รีวิวนี้เราย้ายโซนไปดูโครงการแถวบางใหญ่กันบ้างครับ ไม่ได้มาดูบ้านโซนแถวนี้นานแล้วตั้งแต่รถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดทำการใหม่ๆ บทความนี้ผมเลยจะพาเพื่อนๆ ไปรีวิวกันที่โครงการบ้านเดี่ยว The City บางใหญ่ ของทาง AP ซึ่งโดยปกติแล้วแบรด์ The City จะเป็นแบรนด์บนสุดของ AP ในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับกลาง (ไม่ได้ไปนับรวมพวกโครงการพรีเมี่ยมในตลาดบนนะครับ) ด้วย Positioning ของแบรนด์แล้ว โครงการ The City บางใหญ่ จะอยู่สูงกว่า MIND และ Centro ตามลำดับ ซึ่งวันนี้ผมก็จะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกกันที่โครงการ The City บางใหญ่ ครับ
โครงการนี้อยู่ในซอยคลองถนน ซึ่งเป็นบริเวณปลายสุดของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ นั่นเอง รายละเอียดเป็นอย่างไร ค่อยๆ ตามอ่านกันไป ผมจะเล่าให้อ่านกันในทุกแง่มุมครับ ^___^
ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ
The City Bangyai
(เดอะ ซิตี้ บางใหญ่)
- เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยคลองถนน อ.บางใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่
- ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 29-3-38.87 ไร่
- ประเภท >>> บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- จำนวนหลัง >>> 133 ยูนิต
- พื้นที่ใช้สอย >>>
- แบบ Vanda (แวนดา) – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 169.61 ตารางเมตร
- แบบ Kathaleeya (แคทลียา) – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 185.92 ตารางเมตร
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> (ราคา ณ วันที่ 4/11/2016)
- แบบ Vanda – ที่ดินเริ่มต้น 50.60 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท
- แบบ Kathareeya – ที่ดินเริ่มต้น 52.70 ตร.วา ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท
- พิกัด GPS >>> 13.890910, 100.388269
- เว็ปไซต์โครงการ >>> The City บางใหญ่
- ติดต่อโครงการ >>> 1623
.
ในซอยคลองถนนที่ผมเล่าไม่เมื่อกี้ เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ครับ พื้นที่เดิมนั้นพัฒนามาจากการเป็นทุ่งนา และสวนของคนท้องถิ่น แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ไม่ห่างจากฮับใหญ่ของพื้นที่ตรงสามแยกบางใหญ่มากนัก ทำให้คนมาอยู่อาศัยกันตรงนี้เยอะขึ้น ซึ่งซอยคลองถนนเองนี้เอาจริงๆ ถ้าเราขับรถไปเรื่อยๆ สัก 17-18 กิโลเมตร เราก็จะไปทะลุด้านหลังของ ม.มหิดล ศาลายาได้เลยทีเดียว
ตัวสถานี MRT คลองบางไผ่ นั้นอยู่ห่างจากปากซอยคลองถนนเป็นระยะทางประมาณ 270 เมตร ถ้านับรวมระยะทางเข้ามาจนถึงหน้าโครงการก็ประมาณ 2.8 กิโลเมตร ครับ ซึ่งถ้าใช้รถไฟฟ้าเดินทางแล้วให้คนที่อยู่บ้านในโครงการขับรถไปรับไปส่งที่สถานี ก็คงใช้เวลาไม่มากนัก
(สามารถกดที่แผนที่เพื่อดูภาพขยายได้เลย)
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
วันนี้ผมเดินทางโดยใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก ขับตรงมาเรื่อยๆ ขึ้นสะพานยกระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษกตรงหน้าเซ็นทรัล เวสต์เกต จากนั้นก็วนเบี่ยงซ้ายลงตามทางเพื่อเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก (ฝั่งขาออกไปสุพรรณบุรี) จากนั้นให้เราตรงไปสักพัก พอผ่านโชว์รูมโตโยต้า ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยคลองถนน ซึ่งตรงปากซอยจะสังเกตุยากหน่อย สำหรับคนที่ไม่คุ้นกับพื้นที่ พอเลี้ยวเข้าซอยมาแล้วก็ให้ตรงไปอย่างเดียว ตัวทางเข้าโครงการ The City บางใหญ่ จะหลบเข้าไปในซอยหน่อย ให้ลองมองหาป้ายของโครงการไพร์มเพลส ที่อยู่ก่อนถึง The City เป็นจุดสังเกตแทน พอเห็นแล้วก็เตรียมชลอรถเพื่อเลี้ยวเข้าซอยไปยังโครงการได้เลยครับ
บริเวณโซนสามแยกบางใหญ่นั้นเป็นจุดที่คึกคักที่สุดในย่านนี้ครับ เต็มไปด้วยศูนย์การค้าทั้งแบบ Shopping Mall อย่าง Central Plaza Westgate และแบบ Hyper Market อย่าง Big C Extra บางใหญ่ ที่เราขับรถผ่านกันมาเมื่อสักครู่ นอกจากนั้นก็ยังมี HomePro บางใหญ่, Index Living Mall บางใหญ่, The Square รวมไปถึงมีโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางใหญ่ ที่อยู่ติดกับ HomePro ด้วย
ในซอยคลองถนนนั้นก็มีรถผ่านเข้าออกอยู่ตลอด เนื่องจากเป็นโซนหมู่บ้านจัดสรรมากมายหลายโครงการ ทั้งดีเวลลอปเปอร์เจ้าเล็กเจ้าใหญ่
บริเวณใกล้กับโครงการก็มีร้านสะดวกซื้อและตลาดอำนวยความสะดวกอยู่ครับ ซอยที่โครงการอยู่นั้นชื่อว่าซอยสองพี่น้อง เป็นซอยตัน ซึ่งไปสุดตรงที่ดินโครงการพอดี ใกล้กับปากซอยมี Lotus Express (หมายเลข 3) อยู่ ซึ่งด้านหน้ามีที่จอดรถอยู่ ด้านในก็เป็นร้านใหญ่พอสมควร สามารถหาข้าวของเครื่องใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ ติดกันจะเป็นร้านอาหารชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวป้าเหน่ง (หมายเลข 4) ตอนที่ไปทำรีวิวนี่ก็แวะกิน มีอาหารหลากหลาย ไม่ได้มีเฉพาะก๋วยเตี๋ยว รสชาติก็อร่อยใช้ได้ทีเดียว
เลยจากโครงการไปหน่อย จะมี 7-Eleven (หมายเลข 5) ซึ่งถัดไปจะเป็นตลาด เปิดขายช่วงเย็นๆ ชาวบ้านแถวนี้เรียกว่าตลาดสันติสุข (หมายเลข 6) ตรงลานด้านหน้าตลาดช่วงเย็นๆ จะมีรถเข็นขายอาหารต่างๆ มาตั้งร้านกัน เลิกขายก็ประมาณ 3 ทุ่ม เรียกว่าพอจะฝากท้องกันได้ หรือถ้าจะย้อนมาอีกทางหนึ่ง ก็จะมี CP Fresh Mart (หมายเลข 7) ซึ่งใกล้ๆ กันมีร้านกาแฟเล็กๆ และร้านล้างรถอยู่ด้วย ฝั่งตรงข้ามกับ CP Fresh Mart เป็นหมู่บ้านทิพย์พิมาน ของบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นโครงการของดีเวลลอปเปอร์รายย่อยในโซนนนทบุรี พัฒนามาเป็นหลายสิบปีแล้ว
ที่ตัวโครงการถ้าดูจากกราฟิกที่ผมทำมาให้ จะเห็นว่ามีที่ดินด้านข้าง (หมายเลข 1) ยังเป็นที่ว่างอยู่ ซึ่งที่ดินนี้เป็นของทาง AP เช่นกัน แต่ไม่ได้เอามาพัฒนาเป็นโครงการ The City บางใหญ่ ส่วนด้านหลังก็จะเป็นที่ดินเปล่า (หมายเลข 2) ครับ ด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันออกจะมีหมู่บ้านไพร์มเพลส (หมายเลข 10) ซึ่งขายหมดปิดโครงการไปแล้ว แต่รั้วก็จะไม่ได้ติดกันโดยตรง มีซอยเล็กๆ กั้นอยู่
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ดูแผนที่ไปแล้ว ผมจะพาสำรวจพื้นที่รอบโครงการกันอีกครั้งก่อนจะเข้าไปที่สำนักงานขายกัน
เราขับรถวนออกไปทางปากซอยกันบ้างครับ
ออกมาดูกันบนถนนกาญจนาภิเษกหน่อย
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
น่าจะพอรู้รายละเอียดพื้นที่รอบๆ กันแล้ว เข้าไปโครงการกันดีกว่าครับ
ทางเข้าด้านหน้าจะเห็นวงเวียน จะเข้า The City บางใหญ่ ก็เลี้ยวซ้ายไปได้เลย ด้านขวาที่เห็นเป็นทางเข้าของที่ดินเปล่าด้านข้างของ AP ครับ คงจะเตรียมเอาไว้ทำโครงการอื่นต่อไป
ซุ้มทางเข้าด้านหน้า สวยงามใช้ได้
ดีไซน์หนึ่งที่สะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้า ก็คือลายฉลุนี่แหละครับ โครงการได้แรงบันดาลใจมาจาก “ดอกกล้วยไม้” เนื่องจากพื้นที่โซนบางใหญ่เดิมเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกกล้วยไม้มากเป็นอันดับต้นๆ ดูแล้วก็น่ารักดีนะครับ
เลี้ยวเข้ามาในโครงการเลย
มาที่ Sale Gallery กัน
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
ส่วนกลางของโครงการ The City Bangyai ก็มีสวนสาธารณะ และคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบขอบน้ำล้น ขนาด 7.3 x 20 เมตร แยกสระเด็กให้ มีฟิตเนส โดยตัวคลับเฮ้าส์จะอยู่ลึกเข้าไปในที่ดินของโครงการ ทำให้ระยะการเข้าถึงของบ้านแต่ละหลังไม่แตกต่างกันมาก บ้านหลังที่อยู่ด้านในสุดของโครงการเดินมาคลับเฮ้าส์ระยะทางจะพอกันกับบ้านที่อยู่ด้านหน้าโครงการ แต่บ้านด้านหน้าโครงการจะได้เปรียบหน่อยก็ตรงที่มีสวนเป็นพื้นที่สีเขียวเพิ่มอีกจุดหนึ่งด้วย เทียบขนาดพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกับจำนวนยูนิต 133 ยูนิต ก็ถือว่าสบายๆ ไม่หนาแน่นครับ
เปิดแปลนบ้าน
บ้านในโครงการ The City Bangyai จะมี 2 แบบ ซึ่งก็ตั้งชื่อแบบบ้านเป็นชื่อดอกกล้วยไม้ทั้งหมด มีแบบ Vanda และ Kathaleeya ซึ่งฟังก์ชั่นหลักจะคล้ายกัน คือ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แต่แบบ Kathaleeya จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า และหน้าบ้านจะกว้างกว่าครับ
- แบบ Vanda – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ใช้สอย 169.61 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 50.70 ตารางวา - แบบ Kathaleeya – 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ใช้สอย 185.92 ตารางเมตร ที่ดินมาตรฐาน 52.70 ตารางวา
แปลนบ้าน The City Bangyai
แบบบ้าน Vanda
ในแปลนบ้านที่ได้มา ชั้นบนกับชั้นล่างจะเป็นคนละสเกลกันนะครับ .. เข้าในรั้วบ้าน ที่จอดรถจะอยู่ใต้ห้องนอนชั้น 2 ที่ช่วยบังแดดให้ ทางเข้าจะอยู่ทางหน้าบ้านตรงสเปซส่วนรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ด้านข้างจะมีห้องนอนเล็กต่อยื่นออกไปในสวน ทำให้มีสวนล้อมรอบห้องนี้ ถ้ามีผู้สูงอายุที่เดินขึ้นลงบันไดไม่ไหว ก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนได้ ส่วนห้องครัวจะอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นพื้นที่ครัวปิด มีสเปซด้านหน้าห้องครัวพอจะทำเคาน์เตอร์บาร์สวยๆ ได้ ในห้องครัวจะมีประตูออกไปลานซักล้างหลังบ้านด้วย
ตำแหน่งบันไดจะอยู่ด้านข้างของตัวบ้าน วนขึ้นไปชั้น 2 แล้วเป็นโถงเล็กๆ เพื่อเข้าห้องนอนแต่ละห้อง ด้านหน้าบ้านจะเป็นห้อง Master Bedroom และห้องนอนขนาดกลาง ซึ่งขนาดของความกว้างห้องไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่ Master Bedroom จะมีความลึกห้องมากกว่า และมีส่วนของ walk-in closet อยู่ด้วย ส่วนด้านหลังบ้านจะมีห้องนอนเล็ก และห้องน้ำ 2 ห้อง ส่วนห้องนอนเล็กขนาดจะจำกัดหน่อย พื้นที่ไม่มากนัก ชั้นบนนี้จะมีระเบียงเฉพาะในส่วนของ Master Bedroom เท่านั้นครับ
.
โทนสีของบ้านจะใช้สีเทาเป็นหลัก โดยรวมผมคิดว่าให้น้ำหนักสีเทาอ่อนและเทาเข้มได้ดีครับ องค์ประกอบสถาปัตยกรรมที่เป็นส่วนผนังยื่นออกมาจากตัวบ้าน อย่างเช่น เสาครีบ, คานยื่น ก็ช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้น ไม่ตันเป็นก้อนๆ
ในส่วนของที่จอดรถ ประตูเล็กๆ ที่เห็นเป็นห้องเก็บของใต้บันได
องค์ประกอบตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ แบบระแนงยื่นในรูป ก็ช่วยทำให้ตัวบ้านดูมีลูกเล่นมากขึ้น
พื้นที่สวนหน้าบ้าน
ห้องนอนเล็กด้านล่าง จะยื่นออกมาในสวนแบบนี้ เห็นสวนได้จากทั้ง 3 ด้านเลย
ด้านข้างของตัวบ้าน ในส่วนของโครงสร้างคลุมที่จอดรถที่ยื่นออกมา ช่วยให้เวลามองแล้วดูตัวบ้านไม่ทึบตันเป็นก้อนๆ ครับ
.
แปลนบ้าน The City Bangyai
แบบบ้าน Kathaleeya
แบบบ้าน Kathaleeya นี้ถ้านับพื้นที่ของบ้านจริงๆ แล้วจะมากกว่าแบบ Vanda แค่ประมาณ 16 ตารางเมตร แต่ถ้ามองด้านหน้าจะรู้สึกว่าบ้านใหญ่กว่าพอควร เนื่องจากลักษณะของการวางแปลนให้ตัวบ้านเป็นแบบหน้ากว้าง และไม่ลึกมาก ซึ่งก็แน่นอนว่าขนาดการแบ่งแปลงที่ดินก็จะแตกต่างกันออกไป
การแบ่งสเปซภายในบ้าน จะเอาบันไดไว้ตรงกลางบ้าน และแบ่งสเปซออกเป็นด้านซ้ายและขวา มีทางเข้าบ้าน 2 ทาง คือ ด้านหน้าตรงส่วนพื้นที่รับแขก และทางเข้าจากด้านในโรงจอดรถ ที่เข้ามาตรงห้องครัวเลย สเปซที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ฝั่งหนึ่งจะทำเป็นพื้นที่รับแขกและรับประทานอาหาร ส่วนอีกฝั่งเป็นห้องนอนเล็กชั้นล่าง ซึ่งห้องนอนชั้นล่างในแบบนี้มองออกมาหน้าบ้านจะเห็นที่จอดรถ ไม่ได้เห็นสวนเหมือนแบบ Vanda จะต้องดูสวนทางด้านข้างบ้านและหลังบ้านแทน
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับสเปซโถงกลางที่สามารถมานั่งเล่น พักผ่อน พูดคุยกันในครอบครัวได้ ตัวโถงบันไดของแบบ Kathaleeya จะแกรนด์กว่าแบบ Vanda พื้นที่ห้อง Master Bedroom จะอยู่แยกคนละฝั่งกับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง โดยใน Master Bedroom จะได้ Walk-in Closet ขนาดค่อนข้างใหญ่ และเก็บของต่างๆ ได้เยอะ ส่วนห้องนอนขนาดกลางที่อยู่ติดหน้าบ้านจะได้สเปซห้องหน้ากว้าง ซึ่งความกว้างหน้าห้องนั้นมากกว่า Master Bedroom ซะอีก
.
มาดูตัวบ้านจริงกันครับ จะเห็นว่าหน้าบ้านกว้าง การออกแบบนั้นก็ใช้องค์ประกอบเส้นตั้งและเส้นนอนต่างๆ ช่วยให้ตัวบ้านไม่ดูหนาหนักเป็นก้อนๆ
เห็นแนวเส้นกรอบสีเทาที่ใช้ตกแต่งส่วนจอดรถไหมครับ ตรงนี้ช่วยทำให้ตัวบ้านดูมิติมากขึ้น และลดทอนสเกลลงได้
ทางเข้าหลักของบ้าน มีคานเหล็กตกแต่งลอยอยู่เหนือศรีษะ ช่วยในการเน้นสเปซ
แหงนหน้ามองด้านบนกันซะหน่อย ภาพรวมผมว่าสัดส่วนโอเคครับ ทางซ้ายมือที่เห็นเป็นกรงเหล็กฉลุ ก็เป็นลวดลายที่ออกแบบมาจากดอกกล้วยไม้ เป็นกิมมิคที่เอามาใส่ในบ้านทุกหลังของโครงการครับ
ในส่วนที่เป็นผนังทึบก็ใช้การเซาะร่องผนัง สร้างแพทเทิร์นลวดลายต่างๆ บนตัวบ้าน ไม่ให้มันเรียบเกินไป
บ้านตัวอย่าง The City บางใหญ่
แบบ Kathareeya
เปิดประตูบานเลื่อนเข้ามา จะเห็นสเปซทะลุโล่งไปจนถึงด้านหลังบ้าน ซึ่งด้านหลังและด้านข้างก็มีหน้าต่าง ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้ง 2 ด้านครับ
มองเข้าไปตรงทางเดินในตัวบ้าน บ้านตัวอย่างจะทำส่วนครัวโปร่งเป็นผนังกระจก แต่ของจริงจะเป็นผนังทึบครับ ซึ่งถ้าอยากจะทำเพิ่มเติมก็สามารถปรับได้ เพราะโครงสร้างตัวบ้านเป็นผนังอิฐมวลเบา ไม่ใช่ precast สามารถทุบต่อเติมได้
มองกลับไปทางส่วนรับแขก
มาที่ทางเดินเข้าไปห้องนอนเล็กด้านล่างครับ
มีห้องน้ำซึ่งระบายอากาศออกด้านนอกได้ด้วยหน้าต่างบานกระทุ้ง ซึ่งการที่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาก็จะช่วยในเรื่องของความอับชื้นให้หมดไป ส่วนพื้นที่อาบน้ำไม่มีฉากกั้นให้นะครับ
ภายในห้องนอนเล็กด้านล่าง
แว๊บออกมาดูพื้นที่สวนด้านข้างบ้าง ใครมีไอเดียก็สามารถดัดแปลงทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ แบบ outdoor ได้บรรยากาศดีเหมือนกัน
ขึ้นไปที่ชั้น 2 กันครับ โถงบันไดจะมีช่องแสงเข้ามาจากทางหน้าบ้าน ทำให้ไม่ทึบ
พอขึ้นมาปุ๊ป ก็จะเจอกับสเปซโถงกลาง ที่เอาไว้นั่งเล่น พักผ่อน หรือทำกิจกรรมในครอบครัวได้อีกจุด นอกจากส่วนรับแขกด้านล่าง วางทีวีอีกเครื่องไว้ตรงนี้จะได้ไม่ต้องแย่งกันดู ^^
มองกลับไปที่โถงบันไดครับ เอาโคมสวยๆ สักอันมาติดเพิ่มก็ไม่เลวทีเดียว
ถ่ายให้ดูตรงบันไดที่เราเพิ่งขึ้นมา
เข้ามาภายใน Master Bedroom ในห้องจะมีระเบียงออกไปหน้าบ้านด้วย
มองกลับไปอีกทาง จะมีทางเข้า Walk-in Closet และเข้าห้องน้ำจากตรงนั้น
เสร็จแล้วเราเดินผ่านโถงกลางไปดูห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งฝั่งกันบ้างครับ
จะผ่านห้องน้ำด้านนอก ที่ขนาดเท่ากับห้องน้ำชั้นล่างเลย สามารถระบายอากาศออกด้านนอก และได้แสงธรรมชาติด้วยเช่นกัน
เข้ามาดูกันในห้องนอนเล็กด้านหน้าครับ ห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้างอย่างที่เล่าไปแล้ว
มองกลับไปยังฝั่งประตูที่เราเข้ามา
มาถึงห้องนอนเล็กสุดห้องสุดท้ายครับ ถ้ามีลูกคนเดียว ห้องนี้จะดัดแปลงเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้ ในบ้านตัวอย่างทำไว้ให้ดูเป็นไอเดีย
จบท้ายกันด้วยภาพทางเดินกลางที่เชื่อมห้องนอนทั้ง 3 ห้อง บนชั้น 2 เข้าด้วยกันครับ
บ้านตัวอย่าง เดอะ ซิตี้ บางใหญ่
บ้านเปล่า (แบบ Kathareeya)
มาดูบ้านเปล่ากับสักหน่อย จะได้เห็นพื้นที่ของบ้านจริงที่ยังไม่ได้ตกแต่งครับ เข้ามาส่วนนี้จะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ด้านข้างจะเป็นครัวปิด
มองกลับไปอีกฝั่ง ด้านข้างสามารถนำแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้ง 2 ด้าน
ทางเดินเชื่อมไปห้องนอนเล็กชั้นล่าง และบันไดขึ้นชั้น 2
โถงบันไดครับ
ภายในห้องน้ำก็กว้างขวางดี
Master Bedroom
ด้านที่ทำเป็น Walk-in Closet
ห้องนอนเล็กด้านหน้าบ้าน
บ้านตัวอย่าง The City บางใหญ่
แบบ Vanda
เข้าบ้านกันเลยครับ แบบนี้ไม่มีบ้านตกแต่ง มีเฉพาะบ้านเปล่าให้ชมกัน
เข้ามาก็จะเจอสเปซโล่งแบบนี้ ด้านขวามือที่เห็นเป็นห้องนอนเล็กชั้นล่างครับ ในบ้านจริงจะติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง
อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ครัว
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับทางขึ้นบันไดชั้น 2
ภาพในห้องนอนใหญ่ มีระเบียงออกไปด้านนอก
ห้องนอนเล็กด้านหน้าบ้านครับ
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
บ้านโครงการ The City บางใหญ่ จะให้เป็นบ้านเปล่า พร้อมวัสดุ finishing โดยภาพรวมเมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ผมชอบที่บานกรอบหน้าต่าง uPVC กันเสียงได้ค่อนข้างดี จากที่ไปลองทดสอบมา เปิด-ปิด ดูระหว่างที่มีเสียงก่อสร้างด้านนอก ถือว่าป้องกันได้ดีพอสมควร ดีเทลโดยรวมโอเค ห้องน้ำได้กระจกเงาบานใหญ่ช่วยให้ดูกว้างขึ้น ราวบันไดดูมีดีเทลตั้งใจทำดี ขอติตรงประตูห้องภายในบ้านที่ดูจะเป็นไม้อัดธรรมดาไปหน่อย นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
ผมแยกวัสดุเป็น 3 ส่วน เพื่อให้เห็นภาพกันชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ
วัสดุห้องครัว
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาขายวันที่เข้าไปรีวิว (4 พ.ย. 59) ราคาเริ่มต้นของแบบ Vanda อยู่ที่ 5.39 ล้านบาท ส่วนแบบ Kathaleeya อยู่ที่ 6.29 ล้านบาท ที่ดินเพิ่มลดราคาจากแปลงมตรฐานอยู่ที่ xx,xxx บาทต่อตารางวา ครับ ถ้าเทียบบ้านแปลงมาตรฐานเหมือนกัน ราคาของสองแบบนี้จะต่างกันอยู่ประมาณ 9 แสนบาท ผมหยิบราคามาให้ดูกันทั้ง 2 แบบ
ราคา ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559
ราคาเริ่มต้น :
แบบ Vanda แปลง C02 แปลงมาตรฐาน พื้นที่ 169.61 ตร.ม. ที่ดิน 50.70 ตร.วา ราคา 5,390,000 บาท
แบบ Kathaleeya แปลง B04 แปลงมาตรฐาน พื้นที่ 185.92 ตร.ม. ที่ดิน 52.70 ตร.วา ราคา 6,290,000 บาท
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
แล้วแต่ยูนิต หากสร้างเสร็จแล้วไม่ต้องผ่อนดาวน์
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่าจดจำนอง 1%
ค่าธรรมเนียมโอนผู้ซื้อและผู้ขายชำระคนละครึ่ง (ฝ่ายละ 1%)
ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา
ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
ค่าอากร
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
แบบ Vanda แปลงมาตรฐาน ราคา 5,390,000 บาท ผ่อนประมาณ 30,496 บาท/เดือน
แบบ Kathaleeya แปลงมาตรฐาน ราคา 6,290,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,588 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
แบบ Vanda แปลงมาตรฐาน ราคา 5,390,000 บาท ผ่อนประมาณ 32,577 บาท/เดือน
แบบ Kathaleeya แปลงมาตรฐาน ราคา 6,290,000 บาท ผ่อนประมาณ 38,107 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
แบบ Vanda แปลงมาตรฐาน ราคา 5,390,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,972 บาท/เดือน
แบบ Kathaleeya แปลงมาตรฐาน ราคา 6,290,000 บาท ผ่อนประมาณ 41,979 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
แบบ Vanda แปลงมาตรฐาน ราคา 5,390,000 บาท ผ่อนประมาณ 42,029 บาท/เดือน
แบบ Kathaleeya แปลงมาตรฐาน ราคา 6,290,000 บาท ผ่อนประมาณ 49,047 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
แบบ Vanda แปลงมาตรฐาน ราคา 5,390,000 บาท ผ่อนประมาณ 54,785 บาท/เดือน
แบบ Kathaleeya แปลงมาตรฐาน ราคา 6,290,000 บาท ผ่อนประมาณ 63,933 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ซอยคลองถนนเป็นซอยที่เข้าจากวงแหวนกาญจนาภิเษก และสามารถเชื่อมต่อไปทางตะวันตกได้ไกลถึงศาลายาครับ โดยปกติโซนนี้ก็เน้นขับรถอยู่แล้ว แต่หากวันไหนไม่ได้ขับรถก็สามารถนั่งวินฯ มาใช้รถไฟฟ้าได้ที่สถานีคลองบางไผ่ แต่ต้องเดินออกมาตรงปากซอยสองพี่น้อง ซึ่งบนถนนคลองถนนก็มีรถตู้และรถสองแถววิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆ ถ้านั่งรถตู้สามารถเข้าเมืองไปได้ถึงเชิงสะพานพระปิ่นเกล้าเลยครับ หรือหากจะมาตรงเซ็นทรัล เวสต์เกต ตรงนั้นก็มีรถตู้จอดรับกันตรงป้ายรถเมล์เลยทีเดียว
โดยภาพรวมของการเดินทางแล้วก็ถือว่าไม่ได้ลำบาก มีรถสาธารณะวิ่งอยู่พอควร เนื่องจากเป็นโซนพักอาศัยที่มีคนอยู่กันเยอะ มีหมู่บ้านหลายโครงการ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
โครงสร้างพื้นฐานที่เกิดในโซนนี้ก็เป็นเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดใช้เป็นทางการไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่ได้สร้างอิมแพคให้กับพื้นที่ทางกรุงเทพฯ ตะวันตกได้มากเท่าที่ควร หรือไม่มากเท่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งก็ต้องรอให้คนปรับตัวกันอีกสักระยะครับ ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเข้าเมืองช่วงนี้ก็ยังต้องเสียเวลาไปต่อรถ Shuttle Bus ตรงสถานีเตาปูนอยู่ หากเชื่อมกันกับบางซื่อได้เมื่อไหร่ ก็น่าจะย่นระยะเวลาไปได้อีกและสะดวกขึ้น โดยส่วนตัวผมก็ยังเชื่อว่าหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในโซนนี้ก็ยังใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักอยู่ครับ แง่การเติบโตของพื้นก็คงเป็นไปในทางที่ใช้เป็นโซนพักอาศัย คงไม่ได้โตหวือหวานัก แต่ระยะยาวก็น่าจะโอเค
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ตัวงานสถาปัตยกรรมของ The City บางใหญ่ ก็ทำมาในแบบโมเดิร์นตามสมัยนิยม โดยส่วนตัวผมว่าก็จัดวางองค์ประกอบและสัดส่วนต่างๆ ของหน้าตาบ้านได้ดูลงตัวดี การใช้ผนังยื่นและระนาบในแนวนอนมาตกแต่ง ช่วยทำให้ตัวบ้านดูไม่ทึบตันเป็นก้อน และก็เลือกใช้โทนสีเทาของตัวบ้าน เป็นการคุมโทนภาพรวมของงานดีไซน์ในโครงการได้โอเค อิมเมจภาพรวมงานดีไซน์ดูออกมาเป็นผู้ใหญ่ เนี้ยบๆ แต่ไม่แก่
การวางแปลนของ The City Bangyai โดยภาพรวมทำออกมาได้ดีนะครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ สเปซส่วนใหญ่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ ห้องน้ำติดด้านนอกหมดทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องความอับชื้นด้วย ตัวแบบ Vanda แปลนจะมีสัดส่วนหน้ากว้างและความลึกของตัวบ้านพอๆ กัน ส่วนแบบ Kathaleeya จะเน้นไปที่ความกว้างของหน้าบ้าน ส่วนความลึกของที่ดินจะตื้นกว่าแบบ Vanda ฟังก์ชั่นมี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถเหมือนกัน แบบ Kathaleeya จะมีพื้นที่โถงตรงชั้น 2 เพิ่มเข้ามา เรื่องที่คอมเมนท์ของแบบ Vanda ก็เป็นเรื่องห้องเก็บของใต้บันไดที่ดูน้อยไปหน่อย
บ้านในโครงการ The City บางใหญ่ จะได้บ้านเปล่า พื้นลามิเนต, ก่อเคาน์เตอร์ครัวให้, ห้องน้ำสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็น American Standard ได้กระจกบานใหญ่ แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้, กรอบประตูหน้าต่างภายนอกเป็น uPVC ที่หน้าตัด (Section) ค่อนข้างใหญ่ และก็มีส่วนตกแต่งเป็นเหล็กฉลุที่ออกแบบเป็นแพทเทิร์นมาจากลายดอกกล้วยไม้ ติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง ส่วนตัวรู้สึกว่าบานประตูไม้อัดภายในบ้านดูธรรมดาไปหน่อย นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร
พื้นที่ส่วนกลางที่จะได้มามีคลับเฮ้าส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 7.3×20 ม. และมีสวนอยู่ 2 จุดใหญ่ คือด้านหน้าโครงการและตรงคลับเฮ้าส์ ตำแหน่งของคลับเฮ้าส์วางอยู่ช่วงกลางของที่ดิน ทำให้ระยะการเข้าถึงจากจุดต่างๆ ไม่ห่างกันมากนัก ในเรื่องดีไซน์ของคลับเฮ้าส์ยังไม่เห็นของจริงจึงขอไม่คอมเมนท์มาก แต่ถ้าดูเฉพาะเรื่องความหนาแน่น ก็ถือว่าน่าจะใช้กันได้สบายๆ เพราะโครงการมีแค่ 133 ยูนิต เท่านั้นครับ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy