สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพามาชมทำเลใหม่ของแบรนด์ The Line Ratchathewi   หลังจากที่แบรนด์เดอะ ไลน์ ที่เปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ The Line จตุจักร-หมอชิต และ The Line สุขุมวิท 71 ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทางลูกค้า เพราะตอนนี้ทั้ง 2 โครงการนั้น Sold out ไปหมดแล้วตั้งแต่เปิดขายวันแรกทั้งคู่  อันนี้ก็ต้องยอมรับว่าส่วนนึงเป็นฝีมือของทีมมาร์เก็ตติ้งแสนสิริ  โดยเฉพาะการบิ๊วคอนโดทำเลรองๆอย่างสุขุมวิท 71 ที่ไม่ได้ติดถนนสุขุมวิทด้วย ให้ขายหมดภายได้ในวันเดียว

แบรนด์ The Line นั้นเป็นการร่วมทุนกับระหว่างแสนสิริ กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง พัฒนาโครงการคอนโดในแนวรถไฟฟ้าที่เป็นสัมปทานของ BTS ค่ะ ตอนนี้มีด้วยกันทั้งหมด 5 โครงการ ซึ่งก็เปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ เหลืออีก 3 โครงการได้แก่ The Line ราชเทวี, The Line พหลโยธิน พาร์ค และ The Line วงศ์สว่าง ค่ะ

ตัวที่เราจะพามาชมทำเลกันวันนี้คือ เดอะ ไลน์ ราชเทวี ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี บริเวณปากซอยเพชรบุรี 18 ใกล้ๆกับ BTS ราชเทวีค่ะ

(ขอแปะของข้อมูล Fact Sheet เบื้องต้นไว้ก่อน ตอนนี้รายละเอียดยังมีไม่มาก ถ้าโครงการเปิดตัวเมื่อไหร่จะมา Update กันอีกรอบค่ะ ^^)

The Line Ratchathewi (เดอะ ไลน์ ราชเทวี)

• เจ้าของโครงการ >>> บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ปากซอยเพชรบุรี 18 ถนนเพชรบุรี
• ขนาดที่ดิน >>>  n/A ไร่
• จำนวนชั้น >>> n/A ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> n/A ยูนิต
• จำนวนอาคาร >>> n/A อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>> n/A
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> n/A บาทต่อตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.752455, 100.533524
• เว็บไซต์โครงการ >>> http://www.sansiri.com/condominium/theline_ratchathewi/
• ติดต่อโครงการ >>> 1685

ส่องทำเล

มาดูที่ภาพรวมของทำเลที่ตั้งโครงการกันก่อนค่ะ The Line ราชเทวี ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ปากซอยเพชรบุรี 18 ซึ่งซอยเพชรบุรี 18 เป็นซอยที่เดินรถทางเดียว เนื่องจากซอยค่อนข้างแคบค่ะ ต้องเข้ามาจากตรงถนนพญาไทใกล้ๆกับทางกลับรถใต้สะพานหัวช้างค่ะ ส่วนทางที่ออกไปถนนเพชรบุรีนั้นใช้เป็นทางออกอย่างเดียวค่ะ ทางด้านหน้าโครงการนั้นจะเป็นสะพานข้ามแยกไปพระราม 6 มีทางกลับรถอยู่บริเวณใกล้กับแยกราชเทวี ส่วนการเดินทางไป BTS นั้น ถ้าเดินจากหน้าโครงการไปยัง BTS ราชเทวี ระยะทางจะอยู่ประมาณ 250 เมตรค่ะ บริเวณ BTS ราชเทวีนั้น ถ้าตรงไปก็จะถึงสยามค่ะ ถ้านั่ง BTS ไปสถานีสยามก็เพียงแค่สถานีเดียวเท่านั้น นอกจากนี้แล้วถ้ามาจากทางพารากอน สามารถใช้ทางลัดมาออกเส้นเพชรบุรีได้สบายๆ ไม่ต้องเข้าเส้นพญาไทที่รถค่อนข้างติดในบางช่วงเวลา

จากหน้าโครงการบนถนนเพชรบุรี ถ้าตรงไปจะไปพระราม 6 ขึ้นทางด่วนออกนอกเมืองได้ ส่วนถ้าจะไปราชปรารภ ราชดำริ ชิดลมหรืออโศกก็ต้องไปกลับรถบริเวณก่อนถึงแยกราชเทวีค่ะ

ขึ้นไปที่ฝั่ง ฺBTS พญาไท ที่อยู่ถัดจาก BTS ราชเทวีเพียงสถานีเดียว ก็จะมี Airport Link พญาไท ที่อยู่ BTS พญาไทเลยค่ะ ใต้ Airport Link จะเป็นที่ทางรถไฟสายตะวันออกค่ะ ส่วนถ้าตรงไปทางแยกพญาไทก็จะไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็น Hub การเดินทางสำคัญของกรุงเทพมหานคร

ดูภาพกว้างๆกันมาแล้ว มาซูมดูบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ ที่ดินของ The Line ราชเทวี นั้นจะเป็นปากซอยเพชรบุรี 18 บนถนนเพชรบุรีค่ะ ทางด้านทิศตะวันตกนั้นติดกับคอนโดบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน (หมายเลข 1) ของเอพี ซึ่งใช้ทางเข้าออกเดียวกับ The Address ปทุมวัน (หมายเลข 2) ซึ่งเป็นคอนโด 8 ชั้นของเอพี เช่นกัน อยู่ทางทิศใต้ของแปลงที่ดินโครงการ ปากซอยเพชรบุรี 18 อีกฝั่งจะเป็นกรมการพลังงานทหาร (หมายเลข 3) ส่วนซอยเพชรบุรี 18 ก็มีอพาร์ทเม้นท์ชื่อ ราชเทวี อพาร์ทเม้นท์ (หมายเลข 4) อยู่ นอกนั้นภายในซอยก็เป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวค่ะ ออกมาบริเวณถนนเพชรบุรีอีกรอบติดกับกรมพลังงานทหารจะเป็นคอนโด The Address Siam (หมายเลข 5) ซึ่ง The Address ตัวนี้จะเป็นอาคารสูงนะคะ แปลงติดกันกับ The Address สยาม ตอนนี้กั้นและเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยเป็นคอนโด Wish Signature Midtown Siam (หมายเลข 6) มีสำนักขายอยู่ในซอยเพชรบุรี 20

มาดูที่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการบนถนนเพชรบุรีกันบ้าง ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการเพียงเล็กน้อยเป็นคอนโด  Ideo Q Ratchathewi (หมายเลข 7) ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตอนนี้ก็เห็นอาคารขึ้นเป็นรูปเป็นร่างใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีค่ะ ส่วนอีกโครงการก็เลยไปหน่อยเป็น Ideo Q Siam-Ratchathewi (หมายเลข 8) โครงการตัวที่ 2 ของอนันดาในทำเลนี้ มีสำนักขายอยู่หัวมุมแยกราชเทวี (หมายเลข 9) ค่ะ

หัวมุมแยกราชเทวีจะมีสำนักขายของ Ideo Q สยาม-ราชเทวี ซึ่งตั้งอยู่ใน แปลงที่ดินของตระกูลจุฬางกูร (หมายเลข 10)  แปลงที่ดินนี้เก็บไว้มานาน เคยมีข่าวมาว่าจะพัฒนาเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม และคอมมิวนิตี้มอลล์ แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นพื้นที่ว่างอยู่ค่ะ ต้องรอดูๆกันต่อไป ส่วนเยื้องๆกันตรงแยกราชเทวีก็มีที่ดินแปลงใหญ่อีกแปลง ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (หมายเลข 11) ประมาณ 3 ไร่ ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะพัฒนาโครงการเป็นอะไรเช่นกัน แต่ดูจากทำเลรอบๆนี้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้ทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือคอมมิวนิตี้มอลล์ค่ะ

ส่วนบนเส้นถนนพญาไท บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีราชเทวีนั้นติดกับแปลงที่ดินของตระกูลจุฬางกูล จะเป็น Cocowalk ราชเทวี (หมายเลข 12) เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านเหล้าตอนกลางคืน ซึ่งตอนนี้ร้านใหม่ๆเปิดขึ้นมาค่อนข้างเยอะค่ะ ถัดไปอีกนิดเป็นโรงแรม Vie Hotel Bangkok (หมายเลข 13) ข้ามมาฝั่งตรงข้ามก็คงจะลืม Pyne by Sansiri (หมายเลข 15) ไปไม่ได้ ใกล้ๆกันเป็นโรงแรมเอเชีย (หมายเลข 14) และเลยไปทางถนนเพชรบุรีในฝั่งนี้เป็นคอนโด Condolette Ize (หมายเลข 16) 

ข้ามไปฝั่งพญาไทก็มีคอนโด Villa Rachetewi (หมายเลข 17), Patumwan Resort (หมายเลข 18) ซึ่งเป็นคอนโดเก่า และคอนโดอีกตัวนึงซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งวัดกันตรงๆ กับ The Line Ratchathewi ก็คือ The Reserve พญาไท  (หมายเลข 19) เป็นคอนโดของพฤกษา เรียลเอสเตท  ซึ่งเปิดตัวปีหน้าค่ะ  ราคาเฉลี่ยเท่าที่ทราบนั้นเกินสองแสนบาทต่อตารางเมตรขึ้นไปแน่นอน  ซึ่งคงจะเปิดหลังหลังโครงการ The Line ราชเทวี พักใหญ่ๆ  แต่ตอนนี้ก็มีการกั้นรั้วรอบไว้เรียบร้อยแล้ว

วันนี้เราเดินทางกันด้วยรถไฟฟ้าบีทืีเอสค่ะ พาเดินไปโครงการ ระยะทางประมาณ 250 เมตร

เริ่มจากบนบีทีเอสราชเทวีเลย

The Line นั้นเป็นการร่วมทุนกันระหว่างแสนสิริ และ บีทีเอส ดังนั้นเราจึงจะเห็นขบวนรถบีทีเอสโฆษณาเดอะ ไลน์อยู่บ่อยๆค่ะ ทั้งตัวรถไฟฟ้าเองและโฆษณาด้านในรถไฟฟ้า

ออกทางออก 4 ค่ะ

เดินลงมาริมถนนพญาไท ด้านข้างที่กั้นไว้เป็นที่ดินของตระกูลจุฬางกูร ที่ยังเป็นที่ว่างรอการพัฒนาที่ดินค่อนข้างใหญ่ ถ้ามาจากโครงการนั้นทางขึ้นรถไฟฟ้าจะเป็นบันไดเลื่อนค่ะ ไม่ต้องเดินขึ้นให้เปลืองแรง

เดินมาถึงหัวมุมถนนราชเทวีจะเจอสำนักงานขาย Ideo Q สยาม-ราชเทวี ให้เลี้ยวขวาไปถนนเพชรบุรี

เดินเข้ามาตรงถนนเพชรบุรี ฟุตบาทตรงนี้จะค่อนข้างกว้างเดินสบายๆไม่มีสิ่งกีดขวาง รวมไปถึงไม่มีร่มเงาด้วยค่ะ เดินตอนกลางวันออกจะโดนแดดเผาเกรียมได้

เดินมาเจอโครงการบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน ซึ่งที่ดินของ The Line ราชเทวีจะอยู่ติดกับโครงการบ้านกลางกรุงเลยค่ะ

ถึงแล้วค่ะ ตอนนี้กั้นที่ดินโดยรอบไว้เรียบร้อย

โครงการอยู่ตรงทางเข้าซอยเพชรบุรี 18 เลย

เริ่มจากบริเวณรอบๆที่ดินของโครงการกันก่อนค่ะ

ฟุตบาทด้านหน้าโครงการ

ติดกับที่ดินโครงการตอนนี้เป็นเพิงที่ตั้งของพี่วินมอไซค์อยู่ค่ะ ซึ่งคนที่ใช้บริการก็เป็นลูกบ้านในคอนโดบ้านกลางกรุงนั้นเอง

ถนนเพชรบุรีด้านหน้าโครงการ มีสะพานข้ามแยกราชเทวี ซึ่งออกไปจากโครงการจะขึ้นสะพานข้ามแยกไม่ทันค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมองไปเห็น Ideo Q ราชเทวีตัวแรก

โครงการเพื่อนบ้านอย่างบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน เป็น High-rise ด้านในจะมีโครงการ The Address ปทุมวัน เป็นโครงการ Low-rise

บ้านกลางกรุง มองจากในซอยเพชรบุรี 18 ติดกับด้านข้างของที่ดินค่ะ มี 2 อาคาร สูง 26 และ 27 ชั้น

ด้านหลังที่ดินกับที่ดินโครงการ จะเป็น The Address ปทุมวัน สูง 8 ชั้น มี 2 อาคารค่ะ

คอนโดฝั่งตรงข้ามกับบ้านกลางกรุงเป็นวิลล่า ราชเทวีค่ะ แต่อยู่ฝั่งใกล้ๆกับบีทีเอส พญาไท

เดินเข้ามาซอยเพชรบุรี 18 ซอยข้างๆโครงการ

ซอยค่อนข้างแคบค่ะ เดินทางได้ทางเดียว

ที่ดินโครงการจากรั้วด้านข้าง ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เตรียมพื้นที่สำหรับก่อสร้างใดๆ

ภายในซอยด้านหน้ามีบ้านพักอาศัย

ด้านหลังเป็นคอนโด The address สูง 8 ชั้น

ในซอยมีวินมอไซค์รับจ้างด้วย เนื่องจากภายในซอยมีอพาร์ทเม้นท์ รวมไปถึงบ้านพักอาศัยอยู่

บรรยากาศภายในซอยด้านในค่ะ ซ้ายมือจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ ส่วนขวามือเป็นตึกแถว

ด้านล่างของราชเทวี อพาร์ทเม้นท์ภายในซอยเพชรบุรี 18

ออกมาดูบรรยากาศบนเส้นถนนเพชรบุรีกัน

ฟุตบาทบริเวณปากซอยเพชรบุรี 18

ติดกับซอยเพชรบุรี 18 อีกด้านจะเป็นกรมการพลังงานทหาร

ฝั่งตรงข้ามเป็น Ideo Q ราชเทวีตัวแรก ตัวอาคารใกล้จะเสร็จแล้ว

ถัดจาก Ideo Q ราชเทวีไปหน่อย มี Ideo Q สยาม-ราชเทวี ตัวที่ 2

ถัดจากกรมการพลังงานทหารไปเป็น The Address สยาม

ติดกับ The Address สยามเป็น Wish Signature Midtown Siam โครงการใหม่ค่ะ

Wish Signature Midtown Siam ตอนนี้กั้นรั้วเตรียมพื้นที่ก่อสร้างเอาไว้แล้ว ส่วนสำนักงานขายอยู่ซอยเพชรบุรี 20 ซอยข้างๆโครงการ

จากหน้าโครงการ Wish Signature Midtown Siam มองไปเห็น The Address สยาม

บริเวณปากซอยเพชรบุรี 20 ค่ะ เลยไปหน่อยมีสะพานลอย

ภายในซอยเพชรบุรี 20 มีสำนักงานของ Wish อยู่

จากบริเวณซอยเพชรบุรี 20 มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นโครงการ Ideo Q สยาม-ราชเทวี และ Ideo Q ราชเทวีตัวที่ใกล้จะสร้างเสร็จแล้วค่ะ

จากหน้าซอยเพชรบุรี 20 เช่นกันมองไปเห็นตึกใบหยก

ถนนเพชรบุรีฝั่งจะไปประตูน้ำ

จากสะพานลอยตรงเพชรบุรี 20 ค่ะ มองไปจะเห็นคอนโดเรียงราย ใกล้สุดฝั่งซ้ายเป็น The Address สยาม ถัดไปเป็น บ้านกลางเมือง สยาม-ปทุมวัน ซึ่งต่อไปในอนาคตจะมี The Line ขึ้นแทรกค่ะ

วนไปฝั่งจะไปประตูน้ำกันแล้ว ขอกลับมาฝั่งไปราชเทวีต่อค่ะ

เอาภาพด้านหน้าโครงการ ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามมาให้ดูกัน จะเห็นได้ว่า ตัวที่ดินโครงการนั้นอยู่ติดกับบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวันเลย

เดินมาฝั่งจะไป BTS ราชเทวี จะเห็นสำนักงาน Ideo Q สยาม-ราชเทวีอยู่หัวมุม

ที่กลับรถจะอยู่ใกล้ๆกับแยกราชเทวี

หัวมุมด้านหน้าสำนักงานขายของ Ideo Q สยาม-ราชเทวี

ข้ามมาฝั่งจะไป BTS พญาไท

หัวมุมอีกฝั่งจะมีแปลงที่ดินว่างรอการพัฒนาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

บรรยากาศบนถนนพญาไทฝั่งจะไป BTS พญาไทค่ะ

จบด้วยบริเวณโดยรอบรถไฟฟ้าราชเทวีค่ะ

ถนนพญาไทก่อนจะถึงบีทีเอสราชเทวี

ติดกับทางขึ้น BTS จะมีวินมอไซค์รับจ้างอยู่

ทางขึ้น BTS ที่ใกล้ที่สุดจากโครงการจะเป็นบันไดเลื่อนค่ะ

ด้านนี้จะเป็นทางออก 4 เวลาเดินกลับคอนโด

ป้ายรถประจำทางใต้บีทีเอสราชเทวี

ร้านกาแฟ B story Cafe ติดกับสถานีราชเทวี

มองจากบน BTS จะเห็น Cocowalk ชัดเจน บริเวณนี้จะมีร้านอาหารและร้านเหล้า รวมไปถึงคาเฟ่แมวก็มีนะคะ

แปลงที่ดินของตระกูลจุฬางกูร เป็นพื้นที่รกร้างขนาดใหญ่ เห็นชัดเจนเมื่อมองจาก BTS

บ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน ทั้ง 2 อาคาร เด่นมากถ้ามองมาจาก BTS

ถัดจากบ้านกลางกรุง ไปทางสยามจะเห็นโรงแรม Vie hotel bangkok

Pyne by sansiri บริเวณรถไฟฟ้าราชเทวี

คอนโด Condolette Ize Ratchathewi ฝั่งเดียวกับ Pyne แต่ทางเข้าอยู่เส้นเพชรบุรีค่ะ

วิวจากบนชานชาลารถไฟฟ้า ฝั่งมองไปทาง BTS พญาไท

มองจากรถไฟฟ้าเช่นกัน แต่เป็นฝั่งสยามค่ะ

พาไปเดินเล่นรอบๆโครงการ The Line ราชเทวีกันมาแล้ว จะเห็นว่าโซนนี้มีคอนโดขึ้นใหม่ค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งทางอยู่สบายเองก็เคยรีวิว รวมทั้งพรีวิวโครงการเพื่อนบ้านข้างเคียงกันมาแล้วค่ะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมไว้ประกอบการตัดสินใจได้เลย

รีวิวทำเลคอนโด Ideo Q Siam-Ratchathewi

รีวิวห้องตัวอย่างคอนโด Ideo Q Siam-Ratchathewi

รีวิวคอนโด Ideo Q Ratchathewi

พรีวิวคอนโด Wish Signature Midtown Siam

รีวิวคอนโด Pyne by Sansiri

ดูกันไปคร่าวๆ สำหรับพรีวิวทำเลของคอนโด The Line ราชเทวีกันแล้ว โครงการเป็นรูปเป็นร่างกว่านี้  มีข้อมูลมากกว่านี้เมื่อไหร่เดี๋ยวจะจัดรีวิวฉบับเต็มมาฝากกันค่ะ

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 ได้มีการจัดงานเปิดตัวโครงการ “โชว์ ดีซี (SHOW DC)” โครงการศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร กับแนวคิดค้าปลีกและบันเทิงในรูปแบบใหม่ “SHOP & ENJOY” เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม พร้อมด้วยแหล่งเอนเตอร์เทนเมนต์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ

โครงการศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ โชว์ ดีซี (SHOW DC)

วันที่ 16 กันยายน 2558 – บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด แถลงเปิดตัวโครงการ “โชว์ ดีซี” (SHOW DC) ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรแห่งแรกของไทย ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เตรียมเปิดในเดือนมิถุนายน 2559 ทุ่มงบลงทุนทั้งสิน 9,500 ล้านบาท ตั้งเป้าที่จะดึงนักท่องเที่ยว 100,000 คนต่อวัน พร้อมกับชูแนวคิดค้าปลีกสุดล้ำ “Shop & Enjoy ผสมผสานกับความบันเทิงตื่นตาตื่นใจเข้ากับร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึง “K-Town” เมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โชว์ ดีซีตั้งอยู่ใกล้ถนนพระราม 9 บนพื้นที่ 27 ไร่ มีพื้นที่ภายในอาคาร 150,000 ตารางเมตร 

โชว์ ดีซี (SHOW DC) มีที่มาจากภาษาอังกฤษ คือ Show Destination Center ซึ่งหมายถึง ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์สุดหรูครบวงจรค่ะ 

นายชยดิฐ หุตานุวัชร ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด

นายชยดิฐ หุตานุวัชร ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด และ นางประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ รองประธาน โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด

ภาพบรรยากาศในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “โชว์ ดีซี (SHOW DC)”

นายชยดิษฐ์ หุตานุวัชร์ ประธานบริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวว่า “เราเป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำเอาแนวคิด “Shop&Enjoy” (หรือซื้อหาสินค้าพร้อมสรรพกับความบันเทิง) มาใช้ โดยผสมผสานสุดยอดประสบการณ์ช้อปปิ้งและการกินดื่มเอาไว้ที่เดียว เพื่อลูกค้าและผู้เยี่ยมชมได้ดื่มด่ำไปกับการช้อปปิ้ง การกินดื่ม และการชื่นชมวัฒนธรรมทั้งของประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไฮไลท์สำคัญของโชว์ ดีซี จะอยู่ที่สินค้าและบริการสุดอินเทรนด์จากเกาหลี ซึ่งโดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ลูกค้ายังจะได้เพลิดเพลินไปกับเอนเตอร์เทนเมนต์ชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็น “ศูนย์การประชุมและการแสดง” ซึ่งรองรับผู้คนได้ตั้งแต่ 1,500 คน บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร “สปอร์ต อารีนา” สนามแข่งขันกีฬาเพื่อความบันเทิงแห่งเอเชีย รองรับผู้ชมได้ 1,500 ที่นั่ง รวมถึง การแสดงพิเศษส่งเสริมวัฒนธรรม “หิมพานต์ อวตาร” มหัศจรรย์ตำนานวรรณคดีไทยเสมือนจริงในรูปแบบ 4D โดยใช้เทคโนโลยีแสง สี เสียงสุดล้ำแบบโฮโลกราฟฟิค ที่ยิ่งใหญ่อลังการบนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร”

“ขณะนี้พื้นที่ให้เช่าของโชว์ ดีซี มีผู้เช่าแล้ว 60% โดยหนึ่งในบรรดาผู้เช่ารายใหญ่ ได้แก่ “YG Entertainment” ซึ่งเป็นค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปิน “K-Pop” ชื่อก้องโลก อย่าง “BIGBANG” (บิ๊กแบง), “PSY” (ไซ กังนัมสไตล์) และ 2NE1 (ทูเอนีวัน) ทั้งนี้ YG Entertainment ได้จับจองพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร บนชั้นดาดฟ้า เพื่อเตรียมเปิดศูนย์วัฒนธรรมและความบันเทิงสไตล์ “K-Pop” ให้ทุกคนได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับคลับสุดฮิปอีกด้วย” นายชยดิษฐ์ กล่าวเสริม

นางประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ รองประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวว่า “เรายังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ราว 50,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ โชว์ ดีซี คือ ค้าปลีกรายแรกรายแรกในประเทศไทยที่ออกแบบการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมหาศาล โดยเราได้ทุ่มทุนสร้างที่จอดรถบัสขนาดใหญ่ รวมไปถึงจัดการวางแผนเส้นทางการเดินชมของผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งมั่นใจได้ว่าลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกท่านจะได้รับความสะดวกสบายตลอดเวลามา โชว์ ดีซี อย่างแน่นอน”

หนึ่งในความสะดวกสบายสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่โชว์ ดีซี เตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ “VIP Traveller Lounge” เพื่อให้นักท่่องเที่ยวได้ใช้เวลาผ่อนคลายในวันสุดท้ายที่ประเทศไทย หลังจากเช็คเอาท์จากโรงแรมที่พักแล้ว โดยที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการฝากกระเป๋าเดินทาง อาบน้ำ หรือพักผ่อน หลักจากเช็คเอาท์จากโรงแรมที่พักและในขณะรอเครื่องบินไฟลท์ค่ำ นอกจากนี้ โชว์ ดีซี ยังได้เตรียมบริการรถรับส่งฟรีไปยังสนามบินในกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

โชว์ ดีซี ตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ สะดวกต่อการเดินทางด้วยหลากหลายเส้นทางรถยนต์และรถไฟฟ้า โดยอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรีและพระราม 9 รวมถึงใกล้ทางด่วนศรีรัชฯ ขาลงด่านพระราม 9 และขาขึ้นด่านอโศก 1

“การเกิดขึ้นของโชว์ ดีซี จะช่วยสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการสร้างสรรค์แหล่งช้อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเมนต์สุดหรูครบวงจรน่าตื่นตาตื่นใจใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย โชว์ ดีซี ในฐานะแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่สำคัญของอาเซียน จะช่วยเสริมแกร่งภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย ให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางการช้อปปิ้งและความบันเทิงแห่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป” นายชยดิษฐ์ กล่าวสรุป

นายชยดิฐ หุตานุวัชร ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด และ นางประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ รองประธาน โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด

SHOW DC (โชว์ ดีซี)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>>  บนถนนจตุรทิศ ใกล้พระราม 9
• ขนาดที่ดิน >>> 27 ไร่
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร พื้นที่ 150,000 ตารางเมตร
• ไฮไลท์สำคัญ >>>
  • “ศูนย์การประชุมและการแสดง” รองรับผู้ชม 5,000 คน
  • “สปอร์ต อารีนา” สนามแข่งขันกีฬาเพื่อความบันเทิง รองรับผู้ชม 1,500 ที่นั่ง
  • “การแสดงพิเศษส่งเสริมวัฒนธรรม – หิมพานต์ อวตาร” บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร
  • “K-Town” เมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์รวม K-Fashion และ K-Beauty
  • “เอนเตอร์เทนเมนต์ พาร์ค โดย YG Entertainment” ศูนย์วัฒนธรรมและความบันเทิงสไตล์ K-pop บนชั้นดาดฟ้า พร้อมคลับสุดฮิป
  • “เอเชียนฟู้ดสตรีท” แหล่งรวบรวมอาหารขึ้นชื่นจากหลากหลายประเทศในเอเชีย
  • “VIP Traveller Lounge” ให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ
    • บริการขนมและเครื่องดื่ม พร้อมห้องอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
    • ที่รับฝากกระเป๋าเดินทาง
    • เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ โดยมีพนักงานต้อนรับสื่อสารได้หลายภาษา
    • บริการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า
    • ฟรี Wi-Fi
    • บริการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา
    • บริการรถรับส่งระหว่างสถานีรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน และโรงแรมใกล้เคียง มายังโชว์ ดีซี และจากโชว์ ดีซี ไป 2 สนามบินในกรุงเทพฯ
• ที่จอดรถ >>> รถยนต์และรถตู้ 1,200 คัน / รถบัสขนาดใหญ่ 100 คัน
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ >>> มิถุนายน 2559
• พิกัด GPS >>> 13.752022, 100.571922
• เว็บไซต์โครงการ >>> www.showdc.co.th/
• เบอร์ติดต่อโครงการ >>> โทร 02-203-1888

โมเดลของโครงการ SHOW DC ค่ะ ตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ ใกล้ๆกับ RCA

ด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นพื้นที่จอดรถ จากในโมเดลจะเห็นว่า ทำพื้นที่จอดรถสำหรับรถบัสไว้ค่อนข้างเยอะ

ด้านข้างโครงการติดคลอง

ด้านหลังโครงการก็มีพื้นที่จอดรถบัสโดยเฉพาะอยู่ค่ะ

ด้านข้างอีกฝั่งนึง

พามาดูบรรยากาศในงานแถลงข่าวเพิ่มเติมค่ะ

ภายใน 5 ปีข้างหน้า คือปี 2020 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยถึง 37 ล้านคนต่อปี โดยโชว์ ดีซี นั้นเชื่อว่า จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับแหล่งท่องเที่ยวดั้งเดิมของไทยที่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นมากจนเกินไปได้

8 กุญแจสำคัญในการดึงดูดคนเข้ามาในโครงการค่ะ

มีบริการสำหรับรองรับสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เช่น บริการรถรับส่งไปรถไฟฟ้า โรงแรม และ สนามบินค่ะ

K-Town เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นและความงามจากเกาหลี

Lotte Duty Free จากเกาหลีเช่นกัน

Himmapan Avatar เป็นการแสดงรูปแบบ 4D ตำนานวรรณคดีไทย 

Ong Bak Live Show โชว์มวยไทยก็มีค่ะ

ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือ อาหารไทย

นอกจากนี้ยังมีอาหารจากหลายประเทศในเอเชียมาไว้ที่นี้ด้วยค่ะ

ตอนนี้ โครงการ “โชว์ ดีซี” กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างนะคะ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมิถุนายน ปีหน้า ถ้าโครงการเสร็จแล้ว ทางอยู่สบายจะไปเก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมอีกครั้งหนึ่งค่ะ ^^

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี ของทางเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตรงข้ามเยื้องๆกับซอยเพชรบุรี 47 ซึ่งเป็นทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพ และอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าซอยทองหล่อ  ตัวโครงการนั้นเพิ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการไปไม่นาน

ตัวแบรนด์ The Niche นั้นทางเสนาฯ แตกเป็นแบรนด์ย่อย (sub brand) ออกมา 3 ตัว  คือ The Niche ID เป็นคอนโด low rise และ The Niche Mono กับ The Niche Pride ที่เป็นคอนโด high rise ค่ะ …. เจ้าตัวคอนโด The Niche Pride Thonglo-Phetchaburi นี้เป็นตัวแรกของแบรนด์ The Niche Pride

วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิว เดอะนิช ไพร์ด ทองหล่อ-เพชรบุรี มาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยเหมือนกับทุกรีวิวค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi

(The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี)

• เจ้าของโครงการ >>>  บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนเพชรบุรี
• ขนาดที่ดิน >>>  3-2-71 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารพักอาศัย 33 ชั้น และ อาคาร Retail shop
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 30.4-45 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 59 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 667  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 42% ในช่องจอด  รวมจอดซ้อนคันประมาณ 49%
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.59 ล้านบาท (แบบ 1 ห้องนอน 30.4 ตารางเมตร ราคา ณ วันที่ 13/8/2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  100,000 บาท/ตารางเมตร
• เว็บไซต์โครงการ >>> The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี 
• ติดต่อโครงการ >>> 1775  กด  30
• พิกัด GPS >>> 13.744694, 100.584230

โครงการ The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี นั้นตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ติดกับที่ทำการไปรษณีย์เพชรบุรีตัดใหม่และโชว์รูมโตโยต้า และอยู่ตรงข้ามเยื้องๆ ระหว่างเพชรบุรี 47 ที่เป็นซอยทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพ กับซอยอาร์ซีเอค่ะ ส่วนฝั่งเดียวกันนั้นจะอยู่ใกล้กับซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ สามารถไป BTS ทองหล่อได้ และซอยสุขุมวิท 39 ที่ไปออก BTS พร้อมพงษ์ได้ค่ะ นอกจากนี้แล้วในเส้นถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้นก็สามารถไปขึ้น MRT เพชรบุรี รวมทั้ง Airport Link มักกะสัน ซึ่งก็อยู่ติดกับแปลงที่ดินมักกะสัน  ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดที่กำลังรอการพัฒนาค่ะ นอกจากนี้ถ้าจะไปขึ้นทางด่วนก็ต้องออกไปบริเวณพระราม 9 ใกล้ๆ กับสถานีมักกะสันค่ะ หรือถ้าจะออกนอกเมืองก็ไปขึ้นที่ถนนเอกมัย-รามอินทราค่ะ

แผนที่ The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจาก BTS ทองหล่อ เข้าซอยทองหล่อไปออกถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่ะ พอออกจากซอยทองหล่อเลี้ยวซอยเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่แล้ว โครงการจะอยู่เยื้องๆซอยเพชรบุรี 47 ค่ะ ระยะทางจาก BTS ทองหล่อไปถึงโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 2.8 กิโลเมตรค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ใกล้กับซอยทองหล่อ และเยื้องๆกับซอยเพชรบุรี 47 นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าซอยอาร์ซีเอ และซอยสุขุมวิท 39 ส่วนด้านหลังที่ดินของโครงการนั้นจะติดกับคลองแสนแสบที่ขนานไปกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่ะ

ระบบบส่งมวลชนนั้นตามการเดินทางสามารถมาได้จาก BTS ทองหล่อ เข้าซอยทองหล่อมาออกเพชรบุรี หรือจะไปขึ้น MRT สถานีเพชรบุรี ตรงแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งตรงนี้ก็จะเชื่อมต่อกับ Airport Link มักกะสันด้วย ซึ่งข้างๆกับมักกะสันนั้นก็เป็นแปลงที่ดินมักกะสัน เป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดที่กำลังรอการพัฒนา ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป มีทั้งไอเดียของสวนสาธารณะหรือจะเป็นมักกะสัน คอมเพล็กซ์  หรือว่าจะเป็นการผสมกันทั้งสองแบบด้วยสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งก็น่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริเวณนี้ได้เยอะเลยค่ะ ส่วนทางด่วนนั้นจากแผนที่ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นทางด่วนพระราม 9 ค่ะ สามารถใช้ซอยอาร์ซีเอเป็นทางลัดไปขึ้นทางด่วนได้ค่ะ

ดูในภาพรวมกันมาแล้ว ซูมลงมาดูใกล้ๆกับโครงการกันบ้าง ทางเข้าโครงการนั้นติดกับถนนเพชรบุรีเลย ส่วนด้านหลังนั้นก็ติดกับคลองแสนแสบ ส่วนด้านข้างบริเวณที่ติดกับถนนใหญ่นั้นจะติดกับตึกแถวที่เป็นที่ทำการไปรษณีย์ (หมายเลข 1) ซึ่งบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว ไม่ค่อยมีอาคารสูงค่ะ อีกด้านที่ติดกับที่ดินโครงการจะเป็น โชว์รูม โตโยต้า (หมายเลข 2) เลยไปหน่อยเป็นธนาคารกสิกรค่ะเข้ามาในที่ดินด้านข้างนั้นจะเป็นโรงแรมดีมิเตอร์ เรสซิเดนซ์ สวีท (หมายเลข 3) เป็นโรงแรมสูงประมาณ 5 ชั้น และถ้ามองจากตัวที่ดินไปทางฝั่งโรงแรมจะเห็นคอนโด Thru ทองหล่อ (หมายเลข 4) เป็นคอนโด High-rise ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าซอยทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามนั้นจะเป็นซอยเพชรบุรี 47 ปากซอยจะเป็นศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ (หมายเลข 5) และเข้าภายในซอยจะเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพ (หมายเลข 7) ภายในซอยเพชรบุรี 47 ติดกับถนนกำแพงเพชร 7 จะมีโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า Airport Rail Link (หมายเลข 6) อยู่ด้วยค่ะ จากแผนที่จะเห็นแนว Airport link และรถไฟสายตะวันออกวิ่งขนานกับถนนกำแพงเพชร 7 ไป ซึ่งซอยนี้สามารถทะลุไปออกถนนพระราม 9 ได้ด้วย

กลับมาบนถนนเพชรบุรี ฝั่งที่จะไปเอกมัย-รามอินทรา เลยซอยทองหล่อมาแล้วจะเป็นคอนโด The Capital เอกมัย-ทองหล่อ (หมายเลข 8) เลยคอนโดมาหน่อยจะเป็นอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 (หมายเลข 9)  และติดกันก็เป็นคอนโด Supalai Park เอกมัย-ทองหล่อค่ะ ซึ่งเป็น High-rise ทั้งหมด อยู่ปากซอยหัวมุมถนนเอกมัยเลย ส่วนอีกด้านของถนนเพชรบุรีนั้นจะมีทางเข้าซอยอาร์ซีเอค่ะ นอกเหนือจากผับแล้ว กลางวันก็มีร้านอาหาร และ Top Supermarket (หมายเลข 12) ด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ

ด้านข้างทางเข้าโครงการเป็นตึกแถวและเสาสัญญาณค่ะ

ตึกแถวบริเวณด้านข้างโครงการติดกับถนนเพชรบุรี

ด้านหลังโครงการฝั่งไปรษณีย์จะเป็นพื้นที่ว่างค่ะ

ด้านอีกด้านเป็นโรงแรม ดีมิเตอร์ เรสซิเดนซ์ สวีท

มองจากตัวที่ดินเห็นคอนโด Thru ทองหล่อ สูง 35 ชั้น

ด้านหน้าทางเข้าโครงการ

ติดกับโครงการมีป้ายรถประจำทาง

ฟุตบาทบริเวณข้างๆทางเข้าโครงการ

โชว์รูมโตโยต้าที่อยู่ติดกับโครงการ

ธนาคารกสิกรไทยด้านข้าง

ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ฝั่งจะไป MRT เพชรบุรี  เยื้องๆไปหน่อยจะเห็น อาบ อบ นวด อยู่

ถนนเพชรบุรีฝั่งจะไปเพชรบุรี 47 หรือซอยทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพ

ซอยเพชรบุรี 47 ทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพ สามารถทะลุไปออกพระราม 9 ได้ด้วย

ปากซอยเพชรบุรี 47 เป็นศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ

คอนโด Thru ทองหล่อจากด้านหน้าติดถนนเพชรบุรี

จากตรง Thru ทองหล่อ มองไปเห็นคอนโด The Capital

ทางเข้าซอยทองหล่อค่ะ

ทางเข้าซอยอาร์ซีเอ

วนกลับมาด้านข้างโครงการอีกรอบ ที่ทำการไปรษณีย์เพชรบุรีตัดใหม่

ด้านข้างตอนนี้เป็นถนนเล็กๆสามารถทะลุเข้าไปที่ดินโครงการได้

ตึกแถวที่ติดกับถนนใหญ่บางส่วนก็กำลังประกาศขายอยู่

ข้ามมาแยกอโศก-เพชรบุรี เจอ MRT เพชรบุรี

ถ้ามาจากเพชรบุรีด้านข้างก็มีวินมอไซค์รอรับอยู่เลยค่ะ ค่าวินมอไซค์ไปโครงการประมาณ 40 บาท

ด้านข้างมีที่จอดรถของ MRT

ทางเดินไป Airport Link มักกะสัน

Airport Link มักกะสันค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ

เริ่มตั้งแต่ป้ายสำนักงานขายด้านหน้าที่ติดกับถนนเพชรบุรี

ป้ายโครงการด้านข้างปิดบังตึกแถวด้านข้างไว้

พื้นที่ด้านในของโครงการซึ่งตอนนี้ทำเป็นที่จอดรถ

ถนนทางเข้าออกโครงการติดกับถนนเพชรบุรี ซึ่งสำนักงานขายจะอยู่ติดถนนใหญ่เลย

เข้ามาดูบรรยากาศด้านในสำนักงานขายกัน

โมเดลอาคารค่ะ

อีกมุม มองออกไปเห็นถนนเพชรบุรี

บรรยากาศภายในสำนักงานขายอีกรูป

เดินไปดูห้องตัวอย่าง ผนังก่อนขึ้นห้องตัวอย่างแสดงของ Concept ของโครงการค่ะ “When the Urbanite compromise with nature”  …  ที่ธรรมชาติสอดประสานร่วมกันชีวิตเมือง

ทางขึ้นไปห้องตัวอย่างที่อยู่ชั้น 2 ค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการมีทางเข้าออกติดกับเพชรบุรี พื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณนี้ที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถว ด้านข้างบริเวณทางเข้าโครงการจะติดกับที่ทำการไปรษณีย์ซึ่งตึกแถวนี้ด้านหลังจะมีเสาส่งสัญญาณอยู่ด้วยแต่จะอยู่บริเวณทางเข้าออก ไม่ได้อยู่ติดกับตัวอาคาร ส่วนด้านข้างอีกฝั่งนั้นติดกับโชว์รูม โตโยต้าค่ะ ด้านหน้าโชว์รูมนั้นเป็นป้ายรถประจำทาง ถัดไปอีกนิดจะเป็นธนาคารกสิกรไทย

ทีตำแหน่งของตัวอาคารนั้นจะอยู่เข้าไปด้านในของที่ดิน ส่วนด้านหน้านั้นจะมีอาคารที่เดิมที่เป็นสำนักงานขาย แต่จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านสะดวกซื้อ ซึ่งน่าจะเป็น 7-Eleven Premium แทน พื้นที่ด้านข้างของโครงการด้านในนั้นฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นโรงแรม Demeter Residence Suites ซึ่งเป็นอาคารสูงประมาณ 5 ชั้น บริเวณพื้นที่โดยรอบของโรงแรมจะเป็นที่จอดรถ พื้นที่ดินฝั่งตะวันตกนั้นยังเป็นพื้นที่รกร้าง รอการพัฒนาอยู่ค่ะ ส่วนด้านหลังของที่ดินโครงการจะติดกับคลองแสนแสบ

ถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบแบบชัดๆมาฝากอีกรอบ เริ่มจากเสาสัญญาณบริเวณทางเข้าโครงการค่ะ จะไม่ได้อยู่ติดกับอาคารโดยตรง  แต่ชั้นล่างๆนั้นมองเห็นได้แน่นอน

พื้นที่โครงการด้านใน ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ยังใช้เป็นที่จอดรถอยู่

โรงแรมสูง 5 ชั้นด้านข้าง

เห็นคอนโด Thru ทองหล่ออยู่ไกลๆ  วิวด้านนี้จะไม่โล่ง  แต่ก็ไม่ถึงขนาดอึดอัด  เพราะ Thru Thonglor ก็ห่างอออกไปหน่อย

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นเป็นรูปตัว L โดยรวมจะมีห้องที่หันไปทุกทิศ ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกกับตะวันตกจะเป็นที่มีขนาดเล็กกว่าห้องที่หันไปทิศเหนือกับทิศใต้ค่ะ ซึ่งแน่นอนฝั่งห้องทิศตะวันตกก็จะโดดแดดบ่ายเต็มๆ ซึ่งห้องส่วนใหญ่ในโครงการนั้นจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน จะมีเพียง 2 ห้องนอนแค่ชั้นละห้องอยู่ตรงหัวมุมกลางแปลนอาคารทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ  ห้องที่หันด้านหน้าโครงการก็จะร่มกว่าในช่วงบ่าย ไม่ร้อนค่ะ  ส่วนห้องด้านข้างและด้านหลังแม้จะร้อนกว่าแต่จะได้วิวเมืองไปทดแทนค่ะ  ทางด้านข้างก็จะเห็นวิวทางอโศก  ส่วนด้านหลังจะได้วิวทางทองหล่อไปด้วย

ส่องโมเดล

มาดูตัวโมเดลให้เห็นภาพรวมของคอนโดกันก่อน

ทางเข้าออกโครงการ

อาคารสำนักงานขายด้านหน้าก็ยังอยู่แต่จะถูกปรับเป็นร้านสะดวกซื้อแทน

ทางเข้าออกอาคารจะอยู่เข้ามาจากถนนใหญ่ หลังอาคารสำนักงานขายเดิม

พื้นที่จอดรถอยู่ในอาคารตั้งแต่ชั้น 1-4 ส่วนสระว่ายน้ำนั้นจะอยู่ที่ชั้น 5 เป็นโพเดียมเหนือที่จอดรถ

ซูมให้ดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 5 มีสระว่ายน้ำและสวนริมสระว่ายน้ำ

จากโมเดลจะเห็นว่า อาคารเแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลักๆ ยิ่งชั้นสูงขึ้นจะมีจำนวนยูนิตน้อยลงค่ะ

พื้นที่ด้านหลังที่ติดกับคลองแสนแสบ

ด้านหลังมีสวนด้วย

หน้าตาอาคารด้านหลัง

มุมอาคารรูปตัว L ตรงกลางจะเป็นลิฟต์และบันไดหนีไฟ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities หลักๆจะอยู่ที่ชั้น 5 มีสระว่ายน้ำ, Jacuzzi, ฟิตเนส, ห้องสมุด และห้องซาวน่าแยกหญิงชาย รวมไปถึงสวนและ Jogging Track ค่ะ ซึ่งรวมๆแล้วพื้นที่ส่วนกลางมีประมาณ 1 ไร่ค่ะ เนื่องจากโครงการมี concept ในเรื่องการนำธรรมชาติเข้ามาร่วมกับการใช้ชีวิตในเมือง

เรื่องวิวนั้นทางด้านหน้าจะเห็นวิวของสระว่ายน้ำส่วนกลางและมองออกไปทางนอกเมืองซึ่งโล่งกว่า  ส่วนด้านข้างและด้านหลังจะเห็นวิวอโศกและทองหล่อตามลำดับค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางมีสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็ก-สระผู้ใหญ่ เป็นแบบ infinity edge pool ขนาด 35×7 เมตร และสระ Jacuzzi ห้องฟิตเนส, Lounge, ห้องสมุด และห้องซาวน่าแยกหญิงชาย ส่วนชั้นล่างนั้นจะมีสวน และ Jogging Track รวมไปถึงสำนักงานที่จะเปลี่ยนเป็น 7-11 เมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วด้วยค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 4 ตัวกับ 667 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 167 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าค่อนข้างหนาแน่นค่ะ  ที่จอดรถ 49.4% นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว ก็อยู่ระดับกลางๆค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities สระว่ายน้ำชั้น 5 สวยงามน่าใช้งานดีค่ะ

เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าโครงการ ตัวสำนักงานขายเดิมถูกปรับเปลี่ยนเป็น 7-11

Lobby ด้านในอาคาร โครงการจะเน้นวัสดุเป็นโทนสีไม้เข้ากับ Concept ธรรมชาติค่ะ  ดูเรียบๆ แต่อบอุ่น

ตู้จดหมายเป็นกล่องไม้ทั้งหมด มีลูกเล่นกับกระจกดูห้องกว้างขึ้น  การใช้ lighting และวัสดุสะท้อนเงาอย่างกระจกมาวางร่วมกันวัสดุสีโทนไม้ก็ดูสวยดีค่ะ

ห้องประชุม

Exclusive Lounge บริเวณชั้น 5

ห้องฟิตเนสค่ะ

ฟิตเนสอีกรูป ด้านข้างมองไปเป็นสระว่ายน้ำ

ภาพจำลองบริเวณสระว่ายน้ำชั้น 5 ในมุมสูงค่ะ ออกแบบมาสวยงาม และน่าใช้งาน  สเปซมีมุมเล็กมุมน้อยหลากหลาย

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 1

เริ่มกันที่ 1 ชั้น ทางเข้าออกโครงการนั้นอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ด้านหน้าจะมีอาคารที่เป็นสำนักงานขายเดิมทั้งอยู่ 1 อาคาร ซึ่งจะทำเป็น 7-11 อยู่ภายในโครงการค่ะ  พื้นที่ตั้งแต่ชั้น 1-4 จะเป็นพื้นที่จอดรถค่ะ ถนนจะวนรอบอาคาร  เข้ามาในตัวคอนโดด้านใน ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ Lobby และนิติบุคคล รวมไปทั้งตู้จดหมายค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 6-16

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 แต่ชั้น 5 นั้นจะเป็นส่วนของ Facilities Floor ด้วยค่ะ จะมาเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นเลยเริ่มที่ชั้น 6 ซึ่งแปลนชั้น 6-16 จะเหมือนกัน คือ แปลนอาคารเป็นรูปตัว L แบ่งห้องออกเป็นทั้ง 4 ทิศหลัก โดยที่ฝั่งทิศตะวันตกกับตะวันออกนั้นห้องจะขนาดเล็กกว่าฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ ส่วน 2 ห้องนอนนั้นจะมีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นอยู่ห้องมุมนอกตรงกลางของแปลน (แปลนสีน้ำตาล)  ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นลิฟต์กับบันไดหนีไฟค่ะ แล้วก็มีบันไดหนีไฟอยู่ปลายทั้ง 2 ด้านของอาคารด้วย ชั้น 6-16 จำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ 26 ยูนิต : 1 ชั้นค่ะ

Floor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 17

ชั้น 17 นั้นแปลนจะคล้ายๆกับชั้น 6-16 แต่ว่าห้องที่หันออกทางทิศตะวันออกและตะวันตกจะหายไปฝั่งละ 2 ห้อง  เนื่องจากระยะถอยร่นตามกฎหมายอาคารค่ะ  ทำให้ห้องในชั้นนี้จะเหลืออยู่ที่ 22 ยูนิตเท่านั้น

Typical Floor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 18-27

ขึ้นมาที่ชั้น 18-27 แปลนนั้นก็คล้ายๆกับชั้น 17 เลยค่ะ เพียงแต่เปลี่ยนขนาดห้องทางทิศตะวันตก ห้องริมสุดใหญ่ขึ้น จาก 1 ห้องนอน 30.9 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 ห้องนอน 33.7 ตารางเมตร นอกนั้นเหมือนเดิมหมด

Floor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 28

ในชั้น 28 ห้องทางทิศตะวันตกที่ถูกปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นในห้องริมสุดจะหายไป และ 1 ห้องนอน 30.4 ตารางเมตร ทางทิศตะวันออกก็จะหายไปอีก 1 ห้อง ทำให้ชั้นนี้จะมีห้องเหลืออยู่ที่ 20 ห้องต่อชั้น

Typical loor Plan คอนโด The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi ชั้น 29-33

มาถึงช่วงสุดท้าย ในชั้นที่ 29-33 นั้นห้องริมสุดในชั้น 28 ที่เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 30.4 ตารางเมตร จะถูกปรับให้มาขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 33.7 ตารางเมตรค่ะ นอกนั้นก็จะเหมือนกับชั้น 28 เลยคือมี 20 ห้องต่อชั้น

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Niche Pride ทองหล่อเพชรบุรีนั้น นั้นส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นมีขนาดเดียว คือ 59 ตารางเมตร จะมีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนนั้น มีทั้งหมด 6 แบบ มีขนาดตั้งแต่ 30.4-45 ตารางเมตร สามารถแบ่งออกเป็น Type A และ B ได้ ข้อแตกต่างคือครัวที่เป็นแบบปิดกับแบบเปิดโล่งค่ะ วันนี้อยู่สบายยกเอาแปลน มาให้ดู 3 แบบ ดังนี้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี

แบบ 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 30.9 ตารางเมตร

เริ่มจากแปลน 1 ห้องนอน 30.9 ตารางเมตร ซึ่งตำแหน่งของห้องแบบนี้จะหันหน้าเฉียงๆไปทางทิศตะวันตก แปลนห้องเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส แบ่งห้องออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งครัวกับห้องนั่งเล่น และฝั่งห้องนอนกับห้องน้ำในสัดส่วนพื้นที่ที่เท่าๆกัน เพียงแค่ด้านครัวกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นสเปซเชื่อมต่อกันไม่ได้กั้นห้องไว้เหมือนตรงห้องนอน

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัว เป็นเคาท์เตอร์ครัวยาวติดผนัง มีโต๊ะทานข้าวอยู่ติดกับครัว อีกฝั่งจะมีช่องไว้ในเครื่องซักผ้าได้ ต่อจากห้องครัวไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน มีระเบียงอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ประตูเข้าห้องนอนจะอยู่ติดกับชั้นวางทีวี เข้าไปภายในห้องนอน จะเห็นว่าจากแปลนจะต้องแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็นตู้เล็กสองตู้ค่ะ เพราะพื้นที่ไม่พอวางตู้เสื้อผ้ายาวเป็นตู้เดียวได้  ถ้าทำ Built-in คงไม่มีปัญหา  แต่ถ้าจะซื้อตู้เสื้อผ้าลอยตัวมาตั้งแยกก็จะต้องวัดขนาดดีๆ  ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ในสุด เข้ามาในห้องนอนก่อนถึงจะเข้าห้องน้ำได้ เวลามีเพื่อนมาบ้านแล้วอยากเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านห้องนอนก่อน ความเป็นส่วนตัวก็น้อยลงเมื่อเทียบกับการเข้าห้องน้ำได้จากภายนอกค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี

แบบ 1 ห้องนอน Type ฺB1 ขนาด 34.8 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.8 ตารางเมตรจะหันหน้าออกทางทิศใต้ของโครงการ และเป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดค่ะ ตำแหน่งการวางฟังก์ชั่นจะคล้ายๆกับแบบ 30.9 ตารางเมตร แต่ด้วยพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้น  ทำให้พืื้นที่ครัวนั้นสามารถทำเป็นครัวปิดได้ขนาดเล็กได้

เข้ามาภายในห้อง พื้นที่ทางซ้ายมือจะเป็นห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบปิด ตั้งอยู่หน้าทางเข้าออกห้องเลยค่ะ ตรงเข้ามาจากทางเข้าห้องจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น เข้ามาในห้องนอน พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าดูจัดออกมาได้พื้นที่เยอะกว่าแบบ 30.9 ตารางเมตร มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนเช่นเดียวกัน  พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารของแบบนี้จะสามารถนั่งหันหน้าเข้าหากันได้  ไม่ต้องหันหน้าเข้าหากำแพงเหมือน Type A1 แบบ 30.9 ตารางเมตรค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี

แบบ 2 ห้องนอน Type ฺC2 ขนาด 59 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำนั้นจะมีเพียง 1 ห้องต่อชั้นเท่านั้น และมีเพียงขนาดเดียวค่ะ ตำแหน่งทางเข้าห้องจะอยู่ริมสุดของห้อง เข้ามาก็เจอห้องครัวแบบปิด ด้านในจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารวางติดกับพื้นที่ดูทีวี ทานข้าวไปก็ดูทีวีได้ค่ะ ระเบียงก็จะมีอยู่ตรงห้องนั่งเล่นเหมือนแบบอื่นๆ เข้ามาทางเดินด้านในจะเป็นห้องเป็น 2 ฝั่ง ด้านนึงเป็นห้องนอนเล็ก ไม่มีห้องน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำด้านนอก ในสุดจะเป็นห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว  ซึ่งหน้าต่างในห้องนอนใหญ่ได้กระจกเข้ามุมด้วยค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบเดียวคือแบบ 1 ห้องนอน A1 ขนาด 30.9 ตารางเมตร  ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.75 เมตร

ห้องตัวอย่างคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ-เพชรบุรี

แบบ 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 30.90 ตารางเมตร

เข้ามาดูภายในห้องกันค่ะ พื้นที่ครัว โต๊ะทานข้าว และพื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกัน

จากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปหน้าห้อง

ติดกับทางเข้า ฝั่งตรงข้ามกับเคาท์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่ด้วย

ครัวจะอยู่ติดหน้าห้องเลยค่ะ เป็นเคาท์เตอร์ยาวชิดผนังด้านหนึ่ง ติดกับเคาท์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร

ซูมให้ดูพื้นที่นั่งเล่น พักผ่อน ดูทีวีกันอีกรูป ติดกันเป็นระเบียงออกไปด้านนอก

ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นประตูเข้าไปห้องนอนค่ะ เหนือประตูจะเป็นตำแหน่งของแอร์ในห้องนั่งเล่น

เข้ามาในห้องนอน

พื้นที่ปลายเตียงจะพอเดินได้ แต่ไม่สามารถวางโต๊ะได้ค่ะ ถ้าจะติดทีวีในห้องนอนต้องเป็นแบบแขวน

เตียงจะวางชิดกับหน้าต่างห้อง

ตู้เสื้อผ้าอาจจะต้อง Built-in แบ่งเป็น 2 ด้านแบบในห้องตัวอย่าง เพราะจะไม่มีที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดทั่วๆไปตามที่ขายกันอยู่ค่ะ

ทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน

มองจากห้องน้ำกลับมาที่ห้องนอนอีกรอบ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมให้มากลางๆค่ะ อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ชุดครัวให้มาเคาท์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและล่าง ส่วนตู้เย็นไม่ได้ให้นะคะ

ฮูดดูดควันของ Mex

มีชั้นลอยวางชุดครัวด้านบน

เคาท์เตอร์ Top หินสังเคราะห์สีขาว บานปิดทำผิวเป็น  hi-gloss มีช่องวางไมโครเวฟอยู่ด้านล่าง

เตาสองหัวของ Mex เช่นกัน

อ่างล้างจานแบบฝังในเคาท์เตอร์

ก็อกทรงโค้งสูง

ลิ้นชักเก็บช้อนส้อม

วัสดุห้องน้ำ

พื้นที่รวมๆของห้องน้ำค่ะ

พื้นที่อ่างล้างหน้า แปรงฟัน

อ่างล้างหน้า Kohler

พื้นที่ด้านบนอ่างล้างหน้าทำเป็นที่วางของยาวตลอดแนว

โถสุขภัณฑ์ก็ของ Kohler เช่นกัน

ที่ฉีดหน้าตาแบบนี้ค่ะ

เหนือโถสุขภัณฑ์ก็มีที่วางของอีก

ที่แขวนเสื้อผ้า

พื้นที่อาบน้ำจะเป็น Shower Block กระจก Tempered Glass กั้นไว้

หน้าตาของฝักบัวในห้องน้ำ  แบบมาตราฐานทั่วไป

ส่วนเปียกกับส่วนแห้งกั้นตัวธรณีขึ้นมา ส่วนพื้นจะอยู่ระดับเดียวกัน

ชั้นวางของตรงพื้นที่อาบน้ำ

ไฟดาวน์ไลท์ในห้องน้ำ

พื้นห้องระหว่างพื้นลามิเนตตรงห้องนอนกับพื้นห้องน้ำที่ลดระดับลงไป มีตัวปิดรอยต่อ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นทางเข้าห้องค่ะ มีตัวปิดรอยต่อไม้สีเข้มกว่าพื้นลามิเนต

พื้นลามิเนตในห้องเรียบเสมอกัน  ไม่มีรอยต่อตรงแนวประตู

พื้นที่วางเครื่องซักผ้าเป็นกระเบื้องค่ะ มีตัวปิดรอยต่อเหมือนทางเข้าห้อง  เวลาเอาผ้าที่ซักแล้วออกจากเครื่องแล้วน้ำหยด  ต้องรีบเช็ดอย่างปล่อยให้เปียกตรงพื้นลามิเนตบ่อยๆนะคะ เดี๋ยวนานๆไปจะบวมเอา

บัวพื้นเป็นสีขาว พื้้นห้องทาสีขาว แต่ในห้องตัวอย่างจะติด Wallpaper มาให้

แอร์ได้มา 2 ห้อง ทั้งให้ห้องนั่งเล่น และห้องนอน

สวิทซ์ bticino

หน้าต่างห้อง บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ  ขอบล่างของหน้าต่างจะเสมอกับระดับความสูงของขอบเตียง

ตรงห้องนอนจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ

ประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ

ธรณีประตูประตูบานเลื่อนค่ะ พื้นระเบียงกับพื้นห้องระดับเท่าๆกัน

ระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม.  เน้นทางแนวยาวมากกว่า

ตรงระเบียงมีแผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์

คอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบแขวนค่ะ

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

สวิทซ์ไฟตรงระเบียงมีที่ปิดกันน้ำ

ไฟดาวน์ไลท์ตรงระเบียงค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (13 สิงหาคม 2558) แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 2.59 ล้านบาท ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะเริ่มต้นที่ 5.66 ล้านบาทค่ะ  เราหยิบราคาห้องต่ำสุดมาคำนวนค่าใช้จ่ายให้ดูกัน

ราคา ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม. ชั้น 7 ราคาขาย 2,978,760 บาท ราคาส่วนลด 2,756,280 บาท เฉลี่ย 89,200 บาท/ตารางเมตร

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 20,000 บาท / ทำสัญญา 50,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

ผ่อนดาวน์ 13% ทั้งหมด 30 งวด คิดเป็น งวดละ 9,700 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  46  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  2,756,280  บาท  ผ่อนประมาณ 16,644 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  2,756,280  บาท  ผ่อนประมาณ 17,590 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  2,756,280  บาท  ผ่อนประมาณ 19,176 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  2,756,280  บาท  ผ่อนประมาณ 22,066 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom  พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  2,756,280  บาท  ผ่อนประมาณ 28,256 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

โครงการตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นช่วงที่ขนานกับถนนสุขุมวิท  ถนนเพชรบุรีช่วงนี้เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย  เข้าทองหล่อ เอกมัยได้ ไปอโศกรวมไปถึงพระราม 9  บางช่วงเวลานั้นรถจะค่อนข้างติดขัดค่ะ  …  แต่ต้องยอมรับว่าโดยทำเลแล้วดูจะห่างจากระบบรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT พอสมควร  พื้นที่โซนนี้เลยเหมือนโซนกลางๆ  คือ สามารถไปขึ้นทางด่วนก็ได้ ไปขึ้น BTS ก็ได้ ไปขึ้น MRT ก็ได้ ไปขึ้น Airport Link ก็ได้ … แต่ไม่ได้เรียกว่าใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินทางสะดวก ยังต้องมีระยะการเดินทางไปถึงระบบเหล่านี้อยู่พอควร  โดยอาจจะต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซด์, แท็กซี่ หรือไม่ก็ใช้รถประจำทางไปต่ออีกทีค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะอื่นๆนั้น มีป้ายรถประจำทางก็อยู่ข้างๆทางเข้าโครงการเลยค่ะ วินมอไซค์นั้นอาจจะต้องเดินไปทางใกล้ๆกับซอยทองหล่อหน่อย  ถ้ามาจาก BTS แนะนำว่าให้ลงสถานีทองหล่อแล้วต่อรถเข้ามาโครงการ ส่วนถ้าจะไปขึ้น BTS ให้ไปขึ้นที่สถานีพร้อมพงษ์จะสะดวกกว่าค่ะ สามารถเข้าได้จากซอยสุขุมวิท 39

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พื้นที่บริเวณรอบๆโครงการเลยอาจจะไม่ได้มีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆโดยภาครัฐ  ที่ใกล้ที่สุดก็คงจะเป็นบริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ที่เป็นที่ตั้งของ MRT เพชรบุรี และ Airport Link มักกะสัน ซึ่งตรงนี้เองจะเป็นแปลงที่ดินมักกะสัน เป็นที่ดินแปลงใหญ่สุดที่กำลังรอการพัฒนาและเป็นประเด็นก็อยู่ตอนนี้ว่าจะลงทุนทำเป็นอะไร แต่จากแผนล่าสุดก็จะเป็นการผสมกันกันระหว่างสวนสาธารณะกับพื้นที่ Complex  นอกจากนี้ก็ยังมีที่ดินอีกแปลงบนแยกอโศก-เพชรบุรี ที่เป็นสถานฑูตญี่ปุ่นเดิม 9 ไร่กว่า จะถูกเปลี่ยนเป็นโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ใหม่ของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ตัวโครงการนั้นจะเป็น Mixed-use project  ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, ศูนย์ประชุม, พื้นที่ค้าปลีก และก็มีที่ทำงานของผู้บริหารระดับสูงของสิงห์ด้วย ซึ่งโครงการนี้จะเปิดให้บริการในปี 2017 ค่ะ   ถ้าโครงการตรงแยกอโศก – เพชรบุรี เสร็จ  พื้นที่โซนนี้ก็อาจจะพลอยได้อานิสงค์เพิ่มขึ้นอีกหน่อย

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ดีไซน์ของตัวคอนโด The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี  นั้นเน้นที่เส้นตั้ง  โดยใช้องค์ประกอบเส้นตั้งเป็นแพทเทริ์นถี่ๆซ้ำกันทั้งอาคาร  คุมโทนสีออกมาให้เป็นสีน้ำตาลไม้  รูปทรงของตัวคอนโดนั้นก็ดูเป็นกล่องเหลี่ยมๆ ตามปกติ  แต่โทนสีนั้นช่วยให้ดูซอฟและสบายมากขึ้นค่ะ  ด้านข้างของตัวคอนโดจะทำแพทเทริ์นเส้นเฉียงทำมุม 45 องศา  ซึ่งช่วงหลังๆแบรนด์ The Niche นำมาใช้บ่อย  ตรงนี้เป็นแพทเทิร์นเดียวกับ The Niche Mono รัชวิภา ที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้วยค่ะ  ภาพรวมของดีไซน์นั้นให้สัดส่วนของตัวอาคารออกมาดีทีเดียวค่ะ

ลักษณะการวางตัวของคอนโดเป็นรูปตัว L  ตัวโครงการวางแปลนออกมาแล้วจะมีด้านที่โดนแดดบ่ายเต็มๆ ชัดเจนอยู่  แต่ครีบเส้นตั้งของอาคารก็น่าจะช่วยบังแดดได้ในบางมุมบางเวลา  ส่วนทิศเหนือนั้นทั้งร่มกว่าและก็ได้วิวสระว่ายน้ำมาด้วยเช่นกัน ห้องส่วนใหญ่จะเน้นตลาดแบบ 1 ห้องนอนประมาณกว่า 96% กันเลยที่เดียว ทิศเหนือใต้จะวางห้องขนาดใหญ่กว่าทิศตะวันออกและตะวันตก ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะมีแค่ชั้นละห้องเท่านั้น

ด้านการวางแปลนนั้นแบบ 1 ห้องนอนจะแบ่งเป็นแบบครัวเปิดกับแบบครัวปิดค่ะ แต่ถึงจะเป็นครัวปิดก็ถูกวางไว้หน้าทางเข้าออกห้อง ไม่ได้อยู่ตรงระเบียง ในเรื่องของการระบายอากาศก็ต้องใช้ฮูดดูดควันเข้าช่วยเพียงอย่างเดียว การจัดแปลนแบบนี้เป็น option สำหรับคนที่ชอบทำอาหารมื้อหนักๆ หรือจะทำอาหารมื้อเบาๆ เป็นหลัก  แปลนในภาพรวมดูจัดฟังก์ชั่นเป็นสัดเป็นส่วนดี  ห้องทุกห้องให้ระเบียงมายาว  แบบ 1 ห้องนอนฟังก์ชั่นนั้นจะวางห้องน้ำไว้อยู่ในห้องนอนทั้งหมด เวลาเพื่อนมาบ้านก็จะต้องไปเข้าห้องน้ำที่ในห้องนอน ความเป็นส่วนตัวอาจน้อยลงเมื่อเทียบกับการเข้าห้องน้ำจากทางส่วนเตรียมอาหารด้านนอก  นอกจากนี้พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าให้ห้องตัวอย่างแบบ 30.9 ตารางเมตร จะเห็นได้ว่าจะถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนเล็กๆ ถ้าวางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตราฐานที่ขายอยู่ตามท้องตลาดคงไม่พอค่ะ ต้อง Built-in น่าจะสะดวกกว่า  ส่วนด้านวัสดุนั้นเป็นแบบ fully fitted ให้มาตามราคาค่ะ  จะได้ชุดครัวและห้องน้ำตามห้องตัวอย่าง และแอร์ 2 ตัว

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส lounge และห้องสมุด รวมทั้ง ล็อบบี้ จากรูปตัวอย่างก็สวยงามดีค่ะ  ดีไซน์ออกมาน่าใช้งานทีเดียวแหละ สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 167 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นเมื่อเทียบกับราคาที่ต่ำกว่าแสนบาทต่อตารางเมตรก็รับได้อยู่  ที่จอดรถ 49.4% เมื่อเทียบกับราคาขายถือว่าโอเคอยู่  แต่ด้วยความที่เป็นโครงการที่รถไฟฟ้าอยู่ค่อนข้างไกลไปนิด อาจจะต้องมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวอยู่มากพอควร  การใช้งานจริงต้องแบ่งๆกันไปค่ะ

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

บนเส้นเพชรบุรีช่วงหน้าซอยทองหล่อไปถึงเอกมัยก็มีคอนโด High-rise ที่เสร็จแล้ว อยู่ประมาณ 3 โครงการ ที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น THRU ทองหล่อ ซึ่งราคาของ THRU ทองหล่อ ตอนเปิดตัวจะต่ำกว่าตัว The Niche Pride ทองหล่อ – เพชรบุรี นิดหน่อยค่ะ และ The Capital เอกมัย-ทองหล่อ กับ Supalai Park เอกมัย-ทองหล่อ ที่อยู่ค่อนไปทางเอกมัยมากกว่า นอกนั้นส่วนใหญ่ก็จะมาทำคอนโดในบริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี  ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรจะขยับสูงขึ้นไปเป็นคนละ Price Segment กันแล้ว  อย่างตรงแยกอโศก – เพชรบุรี  ล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็มีตัว Life Asoke ซึ่งอันนั้นจะอยู่ติดรถไฟฟ้าใต้ดินเลย ราคาก็จะค่อนข้างสูงกว่าตัว The Niche Pride ไปอีกเยอะเลยค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ 

^_____^

วันนี้อยู่สบายพาไปชมทำเลของคอนโด Maestro 14 Siam-Ratchathewi เป็น low-rise condominium โครงการที่ 2 ในซอยเพชรบุรี 12 ของทาง Major Development Estate กันค่ะ ซึ่งโครงการแรกชื่อ Maestro 12 ราชเทวี นั้นอยู่ใกล้ๆกับปากซอยเพชรบุรี 12 เลย ส่วน Maestro 14 สยาม-ราชเทวี จะอยู่เข้าไปเกือบจะสุดซอย ซึ่งซอยเพชรบุรี 12 จะตัดกับซอยพญานาคที่อยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี ลองไปดูทำเลโครงการมาเอสโต 14 สยาม-ราชเทวี ของทางเมเจอร์กันก่อนค่ะ ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม ทางอยู่สบายจะมาอัพเดทให้ชมกันอีกที

Maestro 14 Siam-Ratchathewi

(มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เมเจอร์ ดีเวอร์ลอปเม้นท์
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยเพชรบุรี 12
• ขนาดที่ดิน >>> 1-1-59 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนยูนิต >>> 179 ยูนิต
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>> n/A
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> n/A บาทต่อตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.750780, 100.529360
• ติดต่อโครงการ >>> 02-2872299

ส่องทำเล

โครงการ Maestro 14 Siam-Ratchathewi ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 12 ค่ะ ตัดกับซอยพญานาค ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ติดกับ BTS ราชเทวี จากแผนที่ของโครงการจะเห็นว่า โครงการนั้นอยู่ใกล้กับสยามสแควร์ รวมไปถึง BTS สยาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครอีกแห่งหนึ่ง รวมไปทั้งย่านช้อปปิ้ง อย่าง สยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ มาบุญครอง และเซ็นทรัล เวิลด์

ดูแผนที่ของโครงการไปแล้ว ว่าดูแผนที่จริงๆจาก Google map กันบ้างดีกว่าค่ะ จะได้เห็นระยะทางคร่าวๆตามจริง อย่างทีีี่บอกไปเบื้องต้นว่า มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี อยู่ในซอยเพชรบุรี 12 ซึ่งตรงปากซอยเพชรบุรี 12 จะมีโครงการ Maestro 12 ราชเทวี เป็น Maestro ตัวแรกในซอยนี้ตั้งอยู่ เลยทำให้โครงการนี้ต้องไปใช้เป็น Maestro 14 แทน การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าออกโครงการได้ 3 ทางคือ จากถนนเพชรบุรีเข้ามาที่ซอยเพชรบุรี 12, ถนนพญาไทและถนนบรรทัดทอง ที่เข้ามาจากซอยพญานาคค่ะ ซอยพญานาคเองจะตัดกับซอยเพชรบุรี 12 อยู่ค่ะ ออกจากซอยพญานาคไปทางถนนพญาไทจะเจอกับ BTS ราชเทวีค่ะ จาก Map แล้วโครงการจะอยู่กลางๆระหว่างแยกราชเทวี กับแยกปทุมวัน เป็นที่มาของชื่อต่อท้ายว่า สยาม-ราชเทวี แต่โครงการจะค่อนไปทางแยกราชเทวีมากกว่าค่ะ

จากบีทีเอสราชเทวีนั้น เพียง 1 สถานีก็จะถึงบีทีเอสสถานีสยาม ซึ่งเป็น Interchange station ของ BTS ส่วนอีกด้านเพียง 1 สถานีก็จะถึง บีทีเอสพญาไท ซึ่งเชื่อมต่อกับ Airport Link พญาไทค่ะ นอกจากนี้โครงการอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆกับแยกอุรุพงษ์ค่ะ รวมไปถึงเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย อย่างถนนเพชรบุรี ถนนพญาไท และถนนบรรทัดทอง รวมไปถึงถนนพระราม 6 และถนนพระราม 1 ที่อยู่ไม่ไกลอีกด้วยค่ะ

เราลองมาซูมดูกันใกล้ๆ บริเวณพื้นที่รอบโครงการกันดูบ้าง ตัวที่ตั้งโครงการนั้นอยู่เกือบจะสุดซอยเพชรบุรี 12 เลยค่ะ แต่ถ้ามาจาก BTS ราชเทวี หรือถนนพญาไท แล้วเข้ามาที่ซอยพญานาค พอเจอแยกแรก จะเป็นแยกที่ตัดกับซอยเพชรบุรี 12 ค่ะ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปสุดซอยจะเจอกับโครงการเช่นกัน จากปากซอยพญานาคเข้ามาถึงหน้าโครงการจะมีระยะทางอยู่ที่ 300 เมตรค่ะ เดินได้ไม่ใกล้ไม่ไกล บริเวณโดยรอบก่อนถึงโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ซึ่งเป็นโซนที่อยู่อาศัยแบบตึกแถวในซอยพญานาคค่ะ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นอาคารของสภาคริสตจักรในประทศไทย (หมายเลข 1)  ซึ่งทางเข้าออกหลักของสภาคริสตจักรฯ นี้ตะอยู่ทางถนนพญาไท  ออกมาจากซอยบริเวณที่ตัดกับซอยพญานาคหัวมุมจะเป็น 7-Eleven (หมายเลข 2) ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านอาหาร รวมไปถึงร้านค้าค่อนข้างเยอะค่ะ ร้านที่เด่นๆก็คงจะเป็นร้านซูชิ มาสะ (หมายเลข 3) ซึ่งเป็นร้านซูชิที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในโรงแรม Siam Swana ค่ะ

ภายในซอยพญานาคนั้นจะตัดกับซอยเพชรบุรีหลายๆซอย (เพชรบุรี 10 และ เพชรบุรี 12) สามารถทะลุไปออกถนนเพชรบุรีได้หลายทาง ถ้าตรงไปเรื่อยๆจะไปออกถนนบรรทัดทองค่ะ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชน ทำให้หาของกินในซอยได้ง่ายแต่ไม่หรูหราค่ะ ทั้งร้านอาหารที่อยู่ตามตึกแถว และร้านอาหารรถเข็นข้างทาง  ด้านหลังโครงการจะมีโครงการคอนโด Low-Rise เพื่อนบ้านที่สร้างมาก่อนนานแล้วอย่าง Wish@siam (หมายเลข 4) ซึ่งซอยใกล้ๆกับโครงการสามารถทะลุออกไปเจอ Wish@Siam ได้ค่ะ เลยมาที่ซอยเพชรบุรี 10 จะมีตลาดสด ชื่อ ตลาดกิ่งเพชร (หมายเลข 5) ตั้งอยู่ วนกลับมาที่ซอยเพชรบุรี 12 กำลังจะออกไปถนนเพชรบุรี จะมี Maestro 12 ราชเทวี (หมายเลข 6) ซึ่งเป็นมาเอสโตร ตัวแรกในบริเวณนี้ค่ะ ส่วนที่ดินฝั่งตรงข้ามที่ติดกับปากซอยเพชรบุรี 12  เป็นแปลงที่ดินของสำนักงานทรัพย์ฯ ค่ะ

ออกมาในซอยพญานาค ฝั่งที่จะไป BTS ราชเทวี ปากซอยพญานาคนั้นจะมีโรงแรมเอเชีย (หมายเลข 7) และคอนโด Pyne by Sansiri (หมายเลข 8) เป็นคอนโดสูง 42 ชั้นอยู่ติดกับรถไฟฟ้าราชเทวีเลยค่ะ ถ้ามองจากสถานีรถไฟฟ้ามาทางด้าน Pyne จะเห็นคอนโดอีกโครงการคือ Condolette Ize ราชเทวี (หมายเลข 9) คอนโดสูง 33 ชั้นของพฤกษาจะอยู่ฝั่งถนนเพชรบุรีค่ะ ส่วนฝั่งเดียวกับโรงแรมเอเชียนั้นเลยไปหน่อยจะมีโรงแรม Evergreen Place Bangkok (หมายเลข 10) ตรงข้ามกันก็เป็นโรงแรม Vie Hotel Bangkok (หมายเลข 12) อีีกหนึ่งโรงแรม

ไหนๆก็มาถึงฝั่งตรงข้ามกับซอยทางเข้าโครงการแล้ว ติดกับสถานีราชเทวีเลยคือ Coco walk (หมายเลข 11) เป็นที่ร่วมร้านอาหาร เอาไว้หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น ร้านชาบู ร้านกาแฟ รวมไปถึงร้านคาเฟ่แมวก็มีนะคะ ตอนเย็นและค่ำไปจนถึงดึกๆก็จะมีร้านเหล้าด้วยค่ะ ถ้ามองจาก BTS จะมองเห็นคอนโดขนาดใหญ่ 2 อาคาร คือ บ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน (หมายเลข 13) ของ AP ตั้งอยู่ค่อนข้างเด่น ส่วนตรงติดกับคอนโดและ Coco walk เป็นที่ดิินขนาดใหญ่อยู่ตรงแยกราชเทวี ซึ่งเป็นที่ดินของตระกูลจุฬางกูร (หมายเลข 14) กว่า 7 ไร่ ถ้าผ่านไปผ่านมาบริเวณบีทีเอสราชเทวีก็จะมองเห็นแปลงที่ดินนี้ปล่อยว่างไว้เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว อาจจะเคยได้ยินข่าวมาบ้างว่าจะพัฒนาโครงการเป็นอะไร แว่วๆมาว่าไม่ใช่คอนโด แต่เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และ โรงแรมค่ะ เยื้องๆกับที่ดินนี้จะเป็นที่ดินขนาดใหญ่อีกแปลงที่ดินของสํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (หมายเลข 15) อีกแปลงค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวว่าจะพัฒนาโครงการเป็นอะไรต่อไปค่ะ

เริ่มเดินทางกันจาก BTS ราชเทวีค่ะ

ออกทางออก 1 ทางเดียวกับที่ออกไปโรงแรมเอเชีย

มารถไฟฟ้ามาแล้วเจอซอยพญานาค

หัวมุมซอยพญานาคเป็น Pyne by Sansiri ค่ะ เดินเข้าไปในซอยเลย

เดินตรงมาเรื่อยๆ ฟุตบาทนั้นมีจะบางช่วงที่ค่อนข้างเดินยาก เพราะมีสิ่งกีดขวาง แต่โดยรวมก็พอเดินได้ค่ะ ช่วงเวลาไปทำงาน เช้า-เย็น จะมีคนเดินออกไปปากซอยค่อนข้างเยอะค่ะ บรรยากาศภายในซอยพญานาคจะคึกคักวุ่นวายและพลุกพล่าน ไม่ตอบโจทย์กับคนที่รักความสงบเท่าไหร่ค่ะ

เดินมาเจอแยกแรกหัวมุมจะเป็นเซเว่น ให้เลี้ยวเข้าซอยนี้เลยค่ะ

เข้ามาในซอยเพชรบุรี 12 บริเวณทั้ง 2 ข้างทางก็ยังเป็นตึกแถวเหมือนๆกับตรงซอยพญานาค แต่จะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในอาศัยเงียบสงบมากกว่าซอยพญานาคค่ะ  ด้วยความที่เป็นชุมชนและพื้นที่จำกัด  ทำให้ภายในซอยมีการจอดรถกันอยู่ตลอดแนวค่ะ

เดินเข้ามาสุดซอยจะเริ่มเป็นพื้นที่จอดรถของรถตู้ รวมไปถึงรถแท็กซี่แล้วค่ะ เนื่องจากบริเวณนี้จะไม่มีบ้านพักอาศัยเลยสามารถจอดรถได้ ไม่รบกวนบ้านคนอื่น ในอนาคตเมื่อโครงการเสร็จแล้วก็คงต้องเคลียร์พื้นที่จอดรถกันอีกที  เพราะถ้าปล่อยจอดแท็กซี่ไว้แบบนี้ไม่น่จะดีแน่

ถึงหน้าโครงการแล้วค่ะ ตอนนี้ก็มีกั้นพื้นที้โครงการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เราเริ่มดูกันตั้งแต่รอบๆพื้นที่โครงการภายในซอยเพชรบุรี 12 กันต่อค่ะ

ถนนด้านหน้าโครงการในซอยเพชรบุรี 12 ซึ่งตอนนี้เป็นที่จอดรถของแท็กซี่อยู่

ด้านหลังของอาคารของสภาคริสตจักรในประทศไทยค่ะ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินของโครงการ

เลยที่ดินของโครงการไปนิดนึงจะเป็นทางเข้าชุมชนบ้านครัว ซึ่งถ้าเดินเข้าไปทางนี้จะมีทางเดินเลียบคลองแสนแสบไปออกซอยเกษมสันต์ 3 แถวๆ BTS สนามกีฬาแห่งชาติได้ค่ะ  (ถ้าขยันก็เดินในซอยทะลุไปถึงมาบุญครองได้เลย)

ด้านข้างโครงการฝั่งติดกับทางเข้าชุมชนนั้นเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น

มองย้อนกลับไปทางที่เข้ามาจากซอยพญานาคค่ะ ยังคงมีรถจอดรถอยู่ 2 ข้างทาง

อีกด้านที่ติดกับที่ดิินของโครงการนั้นเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้นค่ะ เป็นพื้นที่ของบ้านพักอาศัย

ตึกแถวในซอยเพชรบุรี 12 ใกล้ๆกับโครงการ

ระหว่างตึกแถวจะมีซอยย่อยเข้าไปด้านในอีกค่ะ

ใกล้ๆกับสี่แยกที่ตัดกับซอยพญานาคก็ยังเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น

หัวมุมมีเซเว่นค่ะ ติดกับเซเว่นนั้นเป็นวินมอไซค์รับจ้าง

พาเดินเล่นมาดูภายในซอยพญานาคค่ะ

ถนนพญานาค ตรงไปเรื่อยๆจะไปออกถนนบรรทัดทองค่ะ  แต่ช่วงยิ่งใกล้ทางบรรทัดทองถนนก็จะแคบลง

ในภาพรวมของซอยก็ยังเป็นตึกแถวที่เป็นโซนบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่

แบบเลี้ยวมาซอยเพชรบุรี 10 ซอยนี้จะมีตลาดกิ่งเพชรอยู่ รอบๆก็จะมีร้านขายอาหารทั้งรถเข็นและภายในตึกแถวอยู่คึกคัก

ตลาดกิ่งเพชรค่ะ เป็นตลาดสด ของชุมชนในโซนนี้

เดินมาดูซอยเพชรบุรี 12 ฝั่งที่จะออกไปถนนเพชรบุรีกันบ้าง

หัวมุมตรงข้ามกับเซเว่นเป็นร้านอาหาร

บริเวณฟุตบาทข้างทางจะมีร้านแบบรถเข็นขายอาหารอยู่

ซอยเพชรบุรี 12 ฝั่งที่จะออกไปถนนเพชรบุรีค่ะ

ปากซอยเพชรบุรี 12

ภายในซอยเพชรบุรี 12 ใกล้ๆกับปากซอยเป็นที่ตั้งของคอนโด Maestro 12 ตัวแรกในโซนนี้ค่ะ ตอนนี้ก็ใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว

Condolette Ize ของพฤกษา ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ใกล้ๆกับซอยเพชรบุรี 12

ป้ายโฆษณาของ Maestro 14 ตรงถนนเพชรบุรี ติดอยู่ตรงแปลงที่ดินของทรัพย์สินฯ

ปากซอยเพชรบุรี 12 จะอยู่ใกล้ๆกับสะพานข้ามแยกราชเทวีค่ะ

ที่ดินเปล่าของทรัพย์สินฯอีกแปลงที่อยู่หัวมุมแยกราชเทวีค่ะ แปลงนี้ค่อนข้างใหญ่

แยกราชเทวีค่ะ

กลับเข้ามาในซอยพญานาคตรงสี่แยกที่ตัดกับซอยเพชรบุรี 12 อีกรอบ ฝั่งที่เดินออกไป BTS ราชเทวีค่ะ

หัวมุมเป็นเซเว่นกับร้านขายอาหาร

จากตรงสี่แยกนี้มองไปเห็น Pyne By Sansiri

ซอยพญานาคใกล้ๆกับสี่แยกตัดกับเพชรบุรี 12 บริเวณนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างเยอะ เพราะอยู่ใกล้ๆกับโรงแรม

โรงเรียนสัมมาอาชีวศิลป์ อยู่ภายในซอยพญานาค เป็นโรงเรียนระดับอนุบาล-ประถมศึกษาค่ะ

ฟุตบาทภายในซอยพญานาค วันนี้เรามาถ่ายตอนช่วงเช้าเวลาทำงาน จะเห็นว่ามีคนเดินออกจากซอยที่ไปทำงานค่อนข้างพลุกพล่าน

ร้านอาหารญี่ปุ่่นซูชิมาสะ

โรงเรียน Siam Swana ที่เป็นที่ตั้งอยู่ร้าน Sushi Masa

ฟุตบาทบางช่วงจะมีป้ายร้านค้าขวางอยู่ บางช่วงต้องลงไปเดินที่ถนนแทนค่ะ

ริมสองข้างทางของซอยพญานาค ต้นๆซอยจะเป็นร้านอาหาร ร้านค้าและสำนักงาน มากกว่าบ้านพักอาศัยค่ะ

มีซอยย่อยเข้าไปเป็บโฮมออฟฟิศ

ใกล้ๆกับปากซอยจะมีอาคารจอดรถของโรงแรมเอเชีย ชั้นสองจะมีทางเชื่อมกับโรงแรมค่ะ

ชั้นล่างทางเข้าอาคารจอดรถจะเป็นร้านค้า

โรงแรมเอเชียอยู่ปากซอยพญานาคค่ะ มีทางเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าโดยตรง

ทางเดินเชื่อมชั้น 2 ระหว่างอาคารจอดรถของโรงแรมและตัวอาคารโรงแรมเอเชียค่ะ

ตัวอาคารของโรงแรมเอเชียค่ะ

ทางเข้าออกของ Pyne by Sansiri ในซอยพญานาค

ออกมาดูบริเวณถนนพญาไท รอบๆรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวี ด้านที่จะไปสยามค่ะ

ด้านหน้าโรงแรมเอเชีย มีทั้งรถตู้และTaxi จอดเต็มไปหมด

ติดๆกับโรงแรมเอเชียจะเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ

อาคารสำนักงานให้เช่าชื่อ L-Building ด้านล่างจะมีร้านอาหารอยู่ด้วย

ร้านนวดติดถนนพญาไท

ถ่ายจากฟุตบาทริมถนนพญาไทค่ะ มองไปเห็นสะพานหัวช้าง เลยไปก็เป็นสยามแล้ว

มองกลับมาตรง L-Building ด้านๆจะเป็นทางเข้าโรงแรม Evergreen Place Bangkok

โรงแรม Evergreen Place Bangkok ด้านในค่ะ

ส่วนอาคารที่ติดถนนใหญ่เป็นของ Evergreen Place Bangkok เช่นกันแต่จะเป็นออฟฟิศและ Serviced Apartment

สภาคริสตจักรในประทศไทย ทางเข้าจะอยู่ติดถนนพญาไทค่ะ ซึ่งอาคารด้านหลังจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการ

จากถนนพญาไทมองไปเป็นบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน

จากบริเวณรอบๆรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวี ฝั่งจะไปบีทีเอสพญาไทค่ะ

เริ่มจากทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีราชเทวีกันก่อน

ติดกันจะเป็นป้ายรถประจำทาง ซึ่งตั้งอยู่หน้าคอนโด Pyne by Sansiri

Pyne By Sansiri อยู่ติดถนนพญาไทค่ะ สูง 42 ชั้น

อาคารเอเชียอยู่ติดถนนพญาไทเช่นกันค่ะ

ด้านในอาคารเอเชีย ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนสอนพิเศษ

อาคารพาณิชย์ริมถนนพญาไท

ด้านล่างอาคารเอเชียค่ะ

Condolette Ize สูง 33 ชั้น อยู่ฝั่งถนนเพชรบุรี

ซอยพญานาคจากบนบีทีเอสราชเทวี

Coco Walk ฝั่งตรงข้ามกับซอยพญานาค

Vie Hotel Bangkok

แปลงที่ดินของตระกุลจุฬางกูลที่ตอนนี้ยังเป็นพื้นที่ว่างรอการพัฒนาอยู่

ถนนพญาไท ฝั่งจะไปสยามค่ะ

ถนนพญาไท บริเวณแยกราชเทวี

จากบีทีเอสราชเทวี มองไปจะเห็นบ้านกลางกรุง สยาม-ปทุมวัน ตั้งอยู่เด่นมาก

ถนนเเพชรบุรีฝั่งจะไปประตูน้ำค่ะ ฝั่งนี้มีคอนโดขึ้นใหม่ถึง 4 ตัวทีเดียว ทั้ง IDEO ของอนันดา 2 โครงการ, Wish Signature Midtown Siam ของสยามนุวัตร และ The Line ราชเทวี ของแสนสิริ รวมไปถึงคอนโดของ AP ที่สร้างเสร็จหลายปีก่อนหน้านี้อีกด้วย

เอาภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการมาฝากกันเล็กน้อย

ที่ดูกันไปก็เป็นภาพรวมของทำเลพื้นที่รอบๆ ของโครงการ Maestro 14 Siam-Ratchathewi กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าภาพรวมของโซนราชเทวีนั้นค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่อาศัยในเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางของกรุงเทพฯ อย่าง สยาม หรือว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ค่ะ ถ้าโครงการมาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี มีข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อไหร่ ทางอยู่สบายจะมาอัพเดทให้ชมกันอีกรอบค่ะ ^^

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด The Editor สะพานควาย ของ พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควายบนถนนพหลโยธิน ฝั่งเดียวกับที่ทำการไปรษณีย์สามเสนค่ะ  โครงการนี้เมื่อตอนเปิดขายครั้งแรกที่โรงแรมสยาม แคมปินสกี้ เมื่อเกือบ 2 ปีก่อน  ทำสถิติขายหมดตั้งแต่วันแรก  ถ้าใครจำได้ตอนนั้นเปิดตัวมาในชื่อ The Edition ก่อนจะต้องเปลี่ยนชื่อไปด้วยปัญหาลิขสิทธิ์ชื่อ  ตอนนี้ตึกเสร็จเรียบร้อยมีคนทยอยเข้าอยู่แล้ว  เราเลยแวะไปเก็บรีวิวฉบับเต็มของคอนโด ดิ เอดิเตอร์ สะพายควาย มาให้ชมกันค่ะ  ^___^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Editor สะพานควาย (ดิ เอดิเตอร์)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
• ขนาดที่ดิน >>>  1-1-73 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 23 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • สตูดิโอ 27.21 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน 28.26 – 45.91 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 52.19 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  240  ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต รวมเป็น 242 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 40% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 4.29 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 1/9/2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  150,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.794183, 100.549458
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิก
• โทร >>> 1739

คอนโด The Editor สะพานควาย นั้นตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ติดกับรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับคอนโด Ideo Mix พหลโยธิน ค่ะ  ถนนพหลโยธินนั้นเป็นถนนสายที่มีรถไฟฟ้า BTS วิ่งตลอดแนวถนนตั้งแต่ตั้งแต่หมอชิตไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  ย่านนี้จะเชื่อมกับถนนหลายสาย ได้แก่ ถนนประดิพัทธ์ ถนนอินทามระ และถนนกำแพงเพชร  ศูนย์การค้ารอบๆ บริเวณใกล้เคียงมี Big C สะพานควาย ซึ่งอยู่ฝั่งเยื้องๆกับโครงการ  หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปหนึ่งสถานีก็จะเจอคอมมูนิตี้มอลล์  La Villa อารีย์ หรือไปสวนจตุจักรก็ได้  นอกจากนี้โรงพยาบาลที่ใกล้ๆ ก็มีโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล ที่อยู่ใกล้ๆกับบิ๊กซีค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากลาดพร้าวขับผ่านแยกห้าแยกลาดพร้าว เข้าถนนพหลโยธิน ขับตามทาง BTS ไปเรื่อยๆค่ะ  ให้เราไปกลับรถที่แยกสะพานควาย  แล้วตรงอีกไปนานก็จะเจอทางเข้าโครงการทางซ้ายมือติดกับ BTS เลยค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งคอนโด The Editor สะพานควาย นั้นตั้งอยู่เยื้องๆกับคอนโด Ideo Mix พหลโยธิน ของทางอนันดาฯ  ถ้าหากขับมาทางแยกพหลโยธิน จะมีแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ ได้แก่ ตลาด อ.ต.ก. ซึ่งเป็นแหล่งร้านขายต้นไม้ อาหาร และสัตว์เลี้ยง ข้ามถนนกำแพงเพชรไปจะเป็นตลาดนัดสวนจตุจักร (JJ Market) , JJ MALL แล้วถ้าใครไม่อยากเดินที่สวนจตุักรก็สามารถต่อ MRT ไปอีก 1 สถานีไปเดินเล่นที่ UnionMall และ Central ลาดพร้าว ได้สบายค่ะ วันไหนรถติดต้องการใช้ทางด่วนสามารถขับขึ้นทางด่วนศรีรัชได้จากถนนกำแพงเพชร ถ้าขับไปบางซื่อทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ สำหรับสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆจะมีสวนจตุจักร, สวนสมเด็จย่าฯ และ สวนรถไฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสวนจตุจักรเลยค่ะ

ส่วนถ้าขับมาทางแยกสะพานควาย จะมีโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล และบิ๊กซีสะพานควายอยู่ฝั่งตรงข้าม ถัดลงมาอีกจะเป็นแยกสะพานควาย สามารถไปออกเส้นถนนพระราม 6 ได้  หรือเข้าถนนอินทามระก็จะไปออกถนนวิภาวดีรังสิต ตรงแยกสุทธิสารก็ได้  ถ้าผ่านแยกสะพานควายนี้ไปก็จะเป็นย่านอารีย์ มี Villa อารีย์ มีร้านอาหารหรูหรามากขึ้นกว่าแถวสะพานควาย  (มีความเป็นไลฟ์สไตล์สูงกว่าย่านสะพานควาย) สามารถนัดเจอเพื่อน หรือไปเดินเล่นแถวนั้นได้ชิวๆค่ะ

มาดูเพื่อนบ้านที่ติดโครงการกันค่ะ พื้นที่สีเขียวอ่อนๆที่เห็นในภาพนั้น เป็นตึกแถวและร้านค้าอยู่ตลอดเส้นค่ะ มีรถเข็นขายของตลอดทางเดินเลยค่ะ และยังเป็นย่านที่ขายพระเครื่องแบกะดินริมถนนกันด้วย จะมีคุณลุงมาดูพระกันโดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์อาทิตย์จะคึกคักมาก  บางทีเล่นเอาเดินบนฟุตบาทกันลำบากทีเดียวค่ะ ร้านค้ามีครบๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวมันไก่ ร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านขายของเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงมีร้าน 7-Eleven และ Tesco Lotus Express อยู่ไม่ไกลมากด้วยค่ะ

วัดใกล้ๆโครงการก็มี สามารถเดินทางทำบุญได้ที่ วัดไผ่ตัน ซอยพหลโยธิน 15 ค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถไป Max Valu ที่อยู่ใต้คอนโด IDEO MIX ได้ค่ะ ที่ใต้ IDEO MIX มี True Coffee ให้นั่งชิลล์ๆได้  นอกจากนั้นโครงการคอนโดที่อยู่ใกล้ๆโครงการ จะมีคอนโด ONYX ของทางแสนสิริ และ The Signature ของพฤกษาเหมือนกันซึ่งกำลังสร้างอยู่ค่ะ (เส้นประสีชมพู)

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

มาดูที่หน้าโครงการกันก่อนค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง

ด้านหน้าโครงการที่ติดกับทางเท้า ได้จัดเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ และยกระดับสูงขึ้นมาประมาณ 1 เมตร เพื่อบังสายตาจากความวุ่นวายภายนอก  และทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

มองออกไปจากโครงการจะเห็นว่าอยู่ใต้สถานีสะพานควายพอดีค่ะ ถนนหน้าโครงการเลยจะมืดๆหน่อย

ถนนหน้าโครงการจะเป็นถนนหลโยธินกว้าง 6 เลนไป-กลับ ฝั่งโครงการ The Editor สะพานควาย เป็นฝั่งที่ต้องขับไปทางหมอชิตค่ะ ถ้าจะไปทางอารีย์ต้องไปกลับรถที่แยกกำแพงเพชร

ทางเท้าข้างหน้าโครงการกว้างและสะอาดดีค่ะ จะมีคุณลุงเอาพระเครื่องมาตั่งขายกันเป็นเรื่องธรรมดาของแถวนี้ค่ะ

ทางเดินหน้าโครงการ ปัจจุบันแคบนิดนึงค่ะ เพราะมีก่อสร้างลิฟต์สำหรับคนพิการเพื่อใช้ BTS อยู่ค่ะ

ประตูเก๋ๆ สำหรับคนเข้าของโครงการค่ะ แต่ปัจจุบันยังล็อคไว้อยู่ค่ะ

ไปดูเพื่อนบ้านกันบ้างค่ะ เริ่มจากฝั่งเดียวกับโครงการ เดินดูตั้งแต่คอนโด ONYX ผ่านโครงการ ไปจนถึงซอยพหลโยธิน 15 นะคะ

บรรยากาศริมถนนฝั่งเดียวกับโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ตึกแถวร้านค้า และรถเข็นขายของค่ะ

โต๊ะที่ตั้งขายพระเครื่องแบบนี้จะมีตลอดช่วงสะพานควายเลยค่ะ

ป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ๆค่ะ

ร้านสุวรรณภูมิ ขายสินค้าสมุนไพรและ ผักสุขภาพค่ะ

Tesco Lotus Express ที่อยู่ติดกับโครงการ The Signature ค่ะ

คอนโดโครงการใหม่ของพฤกษา The Signature ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว  ติดทางขึ้นบันไดเลื่อนรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย ประตูเบอร์ 1 เลยค่ะ

ไปรษณีย์สามเสนที่ติดกับโครงการ The Editor ค่ะ

เดินผ่านคอนโดมา จะเจอซอยเล็กๆใกล้โครงการค่ะ ข้างในส่วนใหญ่เป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น เป็นที่พักอาศัย และสำนักงานเล็กๆค่ะ  ด้านหลังของตึกแถวในซอยนี้จะขนานกับแนวที่ดินของคอนโด The Editor สะพานควาย เลย  สมัยก่อนสถานที่เรียนพิเศษวิชาเคมีชื่อดังอย่าง เคมี อาจารย์อุ๊ เริ่มแรกก็เป็นตึกแถวอยู่ในซอยนี้ค่ะ

เดินถัดมาอีกนิดก็จะเจอ ทางลงสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควายประตูเบอร์ 3 ค่ะ  ทางลงนี้จะลงมาตรงหน้าวัดไผ่ตัน

วัดไผ่ตันในซอยพหลโยธินซอย 15 ค่ะ

ตอนนี้เรามาดูบรรยากาศฝั่งตรงข้ามของโครงการกันบ้างค่ะ เริ่มตั้งแต่ Big C สะพานควายไปจนถึง คอนโด Ideo Mix ค่ะ

มีทางม้าลาย เพื่อข้ามถนนไป Big C ค่ะ

ถัดจาก 7-Eleven มาจะเจอ ธนาคารทหารไทยค่ะ

โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล ถัดจากโรงพยาบาลเปาโลฯ จะเป็นธนาคารธนชาต และออฟฟิศเมต (Office Mate) ค่ะ

ถึงคอนโด Ideo Mix แล้วค่ะ

อยู่ใต้ BTS สะพานควายแล้ว มองกลับไปที่โครงการ จะเห็นทางเข้าด้านหน้า

Max Valu Tanjai จะอยู่ใต้คอนโด Ideo พหลโยธินค่ะ

นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟ True Coffee ด้วย มานั่งชิลล์ๆได้

หน้าคอนโด Ideo Mix จะมีสะพานลอยข้ามมาฝั่งโครงการได้ค่ะ จะมาลงตรงซอยพหลโยธิน 15  ภาพนี้ถ่ายโครงการ The Editor จากบนสะพานลอยค่ะ  จะเห็นว่ารอบๆยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวเท่าไหร่

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาดูโครงการ ส่วนต้อนรับกันค่ะ

เริ่มจากป้อมยามที่อยู่ด้านหน้าที่ตั้งโครงการค่ะ วัสดุจะล้อมากับแนวทางเท้าด้านหน้าโครงการค่ะ แบ่งทางเข้าออกซ้าย-ขวา มีไม้กั้นเพื่อตรวจบัตรค่ะ  พื้นทางเข้าด้านหน้าทำเป็น stamp concrete

มองออกไปจากตัวตึกจะเห็นว่าด้านหน้าโครงการ อยู่ตรงกลางสถานีรถไฟฟ้าสะพานควายเลย

ถนนด้านหน้าโครงการทำจากทรายล้างทำ pattern ลูกศรสลับสีขาว-ดำ-เทา เก๋ๆค่ะ

จะเจอส่วนรับแขก Outdoor เป็นส่วนแรก ตรงเข้าไปจะเป็นโถง Lobby และขวามือเป็นร้านค้าค่ะ
ตรงบริเวณนี้ส่วนด้านตรงมุมด้านหน้าของอาคาร ถนนหน้าโครงการจะเป็นทางลาดลงไปทำให้บริเวณด้านหน้าสูงขึ้นจากถนน ระวังเด็กเผลอวิ่งตกลงไปนะคะ น่าจะมีรั้วกันให้หน่อยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องกระจก ที่จะเป็นร้านค้าให้เช่า 2 ยูนิตค่ะ (ตอนนี้ยังเป็นส่วนของทางพฤกษาที่ใช้เป็นที่ทำงานอยู่)

เข้ามาใน Lobby จะเจอที่นั่งรับรองและเคาน์เตอร์ ตกแต่งสไตล์ Modern Classic ค่ะ  สเปซด้านในตกแต่งบรรายากศดี แต่ฝ้าเพดานของล็อบบี้จะไม่สูงมาก

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูค่ะ  มีทางเข้าออกติดกับถนนพหลโยธินด้านเดียว ด้านหน้าติดสถานีรถไฟฟ้า ด้านข้างและด้านหลังติดสำนักงานไปรษณีย์สามเสนที่ล้อมโครงการเป็นตัว L ค่ะ  ส่วนอีกด้านของโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น เป็นสำนักงานขนาดเล็กและเป็นที่พักอาศัยค่ะ ไม่มีตึกสูงที่อยู่ติดกับโครงการมากจนเกินไปมาบดบังทัศนียภาพเลยค่ะ

มองจากบนคอนโดออกมาทางฝั่งที่ดินกับตึกแถว จะไม่มีตึกสูงทางทิศเหนือเลย มองเห็นจนถึงสวนจตุจักรเลยค่ะ

มองเลยไปได้ไกลๆ เห็นสถานีหมอชิตเลยค่ะ

ตึกสำนักงานไปรษณีย์สามเสน ที่อยู่ด้านหลังโครงการ The Editor ค่ะ  ที่ดินของ The Editor ถูกล้อมรอบด้วยที่ดินของรัฐวิสาหกิจแบบนี้  ก็สบายใจได้ส่วนนึงว่าแทบไม่มีโอกาสที่จะมีตึกสูงขึ้นมาบังวิวในระยะกระชั้นชิดในอนาคตเลย

ด้านที่ติดกับไปรษณีย์สามเสนค่ะ จะเห็นว่าเป็นบ้าน ตึกแถว ส่วนใหญ่จะสูงพอๆกับสถานีรถไฟฟ้า ถัดออกไปถึงจะเป็นตึกใหญ่ ๆ ที่เห็นที่ภาพ คือ ร.พ.เปาโล คอนโด ONYX by Sansiri และ The Signature by Urbano ของทางพฤกษาที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวอาคารเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสค่ะ ห้องที่อยู่ทางทิศเหนือ ห้องจะเย็นกว่าทุกด้าน เพราะจะไม่โดนแดดทั้งวัน ด้านนี้จะเป็นด้านเดียวกับที่เห็นสวนจตุจักรซึ่งไม่มีตึกมาบดบังทัศนียภาพด้วยค่ะ รองลงมาจะเป็นด้านทิศตะวันออก ได้วิวด้านหน้าอาคารด้วย แต่ก็ได้ยินเสียงดังเพราะใกล้ถนนและสถานีรถไฟฟ้ามากกว่าห้องฝั่งอื่นๆ  ด้านหลังที่เป็นทิศจตะวันตกจะร้อนสุด  แต่ได้วิวของ Hub รถไฟตรงสถานีกลางบางซื่อที่กำลังก่อสร้างค่ะ

หน้าตาคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว

เริ่มจากภาพของคอนโดทางด้านหน้าค่ะ ลักษณะอาคารเป็นกล่องๆ โมเดริ์นเรียบๆ เป็นทรงสี่เหลี่ยมตรงขึ้นไป ที่ชั้นจอดรถด้านล่าง ตกแต่งด้วยแผ่นอลูมิเนียมดัดปลายโค้ง สร้างแพทเทริ์นที่น่าสนใจดีค่ะ

รอบๆถนนในโครงการจะปลูกต้นไม้ตลอดแนวรั้ว ถ้าขับรถตรงเข้ามาจะเป็นด้านที่ติดกับสำนักงานไปรษณีย์สามเสน บริเวณนี้จะเป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อเข้ามาจอดรถได้ใต้อาคารค่ะ

ด้านหลังโครงการจะเปลี่ยนที่กั้นบริเวณชั้นจอดรถเป็นตะแกรงเหล็กเพื่อให้ต้นไม้เลื้อยไปคลุมค่ะ โครงการปลูกพลูด่างไว้  อีกหน่อยด้านนี้คงเขียวขึ้น

ด้านข้างของโครงการอีกฝั่งนึ่ง จะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้นค่ะ ด้านนี้ผนังที่กั้นชั้นจอดรถยนต์จะตกแต่งด้วยผนังคอนกรีตสำเร็จ ทาสีเทาและเจาะช่องแสงเป็นแพทเทริ์นสลับกันไปมาค่ะ

ภาพรวมของงานก่อสร้างอาคารภายนอกดูสะอาดดีค่ะ เรียบร้อย ทาสีสม่ำเสมอ ไม่มีแบบคราบปูน คราบฝุ่นดำๆ หรือเศษปูนตกอยู่ให้เห็นเลยค่ะ ถือว่าเก็บงานก่อสร้างได้ในระดับเรียบร้อยดี

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities แทบทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 23-24 ชั้นบนสุดของอาคารค่ะ  สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาจะเป็น  มีการตั้งชื่อให้ส่วนกลางแต่ละอย่างด้วย  สระว่ายน้ำเรียกว่า Blue Horizon Pool มี Vista Jacuzzi มี Modernist Lounge ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ  ส่วนที่สองเป็น ห้องสมุด (Wisdom Library) ที่เชื่อมกับฟิตเนส (Club Vital Fitness)  ที่แปลกแตกต่างไปจากคอนโดอื่นคือมีห้องสควอช (Squash Club) ด้วย  ส่วนชั้นดาดาฟ้าจะมีลานกว้างๆและสวนหย่อมนิดหน่อย  ตั้งชื่อว่า Exclusive Sky Arena Amphitheatre, Serenity Yoga และ Oasis Yard ค่ะ

ลิฟต์ที่ให้มาเป็นลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว ลิฟต์สำหรับขนของจำนวน 1 ตัว ซึ่งจำนวนห้องมี 240 ยูนิต คือ 1 ต่อ 120 ยูนิต สัดส่วนนับว่าดีมากทีเดียวค่ะ

ส่วนที่จอดรถนั้นมีให้มาเพียงแค่ 40% รวมซ้อนคันค่ะ นับว่าน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาขาย  แต่ก็เนื่องจากโครงการ The Editor สะพานควายนี้ติดรถไฟฟ้า BTS เลยก็เลยพอจะยอมรับได้ในส่วนนี้ค่ะ

เริ่มจากออกจากลิฟต์ที่ชั้น 23 มาทางด้านซ้ายมือ (ด้านหลังโครงการ) เข้ามาจะเจอห้องประชุม (Exclusive Modernist Lounge) สระว่ายน้ำ (Blue Horizon Pool) ค่ะ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาไปทางหน้าอาคารจะเป็นส่วน ห้องสมุด ห้องฟิตเนส และห้องตีสควอชค่ะ

The Editor สะพานควาย – ชั้น 23

จะขึ้นมาดาดฟ้าชั้น 24 นี้ต้องเดินขึ้นบันไดทางหนีไฟขึ้นมาค่ะ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆแล้วก็ขึ้นบันไดต่ออีกทีหนึ่ง  กว่าจะขึ้นมาถึงทางเดินจะลึกลับซับซ้อนหน่อย

The Editor สะพานควาย – ชั้น 24 (ดาดฟ้า)

เริ่มที่สระว่ายน้ำที่จัดไว้ทางทิศตะวันตก จะได้วิวไปทางด้านหลังของโครงการ วิวมองออกไปทางนอกเมืองค่ะ ไม่มีตึกสูงบดบังสายตาเลย

สระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity edge swimming pool มีกระจกกั้น เปิดวิวทางด้านเดียว มีส่วนพักริมสระให้ด้วยค่ะ พื้นที่อาบน้ำจะมี 1 จุด อยู่ฝั่งห้อง Lounge ค่ะ

ที่นั่งพักริมสระว่ายน้ำจะเป็นซุ้มๆ ที่นอนแบบรีสอร์ทเลยค่ะ ได้บรรยากาศสบายมากๆ

อีกมุมนึงของวิวสระว่ายน้ำค่ะ จะเห็นคอนโด The Signature by Urbano กำลังก่อสร้างค่ะ  ถัดมาตรงกลางจะเป็น The Crest พหลโยธิน 11  คอนโดยุดคแรกๆของ SC Asset ที่ยังดีไซน์ออกมาหน้าตาไม่สวยเท่าไหร่  ช่วงหลังๆนั้น SC ดีไซน์ดีขึ้นเยอะค่ะ  ส่วนริมขวามือนั้นก็เป็น Lumpini Place พหลโยธิน-สะพานควาย

ขอบสระกั้นด้วยระเบียงกระจก เห็นพื้นที่บางซื่อ-จตุจักรที่กำลังปรับปรุงพัฒนาเป็น HUB สถานีกลางบางซื่อค่ะ  ถัดไปอีกจะเป็นสำนักงานใหญ่ของปูนซิเมนต์ไทย (SCG บางซื่อ) ค่ะ  ส่วนตึกสีน้ำเงินตรงกลางรูปนั้นคือตึก SCG 100 ปี นั่นเองค่ะ

ขอบสระตกแต่งด้วยหิน และปลูกต้นโมกสูงประมาณ 2 เมตรเอาไว้ค่ะ

เป็นส่วนเก้าอี้นั่งยาวๆ จะอยู่หน้าห้องพักนั่งเล่นริมสระค่ะ ในรูปต่อไปค่ะ

มีห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดเข้ามาค่ะ มานั่งอ่านหนังสือรอครอบครัวเล่นน้ำได้ค่ะ

ส่วนห้องอีกฝั่งนึง เป็น Exclusive Modernist Lounge แต่งเป็นโทนสีฟ้าค่ะ

โต๊ะที่จะไว้ให้มีชุดโต๊ะ และที่นั่งโซฟายาวค่ะ ตอนที่เข้ามารีวิว จะมีเสียงลมวีดๆ เข้ามาให้ห้องด้วย  น่าจะเกิดจากรอยต่อของวัสดุบางจุดที่เก็บไม่ได้  ตรงนี้คิดว่าเดี๋ยวจะต้องมีการปรับปรุงต่อไปค่ะ  เพราะว่าถ้ามีเสียงลมวีดเข้ามาตลอดเวลานี่น่าจะใช้งานกันลำบากอยู่

ส่วนห้องน้ำของชั้น Facilities จะมีล็อคเกอร์จัดไว้ให้แยกชาย-หญิงค่ะ  ดีไซน์ล็อกเกอร์ก็ยังคงคอนเซ็ปไว้

ในห้องน้ำยังคงแต่งให้เป็นคอนเซ็ปเดียวกับอาคารค่ะ เหมือนกันทั้งชาย-หญิงนะคะ  เลือกโทนของวัสดุได้น่ารักดี

มีห้อง Streaming แยกชาย-หญิงเหมือนกันค่ะ

มาดูที่ห้องสมุดกันบ้างค่ะ ซึ่งถ้าจะไป Fitness หรือ Squash Club ต้องผ่านห้องสมุดนี้ก่อนค่ะ

ที่จัดไว้ให้จะมีชั้นวางหนังสือประมาณ 3 ตู้ มีโต๊ะยาวและโต๊ะชุด 4 ที่นั่งไว้ให้ด้วย  รวมๆบรรยากาศดีมาก  พร๊อพอินทีเรียสวยค่ะ

ห้องสมุดที่อีกมุมค่ะ หน้าต่างสูงสุดผนังทำให้ห้องดูใหญ่และโล่งดี

ถัดเข้ามาจะเป็น Fitness ค่ะ

ห้อง Squash Club ค่ะ มี 1 ห้อง  อันนี้เป็นฟังก์ชั่นที่ไม่โหลแน่นอน

ขึ้นมาดาดฟ้ากันบ้าง  ต้องเดินขึ้นบันไดหนีไฟมานะคะ ลิฟต์มาไม่ถึง จัดไว้เป็นลานกว้างๆค่ะ โฆษณาไว้ว่าสำหรับเล่น Yoga ชั้นนี้ถ้าอยากมาใช้คงได้มาใช้งานในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นค่ะ เพราะตอนกลางวันร้อนมาก (เนื่องจากพื้นส่วนนึงเป็นคอนกรีต  เอาไว้ใช้ประโยชน์รวมพลเวลาเกิดอัคคีภัยด้วย)  ด้านบนแรง ผนังรอบๆปิดเป็นผนังสูงประมาณ 3 เมตร เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้คนตกลงไป จะทำตะแกรงไว้เฉพาะด้านทิศตะวันตกค่ะ ซึ่งก็เห็นวิวไม่ชัดอยู่ดีเพราะมีแนวต้นไม้บังอีกชั้น

อีกส่วนนึงจะถูกยกขึ้นมา และจัดเป็นสวนค่ะ

วางจานรับสัญญาณดาวเทียมของคอนโดนี่เอง

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Editor สะพานควาย ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  เข้ามาภายในรั้วโครงการผ่านถนนในโครงการก็จะเจอ ที่นั่งรับรองอยู่ด้านหน้า ติดกับยูนิตร้านค้าด้านหน้า 2 ยูนิต รอบที่ดินโครงการจะปลูกต้นไม้ตลอดแนวรั้ว ถัดเข้าไปอีกจะเป็นล็อบบี้จะมีที่นั่งจัดไว้ให้ 4 ชุด หน้าเคาน์เตอร์ ลิฟต์ล็อบบี้จะอยู่ทางขวา ส่วนห้อง Mail Room จะอยู่ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ค่ะ

ป้ายสวยๆของโครงการค่ะ

โถงต้อนรับที่ชั้น 1 ค่ะ ฝ้าจะเฉียงเทลดระดับลงไปที่เคาน์เตอร์

เดินผ่านเคาน์เตอร์มาจะเจอห้องตู้จดหมายอยู่ทางด้านหลัง ตกแต่งเป็นไม้สีน้ำตาล ป้ายสีทอง คลาสสิค แบบนี้ค่ะ (ความจริงห้องนี้ค่อนข้างมืดนะคะ แต่ปรับภาพให้ดูสว่างเพื่อให้เห็นรูปแบบของตู้จดหมายกันชัดๆค่ะ)

โถงลิฟต์ที่ชั้น 1 ค่ะ มี 2 ตัว ส่วนลิฟต์บริการจะมีทางเข้าแยกกัน  ลิฟต์เป็นแบบล็อกชั้น

พอเข้ามาในลิฟต์จะต้องใช้บัตรห้องสแกนก่อนแล้วค่อยกดชั้น เนื่องจากเป็นลิฟต์ล็อกชั้น ซึ่งบัตร 1 ใบจะขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เราอยู่และชั้น Facilities (ชั้น 23) เท่านั้นค่ะ  พวกปุ่มกดลิฟต์ต่างๆน่าจะตั้งใจเลือกรุ่นแบบที่ดูโบราณๆ คลาสสิคมาใช้

Typical Floor Plan คอนโด The Editor สะพานควาย ชั้น 7-22

แปลนนั้นเกือบจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสค่ะ การวางตำแหน่งของยูนิตต่างๆจะเหมือนกันทุกชั้น  ในแต่ละชั้นจะมีห้องอยู่ทั้งหมด 15 ยูนิต มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง พอออกทางโถงลิฟต์ทางเดินจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้แต่ละฝั่งมีห้องอยู่แค่ 7-8 ยูนิตเท่านั้นค่ะ  ก็ถือว่าความหนาแน่นไม่เยอะค่ะ  เป็นส่วนตัวดี

ห้องตรงมุมด้านหน้าจะเป็นแบบ 2 ห้องนอน (สีเทาเข้ม)  นอกนั้นก็จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนหมด  ลักษณะของแปลนนั้นสมมาตรเท่ากันทั้งซ้ายและขวาค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของคอนโด The Editor สะพานควาย มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 แบบค่ะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 ห้องนอน (B1) ค่ะ มี 7 ห้องใน 1 ชั้น และแบบ 1 ห้องนอน (B2) 4 ห้อง ส่วนห้อง 2 ห้องนอน (C1) จะอยู่ที่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคอนโด ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนที่เหลือจะมีอยู่แบบละ 1 ห้องอยู่ตามมุมที่เหลือของอาคารค่ะ

• 1 ห้องนอน (B1) ขนาด 27.21 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน (B2) ขนาด 28.26 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน (B3) ขนาด 34.78 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน (B4) ขนาด 36.35 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน (B5) ขนาด 45.91 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน (C1) ขนาด 52.19 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 1 ห้องนอน (B1) ขนาด 27.21 ตารางเมตร และ

แบบ 1 ห้องนอน (B2) ขนาด 28.26 ตารางเมตร

สองห้องนี้แม้จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่รูปทรงของห้องไม่เหมือนกันค่ะ ห้องแบบ B1 จะหน้ากว้างกว่า ส่วนห้อง B2 จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เน้นแนวลึกค่ะ ส่วนที่เหมือนกันคือสองแบบนี้จะรวมพื้นที่รับประทานอาหารและที่นั่งเล่นเป็นที่เดียวกันเพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ

เข้าห้องแบบ B1 ไป ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวค่ะ จัดไว้เป็นตัว L เข้ามุม ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนนั่งเล่นและที่นอน ห้องนี้คล้ายจะเป็นห้องแบบสตูดิโอค่ะ เนื่องจากส่วนครัวกับส่วนที่นอนไม่มีผนังกั้นชัดเจน ดังนั้นเวลาทำอาหารถ้าเป็นมื้อหนักๆแบบจริงจังกลิ่นจะมารบกวนส่วนนอนได้ค่ะ  ถ้าใครอยากได้ห้องนี้และอยากทำอาหารแบบจริงจังหน่อยก็ต้องติดประตูกั้นเองเพิ่มที่หลังได้ค่ะ  ด้านข้างของเตียงจะเป็นจะเป็นตู้เสื้อผ้า อีกด้านนึงจะติดกับทางออกระเบียงค่ะ มีชั้นวางของแคบๆไว้ให้ สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ  เพียงแต่ด้วยขนาดโต๊ะนั้นถ้าใช้ทำงานอาจจะวางของไม่ได้มากนัก

ส่วนห้องแบบ B2  ห้องแบบนี้จะมีผนังบานเลื่อนปิดระหว่างห้องครัวกับห้องนอนให้ค่ะ สามารถทำอาหารต้ม แกง ทอด แบบมีกลิ่นได้สะดวกกว่า แต่พื้นที่ครัวกลับเล็กกว่าห้องแบบ B1 ค่ะ ซึ่งประตูบานเลื่อนนี้จะสามารถเลื่อนปิดห้องครัว หรือเลื่อนไปปิดส่วนที่เป็น Walk-in closet ก็ได้ค่ะ  ถัดจากส่วนครัวเข้าไปจะเป็นพื้นที่เตียงกับพื้นที่นั่งเล่นอยู่ด้วยกัน ห้อง B2 นี้จัดมาให้ดูทีวีจากเตียงค่ะ ไม่มีพื้นที่ติดทีวีที่สามาถมองได้จากโซฟา  คือถ้าจะนั่งเล่นดูทีวีที่โซฟานี่ทำไม่ได้แน่นอน  และจุดที่แตกต่างอีกอย่างคือส่วนระเบียงของ B2 นั้นจะเล็กกว่าแบบ B1 อยู่มากค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 1 Bedroom (B3) ขนาด 34.78 ตารางเมตร

แบบ B3 นี้ ห้องจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น พื้นที่ว่างๆจะมีมากขึ้น ดังนั้นตั้งแต่ขนาดห้องแบบ B3 ขึ้นไป จะเริ่มมีที่ส่วนรับประทานอาหารแยกกับส่วนนั่งเล่นค่ะ ห้อง B3 นี้จะอยู่ติดมุมอาคารด้านทิศตะวันออกกับทิศเหนือ  แต่หน้าต่างจะเปิดออกทางด้านทิศตะวันออกอย่างเดียวซึ่งจะติดริมอาคารทำให้ได้กระจกเยอะ  ห้องจะดูกว้างมากขึ้นไม่อึดอัด

เข้าไปให้ห้องจะเห็นเคาน์เตอร์ครัว, โซฟา และโต๊ะรับประทานอาหารอยู่รวมๆกัน  ภายในห้องนอนมีห้องแต่งตัวแยกให้ต่างหาก อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ แล้วถึงจะเป็นห้องนอน ข้างๆที่นอนจะเป็นโต๊ะแต่งหน้าให้ด้วยค่ะ แต่ที่ปลายเตียงนอนดูแคบไปนิด เพราะว่าแบ่งไปทำห้องแต่งตัวค่ะ อาจจะแก้โดยการติดทีวีไว้กับผนังแทนการวางโต๊ะทีวีแบบในแปลนจะดีกว่าค่ะ  โดยรวมๆห้องนี้ดูเป็นสัดส่วนดี เว้นแต่ระเบียงห้องนี้ที่ต้องเข้าผ่านห้องน้ำค่ะ การวางตำแหน่งระเบียงที่ออกไปยังจุดตั้งเครื่องซักผ้านั้นดูประหลาดอยู่มากทีเดียว

แปลนห้องคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 1 ห้องนอน (B4) ขนาด 36.35 ตารางเมตร

มาดูที่แบบ 1 ห้องนอน 34.13-35.30 ตารางเมตร จะเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสค่ะ เข้ามาก็จะเจอส่วนห้องครัวจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนจะแยกไปอยู่อีกด้านรวมกับห้องน้ำค่ะ ในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้าติดกับห้องน้ำค่ะ ส่วนระเบียงจะห้องเข้าจากห้องน้ำ มีหน้าต่างทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนค่ะ แต่ห้องนี้หน้าต่างจะเปิดไปรับทิศตะวันตกนะคะ ซึ่งจะร้อนกว่าห้องอื่นๆค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 1 ห้องนอน (B5) ขนาด 45.91 ตารางเมตร

ห้อง B5 ลักษณะการจัดลำดับห้องคล้ายๆกับแบบ 1 ห้องนอนแบบ B3 ค่ะ แต่กว้างกว่า เข้าไปเจอส่วนรับประทานข้าว ครัวและพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ในบริเวณเดียวกันค่ะ พื้นที่เหลือเยอะแบบนี้สามารถเปลี่ยนโต๊ะกินข้าวเป็น 4 ที่นั่งยังพอไหวค่ะ ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอน ห้องนอนค่อนข้างกว้างดีทีเดียวค่ะ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะมาก เพราะว่าไม่ได้แบ่งพื้นที่ให้ห้องแต่งตัวแบบ B3 แล้ว เอาตู้เสื้อผ้าไปไว้ในข้างเตียงแทน (ก็แลกมาด้วยการเสีย Walk-in closet ไป) ส่วนระเบียงก็ยังเล็กพอๆกับแบบ B2-B4 ค่ะ และต้องเข้าจากทางห้องน้ำด้วยเช่นกันค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 52.19 ตารางเมตร

ตำแหน่งของห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอาคารพอดีค่ะ จะได้แสงทางด้านตะวันออกและระเบียงรับแดดทิศใต้ เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ครัว ยาวไปกับผนัง ต่อด้วยห้องกินข้าวติดกับพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งสามารถนั่งโต๊ะกินข้าวแล้วดูทีวีไปด้วยได้ ส่วนนี้จะติดระเบียงค่ะ ระเบียงจะใหญ่ที่สุดกว่าแบบอื่นๆ ห้องน้ำจะเข้าจากพื้นที่นี้ค่ะ ส่วนห้องนอน 2 ห้องจะเข้าแยกกัน อยู่ถัดเข้าไปข้างในค่ะ  จัดเป็นแปลน 2 ห้องนอนที่ทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบสตูดิโอ (B1) 27.21 ตารางเมตร , 1 ห้องนอน (B2) ขนาด 28.26 ตารางเมตร ซึ่งเป็นแบบที่มีจำนวนห้องมากที่สุดในโครงการ ความสูงของฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.60 เมตรค่ะ ห้องที่ได้จะเป็นแบบ fully furnished ได้เฟอร์นิเจอร์เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

เปิดห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัว ลักษณะเป็นตัว L ค่ะ พื้นที่ตรงครัวนี้กว้างดีค่ะ  ด้านในสุดเป็นส่วนตั้งตู้เย็น  ซึ่งเพื่อระยะความสูงของตู้เอาไว้ให้เยอะทีเดียว

ห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าห้อง ตรงข้ามกับพื้นที่ครัว แต่งโทนสีขาวค่ะ กระเบื้องเป็นลายอิฐบล็อกใหญ่และมีบัวผนังที่ช่วยให้ดู Vintage ขึ้น  โดยจะได้อุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดยกเว้นของประดับตกแต่งนะคะ

รูปทางเดินเข้าห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ ช่วงนี้จะมีตู้เก็บของให้ด้วยสูงถึงฝ้า  ด้านล่างเป็นตู้เก็บรองเท้า

ส่วนห้องนั่งเล่น มีชุดโต๊ะ เก้าอี้ และโซฟาให้ ห้องตัวอย่างผนังจะติดวอลเปเปอร์นะคะ แต่ห้องจริงจะเป็นทาสีขาวธรรมดาค่ะ  อย่างที่บอกว่ามีการดีไซน์ให้ประหยัดพื้นที่โดยรวมฟังก์ชั่นในส่วนโต๊ะรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นพักผ่อนเข้าไว้ด้วยกัน  ระดับของโต๊ะตรงส่วนนั่งเล่นเลยอาจจะดูสเกลแปลกๆอยู่หน่อย

ฝั่งนึงของเตียงจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือชั้นวางของจุกจิก และอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้า 3 ตอนค่ะ ใครอยากวางโคมไฟที่หัวเตียงแบบในห้องตัวอย่าง เอาไปวางอีกฝั่งของเตียงดีกว่านะคะเพราะถ้าวางโคมไฟแบบในห้องตัวอย่างมันเปิดตู้เสื้อผ้าด้านในสุดไม่ได้ค่ะ

มุมที่มองไปจากทางหัวเตียง โทนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเทาอ่อน ตู้เสื้อผ้าจะมีกระจกที่ด้านนอก  ส่วนตู้เก็บของจะเป็นฝาตู้โชว์แบบระบายอากาศได้ค่ะ

มองกลับไปที่ด้านหน้าของห้อง ปลายเตียงเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีค่ะ

ที่โซฟานั่งเล่นจะไม่มีหน้าต่างค่ะ เพราะด้านนอกจะเป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ ส่วนระเบียงจะอยู่ติดกับเตียงนอน ทำหลืบซ่อนรางม่านไว้ให้แล้ว

มุมมองจากระเบียงค่ะ ระเบียงไม่กว้างมาก  ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะถูกเก็บไว้ข้างๆระเบียง มีประตูปิดเรียบร้อย ใครซื้อห้องทางทิศใต้จะเห็นวิวแบบห้องตัวอย่างนี้ค่ะ คือคอนโด ONYX และ The Signature ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Editor สะพานควาย

แบบ 1 ห้องนอน (B2) ขนาด 28.26 ตารางเมตร

เข้ามาภายในห้อง เจอกับตู้เก็บของ และครัวซึ่งขนาดครัวจะเล็กกว่าห้องแบบแรกค่ะ

ถัดจากส่วนครัวเข้ามาจะเป็นพื้นที่เตียงนอนและส่วนนั่งเล่น ห้องแบบ B2 นี้จะดูสว่างค่ะ เพราะว่ามีหน้าต่างให้แสงเข้าได้ที่ด้านหลังโซฟา

มีตู้เก็บของทรงเตี้ยยาวไปตลอดแนวผนังที่จนถึงโซฟา ผนังด้านนี้จะว่างติดทีวีได้ แต่กลายเป็นว่าต้องดูจากเตียงค่ะ เพราะโซฟาหันหน้าเข้าหาห้องแต่งตัวกับห้องน้ำ ซึ่งจะเป็นประตูบานเลื่อนไม่สามารถติดทีวีด้านนั้นได้ค่ะ

หลังโซฟาจะเป็นกระจกเต็มผนังสูงเกือบจนฝ้า  ชดเชยกับระเบียงที่เล็กกว่าห้องแบบ B1 ค่ะ

มองกลับไปที่ทางเข้าจะเห็นประตูเลื่อนที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิด ฝั่งห้องครัวและห้องแต่งตัวได้ เป็นประตูเลื่อนแบบยึดรางบน ทำให้ไม่มีรางประตูที่พื้นให้เดินสะดุดค่ะ

ก่อนเข้าห้องน้ำจะเจอตู้เสื้อผ้าสองอยู่สองด้านของทางเดินค่ะ ประตูเข้าห้องน้ำก็จะเป็นประตูบานเลื่อนอีกเช่นกัน

มองจากห้องน้ำเข้ามาในห้อง ตรงที่นั่งเล่นดูสว่างดีค่ะ เพราะมีหน้าต่างไม่ดูแคบเท่าห้อง B1 ระเบียงจะอยู่ทางขวามือของภาพค่ะ แต่จะไม่มีหลืบซ่อนรางม่านแล้วนะคะ ส่วนระเบียงก็จะเล็กลง ไม่มีที่กั้นคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่จะแขวนไว้เหนือศรีษะแทนค่ะ

พื้นที่ตรงผนังนี้กว้างพอสมควร สามารถติดทีวี หรือทำชั้นวางของติดเพิ่มที่ผนังได้อีกค่ะ แต่บริเวณโต๊ะกินข้าวจะเปิดตู้ได้ลำบากหน่อยค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดีเลยค่ะ เป็น fully-furnished วัสดุที่เลือกใช้คุณภาพดี เฟอร์นิเจอร์ออกแบบและสร้างเพื่อใช้กับโครงการนี้โดยเฉพาะ การดีไซน์และการเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆก็ดูตั้งใจทำออกมาให้เข้าคอนเซปเดียวกัน คือออกแนวคลาสสิคๆ วินเทจหน่อยๆ  ทำภาพรวมดูสวยงามค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

Top เคาน์เตอร์ครัวสีขาว หน้าบานเป็นสีเทาผิวด้านค่ะ

มีถังขยะพลาสติกแบบติดมากับบานเปิดของตู้ใต้อ่างล้างจานค่ะ

ลิ้นชักที่ใต้เคาน์เตอร์ครัวค่ะ เป็นสีเทา สีเดียวกับบานตู้อื่นๆ

ลองเปิดออกมาให้ดูที่เก็บของค่ะ เก็บของให้เยอะพอสมควรค่ะ เปิดแบบ Soft Close ด้วยค่ะ

ตู้ลอยเหนือเคาน์เตอร์ครัวก็เก็บของได้ค่ะ รวมทั้งทำตู้ลอยไปปิดแผงควบคุมไฟในห้องด้วยเพื่อความเรียบร้อย ดูออกแบบมาละเอียดดีค่ะ

มีอ่างล้างจานมาให้ 1 หลุมและก๊อกคอยาวของยี่ห้อ MEX ค่ะ  ดูแข็งแรงจะหนาดี

ครัวของ 1 ห้องนอน (B2) จะได้เคาน์เตอร์เล็กกว่า B1 แต่วัสดุเหมือนกันค่ะ

เปิดตู้ด้านล่างของอ่างล้างจานให้ดูค่ะ ก็เก็บของได้พอสมควร

เตาไฟฟ้า Hot Plate ของ MEX

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างหน้า เป็นของยี่ห้อ KOHLER ค่ะ ก๊อกเป็นหมุนเปิดค่ะ

ผนังปิดด้วยกระเบื้อง ครึ่งล่างของผนังจะเป็นกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อน

ครึ่งผนังบนเป็นกระเบื้องสีขาวค่ะ  มีกรุยเชิงผนังโดยรอบ

Fully Furnished จะได้กระจกกั้นห้องอาบน้ำแบบนี้ด้วยค่ะ

ระหว่างที่อาบน้ำกับห้องน้ำจะมีธรณีเตี้ยๆนิดนึงค่ะ

สุขภัณฑ์ของยี่ห้อ KOHLER เหมือนอ่างล้างหน้าค่ะ

ลูกบิดประตูของห้องน้ำค่ะ

รอยต่อพื้นห้องและพื้นห้องน้ำ ไม่มีลดระดับค่ะ มีธรณีกั้นให้ไม่สูงนัก

ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า มีพื้นที่เก็บของพอสมควรค่ะ

แต่บานขวาเปิดได้ไม่สุดค่ะ เพราะจะเปิดแล้วจะชนกับโถสุขภัณฑ์  เวลาเปิดหยิบของก็ต้องจับไว้ไม่ให้กระแทก

ปลั๊กไฟในห้องน้ำมีที่ปิดกั้นน้ำกระเด็นค่ะ

ประตูห้องน้ำฝั่งในห้องจะมีบัวที่ขอบประตูเก็บความเรียบร้อย  ดีไซน์มาดู Vintage สวยงามดี

ที่แขวนผ้าในห้องน้ำ

ไฟในห้องน้ำเป็น Downlight เหมือนในห้องค่ะ

พื้นที่ตู้เสื้อผ้าของห้องแบบ B2 ก่อนเข้าห้องน้ำค่ะ

เปิดประตูเลื่อนให้ดูค่ะ ประตูจะถูกเก็บไว้ข้างตู้เสื้อผ้าซ้าย-ขวาค่ะ

ฝักบัวอาบน้ำจะเป็นทรงแบบยุโรปโบราณนิดๆ ซึ่งไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นๆค่ะ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

สวิตซ์ไฟในห้องค่ะ

ชุดโต๊ะทานข้าวแข็งแรงดี และโซฟาสองที่นั่งบุผ้าสีเทาค่ะ

ตู้เก็บของ Built-in ของห้องแบบ B1 ค่ะ บานตู้ไม่ปิดทึบจะเป็นช่องโปร่งๆระบายอากาศได้

ด้านบนเป็นชั้นเก็บของกึ่งตู้โชว์  ด้านล่างเก็บรองเท้าได้หลายคู่เลย

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน B1 ค่ะ ตกแต่งด้วยบานกระจก ช่วยลดความตันของตู้เสื้อผ้า  ให้ห้องกว้างขึ้นและใช้เป็นกระจกส่องตัวได้ด้วย

เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาดูจะมีไฟซ้อนอยู่ให้ด้วย

ตู้ใต้ทีวีของห้องแบบ B1

สามารถวางหนังสือ ของสะสมได้ค่ะ

ตู้ยาวๆที่อยู่ในห้องแบบ 1 ห้องนอน B2 บ้างค่ะ ตู้ไม่ลึกแต่ยาว

เปิดตู้ให้ดูค่ะ เป็นชั้นไว้เก็บของเล็กๆ เก็บหนังสือแบบวางนอนซ้อนกันได้

ประตูบานเลื่อนปิดครัวหรือห้องน้ำ ของห้องแบบ 1 ห้องนอน B2 เป็นแบบแขวนไว้กับเพดาน เพื่อไม่ให้มีรางที่พื้นค่ะ มีวัสดุปิดรางไว้ให้ด้วยค่ะ

ประตูออกระเบียงจะยกขึ้นมาจากพื้นประมาณ 10 เซ็นติเมตร ต้องเดินก้าวข้ามธรณีออกไปค่ะ

บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ

ไฟที่ระเบียง เป็น Downlight เช่นกันค่ะ

พื้นที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ของแบบ B1  แอร์จะถูกแขวนไว้ข้างบน

พื้นจะเทคอนกรีตเฉยๆ  ไม่ได้ปูกระเบื้องให้

มีบานประตูเป็นอลูมิเนียมปิดให้เรียบร้อยดี

ระเบียงจะเตรียมท่อน้ำไว้ให้สำหรับต่อกับเครื่องซักผ้าค่ะ  ทาสีเทาแบบเดียวกับผนังช่วยพรางตาความไม่เรียบร้อยบางส่วนเอาไว้ได้

แต่ระเบียงของห้องแบบ 1 ห้องนอน B2 จะไม่มีที่เก็บให้ แต่จะยกคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้เหนือหัวแบบนี้ค่ะ และทำระแนงสีดำลงมาปิดตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วย เพื่อความสวยงามของอาคารค่ะ

ประตูออกไประเบียงจะเป็นประตูกระจก บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ มือจับแบบก้านโยกค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเปิดตัวของโครงการ The Editor สะพานควาย (Pre-Sale ตั้งแต่เดือน กันยายน 2013) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.99 ล้านบาทค่ะ ส่วนวันที่ไปรีวิว (1 กันยายน 2558) ราคาขยับขึ้นไปเริ่มต้นที่ 4.29 ล้านบาทแล้วค่ะ

ราคา ณ วันที่ 1 กันยายน 2558  (เฉพาะห้องที่เหลืออยู่ของโครงการ)

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ชั้น 10  ราคา 4,449,000 บาท เฉลี่ย 156,600 บาท/ตร.ม.

(โปรโมชั่น 4,299,000 บาท เฉลี่ย 151,320 บาท/ตร.ม.)

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ชั้น 9 ราคา 4,649,000 บาท เฉลี่ย 164,566 บาท/ตร.ม

(โปรโมชั่น 4,499,000 บาท เฉลี่ย 159,257 บาท/ตร.ม)

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ชั้น 12 ราคา 7,599,000 บาท เฉลี่ย 158,609 บาท/ตร.ม

(โปรโมชั่น 7,449,000 บาท เฉลี่ย 155,479 บาท/ตร.ม)

1 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ชั้น 18 ราคา 8,749,000 บาท เฉลี่ย 159,915 บาท/ตร.ม.

(โปรโมชั่น 8,599,000 บาท เฉลี่ย 157,174 บาท/ตร.ม.)

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 30,000 บาท 

• ผ่อนดาวน์

ไม่มี – สร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  60  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,299,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,379 บาท/เดือน

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 29,699 บาท/เดือน

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ราคาพิเศษ 7,449,000 บาท ผ่อนประมาณ 49,173 บาท/เดือน

2 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ราคาพิเศษ 8,599,000 บาท ผ่อนประมาณ 56,764 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,299,000 บาท ผ่อนประมาณ 29,993 บาท/เดือน

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 31,389 บาท/เดือน

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ราคาพิเศษ 7,449,000 บาท ผ่อนประมาณ 51,970 บาท/เดือน

2 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ราคาพิเศษ 8,599,000 บาท ผ่อนประมาณ 59,994 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,299,000 บาท ผ่อนประมาณ 32,696 บาท/เดือน

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 34,217 บาท/เดือน

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ราคาพิเศษ 7,449,000 บาท ผ่อนประมาณ 56,654 บาท/เดือน

2 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ราคาพิเศษ 8,599,000 บาท ผ่อนประมาณ 65,400 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,299,000 บาท ผ่อนประมาณ 37,624 บาท/เดือน

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 39,375 บาท/เดือน

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ราคาพิเศษ 7,449,000 บาท ผ่อนประมาณ 65,193 บาท/เดือน

2 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ราคาพิเศษ 8,599,000 บาท ผ่อนประมาณ 75,258 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom (B1) พื้นที่ 28.41 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,299,000 บาท ผ่อนประมาณ 48,177 บาท/เดือน

1 bedroom (B2) พื้นที่ 28.25 ตร.ม. ราคาพิเศษ 4,499,000 บาท ผ่อนประมาณ 50,419 บาท/เดือน

1 bedroom (B5) พื้นที่ 47.91 ตร.ม. ราคาพิเศษ 7,449,000 บาท ผ่อนประมาณ 83,478 บาท/เดือน

2 bedroom (C1) พื้นที่ 54.71 ตร.ม. ราคาพิเศษ 8,599,000 บาท ผ่อนประมาณ 96,366 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางของโครงการ The Editor นับว่าสะดวกมากๆค่ะ เพราะติดรถไฟฟ้า BTS สะพานควายเลย และโครงการติดถนนใหญ่ด้วย  เรื่องโครงข่ายทางด่วนสามารถไปใช้ทางพิเศษที่จุดขึ้นลงตรงถนนกำแพงเพชรได้ไม่ไกล  ถนนพหลโยธินหน้าโครงการยังเชื่อมกับถนนสำคัญอีกหลายสายค่ะ  ตรงแยกสะพานควายนั้นสามารถใช้ถนนอินทรามระไปออกตรงสุทธิสารและเข้ารัชดาภิเษกก็ได้เช่นกัน  แง่การเดินทางโดยโลเคชั่นจัดว่าดีทีเดียว

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่ในโซนสะพานควาย ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่น  จะมีโครงการที่อยู่ใกล้ๆโปรเจคสถานีกลางบางซื่อ ที่การรถไฟและ สนข. จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางระบบรถไฟฟ้าทางไกลและรถไฟฟ้าชานเมืองแทนหัวลำโพง  ซึ่งอยู่ในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย  โดยในอนาคตก็จะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญในการเดินทางกับระบบขนส่งมวลชนสาธราณะอื่นๆอีกหลายอย่าง  ซึ่งตัวสถานีกลางบางซื่อนั้นมองเห็นได้จากห้องทางทิศตะวันตกและสระว่ายน้ำของคอนโด The Editor ด้วยค่ะ  ซึ่งแน่นอกว่าการมีเมกะโปรเจคเข้ามาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงแบบนี้ก็คงจะทำให้ในอนาคตพื้นที่โซนนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอีกพอควร

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ตัวคอนโด The Editor สะพานควาย เกือบจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสสูงขึ้นไป ดีไซน์ใช้สีเทาและสีเทาเข้ม กระจกก็ใช้สีเทาดำ ทำออกมาดูขรึมๆ นิ่งๆ เรียบเท่  ตึกแบบนี้ดูผ่านๆแรกๆจะไม่หวือหวาแต่จะอยู่สวยได้นานค่ะ  ส่วนภายในทั้งหมดจะเป็นสไตล์ Classic Modern  ซึ่งจะมีดีเทลการตกแต่งที่จุกจิกต่างกับภายนอกที่เน้นเรียบๆ  ตัวที่ดินของ The Editor สะพายควาย ด้านหลังและด้านข้างนั้นล้อมรอบด้วยที่ดินของไปรษณีย์ไทย  ส่วนอีกด้านก็เป็นตึกแถวซึ่งด้านหน้าตึกแถวเหล่านั้นก็จะมีถนนสาธารณะอยู่  ทำให้ค่อนข้างแน่ใจว่าอย่างน้อยในอนาคตก็ไม่น่ามีคอนโดที่ขึ้นมาสร้างติดกันจนถูกบล็อกวิวแน่นอน

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาพอใช้ได้ค่ะ รูปแบบการวางตำแหน่งฟังก์ชั่นนั้นต่างจากห้องขนาดใกล้เคียงกันในคอนโดอื่นๆทั่วไป  มีความพยายามในการรวมพื้นที่ฟังก์ชั่นอย่างส่วนนั่งเล่นพักผ่อนและส่วนรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน  เพื่อประหยัดพื้นที่และให้ใช้สเปซได้คุ้มค่า  ซึ่งโครงการก็มีเฟอร์นิเจอร์มาให้  เลยสะดวกดี  เพราะถ้าต้องไปหาเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดลงล็อกและสามารถใช้ทั้งฟังก์ชั่นที่เป็นส่วนโซฟานั่งเล่นพักผ่อนกับรับประทานอาหารได้ด้วย  น่าจะเหนื่อยค่ะ  …. การวางแปลนยังมีบางจุดที่ดูติดขัดอยู่บ้างอย่างเช่นห้องแบบ B2 จะไม่สามารถดูทีวีได้จากโซฟานั่งเล่นต้องดูจากบนเตียงแทน  และก็มีบางห้องที่ระเบียงส่วนที่ไว้เครื่องซักผ้าต้องเดินเข้าจากทางห้องน้ำ  ซึ่งก็แอบแปลกอยู่พอสมควรค่ะ  ส่วนแปลนห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง B3, B4, B5 และ C1 นั้นก็วางตำแหน่งฟังก์ชั่นในห้องได้โอเคดี

แม้แปลนจะดูแปลกๆอยู่บ้าง  แต่ด้านวัสดุนั้นต้องชมว่าทำออกมาได้ดีค่ะ  ให้ของดีทีเดียว เฟอร์นิเจอร์มาแบบ Fully Furnished ที่ดูคุณภาพดี ผิวสัมผัสดี  มีที่เก็บของมาเยอะพอสมควร โดยรวมๆเรื่องวัสดุก็น่าประทับใจค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องสมุด รวมทั้งไฮไลท์ คือ ห้องสควอชที่ปกติแล้วไม่มีโครงการไหนให้กัน  พื้นที่สระว่ายน้ำนั้นเห็นวิวโล่งๆ ไปยังสถานีกลางบางซื่อที่กำลังก่อสร้างค่ะ  แต่ที่ชั้น 24 ที่เคลมว่าเป็นพื้นที่เล่นโยคะ และเป็น Sky Arena Amphitheatre คงจะไม่ค่อยได้ใช้งานจริงมากนัก เพราะเอาจริงๆแล้วมันร้อน  ด้านสัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 120 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นจัดว่าดีมาก ไม่หนาแน่น  ราคาแสนกลางๆกับที่จอดรถ 40% อาจจะดูน้อยไป  แต่ก็แลกมาด้วยการมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่หน้าคอนโด  นับว่าชดเชยกันไปค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

วันนี้อยู่สบายจะพาไปรีวิวคอนโด Chewathai Residence บางโพ กันค่ะ คอนโดนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางโพ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าจะเสร็จในปี 2560 นี้  และแน่นอนโครงการตั้งอยู่ในย่านบางโพที่ตอนนี้กำลังป๊อปปูล่ามากๆ  มีคอนโดเกิดใหม่ทยอยเปิดขึ้นในย่านนี้เรื่อยๆค่ะ  ส่วนนึงก็มาจากอานิสงค์ของรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสายสีน้ำเงินที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างกันไปเยอะแล้ว  สำหรับโครงการสายสีน้ำเงินนั้นจะทำให้คนสามารถเดินทางเชื่อมต่อข้ามไปทางฝั่งจรัญสนิทวงศ์ได้ง่ายขึ้น โครงการ Chewathai Residence  บางโพ  นั้นถือเป็นคอนโดที่วางตัวเองอยู่ในตลาดบนสุดในทำเลนี้ ณ ตอนนี้ค่ะ

ไปดูรีวิวโครงการอย่างละเอียดกันดีกว่า

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chewathai Residence Bang Pho 

(ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ)

• เจ้าของโครงการ >>>  บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
• ขนาดที่ดิน >>>  1-1-94.3 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 24 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน (เล็ก) 33.50 – 36.00 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน (ใหญ่) 42.50-49.00 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 68.00-78.50 ตารางเมตร
  • 3 ห้องอน (เพนท์เฮ้าส์) 95.50, 117.00 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  172  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 80% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.9 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 1/9/2558)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  125,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.806306, 100.522390
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 02-912-8808

คอนโด Chewathai Residence บางโพ นั้นตั้งอยู่ในบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้สี่แยกบางโพซึ่งเป็นบริเวณที่จะมีรถไฟฟ้า MRT สถานีบางโพ คอนโดห่างจากตัวสถานีแค่ 80 เมตร และอยู่ห่างจากสามแยกเตาปูน และ MRT สถานีเตาปูน 900 เมตรค่ะ ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับคอนโด The Tree Interchange ของทางพฤกษาค่ะ

สถานีบางโพเป็นสถานีหนึ่งของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินค่ะ จากเดิมที่มีอยู่แค่บางซื่อ-หัวลำโพงจะพัฒนาเป็นสายรถไฟที่จะวิ่งเป็นวงแหวนรอบกรุงเทพฯเลยค่ะ โครงการนี้คาดว่าแล้วเสร็จปี 2560 ส่วนสถานีเตาปูนเป็นสถานี Interchange Station ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากบางซื่อถึงบางใหญ่ สายสีม่วงนี้ใกล้เปิดให้บริการจริงเดือนธันวาคมปี 2558 นี้แล้วค่ะ

แผนที่ Chewathai Residence Bang Pho

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากสามแยกเตาปูนไปตามถนนประราษฎร์สาย 2 มุ่งหน้าไปที่สี่แยกบางโพค่ะ ขับเลยโครงการ The Tree Interchange ไปนิดเดียว โครงการ Chewathai Residence บางโพ จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ส่วนสำนักงานขายจะต้องกลับรถกลับที่สี่แยกบางโพ ขับผ่านโรงพยาบาลบางโพไปตัวสำนักงานขายจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Chewathai Residence ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ใกล้แยกบางโพ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ MRT สถานีบางโพ เดินมาจากคอนโดชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ประมาณ 80 เมตร ส่วนถนนประชาราษฎร์สาย 1 นี้สามารถไปขึ้นสะพานพระราม 7 เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ หรือจะไปแยกเกียกกายก็ได้ซึ่งบริเวณนี้จะมีโครงการในอนาคตที่สำคัญๆ 2 โครงการคือสะพานเกียกกายข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ (เส้นประสีชมพู) และอาคารรัฐสภาใหม่ โดยรอบรัฐสภาจะถูกจำกัดความสูงของอาคารในช่วงรัศมีตามกฎหมายค่ะ (ก่อนหน้านี้ก็มีคอนโด The Tree Privata ที่มีปัญหาเรื่องความสูงอาคาร  จนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ) นอกจากนี้โครงการยังใกล้แยกเตาปูน ห่างประมาณ 900 เมตร สามแยกนี้จะเชื่อมกับถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี เส้นนี้จะยาวไปผ่านแยกวงศ์สว่างและนนทบุรีค่ะ สถานีรถไฟฟ้าเตาปูนเป็น Interchange Station จะคล่อมเหนือแยกเตาปูนนี้ค่ะ เดิมทีท่าเรือที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นท่าเรือบางโพค่ะ ห่างไป 400 เมตรค่ะ  ตอนนี้ก็ปิดยาวเพราะสร้างรถไฟฟ้า  ไม่แน่ใจว่าพอรถไฟฟ้าเสร็จเปิดวิ่งจะยังมีท่าเรือบางโพนี้อยู่หรือเปล่านะคะ

แหล่งซื้อของใช้ในบ้านที่ใกล้ๆก็จะมีตลาดเตาปูน และ Tesco Lotus ประชาชื่น ที่สี่แยกประชาชื่น เลยจาก Tesco Lotus ไปจะเป็นสำนักงานใหญ่ของเครือปูนซีเมนต์ไทย (SCG) และบางซื่อ-จตุจักร (กราฟิกสีชมพู) ตรงนี้เองที่จะเป็น Hub รถไฟที่สำคัญในอนาคตค่ะ

ส่วนใหญ่แถวนี้ตลอดแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2  จะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าสูงประมาณ 3-4 ชั้น บ้านพักอาศัย และมีอพาร์ทเมนท์เตี้ยๆปนอยู่ แต่หลังจากมีแนวรถไฟฟ้ามาก็มีคอนโดสูงเกิดขึ้นตลอดแนวเลยค่ะ บริเวณแยกบางโพ จะมีคอนโด 333 Riverside ติดแม่น้ำเจ้าพระยา บนเส้นถนนประชาราษฎร์สาย 1 มีคอนโด The Tree Bang Po และที่อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 เช่นเดียวกับโครงการ Chewathai Residence Bang Pho มี The Tree Interchage, The Stage, Rich Park 2 และ Chewathai Interchange ซึ่งเป็นของบริษัทชีวาทัยเองค่ะ  แต่เมื่อเทียบขนาดที่ดินโครงการ Chewathai Residence จะเล็กกว่าโครงการอื่นทั้งหมด  เลยเป็นโครงการที่จำนวนยูนิตน้อยกว่าค่ะ

ตลอดแนวถนนและติดกับโครงการจะเป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น (กราฟิกสีเขียว)  ส่วนถัดเข้าไปหลังตึกแถวจะเป็นบ้านไม้เก่าๆที่อยู่กันมานานแล้วเสียส่วนใหญ่ค่ะ (หมายเลข 3)  ติดกับโครงการนั้นจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์บางโพ (หมายเลข 1)  เดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 1 จะเจอที่ดินเปล่าอยู่ทางทิศใต้ของโครงการค่ะ (หมายเลข 2)  ที่ดินตรงนี้เดิมเป็นโรงเรียนประถมชื่อโรงเรียนพรศรีวิทยา บางโพ  ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโรงเรียนเทคนิค  ตอนหลังก็ถูกซื้อที่รื้อโรงเรียนไป  พื้นที่ตรงนี้ใหญ่พอที่จะขึ้นคอนโดได้  ถ้ามีการสร้างจริงอาจจะบังทัศนียภาพในมุมเฉียงๆของบางห้องที่อยู่ทางทิศนี้ได้ค่ะ  ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านอาหารชื่อร้านวิเศษไก่ย่าง เป็นร้านชื่อดังเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว

วนกลับมาทางด้านทิศตะวันออกของโครงการบ้าง  ถัดจากโครงการมาทางเตาปูนจะมีปั๊มน้ำมัน ESSO (หมายเลข 4) ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงพยาบาลบางโพค่ะ (หมายเลข 5) ถัดจาก Esso จะเป็น The Market ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่เจ๊งไปนานพอควรแล้ว  เจ้าของจริงๆคือ TCC ของเสี่ยเจริญซึ่งยังถือที่ดินไว้  อีกหน่อยถ้าคอนโดย่านนี้เปิดพร้อมๆกันอาจจะเห็นการหยิบเอามาปัดฝุ่นกันอีกรอบก็ได้  เพราะยังไงเงินทุนก็หนาอยู่แล้ว  ถัดไปจะเป็นปั๊ม LPG เปิด 24 ชั่วโมง (หมายเลข 6) ติดกันเป็นโครงการ The Tree Interchange หน้าโครงการนี้จะมี 7-Eleven (หมายเลข 7) และมีสะพานลอยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ ฝั่งตรงข้ามนี้จะมีธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบางโพ และภัทรอพาร์ทเมนท์ อยู่ใกล้กับ Sales Office ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ เราจะเริ่มเดินจากสำนักงานขายไปที่โครงการ เลยไปจนถึงถนนประชาราษฎร์สาย 1 อ้อมไปข้างๆโครงการ แล้ววนกลับมาที่สำนักงานขายอีกรอบค่ะ

เดินจากสำนักงานขายมาจะเจอโรงพยาบาลบางโพ

สภาพทางเดินหน้าตึกแถว สะอาดเรียบร้อยดีค่ะ

ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น สภาพเก่า รถไฟฟ้ายกสูงดีจังค่ะ ดูโล่งไม่มืดทึบค่ะ

อยู่บริเวณเกาะกลางถนนค่ะ กำลังจะข้ามถนนไปที่หน้าโครงการ ข้างๆโครงการเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้นค่ะ

อีกด้านหนึ่งที่ติดกับโครงการเป็นที่ทำการไปรษณีย์บางโพค่ะ

ถัดมาเป็น Napha Place เป็นอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า มีธนาคารธกส.อยู่ด้านหน้าด้วยค่ะ

มาดูบรรยากาศแถวถนนประชาราษฎร์สาย 1 ที่อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการกันค่ะ

แยกบางโพค่ะ จากรูปจะที่เห็นเป็นถนนประชาราษฎร์สาย 1 มุ่งตรงไปทางสะพานพระราม 7 ค่ะ สถานีรถไฟฟ้าบางโพจะคล่อมแยกนี้พอดี ซึ่งจะมีบันไดรถไฟฟ้ามาลง ณ ตำแหน่งที่ยืนถ่ายรูปนี้ด้วยค่ะ

เดินเลาะถนนประชาราษฎร์สาย 1   มาทางแยกเกียกกาย สองข้างทางจะเป็นตึกแถวเหมือนกันค่ะ

ร้านวิเศษไก่ย่างอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ

ตึกแถวฝั่งตรงข้ามสูง 4 ชั้น

ตรงนี้เป็นที่ดินว่างที่มีพื้นที่ติดกับด้านหลังโครงการ Chewathai Residence ค่ะ ขนาดพื้นที่ใหญ่พอๆกัน  มองเข้าไปจะเห็น The Tree Interchange

ติดๆกันคืออพาร์ทเมนท์ ช.ประพันธ์คอร์ทค่ะ สูงประมาณ 7 ชั้นมีร้านขายของที่ชั้นล่างค่ะ

กลับมาตั้งต้นที่หน้าโครงการกันใหม่ค่ะ ทีนี้จะเดินทางโครงการกลับไปที่สำนักงานขายค่ะ

รอบๆแถวนี้ก็ยังเป็นบ้านไม้ บ้านปูน สูง 1-2 ชั้นสลับกันไปค่ะ

ตึกแถวด้านหน้าโครงการมีขายโต๊ะหมู่บูชา ศาลพระภูมิค่ะ

ถัดไปเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง

ปั๊มน้ำมัน Esso ค่ะ

The Market ที่ตอนนี้ร้างอยู่เป็นของ ทีซีซี แลนด์ ในเครือของ เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี ค่ะ

ปั๊ม LPG เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ติดกับ The Market ค่ะ

คลินิกสัตว์เลี้ยง ติดกับคลินิกรักษาทั่วไป อยู่ตรงข้ามกับสำนักงานขาย

อยู่หน้าโครงการ The Tree Interchange จะมีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามค่ะ

โครงการ The Tree Interchange ใกล้สร้างเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมีรีวิวออกมาให้ชมกันเร็วๆนี้ค่ะ

บรรยากาศถนนประชาราษฎร์สาย 2 ค่ะ

ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาบางโพค่ะ

อู่ล้างรถ ซ่อมรถ  อยู่ใกล้ๆกับสำนักงานขาย