พรีวิวบทความนี้จะนำข้อมูลคร่าวๆ โครงการ Grand Pleno ราชพฤกษ์ (แกรนด์ พลีโน่ ราชพฤกษ์) มาเล่ากันแบบสบายๆ ผ่านการไปงาน AP World ซึ่ง แกรนด์ พลีโน่ ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่รวมเอาบ้านแฝดและทาวน์โฮมมาอยู่ในโครงการเดียวกัน ทำเลที่ตั้งอยู่ในโซนราชพฤกษ์-บางบัวทอง ซึ่งเป็นทำเลย่านชานเมือง เพื่อนบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีถนนราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์และถนนบางกรวย-ไทรน้อยล้อมรอบอยู่ พร้อมทั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกด้วย

ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 43-3-97 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 373 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 2 ประเภท คือทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 105.42 ตร.ม. ฟังก์ชัน  2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา ส่วนบ้านแฝดขนาด 149.19 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วาครับ พื้นที่ส่วนกลางก็จัดเต็มมาให้ ภายในจะเป็นอย่างไรตามลงไปอ่านกันต่อเลยครับ

ภายในงาน AP World ทางเอพีได้ขนโครงการมาให้ชมกันถึง 6 โครงการ โดยของฝั่งโครงการ Grand Pleno ราชพฤกษ์ ค่อยข้างได้รับความนิยม หากได้ลองเข้าไปชมโครงการนี้จะเห็นการ Present โครงการที่น่าสนใจโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นลูกเล่นในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมมีโมเดล Clubhouse ที่เป็นจุดเด่นของโครงการให้ชมกัน แต่ที่น่าสนใจไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะโครงการนี้มีการดีไซน์บ้านแบบใหม่ที่ทาง AP จัดฟังก์ชั่นภายในบ้านและเรื่องของพื้นที่ใช้สอยแบบจัดเต็ม เน้นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งจะเป็นยังไงไปชมพร้อมๆ กันครับ

ใครที่มางาน AP WORLD PAVILION SPACE จะเห็นคำถามที่ติดอยู่หน้างานว่า ” A NEW VISION OF QUALITY OF LIFE คุณชอบโลกที่คุณอยู่แล้วหรือยัง? ” มันเป็นประโยคคำถามที่เพียงแค่เราลองค้นหาาคำตอบที่เริ่มจากตัวเรา เริ่มจาก ‘LIVING DNA’ ของตัวเอง เพียงรู้จักตัวเองให้มากขึ้น และมองหาพื้นที่ที่เหมาะสม เพียงเท่านั้นก็เพียงพอ ซึ่งเราสามารถหาได้ผ่านทาง EMPOWER LIVING WITH 6 NEW PROJECTS ของทุกโครงการที่จะมีคอนเซ็ปต์คุณภาพชีวิต 3 ด้านเป็นนิยามการอยู่อาศัยในโลกอุดมคติ ได้แก่

1. Project Grow (ยั่งยืน) มาสเตอร์แพลนแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนของการออกแบบจากภายในสู่ภายนอก เพื่อก้าวไปสู่คุณภาพชีวิตแห่งอนาคตอย่างมั่นคง
2. Project Joy (อบอุ่น) การสร้างความอบอุ่น สบายใจกับการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมที่เพิ่มความปลอดภัยเพื่อใช้เวลารวมกันได้อย่างมีความสุขไร้กังวล
3. Project Flow (แบ่งปัน) สังคมที่แบ่งปันและเชื่อใจเป็นคุณภาพชีวิตที่หลายคนโหยหา เน้นนวัตกรรมและบริการที่ที่ครอบคลุมเรื่องการดูแลเอาใจใส่ด้วยพาร์ทเนอร์มืออาชีพ เติมเต็มทุกช่วงเวลาทั้งเวลาปกติและเวลาพิเศษได้อย่างไม่บกพร่อง

นอกจากนี้ภายในงานยังมีไลฟ์ทอล์ก The Conversation by AP x THE STANDARD มาร่วมแชร์แบ่งปันโลกในแบบของเรา พร้อมทั้งปิดท้ายด้วยของว่าง สร้างสรรค์ประสบการณ์ “The Picnic” ภายใต้การ Sharing Community ครั้งแรกในไทยอีกด้วย

ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง GRANDE PLENO ราชพฤกษ์ หนึ่งใน EMPOWER LIVING WITH 6 NEW PROJECTS ทางเอพีการันตีเลยว่านิยามพิมพ์เขียวทั้ง 3 ด้านถูกถ่ายทอดออกมาในทุกโครงการเอพี แต่สำหรับนี่ที่โดดเด่นที่สุด คือคำว่า Flow เป็นเพราะอะไรไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน แต่ก่อนอื่นมาดูแผนที่กันก่อน

ที่ตั้งของโครงการ แกรนด์ พลีโน่ ราชพฤกษ์ อยู่ในตำบลอ้อมเกร็ด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งรอบยังเต็มไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ

• ห้างสรรพสินค้า : Central เวสต์เกต, Central รัตนาธิเบศร์, Central แจ้งวัฒนะ, Rina Hey, Chic Republic, Home Pro ชัยพฤกษ์, Crystal PTT, The Walk, Max Value ราชพฤกษ์
• โรงพยาบาล : รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์, รพ.พระนั่งเกล้า
• สถานศึกษา : รร.นานาชาติเด่นหล้า รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี รร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี รร.นนทบุรีวิทยาลัย
• สวนสาธารณะ : สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี, อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก, สวนสาธารณะ บางใหญ่ซิตี้
• วัด : วัดใหญ่สว่างอารมณ์, วัดเล่งเน่ยยี่ 2, วัดสวนแก้ว

ที่สำคัญขับออกไปนอกถนนใหญ่ ก็เจอกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และ จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช กับทางด่วนแจ้งวัฒนะด้วยยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไปอีกขั้น

ภายในงานมีการเล่าเรื่อง โดยใช้ลูกเล่นให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์เหมือนได้อยู่ใน สถานที่นั้น ผ่านการจำลองภาพตัว แสดงของบุคคลต่างๆ ที่จะมีภาพหน้า ของลูกค้าไปประกอบอยู่บนตัวนักแสดงที่อยู่ clubhouse นี้ด้วย

ซึ่งห้อง Studio Room  จะจัดแสดงตัวโมเดลของ Club House ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ ประกอบกับภาพกราฟิกจำลองการใช้ชีวิตของทุก Generations เป็นตัวอย่างของต้นแบบพิมพ์เขียวคำว่า FLOW การแบ่งปันของคนในสังคมสู่การสร้างคุณภาพชีวิตอย่างยังยืน เป็นสถานที่ที่สร้างช่วงเวลาพิเศษ ได้ทำความรู้จักกัน อย่างเช่น การช่วยเหลือกันสอนกันเล่นฟิตเนส การสอนกันว่ายน้ำ การได้พบปะพูดคุยกัน ที่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นครบครัน

มาส่องโมเดลดู MULTI-GEN SWIMMING POOL สระว่ายน้ำจะเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 8 x 18 เมตร มีสระเด็ก, สระผู้สูงอายุ ที่จะเป็นบริเวณที่มี Jacuzzi นอกจากฟังก์ชั่นที่สามารถรองรับได้ทุก Generations ตัวคลับเฮ้าส์อาคาร 2 ชั้น สไตล์ Classic Modern ที่ได้กลิ่นอายความหรูหรา ดูสะอาดตา มีจุดเด่นเป็นCourt ตรงกลาง ที่ลงต้นไม้ไว้ให้ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ในอนาคตเมื่อต้นไม้โตขึ้นก็จะให้ร่มเงา และเสริมให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้น

PLAY + LEAN พื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่ติดกับ Club House ประกอบไปด้วยพื้นที่กิจกรรมเพิ่มทักษะสำหรับเด็ก มี Jogging Track มีจุดจอดจักรยานไว้รองรับ สำหรับคนที่ปั่นจักรยานออกมาด้วย สุดท้ายเป็นมุมพักผ่อน Family Zone ของทุกครอบครัว

แบบบ้านของโครงการนี้มีทาวน์โฮมและบ้านดีไซน์ใหม่รวมแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ โดยตัวของ OLIVIA A และ B จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ เช่น

1. MIRA ทาวน์โฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 42 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 ม. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา
2. OLIVIA  A บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 19 ตร.ม. หน้ากว้าง 12.9 ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วา
3. OLIVIA B บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 19 ตร.ม. หน้ากว้าง 12.9 ม. 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วา

โดยวันนี้เราพามาชมบ้าน MIRA กันก่อนเพราะสร้างเสร็จพร้อมขายแล้ว ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท*

มีการดีไซน์ออกมาในลักษณะที่เรียบง่าย ใช้ศิลปกรรมเส้นสายที่คลาสสิค แต่แฝงด้วยฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยสำหรับชีวิตทันสมัย Facade รายละเอียดที่ละเอียดอ่อน การออกแบบที่เป็น Timeless ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน บ้านก็ยังร่วมสมัยอยู่ ด้วยหน้าต่างที่ขยายกว้างให้บ้านดูปลอดภัยและรับแสงธรรมชาติได้มากกว่าเดิม

ฟังก์ชั่นภายในบ้าน

• Floor 1: ด้านหน้าจอดรถได้ 2 คัน มีห้องเก็บของ โดยความพิเศษของชั้นล่าง คือ Extra Space ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร รองรับครอบครัวใหญ่ได้ และอีกหนึ่งจุดที่ดีมาก คือตัว Motion Sensor Light ระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต ปลอดภัยด้วยไฟอัตโนมัติ บริเวณบันไดขึ้นชั้น 2
• Floor 2: ชั้น 2 ประกอบได้ด้วยห้องนอนของลูก 1 ห้อง 1 ห้องน้ำ และ Master Extra Room ขนาดใหญ่ที่สามารถ แบ่งฟังก์ชั่นเพื่อทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้มี Walk in Closet มีห้องน้ำในตัว

Grande Pleno Ratchapruek พบกับ Premium Town home X Duplex Home โฮมดีไซน์ใหม่ล่าสุดจาก AP พร้อมคลับเฮาส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ รองรับกิจกรรมมากมายที่รอให้คุณมาสัมผัส 24 – 25 ส.ค. นี้ l โอนวันนี้ รับโปรฯแรงทุกหลัง! ลดสูงสุด 500,000 บาท* ฟรีแอร์* + ฟรีโอนฯ* ลงทะเบียนรับเพิ่ม 10,000 บาท*(สิทธิ์มีจำนวนจำกัด) เริ่ม 2.69 – 6.09 ล้าน*

คลิก https://bit.ly/2VAm0ax หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1623

มินิพรีวิวบทความนี้ พาไปดูข้อมูลของโครงการ PLENO Ratchapruek-Changwattana (พลีโน่ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) พรีเมียมทาวน์โฮมใหม่ล่าสุดจาก AP THAI ที่ตั้งใจออกแบบมาให้ทุกฟังกชั่นตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วขนาด 17.5 ตร.ว. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 จอดรถ เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้าน* เท่านั้นครับ

Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ทำเลตั้งอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือเป็น NEW URBAN CONNECT สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย เชื่อมต่อเข้าสู่แจ้งวัฒนะเพียง 10 นาที*  รายละเอียดจะเป็นอย่างไร อ่านได้จากบทความนี้เลยครับ

PLENO Ratchapruek-Changwattana
( พลีโน่ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ )

• เจ้าของโครงการ :  บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ : ถนน อบจ. ริมเกาะเกรียง ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
• พื้นที่โครงการ : 30-1-63 ไร่
• รายละเอียดแบบบ้าน : ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 นอน 2 น้ำ 2 จอดรถ
• จำนวนบ้าน : 301 ยูนิต
• โทร : 1623
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ราคาเริ่มต้น : 1.99 ล้านบาท*
• สิ่งอำนวยความสะดวก : คลับเฮาส์ พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนส และบริเวณพักผ่อน สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ
• ระบบรักษาความปลอดภัย : Security Gate , รปภ. 24 ชม., Bluetooth Card , CCTV, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic , Katsan
• สถานศึกษา : รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี , รร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี , รร.นานาชาติเด่นหล้า
• ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ : The Tree Avenue, Crystal PTT, โรบินสัน ศรีสมาน, Home Pro, Central แจ้งวัฒนะ, Pure Place ราชพฤกษ์, Impact อารีน่า เมืองทองธานี, Chic republic, Central Westgate, Ikea บางใหญ่
• สถานพยาบาล : รพ. ปากเกร็ด, รพ.เวิลด์เมดิคอล เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ, รพ.เกษมราษฎ์ รัตนาธิเบศร์
• สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ : รถไฟฟ้าสายสีม่วง , รถไฟฟ้าสายสีชมพู

LOCATION

Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ครับ  การเดินทางค่อนข้างสะดวก เชื่อมต่อเข้าสู่แจ้งวัฒนะเพียง 10 นาที*

สำหรับการเดินทางมา โครงการ Pleno ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ สามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้นทางหลักด้วยกัน ได้แก่

1. เดินทางจากถนนชัยพฤกษ์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหอการค้าไทย ระยะทาง 4 กม. ถึงโครงการ
2. เดินทางจากถนน 345 เลี้ยวซ้ายเข้าถนน อบจ.ริมคลองเกาะเกรียง ระยะทาง 1 กม. ถึงโครงการ

นอกจากนี้โครงการยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก อีกมากมาย เช่น ด้านการเดินทางสะดวก เพราะใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนศรีรัตน์  นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีปากเกร็ด และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐอีกด้วย

รอบๆโครงการยังรายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น Central แจ้งวัฒนะ, The Tree Avenue, Crystal PTT, โรบินสัน ศรีสมาน, Home pro, Chic republic, Impact อารีน่า เมืองทองธานี เป็นต้น

FACILITIES

ส่วนกลางของ PLENO Ratchapruek-Changwattana มีมาให้อย่างครบครัน ออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ท ซึ่งทางโครงการได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของแม่น้ำและความเป็นประกายของแสงเมื่อตกกระทบ ออกมาเป็น Club House ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการใช้งานได้จริง และมีดีไซน์ที่สวยงาม ให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งวัน และรองรับกิจกรรมที่มากมาย

• ACTIVE SHARING SPACE คลับเฮาส์ 2 ชั้น ฟังก์ชั่นที่ครบครันและดีไซน์สวยงาม รองรับทุกกิจกรรมของการอยู่อาศัย
  • ชั้นที่ 1 สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ (สระเด็กและผู้ใหญ่ ) พร้อม Pavilion (Panoramic Views) และ Co-Sharing Space
  • ชั้นที่ 2 Fitness และ Kids Gym เสริมสร้างพัฒนากล้ามเนื้อ

• EXCLUSIVE & GREEN SPACE สภาพแวดล้อมความเป็นส่วนตัวและความร่มรื่น และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รองรับกิจกรรมที่มากขึ้น พร้อม Pavilion กลางสวน และโซน Pet Park สำหรับน้องหมาและน้องแมว
• HOME SCHOOL EDUCATION พื้นที่ของการเรียนรู้ของลูก : Education Play ground ที่ช่วยเสริมสร้าง EQ & IQ ทั้งกล้ามเนื้อ ฝึกทักษะการคิด ตัดสินใจและแก้ไขปัญหาพร้อมพื้นที่สวนการเรียนรู้ Herb garden

INTERIOR

• Living Area: พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางพลิดเพลินกับพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุด สามารถรองรับการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว
• Luxurious Master Bedroom ห้องนอนเหนือกว่าด้วยการออกแบบ พร้อมขนาดที่กว้างขวางและหรูหรา
• Function 3 ห้องนอน สามารถรองรับครอบครัวที่มีจำนวนที่มากขึ้นตั้งแต่ 2-6 คน
• Façade ดีไซน์ใหม่! ดีไซน์โมเดิร์น เรียบง่าย ตอบโจทย์รสนิยมคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

PRODUCT

พลีโน่ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ  เป็นทาวน์โฮม ขนาด 17.5 ตร.ว. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 จอดรถ

• 1st Floor Plan

• 2nd Floor Plan

…จบพรีวิวสั้นๆ ของ The Excel Hideaway รัชดา – ห้วยขวาง น่าจะถูกใจคนที่อยากได้คอนโดราคาเบาๆ ใกล้ย่านพระราม 9 นะคะ …

สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้วในบทความรีวิวคอนโดสร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ โดยโครงการที่เราจะมารีวิววันนี้เป็นโครงการ THE POLITAN RIVE จาก Everland ค่ะ เป็นคอนโด High Rise สูง 56 ชั้น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับวิวโค้งน้ำและสะพานพระนั่งเกล้าไปเต็มๆ ตั้งอยู่ภายในซอยนนทบุรี 15 ห่างจาก สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า 350 เมตร(ตอนนี้ได้ยินมาว่ากำลังก่อสร้าง sky walk เชื่อมต่อมาลงที่ใกล้ๆ โครงการเพิ่มอีกด้วยน้า ต่อไปเดินใกล้กว่าเดิมและสะดวกมากขึ้นแน่นอน)

โครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ มี 2,351 ยูนิตพร้อมร้านค้าอีก 8 ร้าน สูง 56 ชั้น มีห้องให้เลือก 1-2 ห้องนอนขนาดตั้งแต่ 24.5-60 ตารางเมตรกันเลยทีเดียว เริ่มต้นกับราคาเข้าถึงง่ายๆ เพียง 1.57 ล้านบาทเท่านั้น (ณ สิงหาคม 2562) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง ริมแม่น้ำเจ้าพระยากึ่งๆ รีสอร์ทหรือทำงานในย่านนี้ค่ะ

THE POLITAN RIVE

( เดอะ โพลิแทน รีฟ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด(มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยนนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง นนทบุรี
• ขนาดที่ดิน >>> 9 – 3 – 37.6 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• จำนวนชั้น >>> 56 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 2,351 ยูนิต + 8 ร้านค้า
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 24.5-30.5 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 50-60 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ >>> โดยประมาณ 58% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.57 ล้านบาท (ได้ห้องแบบ Fully-Fitted)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 65,000 บาท/ตร.ม. ณ เดือนสิงหาคม 2562
• พิกัดที่ตั้งคอนโด >>> 13.874030, 100.478632
• เว็บไซต์โครงการ >>> THE POLITAN RIVE
• โทร >>> 02 002 2222

การเดินทาง

การเดินทางไปยังโครงการ The Politan Rive วันนี้เราจะตั้งต้นกันบน ถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณฝั่งตรงข้าม Esplanade แครายค่ะ ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นป้าย สนามบินน้ำ ให้ออกจากเส้นทางหลักไปยังทางคู่ขนานเพื่อกลับรถ กลับรถมาแล้วบริเวณสี่แยกพระนั่งเกล้าให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนนนทบุรี หรือที่รู้จักกันในชื่อถนนสนามบินน้ำ นั่นเอง เมื่อเลี้ยวมาแล้วตรงมาอีกเพียง 250 เมตรจะเจอกับ ซอยนนทบุรี 15 อยู่ทางด้านขวามือพร้อมป้ายโครงการ เข้าซอยมา 270 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ สูงเด่นทีเดียว

จุดตั้งต้นของเราอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งตรงข้าม Esplanade แคราย ให้ขับตรงมาเลยค่ะ

ขับมาสักพักจะเห็นป้ายสนามบินน้ำให้ออกจากเส้นทางหลักไปทางคู่ขนาน ออกตามป้ายไปเลย

ทางออกจะเล็กนิดนึง ระวังขับเพลินเลยนะคะ

ออกมาแล้วจะเห็นป้ายสนามบินน้ำให้กลับรถ ขับตามป้ายไปค่า

จะเป็นที่กลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า

กลับรถออกมาแล้ว เราก็ยังขับตามป้ายสนามบินน้ำต่อไปค่ะ คราวนี้ให้เลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกพระนั่งเกล้า

ทางเบี่ยงซ้ายจะอยู่ก่อนถึงสี่แยกนะคะ ใครไปถึงสี่แยกแล้วแปลว่าเลยน้า

เข้าถนนสนามบินน้ำแล้วตรงมา 250 เมตรจะเจอกับซอยนนทบุรี 15 อยู่ทางด้านซ้ายมือเลี้ยวเข้าไปเลย

เข้ามาแล้วขับตรงไปอีก 270 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการทางด้านหน้าค่ะ

ถึงแล้วกับโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ สูงเด่น เป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่า

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

มาดูกันต่อที่แผนที่กว้างๆ กันบ้างจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ที่อยู่รายรอบโครงการ The Politan Rive จะเป็นสถานที่ราชการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ที่แม้โครงการจะตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำและต้องเข้าซอยย่อยอีกครั้งก็ดูจะไม่ได้เป็นปัญหาทั้งสำหรับการเดินทางและการอยู่อาศัยเลยค่ะ และยังมี รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ตั้งอยู่ห่างออกไป 350 เมตร แต่ไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะที่โครงการมีบริการรถตู้คอยรับ-ส่งลูกบ้านอยู่ด้วย โดยรอบโครงการค่อนข้างปลอดภัยมีทั้งแหล่งงานของรัฐบาลอย่าง กระทรวงพาณิชย์, สถานีตำรวจภูธรนนทบุรี, สำนักงานกองสลาก, สำนักงาน ปปช., ศูนย์ราชการนนทบุรี และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้างและตลาดให้เลือกใช้บริการได้อีกหลายแห่งเช่น ตลาดนกฮูก, Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade แคราย, โลตัส รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ เป็นต้น และยังมี โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลอีกด้วยค่ะ

ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกจะตั้งเกาะอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์และถนนนนทบุรี(สนามบินน้ำ) เป็นส่วนใหญ่ค่ะ

ดูแผนที่ใหญ่แล้ว มาซูมเข้ามาใกล้โครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ กันอีกหน่อยค่ะว่ามีอะไรอยู่ใกล้ๆ เราบ้าง แน่นอนว่าสิ่งที่ใกล้ที่สุดของโครงการคงจะหนีไม่พ้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตั้งอยู่ติดเลย วิวแม่น้ำเต็มๆ ตา ถัดออกมาหน่อยก็จะเป็นแขวงการทางหลวงนนทบุรีที่ตั้งอยู่แถวๆ ที่กลับรถและห่างจากโครงการไปเพียง 1.1 กิโลเมตรจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ค่ะ ส่วนพื้นที่รอบๆ ทั่วไปจะเป็นชุมชนเก่าและพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างร้านค้าระดับชุมชนกระจายอยู่ทั่วพื้นที่

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาดูแผนที่กันไปแล้วเรามาดูรอบๆ โครงการ The Politan Rive กันนิดนึงดีกว่าว่าเป็นยังไงกันบ้าง

ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ เราจึงไปถ่ายภาพจากบนสะพานพระนั่งเกล้ามาให้ชมกันค่ะ จะเห็นได้ว่าตึกใหญ่มากๆ คุมโทนสีอาคารด้วยสีเข้มอย่างสีดำ ตัดด้วยสีทองและขาวแซมอยู่เล็กๆ น้อยๆ ตามแนวขอบตึก เพิ่มลูกเล่นและมิติให้กับตึกได้ดีค่ะ

ข้างหน้าก็เป็นชุมชนเก่าเช่นเดียวกันค่ะ

ส่วนทางด้านขวามือเป็นพื้นที่ชุมชนเก่าและโกดังเก็บของ

มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกบน ถนนรัตนาธิเบศร์ กันต่อ

เริ่มด้วย ห้างเอสพลานาด แคราย Entertainment Center ชื่อดังในย่านนี้ภายในมีทั้งโรงภาพยนตร์หลายโรงและร้านค้าร้านอาหารมากมาย

ข้างๆ กันเป็น โลตัส รัตนาธิเบศร์

เลยมาหน่อยจะเจอกับ ศูนย์ราชการนนทบุรี ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกันเลยค่ะ

ข้ามมาฝั่งตรงข้ามไปไม่ไกลจะเจอกับ บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์เลยค่ะ ที่นี่ค่อนข้างใหญ่ทั้งยังจอดรถสะดวกอีกด้วย

เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกถนนเลี่ยงเมืองนน

ส่วนตลาดนกฮูก เป็นตลาดนัดตอนกลางคืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ค่ะ

จากถนนรัตนาธิเบศรเลี้ยวมาต่อกันที่ ถนนนนทบุรี(ถนนสนามบินน้ำ) 

ถนนนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิค่ะ

ใกล้ๆ กันเป็นโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

ห่างจากโครงการไม่ถึงกิโลเมตรเป็นกระทรวงพาณิชย์

ไม่ไกลกันเป็นสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี

และแน่นอนใครที่ผ่านมาเส้นนี้ต้องรู้จักตึกนี้ดีค่ะ ตึกของกองสลาก นั่นเอง

ติดกันเป็นสำนักงานปปช.

ถนนสนามบินน้ำไปแล้วก็ขอแวะไป ถนนติวานนท์ ต่อเลยค่า

เลี้ยวต่อจากถนนสนามบินน้ำมาที่ถนนติวานนท์จะเจอกับ ไปรษณีย์ นนทบุรี สีแดงเด่นแต่ไกลเลยค่ะ

พอข้ามแยกมาหน่อยก็จะเจอกับกระทรวงสาธารณะสุขอยู่ทางด้านซ้ายมือ เป็นกระทรวงที่ขนาดใหญ่มากทีเดียว

เปิดประตู ไปดูในโครงการ 

พาชมสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการกันไปแล้วของโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ เรียกได้ว่ารายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายทั้งห้างร้านยันสถานที่ทำงานและสถานที่ราชการกันเลยนะคะ

มาดูกันต่อที่ตัวโครงการ อาคารออกแบบมาเป็นสไตล์ Modern เน้นสีเข้มอย่างสีดำ เทา ตัดเส้นสายขอบอาคารด้วยสีทอง เพิ่มมิติและความหรูหราให้กับภาพลักษณ์อาคารได้เป็นอย่างดีค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าโครงการประดับด้วยป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่สีขาวเป็นที่สะดุดตา ของจริงสวยมากเลยทีเดียว

ประตูทางเข้าโครงการแบ่งซ้ายขวาเป็นทางเข้าออกคั่นกลางด้วยป้อมยามออกแบบกลมกลืนกับตัวอาคารหลักของโครงการเลยค่ะ

ระบบการเข้าออกของที่นี่ใช้แบบไม้กระดกพร้อมกล้อง CCTV บันทึกภาพผู้เข้าออกตลอดเวลา

ทางลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้ด้วยระบบ Key Card Access

เข้ามาด้านในจะเจอกับโถงต้อนรับด้านหน้าก่อนถึง Lobby ซึ่ง Lobby ที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งที่ติดทางเข้าและฝั่งที่ติดกับแม่น้ำเพื่อความสะดวกต่อลูกบ้านทุกห้องในการร่นระยะการเดิน

ภายใน Lobby ตกแต่งได้หรูหรา อลังการมาก เน้นสีทองมันวาวตัดเข้ากับลายหินสีน้ำตาลเข้ม ดูเข้ากันได้ดี

ทั้งยังประดับด้วย Art Piece และ Chandelier ยิ่งส่งให้ภายในหรูหราขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ใน Lobby ยังมีมุมให้นั่งเล่น นั่งพักผ่อนอีกหลายแห่งในห้องนี้ไว้บริการอีกด้วยนะคะ

ก่อนจะถึงโถงลิฟต์ทางโครงการได้จัดระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นนึงคือระบบ Key Card Access ป้องกันคนภายนอกเข้าถึงห้องพักได้อีกชั้น

ส่วนทางด้าน Sales Gallery ตั้งอยู่ด้านล่างของอาคารบริเวณชั้น 1 ค่อนไปทางอาคาร Clubhouse ตกแต่งด้วยสีน้ำตาลทอง ล้อไปกับตึกภาพรวมอาคารภายนอก ดูดีค่ะ

EXTERIOR

คอนโดโครงการ The Politan Rive ภายในโครงการขนาด 9 ไร่ 3 งาน 37.6 ตารางวาประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัยสูง 56 ชั้น 1 อาคารจำนวน 2,351 ยูนิตพร้อม 8 ร้านค้าและอาคาร Clubhouse สูง 3 ชั้นอีก 1 อาคาร

ตัวอาคารออกแบบคุมโทนสีด้วยสีเข้มอย่างดำ เทา ที่แม้กระทั่งกระจกยังใช้สีเทา ตัดกับสีทองเพิ่มความหรูหรา ดูคลาสสิคไม่เก่าง่ายดีค่ะ

นอกจากตึกด้านบนแล้ว แม้แต่ถนนด้านล่างยังใช้เป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์ทาสีดำคุมโทนตามตัวตึกอีกด้วย

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินของโครงการ THE POLITAN RIVE ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเข้ามาในซอยนนทบุรี 15 เพียง 270 เมตรเท่านั้น และยังใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้าทำให้คนที่ซื้อห้องทิศใต้ได้วิวสะพานนี้ไปเต็มๆ เลยค่ะ ตอนกลางคืนสวยมากเลยทีเดียว เนื่องด้วยรูปร่างของที่ดินเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันด้านสั้นเข้าแม่น้ำตัวอาคารจึงถูกออกแบบมาให้ทอดตัวตามแนวยาวของที่ดิน ซึ่งมีข้อดีตรงที่ห้องส่วนใหญ่ของอาคารจะหันหน้าทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ รับลมตลอดทั้งปีค่ะ

ทิศเหนือ ติดกับโครงการ The Politan Breeze คอนโดสูง 8 ชั้น ซึ่งไม่กระทบกับวิวใดๆ ของโครงการเนื่องจากห้องพักอาศัยของโครงการจะเริ่มที่ชั้น 9 ซึ่งอยู่สูงไปอีก 1 ชั้นนั่นเอง ถัดไปอีกเป็นที่ดินเปล่าและเป็นโครงการ The Politan Aqua สูง 61 ชั้นที่กำลังก่อสร้างอยู่

ทิศใต้ ติดกับชุมชนเก่าและโกดังสูง 5-7 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับซอยนนทบุรี 15 ได้วิวโล่งๆ เลยค่ะฝั่งนี้

ทิศตะวันตก ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องฝั่งนี้จะได้วิวสวยที่สุดจากวิวแม่น้ำตอนพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งยังลมดีอีกด้วย

มาดูเรื่องทิศแดดกันบ้าง ทิศที่วิวสวยที่สุดคงจะหนีไม่พ้น ทิศตะวันตก ที่หันหน้าเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยห้องที่รับแดดยามบ่ายซักหน่อย ส่วนทิศที่ทางเราคิดว่า safe สุดน่าจะเป็น ทิศใต้ ค่ะที่ยังคงได้วิวแม่น้ำและวิวสะพานพระนั่งเกล้าและคงยังไม่มีตึกสูงใดๆ มาบังวิวนี้ได้ง่ายๆ อีกด้วย ทั้งยังไม่ได้โดนแดดบ่ายโดยตรงอย่างทิศตะวันตกอีกด้วยนะคะ

FLOOR PLAN

มากันที่ Master Plan ของโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ กันบ้าง จะเห็นได้ว่าทางโครงการจัดให้มีทางเข้า-ออกเดียวเพื่อง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยโดยจะ เข้า ได้ตาม ลูกศรสีแดง และ ออก ตาม ลูกศรสีเหลือง ค่ะเห็นได้ว่าออกแบบมาดีไม่มีส่วนที่ Cross กัน ลดเปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุภายในโครงการได้มากขึ้น

แปลนอาคารชั้น 1 ประกอบไปด้วย Lobby 2 แห่ง, ห้องจดหมาย 2 แห่ง, ร้านค้าอีก 8 ร้าน, Riverfront Garden และอาคาร Clubhouse ที่ภายในมีสระว่ายน้ำ, ห้องประชุม, Co-Working Space, Library & Multipurpose Room, Game Room, Golf Simulator Room, Yoga Room, Riverfront Garden และ Pavilion ค่ะ

ส่วนที่บริเวณชั้น 9 จะเป็นชั้นแรกที่เริ่มมีส่วนของห้องพักอาศัยและยังมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง All Season Garden, Playground, Kid Pool และ Infinity Edge Pool อยู่ที่ชั้นนี้ด้วยน้า

ที่ชั้น 10 ก็มีลักษณะคล้ายชั้น 9 ที่มีพื้นที่ส่วนกลางแซมเข้ามาเล็กน้อยในชั้นอย่าง Boxing Room และ Kid Room เข้ามาค่ะ

ส่วนที่เป็นชั้นสำหรับ Residential Area ล้วนๆ เลยจะเริ่มที่ชั้น 11-55 โดยห้องอยู่ที่ 47-51 ยูนิตต่อชั้นเห็นแบบนี้อาจจะรู้สึกว่าเยอะแต่ด้วยความที่ที่นี่จัดลิฟต์โดยสาร High Speed มาให้ถึง 10 ตัวแยกเป็นปีกซ้ายและขวาปีกละ 5 ตัวและ Service Lift อีก 1 ตัวค่ะ

ชั้น 48 จะมีห้องบางส่วนหายไปทำให้ยูนิตต่อชั้นลดน้อยลงไปอีก

ส่วนชั้นที่ 49-55 ก็ยังคงเป็นชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนห้องต่อชั้นอยู่ที่ 47 ห้องแบ่งซ้ายขวาเหลือ 20 นิดๆ ถือว่าไม่มากเลยอยู่สบายๆ

มาดูกันที่ชั้น 56 กันบ้างตรงชั้นนี้จะเป็นชั้นของ Facilities ประกอบด้วย Sky Infinity-Edge Swimming Pool ขนาดใหญ่กว้าง 28*8 เมตร, Sky Fitness ขนาดกว่า 270 ตารางเมตรและ Sky Garden พื้นที่นั่งเล่น พักผ่อนชมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาชิลล์ๆ

ส่วนที่ชั้น 57 จะเป็น Sky Lounge ที่สามารถเปิดรับวิวได้ 270° เลยค่ะ

FACILITIES

สำหรับส่วนกลางของโครงการ The Politan Rive ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เราคิดว่าให้ส่วนกลางมาเยอะมากๆ และยังอยู่ในระดับคุณภาพที่จัดเต็มอีกด้วยค่ะ มาดูกันว่าทางโครงการให้อะไรกันมาบ้าง อย่างแรกเลยเราจะขอเริ่มตรงที่ส่วนกลางของตึกหลักก่อน เปิดประตูเข้ามาที่ Lobby ของโครงการซึ่งที่นี่จะแบ่ง Lobby ออกเป็น 2 ที่ด้วยกันที่ฝั่งที่ติดกับซอยนนทบุรี 15 และฝั่งที่อยู่ใกล้แม่น้ำค่ะ ห้องใครอยู่ฝั่งไหนเลือกขึ้นฝั่งที่ใกล้ได้เลย สะดวกมากๆ ภายในตกแต่งคล้ายๆ กันคือ Theme สีเข้มอย่างหินอ่อนสีน้ำตาลดำจัดกับความแวววาวของสีทองและยังเพิ่มความแกรนด์ด้วยเพดานแบบ Double Volume ยิ่งช่วยขับให้เกิดความหรูหรามากยิ่งขึ้นไปอีก

ห้องจดหมายก็มีอยู่ 2 แห่งเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าห้องจดหมายที่นี่มีขนาดกว้างมากๆ ไม่ต้องยืนเอาจดหมายแบบแออัดเลยค่ะ ตกแต่งตู้จดหมายเป็นสีดำแทรกหลอด LED ไว้ตามจุดให้ความรู้สึกทันสมัยมากเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเรื่อง Tron เลยทีเดียว

และที่พิเศษกว่านั้นคือเราไม่ต้องพกกุญแจสำหรับกล่องจดหมายอีกต่อไปเพราะที่นี่ใช้แบบรหัสค่า ดีมาก

เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการเป็นแบบ Key Card Access ดังนั้นไม่ว่าจะเข้าไปยังโครงการ, ลานจอดรถ, โถงลิฟต์หรือแม้กระทั่งกดลิฟต์เพื่อขึ้นห้องก็จะต้องแสกนบัตรทุกอย่าง ครบวงจร ปลอดภัยมากทีเดียวค่ะ

โถงลิฟต์ที่นี่ให้มาแบบใหญ่มากๆ และยังคงคอนเซปต์วาง Art Piece ประดับตกแต่งไว้ตามมุมเหมือนเดิมค่ะ เพิ่ม Value ให้กับโครงการและภาพลักษณ์ที่ดีของผู้อยู่อาศัยค่ะ

ภายในลิฟต์ตกแต่งธีมเดียวกับ Lobby โดยใช้สีน้ำตาลตัดกับสีทองและติดกระจกทำให้ลิฟต์ดูกว้างมากขึ้น ตัวลิฟต์ที่ทางโครงการให้มาเป็นลิฟต์แบบ High Speed พร้อมระบบลิฟต์ล็อกชั้น

ขึ้นมาที่ชั้น 9 จะเป็นชั้นแรกที่เริ่มมีห้องพักอาศัยและพื้นที่บางส่วนจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ออกจากโถงลิฟต์ชั้น 9 มาจะเจอกับสวนขนาดใหญ่ที่ทางโครงการเรียกว่า All Season Garden สามารถมาเดินเล่น รับลม หรือ Jogging ก็ได้นะคะ

ทางโครงการจัดตกแต่งได้ดูทันสมัย เรียบง่าย ทั้งยังมีมุมให้ออกมานั่งเล่นชิลล์ๆ ได้

และยังมีสนามเด็กเล่นไว้ให้เด็กๆ สามารถมาออกกำลังกาย วิ่งเล่น เจอเพื่อนได้อีกด้วย เรียกได้ว่าลานนี้เป็นลานสำหรับครอบครัวเลย

ยังไม่จบแค่นั้นอีกฝั่งของสนามหญ้าเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinite Pool วิวเมืองย่านงามวงศ์วานพร้อมสระเด็ก

ขึ้นมาที่ชั้น 10 มีห้อง Kid Room เป็นห้องเด็กเล่น ภายในมีทั้ง Slider, เครื่องเล่นปีนป่าย ซึ่งภายในห้องยังปูด้วยพื้นยางที่รองรับการกระแทกได้ดี ป้องกันการบาดเจ็บได้อีกระดับเหมาะกับเด็กๆ ค่ะ

ส่วนอีกห้องหนึ่งบนชั้น 10 นี้จะเป็น Boxing Room ที่ภายในไม่ได้มีแค่กระสอบทรายซ้อมมวยอย่างเดียว แต่มีสนามมวยมาให้ด้วยจ้า!!! ตอนเดินเข้าไปเจอแล้วตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีโครงการไหนกล้าใส่สนามมวยมาไว้ใน Facilities ให้ด้วยฮ่าๆ ดีค่ะ

ขึ้นกันมายาวๆ ที่ชั้น 56 กันต่อ ออกจากลิฟต์มาจะเจอกับ Sky Garden สวนลอยฟ้าวิวแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งอยู่ด้านหน้าเลย ด้านบนนี้ลมดีมาก อากาศดีสุดๆ ใครใส่หมวกมาปลิวแน่นอนจ้า

Sky Garden มีส่วนที่ไว้สำหรับนั่งเล่น นั่งปาร์ตี้กันได้ด้วยนะคะ

ถัดไปอีกหน่อยจะเป็น Sky Infinity-Edge Swimming Pool ขนาด 28*8 เมตร ลึก 1.4 เมตร ที่เรียกได้ว่าวิวอลังการมาก ว่ายน้ำไปมองวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาไป สวยมาก ตอนกลางคืนยิ่งสวย พร้อมมุมนั่งเล่นและเก้าอี้ริมสระเอาไวน์ขึ้นมาดื่มชิคๆ โพสลงไอจีได้สบาย

อีกด้านของชั้น 56 เป็น Sky Fitness ขนาดกว่า 270 ตารางเมตร ภายในมีเครื่องเล่นให้เลือกหลากหลายและจำนวนเครื่องที่น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของลูกบ้าน พร้อมวิวรอบห้องเห็นตั้งแต่ฝั่งรัตนาธิเบศร์ สะพานพระนั่งเกล้ายันแม่น้ำเจ้าพระยาอีกฝั่งเลยค่ะ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเล่นเครื่องเล่นไหนก็สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทั้งนั้น สราญใจมากทีเดียว

มีโซนเล่นเวทเทรนนิ่งด้วยน้า ของเล่นในห้องนี้เยอะมากจริงๆ

บริเวณด้านหน้าห้องฟิตเนสจะมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 57 ได้หรือถ้าใครไม่อยากเดินขึ้นบันไดทางโครงการก็มีลิฟต์ให้บริการนะคะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ แต่แนะนำให้ขึ้นบันได้ดีกว่าได้ออกกำลังกายไปในตัวทั้งทางโครงการยังตกแต่งบันไดมาสวยขนาดนี้เดินเชยชมสักหน่อยก็ให้ฟีลลิ่งที่ดีไปอีกแบบ

ขึ้นมาด้านบนเป็น Sky Lounge ที่สามารถชมวิวได้แบบ 270° พร้อมโต๊ะยาวและชุดเก้าอี้โซฟารองรับได้หลายกลุ่มพร้อมๆ กันค่ะ

วิวที่เราจะเห็นก็จะประมาณนี้ สูงและเห็นได้ไกลมากทีเดียว ยิ่งถ้าวันไหนฟ้าเปิดจะยิ่งมองเห็นได้ไกลกว่านี้อีกนะคะ

มุมนั่งเล่นต่างๆ มีทั้งเก้าอี้อาร์มแชร์และชุดโซฟาขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งได้ทั้งครอบครัวเลย

.

มาต่อกันที่ส่วนกลางอีกแห่งหนึ่งที่ทางโครงการจัดมาให้ ตัวส่วนกลางแห่งนี้เป็นอาคาร Clubhouse สูง 3 ชั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ทางเข้าอีกฝั่งที่มองมาจากฝั่ง Riverfront ตกแต่งได้สวยงาม เป็นหน้าตาให้กับโครงการได้เป็นอย่างดี

โถงก่อนทางเข้าประดับด้วยพวงระย้ามีทองขนาดใหญ่พร้อมป้ายชื่อโครงการ ดูหรูหรามากมากเกินกว่าจะเป็นอาคาร Clubhouse ของโครงการคอนโดราคาห้องล้านต้นๆ เท่านั้น

เข้ามาภายในอาคาร Clubhouse ออกแบบมาเป็นเพดาน Double Volume สูงมาก ตกแต่งคุมโทนอาคารด้วยสีเข้มอย่างสีดำของหินที่นำมาประดับผนังตัดกับสีทองเพิ่มความหรูหราอย่างลงตัว ทั้งยังทำให้ห้องดูโปร่งสบายขึ้นอีกด้วย

มุมนั่งเล่น นั่งพักผ่อนถูกจัดไว้เป็นระยะๆ ไม่ใกล้หรือห่างกันเกินไป

ที่ชั้น 2 ของอาคารออกแบบมาเป็นเหมือนชั้นลอยสามารถมองเห็นบริเวณชั้น 1 ได้ครึ่งหนึ่ง

บนชั้น 2 มีห้องต่างๆ มากมายเราจะมาเริ่มต้นด้วยห้อง Library ขนาดค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยสีโทนสว่างตัดเข้ากับสีไม้ให้ความรู้สึกสบายตา อบอุ่น เหมาะแก่การทำงานและอ่านหนังสือ

ถัดมาเป็น Yoga Studio มีที่แขวนเชือกสำหรับ Flying Yoga และเครื่อง Pilates ด้วยน้า อุปกรณ์พร้อมใช้งานค่ะ

ต่อมาเป็น Golf Simulator Room จำลองการไดร์ฟกอล์ฟมาไว้ในร่ม ไม่ต้องกลัวฝนตกวันออกรอบอีกต่อไป

และห้องที่เราชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นห้อง Game Room ค่ะ ภายในมีทั้งโต๊ะพูลขนาดมาตรฐานใช้ของยี่ห้อเกรดดีเลยแหละ พร้อมทั้งตู้เกมและเครื่องเล่นเกมแบบจำลองการขับรถจริงๆ ก็มีมาให้ไว้ด้วย อยู่ห้องนี้ได้ทั้งวันชัวร์

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของอาคาร Clubhouse จะเป็นดาดฟ้าพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นมุมต่างๆ ชมวิวแม่น้ำยามเย็น

และมี Riverview Swimming Pool พร้อมที่ล้างตัวตั้งอยู่ด้วยค่ะ ถ้าลองนับๆ ดูแล้วที่โครงการนี้มีสระว่ายน้ำให้มาถึง 3 สระด้วยกัน ถือว่าเยอะมากๆ แล้วแต่ละสระก็ไม่ได้มีขนาดเล็กด้วย ขนาดใหญ่ปกติมาตรฐานและบางสระก็ใหญ่กว่ามาตรฐานด้วยซ้ำ ชอบตรงนี้ที่ทางโครงการใจป๋าให้ของมาเยอะและคุณภาพดีค่ะ

ลงจากอาคาร Clubhouse มาที่สวนด้านหน้าที่ทางโครงการเรียกว่า Riverfront Garden เป็นสวนและทางเดินทอดยาวตลอดริมแม่น้ำเลยค่ะ บรรยากาศดีมาก

ที่สะดุดตาคือ POLITAN POND ตรงกลางสวนนี่แหละค่ะ เรียบง่ายแต่สวยสะดุดตามากทีเดียว เหมือนอยู่ต่างประเทศเลย

มีที่นั่งเล่นออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นจ๋าๆ ลดทอนความทันสมัยด้วยการใช้ไม้เพิ่มความอบอุ่นเข้าไปแทน

และบริเวณสวนยังมีท่าเรือด้วยนะ เล่นเจทสกีได้สบาย

ส่วนเรื่องของที่จอดรถนั้นสามารถจอดได้ 58% รวมจอดซ้อนคันหรือประมาณ 1,364 คันมากกว่าที่จอดรถในห้างบางที่อีกนะ ด้านลิฟต์ทางโครงการติดตั้งมาให้เป็นลิฟต์โดยสารแบบ High Speed จำนวน 10 ตัว พร้อมลิฟต์ Service อีก 1 ตัวและลิฟต์ที่ขึ้นไปยังชั้น 57 อีก 1 ตัวค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องภายในโครงการ THE POLITAN RIVE ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีค่ะ ได้ห้องขนาดค่อนไปทางหน้ากว้าง ไม่อึดอัดแม้จะเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการก็ตาม หน้าต่างที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ค่อนข้างใหญ่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดในระดับราคาเฉลี่ยไล่เลี่ยกันในโครงการอื่นๆ นะคะ

แปลนห้องหลักๆ ภายในโครงการจะสามารถแบ่งออกมาได้ 2 แบบคือแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5, 29 และ 30.5 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 และ 60 ตารางเมตรค่ะ

• 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 1 ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตรที่เราหยิบมาให้ดูกันวันนี้จะได้ห้องนั่งเล่นขนาดกำลังดีสามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 1-2 คนได้อีกตัวค่ะ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องนอนที่ทางโครงการกั้นพื้นที่ออกจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ส่วนปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้อีกตู้ใหญ่ๆ ตู้นึงเลยพร้อมระเบียงขนาดกระทัดรัด สามารถปลูกต้นไม้เล็กๆ ได้พอประมาณ พื้นที่ส่วน Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำจะถูกแยกไว้อีกฝั่งหนึ่งโดยมีประตูบานสวิงแยกส่วนไว้ให้เป็นระเบียบ ได้ห้องครัวแบบปิดและห้องน้ำที่แยกส่วนแห้งและเปียกออกจากกันทั้งยังเชื่อมต่อกับระเบียงอีกที่หนึ่งไว้สำหรับเป็นที่ซักล้างและตากผ้าได้อย่างสะดวกค่ะ

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 30.5 ตารางเมตรอีกแบบซึ่งจะเห็นว่าแปลนเหมือนกันเลยแตกต่างกันตรงที่ระเบียงในห้องนอนใหญ่ยาวกว่าเท่านั้นเองและด้านล่างเป็นแปลนของห้องขนาด 24.5 ตารางเมตรค่ะ

• 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตรจะได้เป็นห้องหน้ากว้างมากห้องหนึ่งในโครงการนี้เลย เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนของห้องรับแขกและครัวแบบเปิดค่ะ ห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดจะได้เป็นครัวฝรั่งเข้ามุมแบบเปิดทั้งหมดที่มาพร้อมกับชุดโต๊ะรับประทานอาหาร Built-in มาให้ในตัว เชื่อมต่อกับส่วนของห้องรับแขกขนาดใหญ่ติดกับระเบียงเปิดรับวิวได้ ห้องนอนทั้ง 2 ถูกแยกด้วยพื้นที่ห้องรับแขกและครัวออกจากกันโดยที่ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวส่วนห้องนอนเล็กจะต้องออกมาใช้ห้องน้ำภายนอกค่ะ 

แบบ 2 ห้องนอนขนาด 60 ตารางเมตรที่แปลนภายในเหมือนกับห้องขนาด 50 ตารางเมตรเพียงแต่ห้องขนาด 60 ตารางเมตรจะได้เป็นห้องมุมและมีระเบียงโดยรอบเดินหาถึงกันได้ค่ะ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

โครงการ THE POLITAN RIVE มีห้องตัวอย่างให้ดูทุกแบบห้องเลยค่ะ แต่ทางเราได้คัดสรรห้องตัวอย่างที่ Popular ของโครงการมาให้เพื่อนๆ ชมกัน 2 ห้องเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตรและแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตรค่ะ ฝ้าทั้งโครงการสูง 2.6 เมตร พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบติด Wallpaper ตามมาตรฐานโครงการ ส่วนพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 24*24 นิ้ว พื้นห้องครัวและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 12*12 นิ้วค่ะ

ด้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ทางโครงการให้จะแบ่งออกเป็น 2 แบบตามขนาดห้องดังนี้ แบบ 1 ห้องนอนจะได้ชุด built-in ครัวแบบห้องตัวอย่าง(ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า) และแอร์ ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะได้ชุดครัว built-in พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ยกเว้นเครื่องซักผ้าและตู้เย็นเหมือนแบบในห้องตัวอย่างที่มีโต๊ะรับประทานอาหารให้มาด้วยเลยค่ะ รวมถึงตู้เสื้อผ้าต่างๆ ที่ทางโครงการ built-in มาให้เรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่อาศัยและแอร์ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด THE POLITAN RIVE

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 1 ห้องนอนขนาด 29 ตารางเมตรเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นพื้นที่ขนาดค่อนข้างกว้างค่ะ ผลมาจากห้องภายในโครงการให้มาแบบห้องหน้าค่อนข้างกว้างนั่นเอง พื้นที่บริเวณนี้สามารถวางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบายๆ ทั้งยังเหลือพื้นที่สำหรับเดินและวางโต๊ะ Coffee Table ขนาดกลางได้อีกตัว ส่วนด้านข้างก็ยังเหลือพื้นที่ขนาดพอประมาณวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 1-2 คนค่ะ

ฝั่งตรงข้ามของโซฟาเป็นผนังว่างๆ สามารถวางชั้นวางทีวีพร้อมทีวีขนาดใหญ่ได้ หรือจะ built-in เป็นชั้นวางทีวีพร้อมที่เก็บของก็ดูเป็นไอเดียที่ไม่เลวค่ะ ส่วนประตูข้างๆ นั่นเป็นประตูเชื่อมต่อไปยังห้องครัวที่เราจะพาดูหลังจากนี้

ก่อนที่จะพาไปดูห้องครัว เรามาดูห้องนอนที่เป็นพื้นที่ติดต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นกันค่ะ โดยพื้นที่ห้องนอนนั้นทางโครงการแยกออกมาให้มีสัดส่วนและเกิดความ Private มากขึ้นโดยการกั้นประตูบานเลื่อนกระจก ทั้งยังช่วยให้ลูกบ้านประหยัดค่าไฟด้วยการเปิดแอร์น้อยลงด้วยนะคะ

เข้ามาด้านในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตลงได้ ทั้งยังอยู่ติดกับบานประตูระเบียงขนาดใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้ดี ช่วยส่งเสริมให้ห้องรู้สึกปลอดโปร่งยิ่งขึ้นค่ะ แต่ขอบอกไว้นิดนึงว่าพื้นที่ห้องนอนนี้เมื่อเทียบกับห้องรับแขกจะให้ความรู้สึกที่เล็กกว่ากัน

แม้จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตลงไปแล้วก็ยังเหลือทางเดินรอบเตียงอีกนิดหน่อย

ภายในห้องนอนจะมีระเบียงมาให้ด้วย แล้วดูประตูระเบียงที่ทางโครงการให้มาค่ะ ขนาดใหญ่และกว้างมากทีเดียว โปร่ง โล่งสุดๆ ยิ่งถ้าซื้อห้องฝั่งที่ได้วิวแม่น้ำไปนี่ เรียกได้ว่ารับวิวเต็มๆ ตาไปเลย พื้นที่ระเบียงที่ให้มามีขนาดกระทัดรัด สามารถออกมายืนรับลม หาเก้าอี้เล็กๆ ออกมานั่งพักผ่อนได้

ปลายเตียงทางโครงการจัดวางเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไว้ ใช้งานสะดวก เปิดประตูตู้เสื้อผ้าได้ ไม่ชนเตียงค่า

มาต่อกันที่ห้องครัวกันบ้าง จะได้ชุดครัวแบบในห้องตัวอย่างเลยจากแบรนด์ Modernform/Starmark ติดตั้งมาพร้อมกับอ่างล้างจานขนาดมาตรฐานและก๊อกน้ำ แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้แบบในรูปนะคะ

อ่างล้างจานสแตนเลสติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

และครัวยังติดกับพื้นที่ระเบียงอีกแห่งในห้องนี้ด้วยช่วยให้ระบายกลิ่นอาหารได้ดีค่ะ ทั้งยังเพิ่มแสงธรรมชาติให้สามารถส่องเข้ามาในห้องได้อีกด้วยน้า จะเห็นว่าช่องรอยต่อระหว่างพื้นภายในห้องและระเบียงทางโครงการได้ทำธรณีประตูสูงขึ้นมาสักหน่อยเพื่อป้องกันน้ำฝนจากภายนอกห้องไหลเข้ามาในห้องได้ค่ะ

ระเบียงมีพื้นที่ขนาดพอใช้งาน สามารถวางเครื่องซักผ้าเครื่องโตๆ ได้ 1 เครื่องพร้อมๆ กับราวตากผ้าอีก 1 ราวค่ะ

มีก๊อกน้ำและท่อต่อไว้รอติดตั้งเครื่องซักผ้าเรียบร้อย

เมื่อเข้ามาในห้องครัว ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำค่ะ ภายในห้องน้ำก็จะได้อุปกรณ์ตามมาตรฐานโครงการ อย่างอ่างล้างหน้าพร้อมกล่องเก็บของด้านล่างและโถสุขภัณแบบชิ้นเดียวฑ์ยี่ห้อ Cristina พร้อมติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ที่ผนังห้องน้ำด้านหนึ่งที่ช่วยทำให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้น

ด้านในสุดของห้องน้ำทางโครงการแยกออกไปเป็นส่วนเปียกและยังติดตั้ง Shower Box แบบกระจกฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้วด้วยนะ

พื้นที่ส่วนเปียกจะถูกลดระดับลงไปจากระดับพื้นปกติภายในห้องน้ำค่ะ

Shower อาบน้ำทางโครงการติดตั้งมาให้เลือกใช้ถึง 2 แบบด้วยกันคือแบบที่เป็น Rain Shower และแบบ Hand Shower แบรนด์ Cristina เช่นเดียวกันกับสุขภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งปกติห้องระดับราคานี้ไม่มี Rain Shower ให้มานะคะ

Hand Shower ที่ได้ให้มาเป็นดีไซน์กลมๆ ดูทันสมัย แต่จับถนัดมือค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด THE POLITAN RIVE

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตรเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดินที่จะแจกแจงไปยังส่วนต่างๆ ภายในห้องค่ะ ตรงพื้นที่ส่วนนี้ทางลูกบ้านสามารถ built-in ตู้เก็บของหรือชั้นวางรองเท้าเพิ่มได้นะ และเฉพาะแบบ 2 ห้องนอนจะได้ Digital Door Lock ติดตั้งที่ประตูทางเข้าหลักมาด้วยค่ะ

ซ้ายมือจะเจอกับ Space ใหญ่ๆ 2 ก้อนรวมกันคือพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ห้องครัว พื้นที่ที่เชื่อมต่อกันนี้ส่งผลให้ห้องกว้างและโปร่งโล่งขึ้นค่ะ พิเศษกว่าแบบ 1 ห้องนอนคือห้องแบบ 2 ห้องนอนในห้องจริงจะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in แบบในห้องตัวอย่างทุกชิ้นเลยจากแบรนด์ Euro Creation เช่น ชั้นวางทีวี 3 จุด(ห้องรับแขก, ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก), ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง(ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก), หัวเตียง, โต๊ะเครื่องแป้ง 2 จุด(ห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก) และเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ

มาดูส่วนของห้องครัวกันก่อน ห้องครัวในห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้ครัวแบบเปิดพร้อมเคาน์เตอร์และตู้เก็บของแบบแขวนผนังเข้ามุมและ Island ตรงกลาง ยี่ห้อ Euro Creations แบบในรูปเลยค่ะให้ของดีทีเดียว บานปิดเป็นสีครีมผิว High Gross ส่งผลให้ห้องดูหรูหราขึ้นอีกระดับ

มาดูกันที่เคาน์เตอร์ครัวฝั่งติดกับผนังห้องนอนใหญ่กันก่อน ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มามีที่เก็บของต่างๆ ให้ค่อนข้างเยอะและติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าตามรูปเลยค่ะ

ได้เตาไฟฟ้าขนาด 4 หัวมาด้วย!! ปกติโครงการทั่วไปให้แค่ 2 หัวเอง

พร้อมเครื่องดูดควันด้านบนเตา built-in มาให้เรียบร้อยเลย

และยังได้เตาอบแบบ Combi อีกด้วย

ส่วนด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะตัวนี้ทางโครงการก็ให้มาด้วยนะ คุ้มมาก

ส่วนอีกด้านหนึ่งจัดออกมาคล้ายกัน

ด้านบนติดตั้งเป็นอ่างล้างจานคู่พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกใช้งานสะดวกค่ะ

ส่วนด้านล่างมีที่เก็บของขนาดใหญ่ 1 ช่องและช่องว่างที่เว้นไว้ให้วางเครื่องซักผ้า

ข้างๆ ที่วางเครื่องซักผ้าทางโครงการได้ทำช่องไว้สำหรับวางตู้เย็นไว้ให้ด้วยนะ ดูเป็นระเบียงเรียบร้อยทีเดียว

มากันต่อกับพื้นที่ที่เชื่อมกันของห้องครัวคือ ห้องรับแขกนั่นเอง พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงห้องช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ดีและยังทำให้ห้องรับแขกสามารถรับวิวภายนอกได้อีกด้วยค่ะ

พื้นที่ตรงนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างจึงสามารถวางโซฟาขนาด 4-5 ที่นั่งได้สบายๆ พร้อมกับโต๊ะ Coffee Table อีกหนึ่งตัวใหญ่ๆ

มาดูกันที่ห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ ห้องนอนใหญ่ที่ทางโครงการให้มาจะกินพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ห้องทั้งหมด โดยพื้นที่ห้องนอนอย่างเดียวไม่รวมห้องน้ำส่วนตัวน่าจะกินไปครึ่งหนึ่งของพื้นที่ 1/3 นั้นแล้วค่ะ กว้างทีเดียว สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ

แล้วยังเหลือพื้นที่วิ่งรอบเตียงได้ชิลล์ๆ

พื้นที่อีกฝั่งทางโครงการวางตู้เสื้อผ้าขนาด 3 ตอนไว้ให้ ใส่เสื้อผ้าได้เยอะพอตัว ข้างๆ กันเป็นประตูห้องน้ำส่วนตัวและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

จะเห็นได้ว่าพื้นที่ตรงส่วนแต่งตัวมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางอาร์มแชร์อีกตัวนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานอดิเรกได้

ทางโครงการได้ก่อธรณีประตูขึ้นมาระหว่างพื้นภายในห้องนอนและพื้นห้องน้ำทำมาจากหินอ่อนแท้ Supergenti Grey ดูดีทีเดียว

เปิดเข้ามาภายในห้องน้ำทางโครงการเรียกวัสดุที่ให้ว่าเป็น Premium Package โดยจะให้สุขภัณฑ์ของ Cristina ครบชุดและยังประดับหินอ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ของห้องน้ำด้วยเช่น ผนังโมเสกบริเวณ Shower Box, Top อ่างล้างหน้า, ที่วางสบู่และธรณีตรงทางเข้าห้องน้ำค่ะ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำส่วนตัวในห้องนี้เข้าไปจะพบกับอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของด้านล่างและกระจกเงาบานใหญ่ติดเต็มผนังจรดเพดานเลยค่ะ

ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cristina พร้อมราวแขวนผ้าเช็ดตัว

ซ้ายมือเป็นพื้นที่ส่วนเปียกติดตั้งกระจกฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำขนาดกำลังดีหมุนซ้ายขวาได้โดยไม่ติดขัด

ทางด้าน Shower ได้มา 2 แบบทั้งแบบ Rain Shower และแบบ Hand Shower ให้เลือกใช้ได้ตามสบาย ส่วนผนังตกแต่งด้วยโมเสกหินอ่อนแท้พร้อมที่วางสบู่หินอ่อนแท้เช่นเดียวกันค่ะ

ส่วนห้องนอนเล็กที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งนั้นจะเรียกว่าเล็กก็คงไม่ใช่ เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนในห้องแบบ 1 ห้องนอนซะอีก พื้นที่ตรงนี้สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ทั้งภายในห้องยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดอีกด้วยนะ

พื้นที่รอบๆ เตียงยังเหลือให้เดินได้รอบสบายๆ วางโต๊ะเล็กๆ ข้างหัวเตียงเพิ่มอีกสักตัวยังได้

ส่วนอีกฝั่งทางโครงการวางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งไว้ให้ ขนาดเพียงพอสำหรับการใช้งาน

นี่คือมุมที่มองออกมาจากห้องนอนเล็ก จะตรงกับประตูทางเข้าห้องพอดี เดี๋ยวเราจะขอพาแวะไปชมห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องรับแขกกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องน้ำก็จะได้สุขภัณฑ์เหมือนๆ กันกับภายในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลยค่ะ

ซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์

ส่วนขวามือเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

ขนาดของพื้นที่ส่วนเปียกก็ใกล้เคียงกันเลย

ก่อนจะลากันไปขอพาชมวิวของห้องแบบ 2 ห้องนอนกันหน่อย ซึ่งแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ภาพด้านล่างนี้เป็นวิวจากชั้น 11 ค่ะ จะได้วิวสวนชั้น 9 และเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ให้ฟีลลิ่งเหมือนอยู่บ้านเลยชิลล์มาก

ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นวิวของชั้น 50+ ขึ้นไปค่ะ เห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาสวยมาก

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

อ่างล้างหน้าพร้อมกล่องเก็บของด้านล่างจาก CRISTINA วัสดุกันน้ำ

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก ใช้งานสะดวก

โถสุขภัณฑ์สีขาวแบบ Dual Flush จาก CRISTINA เช่นเดียวกันกับอ่างล้างหน้าค่ะ

กระจกฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass หนา 10 มม. จาก Shower King

Rain Shower แบรนด์ CRISTINA

Hand Shower ก็มาจาก CRISTINA เช่นเดียวกัน

ที่วางสบู่หินอ่อน

กระเบื้อง Procelain ขนาด 24*24 นิ้ว

ราวแขวนผ้าเช็ดตัว แบรนด์ CRISTINA หรือเทียบเท่า

ที่แขวนทิชชู่ก็เช่นเดียวกัน

พัดลมระบายอากาศจาก Panasonic

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

ห้องครัวของแบบ 1 ห้องนอนจะได้ครัวสำเร็จ มีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานและตู้เก็บของแบบแขวนผนังติดตั้งมาให้เรียบร้อย

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 12*12 นิ้ว สีเทา

ส่วนครัวของแบบ 2 ห้องนอนจะได้ครัวเปิด built-in เคาน์เตอร์และตู้เก็บของแบบแขวนบานปิด High Gross เข้ามุมขนาดใหญ่มาให้ พร้อมกับโต๊ะรับประทานอาหาร แบรนด์ Euro Creations ค่ะ

พื้นในครัวจะเป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม.

บานปิดเป็นแบบ High Gross สวย ดูดี

โต๊ะรับประทานอาหาร Built-in มาให้พร้อมกับชุดครัว

เตาไฟฟ้าขนาด 4 หัวยี่ห้อ Teka

เครื่องดูดควันก็มาจาก Teka เช่นเดียวกัน

อ่างล้างจานแบบคู่ใช้งานสะดวก

เตาอบ Combi จาก Teka เจ้าเดิมค่ะ

*วัสดุบางอย่างอาจจะไม่ปรากฎครบทุกห้องหรือแบบห้อง

ประตูห้องหลักทำจาก Fiber Cement พ่นสีขนาด 220*90 เซนติเมตร พร้อมตาแมว

ส่วนประตูอื่นๆ ภายในห้องทำจาก Fiber Cement พ่นสีขนาด 200*80 เซนติเมตร

ด้ามจับก้านโยกยี่ห้อ COLT

ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนจะได้ Digital Door Lock ยี่ห้อ COLT แทน

ช่องตาแมวที่หน้าประตู

ตาแมวด้านในห้องมีที่ปิดให้ด้วยค่ะ

ในห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีประตูที่ไม่เหมือนกับห้องแบบ 2 ห้องนอนคือจะได้ประตูกระจกบานเลื่อนอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำมาด้วย

พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.

ห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 12*12 นิ้ว สีเทา

ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้อง Procelain ขนาด 24*24 นิ้ว

ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 12*12 นิ้ว สีเทาเข้ม

หลอดไฟ LED ทั้งห้อง

บริเวณระเบียงติดตั้งหลอดไฟสำหรับใช้ภายนอกมาให้ด้วย มีฝาป้องกันน้ำ ฝุ่น และแมลง

ภายในห้องติดตั้ง Springer มาให้ยามฉุกเฉิน

พร้อมสัญญาณ Siren

ปลั๊กไฟที่ใช้ภายนอกห้องมาพร้อมกับฝาป้องกันน้ำและฝุ่น

ตู้ควบคุมไฟฟ้าภายในบ้านยี่ห้อ Bticino

สวิตช์ไฟยี่ห้อ Siemens

เต้ารับไฟฟ้าและสัญญาณต่างๆ ภายในห้องติดตั้งมาเรียบร้อยดีค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่เราเข้าไปรีวิวโครงการ THE POLITAN RIVE เป็นช่วงเดือนสิงหาคม 2562 ราคาแบบ 1 ห้องนอนขนาดเล็กสุด 24.5 ตารางเมตร เริ่มต้นที่ 1.57 ล้านบาทและห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.2 ล้านบาท

ราคา ณ เดือนสิงหาคม 2562

ราคาเริ่มต้น :

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.57 ล้านบาท  (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 64,xxx บาท/ตร.ม.)
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 68,xxx บาท/ตร.ม.)
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 81,xxx บาท/ตร.ม.)
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.2 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 104,xxx บาท/ตร.ม.)
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 131,xxx บาท/ตร.ม.)

เงื่อนไขการจอง :

เงินจอง+สัญญา

• 1 ห้องนอน 40,000 บาท
• 2 ห้องนอน 100,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

• ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
• ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 520 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคา 1.57 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 9,130 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 11,572 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคา 2.5 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 14,538 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคา 5.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 30,238 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 45,939 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคา 1.57 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 9,753 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 12,362 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคา 2.5 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 15,530 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคา 5.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 32,302 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 49,074 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคา 1.57 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 10,769 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 13,650 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคา 2.5 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 17,148 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคา 5.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 35,668 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 54,188 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคา 1.57 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 12,582 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 15,948 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคา 2.5 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 20,035 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคา 5.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 41,674 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 63,312 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี/ ระยะเวลา 10 ปี

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตารางเมตร ราคา 1.57 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 16,401 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ราคา 1.99 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 20,788 บาท/เดือน
• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตารางเมตร ราคา 2.5 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 26,116 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ราคา 5.2 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 54,321 บาท/เดือน
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 7.9 ล้านบาท — ผ่อนประมาณ 82,527 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านการเดินทางโครงการ THE POLITAN RIVE ตั้งอยู่บนซอยนนทบุรี 15 ที่เข้าจากถนนนนทบุรีหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ถนนสนามบินน้ำ เพียง 270 เมตร เชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนงามวงศ์วาน, ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และถนนติวานนท์ เข้าเมืองได้สะดวกทั้งยังอยู่ใกล้กับสะพานพระนั่งเกล้าที่สามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาออกเมืองได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นี่ยังไม่รวมถึงรถสาธารณะที่วิ่งผ่านกันอย่างขวักไขว่ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถสองแถวและพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้เลือกใช้บริการกันได้ตามสบาย และยังอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าเพียง 350 เมตรซึ่งตอนนี้มีแผนจะทำ Sky Walk ข้ามมายังฝั่งโครงการ ยิ่งร่นระยะทางการเดินให้ใกล้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งงานและ Hub ในย่านนี้จึงเต็มไปด้วนร้านค้า ห้างอย่าง เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, กระทรวงพาณิชย์, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เป็นต้นในระยะรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ด้วยความที่ย่านนี้เป็นย่านที่กำลังจะเติบโตเพราะการมาถึงของ รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน ส่งผลให้เกิดแรงผลักเบาๆ ให้พื้นที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ อีกทั้งตัวโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ ตั้งอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้า ไปไม่ไกลอีกด้วยนะคะซึ่งตัวรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้จะไปเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเตาปูน มุ่งเข้าใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นในย่านรัตนาธิเบศร์นี้เป็นย่านอยู่อาศัยและชุมชนเก่าจึงมีคนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่นทำให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายครบวงจร เช่น ตลาดนกฮูก, Central รัตนาธิเบศร์, Esplanade แคราย, โลตัส รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ, กระทรวงพาณิชย์, สถานีตำรวจภูธรนนทบุรี, สำนักงานกองสลาก, สำนักงาน ปปช., ศูนย์ราชการนนทบุรี และกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น แล้วในอนาคตทางรัฐบาลยังมีแผนการพัฒนาท่าเรือตรงบริเวณสะพานพระนั่งเกล้าเชื่อมต่อสู่สาทรโดยตรงเพิ่มขึ้นอีกท่านึงด้วยนะคะ เรียกได้ว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ในช่วงกำลังพัฒนาและคาดว่าจะมี Value ที่เพิ่มขึ้นหลังจากนี้ไปอีกมากโขเลยทีเดียวค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ THE POLITAN RIVE ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์ Modern คุมโทนสีภายนอกด้วยสีเข้มอย่างสีดำ เทาเข้มตัดกับเส้นของของอาคารด้วยสีทองเพิ่มความหรูหราและลดทอนความดำมืดของตึกได้อย่างลงตัว

ที่ดินของโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันด้านสั้นเข้าสู่แม่น้ำ วางอาคารเป็นแบบ 1 อาคารสูง 56 ชั้นโดยหันด้านยาวเข้าสู่ทิศเหนือ-ใต้ ทำให้ห้องส่วนใหญ่ของอาคารหันทางทิศเหนือและใต้แทบทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะไม่โดนแดดบ่ายในองศาเต็มๆ สักห้องเดียว แล้วยังวาง Facilities ต่างๆ กระจายตามจุดทั้งด้านหน้าและด้านหลังสะดวกต่อการใช้งานของลูกบ้านทุกห้อง พร้อมก่อสร้างตึก Clubhouse สูง 3 ชั้นไว้ที่ทางด้านหน้าฝั่ง Riverfront อีกด้วย

ในด้านภาพรวมของห้องในโครงการ เดอะ โพลิแทน รีฟ มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลักๆ อยู่ 2 แบบได้แก่ แบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5-30.5 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50-60 ตารางเมตร ทั้งคู่ได้ห้องแบบหน้ากว้าง หน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่ช่วยขับให้ห้องดูโล่งโปร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งยังออกแบบห้องมาได้ดี ให้น้ำหนักไปกับพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ และในห้องแบบ 1 ห้องนอนจะได้ครัวปิดมา จัดสรรพื้นที่ได้เป็นระบบระเบียบดีค่ะ แม้แต่ห้องขนาดเล็กที่สุดอย่าง 24.5 ตารางเมตรก็ยังไม่รู้สึกอึดอัด ส่วนเรื่องของวิวห้องเนื่องจากตัวโครงการชั้นที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 9 จึงได้วิวค่อนข้างโล่งๆ แล้วจากความที่เพื่อนบ้านเป็นตึกที่สูงสุดเพียง 8 ชั้นเท่านั้น แต่หากใครซื้อห้องฝั่งทิศเหนืออาจจะเจอกับวิวตึก The Politan Aqua ที่สูง 61 ชั้นได้ แต่ก็ยังมีระยะห่างจากที่ตั้งโครงการออกไปอีกไกลอยู่

วัสดุที่ทางโครงการจัดมาให้ก็สมกับราคาขายของห้องดี พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.6 เมตร เพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ LED ทั้งห้อง ได้เฟอร์นิเจอร์ built-in บางส่วนอย่างเช่นเคาน์เตอร์ครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร*, ตู้เสื้อผ้า*, โต๊ะเครื่องแป้ง* เป็นต้น ตามแต่ละสเปกของห้อง สุขภัณฑ์ได้ของ Cristina/Shower King ชุดครัวได้ของ Modernform/Starmark ส่วนแบบ 2 ห้องนอนจะได้ชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ยี่ห้อ Euro Creations ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ THE POLITAN RIVE ตั้งอยู่กระจายอยู่ทั่วทั้งโครงการโดยมีหลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 จุดได้แก่

1. อาคาร Clubhouse ที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 3 ชั้นประกอบไปด้วย Co-working Space, Meeting Room, Library, Multipurpose Room, Game Room, Golf Simulator Room, Yoga Studio, Riverview Swimming Pool, Pavilion และ Riverfront garden

2. ส่วนกลางบริเวณชั้น 9-10 ของอาคารที่พักอาศัยประกอบไปด้วย All Season Park, Playground, Kid Pool, Infinity Edge Pool, Kid Room และ Boxing Room และส่วนสุดท้าย

3. ส่วนกลางบริเวณชั้น 56-57 ประกอบไปด้วย Sky Swimming Pool, Sky Garden, Sky Fitness และ Sky Lounge

ภายในล้วนตกแต่งสวยงาม หรูหรา น่าใช้งานทั้งยังแต่ละอย่างที่โครงการจัดมาให้เรียกว่าใหญ่และใช้งานได้จริงพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มตาค่ะ

ส่วนเรื่องของที่จอดรถนั้นสามารถจอดได้ 58% รวมจอดซ้อนคันหรือประมาณ 1,364 คันซึ่งถือว่าให้ที่จอดมาค่อนข้างเยอะมากๆสามารถจอดได้ทั้งบริเวณรอบๆ อาคารและที่ตึกจอดรถในอาคาร ลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้เป็นลิฟต์แบบ High Speed ยี่ห้อ Mitsubishi จำนวน 10 ตัวและ Service Lift อีก 1 ตัวหารจำนวนห้องต่อจำนวนลิฟต์ออกมาแล้วได้ค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความที่โครงการให้ลิฟต์มาตัวค่อนข้างใหญ่และมีความเร็วสูงจึงอาจจะไม่ส่งผลกระทบมากนักสำหรับเรื่องเวลาการรอลิฟต์ในแต่ละรอบค่ะ

ADDITIONAL INFO.

พิเศษ! ทางโครงการได้จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าอย่าง โปรโมชั่นผ่อนต่ำนาน 2 ปีเพียงเดือนละ 4,999 บาท/เดือนสำหรับห้องขนาด 24.5 ตารางเมตร และ ผ่อน 5,999 บาท/เดือน สำหรับห้องขนาด 29 และ 30.5 ตารางเมตร พร้อม Event สุดพิเศษในวันที่ 28-29 กันยายนนี้ มีทั้งห้องสวย ราคาดีและโปรโมชั่นอื่นๆ อีกมากมายภายในงานค่ะ

สนใจติดต่อสอบถาม โทร. 02-002-2222

หรือ Official Website: www.thepolitancondo.com/rive

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

บมจ.ศุภาลัย ปักหมุดเพิ่ม หัวเมืองภูเก็ต เตรียมจัดงาน Grand Opening “ศุภาลัย พรีโม่ ศรีสุนทร ภูเก็ต” เปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 21-22 กันยายน นี้ ณ สำนักงานขาย พบกับทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ในราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นมาเริ่มเห็นสัญญาณบวกมากขึ้นจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยซึ่งช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยลูกค้าสามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมาทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านรุ่นใหม่ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาโดยตลอดทำให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมเปิด โครงการศุภาลัย พรีโม่ ศรีสุนทร ภูเก็ต ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ในราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่หาได้ยากในจังหวัดภูเก็ตและเป็นราคาที่มอบความคุ้มค่าทั้งพื้นที่ใช้สอยควบคู่กับคุณภาพ

“ศุภาลัย พรีโม่ ศรีสุนทร ภูเก็ต” มูลค่าโครงการประมาณ 318 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการกว่า 11 ไร่ มอบความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 106 แปลง ชูแนวคิด “The Happiness Area for your family” โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งานท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม โครงการตั้งอยู่ริมถนนศรีสุนทร สามารถเชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่จะเปิดตัวปลายปี 2563 เพียง 650 เมตร รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, โรงเรียนขจรเกียรติถลาง, อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต พบกับทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 120 ตร.ม. ในราคาเริ่มเพียง 2 ล้านกว่าบาท ผ่อนคลายกับพื้นที่สวนสาธารณะภายในโครงการ สบายใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยทางเข้าระบบ Easy Pass พร้อมกล้อง CCTV

“ศุภาลัย พรีโม่ ศรีสุนทร ภูเก็ต” เตรียมเปิดบ้านพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของบนทำเลที่ดีที่สุดหน้าโครงการ พิเศษ! จองวันงานรับเพิ่ม TV Samsung 50 นิ้วและส่วนลดพิเศษ พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอีกมากมาย กำหนดเปิดจองในวันที่ 21-22 กันยายน นี้ ณ สำนักงานขาย

สอบถามเพิ่มเติมโทร 1720

หรือดูรายละเอียดได้ที่  www.supalai.com

มินิพรีวิวครั้งนี้เราจะพาทุกคนมาชมข้อมูลโครงการแบบคร่าวๆ ของ ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ อีกโครงการของทางศุภาลัย คราวนี้ศุภาลัยกลับมาบุคตลาดฝั่งธนย่านรถไฟฟ้าสถานีท่าพระกันบ้างค่ะ เป็นคอนโดสูง 22 ชั้น 421 ยูนิต ในคอนเซปต์ “Your Life, Your Style” ตกแต่งอาคารด้วยธีม Modern Colonial ผนวกรูปร่างทรงโค้งคล้ายเกือกม้าไปไว้ที่ประตูและหน้าต่างพร้อมแซมเสาโรมันดูคลาสสิคไม่เสื่อมคลายแม้ผ่านไปหลายปี ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีท่าพระเพียง 570 เมตร

โครงการ Supalai Lite Tha Phra-Wongwian Yai มีราคาเริ่มต้นที่ 1.98 ล้านบาทหรือ 71,000 บาท/ตารางเมตรเท่านั้น เหมาะกับคนที่อยากอยู่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า เข้า-ออกเมืองสะดวก ในราคาเป็นเหตุเป็นผลค่ะ

SUPALAI LITE  THA PHRA – WONGWIAN YAI
( ศุภาลัย ไลท์  ท่าพระ – วงเวียนใหญ่ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
• ขนาดที่ดิน >>>  2 – 2 – 42.1 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ความสูงอาคาร >>> 22 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  419 ยูนิต + 2 ร้านค้า
• แบบห้อง >>> Studio – 3 ห้องนอน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.98 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ย >>>  71,000 บาท ต่อตร.ม. 
• พิกัด GPS >>> 13.728139, 100.480238
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1720

LOCATION

โครงการ ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมก่อนถึงแยกท่าพระไม่ไกล สามารถเชื่อมต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนรัชดาภิเษฏ, ถนนราชพฤกษ์, ถนนตากสิน, ถนนลาดหญ้า และ ถนนเจริญนครได้อย่างสะดวก ทั้งยังห่างจาก รถไฟฟ้าสถานีท่าพระ เพียง 570 เมตรอีกด้วย เดินชิลล์ๆ แปปเดียวก็ถึงรถไฟฟ้าแล้วค่ะ

ส่วนทางด้านทำเลในย่านนี้แม้จะมีความเจริญต่างๆ เข้ามามากมายแต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายชุมชนเก่า ย่านที่อยู่อาศัยเก่าคงเหลืออยู่จึงไม่ได้มีความวุ่นวายมากนัก ยังคงเหมาะแก่การพักผ่อนอยู่ ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารระดับชุมชนอร่อยๆ ตั้งอยู่เรียงรายให้เลือกกันอย่างไม่เบื่อหน่ายกันเลยทีเดียว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายเปิดให้บริการในบริเวณใกล้เคียงเช่น เดอะมอลล์ท่าพระ, ICONSIAM, ตลาดวงเวียนใหญ่, บิ๊กซีอิสระภาพ, รพ.พญาไท3, รพ.บางไผ่, รพ.รัชดาท่าพระ, รพ.ตากสิน เป็นต้น ยังไม่รวมสถานศึกษาอีกมากมายอย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนฯ สยาม, โรงเรียนพาณิชฯ ธนบุรี, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ, มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นต้น

FACILITIES

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ ให้ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มอย่าง

• • สระว่ายน้ำ พร้อมแยกสระเด็กและจากุซซี่
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ห้องซาวน่า
  • ห้องประชุม
  • สนามเด็กเล่น
  • Co-Living Space
  • Co-Working Space
  • Rooftop Garden

ภายในโครงการมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ลูกบ้านอย่าง Digital Door Lock, Home Automation, Smart Kitchen และ EV Charger ค่ะ นี่ยังไม่รวม Pocket Garden ที่กระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ ของอาคารอีกด้วยนะคะ

…จบลงไปแล้วนะคะกับพรีวิวโครงการสั้นๆ ของ Supalai Lite ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ หวังว่าจะชอบกันนะคะ สำหรับโครงการนี่แม้จะตั้งอยู่ในย่านฝั่งธนแต่ก็มีความเจริญไม่แพ้ฝั่งพระนครเลย แถมยังเดินทางง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายอีกด้วยน้า ใครชอบสามารถเข้าเยี่ยมชม Sales Gallery โครงการได้ทุกวันเลยค่ะ …

มินิพรีวิวครั้งนี้เราจะพามาดูข้อมูลคร่าวๆ ของโครงการ THE CUBE URBAN SATHORN-CHAN คอนโด Low Rise ของ คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในย่านใกล้ใจกลางเมือง เดินทางเข้าสู่สาทรสะดวกใกล้รถไฟฟ้าสถานีสุรศักดิ์ ใกล้สิ่งอำนวยควสามสะดวกต่างๆ มากมายในย่านสาทรและพระราม 3

เดอะ คิวบ์ เออร์เบิน สาทร-จันทน์ เปิดตัวมาในราคาเริ่มต้นเพียง 2.55 ล้านบาทพร้อมห้องแบบ Fully-Furnished เหมาะกับหนุ่มสาววัยทำงานที่สู้ราคาคอนโดใจกลางสาทรไม่ไหวค่ะ

THE CUBE URBAN SATHORN-CHAN
( เดอะคิวบ์ เออร์เบิน สาทร-จันทน์ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนจันทน์ 51  เขต บางคอแหลม  กรุงเทพฯ
• ขนาดที่ดิน >>>  0 – 3 – 70 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ความสูงอาคาร >>> 8 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  135 ยูนิต
• แบบห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 28-34.5 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.5-39.5 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 42.5 ตารางเมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.55 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ย >>>  91,000 บาท/ตร.ม. 
• พิกัด GPS >>> 13.705862, 100.514571
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1246

LOCATION

โครงการ THE CUBE URBAN SATHORN-CHAN ตั้งอยู่บนซอยจันทน์ 51 สามารถลัดเลาะไปยังซอยเจริญราษฎร์ 8 เชื่อมต่อถนนสายหลักอย่างถนนจันทน์, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนเจริญกรุง, ถนนนราธิวาส และถนนสาทรได้โดยง่าย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานคร และยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์แีกด้วย เดินทางสู่ย่านสาทรและพระราม 3 ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที แม้จะตั้งอยู่ใกล้ความเจริญขนาดนี้แต่ด้วยทำเลที่ตั้งในย่านนั้นยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่า มีชุมชนอยู่มากทำให้เมื่อเข้าไปในซอยแล้วจะได้รับความเงียบสงบต่างจากถนนสายหลักต่างๆ ภายนอก เหมาะแก่การพักผ่อนค่ะ

ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าทำเลสาทรและพระราม 3 นั้นเป็นย่านที่เจริญมากๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายเช่น โรงเรียนนานาชาติโชวส์เบอรี่ กรุงเทพ, Asiatique, ICONSIAM, โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, โรงพยาบาลเลิดสิน, เซ็นทรัลพระราม 3, โฮมโปรพระราม 3, Vanilla Moon เป็นต้น มีของกิน ของใช้ให้เลือกซื้อได้มากมาย

FACILITIES

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เดอะคิวบ์ เออร์เบิน สาทร-จันทน์ ให้สิ่งอำนวยความสะดวกมาค่อนข้างครบครันมี Double Volume Lobby with Free Wifi พร้อมกับ Co-Working Space

Co- Working Space ที่ชั้น 2 ของบริเวณ Lobby

ที่ชั้น 2 ของโครงการมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่

และที่ชั้นเดียวกันก็มี Fitness สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายไว้ให้บริการอีกด้วย

นอกจากนี้ทางโครงการยังมีห้องซาวน่า แยกชาย-หญิง พร้อมติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติและตู้รับ-ส่งสินค้าอัจฉริยะไว้ให้ลูกบ้านอีกด้วยค่ะ

MASTER PLAN

แปลนโครงการ THE CUBE URBAN SATHORN-CHAN ตัวอาคารวางตัวทอดยาวตามแนวถนน รูปร่างอาคารเป็นตัว U โอบสระว่ายน้ำบริเวณชั้น 2 เอาไว้ ส่วนที่จอดรถสามารถจอดได้ที่ชั้น 1 และชั้นใต้ดินค่ะ

ROOM PLAN

แปลนห้องภายในโครงการ THE CUBE URBAN SATHORN-CHAN มีให้เลือกหลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

• แบบ 1 ห้องนอนขนาด 28-34.5 ตารางเมตร
• แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.5-39.5 ตารางเมตร
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42.5 ตารางเมตร

ซึ่งในห้องทุกแบบจะได้ห้องครัวแบบปิดทั้งหมดค่ะ

• แบบ 1 ห้องนอน Type A : 28 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type A-1 : 34.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type B-1 : 34.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน พลัส Type B : 34.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน พลัส Type B-2 : 39.5 ตารางเมตร

• แบบ 2 ห้องนอน Type C : 42.5 ตารางเมตร

INTERIOR

และท้ายสุดนี้เราเอาภาพจำลองการตกแต่งภายในห้องรูปแบบต่างๆ ของโครงการ เดอะคิวบ์ เออร์เบิน สาทร-จันทน์ มาฝากกันค่ะ

เริ่มจากภาพเซ็ทแรก ภาพจำลองการตกแต่งภายในของห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 28 ตารางเมตร

ภาพจำลองการตกแต่งภายในของห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 34.5 ตารางเมตร

ภาพจำลองการตกแต่งภายในของห้องแบบ 2 ห้องนอน

…จบกันไปแล้วนะคะสำหรับพรีวิวสั้นๆ ของโครงการ เดอะคิวบ์ เออร์เบิน สาทร-จันทน์ คิดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่ทำงานอยู่ในย่านนั้นกันไม่น้อยสำหรับการเดินทางที่สะดวกสบาย สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ …

วันนี้เรามีรีวิว THE TREE Pattanakarn-Ekkamai (เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย) คอนโดใหม่จากพฤกษา ที่มีทำเลน่าสนใจ อยู่ใกล้ Airport Link รามคำแหง 300 ม. และ 250 ม. จากจุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช อีกทั้งยังเดินทางสู่เอกมัยและทองหล่อได้เพียงไม่กี่นาที

THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น 699 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 ถึง 2 ห้องนอน ขนาด 23.15 – 56.55 ตร.ม. โดยราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ตามอ่านได้จากบทความนี้เลยครับ

THE TREE Pattanakarn-Ekkamai

( เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
• ขนาดที่ดิน >>> 2 ไร่ 2 งาน 73.4 วา
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• จำนวนชั้น >>> 29 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 697 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 23.15-40.60 ตารางเมตร  จำนวน 650 ยูนิต
  • 2 ห้องนอน ขนาด 55.85-56.55 ตารางเมตร  จำนวน 47 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 251 คัน ประมาณ 36% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว (ส.ค.62) >>>  เริ่ม 1.59 ล้านบาท* ได้ห้องแบบ Fully Fitted
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 95,000 บ./ตร.ม.*
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ประมาณปี 2565
• พิกัด GPS >>> 13.740341, 100.602041
• เว็บไซต์โครงการ >>> THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย
• โทร >>> 1739

.

คอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ใกล้ๆกับแยกคลองตัน ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนพัฒนาการและถนนสุขุมวิท71 ที่จะเชื่อมไปยังถนนรามคำแหง และถนนเพชรบุรีได้ โดยทำเลของโครงการจะอยู่ห่างจาก Airport Rail Link รามคำแหง ประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช เพียง 250 เท่านั้น ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางค่อนข้างสะดวกครับ

การเดินทาง

การเดินทางไปยังคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย ในวันนี้ผมจะใช้ทางด่วนฉลองรัช วิ่งไปลงถนนพัฒนาการ จากนั้นเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทางแยกคลองตัน แต่เราจะไม่วิ่งไปถึงแยกคลองตันนะครับ ให้ยูเทิร์นก่อนที่จะถึงแยก เมื่อยูเทิร์นเสร็จแล้วจะเห็นที่ตั้งของโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยครับ ถือว่าหาได้ไม่ยาก  แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออก ลองไปดูภาพตามกันได้ครับ

ตั้งต้นกันที่ทางด่วนฉลองรัช มุ่งหน้าไปทางบางนา-ดาวคะนอง

ใช้ทางออกที่ 5  ที่เขียนว่าถนนพัฒนาการ (คลองตัน)

เมื่อลงจากทางด่วนแล้ว ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนพัฒนาการครับ

จากนั้นให้วิ่งชิดซ้ายเพื่อยูเทิร์นใต้สะพานครับ

เมื่อยูเทิร์นเสร็จแล้ว จะสังเกตุเห็นโครงการตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดรถภายในโครงการได้เลยครับ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลของโครงการ The Tree พัฒนาการ-เอกมัย จะอยู่ใกล้กับแยกคลองตันครับ ซึ่งแยกนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่าง ถ.สุขุมวิท 71 , ถ.รามคำแหง , ถ.เพชรบุรี และ ถ.พัฒนาการ ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวก สามารถขับรถไปทองหล่อ-เอกมัย โดยใช้เส้นสุขุมวิท 71 ได้เพียงไม่กี่นาที หรือจะไปย่าน New CBD อย่างพระราม 9 ก็สามารถใช้ถนนรามคำแหงไปได้ครับ นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัชเพียง 250 ม.  ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะมี Airport Rail Link รามคำแหง อยู่ห่างจากโครงการ 300 ม. เท่านั้น เดินแบบชิลล์ๆไปได้

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ตามเส้นถนนรามคำแหงครับ เนื่องจากเป็นเส้นที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น จึงทำให้มีทั้ง Food Land , The Mall รามคำแหง และ Big C นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่าง ม.รามคำแหง ตั้งอยู่อีกด้วย  ส่วนที่ถนนเพชรบุรี ก็มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั้ง รพ.กรุงเทพ , รพ.เพชรเวช และ รพ.คลองตัน ครับ

มาซูมดูใกล้ๆกับโครงการในระยะที่เดินได้กันบ้างครับ หากเดินไปที่ Airport Rail Link รามคำแหง จะมี The curve station เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ติดรถไฟฟ้า ให้ไปเดินช้อปปิ้งกันได้ รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ Starbucks ด้วยครับ  นอกจากนี้ยังมีแหล่งงาน ได้แก่ อาคาร UM Tower ที่เป็นสำนักงานให้เช่า และมีที่ทำการของการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่บริเวณทิศเหนือของโครงการครับ  ส่วนด้านข้างทางด้านทิศตะวันออก จะเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารเก่าแกชื่อดัง เช่น เฮงหูฉลาม (หมายเลข 1) , หูฉลามไชน่า (หมายเลข 2) , เย็นตาโฟ แหลมฟ้าผ่า (หมายเลข 4) เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวอด รวมทั้งยังมีธนาคารออมสิน (หมายเลข 3) ตั้งอยู่ด้วยนะครับ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

จากที่เราได้ดูแผนที่ตั้งของ THE TREE Pattanakarn-Ekkamai กันไปแล้ว ทีนี้เราเดินไปสำรวจดูบรรยากาศจริงรอบๆ ที่ตั้งโครงการกันครับ

เริ่มจากบรรยากาศด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนพัฒนาการครับ

สภาพทางเท้ากว้าง เดินสบายไม่ลำบาก

เดินไปเรื่อยๆจะเจอร้านอาหารเก่าแก่มากมาย อย่างร้านนี้ชื่อ เฮงหูฉลาม เห็นคนจีนมานั่งกินกันหลายโต๊ะเลยครับ

เดินต่อไปอีกก็จะเจอร้าน หูฉลามไชน่า คลองตัน ขายหูฉลามอีกเช่นกัน

ใกล้ๆกันเป็นที่ตั้งของธนาคารออมสิน เดินมาใช้บริการได้สบาย

เดินมาแถวซอยพัฒนาการ 1 จะมีร้านอาคารแนว Street food อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ร้านที่โดดเด่นหน่อยก็จะเป็น ร้านเย็นตาโฟ แหลมฟ้าผ่า มีป้ายการันตีจาก Wongnai

ขับรถไปสำรวจดูบรรยากาศแถว ถ.รามคำแหง กันต่อครับ ถนนเส้นนี้มีสถานที่น่าสนใจเยอะทีเดียว

เริ่มตั้งแต่รถไฟฟ้า Airport Rail Link รามคำแหง ที่วิ่งคู่ไปกับรถไฟสายเก่าครับ

ติดกับ Airport Rail Link รามคำแหง มีคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อ The curve station และมีร้านกาแฟ Starbucks ตั้งอยู่ด้วยครับ

ที่เส้นรามคำแหงมีแหล่งชอปปิ้งมากมาย เช่น Food Land ที่เปิดตลอด 24 ชม.

ติดกับ Food Land เป็นร้าน KFC แบบ Drive Thru

The Mall รามคำแหง ซึ่งตอนนี้กำลังปรับโฉมใหม่อยู่ น่าจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้า BIG C ด้วยครับ

ปิดท้ายกันที่ ถ.เพชรบุรีครับ …

ที่เส้นนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ ที่สำคัญๆก็จะเป็นโรงพยาบาลอย่าง รพ.เพชรเวช

และ รพ.กรุงเทพ โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังครับ

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

หลังจากไปสำรวจทำเลกันแล้ว กลับเข้ามาที่สำนักงานขายกันต่อ

ในสำนักงานขายของ THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย ตกแต่งดูเรียบหรู โดยเน้นวัสดุผิวมันเงาสีดำตัดกับสีทอง เพิ่มลูกเล่นบนฝ้าเพดานที่เป็นเส้นสาย โดยได้ Inspiration มาจากวงปีของต้นไม้ เข้ากับชื่อของโครงการ The Tree นั่นเอง ซึ่งภายใน Lobby ของคอนโดก็จะตกแต่งได้บรรยากาศคล้ายกับสำนักงานขายนี้ครับ

ตรงกลางของสำนักงานขาย ตั้งโมเดลจำลองของคอนโดไว้ให้ดู สามารถเดินดูได้รอบๆเลยครับ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ “ส่องโมเดล” ครับ)

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ตั้งของ The Tree พัฒนาการ-เอกมัย นั้นเข้าออกทางเดียวจากถนนพัฒนาการครับ  โดยที่ดินนั้นรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูเว้าเข้าไปเล็กน้อย เนื่องจากด้านทิศตะวันออกของโครงการเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เช่นเดียวกับทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือบางส่วนจะติดกับ กฟผ. มีสถานีไฟฟ้าตั้งอยู่ครับ  โดยภาพรวมไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะใกล้ๆ ถ้าใครอยากได้วิวสวนส่วนกลาง แนะนำให้เลือกห้องฝั่งทิศใต้ครับ แต่ช่วงบ่ายๆ แดดก็อาจจะร้อนสักหน่อยนะ  หรือถ้าใครอยากอยู่ห้องที่เงียบๆ ไม่มีเสียงรถวิ่งไปมาก็ให้เลือกห้องฝั่งทิศเหนือครับ แดดไม่ร้อนด้วย แต่ห้องชั้นล่างๆ วิวอาจจะไม่ค่อยสวยแค่นั้นเอง

ส่องโมเดล

คอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai เป็นอาคารสูง 29 ชั้น 1 อาคาร แบ่งออกเป็น Podium  4 ชั้น และ Tower 25 ชั้น  ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นทันสมัย คุมโทนสีขาวและเทาเข้ม มีจุดเด่นอยู่ที่  Bird nest rooftop ที่เป็นโครงเหล็กหุ้มด้วยสแตนเลสถักทอคล้ายรังนกบนชั้น 29 ครับ

ที่ชั้น 1 ทำเป็นสวนให้ออกกำลังกายแบบ Outdoor เช่น ปีนหน้าผาจำลอง ปั่นจักยาน พร้อมทั้งมีลู่วิ่งระยะทางประมาณ 200 ม. ด้วยครับ

ด้านหน้าทางเข้าอาคารจะอยู่ติดกับถนนพัฒนาการ เมื่อเข้ามาในโครงการจะมี Drop Off และถนนวิ่งรอบอาคาร เพื่อวนไปจอดรถในอาคารที่ชั้น 1 ถึง ชั้น 4 ครับ

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 ครับ ซึ่งชั้นนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนสีเขียวให้ออกมานั่งเล่นพักผ่อน ยืดเส้นยืดสายกันได้

ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งจะอยู่ที่ชั้นบนสุด(ชั้น 29)ครับ หรือที่มีชื่อเรียกว่า Bird nest rooftop  มีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมาย เช่น ออกกำลังกาย ฟิตเนส ว่ายน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี Game room , Sky Lounge และ Co-working space ที่ชั้นนี้อีกด้วย

มาดูด้านหลังอาคารฝั่งทิศเหนือกันบ้าง ด้านนี้ถึงจะไม่เห็นวิวส่วนกลางที่ชั้น 5 แต่ก็มีข้อดีคือห้องที่อยู่ฝั่งนี้แดดจะไม่ร้อนตลอดทั้งวันครับ

ถ้าสังเกตดูระเบียงห้องพักที่ชั้น 5 – ชั้น 15 จะเห็นว่าทั้งผนังห้องและระเบียงนั้นหันออกเป็นแนวเฉียงครับ เนื่องจากต้องการหันมุมมองหนีสถานีไฟฟ้าที่ กฟผ. นั่นเอง ส่วนตั้งแต่ชั้น 16 ขึ้นไป ระเบียงจะหันเป็นแนวตรงปกติครับ

พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ THE TREE Pattanakarn-Ekkamai จะมีอยู่ 3 จุดใหญ่ด้วยกัน ให้มาแบบจัดเต็ม เริ่มดูกันทีละส่วนเลยครับ

.

ส่วนแรกจะอยู่ที่ชั้น 1  บริเวณนอกอาคารทางโครงการจัดให้เป็น Luminous Active Garden หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้สำหรับออกกำลังกาย มีลู่วิ่งระยะทางกว่า 200 ม. นอกจากนี้ยังมี Luminous Bike (จักรยานออกกำลังกาย) และ Crystal Wall (แผงปีนเขาจำลอง) ด้วยครับ

ส่วนด้านในอาคารจะมี Hive Lobby (โถงต้อนรับ) ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และ Hive Mailbox (ตู้จดหมาย)

มาต่อกันที่ส่วนกลางชั้น 5 ชั้นนี้มี Leafy Garden (สวนพักผ่อน) ซึ่งภายในสวนประกอบด้วย Yoka Greenery (ลานโยคะ) และ Morning Dew Spring (ลานน้ำพุผุด) ครับ

ส่วนชั้นที่เป็นไฮไลท์เลยคือชั้น 29 ครับ ชั้นนี้โดดเด่นด้วย Sky Nest หรือโดมรังนกที่เป็นโครงเหล็กหุ้มด้วยสแตนเลสถักทอให้คล้ายกับรังนก ภายในมี Activity ให้ทำมากมาย ได้แก่

• Sky Co-Working Nest (Co-Working Space)
• Playing Nest (Game Room)
• Recreation Nest (ห้องดูทีวีเหนือห้อง Game Room)
• Sky Lounge
• Sky Fitness
• Sky Crystal Passage (สะพานท้องกระจก)
• Aqua Theatre (Pool Theater ดูหนังในสระ Jacuzzi)
• 360 Horizon Pool (สระว่ายน้ำ)
• Bird’s Eye View Aqua Pool (สระท้องกระจกและผนังกระจกยื่นออกจากขอบสระ)

นอกจากนี้ บนชั้นดาดฟ้าเหนือชั้น 29 ยังมี Sky Nest Garden หรือสวนพักผ่อนสำหรับเดินเล่นออกกำลังอีกด้วยครับ

ทีนี้มาดูภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลางกันครับ

เริ่มจากภาพแรก เป็นLuminous Active Garden หรือสวนสำหรับออกกำลังกายแบบ Outdoor  มีทั้งลู่วิ่ง ปั่นจักรยาน และหน้าผาจำลอง น่าจะถูกใจสายรักสุขภาพนะครับ

ส่วนด้านในอาคารที่ชั้น 1 มี Hive Lobby หรือโถงต้อนรับที่ตกแต่งออกมาสวยหรู เน้นสีดำและน้ำตาลทอง เพิ่มลูกเล่นบนฝ้าด้วยเส้นสายที่เลียนแบบมาจากวงปีของต้นไม้ พร้อมมีที่นั่งรอหลายที่เลยครับ

ถัดขึ้นมาที่ชั้น 5 เป็น Leafy Garden สวนพักผ่อนดูร่มรื่น มีที่นั่งกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ รวมถึงมีลานโยคะและลานน้ำพุด้วยครับ

ไฮไลท์ของโครงนี้เลยก็คือ Sky Nest  ที่ชั้น 29 ครับ ที่เป็นโครงเหล็กหุ้มด้วยสแตนเลสถักเป็นเส้นสายเหมือนรังนกที่อยู่บนต้นไม้ ให้ความรู้สึกโดดเด่น แปลกตาไม่เหมือนใครดี และยังมี Bird’s Eye View Aqua Pool สระท้องกระจกและผนังกระจกที่ยื่นออกจากขอบสระ ที่ไม่ใช่แค่มองเห็นวิวเมืองแบบทั่วไป แต่ยังสามารถมองลงไปเห็นพื้นด้านล่างได้ด้วย เหมือนว่ายน้ำอยู่กลางอากาศเลย

ภายในโดมรังนกจะเป็น Sky Fitness มองเห็นวิวเมืองจากมุมสูงและสระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 13 เมตร   ยาว 24.6 เมตร  ลึก 1.2 เมตร

Sky Crystal Passage หรือสะพานกระจกเพื่อเดินไปสู่ห้องฟิตเนส  ซึ่งจะอยู่บริเวณเดียวกับ Aqua Theatre เอาไว้สำหรับนอนแช่ตัวใน Jacuzzi พร้อมกับดูหนังที่จอด้านบน ชิลล์สุดๆไปเลย

Sky Co-Working Nest พื้นที่ Co-Working Space บนชั้น 29 สามารถขึ้นมานั่งทำงาน คุยธุระที่บริเวณนี้ได้

ปิดท้ายด้วย Sky Lounge ครับ ตกแต่งอย่างหรูหรา มองเห็นทั้งวิวเมืองและสระว่ายน้ำ

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด Life Ladprao

กลับมาดู Master Plan กันอีกครั้งนะครับ เมื่อดูที่ตัวอาคารจะเห็นว่าวางอาคารในลักษณะคล้ายกับตัวซี (C) โอบล้อมพื้นที่สวนส่วนกลางที่ชั้น 5 เอาไว้  โดยการเข้าออกโครงการนั้นจะเข้าจากถนนพัฒนาการ เมื่อเข้ามาแล้วจะมีจุด Drop Off  อยู่ด้านหน้าอาคารใต้พื้นที่สวน เมื่อส่งลูกบ้านแล้วสามารถวนรถออกได้เลย หรือถ้าจะขับไปจอดรถ จะมีถนนรอบโครงการเพื่อวิ่งไปจอดรถภายในอาคาร ที่ชั้น 1 – 4 โดยทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ด้านทิศตะวันตกครับ สามารถจอดได้ประมาณ 36% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ชั้นสำหรับพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 ครับ โดยแต่ละชั้นการจัดวางยูนิตจะคล้ายกัน มีชั้นละ 29 ยูนิต เน้นเป็นห้องแบบ 1 Bedroom  ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น อยู่บริเวณมุมของอาคาร ซึ่งจะได้ผนังกระจกโค้งเข้ามุมด้วย

ยูนิตห้องพักฝั่งทิศเหนือตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้น 15 แปลนห้องจะเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมคางหมู คือผนังและระเบียงด้านนอกจะเอียงเล็กน้อย เพื่อหันหนีสถานีไฟฟ้าของ กฟผ. ครับ

ส่วนห้องพักชั้น 16 ขึ้นไป แปลนห้องจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังและระเบียงตั้งฉากเป็นปกติครับ

แต่ละชั้นมียูนิตห้องพัก 29 ยูนิต ส่วนลิฟต์โดยสารมี 3 ตัว และมีลิฟต์ขนส่งอีก 1 ตัว ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 697 ยูนิต ก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องมีรอกันบ้างครับ โดยตำแหน่งของโถงลิฟต์จะอยู่เยื้องไปทางฝั่งทิศตะวันออก ดังนั้นห้องทางฝั่งทิศตะวันตกอาจจะเดินไกลหน่อย แต่ก็ได้เรื่องความสงบครับ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย จะมีแบ่งหลักๆ ออกเป็น 2 แบบครับ คือ แบบ 1 Bedroom และแบบ 2 Bedroom  โดยห้องส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นแบบ 1 Bedroom นะครับ ส่วนแบบ 2 Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ซึ่งห้องแบบ 1 Bedroom ก็จะแบ่งย่อยออกไปอีกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของพื้นที่ห้องครับ

• 1 Bedroom    ขนาด 23.15 – 40.60 ตร.ม.
• 2 Bedroom    ขนาด 55.85 – 56.55 ตร.ม.

แปลนห้องคอนโด THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.85 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.85 ตร.ม. จะมีมากที่สุดในโครงการ เป็นห้องแบบแนวลึก เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอส่วนของห้องครัว ซึ่งได้เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้ ใกล้ๆกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในจึงจะเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันกับห้องนอน

สำหรับลักษณะแปลนของห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.85 ตร.ม.นั้น จะแบ่งย่อยออกไปอีก 2 แบบครับ ต่างกันตรงส่วนผนังภายนอกและระเบียง คือห้องที่อยู่ชั้น 5-15 ผนังและระเบียงจะเฉียงออก ส่วนห้องที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 16 ขึ้นไป ผนังและระเบียงจะเป็นแนวตรง 90 องศาครับ แต่ขนาดพื้นที่โดยรวมยังเท่ากันอยู่ครับ

แปลนห้องคอนโด THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.55 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.55 ตร.ม. จะอยู่ฝั่งด้านหน้าอาคาร เห็นวิวสวนส่วนกลาง ลักษณะแปลนจะเป็นห้องหน้ากว้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่น มีห้องครัวแบบปิดอยู่ใกล้ๆกับห้องนั่งเล่นที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงได้ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งตรงข้ามกับห้องครัว โดยประตูเข้าห้องจะเปิดเข้าจากทางห้องนั่งเล่น  และมีห้องน้ำ 1 ห้อง อยู่ใกล้ห้องนอน ใช้งานสะดวกครับ

แปลนห้องคอนโด THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.15 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.15 ตร.ม. จะอยู่บริเวณมุมของอาคารทำให้เปิดรับมุมมองได้ดี เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอสเปซโล่งๆ ด้านหนึ่งเป็นห้องครัว ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง แต่ถ้าเดินตรงไปจะเจอห้องนอนทั้ง 2 ห้องอยู่ด้านใน ห้อง Master Bedroom จะอยู่บริเวณมุมตึก ซึ่งได้ผนังกระจกแบบโค้งเข้ามุม Take วิวเมืองได้มากขึ้น พร้อมทั้งมีห้องน้ำในตัวด้วย ส่วนห้องนอนอีกห้องจะอยู่ติดกัน ใช้ห้องน้ำที่ด้านนอกร่วมกับห้องนั่งเล่นครับ

แปลนห้องคอนโด THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.85 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.85 ตร.ม. ฟังก์ชันจะคล้ายกับห้องก่อนหน้านี้ คือเปิดประตูเข้ามาจะเจอสเปซโล่งๆ ห้องครัวอยู่ด้านขวามือ ด้านในสุดเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง จะแยกโซนไปอยู่ฝั่งซ้ายมือเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้อง Master Bedroom จะได้กระจกโค้งเข้ามุมขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำในตัวด้วย ส่วนห้องนอนที่สองก็จะอยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ แต่ใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องนั่งเล่น ซึ่งตำแหน่งของห้องน้ำก็จะอยู่ใกล้ประตูเข้าห้องนอน เดินไปใช้งานได้สะดวกครับ หรือใครจะดัดแปลงห้องนอนที่สองนี้ให้เป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกันครับ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.85 ตร.ม. , แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.55 ตร.ม.  และ 2 ห้องนอน  ขนาด 55.85 ตร.ม.  ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไปนั้นอยู่ที่ 2.80 เมตร ส่วนในห้องครัวฝ้าสูง 2.60 เมตร และในห้องน้ำ 2.4 เมตรครับ ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted คือได้ Pantry ครบชุด สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า Built-in และ เครื่องปรับอากาศ 1-3 ตัว แล้วแต่ขนาดห้องครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.85 ตารางเมตร

ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.85 ที่มีผนังและระเบียงภายนอกเป็นแนวเฉียงนะครับ ส่วนแรกเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องครัว ได้ชุดแพนทรี่มาครบชุด รวมทั้งมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว ป้องกันกลิ่นรบกวนครับ

ห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องครัว ตกแต่งโทนน้ำตาลดูอบอุ่น พร้อมทั้งได้กระจกเงาบานใหญ่มาด้วย

ถัดจากห้องครัวเข้าไป เป็นสเปซของห้องนั่งเล่นซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนอน มีประตูบานเลื่อนและกระจกรับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้

ตำแหน่งของโซฟาก็จะอยู่ใกล้ๆกับที่นอนครับ

มุมมองจากโซฟาไปที่ทีวี ระยะห่างกำลังดี ไม่ชิดเกินไป ส่วนบริเวณปลายเตียง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าครับ แต่ห้องจริงที่ได้หน้าบานอาจจะแตกต่างจากห้องตัวอย่างนิดหน่อยนะครับ

เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องที่ผนังเอียงแบบสี่เหลี่ยมคางหมู ทำให้บริเวณหัวเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ อยู่ใกล้กับหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติครับ  แต่ถ้าห้องที่ผนังเป็นแนวตรง โต๊ะเครื่องแป้งจะอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าครับ

ระเบียงขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ยังสามารถวางเครื่องซักผ้าได้อยู่ครับ

ภาพนี้เป็นมุมมองจากระเบียงกลับเข้าไปภายในห้องครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.55 ตารางเมตร

เริ่มเปิดประตูเข้าไป ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นครับ พื้นที่กว้างกำลังดี ไม่รู้สึกอึดอัด อาจเป็นเพราะฝ้าสูง 2.80 ม. ด้วย

สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบาย และยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานได้อีก  ซึ่งตำแหน่งของห้องนั่งเล่นนี้จะอยู่ใกล้กับห้องครัวครับ แต่มีประตูบานเลื่อนกั้นไว้อยู่

เข้ามาดูในห้องครัวกันต่อครับ อยู่ติดระเบียงเพื่อให้เปิดระบายอากาศได้  ขนาดพื้นที่ภายในครัวไม่เล็กไม่ใหญ่ พอวางโต๊ะอาหารแล้วก็ยังเหลือทางเดินอยู่เล็กน้อย หรือถ้าปรับเป็นโต๊ะบาร์ก็อาจจะประหยัดพื้นที่ได้อีกครับ

บริเวณระเบียง เตรียมงานระบบต่างๆไว้รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าแล้ว  และในส่วนของตำแหน่งคอมเพรสเซอร์จะถูกติดไว้ด้านบน หันออกด้านนอก เวลาออกมาใช้งานที่ระเบียงลมร้อนจะได้ไม่เป่ามาหาเราครับ

หันกลับเข้าไปที่ห้องครัวครับ เดี๋ยวเข้าไปดูส่วนอื่นๆกันต่อ

เข้าไปดูในห้องน้ำกันบ้างครับ  ทางเข้าจะอยู่ข้างชั้นวาง TV และใกล้กับประตูห้องนอน ใช้งานสะดวกครับ

ภายในห้องน้ำแยกเป็นส่วนแห้ง-เปียกชัดเจน มีฉากกระจกกั้นไว้ให้ด้วย

มาดูในห้องนอนกันบ้าง เตียงจะวางอยู่ชิดกับหน้าต่าง ถ้าจะดูทีวีในห้องนอน แนะนำให้ติดที่ผนังครับ จะได้เหลือพื้นที่ให้เดินได้สะดวก

ส่วนผนังด้านข้างอีกด้านถูก Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.85 ตารางเมตร

ในส่วนของห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.85 ตร.ม. เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอสเปซเป็นทางเดินโล่งๆ ด้านขวาเป็นห้องครัว ด้านในเป็นห้องนั่งเล่นครับ

ห้องครัวจะเป็นลักษณะห้องกระจก อยู่ใกล้ๆกับห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่มองเห็นวิวได้เต็มที่ พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะกินข้าวไว้ด้านหลังโซฟาได้เลย

มาดูห้องครัวกันแบบชัดๆครับ ประตูสามารถเปิดได้ทั้งสองทาง เพื่อให้สเปซเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ เวลาชวนเพื่อนมาปาร์ตี้ที่ห้องจะได้ใช้งานสะดวก พื้นที่ห้องก็ดูกว้างขึ้นด้วย

ต่อไปจะไปดูโซน Private อย่างห้องนอนกันบ้าง แยกโซนไว้ค่อนข้างชัดเจน มีทางเดินสั้นๆก่อนเข้าถึงห้องนอน

ระหว่างทางจะผ่านห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำนี้จะใช้ร่วมกันระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนที่ 2 ครับ

เข้ามาดูห้องนอนที่ 2 กันก่อนครับ ขนาดกำลังดี เหมาะกับการวางเตียงนอนขนาดไม่เกิน 5 ฟุต

มีตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ด้านข้างเตียง

ส่วน Master Bedroom ขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว มีจุดเด่นตรงที่ผนังเข้ามุมแบบโค้ง มองเห็นวิวเมืองได้แบบเต็มอิ่มเลยครับ

กระจกขนาดใหญ่ทีเดียว สูงตั้งแต่พื้นจรดฝ้า โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นแต่กระจกเข้ามุมแบบฉาก 90 องศาใช่ไหมครับ ซึ่งก็จะเห็นรอยต่อระหว่างกระจก แต่ที่นี่ให้เป็นกระจกโค้งเลย หาได้ไม่ค่อยบ่อยนะครับ

ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วย ซึ่งก็จะอยู่ใกล้ๆกับตู้เสื้อผ้าครับ

ปิดท้ายด้วยภาพห้องน้ำใน Master Bedroom ครับ สไตล์การตกแต่งก็จะคล้ายกับห้องน้ำในห้องอื่นๆ คือเน้นโทนน้ำตาล-ครีม พร้อมทั้งแยกเป็นส่วนแห้ง/เปียกชัดเจน

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า Built-in และเครื่องปรับอากาศ  ตัวห้องนอนจะได้พื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ในห้องครัวจะได้เป็นกระเบื้อง 60×60 ซม. ส่วนระเบียงเป็นกระเบื้อง 30×30 ซม.  ฝ้ายิปซั่มบอร์ด ฉาบเรียบทาสี และผนังก่ออิฐ ฉาบเรียบทาสีขาวครับ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (Pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของห้องแบบ 1 ห้องนอน จะเป็นแนวตรง ลักษณะคล้ายตัวไอ (I) หน้าบานปิดผิวด้วยเมลานีน

เก็บของได้เยอะพอสมควรเลย มีที่วางไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง

ส่วนเคาน์เตอร์ของแบบ 2 ห้องนอน จะได้เป็นเคาน์เตอร์ตัวแอล (L) แบบเข้ามุม

แน่นอนว่าจะมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น เก็บของได้เยอะเช่นกันครับ

ภายในลิ้นชักมีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ

อ่างล้างจาน มาพร้อมกับก๊อกน้ำทรงสูงยี่ห้อ FRANKE วางอยู่บนท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ Geoluxe จาก SCG

ในตู้ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะมาให้พร้อม ดูเป็นระเบียบดี

เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจาก FRANKE และที่ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ป้องกันความสกปรกเวลาทำอาหาร

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard

มีตู้เก็บของด้านล่าง ทนความชื้น

ก๊อกน้ำแบบก้านโยกจาก American Standard

ราวแขวนผ้าสแตนเลส ยี่ห้อ American Standard เช่นกัน

กระจกเงาบานใหญ่ ขนาด 1.2 x 1.2 ม.

ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย

โถสุขภัณฑ์ รุ่นประหยัดน้ำ ยี่ห้อ Marvel พิมพ์ Logo THE TREE พร้อมสายชำระจาก COTTO

พัดลมดูดระบายอากาศ ยี่ห้อ Walter

Rain Shower พร้อมฝักบัวสายอ่อน

ฝักบัวสายอ่อนรูปทรงสี่เหลี่ยมดูทันสมัยดี

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

ประตูหน้าห้องกรุลามิเนต ลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

Digital Door lock ยี่ห้อ Samsung

ฝ้ายิปซั่ม ฉาบเรียบสีขาว พร้อมไฟดาวน์ไลท์

อุปกรณ์ปลั๊กและสวิตซ์ไฟจาก Panasonic

พื้นห้องปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สีน้ำตาลอ่อน ส่วนพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม.

ธรณีประตูห้องน้ำเป็นหินสังเคราะห์

ประตูบานเลื่อน กรอบเฟรมสีเทาดำ

แอร์ Daikin Inverter

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาของคอนโด The Tree พัฒนาการ-เอกมัย ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* เป็นแบบ 1 Bedroom  ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 95,000 บาทต่อตารางเมตรครับ  ทั้งหมดขายเป็นห้องแบบ Fully Fitted ส่วนราคารายห้องของโครงการ (ตอนที่เราเข้าไปรีวิว 28 ส.ค. 2562) ยังไม่ได้เคาะออกมานะครับ

ราคา ณ วันที่  28 สิงหาคม  2562

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

5,000 บาท

• ทำสัญญา

1 ห้องนอน ขนาด 23.15 – 30.95 ตร.ม. >> 15,000 บาท

1 ห้องนอน ขนาด 31.00 – 40.60 ตร.ม. >> 25,000 บาท

2 ห้องนอน ขนาด 55.85 – 56.55 ตร.ม. >> 35,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งเราประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท*

สมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี

• ระยะเวลา 30 ปี – ผ่อนประมาณ 9,045 บาท/เดือน
• ระยะเวลา 25 ปี – ผ่อนประมาณ 9,662 บาท/เดือน
• ระยะเวลา 20 ปี – ผ่อนประมาณ 10,669 บาท/เดือน
• ระยะเวลา 15 ปี – ผ่อนประมาณ 12,466 บาท/เดือน
• ระยะเวลา 10 ปี – ผ่อนประมาณ 16,249 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางด้วยรถยนต์จากคอนโด THE TREE Pattanakarn-Ekkamai นั้น เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนพัฒนาการ ใกล้กับแยกคลองตัน  การเดินทางจึงถือว่าค่อนข้างสะดวก เพราะแยกคลองตันนี้เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่าง ถ.สุขุมวิท 71 , ถ.รามคำแหง , ถ.เพชรบุรี และ ถ.พัฒนาการ จะขับรถไปทองหล่อ-เอกมัย  หรือจะไปย่าน New CBD อย่างพระราม 9 ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัชเพียง 250 ม. ทำให้การเข้า-ออกเมือง เป็นเรื่องง่ายขึ้นครับ

ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะมี Airport Rail Link สถานีรามคำแหง อยู่ห่างจากโครงการ 300 ม. เท่านั้น เดินแบบชิลล์ๆไปได้  นั่งเพียงสถานีเดียวไปที่สถานีมักกะสัน ก็จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานีเพชรบุรีแล้วครับ  นอกจากนี้ก็ยังมีรถประจำทาง แท็กซี่ พี่วิน วิ่งผ่านหน้าโครงการ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนไม่มีรถครับ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ตรงนี้เรื่องของโครงสร้างพื้นฐานถือว่าไม่ขาดแคลน   ยิ่งในอนาคต Airport Rail Link จะขยายจากสถานีพญาไท ไปถึงบางซื่อและสนามบินดอนเมือง  การเดินทางไปที่ไหนไกลๆก็จะยิ่งสะดวกขึ้นครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

THE TREE พัฒนาการ-เอกมัย เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร แบ่งออกเป็น Podium  4 ชั้น  Tower 25 ชั้น มีห้องพัก 697 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต ออกแบบมาในสไตล์ Modern คุมโทนสีขาวและเทาเข้ม มีจุดเด่นอยู่ที่  Bird nest rooftop ที่เป็นโครงเหล็กหุ้มด้วยสแตนเลสถักทอคล้ายรังนกบนชั้น 29 ที่เป็นชั้นส่วนกลางครับ

ผังโครงการเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมคางหมู  ด้านหน้าทางเข้าอาคารหันไปทางทิศใต้ ติดกับถนนพัฒนาการ  ทิศตะวันออกของโครงการเป็นกลุ่มอาคารอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เช่นเดียวกับทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือบางส่วนจะติดกับ กฟผ. ครับ  โดยภาพรวมแล้ว ไม่มีอาคารสูงในระยะใกล้ๆครับ ถ้าใครอยากได้วิวสวนส่วนกลาง แนะนำให้เลือกห้องฝั่งทิศใต้ครับ แต่แดดก็อาจจะร้อนสักหน่อยนะ  หรือถ้าใครอยากอยู่ห้องที่เงียบๆ ไม่มีเสียงรถวิ่งไปมาก็ให้เลือกห้องฝั่งทิศเหนือครับ แดดไม่ร้อนด้วย แต่ห้องชั้นล่างๆวิวอาจจะไม่ค่อยสวยแค่นั้นเอง

สำหรับแปลนห้องของคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย จะมีแบ่งหลักๆ ออกเป็น 2 แบบครับ คือ แบบ 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 23.15 – 40.60 ตร.ม. และแบบ 2 Bedroom ขนาด 40.61 – 56.50 ตร.ม. โดยแบบ 1 Bedroom จะมีขนาดและรูปแบบที่ค่อนข้างหลากหลาย และห้องส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 25.85 ตร.ม. ครับ มีทั้ง Layout แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า และแบบสี่เหลี่ยมคางหมูที่ผนังและระเบียงภายนอกจะเฉียงออกไปเล็กน้อย  ส่วนแบบ 2 Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้นครับ

วัสดุในภาพรวมของคอนโด เดอะทรี พัฒนาการ-เอกมัย ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า Built-in และเครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter (จำนวน 1 – 3 ตัว แล้วแต่ขนาดห้อง)  ส่วนตัวห้องจะได้พื้นไม้ลามิเนต 8 มม. ถ้าในห้องครัวจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ส่วนระเบียงเป็นกระเบื้อง 30×30 ผนังฉาบเรียบทาสีขาว และฝ้ายิปซั่มฉาบเรียบสีขาวครับ  โดยความสูงของฝ้าทั่วไปจะอยู่ที่ 2.80 เมตร ส่วนในห้องครัวฝ้าสูง 2.60 เมตร และในห้องน้ำ 2.4 เมตรครับ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ THE TREE Pattanakarn-Ekkamai จะมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน  ส่วนแรกจะอยู่ที่ชั้น 1  บริเวณนอกอาคารทางโครงการจัดให้เป็น Luminous Active Garden หรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้สำหรับออกกำลังกาย มีลู่วิ่งระยะทางกว่า 200 ม. นอกจากนี้ยังมี Luminous Bike (จักรยานออกกำลังกาย) และ Crystal Wall (แผงปีนเขาจำลอง)ด้วยครับ ส่วนด้านในอาคารจะมี Hive Lobby (โถงต้อนรับ) ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และ Hive Mailbox (ตู้จดหมาย) .. จุดที่สอง อยู่ชั้น 5 มี Leafy Garden (สวนพักผ่อน) ซึ่งภายในสวนประกอบด้วย Yoka Greenery (ลานโยคะ) และ Morning Dew Spring (ลานน้ำพุผุด) .. และจุดที่สาม ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เลยคือชั้น 29 ครับ โดดเด่นด้วย Sky Nest หรือโดมรังนกที่เป็นโครงเหล็กหุ้มด้วยสแตนเลสคล้ายกับรังนก ภายในมี Activity มากมาย ได้แก่ Sky Co-Working Nest (Co-Working Space) , Playing Nest (Game Room) , Recreation Nest (ห้องดูทีวีเหนือห้อง Game Room) , Sky Lounge , Sky Fitness , Sky Crystal Passage (สะพานท้องกระจก) , Aqua Theatre (Pool Theater ดูหนังในสระ Jacuzzi) , 360 Horizon Pool (สระว่ายน้ำ) , Bird’s Eye View Aqua Pool (สระท้องกระจกและผนังกระจกยื่นออกจากขอบสระ) และ Sky Nest Garden (สวนพักผ่อนสำหรับเดินเล่นออกกำลัง) ครับ

เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์  มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ส่วนยูนิตทั้งหมดมี 697 ยูนิต หรือคิดเป็น 232 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องมีรอกันบ้างครับ  โดยภายใน 1 ชั้น จะมีจำนวนห้องทั้งหมด 29 ยูนิต  ส่วนที่จอดรถจอดได้ 251 คัน หรือ 36% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) แต่เนื่องจากคอนโดอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินได้ บางทีการใช้รถส่วนตัวก็อาจจะไม่จำเป็นครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ The Tree พัฒนาการเอกมัย สามารถไปพบกันในงาน VVIP DAY วันที่ 21 กันยายน 2562  โดยจะมีราคาห้องพิเศษ Promotion ราคา 1.59 ล้านบาท ผ่อน 999 บาท* ผ่อน 0% นาน 6 เดือน

ลงทะเบียนวันนี้ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 200,000 บาท* >>> คลิก

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า “YUSABUY.COM” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะครับ  ^_____^

บทความนี้จะพาไปรีวิวคอนโดมิเนียม Low rise ในย่านอ่อนนุชกับโครงการ Define by Mayfair Sukhumvit 50 (ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50) คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในซอยสวัสดี 4 ซึ่งเป็นซอยย่อยของซอยสุขุมวิท 50 ค่ะ ตัวโครงการนับเป็นโครงการที่ 2 แล้วของบริษัท PTF Realty ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 โดยโครงการก่อนหน้านี้ คือ Mayfair Place Sukhumvit 50 ค่ะ

ตัวโครงการนี้มาเจาะตลาดในทำเลเดิมแต่ทำราคาถูกกว่าโครงการแรกและขยับเข้ามาซอยสักหน่อย ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มีห้องพักทั้งหมด 190 ยูนิต ค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีห้องให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 33.70-118.125 ตร.ม. ห้องที่ใหญ่สุดเป็นแบบ 3 ห้องนอน Duplex จึงทำให้โครงการนี้เหมาะกับคนที่ซื้ออยู่คนเดียวไปจนถึงคนมีครอบครัวต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ค่ะ

Define by Mayfair Sukhumvit 50
(ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50)

• เจ้าของโครงการ >> PTF Realty (2017) co., ltd.
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสวัสดี 4 ในซอยสุขุมวิท 50
• ขนาดที่ดิน >>> 1-3-27.3 ไร่
• จำนวนชั้นและจำนวนอาคาร >>>  อาคารชุดพักอาศัย สูง 8 ชั้น 2 อาคารและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 33.70 – 40.40 ตร.ม.
  • 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 50.00 – 59.54 ตร.ม.
  • 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 82.65 ตร.ม.
  • 3 ห้องนอน Duplex  118.125  ตร.ม.
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 190 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 53 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  2.69 ล้านบาท (ราคา ณ ก.ย. 62)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้น 81,000 บาท/ตร.ม.
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ธ.ค. ปี 2563
• พิกัด GPS >>> 13.7014866,100.5924039
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• เบอร์ติดต่อ 02-331-8999

.

คอนโดมิเนียม Define by Mayfair สุขุมวิท 50 ตั้งอยู่ในซอยสวัสดี 4  ห่างจากถนนสุขุมวิทและ BTS อ่อนนุชประมาณ 1.2 กม. สามารถเดินทางมาได้จากซอยสุขุมวิท 54, ซอยสุขุมวิท 62, ซอยสุขุมวิท 50, ถนนทางรถไฟสายเก่า ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากเลยทีเดียว

(สามารถกดขยายรูปได้นะคะ)

การเดินทาง

การเดินทางไปโครงการในวันนี้ เราเลือกใช้บริการ BTS ไปลงสถานีอ่อนนุช แล้วเดินมาออกประตูทางออกที่ 2 เพื่อไปยังซอยสุขุมวิท 50 หลังจากนั้นให้ตรงเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 900 เมตร ก็จะเจอทางเข้าซอยสวัสดี 4 ตรงเข้ามาอีก 300 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการ ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50 แล้วค่ะ

ตอนนี้เราอยู่กันที่ BTS สถานีอ่อนนุช เลือกออกทางออกที่ 2 ไปฝั่ง Tesco Lotus อ่อนนุช ค่ะ

ซึ่งทางออก 2 จะมีบันไดให้ลง 2 ทาง เราจะลงไปทางบันไดฝั่งขวากันนะคะ

เมื่อลงมาแล้วตรงมาอีกนิดก็จะเจอซอยสุขุมวิท 50

บริเวณหน้าปากซอยจะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ หากนั่งจากจุดนี้เข้าไปยังโครงการราคาประมาณ 20 บาทค่ะ

ขึ้นพี่วินมาแล้วก็ให้ตรงเข้าไปในซอยประมาณ 900 เมตร เพื่อไปยังซอยสวัสดี 4 ซึ่งเราจะขับผ่านจุดขึ้นลงท่านด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

และโครงการ Mayfair Place Sukhumvit 50  ที่เป็นโครงการรุ่นพี่ของเรานั่นเอง

ทางเข้าซอยสวัสดี 4 จะถึงก่อนทางลอดใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

บรรยากาศภายในซอยสวัสดี 4 นั้นจะเต็มไปด้วยบ้านพักอาศัยทั้ง 2 ข้างทาง ถนนมีขนาดเล็กลงมาจากซอยสุขุมวิท 50 และไม่มีทางเท้าให้เดิน

ตรงเข้ามาประมาณ 300 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการ Define by Mayfair Sukhumvit 50 ที่อยู่ทางด้านขวามือแล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลย่านอ่อนนุชนับได้ว่าเป็นทำเลฮอตฮิตที่ประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ความเจริญในย่านนี้ก็ได้รับการส่งต่อมาจากการขยายตัวของฝั่งสุขุมวิทตอนต้นไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงอ่อนนุช ซึ่งทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย HUB ของบริเวณนี้จึงอยู่ในบริเวณ BTS อ่อนนุชและซอยสุขุมวิท 77 ที่มีทั้ง Tesco Lotus อ่อนนุช, Century The Movie Plaza อ่อนนุช, คอมมูนิตี้มอลล์ The Phyll สุขุมวิท 54 ที่อยู่ตรงข้ามกับ Wells International School ส่วนในซอยอ่อนนุชก็มี Big C อ่อนนุช และ Habito Mall ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์อีกแห่งนึง หากเรานั่ง BTS ต่อไปทางพระโขนง เอกมัย ทองหล่อ  ก็มี W District, Gateway เอกมัย, รพ.สุขุมวิทและรพ.กล้วยน้ำไท ตั้งอยู่ไม่ไกล

ส่วนในซอยสุขุมวิท 50 นั้นส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียมเป็นส่วนใหญ่ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อยู่ในซอย บรรยากาศรอบๆ จึงดูสงบกว่าฝั่งสุขุมวิท 77 ค่ะ

การเดินทางมายังคอนโด Define by Mayfair Sukhumvit 50 ที่ตั้งอยู่ในซอยสวัสดี 4 สามารถเข้าออกได้ทั้งจากซอยสุขุมวิท 50, ซอยสุขุมวิท 54, ถนนรถไฟสายเก่าที่เชื่อมไปยังถนนพระราม 4 หรือถนนสรรพาวุธบริเวณใกล้แยกบางนาได้ ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ก็มีให้เลือกทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนเฉลิมมหานครที่เราสามารถใช้วิ่งตรงเข้าเมืองไปพระราม 3  นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีอ่อนนุชอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม. ใครที่รู้สึกว่าไกล ไม่อยากเดิน ทางโครงการก็มี Shuttle Service คอยให้บริการรับส่งอยู่นะคะ ส่วนใครที่มาไม่ทันรอบรถก็สามารถใช้บริการพี่วิน รถสองแถวต่างๆ ภายในซอยได้

.

ดูภาพกว้างๆ กันไปแล้วทีนี้เรามาส่องเพื่อนบ้านรอบๆ โครงการเราสักหน่อย ซึ่งพื้นที่โดยรอบโครงการส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัยของคนในชุมชน บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในเมืองแต่ไม่ชอบความวุ่นวายหรืออยู่ติดถนนใหญ่ที่มีรถผ่านไปมาตลอดเวลา เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับเรานั้นจะเป็นโกดังเก็บสินค้าที่มีความสูงประมาณ 3-4 ชั้น (หมายเลข 1), หากเดินจากโครงการถึงซอยสุขุมวิท 50 มีระยะห่างประมาณ 300 เมตร ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีโครงการ Mayfair Place Sukhumvit 50 ที่เป็นโครงการรุ่นพี่พร้อมทั้งยังเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery ของคอนโด Define by Mayfair Sukhumvit 50 อีกด้วย (หมายเลข 2),

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร ส.ลาบเป็นร้อยเอ็ด (หมายเลข 3), ส่วนที่ติดๆ กันเป็นร้าน 7-11 ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด รู้สึกหิวตอนดึกๆ ก็เดินออกมาซื้อของกินกันได้ (หมายเลข 4), ถัดมาหน่อยจะมีตึกแถวที่เรียงรายขายของ ขายอาหารกันและยังมีร้านซักอบรีดตั้งอยู่ที่นี่ด้วย (หมายเลข 5), บริเวณถนนสุขุมวิทมี Tesco Lotus อ่อนนุช, BTS อ่อนนุช, Century The Movie Plaza อ่อนนุช (หมายเลข 6), ขยับไปทางหน้าซอยสุขุมวิท 54 ก็มีคอมมูลนิตี้ The Phyll สุขุมวิท 54 และสำนักงานเขตพระโขนง

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

จากที่เราได้ดูแผนที่ตั้งของ ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50 กันไปแล้ว ทีนี้เราเดินไปสำรวจบรรยากาศรอบๆ ที่ตั้งโครงการกันค่ะ

สภาพภายในซอยสวัสดี 4 ถนนเป็นแบบ 2 เลนไปกลับ ไม่มีทางเท้า อาจจะต้องระวังเรื่องรถกันสักหน่อยนะคะ

เพื่อนบ้านข้างเคียงส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นทั้งหมด

ฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็มีอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้นกำลังก่อสร้างอยู่ (รีวิว ณ ก.ย. 62)

ข้างๆ โครงการเป็นโกดังเก็บของค่ะ

เดินออกมาดูบรรยากาศของซอยสุขุมวิท 50 กันต่อ โดยจะเริ่มจากหน้าปากซอยสวัสดี 4 ไล่ไปทางถนนสุขุมวิทค่ะ

บริเวณข้างซอยแสนสุขที่เป็นซอยย่อยก็มีร้านอาหาร ส.ลาบเป็ดร้อยเอ็ดตั้งอยู่

ติดๆ กันเลยเป็นร้าน 7-11 ที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด

ใกล้ๆ กันก็เป็นร้านอาหารเล็กๆ wine shop & bar

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นโครงการ Mayfair Place สุขุมวิท 50

ขยับมาอีกหน่อยเป็นร้านค้าในตึกแถว บริเวณนี้จะมีร้านอาหาร ร้านซักรีด ร้านขายของตั้งอยู่

ใครที่อยากใช้ทางด่วนก็มีจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์อยู่ห่างจากโครงการ 750 เมตรค่ะ

ขยับออกมาบนถนนเส้นสุขุมวิทกันต่อเลย บรรยากาศในเส้นนี้ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้าให้เลือกมากมาย

เปิดกันด้วยสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง

ติดๆ กันเป็นสถานีดับเพลิงพระโขนง ซึ่งอยู่บริเวณปากซอยอ่อนนุชหรือซอยสุขุมวิท 77

ขยับมาหน้าปากซอยสุขุมวิท 50 ก็มี Tesco lotus สาขาอ่อนนุชและ BTS สถานีอ่อนนุชตั้งอยู่

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นศูนย์การค้า Century The Movie Plaza อ่อนนุช ภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้าและโรงหนัง

ปากซอยสุขุมวิท 54 เองก็มีคอมมูนิตี้มอลล์ The Phyll Sukhumvit 54 ที่ลัดเข้าคอนโด Define by Mayfair Sukhumvit 50 ได้เช่นกัน

ถัดมาเป็นสำนักงานเขตพระโขนง

ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กันเป็น Wells International School

แวะเข้ามาในซอยสุขุมวิท 77 ที่เป็นที่ตั้งของ Big C Extra อ่อนนุชค่ะ

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

พาไปทัวร์รอบๆ กันมาแล้ว ตอนนี้เรามาอยู่กันที่หน้าโครงการ Mayfair Place Sukhumvit 50 ซึ่งใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานขายของโครงการ ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50

สำนักงานขายจะตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท 50 อยู่ใต้คอนโดมิเนียม Mayfair Place Sukhumvit 50 หาง่าย และสามารถเข้าไปจอดรถในโครงการได้

ภายในสำนักงานขายเมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับโถงต้อนรับ ที่มีโมเดลของโครงการตั้งอยู่

มีพื้นที่รับรอง ตามมุมต่างๆ ให้ผู้เยี่ยมชมมานั่งตากแอร์เย็นๆ และสอบถามข้อมูลโครงการกันค่ะ

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

แปลนที่ดินโครงการ Define by Mayfair Sukhumvit 50 มีลักษณะเป็นรูปตัว L มีพื้นที่ 1-3-27.3 ไร่  ตัวที่ดินจะติดกับถนน ทั้ง 2 ด้าน แต่โครงการทำทางเข้าออกเพียงทางเดียวโดยทางเข้าออกจะอยู่ฝั่งทางซอยตันข้างโครงการ ส่วนด้านที่ติดกับถนนสวัสดี 4 ทางโครงการจะทำเป็นเพียงจุด Drop off เท่านั้น  เพื่อนบ้านรอบๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยของคนในชุมชนสูงประมาณ 2 ชั้น ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเป็นอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้น ด้านข้างโครงการอีกฝั่งทิศใต้จะเป็นพื้นที่ของโกดังเก็บของสูงประมาณ 3-4 ชั้น ทำให้ห้องชั้นล่างๆ บางตำแหน่งจะเห็นวิวไม่โล่งนะคะ

ห้องของทางโครงการของอาคาร A และ อาคาร B จะมีให้เลือกทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งห้องแบบ Duplex 3 ห้องนอนจะได้ห้องทิศนี้ทั้งหมด ใครที่ไม่ชอบแดดก็คงต้องเลือกห้องของอาคาร A ฝั่งหันหน้าไปทางถนนที่เป็นซอยตัน ส่วนใครที่อยากได้ออฟชั่นเสริมเป็นวิวพื้นที่ส่วนกลางเข้ามาด้วยก็คงต้องเลือกห้องของอาคาร B ที่หันหน้าเข้า Court กลาง เพราะจะรับเพียงแสงแดดอ่อนยามเช้าค่ะ

ที่ตั้งของโครงการ Define by Mayfair Sukhumvit 50  

ถนนหน้าโครงการเป็นถนน 2 เลน ไป-กลับ ไม่มีทางเท้าให้เดิน

บริเวณด้านหน้าที่ติดกับถนนสวัสดี 4 ทางโครงการจะออกแบบเป็นจุด Drop off ให้กับลูกบ้าน

ทางเข้าไปยังซอยตันข้างโครงการค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

ติดๆ กันเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าสูงไม่เกิน 8 ชั้น

ส่วนพื้นที่ที่อยู่ติดกันอีกฝั่งหนึ่งของโครงการเป็นที่ตั้งโกดังเก็บของ สูง 3-4 ชั้น

ส่องโมเดล

หลังจากไปดูผังโครงการกันมาบ้างแล้ว  เรามาส่องโมเดลอาคารกันต่อดีกว่า ตัวโครงการเป็นคอนโด Low rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร คุมโทนด้วยสีเทา จุดเด่นของอาคารที่ทางโครงการเพิ่มเข้ามาให้ดูสะดุดตามากยิ่งขึ้น คือการเพิ่มลูกเล่นของระเบียงห้องที่ยื่นออกมาไม่เท่ากัน เป็นแบบ Random ทำให้เกิดการตกกระทบของแสงและเงาที่ตัวอาคารแต่ละช่วงเวลาไม่เหมือนกัน

ทางเข้าโครงการจะอยู่ในซอยตัน การทำแบบนี้ช่วยให้รถไม่ติดในซอยสวัสดี 4 และยังสะดวกในการเข้าออกมายิ่งขึ้น

ส่วนด้านหน้าที่อยู่ติดกับถนนสวัสดี 4 ทางโครงการออกแบบให้เป็นจุด Drop off โดยทำเป็นทางวนเข้าไป ซึ่งจุดนี้จะเป็นทางเข้าไปยัง Lobby ของอาคาร A ได้ค่ะ

บริเวณ Lobby อาคาร A นั้นทางโครงการยังออกแบบให้เป็น Double Volume โดยมีพื้นที่ของ Co-working space และ ห้อง Fitness ตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย

พื้นที่ Court กลางของโครงการจะมีทั้งจุดนั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องที่หันหน้าทางนี้จะได้บรรยากาศสไตล์รีสอร์ท

ภาพจากมุมด้านบน ทำให้เราเห็นการ Random ของระเบียงแต่ละห้องได้ชัดยิ่งขึ้น

ทางโครงการออกแบบให้ห้อง Fitness หันหน้าเข้าหาคอร์ทกลาง ทำให้ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำ

นอกจากนี้ยังมีจุด Hidden Place ที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร B ที่ออกแบบเป็นมุมสวนเล็กๆ ให้ขึ้นมานั่งพักผ่อนชมวิว แถมให้ลูกบ้านมาปลูกผักสวนครัวกันได้อีกด้วย

พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50 จัดมาให้ครบตามแบบคอนโด Low rise ซึ่งส่วนมากจะถูกจัดวางอยู่ในอาคาร A  ชั้น 1 ที่มีทั้งพื้นที่ Lobby ที่ถูกออกแบบเป็น Double Volume เพื่อทำให้บรรยากาศดูแกรนด์และมีพื้นที่สำหรับทำเป็น Co-working space และ Library บริเวณนี้

ส่วน Fitness ของโครงการจะอยู่ในชั้น 2 ออกแบบให้ห้องหันหน้าเข้าหาคอร์ทกลาง เราจะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนนั่งพักผ่อน

สระว่ายน้ำของโครงการแยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่เอาไว้ให้ พร้อมทั้งมีส่วนที่เป็นจากุชชี่สำหรับนั่งแช่น้ำในวันอากาศร้อนๆ

นอกจากนี้ทางโครงการยังติดตั้ง Aqua gym หรือที่ปั่นจักรยานในน้ำมาให้เอาใจสาย Healthy ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายแบบใหม่

ส่วนชั้นบนสุดของอาคาร B ก็จะมีจุดสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิว แถมยังให้ลูกบ้านสามารถมาปลูกผักสวนครัวทานเองได้อีกด้วยนะคะ

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด Define by Mayfair Sukhumvit 50

แปลนอาคารของที่นี่จะจัดมาให้ชั้น 1 และชั้นใต้ดินเป็นที่จอดรถ โดยทางลงไปชั้นใต้ดินจะอยู่บริเวณใต้อาคาร B เราสามารถจอดรถได้ 53 % (ไม่รวมซ้อนคัน) เข้าออกโครงการได้เพียงทางเดียวจากทางซอยตันและมีจุด Drop off อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการติดกับ Lobby A

นอกจากนี้แปลนชั้น 1 ยังมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและ Lobby ตั้งอยู่อีกด้วย คนที่อยู่อาคาร B ก็สามารถเดินตามทางเชื่อมมายังคอร์ทกลางได้ค่ะ

จากนั้นเรามาดูกันทีละอาคารนะคะ

Define by Mayfair Sukhumvit 50
Building A

Floor Plan ชั้น 2 

เรามาเริ่มกันที่อาคาร A กันก่อน ชั้นพักอาศัยของที่นี่จะเริ่มที่ชั้น 2 โดยในชั้นนี้จะมีพื้นที่ไม่เต็มชั้น เนื่องจากมีส่วนของโถง Lobby และห้องฟิสเนสที่มาแทรกอยู่ในชั้นพักอาศัย ทำให้ชั้นนี้มีเพียง 13 ยูนิตและเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำเท่านั้น คนที่อยู่ชั้นนี้สามารถมาใช้ Facilities ได้สะดวกแต่ก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่น้อยลง

Floor Plan ชั้น 3-8  

ชั้น 3-8 ของอาคาร A มีจำนวนยูนิตต่อชั้น 15 ยูนิต ระเบียงแต่ละห้องจะมีตำแหน่งและขนาดไม่เท่ากัน Random กันไป ใครที่อยากได้ห้องแบบ Duplex 3 ห้องนอนจะมีเพียงในอาคาร A เท่านั้น จะกินพื้นที่ในชั้น 3-4, 5-6 และ 7-8 ค่ะ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ก็จะเริ่มมีตั้งแต่ชั้น 3-8 มีเพียงชั้นละห้องและหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

Define by Mayfair Sukhumvit 50
Building B

Floor Plan ชั้น 2-10 

แปลนอาคาร B จะเป็นแบบ Typical Floor Plan แตกต่างเพียงลักษณะของระเบียงที่เป็นลูกเล่นพิเศษของที่นี่ ยูนิตต่อชั้นเพียง 12 ยูนิต ทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่าอาคาร A ค่ะ ห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดจะได้ห้องที่หันหน้าเข้าหาคอร์ทกลาง ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำมีเพียงยูนิตเดียวต่อชั้น

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 จะมีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 4 แบบ คือ

• 1 ห้องนอน 33.70 – 40.40 ตร.ม.
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 50.00 – 59.54 ตร.ม.
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 82.65 ตร.ม.
• 3 ห้องนอน Duplex  118.125 ตร.ม.

ซึ่งแต่ละแบบจะแบ่งย่อยออกเป็นอีกหลายขนาด เนื่องจากมีการออกแบบให้ระเบียงแต่ละชั้นตื้นลึกไม่เท่ากันอย่างที่ได้พูดไป   แต่การใช้งานฟังก์ชันภายในห้องจะไม่ต่างกันค่ะ เราเลยยกตัวอย่างห้องหลักๆ มาให้ชมกันค่ะ

แปลนห้องคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.70-40.40 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอนเป็น Type ที่มีจำนวนเยอะที่สุดและส่วนใหญ่จะหันหน้าออกนอกโครงการ มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย โดยเมื่อเดินเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่จะพบ คือ ส่วนของพื้นที่ครัวที่ทางโครงการออกแบบเป็นครัวแบบเปิดติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L มาให้ ทำให้มีพื้นที่ทำเป็นเคาน์เตอร์สำหรับรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้ ส่วนพื้นที่ที่อยู่ติดกันจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ได้ตำแหน่งติดระเบียง ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดใหญ่และติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ ห้องบางแบบก็จะได้พื้นที่ Walk in-closet เข้ามาด้วย ห้องน้ำมีการแยกโซนเปียก โซนแห้งไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 50.00-59.54 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ จะมีให้เลือกหลายแบบแต่ที่เรายกตัวอย่างมาให้ชมกันเป็นแบบ 2 ห้องนอน หน้ากว้าง ขนาด 53.20 ตร.ม. เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่รับประทานอาหารและโซนครัว มีตู้สำหรับเก็บของอยู่ติดกับประตูทางเข้า ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องนอน ทำให้ตอนกลางคืนเราสามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและการออกแบบตำแหน่งแบบนี้ส่งผลให้การใช้ฟังก์ชันห้องนั่งเล่นไม่ถูกรบกวนโดยคนที่เดินผ่านไปมาค่ะ จากแปลนจะเห็นลักษณะของระเบียงที่ยื่นออกไปตามการออกแบบของโครงการ ส่งผลให้เราสามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้มากขึ้น

แปลนห้องคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 82.65 ตารางเมตร

มาต่อกันที่แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำกันสักหน่อย ซึ่ง Type นี้จะมีให้เลือกเพียงแบบเดียว ทางเข้าจะใช้เป็นประตูบานคู่ เปิดเข้ามาเป็นฟังก์ชั่นส่วนกลางที่มีทั้งพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำและห้องครัวที่สามารถต่อเติมประตูกั้นเป็นครัวแบบปิดได้  ห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่ Walk in-closet และห้องน้ำภายในตัว ส่วนห้องนอนเล็กก็ยังสามารถวางเตียงขนาดใหญ่พร้อมทั้ง Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ Duplex ขนาด 118.125 ตารางเมตร

ส่วนแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดคือ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เป็นรูปแบบ Duplex 2 ชั้น ฟังก์ชันชั้นล่างส่วนครัวแบบปิดและพื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่เป็นโซนแรก มีห้องน้ำและบันไดคั่นกลางก่อนจะถึงพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งใครที่ไม่อยากได้เป็นห้องนอนก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ค่ะ ชั้น 2 ของยูนิตจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้ง 2 ห้องโดยมีห้องน้ำมาคั่นกลาง ห้องนอนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัวและพื้นที่ Walk in-closet ที่มีประตูเชื่อมออกไปยังโถงทางเดินของชั้นได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอนขนาด 33.70 ตร.ม. และ 1 ห้องนอน 39.00 ตร.ม.  ความสูงฝ้าของห้องนั้นอยู่ที่ 2.5 เมตร  ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted คือได้เคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ  ตู้เก็บของ (เก็บเครื่องซักผ้า) ตู้เสื้อผ้า พร้อมแอร์ให้ด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 1 ห้องนอน Type A 3 33.70 ตร.ม.

เปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวก่อนเป็นอย่างแรกและหากมองเข้าไปจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ในสเปซเดียวกัน บรรยากาศค่อนข้างโปร่ง ดูไม่อึดอัด

โซนครัวทางโครงการติดตั้งมาให้ทั้งชุดครัว เคาน์เตอร์ครัวรูปทรงตัว L ซึ่งเราสามารถทำเคาน์เตอร์เป็นโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้

พื้นที่นั่งเล่นอยู่ในตำแหน่งติดกับระเบียง ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวได้เต็มที่

ระเบียงของห้องนี้มีขนาดกว้างพอสมควร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ

มองจากอีกมุมจะได้เห็นภาพรวมของห้องได้มากขึ้น ตำแหน่งของน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับโซนครัว ส่วนทางเข้าห้องนอนจะอยู่ติดกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น

ห้องน้ำจะตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวและกระเบื้องสีเทา เป็นการคุมโทนด้วยสีสันที่เรียบง่ายสบายตา

ซึ่งฟังก์ชันภายในมีการแยกโซนแห้ง โซนเปียกเอาไว้เรียบร้อยและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ

เดินเข้ามาส่องในห้องนอนกันต่อ ภายในมีขนาดกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ พร้อมทั้งวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เข้าไปได้อีก

หน้าต่างจะได้เป็นบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

พอเดินมาดูอีกฝั่งนึงของเตียงที่ติดกับหน้าต่าง จะเห็นได้ว่าถึงวางเตียงขนาดใหญ่แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่สามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงเพิ่มเติมได้ค่ะ

ปลายสุดของห้องอีกฝั่งนึงจะเป็นตู้เสื้อแบบ Built-in ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Define by Mayfair สุขุมวิท 50 

แบบ 1 ห้องนอน Type A 39.00 ตร.ม.

มาดูแบบ 1 ห้องนอนอีก Type หนึ่ง โดยเมื่อเปิดเข้ามาจะพบว่าฟังก์ชันภายในมีลักษณะคล้ายกัน ถ้าสังเกตพื้นดีๆ ที่นี่จะปูกระเบื้องแกรนิโต้ลายหินอ่อนสีขาวตั้งแต่โซนครัวยาวไปจนถึงห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ข้อดีคือ ดูแลทำความสะอาดง่าย

พื้นที่ครัวจะมีขนาดเท่ากับ 1 ห้องนอนขนาด 33.70 ตร.ม. มีช่องเก็บของหลายจุดพร้อมทั้งยังมีไฟอัตโนมัติอยู่ตามตู้ สามารถเปิดปิดด้วยระบบตรวจจับแบบ Censor ทำให้เราสะดวกเวลาทำอาหาร

ส่วนห้องน้ำจะได้หน้าตาแบบนี้ทั้งหมด มีฉากกั้นอาบน้ำ ฝักบัวอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ American Standard กระจกเงาบานใหญ่ยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปถึงโถสุขภัณฑ์

ห้องนี้มีฟังก์ชันเพิ่มเติมขึ้นมาเป็นห้องเก็บของที่ฝังอยู่ในผนัง ทำบานประตูปิดเปิดเป็นแบบบานเลื่อนกระจกเงาสีชา

ภายในสามารถวางเครื่องซักผ้าและเก็บอุปกรณ์ได้หลากหลาย ทำให้การเก็บของในพื้นที่คอนโดเป็นเรื่องง่ายและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

ระยะของพื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างพอประมาณ ทำให้ระยะห่างจากทีวีถึงโซฟาไม่ใกล้จนเกินไป

พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างกว่าห้องก่อนหน้านี้เล็กน้อย ทางโครงการจึงดีไซน์ตรงส่วนนี้ออกมาให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นชมวิว

ภายในห้องนอนมีขนาดกว้าง สามารถวางเตียงขนาดใหญ่และวางโต๊เครื่องแป้งแบบยาวได้สบายหรือเราจะเปลี่ยนเป็นมุมโต๊ะทำงานส่วนตัวก็ยังได้ค่ะ

กระจกหน้าต่างได้เป็นบานใหญ่ สามารถเปิดระบายอากาศด้วยหน้าต่างบานกระทุ้งได้

หากเราวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับกระจกไว้สำหรับเดินได้อีกค่ะ

ห้องนี้ทางโครงการออกแบบให้มีพื้นที่ Walk in-closet ภายในตัว

ตู้เสื้อก็จะได้ตามนี้เลย แบ่งชั้น แบ่งช่องเอาไว้ให้เรียบร้อย

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 33.70 ตร.ม. และ 39.00 ตร.ม.จะเป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L มีช่องเก็บของให้หลายช่องเลยทีเดียว

ซึ่งตัวเคาน์เตอร์ปิด Top ด้วยหินสังเคราะห์สีขาว

ลิ้นชักจะมีช่องแบ่งใส่ช้อนส้อมให้เรียบร้อย หน้าตาดูดี

ไฟอัตโนมัติ เปิดปิดด้วยระบบ Censor ทำให้เราสะดวกเวลาทำอาหาร

ซิงค์ล้างจาน Teka พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง

เครื่องดูดควันแบบ Slim Line ของ Teka

เตาไฟฟ้า 2 หัวแบรนด์เดียวกัน

วัสดุห้องน้ำ

ฝักบัวเป็นชุดพร้อมที่วางสบู่ ของ American Standard

ฉากกั้นอาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์สีขาว ของยี่ห้อ American Standard

อ่างล้างหน้าสีขาวแบบวางบนเคาน์เตอร์ มีพื้นที่สำหรับวางของและมีช่องเก็บของใต้เคาน์เตอร์ ของ Mogen

ก๊อกน้ำทรงสูง

กระจกเงาสูงครึ่งตัว เต็มความกว้างผนัง มีกรอบสีดำ

พื้นตรงส่วนเปียกมีการยกธรณีขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลออกมายังพื้นที่โซนแห้ง

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

พื้นห้องทั่วไปปูด้วยแกรนิโต้ลายหินอ่อนสีขาว

พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. สีน้ำตาลอ่อน

ตู้เก็บของในแบบ 1 ห้องนอนขนาด 39.00 ตร.ม.

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ในแบบ 1 ห้องนอนขนาด 33.70 ตร.ม.

ส่วนในแบบ 1 ห้องนอนขนาด 39.00 ตร.ม. จะได้เป็นแบบพื้นที่ walk in-closet

โคมไฟที่ระเบียงด้านนอก

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

คอนโด Define by Mayfair Sukhumvit 50 ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท  ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้น 81,000 บาท ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 92,000 บาทต่อตารางเมตรค่ะ  ห้องที่ขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้ทั้งตู้เสื้อผ้า ชุดครัว เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ American standard หรือเทียบเท่า

ราคา ณ วันที่ กันยายน 2562

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 2,690,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

5,000 บาท สัญญา 40,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนแรกเริ่ม (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางด้วยรถยนต์จัดได้ว่าสะดวกไม่ว่าจะเข้าหรือออกนอกเมืองค่ะ เนื่องจากถนนสุขุมวิท 50 เป็นตัวเชื่อมต่อเข้ากับถนนได้หลายสายทั้งถนนสุขุมวิทที่เข้าสู่ใจกลางเมือง ถนนทางรถไฟสายเก่าที่เราสามารถใช้ลัดไปยังถนนพระราม 4 พวกทางพิเศษก็มีจุดขึ้นลงอยู่ใกล้ๆ ทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางเฉลิมมหานครค่ะ ส่วนซอยที่ตั้งของโครงการอย่างซอยสวัสดี 4 ก็สามารถลัดเลาะไปออกถนนสุขุมวิท 54 ได้อีกต่อหนึ่งถ้าหากรถติดในซอยสุขุมวิท 50

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามี BTS สถานีอ่อนนุชอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม. ซึ่งระยะไกลเกินจะเดินสบายไปนะคะ ทางโครงการจึงมีรถรับส่งระหว่างสถานีกับโครงการคอยบริการลูกบ้านชดเชยตรงจุดนี้ ส่วนพวกรถสาธารณะก็มีรถสองแถวผ่านในซอยนะคะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ลักษณะจุดเด่นของทำเลสุขุมวิท 50 คือ การมีจุดขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้มากค่ะ  คนใช้รถและใช้ทางด่วนบ่อยๆ จัดว่าสะดวกมาก  แต่ตัวโครงการนั้นอยู่ขยับเข้ามาในซอยพอสมควร  แลกกับราคาที่ถูกลงกว่าคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้แนวถนนสุขุมวิท และใกล้ BTS ค่ะ

อย่างไรก็ดี ศักยภาพทำเลโซนนี้ก็ยังมี Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างเยอะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการคอนโดในเมืองแต่สู้ราคาอสังหาฯ ในเขต Mid Sukhumvit ไม่ไหว ซึ่งปัจจุบันอ่อนนุชยังเป็นทำเลที่มีการขยายตัวของคอนโดมิเนียม Low rise และ High rise เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องนะคะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ Define by Mayfair สุขุมวิท 50 เป็นคอนโดมิเนียม Low rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ที่ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น  มีจุดเด่นเรื่องระเบียงที่มีการออกแบบ Random ความยาวออกมาไม่เท่ากันทำให้เกิดลูกเล่นของแสงและเงาบนตัวตึกเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาของแสงแดด  รวมถึงการใช้กระจกเยอะ  ตัวโครงการจะคุมโทนด้วยสีเทาสบายตาและเป็นสีที่คงอยู่ได้นาน

ที่ดินของโครงการ Define by Mayfair สุขุมวิท 50 มีลักษณะเป็นรูปตัว L วางแปลนให้มีทางเข้าออกอยู่ในฝั่งถนนซอยตันข้างโครงการ  ฝั่งด้านหน้าที่ติดกับซอยสวัสดี 4 จึงกลายเป็นจุด  Drop off แทนค่ะ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ของแต่ละอาคาร ส่วนชั้นจอดรถจะอยู่ในชั้น 1 และชั้นใต้ดินสามารถจอดรถได้ 53 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน

แปลนห้องของที่นี่แบบ 1 ห้องนอนจะเริ่มต้นตั้งแต่ 33.70 ตรม. ส่วนห้องใหญ่สุดที่เป็น 3 ห้องนอน Duplex จะมีขนาด 118.125 ตร.ม.  ถือได้ว่าเป็นขนาดโปรดักส์ห้องใหญ่ในย่านนี้เลย  แต่จะมีแค่ 3 ยูนิต และตำแหน่งจะอยู่ในอาคาร A เท่านั้น  สำหรับการวางแปลนห้องขนาดเล็กทั้งหมดจะหันหน้าออกไปนอกอาคาร ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน จะหันหน้าเข้าคอร์ทกลางทั้งหมด และอย่างที่บอกการออกแบบระเบียงแบบ Random ความยาว ทำให้ห้องที่มีระเบียงยื่นออกมาสามารถมองเห็นวิวได้มากขึ้น

ด้านวัสดุของโครงการ Define by Marfair สุขุมวิท 50 ก็ให้มาแบบ Fully Fitted ทุกห้อง ทั้งเคาน์เตอร์ครัว ชุดครัวต่างๆ ของ Teka  ตู้เสื้อผ้า ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard หรือเทียบเท่า พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ พื้นห้องครัวจะปูด้วยแกรนิโต้สีขาวลายหินอ่อน ในห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว ผิวด้าน โดยรวมให้มาคุ้มทีเดียวค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางให้มาพอสมควร กระจายไปตามอาคาร A และ คอร์ทกลาง ซึ่งอาคาร A จะมีทั้ง โถง Lobby แบบ Double Volume ที่บริเวณนั้นก็จะมี Library, Co-working space และ Fitness  คอร์ทกลางจะเป็นพื้นที่ของสวน สถานที่พักผ่อน, สระว่ายน้ำระบบเกลือที่จะมีโซนสำหรับเด็กแยกเอาไว้ให้, Jacuzzi และ Aqua gym (จักรยานปั่นในน้ำ) ลงไปสระอีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการยังมีพื้นที่พักผ่อนที่เป็นสวนปลูกผักสวนครัวขนาดเล็กอยู่บนดาดฟ้าอาคาร B อีกด้วย การเข้าออกโครงการใช้ระบบ Key card access นะคะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

ปล่อยภาพออกมาแล้วสำหรับอีกหนึ่งโครงการทาวน์โฮมคุณภาพจาก สถาพร เอสเตท กับโครงการ อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล (ETERNITY TOWN PRIMROSE Vacharaphol) สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 86 ยูนิต ที่ออกแบบในสไตล์เรียบหรู สง่างาม ตามแบบฉบับอังกฤษ สะท้อนความสำเร็จในทุกการอยู่อาศัยจุดเริ่มต้นกับการสร้างครอบครัวอันแสนอบอุ่น บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อทุกการเดินทาง รายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมาย แอบแว่วมาว่าแค่ขึ้น Fence AD ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถ้ามีอัพเดทความคืบหน้าจะรีบนำข่าวมาบอกทันทีเลยจ้า…

ปล่อยภาพออกมาแล้วสำหรับอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมไฮไลท์แห่งปีจาก GRAND UNITY กับโครงการ เดนิม จตุจักร (DENIM JATUJAK) ที่หลายๆ คนแอบรอว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แต่เฉพาะ Location ใจกลางจตุจักรที่แสนสะดวกสบาย รายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมายก็น่าจะโดนใจได้ไม่ยาก แอบแว่วมาว่าจะเป็นโครงการที่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่แกรนด์ ยูนิตี้เคยมีมา ถ้ามีอัพเดทความคืบหน้าจะรีบนำข่าวมาบอกทันทีเลย…

มินิพรีวิวบทความนี้เราจะพามาสำรวจข้อมูลคร่าวๆ ของโครงการ เดอะคิวบ์ ลอฟท์ ศรีนคริทร์-เทพารักษ์ คอนโดของ คิวบ์ เรียล พร๊อพเพอร์ตี้ คอนโด Low Rise ราคาเข้าถึงง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งเพียง 100 เมตร

โครงการ The Cube Loft ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ ตั้งอยู่บนซอยศรีด่าน 18 เชื่อมต่อได้ทั้งถนนศรีนคินทร์และถนนแบริ่ง โครงการเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 349 ยูนิต มีขนาดห้องให้เลือกตั้งแต่ 23.5-34.5 ตารางเมตร ภายในได้ห้องมาแบบ Fully-Fitted พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Digital Door Lock, Co-Working Space, Loft Cafe, เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนที่สู้ราคาคอนโดเส้นสุขุมวิทไม่ไหว แต่ก็ยังต้องการการเดินทางที่สะดวกตามแนวรถไฟฟ้าค่ะ

THE CUBE LOFT  SRINAKARIN – THEPHARAK
( เดอะคิวบ์ ลอฟ ศรีนครินทร์ – เทพารักษ์ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท คิวบ์ เรียล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยศรีด่าน 18 ถ.ศรีนครินทร์ สำโรงเหนือ เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ
• ขนาดที่ดิน >>>  2 – 1 – 99 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 2 อาคาร
• ความสูงอาคาร >>> 8 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>>  349 ยูนิต
• แบบห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 23.5-33.5 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.5 ตารางเมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำพรีวิว >>> 1.29 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น >>>  54,900 บาท/ตร.ม. 
• พิกัดสำนักงานขาย >>> 13.645770, 100.637952
• พิกัด GPS >>> 13.643757, 100.637943
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1246

LOCATION

โครงการ THE CUBE LOFT ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ในซอยศรีด่าน 18 หน้าปากซอยในอนาคตจะเป็นสถานีศรีแบริ่งของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ในปี 2564 นี้ ภายในซอยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมาก่อนจึงค่อนข้างคึกคัก แต่เนื่องด้วยเป็นซอยตันจึงทำให้รถที่เข้า-ออกนั้นเป็นรถของคนที่อาศัยในนี้จริงๆ ลดปัญหาคนแปลกหน้าในซอยได้เยอะเลยค่ะ ตัวซอยศรีด่าน 18 เชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์และถนนแบริ่ง ทั้งยังสามารถไปแยังถนนสุขุมวิท, ถนนเทพารักษ์, ถนนลาซาล, ถนนบางนา-ตราด ได้สบายๆ แล้วยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนถึง 2 สายอย่างถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกและทางพิเศษบูรพาวิถี อีกด้วยค่ะ

FACILITIES

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เดอะคิวบ์ ลอฟท์ ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ ออกแบบตามคอนเซ็ปต์ Loft เน้นให้เห็นถึงความดิบของ Materials ต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจน สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางทางโครงการทำออกมาได้ดี ให้มาครบครันทุกความต้องการ

มาเริ่มจากชั้น 1 ที่ทางโครงการให้ Lobby Free Wifi มาแบบแยกตึกพร้อมระบบ Key Card Access ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของโครงการจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25*5 เมตร ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคารพร้อมห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง จัดมาไว้ให้ด้วยค่ะ

ที่ชั้นนี้มี Co-Working Space ด้วยและด้านบนของ Co-Working Space จะเห็นห้องประชุม Free Wifi ค่ะ

ห้องออกกำลังกายตั้งอยู่ที่ชั้น 3 หันหน้าเข้ามารับวิวส่วนกลางที่ชั้น 2 พร้อมกับสระว่ายน้ำ

ที่ชั้น 3 ฝั่งตึก A ยังมี Tutor Space Free Wifi ให้ด้วย ใครเบื่ออ่านหนังสือ ทำงานในห้องสามารถออกมานั่งทำที่นี่ได้เลย

เหนือห้องออกกำลังกายขึ้นไปเป็น Joy Party Space จะมาปิ้งย่าง BBQ กันได้แบบ Outdoor ส่วนด้านในเป็น Loft Cafe ที่นั่งพบปะสังสรรแบบ Indoor ใครชอบแบบไหนเลือกนั่งเล่นได้เต็มที่

ชั้นดาดฟ้าทางโครงการตกแต่งเป็น Sky Garden เหมาะกับคนที่ชอบรับลม รับวิวสูงๆ ค่ะ

และยังติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ มาให้ลูกบ้านอีกมากมายเช่น Digital Door Lock, Keycard Access, เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ, ตู้รับ-ส่งสินค้าอัจฉริยะ, กล้อง CCTV รอบโครงการและในตัวอาคาร , ระบบสัญญาณแจงเหตุเพลิงไหม้(อุปกรณ์ตรวจจับควัน), สวิตซ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้และอุปกรณ์สงสัญญาณ พร้อมลิฟต์ 2 ตัวต่ออาคาร พร้อมที่จอดรถ 116 คัน(ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ค่ะ

MASTER PLAN

แผนผังอาคารของโครงการ THE CUBE LOFT ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ แบ่งออกเป็น 2 อาคารได้แก่ A และ B ซึ่งอาคาร A จะอยู่ทางด้านหน้าซ้าย ส่วนอาคาร B จะอยู่ทางด้านหลังขวา แปลนอาคารทั้งคู่ออกแบบมาเป็นตัว L โอบล้อมส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำไว้ค่ะ

ROOM PLAN

แปลนห้องภายในโครงการ THE CUBE LOFT ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ หลักๆ จะมีอยุ่ด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่แบบ 1 ห้องนอนขนาด 23.5-33.5 ตารางเมตรและแบบ 1 ห้องนอนพลัสขนาด 34.5 ตารางเมตรค่ะ จากแปลนโดยรวมๆ แล้วภายในห้องจะได้ห้องครัวแบบปิดแทบทั้งหมด ยกเว้นแบบ 1 ห้องนอน Type A1 ที่จะได้ห้องครัวแบบเปิดค่ะ

• แบบ 1 ห้องนอน Type A1 : 23.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type A2 : 23.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type B : 28 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน PLUS Type C : 34.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type D1 : 33.5 ตารางเมตร

• แบบ 1 ห้องนอน Type D2 : 31 ตารางเมตร

INTERIOR

ADDITIONAL INFO.

THE CUBE LOFT ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ คอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งเพียง 100 เมตร

ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท* จะเปิดให้จองรอบ VIP BOOKING ครั้งแรก

ในวันที่ 21-30 กันยายนนี้ที่ บูธ โลตัส ศรีนครินทร์ ชั้น 1 ใกล้ Starbucks พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท*

ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ >>> เดอะคิวบ์ ลอฟท์ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1246

หรือดูวีดีโอเพิ่มเติม >> Youtube

… จบลงไปแล้วนะคะสำหรับพรีวิวสั้นๆ ของโครงการ เดอะคิวบ์ ลอฟท์ ศรีนครินทร์ เทพารักษ์ คิดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนในย่านศรีนครินทร์ที่ต้องการคอนโดราคาน่ารัก เข้าถึงง่าย ใกล้รถไฟฟ้า เหมาะกับ First Jobber ที่กำลังหาที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้ค่ะ …

มินิพรีวิวบทความนี้เราจะพามาชมข้อมูลเบื้องต้นกับโครงการบ้านทาวน์โฮม เดอะคิวบ์ ทาวน์ ลำลูกกา ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนลำลูกกาและถนนรังสิต-นครนายก สามารถลัดเลาะไปยังถนนสายไหมและถนนพหลโยธินได้อีกด้วย ใกล้รถไฟฟ้า สถานีคูคต

ในโครงการ The Cube Town Lamlukka เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 145 ยูนิตมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ หน้ากว้าง 4-5.7 เมตร 2-4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร 1-2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 100-130 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นเบาๆ 1.89 ล้านบาท*

THE CUBE TOWN LAMLUKKA
( เดอะคิวบ์ ทาวน์ ลำลูกกา )

• เจ้าของโครงการ >>> VVP Property Ltd.,
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซ.เปียร์นนท์ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
• ขนาดที่ดิน >>>  15 – 1 – 94 ไร่
• จำนวนบ้าน >>> 145 หลัง + 3 อาคารพาณิชย์
• ความสูง >>> 2 ชั้น
• แบบบ้าน >>>
  • หน้ากว้าง 5.7 เมตร : 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร
  • หน้ากว้าง 4 เมตร : 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำพรีวิว >>> 1.89 ล้านบาท*
• พิกัด GPS >>> 13.940560, 100.659866
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1246