Quantcast
Channel: รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ
Viewing all 5531 articles
Browse latest View live

Than Living Rama9-Airport link คอนโดบนถนนศรีนครินทร์ใกล้ APL หัวหมาก [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Than Living พระราม9 – Airport Link  ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ ช่วงแยกพัฒนาการ  อยู่ไม่ไกลจาก Airport Link สถานีหัวหมาก เป็นโครงการของกีธา พร็อพเพอร์ตี้ ที่อาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้กันมาบ้าง เพราะอยู่สบายเองก็เคยรีวิวโครงการเอาไว้ถึง 3 โครงการ คือ Than Livng สาทร – เจริญราษฎร์, Than Living รัชดา – ประชาอุทิศ และ My story ลาดพร้าว 71 วันนี้อยู่สบายมารีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

 

Than-Living-Rama9

 

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Than Living Rama 9 – Airport Link  (แดน ลิฟวิ่ง พระราม 9 – แอร์พอร์ต ลิงก์)

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด
  • ที่ตั้งโครงการ >>> บริเวณซอยศรีนครินทร์14 ถนนศรีนครินทร์
  • ขนาดที่ดิน >>>  3-0-27.4 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 32 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน / Duplex / Penthouse
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน 24-32 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 48-67 ตารางเมตร
    • Duplex 97 ตารางเมตร
    • Penthouse 97-123 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  530  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 58% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  2.19 ล้านบาท (ห้อง 24 ตารางเมตร ณ วันที่ 1/4/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  85,000-86,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.736978, 100.640979

 

  อ่านบทวิเคราะห์ Than Living เพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

 

Than Living Rama 9 ดีมั๊ย

 

Than Living Rama 9 - Airport Link

Than Living Rama 9 – Airport Link

Than Living Rama 9 - Airport Link

Than Living Rama 9 – Airport Link

ข้อมูลโครงการ Than Living Rama 9

  อ่านบทวิเคราะห์ Than Living เพิ่มเติม คลิกที่นี่

 


เปิดตัวคอนโดหรู Park 24 (เฟส 2) คอนเซ็ปต์ Urban Forest คอนโดกลางสวนกว่า 10 ไร่ ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท [News]

$
0
0

พราว เรียล เอสเตท เปิดตัวคอนโดมิเนียมหรู พาร์ค 24” เฟส 2

ชูคอนเซปต์ “Urban Forest” คอนโดกลางสวนใหญ่กว่า 10 ไร่

ใจกลางย่าน ดิ เอ็ม ดิสทริค ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท

 

Park 24 (พาร์ค 24)

Park 24 (พาร์ค 24)

พาร์ค 24

 

  • เปิดตัวเฟส 2 ใจกลางย่าน ‘ดิ เอ็ม ดิสทริค’ ด้วยราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,500 ล้านบาท
  • เสริมทัพผู้บริหารด้วยพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร พราว เรียล เอสเตท พร้อมเดินหน้าธุรกิจอสังหาฯ เต็มตัว
  • เมื่อจองโครงการในงานพรีเซลล์ 17 พ.ค. นี้ รับส่วนลด 5% ทันทีพร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษอื่น ๆ มากมาย
  • ร่วมสัมผัสประสบการณ์“Urban Forest”  คอนโดกลางสวนใหญ่กว่า 10 ไร่ ใจกลางย่าน ดิ เอ็ม ดิสทริค
    ในงานเปิดโครงการพาร์ค 24 เฟส 2 “Living in the Park Event” ผ่านกิจกรรมมากมาย อาทิ เวิร์คช็อป, งานแสดงภาพถ่ายแฟชั่นโชว์, มินิคอนเสิร์ต
                    ระหว่าง 7 – 17 พฤษภาคม ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ 

 

คอนโด Park 24 สุขุมวิท 24

 

บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ผู้บริหารโครงการ พาร์ค 24” คอนโดมิเนียมไฮเอนด์กลางสวนใหญ่ 10 ไร่ บนทำเลที่ดีที่สุดสุขุมวิท 24  เปิดตัว โครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ภายใต้คอนเซปต์ “Urban Forest” ที่ผสานชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 16,500 ล้านบาท ในราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท พร้อมส่วนลด โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษอีกมากมายในงานพรีเซลล์ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2558 นี้

 

หลังจากการเปิดตัวโครงการเมื่อปี 2556  พาร์ค 24” เฟสแรก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และยังคงมีกระแสความต้องการและสอบถามถึงโครงการในเฟสต่อไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการบนพื้นที่ผืนงาม 12 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 24 ใจกลางย่าน ‘ดิ เอ็ม ดิสทริค’ เดินทางสะดวกทั้งจากซอย 24 และ 22 ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับไฮเอนด์ที่ครบวงจรที่สุดของเอเชีย ประกอบกับคอนเซปต์คอนโดพร้อมสวนขนาดใหญ่ 10  ไร่ ผสานชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัวให้ผู้พักอาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด

 

พสุ ลิปตพัลลภ Park 24

 

พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จที่ต่อเนื่องของกลุ่มบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด ที่ได้เริ่มจากโครงการโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน , โครงการศูนย์การค้าบูลพอรท์  รีสอร์ท มอลล์ และโครงการ สวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน ที่ทำให้กลุ่มบริษัท พราว เล็งเห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ของบริษัท ในการที่จะสร้าง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะ Luxury – Leisure  Mixed-Use Projects  ที่ประกอบไปด้วย โรงแรม, ศูนย์การค้า และ ส่วนสันทนาการ เช่น สวนน้ำ  โดยมีการพัฒนาให้มีความเชื่อมโยงกัน และสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินให้กันและกันเป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคแล้ว  สำหรับก้าวต่อไปบริษัทจึงเล็งเห็นว่า  อีกประเภทของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสำคัญ และเป็นฐานการสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี คือ การขยายฐานเข้าสู่ตลาดที่อยู่อาศัย Luxury ซึ่งบริษัทก็ได้เริ่มต้นโครงการที่อยู่อาศัยอย่างเต็มตัวด้วยโครงการพาร์ค 24 ที่มีมูลค่าโครงการสูงสุดในประเทศไทยกว่า 16,500  ล้านบาท  และอยู่ใจกลางย่าน ดิ เอ็ม ดิสทริค ซึ่งทางกลุ่ม The Mall ก็เป็นพันธมิตรกับทางบริษัทฯ และก็มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาให้เกิด Mixed-Use Project ที่จะเป็นย่านใหม่ในอนาคตกลางทำเลสุขุมวิท

เราจึงได้ลงทุนและทำการพัฒนาโครงการพารค์ 24  ในเฟส 1 ที่ปัจจุบันมียอดขายโครงการอยู่กว่า 4,600 ล้านบาท โดยขายไปแล้วกว่า 90% โดยยูนิตที่เหลืออยู่จะเก็บไว้ขายเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ปัจจุบันโครงการได้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ด้วยผู้รับเหมาชั้นนำระดับโลกคือ บริษัท Bouygues Thai จำกัด เราคาดว่าโครงการในเฟส 1 จะทำการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีจากนี้   บริษัทมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ก็จะมีความสำเร็จไม่แพ้โครงการเฟสแรก และบริษัทก็จะมีแผนมุ่งพัฒนาโครงการในลักษณะ Mixed-Use Project ต่อไปในอนาคต”

 

ธงชัย บุศราพันธ์ Park 24

 

ธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับในด้านที่อยู่อาศัย ภาวะตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ของไทยในช่วงปีนี้ ยังมีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการในทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยม เนื่องจากมูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนเริ่มก่อสร้างจนถึงโครงการสร้างเสร็จ และแนวโน้มในอนาคตก็จะหาซื้อได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เหลือน้อยลงไปทุกวัน

 

พาร์ค 24 เองยังคงเป็นโครงการที่นักลงทุน และผู้บริโภคให้ความสนใจสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยสุดยอดทำเลที่ตั้งบริเวณ ‘ดิ เอ็ม ดิสทริค’ อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ย่านสุขุมวิท ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งองค์ประกอบของความโดดเด่นมีความชัดเจนยิ่งขึ้นจากการรวมตัวของศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส ดิ เอ็มโพเรียม โฉมใหม่ และดิ เอ็มควอ-เทียร์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเร็ว ๆ นี้ ตลอดจน ดิ เอ็มสเฟียร์ ที่จะตามมาในอนาคต การเปิดตัวพาร์ค 24  เฟส 2 จึงโอกาสที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งในการจับจองเป็นเจ้าของ เพราะพาร์ค 24 ไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิตที่ครบครัน สมบูรณ์แบบ ที่ผสานธรรมชาติจากสวนใหญ่ 10  ไร่ และอยู่ใจกลางย่านที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ”

 

“โครงการพาร์ค 24 เฟส 2 ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยจำนวน 3 อาคาร ความสูง 51 ชั้น,  44 ชั้น และ 29 ชั้น ตามลำดับ รวมทั้งหมด 1,174 ยูนิต โดยเป็นส่วนที่ก่อสร้างเพิ่มเติมจากเฟสแรกซึ่งมีอาคารทั้งสิ้น 3 อาคาร รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 16,500 ล้านบาท สำหรับเฟส 2 ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 175,000 บาท หรือ สำหรับยูนิตเริ่มต้น 1 ห้องนอน ตกแต่งครบพร้อมอยู่ ประมาณ 4.9 ล้านบาท”

 

“สำหรับการเปิดตัวพาร์ค 24 เฟส 2 เราจัดสรรงบประมาณกว่า 80 ล้านบาทในกิจกรรมการตลาดครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ และสื่อดิจิตอล ออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น M เดอะ ควอเทียร์ แกลลอรี่ ตั้งแต่วันที่ 7 – 17 พฤษภาคม อาทิ เวิร์คช็อป, งานแสดงภาพถ่าย, แฟชั่นโชว์ และมินิ คอนเสิร์ต” ธงชัย บุศราพันธ์ กล่าวสรุป

Park24 สุขุมวิท 24

 

โครงการพาร์ค 24 เฟส 2 เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในการจองซื้อ ตั้งแต่ 6 – 16 พฤษภาคม 2558 ที่ บริเวณ เดอะ ควอเทียร์ แกลเลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ เพื่อให้ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนไว้จองซื้อในงานเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พฤษภาคม 2558 ที่ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์  พิเศษสุด!  สำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อโครงการภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2558   โครงการได้มีการจัดส่วนลด 5% จากราคาเปิดตัวโครงการ, การชิงรางวัลมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทจาก Campaign เปิดตัวดิ เอ็มควอเทียร์ ร่วมกับทาง The Mall และรับบัตรสมนาคุณจากสวนน้ำวานา นาวา        หัวหิน แบบ Unlimited Access จำนวน 4 ใบ เป็นระยะเวลา 1 ปีอีกด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และข่าวสารข้อมูลอื่นๆ ของโครงการได้ทาง www.park24.co.th

Atoll Maldives Beach บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บนถนนหนามแดง จากอนันดา [รีวิว]

$
0
0

วันนี้จะพาไปดูโครงการ Atoll Maldives Beach ศรีนครินทร์-วงแหวน เป็นอีกหนึ่งโครงการแนวราบของอนันดาค่ะ มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ตามสไตล์ Modern Living Resort  เรียกว่าก็เป็นความพยายามในการหาจุดขายและคอนเซ็ปต่างๆมาใส่ในโครงการกันค่ะ ซึ่งจริงๆต้องบอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ยูนิตค่อนข้างเยอะ  เปิดขายมาเรื่อยๆเลยมีบ้านหลายแบบหลายสไตล์ปนๆกันอยู่ทั้งแบบอารมณ์รีสอร์ทหน่อยๆ  กับแบบบ้านที่ค่อนข้างจะดูโมเดิร์นตามสมัยนิยม  ลองดูรายละเอียดกันในรีวิวค่ะ

มาดูรายละเอียดข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันค่ะ

รีวิว Atoll Maldives Beach

Atoll Maldives Beach

ศรีนครินทร์-วงแหวน (เอโทล มัลดีฟ บีช)

  • เจ้าของโครงการ>>>บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) (Ananda)
  • ที่ตั้งโครงการ>>>  ถนนหนามแดง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • ขนาดที่ดิน>>>  ประมาณ 130 ไร่
  • ประเภท>>>บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2ชั้น
  • จำนวนหลัง>>>  ประมาณ 800 หลัง
  • พื้นที่ใช้สอย>>>
    • บ้านแฝด Atoll D-1 105  3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ / 105 ตารางเมตร
    • บ้านแฝด Atoll DH-120 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ / 120 ตารางเมตร
    • บ้านแฝด Atoll NIKA-MALE 120 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ / 120 ตารางเมตร
    • บ้านแฝด Atoll VILU-FARU 142 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ / 142 ตารางเมตร
    • บ้านเดี่ยว Atoll SH-140 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ / 140 ตารางเมตร
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว>>>  บ้านแฝด DH-120 3.46 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว SH-140 2.89 ล้านบาท (ณ วันที่ 3/4/2015)
  • พิกัด GPS >>> 13.614005, 100.680538

  อ่านรีวิว Atoll Maldives Beach เพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

Atoll Maldives Beach ดีมั๊ย ดีไหม

Atoll Maldives Beach

 

บ้านแฝด DH-120 พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร

บ้านแฝด DH-120 พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร

บ้านแฝด VILU-FARU 142 พื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร

บ้านแฝด VILU-FARU 142 พื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร

บ้านเดี่ยว SH-140 พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร

บ้านเดี่ยว SH-140 พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร

 

Atoll Maldives Beach

  อ่านรีวิว Atoll Maldives Beach เพิ่มเติม คลิกที่นี่

 

 

KLASS แถลงข่าวคอนโดใหม่ เปิด 2 คอนโด Low Rise ทำเล สยามและสารสิน-ราชดำริ มูลค่า 2,000 ล้านบาท [News]

$
0
0

เมื่อวานนี้ [11 พ.ค. 58] KLASS ได้เปิดตัว Low Rise สุดหรูใจกลางเมือง 2 โครงการ  บนทำเลทองย่าน CBD สยาม และ สารสิน-ราชดำริ ได้แก่ Klass Siam และ Klass Sarasin-Rajdamri มูลค่ารวมสองโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท คงจุดขายทำเลเด่น ใกล้รถไฟฟ้าใจกลางเมือง ตั้งเป้าปิดยอดขายภายในเดือนเดียว เตรียมเปิด Pre-sale ในวันที่ 24 พ.ค. นี้

 

งานแถลงข่าวเปิดตัว Klass Siam และ Klass Sarasin Rajdamri

นายธานินทร์ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาส แอสเซส จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ คลาส สยาม และบริษัท คลาส เรียลลิตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคลาส สารสิน-ราชดำริ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จอย่างล้นหลามในการเปิดตัวคอนโด KLASS บนทำเลหลังสวน เมื่อปี 2556 ทำให้บริษัทศึกษาตลาดคอนโด Low Rise อย่างจริงจัง จนเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าตลาดระดับบนที่ต้องการที่อยู่อาศัยลักษณะคอนโด Low Rise ใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งค่อนข้างหายากในปัจจุบันเพราะพื้นที่กลางเมืองส่วนใหญ่เป็น High Rise ดังนั้น  KLASS จึงเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าดังกล่าวอย่างจริงจัง  โดยกลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นลูกค้าระดับ Luxury นักธุรกิจ ที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการที่อยู่อาศัยสะดวกสบายกลางใจเมือง  เราจึงตัดสินใจเลือกทำเลสยาม และสารสิน-ราชดำริ เพื่อทำคอนโด Low Rise 2 โครงการ มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท

Klass Siam - (ภาพที่  4)

คลาส สยาม

ด้าน นายธเนศ อรุณวณิชย์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาส แอสเซส จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ คลาส สยาม และบริษัท คลาส เรียลลิตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคลาส สารสิน-ราชดำริ กล่าวถึงรายละเอียดโครงการว่า KLASS สยาม เป็นคอนโด Modern Luxury 8 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 2 ถ.พระราม 1 มูลค่าโครงการเกือบ 800 ล้านบาท มีห้องเพียง 79 ยูนิต ประกอบด้วยแบบ 1 ห้องนอน 44-50 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน 57-84 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 150,000 บาทต่อตารางเมตร) ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมยื่น EIA และคาดว่าดำเนินการก่อสร้างภายในไตรมาสแรกปี 2559

Klass Sarasin - Rajdamri - (ภาพที่ 1)

Klass Sarasin – Rajdamri

ส่วนอีกโครงการนึงคือ KLASS สารสิน-ราชดำริ ตั้งอยู่บนถ.สารสิน ลุมพินี มูลค่าโครงการเกือบ 1,200 ล้านบาท มีห้องเพียง 68 ยูนิต และมีที่จอดรถ 100% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)  พื้นที่ใช้สอย 45 – 135 ตารางเมตร มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องอน, 3 ห้องนอน และห้อง Duplex ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 180,000 บาทต่อตารางเมตร)  แบรนด์ KLASS มีจุดขายเฉพาะเจาะจง และมีความโดดเด่นของทำเลที่ตั้งทุกโครงการ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สามารถปิดการขายได้รวดเร็ว โดยทั้งสองโครงการได้แต่งตั้งให้ CBRE เป็นผู้แทนการขายเช่นเดิม

โดยโครงการทั้ง KLASS Siam และ KLASS Sarasin-Rajdamri จะเปิดให้ลงทะเบียนจองก่อนที่งาน CBRE Elite 2015 ระหว่าง 22-23 พ.ค.นี้ ที่ห้าง Siam Paragon  และเปิดให้จองจริงวันที่ 24 พ.ค. ที่โรงแรม Siam Kempinski

Protected: The Prodigy เพชรเกษม 62 คอนโด high rise บนถนนเพชรเกษม ใกล้ MRT บางแค [รีวิว]

$
0
0

This content is password protected. To view it please enter your password below:

เปิดตัว “SALADAENG ONE” คอนโด Super Luxuary ย่านศาลาแดงซอย 1 เปิดขายอย่างเป็นทางการ 23 พ.ค.นี้ [News]

$
0
0

เอสซี แอสเสท เปิดตัวคอนโดมิเนียม Super Luxury  “โครงการ SALADAENG ONE”  ภายใต้ Concept : The One That Matters  โดยเอสซีฯ ประสบความสำเร็จจากยอดขายไตรมาส 1/2558 ที่เติบโตมากกว่า 132% (YoY) พร้อมกับการเปิดตัวคฤหาสน์หรูกรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม”  มูลค่าโครงการ 2,150 ล้านบาท ไปแล้วเมื่อปลาย มี.ค.58 ในไตรมาส 2 เปิดโครงการคอนโดฯ ใหม่ระดับ Super Luxuryโครงการ SALADAENG ONE  ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า  1 ไร่ 3 งาน  มูลค่าโครงการ 4,700 ล้านบาท  เป็นอาคารสูง 33 ชั้น จำนวน 185 ยูนิต  ขนาด 1-3 ห้องนอน พร้อมห้อง Duplex และห้องแบบ Penthouse กับอีก 2 Pool Villa   ขนาดห้องมีพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 50 – 420 ตารางเมตร  ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท พร้อมเปิดขาย 23-24 พ.ค.นี้ ในงาน The Premier of SALADAENG ONE

 

Saladaeng One (ภาพที่ 1)

Saladaeng One (ภาพที่ 1)

แผนที่คอนโด Saladaeng One (ศาลาแดง วัน)

 

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  เปิดเผยว่า SC ได้พัฒนาโครงการ SALADAENG ONE  ให้เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury หนึ่งในโครงการ Limited Collection จากเอสซี แอสเสท  ที่พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์  The One That Matters ที่สื่อถึงการได้ครอบครองหนึ่งสิ่งในชีวิตที่สำคัญ

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์

 

ความโดดเด่นอันดับแรก คือ ทำเลที่ตั้งของโครงการ  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณศาลาแดงซอย 1 เพียง 80 เมตรจากถนนพระราม 4  ใจกลาง CBD แหล่งธุรกิจและศูนย์การค้าชั้นนำ อีกทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี 400 เมตร และ MRT สีลม 600 เมตร รวมถึงใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง  นอกจากนี้ยังเข้า-ออกได้ทั้งถนนพระราม 4 สาทรและสีลม  ที่สำคัญโครงการยังตั้งอยู่ใกล้สวนลุมพินีเพียง 120 เมตร  จึงนับเป็นทำเลศักยภาพที่มีคุณค่าเหมาะแก่การอยู่อาศัยหรือลงทุน

Saladaeng One (ภาพที่ 1)

Saladaeng One (ภาพที่ 1)

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 21)

โมเดล Saladaeng One

 

ความโดดเด่นเรื่องงานสถาปัตยกรรมภายนอกและภายในอาคารซึ่งเป็นความความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ออกแบบอย่างปราณีตเรียบหรู ไร้กาลเวลา ในสไตล์โมเดิร์น  ที่ใช้เส้นแนวนอนเป็นหลักในงานออกแบบภายนอกอาคาร พร้อมกับการเลือกใช้วัสดุชั้นดีลายหินอ่อนสีขาวเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง facade ตึก นอกจากนี้โครงการเลือกใช้หน้าบานกระจกขนาดใหญ่พิเศษมาติดตั้งในองศาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดแสงสีสะท้อนที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา

จุดเด่นของห้องพัก  คือ  การออกแบบพื้นที่ให้เป็นห้องขนาดหน้ากว้างพิเศษ เพื่อเปิดรับวิวแบบ Panorama ของสวนลุมพินี โดยห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร  จะมีหน้ากว้าง  8.10 เมตร  โดยเป็นส่วนที่เปิดรับวิวในห้องนั่งเล่นกว้างถึง 4.5 เมตร สำหรับห้องขนาด  2 ห้องนอน จะมีหน้ากว้างถึง 16 เมตร  นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันประกอบด้วย ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำพร้อม Sauna & Steam, Business Lounge และ Sky Terrace

 

ศาลาแดง วัน (ภาพที่ 1)

ศาลาแดง วัน (ภาพที่ 2)

ศาลาแดง วัน (ภาพที่ 3)

ศาลาแดง วัน (ภาพที่ 4)

 

 โครงการ SALADAENG ONE  สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.saladaeng-one.com  โทร.1749

ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา มีการจัด Privilege Preview  ให้กับลูกค้า VIP ทำให้มียอด pre-sale แล้ว 900 ล้านบาท  จึงคาดว่ายอดขายโครงการ SALADAENG ONE ภายในปีนี้สูงกว่า 50%  สำหหรับแผนในครึ่งปีหลังจะเปิดคอนโดมิเนียมใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่า 4,160 ล้านบาท เป็นโครงการระดับ Super Luxury แบรนด์ใหม่ที่สุขุมวิท 32 กับคอนโดมิเนียมโครงการแชมเบอร์ส  พร้อมกับโครงการแนวราบอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 3,990 ล้านบาท  จึงมั่นใจว่าจะมียอดขายตามเป้าหมาย 13,900  ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%  ขณะที่ ณ 31 มี.ค. 58 SC มีโครงการต่อเนื่องที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด จำนวน 34 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 27,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 25 โครงการ และโครงการแนวสูง 9 โครงการ

—————————————————————————————————

อยู่สบายแวะไปเก็บภาพห้องตัวอย่างและเอาแปลนพร้อมข้อมูลเพิ่มเติมมาฝากกันนิดหน่อยครับ  ส่วนใครอยากดูรายละเอียดของทำเล  อยู่สบายเคยทำพรีวิวเอาไว้เมื่อเดือนก่อน  ลองไปอ่านดูได้ครับ >> Location Preview Saladaeng One

โครงการ Saladaeng One นี้ด้วยความที่เป็น Super Luxury ก็จะให้พื้นที่ห้องมาค่อนข้างใหญ่ครับ  แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 50 ตารางเมตร เลยทีเดียว

จำนวนยูนิต Saladaeng One

จำนวนยูนิต Saladaeng One

กลุ่มเป้าหมายของคอนโดนั้นจะเน้นที่กลุ่มอายุ 32 ปีขึ้นไป  เน้นทั้งสัดส่วนคนไทยและชาวต่างชาติ

กลุ่มเป้าหมายของคอนโด

กลุ่มเป้าหมายของคอนโด

แปลนแบบ 1 ห้องนอนครับ สัดส่วนนั้นจะเห็นว่าเป็นแปลนที่หน้ากว้างมากกว่าคอนโด 1 ห้องนอนทั่วไปในท้องตลาด

Saladaeng One แบบ 1 ห้องนอน

Saladaeng One แบบ 1 ห้องนอน

ส่วนนี่เป็นแบบ 2 ห้องนอนครับ

Saladaeng One แบบ 2 ห้องนอน

Saladaeng One แบบ 2 ห้องนอน

Floor Plan ของคอนโด Saladaeng One

Floor Plan Saladaeng One

Floor Plan Saladaeng One

Lobby เน้นสีขาว – ดำ

Lobby Saladaeng One

Lobby Saladaeng One

สระว่ายน้ำที่ชั้น 30-31 เป็นแบบ Infinity edge pool

Swimming PoolSaladaeng One

Swimming Pool Saladaeng One

 

ห้องตัวอย่างคอนโด Salagaeng One แบบ 1 ห้องนอน

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 17)

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 15)Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 15)

 

ห้องตัวอย่างคอนโด Salagaeng One แบบ 2 ห้องนอน

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 16)

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 18)

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 19)

 

 

สุดท้ายก็ขอปิดท้ายบทความด้วยรูปนี้นะครับ  ^^

Saladaeng One (ศาลาแดง วัน) - (ภาพที่ 14)

 

อ่านเพิ่มเติม >>  Preview Location Saladaeng One 

Life Asoke (Life อโศก) พาดูทำเลคอนโดใหม่ใกล้ MRT เพชรบุรี และ Airport Link มักกะสัน จาก AP [Preview]

$
0
0

สวัสดีครับ  พรีวิวคอนโดใหม่ฉบับนี้เราพาไปส่องทำเลของ Life Asoke (Life อโศก) คอนโดอีกโครงการนึงของ AP ที่มีกำหนดจะเปิดตัวในเดือนหน้า (มิ.ย. 58)  ตอนนี้เท่าที่ผมรู้มาก็มีข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับตำแหน่งที่ดินกับโฆษณาที่บอกว่า “1 ก้าว จากรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี”  ส่วนข้อมูลอื่นๆนั้น AP ยังไม่ได้เปิดเผยออกมามากนัก (เรียกว่ายังกั๊กอยู่นั่นเอง)  พรีวิวนี้เราเลยไปเก็บข้อมูลทำเลมาให้ดูกันก่อนว่าที่ตั้งของคอนโด Life Asoke ตัวใหม่นี้จะเป็นอย่างไรบ้างครับ

 

Life Asoke (ไลฟ์ อโศก)

  • เจ้าของโครงการ >>>  AP (Thai Land) / เอพี ไทยแลนด์
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนอโศก-ดินแดง  ติดกับทางเชื่อมระหว่าง MRT เพชรบุรี และ Airport Rail Link มักกะสัน
  • ขนาดที่ดิน >>>  n/A ไร่
  • จำนวนชั้น >>> n/A
  • จำนวนอาคาร >>>  n/A อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  n/A
  • ขนาดห้อง >>> n/A
  • จำนวนยูนิต >>>  1,634 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> n/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ n/A บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.750732, 100.563853

 

อันนี้เป็นที่ตั้งของโครงการครับ

Life อโศก แผนที่

 

ส่วนนี่เป็นหน้าตาของคอนโดแค่รูปเดียวเท่าที่มีอยู่  เพราะถ่ายมาตั้งแต่ตอนที่ AP แถลงผลประกอบการปีก่อนและแถลงข่าวโครงการทั้งหมดในปีนี้ครับ  ด้านหน้าก็มาโมเดิร์นเรียบๆแนวๆญี่ปุ่น  ก็คงตามคอนเซ็ปที่ร่วมทุน Joint Venture ต่อกับทาง Mitsubishi Estate จากญี่ปุ่น

คอนโด Life Asoke

 

เรามาเริ่มดูกันจากแผนที่ตำแหน่งของคอนโด Life อโศก ในภาพรวมสำหรับคนที่ยังไม่ทราบตำแหน่งแน่นอนครับ  ตัวคอนโดนั้นจะอยู่ระหว่างโซนพื้นที่อโศกซึ่งเป็นแหล่งใจกลางเมืองกับโซนที่คาดว่าจะขยายออกมาเป็น New CBD ใหม่อย่าง รัชดา-พระราม9  พื้นที่ตรงนี้เลยเหมือนเป็นรอยต่อของโซนที่ที่ดินราคาสูงมากๆ กับโซนที่ที่ดินราคาสูง (ไม่มีราคาต่ำนะเดี๋ยวนี้้้) โดยตัวที่ดินนั้นจะอยู่หัวมุมระหว่างถนนอโศก-ดินแดงกับถนนเพชรอุทัย  และอยู่ใกล้กับแนวจุดขึ้นลงทางด่วนด่านพระราม 9 ด้วย  ช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่า AP ค่อนข้างจะยึดหัวหาดพื้นที่ช่วงนี้เอาไว้เยอะทีเดียว  เพราะในช่วงตั้งแต่แยกอโศก-เพชรบุรีไปจนถึงแยกรัชดา-พระราม9 นี่เป็นคอนโดของ AP ตัวที่ 5 แล้ว  4 โครงการก่อนหน้านี้ก็มี The Address Asoke, Aspire Rama9, Rhythm Asoke และ Rhythm Asoke II เรียกว่ามาจับตลาดทำกันทุก Segment เลยทีเดียว

Life Asoke แผนที่

 

เราจะเข้ามาโฟกัสกันที่ตัวที่ดินใกล้ๆต่อเพื่อดูรายละเอียดครับ ตัวที่ดินของโครงการนั้นจะอยู่หลังโรงพยาบาลผิวหนังอโศก (หมายเลข 1) ซึ่งที่ดินนี้แต่ก่อนนี้เป็นชุมชนแอดอัด(ชุมชนริมทางรถไฟโค้งอโศก) ที่ถูกเคลียร์ออกจากพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้วและกำลังปรับรื้อถอนพื้นที่อยู่  ด้านข้างทางทิศเหนือนั้นจะเป็นทาวน์เฮ้าส์เก่าซึ่งจริงๆมี 2 ล็อก  โดยล็อกที่ติดริมถนนใหญ่ (หมายเลข 3) นั้นเป็นที่ของการรถไฟ พอสัญญาเช่าหมดก็ถูกรื้อถอนออกไปแล้วเช่นกัน  ส่วนหมายเลข 2 นั้นยังคงเป็นทาวน์เฮ้าส์อยู่  ซึ่งทางเข้าออกปัจจุบันจะต้องผ่านทางที่ดินของการรถไฟ (หมาขเลข 3) เข้าไป  ถ้าดูแนวถนนหน้าทาวน์เฮ้าส์เหล่านี้ที่มีอยู่แล้วจะเห็นว่ามันไปสุดตรงด้านหลังที่ดินของ Life Asoke พอดี  ตรงนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเคลียร์ให้เป็นทางเข้าออกไปตรงแนวทางลงทางด่วนพระราม 9 เลยได้หรือไม่ (เอาเข้าจริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าตอนไปดูที่ดินก็ยังงงๆอยู่หล่ะครับว่าจะให้เข้าโครงการกันตรงถนนเส้นไหนกันแน่  เพราะกำลังปรับพื้นที่กันอยู่  ไม่มีป้ายอะไรติดไว้ชัดเจนด้วย คงต้องรอข้อมูลชัดเจนกันอีกทีนึง)

ถ้ามองไปด้านหลังของที่ดินโครงการก็จะติดกับที่ดินของฝ่ายจัดสรรที่ดิน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (หมายเลข 4) ซึ่งที่ดินของการทางพิเศษนี่ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะแปรเปลี่ยนไปสร้างตึกสูงหรือคอนโดในอนาคต  เพราะฉะนั้นที่ดินฝั่งทิศตะวันออกก็น่าจะเป็นวิวโล่งๆไปอีกนานไม่มีอะไรขึ้นมาบังหล่ะครับ  ส่วนถ้ามองไปทางด้านทิศตะวันตกฝั่งตรงข้ามถนนอโศก-ดินแดง ก็จะเป็นแปลงที่ดินมักกะสัน (หมายเลข 9) ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดที่กำลังรอการพัฒนาและเป็นประเด็นก็อยู่ตอนนี้ว่าจะลงทุนทำเป็นอะไร  ทั้งไอเดียของสวนสาธารณะหรือจะเป็นมักกะสัน คอมเพล็กซ์  หรือว่าจะเป็นการผสมกันทั้งสองแบบด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม  เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ  แต่ที่แน่ๆคือวิวด้านนี้ไม่ว่าจะพัฒนาเป็นอะไรก็จะไม่มีตึกมาบังวิวในระยะใกล้ชิดแน่นอน  ต้องถือว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ในแนวแกนของที่ดินมักกะสันซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นวิวด้านนี้น่าจะชัดเจนที่สุดเมื่อเทียบกับคอนโดเพื่อนบ้านอื่นๆในย่านนี้หล่ะครับ

แผนที่ Life Asoke

แปลงที่ดิน Life Asoke

 

พูดถึงข้อดีในเรื่องวิวแล้วก็อาจจะต้องมาดูข้อเสียเรื่องนึงของตัวที่ดินด้วยครับ  คือที่ดินแปลงนี้จะอยู่ติดกับแนวของรางรถไฟฟ้า Airport Rail Link มักกะสัน และติดกับแนวรางรถไฟไทยฉึกฉักๆ  ตรงข้ามจะเป็นสถานีหยุดรถด้วย (หมายเลข 5) เพราะฉะนั้นก็อาจจะมีปัจจัยเรื่องเสียงดังเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  ซึ่งมุมไหนที่เสียงมามากหรือน้อยก็คงต้องรอดูลักษณะการวางตัวคอนโดว่าจะออกมาในรูปแบบใด  ด้านไหนจะเจอเสียงเยอะและด้านไหนจะหลบเสียงได้บ้าง

กลุ่มคอนโดในโซนนี้ส่วนใหญ่ก็จะไปกระจุกกันอยู่ตรงแยกอโศก  ที่เห็นในแผนที่ก็มี 3 โครงการ คือ The Address Asoke (หมายเลข 6) ซึ่งปิดโครงการไปนานพอควรแล้วและเป็นของทาง AP เอง มี Q Asoke (หมายเลข 7) ของ Q House ซึ่งสร้างไปจนเห็นตัวคอนโดเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และก็มี Villa Asoke (หมายเลข 8) แต่ถ้าเอามาดูราคา ณ ปัจจุบันจริงๆก็ต้องบอกว่ามีแต่แบรนด์ใน segment บนๆตรงสี่แยก  เพราะฉะนั้นพอขยับออกมาอีกนิดจากตรงแยกแล้ววางแบรนด์ Life ได้  ก็น่าจะดูสมเหตุสมผลกันดีอยู่ครับ

ส่วนอีกประเด็นนึงที่ต้องตั้งคำถามคือ  การที่ AP โฆษณาว่า “1 ก้าว จากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรี” นี่มันคือ 1 ก้าวจากตรงไหน  เพราะเอาจริงๆแล้ว ณ ตอนนี้ถ้าลองดูแนวทางเชื่อมระหว่าง MRT เพชรบุรี กับ ARL มักกะสัน (แนวเส้นกราฟิกสีส้มในรูปแผนที่) จะเห็นว่ามันมีจุดขึ้นลงแค่ 2 จุดเท่านั้น (วงกลมสีส้ม)  ซึ่งถ้านับจากจุดขึ้นลงแล้วมันไม่ใช่ 1 ก้าวแน่ๆ  คือจะไปกระโดดลงตรงหัวมุมของทางเชื่อมที่ติดกับตัวที่ดินของ Life Asoke ก็คงไม่ได้หล่ะนะครับ -“-:   และถ้าลองไปเดินจากจุดที่เป็นทางขึ้นจาก MRT ในปัจจุบัน  ถ้าต้องข้ามถนนกำแพงเพชร 7 และข้ามทางรถไฟมากอีกมันจะลำบากในการเดินทางมามากเลย  คือถ้าให้เดาจากคำโฆษณาแปลว่า AP ควรจะมีทางเชื่อมเข้าโครงการได้จากตรงแนวทางเชื่อมที่มาตรงหน้าที่ดินโครงการนะครับ  เพราะอ้างอิงจากงานเก่าๆของ AP ที่เคยใช้คำว่า “1 ก้าวถึงสถานี” ก็จะมีคอนโด Aspire สาทร-ท่าพระ เมื่อปีที่แล้ว  ที่พอออกมาตรงหน้าโครงการแล้วจะเจอบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS เลย  อันนี้รอดูต่อไปครับ … หวังว่า Life Asoke จะไม่ต้องเดินข้ามทางรถไฟนะคร้าบบบบ …

 

เอาหล่ะ … เล่าไปคร่าวๆแล้ว  พาเดินไปดูรอบๆกันดีกว่า  วันนี้มารถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีเพชรบุรีแล้วออกประตู 1 ครับ

รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เพชรบุรี

 

ขึ้นมาเสร็จก็เดินเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายสถานีมักกะสัน

ทางเชื่อม MRT เพชรบุรี ARL มักกะสัน (ภาพที่ 1)

 

จากนั้นขึ้นบันไดเลื่อนไป  ตู้สีดำข้างๆเป็นร้านแลกเงินของ Super Rich ที่เพิ่งเปิด

ทางเชื่อม MRT เพชรบุรี ARL มักกะสัน (ภาพที่ 2)

 

ตรงนี้เราก็จะเข้าเขตของการรถไฟแล้ว

ทางเข้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ มักกะสัน

 

ทางเชื่อมจะข้ามถนนกำแพงเพชร 7 มาครับ  ทางซ้ายมือของรูปก็คือที่ดิน Life อโศก ซึ่งตอนนี้ยังดูรกๆ เลอะๆอยู่ เนื่องจากเดิมเป็นชุมชนแออัด  ตอนนี้ก็รื้อถอนออกไปได้เยอะพอควรแล้ว  เดี๋ยวจะพาไปเดินดูรอบๆกันครับ

ถนนกำแพงเพชร 7

 

เดินมาจนสุดทาง  ด้านล่างขวามือจะเป็นที่ดินของ Life อโศก นั่นเอง

ทางเดินเชื่อมแอร์พอร์ตลิ้งค์

 

ที่ดินจะอยู่ด้านข้างและด้านหลังของโรงพยาบาลผิวหนังอโศกตรงนี้ที่เห็นก่อสร้างอยู่นั่นแหละครับ  โครงเหล็กข้างล่างน่าจะเป็นในส่วนของสำนักงานขาย

โรงพยาบาลผิวหนังอโศก (ภาพที่ 2)

 

ถ้าเดินเลยไปอีกหน่อยก็จะไปเชื่อมเข้า Airport Rail Link มักกะสันได้เลย สะดวกดีมาก

ทางเชื่อม Airport Link

ทำเลโดยรอบ

ที่ดิน Life Asoke - ภาพที่ 19

ถ่ายรูปช่วงนี้ก็ยังดูรกๆหน่อยนะครับ  มองไปจากตรงนี้จะเห็นแนวถนนกำแพงเพชร 7 ที่ขนานกับทางรถไฟและแนวของแอร์พอร์ตลิ้งค์ที่อยู่ด้านข้างที่ดินคอนโด

วินมอเตอร์ไซด์ มักกะสัน

ด้านหน้ามีพี่วินมอเตอร์ไซต์อยู่

Life Asoke - ภาพที่ 6

ลงไปดูตรงพี่วินฯกัน  เดินเข้าไปดูกัน จะเห็นที่ดินของ Life Asoke อยู่ทางซ้ายมือ

คอนโดถนนเพชรบุรี (ภาพที่ 2)

จากด้านข้างของที่ดินตรงถนนกำแพงเพชร 7  มองไปจะเป็นจุดรอขึ้นรถไฟมักกะสัน  ตึก 3 ตึกที่มองไปจากตรงนี้เรียงกันจากซ้ายไปขวาจะมีตึก Thai Summit , คอนโด My Resort Bangkok และคอนโด Supalai Premire Asoke ซึ่งสร้างเสร็จไปหมดแล้วครับ

สถานีรถไฟมักกะสัน

ถ่ายพาโนราม่าตรงนี้ให้ดู  นอกจาก 3 ตึกทางซ้ายแล้ว  ทางขวามือก็จะเป็นคอนโดอีก 3 โครงการที่อยู่ตรงแยกอโศก-เพชรบุรี คือ Q Asoke, Villa Asoke และ The Address Asoke ของทาง AP เอง

มองจากฝั่ง Airport Rail Link มักกะสัน

ต่อไปจะพาข้ามฝั่งไปดูจากทางแอร์พอร์ตลิ้งค์กันบ้างครับ

มุมนี้อยู่บนสะพานแล้วมองไปทางแยกอโศก-เพชรบุรี  รถติดกันเป็นปกติ

Life Asoke - ภาพที่ 4

 

มองกลับไปอีกทางฝั่งพระราม 9 ครับ

ถนนอโศก-ดินแดง

Life Asoke - ภาพที่ 2

มองข้ามถนนกลับไป  จะเห็นว่าบริเวณที่พอจะเป็นทางเข้าคอนโดได้จากถนนอโศก-ดินแดง ก็มี 2 จุด คือตรงข้างโรงพยาบาลผิวหนัง กับตรงแนวของใต้ทางเชื่อมแอร์พอร์ตลิ้งค์ครับ

Life Asoke - ภาพที่ 3

แต่ขอเดาว่าจะเป็นช่องตรงนี้มากกว่า  ถ้าจะเคลมว่าใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินซะขนาดนั้น

Asoke Skin Hospital

โรงพยาบาลผิวหนังอโศกครับ

Airport Rail Link มักกะสัน

แอร์พอร์ตลิ้งค์ มักกะสัน

คอนโด The Address Asoke

จากตรงนี้จะเห็น The Address Asoke อยู่ติดๆกับ Airport Link มักกะสันด้วย

ทางเข้า Airport Link

พอลองเดินข้างล่างดู  จริงๆแล้วด้านล่างดูเปลี่ยวเหมือนกันนะครับ  เดินข้ามทางเชื่อมมาจากด้านบนนั้นดูปลอดภัยกว่ามากทีเดียว  อันนี้พูดจากประสบการณ์ที่เคยเดินด้านล่างช่วงกลางคืน  แนะนำให้เดินข้างบนอย่างเดียวครับ

มองจากถนนอโศก-ดินแดง และเดินไปตรงทางด่วนพระราม 9

ทีนี้พาเดินจากโครงการไปจนถึงแนวทางด่วนพระราม 9 นะครับ  จะลองไปมองดูจากอีกฝั่งนึงด้วย

Life Asoke - ภาพที่ 9

จากมุมนี้จะเห็นด้านข้างของโรงพยาบาลผิวหนังอโศก  ถัดไปก็จะเป็นที่ดินของ Life Asoke ครับ  ทางฝั่งซ้ายสุดจะเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ด้านทิศเหนือของโครงการ

ที่ดินการรถไฟ มักกะสัน

ที่ดินที่เห็นอยู่นี่เป็นที่ของการรถไฟที่บอกว่าเพิ่งรื้อถอนตึกแถวและทาวน์เฮ้าส์ที่หมดสัญญาเช่าออกไปนั่นเอง

ทาวน์โฮม พระราม 9

ตรงนีี้เป็นทาวน์เฮ้าส์ที่บอกว่าอยู่ทางทิศเหนือของโครงการครับ  ตอนแรกคิดว่าจะเป็นถนนทะลุได้  แต่พอมาดูแล้วจะมีฟุตบาทกั้นอยู่

ทาวน์เฮ้าส์ พระราม 9

ถ้าเดินเข้าไปดูจะเห็นกำแพงสีขาวด้านในสุด  ตรงนั้นคือที่ดินของ Life Asoke ครับ  คือถ้าทำทางออกทะลุมาตรงนี้ได้จะดีมาก  เพราะว่าถ้าขับรถลงทางด่วนพระราม 9 มาแล้วจะได้ไม่ต้องเลี้ยวขวาเข้าถนนอโศก-ดินแดง ให้ไปรถติดเล่นตรงก่อนถึงโครงการ  ไม่รู้ว่าจะเจรจาทำทางเข้าออกได้หรือเปล่า

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

เดินมาเรื่อยๆจะเป็นพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยครับ

จุดลงทางด่วนพระราม 9 (ภาพที่ 2)

ทางด่วนพระราม 9 ที่วิ่งมาจากมอเตอร์เวย์ก็จะมาลงตรงนี้ได้ครับ

จุดลงทางด่วนพระราม 9

รูปนี้ถ่ายจากจุดที่เลี้ยวเข้าถนนอโศก-ดินแดง ตรงนี้จะมาเจอกับรถที่มาจากแยกรัชดา-พระราม 9

มองจากแยกอโศก-เพชรบุรี และดูบริเวณถนนอโศก (สุขุมวิท 21)

จากนั้นเราไปเดินดูทางฝั่งแยกอโศก-เพชรบุรี กันบ้างครับ

ที่จอดรถ MRT เพชรบุรี

มาเริ่มกันจากทางออก MRT เพชรบุรี ประตู 1 ตรงนี้จะมีที่จอดรถประจำของโรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งจองไว้ประจำอยู่ครับ

Life Asoke - ภาพที่ 5

มีรถกะป้อคันเล็กๆที่วิ่งไปตามถนนเพชรบุรี  ไปส่งถึงคลองตันนู้นเลย

สี่แยกอโศก-เพชรบุรี (2)

ตรงแยกอโศกเพชรฯ  ฝั่งใกล้กับประตูทางออก 1

สี่แยกอโศก-เพชรบุรี

ส่วนรูปนี้เราข้ามไปฝั่งตรงกันข้าม  มองจากแถวหัวมุมหน้าคอนโด Q Asoke มา  มุมนี้อีกหน่อยก็จะเห็น Life Asoke ตั้งอยู่ตรงกลางรูป

สี่แยกอโศก คลองแสนแสบ

เดินมาเรื่อยๆ  จากตรงนี้อยู่บนสะพานข้ามคลองแสนแสบ  ทางขวามือเราจะเป็นที่ดินแปลงใหญ่ที่จะขึ้นโครงการ Singha Complex 

Singha Complex

มองไปที่ดินของ Singha Complex ชัดๆ  ตรงนี้เป็น Big Project อีกโครงการนึงที่น่าจับตาในย่านนี้พอๆกับโครงการบนที่ดินมักกะสัน แต่ว่าแพลนแน่นอนกว่าเยอะครับ  ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างอะไรแต่ตามข่าวล่าสุดที่ออกมาก็คาดว่าน่าจะเสร็จประมาณปี 2560

สะพานข้ามคลองแสนแสบ

มองเข้าไปทางอโศกก็จะเป็นโซนออฟฟิศหนาแน่นอย่างที่ทราบๆกันครับ  คอนโดบนถนนอโศกที่เปิดมาก็ยังพอมี  แต่จะเป็นในราคาที่สูงขึ้นไปอีกระดับ  อยู่คนละ Segment กับ Life Asoke

มศว.ประสานมิตร

ตรงนี้เป็นทางเข้าของมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร (มศว.) ครับ

พาเดินดูทำเลรอบๆกันไปพอสมควรแล้ว  ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะทยอยเอามาอัพเดตให้นะครับ  ^^

The Saint Residences คอนโดติดถนนวิภาวดี บนที่ดินเซนต์จอห์น ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ  รีวิวนี้อยู่สบายจะพาไปดูคอนโดโครงการ The Saint Residences (เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส) ที่ตั้งอยู่บนที่ดินเดิมของโรงเรียนเซนต์จอห์น  ใกล้ๆกับห้าแยกลาดพร้าวกัน  โครงการ The Saint Residences นี้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว  แต่ยังไม่มีห้องตัวอย่างและสำนักงานขายมาให้ชมกัน  เรียกว่าขายโปรเจคกันบนกระดาษนั่นแหละ  ตอนนี้โครงการมีสำนักงานขายและก็ห้องตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว  ทางเรามีโอกาสแวะไปถ่ายภาพเก็บข้อมูลรีวิวฉบับเต็มมาฝากกัน  เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกคนในการตัดสินใจครับ

 

The Saint Residences (เดอะ เซนต์ เรซิเดนเซส)

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ซาแลน ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด  (Salan Development)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนวิภาวดีรังสิต ติดมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
  • ขนาดที่ดิน >>>  7-0-51.4 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 41 ชั้น  (ที่จอดรถชั้น 1-6)
  • จำนวนอาคาร >>>  3 อาคาร Tower A, B, C
  • ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน / 3 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 30-43 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 55-70 ตารางเมตร
    • 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 84-134 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  1,537  ยูนิต  และ Commercial shops 4 ร้าน
  • ที่จอดรถ >>>  46% รวมจอดซ้อนคัน
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.87 ล้านบาท  (ห้อง 30.38 ตารางเมตร ณ วันที่ 1/5/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>
    • Tower B ราคาเฉลี่ยประมาณ 14x,xxx บาท/ตารางเมตร
    • Tower C ราคาเฉลี่ยประมาณ 16x,xxx บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.811338, 100.559914
  • เบอร์ติดต่อ  >>> 081-554-7575, 081-554-3030

  อ่านรีวิว The Saint Residences คลิกที่นี่

The Saint Residences ดีไหม ดีมั๊ย

 

The Saint Residences เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส - (ภาพที่ 7)

The Saint Residences เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส - (ภาพที่ 8)

The Saint Residences เดอะ เซนต์ เรสิเดนเซส - (ภาพที่ 6)

ข้อมูลโครงการ The Saint Residences

  อ่านรีวิว The Saint Residences คลิกที่นี่

 


The Prodigy เพชรเกษม 62 คอนโด high rise บนถนนเพชรเกษม ใกล้ MRT บางแค [รีวิว]

$
0
0

รีวิวนี้พามาชมคอนโดใหม่ล่าสุดบนถนนเพชรเกษมที่ชื่อ The Prodigy เพชรเกษม 62 โครงการนี้ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูในตลาดคอนโดนัก  เพราะว่าเป็นแบรนด์ใหม่ของผู้ประกอบการรายใหม่ในตลาดคอนโดบ้านเรา  เนื่องจากผู้ลงทุนนั้นมาจากประเทศจีน  คอนโด The Prodigy นั้นเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนมีนาที่ผ่านมา  ทางอยู่สบายเองก็เคยลงพรีวิวข้อมูลไว้คร่าวๆแล้วรอบนึง  ซึ่งชื่อโครงการก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่บนถนนเพชรเกษม ตรงซอยเพชรเกษม 62  ที่ดินนั้นอยู่ในแนวเส้นรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง ห่างจากสถานี MRT บางแคประมาณ 350 เมตร

อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Prodigy Phetkasem 62

(เดอะโพรดิจี้ เพชรเกษม62) 

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท จี ดี ที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (GDT Property)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนเพชรเกษม ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางแค
  • ขนาดที่ดิน >>>  6-2-16.6 ไร่
  • จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
  • จำนวนชั้น >>> อาคาร A 31  และอาคาร B 33 ชั้น
  • ประเภทห้อง >>> สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • สตูดิโอ 23 ตารางเมตร
    • 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร
    • 1 ห้องนอน พลัส (1 Bedroom Plus) 33.5 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 50.5 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน ห้องมุม 50 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  1,273  ยูนิต และ ร้านค้า 5 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> ประมาณ 50% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.69 บาท (ห้อง 23 ตารางเมตร ณ วันที่ 2/5/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  78,000 – 80,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.712511, 100.426390

  อ่านรีวิว The Prodigy คลิกที่นี่

The Prodigy เพชรเกษม 62 ดีมั๊ย ดีไหม

The Prodigy เพชรเกษม 62

The Prodigy เพชรเกษม 62

The Prodigy เพชรเกษม 62 - ภาพที่ 015

The Prodigy เพชรเกษม 62 - ภาพที่ 025

The Prodigy เพชรเกษม 62

The Prodigy เพชรเกษม 62

 

 The Prodigy

 

  อ่านรีวิว The Prodigy คลิกที่นี่

Rhythm รางน้ำ (Rhythm Rangnam) พรีวิวทำเลคอนโดใหม่ ซอยรางน้ำ ติดห้างเซนจูรี่ [พรีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ  พรีวิวคอนโดใหม่ฉบับนี้เราพาดูทำเลและที่ดินของโครงการ Rhythm รางน้ำ คอนโดอีกโครงการนึงของ AP  และเป็นแบรนด์ Rhythm ตัวเดียวที่ AP จะเปิดในปีนี้  คอนโด Rhythm Rangnam นี้เป็นคอนโด high rise โครงการเดียวในซอยรางน้ำ ใกล้กับ King Power Complex ค่ะ  ระยะห่างจาก BTS อนุสาวรีย์ประมาณ 120 เมตร  โครงการมี 392 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท ตามที่ AP แถลงข่าวไปต้นปีค่ะ ส่วนข้อมูลอื่นๆนั้น ทาง AP เองยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาเลย พรีวิวนี้เราเลยไปเก็บข้อมูลทำเลที่ตั้งของคอนโด Rhythm รางน้ำ มาให้ดูกันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Rhythm Rangnam (ริทึ่ม รางน้ำ)

  • เจ้าของโครงการ >>> AP(Thailand) / เอพี(ไทยแลนด์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรางน้ำ ตรงข้ามห้าง Century ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • ขนาดที่ดิน >>>  n/A ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัยสูงประมาณ 28 ชั้น
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  n/A
  • ขนาดห้อง >>> n/A
  • จำนวนยูนิต >>>  392  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> n/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> n/A
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> n/A
  • พิกัด GPS >>> 13.761016, 100.537163

อย่างที่บอกไปว่าข้อมูลของโครงการยังไม่ได้มีออกมามากนักค่ะ  ตามแผนกำหนดการที่แถลงไปเมื่อต้นปีก็น่าจะเปิดตัวกันราวๆเดือนหน้า (มิถุนายน 2558)  รายละเอียดที่รู้กันตอนนี้ก็เลยมีแต่ตำแหน่งและข้อมูลที่ดินคร่าวๆเท่านั้น  บทความนี้เลยเป็นพรีีวิวพาไปชมทำเลกันก่อนค่ะ  โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ร่วมมือกันระหว่าง AP(Thailand) กับ Misubishi Estate จากญี่ปุ่น  ซึ่งทดลองทำ Joint Venture ร่วมกันมาตั้งแต่ปีก่อน  เรื่องดีไซน์นั้นถ้าจะให้เดาก็คงจะเป็นการดึงคอนเซ็ปของงานญี่ปุ่นมาใช้เป็น Design Gimmick เหมือนเดิม  (ถ้าจะให้ดีเอาแบบ Naoto Fukasawa ที่มาทำห้องตัวอย่างให้ Rhythm Sathorn the Slow Collection ก็ดีนะคะ)

… เอาจริงๆก็ยังไม่มีดีไซน์ให้ดู  ไปดูทำเลที่ตั้งโครงการกันดีกว่าค่ะ

ที่ตั้งโครงการ

ดูแผนที่ในภาพรวมกันก่อนค่ะ โครงการตั้งอยู่ภายในซอยรางน้ำ ซึ่งจะเป็นซอยเชื่อมระหว่างถนนพญาไทกับถนนราชปรารภ  ส่วนซอยย่อยต่างๆภายในซอยรางน้ำจะสามารถทะลุเชื่อมกันถนนราชวิถีหรือถนนศรีอยุธยาได้  พื้นที่ในซอยรางน้ำนี้แทบจะไม่มีคอนโดอยู่เลย  ปกติเวลาเราได้ยินชื่อคอนโดแล้วห้อยด้วยทำเลยแนว BTS สาย N ก็จะมีคำห้อยจำพวก อารีย์, พญาไท, ราชเทวี ที่ใช้กันบ่อยๆ  พอมาห้อยด้วยคำว่า “รางน้ำ” เลยอาจจะไม่คุ้นหูนัก (ก็แน่หล่ะ ทั้งซอยเพิ่งจะมีขึ้นเป็นคอนโดแรก)

แต่สำหรับทำเลของ Rhythm รางน้ำ นี้ก็ต้องจัดว่าดีและน่าสนใจค่ะ  เนื่องจากระยะทางเดินจาก BTS อนุสาวรีย์ นั้นอยู่ที่ประมาณ 120 เมตร และสามารถเดินเข้าห้าง Century ที่มีทางเชื่อมต่อจากตัวสถานี BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เลย  พอเดินลงบันไดเลื่อนไปออกประตูด้านข้าง  ก็จะเจอคอนโด Rhythm รางน้ำอยู่ตรงหน้าพอดี

จากแผนที่ในภาพรวมถ้าจะไปขึ้นทางด่วนก็อยู่ตรงถนนพหลโยธิน  เลยอนุสาวรีย์ไปนิดหน่อยค่ะ มีทั้งขาเข้าและขาออกเมือง ค่อนข้างสะดวก  ถ้าจะเข้าเมืองก็ง่ายค่ะ อยากจะไปเดินพารากอน หรือ CTW จะนั่ง BTS ไปหรือจะขับรถไปก็ไม่ไกลค่ะ ห่าง Airport Link พญาไท 1 สถานี  ออกถนนพญาไท หรือ ถนนราชปรารถ ได้สบายแต่อาจจะรถติดหน่อย ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองก็อย่างที่บอกไปว่ามีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ หรือจะออกถนนวิภาวดีรังสิตก็ออกเส้นราชปรารถเข้าถนนดินแดง ไปวิภาวดีรังสิตค่ะ

ตัวโครงการนั้นจะอยู่ค่อนไปทางถนนพญาไทมากกว่า  ใช้บริการคุณกูเกิ้ลวัดระยะทางจากหน้าโครงการไปออกถนนพญาไทมีระยะทางประมาณ 50 เมตร เรียกได้ว่า ถ้าเลี้ยวจากพญาไทมาก็ถึงโครงการเลย ส่วนถ้าจะไปถึง BTS อนุสาวรีย์นั้นก็สามารถเดินได้สบายค่ะ ระยะทางประมาณ 120 เมตรค่ะ

Rhythmรางน้ำ--Surrounding_1

ดูภาพกว้างๆแล้วก็มาดูพื้นที่รอบๆโครงการค่ะ ที่ตั้งโครงการเดิมส่วนที่ติดถนนนั้นเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น ส่วนด้านข้างโครงการเป็นตึกแถวและอาคารสูง 2-5 ชั้น (หมายเลข 1) ส่วนอีกด้านจะติดกับซอยเลิศปัญญา ที่เป็นทางวันเวย์แคบๆจากถนนศรีอยุธยาเข้ามาซอยรางน้ำ ติดกับซอยเลิศปัญญาเป็นโรงแรมกรุงไทย (หมายเลข 2) เป็นโรงแรมเก่าสูงประมาณ 4 ชั้น ดีไซน์เลี่ยงวิวด้านนี้ได้ก็จะดีนะคะ  ส่วนด้านหลังโครงการนั้นติดกับอาคารสำนักงาน (หมายเลข 3) สูงประมาณ 5 ชั้น เช่นกัน เยื้องๆกันก็ติกกับคอนโด M พญาไท (หมายเลข 4) ของทาง Major Development สูง 35 ชั้น อยู่ติดถนนพญาไทค่ะ  คอนโด M พญาไท นี้สร้างเสร็จไปแล้ว  ถ้าในแง่ของตำแหน่งที่ดินวัดจาก Exposure กันจริงๆของ M พญาไท อาจจะเด่นกว่าในเรื่องของการติดถนนใหญ่  ส่วนของ Rhythm รางน้ำ นี่เด่นกว่าในเรื่องของการเข้าถึงเพราะมีระยะทางเดินจาก BTS ที่ใกล้กว่า  และยังสามารถเดินทะลุใน Century ไปได้จนถึงหน้าโครงการเลยด้วย   ถัดจาก M พญาไทไปในเส้นถนนพญาไทก็มี อาคารพญาไท, Phyathai Building (หมายเลข5) สูง 10 ชั้น นอกจากนี้ภายในซอยเลิศปัญญายังมี service Apartment ชื่อ The Victory สูง 15 ชั้น (หมายเลข 6) และติดกับก็มีอาคารเลิศปัญญา สูง 18 ชั้นอีกหนึ่งอาคารค่ะ

