สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปเดินเล่นฝั่งธนฯ ในช่วงเพชรเกษม ราชพฤกษ์ กันบ้าง  เพื่อดูทำเลที่ตั้งของคอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก คอนโดของ LPN ตัวแรกที่เปิดในปีนี้ (2559) ด้วยราคาเริ่มต้น 990,000 บาทค่ะ ซึ่งตัวทำเลที่ตั้งนั้นจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตอนนี้สำนักขายก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเปิดให้จองกันที่สำนักงานขายในวันที่ 30 ม.ค. นี้  วันนี้เราเน้นไปที่พรีวิวทำเลโซนบางแวกนี้  ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่สำหรับการทำคอนโด ตามกันมาได้เลย …

Lumpini Ville Ratchaphruek-Bang Waek

(ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>ถนนบางแวก ประมาณซอยบางแวก 74 และ 76
• ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 11 ไร่เศษ
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 5 อาคาร
• ประเภทห้อง >>> 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 22.50-26.00 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน (Combine) ขนาด 45.00 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 1,085 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 350 คัน หรือประมาณ 32% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> เริ่มต้น 999,000 บาท (ราคา ณ วันที่ 19/1/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.737626, 100.433986
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่

ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก

ที่ตั้ง คอนโด ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก จะอยู่บนถนนบางแวกค่ะ ช่วงระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 1 คอนโด Lumpini Ville ราชพฤกษ์-บางแวกนั้น เข้ามาได้ทั้งจากถนนราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษม โดยผ่านซอยเพชรเกษม 48 และ เข้ามาจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 และ ถนนกาญจนาภิเษกค่ะ ซึ่งถ้ามองจากแผนที่โครงการ ภายในซอยนั้นจะไม่ได้มีระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ต้องออกมาใช้บริเวณเส้นถนนเพชรเกษมที่เป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือถนนราชพฤกษ์ที่เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากบนถนนราชพฤกษ์มาตามแนวรถไฟฟ้า BTS จนถึงสถานีบางหว้าที่เป็นจุดตัดกับถนนเพชรเกษม ให้ตรงไปตามเส้นราชพฤกษ์ค่ะ แล้วก็ชิดในเข้าถนนบางแวก โครงการจะอยู่เลยซอยบางแวก 74 ไปก่อนถึงทางที่จะเลี้ยวไปถนนเพชรเกษม 48 ค่ะ ซึ่งคอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ก็สามารถเข้ามาได้จากทางเพชรเกษม 48 ก็ได้เช่นกันค่ะ

เริ่มจากบนถนนราชพฤกษ์ วิ่งตามทางไปเพชรเกษม – ราชพฤกษ์เลยค่ะ

พอผ่านแยกที่เลี่้ยวไปกัลปพฤกษ์แล้ว ก็ให้วิ่งไปตามทางที่จะไปถนนบรมราชนนีค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนเพชรเกษม บริเวณจุดนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อกันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีเขียวค่ะ

ผ่านแยกเพชรเกษมมาแล้ว ก็ยังอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ให้ชิดซ้ายเข้าไปค่ะ

ข้ามสะพานข้ามคลองบางแวกมาแล้วจะเจอไฟแดงที่เลี้ยวเข้าถนนบางแวกค่ะ

เลี้ยวเข้ามาบนถนนบางแวก ซึ่งเป็นถนนสองเลนสวนกันพอดี ขับมาตามทางเรื่อยๆ ผ่านโลตัส เอ็กเพรส

ผ่านปั๊มน้ำมัน ปตท. บริเวณซอยบางแวก 63

เลยปั๊มมาก็ให้มองด้านขวาค่ะ พอเจอซอยบางแวก 74 ก็ให้เลี้ยวขวาเลยค่ะ ทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ติดกับซอยบางแวก 74 ส่วนสำนักขายนั้นจะอยู่ก่อนถึงแยกที่เลี้ยวไปซอยเพชรเกษม 48 อาคารสีส้มเด่นสะดุดตา ไม่เลยแน่นอน

มาดูบริเวณรอบๆ คอนโด ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก กันบ้างค่ะ ภาพรวมของถนนบางแวกนั้นจะส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย  ชุมชนเก่า โรงเรียน วัด ตึกแถว และโฮมออฟฟิศเป็นหลักค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบ จะมีคอนโดเก่าอยู่นิดหน่อย ส่วนโครงการที่เป็นคอนโดที่เปิดตัวใหม่นั้นนั้นเพิ่งเริ่มจะมีไม่กี่เจ้าค่ะ ถนนบางแวกเชื่อมต่อระหว่างถนนจรัญสนิทวงศ์ เลยไปจนถึงถนนทวีวัฒนา ซึ่งที่ตั้งคอนโดจะอยู่ช่วงระหว่างถนนราชพฤกษ์กับถนนพุทธมณฑลสาย 1 ค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นสามแยกที่สามารถออกไปถนนเพชรเกษมได้ โดยเลี้ยวเข้าซอยเพชรเกษม 48 ซึ่งจะไปเจอกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเพชรเกษม 48 พอดี ถ้าขับรถผ่านไปตอนนี้ตัวสถานีก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ หัวมุมของสามแยกนี้ ฝั่งตรงข้ามกับที่เข้าออกโครงการ Workplace ราชพฤกษ์ – จรัญฯ (หมายเลข 1)  โครงการโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น และทาวน์โฮม 3 ชั้น จาก SC Asset ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่มีร้านขายของอยู่ด้านล่าง พวก 7-Eleven และตลาดวัดชัยฉิมพลี (หมายเลข 2) โรงเรียนวัดไชยฉิมพลี และวัดชัยฉิมพลี (หมายเลข 3) ซึ่งสามารถเข้าได้ทั้งตรงถนนเพชรเกษม 48 และซอยวัดชัยฉิมพลีที่อยู่ถัดไปบนถนนบางแวก

กลับมาทางที่จะไปถนนราชพฤกษ์ ส่วนใหญ่ทั้งสองข้างทางจะเป็นตึกแถวเป็นหลักค่ะ จะมีโครงการคอนโดขึ้นใหม่ที่เป็นรูปแบบคล้ายๆ เลยก็มี คอนโด SJ เรสซิเด้นท์ (หมายเลข 4) อยู่ตรงซอยบางแวก 63 เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น ราคาเปิดตัวก็พอๆ กันค่ะ เลยมาหน่อยจะโครงการ Town+ ราชพฤกษ์-จรัญฯ (หมายเลข 5) ของแสนสิริ เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น ณ วันที่ปิดตัวอยู่ที่ 3.99 ล้านบาทค่ะ ฝั่งตรงข้ามภายในถนนบางแวกก็จะมีโรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ (หมายเลข 6) พอออกไปตรงถนนราชพฤกษ์ที่ตัดกับถนนบางแวก ที่เชื่อมต่อกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 นั้นจะเป็นที่ตั้งของสถานีบางเชือกหนัง ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการก่อสร้างค่ะ หัวมุมฝั่งซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 จะมีคอนโดของแสนสิริหนึ่งโครงการ คือ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ราชพฤกษ์-จรัญฯ13 (หมายเลข7) ถ้าตรงไปตามถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 จะไปเจอกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีจรัญสนิทวงศ์ 13 ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างด้วยค่ะ ส่วนถ้าตรงไปตามเส้นราชพฤกษ์แล้วจะเจอถนนตัดใหม่ที่เพิ่งจะมีการเปิดใหญ่อย่างถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นถนนที่ค่อนข้างกว้าง น่าจะสามารถช่วยกระจายรถออกไปได้บ้างค่ะ ตรงไปเรื่อยๆ จะไปเจอคอมมูนิตี้ มอลล์อย่าง The Circle เลยไปก็เป็นถนนบรมราชชนนีแล้วค่ะ

วนไปดูเส้นราชพฤกษ์กันแล้ว กลับมาดูตรงบริเวณซอยเพชรเกษม 48 กันต่อ ภายในซอยนี้ ถนนจะเป็นสองเลนสวนกับเหมือนกับถนนบางแวก แต่จะสวนกันแบบพอดีๆ มากกว่า (ขับรถยากนิดนึง) ภายในซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุมชนเก่า บ้านพักอาศัย มีตึกแถว อาคารพาณิชย์ตั้งอยู่สองข้างทาง มีโรงเรียน และวัดตั้งอยู่พอสมควร ไปสะดุดตาตรง Dragon mall (หมายเลข 8) ที่ทำเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์แบบจีน ขับเลี้ยวมาตามทางเรื่อยๆ จะเจอกับวัดจันทร์ประดิษฐาราม (หมายเลข 9) ระยะทางจากโครงการไปถึงปากซอยเพชรเกษม 48 จะอยู่ที่ประมาณ 3.3 กิโลเมตรค่ะ

บนถนนเพชรเกษม พอออกมาจากซอยเพชรเกษม 48 ตัวสถานีรถไฟฟ้าก็จะอยู่หน้าโครงการเลยค่ะ ห่างไป 1 สถานีที่สถานีภาษีเจริญจะเป็นซีคอนบางแค (หมายเลข 10) ถัดไปที่สถานีบางแคจะมีตลาดบางแค (หมายเลข 11) และ โลตัส บางแค (หมายเลข 12) อยู่ ส่วนสุดแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง บริเวณแยกถนนกาญจนาภิเษกนั้นจะเป็นเดอะมอลล์ บางแค ค่ะ ซึ่งหลังจากที่มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่านถนนเพชรเกษม แน่นอนว่า คอนโดตามแนวรถไฟฟ้าในย่านนี้ก็ผุดขึ้นมาตามๆ กัน ยิ่งใกล้สถานีมากเท่าไหร่ ราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนี้จะไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันที่สถานีบางหว้า บริเวณใกล้ๆ ก็มี ม.สยาม (หมายเลข 14) ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแยกรถไฟฟ้าสถานีบางหว้าไปก็จะไปจรัญสนิทวงศ์ วงเวียนใหญ่ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆ ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถ และที่ตั้งโครงจะอยู่ติดกับซอยบางแวก 74

ถนนบริเวณด้านหน้าโครงการค่ะ เลี้ยวซ้ายจะไปเพชรเกษม ส่วนถ้าตรงไปเรื่อยๆ จะไปออกพุทธมณฑลสาย 1 และถนนบรมราชชนนี

หัวมุมสามแยก เป็นร้านขายรถจักรยานยนต์

ตึกแถวริมถนนบางแวก บริเวณปากซอยวัดชัยฉิมพลี มีเซเว่น และร้านค้าต่างๆ

ซอยวัดชัยฉิมพลี บริเวณนี้จะมีสถานีตำรวจชุมชนวัดชัยฉิมพลีตั้งอยู่ด้วย

บรรยากาศบริเวณถนนบางแวกตรงทางที่จะมุ่งหน้าไปพุทธมณฑลสาย 1 ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว มีโฮมออฟฟิศขึ้นอยู่

แยกพุทธมณฑลสาย 1 ค่ะ

ผ่านแยกเลี้ยวไปพุทธมณฑลสาย 1 ขับมาเรื่อยๆตามถนนบางแวกก็จะเจอกับถนนกาญจนาภิเษกค่ะ

วนกลับมาดูบริเวณถนนบางแวก ช่วงที่จะไปถนนราชพฤกษ์กันต่อ

Workplace ราชพฤกษ์ – จรัญฯ โครงการทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ฝั่งตรงข้ามโครงการ บนถนนบางแวก

บรรยากาศบนถนนบางแวกอีกรูป

ที่ตั้งคอนโด SJ เรสซิเด้นท์ ตรงซอยบางแวก 63 เป็นคอนโดสูง 8 ชั้นเช่นกัน

ปั๊มน้ำมันปตท.

ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ ช่วงซอย 59

ทาวน์พลัส ราชพฤกษ์-จรัญฯ13 เป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น 

โลตัส เอ็กเพรส ติดกับซอยร่มเย็น

โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ

มาดูบรรยากาศภายในซอยเพชรเกษม 48 กันต่อค่ะ

ถ้ามาจากถนนเพชรเกษมเลี้ยวเข้าซอยเพชรเกษม 48 ขับมาเรื่อยๆ ตามทางประมาณ 3.3 กิโลเมตรก็จะเจอที่ตรงโครงการอยู่ตรงสามแยกพอดี

ตึกแถวบริเวณสามแยกที่ตัดกับถนนบางแวก

วัดชัยฉิมพลี

Workplace ราชพฤกษ์ – จรัญฯ ที่อยู่ตรงข้ามโครงการมีทางออกอีกทางอยู่ตรงซอยเพชรเกษม 48

ดราก้อน มอลล์

ภายในซอยจะมีรถสองแถววิ่งผ่านตลอดค่ะ

โรงเรียนจันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม

กลางๆ ซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น

ถนนภายในซอยเพชรเกษม 48 เป็นสองเลนสวนกัน ค่อนข้างแคบค่ะ

ภายในซอยจะไม่ใช่ทางตรงๆ อย่างเดียว แต่ก็ไปถึงโครงการไม่ยากค่ะ ขับตามทางไป

ข้ามคลองบางจาก

ปากซอยเพชรเกษม 48 ที่ติดกับถนนเพชรเกษมจะเป็นตึกแถวสุูง 2 ชั้น

มาดูที่รอบๆ บนถนนเพชรเกษมกันต่อ

ปากซอยเพชรเกษม 48 จะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเพชรเกษม 48 ค่ะ

ซีคอน บางแคที่อยู่ห่างไป 1 สถานี

โลตัส บางแค ใกล้ๆกันจะเป็นตลาดบางแคค่ะ

เดอะมอลล์ บางแค บริเวณแยกที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก มีรถไฟฟ้าถึงเหมือนกัน

ขอจบด้วยบรรยากาศบริเวณถนนราชพฤกษ์กันค่ะ

เส้นถนนราชพฤกษ์ที่กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายวิ่งผ่าน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการก่อสร้างค่ะ

ริมข้างทางถนนราชพฤกษ์ก็จะร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ ตรงไปเรื่อยๆ ก็มี คอมมูนิตี้มอลล์ ชื่อ The Circle

จากราชพฤกษ์ ไปออกรัชดาภิเษก เพื่อเข้าเมืองได้สบายๆ (ถ้ารถไม่ติดนะคะ)

BTS สถานีบางแวก ที่อยู่ห่างจากสถานีบางหว้าไป 1 สถานี

สถานีบางหว้า ซึ่งตอนนี้เป็นสถานีปลายทางของ BTS สายสีลมค่ะ

แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่มาตัดกับสายสีเขียวบริเวณบางหว้า

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก

คอนโด Lumpini Ville ราชพฤกษ์-บางแวก มีด้วยกันทั้งหมด 5 อาคาร  อาคาร A จะอยู่ใกล้ทางเข้าออกมากที่สุด มี 7-Eleven อยู่ใต้อาคาร ส่วนอาคาร E จะอยู่ด้านในสุด เรียงลำดับกันไป พื้นที่ส่วนกลางพวกสระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณอาคาร D  ตัวโครงการเข้าออกได้ทางเดียวจากถนนบางแวกค่ะ ทางทิศตะวันออกนั้นที่ติดจะติดกับซอบบางแวก 74 ส่วนทางทิศตะวันตกจะติดกับตึกแถว อพาร์ทเม้นท์ในซอยบางแวก 76 ซึ่งสูงไม่เกิน 4 ชั้น ส่วนด้านหลังนั้นจะติดกับคลองบางเชือกหนังค่ะ  ฝั่งตรงข้ามกับด้านหน้าโครงการบนถนนบางแวกจะเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม ซึ่งบริเวณรอบๆ เนื่องจากเป็นย่านชุมชนเก่า มีวัด มีโรงแรม คนค่อนข้างพลุกพล่าน เลยทำให้มีตึกแถวที่เป็นพวกร้านค้าและตลาดอยู่ด้วยค่ะ รอบๆ จะมีคอนโดเก่าใกล้ๆ ชื่อ จรัญการ์เด้น คอนโด สูง 8 ชั้นมีทั้งหมด 4 อาคาร และฝั่งตรงข้ามมีคอนโดที่เป็น 8 ชั้นเหมือนกัน เปิดขายพร้อมๆกับของ LPN ชื่อ SJ เรสซิเด้นท์ค่ะ

ผังคอนโด Lumpini Ville พฤกษา-บางแวก

ด้านหน้าสำนักขาย ด้านหลังเป็นที่จอดรถ

ด้านในที่จอดรถค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นโฮมออฟฟิศโครงการ Workplace ราชพฤกษ์ – จรัญฯ

หน้าตาโฮมออฟฟิศฝั่งตรงข้าม

อาคารส่วนใหญ่รอบๆ จะสูงไม่เกิน 4-8 ชั้นค่ะ นอกนั้นก็เป็นตึกแถว

ฝั่งทิศตะวันตกที่ติดกับอพาร์ทเม้นท์ในซอยบางแวก 76

พื้นที่โล่งด้านหลัง

ที่ดินโครงการจะไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตรงๆ ไปเลยค่ะ มีทางเลี้ยวเข้าไปตามแนวที่ดิน

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Master Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก

คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์ – บางแวก มีด้วยกันทั้งหมด 5 อาคารค่ะ อาคาร A จะอยู่ติดถนนบางแวก มี 7-Eleven และร้านค้าอยู่บริเวณนี้ เรียงไปเรื่อยๆ อาคาร E จะอยู่ด้านในสุดติดคลอง ส่วนพื้นที่ส่วนกลางพวกสระว่ายน้ำจะอยู่ตรงอาคาร D ค่ะ ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 รอบๆ โครงการค่ะ

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 1 อาคาร A และ B

อาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดติดกับทางเข้าออกโครงการ ที่อาคาร A จะมีร้านค้า เช่น 7-Eleven, ร้านซักรีด, ร้านเสริมสวยและร้านกาแฟ ค่ะ ส่วนอาคาร B จะมีสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด, ห้องสมุดมีชีวิต, ห้องกิจกรรมเด็ก และห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ นอกนั้นก็จะเป็นพื้นที่จอดรถมีทั้งใต้อาคาร และรอบๆ อาคาร

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 2-8 อาคาร A และ B

ห้องพักอาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 ซึ่งแปลนของอาคาร A และ B จะเป็นรูปตัว L ลิฟต์จะอยู่ตรงกลางของแปลนอาคาร อาคาร A จะมีห้องทั้งหมด 24 ห้องต่อชั้น ส่วนอาคาร B จะมีห้องทั้งหมด 28 ห้องต่อชั้น แปลนห้องหลักๆ จะเป็นห้องขนาด 22.50 ตารางเมตร (สีเหลือง) ซึ่งเป็นแปลนขนาดเล็กสุดในโครงการ อาคาร A แปลนขนาด 22.50 ตารางเมตรจะมีทั้งหันหน้าเข้าหาอาคาร B และหันออกไปนอกโครงการ ส่วนอาคาร B แปลนห้องขนาด 22.50 ตารางเมตรจะหันเข้าสวนส่วนกลางด้านในค่ะ ส่วนแปลนห้องขนาด 26 ตารางเมตร (สีฟ้า) ทั้งอาคาร A และ B จะหันออกด้านนอกหมด นอกจากนี้ยังมีห้องขนาด 23 ตารางเมตร (สีเขียว) ที่มี 1-2 ห้องต่อชั้น อยู่ตรงมุม และห้อวแบบ 26.50 ตารางเมตรที่มี 2-3 ห้องต่อชั้นอยู่ตรงมุมเช่นกัน

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 1 อาคาร C

อาคาร C ที่ชั้นล่างนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด ยกเว้นทางเข้าออกอาคารค่ะ

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 2-8 อาคาร C

แปลนอาคาร C จะเป็นรูปตัว l ห้องขนาด 22.50 ตารางเมตร จะหันไปทางทิศตะวันตก ส่วนห้อง 26 ตารางเมตรจะหันไปทางทิศตะวันออกเป็นหลักค่ะ

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 1 อาคาร D

อาคาร D นั้นชั้นล่างส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่จอดรถเช่นกัน แต่พื้นที่สวนส่วนกลางที่อยู่ด้านข้างอาคารจะมีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และ ห้องออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอยู่ตรงส่วนนี้ด้วยค่ะ

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 2-8 อาคาร D

แปลนอาคาร D เป็นรูปตัว L ห้องขนาด 22.50 ตารางเมตร จะอยู่หันออกด้านนอกมีทั้งทิศตะวันออกและทิศใต้ ส่วนห้องขนาด 26 ตารางเมตร เป็นทิศตะวันตกและทิศเหนือ  จะหันเข้าสระว่ายน้ำค่ะ

Floor Plan คอนโดลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก ชั้น 1 อาคาร E

อาคาร E นอกจากจะมีพื้นที่จอดรถแล้ว ก็ยังมีสวน, ห้องสมุดมีชีวิต, ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก และห้องกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ เพิ่มเติมมาอีกด้วย ตามแนวความคิด ชุมชนน่าอยู่ สำหรับคนทุกวัยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง

ห้องตัวอย่าง

ที่สำนักงานขายนั้นจะมีห้องตัวอย่างให้ดูทั้งแบบ 22.50 ตารางเมตร และแบบ 26 ตารางเมตร รวมไปถึงมีห้องตัวอย่างที่เป็นแบบ 2 ห้องนอน แบบ Combine ค่ะ  ภาพตัวอย่างในพรีวิวนี้มาจากทางโครงการนะคะ

พาไปดูทำเลที่ตั้งโครงการลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก กันไปแล้ว ถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันได้ และสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์โครงการได้ที่ >>> คลิกที่นี่ ค่ะ

บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (ORI) มองอุตสาหกรรมอสังหาฯไตรมาส 1/59 ปรับตัวคึกคัก จากการออกแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค และมาตรการภาครัฐจะหมดในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 3 Notting Hill ในเดือนมี.ค.-พ.ค.นี้ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายพรีเซลปีนี้ มีลุ้นแตะที่ระดับ 7,500 ล้านบาท ท่านผู้บริหาร พีระพงศ์ จรูญเอก ปลื้มผลงานปี 2558 มีรายได้รวม 2,055 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267% กำไรสุทธิ 386.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 450% จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่า 15,353  ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรอโอน (Backlog) สิ้นปี มีจำนวน 7,158 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  เปิดเผยถึง แนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 1/2559ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการปรับตัวคึกคัก ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะสิ้นสุดในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

นายพีระพงศ์ จรูญเอก

“ เราจะเห็นได้ว่าในไตรมาสแรก ORI มีการอัดแคมเปญ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อต่อเนื่อง ก่อนที่มาตรการภาครัฐจะสิ้นสุดในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดยไฮไลท์สำคัญที่เรานำมาร่วมแคมเปญในครั้งคือ โครงการพร้อมอยู่ราคาเริ่มต้น 1.29-2.69 ล้านบาท ใกล้ BTS เช่น โครงการ B-Loft 115 ภายใต้แนวคิดสไตล์ New York – Modern Loft, โครงการ The Knight คอนโดสไตล์วินเทจ, โครงการTropicana กับแนวคิด ECO GREEN CONDO, โครงการ B-Loft 109 สไตล์ New York – Modern Loft, โครงการ Kensington Bearing บนถนนสุขุมวิท107, โครงการ Villa Lasalle สุดเรียบหรูในสไตล์ฝรั่งเศส, โครงการ Pause 107 เพื่อ Lifestyle คนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดมาจากเทรนการใช้ชีวิตแบบ Slow Life, โครงการ B-Republic คอนโดมีเนี่ยม ใกล้รถไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบทันสมัยสไตล์ Modern Scandinavian และโครงการ Knights Bridge Bearing แฝงกลิ่นอายความงดงามของศิลปะแบบอังกฤษ”นายพีระพงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิด Pre Sale โครงการ 3 Notting Hill ได้แก่ Notting Hill สะพานใหม่, Notting Hill แหลมฉบัง และ Notting Hill แพรกษา มูลค่ารวม  4,000 ล้านบาท โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม นี้ จากเป้าหมายทั้งปีที่บริษัทฯมีแผนจะเปิดโครงการคิดเป็นมูลค่ารวม  10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยดันยอดขายทั้งปี โดยในปีนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายยอดขายพรีเซล ที่ 7,500 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงวดปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ของบริษัทฯที่ผ่านมามีรายได้รวม  2,055  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ และมีกำไรสุทธิ 386.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 450 % เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยในปี 2558 นี้บริษัทฯ มีโครงการที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้เพิ่ม 5 โครงการ ซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้แก่ โครงการ B-Loft สุขุมวิท 115 โครงการ B.Republic สุขุมวิท 101/1 โครงการ Villa Lasalle สุขุมวิท 105 โครงการ Pause สุขุมวิท 107 A และ โครงการ Pause สุขุมวิท 107 B ตามลำดับ ดังนั้นจากการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ปี 2558 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิอยู่ในระดับสูง โดยอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ร้อยละ 42.85 และอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 18.81

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม  704.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 125.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 243 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขาย จึงทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้มูลค่ารวมการเปิดโครงการของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีมูลค่ารวม 15,353 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานในปี 58 ที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าบริษัทฯ ได้พยายามทำงานอย่างหนักและเต็มที่ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ สร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียมที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งมอบการบริการหลังการขายที่ประทับใจเสมอมา” นายพีระพงศ์ กล่าว

สวัสดีค่ะ อยู่สบายมีพรีวิวคอนโด Low-rise ของแบรนด์ Plum Condo Station จากพฤกษา เรียลเอสเตทมาฝากกันอีกตัว คอนโด Plum Condo Chaengwattana Station ใกล้รถไฟฟ้า 3 สายด้วยกัน คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีเขียวค่ะ ซึ่ง พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น นี้จะอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ ปากซอยแจ้งวัฒนะ 1 ค่ะ วันนี้เรามีพรีวิวข้อมูลเบื้องต้นมาให้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิด Pre-sale กันใน 2 เม.ย. นี้ ที่สำนักงานขายค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Plum Condo Chaengwattana Station

(พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนแจ้งวัฒนะ ในซอยแจ้งวัฒนะ 1 ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย สายสีแดง สายสีชมพู และสายสีเขียว
• ขนาดที่ดิน >>> n/A ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  3 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • ห้องสตูดิโอ ขนาด 22.5 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 810 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น >>> 990,000 บาท (Pre-sale วันที่ 2 เม.ย. 59 ที่ สำนักงานขาย)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 44,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.881049, 100.586731
• เว็บไซต์โครงการ >>> Plum Condo Chaengwattana Station

โครงการพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น ถ้าดูจากแผนที่จะอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ในซอยแจ้งวัฒนะ 1 ซึ่งด้านหน้าถนนแจ้งวัฒนะนั้นจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านเป็นหลัก ส่วนที่โครงการบอกเอาไว้ว่าใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ทั้ง 2 สาย ไม่ได้วิ่งผ่านหน้าโครงการค่ะ รถไฟฟ้าสายสีแดงจะวิ่งผ่านถนนวิภาวดีรังสิต ส่วนสายสีเขียวจะวิ่งผ่านถนนพหลโยธิน ซึ่งจากแผนที่แล้ว โครงการ Plum Condo แจ้งวัฒนะ สเตชั่น นั้นจะอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสองสาย (ค่อนมาทางสายสีแดงมากกว่านิดหน่อย)

ตัวโครงการนั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และวัดพระศรีมหาธาตุฯ ซึ่งอยู่ตรงวงเวียนหลักสี่  ในซอยแจ้งวัฒนะ 1 นั้นจะออกไปทะลุกับซอยวิภาวดี 64 ได้ ซึ่งจากซอยวิภาวดี 64 ก็จะสามารถไปออกถนนพหลโยธินที่ซอยพหลโยธิน 49/1 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุมได้เช่นกัน แต่เวลาขับรถจริงจะไม่ได้เป็นถนนตรงแบบในแผนที่ของโครงการนะคะ  จะต้องเลี้ยวไปเลี้ยวมาพอสมควร  มาครั้งแรกๆ อาจจะงงได้

แผนที่ Plum Condo Chaengwattana Station

Floor Plan

คอนโด Plum Condo แจ้งวัฒนะ สเตชั่น นั้น เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น มี 3 อาคารค่ะ ต่างจาก Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น ซึ่งเราพรีวิวไปก่อนหน้านี้ที่เป็นคอนโด High-rise  โดยปกติแล้วแบรนด์พลัมคอนโด ส่วนใหญ่ก็จะเป็น Low-rise อยู่แล้วค่ะ เข้ามาจากทางเข้าออกโครงการจะเจอกับอาคาร A ก่อน ส่วนอาคาร C จะอยู่ด้านในสุด อาคาร A และ B จะเป็นรูปตัว H มี 38 ห้องต่อชั้น ส่วนอาคาร C จะเป็นรูปตัว L (ที่ดูเกือบจะเป็นตัว I) มี 32 ห้องต่อชั้น หนาแน่นน้อยกว่าค่ะ อาคาร A และ B จะมีสระว่ายน้ำให้ แต่อาคาร C จะไม่มีสระว่ายน้ำค่ะ

Facilities

เอารูปบรรยากาศจำลองของส่วนกลางคอนโด Plum Condo แจ้งวัฒนะ สเตชั่น มาฝากกันค่ะ สระว่ายน้ำจะอยู่ที่อาคาร A และ B ค่ะ

Room Plan

แปลนของคอนโด Plum Condo แจ้งวัฒนะ สเตชั่น มีหลักๆ อยู่ 3 แบบ เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด  22.50 ตารางเมตร และ 26 ตารางเมตร  และแบบ 2 ห้องนอน 45 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ combined ของ 22.50 ตารางเมตร 2 ห้อง ซึ่งแปลนห้องของแบบ 26 ตารางเมตร จะเหมือนกับ พลัมคอนโด เซ็นทรัล สเตชั่น ของแบบ 1 ห้องนอน 24 กับ 26.50 ตารางเมตรเลยค่ะ

คอนโดพลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ สเตชั่น เริ่มต้นห้องราคา 990,000 บาท ตอนนี้ก็เปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างแล้วค่ะ เร็วๆ นี้ ทางโครงการมี Pre-sale กันใน 2 เม.ย. นี้ ที่สำนักงานขายค่ะ สนใจก็ลองเข้าไปชมกันได้เลยค่าาา ^^ 

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โดย นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ โครงการทาวน์โฮม และ นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ ร่วมกับ นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและธุรกิจรายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์  มอบสินเชื่อบ้านที่ดีที่สุด พรีเมียมทาวน์โฮม บ้านกลางเมืองกว่า 20 ทำเลพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้าติดถนนใหญ่และทางด่วน ราคาเริ่มต้น 3.59 – 12 ล้านบาท ผ่อนเบาๆ   9,999 บาท นาน 3 ปี เฉพาะลูกค้าที่จองซื้อที่งานบ้านกลางเมือง LIMITLESS SPACE  24 – 30 มีนาคม 2559 ณ ชั้น 1 เซ็นทรัล ลาดพร้าว

ไอคอนสยามตอกย้ำสถานภาพของกรุงเทพฯ ในฐานะจุดหมายปลายทาง ที่เป็น ‘สุดยอดของโลก’ แห่งหนึ่ง ด้วยการนำเสนอปรากฏการณ์ที่เป็น ‘ครั้งแรกในโลก’ และ ‘ครั้งแรกในประเทศไทย’ มากมายเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังเพิ่มเงินลงทุนอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 54,000 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่โครงการเพิ่มอีก 5 ไร่ ฝั่งตรงข้ามถนนเจริญนคร

โครงการ ICONSIAM

โครงการ ICONSIAM

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เจ้าของโครงการ ICONSIAM สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จัดงานแถลงรายละเอียดของอภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคตอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 22 มีนาคม 2559 เปิดตัว 2 อาณาจักรศูนย์การค้าและความบันเทิงแห่งยุค บนพื้นที่ 525,000 ตารางเมตร  เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นอลังการที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อการก่อสร้างเสร็จในปลายปี 2560

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด

ICONSIAM (ไอคอนสยาม) มีขนาดพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย

• ศูนย์การค้า 2 อาคาร คือ ICONSIAM (Main Retail & Entertainment) พื้นที่ 500,000 ตารางเมตร  และ ICONLUXE (Luxury Wing) พื้นที่ 25,000 ตารางเมตร  มีที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวกแยกจากกัน แต่มีการเชื่อมต่อกันของพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าเดินได้อย่างทั่วถึง ซึ่งที่จอดรถรวมแล้วรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 5,000 คัน ไม่รวมกับที่จอดรถทัวร์ที่มีแยกไว้ต่างหากอีกด้วย

ICONSIAM

ICONLUXE

• คอนโดมิเนียมที่พักอาศัยมาตรฐานระดับโลกที่หรูหราสง่างามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 2  อาคาร คือ Magnolia Waterfront Residences ณ ไอคอนสยาม คอนโดมิเนียมสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต โดยภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ในปี 2557 สามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการ และยังทำลายสถิติว่าเป็นโครงการที่พักอาศัยแพงที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีราคาเทียบเทียมกับคอนโดมิเนียมหรูบนทำเลทองเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ย่านสุขุมวิท พหลโยธิน และราชดำริ และในปี 2557 ไอคอนสยามประกาศลงนามความร่วมมือกับ แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป เพื่อติดแบรนด์และบริหารโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ใช้ชื่อ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” (The Residences at Mandarin Oriental Bangkok) ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ไอคอนสยาม โดยจะเป็นโครงการที่พักอาศัยแบรนด์ ‘แมนดาริน โอเรียนเต็ล’ แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 14 ของโลก ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจับจองเป็นเจ้าของแล้วกว่า 40 %
• สิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ทั้ง 7 ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับการขนานนามให้เป็น “7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม”

ไอคอนสยามจะเริ่มเปิดให้เช่าพื้นที่ในโครงการ 2 อาณาจักรศูนย์การค้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ไอคอนสยามมีแผนที่จะทยอยประกาศผู้เช่าหลัก (Anchor Tenant) ภายในสามเดือนแรก ซึ่งราคาค่าเช่านั้นแว่วๆ มาว่าสูงกว่าพารากอนค่ะ

ล่าสุดไอคอนสยามจึงได้ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโครงการเฟส 2  เพื่อตอบรับความต้องการที่ท่วมท้น  โดยเช่าที่ดินฝั่งตรงข้ามโครงการบนถนนเจริญนครเพิ่มอีก 5 ไร่  เพื่อขยายที่ดินของโครงการทั้งหมดเป็น 55 ไร่  มีการลงทุนเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าลงทุนรวม 54,000 ล้านบาท โดยรายละเอียดจะแถลงให้ทราบต่อไปภายในปีนี้

ไอคอนสยาม เมืองแห่งความรุ่งโรจน์อันเป็นนิรันดร์ (The Icon of Eternal Prosperity)  เป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างสามพันธมิตร ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหาร Mixed-use development ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการ Mixed-use คุณภาพระดับ Luxury และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทชั้นนำของไทยที่มีการลงทุนในระดับโลก โดยในปี 2555 ได้เซ็นสัญญาร่วมทุนโครงการมูลค่า 50,000 ล้านบาท

นางชฎาทิพ จูตระกูล กล่าวว่า “ICONSIAM จะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทยในการเนรมิตโครงการที่ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์แบบ และตื่นตาตื่นใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย เพราะไอคอนสยามจะเป็นสถานที่ที่จะดึงดูดคนไทยทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชม เนื่องจากเรากำลังจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ของคำว่าล้ำเลิศในทุกมิติ ที่จะเป็นการสร้าง Paradigm ใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่รวบรวมสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็นที่สุดแห่งการอยู่อาศัย สินค้าและบริการที่ครบครัน นวัตกรรมในการอำนวยความสะดวกสบายและการสื่อสารที่ล้ำยุค”

ICONSIAM มุ่งหมายที่จะทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดสายระยะทางยาว 10 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก (New Global Destination) เพราะตลอดสายน้ำเจ้าพระยา เป็นที่ตั้งของโบราณสถานแหล่งมรดกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดกว่า 20 แห่ง โรงแรมระดับ 3-5 ดาวที่มีมากถึง 50 แห่งที่มีจำนวนห้องพักมากกว่า 10,000 ห้อง โครงการที่พักอาศัยหรูหราริมน้ำและฝั่งธนบุรีที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันกว่า 200 โครงการ  รวมถึงโครงการใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมายสองฝั่งแม่น้ำทั้งของภาครัฐและเอกชน  โดยไอคอนสยามจะเป็นจุดเชื่อมต่อสิ่งสำคัญทั้งปวงนี้  ตามที่ได้ประกาศ “แผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา” ไปเมื่อ พ.ศ. 2557 ภายใต้ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนผู้ประกอบการริมแม่น้ำทั้งหมดรวมถึงผู้ประกอบการเรือทุกประเภท เพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน และร่วมกันทำการตลาดในต่างประเทศ  เพื่อช่วยกันจุดประกายให้คนทั้งโลกหันกลับมามองแม่น้ำสายนี้อีกครั้งหนึ่ง ในฐานะจุดศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครที่มีศักยภาพมากที่สุด เป็นการนำเสนอหลากหลายมิติของความสุนทรีย์ของกรุงเทพฯ ว่า  เป็นมหานครที่ผู้คนทั่วโลกอยากมาอยู่อาศัยมากที่สุด และนักลงทุนอยากจะเข้ามาดำเนินธุรกิจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ICONSIAM มีปณิธานในการรังสรรค์โครงการที่แตกต่าง และต้องการนำเสนออัตลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของประเทศไทยให้ครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญาไทย ฝีมืออันปราณีตบรรจงในการสร้างสรรค์ เส้นสายสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์  ประเพณี วัฒนธรรม ฯลฯ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย ไอคอนสยามจะเป็นสถานที่ๆ บอกเล่าเรื่องราวที่เป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทย จากระดับหมู่บ้าน ตำบล จังหวัด จนถึงระดับชาติ เป็นตัวแทนของจินตนาการแห่งยุคที่จะถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ ในสไตล์ไทยล้ำยุคสู่อนาคต คือ ‘ไทยสร้างสรรค์’ ต่อสายตาชาวโลก นับเป็นครั้งแรกของ Mega Project ของไทยที่จะนำเสนอความเป็นไทยร่วมสมัยได้ทุกมิติอย่างครบครัน

 12 องค์ประกอบที่สุดแห่งความล้ำเลิศของ ICONSIAM

ไอคอนสยาม เปิด 2 อาณาจักรศูนย์การค้าและความบันเทิง มีพื้นที่ถึง 525,000 ตารางเมตร  มีองค์ประกอบดังนี้

1. ที่สุดของสถาปัตยกรรมที่จะสะกดทั้งโลก

• 2 อาณาจักรศูนย์การค้าแห่งยุคของไอคอนสยาม ได้แก่ ICONSIAM  และ ICONLUXE ได้รับการออกแบบโดยต่อยอดแนวความคิดจากการที่มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีแรงบันดาลใจจากการสักการะบูชาแม่น้ำของคนไทยด้วยเครื่องบรรณาการคือ กระทงและบายศรี ซึ่งเป็นเครื่องบูชาในงานมงคล แปลงเป็นรูปแบบ Abstract ร่วมสมัย  โดย อาคารไอคอนสยาม จะมีเส้นสายรอบอาคารจากการพับกระทงและบายศรี  ในขณะที่อาคารไอคอนลักซ์จะมีรูปทรงเสมือนกระทงแก้ว 3 อาคาร  มี Façade ทอดยาวริมแม่น้ำถึง 300 เมตร ด้วยกระจกพิเศษจับจีบซ้อนในลักษณะแนวตั้งยาวตลอด ซึ่งส่วนนี้มีแรงบันดาลใจจาก การห่มสไบที่จีบเรียงทอดยาว เปรียบเสมือนการห่อหุ้มสิ่งที่มีค่าที่สุดของโครงการไว้ เพราะ ICONLUXE  คือที่สุดแห่งความหรูหราสง่างามของโครงการไอคอนสยาม

2. ที่สุดของแนวความคิดการออกแบบ ICONS within ICON

• ICONS within ICON คือการสร้างอาคารเล็กหลายๆ อาคารให้อยู่ภายในอาคารใหญ่ ไอคอนสยามจะนำเสนอกลุ่มอาคารเล็กที่แต่ละอาคารมี Façade 360 องศา เปรียบเสมือนคฤหาสน์ (Mansion) ที่จะนำเสนอที่สุดของแบรนด์สินค้าไทยและที่สุดของ Luxury Brands จากทั่วโลกอย่างสง่างาม

3. ที่สุดของทัศนียภาพเหนือคำบรรยาย

• River Park พื้นที่จัดกิจกรรมริมฝั่งแม่น้ำ เนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร จะช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าถึงและดื่มด่ำกับความงดงามของบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำ โดยพื้นที่ส่วนนี้จะรองรับการจัดงานระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ และการแสดงโชว์ระดับโลกในสถานที่ที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
• ระบำสายน้ำผสมผสาน แสง สี เสียง ไฟ และมัลติมีเดีย (Multi-Media Water-and-Fire Feature) มูลค่า 400 ล้านบาท ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 400 เมตร ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย

4. ที่สุดของไทยสร้างสรรค์ ณ Venice of The East

• ไอคอนสยามจะรวบรวมสินค้าที่เป็นสุดยอดแบรนด์ไทยในทุกประเภท ตั้งแต่แฟชั่น ศิลปหัตถกรรมต่างๆ ตลอดจนสินค้าของดีของฝากจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศมาไว้ในที่นี้  เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวทั่วไทยได้อย่างครบครันในไอคอนสยาม เป็นตลาดน้ำในร่มแห่งแรก ภายใต้การบริการที่น่าประทับใจและสนุกสนานในแบบไทยๆ พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่หาชมได้ยาก บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร

5. ที่สุดของความหรูหราระดับโลก ณ ICONLUXE

• ‘ไอคอนลักซ์’ สัญลักษณ์แห่งความวิจิตร ศูนย์รวมความหรูหราระดับโลก จะเป็นที่สุดของการรวบรวม World Class Brands ดังระดับโลกทุกประเภททั้งสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับอัญมณี และนาฬิกาอย่างครบครันที่สุด   โดยแต่ละแบรนด์จะนำเสนอร้านในรูปแบบ Global Iconic Store ที่ไม่เคยทำมาก่อนในประเทศไทย

6. ที่สุดของศูนย์กลางศิลปะวัฒนธรรมและมรดกล้ำค่า

• ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม (ICONSIAM Heritage Museum) พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย 8,000 ตารางเมตร ศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย โดยไอคอนสยามจะทำงานร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม  และกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อจัดแสดงศิลปวัตถุล้ำค่าของไทยในยุคสมัยต่างๆ พร้อมทั้งมีนิทรรศการเคลื่อนที่ (Touring Exhibitions) ที่เป็นสุดยอด Masterpieces จากทั่วโลกผลัดเปลี่ยนกันไป  รวมถึงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินไทย นำเสนอด้วยเทคโนโลยีการจัดแสดงที่ทันสมัยที่สุด และได้มาตรฐานทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย และการอนุรักษ์โบราณวัตถุชิ้นสำคัญระดับโลก  การตกแต่งภายในของอาณาจักรศูนย์การค้าไอคอนสยามแห่งนี้ จะทำงานร่วมกับศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลกหลายท่าน  ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของความเป็นไทย  ลงในประติมากรรมชิ้นเอก ซึ่งจะจัดแสดงอยู่ทั่วอาคาร  ทั้งในรูปแบบของรูปปั้น  ภาพเขียน งานแกะสลัก ประติมากรรมรูปแบบต่างๆ การสร้างโคมไฟแชนเดอเลีย  ที่มีแรงบันดาลใจจากรูปแบบของการร้อยมาลัยและบายศรี รวมถึงการสร้างส่วนประกอบสำคัญขนาดใหญ่ๆ ในโครงการให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ

7. ที่สุดของความบันเทิงระดับโลก

• ศูนย์การประชุมระดับโลก (World Class Auditorium) ที่ได้มาตรฐานระดับสากลแห่งแรกในประเทศไทย ขนาด 3,000 ที่นั่ง รองรับการจัดงานประชุมและจัดแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ล้ำยุคด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ อีกทั้งจะดึงดูดการแสดงระดับชั้นนำของโลกให้เข้ามาได้อีกด้วย
• โรงภาพยนตร์ 10,000 ตารางเมตร จะเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกด้วยโรงภาพยนตร์ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศ ด้วยเครื่องฉายและระบบเสียงเทคโนโลยีล้ำยุครุ่นล่าสุด
• โลกแห่งความสนุกสนานของเด็กและครอบครัว 4,000 ตารางเมตร เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้รับประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจ สุดล้ำกับการแจ้งเกิดของสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเด็กๆ

8. ที่สุดของสินค้าและบริการที่ครบครัน

• ไอคอนสยามรวบรวม 500 ร้านค้าประเภทต่างๆ ทั้งในอาเซียนและจากทุกมุมโลกมาไว้ที่นี้ ซึ่งกว่า 20% ไม่เคยเปิดให้บริการในประเทศไทย
• Sport Complex ขนาดใหญ่แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่บน Roof Top Garden พร้อมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคกลางแจ้งและลู่วิ่งที่เห็นวิวสองของกรุงเทพมหานคร

9. ที่สุดของห้างสรรพสินค้า

• TAKASHIMAYA ห้างสรรพสินค้าระดับตำนานของญี่ปุ่น สาขาแรกในประเทศไทย 35,000 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้าแบรนด์หรูหราที่ครบครันจากประเทศญี่ปุ่นและไทย  อาทิ เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับทั้งบุรุษและสตรี ผลิตภัณฑ์ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพพรีเมี่ยม

10. ที่สุดแห่งความสุนทรีย์แห่งอาหารเลิศรส

• ไอคอนสยามจะนำเสนอสุดยอดภัตตาคารหรูระดับ 3 Michelin Stars เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และรวบรวม 100 ภัตตาคารชื่อดังของเมืองต่างๆ จากทั่วโลกที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทยมาไว้ที่นี้  รวมถึงอาหารสุดยอดจากทุกภาคในประเทศไทย  ภายใต้บรรยากาศที่หลากหลายทั้ง Terrace ริมน้ำ พื้นที่สวนสวรรค์ในอาคาร หรือ บน Rooftop ที่จะนำเสนอบาร์ในรูปแบบต่างๆ

11. ที่สุดแห่งนวัตกรรมการสื่อสารและการให้บริการ

• การนำเสนอเทคโนโลยีด้านการสื่อสารแบบครบวงจร มี Infrastructure สุดล้ำด้วยไฟเบอร์ออฟติกที่เร็วที่สุดในประเทศไทย เป็นสุดยอดนวัตกรรมด้านการสื่อสารยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ พบกับ Application ที่นำเสนอเรื่องราวกว่า 1 ล้านเรื่องของตำนานที่เป็นที่มาของงานศิลปะและส่วนตกแต่งภายในอาคาร แหล่งที่มาของสินค้า inspiration ของร้านค้าและบริการแก่ลูกค้าได้เข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวนั้นๆ ต่อไป

12. ที่สุดแห่งความสะดวกสบายของการสัญจรที่เชื่อมต่ออย่างครบวงจร

• ICONSIAM เป็นจุดเชื่อมโยงการสัญจรทาง รถ ราง เรือ เป็นโครงการแรกที่ให้การสนับสนุนการสร้างระบบขนส่งมวลชนรอง (Feeder Line) โครงการรถไฟฟ้าสายสีทองตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร บนถนนเจริญนคร ที่จะเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สีแดง และสีม่วง เข้าด้วยกันในอนาคต ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นแผนจะสร้างเสร็จพร้อมกับโครงการ ICONSIAM โดยเฟสแรกจะมีด้วยกัน 3 สถานี เริ่มตั้งแต่ สถานีที่ 1 อยู่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรี, สถานีที่ 2 อยู่ด้านหน้า ICONSIAM และ สถานีที่ 3 อยู่บริเวณโรงพยาบาลตากสิน และในพื้นที่โครงการยังสร้างท่าเทียบเรือ 4 ท่า เพื่อรองรับการสัญจรทางน้ำด้วยเรือยอร์ชส่วนตัว  เรือสำราญของนักท่องเที่ยว และเรือข้ามฟาก 73 ท่าเรือโดยรอบ

เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลเพิ่มเติมของ ICONSIAM และ ICONLUXE ที่ทยอยๆ ปล่อยออกมาเรื่อยๆ ส่วนสิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยามลำดับสุดท้ายนั้น ทางโครงการไอคอนสยามบอกไว้ว่าจะเผยโฉมพร้อมกับรายละเอียดกันภายในปีนี้ค่ะ รวมไปถึงโครงการเฟส 2 ที่อยู่บนถนนเจริญนครซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงการวางแผนด้วยค่ะ ส่วนรายชื่อของร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ ที่จะเข้ามาเปิดในพื้นที่ของ ICONSIAM นั้น ภายในช่วงกลางปีนี้ ทาง ICONSIAM จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกันอย่างแน่นอนค่ะ ^^

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะมาพรีวิวรายละเอียดคอนโด Chateau in Town Sukhumvit 64/1 ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise ใหม่ในซอยสุขุมวิท 64/1 จากบริษัท พระยาพาณิชย์พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด  อยู่ในเครือของ CMC Group  คอนโดชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 นี้อยู่ใกล้กับ BTS ปุณณวิถี ซึ่งในโซนนี้ตามซอยย่อยต่างๆ ก็จะมีคอนโด low rise ขึ้นกันหลายโครงการมาก  ส่วนใหญ่คอนโดโซนนี้ก็มักมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงานที่ทำงานในเมือง และใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก จากปากซอยสุขุมวิท 64/1 นี้สามารถเดินจากปากซอยไปถึงทางขึ้น BTS ปุณณวิถีได้ในระยะทาง 200 เมตร ใครกำลังมองหาคอนโดใกล้ที่ทำงานในย่านนั้นลองพิจารณาโซนปุณณวิถีดูค่ะ

Chateau in Town Sukhumvit 64/1
(ชาร์โต อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พระยาพาณิชย์พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ CMC GROUP
• ที่ตั้งโครงการ >>> สุขุมวิท ซอย 64/1
• ขนาดที่ดิน >>> 3-0-64.6 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้อง >>
  • 1 ห้องนอน 30.00 – 44.85 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 47.25 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 222 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 50% (ไม่รวมซ้อนคัน)
• กำหนดแล้วเสร็จ >>> ประมาณ ปลายปี 2559
• ราคาขายเริ่มต้น >>> 2.85 ล้านบาท (ณ วันที่ 19/3/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 95,000 บาท / ตารางเมตร (ณ วันที่ 19/3/2559)
• พิกัด GPS >>> N/A
• เว็ปไซต์โครงการ >>> www.chateauintown.com/sukhumvit64-1
• โทร >>> 02-747-9488, 095-204-2641, 02-468-9000

ที่ตั้งโครงการชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/1 ตามชื่อโครงการเลยค่ะ จากปากซอยเดินไปที่รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ได้ในระยะ 200 เมตร ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วน บริเวณสี่แยกบางนา (ทางพิเศษบูรพาวิถี) ประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากปากซอย

แต่ตัวสำนักงานขายจะตั้งอยู่ที่ BTS อุดมสุข ใกล้ปากซอยสุขุมวิท 101/1 ค่ะ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการ เช่น เซ็นทรัล บางนา, โลตัส อ่อนนุช, โรงพยาบาล สุขุมวิท, เกตเวย์ เอกมัย และ Bangkok Mall ค่ะ ส่วนโรงเรียนจะมีโรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ วิทยาเขตสุขุมวิท และโรงเรียนศรีวัฒนา

พื้นที่ส่วนกลาง

คอนโดชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 มีสระว่ายน้ำ, สวนหย่อม, ห้อง Stream, ห้องน้ำส่วนกลางและห้องฟิตเนสค่ะ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวสำหรับห้องพัก 222 ห้อง สัดส่วนลิฟต์อยู่ที่ 111 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวซึ่งเป็นสัดส่วนที่ดีค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

คอนโดชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 มีห้องอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนค่ะ แต่แบบ 1 ห้องนอนนั้นแบ่งออกเป็นอีกหลาย Type ตามลักษณะและขนาดของห้อง ซึ่งก็จะขอยกตัวอย่างแค่ห้องแบบ A1 ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการกับแบบ 2 ห้องนอนมาให้ดูกันค่ะ

• 1 ห้องนอน มีขนาดตั้งแต่ 30.00 – 44.85 ตารางเมตร
  • Type A1 – A12
  • Type B1 – B3
  • Type D1 – D3
  • Type E1 – E2
  • Type F
• 2 ห้องนอน มีขนาด 47.25 ตารางเมตร
  • Type C

แปลนห้องคอนโด Chateau in Town สุขุมวิท 64/1
แบบ 1 ห้องนอน Type A1 ขนาด 31.05 ตารางเมตร

Type A จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ใน 1 ชั้นจะมีหลายห้อง (สามารถดูจาก Key Plan ด้านล่างขวามือได้ค่ะ) อาคารจะเป็นรูปตัว C มีคอร์ทสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง ตำแหน่งของห้อง Type A1 จะหันออกไปด้านนอกอาคาร ภายในห้องจะมีผนังกั้นแต่ละห้องชัดเจน ห้องแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น และจัดโต๊ะรับประทานอาหารเป็นแบบเคาน์เตอร์ ซึ่งแปลกตาว่าคอนโดอื่นๆ ที่เป็นชุดโต๊ะกินข้าวค่ะ ที่จัดแบบนี้ก็เพราะเหตุผลด้านการประหยัดพื้นที่  โดยโต๊ะรับประทานอาหารนี้ยังสามารถดัดแปลงใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ด้วย  ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนซึ่งทำกระจกเข้ามุม สามารถมองออกมาที่บริเวณห้องนั่งเล่นได้ ลดความแออัดในห้องลงไปค่ะ  ส่วนห้องครัว ห้องน้ำ และระเบียงก็จะจัดเรียงกันไว้ด้านนึงของห้อง ได้ครัวเป็นแบบปิดทำอาหารไทยได้สบายๆ ค่ะ การจัดแปลนแบบนี้ห้องจะไม่ค่อยโล่งเท่าไหร่เพราะมีผนังบางส่วนตรงหลังตู้เสื้อผ้าอยู่  แต่ในทางกลับกันก็จพได้พื้นที่ห้องนอนที่ดูเป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ  แง่ฟังก์ชั่นการใช้งานรวมๆ ก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร

แปลนห้องคอนโด Chateau in Town สุขุมวิท 64/1
แบบ 2 ห้องนอน Type C ขนาด 47.25 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอน จะมีจำนวนไม่มาก มีแค่ชั้นละ 1 ห้อง จะอยู่ที่หัวมุมอาคาร หันออกไปด้านนอกอาคารอีกด้วย ดูตำแหน่งได้จาก Key Plan ค่ะ ลำดับการเข้าห้องจะเหมือนกับห้องแบบ 1 ห้องนอน ห้องน้ำ, ห้องครัว และระเบียงมีขนาดพอๆ กับแบบ 1 ห้องนอน เน้นเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องนั่งเล่นมากกว่าค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาตัว L ได้เลย มีพื้นที่ทำเป็นชั้นวางของเพิ่มขึ้น และโต๊ะรับประทานอาหารก็ใหญ่ขึ้นและสามารถนั่งหันหน้าชนกันได้ ส่วนห้องนอนเล็กที่เพิ่มขึ้นมาก็ได้ติดหน้าต่างภายนอกเหมือนกับห้องใหญ่ค่ะ  แม้ห้องนั่งเล่นจะไม่ได้ติดระเบียงหรือหน้าต่าง แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าห้องมันอึดอัดค่ะ เพราะได้พื้นที่ห้องมากพอควร

ห้องตัวอย่าง

ห้องนั่งเล่นค่ะ แต่งออกมาได้เฟี้ยวฟ้าว ผสมกับหรูเล็กๆ ยังจับสไตล์ได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ

บรรยากาศในห้องนอน

เปิดกระเป๋า ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้น ณ วันที่ 19 มีนาคม 2559 อยู่ที่ 2.85 ล้านบาทค่ะ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 95,000 บาท / ตารางเมตร

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ค่ากองทุน 500 บาท/ตารางเมตร

เนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วนนัก  เดี๋ยวทางเราจะแวะเข้าไปเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง และนำรายละเอียดมาอัพเดตเพิ่มเติมกันในรีวิวฉบับเต็ม  เพื่อจะได้เห็นข้อมูลในแง่มุมต่างๆ ได้ละเอียดชัดเจนมากขึ้นนะคะ

เปิดตัวคอนโดใหม่ Chateau In Town Sukhumvit 64/1 ภายใต้คอนเซปต์ “EXPAND YOUR LIFE” ขยายชีวิต ให้ใกล้อนาคต ตอบสนองทุก“LIFE STYE” ของชีวิต ให้การเดินทางของคุณสั้นนิดเดียว จากบริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC GROUP

จัดงาน OPEN GALLERY ในงาน OPEN GALLERY วันที่ 26-27 มีนาคม นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ

            ชาโตว์ อินทาวน์ สุขุมวิท 64/1 คอนโดใหม่แบบ LOW RISE สูง 8 ชั้น จำนวน 222 ยูนิต ตั้งอยู่ ซอยสุขุมวิท 64/1 บนถนนสุขขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี เพียง 200 เมตร ใกล้ ทางขึ้น-ลงทางด่วน สุขุมวิท 62 และเชื่อมต่อกับถนนหลากหลายเส้นทาง อาทิ เช่น ถนนสุขุมวิท, ถนนสรรพาวุธ, ถนนบางนา-ตราด  ให้ความสะดวกต่อการเดินทาง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ตัวอาคารสไตล์โมเดิร์นเน้นความโปร่ง โล่ง แบบส่วนตัว พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ  สระว่ายน้ำ, สวนหย่อม, Fitness, และ ห้อง Steam และรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา, โลตัส อ่อนนุช, เกตเวย์ เอกมัย, โรงพยาบาล สุขุมวิท ฯลฯ สำหรับการเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก

รับสิทธิพิเศษกันก่อนใครเมื่อจองภายในงาน และสามารถติดตามโปรโมชั่นพิเศษก่อนใคร เพียงแอดไลน์ @chateauintown (อย่าลืมใส่@ด้วย) ทั้งหมดนี้พร้อมให้ทุกท่านได้จับจองเป็นเจ้าของ ในงาน OPEN GALLERY วันที่ 26-27 มีนาคม นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ

คุณชานนท์ เรืองกฤตยา (ที่ 6 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา  ดีเวลลอปเม้นท์  จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคุณพงศ์พันธ์ ธีระจรุงเกียรติ (ที่ 7 จากซ้าย)  กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิศวภัทร์ จำกัด ผู้รับเหมางานก่อสร้าง และงานด้านสถาปัตยกรรม และ คุณนราธิป จันทร์ทอง (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ  บริษัท มิเนอร์วา แมเนจเม้นท์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้าง ถ่ายภาพร่วมกันบนชั้นดาดฟ้าคอนโด Ideo Q จุฬา-สามย่าน  ในโอกาสเข้าตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการ และควบคุมการก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน โดยคอนโด ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน มีขนาดพื้นที่โครงการกว่า 5 ไร่ จำนวน 1,598 ยูนิต  ติด MRT สถานีสามย่าน 270 เมตร   ซึ่งในขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยคอนโดไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Harvest Period) ของอนันดาฯ ณ ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน เมื่อเร็วๆนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

คอนโด Ideo Q จุฬา-สามย่าน

คอนโดไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน (Ideo Q Chula-Samyan) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 40 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฯลฯ และใกล้แหล่ง Liftstyle และช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ชั้นนำ อาทิ Siam Paragon, เซ็นทรัลเวิร์ล, สยามเซ็นเตอร์, Central Embassy, สยามดิสคัฟเวอรี่ ฯลฯ นอกจากนี้ Ideo Q จุฬา-สามย่าน ได้ถูกออกแบบพื้นที่มาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ภายในโครงการได้เต็มที่ อาทิ พื้นที่ Creative Zone สถานที่ออกกำลังกาย ร้านกาแฟ โดยมี Potential Partner อย่าง TCDC , Max Valu เป็นต้น

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายมีข้อมูลของโครงการบ้านประชารัฐ โครงการที่สนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา และผู้มีรายได้ไม่แน่นอนที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง โครงการนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งจะอนุมัติโครงการบ้านประชารัฐไปเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย (KTB) สนับสนุนสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนทั้งสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้พัฒนาโครงการ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนในกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือซ่อมแซมต่อเติม มีระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบ รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ ^^

โครงการบ้านประชารัฐ © ธนาคารอาคารสงเคราะห์

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย หรือมีรายได้ประมาณ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ครอบคลุมทั้งผู้มีรายได้ประจำ ได้แก่ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และบุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หรืออาชีพอิสระที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อนหรือเป็นบ้านหลังแรก ยกเว้นกรณีการซ่อมแซม และ/หรือต่อเติมที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ราคาที่อยู่อาศัยรวมที่ดินไม่เกิน 1.5 ล้านบาท  โดยให้ ธอส. และธนาคารออมสิน ทำหน้าที่คัดกรองคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ธนาคารจะเปิดให้ประชาชนยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 59 เป็นต้นไป

ในส่วนของโครงการเอกชนที่จะร่วมโครงการนั้น ภาคเอกชนจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมทั้งค่าใช้จ่ายส่วนกลางในปีแรก และต้องให้ส่วนลดพิเศษไม่น้อยกว่า 2% จากราคาขายสุทธิสำหรับอัตราดอกเบี้ยนั้น

สามารถอ่านรายละเอียดและติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย (KTB) ค่ะ ^^

บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขานรับสิทธิประโยชน์โครงการบ้านประชารัฐ นำโครงการคอนโดมิเนียม 1,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการ ด้านผู้บริหาร “พีระพงศ์ จรูญเอก ” เชื่อมาตรการรัฐส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯแข็งขันมากขึ้น และโครงการของบริษัทตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริง มั่นใจปีนี้รายได้โตเท่าตัวแตะ 4,000 ล้านบาท ตุน Backlog ในมือแล้วกว่า 6,846 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นยูนิตรวมกว่า 1,000 ยูนิต เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ  เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่มีความต้องการที่อยู่อาศัยหลังแรก

ทั้งนี้โครงการคอนโดมิเนียม ของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ  ดังนี้

1. คอนโด B Loft สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท

2. คอนโด Tropicana BTS Erawan ราคา 1.49 ล้านบาท

3. คอนโด The cabana Condo ราคา 1.29 ล้านบาท

4. คอนโด Pause condo สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท

5. คอนโด Kensington แหลงฉบัง-ศรีราชา ราคา 1.19 ล้านบาท

ยังไม่รวมถึง Notting Hill แพรกษา ที่ราคาขาย 1.1 – 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ที่จะเปิดขายในไตรมาสสองที่จะถึงนี้

สำหรับโครงการบ้านประชารัฐที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนั้น เป็นโครงการที่ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ซึ่งไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยสนับสนุนสินเชื่อ “โครงการบ้านประชารัฐ” วงเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) สำหรับประชาชนทั่วไปวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่สนใจใช้สิทธิ์โครงการบ้านประชารัฐนั้น ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน โดยมีความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แต่มีรายได้น้อย รัฐจึงเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้สามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด ซึ่งสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ ครม. มีมติเห็นชอบในวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 คาดว่ามียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายแล้วกว่า 800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการอัดแคมเปญต่างๆ ของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนนี้ด้วย

ดังนั้นมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559  จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือตามเป้าหมายที่ทางบริษัทได้ประกาศไว้ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากยอด Backlog ในมือ ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,846 ล้านบาท  และโดยล่าสุดได้ฤกษ์เปิดพรีเซลโครงการ Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา ใกล้ทั้งแหล่งงาน และสถานที่สำคัญต่างๆมากมาย มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

กระดาษปิดผนัง (Wallpaper) หรือที่เรานิยมเรียกกับแบบทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า วอลล์เปเปอร์ เป็นวัสดุที่หลายๆคนรู้จักกันดีใช่มั๊ยคะ และส่วนมากจะเลือกตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์แทนการทาสีผนังอยู่บ่อยไป

วอลล์เปเปอร์ ที่เรารู้จักกันจะเป็นกระดาษที่มีคุณภาพสูงชนิดพิเศษ ที่สามารถทำสี ลวดลายต่างๆได้มากมาย นำมาใช้ในการตกแต่งผนัง โดยพื้นหลังของวอลล์เปเปอร์นั้น ว่าไปแล้วมีอยู่สองชนิดด้วยกัน คือ

• พื้นด้านหลังเป็นกระดาษ
• พื้นด้านหลังเป็นไวนิล หรือผ้า

ความแตกต่างของพื้นหลังทั้งสองชนิดนี้ อยู่ที่ความคงทน อายุใช้งานเป็นหลักนะคะ ถ้าพื้นหลังเป็นกระดาษอายุการใช้งานจะน้อยกว่าแบบที่พื้นหลังเป็นไวนิล หรือผ้า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับสภาพแวดล้อมด้วยค่ะ ถ้าตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ติดลงบนผนังที่ได้รับความร้อน หรือแสงแดดตลอดเวลา แน่นอนว่ากระดาษก็จะกรอบเร็ว สีเปลี่ยนเร็วกว่า การตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ที่พื้นหลังเป็นไวนิล หรือผ้า

หรือถ้าจะตกแต่งผนังที่อีกด้านหนึ่งของผนังเป็นห้องน้ำ หรือส่วนที่สามารถเปียกได้ ไอเดียอยู่สบายอยากจะแนะนำให้ใช้วอลล์เปเปอร์ที่พื้นหลังเป็นไวนิล หรือผ้า  เนื่องจากจะสามารถทนความชื้นที่ออกมาจากผนังได้ดีกว่าวอลล์เปเปอร์พื้นหลังเป็นกระดาษ

มาดูกันที่ข้อดีของวอลล์เปเปอร์กันดีกว่านะคะ

หลักๆแล้วอยากจะขอเปรียบเทียบกับการทาสีผนัง เพราะว่าการตกแต่งผนังนั้นยังสามารถทำได้อีกหลากหลายวิธีด้วยกันค่ะ แต่โดยทั่วไปพื้นฐานแล้ว บ้าน หรือห้องคอนโดมิเนียม เพื่อนๆก็มักจะเลือกกันว่าจะทาสี หรือติดวอลล์เปเปอร์ดีกว่ากัน ไม่นับรวมการตกแต่งพิเศษด้วยการกรุไม้ กรุหิน หรือวัสดุพิเศษอื่นๆ

.

.

.

.

1. วอลล์เปเปอร์ สามารถปกปิดริ้วรอย แตกลายงา ความไม่เรียบร้อย สีด่าง ความสกปรก หรือคราบต่างๆบนผนังได้ง่าย สะดวกกว่าการทาสีซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่า  ถือเป็นข้อดีข้อแรกๆที่หลายคนเลือกตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ค่ะ เหมาะกับบ้าน หรือห้องเก่าที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซมให้เหมือนใหม่ หรือบ้านใหม่ ห้องคอนโดใหม่ ที่เพิ่งซื้อมาแล้วไม่ถูกใจในเรื่องของสี หรือความเรียบร้อยเล็กๆน้อยๆบนผนัง

แต่ไอเดียอยู่สบายจะไม่สนับสนุนให้ใช้วอลล์เปเปอร์ติดลงบนผนังที่ไม่เรียบ พื้นผิวมีความขรุขระ โดยไม่มีการปรับผิวผนังก่อนนะคะ หากติดวอลล์เปเปอร์ทับผนังที่ขรุขระ จะแสดงออกมาเป็นส่วนที่โป่งพองของวอลล์เปเปอร์ แลดูแล้วไม่สวยงาม ไม่เรียบร้อยเอาซะเเลยนะคะ ถ้าหากเป็นหัวตะปู หรือหัวน็อตที่ตอกเรียบไปกับผนัง แต่ไม่ได้มีการโป๊ว ก็สามารถติดวอลล์เปเปอร์ได้ค่ะ

2. วอลล์เปเปอร์ มีรูปแบบ ลวดลาย สีสัน ที่หลากหลายสวยงาม และในปัจจุบันมีบริษัทฯผู้ผลิตจำนวนมากที่รับผลิตวอลล์เปเปอร์ได้ตามแบบ และลวดลายตามต้องการ หรือผลิตวอลล์เปเปอร์ที่นำมาเติมแต่งเพิ่มรายละเอียดได้เอง แต่ก็แลกกับราคาที่สูงขึ้นกว่าการเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ที่มีสี และลวดลายที่ผลิตไว้สำเร็จรูป

3. ต่อมากจากข้อที่แล้ว การตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ สามารถแสดงความเป็นตัวตน รสนิยมของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดีผ่านรูปแบบ ลวดลาย สีสัน ที่เจ้าของห้องเลือกอีกด้วยนะคะ

4. ในปัจจุบัน สีทาผนังจะสามารถทำลวดลาย พื้นผิวได้ต่างๆไป แต่การทำลวดลาย พื้นผิวผนังด้วยการทาสีนั้น จำเป็นต้องอาศัยทักษะจากช่างผู้ชำนาญที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้มีค่าแรงในการติดตั้งมากกว่าการตกแต่งผนังด้วยการติดวอลล์เปเปอร์

5. ถึงแม้ว่าการตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์จะมีอายุการใช้งานที่อาจจะน้อยกว่าการทาสีผนัง แต่เพื่อนๆก็สามารถเปลี่ยน หรือลอกออกได้โดยง่ายดาย เมื่ออยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ หรือปรับปรุงห้องใหม่ สามารถทำได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ไม่เป็นการรบกวนถึงแม้ว่าในขณะนั้นยังมีการใช้งานห้องอยู่ก็ตาม โดยที่ไม่จำเป็นต้องปกป้องคลุมพื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้อง กลัวว่าจะเปรอะเปื้อนขณะติดตั้ง แค่จัดเก็บวางให้เรียบร้อยห่างจากผนังให้ช่างสามารถติดตั้งได้สะดวกก็เพียงพอ

6. เมื่อติดตั้งตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์แล้วเสร็จ สามารถเข้าอยู่ หรือใช้งานพื้นที่ได้ทันที เปรียบเทียบกับการทาสีผนังต้องใช้เวลารออีกหลายวันหรืออาจเป็นสัปดาห์ เพื่อให้กลิ่นสีจางหาย จึงสามารถเข้าอยู่ หรือใช้งานพื้นที่ได้

7. ผนังติดวอลล์เปเปอร์มีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงได้ดีกว่าผนังทาสี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูงเทียบเท่ากับวัสดุกรุผิวผนังชนิดอื่นๆ แต่ก็จัดว่าดีกว่าผนังทาสีค่ะ เพราะอย่างน้อยก็มีวัสดุที่กรุทับผนังอีกหนึ่งชั้น มักนิยมใช้กับห้องในคอนโดมิเนียม หรือทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม เพราะจะช่วยมลภาวะทางเสียงที่อาจจะได้รับจากห้องติดกัน และช่วยป้องกันเสียงจากห้องเราที่หลุดลอดออกไปรบกวนห้องข้างเคียงอีกด้วยนะคะ

8. ผนังติดวอลล์เปเปอร์ มีความสามารถในการช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอก เก็บกักความเย็นภายในห้อง (จากการที่เราเปิดเครื่องปรับอากาศ) ทำให้ประหยัดพลังงาน และช่วยลดภาวะโลกร้อน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากๆเลยนะคะ

วอลล์เปเปอร์ในปัจจุบัน ยังมีวิวัฒนาการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปมาก เพื่อนๆอาจจะเห็นว่าในท้องตลาดจะมีผลิตภัณฑ์วอลล์เปเปอร์ที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆให้เลือกใช้ได้หลากหลาย และเหมาะกับวัตถุประสงค์พิเศษในการใช้งานได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น เช่น วอลล์เปเปอร์มีคุณสมบัติการป้องกันเชื้อรา ป้องกันความชื้น ดูดซับกลิ่น และอื่นๆอีกมากมาย

รวมถึงการใช้วัสดุอื่น อย่างเช่น วัสดุธรรมชาติ ไผ่ กก มาสานทำเป็นผิวหน้าของวอลล์เปเปอร์ เป็นต้น ก่อนที่เพื่อนๆจะเลือกใช้วัสดุพิเศษที่นำมาทำเป็นผิวหน้าของวอล์เปเปอร์เพื่อใช้ในการตกแต่งผนังนั้น เพื่อนๆต้องสอบถามถึงข้อจำกัดผลิตภัฑณ์กับทางผู้ผลิต ผู้จำหน่าย หรือสอบถามกับทางสถาปนิก ดีไซน์เนอร์ มัณฑนากร ที่ออกแบบบ้าน หรือห้องคอนโดมิเนียมให้เพื่อนๆด้วยนะคะ

ข้อจำกัดที่พบเจอทั่วๆไปก็จะเป็น เรื่องขนาดหน้ากว้างของวอล์เปเปอร์ รอยต่อที่จะเห็นชัดเจนกว่าการตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์แบบมาตราฐาน หรือพื้นด้านหลังจำเป็นต้องเป็นกระดาษเท่านั้น ไม่สามารถเป็นวอลล์เปเปอร์แบบพื้นหลังเป็นไวนิล หรือผ้าได้

นอกจากนี้แล้ว ในปัจจุบันยังมีการใช้เทคโนโลยีในการนำวัสดุสังเคราะห์อื่นๆที่น่าสนใจมาผ่านกระบวนการติดบนกระดาษสร้างเป็นวอลล์เปเปอร์ หรือติดบนวัสดุอื่นที่เป็นแผ่น ให้มีลักษณะผิวสัมผัสแบบนูนต่ำ จนไปถึงสามมิติได้อีกด้วย หรือที่เรียกกันว่า Texture Surface ค่ะ

เกริ่นมาซะขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆหลายคนคงอยากรู้กันแล้วสิว่า Texture Surface คืออะไร มีลักษณะรูปร่างเป็นอย่างไรได้บ้าง ติดตามได้ที่บทความต่อๆไป จากไอเดียอยู่สบายนะคะ

วันนี้ขอจบเท่านี้ก่อนดีกว่า สวัสดีค่ะ

บริษัท  อัลเทอร์เนทีฟ แอสเซท จำกัด เดินหน้ารุกธุรกิจอสังหาฯ เปิดตัวคอนโดโครงการแรก “Altitude สามย่าน-สีลม” ภายใต้ Concept “ที่สุดสมดุลแห่งดีไซน์ของคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง” มูลค่าโครงการกว่า 510 ล้านบาท รองรับ Demand ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมืองมีอัตราเติบโตที่สูง มั่นใจตลาดคอนโดมิเนียมปีนี้ยังไปได้ดี

ดร.วนิดา บดินทร์ภักดีกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัลเทอร์เนทีฟ แอสเซท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คอนโด ALTITUDE ภายใต้ Concept “ที่สุดสมดุลแห่งดีไซน์ของคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง” กล่าวถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองว่ายังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะทำเลใจกลางธุรกิจ อาทิ สามย่าน สีลม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีระบบการคมนาคมที่สะดวก และแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จึงมั่นใจได้ว่าดีมานต์ความต้องการของตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวจะยังคงมีสูง

ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นช่องว่าง และโอกาสในการเติบโตของตลาดกลุ่มดังกล่าว จึงเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรก ภายใต้แบรนด์ ALTITUDE สามย่าน-สีลม มูลค่าโครงการกว่า 510 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอยู่ใจกลางเมืองสามย่าน-สีลม สามารถเลือกเส้นทางการเดินทางได้มากมาย สะดวกสบายทุกการเดินทาง เพราะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามย่าน เพียง 200 เมตร และห่างเพียง 600 เมตร จาก BTS สถานีศาลาแดง, ทางด่วน, โรงเรียนสาธิตจุฬา, สวนลุมพินี และห่างเพียง 450 เมตร จากย่านธุรกิจสีลม เป็นต้น

นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลเทอร์เนทีฟ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า คอนโด ALTITUDE สามย่าน-สีลม มีพื้นที่โครงการรวม 285 ตารางวา พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low rise สูง 8 ชั้น หนึ่งชั้นใต้ดิน รวมทั้งสิ้น 97 ยูนิต ประกอบด้วยห้องพักอาศัย 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29.30-37 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 41.38-49.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท พร้อมที่จอดรถ 43 คัน และพื้นที่จอดรถจักรยาน

ALTITUDE สามย่าน-สีลม

ALTITUDE สามย่าน-สีลม ตกแต่งภายในห้องด้วย Engineering Wood สีสันลวดลายธรรมชาติ 100% สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากไม้จริงในทุกพื้นที่อยู่อาศัยระบบห้องน้ำแบบ Automation จาก American Standard หรูหรา มีคุณค่า ทั้งรูปลักษณ์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ใส่ใจในทุกรายละเอียด กับอุปกรณ์ไฟฟ้าจาก Siemen ระบบ LED Lighting ทั้งอาคาร รวมถึงการติดตั้งแผง Solar Cell บนดาดฟ้า พร้อมชุดล็อกดีไซน์ล้ำคุณภาพสูง Hafele จากเยอรมัน เครื่องปรับอากาศ Daikin และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย

ALTITUDE สามย่าน-สีลม พัฒนาดีไซน์ที่ถ่ายทอดความเป็น Iconic ของตัวเองอย่างชัดเจน โดยคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่น ของรูปลักษณ์ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยการออกแบบภายนอกได้ผสานแนวทางใหม่ล่าสุดที่เน้นองค์ประกอบของโลหะและกระจก มาพัฒนาออกแบบผสมกับความโฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมทั้งฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง อาทิ การใช้กระจก Double Glass จากพื้นถึงเพดาน สะท้อนตัวตนอันหรูหรา แสตนเลสกรุหุ้นอาคารอีกชั้นที่ฉลุลายทำสีพิเศษ สามารถปรับองศาเพื่อลดความร้อนได้ มอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย และยังทำให้รูปลักษณ์ของ Altitude samyan–Silom มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างจากอาคารอื่น

นอกจากนั้นยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สวนพักผ่อน, ลานจอดรถ, สระว่ายน้ำ ระบบ Saltwater Swimming Pool และ Jacuzzi, ห้องสมุด, ห้องออกกำลังกาย และซาวน่า เป็นต้น ตลอดจนถึงระบบการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง, กล้องวงจรปิดทั่วอาคาร, ระบบกุญแจคีย์การ์ดสำหรับห้องพักอาศัย

สำหรับแผนการส่งเสริมการตลาดและการขายของโครงการ ALTITUDE สามย่าน-สีลม ต่อจากนี้ บริษัทฯ เตรียมโครงการจะเริ่มเปิดขายราคาพิเศษ Soft Launch ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ณ โรงแรม Siam Kempinski Hotel Bangkok เวลา 18.30 น. โดยมีคุณขวัญชัย  ยิ่งเจริญถาวรชัย กูรูนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง และเป็นกรรมการบริหารของบริษัท จะร่วมแบ่งปันมุมมอง และเทคนิคการลงทุนในวันดังกล่าวด้วย

สวัสดีค่ะ อยู่สบายมีพรีวิวคอนโด Altitude สามย่าน-สีลม คอนโด Low-rise สูง 8 ชั้น บนถนนสี่พระยา ใกล้ MRT สามย่าน จาก Alternative Asset มาฝากกันค่ะ แว่วๆ มาว่าโครงการขายไปแล้วกว่า 50% และทางบริษัทเองก็ได้ซื้อที่ดินเตรียมขึ้นโปรเจคต่อไปแล้วค่ะ ไปชมพรีวิวคร่าวๆ กันเลยดีกว่า ^^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Altitude Samya-Silom

(อัลติจูด สามย่าน-สีลม)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท  อัลเทอร์เนทีฟ แอสเซท จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนสี่พระยา ใกล้ MRT สามย่าน
• ขนาดที่ดิน >>> 285 ตารางวา
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน ขนาด 29.30-37 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน ขนาด 41.38-49.50 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 97 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น >>> 4.3 ล้านบาท (1 ห้องนอน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>  150,000 บาท/ตารางเมตร
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่

คอนโด Altitude Condo สามย่าน-สีลม ตั้งอยู่บนถนนสี่พระยาค่ะ ไม่ไกลจาก MRT สามย่าน ซึ่งที่ตั้งโครงการนั้นจะอยู่เยื้องๆ กับ คอนโด Wish@Samyan ค่ะ

Floor Plan

Master plan คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Floor plan ชั้น 2 คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Floor plan ชั้น 3-8 คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Floor plan ชั้นดาดฟ้า คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Facilities

Lobby คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

สระว่ายน้ำ คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Altitude Sky Deck คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Room Plan

ห้องตัวอย่าง

Interior คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

Interior คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม

คอนโด Altitude สามย่าน-สีลม ราคาเริ่มต้นของ 1 ห้องนอน อยู่ที่ เริ่มต้น 4.3 ล้านบาท ส่วนแบบ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท เริ่มเปิดขายราคาพิเศษ Soft Launch ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ณ โรงแรม Siam Kempinski Hotel Bangkok เวลา 18.30 น. นี้ค่ะ สนใจก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่ ^^

สวัสดีค่ะ อยู่สบายมีพรีวิวคอนโดแบรนด์ Plum Condo Station จากพฤกษา เรียลเอสเตทมาฝากกันอีกตัว คอนโด Plum Condo Ramkhumhaeng Station โครงการนี้จะเป็นคอนโด High-rise สูง 33 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีรามคำแหงค่ะ ซึ่ง พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น นี้จะอยู่ติดถนนรามคำแหง ใกล้กับซอยรามคำแหง 2 ค่ะ วันนี้เรามีพรีวิวที่ตั้งโครงการพร้อมข้อมูลเบื้องต้นมาให้ชมกันก่อนที่จะมีการเปิดสำนักงานขาย รวมไปถึง Pre-sale กันเร็วๆ นี้ค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Plum Condo Ramkhamhaeng Station

(พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ห่างจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์สถานีรามคำแหง 250 เมตร
• ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 5 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 33 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 22.50 และ 26.50 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน พลัส 39 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน (Combined) 46 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 1,003 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น >>> n/A บาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>  n/A บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.744374, 100.603020
• คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง >>> ไตรมาส 3/2559
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ >>> ไตรมาส 3/2561
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่

โครงการพลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น ตอนนี้ก็มีแต่ภาพจำลองอาคาร และแผนที่ที่ตั้งโครงการปล่อยออกมาค่ะ ทางแผนที่โครงการจะอยู่บนถนนรามคำแหงค่ะ ทางโครงการบอกเอาไว้ว่า ห่างจากแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง ระยะทางประมาณ 250 เมตรค่ะ พื้นที่รอบๆ จะเป็นรามคำแหงช่วงต้นที่เชื่อมต่อกับถนนพัฒนาการและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รามถึงถนนพระราม 9 และทางพิเศษศรีรัชด้วยค่ะ ส่วนถ้าจะไปขึ้น BTS นั้นใกล้สุดคงเป็นสถานีพระะโขนงที่อยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท 71 ค่ะ

มาดูแผนที่จาก Google Map กันบ้างค่ะ จะได้เห็นระยะทางตามจริง ตัวที่ตั้งคอนโด Plum Condo Ramkhamhaeng Station นั้นเดิมที่เป็นโชว์รูมซีตรองเก่า ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดถนนรามคำแหง ใกล้กับซอยรามคำแหง 2 ค่ะ จากโครงการ พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น ไปถึง Airport Link สถานีรามคำแหง ระยะทางประมาณ 250 เมตรค่ะ ซึ่งติดกับ ARL รามคำแหงจะ มี Community mall ชื่อว่า A-Link ตั้งอยู่  และจากสถานีรามคำแหง สามารถต่อรถไฟฟ้า MRT ได้โดยนั่งไปต่อ 1 สถานี ที่สถานีมักกะสัน ซึ่งอยู่เชื่อมต่อกับสถานี MRT เพชรบุรีค่ะ ใกล้ๆ กับคอนโดจะมีโรงแรมนาซ่า เวกัส เป็นโรงแรมที่ทัวร์ลงค่อนข้างเยอะค่ะ นอกจากนี้ ถ้าตรงไปทางถนนเพชรบุรีจะไปเชื่อมต่อกับถนนเอกมัย ส่วนถ้าตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนรามคำแหงทางทิศใต้ จะเชื่อมต่อกับถนนสุุขุมวิท 71 ไปออกถนนสุขุมวิท และ BTS พระโขนงได้ค่ะ นอกจากนี้ถนนรามคำแหงยังเชื่อมต่อกับถนนพัฒนาการ, ถนนพระราม 9, ทางพิเศษศรีรัชที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ค่ะ

คอนโดพลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น เริ่มต้นห้องราคาตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดออกมาค่ะ แว่วๆ มาว่าเข้าชมห้องตัวอย่างกันในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ที่สำนักงานขายโครงการ และมีลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท ด้วยค่ะ ^^ 

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายเปลี่ยนบรรยากาศลงใต้ ไปภูเก็ตกันบ้าง รีวิวนี้พามาชมคอนโด Zcape X2 เป็นคอนโด Low-rise 7 ชั้น โครงการที่ 2 ในจังหวัดภูเก็ตของ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ หลังจาก Zcape โครงการแรก Sold out ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ คอนโดสเคปเอ็กซ์ทูตั้งอยู่ในซอยของ Boat Avenue บนถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ตำบลเชิงทะเลค่ะ จุดเด่นของโซนนี้ก็คือลากูน่า พื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีโรงแรม 5 ดาวตั้งอยู่หลายโรงแรมค่ะ นอกจากโรงแรมแล้วก็ยังมีสนามกอล์ฟ สปา และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ มากมายค่ะ  วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิว Zcape X2  ที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เลย มาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Zcape X2 (สเคปเอ็กซ์ทู)

• เจ้าของโครงการ >>>  บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> อยู่ติด Boat Avenue ถ.บ้านดอน-เชิงทะเล ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
• ขนาดที่ดิน >>>  1-2-45 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 7 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน (Lake View) 26.55-31.09 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน (Pool View) 31.86-36.87 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 41.05-41.11 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  191  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 40% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.09 ล้านบาท (1 ห้องนอน 26.5 ตร.ม. ราคา ณ วันที่ 17/3/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  75,000-80,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 7.993482, 98.303696

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับที่ตั้งโครงการกันแบบคร่าวๆ กันก่อนค่ะ โครงการ Zcape X2 ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต แต่ว่าไม่ได้อยู่บริเวณตัวเมืองภูเก็ตค่ะ โซนที่ตั้งของคอนโดจะเรียกว่า เชิงทะเล อยู่กลางๆ ระหว่างตัวเมืองภูเก็ตกับสนามบินภูเก็ต ถ้าวัดระยะทางจากสนามบินไป Zcape X2 จะอยู่ที่ประมาณ 22.5 กิโลเมตร ส่วนจาก Zcape X2 ไปตัวเมืองก็อยู่ที่ประมาณ 20 กิโลเมตรค่ะ บริเวณคอนโดสเคปเอ็กซ์ทูนี้จะไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่ก็ไม่ได้อยู่ไกลมากค่ะ ชาดหาดที่ใกล้ที่สุดนั้นจะเป็นหาดบางเทาห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ

ส่วนที่ตั้งโครงการอย่างที่บอกไปว่า หาดที่ใกล้ที่สุดจะเป็นหาดบางเทาค่ะ การเข้าออกโครงการนั้นเข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากถนนบ้านดอน-เชิงทะเล กับถนนศรีสุนทรค่ะ ซึ่งถนนศรีสุนทรนั้นก็จะเชื่อมต่อกับถนนเทพกระษัตรี ซึ่งเป็นถนนหลักของจังหวัดภูเก็ต จะไปสนามบิน หรือจะเข้าเมืองภูเก็ตก็ต้องมาจากถนนเส้นนี้เป็นหลักค่ะ ส่วนถนนบริเวณหน้าโครงการถ้าเข้ามาจากตรงถนนบ้านดอน-เชิงทะเล จะต้องเข้ามาในซอยของ Boat Avenue ซึ่งในนั้นก็จะมี Villa Market อยู่ด้วยค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากบนนถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออกนอกเมืองค่ะ พอเจออนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร แล้วก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีสุนทรค่ะ ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามทางจนเจอสามแยกที่เลี้ยวเข้าถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนบ้านดอน-เชิงทะเลค่ะ ตรงมาสักพักจะเจอ Boat Avenue ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยโบ๊ทอเวนิวไปแล้วก็ตรงไปสุดก่อนถึงสามแยก ก็เจอโครงการ Zcape X2 แล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Zcape X2 จากระยะทางจริงตามพี่ Google Map กันก่อน อย่างที่บอกไปว่า คอนโด Zcape X2 ตั้งอยู่บริเวณตำบลเชิงทะเล ในซอยเดียวกับที่ตั้งของ Boat Avenue บนถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ติดกันจะเป็น Laguna Phuket ที่กินพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย โรงแรม 5 ดาวอย่าง โรงแรมบันยันทรี ภูเก็ต, โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมดุสิต ธานี ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมลากูน่า บีช รีสอร์ท, โรงแรมลากูน่า ฮอลิเดย์ คลับ รีสอร์ท, โรงแรม อลามันดา ลากูน่า ภูเก็ต และกลุ่มวิลล่าส่วนตัว ลากูน่าภูเก็ต ฮอลิเดย์ เรสสิเดนท์ นอกจากโซนที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมอื่นๆ เช่น สปา ห้องอาหาร บาร์ แหล่งช้อปปิ้ง ทัวร์ หาดทราย และสนามกอล์ฟภายในลากูล่า

ส่วนชายหาดที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็นหาดบางเทาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งจริงๆ แล้วตัวลากูล่าเองก็อยู่ตรงหาดบางเทาเนี้ยแหละค่ะ แต่จะเข้าออกยากเพราะโรงแรมบังไว้ พื้นที่ของชายหาดบริเวณนี้จะค่อนข้างสงบกว่าบริเวณหาดป่าตอง เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของพวกโรงแรม 5 ดาว เป็นหลัก เลยไม่ค่อยมีพวกร่มชายหาดไว้บริการเท่าไหร่นัก ถ้าจะคึกคักหน่อยต้องขับรถไปบริเวณหาดสุรินทร์ที่อยู่ใกล้ๆ กันค่ะ

ซูมดูพื้นที่ข้างเคียงของคอนโด Zcape X2 กันบ้างค่ะ คอนโดตั้งอยู่ในซอยเดียวกับ Boat Avenue (หมายเลข 2) ในนั้นก็จะมีทั้งร้านอาหารที่มีทั้งเป็นแบบอาคารพาณิชย์ และตู้คอนเทนเนอร์ เปิดทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน รวมไปถึง Villa Market (หมายเลข 1) ที่เดินถึงกันกับคอนโด ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินแน่นอนค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามกับคอนโดติดกับ Villa Maket นั้นจะเป็นพื้นที่ทะเลสาบ (หมายเลข 3) ทางโครงการบอกไว้ว่า ที่ดินตรงนี้นั้นมีแผนที่ทำเป็น Wake park พื้นที่กิจกรรมทางน้ำค่ะ ภายในซอยที่ตั้งโครงการนั้นจะเชื่อมต่อกับซอยเชิงทะเล 14 และ 16 ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถเข้าออกโครงการได้อีกทางคือ จากซอยเชิงทะเล 14 หรือ 16 จากบนถนนศรีสุนทรค่ะ ด้านข้างโครงการจะเป็นที่ตั้งของ Sai Taan Villa (หมายเลข 4) เป็นวิลล่าตากอากาศเป็นหลังๆ ส่วนเข้าไปข้างในที่ติดทะเล ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นของโรงแรมหรู 5 ดาวในโซนของลากูน่าค่ะ แต่ก็จะมีบางส่วนของหาดบางเทา (หมายเลข 6) ที่ก็ไม่ได้เป็นพื้นที่โรงแรม สามารถไปกินลม ชมทะเลกันได้ อยู่ไม่ไกลจากคอนโด

ออกมาบริเวณถนนบ้านดอน-เชิงทะเลกันบ้าง ไม่ใกล้จากซอยเข้าโครงการจะเป็น คอนโด Zcape (หมายเลข 7) โครงการแรกที่ตอนนี้ปิดโครงการไปเรียบร้อยแล้วค่ะ คอนโดจะอยู่ติดถนนบ้านดอน-เชิงทะเลเลย ติดกันกับคอนโดก็เป็นพื้นที่โล่งที่มีล้อมรั้วเอาไว้แล้ว ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอะไรค่ะ รวมไปถึงฝั่งตรงข้ามของคอนโด Zcape ด้วยที่มีล้อมรั้วเอาไว้เช่นกัน พื้นที่ฝั่งตรงข้ามจะมีมินิมาร์ท รวมไปถึงร้านอาหาร (หมายเลข 8) ตั้งอยู่เรียงรายตลอดแนวถนนเลยค่ะ นอกจากนี้ฝั่งเดียวกันกับ Zcape เลยที่ดินโล่งๆ ไปก็ยังมีตลาดและ 7-Eleven (หมายเลข 9) อีกด้วยค่ะ ส่วนหัวมุมบริเวณสามแยกนั้นก็เป็น สถานีตำรวจภูธรอำเภอเชิงทะเล (หมายเลข 10) และมีวัดเชิงทะเล (หมายเลข 11) อยู่ไม่ไกลบนถนนศรีสุนทรค่ะ

ขับมาดูบนถนนศรีสุนทรบริเวณระหว่างซอยเชิงทะเล 14 และ 16 กันบ้าง ช่วงนี้ก็จะเป็นตึกแถวที่มีร้านค้าอยู่ทั้ง 2 ข้างทาง (หมายเลข 12) ค่อนข้างคึกคักค่ะ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าซอยเชิงทะเล 14 และ 16 ก็สามารถเข้าถึงโครงการ Zcape X2 ได้เช่นกัน ดูมาเรื่อบๆ บริเวณถนนศรีสุนทรปากซอยบางเทา 2 ก็มี เทสโก้ โลตัส เชิงทะเล (หมายเลข 13) เยื้องๆ กับก็เป็น BangTao Place (หมายเลข 14) ในนั้นก็จะมีร้านอาหาร อย่าง Wine connection รวมไปถึงที่เล่นโยคค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเข้าไปดูคอนโด Zcape X2 กันค่ะ

ถนนด้านหน้าโครงการเป็น 2 เลนสวนกัน

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่โล่งและทะเลสาบ

ด้านข้างตอนนี้กำลังมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-4 ชั้นค่ะ

ถัดไปหน่อยก็เป็นอาคารพาณิชย์ทีเป็นร้านค้า

ด้านหน้าทางเข้า Boat Avenue ที่ติดกับถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ซึ่งก็เป็นทางเข้าโครงการ Zcape X2 เช่นเดียวกัน

ด้านหน้าถนนทางเข้า Zcape X2 ค่ะ โครงการจะอยู่หลังสุดติดอาคารพาณิชย์ทางด้านซ้าย

ในส่วนของ Boat Avenue นั้นจะมีวิลล่า มาร์เก็ตอยู่ด้วยค่ะ

นอกจากโซนของซูปเปอร์มาร์เก็ต และอาคารพาณิชย์แล้ว ยังมีโซนของ container mall ที่เป็นร้านอาหารเปิดทั้งกลางวัน กลางคืนค่ะ บรรยากาศตอนเย็นก็จะเป็นร้าน Outdoor นั่งชิล ราคาไม่แพงมาก

คอนโด Zcape โครงการแรกที่อยู่ติดถนนบ้านดอน-เชิงทะเลค่ะ

ติดกับ Zcape โครงการแรกจะเป็นพื้นที่ว่างที่ล้อมรั้วเอาไว้แล้ว น่าจะพัฒนาโครงการซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดค่ะ

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นพื้นที่โล่งที่ล้อมรั้วไว้แล้วเช่นกัน

ซุปเปอร์ชีป เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนเซเว่นค่ะ

ถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ก็เป็นถนนสองเลนสวนกัน บริเวณส่วนใหญ่จะมีรถจอดอยู่ข้างทาง เพราะมีร้านอาหารค่อนข้างเยอะค่ะ

มีทั้งร้านนวด สปา ร้านขายยา และ ATM ค่ะ

ร้านอาหาร Big Boss Seafood ค่ะ

ร้านข้าวแกง กับ ร้านกาแฟสด

บรรยากาศบนถนนบ้านดอน-เชิงทะเล

เซเว่นบริเวณถนนบ้านดอน-เชิงทะเลค่ะ

สถานีตำรวจภูธรอำเภอเชิงทะเล

บรรยากาศบริเวณถนนศรีสุนทรค่ะ ก็มีตึกแถวเรียงรายสองข้างทาง มีทั้งร้านค้า รวมไปถึง ATM

อาคารพาณิชย์ที่อยู่ริมถนนศรีสุนทร

วัดเชิงทะเลค่ะ

อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร

บรรยากาศบนถนนเทพกระษัตรีค่ะ

พากลับมาด้านหน้าโครงการ Zcape X2 เพื่อที่จะเข้าดูไปบริเวณ Laguna กันค่ะ อย่างที่บอกไปว่า พื้นที่ตรงนี้นั้นกว้างขวางมากๆ มีโรงแรม 5 ดาวอยู่หลายแห่ง รวมไปถึงสนามกอล์ฟ และพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ

จากสามแยกติดกับโครงการให้ตรงไปทางนี้ค่ะ จะไปออกลากูน่าได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเลยโบ๊ท อเวนิวไปก็จะมีถนนลากูนซึ่งเป็นถนนหลักที่ใช้เข้าลากูน่าได้เหมือนกัน

เริ่มจากป้าย ลากูน่า ภูเก็ตกันก่อน

Laguna Holiday Club Resort

ด้านในก็จะเป็นพื้นที่เป็นส่วนของโรงแรม และพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ค่ะ

Mövenpick Resort Bangtao Beach Phuket

หาดบางเทาใกล้ๆ กับ Xana Beach Club ที่ดีเจโซดาเพิ่งมาไปต้นเดือนมีนา 59 ค่ะ

เอาบรรยากาศของหาดบางเทาที่อยู่ในโซนของลากูน่ามาฝากกันค่ะ ส่วนนี้จะเข้าไปยากนิดนึง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของโรงแรมในลากูน่า บรรยากาศก็ค่อนข้างเงียบสงบดีค่ะ จะมีเตียงผ้าใบแค่ของโรงแรมที่อยู่ในนั้นเท่านั้น

ออกมาอีกทางไปทะลุไปออกซอยเชิงทะเล 14 และ 16 ได้ค่ะ

เริ่มจากถนนที่จะไปออกซอยเชิงทะเล 14 และ 16 กันก่อนค่ะ

โซนนี้ก็จะมีบ้านพักตากอากาศที่เป็นวิลล่าอยู่หลายที่เลยค่ะ อย่าง Mandala Villa

คอนโดก็พอมีบ้าง แต่ไม่มากเท่าในเมืองค่ะ อันนี้เป็นโครงการ Diamond Condominium เป็นคอนโด Low-Rise เช่นกัน

บรรยากาศบริเวณในซอยเชิงทะเล 14 ค่ะ ยังเป็นบ้านพักอาศัย ชุมชนเก่าอยู่ ขับไปใกล้ทะเลเรื่อยๆ ก็จะเจอส่วนของวิลล่าอยู่บ้าง

มาถึงหาดบางเทา ในส่วนที่ไม่ได้อยู่ติดโรงแรมแล้วค่ะ

บรรยากาศก็เงียบสงบ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ไม่มีร่มชายหาดตั้งอยู่เลย จะมี Local bar ริมทะเลและร้านอาหารอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีเยอะ ถ้าต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่านี้ แนะนำให้ไปหาดสุรินทร์ที่อยู่ไม่ไกลกันค่ะ

เทสโก้ โลตัส เชิงทะเล อยู่ปากซอยบางเทา 2

ตรงข้ามโลตัสก็มีโซนร้านค้าเล็กๆ มีธนาคารอยู่ด้วย

Bangtao Place รวมร้านค้าและร้านอาหาร

ร้าน Wine connection

ตึกแถวบริเวณใกล้หาดสุรินทร์

Zazada Beach Club

มาเที่ยวหาดสุรินทร์กันค่ะ

หาดสุรินทร์ตั้งอยู่ระหว่างหาดกมลาและหาดบางเทา เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวละเอียด มีคลื่นลมค่อนข้างแรง ทำให้เป็นที่นิยมในการเล่นกระดานโต้คลื่นของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีร่มชายหาดไว้บริการอยู่ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

เลยหาดสุรินทร์มานิดหน่อยก็เป็นแหลมสิงห์ ขับขึ้นเขามานิดหน่อยก็มีจุดชมวิวแหลมสิงห์เอาภาพทะเลสวยๆ ของภูเก็ตมาฝากกันค่ะ ^^

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

พาไปเที่ยวทะเลกันมาแล้ว เราเข้ามาที่คอนโด Zcape X2 กันเลยค่ะ

เริ่มกันจากป้ายโครงการกันก่อนเลย

ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดถนนเลยค่ะ ฝั่งนี้จะเป็นด้านที่เข้ามาจากซอย Boat Avenue

หน้าตาอาคารอีกรูป ตัวอาคารสูง 7 ชั้น มีปลูกต้นไม้ด้านหน้าอาคารในส่วนที่ติดถนน

ซุ้มทางเข้าโครงการ

โครงการจะอยู่ติดถนนในซอย ไม่มีทางเท้าค่ะ

ขับรถเข้ามาจะเจอพี่ยามค่อยเปิดปิดที่กั้นให้ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าอาคาร

Lobby ด้านหน้า

พื้นที่ส่วนนี้คนนอกยังเข้ามาได้อยู่ค่ะ ถ้าเพื่อนมาหาก็ให้เพื่อนนั่งรอบริเวณนี้ได้

พื้นที่นั่งเล่น และตู้จดหมาย

เข้าไปชั้นบนกันเลย

บริเวณจะต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าออกค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการเป็นรูปตัวสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ปลายด้านที่ติดกับสามแยกนั้นจะเป็นสามเหลี่ยมเข้าไปติดกับตัวถนน มีทางเข้าออกทางเดียวอยู่บริเวณติดถนนทางเข้า Boat Avenue

โครงการเข้ามาจากถนนบ้านดอน-เชิงทะเลประมาณ 250 เมตร นอกจากนี้ยังเข้ามาได้จากบริเวณถนนศรีสุนทรได้โดยไปเข้าที่ซอยเชิงทะเล 14 และ 16 ค่ะ ติดกับคอนโด Zcape X2 ทางด้านทิศตะวันออกจะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Villa Market ในส่วนของ Boat Avenue ซึ่งสามารถเดินไปได้ อยู่ไม่ไกล ส่วนทางทิศเหนือนั้นจะเป็นพื้นที่โล่งที่ถัดไปจะเป็นทะเลสาบค่ะ ด้านหลังทางทิศใต้ก็เป็นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ค่ะ ส่วนบริเวณสามแยกนั้น ด้านนึงจะสามารถไปออกพื้นที่ของลากูน่าได้ค่ะ หัวมุมจะมี Chaba Spa ตั้งอยู่ ส่วนอักด้านจะเป็น Sai Taan Villa เป็นวิลล่า ตากอากาศที่ตอนนี้ขายหมดไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

ถนนด้านหน้าคอนโดค่ะ เป็นถนนสองเลนสวนกัน

จากคอนโดมองออกมา ห้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านนี้เป็น Lake View

มองไปเฉียงๆ เห็นวิลล่า มาร์เก็ต

ห้องอีกฝั่งจะเป็น Pool View ที่จะได้วิวภูเขาค่ะ ที่ดินที่ติดกับคอนโดด้านนี้ยังเป็นพื้นที่โล่งอยู่

สามแยกติดกับโครงการ

ที่โล่งด้านหนังโครงการที่บอกไปค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นเป็นรูปตัว l วางอาคารตามมรูปที่ติดที่เป็นกึ่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลักๆ แล้วห้องจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ห้องฝั่ง Lake view ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อยู่ติดถนน จะมีห้องอยู่ 2 ขนาดหลักๆ คือ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26 ตารางเมตร กับ 2 ห้องนอน ขนาดประมาณ 41 ตารางเมตร กับห้องที่เป็น Pool View ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก็จะได้ความร้อนแดดบ่ายค่ะ ห้องในฝั่งนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 31 ตารางเมตร ขนาดใหญ่กว่า 1 ห้องนอนทางฝั่ง Lake view ค่ะ

ส่องโมเดล

เอาโมเดลมาให้ดูกันด้วยค่ะ จะได้เห็นภาพกันชัดๆ

ฝั่ง Lake View ที่ติดกับถนนเข้าออกโครงการ

ทางเข้าอาคาร เลี้ยวยากนิดนึง

ด้านนี้ที่ติดกับอาคารพาณิชย์ค่ะ

ด้านหลังที่ติดกับที่ว่าง ชั้น 2 จะเป็นสระว่ายน้ำ ด้านนี้เลยเรียกเป็น Pool View ไป

สระว่ายน้ำโครงการนี้ยาวสะใจดีค่ะ ยาวประมาณ 60 เมตรเลยทีเดียว

หน้าตาอาคารจริง

คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว เลยเก็บภาพหน้าตาอาคารจริงๆ มาให้ดูกันด้วยค่ะ ด้านนี้จะเป็นฝั่งที่ติดกับสามแยก ดูมีลูกเล่นเฉียงไปมาคล้องกับตัว Z สีอาคารจะเป็นสีเทาอ่อนเข้ม และสีเขียวค่ะ

หน้าตาอาคารด้านหน้าที่ติดถนนค่ะ หน้าตาอาคารส่วนตำแหน่งลิฟท์และบันไดหนีไฟจะเป็นสีเขียวค่ะ

ถ้าสังเกตดูดีๆ ฟินของอาคารแต่ละชั้นที่ยืนออกมาจะไม่เท่ากันกัน โค้งเว้าไปเป็นดีไซน์ของตัวอาคาร

ด้านหลังที่ติดกับที่โล่ง ผนังด้านที่ไม่มีช่องจะเป็นผนังสีเขียวสลับเขียวอ่อนเขียวเข้มไป

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 2 มีฟิตเนส และสระว่ายน้ำคลอรีน มี jazucci 2 ฝั่ง แยกสระเด็ก ขนาด 4.5 x 5.5 เมตร ลึก 50 ซม. ส่วนสระผู้ใหญ่ ขนาด 6×60 เมตร ลึก 1.20 เมตร ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัวกับ 191 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 96 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าโอเคค่ะ  ที่จอดรถ 40% นับรวมจอดซ้อนคันถือว่าพอใช้ได้ พื้นที่บริเวณนี้ยังไม่ค่อยมีรถสาธารณะเท่าไหร่ค่ะ คนที่มาอยู่ก็คงต้องใช้รถกันพอสมควร จากรูปหน้าตา Facilities ก็มีความเก๋ไก๋อยู่พอตัวเลยค่ะ

เริ่มกันตั้งแต่พื้นที่จอดรถที่ชั้น 1 เลยค่ะ  แอบขัดใจตรงงานระบบท่อด้านบนค่ะ  ถ้าทาสีเทาแบบเดียวกับตัวอาคารได้ก็น่าจะช่วยพรางตาให้ดูเรียบร้อยกว่านี้ได้ค่ะ

พื้นที่จอดรถอีกรูปค่ะ มองไปจะเห็นรั้วสีเขียวรอบอาคาร

ศาลพระภูมิด้านในโครงการ

โพเดียมเหนือที่จอดรถจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำค่ะ

ตู้จดหมายตรงบริเวณ Lobby ค่ะ แอบมีลูกเล่นคำว่า X2 ไว้ด้วย

พื้นที่นั่งบริเวณ Lobby ชั้นล่าง

ลิฟต์มีทั้งหมด 2 ตัวค่ะ

ขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 กัน

พื้นที่ด้านหน้าลิฟต์ค่ะ ขึ้นมาก็เจอฟิตเนสเลย

ติดกับฟิตเนสอรีกฝั่งก็เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำค่ะ ชั้นนี้ก็จะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วยค่ะ

เข้ามาในห้องฟิตเนส อุปกรณ์ค่อนข้างครบ ด้านนี้จะหันไปที่วิวทะเลสาบ

ดัมเบลก็มีให้ค่ะ  เล่นไปก็มองวิวสระว่ายน้ำ

ออกมาดูสระว่ายน้ำกันบ้าง ถือว่าเป็นไฮไลท์ของโครงการกันเลย

เริ่มจากวิวสระว่ายน้ำมองไปจะเป็นพื้นที่สีเขียวโล่งๆ ค่ะ

จากุซซี่มีอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง

สระว่ายน้ำความยาว 60 เมตร

สระว่ายน้ำอีกฝั่งยาวตลอดแนว ว่ายน้ำได้เพลินๆ ค่ะ

จบด้วยพื้นที่ในอาคารค่ะ เพดานกับพื้นแอบมีลูกเล่นเล็กน้อย

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Zcape X2

ฝั่งชั้น 1 จะมีเปลี่ยนนิดหน่อยค่ะ คือ ทางเข้าออกจะมีทางเดียวในด้านยาว จะอยู่ค่อนมาทางด้านทิศตะวันตกเล็กน้อย ส่วนด้านสั้นที่เดิมทีทางโครงการทำทางเข้าออกไว้ ติดเรื่องกฏหมายเลยไม่สามารถทำได้ค่ะ ทางเข้านั้นเวลาเลี้ยวจะตีวงกระชันไปนิดนึงค่ะ เพราะจากตัวถนนก็ต้องเลี้ยวเข้าโครงการเลย ไม่ได้มีระยะ set back ระหว่างอาคารกับถนนเท่าไหร่นักค่ะ ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ของทางเข้าออกอาคารที่เป็น Lobby ถ้ามีเพื่อนมาหาจะสามารถเข้าได้สุดถึงแค่ตรง Lobby ค่ะ เพราะหน้าทางเข้าลิฟต์จะต้องใช้คีย์การ์ดเข้าออก

Floor Plan คอนโด Zcape X2 ชั้น 3-7

ห้องพักอาศัยนั้นจะเริ่มที่ชั้น 2 ซึ่งจะเป็นชั้นส่วนกลางด้วยค่ะ ส่วนชั้น 3-7 นั้นจะเป็นห้องพักอาศัยเพียงอย่างเดียว การวางห้องนั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่หันออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และฝั่งที่หันออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งห้องที่หันไปทางทิศจะวันออกเฉียงเหนือจะเรียกว่าเป็นห้องวิวทะเลสาบ (Lake view) ห้องจะอยู่ติดถนนค่ะ ห้องทางฝั่งนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาดห้องจะมีตั้งแต่ 26.55-31.09 ตารางเมตร แล้วแต่ตำแหน่งของห้องค่ะ และห้องแบบ 2 ห้องนอน ที่อยู่ใกล้ๆ กับถนนที่เป็นสามแยกค่ะ มี 2 ห้องต่อชั้น ส่วนห้องทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31.86-36.87  ตารางเมตร แต่ละตำแหน่งห้องก็ขนาดไม่เท่ากัน เพิ่มลดต่างกันเล่นน้อยเช่นกัน ห้อง 1 ห้องนอนแบบนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 1 ห้องนอน Lake View ค่ะ ห้องฝั่งนี้จะอยู่ติดกับพื้นที่โล่งด้านหลัง ได้วิวของสระว่ายในโครงการ เรียกเป็น Pool View ค่ะ จะมีห้องรวมทั้งหมด 33 ห้องต่อชั้นค่ะ ตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ตรงกลางของอาคาร ส่วนบันไดหนีไฟจะมีอยู่ 2 จุดที่ตำแหน่งเกือบปลายๆ ของแต่ละด้านค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Zcape X2 นั้น มีด้วยกัน 3 แบบค่ะ คือ 1 ห้องนอน (Lake View) ขนาด 26.55-31.09 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน (Pool View) 31.86-36.87 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 41.05-41.11 ตารางเมตร ซึ่งขนาดของห้องในแต่ละตำแหน่งก็จะแตกต่างกัน แต่ก็เพิ่มลดกันไม่มากค่ะ

แปลนห้องคอนโด Zcape X2

แบบ 1 ห้องนอน (Lake View) 26.74 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 26.74 ตารางเมตร เป็นห้องแบบที่เล็กที่สุดในโครงการ ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ได้วิวทะเลสาบ และติดถนนค่ะ แปลนห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งห้องก็เป็น 2 โซนหลักๆ คือ โซนของครัวและพื้นที่นั่งเล่น กับ โซนของห้องนอนและห้องน้ำค่ะ

เข้ามาในห้องก็เจอกับพื้นที่ของครัวก่อน พื้นที่หน้าห้องตรงนี้จะปูพื้นกระเบื้องไว้ให้ ถัดมาจะเป็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นค่ะ จะมีประตูบานเลื่อนเปิดปิดกั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับห้องนอนไว้ เข้ามาในโซนของห้องนอน ก็จะมีสเปซเล็กๆ เว้าไปเป็นตู้เสื้อผ้า ที่กินพื้นที่ครัวไปอีกด้าน ตรงส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะช่วยให้มีพื้นที่เหลือพอสำหรับใส่ตู้เสื้อผ้าได้ รวมไปถึงสเปซที่วางโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าค่ะ ระเบียงจะอยู่บริเวณห้องนอน ได้มาค่อนข้างกว้างขวางเลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Zcape X2

แบบ 1 ห้องนอน (Pool View) 31.75 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 31.75 ตารางเมตร จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดห้องและความลึกของห้องจะยาวกว่าแบบ Lake View  แบ่งสเปซออกเป็น 2 โซนคล้ายๆ กับแบบ Lake View แต่จะกั้นพื้นที่ห้องนอนแยกออกไปเลย ไม่ใช่เป็นประตูบานเลื่อนค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัว ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น ระเบียงจะอยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น กินพื้นที่ยาวไปถึงห้องนอนนิดหน่อย แต่ตรงห้องนอนจะไม่สามารถออกมาระเบียงได้ค่ะ กั้นไว้เป็นผนังทึบ เปิดประตูเข้ามาในห้องนอน ก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนอีกเช่นกัน คือ ส่วนที่นอน กับพื้นที่ห้องนอน ที่มีตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ ส่วนพื้นที่นอนนั้น ริมหน้าต่างจะมีสเปซเล็กๆ ไว้วาง DayBed ได้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด Zcape X2

แบบ 2 ห้องนอน 41.11 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 41.11 ตารางเมตร จะอยู่ฝั่งเดียวกับ 1 ห้องนอน Lake View ค่ะ ความลึกของห้องจะเท่ากับแบบ 1 ห้องนอน Lake View ทางเข้าห้องจะอยู่ตรงกลางของแปลนห้องเลยค่ะ เข้ามาในห้องก็เจอกับพื้นที่ครัว เช่นเดียวกับแบบ 1 ห้องนอน เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนห้องอื่นๆ จะแบ่งก็เป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่เป็นห้องนอนใหญ่และห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำนั้นจะเข้าได้ทั้งจากห้องนอนใหญ่ และเข้าได้จากตรงพื้นที่กลาง บริเวณครัวค่ะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนเล็ก และพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ระเบียงของห้องจะอยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่น ห้องนอนเล็กนั้นค่อนข้างแคบ ขนาดพอๆ กับห้องนั่งเล่น และไม่ได้รับแสงธรรมชาติเท่าไหร่ค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน (Pool View) ค่ะ ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆ ไปสูงประมาณ 2.45 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ fully furnished ได้เฟอร์นิเจอร์เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Zcape X2

แบบ 1 ห้องนอน (Pool View) ขนาด 36.87 ตารางเมตร

เปิดเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนของพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ซึ่งระเบียงก็จะอยู่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นด้วยค่ะ

สเปซบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ครัว และส่วนรับประทานอาหารค่ะ

ระยะดูทีวี ถือว่าโอเค ไม่ได้แคบจนเกินไป

มองย้อนกลับไปหน้าทางเข้าห้องค่ะ ฝั่งนึงจะเป็นพื้นที่ครัว ส่วนอีกฝั่งจะเป็นชั้นวางของ และชั้นวางรองเท้าค่ะ

เข้ามาในห้องนอนกัน

ภายในห้องนอนน นอกจากเตียงนอนแล้ว ก็มีมุมนั่งเล่นที่ทางโครงการใน DayBed ให้ไว้ริมหน้าต่าง

พื้นที่ข้างเตียงค่ะ มีโต๊ะเล็กหัวเตียงไว้ให้ แถมใต้เตียงก็ยังสามารถเก็บของได้ด้วยค่ะ

ระยะเดินตรงปลายเตียงค่ะ ค่อนข้างกว้าง มีชั้นลอยให้ตรงปลายเตียงด้วย

สเปซริมหน้าต่างที่ตั้ง Daybed เอาไว้นั่งชมวิว อ่านหนังสือชิลๆ

มองกลับไปตรงทางเข้าห้องนอน จะมีสเปซเข้าไปเป็นพื้นที่แต่งตัว และห้องน้ำค่ะ กั้นเป็นสัดเป็นส่วนดี

เข้ามาดูในส่วนของพื้นที่แต่งตัวกัน ก็จะมีมุมตู้เสื้อผ้า Built-in ไว้ให้ อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ ด้านในสุดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

พืนที่ด้านในห้องน้ำค่ะ แบ่งส่วนเปียกกับส่วนแห้งมาให้ แต่อาจจะต้องติดผ้าม่านหรือ Shower Block เพิ่มเติมเอาเอง เวลาอาบน้ำจะได้ไม่เลอะออกมาตรงส่วนแห้งมากนักค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาใช้ได้เลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ครัวจะเป็นของ Modernform เฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆ ทั้ง Built-in และลอยตัวใช้ของ Index ทั้งหมด ซึ่งก็มีการออกแบบพิเศษเพื่อโครงการ Zcape X2 โดยเฉพาะค่ะ ยกตัวอย่างเตียงที่สามารถเก็บของได้รอบ รวมไปถึงตู้ใส่รองเท้าด้านหน้าทางเข้าออกห้องค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาท์เตอร์ครัวของ Modernform

พื้นที่เก็บของด้านบนค่ะ มีทั้งเป็นแบบชั้นลอย และตู้เก็บของ

ส่วนของตู้เก็บของ

Hood ดูดควันของ MEX ด้านบนมีชั้นวางของ ส่วนเตานั้นไม่มีให้ค่ะ

เคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่สำหรับใส่เครื่องซักผ้าอยู่ด้วย

ลิ้นชักที่ใส่อุปกรณ์ พวกช้อนส้อม

อ่างล้างจานของ ด้านข้างมีที่พักจานให้ด้วยค่ะ

Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

ปลั๊กไฟ Panasonic บริเวณเคาท์เตอร์ครัว

พื้นตรงครัวจะเป็นกระเบื้องค่ะ มีตัวปิดรอยต่อเป็นไม้ระหว่างพื้นลามิเนตกับพื้นกระเบื้อง

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน Pool View

สเปซตรงส่วนแห้งที่เป็น โถสุขภัณฑ์ของ Cotto กับอ่างล้างหน้าค่ะ

อ่างล้างหน้าของ Cotto เช่นกัน

ก๊อกน้ําเป็นแบบหมุน

บานกระจกในห้องน้ำ ด้านล่างมีชั้นลอยไว้วางของให้

ราวตากผ้าเป็นพลาสติกใส

พื้นที่อาบน้ำค่ะ

ระหว่างพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก มียกธรณีสูงขึ้นมากั้นไว้ค่ะ

ฝักบัวในห้องน้ำ

หน้าตาฝักบัวของ Cotto

ที่วางสบู่ของ Cotto เช่นกัน คงต้องหาซื้อชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำมาเพิ่มเติมค่ะ ที่วางสบู่อย่างเดียวไม่พอแน่ๆ

กระเบื้องในห้องน้ำได้สีตามนี้เลยค่ะ เป็นโทนน้ำตาล ครีม ขาว

พัดลมระบายอากาศแบบฝังเพดานของ Panasonic

จากพื้นห้องนอนที่เป็นพื้นลามิเนตไปห้องน้ำ มีธรณีประตูปิดเป็นหินแกรนิตสีดำสูงประมาณ 5 เซนติเมตร และไม้ปิดขอบสีใกล้เคียงพื้น

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

เริ่มจากป้ายเลขที่ห้องก่อนเลยค่ะ

ระหว่างพื้นห้องที่เป็นกระเบื้อง กับพื้นทางเดินหน้าห้อง มีตัวปิดขอบเป็นกระเบื้อง

บานประตูหน้าห้องเป็นไม้อัดทาสีขาว

ห้องด้านในก็เหมือนกันค่ะ ทาสีขาว

มือจับแบบก้านโยก ตรงประตูทางเข้าออกห้อง

มือจับก้านโยนด้านใน

ลูกบิดประตูห้องนอน ห้องน้ำ เป็นแบบหน้าตาทั่วไปค่ะ

บานกรอบประตูทาสีขาว

แผงควบคุมไฟห้องจะติดอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องค่ะ

สวิตช์ไฟ ของ Panasonic

ชั้นวางรองเท้าและชั้นวางของที่ออกแบบมาพิเศษค่ะ

เปิดให้ดูชั้นวางรองเท้า ใส่ได้ประมาณ 4 คู่ค่ะ

ด้านบนที่มีแขวนของต่างๆ เข้าห้องมาก็แขวนกุญแจไว้ตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องหาที่วาง

พื้นครัวเป็นกระเบื้อง ส่วนพื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 12 มม. มีตัวปิดรอยต่อเป็นไม้ค่ะ

ผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ ส่วนบัวพื้นสีจะใกล้เคียงกับพื้นลามิเนต

โซฟาที่ห้องนั่งเล่นก็ได้มาด้วยค่ะ ขนาด 2 ที่นั่ง

ชั้นวางทีวี ด้านล่างก็มีที่เก็บของให้

ล่างสุดจะเป็นกล่องใส่ของ ดึงออกมาได้ค่ะ

หน้าตาโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่ง

เก้าอี้ตรงโต๊ะทานข้าวจะใช้เป็นที่เก็บของได้ค่ะ รวมถึงโต๊ะทานข้าวก็มีลิ้นชักด้วย

เตียงนอน ด้านข้างจะมีลิ้นชักไว้เก็บของ ส่วนปลายเตียงจะเป็นช่องเก็บของอีกเช่นกันค่ะ

ช่องเก็บของตรงเตียง

Daybed ในห้องนอนค่ะ

มีลิ้นชักเก็บของให้ด้วย

โต๊ะหัวเตียง

ที่มีเก็บของให้เช่นกัน สามารถดึงออกมาได้หมดเหมือนตรงชั้นวางทีวีค่ะ

ชั้นวางของตรงปลายเตียง

Built-in พื้นที่เก็บเสื้อผ้ามาให้

ราวแขวนผ้า ด้านบนเป็นชั้นวางของค่ะ

ด้านล่างก็มีช่องไว้ใส่ผ้าที่ใช้แล้ว กับที่แขวนผ้าค่ะ

ล่างสุดมีลิ้นชักใส่ของ

พื้นที่เก็บของด้านในค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่เข้ามุมพอดี

บานกระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้ง

ลิ้นชักเก็บอุปกรณ์เสริมสวยตรงโต๊ะเครื่องแป้ง

เก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งก็เป็นแบบที่มีที่เก็บของด้านในค่ะ

แอร์จะได้ 2 ตัว ทั้งในห้องนอน และห้องนั่งเล่น ขนาด 12000 BTU

ไฟในห้องเป็น Downlight

หน้าตาตรงห้องนอนค่ะ เป็นบานเลื่อน บานกรอบอลูมิเนียมทำสีดำ

หน้าตาตัวล็อค

ส่วนบานประตูเลื่อนที่ออกไประเบียงก็กรอบอลูมิเนียมสีดำ

เป็นแบบ 3 ตอนค่ะ

ตัวล็อคบานประตู

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

ระเบียงตรงห้องนั่งเล่นเป็นสี่เหลี่ยมผื่นผ้าได้มาค่อนข้างยาวค่ะ

ส่วนคอมเพรสเซอร์จะเป็นแบบแขวน ซ่อนไว้ด้านข้างตรงระเบียงที่ยืนไปกินพื้นที่ห้องนอน มีที่บังคอมเพรสเซอร์แอร์ ช่วยให้เวลามองเข้ามาที่ตัวอาคารดูเรียบร้อยมากขึ้นค่ะ  แต่จะเรียบร้อยกว่านี้อีกถ้าทาสีท่อ PVC เป็นสีเทาให้กลมกลืนกับผนังไปนะคะ

ไฟตรงระเบียงค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (17 มีนาคม 2559) ห้องแบบ 1 ห้องนอน (Lake View) ขนาด 26.5 ตารางเมตร ราคา 2,090,000 บาท ส่วนห้องที่ราคาที่สูงที่สุดตอนนี้จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (Pool View) 32.26 ตารางเมตร 2,605,000 บาท ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 75,000-80,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งตอนนี้โครงการเหลือห้องเพียง 15 ยูนิตค่ะ เลยจัดโปรโมชั่นสำหรับนักลงทุน และผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ด้วยการการันตีผลตอบแทน 8% เป็นเวลา 3 ปี รวม 24% หรือจะรับส่วนลดวันโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด 300,000 บาท และฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ (ค่าโอนกรรมสิทธิ์/ค่าจดจำนอง/ค่าประกันมิเตอร์น้ำ,ไฟ/ค่าอากรแสตมป์) ค่ะ

ราคา ณ วันที่ 17 มีนาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท เฉลี่ย 78,868 บาท/ตร.ม

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท เฉลี่ย 80,750 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 25,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  40  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,598 บาท/เดือน

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,998 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท ผ่อนประมาณ 14,372 บาท/เดือน

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท ผ่อนประมาณ 17,965 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,668 บาท/เดือน

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,584 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท ผ่อนประมาณ 18,029 บาท/เดือน

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,536 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom (Lake View) พื้นที่ 26.50 ตร.ม. ราคา 2,090,000 บาท ผ่อนประมาณ 23,085 บาท/เดือน

1 bedroom (Pool View) พื้นที่ 32.26 ตร.ม. ราคา 2,605,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,857 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางภายในภูเก็ตส่วนใหญ่ก็ต้องใช้รถยนต์หรือไม่ก็รถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถสาธารณะอย่างสองแถวนั้นก็พอมีบ้าง แต่ก็ต้องใช้เวลารอนานพอสมควร  ถ้าขับรถเองก็ค่อนข้างสะดวกกว่ามาก โครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ จากปากซอยเข้ามาโครงการประมาณ 250 เมตร เรื่องรถติดบริเวณเชิงทะเลนั้นก็พอมีบ้าง แต่น้อยเมื่อเทียบกับในตัวเมืองภูเก็ต โซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโรงแรมหรู หรือไม่ก็เป็นบ้านพักตากอากาศ วิลล่าไปเลย ค่อนข้างสงบ เมื่อเทียบกับตัวเมืองภูเก็ตค่ะ ถ้าจะขับรถออกไปตัวเมืองก็ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 20 กิโลเมตร ห่างพอๆ กับไปสนามบินภูเก็ต ก็ถือว่าไม่ได้ไกลมากค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะการวางตัวของคอนโดก็เป็นไปตามรูปที่ดิน  ตัวคอนโดนั้นเป็นสไตล์โมเดิร์น ดึงเอาสีเขียวเข้ามาตกแต่งให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ออกแบบตกแต่งส่วนกลางด้านในจะเป็นสไตล์โมเดิร์น มีลูกเล่นอยู่ตรงเพดานและพื้นของอาคาร ตัวโครงการวางแปลนออกมาแล้วจะเฉียงๆ กับทิศเหนือใต้นิดหน่อยค่ะ ห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ห้อง 1 ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่กว่าจะอยู่ด้านที่ได้วิวสระว่ายน้ำจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งถัดไปจะติดกับพื้นที่โล่งที่ค่อนข้างกว้างค่ะ ในอนาคตก็ไม่แน่นอนว่าจะมีอาคารขึ้นหรือเปล่า ส่วน 1 ห้องนอนขนาดเล็กกว่าจะอยู่ด้านที่ได้วิวทะเลสาบด้านอกและติดถนนจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านนี้ต่อให้มีอาคารขึ้นทางที่โล่งฝั่งตรงข้ามก็จะมีระยะห่างนิดหน่อยจากถนนด้านหน้า  แต่จะมีเสียงจากรถมากกว่าค่ะ

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาได้ดีค่ะ แบบ 1 ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วนดี ทั้ง 2 ขนาด แบบ 1 ห้องนอน Pool View จะได้พื้นที่นั่งเล่นเพิ่มมาตรงห้องนอนที่ไว้วาง Daybed ส่วนการใช้งานภายในห้องนั้นไม่ได้มีจุดติอะไรใหญ่ๆ เพียงแต่ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารอาจจะลำบากนิดนึง เพราะครัวเปิดจะอยู่ด้านหน้าทางเข้าออกห้อง กลิ่นก็อาจจะอบอวลไปถึงห้องนั่งเล่นได้ ถ้าจัดมื้อหนักมากๆ  จุดที่น่าสนใจคือพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาแบบ Fully furnished  ที่มีการออกแบบให้สอดรับกับการใช้งานได้ดีค่ะ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องส่วนใหญ่ใช้เป็นที่เก็บของได้เกือบทุกชิ้น ตัดปัญหาเรื่องที่เก็บของไม่พอไปได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ

ด้านวัสดุนั้นให้มาค่อนข้างโอเคในภาพรวมค่ะ เฟอร์นิเจอร์ออกแบบเอง แต่ให้ Index เป็นคนผลิตให้ เลยได้คุณภาพมาตราฐานออกมาโอเค ผิวสัมผัสดี เคาท์เตอร์ครัวเป็นของ Modernform อาจจะเล็กไปนิดสำหรับคนชอบทำอาหาร แต่ถ้าไว้สำหรับทำเล็กๆ น้อยๆ ประเภทเน้นอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟก็ใช้ได้ค่ะ ส่วนวัสดุห้องน้ำนั้นหน้าตาธรรมดาไปนิด ต้องซื้อฉากกั้นอาบน้ำ และผ้าม่าน รวมไปถึงที่ใส่อุปกรณ์อาบน้ำมาเพิ่มเอง ถ้าเพิ่มสเปคของวัสดุห้องน้ำขึ้นอีกหน่อยก็น่าจะดี แต่ห้องน้ำก็กว้างดีค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มามีสระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส จุดเด่นคือ สระว่ายน้ำที่ยาวมากๆ คนที่ชอบว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังหรือว่ายสโตรค น่าจะชอบเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็ยั่งมี jazucci อยู่ 2 จุดให้นั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 96 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นก็ถือว่าดีค่ะ  ที่จอดรถ 40% ก็น่าจะพอได้ เพราะถึงแม้ว่าโครงการจะไม่ได้มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน และการเดินทางในภูเก็ตส่วนใหญ่คนก็ใช้รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ แต่ส่วนนึงก็เป็นชาวต่างชาติที่มาพักผ่อน และคนซื้อเก็งกำไร  อาจจะไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้รถนัก

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Rhythm Sathorn “The Slow Collection” คอนโดของ AP ใกล้ๆกับ BTS  สะพานตากสิน โครงการใกล้จะสร้างเสร็จแล้วค่ะ พร้อมจะโอนห้องได้ภายในเดือนนี้ค่ะ (มีนาคม 2558) วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวภายในโครงการมาให้ชมกัน มีทั้งห้องตัวอย่างแบบเดิมของโครงการ กับห้องยูนิตพิเศษที่ออกแบบโดย Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่มีเพียง 2 แบบ แบบละ 3 ห้องเท่านั้นค่ะ มาดูกันเลย

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Rhythm Sathorn “The Slow Collection” (Rhythm สาทร)

• เจ้าของโครงการ >>>  AP(Thailand)  เอพี(ไทยแลนด์)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนสาทรใต้ ปากซอยสาทร21 ใกล้รถไฟฟ้าสะพานตากสิน 150 เมตร
• ขนาดที่ดิน >>> 4 -1 – 91.6 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 37 และ 41 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>> 1 ห้องนอน 35 – 55 ตารางเมตร /  2 ห้องนอน 62.7 – 65.7 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 910  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 63% (580 คัน) รวมจอดรถซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  6.22 ล้านบาท (ห้อง 44.5 ตารางเมตร ชั้น 10 ตึก North River View ณ วันที่ 4/12/2014)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 140,000 – 180,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.7179,100.51694

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ค่ะ มาลงที่สถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน แล้วเดินไปยังตัวโครงการซึ่งไม่ได้ไกลจากสถานีมากนักประมาณ 200 เมตรกว่าๆได้

เริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสินกันค่ะ

เดินออกจากสถานีมาหน้าถนนเจริญกรุง ให้ข้ามถนนไปอีกฝั่งนึง หัวมุมจะเป็นร้านสาทรนาฬิกา เดินตามลูกศรในภาพไปเลยค่ะ

บริเวณทางเท้าที่เดินไปโครงการค่ะ ด้านข้างขวามือจะเป็นตึกแถว

เดินไปเรื่อยๆค่ะ  ถนนด้านนี้เป็นถนนวัยเวย์  ออกจากหน้าโครงการก็สามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนเจริญกรุงได้ หรือจะกลับรถไปสาทรเหนือออกไปสีลม ช่องนนทรีก็ได้ค่ะ เดินมาเรื่อยๆประมาณ 250 เมตร ก็จะเจอโครงการค่ะ จุดสังเกตคือจะเห็นโรงแรม Astera Sathorn ก่อนเป็นตึกสีเหลืองๆ ทางเข้าตัวโครงการจะอยู่ติดกันเลยค่ะ

ถึงโครงการแล้วค่ะ ด้านหน้าโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินและเห็นรถไฟฟ้าบีทีเอสวิ่งผ่านตลอดค่ะ

ส่วนถ้าขับรถมา ก็ไม่ยากเลยค่ะ วิ่งมาจากถนนสาทรใต้ให้ชิดซ้ายเหมือนจะไปเจริญกรุง  พอเลยทางขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมา ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการค่ะ  ถนนเป็น one-way ป้ายโครงการจะหลบเข้าไปอยู่ข้างในหน่อย  แต่ยังไงเห็นซุ้มประตูด้านหน้าก็เจอแน่ๆ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ตัวคอนโดอยู่ติดกับทางเข้าซอยสาทร21 ถ้าหันหน้าเข้าหาที่ดินของโครงการจะเห็นด้านขวามือเป็นโรงแรม Astera Sathorn (หมายเลข1)  ซึ่งอยู่ติดถนนสาทรใต้และติดด้านหน้าของโครงการเลยค่ะ รอบๆบริเวณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยไม่สูงมาก มีทั้งบ้านเดี่ยวและตึกแถวอาคารพาณิชย์ค่ะ  ด้านในจากถนนเข้าไปในซอยจะเป็นย่านชุมชน  ส่วนถัดไปฝั่งเจริญกรุง จะเห็นตึก Sathorn Unique Towers (หมายเลข 2) อาคารร้าง 49 ชั้น ที่สูงโดดเด่นเห็นชัดในย่านนั้นเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดยานนาวา (หมายเลข3) และไม่ไกลจากโครงการก็เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีท่าเรือสาทร (หมายเลข4) มีให้บริการทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา (ถ้าใครจะไปเอเชียทีคก็มาขึ้นที่นี้ค่ะ) และท่าเรือข้ามฝากที่จะไปฝั่งธน

ขยับไปอีกนิดหนึ่งในฝั่งถนนเจริญกรุงเลยสถานีรถไฟฟ้าไป เป็นย่านบางรักค่ะ บริเวณก็จะเป็นย่านเก่า มีอาหารการกินเยอะแยะ  มีห้างโรบินสันบางรัก (หมายเลข5) เป็นห้างเก่าแก่ของย่านนี้ ที่เพิ่งจะมีปรับปรุงไปไม่นาน ด้านหลังติดกับห้างจะเป็นโรงแรม Centre Point Silom ส่วนถัดไปริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือ โรงแรม Shangri-La (หมายเลข6) เลยไปฝั่งที่จะเลี้ยวไปสีลม หัวมุมเป็น State Tower (หมายเลข7) เป็นที่ตั้งของโรงแรมเลอบัวกับ ร้านอาหาร Sirocco บนยอดตึก ถ้ามองจะคอนโดอาคารนี้จะค่อนข้างเห็นชัดค่ะ ติดกับเป็น โรงพยาบาลเลิศสิน (หมายเลข8)

ถ้าจากคอนโด เป็นถนน one-way สามารถไปกลับรถใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสินเพื่อไปยังถนนสาทรเหนือค่ะ ถ้าหันหน้าเข้าหาที่ดินของโครงการไปทางด้านขวามือไม่ไกลจะมีทางด่วนพิเศษศรีรัช สามารถขึ้นจากทางถนนเจริญราษฏร์และบริเวณถนนสีลมค่ะ ติดกับถนนเจริญราษฏร์ เป็นคอนโด The Bangkok Sathorn (หมายเลข9) ของ Land and Houses ใกล้ๆกันเป็นสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ค่ะ ห่างจากตัวโครงการประมาณ 450 เมตร ถ้าจะเดินไปขึ้นที่สุรศักดิ์จะค่อนข้างลำบากกว่าไปสถานีสะพานตากสินนะคะ เพราะต้องข้ามถนนเจริญราษฏร์ไป ถนนค่อนข้างใหญ่และรถวิ่งเร็วค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นบริเวณรอบๆคอนโดกันค่ะ

บ้านพักอาศัยติดกับด้านข้างของคอนโด

อีกด้านจะเป็นตึกแถวสูง 4-5 ชั้น กับบ้านเดี่ยวค่ะ

ด้านหน้าโครงการติดกับซอยสาทร 21

ภายในซอยสาทร 21 ค่ะ มองไปจะเห็นคอนโดอยู่

ทางเข้าฝั่งที่จะเดินไปสถานี BTS สุรศักดิ์

ไม่ไกลจากโครงการเป็นทางขึ้นสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินข้ามไปฝั่งธนค่ะ

ก่อนถึงคอนโดมีปั้ม Esso

บริเวณถนนสาทรใต้ค่ะ มองไปจะเห็นทางด่วนและบีทีเอสด้านบน

โรงแรม Astera Sathorn ติดกับฝั่งที่จะเดินไป BTS สะพานตากสิน

อาคาร Sathorn Unique ค่ะ ถ้าจากชั้น 11 ของคอนโด จะเห็นเป็นมุมด้านข้างของอาคาร

ทางเท้าบริเวณทางที่จะเดินไป BTS สะพานตากสิน

BTS สะพานตากสิน

ทางเดินจะไปท่าเรือตรงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน

วินมอไซต์หน้าสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินค่ะ

อาคาร Sathorn Unique มองจากถนนเจริญกรุงค่ะ

State Tower เป็นที่ตั้งของโรงแรมเลอบัว

วัดยานนาวาค่ะ

บริเวณถนนเจริญกรุง ย่านบางรักค่ะ เป็นย่านเก่า มีอาหารการกิน ร้านอร่อยๆค่อนข้างเยอะ เป็นย่านชุมชนค่อนข้างพลุกพล่านค่ะ

ห้างโรบินสัน บางรัก

ภาพคอนโดจากบริเวณด้านบนสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสินค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

