14-15 มี.ค.นี้ ครั้งแรกกับการเปิดชม

LIMITED EDITION UNITS Designed by NAOTO FUKASAWA

“นักออกแบบระดับโลกชาวญี่ปุ่น”

14 – 15 มีนาคมนี้ เปิดชมสเปซจริง Limited Edition Units by NAOTO FUKASAWA ดีไซเนอร์ระดับโลกกับรางวัลการออกแบบกว่า 50 รางวัลและการร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น MUJI, ISSEY MIYAKE, B&B ITALIA และครั้งแรกในประเทศไทยกับการดีไซน์สเปซในมุมมองใหม่ของการใช้ชีวิตแนวสูง ภายใต้สองคอนเซ็ปต์ ABSENCE ยูนิตพิเศษพร้อมวิวเส้นขอบฟ้ามหานครกรุงเทพใจกลาง CBD สาทร และ ARCHETYPE ยูนิตพิเศษพร้อมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ที่ RHYTHM สาทร ‘The Slow Collection’ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า บนถนนสาทร พร้อมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา โดย AP

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก www.apthai.com/campaign/คอนโด/rhythm/rhythm-the-slow-collection/

Naoto Fukasawa Design at Rhythm Sathorn ‘The Slow Collection’

Project Detail

ชื่อโครงการ                          RHYTHM SATHORN ‘The Slow Collection’

เจ้าของโครงการ                    บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งโครงการ                        ซอย สาทร 21 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

พื้นที่โครงการ                       ประมาณ 4 ไร่ 1 งาน 91.6 ตารางวา

จำนวนห้องชุดพักอาศัย         910 ยูนิต

ราคาเริ่มต้น                           แต่งครบ เริ่ม 4.65 ล้านบาท

****LIMITED EDITION UNITS BY NAOTO FUKASAWA เริ่ม 7.35 ล้านบาท****

คอนเซ็ปท์โครงการ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอ็นท์ พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวบนถนนสาทร

“RHYTHM SATHORN ‘The Slow Collection’ เสนอวิธีคิดใหม่ เพื่อให้ทุกวินาทีคุณช้าลง”

ลักษณะโครงการ อาคารชุดพักอาศัยสูง 37 ชั้น ชั้นใต้ดิน 4 ชั้น (North Building)

ชั้น B4 – B1            ชั้นจอดรถยนต์

ชั้นที่ 1                     ชั้นโถงล๊อบบี้ พื้นที่บริการสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 3 – 35               ชั้นพักอาศัย

ชั้น 36 – 37             ชั้นพื้นที่บริการสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคารชุดพักอาศัยสูง 42 ชั้น ชั้นใต้ดิน 4 ชั้น (South Building)

ชั้น B4 – B1            ชั้นจอดรถยนต์

ชั้นที่ 1-2                 ชั้นโถงล๊อบบี้ พื้นที่บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและห้องนิติบุคคล

ชั้น 3 – 39               ชั้นพักอาศัย

ชั้น 40 – 41             ชั้นพื้นที่บริการสิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวก     North Building

ชั้น 1        โถงรับรอง , Garden

ชั้น 36     สระว่ายน้ำ , Mutipurposed Room , Garden , Sauna (แยก ช – ญ)

ชั้น 37     ห้องออกกำลังกาย ลิฟท์โดยสารความเร็วสูงจำนวน 4 ตัว ลิฟท์ดับเพลิงความเร็วสูงจำนวน 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสะดวก     South Building

ชั้น 1        โถงรับรอง , Garden

ชั้น 2        สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด

ชั้น 40     สระว่ายน้ำ  Multipurpose Room, Garden, Sauna (แยก ช – ญ)

ชั้น 41     ห้องออกกำลังการ ลิฟท์โดยสารความเร็วสูงจำนวน 5 ตัว ลิฟท์ดับเพลิงความเร็วสูงจำนวน 1 ตัว ลิฟท์ดับเพลิงจำนวน 1 ตัว สำหรับชั้น B4 – 1 ใช้ร่วมกันทั้ง 2 อาคาร

จำนวนที่จอดรถ           ประมาณ 580 คัน (รวมจอดซ้อนคัน)

ระบบรักษาความปลอดภัย     เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ระบบโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) บริเวณทางเข้า – ออกอาคาร,ภายในลิฟท์, โถงทางเดินชั้นพักอาศัย ระบบ CardeReader บริเวณประตูล๊อบบี้ เข้า – ออกอาคาร และ ประตูเข้า – ออก ชั้นที่จอดรถสู่อาคาร

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก  www.apthai.com/campaign/คอนโด/rhythm/rhythm-the-slow-collection/

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com

Naoto Fukasawa Design at Rhythm Sathorn ‘The Slow Collection’

วันที่ 14-15 มีนาคม 2558 นี้  Q House มีงานเปิดตัวโครงการใหม่ “Gusto วงแหวน – พระราม 5″ ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก  รายละเอียดเบื้องต้นมีดังนี้

แผนที่ กัสโต้ วงแหวน-พระราม 5

แบบบ้าน Bonita

ขนาด 21 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม.

ทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 นอน 3 น้ำ 2 ที่จอดรถ

แบบบ้าน Lilly

ขนาด 18.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.

ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 นอน 3 น้ำ 2 ที่จอดรถ

กัสโต้ วงแหวน-พระราม 5

กัสโต้ วงแหวน-พระราม 5

แปลนบ้าน กัสโต้ วงแหวน-พระราม 5

แปลนบ้าน กัสโต้ วงแหวน-พระราม 5

• พื้นที่ส่วนกลาง

  • สวนสาธารณะ
  • คลับเฮ้าส์
    • ฟิตเนส
    • สระว่ายน้ำ
    • สโมสร

• การเดินทาง

  • ใกล้ทางด่วนศรีรัช ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
  • ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบางใหญ่ ห่างโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร
  • ใกล้เซ็นทรัล West Gate ประมาณ 5 กิโลเมตร
  • โลตัส Plus Mall
  • บิ๊กซี Extra
  • บิ๊กซี รัตนาธิเบศก์
  • โรงพยาบาลเฏษมราษฎร์รัตนาธิเบศก์
• ใกล้ตลาดสด
  • ตลาดบางใหญ่
• ราคาเปิดตัว 2 ล้านต้นๆ
• จองภายในงาน ลูกค้าที่ลงทะเบียน ได้รับส่วนลดจากราคาซื้อขาย 10,000 บ. (ได้เฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนเท่านั้น) ลงทะเบียนได้ที่ http://gusto.qh.co.th/register/gtwpr5/

รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1388 

สวัสดีครับ  วันนี้เอาข้อมูลคอนโดใหม่ล่าสุดบนถนนเพชรเกษมที่กำลังจะเปิดตัวมาฝากกัน  โครงการนี้เป็นของดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ที่มาลงตลาดในย่านฝั่งธนบุรี  ตัวโครงการอยู่บนถนนเพชรเกษม  ตรงซอยเพชรเกษม 62  ไปดูรายละเอียดเบื้องต้นที่มีตอนนี้กันครับ

The Prodigy เพชรเกษม 62

(เดอะโพรดิจี้  เพชรเกษม 62)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท จี ดี ที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนเพชรเกษม 62
• ขนาดที่ดิน >>>  6 – 2 -16.6 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 31 ชั้น และ 33 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 23 ตารางเมตร 
  • 1 Bedroom 29 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Plus 33.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom 50.5 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom Corner 50 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  1,273 ยูนิต + ร้านค้า 5 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> ประมาณ  50% รวมจอดซ้อนคันแล้ว
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.69 ล้าน (Full Furnished) ณ วัน Presale 28 มีนาคม 2558
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 73,000  บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> n/A
• เว็บไซต์โครงการ  www.prodigycondo.com  (ลงทะเบียนรับส่วนลดในเว็บไซต์)
• เบอร์ติดต่อโครงการ โทร 02-413-0333

