห้อง ด้านหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom และห้องนอนขนาดกลาง ซึ่งขนาดของความกว้างห้องไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่ Master Bedroom จะมีความลึกห้องมากกว่า และมีส่วนของ walk-in closet อยู่ด้วย ส่วนด้านหลังบ้านจะมีห้องนอนเล็ก และห้องน้ำ 2 ห้อง ส่วนห้องนอนเล็กขนาดจะจำกัดหน่อย พื้นที่ไม่มากนัก ชั้นบนนี้จะมีระเบียงเฉพาะในส่วนของ Master Bedroom เท่านั้นครับ
.
แปลนบ้าน The City Suksawat
แบบบ้าน Esther
แบบบ้าน Esther นี้ถ้านับพื้นที่ของบ้านจริงๆ แล้วจะมากกว่าแบบ Stella แค่ประมาณ 16 ตารางเมตร แต่ถ้ามองด้านหน้าจะรู้สึกว่าบ้านใหญ่กว่าพอควร เนื่องจากลักษณะของการวางแปลนให้ตัวบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง และไม่ลึกมาก ซึ่งก็แน่นอนว่าขนาดการแบ่งแปลงที่ดินก็จะแตกต่างกันออกไป
การแบ่งสเปซภายในบ้าน จะเอาบันไดไว้ตรงกลางบ้าน และแบ่งสเปซออกเป็นด้านซ้ายและขวา มีทางเข้าบ้าน 2 ทาง คือ ด้านหน้าตรงส่วนพื้นที่รับแขก และทางเข้าจากด้านในโรงจอดรถ ที่เข้ามาตรงห้องครัวเลย สเปซที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ฝั่งหนึ่งจะทำเป็นพื้นที่รับแขกและรับประทานอาหาร ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องนอนเล็กชั้นล่าง ซึ่งห้องนอนชั้นล่างในแบบนี้มองออกมาหน้าบ้านจะเห็นที่จอดรถ ไม่ได้เห็นสวนเหมือนแบบ Stella จะต้องดูสวนทางด้านข้างบ้านและหลังบ้านแทน
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับสเปซโถงกลางที่สามารถมานั่งเล่น พักผ่อน พูดคุยกันในครอบครัวได้ ตัวโถงบันไดของแบบ Esther จะแกรนด์กว่าแบบ Stella พื้นที่ห้อง Master Bedroom จะอยู่แยกคนละฝั่งกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง โดยใน Master Bedroom จะได้ Walk-in Closet ขนาดค่อนข้างใหญ่ และเก็บของต่างๆ ได้เยอะ ส่วนห้องนอนขนาดกลางที่อยู่ติดหน้าบ้านจะได้สเปซห้องหน้ากว้าง ซึ่งความกว้างหน้าห้องนั้นมากกว่า Master Bedroom ซะอีก
บ้านตัวอย่างที่โครงการ เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์ ตกแต่งไว้จะมีเฉพาะแบบใหญ่ คือ Esther ส่วนบ้านเปล่าก็จะมีทั้ง 2 แบบ แต่ตอนที่ผมเข้าไปรีวิว บ้านเปล่าได้ดูแค่แบบ Esther เพราะหลังเล็กยังไม่เรียบร้อยดี สเปซภายในบ้านฝ้าเพดานจะสูง 2.6 เมตร ส่วนฝ้าห้องน้ำสูง 2.4 เมตร ครับ
บ้านตัวอย่าง The City สุขสวัสดิ์
แบบ Esther
เดินเข้ามาในบ้านเลย สเปซจะดูค่อนข้างโล่ง ด้านข้างตรงบริเวณส่วนรับประทานอาหารมีแสงธรรมชาติเข้ามาด้วย
มองย้อนกลับออกไปทางด้านหน้าครับ
มองจากทางเดินตรงหน้าบันได เมื่อวางโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารแล้ว ก็ยังมีทางเดินเหลือกว้างอยู่ สบายๆ ครับ
เดินเข้าไปดูข้างในกันต่อ
สเปซในส่วนห้องครัว จะเป็นครัวปิด มีประตูเปิดออกไปทางลานซักล้างด้านหลังบ้าน
ห้องน้ำที่อยู่ติดกัน ระบายอากาศได้จากด้านนอก สเปซกว้างดี
ด้านในสุดถัดจากห้องน้ำ จะเป็นห้องนอนเล็ก ห้องนอนเล็กนี้จะมองเห็นวิวสวนจากด้านข้างบ้าน และด้านหลังบ้าน ส่วนทางด้านหน้าบ้านจะติดที่จอดรถ
ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 ต่อครับ
ที่โถงบันได มีหน้าต่างให้แสงเข้ามาได้ มองออกไปจะเห็นแผงเหล็กฉลุลายตกแต่งอยู่ เวลาแสงสาดเข้ามาก็จะเกิดเงาด้านในโถงครับ (ผมถ่ายรูปมาให้ดูด้วยในส่วนของวัสดุ)
มุมมองตรงโถงทางเดินกลาง จากหน้าห้องนอนเล็ก 2 ห้อง
มุมนี้มองจากหน้าห้องนอนใหญ่ครับ
พาเข้ามาใน Master Bedroom กัน มีระเบียงออกไปด้านนอกได้
ระเบียงกว้างประมาณ 70 ซม.
ด้านในจะทำเป็นพื้นที่ของ walk-in closet ได้
พื้นที่ตู้เสื้อผ้าก็เยอะพอสมควร คุณผู้หญิงคงไม่มีปัญหาในการเก็บเสื้อผ้า
ในห้องน้ำ master bedroom
ห้องน้ำด้านนอก การตกแต่งก็จะแตกต่างออกไป
มาดูกันที่ห้องนอนไซส์กลางด้านหน้าบ้านครับ ในบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าผนังด้านขวาถูกทุบเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็กด้านหลังกลายเป็นห้องเดียวกัน ซึ่งสามารถทำเพิ่มเติมได้ เพราะโครงสร้างใช้อิฐมวลเบา ไม่ใช่ Precast
ห้องนอนเล็กด้านหลังที่ถูกทุบเชื่อมกัน
บ้านตัวอย่าง เดอะ ซิตี้ สุขสวัสดิ์
บ้านเปล่า (แบบ Esther)
เสร็จแล้วตามธรรมเนียมก็ต้องพาไปดูบ้านเปล่ากันครับ
บ้านหลังที่เข้าไปดูเป็นยูนิตที่พร้อมส่งมอบแล้ว เลยจะคลุมพลาสติกเอาไว้เพื่อความเรียบร้อยก่อนถึงมือลูกค้า เลยไม่ต้องงงว่าทำไมพื้นในรูปดูมันๆ แปลกๆ เราจะเห็นว่าด้านในตรงส่วนรับประทานอาหาร มีหน้าต่างให้แสงเข้ามาทั้งด้านข้างและด้านหลังเลย ทำให้สเปซส่วนนี้ดูโล่ง
มองกลับไปทางส่วนรับแขก สเปซตรงหน้าบันไดถ้าไม่เปิดไฟก็จะมืด
ส่วนรับแขกและรับประทานอาหารนี่แสงเข้าได้เยอะดี
มาที่โถงทางเดินเข้าไปยังครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กด้านล่าง ทางซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน
ขึ้นมาอยู่กันที่โถงด้านบน ซึ่งเป็นสเปซส่วนพักผ่อนอีกจุดนึง
ทางเดินไปเข้าห้องนอนเล็ก ลืมบอกไปว่าภายในบ้านบุวอลล์เปเปอร์ให้ทั้งหลัง ทั้งชั้นบนและชั้นล่างนะครับ
เข้ามาใน Master Bedroom
ส่วน Walk-in Closet มีหน้าต่างเล็กๆ ด้านหลังพอให้แสงเข้ามาได้
ห้องนอนเล็กด้านหน้าบ้าน แสงเข้ามาได้ทั้ง 2 ด้าน ห้องนี้ไม่มีระเบียงนะ
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
บ้านโครงการ The City สุขสวัสดิ์ จะให้เป็นบ้านเปล่า พร้อมวัสดุ finishing โดยภาพรวมเมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ผมชอบที่บานกรอบหน้าต่าง uPVC กันเสียงได้ค่อนข้างดี จากที่ไปลองทดสอบมา เปิด-ปิด ดูระหว่างที่มีเสียงก่อสร้างด้านนอก ถือว่าป้องกันได้ดีพอสมควร ดีเทลโดยรวมโอเค ห้องน้ำได้กระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ดูกว้างขึ้น ราวบันไดดูมีดีเทลตั้งใจทำดี ส่วนที่ไม่ชอบคือประตูห้องภายในบ้านที่ดูจะเป็นไม้อัดธรรมดาไปหน่อย นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ผมแยกวัสดุเป็น 3 ส่วน เพื่อให้เห็นภาพกันชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ
วัสดุห้องครัว
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาขายวันที่เข้าไปรีวิว (4 พ.ย. 59) ราคาเริ่มต้นของแบบ Stella อยู่ที่ 6.99 ล้านบาท ส่วนแบบ Esther อยู่ที่ 7.90 ล้านบาท ที่ดินเพิ่มลดราคาจากแปลงมาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 87,000 บาทต่อตารางวา ถ้าเทียบบ้านแปลงมาตรฐานเหมือนกัน ราคาของสองแบบนี้จะต่างกันอยู่ประมาณ 9 แสนบาท ผมหยิบราคามาให้ดูกันทั้ง 2 แบบ
ราคา ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
ราคาเริ่มต้น :
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน พื้นที่ 169.61 ตร.ม. ที่ดิน 50.70 ตร.วา ราคา 6.99 ล้านบาท
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน พื้นที่ 185.92 ตร.ม. ที่ดิน 52.70 ตร.วา ราคา 7.90 ล้านบาท
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
แล้วแต่ยูนิต หากสร้างเสร็จแล้วไม่ต้องผ่อนดาวน์
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่าจดจำนอง 1%
ค่าธรรมเนียมโอนผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง (ฝ่ายละ 1%)
ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา
ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
ค่าอากร
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน ราคา 6.99 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 39,549 บาท/เดือน
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน ราคา 7.90 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 44,697 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน ราคา 6.99 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 42,248 บาท/เดือน
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน ราคา 7.90 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 47,748 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน ราคา 6.99 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 46,651 บาท/เดือน
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน ราคา 7.90 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 52,724 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน ราคา 6.99 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 54,506 บาท/เดือน
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน ราคา 7.90 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 52,724 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
แบบ Stella แปลงมาตรฐาน ราคา 6.99 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 71,048 บาท/เดือน
แบบ Esther แปลงมาตรฐาน ราคา 7.90 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 80,297 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
โซนทุ่งครุที่โครงการ The City สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่เป็นย่านชุมชนที่อยู่กันมานาน ความหนาแน่นและคึกคักพอสมควร ทำให้มีรถโดยสารสาธารณะอย่างรถเมล์หรือรถสองแถววิ่งให้บริการอยู่ตลอด ด้านหน้าโครงการก็มีป้ายรถประจำทางอยู่
สำหรับการขับรถเอง ถ้าต้องการไปออกถนนสุขสวัสดิ์ สามารถใช้ซอยประชาอุทิศ 69 ไปทะลุซอยสุขสวัสดิ์ 64 ได้ หรือจะใช้ซอยประชาอุทิศ 75 เพื่อไปออกที่ซอยสุขสวัสดิ์ 70 ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องออกทางเส้นประชาอุทิศอย่างเดียวถ้ารถติด หากใช้ทางด่วนสามารถวนไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อเชื่อมกับทางด่วนขั้นที่ 2 ในเมืองได้ หรือถ้าจะอ้อมไปทางพระราม 3 ก็สามารถใช้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรมที่ขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์ได้เช่นกัน หรือถ้าหากต้องการจะออกถนนพระราม 2 ก็ใช้เส้นพุทธบูชา ครับ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
เรื่องโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ในโซนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในอนาคตอันใกล้ ตามแผนเท่าที่มีก็เป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งก็คงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร โดยแนวของรถไฟฟ้าจะวิ่งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ มีสถานีราษฎร์บูรณะอยู่ตรงปากซอยประชาอุทิศตัดกับสุขสวัสดิ์ ระยะทางจากโครงการประมาณ 4.5 กิโลเมตร หรือจะไปยังสถานีพระประแดง ที่อยู่ใกล้กับสุขสวัสดิ์ 62 ก็มีระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร พอกัน การเติบโตของพื้นที่นี้ก็เป็นลักษณะของที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นแนวราบ ส่วนถ้าบริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธุนบุรี ก็จะมีโครงการคอนโด low-rise ขึ้นกันอยู่พอสมควร แต่เป็นในกลุ่มราคาไม่แพงนัก
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ตัวงานสถาปัตยกรรมของ The City สุขสวัสดิ์ เป็นคอนเซ็ป Modern Moroccan ตัวบ้านเป็นรูปแบบโมเดิร์นตามปกติ แต่มีองค์ประกอบตกแต่ง เช่น แผงเหล็กฉลุลาย ช่วยทำให้ตัวบ้านดูซอฟลง โทนสีน้ำตาลทำให้ดูอบอุ่นดี การจัดวางองค์ประกอบและสัดส่วนต่างๆ ของหน้าตาบ้านได้ดูโอเค การใช้ผนังยื่นและระนาบในแนวนอนมาตกแต่ง ช่วยทำให้ตัวบ้านดูไม่ทึบตันเป็นก้อน คุมโทนภาพรวมของงานดีไซน์ได้
การวางแปลนของ The City Suksawat โดยภาพรวมทำออกมาได้ดีนะครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ สเปซส่วนใหญ่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ ห้องน้ำติดด้านนอกหมดทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องความอับชื้นด้วย ตัวแบบ Stella แปลนจะมีสัดส่วนหน้ากว้างและความลึกของตัวบ้านพอๆ กัน ส่วนแบบ Esther จะเน้นไปที่ความกว้างของหน้าบ้าน ส่วนความลึกของที่ดินจะตื้นกว่าแบบ Stella ฟังก์ชั่นมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถเหมือนกัน แบบ Esther จะมีพื้นที่โถงตรงชั้น 2 เพิ่มเข้ามา เรื่องที่คอมเมนท์ของแบบ Stella ก็เป็นเรื่องห้องเก็บของใต้บันไดที่ดูน้อยไปหน่อย
บ้านในโครงการ The City สุขสวัสดิ์ จะได้บ้านเปล่า พื้นลามิเนต, ก่อเคาน์เตอร์ครัวและมีบานตู้ให้, ห้องน้ำสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็น Kohler ได้กระจกบานใหญ่ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้, กรอบประตูหน้าต่างภายนอกเป็น uPVC ที่หน้าตัด (Section) ค่อนข้างใหญ่ กันเสียงได้ดี มีระบบไฟของ Gratia และก็มีส่วนตกแต่งเป็นเหล็กฉลุที่ออกแบบเป็นแพทเทิร์นมาจากลายเรขาคณิต ติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง ภาพรวมของสัมผัสวัสดุในโครงการโอเคเกือบหมด แต่บานประตูไม้อัดภายในบ้านดูธรรมดาไปหน่อย
พื้นที่ส่วนกลางเรียกว่า The City Club มีคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ลึก 1.2 ม. กั้นแยกส่วนสระเด็กให้ และมีสวนตรงข้ามกับคลับเฮ้าส์ ลักษณะการดีไซน์ของคลับเฮ้าส์เป็นโทนสีขาวทั้งหมด ใช้กระเบื้องหินอ่อนเพื่อให้ดูหรูหราขึ้น และมีแผง Perforated Metal ครอบด้านบน ช่วยในเรื่องของการสกรีนแดดที่จะเข้ามาในฟิตเนส และได้ในเรื่องเอฟเฟกแสงเงาเวลาแดดส่องเข้ามา ภาพรวมก็สวยงามดี มีจุดคอมเมนท์ตรงที่ผมมองว่าสระว่ายน้ำนั้นดูโจ่งแจ้งไปหน่อย คิดว่าถ้ามีแนวของต้นไม้มาช่วยสกรีนสายตาบ้างก็น่าจะใช้งานได้ดีขึ้นในแง่ privacy แม้ว่าจะทำให้ตัวคลับเฮ้าส์ดูไม่แกรนด์เท่ากับการเปิดโล่งก็ตาม ส่วนเรื่องความหนาแน่น เนื่องจากมีแค่ 70 ยูนิต ก็เลยใช้งานกันสบายๆ ไม่มีปัญหาครับ สวนสาธารณะที่ทำมาก็สวยงามบรรยากาศดีดีเทียว
Link ลงทะเบียน รับส่วนลดและโปรโมชั่นจากโครงการ สูงสุด 100,000 บาท >> คลิกที่นี่
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy