ศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย เพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมงานเปิดพรีเซลโครงการใหม่ล่าสุด “บ้านดี เดอะแฮมิลตัน กาญจนาภิเษก-บางใหญ่” โครงการทาวน์โฮมคุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ “English Cottage” บนทำเลศักยภาพริมถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย พร้อมเปิดให้จองโครงการในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษเพียง 1.89 ล้านบาท ท่ามกลางผู้สนใจเข้าร่วมเยี่ยมชมโครงการอย่างคับคั่ง ณ สำนักงานขายโครงการ บ้านดี เดอะแฮมิลตัน กาญจนาภิเษก-บางใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับโครงการ XT EKKAMAI (เอ็กซ์ที เอกมัย) คอนโดมิเนียม High Rise สูง 38 ชั้น จากแสนสิริร่วมทุนกับ Tokyu มีทำเลตั้งอยู่ใจกลาง“เอกมัย” ย่านที่โดดเด่นและขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัยระดับไฮเอน เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ฮอตฮิตเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ ตลอดกาล

หากพูดถึง “เอกมัย” หลายคนคงจะนึกถึงถนนที่เต็มไปด้วยคลับบาร์เรียงรายสองฝั่งและชีวิตไนท์ไลฟ์อันครึกครื้นในยามค่ำคืน แต่นอกจากนั้น ในตอนกลางวัน เอกมัยยังเป็นแหล่งรวมออฟฟิศของชาววัยทำงานและเป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้มากมาย จึงทำให้ย่านนี้กลายเป็นอีกหนึ่งย่านยอดฮิตที่รวบรวมสีสันของ lifestyle คนเมืองไว้ วันนี้ YUSABUY จะขอพาไปเปิดมุมมองใหม่ๆ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม ย่านเอกมัยถึงมีเสน่ห์ดึงดูดทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่เคยเปลี่ยน

— สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ >> XT เอกมัย —

ถนนเอกมัย เป็นถนนซอยของถนนสุขุมวิท หรือชื่อจริงๆก็คือ ซอยสุขุมวิท 63 วิ่งตัดเชื่อมจากถนนสุขุมวิท เข้าถึงถนนเพชรบุรี ระหว่างซอยเต็มไปด้วยซอยซอกแซกเชื่อมไปยังซอยต่างๆได้มากมาย หากพูดถึงจุดเด่นของถนนสายนี้ ขอแยกออกมาเป็น 3 ประเด็นหลักๆ ครับ คือ จุดเด่นด้านการเดินทาง, ศูนย์รวมชาวต่างชาติ และ แหล่งรวมไลฟ์สไตล์

เอกมัย กับความสะดวกสบายด้านการเดินทาง

แน่นอนครับว่าการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดสำหรับกรุงเทพฯ คงจะหนีไม่พ้นรถไฟฟ้า และที่หน้าปากซอยเอกมัยเอง ก็มีรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยตั้งอยู่ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้ถือเป็นสายหลักที่วิ่งไปตามถนนสุขุมวิท จะไปสยามหรือไปที่ไหนๆก็เป็นเรื่องง่ายไปหมด

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ภายในถนนเอกมัยก็มีรถสาธารณะให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือแม้แต่ในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ต้องการความคล่องตัว ฝ่ารถติด ก็สามารถเรียกใช้บริการพี่วินได้ ซึ่งมีอยู่เกือบทุกซอย พบเห็นได้ไม่ยากครับ

ส่วนใครที่ใช้รถส่วนตัว ที่ซอยเอกมัยนี้ก็ถือว่าสะดวกครับ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าถนนเส้นนี้วิ่งเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี นอกจากนี้ยังสามารถวิ่งไปถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อไปขึ้นทางด่วนได้ และภายในซอยก็มีเส้นทางให้สามารถลัดเลาะไปยังซอยทองหล่อ และซอยสุขุมวิท 71 ได้หลากหลายเส้นทาง ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีในชั่วโมงเร่งด่วนครับ เพราะย่านที่ฮอตฮิตขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีรถติดบ้างเป็นเรื่องปกติเนอะ

เอกมัย กับศูนย์รวมชาวต่างชาติ

ด้วยความที่เอกมัยเป็นย่าน Hi-end มาแต่ไหนแต่ไร ชาวต่างชาติทุกเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ทราบกันดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นแหล่งทำงาน ท่องเที่ยว กิน ดื่ม พบปะสังสรรค์ ย่านนี้เรียกว่ามีความครบครันและมีความเป็นสากลรองรับการใช้ชีวิตของคนทุกเชื้อชาติ นี่จึงถือเป็นอีกเสน่ห์ที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีอยู่มากมายภายในถนนเอกมัย ไม่เพียงแค่ถูกใจชาวญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังถูกใจคนไทยหลายๆคนด้วยใช่ไหมครับ

นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติมากมาย เช่น Ekamai International School, Bright Skies International School เป็นต้น รองรับลูกหลานชาวต่างชาติและชาวไทยในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

และแม้ว่าบนถนนเอกมัยจะดูจอแจวุ่นวาย แต่หากเข้าไปในซอยย่อยๆกลับพบว่ามีความเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย และหนึ่งในซอยย่อยของถนนเอกมัยก็เป็นที่ตั้งของวัดเกาหลีชื่อว่า วัดฮันมาอึม ซอนวอน ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 6  เห็นมั้ยครับว่าเอกมัยมีความเป็นนานาชาติและมีเสน่ห์มากๆหากได้ลองเข้าไปสัมผัส

เอกมัย กับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดชิค

เอกมัย เป็นย่านที่คึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หากพูดถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ เรียกได้ว่ามีมากมายตั้งแต่ต้นซอยจนถึงท้ายซอย สามารถตอบโจทย์ได้ทุก Life Style ของคนเมืองเลยครับ ผมขอแบ่งย่อยออกเป็น 4 Life Style นะครับ เชื่อว่าแต่ละคนคงมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน หรือบางคนอาจจะมีมากกว่า 1 Life Style ก็ได้

• ไลฟ์สไตล์สายชิวๆ

สายชิวส่วนใหญ่ต้องไม่พลาดแน่กับ Cafe ชิคๆ คูลๆ ที่สามารถไปนั่งเช็คอินถ่ายรูปสวยๆในวันหยุดกันได้ อย่างในเวิ้งโบราณ ที่อยู่ใกล้กับคอนโด XT เอกมัย แบบเดินไปได้ ก็มีหลายร้านให้เลือก เช่น Moola Cafe คาเฟ่ที่มี Breakfast และไอศกรีมโฮมเมดพร้อมเครื่องดื่มหอมกรุ่นเป็นจุดขาย กับอีกร้านนึงชื่อ (UN)FASHION Cafe คาเฟ่ที่ตกแต่งภายนอกดูดิบเท่ด้วยสีของโครงเหล็กสนิมแต่บรรยากาศภายในดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากครับ

ขยับไปอีกนิด ใกล้ๆกับเวิ้งโบราณมี Health Land ถูกใจสายชิวที่ชอบผ่อนคลายด้วยการนวดแน่นอนครับ เพราะที่นี่ให้บริการสปาและนวดหน้า-ตัวแบบครบวงจร มีตั้งแต่นวดตัวด้วยน้ำมันอโรมา, นวดแผนไทย, นวดประคบสมุนไพร ฯลฯ

ส่วนใครชอบความบันเทิงด้วยการดูภาพยนตร์ ก็ออกมาที่ปากซอกเอกมัย มี Major Cineplex ให้บริการอยู่ครับ มานั่งดูหนังชิลๆในวันหยุดได้เลย

สำหรับสายชิวที่อยากสงบจิตสงบใจ แนะนำให้มาที่วัดธาตุทองเลยครับ วัดนี้อยู่ติดกับ BTS เอกมัย เดินลง BTS มาก็สามารถแวะไว้พระขอพรกันก่อนได้

• ไลฟ์สไตล์สาย Shopping

ขาช้อปทั้งหลายที่ชอบหิ้วของมาจากญี่ปุ่น ต่อไปนี้ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบินไปช้อปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วนะ เพราะว่าที่เอกมัยมีห้างดังจากญี่ปุ่นมาเปิด มีชื่อว่า DONKI MALL ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 5 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุไปออกเส้นทองหล่อได้

ภายในห้าง DONKI MALL มีของจากญี่ปุ่นมากมายให้เลือกซื้อ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ ขนมขบเคี้ยว พืชผักผลไม้ ไปจนถึงอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป แต่ที่ไม่ควรพลาดเลยคือมันเผาญี่ปุ่นครับ  ได้ยินเสียงล่ำลือมานาน วันนี้มีโอกาสได้ลองทาน อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆครับ

นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า BIG C เอกมัย ไว้ให้ช้อปของกินของใช้ราคาประหยัดก่อนเข้าบ้าน ซึ่งภายในโซนเดียวกันก็มี Index Living Mall ตั้งอยู่ สามารถช้อปของแต่งห้องโดยไม่ต้องออกไปไหนไกลครับ

หากยังไม่จุใจพอ ตรง BTS เอกมัย มีห้าง Gateway Ekamai เป็นศูนย์การค้าครบวงจร ที่ภายในตกแต่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์แบบญี่ปุ่นครับ สามารถเดินเชื่อมจาก BTS ได้เลย

• ไลฟ์สไตล์สายกินสุดประหยัด

ใครว่าอยู่เอกมัยจะต้องกินแต่ร้านอาหารหรูๆ แพงๆ ไม่จริงเลยครับ เพราะร้านอาหารแบบ Local Street Food ราคาไม่แพงก็ยังมีอยู่ อย่างร้านนี้มีชื่อว่า วัฒนาพานิช ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านเก่าแก่ระดับตำนาน อยู่คู่เอกมัยมาเกินกว่า 50 ปี ได้ป้ายการันตีจากรายการชวนชิมมาแล้วมากมาย เมนูขึ้นชื่อก็เป็นพวก เนื้อตุ๋น แพะตุ๋น สารพัดเนื้อ แต่ถ้าไม่ทานเนื้อ ก็มีเมนูอื่นเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไปครับ (สุกี้ คั่วไก่ ผัดซีอิ๊ว) ทำเลตั้งอยู่เยื้องๆกับโครงการ XT Ekkamai เลยครับ คอก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อีกร้านที่จะแนะนำก็อยู่ใกล้ๆกับร้านเนื้อตุ๋นวัฒนาพานิชเลยครับ มีชื่อร้านว่า น้อมจิตต์ไก่ย่าง เปิดมาหลายสิบปีแล้ว มีทั้งหมด 2 สาขา ที่เอกมัยเป็นสาขาแรก ร้านนี้มีดีที่ไก่ ทั้งไก่เนื้อและไก่บ้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอีสานอื่นๆ เช่น เสือร้องไห้ ส้มตำ ลาบหมู เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนที่ชอบทานอาหารแซ่บๆ แน่นอนครับ

• ไลฟ์สไตล์สายปาร์ตี้

คงไม่ต้องพูดอะไรมาก สำหรับแหล่งแฮงค์เอาท์ปาร์ตี้ในย่านเอกมัย เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ยิ่งแสงอาทิตย์มืดลง แสงสีเสียงจากร้านต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้ขึ้นเป็นทวีคูณ ผับบาร์มีให้เลือกมากมายหลายร้านระรานตา และ 1 ในร้านยอดฮิตคงไม่พ้น ร้านนั่งเล่น เป็นคลับที่ขึ้นชื่ออย่างยิ่งเรื่องดนตรีสดและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์และคลาสสิค ร้านนั่งเล่นนี้มักจะมีคนเต็มร้านอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จึงควรจะจองโต๊ะไว้ก่อน เพื่อจะไม่พลาดความสนุกครับ แต่ถ้าชอบแบบนั่งชิล แนะนำบ้านเพื่อนเอกมัย ครับ อยู่ชั้นบนสุดของเวิ้งโบราณ เป็นร้านกึ่ง Rooftop ที่ตกแต่งแบบดิบๆ ง่ายๆ ดูเป็นกันเอง โต๊ะนั่งมีทั้งด้านนอกแบบ open air และด้านในที่ติดแอร์ นอกจากนี้ยังมีร้าน DND , SHERBET และร้านอื่นๆอีกมากมาย คงจะดีไม่น้อยเลยนะครับถ้ามีคอนโดสักห้องอยู่ในย่านเอกมัยนี้ พอปาร์ตี้เสร็จปุ๊บก็กลับมานอนที่ห้องได้เลย จะเมาสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหนก็ไม่ใช่ปัญหา ^__^

XT EKKAMAI

ได้รู้จักย่านเอกมัยกันครบทุกแง่มุมแล้ว ต่อไปผมจะพาไปทำความรู้จักกับที่อยู่อาศัยในย่านเอกมัยกันบ้าง กับคอนโดที่มีชื่อว่า “XT เอกมัย” 

ขับรถจากถนนสุขุมวิท เข้ามาในซอยเอกมัยประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะพบกับสำนักงานขายของโครงการ XT Ekkamai ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือครับ สีสันสดใส สังเกตุได้ไม่ยาก ด้านหลังของสำนักงานขายเป็นตึกของโครงการ XT Ekkamai ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วครับ คืบหน้าไปพอสมควร

เข้ามาด้านใน ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ดูสดใสมีความเป็นวัยรุ่นซ่อนอยู่ บนฝ้าเพดานโดดเด่นด้วยเส้นสายที่ห้อยลงมา ทำให้ดูมีลูกเล่นและมีมิติยิ่งขึ้นครับ

มีมุมนั่งเล่นที่จัดแต่งด้วย Sofa และ Prop สีสันสดใส เหมาะแก่การมานั่งถ่ายรูปมากๆ

มาดูข้อมูลของโครงการ เอ็กซ์ที เอกมัย กันหน่อยครับ โครงการ XT เอกมัย เป็นหนึ่งในแบรนด์ XT ซึ่งเป็นแบรนด์ Life Style Condominium ใหม่ของ แสนสิริ ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 โครงการ คือ XT เอกมัย, XT ห้วยขวาง และ XT พญาไท ซึ่งตัวแบรนด์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ “คนมิลเลนเนียล”  ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และต้องการเป็นอิสระจากข้อจำกัดเดิมๆ สะท้อนให้เห็นตั้งแต่สำนักงานขายเลยครับ

XT Ekkamai เป็นคอนโด High Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถ Mechanical Parking 9 ชั้น + ใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 537 ยูนิต + ยูนิตร้านค้า 1 ยูนิต โดยโครงการนี้แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จากญี่ปุ่นครับ

ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น โทนสีขาวและม่วง ส่วนกลางหลักจะอยู่บนชั้น Roof top ทำให้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางจะโปร่งโล่ง และรับวิวได้ดีนั่นเอง

พื้นที่ส่วนกลาง

จุดเด่นอีกอย่างของโครงการ XT เอกมัย นอกจากเรื่องของทำเลแล้ว ด้านพื้นที่ส่วนกลางก็ถือว่าน่าสนใจครับ เพราะว่ามี CO-SHARING ที่สามารถใช้แชร์กันได้กับ XT ในทำเลอื่นๆ ซึ่งมีสไตล์ที่แตกต่างกัน โดยจองการใช้งานผ่านระบบ Application แต่การเข้าไปใช้ส่วนกลางของโครงการอื่นนั้นมีค่าใช้จ่ายนะครับ รายละเอียดต้องขึ้นอยู่กับทางโครงการและนิติบุคคลต้องสอบถามเพิ่มเติมอีกทีครับ

ที่ชั้น 1 ของโครงการ XT Ekkamai เป็น Workspace Lobby ภายในมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนย่อยๆ ฝ้าเพดานสูงโปร่ง มีผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว และใช้สีที่แตกต่างกันไปในแต่ละห้องเพื่อสร้างบรรยากาศที่หลากหลาย สามารถใช้พื้นที่ได้ทั้งมานั่งรอ นั่งทำงาน รวมถึงทำกิจกรรมอื่นๆ เพราะโต๊ะทำงานที่โครงการให้มาสามารถปรับเป็นโต๊ะปิงปองหรือโต๊ะพลูได้ด้วย

ที่ชั้น 37-38 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดครับ เริ่มจากชั้น 37 จะมีสระว่ายน้ำโอลิมปิคที่ยาว 50 เมตร มี Jacuzzi เอาไว้แช่ตัวผ่อนคลาย บริเวณปลายสระจะมี Sunken Seat สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวมุมสูง และพื้นที่ดูหนังกลางแจ้ง รวมถึงห้องน้ำ/ห้องเปลี่ยนเสื้อก็จะอยู่ในชั้นนี้ด้วย

ส่วนชั้น 38 เป็น The Bar & Lounge เผื่อเที่ยวเอกมัยมาแล้วยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มก็ชวนเพื่อนๆขึ้นมาที่นี่ได้เลย นอกจากนี้ยังมี Co-Playing Space , Meeting Room และ ฟิตเนส ที่สามารถเห็นวิวเมืองจากมุมสูงได้อีกด้วยครับ

ส่วนชั้นบนสุดของอาคารที่จอดรถ เป็นสวนหย่อมที่มีมุมนั่งเล่น พื้นที่สำหรับทำสวน-ปลูกผัก และยังมี Outdoor Pavilion Gym ที่ร่วมมือกันพัฒนากับโรงพยาบาลสมิติเวช ออกแบบมาสำหรับเด็กให้สามารถออกกำลังกายในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เช่น การปีนเขาบนกำแพง ซึ่งอาคารจอดรถนี้ สูง 9 ชั้น เป็นระบบ Mechanical Parking จอดได้ทั้งหมด 266 คันครับ

นอกจากนี้ ที่ XT เอกมัย ยังมีเพื่อนร่วมคอนโดที่เป็นหุ่นยนต์ มีชื่อว่า น้อง SANDEE น้องเค้าทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบริการส่งจดหมาย พัสดุ และอื่นๆ ไปตามห้องพักโดยไม่ต้องลงมาเอาที่นิติ ด้วยคุณสมบัติของแสนดีที่มีระบบเซ็นเซอร์รอบตัว จึงสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ขึ้น-ลงอาคารโดยใช้ลิฟต์โดยสารผ่านไว-ไฟได้ด้วยตัวเอง เวลาเดินอยู่ในคอนโดแล้วเจอน้องก็ไม่ต้องตกใจนะครับ น้องกำลังทำงานอยู่

เปิดห้องมองสเปซ

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการ XT Ekkamai มีให้ดู 2 ห้องนะครับ คือ ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.75 – 30.25 ตร.ม. และ ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.25 ตร.ม.

• ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29.75 – 30.25 ตร.ม.

เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วน Kitchen ครับ เป็นสเปซที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น

หน้าตาเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้ครับ ได้ตามที่โชว์เลย เป็นสีน้ำเงินสดใส มีช่องให้เก็บของได้มากมาย

ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นสามารถหาโต๊ะบาร์มาตั้งแบบห้องตัวอย่างได้ ช่วยทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนชัดเจนยิ่งขึ้น

หันไปดู Space บริเวณห้องครัวแบบชัดๆครับ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าอยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว

หน้าตา Digital Door Lock และสวิตซ์ของ Somfy ซึ่งเป็นแบบ Touch Screen ที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิดแอร์/ไฟ ผ่าน Application ได้

ออกมาดูที่ระเบียงกันบ้างครับ พื้นที่ไม่แคบจนเกินไป สามารถหาเก้าอี้มานั่งชมวิวภายนอกได้ครับ

ห้องนี้ Condensing ของแอร์จะถูกแขวนไว้ด้านบน แบบเป่าลมร้อนออกด้านนอกซึ่งมีข้อดีคือไม่บังวิวและไม่ร้อนเวลาเราออกมายืนใช้งานที่ระเบียง พร้อมทั้งมีระแนงบังตาให้ดูเรียบร้อย เป็นระเบียบ และติดตั้งไฟมาให้ด้วย

ห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี เหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆได้

ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ในห้องนอนครับ ตกแต่งโดยใช้สีขาว เทา น้ำเงิน ดูเป็นวัยรุ่น ไม่เรียบจนเกินไป

• ห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 46.25 ตร.ม.