The Prodigy เพชรเกษม 62

The Prodigy เพชรเกษม 62

ที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนเพชรเกษมนะครับ  ระยะห่างจากสถานีบางแคประมาณ 200 เมตร  ซึ่งอยู่ในแนวของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่ต่อมาจากสถานี MRT หัวลำโพงครับ  จากโซนนี้ถ้าจะไปต่อรถไฟฟ้า BTS  ก็ไปขึ้นได้ที่สถานีบางหว้า

ซอยเพชรเกษม 62 นั้นจะอยู่ระหว่าง ซีคอน บางแค กับโลตัส บางแค ครับ

แผนที่ The Prodigy เพชรเกษม 62

Facilities

• Sky Park สวนลอยฟ้าและ Jogging Track ที่ชั้น 33

• Sky Lounge ที่ชั้น 32

• Infinity Edge Pool และ Fitness

• Urban Oasis

• Mini Shop

พื้นที่ห้องเริ่มต้นที่ 23 ตารางเมตร  ราคาเปิด Pre-Sale 1.69 ล้านบาท  โดยในห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์ของโมเดิร์นฟอร์มมาด้วย  ไว้มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรจะนำาอัพเดตเพิ่มเติมให้นะครับ

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ  วันนี้ผมพามาดูคอนโดอีกตัวนึงในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไป  และยังเหลือขายอยู่นิดหน่อย  ที่เราจะไปดูวันนี้คือคอนโด Centric Tiwanon Station (เซนทริค ติวานนท์ สเตชั่น) ของทาง SC Asset  อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย  สถานีแยกติวานนท์ประมาณ 200 เมตร  ใกล้ๆกับกระทรวงสาธารณสุขครับ  ตอนนี้ตึกเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว  เราไปดูกันดีกว่าว่าโครงการจะออกมาเป็นยังไงกันบ้าง

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Centric Tiwanon Station (เซ็นทริค ติวานนท์ สเตชั่น)

• เจ้าของโครงการ >>> SC Asset (เอสซี แอทเสท)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนกรุงเทพฯ – นนทบุรี
• ขนาดที่ดิน >>>  4-2-59 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 41 ชั้น (อาคาร A) และ 37 ชั้น (อาคาร B) (จอดภายในคอนโด)
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ (A และ B)
• ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>> 31.8 – 67.4 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  1,063  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.54 ล้านบาท (ห้อง 31.91 ตารางเมตร ณ วันที่ 1/3/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ  71,5xx – 79,5xx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.841106, 100.512917

แหนงหน้าชมกันหน่อยก่อนจะเข้าไปดูกันจริงๆครับ

Centric ติวานนท์ สเตชั่น

Centric ติวานนท์ สเตชั่น

มองจากด้านบนเราก็จะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงตีโค้งไปทางแคราย

Centric ติวานนท์ สเตชั่น

  อ่านรีวิว Centric Tiwanon ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

รีวิวนี้พาเพื่อนๆไปดูทาวน์โฮมโครงการ The Connect Up3 ลาดพร้าว 126 ของพฤกษา เรียลเอสเตท  ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ในซอยลาดพร้าว 126 นั่นเอง  The Connect เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้าตาสไตล์โมเดริ์น ที่ใช้โทนสีขรึมๆ (เทา ขาว น้ำตาล) รายละเอียดเราเก็บมาให้ชมกันอย่างละเอียดในรีวิวนี้ครับ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการครับ

The Connect UP3 Ladprao 126

(เดอะ คอนเนค อัพทรี ลาดพร้าว 126)

• เจ้าของโครงการ >>> Pruksa Real Estate (พฤกษา เรียลเอสเตท)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยลาดพร้าว 126 (ซอยกรัณฑ์พร)
• ขนาดที่ดิน >>>  19-2-09 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม 3 ชั้น
• จำนวนหลัง >>>   194  ยูนิต
• พื้นที่ใช้สอย >>>  3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 160 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5.50 เมตร

• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  4.49 ล้านบาท (เนื้อที่ดิน 19.9 ตารางวา ณ วันที่ 10/3/2015)
• เว็บไซต์โครงการ >>> The Connect UP3 ลาดพร้าว 126
• พิกัด GPS >>> 13.768702, 100.627366

  อ่านรีวิว The Connect ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

มุมมองจากผู้รีวิว

แผนที่โครงการ The Connect ลาดพร้าว 126

  อ่านรีวิว The Connect ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

Garden อโศก-พระราม9

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Garden อโศก-พระราม9  โครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างเสร็จมานานแล้วก่อนจะถูกจับมาปัดฝุ่นทำ branding ใหม่ โดยทาง AQ Estate  ให้สวยงามกว่าเดิมและมีการเพิ่มต้นไม้ให้บรรยากาศดูร่มรื่นขึ้น  โครงการตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ ติดๆกับ RCA ค่ะ  และไม่ห่างจากโครงการช็อปปิ้งมอลล์ขายส่งขนาดใหญ่แห่งใหม่ของกรุงเทพที่กำลังสร้างอยู่อย่าง Show DC ค่ะ  วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Garden Asoke-Rama9 (การ์เดน อโศก-พระราม9)

• เจ้าของโครงการ >>> AQ Estate
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนจตุรทิศ ติดกับซอยอาร์ซีเอ
• ขนาดที่ดิน >>> 2-3-71.5 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  4 อาคาร
• ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 26 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน 33-76 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 66 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  630  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> ประมาณ 47% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.43 ล้านบาท (ห้อง 25.26 ตารางเมตร ชั้น 4 ณ วันที่ 5/3/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  55,000-65,000 บาท/ตารางเมตร
• เว็บไซต์โครงการ >>> Garden Asoke – Rama9
• พิกัด GPS >>> 13.750080, 100.574681

  อ่านรีวิว Garden Asoke Rama9 ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

มุมมองจากผู้รีวิว

แผนที่คอนโด Garden Asoke Rama9

  อ่านรีวิว Garden Asoke Rama9 ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

The joy of Huahin by Sansiri คือแคมเปญที่จัดขึ้นในทุกๆปีช่วงฤดูร้อนเพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กับเมืองตากอากาศน่ารักๆที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯอย่าง หัวหิน นอกจากท่านจะได้พบกับ “เจ้าวาฬน้อย” ที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของแคมเปญนี้โดยในปี 2015 นี้เจ้าวาฬน้อยมากันเป็นครอบครัว เติมความสดใสให้เมืองหัวหิน ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในปีนี้เจ้าวาฬน้อยมาพร้อมกับแคมเปญโปรโมชันพิเศษรับหน้าร้อนกับ 6 รีสอร์ทคอนโดฯพร้อมอยู่อาทิเช่น โครงการ บ้านทิวลม บ้านแสนงาม บ้านเพียงเพลิน บ้านอิ่มเอม และ ออทัมน์ที่มาพร้อมกับราคาพิเศษเพียง 990,000 บาท พิเศษสุดๆกับฟรี !ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน โดยท่านที่มีโอกาสได้เยี่ยมเมืองหัวหินสามารถติดต่อขอรับข้อมูลของทั้ง 6 โครงการได้ที่ Sales Gallery ซอยหัวหิน 85 สังเกตุได้ง่ายๆเพราะอยู่ริมถนน พร้อมกันนี้ท่านยังสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่โครงการจริงซึ่งทางโดครงการได้จัดเตรียม summer workshop ไว้ให้ทุกๆท่านได้ร่วมสนุกกัน อาทิ เช่น การเพนท์จาน การทำโมบายแขวนห้อง

รวมไปถึงการจัดกิจกรรมน่าๆรัก The joy of hua hin : movie night ที่ 3 โครงการ บ้านทิวลม บ้านแสนงาม และ ออทัมน์ ในวันที่ 4,11 และ 12 เมษายนตามลำดับ โดยหากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามผ่านทาง 1685  หรือ sansiri.com

สวัสดีค่ะ รีวิวนี้พามาชมคอนโด Ivy Ampio รัชดาภิเษก-พระราม9 โครงการตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ติดกับตึกทรู รัชดา อยู่ไม่ไกลจาก MRT ศูนย์วัฒนธรรม และ MRT พระราม 9 ค่ะ ซึ่งตอนนี้ตึกเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าโครงการจะออกมาเป็นยังไงกันบ้างค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Ivy Ampio (ไอวี่ แอมพิโอ)

• เจ้าของโครงการ >>> พฤกษา เรียลเอสเตท (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ติดถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับตึก True
• ขนาดที่ดิน >>>  2-0-93 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 29 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน / Duplex
• ขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 30-33 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน 42 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 77 ตารางเมตร
  • Duplex 136 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 289  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 70% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  4.815 ล้านบาท (ห้องสตูดิโอ 30 ตารางเมตร ชั้น 20 ณ วันที่ 1/4/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  160,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.763435, 100.568361

  อ่านรีวิว IVY AMPIO ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

Ivy Ampio

Ivy Ampio

Ivy Ampio

Ivy Ampio

Ivy Ampio

Ivy Ampio

แผนที่ Ivy Ampio

  อ่านรีวิว IVY AMPIO ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

รีวิวนี้พาไปชมทาวน์โฮมในซอยรามอินทรา101 ใกล้ๆกับห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ค่ะ เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้างถึง 7.5 เมตร ลักษณะของแปลนบ้านจะค่อนข้างต่างจากทาวน์โฮมที่อื่นๆค่ะ ในรายละเอียดจะเป็นยังไง วันนี้อยู่สบายแวะไปรีวิวมาให้ชมกันค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อนค่ะ

Happy Home Ramintra101 (แฮปปี้โฮม รามอินทรา101)

• เจ้าของโครงการ >>>  Infinite Real Estate  (อินฟินิท เรียลเอสเตท)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรามอินทรา101
• ขนาดที่ดิน >>>  ประมาณ 10-1-45 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม 2 ชั้น
• จำนวนหลัง >>>   79  ยูนิต
• พื้นที่ใช้สอย >>>  4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1-2 ที่จอดรถ / 168 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 7.50 เมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  3.9 ล้านบาท (เนื้อที่ดินแปลงมาตราฐาน 28.1 ตารางวา ณ วันที่ 5/3/2015)
• พิกัด GPS >>> 13.822281, 100.682310

  อ่านรีวิว Happy Home ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

  อ่านรีวิว Happy Home ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

วันนี้เรามีพรีวิวสั้นๆของคอนโด Park 24 เฟส 2  ในซอยสุขุมวิท 24 มาฝากกันครับ  คอนโด Park 24  นี้หลายๆคนคงคุ้นชื่อกันดีอยู่แล้วเพราะเปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ปลายปี 2556  ตอนนี้กำลังจะเปิดเฟสที่ 2 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน  ผมเลยแวะไปเก็บข้อมูลมาฝากกันครับ

Park 24 (พาร์ค 24) เพส 2

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พราวด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ซอยสุขุมวิท 24
• ขนาดที่ดิน >>>  7 – 0 – 55 ไร่
• จำนวนอาคาร >>>  3 อาคาร (อาคาร 4, 5, 6)
• จำนวนชั้น >>> ตึก 4 สูง 29 ชั้น /  ตึก 5 สูง 496 ชั้น /  ตึก 6 สูง 375 ชั้น
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 25 – 41 ตารางเมตร  จำนวน 755 ยูนิต
  • 2 ห้องนอน 51 – 68 ตารางเมตร  จำนวน 338 ยูนิต
  • Duplex  84 – 118 ตารางเมตร  จำนวน 33 ยูนิต
• จำนวนยูนิต >>>  1,126 ยูนิต (นับห้องที่ combined แล้ว จากทั้งหมด 1,240 ยูนิต)
• ที่จอดรถ >>> 622 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน  (49%)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  4.9 ล้านบาท (วันที่ 19 เมษายน 2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้น 18x,xxx บาทต่อตารางเมตร
• พิกัด GPS  13.725034,100.567292

 

ก่อนอื่นก็เล่าคร่าวๆเกี่ยวกับ Park 24 ในเฟสแรกก่อนเผื่อใครที่จำข้อมูลกันไม่ค่อยได้แล้ว (อ่านรีวิว Park 24 เฟส 1 ฉบับเต็ม คลิก)  เดิมที Park 24 ในเฟสแรกนั้นมีอยู่ 3 อาคาร  เป็นอาคารพักอาศัย 2 อาคาร  อีกตึกนึงเป็นยูนิตเพื่อการพาณิชย์  ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการอยู่ด้วย  มาในเฟส 2 นี้โครงการก็ทำอีก 3 ตึก  โดยภาพรวมของดีไซน์นั้นยังเป็นรูปแบบเดิม  แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนในดีเทลเล็กๆน้อยๆในบางจุด  รวมถึงขายเป็นห้องแบบ Fully Furnished ต่างกับเฟสแรกที่ขายเป็นห้องเปล่าครับ

สำนักงานขายของ Park 24 ก็ยังเป็นที่เดิมครับ

มาดูในผังรวมจะเห็นว่าตึก 4, 5, 6 ในเฟส 2 นั้นจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในฝั่งใกล้ซอยสุขุมวิท 22 มากกว่าครับ  ทางเข้าออกของทั้งโครงการนั้นจะมี 3 ทาง  ทางหลักอยู่ฝั่งสุขุมวิท 24 ส่วนฝั่งสุขุมวิท 22 นั้นมีเข้าออกได้อยู่ 2 จุด

รูปนี้ขยายให้เห็นดีเทลในแปลนครับ  มีพื้นที่สวนเยอะอยู่

ด้านในตอนนี้โมเดลมีครบแล้วทุกตึก

มุมนี้จากด้านฝั่งสุขุมวิท 22 ครับ

อีกด้านนึง

 

 Typical Floor Plan 

เอา Typical Floor Plan ของตัวคอนโดตึก 5 มาให้ดูครับ  รูปร่างนั้นจะเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู  ยูนิตสูงสุดต่อชั้นจะอยู่ที่ 12 ยูนิต

Typical Floor Plan ตึก 5 ชั้น 5-29

แบบที่เอามาทำห้องตัวอย่างนั้นมีทั้ง 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน  แบบ 1 ห้องนอนใช่ไซส์ 28 ตารางเมตรมาทำ

แปลนคอนโด Park 24 แบบ 1 ห้องนอน 28.08 ตารางเมตร

ในแง่ของแปลนนั้นไม่ได้แตกต่างจากของเดิมมาก  แต่เรื่องวัสดุนั้นมีเพิ่มขึ้นมาพอควรทีเดียวครับ เพราะเป็น Fully-Furnished  ในรูปนี้เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร

เฟอร์นิเจอร์ได้มาเกือบหมด  รวม wallpapers ลายแนวๆแบบในรูปด้วย

ส่วนนี่เป็นตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนครับ

แปลนคอนโด Park 24 แบบ 2 ห้องนอน 57.16 ตารางเมตร

การจัดอินทีเรียนั้นมีการแชร์สเปซของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆและมีลูกเล่นในการตกแต่งอยู่พอควร  เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านกันละเอียดๆในรีวิวฉบับจริงนะครับ

มุมนี้มองจากส่วนห้องนอน

เอาข้อมูลมาพรีวิวให้ดูกันคร่าวๆเท่านี้ก่อนครับ  โครงการจะเปิดจองวันที่ 6 พฤษภาคม นี้  โดยจะให้สิทธิ์ VIP ที่จองเป็น pack 4 ยูนิตก่อน  สนใจก็ไปลงทะเบียนกันได้ที่ http://www.park24.co.th/register/ ครับ

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปชมทาวน์โฮมโครงการใหม่จาก Q.House  ที่มีชื่อว่า กัสโต้พหลโยธิน-สายไหม ตั้งอยู่บนถนนสายไหม อยู่ระหว่างซอยสายไหม 45/1 กับซอยสายไหม 45/2 ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง ลองมาดูรายละเอียดของโครงการกันก่อนค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Gusto Phaholyothin – Saimai (กัสโต้ พหลโยธิน-สายไหม)

• เจ้าของโครงการ >>> Q.House (บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน))
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนสายไหม ระหว่างซอยสายไหม 45/1 กับ 45/2
• ขนาดที่ดิน >>>  24-0-7.7 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม 2ชั้น
• จำนวนหลัง >>>  250 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • Type A FLIGHTER 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 110 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5.70 เมตร
  • Type B PILOT 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 131 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5.70 เมตร

• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  2.39 ล้านบาท (Type A เนื้อที่ดิน 18.5 ตารางวา ณ วันที่ 2/3/2015)
• พิกัด GPS >>> 13.921184, 100.663723

  อ่านรีวิว Gusto ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

แผนที่โครงการ Gusto พหลโยธิน-สายไหม

  อ่านรีวิว Gusto ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

วันนี้พาไปดูรีวิวฉบับเก็บตกของ Ideo Q สยาม-ราชเทวี ของทางค่ายอนันดาฯ นะครับ  โครงการนี้เปิดตัวไปเมื่อปีืทีแล้วตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน  ตอนนั้นยังไม่มีห้องตัวอย่าง  อยู่สบายเลยเขียนรีวิวโครงการไปให้ดูแล้วส่วนนึงโดยวิเคราะห์ในเรื่องในเรื่องทำเลที่ตั้ง  สภาพแวดล้อม รวมถึงผังโครงการ  แปลนห้อง  และสาธารณูปโภคของโครงการ เท่าที่มีข้อมูลอยู่  วันนี้ได้โออาสเลยแวะไปดูห้องตัวอย่างที่ทำขึ้นใหม่  และรีวิวเพิ่มเติมในส่วนของสเปซและวัสดุภายในห้องมาให้เพิ่มเติม  เพื่อให้รีวิวนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ

ใครที่เคยอ่านบทความรีวิวคอนโด Ideo Q Siam-Ratchathewi มาแล้ว  ก็อ่านเพิ่ิมเติมต่อตรงนี้ได้เลย  หรือถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็แวะไปอ่านที่ >> Review Ideo Q Siam-Ratchathewi   กันก่อน  แล้วมาดูห้องตัวอย่างกับข้อมูลวัสดุที่ได้พร้อมสรุปภาพรวมกันอีกรอบจากรีวิวนี้ได้เลย  เพื่อจะได้ให้ภาพของโครงการในมุมต่างๆกันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ

ข้อมูลโครงการ

Ideo Q Siam-Ratchathewi 

(ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท อนันดา ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (Ananda)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถ.เพชรบุรี
• ขนาดที่ดิน >>>  2 – 1 – 60.1 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 36 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  29.5 – 37 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  51 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  62-69 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  552 ยูนิต (พักอาศัย 550 ยูนิต , ร้านค้า 2 ยูนิต)
• ที่จอดรถ >>> 258 คัน  (47%)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  5.5 ล้านบาท (วันที่ 8 เมษายน 2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้น 17x,xxx – 19x,xxx บาท ต่อตารางเมตร
• พิกัด GPS  13.752237,100.534772

  อ่านรีวิว Ideo Q เพิ่มเติม คลิกที่นี่

Ideo Q Siam-Ratchathewi ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี

  อ่านรีวิว Ideo Q เพิ่มเติม คลิกที่นี่

รีวิวนี้พาไปชมโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น รีสอร์ท ลิฟวิ่ง “Atoll Java Bay บางนา-กิ่งแก้ว 19″  แบรนด์ “Atoll” (เอโทล) นี้เป็นชื่อแแบรนด์โครงการแนวราบของอนันดาที่ทำตลาดอยู่ในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันออกค่ะ  คำว่า Java นั้นก็มาจาก “ชวา” นั่นเอง  ในรายละเอียดจะเป็นยังไงอยู่สบายแวะไปรีวิวมาให้ชมกันค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Atoll Java Bay (เอโทล จาวา เบย์ บางนา-กิ่งแก้ว19)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท อนันดา ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (Ananda)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยกิ่งแก้ว 19 ถนนกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
• ขนาดที่ดิน >>>  56 ไร่
• ประเภท >>> บ้านเดี่ยว / บ้านแฝด
• จำนวนหลัง >>>  318 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • บ้านแฝด DH-120 / 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 ที่จอดรถ / 120 ตารางเมตร
  • บ้านแฝด DH-130 / 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 130 ตารางเมตร
  • บ้านเดี่ยว SH-140 / 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 140 ตารางเมตร
  • บ้านเดี่ยว SH-180 / 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 180 ตารางเมตร
  • บ้านเดี่ยว SH-195 / 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 195 ตารางเมตร

• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  3.89 ล้านบาท (DH-120 เนื้อที่ดิน 41.60 ตารางวา ณ วันที่ 3/4/2015)
• พิกัด GPS >>> 13.665990, 100.712397

  อ่านรีวิว Atoll Java Bay เพิ่มเติม คลิกที่นี่

แผนที่โครงการ Atoll Java Bay

\

  อ่านรีวิว Atoll Java Bay เพิ่มเติม คลิกที่นี่

[PR News from AP] ยกระดับความสุขของการใช้ชีวิต ในความอบอุ่นที่คุ้นเคย กับคอนโด แอสปาย วุฒากาศ

Aspire wutthakat – Escalate the quality of life within their familiar atmosphere.

ถ้ากล่าวถึงในเขตฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะย่านถนนเทอดไทถึงถนนวุฒากาศนั้น เป็นแหล่งชุมชนเก่าขนาดใหญ่ที่มีปริมาณผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่นมาก ด้วยทำเลที่มีความคึกคักของทั้งร้านอาหารชื่อดัง ตลาดสดขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน มหาวิทยาลัย อีกทั้งจำนวนบ้านพักอาศัยเดิมที่อยู่กันอยู่างหนาแน่นแล้ว ยิ่งพอมีสถานีรถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ ซึ่งเป็นสถานีร่วมส่วนต่อขยายกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ก็ยิ่งเป็นจุดเด่นให้ทำเลนี้ เป็นทำเลทองย่านฝั่งธน โดยเฉพาะถนนเส้นวุฒากาศนั้นเอง

ถึงแม้ว่าเส้นทางเดินรถแถวนั้นจะค่อนค้างซับซ้อนซักหน่อยสำหรับคนนอกพื้นที่ฝั่งธนบุรีก็ตาม แต่ด้วยระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า สถานีวุฒากาศ เพียงไม่ถึง 200 เมตร ติดริมถนนใหญ่วุฒากาศ เป็นที่ตั้งของโครงการคอนโด Low Rise “Aspire วุฒากาศ” เติมเต็มความสุขรอบด้าน ด้วยความร่มรื่นของสวนสวยและสระว่ายน้ำ panoramic view ท่ามกลางความเป็นส่วนตัวเพียง 166 ยูนิต บนทำเลที่คุ้นเคย ซึ่งบริเวณโดยรอบโครงการนั้นค่อนข้างจะคึกคัก มีทั้งตลาดเช้าซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ 3 ซอย เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ จัดว่าอุดมสมบูรณ์ไม่แห้งแล้งแน่นอน อีกทั้งฝั่งตรงข้ามโครงการ มีโรงเรียนอำนวยศิลป์ตั้งอยู่ในซอยวุฒากาศ 16 ในรัศมีที่ไกลออกไปอีกหน่อยก็มีทั้งห้างเดอะมอลล์ท่าพระ โรงพยาบาลพญาไท 3 และมหาวิทยาลัยสยามอีกด้วย สิ่งที่ตามมากับแหล่งชุมชนก็คือตลาดและวัดที่ยังคงรักษาความดั่งเดิมอันอบอุ่นเรียบง่ายไว้ได้เป็นอย่างดี จากทำเลที่ดีแบบนี้ มีทั้งสาธารณูปโภคโดยรอบที่เพียบพร้อมครบถ้วน น่าอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับใครที่ชอบแหล่งชุมชนเก่าในย่านฝั่งธน ที่ตอบโจทย์การสร้างสรรค์พัฒนาความสุขของคนในชุมชน ให้มีสังคมของการอยู่อาศัยที่ได้คุณภาพอย่างครบครัน เชิญลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ในราคาที่คุ้มค่า คลิก www.apthai.com/คอนโด/aspire/aspire-wutthakat/

ข้อมูลโครงการ Aspire วุฒากาศ (แอสปาย วุฒากาศ)

โครงการ                Aspire วุฒากาศ (แอสปาย วุฒากาศ)

ตำแหน่ง                ซอยวุฒากาศ 17

ระยะจาก BTS         200 ม. จาก BTS สถานีวุฒากาศ

จำนวนอาคาร         1 อาคาร, สูง 8 ชั้น

จำนวนยูนิต           166 ยูนิต

แบบห้องพัก          สตูดิโอ         22.5 ตร.ม.

    1 ห้องนอน     30-30.50 ตร.ม.

                          2 ห้องนอน     42.5 ตร.ม.

ส่วนกลาง             สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนบนชั้นดาดฟ้า

แผนที่โครงการ 

แผนที่ Aspire วุฒากาศ

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่ www.apthai.com/คอนโด/aspire/aspire-wutthakat/

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางอยู่สบายได้รับเชิญไปร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สี  Momento ของ Nippon Paint  ซึ่งเป็นสีทาภายในที่สามารถสร้างสรรค์เป็นลวดลายตามใจชอบได้  เลยมาเขียนเล่ากันให้ฟังเพื่อใครที่เพิ่งโอนบ้านและคอนโดมาใหม่ๆ  ยังมีห้องเปล่าๆอยู่และอยากมันส์มือ  เอามาลองทาเล่นๆเป็นผลงานตัวเองก็ได้ครับ  ส่วนในฐานะที่ตัวผมเองก็เป็นสถาปนิกเนี้ย  ก็บอกกันตรงๆว่ายังไม่เคยสเปก Nippon Momento ลงไปในงานลูกค้าสักครั้งเดียว  ก็เลยถือโอกาสมาเก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์ไปด้วยในตัว

สี Nippon Momento นั้นแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม  ซึ่งก็แยกตามลักษณะของ effect ที่ทาออกมาครับ  2  กลุ่มนี้ได้แก่ Textured Series และ Enhancer Series  โดยลักษณะของเนื้อสีนั้นจะออกแบบมาให้แตกต่างกัน  แบบ Textured Series นั้นจะเป็นสีที่ดูทึบตันกว่า  ส่วน Enhanced นั้นจะดูโปร่งใสมากกว่า  ตอนซื้อก็ดูเอาที่ข้างกล่องได้เลยครับ

Momento : Textured Series

Momento : Enhancer Series

เวลาซื้อสีมาก็จะมีอุปกรณ์ครบเซตมาให้  มีแปรงทาสี, ไม้ไอติมไซส์ใหญ่เอาไว้คนสี และพลาสติกพับได้สำหรับเอาไว้ปาดสร้าง texture สำหรับสีแบบ Textured Series

อุปกรณ์ที่มากับสี

มาเริ่มกันที่แบบแรก คือ Textured Series ครับ  ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “Textured” เพราะฉะนั้นผิวสัมผัสของผนังเวลาที่ทาออกมาแล้วก็จะไม่เรียบ  เนื้อสีที่ติดผนังก็จะเกิดจากน้ำหนักมือและลักษณะทิศทางการทาสีของแต่ละคนนั่นเอง  พอเป็นสีที่ทำให้เกิด Texture ได้เลยต้องออกแบบให้เนื้อสีข้นกว่าปกติและต้องแห้งเร็วเพื่อให้สียังเกาะตัวอยู่เป็น texture ได้สวยงาม   ส่วนในเนื้อสีที่ข้นๆนั้นก็จะมีแบ่งอีก 2 แบบ  แบบแรกเนื้อจะข้นและจะเห็น pigment เป็นเกล็ดเล็กๆ เป็นประกายอยู่ในเนื้อสีเรียกว่ารุ่น Sparkle  กับตัวนึงซึ่งข้นกว่าอีก  ตัวนี้จะชื่อว่า Elegant ซึ่งเวลาทาเสร็จก็ต้องมีอุปกรณ์แผ่นพลาสติกในรูปด้านบนมาปาดเก็บงานนั่นแหละครับ

วันนั้นไม่ได้ลองทาสีแบบ Elegant นะครับ  ผมได้ลองทาแบบ Sparkle อย่างเดียว รูปนี้เป็นเนื้อสีแบบ Sparkle  จะสังเกตุว่ามีเกล็ดเป็นประกายๆติดอยู่ครับ  ซึ่งไอ้เจ้าเกล็ดนี้ก็จะมี 3 เฉดสี คือ Sparkle Silver, Sparkle Gold และ Sparkle Pearl

เนื้อสี Textured Series แบบ Sparkle

เนื้อสี Textured Series แบบ Sparkle

สีอีกประเภทนึงก็คือแบบ Enhancer Series สีแบบนี้จะโปร่งใสกว่าอย่างที่บอก  ข้อจำกัดคือมันทาทับซ้อนๆกันหลายชั้นไม่ได้  เดี๋ยวจะเละ  เพราะฉะนั้นทั้งมือและใจต้องนิ่งๆเวลาละเลงสีลงไปบนผนังหล่ะครับ  ตัวเนื้อสีของ Enhancer Series นั้นจะอกเป็นลักษณะขุยมะพร้าวข้นๆ  ซึ่งในเนื้อสีนั้นจะผสมกาวอยู่  เวลาทาไปเสร็จแล้วทิ้งไว้สักพักนึงตัวกาวก็จะระเหยออกไป  แล้วเนื้อสีที่เป็นขุยมะพร้าวมันก็จะซึมลงไปกลายเป็นผิวเรียบๆ

ในสีแบบ Enhancer Series นั้นแบ่งเป็น 2 แบบ คือแบบ Cloud และแบบ Frost  ซึ่งวันนั้นผมได้ลองทาแบบ Frost ครับ

เนื้อสี Enhancer Series แบบ Frost

ทีนี้ตามปกติแล้ว ก่อนเวลาเราทาสีไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็ตาม  ก็จะต้องมีการเตรียมพื้นผิวกันก่อน  ถ้าเป็นผนังบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้าง  สิ่งที่ต้องทำคือทาสีรองพื้นปูนใหม่ก่อนเพื่อกันด่างที่ผนัง  ถ้าเป็นผนังเก่าก็แล้วแต่สภาพสีเดิมถ้ายังดีอยู่ก็อาจจะไม่ต้องทารองพื้นปูนเก่า  แต่ถ้าสีมันสภาพแย่และโทรมมากก็ต้องทำความสะอาดขัดผนังซะรอบนึงแล้วลงรองพื้นปูนเก่าก่อนตามสูตรการทาสีทั่วไปครับ

ทีนี้พอผ่านการเตรียมพื้นผิวขั้นแรกไปแล้ว  ถ้าเป็นสีแบบ Textured Series เราจะต้องลงรองพื้นของ Momento อีก 2 รอบก่อน  แล้วค่อยลงสี Textured Series  ส่วนถ้าจะทาสี Enhancer Series นั้นทาสีน้ำพลาสติกสีที่อยากได้บนผนังไปได้เลยตามปกติ  จากนั้นค่อยทาสี Enhancer Series ในรอบสุดท้าย

แต่ก่อนจะได้ลงมือทาจริง  ก็มาดูขั้นตอนการสาธิตวิธีการทาก่อน  เริ่มจากสีแบบ Elegent วิธีการนั้นจะต้องปาดในลักษณะ 45 องศา ไปเรื่อยๆ จนเต็มพื้นที่ที่ต้องการครับ  จากนั้นก็ทิ้งเอาไว้สักประมาณ 20-35 นาที ตรงนี้ต้องจับเวลานะครับ  ถ้าเลย 35 นาทีไปสีแข็งเกินแน่ๆ

พอจับเวลาครบแล้ว  จากนั้นก็ใช้ไอ้เจ้าพลาสติกแข็งที่ได้มาพับเป็นรูปโค้งตามมือ

แล้วก็ปาดไปในทิศทางที่ต้องการ  โดยเทคนิคก็คือพยายามทำมุมหน้าน้อยๆกับแนวผนัง  ถ้าทำมุมเยอะเกินไปจะทำให้ผิวออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ (มันจะปาดตัวพื้นผิวของสีออกไปหมดนั่นเอง)

ต่อมาพี่เขาก็สาธิตสีแบบ Sparkle เล่นสีชมพูมุ๊งมิ๊ง

ถัดมาก็เป็นสีแบบ Cloud ครับ  ลองเทียบกับแบบ Sparkle ข้างบนจะเห็นว่าเนื้อสีที่ทาลงไปแล้วใสกว่าพอสมควร  สีฟ้าที่เห็นในรูปก็คือสีน้ำพลาสติกที่ทาลงไปก่อนแล้วรอบนึงอย่างที่เล่าตอนต้นครับ

สุดท้ายก็สีแบบ Frost แบบนี้ตอนที่ทาแรกๆดูแล้วมันเลอะเทอะยังไงบอกไม่ถูก  แต่พอหลังจากทิ้งไว้จนแห้งให้กาวระเหยออกไปและสีซึมเข้าพื้นผิวไปแล้วก็ออกมาดูโอเคดีอยู่

สุดท้ายก่อนจะลงมือทดลองทาสีจริงๆ  ก็มีพี่ติ๊กเจษฎาภรณ์ #ผิด #นี่มันติ๊กกลิ่นสี  ที่ตอนนี้เป็นศิลปินทำงานศิลปะเต็มตัวมาแชร์เทคนิคการลงสีให้ฟัง

ทีนี้ก็มาดูสีที่ผมลองทาวันนั้น  เริ่มจากแบบ Sparkle ….. พอไหวไหมฮะ  =”=

นี่ก็แบบ Cloud ที่ทาไป  พอซูมให้ดูใกล้ๆจะเห็นว่าเนื้อสีนั้นใสเห็นพื้นหลังได้  ต่างกับแบบ Sparkle สีแดงด้านบนที่ทึบกว่าชัดเจน

สุดท้ายก็ลองเล่นแบบ Frost  รูปนี้ถ่ายตอนที่ยังไม่แห้งครับ  ถ้าสังเกตดูจะเห็นรอยกาวที่เป็นเส้นๆในรูป  ตรงนี้เดี๋ยวมันจะระเหยไป  แล้วขยุยที่นูนๆออกมาก็จะซึมเข้าเนื้อจนเรียบหล่ะครับ

หลังจากลองกับพอหอมปากหอมคอ  ก็สรุปเป็นมินิรีวิวให้อ่านกันเกี่ยวกับรายละเอียดและข้อสังเกตของการใช้สี Nippon Momento นะครับ

♦  สีนี้เป็นสีทาภายในเท่านั้น  ถ้าเอาไปทาภายนอกโดนฝนโดนแดดเดี๋ยวเละแล้วจะว่าไม่เตือนไม่ได้นะ

♦  ผนัง 1 ด้านควรทาสีเพียงคนเดียวครับ  เพราะหลังจากที่หันไปสังเกตผู้ร่วมทาสีในวันนั้นแล้ว  ถ้าเอาแต่ละคนมาทาพร้อมกัน  รับรองว่าจากศิลปะอาจจะกลายเป็นศิลเปรอะได้

♦  แต่ถึงทาคนเดียว  ก็ควรมีคนช่วยดูภาพรวมของน้ำหนักสีในแต่ละพื้นที่ให้  เพราะว่าเวลาเราทาสีและโฟกัสอยู่กับแต่ละจุด  มันจะทำให้มองภาพรวมของโทนสีนั้นไม่ออกว่าตรงไหนหนักมือไปแล้ว  ตรงไหนยังเบามือไป

♦  Key Point ของการทาให้สวยอยู่ที่น้ำหนักมือ  เพราะฉะนั้นอาจจะต้องยอมเสียสีสักกระป๋องทาทดสอบดูก่อนลงมือทำจริงครับ

♦  เนื้อสีจากที่ทดลองใช้พบว่าออกแบบมาให้แห้งเร็ว  เพราะฉะนั้นควรทาด้วยความว่องไวครับ

♦  แปรงสีที่ให้มาสามารถล้างน้ำเปล่าได้  ไม่ต้องเอาไปแช่และน้ำมันสนเหมือนกับสีน้ำพลาสติกทั่วไป

♦  ไม่มีกลิ่นเหม็น  อันนี้ชอบเป็นพิเศษ  (แต่ถึงจะไม่มีกลิ่น  เวลาทาเสร็จแล้วก็อย่าลืมเปิดหน้าต่างให้มันระบายอากาศได้หล่ะครับ)

♦  ลักษณะของการปัดแปรงของสีแต่ละแบบจะมีแนะนำของทิศทางการปัดแปรงเอาไว้ให้  แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าติสมากจะไม่ทำตามก็ได้  ที่เขาบอกมาก็เป็นแค่ลักษณะการปัดแปรงที่คิดมาเผื่อแล้วว่าคนทั่วๆไป (อย่างผมนี่แหละ) พอจะทำได้ไม่ยากนัก  เพราะฉะนั้นมันขึ้นกับ Creativity ล้วนๆ

♦  จากประสบการณ์ส่วนตัว  ถ้าตกแต่งโดยใช้ผนังที่มีลวดลายแล้ว  ผมแนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบๆ ลายไม่เยอะมาก  เพราะถ้าผนังก็ลาย เฟอร์นิเจอร์ก็ลาย สเปซในห้องทุกอย่างจะดูเยอะและแน่นจนเกินไป  สุดท้ายผนังก็ไม่เด่น เฟอร์นิเจอร์ก็ไม่เด่น เพราะงั้นถ้าใช้สีแบบนี้ก็ท่องไว้ว่า “เฟอร์ฯ เรียบๆ”

♦  วิธีการทานั้นไม่ยากครับ  งานแบบนี้ทำเองแล้วจะภูมิใจดี  แต่ถ้าบางคนที่เกิดมาแล้วชีวิตนี้ไม่มีทักษะทางด้านศิลปะเลย  บางทีจ้างเขาทาอาจจะสวยกว่านะ  5555   ^____^

ทุกปลายเดือนเมษายนต่อกับต้นเดือนพฤษภาคมของทุกทีจะมีงานสถาปนิกซึ่งจัดขึ้นที่ Challenger Hall, Impact Arena เมืองทองธานี เป็นประจำทุกปีครับ  ปีนี้ก็มีจัดอีกเช่นกัน  งานสถาปนิกนั้นก็จะมีอยู่ 2 ส่วนหลักๆคล้ายกันทุกๆปี  ส่วนแรกก็คือส่วนที่แสดงผลงานการออกแบบในวงการสถาปัตยกรรมของเมืองไทย  ทั้งผลงานของบริษัทต่างๆรวมถึงผลงานของนิสิตนักศึกษา, ผลงานประกวดแบบแนวความคิดทางสถาปัตยกรรม  และก็นิทรรศการซึ่งจะจัดเข้ากับธีมของงานในแต่ละปี  รวมถึงการบรรยายสัมมนาในหัวข้อต่างๆที่มักจะเชิญสถาปนิกและนักออกแบบที่น่าสนใจมาพูดคุยเล่าประสบการณ์ต่างๆให้ฟังกัน  และอีกส่วนนึงซึ่งกินพื้นที่ใหญ่มากและเป็นที่สนใจของคนทั่วไปก็คือพื้นที่ในการแสดงสินค้าและวัสดุก่อสร้างต่างๆที่ขนกันมาเพียบ  ถ้าใครจะสร้างบ้านมางานนี้งานเดียวก็ได้กันเกือบครบครับ  อยู่สบายเก็บบรรยากาศมาฝากกัน

เข้ามาใน Challenger Hall แล้วก็มาลงทะเบียนหน้างานครับ  ช่วงคนพีคๆนี่มีหลายคนที่บ่นเรื่องต่อคิวนานเยอะเหมือนกัน ผมโชคดีที่ตอนไปคนไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่   ในแบบฟอร์มลงทะเบียนก็จะให้กรอกข้อมูลของผู้เข้าชมงาน  และก็ให้กรอกข้อมูลช่องทางการส่งข่าวสารของงานสถาปนิก(ปีหน้า)ได้ในช่องทางไหนบ้าง  ผมกรอกข้อมูลไปทุกปี  แต่ถึงเวลาก็ไม่เคยได้ข่าวสารมา  ตรงนี้ผมว่าทีมงานน่าจะปรับปรุงหน่อยก็ดีนะครับ (บ่นๆๆ  555)

ด้านหน้าก็จะมีแผนผังของงานอยู่  พื้นที่ตรงกลางสีเหลืองที่เห็นจะเป็นส่วนของสมาคมสถาปนิกสยามที่จัดนิทรรศการต่างๆ  พื้นที่รอบๆก็จะเป็นบูธแสดงสินค้า วัสดุ และการก่อสร้าง  โดยแบ่งออกเป็นโซนๆชัดเจน  วัสดุหมวดเดียวกันก็จะอยู่ใกล้ๆกันครับ

ติดๆกันก็เป็นตารางของกิจกรรมต่างๆตลอดงาน  ระบุช่วงเวลาและสถานที่เอาไว้เรียบร้อย

เข้ามาตรงกลางก็จะมีนิทรรศการเกี่ยวกับสถาปนิกรุ่นใหญ่ๆที่ประสบความสำเร็จกันไปแล้วครับ

มีมุมจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติและผลงานของสถาปนิกที่เป็นศิลปินแห่งชาติในสาขาสถาปัตยกรรมและสาขาต่างๆครับ

พอเข้ามาพื้นที่ตรงกลางเป็นการรวบรวม 100 projects ที่น่าสนใจอยู่ในขณะนี้เอามาให้ดูกัน  มีทั้งที่เป็นของบริษัทออกแบบและมาจากสถาบันการศึกษาครับ

พื้นที่ตรงกลาง Hall นั้นก็ใช้จัดกิจกรรมหมุนเวียนกันไป  ตอนที่ผมไปเป็นช่วงกิจกรรมของเด็กๆ  น้องเลยวิ่งเล่นกันเยอะเลย

ลองเดินดูโปรเจครอบๆกันครับ  ในงานปีนี้มีธีมว่า ASA NEXT ตัวตนคนไทย  เราเลยจะเห็นโมเดลงานสถาปัตยกรรมไทยรวมถึงงานสถาปัตยกรรมเชิงอนุรักษ์มาจัดแสดงอยู่ในสัดส่วนที่มากกว่าปีก่อนๆครับ

โครงสร้างงานนี้เท่ดี

มีผลงานตึกใหม่ๆมาจัดโชว์ด้วยเช่นกัน  ที่เห็นสูงสุดใน Hall วันนั้นก็เป็นโมเดลของ Super Tower ที่สี่แยกพระราม 9 ที่เปิดตัวไปปลายปีที่แล้ว  ตอนนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบอยู่ครับ

แอบซูมดู  สเปซในตัวตึกจะมีการซอยเป็นสเปซโล่งๆแต่ละจุดกระจายไปในหลายๆชั้น  ลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ด้วย  ดีไซน์จริงๆก็คงต้องรอดูกันต่อไปเรื่อยๆครับ

ข้างๆกันเห็นโมเดลโครงสร้างอาคารของตึกตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ที่ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว  ตามกำหนดช่วงปลายๆปีนี้ก็น่าจะเปิดใช้ได้

โปรเจคนี้ชื่อ Glasshouse อยู่หน้าตึกสินธร  ทีกำลังปรับปรุงอยู่ครับ

ชอบบ้านหลังนี้เป็นพิเศษ  เป็นบ้านชั้นเดียวสเปซน่ารักๆ

นี่เป็นโมเดลของสเปซภายในบางส่วนอาคารผู้โดยสารของสถานีกลางบางซื่อในส่วนที่เป็นรถไฟสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) ครับ

ต่อกันด้วยโมเดลสเปซภายในบางส่วนของอาคารสยามกิตติ์  ที่อยู่ในสยามสแควร์

โมเดลอาคารเฉลิมพระเกียรติของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าฯ

ใน Hall ตรงกลางจริงๆก็ยังมีโปรเจคน่าสนใจอีกหลายที่ลองไปเดินดูกันได้ครับ  ออกมาด้านข้างก็จะมีส่วนจัดแสดงผลงานการประกวดแบบของปีนี้ที่จัดโดยสมาคมสถาปนิกสยามอยู่  หัวข้อการประกวดในปีนี้คือ Density l Dense City  โดยโจทย์ในปีนี้จะตั้งคำถามปลายเปิดว่าเราจะใช้งานสถาปัตยกรรมเข้าไปเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่แทรก “ผ่าตัด” เข้าไปในใจกลางความหนาแน่นของเมืองเพื่อเบียดแทรกพื้นที่สาธารณะเข้าไปได้อย่างไรบ้าง

มีผลงานที่ได้รับการคัดเลือกมาจัดแสดงอยู่หลายชิ้นด้วยกัน

นี่เป็นงานชิ้นที่ชนะเลิศการประกวดครับ  งานชิ้นนี้มองให้ทางด่วนนั้นเหมือนสถาปัตยกรรมชิ้นหนึ่ง  แทนที่จะเป็นทางวิ่งในระนาบเดียวก็สร้างพื้นที่ซ้อนทับกันทั้งระบบขนส่งมวลชน  พื้นที่สาธารณะ  รวมถึงพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ด้านบนกับด้านล่างให้เกิดประโยชน์และก็เพิ่มพื้นที่เมืองได้น่าสนใจดี

รูปขยายแนวความคิดที่ได้รางวัลชนะเลิศชัดๆครับ  ส่วนงานอื่นใครอยากติดตามก็ดูได้ตาม link  >> ผลรางวัลประกวดแบบ ASA International Design Competition ครับ

เรามาเดินสำรวจดูวัสดุและงานแสดงสินค้าส่วนต่างๆกันบ้างครับ  การแบ่งหมวดหมู่ก็จะรวมๆกันเป็นโซนๆอย่างที่ได้เล่าไปแล้วคร่าวๆ  แต่ก็มีบางแบรนด์ที่แยกตัวออกจากโซนสินค้าของตัวเองไปบ้าง  ต้องมีเวลาพอควรในการเดินดูหล่ะครับ  เพราะงานใหญ่จริงๆ

ผมเริ่มเดินตั้งแต่ทางขวามือสุดของ Hall มาเลย  มีสินค้าที่หนักๆอย่าง Folk Lift มาด้วย (จริงๆก็ดูจะผิดจากงานสถาปนิกไปหน่อย  ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่)

ฝั่งริมสุดจะเป็นสินค้าพวกหลอดไฟ โคมไฟ ประเภทต่างๆ ทั้งแบรนด์ใหญ่ๆ และแบรนด์แนวๆ

มีบูธเครื่องพิมพ์อย่างพวก Canon , Epson เน้นไปพวกเครื่องพิมพ์งานขนาดใหญ่

แล้วก็มีสินค้าพวกกล้องวงจรปิดตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ

หิวๆหรือเมื่อยก็มีร้านอาหารให้นั่งพักอยู่

สินค้าพวกระบบปั๊มต่างๆ  รวมถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบสุขาภิบาลก็มาด้วย

เครื่องปรับอากาศเจ้าใหญ่อย่าง Mitsubishi ก็มา

ถัดมาก็เป็นบูธของอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกสวิตซ์และปลั๊ก  ของ Biticino ยี่ห้อนี้เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะโปรเจคบ้านและคอนโดต่างๆชอบใช้กัน

จริงๆมีหน้าตาสวยๆเยอะมาก  แต่คอนโดทั้งหลายก็มักเลือกเอาแบบรุ่นถูกสุดประหยัดสุดมาให้ใช้หล่ะนะ

เดินผ่านเข้าไปในบูธของ Christina เป็นแบรนด์สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำที่โครงการบ้านและคอนโดต่างๆใช้กันอยู่เยอะเช่นกันครับ  ห้องนี้เขาจัดแสดงอ่างอาบน้ำใช้ Lighting นี่ได้ดูเหมือนอยู่ในผับดี  ออกแนว Erotic หน่อยๆ

ถัดจาก Christina แล้วก็เดินเข้าบูธของ Charmer เคาน์เตอร์ตัวนี้คุ้นๆไหมครับ  ถ้าใครเคยดูคอนโดของ LPN นี่ใช้สเปกนี้เลย  เป็นอคิลิก  เวลาทำความสะอาดนี่ไม่ควรใช้น้ำยาที่เป็นกรดเป็นด่างสูงๆนะครับ  ผิวพวกนี้ไม่ได้ทนทานมากเดี๋ยวมันจะเป็นขุยซะหมด  แนะนำให้ใช้พวกน้ำยาล้างจานผสมน้ำอ่อนๆก็ได้

อ่างแบบนี้ทำจากเรซิน ซึ่งก็คืออคิลิกผสมกับเซรามิคนั่นเองครับ  ราคาก็จะแพงขึ้นมาอีกหน่อย

เดี๋ยวนี้เริ่มมีอ่างที่ทำจากหินเทียมด้วย  ผิวก็จะเรียบๆ เวลาสัมผัสดูจะรู้สึกด้านกว่าแบบอื่นๆ  พวกนี้ก็ทำความสะอาดยากหน่อยครับ

ยังอยู่ที่โซนในห้องน้ำครับ  เราแวะไปดูบูธของ i-spa

Rain Shower อันนี้แนวมาก

Rain Shower ของบ้านแพงๆนี่ปรับได้หมดทั้งรูปแบบของน้ำที่ออกมา แสง สี เรียกว่าเพลินทีเดียว  แต่สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อยก็ใช้ฝักบัวธรรมดากันไปก่อนนะครับ

ใกล้ๆกับบูธ i-spa ก็จะมี Hafele’

ใกล้ๆกันก็จะเป็นของ Kenzai ครับ เป็นกระเบื้องยอดฮิตอีกแบรนด์เหมือนกัน

เดินมาอีกหน่อยจะเจอบูธนี้ของ TOA ครับ เด่นมาก

ตรงข้ามกับ TOA ก็เป็นปูนกาวตราจระเข้

พวกวัสดุพื้นก็มีมากันหลายยี่ห้อให้เลือกดูกัน

ส่วนนี่เป็นการเคลือบผิวหน้าบานต่างๆทำเป็นผิว High Gloss มันวาว โดยพวกนี้ข้างในก็มักจะใช้วัสดุอย่างพวก MDF มาทำครับ

มาถึงบูธใหญ่อีกบูธนึงในงานครับ  เจ้านี้มาเหมาพื้นที่ใหญ๋สุดทุกปี  ไม่ใช่ใครที่ไหน SCG นั่นเอง

ด้วยความที่บูธใหญ่มาก  ด้านในก็จะแบ่งเป็นโซนๆ  ส่วนนี้เป็น SCG HEIM บ้านสำเร็จรูปที่ SCG นำเทคโนโลยีเข้ามาจากญี่ปุ่น

มีโซนของ Cotto ที่จัดวัสดุสุขภัณฑ์ต่างโดยทำเป็น Mock-up ห้องน้ำมาให้ดูกันในหลายๆรูปแบบ

มีมุมให้คำปรึกษาเรื่องบ้าน

บูธ SCG นั้นจะอยู่ช่วงกึ่งกลาง Hall ครับ  พอออกมาก็เท่ากับเดินงานมาครึ่งนึงแล้ว เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอพรมและเครื่องนอนของ PASAYA

พวกกระเบื้องหินและกระเบื้องผนังต่างๆนี่มากันหลายแบรนด์เช่นเคย

ถัดมาก็จะเป็นโซนของบริษัทรับสร้างบ้านต่างๆครับ  แต่ก่อนบูธของบริษัทรับสร้างบ้านจะอยู่ริมๆฝั่งขวาที่คนเดินไม่ค่อยเยอะ  ปีนี้ย้ายมาอยู่กลางๆเลย

มาถึงพวกแผ่นวัสดุปิดผิวนี่ก็มี 2 แบรนด์ยอดนิยมอย่าง Formica และ Wilsonart มาตั้งอยู่ใกล้ๆกัน

เลยมาอีกหน่อย  ที่แปลกตาไปคือปีนี้เปิดพื้นที่ให้บูธจากต่างชาติเข้ามาเยอะขึ้นครับ  จัดเป็น International Pavilion กันโซนนึงเลยทีเดียว

ที่เหมาไปเยอะสุดก็เป็นสินค้าจากจีนครับ  จริงๆเดี๋ยวนี้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นแบรนด์ไทยนี่ก็ Made in China กันเยอะมากอยู่แล้ว  คราวนี้พี่เขาขนมาเองกันเลย

มีญี่ปุ่นมาด้วยนะก๊ะ  อาริงาโตะ!

บูธจากต่างชาติก็จะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆกระจายๆกันไปครับ

จากไต้หวันก็มากับเขาด้วย

รัชเซียก็มาครับ (เขาขนพริตตี้มาจากรัชเซียเองเลยด้วยนะ)

เลยจากโซน International Pavilion มาก็จะเป็นโซนของสีครับ  ที่เห็นใหญ่ๆก็มี สี Beger กับสี Dulux  แต่ก็เรียกว่ามาหลบมุมอยู่ เพราะคู่แข่งอย่าง TOA เขาไปจัดใหญ่อยู่ตรงกลางงานไปแล้ว

เดินมาซะนาน  เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ  โดยรวมๆถ้าใครจะอยากเดินดูงานนี้ทั่วๆก็น่าจะต้องมีเวลาอย่างน้อยครึ่งวันหล่ะครับ  บรรยากาศในงานโดยรวมๆนั้นก็คล้ายๆกับทุกปี  มีทั้งโซนโชว์ผลงาน ให้ความรู้ และโซนขายของ  ช่วงหลังๆนี่ดีหน่อยที่ไม่ได้เน้นพริตตี้กันมากเหมือนช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้  แต่ก่อนพอมาเดินนี่จะกลายเป็นงานโชว์พริตตี้มากกว่างานสถาปนิกไป  โดยรวมๆแล้วก็ยังเป็นงานที่แนะนำให้มาเดินเล่นอัพเดตข้อมูลกันปีละครั้งว่าตอนนี้ตลาดเรามีวัสดุอุปกรณ์อะไรใหม่ๆเข้ามาบ้าง  รวมถึงอัพเดตดีไซน์ใหม่ๆกันไม่ให้ตกยุคครับ

วันนี้ก็ลาไปก่อนเท่านี้นะครับ  ผมกันใหม่บทความหน้า  สวัสดีคร้าบบบบ  ^^

เว็บไซต์ Yusabuy.com เว็บไซต์รีวิวบ้านและคอนโด  เรากำลังรับสมัครนักรีวิวโครงการบ้านและคอนโดแบบเต็มเวลา (Full Time Job) เพื่อเขียนบทความรีวิวลงในเว็บไซต์  มาร่วมงานกันครับ

คุณสมบัติ

– จบการศึกษาปริญญาตรีหรือปริญญาโท  ในสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือสาขาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง

– มีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์  ความสนใจเกี่ยวกับตลาดบ้านและคอนโด  ช่างคิด

– มีทักษะการเขียนหนังสือที่ดี  สามารถนำเสนอความคิดได้ดีเป็นระบบระเบียบ

– เป็นบุคคลที่ต้องการมี Work Life Balance ที่ดีในการทำงาน

สถานที่ทำงานอยู่ติดรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว  เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินได้สะดวกมาก

สนใจส่งประวัติส่วนตัวความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4  ด้วยไฟล์ PDF  และค่าตอบแทนที่ต้องการมาได้ที่  contact@yusabuy.com