ภายในซอยรางน้ำนั้นพระเอกของซอยก็มี King Power Complex รางน้ำ (หมายเลข 7)  ซึ่งมีโรงแรม Pullman (หมายเลข 8) ที่อยู่ด้านหลัง ตรงหัวมุมติดถนนพญาไทตรงข้ามกับโครงการเป็นห้างเซ็นจูรี่ (หมายเลข9)  มีทั้งร้านอาหารและโรงหนังค่ะ   นอกจากนี้ก็ยังมีสวนสันติภาพ (หมายเลข 10) สวนค่อนข้างใหญ่ค่ะ ยาวไปจนถึงถนนราชวิถี ในซอยยังมีโรงเรียนศรีอยุธยา (หมายเลข 11) และ โรงเรียนดุสิตพาณิชยการ (หมายเลข 12) แต่จะอยู่ในซอยค่อนไปทางฝั่งถนนราชวิถีมากกว่า ส่วนริมสองข้างทางตลอดซอยรางน้ำ ก็จะเป็นตึกแถว มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ หาของกินได้ง่าย  ร้านอาหารอีสานแซ่บๆเพียบ

Rhythm รางน้ำ--Surroundingzoom

 

ออกมาที่เส้นถนนพญาไท ตรงข้ามซอยรางน้ำจะเป็นซอยโยธีค่ะ ออกไปถนนพระราม6ได้ หัวมุมจะมีปั้มน้ำมันปตท. (หมายเลข13) ถัดไปหน่อยเป็น กรมการแพทย์ทหารบก (หมายเลข14) ส่วนติดกับซอยโยธีอีกฝั่งที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็น วิทยาลัยพยาบาล บรมราชชนนี (หมายเลข 15) และ โรงพยาบาลราชวิถี (หมายเลข 16) ผ่าน BTS อนุสาวรีย์ ก็จะเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (หมายเลข 17)ค่ะ ตรงเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรหลักภายในกรุงเทพเลย ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ รถตู้ ทำให้บริเวณนี้คนจะค่อนข้างพลุกพล่านมากๆ หาของกินของใช้ได้ง่าย อุดมสมบูรณ์ เรียกว่าไม่อดอยาก  แต่เอาเข้าจริงๆถ้าดูจากไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า Rhythm แล้วเวลาช็อปปิ้งอาจจะเลือกไปเดิน Siam Paragon หรือไม่ก็ไป CTW มากกว่า  โดยนั่งรถไฟฟ้าไปอีก 3-4 สถานี

ในภาพรวมนั้นจะเห็นได้ว่า คอนโดในบริเวณนี้มีน้อยมาก เพราะแถวนี้หาที่ดินแปลงใหญ่ๆได้ยากค่ะ  จะหาได้ก็ต้องไปกวาดซื้อที่ดินแปลงเล็กๆหลายแปลงมารวมกัน  เพราะโซนอนุสาวรีย์เป็นชุมชนซึ่งอยู่เต็มพื้นที่มานานแล้ว ส่วนที่เป็นแปลงใหญ่ๆฝั่งตรงข้ามอย่างที่บอกไปก็มีที่เป็นส่วนของส่วนราชการทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลราชวิถี (หมายเลข 16), กรมการแพทย์ทหารบก, โรงเรียนแพทย์หทารบก ซึ่งก็ไม่มีโอกาสเอามาพัฒนาเป็นคอนโดแน่ๆ

เล่าคร่าวๆพร้อมแผนที่รวมๆไปแล้ว  พาไปเดินดูรอบๆโครงการกันดีกว่า  วันนี้มารถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  ออกประตูทางออกที่ 2 ค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 001

 

ตรงทางออกจะมีให้เลือก 2 ทาง คือ ลงบันไดหน้าห้าง หรือเดินเข้าห้างเซ็นจูรี่ค่ะ ออกได้เหมือนกัน เราเลยเลือกเดินเข้าห้าง … เพราะ …จะได้ไม่ร้อน  555

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 002

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 003

เอาบรรยากาศภายในห้างมาให้ดูกันเล็กน้อย

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 004

ในห้างก็มีร้านค้าให้เลือกมากมาย รวมถึงร้านอาหาร รวมถึงโรงหนังด้วย  แต่ห้าง Century นี้ก็จะจับตลาดกลุ่มชาวบ้านๆหน่อย  อยากไฮกว่านี้ก็นั่ง BTS ไปอีกหน่อยค่ะ

ลงบันไดเลื่อนมาชั้น 1 แล้วเดินมาด้านข้างๆ จะเจอทางออกห้างทางด้านซอยรางน้ำอยู่ค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 005

 

เดินออกมาตรงซอยรางน้ำแล้วก็เจอโครงการเลยค่ะ  มีทางม้าลายให้เสร็จ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 006

 

ข้ามถนนมาจากเซ็นจูรี่ก็เจอโครงการ  ตอนนี้ก็มีการกั้นรั้วแล้ว และกำลังรื้อถอนตึกแถวเก่าที่ขายที่ดินให้ออกไป  ตึกสูงด้านหลังที่เห็นเป็น M พญาไท  รั่วส่วนนึงติดกับเลยค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 007

ถนนในซอยรางน้ำค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 030

 

King Power รางน้ำ ด้านหลังเป็นโรงแรม Pullman

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 029

วนกลับมาดูบริเวณรอบๆโครงการกันบ้าง ด้านข้างโครงการจะติดกับซอยเลิศปัญญาค่ะ เป็นถนนวันเวย์ เข้ามาจากถนนศรีอยุธยาตรงอาคารสิริภิญโญ ออกซอยรางน้ำค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 027

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 024

ที่ตั้งโครงการเดิมทีเป็นตึกแถว 2 ชั้นค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 037

ฟุตบาทด้านหน้าโครงการ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 021

ถ่ายจากด้านในที่ดินโครงการค่ะ มองไปเห็นห้างเซ็นจูรี่

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 023

ด้านหลังติดกับอาคารสูง 5 ชั้น

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 022

ด้านหลังเยื้องๆกันเป็น M พญาไทค่ะ สูง 35 ชั้น  มีรั้วบางส่วนร่วมกัน

ออกมาดูพื้นที่ข้างเคียงกันรอบๆที่ดินของโครงการกันค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 036

ด้านข้างโครงการเลยซอยเลิศปัญญา เป็นโรงแรมกรุงไทย ซึ่งเป็นโรงแรมเก่า

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 031

ภายในซอยเลิศปัญญา  ทางซ้ายเป็นกำแพงโรงแรมกรุงไทย ถนนในซอยเป็นวันเวย์

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 032

ในซอยเลิศปัญญาเช่นกัน เลยที่ดินไปหน่อย มี FamilyMart

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 033

The Victory Executive Residences

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 034

ภายในซอยเลิศปัญญาอีกรูปค่ะ มองออกมาเห็นห้างเซ็นจูรี่

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 035

ตึกด้านหลังโครงการ สูง 5 ชั้น

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 038

ด้านข้างของโครงการอีกฝั่งนึง (คนละด้านกับซอยเลิศปัญญา) จะเป็นอู่ที่จอดของรถตู้

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 041

ฟุตบาทติดโครงการตรงอู่รถตู้

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 039

ฟุตบาทด้านที่จะออกไปถนนพญาไทค่ะ มีร้านอาหารในตึกแถวค่อนข้างเยอะ  ไม่อดแน่นอน

เดินออกมาดูรอบๆ ตรงถนนพญาไทกันค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 008

หัวมุมหน้าซอยรางน้ำ ฝั่งเดียวกับโครงการเป็นร้านสเต็ก ถัดไปเป็นร้านหมูกะทะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 010

ฝั่งตรงข้ามเป็นกรมการแพทย์ทหารบก

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 009

M พญาไท ด้านหน้าตรงถนนพญาไทค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 013

เลย M พญาไทไปหน่อย มีตึกสูง 18 ชั้น คนทั่วไปคงคิดว่าเป็นคอนโด แต่จริงๆแล้วตอนแรกทำเป็นโรงพยาบาลราชเวช แต่ยังไม่เคยเปิดให้บริการ มาฟองสบู่แตกตอนปี 40 ซะก่อน เลยร้างไปนาน ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาใช้งานอย่างจริงจัง  มีคนมาเช่าใช้พื้นที่แค่นิดหน่อย

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 011

ติดกับ M Phyathai เป็นอาคาร Phyathai Building

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 012

อาคารพญาไทสูง 10 ชั้นค่ะ

จากสะพานลอยหน้าห้างเซ็นจูรี่ค่ะ มองไปเห็นที่ตั้งโครงการที่ต้นไม้บังอยู่

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 025

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 017

ขึ้นมาดูบนสะพานลอยที่ข้ามไปอีกฝั่ง จะเห็นปั้มน้ำมันปตท. ที่อยู่ติกับซอยโยธี ที่สามารถทะลุไปออกถนนพระราม 6 ตรงแถวๆองค์การเภสัชกรรมได้

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 016

ตรงข้ามปั้มเป็นวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 014

ถนนพญาไทฝั่งจะไปราชเทวีค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 015

ถนนพญาไทฝั่งไปอนุสาวรีย์ค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 040

ห้างเซ็นจูรี่ค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 042

ด้านข้างห้องเซ็นจูรี่ มีขายเต้นท์อาหาร

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 026

ร้านส้มตำ ติดกับเซ็นจูรี่

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 043

ด้านหน้าเซ็นจูรี่ ฝั่งติดถนนพญาไทค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 019

วินรถตู้ออกต่างจังหวัดข้างเซ็นจูรี่  วินนี้ไปสายใต้ ลงไปทางหัวหิน เพชรบุรี ประจวบฯ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 020

เลยไปหน่อยมีอีกวิน ซึ่งไปทางภาคกลาง ขึ้นไปทางราชบุรี สระบุรี บริเวณนี้วินรถตู้เยอะค่ะ มีทั้งไปรอบๆกรุงเทพและออกต่างจังหวัด

BTS อนุสาวรีย์ค่ะ เดินทาจากโครงการประมาณ 120 เมตร  ตรงทางลงก็มีวินมอเตอร์ไซด์อยู่

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 018

 

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรหลักในกรุงเทพฯ มีทั้งรถเมล์ รถตู้ รถไฟฟ้า ทำให้บริเวณนี้คนค่อนข้างพลุกพล่านมากๆค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 045

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 044

Victory Mall ค่ะ มีทั้งของกินของใช้ค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 046

Victory Mall จาก Sky walk

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 047

ตึกใหม่ของโรงพยาบาลราชวิถีค่ะ

rhythm รางน้ำ - ภาพที่ 048

จบด้วย Sky walk ของ BTS อนุสาวรีย์ ค่ะ

วันนี้พาเดินดูทำเลรอบๆกันไปพอสมควรแล้ว  อีกไม่นานก่อนเปิดตัวน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ product ในแง่ต่างๆมากกว่านี้  เท่าที่ได้ยินมาคร่าวๆแต่ไม่คอนเฟิร์มก็คือเรื่องแปลนห้องแบบใหม่  กับเรื่อง facilities ซึ่งก็ต้องรอดูกันแน่นอนต่อไปครับ  ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะเอามาอัพเดตเพิ่มเติมให้นะคะ ^__^

Ananda และ Mitsui Fudosan ประกาศเดินหน้าลุยเปิด 5 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท [News]

$
0
0

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น [19 พฤษภาคม 2558] : บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความแข็งแกร่งหลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กับพันธมิตรทางธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น  กลุ่ม มิตซุย ฟูโดซัง (Mitsui Fudasan) ด้วยความสำเร็จและความสัมพันธ์อันดีสู่การบรรลุข้อตกลงเมื่อปี 55 สู่การร่วมทุนครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 58 ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ 5 โครงการรวด มูลค่ากว่า 19,000  ลบ. เล็งทำเลศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้า พร้อมทะยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป 

แถลงข่าวความร่วมมือ Ananda MF Asia

แถลงข่าวความร่วมมือ Ananda และ Mitsui Fudasan

คอนโดมิเนียมที่พัฒนาภายใต้ Ananda MF Asia

คอนโดมิเนียมที่พัฒนาภายใต้ความร่วมมือของ Ananda และ Mitsui Fudasan

 

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา  ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในประเทศไทยกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) ในปี 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท  อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia)  นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี จำนวนยูนิตกว่า 4,100 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า Gen C และนักลงทุน และในปี 2558 บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมทุนครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องอีกครั้งด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ จำนวนยูนิตรวมกว่า 4,200 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 19,000 ล้านบาท  นอกจากนี้ยังนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ ของญี่ปุ่นมาใช้เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่มาตรฐานในระดับสากลต่อไป

ยอดขายคอนโดไตรมาสที่ 1 ปี 2558

ยอดขายคอนโดไตรมาสที่ 1 ปี 2558

Generation C

ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่ม Generation C (Gen C)

 

สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้  กลุ่มมิตซุยยังคงมองเห็นศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น การเมืองสงบ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมทั้งการเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาล หนุนให้ความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น บวกกับศักยภาพของอนันดาฯที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ติดรถไฟฟ้า จึงทำให้เกิดข้อตกลงในสัญญาร่วมทุนครั้งใหญ่อีกครั้งโดย อนันดาฯ จะถือครองหุ้นในสัดส่วน 49% กลุ่มมิตซุย 49% และนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นสัดส่วน 2% ซึ่งอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมกันระหว่าง มิตซุย ฟูโดซังฯ และ อนันดาฯ ฝ่ายละ 3 ท่าน มาร่วมกันตัดสินใจและอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ

Ananda Development Projects โครงการที่ผ่านมาของอนันดา

โครงการที่ผ่านมาของอนันดาฯ

 

สำหรับแผนการดำเนินงานภายใต้การร่วมทุนครั้งใหม่นี้ยังคงดำเนินงานภายใต้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย (Ananda MF Asia)  โดยมีแผนการดำเนินงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันอีก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ Q ชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Hi-rise สูง 40 ชั้น ใกล้สถานีบีทีเอสชิดลม 650 เมตร จำนวน 359 ยูนิต โดยจะเปิด Pre-sales ในไตรมาสที่ 2-ต้นไตรมาสที่ 3  ของปีนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดอีก 4 โครงการ  4 ทำเล ย่านสีลม บางนา บางซื่อ ในไตรมาส 4 และโครงการย่านท่าพระ ในไตรมาส 1 ปีหน้า

แผนการเปิดโครงการปี 2558 Ananda Development

แผนการเปิดโครงการปี 2558 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของ Ananda Development

 

“การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งใหม่นี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ อนันดาฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง  Mitsui Fodosan มาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทางธุรกิจ  ซึ่งมิตซุย ฟูโดซัง เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งจากการร่วมทุนที่ผ่านมาทำให้การขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัทมีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้และการบริหารจัดการโครงการของมิตซุยฯ ที่มีการสั่งสมประสบการณ์มากกว่า 340 ปี ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ที่ได้นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าของอนันดาฯ ด้วยจุดแข็งดังกล่าวของมิตซุย ฟูโดซัง  ผมมั่นใจว่าจะช่วยส่งเสริมให้อนันดาฯ ก้าวสู่มาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับสากลมากยิ่งขึ้นตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน” นายชานนท์กล่าว

 

แผนผังรถไฟฟ้าในอนาคต

แผนผังรถไฟฟ้าในอนาคต

จำนวนสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต

จำนวนสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต

 

มร.อะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ (Executive Managing Officer) บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง  จำกัด กล่าวว่า จากความร่วมมือตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั้งปัจจุบัน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอนันดาฯ  ที่มีความเชี่ยวชาญและศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นทั้งคุณภาพและการออกแบบที่บริษัทได้สะสมประสบการณ์ผ่านกระบวนการความคิดสร้างสรรค์และพัฒนามาเป็นอย่างดี จนก่อให้เกิดโครงการที่พักอาศัยที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและมีเอกลักษณ์ ทำให้ อนันดาฯ กลายเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคด้วยดีเสมอมาถึงการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย การบริหารจัดการด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการก่อสร้างที่ได้มาตรฐานมีความแข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุด คือ กลยุทธ์ในการเลือกทำเลที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีระบบขนส่งมวลชนรองรับ อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพฯ ที่สามารถตอบโจทย์สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพ สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในการเดินทางหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้เป็นอย่างดี ในราคาสมเหตุผลสามารถเป็นเจ้าของได้

ด้วยหลักสำคัญในการบริหารงานของกลุ่มมิตซุย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมองหาโอกาสสำหรับการตอบรับกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและมีความแข็งแกร่งอย่าง อนันดาฯ ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่สอดคล้องกับแนวคิดในการมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับลูกค้าเพื่อสร้างศูนย์กลางการเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันและอนาคต ยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มมิตซุยฯ ไปสู่ภูมิภาคข้างเคียง โดยความร่วมมือของทั้งสองบริษัทจะช่วยขยายฐานด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีการก่อสร้าง การนำวัสดุที่ทันสมัย และการนำเทคโนโลยีในการพัฒนาพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาใช้ในโครงการพัฒนาร่วมกันต่อไป

 

คอนโดมิเนียมที่พัฒนาภายใต้ Ananda MF Asia (ภาพที่ 2)

คอนโดมิเนียมที่พัฒนาภายใต้ Ananda MF Asia

 

“ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และด้วยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมีแผนขยายการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ในกรุงเทพจาก  67 สถานีที่มีอยู่เป็น 222 สถานีในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรอบสถานีใหม่เกิดขึ้น และด้วยแนวโน้มของการพัฒนาเมืองที่ขยายตัวออกไปส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มมิตซุยมองเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวนี้  จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในประเทศไทยกับทางอนันดาฯ  อีกต่อไปในอนาคต”  มร. ฟูนาโอกะ กล่าว

 

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ติดถนนสุขสวัสดิ์ ย่านพระประแดง จาก AP [รีวิว]

$
0
0

รีวิวนี้ผมพาไปดูทาวน์โฮมโซนสุขสวัสดิ์กันครับ  ผมพาไปที่โครงการ “บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์” ของทาง AP โครงการนี้เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น  มีบ้าน 3 สไตล์รวมอยู่ในโครงการเดียวกัน  ตั้งแต่บ้านที่หน้าตาดูร่วมสมัย contemporary หน้าตาแบบโมเดริ์นกลางๆ  รวมไปถึงบ้านที่หน้าตาโมเดิร์นจัดๆ  ขนาดโครงการเป็นไซส์กลางๆมีทั้งหมด 328 ยูนิตรีิวิว บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ ทาวน์โฮม 3 ชั้น ติดถนนสุขสวัสดิ์ จาก AP

ไปดูรายละเอียดกันได้ในรีวิวเลยครับ

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ 

(Baan Klang Muang – Suksawas)

  • เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand) , เอพี (ไทยแลนด์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนสุขสวัสดิ์ ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 37/7
  • ขนาดที่ดิน >>>  31-2-76.4 ไร่
  • ประเภท >>> ทาวน์โฮม 3 ชั้น
  • จำนวนหลัง >>>   328  ยูนิต
  • พื้นที่ใช้สอย >>>
    • แบบ Urbanist 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ  ที่ดินเริ่มต้น 18.10 ตารางวา
    • แบบ Urbanion (Star Suite) 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 162 ตารางเมตร  หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20 ตารางวา
    • แบบ Urbanion (Moon Suite) 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 166 ตารางเมตร  หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20 ตารางวา
    • แบบ Iconic (3.5 ชั้น)  3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 193 ตารางเมตร  หน้ากว้าง 5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตารางวา
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 4.69 ล้านบาท (แบบ Urbanist เนื้อที่ดิน 18.10 ตารางวา ณ วันที่ 12 พ.ค. 58)
  • พิกัด GPS >>> 13.657188, 100.519778

 

  อ่านรีวิว บ้านกลางเมือง คลิกที่นี่

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ ความคิดเห็น

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ - (ภาพที่ 9) บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ - (ภาพที่ 3)

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ พื้นที่ส่วนกลาง - (ภาพที่ 21)

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ - (ภาพที่ 2)

บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์

 

 

  อ่านรีวิว บ้านกลางเมือง คลิกที่นี่

Noble Gable วัชรพล บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น ย่านวัชรพล จาก Noble Development [พรีวิว]

$
0
0

วันนี้เราแวะไปเก็บข้อมูลบ้านเดี่ยวโซนวัชรพลมาฝากกันครับ  เราแวะที่ที่โครงการ Noble Gable วัชรพล ที่เพิ่งเปิดขายไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  หน้าตาของบ้านในโครงการนี้ดูจะแปลกตากว่ารูปแบบของบ้านจัดสรรในโครงการอื่นๆในท้องตลาดอยู่พอสมควร  ส่วนจะออกมาเป็นยังไง  วันนี้เราเก็บภาพพรีวิวคร่าวๆมาให้ดูกันก่อนครับ

 

ข้อมูลโครงการ

Noble Gable Watcharapol (โนเบิล เกเบิล วัชรพล)

  • เจ้าของโครงการ >>> Noble Development (บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน))
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนเพิ่มสิน  ระหว่างซอยเพิ่มสิน 21 กับ 23
  • ขนาดที่ดิน >>>  24-2-79 ไร่
  • ประเภท >>> บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว 2ชั้น
  • จำนวนหลัง >>>  n/A หลัง
  • พื้นที่ใช้สอย >>>
    • แบบ SEMI 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ / 157 ตารางเมตร
    • แบบ AETO 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ / 169 ตารางเมตร
    • แบบ PYRA 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ / 190 ตารางเมตร
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  6.9 ล้านบาท (ณ วันที่ 1/3/2015)
  • เว็บไซต์โครงการ >> Noble Gable
  • พิกัด GPS >>> 13.900014, 100.634805

 

แผนที่ Noble Gable วัชรพล

แผนที่ Noble Gable วัชรพล

 

ที่ตั้งโครงการ Noble Gable วัชรพล นั้นอยู่ตรงถนนเพิ่มสิน  ซึ่งเป็นจุดที่ต่อเชื่อมกับทางถนนวัชรพลอีกทีนึง  ถนนเพิ่มสินนี้เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน 54/1 กับถนนสุขาภิบาล 5  โดยมีถนนวัชรพลมาเชื่อมตรงช่วงกลางใกล้ๆกับที่ตั้งโครงการ  และก็ไปเชื่อมกับถนนสายไหมโดยใช้ซอยสายไหม 56 ได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ

ตัวโครงการนั้นอยู่ห่างจากจุดที่เชื่อมต่อถนนวัชรพลประมาณ 300 เมตร ถ้าวิ่งตรงตามถนนเพิ่มสินไปทางทิศตะวัันออกจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน  ส่วนถ้าไปทางตะวันตกก็ไปออกสุขาภิบาล 5 ได้ครับ  ถนนเพิ่มสินนี้เป็นถนน 4 เลนสวนกัน  พื้นที่โซนนี้ก็เป็นโซนที่อยู่อาศัยซะเป็นส่วนใหญ่  มีทั้งหมู่บ้านเก่าที่อยู่กันมานานแล้วและหมู่บ้านใหม่ๆที่ดีเวลลอปเปอร์มาทำโครงการกัน  ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการคือตรงกราฟฟิกสีแดงในรูป (หมายเลข 1) ด้านหลังของโครงการจะติดกับคลองออเกาะซึ่งจะไปเชื่อมกับคลองบางเขนได้

ความอุดมสมบูรณ์หลักๆของโซนนี้จะไปอยู่ตรงวัชรพลและตรงถนนพหลโยธินซะเป็นส่วนใหญ่ครับ ออกมาตรงถนนพหลโยธินจะมีตลาดยิ่งเจริญ (หมายเลข 4) จากโครงการห้างใกล้ที่สุดก็จะเป็นบิ๊กซีสะพานใหม่ (หมายเลข 2)  ซึ่งใกล้ๆกันมีโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล (หมายเลข 3) อยู่ด้วย  ตรงระหว่างบิ๊กซีกับโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลนี้มีถนนตัดใหม่ที่กำลังทำอยู่คือถนนรัตนโกสินทร์สมโภชน์-นิมิตรใหม่  ซึ่งตัวถนนนี้จะไปเชื่อมกับวัชรพลและมีแนวที่จะต่อออกไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกได้ด้วย  ส่วนจุดขึ้นลงทางด่วนใกล้ที่สุดก็อยู่ตรงถนนสุขาภิบาล 5 จะสามารถขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตรงเข้าเมืองได้ครับ

แผนที่ Noble Gable วัชรพล

 

 

แต่ก่อนจะไปดูแปลนกับบ้าน ขอเล่าเพิ่มถึงเรื่องของคำว่า “Gable” หน่อยแหละกันครับ  คำว่า “Gable” ก็คือรูปทรงหลังคา “จั่ว” นั่นเองครับ  ซึ่งบ้าน 2 ใน 3 แบบของโครงการนี้ก็ใช้หลังคาทรงจั่วเรียบง่ายนี้มาเป็นดีไซน์หลัก  เพราะงั้นเราเลยเห็นรูปทรงของบ้านที่ค่อนข้างจะแปลกตาไปกว่าบ้านจัดสรรโครงการอื่นๆไปมากทีเดียว

ที่มา photo via

ที่มา photo via

 

บ้านตัวอย่าง

แบบบ้านของ Noble Gable วัชรพล มีทั้งหมด 3 แบบครับ  เป็นบ้านแฝดแบบนึง  ส่วนอีก 2 แบบเป็นบ้านเดี่ยว  จริงๆแล้วฟังก์ชั่นในบ้านที่ได้มาทุกแบบนั้นจะเหมืือนๆกันคือ 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 2 ที่จอดรถ  แต่ลักษณะการวางแปลนจะแตกต่างกันไปเลย ลองไปดูกันครับ

 

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ SEMI  พื้นที่ใช้สอย 157 ตารางเมตร

บ้านแบบ SEMI นี้จะมีผนังบ้านด้านนึงติดกับบ้านข้างๆ  ซึ่งส่วนที่ติดกันก็จะเป็นฟังก์ชั่นพวกห้องเก็บของและห้องน้ำ  ส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนและส่วนรับประทานอาหารจะถูกแยกออกมาอีกด้านนึงซึ่งติดกับพื้นที่โล่งด้านข้างของบ้านครับ  ที่จอดรถนั้นจะมีส่วนของชั้น 2 กันแดดให้ครึ่งนึง และด้านข้างที่จอดรถที่ติดกับโถงบันไดก็จะเป็นพื้นที่สวนเล็กๆหน้าบ้าน

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะมีห้องนอนใหญ่ด้านหน้าบ้านมีห้องน้ำในตัว  และห้องนอนเล็กด้านหลัง 2 ห้อง ที่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Semi

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Semi

มาดูหน้าตาของบ้านกันครับ

Noble Gable (ภาพที่ 12)

Noble Gable (ภาพที่ 12)

Noble Gable (ภาพที่ 15)

Noble Gable (ภาพที่ 16)

 

เข้าไปดูภายในบ้านกันครับ  ในบ้านตัวอย่างนี้ตกแต่งมาจัดเต็มทีเดียว  แต่บ้านจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่านะครับ  วัสดุอุปกรณ์บางชิ้นอาจจะไม่เหมือนกับในบ้านตัวอย่าง  เดี๋ยวรายละเอียดจะเอาไว้เล่าให้อ่านกันอีกทีในรีวิวฉบับเต็ม  พรีวิวนี้ดูรูปบรรยากาศกันไปก่อนครับ

เริ่มจากสเปซห้องรับแขกและพักผ่อนที่อยู่ติดกับส่วนรับประทานอาหาร  จะมีกระจก 2 ด้านให้แสงธรรมชาติเข้ามา

Noble Gable (ภาพที่ 04)

Noble Gable (ภาพที่ 01)

 

อีกมุมนึง

Noble Gable (ภาพที่ 05)

 

มองย้อนกลับไปจะเป็นส่วนที่เป็น pantry ครัว

Noble Gable (ภาพที่ 03)

 

มุมนี้มองจาก Pantry ครัว

Noble Gable (ภาพที่ 06)

 

จากในโถงบันไดชั้น 2  ด้านข้างโถงบันไดมีแสงธรรมชาติจากหน้าบ้านเข้ามาทางหน้าต่าง  ทำให้ดูไม่มืด

Noble Gable (ภาพที่ 09)

 

สเปซในห้องนอนใหญ่ด้านหน้าบ้าน

Noble Gable (ภาพที่ 10)

 

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

Noble Gable (ภาพที่ 07)

 

อีกมุมนึงของห้องน้ำ

Noble Gable (ภาพที่ 11)

 

ในห้องนอนเล็กครับ

Noble Gable (ภาพที่ 08)

 

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ AETO

พื้นที่ใช้สอย 169 ตารางเมตร

แบบ Aeto นี้ตัวบ้านจะวางตัวยาวลึกเข้าไป  จุดที่น่าสนใจก็คือการเอาตำแหน่งของส่วนพักผ่อนและส่วนรับประทานอาหารไปไว้ด้านในและเอาครัวมาไว้ด้านหน้า  ทำให้สเปซในตัวบ้านนั้นค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว  คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทางหน้าบ้านจะมองไม่เห็น  พอขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 จะแบ่งห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวอยู่ทางด้านหน้าซึ่งต้องเดินผ่าน Walk-in closet เข้าไป  ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ห้องน้ำร่วมกันอยู่ทางด้านหลัง

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Aeto

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Aeto

 

แบบบ้าน Aeto คือหลังด้านขวามือในรูปนะครับ  ส่วนทางซ้ายเป็นแบบ Pyra

Noble Gable วัชรพล

 

อย่างที่บอกว่าสเปซส่วนที่เป็นห้องรับแขก พักผ่อน และรับประทานอาหารจะจะวางไว้ด้านในของบ้าน  มองออกไปด้านนอกเลยจะเห็นแต่มุมสวนด้านข้าง  ไม่เห็นถนนหน้าบ้านและคนเดินผ่านไปผ่านมา  ดูเป็นส่วนตัวดี

Noble Gable (ภาพที่ 25)

 

ในโถงบันไดครับ

โนเบิล เกเบิ้ล วัชรพล (ภาพที่ 04)

 

มองจากด้านหน้าห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง

โนเบิล เกเบิ้ล วัชรพล (ภาพที่ 03)

 

สเปซภายในห้องนอนเล็ก

โนเบิล เกเบิ้ล วัชรพล (ภาพที่ 02)

 

ห้องน้ำในห้องนอนเล็กที่ใช้ร่วมกัน

โนเบิล เกเบิ้ล วัชรพล (ภาพที่ 01)

 

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ PYRA

พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร

แบบ PYRA นี้เป็นแบบใหญ่ที่สุดของในโครงการนะครับ  ที่จอดรถทั้ง 2 คันจะมีพื้นที่จากชั้น 2 ยื่นออกมาคลุมให้หมดเกือบทั้งคัน  แบบนี้จะวางฟังก์ชั่นส่วนพักผ่อนไว้ด้านหน้า  (ต่างกับแบบ Aeto ที่เอาไว้ด้านหลัง)  แต่ว่าก็จะไม่สามารถเห็นได้จากภายนอกเหมือนกัน  เนื่องจากเปิดช่องแสงเอาไว้ด้านข้างแทน  ส่วนครัวกับห้องน้ำก็ถูกวางไว้ทางด้านหลังบ้าน

บ้านแบบนี้จะใช้บันไดแบบช่วงพาดเดียวยาวขึ้นไปถึงชั้น 2  โดยจะวางห้องนอนทั้ง 3 ห้องเรียงกัน  ห้อง master bedroom อยู่ด้านหน้าสุด  ขนาดของห้องนอนเล็ก 2 ห้องนั้นต่างกันนิดหน่อย  ห้องน้ำสำหรับห้องนอนเล็กนั้นกั้นประตูของส่วนสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำแยกจากกันทำให้ใช้ห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนได้ครับ

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Pyra

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Pyra

 

หน้าตาแบบบ้าน Pyra

Noble Gable  (ภาพที่ 1)

 

Noble Gable  (ภาพที่ 2)

Noble Gable  (ภาพที่ 4)

Noble Gable  (ภาพที่ 3)

 

สเปซของส่วนพักผ่อนและรับประทานอาหาร  ถ้าในบ้านจริงส่วนห้องครัวจะกั้นห้องแยกเอาไว้เพื่อทำอาหารมื้อหนักๆ

Noble Gable (ภาพที่ 23)

 

โถงบันไดและทางเดินไปห้องนอนแต่ละห้อง

Noble Gable (ภาพที่ 22)

 

เข้าไปในห้องนอนใหญ่  ด้านข้างเป็นสเปซสำหรับทำ walk-in closet ได้

Noble Gable (ภาพที่ 20)

 

ในห้องนอนใหญ่ด้านหน้า

Noble Gable (ภาพที่ 17)

 

 

ภายในห้องน้ำ

Noble Gable (ภาพที่ 19)

 

ห้องนอนเล็กด้านหลัง

Noble Gable (ภาพที่ 21)

 

 

พื้นที่ส่วนกลาง

 

ปิดท้ายพรีวิวกันด้านพื้นที่ส่วนกลางนะครับ  ส่วนกลางนี้จะอยู่ช่วงกลางโครงการ  ระยะทางเข้าถึงจากบ้านแต่ละหลังไม่ต่างกันมาก  มองไปด้านหน้าจะเป็นสวนครับ

Noble Gable (ภาพที่ 27)

Noble Gable (ภาพที่ 28)

Noble Gable (ภาพที่ 33)

 

เข้ามาใน Club House จะมีสระว่ายน้ำตรงกลาง  และมีอาคารอยู่ 2 ด้าน  ฝั่งที่เห็นในรูปนี้ด้านในเป็นฟิตเนสครับ  ดีไซน์ออกมาเรียบๆ เป็นกล่องสีดำ เท่ทีเดียว สระว่ายน้ำนั้นน่าโดดทีเดียว

Noble Gable (ภาพที่ 29)

 

อาคารอีกฝั่งจะดูโปร่งกว่า  ใช้กระเบื้องลายอิฐและกระจกเข้ามา

Noble Gable (ภาพที่ 31)

 

ชอบดีเทลนะครับ  สวยดี  ^^

Noble Gable (ภาพที่ 30)

 

 

จบพรีวิวคร่าวๆเท่านี้ก่อนครับ  เดี๋ยวอีกสักระยะถ้ามีโอกาสจะแวะไปเก็บข้อมูลทำรีวิวฉบับเต็มให้คร้าบบบ  ^_____^

“มักกะสัน”กับอนาคตพื้นที่สีเขียวใหญ่ใจกลางเมือง

$
0
0

ช่วงที่ผ่านมาหลายๆคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับที่ดินผืนใหญ่ที่งามที่สุดผืนนึงในกรุงเทพมหานคร ที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคมมากมาย ซึ่งก็คือที่ดินแปลงมักกะสัน ที่มีแนวความคิดในการพัฒนาแตกต่างไปในหลากหลายทาง จนล่าสุดทาง คสช. ก็ออกโรงมาเอง วันนี้อยู่สบายมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับที่ดินผืนงามนี้ว่าจะไปทางไหนกันต่อครับ

 

มักกะสัน พื้นที่สีเขียว

 

 

 

ถ้าหากจะย้อนอดีตกันถึงเรื่องราวของที่ดินผืนนี้กันไปหน่อย  ในอดีตนั้นพื้นที่มักกะสันเคยเป็นศูนย์กลางของระบบคมนาคมทางรถไฟ  ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ซ่อมบำรุงต่างๆที่มีอายุนับร้อยปี  มีพื้นที่ของโรงซ่อมบำรุงที่ได้ถูกทิ้งร้างมาหลายสิบปีจนปัจจุบันปกคลุมด้วยต้นไม้และวัชพืชนานาชนิด  พื้นที่มักกะสันในปัจจุบันก็ยังมีพนักงานรถไฟบางส่วนพักอาศัยอยู่แต่อาคารก็มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา  ในปี 2556 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มีแผนจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 500 ไร่ เป็น “มักกะสันคอมเพล็กซ์ (Makkasan Complex)” ให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้าและแหล่งบันเทิงของกรุงเทพฯ มีโรงแรม 5 ดาว, ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์ประชุม และศูนย์จัดนิทรรศการ  โดยใช้มักกะสันเป็นจุดเชื่อมต่อของระบบคมนาคมทางรางของกรุงเทพฯ  โครงการนั้นประเมิณกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 281,248 ล้านบาท และใน 30 ปีจะสามารถสร้างรายได้มากถึง 1,844,131 ล้านบาท จากการศึกษาแนวคิดเบื้องต้นของ Thai Engineering Consultant เมื่อปี 2553

ซึ่งแน่นอนว่าการทำเป็นพื้นที่ Commercial Area อย่างสุดโต่ง ก็เลยมีความเห็นขัดแย้งจากหลายๆฝ่าย  ทั้งจากประชาชนทั่วไป, นักวิชาการ, นักอนุรักษ์  ที่ยังต้องการให้มักกะสันเป็นพื้นที่สีเขียว และเป็น “ปอด” ของคนกรุงเทพฯ เหมือนกับสวนใหญ่ๆในกรุงเทพฯ อย่าง สวนลุมพินี, สวนเบญจกิติ หรือ สวนจตุจักร  ทีนี้แน่นอนว่าก็มีการศึกษาทางเลือกหลายๆทางมาถกเถียงกัน  มีการตั้งกลุ่มใน Social Media อย่าง Facebook ในชื่อ “เราอยากให้มักกะสันเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์”  เพื่อเสนอความคิดและไอเดียของมุมมองอีกด้านนึง  ซึ่งในช่วงที่ผ่านๆมาก็มีการจัดเสวนา รวมถึงนิทรรศการต่างๆ เพื่อเสนอความคิดเห็นออกมาในหลากหลายแนวทาง

จนกระทั้งมีแผนการล่าสุดที่ประกาศไปได้ไม่นานในเวอร์ชั่นของบิ๊กตู่  จากทาง คสช. นั่นเอง เราลองไปดูในรายละเอียดกันว่าทั้งแนวความคิดจากทางฝั่งของ Makkasan Complex กับทาง มักกะสันสวนสร้างสรรค์  และทางรัฐบาลโดย คสช. จะออกมามีสัดส่วนแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ

แนวคิด Makkasan Complex

มีการพัฒนาศึกษาครั้งแรกโดยบริษัท Thai Engineering Consultant เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว แล้วก็มีการพับเก็บโครงการไป  การศึกษาครั้งนั้นแบ่งสัดส่วนการใช้งานออกเป็นโซนหลักๆหลายโซน  คือ

Zone 1A ขนาดพื้นที่ 124 ไร่ พัฒนาเป็นศูนย์การค้า, Entertainment Complex, คอนโดมิเนียม

Zone 1B ขนาดพื้นที่ 42 ไร่  พัฒนาเป็นพื้นที่ Bangkok Fashion Zone

Zone 1C ขนาดพื้นที่ 205 ไร่ พัฒนาเป็นศูนย์ประชุมและ Exhibition Zone

Zone 2A ขนาดพื้นที่ 55 ไร่  พัฒนาเป็น Landmark ของโครงการชื่อ Bangkok Tower

Zone 2C ขนาดพื้นที่ 42 ไร่ พัฒนาเป็น Office Building, Service Apartment, Hotel

 

ผังแนวคิดการใช้ประโยชน์ที่ดินมักกะสันคอมเพล็กซ์

ผังแนวคิดการใช้ประโยชน์ที่ดินมักกะสันคอมเพล็กซ์ (Photo cr. CHAD skyscrapercity)

มักกะสัน คอมเพล็กซ์

มักกะสัน คอมเพล็กซ์

 

แนวคิดของมักกะสัน สวนสร้างสรรค์

แนวคิดนี้พัฒนาโดยคงพื้นที่ของสวนและพื้นที่สีเขียวเอาไว้เป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของพื้นที่ทั้งหมด  และพัฒนาเป็นพื้นที่ส่วนต่างๆเพื่อการใช้สอยในลักษณะเพื่อประโยชน์ของสังคมเป็นหลักอีก 20%  ซึ่งพื้นที่ 20% นี้เช่น การทำพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่, สวนพฤษศาสตร์, สวนสาธารณะขนาดใหญ่, พื้นที่ทำกิจกรรมของเมือง, อาคารและโกดังเดิมที่ปรับปรุงเป็นอาคารเพื่อศิลปะและวัฒนธรรม

Makkasan Complex มักกะสัน คอมเพล็กซ์ (ภาพที่ 2)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 4)

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (Photo cr. เครือข่ายมักกะสัน)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 6)

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (Photo cr. เครือข่ายมักกะสัน)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 5)

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (Photo cr. เครือข่ายมักกะสัน)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 3)

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (Photo cr. เครือข่ายมักกะสัน)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 7)

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (Photo cr. เครือข่ายมักกะสัน)

 

ซึ่งจริงๆถ้าดูแนวคิดของทั้งสองฝ่าย  จะเห็นว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างสุดขั่วไปในทางของแต่ละฝ่ายกันเลย  จริงๆแล้วมันเป็นไปได้หรือไม่ที่จะผสมผสานทั้ง 2 มุมมองลงไปในที่ดินเดียวกัน  ถ้าถามผมในเรื่องการจะเอาที่ดินทั้งหมดไปพัฒนาในเชิงพาณิชย์และธุรกิจอย่างเดียวก็ไม่เห็นด้วยแน่ๆ ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับการหาสัดส่วนที่ลงตัวระหว่างด้าน “Commercial” กับ “พื้นที่สีเขียวที่เป็นสาธารณะ” ….. เพราะเอาจริงๆแล้วทุกวันนี้กรุงเทพฯ เรามีห้างใหญ่โตให้เดินกันมากมายไม่ว่าจะเป็นความหรูในระดับเกรดบนหรือเกรดล่าง  เรามีเมืองและศูนย์กลางธุรกิจที่หนาแน่นและแออัดกันเยอะพอแล้ว  แต่สิ่งที่เราขาดไปคือพื้นที่สีเขียวในคนได้หายใจ  กรุงเทพฯ เคยคำนวนเอาไว้ล่าสุดว่าทุกวันนี้เรามีพื้นที่สวนสาธารณะเฉลี่ยเพียงแค่ 1.6 ตารางเมตรต่อคน (คิดแบบรวมสวนเล็กสวนน้อยในกรุงเทพทั้งหมด  และก็ไม่ได้คิดรวมประชากรที่มาจากต่างจังหวัดแล้วเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯด้วย ถ้ารวมก็จะยิ่งน้อยกว่านี้อีก)  ผมก็เลยคิดว่ามันก็น่าจะดีกว่าที่เราเปิดพื้นที่สีเขียวเหล่านี้เพื่อคุณภาพชีวิตเมืองที่ดีมากขึ้น  เพราะใน New York ก็ยังมี Central Park ได้เลย

มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 1)

โมเดลแนวความคิดของ มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ โดยสถาบันอาศรมศิลป์ (Photo cr.)

มักกะสัน  สวนสร้างสรรค์ (ภาพที่ 2)

โมเดลแนวความคิดของ มักกะสัน สวนสร้างสรรค์ โดยสถาบันอาศรมศิลป์ (Photo cr.)

 

ทีนี้กลับมามองกันในส่วนที่เป็นเรื่องของ Commercial กันบ้าง  ถ้ามามองในแง่ของสินทรัพย์และธุรกิจ  ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ดินแปลงมักกะสันนี้มีมูลค่ามหาศาล  การที่จะตอบโจทย์การพัฒนาในแง่ของ “มูลค่า” ที่ตีราคาเป็น “คุณภาพชีวิตที่ดี” อย่างเดียวในประเทศเราคงจะเป็นเรื่องยากมากๆ  และมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย  และก็อย่าลืมว่า “เจ้าของที่ดิน” ตัวจริงอย่างการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นก็มีหนี้อยู่มหาศาล  แนวคิดการแปลงทรัพย์สินที่มีอยู่ในมือมาเป็นการลงทุนจึงเป็นแนวคิดที่อีกฝ่ายนึงก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกัน

 

แนวคิดของมักกะสัน โดย คสช.

ล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา  ทาง คสช. ก็ออกโรงเอง โดยมีแนวคิดให้แบ่งพื้นที่การพัฒนาเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจะพัฒนาพื้นที่ 320 ไร่ แบ่งเป็นสร้างพิพิธภัณฑ์ขนส่งทางราง 30 ไร่, สร้างสวนสาธารณะให้เป็นปอดของ กทม. 150 ไร่ และพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะด้านการจราจรและพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อหารายได้ดูแลสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ 140 ไร่ หลังจากนั้นอีก 2-3 ปี จะมีการพัฒนาระยะ 2 ในพื้นที่รวม 177 ไร่  ซึ่งแนวทางก็เริ่มชัดเจนขึ้นว่าจะนำที่ดินมักกะสันบางส่วนให้กระทรวงการคลังไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ร่วมกับเอกชน  โดยแนวคิดเบื้องต้นคือกระทรวงการคลังจะได้สิทธิในการบริหารที่ดิน 30 ปีแรก ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อแลกหนี้ที่การรถไฟเป็นหนี้กระทรวงการคลังอยู่  และมี option ในการต่อสัญญาได้อีกครั้งละ 30 ปี  ซึ่งหนี้ของการรถไฟกว่าแสนล้านบาทก็็จะหักออกจากส่วนนี้  ที่เหลือก็ต้องหาทางจัดการกันต่อไป

 

หลังจากเล่าเกี่ยวกับเรื่องของที่ดินแปลงมักกะสันให้อ่านกันแล้ว  เดี๋ยวกลัวจะผิดคอนเซ็ปเว็บที่เป็นเว็บไซต์รีวิวบ้านและคอนโด  เลยขอโยงประเด็นเข้ากับตลาดคอนโดมิเนียมกันหน่อย :P ….  พื้นที่ตรงมักกะสันนี่สุดท้ายไม่ว่าจะกลายเป็นที่ดินเชิงธุรกิจอย่าง “Makkasan Complex” หรือว่าจะกลายเป็นพื้นที่เชิงสังคมอย่าง “มักกะสันสวนสร้างสรรค์”  อานิสงค์ของที่ดินผืนนี้ก็จะทำให้อสังหหาริมทรัพย์ในบริเวณรอบๆมีมูลค่าในตัวเองเพิ่มขึ้นมาอีกได้มากทีเดียว  เอาง่ายๆว่าถ้าตรงนี้กลายเป็น Makkasan Complex มูลค่าโครงการที่ติดกับศูนย์การการค้าที่เป็น Commercial Area แบบนี้มูลค่าก็เพิ่มขึ้นมหาศาลแน่นอน  แต่ถ้าสุดท้ายแล้วพัฒนาออกมาเป็นสวนสีเขียวเพื่อปอดของคนกรุงเทพฯ  โครงการแถบนี้ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในเรื่องของ “วิวสวนสีเขียว” ที่หาได้ยากเต็มทีสำหรับคอนโดในเมืองสมัยนี้  ลำพังแค่คอนโดวิวสวน 2 โครงการล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเดือนนี้อย่าง The Line ของ Sansiri ที่ได้วิวสวนจตุจักร  หรือ Salagaeng One ของทาง SC Asset ที่ได้วิวสวนลุม  ราคาก็จับต้องได้ยากมากสำหรับคนในระดับมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป  ผมลองทำแผนที่มาให้ดูว่าพื้นที่รอบๆที่ดินแปลงมักกะสันนั้นโครงการไหนได้ประโยชน์จากโปรเจคนี้กันบ้างครับ

ที่ดินมักกะสันและคอนโดมิเนียมโดยรอบ

ที่ดินมักกะสันและคอนโดมิเนียมโดยรอบ

 

หลังจากวางตำแหน่งคอนโดต่างๆในพื้นที่รอบๆที่ดินมักกะสันลงไปแล้ว  พบว่าคอนโดที่โชคดีได้วิวเต็มๆของที่ดินมักกะสันแปลงใหญ่ (ไม่ว่าจะพัฒนาเป็นคอมเพล้กซ์หรือเป็นสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์  หรือว่าจะเป็นไปตามสูตรของลุงตู่จาก คสช. ก็ตาม) …. มีรายชื่อผู้โชคดีอยู่ 3 ราย เป็นทั้งคอนโดที่สร้างเสร็จไปแล้ว 2 โครงการ คือ The Circle Prototype 2 ของทาง Fragrant Group และ The Address Asoke ของทาง AP รวมถึงน้องใหม่ซิงๆแบบยังไม่ได้เปิดตัวโครงการอย่าง Life Asoke นั่นเอง (อ่านพรีวิว Life Asoke คลิกที่นี่)  ส่วนคอนโดอื่นๆแม้จะอยู่ในโซนใกล้เคียงของที่ดินมักกะสันแต่ก็จะมีโดนบังวิวบ้าง  มีแนวทางด่วนกั้นบ้างหล่ะครับ

สุดท้ายไม่ว่าแนวทางของที่ดินผืนงามอย่างมักกะสันจะไปในทิศทางไหน  อย่างน้อยมูลค่าของพื้นที่โซนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก ถ้าพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ ในแง่ของธุรกิจเราอาจจะเกิดศูนย์กลาง CBD แห่งใหม่  หรือถ้าจะทำเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อเป็นปอดและพื้นที่สาธารณะของคนเมือง  พื้นที่โซนนี้ก็จะได้คุณค่าในเชิง “คุณภาพชีวิต” ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  ก็หวังว่าเราจะมีทางออกที่ดีร่วมกันครับ  ^_____^

ส่งท้ายกันด้วย Case Study ไอเดียการพัฒนาพื้นที่ของ Commercial ร่วมกับพื้นที่สีเขียวได้อย่างกลมกลืนที่ Namba Parks ซึ่งเป็น Shopping Mall ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และสวนพื้นที่สีเขียวล้วนๆอย่าง Central Park ในนครนิวยอร์คครับ

Namba Parks

Namba Parks Osaka (Photo cr. Hiroyuki Kawano)

Namba Parks Osaka

Namba Parks Osaka (Photo cr. Hiroyuki Kawano)

Central Park

Central Park, New York (Photo cr.)

Central-Park-New-Yorks

Central Park, New Yorks (Photo cr.)

 

 

AP – Mitsubishi Estate Group ประกาศร่วมทุนอย่างเป็นทางการ เดินหน้าเปิดตัวคอนโด RHYTHM รางน้ำ มูลค่า 2,500 ล้านบาท

$
0
0

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ประกาศการร่วมทุนอย่างเป็นทางการกับ Mitsubishi Estate Group (มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป)  หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น  เดินหน้าพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าร่วมกันเป็นโครงการที่ 6 ภายใต้โครงการ RHYTHM รางน้ำ มูลค่า 2,500 ล้านบาท จำนวน 385 ยูนิต  ราคาเริ่มต้น 4 ล้านกว่าๆ   Key Success สำคัญคือ Multiple Connections การเดินทางสู่ใจกลางเมือง เพียง 100 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  และเพียง 1 กิโลเมตรถึงทางด่วน และสามารถเชื่อมโยงสู่ 5 ถนนสายหลัก พร้อมเดินหน้าเปิดตัวประมาณปลายเดือนมิถุนายนนี้

 

ทั้งนี้ สำหรับการร่วมทุนโครงการคอมโดมิเนียม RHYTHM รางน้ำ ดำเนินการภายใต้การลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ MJR Investment PTE LTD (“MJRI”) (สิงคโปร์) อันเป็นบริษัทก่อตั้งโดย Mitsubishi Jisho Residence Co., Ltd. (MJR-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Mitsubishi Estate Co., Ltd. (MEC-ญี่ปุ่น) และจะร่วมกันพัฒนาผ่านบริษัท เอเชี่ยน พร๊อพเพอร์ตี้ (2015) จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัทในอัตรา AP 51% : MJRI 49%

RHYTHM rangnam

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ MEC หนึ่งในผู้นำการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในประเทศญี่ปุ่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว MEC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว พ.ศ. 2496  ดำเนินงานครอบคลุมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโครงการที่อยู่อาศัย (Residential Properties) ธุรกิจโครงการสำนักงาน (Office Buildings) ธุรกิจศูนย์การค้า (Retail Properties) และธุรกิจโรงแรม (Hotel Business) ซึ่งทุกโครงการมีความโดดเด่นในด้านคุณภาพ การออกแบบสถาปัตยกรรมและการบริหารพื้นที่ใช้สอยอย่างยั่งยืน โดยทีมออกแบบ ทีมควบคุมคุณภาพ และทีมสถาปนิกในเครือบริษัท Mitsubishi Jisho Sekkei Inc. (MJS) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและบริหารอสังหาริมทรัพย์

 

ผลงานที่เห็นได้อย่างชัดเจนในกรุงโตเกียว คือ การพัฒนาโครงการสำนักงานกว่า 30 โครงการ และเป็นผู้พัฒนาเขตธุรกิจสำคัญใจกลางโตเกียว เช่น เขต Marunouchi มานานกว่า 120 ปี โดย Marunouchi เป็นเขตธุรกิจสำคัญที่มี     คลอบคลุมพื้นที่กว่า 1,200,000 ตารางเมตร (120 hectares)  ประกอบด้วยอาคารสำนักงานกว่า 100 อาคาร จำนวนกว่า 4,000 บริษัท และมีพนักงานกว่า 230,000 คน  นอกจากนี้  MEC ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 50 ปี อีกทั้งยังเข้าลงทุนพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และประเทศในกลุ่มเอเชีย โดยการดำเนินงานผ่านบริษัท MEA ประเทศสิงค์โปร์


Noble BE33 (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี) คอนโดโนเบิลในซอยสุขุมวิท 33 [พรีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ  เดือนมิถุนายนนี้มีคอนโดหลายโครงการในกรุงเทพฯ เปิดตัวไล่ๆกัน  หนึ่งในนั้นคือคอนโด Noble BE33 (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี)  ซึ่งชื่อก็แทบจะบอกตำแหน่งที่ตั้งหมดอยู่แล้วว่าอยู่ในซอยสุขุมวิท 33  เดินจากสถานี BTS พร้อมพงษ์ไปหน่อย  พรีวิวคอนโดใหม่ฉบับนี้เราเลยจะพาไปเจาะทำเลของโครงการ Noble BE33 กันค่ะ  จริงๆตอนนี้ที่ผ่านไปภายนอกก็เห็นสำนักงานขายสร้างเสร็จแล้ว  แต่ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชม  เพราะฉะนั้นเราไปดูพื้นที่รอบๆกันก่อนค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Noble BE 33 (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี) Sukhumvit 33

  • เจ้าของโครงการ >>> Noble Development (โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 33
  • ขนาดที่ดิน >>>  n/A ไร่
  • จำนวนชั้น >>> n/A
  • จำนวนอาคาร >>>  n/A อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  n/A
  • ขนาดห้อง >>> n/A
  • จำนวนยูนิต >>>  n/A
  • ที่จอดรถ >>> n/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  n/A บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.735487, 100.567734

  ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ Noble BE33 คลิกที่นี่

ที่ตั้งโครงการ

ขอเล่าให้เห็นจากในภาพรวมก่อนนะคะ โครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท33 อยู่ไม่ไกลจาก BTS พร้อมพงษ์ ซอยนี้สามารถใช้เป็นทางลัดออกไปอโศก เพชรบุรี หรือจะไปเอกมัยก็ได้ค่ะ แต่ถนนภายในซอยสุขุวิทที่ใช้เป็นเส้นทางลัดหลีกเลี่ยงรถติดจากถนนสุขุมวิทได้  แต่ความกว้างของถนนในซอยไม่ได้กว้างมาก รวมทั้งบางเวลาภายในซอยรถก็ติดเหมือนกันจากรถที่ใช้วิ่งเข้าออกเป็นทางลัดซึ่งเป็นธรรมชาติของโซนนี้ (แต่ยังไงก็ดีกว่านั่งแช่ในรถบนถนนสุขุมวิทแน่ๆ)  ส่วนอีกฝั่งนึงของถนนสุขุมวิทบริเวณซอยสุขุมวิท 24 และ 26 ก็ออกไปถนนพระราม 4 ได้ค่ะ หรือจะวิ่งตรงจากถนนสุขุมวิทขาเข้าไปออกที่แยกอโศกเข้ารัชดาภิเษกก็ได้  นั่งรถไฟฟ้า BTS ไปต่อ MRT ก็สถานีเดียวค่ะ

ภาพรวมของโซนพร้อมพงษ์ สุขุมวิทฝั่งนี้ก็เป็นโซนของคนญี่ปุ่นค่ะ มีทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม ร้านอาหาร ร้านนวด ร้านค้าต่างๆเพื่อคนญี่ปุ่นที่อยู่ในบริเวณนี้โดยเฉพาะ ส่วนคนไทยที่อยู่นี่ก็ต้องจัดว่ามีตังพอสมควร  มีบ้านเก่าๆที่ดินเยอะๆของคนที่มีฐานะกระจายตัวอยู่ตามซอยต่างๆ  ซึ่งที่ดินที่ Noble ซื้อมาทำคอนโด Noble BE33 นี้ก็เป็นการซื้อบ้านเก่าที่อยู่มาดั้งเดิมมาทำคอนโดเหมือนกันค่ะ …. นอกจากนี้ที่เด่นๆในพื้นที่ก็คงจะหนีไม่พ้น The District Em  จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่มีทั้ง The EmQuartier ที่เพิ่งเปิดตัวไปเป็นกระแสหลักเมื่อไม่นานมานี้ รวมไปถึง  The Emporium ที่ปรับปรุงใหม่ด้วย และก็มี The Emsphere ที่เป็นศูยน์การค้าเหมือนกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560 ค่ะ ตัว The Emphere นี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยสุขุมวิท 33 เลย ซึ่งทางเดอะมอล์ กรุ๊ปเองหวังไว้ย่านนี้เป็นย่านการค้าระดับโลก และประกอบด้วยย่านที่พักอาศัย โรงแรม ออฟฟิตระดับหรู สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ  ว่าง่ายๆคือเอาไว้ประชันกับเครือเซ็นทรัลที่ปักธงใหญ่ไว้แถวราชประสงค์และเพลินจิตนั่นเองหล่ะค่ะ

Noblebe33-Surrounding1

มาดูที่ตัวโครงการกันค่ะ โครงการนั้นอยู่ห่างจากหน้าปากซอยสุขุมวิท33 เข้าไปประมาณ 300 เมตร แต่ถ้าจะเดินออกไปใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสจะอยู่ที่ประมาณ 650 เมตร ภายในซอยจะมีมอไซต์รับจ้างวิ่งผ่านตลอดค่ะ ถ้าไม่ชอบเดิน เพราะอากาศบ้านเรา (ยิ่งในเดือนสองเดือนมานี้) ก็ยังร้อนมากๆอีก ก็เลือกใช้บริการพี่วินสะดวกสบายกว่าค่ะ  นั่งจากปากซอยมาค่าเสียหายก็ 10 บาทถ้วน …. พื้นที่ภายในบริเวณซอยสุขุมวิท 33 ส่วนใหญ่จะเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม ร้านอาหาร บาร์ ร้านนวด ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีไว้เผื่อชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นทั้งนั้น  ร้านต่างๆก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่นค่ะ

ติดกับโครงการด้านข้างเป็นร้าน TOP UP 33 (หมายเลข1)  เป็นร้านแบบ Lounge and Restaurant ค่ะ ตรงนี้ไม่แน่ใจว่ากลางคืนอาจจะเสียงดังบ้างหรือเปล่า ส่วนฝั่งตรงข้ามกันเป็นซอยสุขุมวิท 33/5 ภายในซอยมีคอนโด 33 Tower (หมายเลข 2) เป็นคอนโดสูง 20 ชั้นค่ะ  ด้านล่างของคอนโด 33 Tower จะมี Top Supermarket อยู่ สาขานี่ตอนเช้าๆสามารถ per-order สั่งข้างเหนียวหมูปิ้งล่วงหน้าได้ด้วย เรียกว่าเป็น option เสริมจากสาขาปกติทัั่วไป  ด้านหลังถัดไปหน่อยจะมีคอนโด D.S.Tower 1  เป็นคอนโดสูง 38 ชั้น อีกด้วยค่ะ  คอนโดมิเนียมเหล่านี้ก็สร้างกันมานานพอสมควร นอกนั้นบริเวณนี้ก็จะเป็นพวกเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอีกด้านของโครงการติดกับเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ชื่อ Beverly 33  (หมายเลข3) สูง 8 ชั้น  ตึกนี้จะมองเห็นได้จากพื้นที่บริเวณหน้าโครงการ ติดกันเป็น S 33 Compact Hotel ค่ะ  เป็นโรงแรมแนว Budget Hotel ราคาไม่แพงมาก ตอนนี้กำลังปรับปรุงตกแต่งใหม่ในบางส่วนอยู่ ออกมาหน้าปากซอยก็มีโรงแรม Lotus Hotel (หมายเลข 4) อีกโรงแรม ตรงหัวมุมปากซอยสุขุมวิท33 จะเป็น UBC II Building อาคารสมัชชาวาณิช 2 (หมายเลข 5) เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ด้านล่างมี Starbucks ด้วยค่ะ

จากแผนที่จะเห็นว่า ซอยสุขุมวิท33 จะเช่ื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท31 หรือเรียกอีกชื่อว่า ซอยสวัสดี  ภายในซอยสุขุมวิท31 ก็จะเป็นพวกร้านอาหาร บาร์ โรงแรม ที่อยู่อาศัยและออฟฟิิตสำนักงาน เช่นเดียวกันค่ะ ยังไม่แน่ใจว่าตัวที่ดินของโครงการนั้นจะทะลุมาถึงซอยนี้เลยหรือเปล่า หน้าปากซอยติดถนนใหญ่เป็นโรงแรม S31 Sukhumvit (หมายเลข6) ค่ะ ส่วนอีกด้าน เป็น  RSU Tower (หมายเลข7) เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ ฝั่งตรงข้ามบนถนนสุขุมวิทมีโรงแรม Holiday Inn (หมายเลข8) และติดกันเป็นพื้นที่ของ The Emsphere (หมายเลข9) ที่จะทำเป็นศูยน์การค้าอีกแห่งค่ะ

เดินกลับมาทางที่จะไปรถไฟฟ้าบีทีเอส ผ่านซอยสุขุมวิท 33/1 หรือ Japanese Town เป็นซอยที่รวมร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะค่ะ  จากโครงการเย็นๆตอนที่ไม่ค่อยมีแดดแล้วเดินเล่นมาชิลล์ๆก็พอไหวอยู่  ฝั่งตรงข้ามกันเป็นสวนเบญจสิริ (หมายเลข10) เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับคนโซนนี้ ติดกับสวนเบญจสิริก็เป็นห้าง The Emporium (หมายเลข 11) และฝั่งตรงข้ามคือ The EmQuartier  (หมายเลข12)   ที่เพิ่งเปิดตัวไปซึ่งใครจะเรียกว่า เอ็มควอเทียร์ หรือ เอ็ม การ์ติเอ ก็แล้วแต่ชอบค่ะ  ไม่ต้องดราม่าเรื่องชื่อกัน โดยรวมย่านนี้แต่เดิมจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่นในเมืองไทยและเป็นโซนของคนไทยที่อยู่ในพื้นที่มานานค่อนข้างจะมีฐานะดีทีเดียว ส่วนในอนาคตน่าจะคึกคักกว่านี้มากเพราะทางเดอะมอลล์กรุ๊ปนั้นมีเป้าหมายในการพัฒนาย่านนี้ให้เป็นย่านธุรกิจและการค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพเลยทีเดียว

เล่าคร่าวๆพร้อมแผนที่รวมๆไปแล้ว  พาไปดูรอบๆโครงการกันดีกว่าค่ะ

เราเริ่มเดินจากปากซอยสุขุมวิท 33 ไปยังเป็นที่ตั้งโครงการเลย

Noble BE33 - ภาพที่ 005

UBC II Building อาคารสมัชชาวาณิช 2 หน้าซอยสุขุมวิท33 ชั้นล่างมีร้านค้า สตาร์บัค และธนาคาร

Noble BE33 - ภาพที่ 052

ทางเดินติดถนนสุขุมวิทค่ะ หน้าอาคารยูบีซี 2

Noble BE33 - ภาพที่ 004

Villa market ติดอาคารยูบีซี2

Noble BE33 - ภาพที่ 006

ปากซอยสุขุมวิท33 อีกฝั่งเป็น FamilyMartค่ะ สาขานี้ค่อนข้างใหญ่ มีส่วนของร้านอาหารใช้ชื่อว่า Fami Kitchen นั่งทานด้านในได้เลยค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 051

ซอยสุขุมวิท33 ไปอโศกกับเอกมัยได้ค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 007

บรรยากาศซอยสุขุมวิท33 ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท

Noble BE33 - ภาพที่ 050

UBC II Building หรือ อาคารสมัชชาวาณิช 2 หน้าซอยสุขุมวิท 33 อีกมุม  ด้านล่างมี Starbucks ให้นั่ง แล้วก็มี KTC

Noble BE33 - ภาพที่ 008

วินมอไซต์หน้าปากซอยสุขุมวิท33 ค่ะ ตรงติดบีทีเอสพร้อมพงษ์จะมีอีกวินค่ะ ขึ้นจากตรงนั้นเลยก็ได้ถ้ามาจากบีทีเอส

Noble BE33 - ภาพที่ 011

เข้ามาภายในซอยไม่ไกลเจอ Lotus Hotel

Noble BE33 - ภาพที่ 013

เข้ามาในซอยบริเวณนี้จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ เป็นร้านอาหาร บาร์ ร้านนวด รองรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นในย่านนี้ค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 014

บริเวณนี้ฟุตบาทในซอยนี้แทบจะไม่มีที่เดินค่ะ พ่อค้าแม่ค้าในซอยนั้นยึดฟุตบาทเป็นที่ค้าขายกันประจำ  คนก็เลยต้องลงมาเดินตรงถนน  เรื่องหาของกินง่ายมันก็ดีจริงอยู่  แต่สำนักงานเขตก็น่าจะลงมาดูแลจัดระเบียบกันบ้างนะคะ

Noble BE33 - ภาพที่ 016

S33 Compact Hotel เป็นโรงแรมสูง 6 ชั้น

Noble BE33 - ภาพที่ 015

ตึกนี้เดิมจะทำเป็นโรงแรม  แต่เข้าใจว่าหยุดไปตั้งแต่ตอนเจอพิษเศรษฐกิจ  เลยปล่อยทิ้งไว้

Noble BE33 - ภาพที่ 017

Beverly 33 เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์สูง 8 ชั้น ติดกับโครงการเลย  ต้นไม้สูงตรงริมรูปคือต้นไม้ที่อยู่ในที่ดินของ Noble BE33 ค่ะ

ติดกับ Service Apartment ชื่อ Beverly 33 ก็เป็นตัวที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้สำนักงานขายก็สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

Noble BE33 - ภาพที่ 100

 

Beverly 33 คือตึกสีเขียว-ขาวนี่แหละค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 056

หลังจากนั้นเราจะเดินเลยเข้าไปในซอยสุขุมวิท 33 เรื่อยๆ ค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 018

TOP UP 33 เป็น Lounge and Restaurant อยู่ติดกับโครงการอีกด้าน

Noble BE33 - ภาพที่ 019

ติดกันเข้าไปด้านในเป็น Japanese Karaoke&massage  คนไทยไม่มีสิทธิเข้านะคะ

Noble BE33 - ภาพที่ 020

Ap suites เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ค่ะอยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆกับร้าน TOP UP 33

Noble BE33 - ภาพที่ 021

ใต้อาคารมี Tops Daily

Noble BE33 - ภาพที่ 023

มีร้านชื่อ The Fat Beagle Cafe & Bake Shoppe เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารัก

Noble BE33 - ภาพที่ 022

เกือบจะสุดซอยเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินใหญ่มาก

Noble BE33 - ภาพที่ 025

ถ่ายย้อนกลับไปภายในซอยสุขุมวิท33 จากด้านหลังค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 024

ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ INDUSTIQUE

Noble BE33 - ภาพที่ 026

สุดซอยเป็นร้านนวดค่ะ ชื่อร้าน Rakuten

Noble BE33 - ภาพที่ 027

ออกมาสุดซอยสุขุมวิท 33 แล้วค่ะ จะเจอทางแยกตัดกับถนนพร้อมจิต เป็นทาง One Way ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายไปออกสุขุมวิท 31 ได้ หรือจะตรงไปเลี้ยวขวาออกไปถนนอโศกมนตรีก็ได้ (แต่ไม่สามารถย้อนจากสุขุมวิท 31 มายังสุขุมวิท 33 ได้นะคะ)

สุดซอยสุขุมวิท33แล้ว เลยพามาเดินดูด้านหลังบริเวณถนนพร้อมจิต ไปออกซอยสุขุมวิท31 (ซอยสวัสดี) กันค่ะ เป็นซอยที่เชื่อมต่อกัน

Noble BE33 - ภาพที่ 028

@27/1 เป็นคอมมูนิตี้ค่ะ มีร้านสไตล์เก๋ๆ ชิลๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านไอศรีม ร้านกาแฟ ให้เลือกนั่ง

Noble BE33 - ภาพที่ 029

อีกด้านเป็นอาคารนิวแลนด์ เป็นอาคารสำนักงานและคลินิกเสริมความงาม

Noble BE33 - ภาพที่ 030

Avora 31 Residence มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านค้าในอาคารด้วยค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 031

ด้านหลังตรงถนนพร้อมจิตออกได้ตามแผนที่เลยค่ะ ตรงไปอโศก เลี้ยวขวาไปเพชรบุรี ซ้ายไปออกถนนสุขุมวิท

Noble BE33 - ภาพที่ 032

เราเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท31 ค่ะ ไปออกถนนสุขุมวิท

Noble BE33 - ภาพที่ 035

บรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท31 ค่ะ เริ่มมีร้านอาหารไทย ร้านตี๋ โภชณา

Noble BE33 - ภาพที่ 034

ร้าน Cassia Cafe & Tea Room

Noble BE33 - ภาพที่ 036

ด้านขวามือตึกสีเขียวเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ Beverly 33 ที่อยู่ติดสำนักงานขายค่ะ  ตัวโครงการของ Noble BE33 จะไม่ได้มาสุดที่ซอย 31 นะคะ  ฝั่งนี้หลังจากขึ้นโครงการ BE33 แล้วก็ยังจะว่างๆอยู่

Noble BE33 - ภาพที่ 037

D.S.Tower 1  เป็นคอนโดสูง 38 ชั้น จริงๆอยู่ในซอยสุขุมวิท33 ค่ะ แต่ถ่ายมาให้ดูจากมุมนี้จะชัดกว่า

Noble BE33 - ภาพที่ 038

มาเปงเส็ง อพาร์ทเมนท์ ซึ่งด้านหลังจะเป็น Beverly 33 ที่อยู่ติดกับสำนักงานขายค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 039

อาคารนานมีบุ๊คส์เฮ้าส์ ตรงข้ามมาเปงเส็ง อพาร์ทเมนท์

Noble BE33 - ภาพที่ 040

Bangkok View Tower เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์อีกเช่นกัน สูง 20 ชั้น

Noble BE33 - ภาพที่ 042

มองไปเห็นโรงแรมในซอย33ค่ะ ที่ตอนนี้ไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว

Noble BE33 - ภาพที่ 043

Paradiso 31 สูง 8 ชั้น เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์

Noble BE33 - ภาพที่ 044

คอนโด เลอ รัฟฟิเน่ สุขุมวิท31

Noble BE33 - ภาพที่ 046

หัวมุมติดถนนสุขุมวิท เป็น S31 Sukhumvit Hotel

Noble BE33 - ภาพที่ 045

ตึกฝั่งตรงข้าม เป็น โรงแรม Holiday Inn สุขุมวิท 22

Noble BE33 - ภาพที่ 047

หัวมุมซอยสุขุมวิท31 หรือซอยสวัสดี คือตึกเป็น  RSU Tower เป็นตึกอาคารสำนักงานให้เช่า

Noble BE33 - ภาพที่ 048

ด้านล่างอาคาร  RSU Tower ก็มีร้านกาแฟ ร้านอาหารอยู่

Noble BE33 - ภาพที่ 049

Dallas Steak Bar&grill ติดถนนสุขุมวิท

ดูบรรยากาศภายในซอยที่ตั้งโครงการกันแล้ว มาดูบริเวณรอบๆโครงการติดถนนใหญ่รอบๆ BTS พร้อมพงษ์กันบ้างค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 063

สวนเบญจสิริ

Noble BE33 - ภาพที่ 065

เอาบรรยากาศภายในสวนเบญจสิริมาฝากกันด้วย

Noble BE33 - ภาพที่ 066

สวนเบญจสิริ เป็นสวนสาธารณะอีกแห่งในกรุงเทพที่อยู่ใจกลางเมืองค่ะ ถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าสวนเบญจกิตติหรือสวนลุม แต่ก็มานั่งเล่น วิ่งออกกำลังกายได้เช่นกัน

Noble BE33 - ภาพที่ 067

อยู่ติดรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์เลยค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 068

ไปออกกำลังกายที่สวนเบญจสิริแล้ว ก็แวะช้อปปิ้งที่เอ็มโพเรียม ข้างๆสวนกันหน่อย

Noble BE33 - ภาพที่ 070

เก็บบรรยากาศห้างเอ็มโพเรียม ที่รีโนเวทใหม่มาให้ดูกันด้วย

Noble BE33 - ภาพที่ 069

เอ็มโพเรียม อีกรูป

Noble BE33 - ภาพที่ 064

โรงแรม Emporium Suites by Chatrium ติดห้างเอ็มโพเรียม

ออกมาตรงทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ ฝั่งนึงจะเป็นห้างเอ็มโพเรียม

Noble BE33 - ภาพที่ 002

 

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้างเอ็มควอเทียร์

emquartier

 

 

เอ็มควอเทียร์อีกรูปค่ะ อาคารนี้เรียกว่า The Helix Quartier

Noble BE33 - ภาพที่ 041-2

Noble BE33 - ภาพที่ 072

หลักๆแล้วเอ็มควอเทียร์มี 3 อาคารค่ะ The Helix Quartier , The Glass Quartier ที่เป็นห้าง และอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ (อาคารสมัชชาวานิช 3) เป็นอาคารสำนักงานความสูง 30 ชั้น ตามรูปค่ะ และ The Waterfall Quartier

Noble BE33 - ภาพที่ 060

เข้ามาดูด้านในเอ็มควอเทียร์กันบ้าง

Noble BE33 - ภาพที่ 059

ร้านค้าด้านในจะมีตั้งแต่ระดับกลาง-ระดับลักชัวรี่แบรนด์ให้เลือกช้อปกันเต็มที่เลยค่ะ

Noble BE33 - ภาพที่ 061

จบด้วย BTS พร้อมพงษ์ค่ะ

วันนี้พาเดินดูทำเลรอบๆกันไปพอสมควรแล้ว  จะเห็นว่าทำเลโซนพร้อมพงษ์นั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกแทบจะทุกอย่างเลยทีเดียว  เดี๋ยวอีกไม่นาน Noble ก็จะแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Noble BE33 แล้ว  ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะเอามาอัพเดตเพิ่มเติมให้พร้อมกับรีวิวฉบับเต็มนะคะ  วันนี้ลาไปก่อนแค่นี้ค่ะ  ใครสนใจก็ไปลงทะเบียนรอรับสิทธิพิเศษกันได้ค่าาา  ^____^

โนเบิลฉลองครบรอบ 25 ปี พร้อมเปิดตัว “Noble BE33″ Luxury condominium บนถนนสุขุมวิท 33 [ข่าวอสังหาฯ]

$
0
0

วันนี้ (3/6/2558) Noble Development ได้จัดงานแถลงข่าวการฉลองครบรอบ 25 ปี  พร้อมกับการแถลงข่าวเปิดตัวคอนโดใหม่ Noble BE33 Sukhumvit อย่างเป็นทางการ  ที่สำนักงานขายโครงการ Noble BE33 ในซอยสุขุมวิท 33  ครับ ในงานมีการนำเสนอเรื่องราวความสำเร็จจากอดีตสู่ปัจจุบันของ Noble โดยทำ Corporate Campainge ชุด Believe in Your  Soul” ตอกย้ำแนวคิด “be different, be noble”  ทางอยู่สบายได้แวะไปร่วมงานและเก็บภาพมาฝากกัน

Noble Development ครบรอบ 25 ปี (ภาพที่ 1)

          

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 25 ปี ตอกย้ำจุดยืนในความเป็นแบรนด์อสังหาฯคิดต่าง ที่ไม่เคยคิดและมองอะไรเหมือนใคร ภายใต้แนวคิด be different” ซึ่งเป็นปรัชญาความเชื่อที่อยู่ในดีเอ็นเอของโนเบิลมาตลอด 25 ปี พร้อมเดินหน้าย้ำความเป็นเจ้าตลาดคอนโดใจกลางเมืองด้วยการเปิดตัวคอนโดฯระดับไฮเอนด์โครงการแรกบนถนนสุขุมวิท33 ด้วยงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท

Noble Development ครบรอบ 25 ปี (ภาพที่ 2)

            

นายกิตติ  ธนากิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในวาระฉลอง 25 ปีของโนเบิล ทางโนเบิลได้จัดทำแคมเปญคอร์เปอร์เรทชุดBelieve in Your  Soul” ตอกย้ำแนวคิด ถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยและกำหนดความเป็นไปได้ใหม่ๆในการใช้ชีวิต นับตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าโครงการต่างๆของโนเบิลก้าวข้ามความธรรมดาและเหนือความคาดหมายของผู้อยู่อาศัย เช่น โครงการ โนเบิล พาร์ค คอนโดมิเนียมเชิงราบสไตล์คอนโดเฮ้าส์ ปี 1991 ที่ถือเป็นการปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ด้วยการออกแบบบ้านเป็นกลุ่ม Cluster ที่ดึงเอาถนนออกจากหน้าบ้านและจอดรถไว้รวมกันเป็นส่วนกลางเพื่อให้หน้าบ้านมีพื้นที่พักผ่อนที่เป็นส่วนกลางขนาดใหญ่ ร่มรื่นและปลอดภัยจากรถที่วิ่งเข้าออก … โครงการ Noble Home บ้านเดี่ยวหลังคาโค้ง  บ้านแนวใหม่ที่มีความริเริ่มทั้งในแง่การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง … โครงการ Neo City คอนโดมิเนียมเชิงราบและบ้านเดี่ยวเชิงขยาย อาคารสูง 3 ชั้น ชั้นละ 2 ยูนิต แต่ละยูนิตมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป  ส่วนบ้านเดี่ยวเชิงขยายมีการออกแบบให้พร้อมขยายต่อเติมได้ถึง 4 ขั้นตอนตามจังหวะการใช้ชีวิต

Noble Development ครบรอบ 25 ปี (ภาพที่ 3)

โครงการที่ผ่านมา Noble Development (ภาพที่ 4)

 

จนกระทั่งเข้าสู่ยุคปัจจุบัน โนเบิลยังคงยืนอยู่บนธุรกิจอสังหาฯที่นำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างภายใต้บริบทแบบใหม่ของคนเมืองที่เกาะติดไปกับความเจริญเติบโตที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น  การออกแบบบ้านฟอร์ม L Shape และ U Shape  อย่าง โครงการโนเบิล ทารา และโนเบิลวานา ที่มีการใช้สเปซที่กระชับและเกิดพื้นที่ว่างภายใน (Personal space) ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของบ้าน และอีกหนึ่งแนวคิดการอยู่อาศัยแบบคนเมืองในรูปแบบคอนโดมิเนียมบนพื้นที่ขนาดพอเหมาะในเมืองเศรษฐกิจใหญ่ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างกรุงเทพฯ  เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถเป็นเจ้าของและใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวภายใต้คอนเซปต์ Revolve Living ทำให้ห้องขนาด 25-28 ตารางเมตร มีพื้นที่ใช้สอยหน้ากว้างถึง  5 เมตร เป็นได้ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องทำงานกับ โครงการ Noble Revolve รวมถึง โครงการ Noble Ploenjit อาคารสูงระฟ้าสไตล์ Minimalism ท่ามกลางสวนขนาดใหญ่ 4 ไร่ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วย “Private Lift” ทุกยูนิต และโครงการแนวสูงและแนวราบต่างๆอีกมากมาย เป็นต้น”

 

             Noble BE33

             สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมโปรเจกต์แรกของปีนี้ คือ Noble BE33 (โนเบิล บีเทอร์ตี้ทรี) คอนโดใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบบนถนนสุขุมวิท 33 ภายใต้สโลแกน FLIP TO REVEAL YOURSELF พลิกให้พบตัวคุณ เพียง 320 เมตรจาก Sky Walk และ BTS พร้อมพงษ์ (ทางขึ้นลงอนาคต) ในราคาเริ่มต้น 210,000 บาทต่อตารางเมตร

 

 

Noble BE33 แถลงข่าว (ภาพที่ 1)

 

นายศิระ อุดล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากความสำเร็จที่ผ่านมาการเปิดตัวโครงการในย่านสุขุมวิทของโนเบิลฯ และปัจจุบันตลาดคอนโดย่านใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิทก็ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถือเป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยระดับ High End ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติ  ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่าจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึง 77,000 กว่าคน ทำเลสุขุมวิท สาทร ลุมพินียังคงเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มนี้  โดยเฉพาะเส้นสุขุมวิทมีอัตราความต้องการของพื้นที่สำนักงานและที่พักอาศัยสูงขึ้นมาก  โนเบิลฯจึงเดินหน้าเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ “Noble BE33” บนสุดยอดทำเลย่านสุขุมวิท 33 ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 13)

นายศิระ อุดล

ข้อมูล Expat ประเทศไทย

พื้นที่เช่าออฟฟิศ CBD กรุงเทพ

ราคาขาย Luxuary Condo ปรับตัวขึ้น

 

โครงการ Noble BE33 โดดเด่นด้วยศักยภาพของทำเลที่รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ระดับ High End ใกล้ District แห่งใหม่ของแฟชั่นอย่างศูนย์การค้า The Emporium และ The Emquartier ตลอดจน The Emsphere ที่จะเปิดในอนาคต รวมถึงแหล่งธุรกิจ โรงเรียน โรงพยาบาล ที่สามารถเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตทั้งกลางวันและกลางคืนของคนรุ่นใหม่  ดังนั้นไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อลงทุนย่อมถือเป็นความคุ้มค่าอย่างแน่นอน

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 1)

Noble BE33 Sukhumvit

 

คอนเซปต์การดีไซน์ของคอนโด Noble BE33 เป็นอาคารสูง 31 ชั้น 277  ยูนิต ขนาดพื้นที่  2-0-5.91 ไร่  มูลค่าโครงการ 3,300 ล้านบาท โดยมีห้องพักขนาด 34-43 ตารางเมตร  สำหรับ 1 ห้องนอน  ขนาด 51-69 ตารางเมตร สำหรับ 2 ห้องนอน  ขนาดประมาณ 76 ตารางเมตร สำหรับ 3 ห้องนอน และ Penthouse ขนาด 109 -139 ตารางเมตร  กับโถงทางเดินแบบ Single Corridor  สิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็น Reflective Lobby ขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบด้วยกระจกเงารอบด้านสะท้อนความร่มรื่นจากสวนภายนอก และให้ความสว่างไสวด้วยแสงไฟจากภายในระหว่างค่ำคืน พร้อมแยกส่วน Semi-Outdoor Lobby เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนส่วนกลางกว่า 1,000 ตารางเมตร ที่แวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้หลากชนิดให้ร่มเงา และความเป็นส่วนตัวจากความวุ่นวายของเมือง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายกับพื้นที่สวนเสมือนดั่งสวนหลังบ้านของครอบครัว

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 2)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 4)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 3)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 10)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 11)

 

สระว่ายน้ำ Sky Infinity Edge Pool  ยาว 25 เมตร เปิดรับมุมมอง 180 องศา มาพร้อมกับ Sky Garden  และ Sky Fitness  นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบ Key Card Access ทุกห้อง และย้ำความมั่นใจกับ รปภ.ที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม.  ในราคาเริ่มต้น 210,000 บาทต่อตารางเมตร

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 9)

 

ผู้บริหาร Noble Development

ผู้บริหาร Noble Development

 

พลิกให้พบตัวคุณกับคอนโดมิเนียมใหม่ “Noble BE33” ได้วันนี้เพียง 320 เมตรจาก Sky Walk และ BTS  พร้อมพงษ์ (ทางขึ้นลงในอนาคต) เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง และลงทะเบียนรับสิทธิ์จองได้ตั้งแต่วันที่ 5 – 18 มิถุนายน 2558 ที่สำนักงานขาย และเปิดจองวันที่ 21 มิถุนายน 2558 ณ โรงแรมดิโอกุระเพรสทีจ (The Okura Prestige Bangkok) ติด BTS เพลินจิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่   โทร. 02-251-9955 หรือ www.noblehome.com

 

Origin Property แต่งตัวเข้าตลาดฯ ออกงาน “Origin Condo Show” ที่ Terminal21 8–9 มิถุนายน นี้ [ข่าวอสังหาฯ]

$
0
0

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  โชว์ศักยภาพก่อนแต่งตัวเข้าตลาดฯ  ขนคอนโด 16 โครงการออกงาน  “Origin Condo Show” ครั้งที่ 2  ที่ Terminal 21  พร้อมจัดเต็มโปรโมชั้นก่อนเข้าตลาด  2 วันเต็ม  8 – 9 มินายน นี้

 

โชว์ผลงานโดดเด่น  เติบโตสวนกระแส  อัตราเฉลี่ย 70% (CAGR) สถิติในรอบ  3  ปี   2555 – 2557   เตรียมพร้อมเข้าตลาด SET  เสนอขายหุ้นสามัญ  IPO   180  ล้านหุ้น

 

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI   นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ได้จัดงานแถลงข่าวงานใหญ่ประจำปีของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้     “ออริจิ้น คอนโด โชว์” ครั้งที่  2   ….Origin Is More  ลดจัดหนัก”    พร้อมเปิดเผยแผนการ เตรียมแต่งตัวเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย   โชว์ผลงานเติบโตสวนกระแส  อัตราเฉลี่ย  70%  สถิติในรอบ  3  ปี   2555 – 2557   พร้อมเตรียมเข้าตลาด SET  เสนอขายหุ้นสามัญ  IPO   180  ล้านหุ้น ราคาพาร์   หุ้นละ  0.50  บาท

Origin Condo Show (ภาพที่ 7)

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Origin Property

 

นายพีระพงศ์  เปิดเผยว่า   “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้จัดงานแสดง  “ คอนโดโชว์ ครั้งที่ 1”  เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อม โปรโมชั่นสุดพิเศษ เพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าผู้มีอุปการคุณ  ณ  เซ็นทรัลบางนา  บนพื้นที่กว่า 90 ตารางเมตร  ได้นำโครงการออกแสดง 7 โครงการ  ได้รับกระแสตอบรับอย่างสูง   ดังนั้น  ในปี 2558  จึงได้ทุ่มงบกว่า  15 ล้านบาท  จัดงานแสดง  “ออริจิ้น คอนโด โชว์” ครั้งที่ 2 ขึ้น อีกครั้งหนึ่ง  พร้อมจัดเต็ม  โปรโมชั่น คืนกำไรก่อนแต่งตัวเข้าตลาด  เต็มพื้นที่ Terminal 21  ตลอด 2 วันเต็ม  บริเวณลานชั้น  MF  ในวันที่  8 – 9  มิถุนายน 2558  โดยใช้ชื่องาน  “Origin Is More…ลดจัดหนัก !!”   งานนี้เปรียบเสมือนเป็นงาน  “Mid Year  คอนโด โชว์”  ของ ออริจิ้น    สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดคุณภาพที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าและในราคาที่เกินความคุ้ม

โดยคอนโดที่นำออกแสดง ประกอบด้วย  7  คอนโดพร้อมอยู่   และ 9  คอนโดใกล้รถไฟฟ้า  ในทำเลอาทิ  ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง  ปุณณวิถี,  สมุทรปราการ, เกษตร-พหลโยธิน  และ  แนวรถไฟฟ้า ติวานนท์   ในราคาเริ่มต้นเพียง  46,xxx บาท / ตร.ม. (เริ่มต้นตั้งแต่  1.3 ล้านบาท ถึง 2.4 ล้านบาท)   เป็นโครงการในราคาที่ลูกค้าเอื้อมถึง  พร้อม โปรโมชั่นลดจัดหนักแห่งปี  ซึ่งมีทั้ง ส่วนลดเงินสดซึ่งสูงสุดถึง  800,000 บาท*  ตกแต่งพร้อมอยู่   เลือกรับเฟอร์นิเจอร์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า  ฟรี-ค่าใช้จ่ายวันโอน ผ่อนให้ฟรี 1 ปี  และอื่นๆ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

Origin Condo Show (ภาพที่ 8)

Origin Condo Show

 

ซึ่งโครงการที่นำออกแสดง  ประกอบด้วย  โครงการ Kensington Condo สุขุมวิท 107,  B-Loft สุขุมวิท 109,  B-Loft  สุขุมวิท 115,  B-Republic ใกล้ BTS ปุณณวิถี,  The Knight 1 และ The Knight 2 ใกล้ BTS แบริ่ง,  Notting Hill แบริ่ง,  KnightsBridge แบริ่ง,  Notting Hill ติวานนท์, Notting Hill เกษตร, Pause สุขุมวิท 103,  Pause สุขุมวิท 107, Pause ID ใกล้ BTS แบริ่ง, Pause สุขุมวิท 115,  The Cabana ใกล้ BTS สำโรง, Tropicana ใกล้ BTS เอราวัณ และ Villa Lasalle ใกล้ BTS แบริ่ง

Origin Condo Show (ภาพที่ 1)

Knightsbridge

Origin Condo Show (ภาพที่ 2)

Nothing Hill

Origin Condo Show (ภาพที่ 3)

Nothing Hill

Origin Condo Show (ภาพที่ 4)

B Loft Sukhumvit 109

Origin Condo Show (ภาพที่ 5)

B Republic Sukhumvit 101/1

 

นายพีระพงศ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  “ออริจิ้นยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่มีการออกแบบโครงการเป็นเอกลักษณ์ (Uniqueness Project Design)  รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานในยูนิตที่คุ้มค่า  และเน้นนโยบายความเป็นเลิศในด้านการบริการหลังการขาย    โดยวางแผนบรรลุเป้าหมาย แผนระยะสั้น 5 ปี  2557 – 2561 เป็น 1  ใน 3 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมและ แผนระยะยาว 10 ปี ดังนี้  และ แผนระยะยาว 10 ปี  2562-2566  เป็น 1 ใน 5 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย

 

ในส่วนของผลงานด้านโครงการนั้น  ปัจจุบันมีโครงการในมือ 26  โครงการ  มูลค่ารวมประมาณ 17,000 ล้านบาท  รายละเอียดข้อมูล   ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558

  • ปิดโครงการแล้ว จำนวน 1 โครงการ   มูลค่าโครงการ 198   ล้านบาท
  • โครงการที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน  19 โครงการ โดยแบ่งเป็น

–  โครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จ  8  โครงการ  มูลค่าโครงการรวม  2,919 ล้านบาท

– โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา 11 โครงการ  มูลค่าโครงการรวม  6,725  ล้านบาท

  • โครงการในอนาคต จำนวน 7  โครงการ  มูลค่าโครงการรวม ประมาณ 7,170  ล้านบาท

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของออริจิ้น จะเป็นกลุ่มวัยทำงาน และ วัยกลางคน โดย 80% มีวัตถุประสงค์ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นส่วนใหญ่  ถือเป็นกลุ่ม Real Demand อย่างแท้จริง และกลุ่มที่ซื้อเพิ่มการลงทุนและปล่อยเช้าเพียง 20%  โดยจับตลาดเป้าหมายคนทำงาน บนทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้า และ ตลาดในแหล่งนิคมอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งงานเป็นหลัก

 

Origin Condo Show (ภาพที่ 6)

Origin Condo Show

 

ปิดเป้าไตรมาส 1 ปี 58 ปลื้มแจงผลกำไรสุทธิ 21.51% เตรียม Trade ในตลาดไตรมาส 3  

สำหรับแผนการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น  นายพีระพงศ์  เปิดเผยว่า  “บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  ได้แต่งตัง  บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์   ปัจจุบันมีโครงการในมือ  26  โครงการ  มูลค่าโครงการรวมประมาณ 17,000 ล้านบาท   โดย บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม  180 ล้านหุ้น   โดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน  150  ล้านหุ้น  และอีก 30 ล้านหุ้นเป็นหุ้นสามัญเดิม  มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ  0.50 บาท  คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด  ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน  ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ  40  ของกำไรสุทธิ 

ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ในช่วงประมาณไตรมาส 3 ของปี 2558 นี้  ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว   บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต  รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  โดยมีบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์

จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมทั้งแบบอาคาร  Low Rise  และ อาคาร High Rise  อย่างต่อเนื่องนั้น  ทำให้บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

ปี 2555  มีรายได้รวม  192.4  ล้านบาท  กำไรสุทธิ  28.6 ล้านบาท

ปี 2556  มีรายได้รวม  418.9  ล้านบาท  กำไรสุทธิ 64.2  ล้านบาท

ปี 2557  มีรายได้รวม 559.4   ล้านบาท  กำไรสุทธิ  70.3  ล้านบาท

คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)  สำหรับปี 2555 – 2557  ที่อัตรา 70.51%

ทั้งนี้สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2558  ออริจิ้น มีรายได้ รวม  489.5  ล้านบาท   กำไรสุทธิ 105.3 ล้านบาท   คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ  21.51

Noble BE33 Sukhumvit คอนโด high rise กลางสุขุมวิทซอย 33 จากโนเบิล [รีวิว]

$
0
0

รีวิวฉบับนี้ทางอยู่สบายพาไปดูคอนโดใจกลางเมืองอีกแห่งที่เปิดตัวกันสดๆร้อนๆ อย่าง Noble BE33  โดยตัวคอนโดหน้าตาโมเดริ์นเห็นแว๊บแรกก็บอกได้ว่าเป็นแบบโนเบิลสไตล์  ที่ตั้งของคอนโด BE33 นั้นอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ตามชื่อโครงการเป๊ะ  ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่่างไร  ทางเราเก็บข้อมูลมาให้ชมกันอย่างละเอียดครับ

ข้อมูล Fact Sheet ของโครงการ

Noble BE 33 Sukhumvit (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี) 

  • เจ้าของโครงการ >>> Noble Development (โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 33
  • ขนาดที่ดิน >>>  2 – 0 – 5.9 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> 31 ชั้น
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  1, 2, 3 bedroom และ penthouse
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 bedroom  34.25 – 43.72 ตารางเมตร
    • 2 bedroom 51.50 – 69.76 ตารางเมตร
    • 3 bedroom 76.82 ตารางเมตร
    • Penthouse 109.51 – 139.85 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  277 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 67% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 210,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.735487, 100.567734
  • เว็บไซต์โครงการ >>> Noble BE33

 

 

  ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท คลิกที่นี่

Noble BE33 ดีมั๊ย-ดีไหม

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 1)

Noble BE33 Sukhumvit

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 9)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 2)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 4)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 10)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 2)

Noble BE33 Sukhumvit (ภาพที่ 4)

 

Noble BE33 ข้อมูลโครงการ

 

 

  อ่านรีวิว Noble BE33 คลิกที่นี่

 

 

The Tree Elegance ติวานนท์ คอนโด high rise ใกล้ท่าน้ำนนท์ จากพฤกษา [รีวิว]

$
0
0

รีวิวนี้พามาชมคอนโด The Tree อีกตัวของพฤกษาในโซนนนทบุรีกันค่ะ  The Tree Elegance Tiwanon ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์ ไม่ไกลจากท่าน้ำนนท์  ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT สถานีแยกติวานนท์ ประมาณ 1.3 กิโลเมตร  คอนโด The Tree Elegance ติวานนท์  โดยทำเลของโครงการนี้ต้องบอกว่าหลุดออกมาจากแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงพอสมควรค่ะ  ซึ่งถ้าพูดกันตามตรงถ้าจะไปแข่งกันเรื่องทำเลกันติดรถไฟฟ้ากับคอนโดหลายๆโครงการที่เปิดมาก็คงสู้กันตรงๆไม่ไหว  เลยดูเหมือนว่าคอนโดนี้น่าจะมาทำตลาดกับคนในพื้นที่จริงๆที่อยู่ในทำเลนี้กันมานานแล้วมากกว่า  คือเป็นคนที่เดินทางไปไหนมาไหนกันในละแวกชุมชนนั่นแหละ  ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็ต้องยอมเดินทางไกลหน่อยเพื่อแลกกับราคา  ยังไงอยู่สบายก็เลยแวะเข้าไปจัดรีวิวมาให้ชมกันอีกเช่นเคยค่ะ ^_^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Tree Elegance Tiwanon 

(เดอะ ทรี เอลิแกนซ์ ติวานนท์)

  • เจ้าของโครงการ >>> พฤกษา เรียลเอสเตท (Pruksa Real Estate)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนประชาราษฎร์
  • ขนาดที่ดิน >>>  4-2-7.9 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 42 ชั้น  (จอดรถในคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • สตูดิโอ 22-23 ตารางเมตร
    • 1 ห้องนอน 24-29 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 48-48.5 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  1,336  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>>310 คัน (30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.39 ล้านบาท (ห้อง 22 ตารางเมตร ณ วันที่ 29/5/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 70,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.844106, 100.503335

 

The Tree Elegance ดีมั๊ย ดีไหม

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 001

The Tree Elegance ติวานนท์

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 003

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 005

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 006

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 012

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 014

The Tree Elegance ติวานนท์ - ภาพที่ 016

 

 

The Tree Elegance ข้อมูลโครงการ

 

 

  อ่านรีวิว The Tree Elegance คลิกที่นี่

 

Viewing all 5531 articles
Browse latest View live