มาดูห้องแบบ 2 Bedroom กันต่อ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมา ส่วนแรกจะเป็นครัว ซึ่งได้เป็นครัวเปิด มองเห็นห้องนอนที่สองและพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ถัดไป

ห้องนอนที่สองนี้ ทางโครงการเลือกตกแต่งออกมาเป็นห้องทำงานครับ ใครที่อยู่คนเดียวก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ

ส่วนพื้นที่กลางห้องจะเป็นโถงกว้าง เป็นสเปซของห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้าง ถ้าใครไม่ชอบการวางเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการจัดมาให้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ

จากห้องนั่งเล่น สามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกได้

หันกลับไปดูห้องครัว ได้เป็นครัวเปิดซึ่งเหมาะกับการทำอาหารแบบง่ายๆหรือซื้ออาหารเข้ามาทาน โดยเคาน์เตอร์จะเป็นแบบตัวแอล (L) มีพื้นที่การใช้งานที่มากขึ้นกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน

มีห้องน้ำรวมที่ใช้แชร์กับห้องห้องนอนที่สอง การตกแต่งก็มาในโทนสว่างสีขาว เทา เพิ่มลูกเล่นด้วยตู้ใต้อ่างล้างหน้าสีน้ำเงินสดใส

เข้ามาดูใน Master Bedroom กันบ้าง ขนาดค่อนข้างกว้าง มีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดมุมมองและรับแสงธรรมชาติได้ดี

ส่วน Master Bathroom การตกแต่งและวัสดุเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยครับ  แบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน ทั้งอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ และ อ่างล้างหน้า

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการพาทัวร์ย่านเอกมัยในครั้งนี้ เป็นย่านที่มีครบทั้งกิน เที่ยว ช้อป เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย มีโครงการใหม่เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือโครงการ XT Ekkamai ครับ  ใครสนใจก็คลิกลิ้งค์ด้านล่างเพื่อลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการพร้อมรับสิทธิพิเศษ

— ลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการ และรับสิทธิพิเศษ >> XT เอกมัย —

ตอนนี้ XT คอนโดมิเนียม ทั้ง 3 ทำเล เอกมัย ห้วยขวาง และพญาไท เขาจัดแคมเปญ XT EXTEND YOUR LEISURE  ที่สามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษ ออกไปสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบเต็มๆ กับแพ็กเกจ กิน เที่ยว หลากหลายสไตล์ หรือรับส่วนลดเท่าเงินจอง*

• LIFESTYLE PACK เลือกแพ็คเกจ กิน เที่ยว* ตามมูลค่าเงินจอง และทําสัญญา ทราบมาว่าเป็นที่พักสุดชิคจากโรงแรม The Standard โรงแรมไลฟ์สไตล์ดังระดับโลก สำหรับ 2 ท่าน พร้อมตั๋วเครื่องบิน  หรือเลือก
• DISCOUNT PACK รับส่วนลดเท่ากับเงินจอง สูงสุด 600,000 บาท*

ตั้งแต่วันนี้ – 31 ต.ค. 62 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

แล้วพบกันได้ที่ NEW! XT SALES CENTRE ที่พญาไท นะครับ

.

— สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ >> XT เอกมัย —

“พัทยา” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงธุรกิจอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ประกอบกับ “กำลังซื้อ” ที่มีโครงสร้างผสมผสานทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เป็นคนไทย และความหลากหลายของชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ที่ไม่ได้พึ่งพานักท่องเที่ยวจากชาติใด หรือจากประเทศใดประเทศหนึ่งนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สามารถท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชม. และครอบคลุมทุกอายุ ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาค่อนข้างคึกคัก ประกอบกับศักยภาพของพัทยา เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่แดงภาคตะวันออก หรือ “อีอีซี” ที่ภาครัฐได้เพิ่มแรงขับเคลื่อนด้วยการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ อาทิ เช่น

โครงการมอเตอร์เวย์สายใหม่, โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา รวมถึง เมืองพัทยาเองที่ได้เตรียมศึกษาออกแบบโครงการรถไฟรางเบาชลบุรี-พัทยา ระบบขนส่งมวลชนขนาดรองเพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงในพื้นที่โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ​ อีซีซี​ เป็นต้น สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังเมืองพัทยาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้ตลาดเดินหน้าได้

ออเนอร์​ กรุ๊ป (Honour Group) หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองพัทยา และเป็นเจ้าของโรงแรม เดอะไซมีส พัทยา (The Siamese Hotel ), โรงแรม ที พัทยา (T Pattaya Hotel), โรงแรม เอ็กซ์คิว พัทยา (XQ Pattaya Hotel) และโรงแรม สวีท เซนส์ จอมเทียน (Sweet Sense Jomtien Hotel) ที่ล่าสุดบริษัทในเครือ ออเนอร์ กรุ๊ป ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการ ONCE PATTAYA  (วันส์ พัทยา) คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองพัทยาสาย 3​ (พัทยาเหนือ)​ ใกล้ห้าง​ Terminal 21 Pattaya โดยพัฒนาภายใต้ชื่อบริษัท ออเนอร์ วันส์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 152 ล้านบาท (ชำระแล้วเต็มจำนวน)

“โครงการ ONCE PATTAYA  สร้างขึ้นเพื่อตอบสนอง Life Style การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่แบบเหนือระดับ โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ที่พร้อมด้วย Branded Hotel ชื่อดัง International chain  ที่แรกในพัทยาพร้อมบริการอาหาร และเครื่องดื่ม โดยลูกบ้านโครงการ ONCE PATTAYA ทุกคนสามารถใช้บริการได้ตลอด” นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ออเนอร์ เอสเตท จำกัด กล่าวถึง จุดเริ่มต้นของโครงการ ONCE PATTAYA  ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่บริษัทฯ ได้ลงทุน จากเดิมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรม เป็นหลัก และธุรกิจร้านทองภายใต้ชื่อ ห้างทองทองสุก​เยาวราช พัทยา

โครงการ ONCE PATTAYA  ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ (จากทั้งหมดกว่า 4 ไร่) บนถนนพัทยาสาย 3 โซนพัทยาเหนือ พัฒนาเป็นอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องพัก 427 ยูนิต พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Lifestyle Mixed Use” ที่ครบวงจรที่สุดในพัทยา มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.00-59.80 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่มที่ 2.85-22 ล้านบาท  กำหนดเงินดาวน์ 20% สำหรับลูกค้าคนไทย ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติกำหนดเงินดาวน์ 50% โดยเริ่มการก่อสร้างไตรมาสที่ 4 ปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปี 2565

มีประเภทห้องให้เลือก 4 แบบ ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม รองรับการอยู่อาศัยทั้งระยะสั้น และระยะยาว ดังนี้

• ห้องแบบ Studio ขนาด 28.00-28.60 ตร.ม.
• ห้องแบบ 1 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 34.00-34.80 ตร.ม.
• ห้องแบบ 2 Bedroom + 1 Bathroom ขนาด 51.80 ตร.ม.
• ห้องแบบ 2 Bedroom + 2 Bathroom ขนาด 58.50-59.80 ตร.ม

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก (Facilities) แบบจัดเต็มครบทั้งโครงการ อาทิ INFINITY EDGE SWIMMING POOL + JACUZZI + KIDS POOL/KIDS PLAY ROOM/SKY FITNESS WITH FLYING YOGA/SKY BAR & LOUNGE/SKY GARDEN & BBQ AREA/SERENE GARDEN-WELLNESS GARDEN & TRAIL/PLAYSCAPE/SHUTTLE BUS  ระบบรักษาความปลอดดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

นางสาวธิดา กล่าวด้วยว่า ที่ตั้งโครงการ ONCE PATTAYA  เรียกได้ว่าเป็นทำเลไข่แดงของพัทยา บนถนนเฉลิมพระเกียรติ พัทยาสาย 3 โซนพัทยาเหนือ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายทั้งในด้านอุปโภคและบริโภค อีกทั้งยังเป็นย่านของนักท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติได้แวะเวียนมาเที่ยวอยู่ตลอดเวลาทั้งช่วง High Season และ Low Season โดยโครงการได้รับการดูแลทั้งในเรื่องของการดีไซน์และออกแบบจากสถาปนิกมืออาชีพ เพื่อให้ได้มาตรฐานและสมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ซื้ออยู่อาศัยหรือเป็นบ้านหลังที่สอง รวมทั้งกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะจากคนไทยที่หันมาลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยา ซึ่งทางบริษัทฯ ก็พร้อมที่จะรับบริหารปล่อยเช่า สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ จุดเด่นของพัทยาสาย 3 นั้นในอนาคตเขตทางจะขยายความกว้างเป็น 30 เมตรจากปัจจุบันกว้าง 20 เมตร  เป็นเส้นในข่ายพิจารณา แนวการรถไฟรางเบาชลบุรี-พัทยา ที่จะเชื่อมรถไฟความเร็วสูง ซึ่งที่ตั้งโครงการ ONCE PATTAYA   ยังอยู่ใกล้กับสถานีของโครงการรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งสามารถเดินทางเข้าออกได้สะดวกเพราะใกล้กับมอเตอร์เวย์  และจากที่ดินกว่า 4 ไร่นั้นบริเวณด้านหน้าโครงการบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณ 70 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างอาคาร Sale Office ถาวร 5 ชั้น ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.honourthailand.com หรือเบอร์โทร : 061-653-6599  และในอนาคตมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างโรงแรมในพื้นที่ที่เหลือด้วยเช่นกัน

“บริเวณพัทยาเหนือ เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่มักให้เช่า มากกว่าขาย ทำให้ supply คอนโดฯ ย่านนี้มีจำกัด โดยเฉพาะโครงการที่ติดริมถนนใหญ่ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าโครงการ ONCE PATTAYA  จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า” นางสาวธิดากล่าวในตอนท้าย

ภาพห้องตัวอย่าง

สวัสดีค่า ปลายปีนี้พี่แสนจะเปิดคอนโดใหม่อีกโครงการบนถนนเพชรบุรีค่ะ  ซึ่งที่ดินโครงการนี้ล้อมรั้วเอาไว้นานมากแล้ว อยู่ทางฝั่งเพชรบุรีขาเข้าห่างจากเส้นทองหล่อประมาณ 400 เมตร ค่ะ  โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ The Base เพชรบุรี-ทองหล่อ  และก็น่าจะคาดหวังได้ว่าโครงการนี้คงเป็นตัวเลือกหนึ่งของคนวัยทำงานที่หาคอนโดที่เข้าถึงทองหล่อ-เอกมัย ไม่ยากนัก  แต่ราคาย่อมเยาลงมาเยอะ

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก >>> THE BASE PETCHABURI-THONGLOR

เรามีข้อมูลโปรดักส์แบบห้องมาให้คร่าวๆ  แต่รายละเอียดเชิงลึกนั้นยังมีข้อมูลไม่มากนักค่ะ  เราเลยจะพาไปดูพื้นที่รอบๆ โครงการในระยะไม่ไกลมากก่อน  ว่ามีแหล่งไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยวและความงาม อะไรบ้างในย่านชิคๆ อย่าง เพชรบุรี-ทองหล่อ-เอกมัย  ตามเราไปนั่ง Cafe ชิคๆ กินขนมอร่อยๆ กันค่ะ

แต่ก่อนจะไปในย่านชิคๆ คาเฟ่ขนมอร่อยๆ เราขอเกริ่นเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการ The Base Petchaburi-Thonglor ที่กำลังจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างปลายปีนี้แล้วกันซักหน่อย ตัวโครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ  ตั้งอยู่ในระยะแบบเดินถึงทองหล่อได้เลยเพียง 400 เมตรเท่านั้น และที่อยากกระซิบบอกคือราคาเปิดตัวมาสามารถจับต้องได้เพียง 2.69 ล้านบาทหรือ 98,000 บาท/ตารางเมตร เท่านั้น เมื่อเทียบกับคอนโดในเส้นทองหล่อหรือเอกมัยพบว่าคอนโดส่วนใหญ่ราคาต่อตารางเมตรจะเริ่มที่แสนปลายๆ กันหมดแล้ว โครงการนี้ทางเรามองว่าน่าจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง เดินทางสะดวกทั้งขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน เข้า-ออกเมืองสะดวก เชื่อมต่อย่านสำคัญต่างๆ มากมายอย่าง ทองหล่อ, เอกมัย, พร้อมพงษ์, อโศก ค่ะ

โครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 496 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ฝั่งมุ่งหน้าไปอโศก  ทำเลที่ตั้งอาจจะไม่ได้ใกล้สถานีรถไฟฟ้าไหนเป็นพิเศษ แต่สามารถไปได้หลายเส้นทาง โดยห่างจาก MRT เพชรบุรี และ Airport Link มักกะสัน ที่ขับรถไปเพียง 10 นาทีก็ถึงหรือจะไป BTS พร้อมพงษ์ ก็สามารถไปได้ง่ายเพียง 5 นาทีถึงที่ท้ายซอยสุขุมวิท 39 หรือจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกเช่นเดียวกันด้วยที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เข้าออกสะดวกไม่ต้องเข้าซอย ทั้งถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญต่างๆ อย่าง อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย, พัฒนาการ เป็นต้น ใกล้ทางด่วนศรีรัชไปได้ทั้งฝั่งแจ้งวัฒนะและบางนาในเพียงไม่นานค่ะ

ทำเลในย่านนี้ ทางทีมงานของแบ่งออกเป็น 3 ส่วนง่ายๆ ได้แก่ เพชรบุรี, ทองหล่อ และ เอกมัย เพื่อการที่ง่ายต่อการอธิบายและเข้าใจของผู้อ่านนะคะ

1. เพชรบุรี : ถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักสำคัญเส้นหนึ่งในกรุงเทพฯ เชื่อมต่อถนนสายหลักต่างๆ มากมายอย่างถนนพัฒนาการ, ถนนพิษณุโลก, ถนนวิทยุ, ถนนราชดำริ, ถนนชิดลม, ถนนอโศก, ถนนทองหล่อ, ถนนเอกมัย, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และยังเชื่อมต่อถนนเพชรอุทัยที่สามารถต่อตรงถึงถนนพระราม 9 ได้อีก นี่ยังไม่รวมถึงทางด่วนศรีรัชที่สามารถไปได้ทั้งฝั่งบางนาและฝั่งแจ้งวัฒนะได้อย่างง่ายดายอีกด้วย  บนถนนสายนี้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดจาก Listed Developer หนึ่งในนั้นก็คือโครงการ THE BASE PETCHABURI-THONGLOR นั่นเองและ Office Building แทบทั้งถนน พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, Singha Complex เป็นต้น

2. ทองหล่อ : ขึ้นชื่อว่าทองหล่อน่าจะคุ้นหู คุ้นตากันมาพอสมควรสำหรับคนยุคนี้ ย่านราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นไวยิ่งกว่าทอง ทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 ได้กลายเป็นพื้นที่ Rare Item ที่คนทั่วไปต่างต้องการที่อยู่อาศัยท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์ ย่านกิน ดื่ม เที่ยว ภายในถนนมีทั้งโรงพยาบาล, โรงแรม, คอมมูนิตี้มอลล์, ร้านกินดื่ม มากมายให้เลือกสรรทั้งไทยและต่างชาติระดับพรีเมี่ยม

3. เอกมัย : ย่านนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ต่างจากทองหล่อเลย รวมร้านชิคๆ แหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่าทองหล่อเป็นยังไง เอกมัยก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ เป็นถนน 2 เส้นที่คู่ขนานกันและเคาะรูปแบบร้านค้า ร้านกินดื่มออกมาได้เหมือนกันแทบจะเป๊ะๆ ทีเดียว อย่างร้านดังๆ ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ก็จะมี ร้านนั่งเล่น, DND, Thay Ekamai, (UN) Fashion Cafe เป็นต้น และถนนเส้นนี้ยังเชื่อมกันกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมไปยังโซนเลียบด่วนและทางด่วนศรีรัชได้โดยตรงอีกด้วย

.

พูดถึงทำเลแล้วเราก็จะทำตามสัญญาพามาเดินเล่นกิน ดื่ม เที่ยว เล่น บนทำเลใกล้ๆ โครงการ THE BASE PETCHABURI-THONGLOR กันบ้างค่ะ แน่นอนว่าที่ที่เราจะไม่พลาดพาทุกคนไปนั่นก็คือ ย่านทองหล่อ-เอกมัย ดินแดนแห่งคาเฟ่ ไลฟ์สไตล์ชิคๆ อินเทรนด์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 3 ที่ที่เราจะพาไปนั้นไม่ว่าจะตั้งอยู่บนทองหล่อหรือเอกมัยก็สามารถเดินถึงกันได้ทั้งหมด ทริปนี้พากินเสร็จแล้วก็ต้องเดินย่อยกันสิ เนอะ!

ที่แรกที่เราจะพาไปก็คือ LUKA MOTO CAFE BANGKOK ตั้งอยู่ในโครงการ The Taste Thonglor เป็นคาเฟ่สไตล์ All-day-breakfast แต่ที่เจ๋งกว่านั้นคือในร้านไม่ได้ขายแค่อาหารแต่ยังมีเครื่องดื่มมากมายให้ลองกันด้วยไม่ว่าจะเป็นชา, กาแฟ, Mocktail, Cocktail หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มี! และในแต่ละประเภทนั้นเป็นเครื่องดื่มที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีทั้งคุณภาพและรสชาติที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน

และเมนูที่เราอยากให้ลองกันนั้นคือเมนู LUKA BREAKFAST BURRITO ที่นำแป้งตอร์ติญ่ามาห่อไข่ ชีส ไส้กรอก ควินัวร์ อโวคาโดและ capsicum รสชาติอร่อย กลมกล่อมลงตัว เสิร์ฟมากับเผือกทอดและมันม่วงทอดพร้อมดิปซอสซัลซ่า ที่อยากจะบอกว่าลงตัวมากๆ แล้วก็มีซอสมาให้เลือกราดได้ 2 แบบด้วยนะคือซอย Jalapeno & Pineapple(spicy-สีเขียว) และซอส Jalapono & pineapple(spicy-สีส้ม) ที่เราไม่รู้จะบอกว่าความแตกต่างอยู่ตรงไหน เพราะจากลองชิมทั้ง 2 แล้วอร่อยเหมือนกันต่างกันแค่สี ใครรู้คอมเม้นต์บอกกันได้นะ  ps.ภาพในเมนูของร้านอาจจะดูว่าเสิร์ฟมา portion ที่เล็กกินไม่พอ แต่อยากจะบอกว่าของจริงใหญ่มาก กินไม่หวาดไม่ไหวจ่ะ American portion ทีเดียวเลยแหละ

ส่วนเครื่องดื่มที่เราสั่งมาระหว่างรออาหารก็น่าสนใจไม่แพ้กันคือ FLORE DE JAMAICA (organic) เป็นชาออแกนิคที่พอยกมาเสิร์ฟจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องเทศเบาๆ และที่เราถูกใจมากกว่านั้นคือรสชาติออกหวานอมเปรี้ยวช่วย refresh ร่างกายได้อย่างดีและวิธีการดื่มที่ทางร้านจะให้มาพร้อมกับนาฬิกาทราย เมื่อครบ 3 นาทีให้ยกตรงที่ชงชาออกแล้วเทดื่มแล้วถ้าจะดื่มใหม่ก็ให้นำกลับไปวางอีก 3 นาทีแล้วเทดื่มอีกครั้งนึง ดูเป็นการดื่มที่มีวัฒนธรรมมาก ชอบๆ

.

ทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้วเราก็จะพามาเดินย่อยกันก่อนนิดนึงที่ DON DON DONKI MALL THONGLOR 10 เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมากันแล้ว ที่นี่เป็นห้างชื่อดังจากญี่ปุ่นข้างในมีทั้งขนม ของกิน ของใช้ เครื่องสำอางต่างๆ มากมายให้เลือกช็อปกันให้กระเป๋าสตางค์ขาดกันไปเลย!

แต่ก่อนที่จะเข้าห้างทางเราก็โดนดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของมันเผาที่ตั้งอยู่ด้านหน้าซะแล้ว มันเผาของที่นี่จะราคาหัวละ 80 บาทแต่อย่าเพิ่งคิดว่าแพงไปเพราะมันต่างจากมันเผาในบ้านเรามากทีเดียว ทางร้านจะขายให้เรามาแบบร้อนๆ เปิดออกมามีน้ำเชื่อมจากมันเผาไหลอยู่ หอมหวานมากกกกกก ชิ้นเดียวไม่เคยพอ นอกจากขายมันเผาแล้วที่นี่ยังมีของทอดอื่นๆ ขายด้วยนะ ทางเราเคยได้ลองชิมแล้วอร่อยเหมือนกัน

เข้ามาด้านในกันบ้างในวันนี้จากธีมของกินเรา เพราะงั้นเราเลยจะพาชมเฉพาะส่วนของกินละกัน เพราะแค่เดินวนๆ อยู่ในโซนนี้ก็อาจจะหมดตัวกันได้แล้วแหละ น่ากินทั้งนั้น เปิดมาด้วยขนมจากญี่ปุ่นกันเลย ใครที่เคยชอบเล่นทำอาหารตอนเด็กๆ น่าจะชอบนะ มีให้เลือกหลายแบบเลยทั้งดังโงะ, ซูชิ, ไอศครีม, เบอร์เกอร์ เป็นต้น

และถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นสิ่งที่หลายๆ คนชอบซื้อมาฝากคงหนีไม่พ้นคิทแคทรสชาติแปลกๆ ที่ในไทยไม่มีขาย แต่ตอนนี้มีขายที่นี่แล้วนะ ไม่ต้องหิ้วกลับมาให้เปลืองน้ำหนักกระเป๋าเลย แต่มีรสนึงสะดุดตากับเงินในกระเป๋าเรามากเห็นจะเป็นรส Daily Luxury Rum-Raisen Cranberry Almond ออกหวานหอมมีสัมผัสมันๆ กรุบๆ จากอัลมอนข้างในด้วย

แต่ของเด็ดจริงๆ คือโซนผลไม้ที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของญี่ปุ่น อย่างหน้าหนาวก็จะมีสตอเบอร์รี่มาวางขาย ส่วนช่วงนี้ก็จะเป็นพีชและองุ่นมาให้ได้ซื้อกันในราคาน่ารักๆ

นอกจากผลไม้แล้ว โซนที่คนเค้าร่ำลือกันหนาหูคือโซนของสดอย่าง เนื้อหมู วัว และอาหารทะเลอย่างปลาแซลมอน, Uni, หอยเชลล์ เป็นต้น อย่างเนื้อวัวก็มีให้เลือกมากมายทั้ง Wagyu, Saga Beef, Kobe Beef (Wine Beef), Hokkaido Ohira Beef และอื่นๆ อีกมากมาย ด้านอาหารทะเลก็ไม่น้อยหน้ามีให้เลือกทั้งแบบซาซิมิ, ซูชิ และแบบสดๆ สำหรับนำกลับไปปรุงอาหารเองได้ด้วย

.

ของสดกันไปแล้ว มาต่อกันที่อาหารสำเร็จรูปกันบ้าง มีให้เลือกเยอะมากทั้งข้าวหน้าต่างๆ, โอนิกิริ, ยากิโซบะ รวมถึงของหวานชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่างไดฟูกุ Gokuku ชื่อดังจากโอซาก้าและของหวานญี่ปุ่นต่างๆ มากมาย นี่แค่ชั้นแรกนะยังเยอะขนาดนี้ ลองไปเดินสำรวจกันได้ค่ะ อ้อ เปิด 24 ชั่วโมงด้วยนะ!

.

เดินช็อปจนเพลิน อาหารที่ทานไปย่อยจนเกือบหมดแล้ว เราจะพาเดินต่อจากดองกิมาอีกนิดนึงก็จะถึงถนนเอกมัย ตรงที่เราจะพาไปต่อจากนี้คือ เวิ้งโบราณ เอกมัย บนถนนเอกมัยนั่นเอง หลายๆ คนอาจจะเคยแวะเวียนมากันแล้วในตอนกลางคืนที่ตรงนี้จะมีร้านกินดื่มชื่อดังตั้งอยู่อย่าง The Cassette Music Bar, KIKI Korean Bar และบ้านเพื่อนเอกมัย แต่วันนี้เราจะพามาเดินเล่นที่เวิ้งนี้ตอนกลางวันกันบ้าง ซึ่งเวิ้งนี้ตอนกลางวันร้านรวงต่างๆ ที่เปิดส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าแบบไลฟ์สไตล์เช่น (UN) Fashion Dining, Smile, Club Hair Diner, KIKI Camp Korean BBQ Store, The Esquire Barber Club, Moola Cafe, In The Garden The Nail Painter  ในบริเวณเวิ้งโบราณนี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างและร่มรื่น พร้อมด้วยที่จอดรถสะดวกสบาย เหมาะแก่การมานั่งเล่น นัดคุย พบปะเพื่อนฝูงช่วงกลางวัน

ส่วนร้านที่เราจะพามาชิลล์กันวันนี้ชื่อว่า (UN) Fashion Cafe ที่ตั้งอยู่ติดกับถนนเอกมัยในพื้นที่ของเวิ้งโบราณนี่แหละ คาเฟ่ด้านนอกจะดูเก่าๆ เหมือนเอาตู้คอนเทนเนอร์ที่สนิมขึ้นทั้งตู้มาทำยังไงยังงั้น แต่อีกมุมนึงก็ยังให้ feeling cozy อบอุ่น น่ารักอยู่ในตัวไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก เข้ามาด้านในก็จะเจอกับที่นั่งคล้ายเวลาเรานั่งรถไฟในต่างประเทศมีโต๊ะเล็กๆ คั่นกลาง นอกจากนี้ยังมีที่นั่งบนชั้น 2 อีกด้วยนะ

ที่ (UN) Fashion Cafe นี่เค้าดังเรื่องกาแฟมากนะ มีหลายคนเลยที่ชมเรื่องนี้เพราะงั้นเราจึงพลาดไม่ได้ที่จะสั่งกาแฟมาลองกันดู ตัวที่เราลองสั่งสุ่มๆ มานั้นชื่อว่า MOROCCO COFFEE เป็นกาแฟด้านล่างสุดของแก้วจะเป็นช็อกโกแลตผสมถั่วกรุบๆ ตัวกาแฟนั้นสมชื่อเข้มข้นหอมมากลงตัวกับช็อกโกแลตข้างล่างแบบพอดีมากๆ ส่วนวิปครีมด้านบนไว้ตัดความขมได้อย่างลงตัว เอาจริงๆ เหมือนกินขนมหวานที่เป็นน้ำกาแฟมากกว่า ไม่ใช่ว่ามันหวานหรืออะไรนะ แต่ด้วยองค์ประกอบและวิธีเสิร์ฟทำให้พาลคิดไปแบบนั้นจริงๆ

และแน่นอนว่าจิบกาแฟจะไม่มีขนมได้อย่างไรกันเล่า ขนมที่ร้านนี้มีให้เลือกหลายแบบพอสมควรและหน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลย

จากทั้ง 3 อย่างแน่นอนว่าเราเลือก New York Cheese Cake มาทานกับกาแฟค่า ชีสเค้กที่ไม่หวานไม่เลี่ยนเกินไป ตัดกันลงตัวได้ดีกับผลไม้สดด้านบน และยิ่งดื่มกาแฟตามนี่ไม่ต้องพูดเลย ยิ้มได้ยันวันพรุ่งนี้

.

ทั้งหมดที่พามาเดินเล่นกันวันนี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ ที่ย่านทองหล่อ-เอกมัยมีเท่านั้น ยังมีร้านน่ารักๆ ชิคๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายตั้งอยู่ในย่านนี้ซึ่งเรียกว่าใกล้มากกับโครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ ที่ให้ได้มากกว่าทำเลจุดอื่นคือ ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ทั้งที่กิน ดื่ม เที่ยวหรือแม้กระทั่งทำงานทั้งในระยะเดินได้อย่างทองหล่อในระยะ 400 เมตร หรือระยะขับรถอย่างเอกมัย 1 กิโลเมตร, อโศก 10 นาที และซอยสุขุมวิท 39 เพียง 5 นาทีเท่านั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตอย่างลงตัว เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น The Emquatier, The Emporium, J Avenue ทองหล่อ, The Common ทองหล่อ, Singha Complex, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนสาธิต มศว., มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, Bangkok Prep International School, Ekamai International School, Shrewsbury International School เป็นต้น

ภายในโครงการมีแบบห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 4 แบบด้วยกันคือ

1. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 27.25-29.25 ตารางเมตร

2. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 31.75 – 40 ตารางเมตร

3. แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45.75 ตารางเมตร

4. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 61.25 ตารางเมตร

*ps. *ยังไม่ใช่ภาพอย่างเป็นทางการจากแสนสิริ

ด้าน Facilities ทางโครงการ The Base เพชรบุรี-ทองหล่อ จัดมาให้อย่างไม่น้อยหน้า กระจายอยู่ทั่วทั้งอาคารที่ชั้น G, 6, 36 และ Rooftop

ชั้น G : มี Clubhouse ภายในประกอบด้วย ร้านสะดวกซื้อและ Co-Working Space, สวน, Lobby ขนาดใหญ่และ Co-Living Space

ชั้น 6 : Swimming Pool, Fitness and Changing Room

ชั้น 36 : Sky Lounge, Sky Theatre

และที่ ชั้น Rooftop : Roof Terrace, Backyard Garden และ Organic Garden

พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access และ Smart Command Centre ปลอดภัยทุกการเข้าออก อุ่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดฝันขึ้นได้ค่ะ

.

สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งกิน เที่ยว ช้อป ไลฟ์สไตล์ ย่านเพชรบุรี-ทองหล่อ โครงการ เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่อาจจะโดนใจใครหลายๆ คนทั้งเรื่องทำเลและราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาทหรือเพียง 98,000 บาท/ตารางเมตรซึ่งหาไม่ได้แล้วในย่านทองหล่อหรือใกล้ขนาดนี้ เรียกได้ว่าที่น่าคบหาทีเดียวค่ะ

ใครชอบทำเลที่คึกคักตลอดเวลาแบบนี้อย่าช้า รีบลงทะเบียนรอรับสิทธิพิเศษลดสูงสุด 100,000 บาท* ไว้ก่อนใครได้เลยนะ

คลิกที่นี่เลย >> THE BASE PETCHABURI-THONGLOR OFFICIAL WEBSITE

— สำหรับวันนี้ทางทีมงานอยู่สบายขอลาไปก่อน ครั้งหน้าเราจะเอาอะไรเกร๋ๆ คอนโดโดนใจที่ไหนมาฝาก ต้องรอติดตามกันในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่า —

รัฐบาลติดเครื่องสร้างต้นแบบเมืองอัจฉริยะในพื้นที่ EEC หวังต่อยอดครบ 100 พื้นที่ทั่วประเทศ ด้าน “ออริจิ้น” จับมือภาครัฐ-เอกชนชั้นนำ ร่วมเนรมิต “Origin Smart City Rayong” ภายใต้ 3 แกนสมาร์ท Smart Tech, Smart Eco และ Smart Community กับคอนเซ็ปต์ Beyond A Living Platform สร้างแลนด์มาร์คใหม่สู่ “Lifestyle Hub” พร้อมคอนโดสูงที่สุดในระยอง มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาท เปิดจองครั้งแรก 28 ก.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท

นายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยอง ในฐานะประธานพิธีเปิดโครงการ Origin Smart City Rayong กล่าวว่า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างจริงจัง เพื่อให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเมืองอย่างชาญฉลาด กระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาค สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน โดยพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ถือเป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกที่รัฐบาลเดินหน้าสร้างต้นแบบ Smart City อย่างจริงจัง

ภายใต้โรดแมปสมาร์ทซิตี้ ภาครัฐมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้ทั่วประเทศจำนวน 100 แห่ง ภายในปี 2565 โดยปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถยื่นขอให้โครงการเดิมและโครงการที่กำลังจะพัฒนา ได้รับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะต้นแบบกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วย โดยโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง จัดเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ แห่งแรกในจังหวัดระยองที่ร่วมตอบรับกับนโยบายรัฐ

ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นจะพัฒนาโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) บนที่ดินกว่า 24 ไร่ บริเวณสี่แยกเนินสำลี ถ.สุขุมวิท จ.ระยอง ให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบและเล็งเห็นศักยภาพของระยองว่าเป็นจังหวัดที่จะสามารถเติบโตถึงขั้นเป็น New CBD ได้ จึงได้ร่วมมือกับทั้งภาครับและเอกชนต่างมาช่วยเติมเต็มให้ทั้งโครงการกลายเป็นสมาร์ท ซิตี้ และสมาร์ทแพลทฟอร์มไปพร้อมกัน ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) คอตโต้ และคลาส คาเฟ่ (CLASS CAFÉ) มาร่วมเนรมิตโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาทแห่งนี้ ให้สามารถทรานส์ฟอร์มการใช้ชีวิตสู่สังคมแห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Beyond A Living Platform

ทางPEA ได้ให้ความร่วมมือด้าน Smart Eco ทำให้โครงการมีการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือด้าน Smart Tech วางโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานของโครงการให้พร้อมรองรับ 5G  ส่วนคลาส คาเฟ่ จะมาช่วยส่งเสริมด้าน Smart Community ที่มาพร้อมร้านกาแฟ และ Co-Working Space 24 ชั่วโมง อีกทั้งภายในโครงการต้องการสร้างไลฟ์สไตล์ฮับแห่งใหม่ของระยอง เราและพันธมิตรจะร่วมกันทำให้ที่นี่เป็นเมืองต้นแบบอัจฉริยะ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต นับเป็นการสร้างเมืองใหม่เพื่อตอบสนองการพัฒนาของภาครัฐ ในขณะเดียวกันยังเป็นเมืองต้นแบบด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างคุ้มค่าด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสู่การเป็นย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่ หรือ New CBD
ใจกลางเมืองระยอง

ด้านนายอรุช ช่างทอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจใน EEC บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, ร้านกาแฟชั้นนำอย่าง CLASS CAFÉ, Co-Working Space, โรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotels Group (IHG) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย เป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมกับ Home Automation และ Intelligence Facility จำนวนรวมถึง 1,234 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,300 ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการคอนโดมิเนียม เคนซิงตัน ระยอง (Kensington Rayong) เป็นอาคาร Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร 697 ยูนิต มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 23.20-36.90 ตร.ม. เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/2563

2.โครงการคอนโดมิเนียม นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong) เป็นอาคาร High-rise 33 ชั้น 1 อาคาร 537 ยูนิต และเป็นอาคารที่สูงที่สุดใน จ.ระยอง โครงการ มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 22.50-34.80  ตร.ม. พิเศษ! Smart Mirror สำหรับ Exclusive Room เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/2564 ทั้ง 2 โครงการจะเปิดพรีเซลพร้อมกัน 28 ก.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท*

นอกจาก Facility ในอาคารที่อยู่อาศัยของตัวเองแล้ว ผู้พักอาศัยจะได้รับประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางของมิกซ์ยูส ที่ประกอบไปด้วย Smart Tech, Smart Eco, Smart Community ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค 5.0 อาทิ Smart Shelter สเตชั่นอัจฉริยะ ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่าน  Solar Cell ติดตั้ง Smart Screen ที่สามารถเช็คสภาพจราจร เช็คอุณหภูมิ สภาพอากาศ และค่าฝุ่น PM 2.5  พร้อมจุดบริการ Bike&Scooter Sharing

ภาพห้องตัวอย่าง

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนมาชมรีวิวโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG จาก ORIGIN กันค่ะ เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ที่ทางออริจิ้นตั้งใจปั้นขึ้นมาเป็นสมาร์ทซิตี้ใจกลางเมืองระยอง บนที่ดินกว่า 24 ไร่ ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัยครบวงจรทั้งคอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้มอลล์ระดับพรีเมี่ยม, ร้านค้า, ร้านอาหารชั้นนำ, 24 Hours Co- Working Space, เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์, เซอร์วิสออฟฟิศ รวมถึงโรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotel Group ในคอนเซ็ปต์ BEYOND A LIVING PLATFORM งบลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท รองรับการลงทุนจากภาครัฐที่เชื่อมโยงการคมนาคมทั้งทางบก, ทางน้ำ และทางอากาศกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ในบริเวณนี้เป็น NEW CBD ใน EEC อีกแห่งหนึ่งค่ะ

แต่ตัวโครงการที่เราจะพามาชมกันในวันนี้จะเป็นตัวคอนโด 2 โครงการด้วยกัน ได้แก่ KENSINGTON RAYONG สูง 8 ชั้น 4 อาคาร แบ่งเป็น KENSINGTON RAYONG NORTH WING 2 อาคาร และ KENSINGTON RAYONG SOUTH WING 2 อาคาร พร้อมกันกับคอนโด High rise ที่สูงและวิวสวยที่สุดในระยอง NOTTING HILL RAYONG สูง 33 ชั้น 1 อาคารค่ะ โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกเนินสำลีที่สามารถมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองระยองได้อย่างง่ายดายและเชื่อมต่อไปยังถนน 363 ที่เชื่อมต่อกับถนนบายพาส 36 มุ่งตรงเข้าชลบุรียาวต่อเนื่องถึงกรุงเทพเลย เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้ทั้งในตัวเมืองและโรงงานต่างๆ ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดค่ะ

ORIGIN SMART CITY RAYONG

KENSINGTON RAYONG (NORTH-SOUTH WING)

( เคนซิงตัน ระยอง นอร์ธ-เซาท์ วิง )

• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
• ขนาดที่ดิน >>>
  • North Wing ขนาด 2 – 3 – 49.5 ไร่
  • South Wing ขนาด 3 – 0 – 92.5 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 4 อาคาร
• จำนวนชั้น >>>
  • North Wing สูง 8 ชั้น 2 อาคาร
  • South Wing สูง 8 ชั้น 2 อาคาร
• จำนวนยูนิต >>>
  • North Wing 345 ยูนิต + 1 ร้านค้า
  • South Wing 352 ยูนิต
• ประเภทห้อง >>>
  • North Wing
  • 1 ห้องนอน ขนาด 23.20 – 32 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 35.70 – 36.10 ตารางเมตร
  • South Wing
  • 1 ห้องนอน ขนาด 23.20 – 32.90 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 35.70 – 36.90 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> จอดได้ 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.29 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย xx,000 บาท/ตร.ม. ณ เดือนสิงหาคม 2562
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 12.703063, 101.186598
• เว็บไซต์โครงการ >>> ORIGIN SMART CITY RAYONG

ORIGIN SMART CITY RAYONG

NOTTING HILL RAYONG

( นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง )

• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนสุขุมวิท ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
• ขนาดที่ดิน >>> ขนาด 2 – 2 – 67.1 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• จำนวนชั้น >>> 33 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 537 ยูนิต + 1 ร้านค้า
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 – 30.20 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Smart Walk-In Closet ขนาด 28.30-30.20 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 31.30 – 34.80 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> จอดได้ 35% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.79 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย n/A บาท/ตร.ม.
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 12.703063, 101.186598
• เว็บไซต์โครงการ >>> ORIGIN SMART CITY RAYONG

การเดินทาง

สำหรับการเดินทางไปยังโครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นจาก ถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อตรงเข้าโครงการเลย หรือว่าจะเป็น ถนนบายบาส 36 ที่เราจะพาทุกคนมาเดินทางกันในวันนี้ค่ะ

เริ่มจากถนนบาสพาส 36 มุ่งหน้าเข้าเมืองระยอง ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 363 โดยจะมีป้ายบอกทางไปศาลปกครองระยองและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอยู่ ตรงมาประมาณ 4.2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิท ทางด้านซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งโครงการเลยค่ะ ตรงหัวมุมถนนพอดี

เราจะมาเริ่มกันที่ถนนบายพาส 36 มุ่งหน้าไประยองกันค่ะให้ขับตรงไปเรื่อยๆ เลย

ขับมาเรื่อยๆ จะเจอสี่แยกไฟแดงที่มีป้ายบอกว่าไปนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและถนนเส้น 363 ให้ชิดขวาเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนน 363

เข้าถนน 363 มาแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 4.2 กิโลเมตร

เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายตามเส้นสีส้มเลยค่ะ เข้าสู่ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าทางเมืองระยอง

พอเลี้ยวมาก็จะเจอกับ Sales Gallery และที่ตั้งโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG อยู่ทางด้านซ้ายมือเลย ทำเลดีสุดๆ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

มาดูแผนที่กันบ้างค่ะ จะเห็นว่าที่ตั้งของโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG ตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จากที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทขาเข้าตัวเมืองระยองจึงทำให้การมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองเป็นไปได้ง่าย โดยที่จากตรงนี้เข้าสู่ตัวเมืองระยองได้ในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาทีหรือจะไปนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดก็ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 10 นาทีอีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกทั้งเข้าและออกเลยทีเดียว

พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ราชการโดยมี ศูนย์ราชการระยอง ขนาดใหญ่ที่ภายในรวบรวมสถานที่ราชการต่างๆ ไว้ในที่เดียวกันตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโครงการเลยค่ะ ติดกันเป็น โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเช่น บรรดาร้านค้า ห้างร้าน โรงพยาบาล จะเกาะกลุ่มกันอยู่ด้วยกัน 2 ฝั่งได้แก่ฝั่งในตัวเมืองระยองและฝั่งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดซึ่งทั้งสองฝั่งนี้ใกล้โครงการนี้ทั้งคู่ค่ะ มาเริ่มดูกันที่ฝั่งตัวเมืองระยองกันก่อนเลย ในตัวเมืองจะมีห้างต่างๆ มากมายทั้ง เซ็นทรัล ระยอง, บิ๊กซี ระยอง, แม็คโคร ระยอง, โลตัส ระยอง, โฮมโปร ระยอง, อินเด็กซ์ ระยอง, ห้าง Passion, คอมมูนิตี้มอลล์ The Ozone, โลตัส ระยองทาวน์ เป็นต้น ทางด้านการแพทย์ก็มีโรงพยาบาลอยู่ถึง 2 แห่งใหญ่ๆ อย่าง โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง และ โรงพยาบาลระยอง ส่วนทางด้านการศึกษานั้นมีทั้ง โรงเรียนอัสสัมชัญ ระยอง และ โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ระยอง ตั้งอยู่ พร้อม สถานีขนส่งจังหวัดระยองแห่งใหม่

ส่วนฝั่งนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดก็จะมี โลตัส มาบตาพุด และ โรงพยาบาลมงกุฎระยอง ค่ะ สะดวกฝั่งไหนไปฝั่งนั้นได้เลย

ขยับเข้ามาดูใกล้ๆ ที่ตั้งโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG จะเห็นได้ว่าแค่ข้ามถนน 363 ไปก็จะเป็น ศูนย์ราชการระยอง ภายในมีทั้ง สนง.พัฒนาชุมชน, สนง.สรรพสามิต, สนง.ยุติธรรม, สนง.เกษตรและสหกรณ์, สนง.วัฒนธรรม และ ศาลปกครอง ติดกันเป็น โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ใกล้มาก ส่วนพื้นที่อื่นๆ โดยรอบจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนาและบ้านเรือน ชุมชนต่างๆ ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

จากแผนที่กราฟฟิค เรามาดูต่อกันที่บรรยากาศรอบๆ ข้างโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG กัน

ถ้าหากเรายืนหันหลังให้กับสำนักงานขายฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถวที่เปิดเป็นกิจการส่วนตัว เป็นร้านค้า บริการระดับชุมชนค่ะ

ทางด้านซ้ายมือถัดออกจากที่ตั้งโครงการไปหน่อยจะเป็นปั๊มน้ำมันและ KFC แบบ Drive-Thru

ส่วนทางด้านขวามือจะเป็นวงเวียนสามารถออกเมืองไปยังชลบุรี, นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและสนามบินอู่ตะเภาได้ง่ายทีเดียว และตอนนี้ก็ยังได้ก่อสร้างด้านล่างเป็นอุโมงค์ลอดสี่แยกอีกด้วยนะคะ ถ้าเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่แถวนี้น่าจะสะดวกและเจริญมากขึ้นอีกเป็นกองเลยค่ะ

ดูรอบๆ หน้าโครงการกันไปแล้วเรามาดูกันที่ถนนรอบๆ โครงการกันบ้างค่ะ จะเริ่มกันที่ ถนนสุขุมวิท ที่เป็นถนนด้านหน้าโครงการกันเลย ขอตั้งต้นที่ฝั่งด้านในเมืองขับยาวออกมาทางด้านนอกเมืองนะคะ

โรงพยาบาลระยอง ตั้งอยู่บริเวณสามแยกใจกลางเมืองระยองเลยค่ะ

เลยไปหน่อยจะเป็นห้างเทสโก้ โลตัส ระยอง ห้างค้าปลีกชื่อดังขนาดใหญ่

ข้างๆ โรงแรม Holiday Inn & Suites Rayong City Center เป็นห้างสไตล์โมเดิร์นชื่อว่า Passione

เกือบจะติดกันเป็น HomePro ระยอง ห้างค้าปลีกเกี่ยวกับของแต่งบ้าน

ขับเลยมาประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอกับ โรงเรียนเซนต์โยเซฟระยอง

ติดกันเป็น โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง ค่ะ

เข้าในซอยข้างๆ สนง.อัยการคดีเยาวชนจะเจอกับ โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่และทันสมัย

ขับตรงผ่านแยกเนินสำลีมาจะเจอกับศูนย์ราชการจังหวัดระยองอยู่ทางด้านซ้ายมือ

ด้านหลังศูนย์ราชการเป็น โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร เป็นโรงเรียนขนาดค่อนข้างใหญ่

เขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดตั้งอยู่ไม่ไกลกันค่ะ

ห่างจากที่ตั้งโครงการไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึง สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เลยค่ะ

จากถนนสุขุมวิทเราพามาต่อที่ถนนเส้นหลักอีกเส้นคือ ถนนบายพาส 36 ค่ะ

อยู่บนถนนบายพาส 36 มุ่งหน้าเข้าระยอง เมื่อถึงใกล้ๆ ตัวเมืองจะเจอกับ Index Living Mall ห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ตั้งอยู่ทางด้านขวามือ

เลยมาหน่อยจะเจอกับ Makro ระยอง

แทบจะติดกับแม็คโคร ระยองคือ Central ระยอง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่มาก ขับรถมายังไงก็ต้องเห็นแน่นอนค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ระยองนั้นเป็น บิ๊กซี ระยอง ค่ะ

และถนนอีกเส้นนึงที่เราจะพามาดูกันวันนี้คือ ถนน 364 เป็นอีกเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนบายพาส 36 และถนนสุขุมวิท

ขับเข้ามาหน่อยจะเจอกับ Lifestyle Mall ชื่อว่า The Ozone และตลาดนัดกลางคืนขนาดใหญ่

ข้างๆ กันเป็น บขส. ระยอง แห่งใหม่ที่ย้ายมาอยู่ค่ะ

เปิดประตู ไปดูในโครงการ 

หลังจากที่พาดูรอบๆ โครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง กันไปทั่วแล้ว คราวนี้เราจะพากลับมาดูตัวสำนักงานขายของโครงการกันบ้างค่ะ

Facade ด้านหน้าสำนักงานขายของโครงการออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น เน้นสีขาวและเส้นโค้งเว้า ให้ความรู้สึกสบายตาและเป็นไปตามสมัยนิยมมากทีเดียว

ป้ายชื่อโครงการออกแบบมารับกับ Facade ด้านหน้าได้ดี สังเกตเห็นได้ง่ายค่ะ

พร้อม Signage เป็นแท่งขนาดใหญ่พร้อมบอกว่าภายในโครงการมีอะไรบ้าง ตรงจุดนี้ทำให้คน Awareness ได้ดีค่ะ

ทางเข้า Sales Gallery ออกแบบได้ดูทันสมัยทีเดียว

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับโถงขนาดใหญ่และเพดานแบบ Double Volume สูง โปร่ง พื้นตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินให้ความหรูหรา

ซ้ายมือจะเป็นส่วนรับรองลูกค้า มีการจัดชุดเก้าอี้ โซฟาไว้หลายมุมเลยค่ะ

มีทั้งแบบมาเดี่ยว มาคู่ และมาเป็นกลุ่ม เลือกนั่งได้ตามสบายเลย

ส่วนขวามือจะเป็น Reception เคาน์เตอร์ขนาดใหญ่มีพนักงานขายคอยต้อนรับอยู่เสมอ

เดินลึกเข้ามาด้านใน Sales Gallery จะเป็นที่ตั้งของโมเดลโครงการทั้งหมดค่ะ ขนาดใหญ่มากทีเดียว

ด้านขวามือของที่ตั้งโมเดลเป็นที่นั่งเล่นด้านนอก รับลม อากาศดีๆ ของเมืองระยอง

เดินเข้ามาด้านในสุดของ Sales Gallery จะแบ่งทางเดินออกเป็นซ้ายและขวาสู่ห้องตัวอย่างของแต่ละโครงการ โดยที่ทางขวามือจะเป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องของโครงการ KENSINGTON RAYONG

มีที่นั่งพักอยู่ตลอดทางเดิน

ส่วนทางด้านซ้ายมือจะมีห้องตัวอย่างอีก 2 ห้องซึ่งเป็นของโครงการ NOTTING HILL ระยอง ค่ะ

ทางฝั่งนี้ก็จะมีมุมให้นั่งหลากหลายเช่นเดียวกัน

ส่วนที่จอดรถจะอยู่ทางด้านหลัง Sales Gallery จอดได้ทีหลายสิบคันค่ะ ทำออกมาได้เรียบร้อยดี

EXTERIOR

โครงการ Origin Smart City ระยอง ภายในพื้นที่กว่า 24 ไร่ประกอบไปด้วยโครงการต่างๆ มากมายทั้ง คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้มอลล์ระดับพรีเมี่ยม, ร้านค้า, ร้านอาหารชั้นนำ, 24 Hours Co-Working Space, เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์, เซอร์วิสออฟฟิศ รวมถึง โรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotel Group เรียกได้ว่าเป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่เงินลงทุนกว่าหมื่นล้านเลยทีเดียว ซึ่งในระยะแรกของโครงการจะเปิดเป็นคอนโด 2 โครงการได้แก่ KENSINGTON ระยอง (Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร North Wing 2 อาคาร, South Wing 2 อาคาร) และ NOTTING HILL ระยอง (High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร) ค่ะ

ถ้าหากมองจากด้านหน้าที่ติดถนนสุขุมวิทจะเห็นเป็นตึกสูงอยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนตึกเตี้ยจะอยู่ทางด้านขวามือ

มุมมองจากทางด้านทิศตะวันออกกับโครงการ

ทิศเหนือ

และทิศตะวันตก การที่มีตึกสูงอยู่ทางทิศนี้น่าจะเป็นข้อดีในการให้ร่มเงาแก่ตึกเตี้ยที่อยู่ทางด้านหลังนะคะ อาจจะไม่โดนแสงแดดยามบ่ายโดยตรง ถ้าห้องคุณอยู่ในตำแหน่งเงาของตึก Notting Hill พอดี

มาดูเรื่องของ Accessibility กันบ้าง ทางเข้าหลักของโครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง จะอยู่ทางด้านหน้าค่ะ ซึ่งติดกับถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองระยอง ในอนาคตพื้นที่ 2 ผืน ด้านหน้าจะกลายเป็นอาคาร Mixed Use ที่ใช้เป็นทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ระดับพรีเมี่ยม, ร้านค้า, ร้านอาหารชั้นนำ, 24 Hours Co-Working Space, เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์, เซอร์วิสออฟฟิศ รวมถึง โรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotel Group ค่ะ

ส่วนอีกทางเข้า สามารถเข้าได้จากถนน 363 เรียกได้ว่าใครสะดวกทางไหนเข้าตรงนั้นได้เลย

มาดูกันที่โครงการ KENSINGTON ระยอง กันก่อน ตัวโครงการจะแบ่งย่อยเป็นอีก 2 โครงการค่ะได้แก่ Kensington North Wing และ Kensington South Wing ซึ่งในแต่ละโครงการนั้นประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย 2 ตึกอีกที สรุปง่ายๆ คือทั้งหมดมี 4 ตึกสูง 8 ชั้นเท่ากันทั้งหมด

ในแต่ละโครงการย่อยของเคนซิงตันก็จะมีทางเข้าแยกส่วนตัวเป็นของตัวเองทั้ง North Wing และ South Wing

มาดูภาพจากมุมสูงกันบ้าง จะได้เข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวโครงการ Kensington South Wing จะอยู่ถึงก่อนถ้าเข้าจากทางเข้าหลักฝั่งถนนสุขุมวิทค่ะ

โดยที่ทั้งโครงการ Kensington South Wing และ Kensington North Wing จะมี Facilities ส่วนตัวแยกออกจากกันทั้งคู่ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, Co-Working Space และ Lobby

ตัวอาคารออกแบบให้โอบล้อม Facilities เอาไว้เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้มาใช้งานได้ดี

และบนชั้นดาดฟ้าของแต่ละตึกทางโครงการยังได้จัดสวนไว้ให้เดินเล่น พักผ่อนด้านบนอีกด้วยนะคะ

มาต่อกันที่โครงการ Notting Hill ระยอง กันบ้าง ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ Kensington North Wing เลย เป็นอาคารสูง 33 ชั้น โดยที่ชั้น 1-5 จะเป็นที่จอดรถ ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6-31 ส่วนทางด้าน Facilities ทางโครงการออกแบบให้กระจายอยู่ทั้งอาคารอย่าง ชั้น 6-7 บางส่วนจะเป็นพื้นที่ Co-Working Space ค่ะ

ส่วนด้านบนชั้น 32-34 จะเป็นชั้น Main Facilities ของโครงการ ประกอบด้วย Sky Lounge, สระว่ายน้ำ, Business Lounge, Fitness, Steam Room อยู่ที่ชั้น 32, Game Room, Theater Room, Co-Kitchen Space อยู่ที่ชั้น 33 และที่ชั้น 34 จะเป็น Rooftop Garden ค่ะ

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินโครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง ตั้งอยู่ติดกับถนนถึง 3 ด้านด้วยกันคือด้านหน้าติดกับถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าตัวเมืองระยอง ทางด้านซ้ายติดกับถนน 363 ส่วนทางด้านขวามือติดกับซอยสุขุมวิท 51 ค่ะ รูปร่างของที่ดินเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู เนื่องด้วยขนาดของพื้นที่ดินใหญ่ประมาณ 24 ไร่ จึงทำให้สามารถวางอาคารได้ทั้งซ้ายและขวาโดยการออกแบบ ด้วยการตัดถนนตรงกลางที่ดินเข้าไปเป็นถนน Main เส้นหลัก ที่จะรองรับการใช้งานทุกส่วนของเมกะโปรเจคแห่งนี้ค่ะ

ทิศเหนือ ติดกับที่ดินว่างเปล่า

ทิศใต้ ติดกับถนนสุขุมวิท

ทิศตะวันออก ติดกับซอยสุขุมวิท 51

ทิศตะวันตก ติดกับถนน 363 ถัดไปเป็นที่ดินวางเปล่าของบุคคลอื่นค่ะ

จากแผนที่จะเห็นได้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นที่ดินบุคคลอื่นและชุมชนเก่าค่ะ จะได้วิวโล่งๆ เลยค่ะ ลมดีแน่นอน

ในเรื่องของทิศแดดจะเห็นได้ว่าอาคารภายในโครงการ เคนซิงตัน ระยอง วางแปลนเป็นตัว L หันเข้าหากันโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ ซึ่งมีห้องให้เลือกอยู่ทุกทิศเลย ใครชอบลม ชอบแดดเลือกได้ตามใจชอบทีเดียว ส่วนอาคารภายในโครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง วางตัวเหมือนกันโครงการเคนซิงตัน ระยอง วางแปลนอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ห้องส่วนใหญ่จึงหันหน้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ

FLOOR PLAN

มาต่อกันที่ Master Plan โครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG กันบ้าง ด้านหน้าของโครงการ KENSINGTON ระยอง จะเป็นตึกโครงการ Mixed Use ที่ทางออริจิ้นมีแผนการพัฒนาในอนาคตค่ะ ส่วนเรื่องของการเดินรถภายในโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG ออกแบบมาได้ดีทีเดียวไม่มีส่วนที่ Cross กันที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทางด้านในโครงการ เคนซิงตัน ระยอง ออกแบบการเดินรถมาแบบเดินรถทางเดียวจึงทำให้ง่ายต่อการเข้าออกทั้งยังไม่ทำให้เกิดความสับสนในเรื่องของเส้นทางอีกด้วยค่ะ

ต่อกันที่แปลนโครงการ เคนซิงตัน ระยอง นอกจากทางเข้าออกของโครงการจะแยกออกจากกันแล้ว ทั้ง Lobby, สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space ก็แยกออกจากกันด้วยค่ะ ส่งผลดีต่อจำนวนผู้ใช้งาน Facilities ต่างๆ ให้มีจำนวนไม่มากเกินไปด้วย และตึกฝั่ง South Wing ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น G เลยค่ะ ใครอยากได้ห้อง Feels like Home ต้องชั้นนี้เลยนะ

ส่วนฝั่ง North Wing ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 เป็นต้นไปค่ะ

ส่วนชั้น 3-7 จะมีห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30.5 ตารางเมตรเพิ่มขึ้นมาชั้นละ 2 ห้อง

และที่ชั้น 8 ห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 26.9 ตารางเมตรจะหายไปชั้นละ 1 ห้องค่ะ

ส่วนดาดฟ้าทุกตึกจะได้สวนไว้นั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัว ตรงนี้ตอนเย็นๆ น่าจะอากาศดี ชิลล์ทีเดียว

ส่วนโครงการ NOTTING HILL RAYONG ในเรื่องของการเดินรถภายในสามารถวนรถภายในได้หลายลูปแต่ก็ไม่ได้มีส่วนใดที่ Cross กันที่จะนำพาไปสู่อุบัติเหตุได้ค่ะ

แปลนภายในโครงการออกแบบมาได้ดีโดยที่ชั้นแรกจะเป็น Lobby Lounge ชั้นจอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-5 ค่ะ ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ถึงชั้น 31 ซึ่งในชั้น 6 นั้นจะมีบางส่วนเป็นพื้นที่ของ Co-Working Space อยู่ด้วย และที่โครงการนี้จะมัดรวม Facilities ต่างๆ เอาไว้ด้านบนสุดของอาคารโดยเริ่มตั้งแต่ชั้น 32-34 เต็มๆ 3 ชั้นกันไปเลยประกอบด้วย ชั้น 32 มี Sky Lounge, Business Lounge, Swimming Pool, Fitness และ Stream Room ด้านชั้น 33 จะมี Game Room, Theater Room และ Co-Kitchen ส่วนชั้น 34 จะเป็นชั้นดาดฟ้าที่ทางโครงการตกแต่งออกมาเป็น Rooftop Garden ไว้ให้ลูกบ้านสามารถออกมานั่งเล่น พักผ่อนได้

FACILITIES

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่เรามารีวิวกันนั้นจะแยกออกจากกันทั้ง 2 โครงการเลยนะคะ โดยเราจะขอเริ่มจากโครงการ KENSINGTON RAYONG ก่อนเลย โถงต้อนรับหรือ Lobby นั้นตกแต่งออกมาได้ดูดีด้วยลายหินอ่อน พร้อมฝ้าเพดานแบบสูงและกระจก Full-Height เพิ่มความปลอดโปร่งให้กับพื้นที่ส่วนนี้ได้ดี ทั้งยังจัดชุดโซฟาต่างๆ ไว้ให้ลูกบ้านได้นั่งเล่นกันอีกหลายชุดเลยค่ะ

Co-Working Space เป็นอีกห้องหนึ่งที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านมานั่งอ่านหนังสือ ทำงานได้พร้อมๆ กับรับวิวสวนไปด้วย

พื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนและสระว่ายน้ำจะถูกอาคารโอบล้อมเอาไว้ สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่มาใช้งานได้ดี ทั้งยังเพิ่มมูลค่าและวิวให้กับห้องที่หันหน้าเข้าด้านในโครงการอีกด้วยค่ะ

ทางโครงการให้สระว่ายน้ำมาค่อนข้างยาวและเก้าอี้นั่งเล่น พร้อมกับต้นไม้ใหญ่และสวนให้สามารถมาว่ายน้ำหรือนั่งเล่นพักผ่อนรับลมภายนอกห้อง

ห้องออกกำลังกายตั้งอยู่ใต้อาคารที่พักอาศัยหันหน้าเข้าสระว่ายน้ำ รับวิวต้นไม้ สวน และสระว่ายน้ำไปเต็มๆ ผ่อนคลายดีทีเดียว

ส่วนชั้นดาดฟ้าทางโครงการตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและบาร์ขนาดพอเหมาะให้ลูกบ้านสามารถออกมาทำกิจกรรมร่วมกันได้ค่ะ

ส่วนทางด้านโครงการ NOTTING HILL RAYONG ก็จัดเต็มในเรื่องของ Facilities ไม่แพ้กันใส่มาให้เต็มๆ ตั้งแต่ชั้น 32-34 ประกอบด้วย Sky Lounge, Business Lounge, Swimming Pool, Fitness, Stream Room, Game Room, Theater Room, Co-Kitchen และสวนบนดาดฟ้า นี่ยังไม่รวม Co-Working Space ที่ชั้น 6 อีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่าใช้กันได้ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว

ทางเข้าหลักของโครงการทำเป็นเนินลาดขึ้นไป ตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลักดูดี สะอาด สบายตาค่ะ

สระว่ายน้ำชั้นบนสามารถเทควิวแบบ Panorama ของระยองได้ด้วย สวยทีเดียว

ชั้น 32-34 จะเป็นชั้น Main Facilities รวม Sky Lounge, Business Lounge, Swimming Pool, Fitness, Stream Room, Game Room, Theater Room, Co-Kitchen และสวนบนดาดฟ้า เอาไว้ด้านบน รับวิวเมืองระยอง

Sky Lounge  ที่ชั้น 32 ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น ปาร์ตี้ จิบไวน์ได้

ที่จอดรถนั้นภายในโครงการ Kensington ระยอง สามารถจอดได้ 30% รวมจอดรถซ้อนคัน ลิฟต์ให้มาอาคารละ 2 ตัว ส่วนโครงการ Notting Hill ระยอง สามารถจอดได้ 35% รวมจอดรถซ้อนคันค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของโครงการ KENSINGTON RAYONG ทั้ง North Wing และ South Wing ใช้แปลนห้องแบบเดียวกันทั้งสองโครงการ ซึ่งแปลนห้องที่เรานำมาให้ชมวันนี้จะเป็นแปลนห้องของห้องตัวอย่างค่ะ

ซึ่งในแต่ละ Wing ขนาดห้องจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน สามารถแบ่งออกมาได้ดังนี้

NORTH WING

• • แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 23.2 – 32 ตารางเมตร
  • แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 35.7 – 36.1 ตารางเมตร

SOUTH WING

• • แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 23.2 – 32.9 ตารางเมตร
  • แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 35.7 – 36.9 ตารางเมตร

• 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตร.ม.

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตารางเมตรจะแบ่งพื้นที่ภายในห้องออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนแรกคือส่วนของห้องนั่งเล่นรวมกับพื้นที่รับประทานอาหารและห้องครัวเชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกันกินที่ครึ่งหนึ่งของห้องทั้งห้อง และห้องรับแขกยังเชื่อมต่อส่วนระเบียงภายในห้องอีกด้วย ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้ห้องโปร่งมากยิ่งขึ้น อีกส่วนที่กินพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของห้องคือพื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำที่เชื่อมต่อกันค่ะ โดยพื้นที่ห้องนอนกินไปประมาณ 2 ใน 3 ของพื้นที่ห้องอีกครึ่งหนึ่ง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ หรือถ้าใครชอบเตียงใหญ่จะวางขนาด 6 ฟุตก็ได้นะคะ ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากภายในห้องนอนเลย ทางโครงการแยกส่วนแห้งและเปียกออกจากกันให้เรียบร้อยแล้ว

• 1 ห้องนอน ขนาด 35.7 ตร.ม.

ส่วนห้องขนาด 35.7 ตารางเมตรแปลนห้องจะคล้ายๆ กับแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตารางเมตรเลยค่ะ แตกต่างกันเพียงเพิ่มส่วนพื้นที่ด้านข้างฝั่งขวามือขนาดประมาณครึ่งนึงของแบบ 1 ห้องนอนเข้ามาและย้ายห้องครัวจากเดิมที่เคยอยู่ตรงประตูมาทางด้านขวามือทำเป็นครัวปิด และยังเหลือพื้นที่ใช้สอยทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้อีก 1 ห้องเต็มๆ ใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนได้สบายๆ

.

ส่วนแปลนห้องของโครงการ Notting Hill ระยอง แม้จะมี Facilities ที่เยอะกว่าแต่ขนาดของห้องจะมีขนาดค่อนข้างเล็กกว่าโครงการ เคนซิงตัน ระยอง อยู่เล็กน้อยค่ะ โดยจะแบ่งแบบห้องออกเป็น 3 แบบหลักๆ ดังนี้

• • 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 – 30.20 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Smart Walk-in Closet ขนาด 28.30-30.20 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 31.3 – 34.8 ตารางเมตร

ซึ่งแบบและขนาดที่เราหยิบมาให้ดูกันนั้นจะเป็นแบบของห้องตัวอย่างที่ทางโครงการทำโชว์ไว้ให้ชมนะคะ

• 1 ห้องนอน ขนาด 28.3 ตร.ม.

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 28.3 ตารางเมตรแปลนห้องจะเป็นไปตามสไตล์คอนโดออริจิ้นทั่วไปคือเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขก เดินเรื่อยๆ เข้ามาด้านในจะพบกับห้องนอนที่กั้นแยกส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มความเป็นส่วนตัวและทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเดินแยกไปยังส่วนของห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียงและห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

• 1 ห้องนอน PLUS ขนาด 34.9 ตร.ม.

ส่วนห้องขนาด 34.9 ตารางเมตรเป็นแปลนที่แปลกใหม่และออกแบบมาได้ดีทีเดียวสำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส เริ่มจากเปิดประตูเข้ามาจะเจอ space ใหญ่ๆ ที่ทางโครงการรวมเอาห้องรับแขกไว้กับพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ห้องดูกว้างและโล่งยิ่งขึ้น และพื้นที่ตรงนี้ยังเชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ภายในห้องอีกด้วย ซึ่งจะสามารถรับวิวและแสงธรรมชาติได้เต็มๆ ฝั่งซ้ายมือของประตูจะเป็นห้องครัวแบบปิดจัดเคาน์เตอร์ไว้ทั้ง 2 ฝั่งใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ทั้ง 2 ห้องจะตั้งอยู่ด้านในสุดของห้อง เป็นเรื่องที่ดีทำให้พื้นที่ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยที่ห้องนอนใหญ่สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ส่วนห้องอเนกประสงค์สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้หรือจะทำเป็นห้องทำงานวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้ชิลล์ๆ แต่ทั้ง 2 ห้องนี้จะต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันกับพื้นที่ห้องรับแขกค่ะ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

โครงการ Origin Smart City Rayong มีห้องตัวอย่างให้ดูอยู่ 4 ห้องด้วยกันแบ่งออกเป็น ห้องตัวอย่างของโครงการ Kensington Rayong 2 ห้องและห้องโครงการของ Notting Hill Rayong อีก 2 ห้องค่ะ วัสดุภายในห้องให้มาตามมาตรฐาน พื้นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก COTTO และ Shower King ส่วนภายในครัวจะเป็นแบรนด์ MEX ค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ให้มาพร้อมกับห้องเป็นแบบ Fully-Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์ built-in บางส่วนอย่าง ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี เป็นต้นค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด KENSINGTON RAYONG

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร

มาเริ่มกันที่แบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตารางเมตรกันก่อนค่ะ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ภายในห้องขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องครัวและห้องรับแขกเป็นพื้นที่เดียวกัน

ซ้ายมือของประตูทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์และตู้เก็บของแบบแขวนในครัวมาให้พร้อมเว้นช่องไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าอีกเครื่องโตๆ ไว้ให้ด้วย ลองเปิดให้เพื่อนๆ ดูเก็บของได้พอสมควรเลยค่ะ

.

ที่เคาน์เตอร์ครัวทางโครงการยังให้อ่างล้างจานขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำทรงโค้งใช้งานง่ายติดตั้งมาให้ด้วย

ข้างๆ กันเป็นเตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวพร้อมใช้งานค่ะ

เหนือเตาไฟฟ้าเป็นเครื่องดูดควัน ไว้ระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์

แต่อยากให้ดู Details การออกแบบนิดนึง ตรงนี้ติดตั้งราวเอาไว้ให้สำหรับแขวนตะหลิว กระบวยต่างๆ ที่ใช้ทำอาหารหรือจะวางที่แขวนไอแพดเปิดดูวิธีทำอาหารก็ได้นะคะ เข้าใจผู้อยู่พอสมควร

.

ขวามือจะเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของแบบ Built-in ที่ทางโครงการให้มาเช่นเดียวกันพร้อมพื้นที่วางตู้เย็นข้างๆ

.

ต่อจากที่วางตู้เย็น ข้างๆ กันก็จะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 1-2 ที่นั่งซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเลย

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่พอประมาณไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป วางโซฟาและชั้นวางทีวีแล้วยังเหลือพื้นที่เดินได้อีกสบายๆ

ตรงห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดีๆ

ส่วนชั้นวางทีวีในห้องจริงจะได้แบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะทั้งชั้นเก็บของด้านบนและด้านล่างเลย ซื้อแค่ทีวีมาติดอย่างเดียวก็สวยแล้ว

เนื่องด้วยพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียงด้วย ทางโครงการจึงได้ทำธรณีขึ้นมากั้นไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนเข้ามาภายในห้องได้ค่ะ

ระเบียงมีพื้นที่กำลังดี สามารออกมานั่งเล่น ปลูกต้นไม้เล็กๆ หรือตากผ้าได้

จุดวางคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ที่ระเบียงด้วยเช่นกัน และทางโครงการได้ทำระแนงเหล็กไว้บังสายตาจากคนภายนอกเพื่อความสวยงามของตึกไว้ให้ด้วยนะ

จากห้องนั่งเล่นแล้วเรามาดูที่ห้องนอนกันบ้าง พื้นที่ในห้องนอนมีขนาดกำลังดี สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้

บริเวณพื้นที่ปลายเตียงสามารถติดทีวีภายในห้องได้อีกด้วยนะ นอนดูทีวี ชิลล์เลย

และภายในห้องยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่ติดตั้งมาให้ด้วย ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งขึ้นเยอะ

ตู้เสื้อผ้าก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in อีกชิ้นที่ทางโครงการให้มาเหมือนกัน ภายในตู้เก็บเสื้อผ้าได้ค่อนข้างเยอะทีเดียวมาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ที่บานปิดตู้ด้วยนะ

.

แม้จะมีการวางเฟอร์นิเจอร์เต็มไปหมดแต่พื้นที่ภายในห้องนอนก็ยังเหลือ สามารถเดินได้รอบเตียงอยู่นะคะ สบายๆ

ห้องน้ำจะต้องเข้าผ่านทางห้องนอนเท่านั้น เปิดเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมและโถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ข้างกัน พร้อมกับกระจกเงาบานใหญ่ติดยาวตลอดแนวผนัง

และทางโครงการได้ทำธรณีขึ้นมากั้นระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ เผื่อเวลาล้างห้องน้ำน้ำจะได้ไม่ไหลเข้ามายังห้องนอนแล้วทำให้ลามิเนตเสียหายค่ะ

พื้นที่ภายในห้องน้ำไม่เล็กนะคะ ยืนล้างหน้า ไดร์ผมได้ไม่อึดอัด

ด้านในสุดของห้องน้ำเป็นส่วนเปียก โดยทางโครงการได้ติดตั้งกระจกฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

พื้นที่กำลังดี หมุนซ้ายหมุนขวาได้ไม่กระแทกผนังค่า

พร้อมทั้งเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้ด้วย

Hand Shower ที่ให้มาจับถนัดมือดีค่ะ

และข้างๆ ก็ยังมีชั้นวางสบู่ติดตั้งมาให้อีกอันด้วยนะ ใครของเยอะวางพอแน่นอนค่า

ห้องตัวอย่างคอนโด KENSINGTON RAYONG

แบบ 1 ห้องนอน PLUS ขนาด 35.7 ตารางเมตร

เปิดประตูแบบ 1 ห้องนอนพลัสเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารเชื่อมต่อกัน พื้นที่ตรงนี้รู้สึกได้เลยว่ากว้างและโล่งกว่าแบบ 1 ห้องนอนอยู่พอสมควรเลยค่ะ ห้องนี้ให้แบบเหมือนอยู่บ้านเลย

มาดูพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารก่อน สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้เลยทีเดียว

เชื่อมต่อกันกับห้องรับแขกที่สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้แล้วยังมีที่เดินไปยังระเบียงเหลือๆ

ในห้องตัวอย่างวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งตัวใหญ่ หรือเราจะเลือกวางโซฟาแบบ L Shape ก็ดีไปอีกแบบน้า

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีที่ทางโครงการ Built-in ที่เก็บของด้านบนและล่างมาให้แล้ว

พื้นที่ห้องรับแขกเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงทางโครงการจึงได้ก่อธรณีมาให้ป้องกันน้ำไหลย้อนเข้ามาภายในห้องค่ะ

พื้นที่ระเบียงขนาดพอๆ กันกับแบบ 1 ห้องนอน สามารถตากผ้า นั่งเล่นได้

ที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ก็อยู่ตำแหน่งเดิมเพียงแต่แบบ 1 ห้องนอนพลัสจะได้แอร์เพิ่มมาอีก 1 ตัวค่ะ

ถัดเข้ามาจากพื้นที่ห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหารจะเป็นห้องครัวแบบปิด โดยมีกระจกบานเลื่อนเป็นฉากกั้นติดตั้งมาให้ค่ะ

ภายในจะได้ครัวแบบ Built-in ยาวตลอดแนวผนังพร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ

ได้เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวยี่ห้อ MEX เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน

เครื่องดูดควันก็เช่นกัน

อ่างล้างจานด้วยนะ วางในตำแหน่งเหมาะกับการใช้งานค่ะ

ส่วนที่วางตู้เย็นจะอยู่ด้านในสุดขวามือ

ออกจากห้องครัวมาจะเป็นมุมมองไปยังพื้นที่ฝั่งซ้ายมือของห้องค่ะ ประกอบด้วยห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ ส่วนข้างๆ ประตูทางโครงการให้ตู้ Built-in ไว้เก็บรองเท้าด้วยนะ

มาดูกันที่ห้องนอนใหญ่กันก่อน เปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่วางเตียงแบบนี้เลย

สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ

ปลายเตียงสามารถติดทีวีที่ผนังแล้วนอนดูจากบนเตียงได้เลย

ห้องนอนใหญ่ของห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสจะได้กระจกแบบเข้ามุม ช่วยให้โปร่งขึ้นอีกนิด

ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากภายในห้องนอนเลยและตู้เสื้อผ้าค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้หน้าตาและ Function เหมือนกันกับแบบ 1 ห้องนอน

.

ห้องน้ำภายในห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสจะเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าได้ทั้งจากห้องรับแขกและภายในห้องนอนค่ะ

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะได้เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนเลย

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งกระจกฉากกั้นเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ในพื้นที่ส่วนเปียกขนาดก็เท่าๆ กันกับแบบ 1 ห้องนอนเช่นเดียวกัน

ติดตั้ง Hand Shower มาให้เรียบร้อย ขนาดฝักบัวกำลังดี จับถนัดมือค่ะ

และที่ขาดไม่ได้เลยคือที่วางสบู่มีมาให้เหมือนกัน

ห้องนอนใหญ่ไปแล้วเรามาดูห้องอเนกประสงค์กันบ้าง ซึ่งห้องนี้จะตั้งอยู่ติดกับห้องครัวเลย

ภายในห้องกว้างพอประมาณ ในแบบห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องนอนเล็กค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้

และยังเหลือพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าเล็กๆ อีกหลังนึงได้ด้วยค่ะ

.

.

ห้องตัวอย่างคอนโด NOTTING HILL RAYONG

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.3 ตารางเมตร

มาดูกันต่อที่โครงการ Notting Hill ระยอง กันบ้างค่ะที่โครงการนี้ก็มีห้องตัวอย่างให้เราดู 2 ห้องเหมือนกันมาดูที่แบบ 1 ห้องนอนขนาด 28.3 ตารางเมตรห้องแรกกันก่อน เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นที่สามารถมองยาวเข้าไปถึงส่วนพื้นที่ห้องนอนได้เลยค่ะ ทำให้รู้สึกโล่ง ไม่อึดอัด

พื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้พร้อมกับวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้อีกตัวค่ะ

อีกฝั่งทางโครงการ built-in ให้เป็นที่วางทีวีและที่เก็บของทั้งด้านบนและล่างมาให้

ด้านข้างๆ ประตูติดกับทีวีทางโครงการก็ได้ Built-in ตู้รองเท้ามาให้ด้วยเก็บได้ประมาณ 6 คู่ค่ะ

.

ในตู้รองเท้าทางโครงการออกแบบมาให้มีที่ระบายอากาศด้วยนะ ข้อดีคือจะทำให้ตู้และรองเท้าเราไม่เหม็นอับจ้า

เข้ามาดูกันที่ห้องนอนบ้าง พื้นที่ภายในห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ ข้างๆ เตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้อีกใบโตๆ เลยค่ะ และภายในห้องนอนทางโครงการยังติดหน้าต่างบานใหญ่มาให้อีกด้วย ทำให้ห้องโปร่ง โล่ง รู้สึกอากาศถ่ายเททีเดียวแม้ไม่ได้เปิดหน้าต่าง

เดินเรื่อยๆ เข้ามาด้านในห้องจะเจอกับโถงทางเดินที่แจกแจงไปยังห้องต่างๆ โดยที่ซ้ายมือเป็นห้องน้ำและขวามือเป็นห้องครัว ส่วนพื้นที่ตรงกลางทางโครงการก็ไม่ได้ปล่อยให้เสียประโยชน์ไปแต่อย่างใด จึงได้จับเอาพื้นที่ตรงนี้มาทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไว้แต่งตัวสำหรับสาวๆ หนุ่มๆ หลังจากออกจากห้องน้ำ

มาทางขวามือกันก่อนเป็นห้องครัว เฟอร์นิเจอร์ built-in จะได้แบบในห้องตัวอย่างเลยนะทั้งตู้เก็บของแบบแขวนผนังและเคาน์เตอร์ครัวที่มาพร้อมกับอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวและเครื่องดูดควัน แอบกระซิบนิดนึงที่เห็นห้องครัวโล่งๆ แบบนี้จริงๆ ทางโครงการยังมีครัว built-in มาเพิ่มให้อีกภายหลังด้วยนะ แต่จะมีอะไรบ้าง ต้องไปติดตามดูกันเองที่สำนักงานขายค่า

ระเบียงจะเชื่อมต่อตรงกับพื้นที่ห้องครัวค่ะ ขนาดกำลังพอเหมาะ สามารถวางราวตากผ้าพร้อมกับนั่งจิบกาแฟชมวิวได้พร้อมๆ กัน

ตรงระเบียงภายนอกมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันฝุ่น แมลงและน้ำมาให้ด้วยนะ

ส่วนห้องน้ำก็จะได้อุปกรณ์มาตามมาตรฐานโครงการเหมือนกับห้องตัวอย่างอื่นๆ เลยค่ะ วางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เรียงต่อกัน ด้านในสุดจัดเป็นส่วนเปียกมาพร้อมกับกระจกฉากกั้นอาบน้ำและ Hand Shower มาให้เรียบร้อย

อ่างล้างมือยี่ห้อ COTTO มาพร้อมกับกล่องเก็บของด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์สีขาวยี่ห้อ COTTO เช่นเดียวกัน

ระหว่างพื้นที่ส่วนเปียกและพื้นที่ส่วนแห้งทางโครงการก่อธรณีขึ้นมาเล็กน้อยไว้เพื่อป้องกันน้ำไหลมายังพื้นที่ส่วนแห้ง

ในพื้นที่ส่วนเปียกกว้างพอประมาณ หมุนซ้ายขวาได้ค่ะ

.

ห้องตัวอย่างคอนโด NOTTING HILL RAYONG

แบบ 1 ห้องนอน PLUS ขนาด 34.9 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 34.9 ตารางเมตรเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับ Space ห้องกว้างๆ แบบนี้เลย ดูไม่ออกเลยทีเดียวว่าเป็นห้องขนาดแค่ 34.9 ตารางเมตรเท่านั้น ทางออริจิ้นออกแบบแปลนมาให้ห้องรับประทานอาหารรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้องรับแขกจึงทำให้ Space โล่ง โปร่งและยังทำให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกด้วย

ขวามือเป็นพื้นที่ห้องรับแขก สามารถวางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้แล้วยังเหลือที่ด้านหน้าวาง Coffee Table ยาวๆ ได้อีกตัว

ฝั่งกำแพงด้านหน้าโซฟาทางโครงการ Built-in ชั้นวางทีวีและตู้เก็บรองเท้ามาให้แล้วค่ะ

.

ด้านหลังโซฟาในห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นโต๊ะรับประทานอาหารตัวยาวขนาด 2 ที่นั่ง จริงๆ วางโต๊ะแบบนี้ก็ดีนะคะสามารถนั่งทานอาหารและดูทีวีไปได้พร้อมๆ กันเลย

แต่ที่สะดุดตาเราก็คือประตูระเบียงบานใหญ่ที่เป็นแบบบานเลื่อนไปข้างๆ  สามารถเปิดกว้างรับลมและวิวได้เต็มที่ ไม่ค่อยเห็นโครงการไหนทำนะคะ

ระเบียงเชื่อมต่อตรงกับส่วนของห้องรับแขกยาวตลอดแนวความยาวของห้อง ขนาดกำลังดี สามารถออกมายืนรับลมได้ค่ะ

ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ตรงไหน เงยหน้าขึ้นไปเหนือระเบียงค่ะ นั่นเลย ซ่อนอยู่ตรงนี้ เป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก

ซ้ายมือของประตูทางเข้าห้องเป็นห้องครัวแบบปิดที่ทางโครงการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนมาให้ค่ะ

ด้านในห้องครัวก็จะได้เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของแบบแขวนเหมือนกับห้องตัวอย่างอื่นๆ เลย

มีอุปกรณ์พร้อมเสร็จสรรพ ทั้งอ่างล้างจานขนาดใหญ่

เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัว

และเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานค่ะ

ส่วนผนังอีกฝั่งหนึ่งทางโครงการ Built-in มาเป็นตู้เก็บของด้านบนเหนือช่องว่างสำหรับวางตู้เย็น

เดินลึกเข้ามาภายในห้องจะเป็นทางเดินที่แจกแจงไปยังห้องต่างๆ อีก 3 ห้องได้แก่ห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนค่ะ

เริ่มจากห้องนอนก่อน เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ขนาดพอเหมาะ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ พร้อมกับกระจกหน้าต่างแบบเข้ามุมช่วยให้ห้องดูโล่ง โปร่งมากยิ่งขึ้น

ด้านข้างของเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าอีกตู้นึงใหญ่ๆ ได้เลย

เห็นไหมคะขนาดวางเตียง 5 ฟุตยังเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงได้อีกสบายๆ

จากห้องนอนใหญ่มาที่ห้องอเนกประสงค์กันบ้าง โดยที่ห้องนี้ห้องตัวอย่างตกแต่งออกมาเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องนึงค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้

แล้วด้านข้างยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้อีก 1 หลังอีกด้วย

ส่วนห้องน้ำนั้นจะต้องใช้ร่วมกันหมดทั้งห้องรับแขก ห้องครัวหรือแม้กระทั่งห้องนอนค่ะ เปิดเข้ามาหน้าตาห้องน้ำก็จะเป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปของโครงการ มีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ส่วนเปียกกั้นกระจกฉากอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำขนาดพอดีๆ หมุนได้ไม่ติดขัด

และโครงการยังเจาะช่องไว้สำหรับวางเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ พร้อมติดตั้ง Hand Shower มาให้แล้ว ขนาดกำลังดี จับถนัดมือดีค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุห้องน้ำ

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

อ่างล้างหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมสีขาวจาก COTTO

ก๊อกน้ำที่อ่างล้างมือแบบก้านโยก ใช้งานสะดวก

โถสุขภัณฑ์จาก COTTO เช่นเดียวกันกับอ่างล้างหน้า

กระจกฉากกั้นอาบน้ำจาก Shower King ค่ะ

Hand Shower จาก COTTO เจ้าเดิม

และที่วางสบู่จาก COTTO เช่นเดิม

วัสดุห้องครัว

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

ห้องครัวทางโครงการจะ Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนเข้ากับห้อง มีที่เก็บของทั้งในเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างและตู้เก็บของแบบแขวนด้านบน พร้อมช่องวางไมโครเวฟไว้ให้ด้วยค่ะ

เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัวจาก MEX

เครื่องดูดควันก็จากแบรนด์เดียวกัน

อ่างล้างจานก็เช่นเดียวกัน MEX เจ้าเดิม

วัสดุปิดผิว (Finishing)

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

Digital Door Lock ติดมาให้ที่ประตูทางเข้าห้องหลัก

ปลั๊กไฟและช่อง USE Charger จาก Marvel

ส่วนปลั๊กไฟอื่นๆ ยี่ห้อ bticino

กล่องควบคุมไฟฟ้าภายในห้องจาก Marvel

พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องสีครีมขนาด 60*60 ซม.

ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาลขนาด 30*30 ซม.

ส่วนกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้มปูอยู่ที่ระเบียงขนาด 30*30 ซม.

ด้านนอกระเบียงติดตั้งโคมไฟให้ความสว่างแบบใช้ภายนอกบ้านป้องกันน้ำ ฝุ่นและแมลงได้ดี

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ณ วันที่เราเข้าไปรีวิวโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG เป็นช่วงเดือนสิงหาคม 2562 แบ่งออกเป็น 2 โครงการเพื่อการเข้าใจที่ชัดเจน

1. โครงการ KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท
2. โครงการ NOTTING HILL RAYONG ราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท

ราคา ณ เดือนกันยายน 2562

เงื่อนไขการจอง :

เงินจอง

KENSINGTON RAYONG

• n/A

NOTTING HILL RAYONG

• n/A

ผ่อนดาวน์

• n/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

• ค่าส่วนกลาง n/A บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
• ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) n/A บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  6,931 บาท/เดือน
• NOTTING HILL RAYONG ราคา 2.09 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 9,617 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  7,404 บาท/เดือน
• NOTTING HILL RAYONG ราคา 2.09 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 10,273 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  8,175 บาท/เดือน
• NOTTING HILL RAYONG ราคา 2.09 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 11,344 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  9,552 บาท/เดือน
• NOTTING HILL RAYONG ราคา 2.09 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 13,254 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• KENSINGTON RAYONG ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ  12,451 บาท/เดือน
• NOTTING HILL RAYONG ราคา 2.09 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 17,276 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านการเดินทางของโครงการ ORIGIN SMART CITY RAYONG เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนจึงทำให้โครงการสามารถเข้าออกได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทที่เชื่อมตรงสู่ตัวเมืองระยองหรือไปยังนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด, สนามบินอู่ตะเภาได้ง่าย และถนน 363 ที่เชื่อมต่อกับถนนบายพาส 36 วิ่งตรงสู่กรุงเทพหรือไปยังจังหวัดข้างเคียงได้อย่างสะดวกค่ะ  อีกทั้งตัวโครงการยังตั้งอยู่บนเส้นเข้าสู่ตัวเมืองระยองได้ง่ายห่างจากใจกลางเมืองเพียง 10 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาขับรถเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ภายในตัวเมืองมีทั้งโรงเรียน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ร้านค้า-ตลาดระดับชุมชน รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ ไม่ว่าจะหาอะไรก็มีหมด เรียกได้ว่าครบครันและเจริญมากทีเดียวสำหรับเมืองในต่างจังหวัด

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าระยองอยู่ในพื้นที่การพัฒนาเศรษฐกิจ EEC ที่เป็นการลงทุนของภาครัฐขนาดใหญ่ที่หวังว่าจะพัฒนาการเดินทางและการขนส่งภายในพื้นที่ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำควบคู่กันไป เราจึงได้เห็น Mega Projects ขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมายทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เกิดขึ้นมา รวมถึงการขยายท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด Phase 3 พัฒนาเพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับอุตสาหกรรมในนิคมฯ, ขยายท่าเรือแหลมฉบังเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลและสร้างท่าจอดเรือน้ำลึกเชื่อมต่อการส่งสินค้าทางตู้ไปยังรถไฟอีกด้วย จากการพัฒนาและลงทุนของภาครัฐขนาดใหญ่จะส่งผลให้เศรษฐกิจต่างๆ ภายในพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาพาดผ่านเจริญเติบโตอย่างมากขึ้น ดึงทั้งนักลงทุนในไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุน การหมุนเวียนเม็ดเงินทางเศรษฐกิจในระดับชาติและระดับพื้นที่ต่างก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ คิดว่าในอีกไม่ช้าพื้นที่ระยองและจังหวัดที่ทางภาครัฐได้ลงทุนพัฒนา Infrastructure ต่างๆ จะเกิดแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจและมีการเจริญเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง ออกแบบภายในโครงการรองรับกับคอนเซ็ปต์ “BEYOND A LIVING PLATFORM” ภายในค่อนข้างคลุมโทนเป็นสไตล์ Modern ดูทันสมัย สะดวก ปลอดภัย

ที่ดินของโครงการเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูติดถนนทั้ง 3 ด้านโดยด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท ฝั่งขวามือติดซอยสุขุมวิท 51 และฝั่งซ้ายมือติดถนน 363 เนื่องด้วยเป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ใน Phase แรกจึงเปิดตัวเพียงโครงการคอนโด Low Rise อย่าง Kensington Rayong และคอนโด High Rise อย่าง Notting Hill Rayong ค่ะ ตั้งอยู่กึ่งกลางของที่ดินเลย ส่วนทางด้าน Facilities ในแต่ละโครงการจะแยกกันอย่างชัดเจน เป็นสัดส่วนดี

ภาพรวมแปลนห้องภายในโครงการ Origin Smart City Rayong จะแบ่งออกเป็น 2 โครงการหลักๆ อย่าง เคนซิงตัน ระยอง(North Wing-South Wing) และโครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง โดยรวมแล้วก็จะคล้ายๆ กันเหมือนแปลนห้องของออริจิ้นในกรุงเทพฯ แยกย่อยออกเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 23.2-32.9 ตารางเมตรและ 1 ห้องนอนพลัสขนาด 35.7-36.9 ตารางเมตรสำหรับ Kensington Rayong และแบบ 1 ห้องนอนขนาด 22.5-28.3 ตารางเมตรและแบบ 1 ห้องนอนพลัสขนาด 31.3-34.8 ตารางเมตรสำหรับ Notting Hill Rayong ซึ่งแปลนห้องของทั้ง 2 โครงการทำออกมาได้ดี มีห้องให้เลือกหลายแบบและหลายขนาดมีทั้งแบบครัวเปิดและครัวปิด เน้นเรื่อง Function การใช้งานในพื้นที่ห้องอย่างมีประสิทธิภาพ ให้หน้าต่างและประตูกระจกระเบียงขนาดใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องถึง ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายกับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

ด้านวัสดุที่ทางโครงการ Kensington Rayong และ Notting Hill Rayong ให้มานั้นจัดอยู่ตามมาตรฐานของออริจิ้น ภายในห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้หนา 4 มม. ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมไฟ Downlight เครื่องใช้ภายในครัวของ MEX สุขภัณฑ์ของ COTTO/SHOWER KING และยังให้ห้องแบบ Fully-Fitted อย่างเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางส่วนเช่น ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี เป็นต้น

พื้นที่ส่วนกลางในแต่ละโครงการให้มาเหมาะกับการใช้งาน โครงการ Kensington Rayong ให้ Lobby และสวนบนดาดฟ้าในแต่ละตึก, สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, Co-Working Space แยกกันในแต่ละโครงการ(North Wing-South Wing) ส่วนทางด้านโครงการ Notting Hill Rayong ให้ Facilities มาค่อนข้างเยอะมากกระจายอยู่ที่ชั้น 1, 6, 7, 32-34 เลย มีดังนี้ Lobby Lounge, Co-Working Space, Sky Lounge, Business Lounge, Swimming Pool, Fitness, Stream Room, Game Room, Theater Room, Co-Kitchen และ Rooftop Garden ค่ะ เยอะมากทีเดียว

ส่วนพื้นที่จอดรถในโครงการ Kensington Rayong ให้มา 30% รวมจอดแบบซ้อนคัน ส่วนของโครงการ Notting Hill Rayong ให้มา 35% รวมแบบจอดซ้อนคันค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

“เมืองพัทยา” แค่เห็นหรือได้ยินชื่อนี้ ก็บอกได้เลยว่าทุกคนต้องร้อง อ๋อ ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางภาคตะวันออก  มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนกันมาทั้งอยู่อาศัยระยะสั้น และระยะยาว  ทำให้กลายเป็นเมืองที่มีชีวิต 24 ชั่วโมง คึกคักแบบ All Day All Night มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง  และด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ทำให้หลายคนอยากจะมีคอนโด หรือที่พักสักแห่งเอาไว้มาตากอากาศ พักผ่อนในช่วงวันหยุดแบบไม่ต้องไปแย่งชิงกับใคร  โดยเฉพาะในช่วง High Season หรือบ้างก็อยากมีคอนโดเอาไว้ลงทุนปล่อยเช่าเป็นทรัพย์สินกัน

บทความนี้เราพาไปดูโครงการ ONCE  PATTAYA (วันส์ พัทยา) คอนโดมิเนียม High Rise ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยาเหนือกันค่ะ

ต้องขอบอกก่อนว่าบทความในวันนี้จะเป็นสไตล์สบายๆ สายชิลล์ ดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเล พร้อมพาชมคอนโดมิเนียม ONCE  PATTAYA ที่ชูจุดเด่นทั้งเรื่อง Lifestyle แบบ Mixed use ที่มี Branded Hotel ระดับ 5 ดาว มาให้บริการแบบใกล้ชิดบนพื้นที่เดียวกัน และเรื่องของทำเลที่ตั้งที่ห่างจากศูนย์การค้าขนาดใหญ่ Terminal 21 พัทยา เพียง 700 เมตร หรือจะตรงไปอีกหน่อยก็ถึงหน้าหาดพัทยากันแล้ว

ONCE  PATTAYA
( วันส์ พัทยา )

• เจ้าของโครงการ >>> Honour Group
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนพัทยาสาย 3 พัทยาเหนือ
• ขนาดที่ดิน >>>   2 – 1 – 28.75  ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ความสูงอาคาร >>> 32 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  427 ยูนิต
  • แบบห้อง >>>
    Studio  ขนาด 28.00-28.60 sq.m
    1 Bedroom ขนาด 34.00-34.80 sq.m.
    2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 51.80 sq.m
    2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 58.50-59.80 sq.m
• จำนวนที่จอดรถ >>> 112 (ไม่รวมซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.85 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ย >>>  123,000 บาท ต่อตร.ม.
• พิกัด GPS >>> 12.9479567,100.894306
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 061-653-6599

LOCATION

เล่ามาแบบนี้แล้ว ก็ขอบอกที่ตั้งให้ละเอียดขึ้นสักหน่อย ตัวโครงการ ONCE  PATTAYA ตั้งอยู่ในโซนพัทยาเหนือ บนถนนพัทยาสาย 3  ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองอีกสายที่เชื่อมถนนพัทยาเหนือ ถนนพัทยากลาง ถนนพัทยาใต้  โดยพัทยาสาย 3 จะวิ่งขนานไปกับถนนสุขุมวิทและถนนเลียบหาดค่ะ

หากใครมาจากกรุงเทพฯ ก็สามารถใช้ถนนเส้นสุขุมวิทวิ่งตรงมาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว รอบๆ โครงการจะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งศูนย์การค้า Terminal 21, Central Marina, Tesco Lotus, โรงพยาบาล Bangkok Hospital Pattaya และสถานีขนส่งพัทยาค่ะ

LIFESTYLE

พัทยา เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่แพ้กรุงเทพฯ เลยทีเดียว  มีความหลากหลายมากแล้วแต่จะเลือกเสพค่ะ  ใครอยากเดินห้างก็มี Terminal 21 Pattaya แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์คเช็กอินอีกแห่งของเมืองให้ไปเดินเล่นกัน อยู่ห่างจากโครงการ ONCE  PATTAYA เพียง 700 เมตร เดินไปได้สบาย สายช้อป เดินห้าง คงจะฟินสุดๆ

ใกล้ๆ กันก็มี Tiffany’s Show ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจกันอีกแห่งหนึ่ง อยากดูโชว์คาบาเร่ต์คณะแรกๆ ของเมืองไทยก็อย่าพลาดกันเชียว ค่าตั๋วประมาณ 550-800 บาท ในราคาคนไทยนะคะ

ขยับมาอีกนิดก็มี Central Marina Pattaya ที่ออกแบบมาในคอนเซ็ปต์หมู่บ้านชาวประมง มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ภายในมากมาย  ถ้าอยากดูหนังก็มาโรง SF Cinema ที่นี่ได้ค่ะ

ใครที่คิดว่ามาเมืองติดทะเลแล้วทำไมเราต้องมาเดินห้างอีก พัทยาก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำสำหรับคนชอบสาย Extreme อย่าง Wind surf, Jet ski, Kite surf หรือจะเป็น Banana Boat ก็มีให้เลือกเล่นกัน  เดี๋ยวนี้หาดพัทยาเค้ามีการจัดการดูแลที่ดีมากกว่าแต่ก่อนเยอะนะคะ

ซึ่งตัวโครงการ Once Pattaya เองจะห่างจากหาดพัทยาประมาณ 1.2 กม. หากไม่อยากเดินก็นั่งรถแดงหรือรถสองแถวมาได้ค่ะ บรรยากาศที่เราเก็บภาพมาฝากนั้นเป็นช่วงเย็นแล้ว ปกติตอนกลางวันจะมีร้านให้เช่าเสื่อ เช่าเก้าอี้ มานอนอาบแดดกันได้

ส่วนสายชิลล์ สายกิน ชอบสรรหาร้านอร่อยๆ นั่งริมหาดชมวิว ก็มีร้านอาหารชิคๆ เยอะแยะมากมายให้ไปชิม ถ่ายรูปอัพลง Instagram สวยๆ กัน

ไปรีวิวรอบนี้เราแวะที่ร้าน Surf & Turf Pattaya  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ Once Pattaya มากนัก เป็นร้านอาหารริมทะเลบรรยากาศชิลล์ๆ  ที่มักจะเป็นอีกจุดหมายของคนกรุงเทพฯ ที่ยกแก๊งค์กันมาท่องเที่ยวเมืองพัทยาค่ะ

ร้านนี้เราเลือกเป็นเมนูของหวาน Waffle ทานคู่กับไอติมรสชาไทย รสชาติก็ไม่หวานมากเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว

และอีกร้านที่เราไปแวะกันจะเป็นร้าน Skoop Beach Cafe ร้านคาเฟ่ไอติมโฮมเมดสุดน่ารัก เหมาะกับการไปซื้อทานคลายร้อนกัน

ใครที่อยากทานอาหารซีฟู้ดหรืออาหารเอเชียแบบฟิวชันแล้วชมวิวพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกหน่อย เราแนะนำร้าน Sea Salt Bangpra และ ร้าน The Glass House ค่ะ ชิลลลลลลล์…..

ต้องบอกว่าเมืองพัทยาก็มีความน่าสนใจและหลากหลายในตัวเองนะคะ  มุมน่าสนใจของพัทยามีอีกเยอะ  สมกับที่เป็นหนึ่งในหัวเมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆของประเทศค่ะ

FUTURE PROJECT

ก่อนจะไปไหนไกลเราจะมาบอกเล่าศักยภาพของทำเลนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกันหน่อยค่ะ

เนื่องจากเมืองพัทยานั้นตั้งอยู่ระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกจังหวัดระยองและชลบุรี ที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาและดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศ ทำให้เมืองอยู่ใกล้จุดพัฒนาโครงการสำคัญต่างๆ ที่ทางภาครัฐได้มีนโยบายยกระดับศักยภาพ  ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภาเข้าด้วยกัน ซึ่งแนวเส้นทางรถไฟจะวิ่งผ่าน 5 จังหวัด ตั้งแต่ กรุงเทพมหานคร จ.สมุทรปราการ จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง จากเส้นทางที่วิ่งผ่านนั้นจะมีสถานีมาหยุดที่พัทยาอีกด้วย (คาดว่าเปิดให้บริการกันในปี 2566)

ส่วนสนามบินอู่ตะเภา ทางภาครัฐต้องการพัฒนาเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย เพื่อมารองรับการขยายตัวของพื้นที่ EEC ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนระหว่างการศึกษาโครงการ (รีวิว ส.ค. 62) คาดว่าถ้าโครงการแล้วเสร็จจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตของเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญค่ะ  แน่นอนว่านักท่องเที่ยวและนักลงทุนก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากเรื่องของรถไฟและสนามบินแล้ว ยังมีโครงการท่าเรือแหลมฉบังที่มีการพัฒนาขยายท่าเรือระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้าให้มากขึ้น คาดว่าจะเปิดใช้ในปี 2568 หลังจากการพัฒนาโครงการต่างๆ นี้ เมืองพัทยาที่เป็นบ้านใกล้เรือนเคียงทั้ง 2 จังหวัด ก็คงจะได้รับผลเชิงบวกตามๆ กันไปอย่างแน่นอนค่ะ

ONCE PATTAYA….Sales gallery 

พาไปแวะ ไปชม ไปเที่ยวกันมาหลายที่แล้ว เราพาเข้าไปรีวิวในโครงการ ONCE  PATTAYA กันดีกว่าค่ะ

ขอเริ่มกันที่ Sales gallery ของโครงการ วันส์ พัทยา กันก่อน ตัวอาคารนั้นเห็นเด่นมาแต่ไกล ด้วยความสูงของอาคาร 5 ชั้นและตกแต่งภายนอกด้วยกระจก Curtain Wall ทั้งแผง

ซึ่ง Curtain Wall  กระจกด้านหน้า ดีไซน์เป็นมุม พับไปมา ดูทันสมัยและเพิ่มมิติให้กับอาคาร

อยากกระซิบบอกว่า Sales gallery  ของที่นี้ลงทุนก่อสร้างถึง 70 ล้านบาท กันเลยทีเดียว  เพราะว่าเจ้านี้เค้ากะอยู่ยาวค่ะ  เอาไว้เป็นสำนักงานขายของโครงการอื่นๆ ในอนาคตได้ด้วย

เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับ Lobby ต้อนรับ

พื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการออกแบบให้มี Krislicious Cafe มาตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานในโรงแรม The Siamese Hotel Pattaya ค่ะ ใครที่มาชมโครงการก็มานั่งทานขนมอร่อยๆ กันได้

ส่วนอีกมุมนึงจะเป็นที่ตั้งโชว์ Model คอนโดมิเนียม ONCE  PATTAYA

ในชั้น 2 และชั้น 3 ของ Sales gallery จะเป็นที่จัดโชว์ห้องตัวอย่าง ชั้น 4 เป็น Prism Assembly Hall ส่วนชั้น 5 ทั้งชั้นเป็นที่ตั้งของ Honour Group Office

MODEL

ไหนๆ ก็มาถึงที่กันแล้ว งั้นเรามาดูโมเดลคอนโด ONCE  PATTAYA กันแบบชัดๆ กันสักหน่อย รูปแบบดีไซน์และสถาปัตยกรรมของโครงการได้บริษัทจากประเทศสิงคโปร์มาช่วยออกแบบ โดยเน้นพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จัดทำเป็นสวนแทรกไปตามชั้นพักอาศัยและชั้น Facility โครงการมีจำนวน 427 ยูนิต จำนวนยูนิตต่อชั้นที่เยอะที่สุด คือ 19 ยูนิต ค่ะ

สีของตึกจะเน้นคุมโทนด้วยสีดำขาวตัดกับเส้นขอบสีทองให้ดูแกรนด์ยิ่งขึ้น

ทางเข้าออกของโครงการมีทางเดียวจากหน้าถนนพัทยาสาย 3

ชั้นพักอาศัยของ ONCE  PATTAYA จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 โดยในชั้นนี้จะมีพื้นที่สวนมาให้ เราสามารถมาออกกำลังกาย เล่น Yoga กันได้ หากใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวทางโครงการได้จัดทำประตูกั้นแยกโซนเอาไว้ให้ค่ะ

พอขึ้นมายังชั้นที่ 26 ก็มีพื้นที่สวนพื้นที่เล็กๆ ให้ค่ะ

Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้น 31-32 ทำให้เราสามาถมองเห็นวิวเมืองพัทยาได้แบบ 360 องศา

Facade ชั้นบนของอาคารออกแบบให้เป็น Prism เรียงต่อกันจนเป็นมิติ ให้ความรู้สึกถึง Movement ตลอดเวลา

ชั้นจอดรถของอาคารจะอยู่ในชั้น 1-5 สามารถจอดรถได้ 112 คันค่ะ (ไม่รวมจอดซ้อนคันนะคะ)

FACILITIES

โครงการนี้พัฒนาโดยใช้แนวคิดของการพัฒนาโครงการแบบ Mixed use นอกจากคอนโดแล้วก็ยังมีโรงแรมอยู่ติดกัน  ซึ่งโครงการแจ้งว่าจะทำเป็น Branded Hotel ระดับ 5 ดาว  ที่ลูกบ้านสามารถไปใช้บริการเซอร์วิสต่างๆ ของทางโรงแรมได้ด้วย  แต่มีการแยกทางเข้าออกกันเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวค่ะ

โถง Lobby และ Semi Outdoor Lobby คอยต้อนรับเป็นอย่างแรก การออกแบบจะเน้นเป็นสีขาว ทอง และทองแดงเพื่อความหรูหรา

ส่วนถัดมาจะเป็น Once More Bar พื้นที่นั่งชิลล์จิบ Cocktail สบายๆ  ใช้เก้าอี้สีเขียวและสีบานเย็นตัดกับ Mood & Tone โดยรวมที่มีความหรูหรา  ทำให้สเปซภายในดูสนุกและมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ

ใครที่ต้องการสถานที่นั่งทำงานทางโครงการก็จัดทำ Once Working Space มาให้

ส่วน Facilities อื่นๆ จะอยู่ในชั้น 31-32 ของโครงการค่ะ การจัดให้ Facilities อยู่ในชั้นนี้ช่วยให้สามารถมองเห็นวิวเมืองพัทยาได้แบบ 360 องศา ไม่มีตึกมาบังสายตา

ซึ่งในชั้น 31 นี้จะมีทั้ง Swimming Pool, Kids Room และ  Sky Garden ค่ะ

ส่วนชั้น 32 นั้นจะมี Sky Gym, Cloud Sunken และ Vanilla Sky Bar ที่ทำเป็นห้องกระจกทั้งหมด สามารถมองเห็นวิวได้รอบๆ ยิ่งช่วงจัดงานเทศกาลพลุนานาชาติ เมืองพัทยาแล้วล่ะก็ เราสามารถชมพลุได้จากชั้นนี้เลยค่ะ

ROOM PLAN

ชมโครงการกันไปหลายส่วนแล้ว คราวนี้เราจะพามาชมห้องกันบ้าง ห้องของโครงการ วันส์ พัทยา จะขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้ของมาครบตั้งแต่ชุดครัว ไมโครเวฟ ตู้เย็น โต๊ะ โซฟา ทีวี  ตู้เสื้อผ้า แอร์ Daybed และชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เราเพียงซื้อของเข้าไปเพิ่มเติมไม่กี่อย่างก็อยู่ได้แล้วค่ะ

ตัวโครงการทำแบบห้องมาให้เลือก 4 แบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom มีขนาดเริ่มต้น 28.00 – 59.80 ตร.ม. ฝ้าสูง 2.7 ม. ราคาเริ่มต้น 2.85 ล้านบาท เหมาะกับซื้ออยู่คนเดียวไปจนถึงคนมีครอบครัวขนาดเล็ก

ONCE PATTAYA
UNIT PLAN – STUDIO (28.00-28.60 SQ.M)

เปิดห้องแรกด้วยแบบ Studio ที่เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับพื้นที่โซนครัวและห้องน้ำอยู่บริเวณนี้ ซึ่งครัวที่ได้จะเป็นแบบปิดทำให้กลิ่นของอาหารและกลิ่นห้องน้ำไม่เข้าไปรบกวนภายในห้อง

ชุดครัวจะได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว, ตู้เก็บของแบบ Built-in, ไมโครเวฟ Electrolux , ตู้เย็น, ซิงค์ล้างจาน, Hood&Hob ของ HAFELE

เดินเข้าไปในห้องน้ำภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหิน ชุดสุขภัณฑ์ที่ได้ก็จะมีตั้งแต่กระจกที่มีปุ่มเปิดปิดไฟ อันนี้น่าจะถูกใจสาวๆ ที่แต่งหน้าแล้วต้องการแสงไฟสว่างๆ โถสุขภัณฑ์สีขาว Kohler อ่างล้างหน้าของ Lavenz

ส่วนฝักบัวจะได้แบบ Rain Shower

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้และมีส่วนพื้นที่เว้าออกมาให้เราวางเตียง Daybed หรือปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงานส่วนตัวก็ได้เช่นกันค่ะ

มองจากอีกมุมจะเห็นสเปซพื้นที่ห้องนอนและการวางเฟอร์นิเจอร์ของทางโครงการได้มากขึ้น

ซึ่งการจัดแปลนห้องแบบนี้จะไม่มีส่วนของพื้นที่นั่งเล่น แต่จะกลายเป็นว่าเราสามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงนอนได้เลย

เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ONCE PATTAYA
UNIT PLAN – 1 BEDROOM (34.00-34.80 SQ.M)

มาต่อกันที่แบบ 1 Bedroom ใครที่อยากได้พื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นและมีการจัดวางฟังก์ชันที่เป็นสัดส่วนมากกว่าเดิม ก็ต้องขยับไซส์มาเป็นแบบ 1 ห้องนอน ที่เมื่อเปิดเข้ามาก็ยังเป็นพื้นที่ครัวเช่นเดิม เราสามารถต่อเติมประตูกั้นทำเป็นครัวแบบปิดได้นะคะ

อุปกรณ์ชุดครัวก็จะได้เหมือนกับแบบห้องก่อนหน้านี้ ใครที่อยากได้ครัวแบบปิดก็สามารถต่อเติมประตูกั้นแยกโซนได้เพราะมีสเปซระยะห่างของพื้นที่ห้องครัวและโซนห้องนั่งเล่นมากพอสมควร

ข้างๆ ประตูทางเข้า ทางโครงการได้ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและชั้นเก็บของมาให้

สามารถเก็บรองเท้าได้หลายคู่เลยทีเดียว

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะอยู่ถัดมาจากโซนครัว ได้ตำแหน่งติดกับระเบียงห้อง ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะได้ทั้งทีวีและโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง

ส่วนของห้องนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกโซนเอาไว้ให้

พื้นที่ปลายเตียงกับประตูกั้นมีระยะห่างกันเล็กน้อยให้เราสามารถพอเดินผ่านไปได้

ด้านข้างมีพื้นที่ว่างสามารถวางเตียง Daybed ติดกับหน้าต่างเพื่อชมวิวได้ค่ะ

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ Walk-in closet ที่เชื่อมไปยังห้องน้ำ

ตู้เสื้อผ้ามี 2 ตู้ ทางซ้ายกับทางขวา

ภายในห้องน้ำมีการแยกโซนแห้งโซนเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย ชุดสุขภัณฑ์จะได้เหมือนกันทุกห้องค่ะ

ONCE PATTAYA
UNIT PLAN – 2 BEDROOM 2 BATHROOM (58.50-59.80 SQ.M)

ห้องต่อมาเป็นแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ภายในจัดวางให้ฟังก์ชันใช้งานอยู่ตรงกลางเป็นตัวเชื่อมระหว่าง 2 ห้องนอน

ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิด สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ  4 ที่นั่งได้

พื้นที่ที่อยู่ติดกับครัวเลยคือห้องน้ำกลาง ภายในแยกโซนเปียก โซนแห้งเอาไว้ให้

พร้อมทั้งยังมีส่วนเว้าไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า และติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้

พื้นที่ของห้องนั่งเล่นก็อยู่ในตำแหน่งติดกับระเบียง การวางแปลนแบบนี้ทำให้ไม่มีใครมาเดินตัดผ่านหน้าเราให้ขัดอารมณ์ระหว่างดูซีรี่ย์

ภาพบรรยากาศภายในห้องจากอีกมุมหนึ่ง

อยากจะบอกว่าห้องนี้ได้ระเบียงค่อนข้างกว้างและยาว ซึ่งตัวระเบียงยังเชื่อมต่อไปที่ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งด้วย

ภายในห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้

ส่วนห้องนอนใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกัน ภายในมีฟังก์ชัน walk-in closet และห้องน้ำในตัว

พื้นที่ข้างๆ เตียงสามารถจัดเป็นมุมส่วนตัว ทำงานอดิเรกของเราได้

หันไปอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่เชื่อมไปยังห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ค่ะ ความสูงของฝ้าภายในห้องอยู่ที่ 2.7 ม.

ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์เหมือนกันทุกห้อง พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินสีเทา ส่วนผนังจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว

ONCE PATTAYA
UNIT PLAN – 2 BEDROOM 1 BATHROOM (51.80 SQ.M)

แปลนห้องสุดท้ายจะเป็นแบบ 2 Bedroom 1 Bathroom จะมีเพียงไซส์เดียวขนาด 51.80 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้างและอยู่ในตำแหน่งห้องมุมของโครงการ ทางโครงการวางแปลนให้ฟังก์ชันการใช้งานแยกออกเป็น 2 ส่วน โดยจัดให้พื้นที่ส่วนกลางเป็นโซนด้านหน้า โซนด้านหลังเป็นส่วนของห้องนอน พื้นที่ห้องนอนเล็กมีการแบ่งพื้นที่ออกมาเป็นส่วนของระเบียงห้อง การทำแบบนี้ทำให้ห้องนอนได้ระเบียงและเดินออกไปชมวิวได้ แต่ก็ต้องแลกกับพื้นที่ที่เสียไป มีข้อดี ข้อเสียที่ต่างกันค่ะ

360 SKY VIEW

เราได้นำภาพ Sky view แบบ 360 องศามาฝากกันเพื่อให้เห็นบรรยากาศรอบๆ โครงการ ONCE  PATTAYA จะได้เก็บไปเป็นตัวเลือกสำหรับการตัดสินใจว่าอยากได้ห้องทิศไหน วิวไหนดี  มีให้ดูทั้งแบบกลางวัน กลางคืน เปรียบเทียบกันไปเลย

เริ่มกันที่ ทิศเหนือ (Day/Night)

ทิศใต้ (Day/Night)

ทิศตะวันออก (Day/Night)

ทิศตะวันตก (Day/Night)

MATERIALS

วัสุดในภาพรวมของคอนโด ONCE  PATTAYA ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished ทั้งชุดครัว,เคาน์เตอร์ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า, เครื่องปรับอากาศ, โต๊ะ, โซฟา, Daybed, ทีวี, ไมโครเวฟและ ตู้เย็น ส่วนวัสดุที่ปูในห้องจะเป็นกระเบื้องยางลายไม้ พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ประตูห้องติดตั้ง Digital door lock  เอาไว้ให้

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของแบบ Studio และ 1 Bedroom

ตู้เย็นทางโครงการก็ให้มานะคะ เป็นของ Electrolux

โซนครัวของแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom เคาน์เตอร์จะมีขนาดกว้างขึ้นมาหน่อย

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ  HAFELE

ที่ดูดครัวของ HAFELE เช่นกัน

ไมโครเวฟทางโครงการก็มีมาให้ เป็นของ Electrolux

ซิงค์ล้างจานและก๊อกน้ำทรงสูง

วัสดุห้องน้ำ

วัสดุภายในห้องน้ำจะได้ทั้งกระจกกั้นอาบน้ำ

ที่อาบน้ำแบบ Rain shower

ชั้นวางสบู่ภายในโซนอาบน้ำ

กระจกเงาจะมีไฟซ่อนอยู่ เราสามารถปิดเปิดเองได้

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ ของ Lavenz

โถสุขภัณฑ์สีขาว ของ Kohler

วัสดุทั่วไปในห้อง/วัสดุปิดผิว (Finishing)

พื้นห้องปูด้วยไม้ยางลามิเนตสีน้ำตาล

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินสีเทา

สวิตซ์ไฟภายในห้อง

Digital door lock ของ Hyundai Telecom

ชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของในแบบ 1 Bedroom

Daybed ทางโครงการก็ให้มานะคะ

ตู้เสื้อผ้าภายในห้องจะได้ฝาปิดเป็นกระจกสีชา

ทางโครงการมีโซฟามาให้แบบ 2 ที่นั่ง

โต๊ะรับประทานอาหาร

และสุดท้ายคือทีวีค่ะ

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาของคอนโดมิเนียม ONCE  PATTAYA ราคาเริ่มต้น 2.85 ล้านบาทในแบบ Studio  ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของทั้งโครงการอยู่ที่ 123,000 บาท ได้ห้องแบบ Fully Furnished ทั้งหมดค่ะ

ราคา ณ สิงหาคม 2562

ราคาเริ่มต้น :

Studio ราคาเริ่มต้น 2,850,000 บาท

1 Bedroom ราคาเริ่มต้น 3,600,000 บาท

2 Bedroom 1 Bathroom ราคาเริ่มต้น 7,000,000 บาท

2 Bedroom 2 Bathroom ราคาเริ่มต้น 8,300,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

30,000 / 50,000 / 100,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

10 %

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม.

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางมายังโครงการ ONCE  PATTAYA ถ้ามาจากกรุงเทพสามารถใช้เส้นถนนสุขุมวิทและมอเตอร์เวย์กรุงเทพชลบุรี-สายใหม่ มาได้ ใช้เวลาประมาณ 1.50-2 ชั่วโมง ก็ถึงแล้วค่ะ ขับเร็วขับช้าก็ว่ากันไป  ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนพัทยาสาย 3 ซึ่งขนานกับเส้นสุขุมวิทและถนนเลียบหาดพัทยาค่ะ  โดยสามารถเชื่อมกับถนนพัทยาเหนือ ถนนพัทยากลางเข้าด้วยกันค่ะ ทำให้เดินทางในตัวเมืองพัทยาได้สะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พัทยาแบ่งเป็นหลายโซนนะคะ  โซนพัทยาเหนือถือเป็นโซนที่ Property แพงที่สุดก็ว่าได้  มีโรงแรมหรูหลายแห่งที่บริหารโดยเชนระดับโลก  ซึ่งความคึกคักของพัทยาส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับตลาดต่างชาติเป็นสำคัญค่ะ  บางช่วงก็เป็นรัสเซียเยอะ  บางช่วงคนจีนก็เยอะ สลับกันไปตามวงจรเศรษฐกิจโลก  ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาจึงจับกลุ่มลูกค้าหลักๆ 2 กลุ่ม คือ คนไทยที่ซื้อไว้เป็นคอนโดตากอากาศหรือเอาไว้เป็นทรัพย์สินปล่อยเช่า  กับลูกค้าอีกกลุ่มก็คือชาวต่างชาตินั่นเองค่ะ

ปัจจุบันพัทยานั้นอยู่ตัวพอสมควร  แต่ในอนาคตเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานหลักๆ ที่อยู่รอบเมืองพัทยารวมถึงพื้นที่ข้างเคียงน่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภาซึ่งภาครัฐกำลังผลักดันให้กลายเป็นสนามบินนานาชาติของภาคตะวันออก  รวมถึงท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังมีแผนพัฒนาขยายเพิ่มเติมขึ้นอีกให้รองรับการขนส่งสินค้า ซึ่งจะทำให้มีแหล่งงานงานที่เพิ่มขึ้นตามมา  ทำให้ภาคอสังหาฯ โตตามไปด้วยค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

พื้นที่บริเวณที่โครงการตั้งอยู่ทาง Honour Group ต้องการพัฒนาเป็นรูปแบบ Mixed-use ค่ะ  โดยจะมีทั้งในส่วนที่เป็นโรงแรม Branded Hotel ระดับ 5 ดาว (ยังไม่เปิดเผยข้อมูลและรายละเอียด ; ส.ค.62)  กับอีกส่วนคือคอนโด ONCE  PATTAYA ที่เราพามารีวิวกันวันนี้  ซึ่งลูกบ้านที่อยู่ในโครงการก็จะสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมได้ด้วย  ซึ่งก็ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของคอนโดเข้าไปนะคะ

การออกแบบของ ONCE  PATTAYA จะเน้นให้ดูทันสมัยและมีการผสมกับความหรูหรา คุมโทนด้วยสีขาวดำ ตัดกับสีทอง และทองแดง เพื่อเพิ่มความสะดุดตามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเน้นพื้นที่สีเขียวทำสวนแนวตั้งแทรกไปตามชั้นพักอาศัยและชั้น Facilities ค่ะ  โดยแปลนห้องของคอนโด ONCE  PATTAYA จะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 4 แบบ คือ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอยมีขนาดตั้งแต่ 28.00-59.80 ตร.ม.  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อที่ต้องการฟังก์ชันห้องที่หลากหลายตรงตามความต้องการ

วัสดุในภาพรวมของคอนโด ONCE  PATTAYA ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Furnished ทั้งหมด คือได้แอร์, ชุด Pantry ครัวพร้อม Hob&Hood, วัสดุห้องน้ำ Kohler , ตู้เสื้อผ้า Built-in และตู้เก็บรองเท้า, ไมโครเวฟ, Daybed, โซฟา, ทีวี, โต๊ะ,ทีวีและชั้นวางทีวี คือได้แบบครบ ซื้อของเพิ่มไม่กี่อย่างก็สามารถลากกระเป๋าเข้าไปอยู่ได้เลย วัสดุปูพื้นในโซนครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิโต้สีขาว ส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้ ห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องลายหินสีเทา

นอกจากเรื่องการบริการของโรงแรมแล้วทางโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในโครงการเยอะทีเดียว  ไม่ว่าจะเป็นส่วน Lobby, Semi Outdoor Lobby, Once More Bar, Once Working Space, Garden, Swimming Pool, Kids Room, Sky Garden, Sky Gym, Cloud Sunken และ Vanilla Sky Bar ค่ะ ซึ่ง Facilities ส่วนใหญ่ในโครงการจะตั้งอยู่ในชั้น 31-32 ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองพัทยาได้แบบ 360 องศา แบบไม่ต้องกลัวใครมาบังวิวกันเลยค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมนั้น นอกจากทำเลที่อยู่ชิดติดรถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมแล้วทำเลโดยรอบมหาวิทยาลัยและรอบโรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นทำเลทองที่ได้รับความนิยมจากฝั่งผู้ประกอบการที่ต้องการมองหาที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการรองรับกับความต้องการ(Demand) ของผู้บริโภคพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลศิริราช แม้จะเป็นอีกทำเลศักยภาพแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดีเวลลอปเปอร์จะหาที่ดินมาพัฒนา ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ครอบครัว “ธรรมเจริญ” งัดเอาที่ดินเก่าในย่านนั้นออกมาพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดธุรกิจจากโครงการสู่อีกโครงการตามแผนการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นายอรรถวุฒิ ธรรมเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ อัมรินทร์ จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ดิ อัมรินทร์เรสสิเดนซ์ (The Amarin Residence) เซอร์วิส อพาร์ตเม้นท์ย่านโรงพยาบาลศิริราชเปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้นำเอาที่ดินที่อยู่บริเวณถนนพรานนกเนื้อที่ 0-2-58 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “อรุณ” (AROON) จำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวนห้องชุด 61 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 280 ล้านบาท ขนาดห้องชุดมีพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่ม 2.5-6.4  ล้านบาทหรือราคาขายเฉลี่ย 110,000 บาทต่อตร.ม. มีห้องให้เลือก 2 แบบ คือ

• ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.07-49.30 ตร.ม.
• ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.11-49.06 ตร.ม.

ทั้งนี้ โครงการ AROON พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “A LIFE WELL LIVED… ชีวิตดีๆ ที่ใครก็ต้องการ” เชื่อมโยงชีวิตยุคใหม่และการอยู่อาศัยแนว Healthy Living เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน รักษาสมดุลชีวิตให้ลงตัวในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การดูแลตัวเอง ที่สำคัญคือ ดีต่อจิตใจในทุกวัน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ บุคลากรไม่ว่าจะเป็น แพทย์ พยาบาลที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า โดยคาดว่าจะปิดการขายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วเนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงประกอบกับจำนวนยูนิตที่ขายมีไม่มาก ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2562 กำหนดแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1/2564

ส่วนเงินดาวน์ประมาณ 15% ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 55 บาท/ตร.ม./เดือน ขณะที่ค่ากองทุน(Sinking Fund) จ่ายครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่อัตรา 550 บาท/ตร.ม. จอดรถได้ 64 % พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, พื้นที่สีเขียว, ระบบรักษความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, กล้องวงจรปิด CCTV และคีย์การ์ดเข้าออกอาคาร-ลิฟต์

ทั้งนี้การออกแบบพื้นที่ส่วนที่เป็น “ล็อบบี้” ชั้น 1 ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบายตา ด้วยดีไซน์เพดานสูงถึง 6 เมตรเพิ่มบรรยากาศในการต้อนรับได้อย่างอบอุ่นทันสมัย ส่วนล็อบบี้ที่ชั้น 2 ตกแต่งแนวโมเดิร์น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสามารถใช้เป็นมุมสบายสำหรับรับแขก หรือใช้เป็นที่นัดประชุมแบบง่ายๆ ไม่เคร่งเครียด ขณะที่ “พื้นที่ส่วนกลาง” ชั้นที่  7-8 ประกอบด้วย ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ Infinity Pool ที่เชื่อมต่อกับความสดชื่นสีเขียวของ Sky Garden โอบล้อมการพักผ่อนอันแสนสุขของคุณด้วย วิวแม่น้ำ สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดของกรุงเทพฯ ชั้นใน

สนใจสอบถามข้อมูลโครงการ AROON ได้ที่เบอร์โทร.064-141-4414

หรือที่ www.TheAmarin.co.th

โดยจะเปิด Pre-Sale ในวันที่ 14-15 ก.ย.นี้ Fully Furnished ราคาเริ่ม 2.5 ล้านบาท พร้อมทั้งได้รับของแถมจากทางโครงการคือ Apple Watch ตามเงื่อนไขโครงการ

จากจุดเด่นการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิดหรือคอนเซ็ปต์ “A LIFE WELL LIVED ชีวิตดีๆ ที่ใครก็ต้องการ” แล้ว ด้วยเพราะโครงการเป็นคอนโดฯ Low Rise ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง(High Privacy Condo) ความสงบเงียบ งดงามในโลกส่วนตัว บนถนนพรานนกที่มีจุดเด่นในด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาของการออกแบบโครงการที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ดังนี้คือ

• WELL BEING  คอนโดอยู่ใกล้ได้เวลาเพิ่มทุกวัน เพียง 280 เมตร จากโรงพยาบาลศิริราชใช้เวลาเดินเพียงแค่ 3 นาที, ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าและท่าเรือเพียง 750 เมตร จากสถานีศิริราชและท่าเรือวังหลัง, ใกล้แหล่งอาหารและจับจ่ายใช้สอยที่มีให้เลือกทั้งย่านวังหลัง, ตลาดพรานนกและอรุณอัมรินทร์ อีกทั้งยังใกล้แหล่งที่พักผ่อนและพื้นที่สีเขียว อาทิ สวนสราญรมย์, สวนรมณีนาถ, สวนหลวงพระราม 8 ที่ยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
• WELL DESIGNED งานดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ครบประโยชน์ใช้สอยแบบ Fully-Furnished เฟอร์นิเจอร์แบรนด์โมเดิร์นฟอร์ม ส่วนสุขภัณฑ์เลือกใช้แบรนด์อเมริกันสแตนดาร์ด พื้นที่ส่วนกลาง ฟิตเนสและสระว่ายน้ำจัดวางไว้ให้ที่ชั้นบนสุดสามารถมองเห็นวิววัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารและกรุงเทพฯ ชั้นในโดยรอบได้แบบพาโนราม่า
• WELL MANAGED จัดการเรื่องบ้านอย่างมืออาชีพ ประกอบด้วย Rental Management เพิ่มความสะดวกให้แก่นักลงทุนด้วยบริการรับฝากห้องเพื่อปล่อยเช่าทั้งสัญญาระยะสั้นและยาว พร้อมบริการจัดหาผู้เช่าและการจัดการแบบครบวงจร, ระบบ Security ระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง,  Security Guard ประจำ Barrier Gate ที่จุดทางเข้า, CCTV และระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร

พร้อมกันนี้นายอรรถวุฒิยังกล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ มีที่ดินที่รอการพัฒนาอีกหลายแปลงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด บางแปลงก็พร้อมที่จะนำเอาออกมาพัฒนา บางแปลงต้องรอเวลาเนื่องจากติดสัญญาเช่าจากผู้เช่า โดยในปี 2563 บริษัทฯ จะนำเอาที่ดินอีกแปลงที่อยู่ในย่านพรานนกออกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 เป็นการสร้างแบรนด์ต่อเนื่องจากโครงการ AROON ซึ่งเป็นโครงการแรกจากนั้นก็จะพัฒนาที่ดินย่านแบริ่งเป็นลำดับต่อไป ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆที่เหลือเช่น ย่านศรีสมาน 40 ไร่ และที่ จ.นครนายก 120 ไร่นั้นปัจจุบันมีคนเช่า ซึ่งบริษัทฯ ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา

      นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศุภาลัยเดินหน้าเปิดโครงการแนวราบใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 นี้  โดยยังเล็งเห็นศักยภาพการเติบโต  ในทำเลโซน   ภาคตะวันออก  ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาคอุตสาหกรรม และมีการเจริญเติบโตของที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง จึงเตรียมเปิดโครงการใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย พาร์ควิลล์ พระยาสัจจา-สุขุมวิท” โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

โครงการ “ศุภาลัย พาร์ควิลล์ พระยาสัจจา-สุขุมวิท” คฤหาสน์หรู บนทำเลศักยภาพ มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท จำนวน 175 แปลง บนพื้นที่ 45 ไร่ ชูแนวคิดที่โดดเด่น “สะท้อนนิยามชีวิตที่สมบูรณ์แบบ‎…สัมผัสความสำเร็จอีกขั้นของชีวิต”  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 150 – 318 ตร.ม.  3-4 ห้องนอน  3-5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท

ออกแบบโดยคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่าพร้อมนำนวัตกรรมใหม่  เข้ามาทำให้สะดวกมากขึ้น อาทิ  Home Automation ที่ส่งมอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน บนทำเลศักยภาพ เชื่อมทุกความสะดวกในการเดินทางติดถนนใหญ่ พระยาสัจจา-คีรี เดินทางเชื่อมต่อถนนสุขุมวิทได้อย่างง่ายดาย เพียง 600 เมตร สิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งช็อปปิ้งครบครัน อาทิ เซ็นทรัล ชลบุรี  โรงพยาบาลเอกชล 2 โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี มหาวิทยาลัยบูรพา มั่นใจกับความปลอดภัย ด้วยระบบ Home Automation & Security พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิดภายในรอบโครงการตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่สนใจคฤหาสน์หรูบนทำเลคุณภาพ จ.ชลบุรี “ศุภาลัย พาร์ควิลล์ พระยาสัจจา-สุขุมวิท” เตรียมพร้อมเปิดบ้าน ให้คุณได้เป็นเจ้าของก่อนใครบนทำเลที่ดีที่สุดหน้าโครงการ พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ รถยนต์ BMW X1  หรือ เลือกรับส่วนลด มูลค่า 2,000,000 บาท ภายในงาน Pre-Sales 28-29 กันยายน นี้ ณ สำนักงานขาย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

คุณธีร ชุติวราภรณ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากที่บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู วีธารา สุขุมวิท 36 ไปนั้น บริษัทได้ประสบความสำเร็จสามารถทำยอดขายโครงการได้ครบ 100% ทุกยูนิต สร้างรายได้สูงถึง 2,700 ล้านบาท ซึ่งมาจากวิสัยทัศน์ของทีมบริหาร ที่เน้นใส่ใจตั้งแต่คัดสรรที่ดินที่มีศักยภาพ ผนวกกับความประณีตของการออกแบบ และคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยในด้านความสะดวกสบาย ผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยมครบครัน พร้อมองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่พักอาศัยทำเลใจกลางสุขุมวิท ย่านทองหล่อแห่งนี้

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯยังได้พัฒนาคอนโดมิเนียมทำเลอ่อนนุช โครงการ IKON สุขุมวิท 77 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพย่านสุขุมวิท จับกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน โดยชูจุดเด่นเชื่อมโยงวิถีคนเมืองกับธรรมชาติ ขยายทุกพื้นที่ใช้งานให้เต็มที่และออกแบบสิ่งแวดล้อมภายในโครงการตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ ด้วยการขยายพื้นที่ใช้สอยในห้องได้ไกลสุดขอบระเบียง สระว่ายน้ำหินอ่อนสุดหรู บริการพื้นที่ส่วนกลาง Co-Thinking Space พร้อมฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น โดยจัดโปรโมชั่นห้องพิเศษราคาเดียว 1.99 ล้านบาท ตั้งแต่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2562 เท่านั้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1298

บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC จัดโปรสุดดี“อยู่ฟรี 5  ปี” มั่นใจ แรง โดนใจลูกค้าในมหกรรมบ้านและคอนโด  12-15 กันยายน 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมเปิดตัว 4 โครงการใหม่จับลูกค้าทุกกลุ่ม

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC กล่าวว่า CMC ทุ่มทุนสร้างจัดโปรโมชันสุดแรง “อยู่ ฟรี 5 ปี” เพื่อตอบแทนลูกค้าทุกราย โดยนำโครงการคุณภาพเยี่ยม 12 โครงการที่มาออกโปรโมชั่นพิเศษทุกโครงการร่วมออกบูทในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 ในปีนี้ ชูคอนเซ็ปต์ “True Living Expert Life with CMC ตัวจริงเรื่องที่อยู่อาศัยกับCMC” ซึ่งทาง CMC คัดสรรโครงการทั่วกรุงเทพตามแนวรถไฟฟ้าและศูนย์กลางธุรกิจใกล้กับรถไฟฟ้า ทั้งนี้ยังนำ C- Series  4 โครงการใหม่มาเปิดตัวในงานนี้ด้วย ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ อาทิ

1. เดอะ คิวเว่ ติวานนท์ (The Cuvee)

2. เดอะ เคลฟ ริเวอร์ไลน์ เจ้าพระยา วงศ์สว่าง (The Clev Riverline) ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานระดับดี

3. ไซน์บิค พระราม 9- รามคำแหง 24 (CYBIQ Rama IX)

4. ไซน์บิค รัชดาภิเษก 36 (CYBIQ Ratchadapisek) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

โดย CMC นำ 12 โครงการที่ตอบโทย์ไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตคนเมืองตามแนวรถไฟฟ้าที่มีความสะดวกสบาย อาทิ

• ชาโตว์อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2
• ชาโตว์อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1
• ชาโตว์อินทาวน์ สุขุมวิท 62/1
• ชาโตว์อินทาวน์ พระราม 8
• แบงค์คอกฮอไรซอน รามคำแหง
• แบงค์คอกฮอไรซอน นราธิวาส 14
• แบงค์คอกฮอไรซอน รัชดา-ท่าพระ
• คาซ่ายูเรก้าพระราม 2 เฟสใหม่
• เดอะ คิวเว่ ติวานนท์(The Cuvee)
• เดอะ คิวเว่ ติวานนท์ คอนโดมีเนียมแห่งแรกในย่าน ติวานนท์ตั้งอยู่ติดกับสถานี MRT ติวานนท์ ให้ความสะดวกสูงสุดในการเดินทางเป็นคอนโดมิเนียมสไตล์โรงแรมในการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ด้วยนวัตกรรมที่อยู่อาศัยแบบ Hi-end จัดเต็มแบบเน้นๆกับสุดยอดเทคโนโลยี Home Automation, Smart Mirror พร้อม Step Garden ขนาดใหญ่กว่า 3 ชั้น เริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาท
• เดอะ เคลฟ ริเวอร์ไลน์ เจ้าพระยา วงศ์สว่าง (The Clev Riverline) ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานระดับดี จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการไตรมาส 4 นี้
• ไซน์บิค พระราม 9- รามคำแหง 24 (CYBIQ Rama IX) โครงการ low rise 126 ยูนิต มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท จุดเด่นคือ ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(ABAC) และมหาวิทยาลัยรามคำแหง
• ไซน์บิค รัชดาภิเษก 36 (CYBIQ Ratchadapisek) โครงการ low rise 329 ยูนิต ตั้งอยู่ใกล้กับสถาบันราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้มีคอนเซ็ปต์เพื่อจับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เป็นนักศึกษาและกลุ่มนักลงทุนเพื่อปล่อยเช่าให้แก่นักศึกษา

ทั้งนี้ภายในงานจะได้พบกับห้อมมุมสวย วิวดี และราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมข้อเสนอดีๆมาให้เลือกแบบจุใจ ยังมีลุ้นรับของและได้รับความรู้จากวิทยากรที่ปรึกษาการลงทุนและลุ้นรับรางวัลตลอดงาน แล้วพบกันที่บูธ CMC งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 ตั้งแต่วันที่ 12-15 กันยายน 2562 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์  ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cmc.co.th

หรือ Call Center 1172

นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น เป็นตัวแทนรับรางวัล “Thailand’s Top Corporate Brand Hall of Fame 2019” ในฐานะสุดยอดองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 รางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดยหลักสูตรปริญญาโท สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นประธานผู้มอบรางวัล

ซีพีเอ็น เป็น 1 ใน 5 องค์กรที่ได้รับรางวัล “Thailand’s Top Corporate Brand Hall of Fame 2019” ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ของงานที่มอบให้กับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุดต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 5 ปี จำนวน 5 องค์กร โดยใช้เครื่องมือวัดมูลค่าแบรนด์องค์กร CBS Valuation คำนวณหามูลค่าแบรนด์และในปีนี้ยังยกระดับรางวัลจากระดับประเทศสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย รางวัลนี้เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า ซีพีเอ็น คือผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกซึ่งพัฒนาธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสามารถสร้างการเติบโตที่มั่นคง ยั่งยืน และได้รับความเชื่อถือจากทั้งลูกค้าและนักลงทุน ส่งผลให้แบรนด์องค์กรมีความแข็งแกร่งและได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

นับตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ ดิ ออริจิ้น (The Origin) อย่างเป็นทางการเมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา แบรนด์คอนโดเจาะ Gen Z แบรนด์นี้ยังฮอตไม่หยุดเพราะเปิดขาย 3 โครงการ ก็ “Sold Out” เกลี้ยงทั้ง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์, ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว, ดิ ออริจิ้น ลาดพร้าว 15 แถมทีมงานยังขยันสุดๆ เตรียมส่ง 3 โครงการที่กำลังจะเปิดพรีเซล ได้แก่

• ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105
• ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น
• ดิ ออริจิ้น พหล-สะพานใหม่

ไปตะลุยทุกอีเวนท์ทั้งงาน มหกรรมบ้านและคอนโด ที่ Paragon Hall ชั้น 5 สยาม พารากอน 12-15 ก.ย.นี้ และที่ งานอีเวนท์ ชั้น M Terminal 21 ในวันที่ 16-19 ก.ย.นี้ สงสัยว่าวันพรีเซลโครงการที่สุขุมวิท 105 วันที่ 21 ก.ย.นี้ มีลุ้นได้เห็นข่าวดี Sold Out อีกแน่ๆ

นอกจากนี้ ทีมงานออริจิ้นยังขนทัพคอนโดทั้งโครงการพร้อมอยู่(Ready to move) ทำเลรถไฟฟ้าอีกนับสิบโครงการ อาทิ

• นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105
• นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา
• ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท เทพารักษ์

พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับแต่ละอีเวนท์เช่น จองคอนโดพร้อมอยู่ 599 บาท โดยหากยื่นขอสินเชื่อผ่านและโอนกรรมสิทธิ์ในระยะเวลาที่กำหนด รับสิทธิ์อยู่ฟรี 1 ปี และ Cash Back สูงสุดถึง 200,000 บาท!!!*

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ล่วงหน้าได้ที่ https://www.origin.co.th/

หรือสอบถามโทร 020 300 000

วันนี้เรามีโปรคอนโดพร้อมอยู่ย่านวงเวียนใหญ่มาฝาก กับโครงการ Bright Sathorn – Wongwian Yai (ไบร์ท สาทร-วงเวียนใหญ่) คอนโดมิเนียม High rise จาก Albright Holdings Co.,LTD ที่จัดเต็มทำโปร BRIGHT LUCKY 9

พบกับ 9 ยูนิตราคาพิเศษ* พร้อมแถมฟรี 9 รายการ* ที่จัดเพียง 9 วันเท่านั้น!

>> เฉพาะ 9-17 ก.ย. นี้ <<

Bright สาทร-วงเวียนใหญ่ คอนโดพร้อมอยู่ แต่งครบ วิวแม่น้ำ ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่  | เริ่ม 4.2 ลบ.*

ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 100,000 บาท* >>> Click : http://bit.ly/2lzP4hb

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-472-2281

#BrightSathornWongwianYai #Bright #BrightSathorn #BrightWongwianYai #โปรจัดเต็ม #BrightLucky9

คุณชัยยุทธ ชุณหะชา (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เข้าร่วมงาน Opportunity Day เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุน พร้อมประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2562 มีผลการดำเนินธุรกิจที่เติบโตแบบมีวินัยทางการเงิน โดยมีรายได้รวม 2,037 ล้านบาท เติบโต 12% จากไตรมาสแรก ยอดขาย 6,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสแรก และมียอดขายสะสมครึ่งปีแรกกว่า 11,000 ล้านบาท มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 21,930 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 33,200 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของยอดโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความแข็งแกร่งด้านกระแสเงินสดอยู่อีกมากกว่า 5,900 ล้านบาท ณ สิ้นสุดไตรมาส พร้อมมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็น 9.1 สตางค์ คิดเป็นสัดส่วนของเงินปันผลต่อกำไรในอัตรา 86% สูงที่สุดตั้งแต่มีการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทเมื่อเร็วๆ นี้