กลับเข้ามาดูในตัวคอนโดกันค่ะ

เราเริ่มจากป้ายหน้าโครงการกันค่ะ

จากด้านหน้าทางเข้าโครงการ

ซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ

ศาลพระภูมิภายในโครงการ

สวนด้านหน้า

ทางเดินเข้าอาคารกลางแจ้งค่ะ

ตรงกลางจะเป็นทางลงชั้นใต้ดินไว้จอดรถค่ะ

ขับรถเข้ามาก็ลงชั้นใต้ดินได้เลย

ม่านน้ำตกบริเวณทางลงที่จอดรถ

ถนนภายในโครงการ วิ่งวนรอบโครงการค่ะ

มุมด้านหน้าอาคาร North ค่ะ มีม่านน้ำตกคล้ายๆทางลงที่จอดรถ ส่วนทางเข้าจะอยู่ด้านข้าง

ทางเดินไปเข้าอาคารค่ะ ถ้าไม่มีรถจะเดินค่อนข้างไกล

ถนนภายในโครงการ

ทั้ง 2 อาคารจะมีทางเข้าทางเดียว อยู่กึ่งกลางระหว่างทั้ง 2 อาคาร

หน้าตาอาคารจริงที่สร้างเสร็จแล้ว

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการนั้น ทางเข้าอยู่ติดกับถนนสาทรใต้ ถนนสาทรใต้บริเวณนี้จะเป็นถนนวันเวย์ คือแล่นรถทางเดียวนะคะ เป็นทางที่มาจากสาทร ถ้ามาจากเจริญกรุงต้องวนไปกลับรถที่ถนนสาทรเหนือก่อน หน้าโครงการใกล้กับทางขึ้นสะพานตากสิน รวมทั้งเป็นทางที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านด้วยค่ะ

ตรงทางเข้าโครงการด้านหน้าเป็นทางลงที่จอดรถ ส่วนอาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคารจะอยู่ด้านในโครงการมาประมาณ 100 เมตร ถ้าหันหน้าเข้าโครงการ ฝั่งซ้ายมือจะติดกับซอยสาทร 21 บริเวณนี้จะเป็นย่านชุมชน บ้านเดี่ยวและตึกแถวค่ะ สูงไม่เกิน 5 ชั้น  ส่วนอีกด้านนึงจะติดกับโรงแรมสูงประมาณ 10 ชั้น แต่ไม่ได้อยู่ติดกับโครงการ ถัดเป็นด้านหลังจะเป็นพวกบ้านพักอาศัย 2 ชั้น มีถนนวิ่งรอบโครงการ ส่วนด้านหลังโครงการติดกับคลองค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโด ทั้ง 2 อาคารนั้นวางตัวอาคารพยายามเน้นไปที่มุมมอง โดยเลี่ยงวิวตึกร้างค่ะ ทำให้ทิศทางออกที่ออกมามีอยู่ทั้งทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ทางทิศเหนือกับทิศตะวันตกจะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนทิศใต้กับทิศตะวันออกจะเป็นวิวที่หันไปทางฝั่งในเมืองค่ะ ถ้าอยากได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็อาจจะร้อนกว่าอีกฝั่งที่เป็นฝั่งเมืองนะคะ

ตำแหน่งอาคารสูงรอบๆที่มีผลต่อมุมมองจากตัวคอนโด

รูปนี้ทำกราฟิกให้เห็นคร่าวๆว่าอาคารรอบๆนั้นมีผลอะไรกับมุมมองจากตัวโครงการบ้างค่ะ แน่นอนว่าตึกโดยรอบที่ส่งผลต่อมุมมองมากที่สุดก็จะเป็นตึกร้าง Sathorn unique towers แต่ตัวคอนโดก็พยายามวางตึกให้เลี่ยงวิวตึกร้างนี้อยู่นะคะ ซึ่งวิวหลังตึกร้างนี้ไปจะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ส่วนอีกฝั่งที่เป็น City View ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ คอนโด The Bangkok กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ สูงประมาณ 50 ชั้น พอเสร็จแล้ว อาจจะไม่ได้บังวิวอะไรมากมายเต็มๆแต่ก็มีเห็นกันบ้างค่ะ

มีรูปวิวจากตัวคอนโดมาให้ชมกันค่ะ เริ่มจากที่ ชั้น 25 ค่ะ มุมนี้เป็นห้องทางทิศเหนือ จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาลิบๆ

มาดูวิวของชั้นเดียวกัน ฝั่งทิศตะวันตก ฝั่งนี้จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดกว่า

ฝั่งทิศตะวันตกเช่นกันค่ะ มองไปเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา

มาดูฝั่งที่เป็น City View กันค่ะ ทางทิศใต้ ฝั่งนี้จะหันไปทางด้านหลังของสาทร วิวที่ได้เลยโล่งๆเพราะส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ

ทางทิศตะวันออก จะเห็นเป็นวิวเมืองมากขึ้น เป็นวิวสาทรค่ะ

ทางทิศตะวันออกเช่นกันค่ะ เห็นยอดตึกโรงแรมเลอบัวชัดเลย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 ชั้นบนสุดของแต่ละตึก อย่าง North Tower จะอยู่ที่ชั้น 36 และ 37 ส่วน South Tower จะอยู่ที่ชั้น 40 และ 41 ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานของ Facilities ชั้น 36 ของ North Tower กับ ชั้น 40 ของ South Tower จะเหมือนกัน เพียงแค่แปลนจะสลับด้านกันเท่านั้นค่ะ ส่วน Facilities ชั้น 37 ของ North Tower กับ 40 ของ South Tower ก็จะเหมือนกันเช่นกันค่ะ ใครอยู่ตึกไหนก็ใช้ตึกนั้น จุดเด่นอีกอย่างของโครงการคงจะเป็น Lobby ชั้นล่างค่ะ ที่ทำออกมาโดยใช้พื้นที่ทั้งส่วนของ North และ South มารวมกัน และระยะจากพื้นถึงเพดานสูงเป็น 2 ชั้นค่ะ ทำให้ห้องพักอาศัยจะเริ่มอยู่ที่ชั้น 3

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มาในชั้นแรกของชั้นส่วนกลางทั้ง 2 ตึกจะมีเหมือนๆกันคือ สระว่ายน้ำ, Multipurpose room, ห้องซาวน่า และพื้นที่นั่งเล่นด้านนอกค่อนข้างกว้างขวางและมีหลายส่วนค่ะ ส่วนชั้นบนสุดของอาคารจะเป็นห้องฟิตเนส กับสวนบนดาดฟ้าค่ะ

ด้านล่างใต้ดิน ชั้น ชั้น B4-B1 เป็นที่จอดรถ สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร North Tower 4  ตัว กับ South Tower 5 ตัว รวมเป็น 9 ตัว (ไม่รวม Service Lift ตึกละ 1 ตัว) กับ 910  ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 101 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาโอเคอยู่  ที่จอดรถ 63% นับรวมจอดซ้อนคันสำหรับคอนโดใกล้กับรถไฟฟ้าแบบนี้ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่โอเคเลยค่ะ

เริ่มจากทางเข้าอาคารที่เข้าออกร่วมกันทั้ง 2 อาคารค่ะ

เข้ามาในอาคารชั้นล่างสุด ทั้ง 2 อาคารจะเชื่อมกันค่ะ บริเวณที่เชื่อมกันทำเป็น Lobby ยาวตลอดแนวเลย

เราถ่าย Lobby แต่ละฝั่งมาให้ดูกันค่ะ

ตัว Lobby นั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปจากconceptเดิมของโครงการตอนแรกค่ะ มีการออกแบบใหม่โดย HARNN แบรนด์สปาของไทยที่โด่งดังในระดับโลก

ทำให้บรรยากาศของ Lobby นั้นเหมือนกันกำลังนั่งอยู่ในสปาของ HARNN เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรวมไปถึงกลิ่นหอมภายใน Lobby ที่ HARNN ทำออกมาพิเศษเพื่อคอนโดของ AP โดยเฉพาะค่ะ

โคมไฟใน Lobby สวยงาม หรูหรา

ส่วนด้านนอกอาคารค่ะ อยู่ติดกับโถงล็อบบี้

ห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ภายในลิฟท์ของโครงการค่ะ

มีการออกแบบภายในลิฟท์เพิ่มเติมด้วย

โถงลิฟท์ในชั้นห้องพักอาศัยค่ะ

หน้าตาลิฟท์ด้านนอก

จากโถงลิฟท์ของโครงการค่ะ ที่ North Tower จากลิฟท์จะแยกห้องออกเป็นของฝั่ง

ขึ้นมาดูที่ชั้นส่วนกลางของ North Tower จะอยู่ที่ชั้น 36 และ 37 ค่ะ เป็นชั้นบนสุดของอาคาร ส่วน South Tower จะอยู่ชั้น 40 และ 41 หน้าตาจะคล้ายๆกันค่ะ

ออกจากลิฟท์มาเจอสระว่ายน้ำค่ะ ด้านนี้มองไปจะเห็นโรงแรมเลอบัว

สระว่ายน้ำยาวไปตามแนวของอาคาร ในสุดมีสวนดาดฟ้าค่ะ

บรรยากาศภายในสวนดาดฟ้า

ที่นั่งไว้ชมวิวกรุงเทพ ^^

วิวตรงสระว่ายน้ำได้แม่น้ำเจ้าพระยา

และอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ด้านข้าง

ส่วนมุมนี้ได้วิวโค้งเจ้าพระยา สวยงามค่ะ

ชั้นบันไดมาชั้น 37 จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนส

มุมตอนเดินขึ้นชั้น 37 ค่ะ

เข้ามาที่ห้องฟิตเนส ตกแต่งได้หรูหราไม่แพ้ชั้นล็อบบี้

มีมุมพักผ่อนให้

เครื่องออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส

วิวจากห้องฟิตเนสค่ะ ซ้ายมือมองเห็นสวนชั้นดาดฟ้าของโครงการด้วย

กลับมาชั้น 36 อีกหน่อย เป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนด้านในค่ะ

มุมนั่งเล่นอีกด้านนึงค่ะ

เข้ามาในห้องน้ำชั้นส่วนกลาง

ห้องน้ำอีกมุมค่ะ

จบด้วยมุมของสระว่ายน้ำและรูปปั้นข้างสระค่ะ ^^

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด RHYTHM The Slow Collection ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะพอสมควร ประมาณ 100 เมตรได้ เป็นทางลงไปยังที่จอดรถชั้นใต้ดินค่ะ ส่วนถ้าเดินเข้าโครงการมา มีถนนล้อมรอบอาคารทั้ง 2  ตัวทางเข้าจะอยู่ด้านในระหว่างตึกทั้งสองค่ะ เข้าออกได้ทางเดียว ชั้นล่างก็จะเป็น Lobby ยาวตลอดแนว

Typical Floor Plan คอนโด RHYTHM The Slow Collection “North Tower” ชั้น 3-35 

มาดูแปลนในส่วนของชั้นที่พักอาศัยของอาคารแรก North Tower กันค่ะ แปลนชั้น 3-35 จะเหมือนกันเลย แต่ชั้น 3 จะแตกต่างกันตรงพื้นที่โถงหน้าลิฟท์นิดหน่อยเท่านั้นเอง แปลนนั้นเป็นรูปตัว V เนื่องจากเรื่องของมุมมอง ลิฟท์จะอยู่ตรงกลางอาคาร ส่วนห้องจะแยกออกเป็น 2 ด้าน  มีชั้นละ 11 ยูนิตค่ะ  ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน มี 2 ห้องนอนในแต่ละชั้นอยู่ที่ 2 ห้อง จะอยู่บริเวณ ทิศเหนือฝั่ง River view (NC3-4) ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอนจะมีหลายแบบค่ะ แต่แยกคร่าวๆได้ว่า เป็นแบบที่ห้องครัวอยู่ติดหน้าต่าง กับแบบที่ห้องครัวอยู่ติดประตูทางเข้า แล้วห้องนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่างแทนค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด RHYTHM The Slow Collection “South Tower” ชั้น 3-35 

ส่วน South Tower กันค่ะ แปลนชั้น 3-39 จะเหมือนกันเลย แต่แตกต่างที่ชั้น 3 เช่นกัน อาคารนี้จำนวนชั้นและยูนิตจะมากกว่า North Tower แปลนรูปตัว V เช่นกัน ลิฟท์มี 5 ตัว มีชั้นละ 13 ยูนิตค่ะ มี 2 ห้องนอนในแต่ละชั้น 3 ห้อง (SC3-5) โดยที่ 2 ห้องนอน 2 ห้องแรกจะอยู่ตรงทิศตะวันตก ฝั่ง River view ส่วนอีกห้องถัดจาก 2 ห้องนอนแรกไปจะอยู่ตำแหน่งที่สุดทางเดินหันหน้าไปทางทิศใต้ค่ะ วิวจะได้แบบกว้างๆเลย

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด RHYTHM “The Slow Collection” หลักๆจะแยกออกเป็นแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดย 1 ห้องนอนจะเริ่มที่ 35 – 55 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอนจะอยู่ที่ 62.7 – 65.7 ตารางเมตร วันนี้ยกแปลนมาให้ดู 3 ขนาดด้วยกันค่ะ คือ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน 45.2 และ 45.5 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 65.7 ตารางเมตรค่ะ

แปลนห้องคอนโด Rhythm “the slow collection”

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร

แปลน 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร จะอยู่ทางฝั่ง City view ของคอนโดค่ะ คือหันออกทางทิศทิศใต้กับทิศตะวันออกค่ะ ขนาดห้องแบบนี้จะมี 2 แบบด้วยกันค่ะ แบบที่ห้องครัวอยู่ติดหน้าต่างด้านนอก (Sky Kitchen) กับ แบบที่ห้องนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่างด้านนอกค่ะ (Sky Living) ค่ะ

พูดถึงแปลนแบบแรก คือ Sky Kitchen (North Tower มี 3 ห้อง ต่อ 1 ชั้น ส่วน South Tower มี 2 ห้อง ต่อ 1 ชั้น ) เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอพื้นที่ส่วนนั่งเล่น ดูทีวีก่อนค่ะ ส่วนครัวจะอยู่ด้านในติดกับหน้าต่างห้อง มีโต๊ะรับประทานอาหารวางติดกับหน้าต่างห้องเลยค่ะ ไว้ทานข้าวไปชมวิวไป ห้องนอนจะแยกออกไปห้องนึงเลย มี Walk-in Closet ให้ ห้องนอนมีระเบียงออกไปด้านนอก ส่วนห้องน้ำนั้น สามารถเข้าได้ 2 ทางค่ะ ทั้งจากห้องนั่งเล่น และห้องนอน เวลาแขกมาบ้านก็ไม่จำเป็นต้องเข้าผ่านห้องนอนค่ะ

ส่วนแบบที่ 2 Sky Living พื้นที่ห้องแต่ละส่วนก็จะคล้ายๆกับแบบแรกเลยค่ะ ต่างกันแค่การจัดฟังก์ชั่นการใช้งาน อย่างแบบนี้จะเอาครัวมาไว้ติดกับทางเข้าห้อง ส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงด้านนอกค่ะ ระเบียงจะมาอยู่ตรงห้องนั่งเล่นแทน ไม่ได้อยู่ตรงห้องนอนเหมือนกับแบบแรก

แปลนห้องคอนโด Rhythm “the slow collection”

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 45.5 และ 45.2 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอนแบบนี้จะมีขนาดตั้งแต่ 44.5-45.5 ตารางเมตร แล้วแต่ตำแหน่งของห้องค่ะ มีเทียบให้ดู 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนแบบ 35 ตารางเมตรค่ะ คือ Sky Kitchen กับ Sky Living เช่นกันค่ะ แต่แบบนี้จะพิเศษกว่านิดนึง ตรงครัวนั้นกั้นมาเป็นอีกห้องให้เลยค่ะ ถ้าเป็นแบบที่ครัวอยู่ติดหน้าต่างด้านนอก สามารถทำครัวได้เต็มที่เลยค่ะ

เรามาเริ่มจากแปลนแบบแรกกัน เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนห้องครัวจะกั้นเป็นอีกห้องนึงให้เลยอยู่ด้านในถัดจากห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนโต๊ะรับประทานอาหารก็วางติดกับหน้าต่างเช่นเดียวกับแบบ 35 ตารางเมตร ห้องนอนเข้าจากทางห้องนั่งเล่น มีระเบียงอยู่ตรงห้องนอน มี Walk-in Closet ให้เช่นกัน ส่วนห้องน้ำนั้นจะเป็นออกเป็น  2 ห้องค่ะ ห้องที่มีโถสุขภัณฑ์จะสามารถเข้าได้จากห้องนั่งเล่น และเข้าได้จากห้องนอน ประตูที่เข้าจากห้องนอนจะเป็นบานเลื่อนค่ะ ส่วนห้องน้ำอีกห้องนึงเข้าได้จากห้องนอนเท่านั้น เป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำ มีทั้งพื้นที่อาบน้ำแบบฝักบัว และอ่างอาบน้ำให้ค่ะ

ส่วนอีกแปลนนึง สัดส่วนห้องก็จะคล้ายๆกัน แต่จะต่างกันตรงที่ฟังก์ชั่นการใช้งานเช่นกันค่ะ ตำแหน่งของครัวจะอยู่หน้าติดประตูทางเข้า ตรงกลางจะเป็นโต๊ะทานข้าว ส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงด้านนอกค่ะ ส่วนห้องนอนต่างกันตรงที่ไม่มีระเบียงให้ แต่จะเพิ่มโซฟา Day bed มาให้นั่งชมวิวตรงหน้าต่างห้องนอนค่ะ ห้องน้ำเหมือนกันกับแบบแรก

แปลนห้องคอนโด Rhythm “the slow collection” แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 65.7 ตารางเมตร

ตำแหน่งของห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ฝั่งที่เป็น River view ค่ะ ของทั้ง 2 อาคาร 2 ห้องนอนแบบนี้ เปิดประตูห้องเข้ามา จะเจอครัว เคาท์เตอร์เข้ามุม และโต๊ะทานข้าวก่อนเลยค่ะ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น เข้าไปเป็นสัดส่วนดี มีระเบียงออกไปด้านนอกอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น ส่วนห้องน้ำห้องนึงจะอยู่ติดกับครัวค่ะ ถัดจากห้องน้ำไปเป็นห้องนอนเล็กค่ะ ค่อนข้างแคบ วางเตียง 3 ฟุตได้พอดี ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาเข้าด้านนอก ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ค่ะ ค่อนข้างใหญ่พอสมควร มี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ในห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูเป็นแบบมี 4 แบบค่ะ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ แบบทห้องตัวอย่างทั่วไป มี 2 แบบ เป็น 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร Sky Kitchen กับ แบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร Sky Living ค่ะ ส่วนห้องแบบพิเศษที่ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นมาออกแบบให้ จะมีอีก 2 แบบ คืือ 1 ห้องนอน 44.5 ตารางเมตร กับ 1 ห้องนอน 50 ตารางเมตร ซึ่งจะมีแต่แบบละ 3 ห้องเท่านั้น พิเศษมากๆค่ะ ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully furnished ค่ะ ระยะจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตรค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Rhythm “the slow collection” แบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร (Sky Kitchen)

เปิดประตูห้องมาเจอพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ส่วนที่เรียกว่า Sky Kitchen เนื่องจากครัวจะอยู่ติดหน้าต่างด้านนอกค่ะ ถ้าชอบทำอาหารก็น่าจะชอบแบบนี้มากกว่า เพราะสามารถเปิดหน้าต่างระบายกลิ่นออกไปได้ ส่วนโต๊ะทานข้าวก็วางไว้ติดหน้าต่าง นั่งทานข้าวไป ชมวิวไปค่ะ

มุมพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ระยะดูทีวีกำลังพอดี ไม่แคบเกินไป

มาดูที่ห้องนอนด้านในกันบ้าง ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางค่ะ จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น

อีกมุมนึง ห้องนอนแบบนี้จะมีระเบียงอยู่ตรงห้องนอน

ระยะระหว่างเตียงกับทางเดินและทีวีค่ะ

ถ่ายให้เห็นระยะระหว่างเตียงกับระเบียงค่ะ พอเดินได้อยู่

จบห้องนี้ด้วยภาพวิวของห้องชั้น 11 ค่ะ ฝั่ง City View

ห้องตัวอย่างคอนโด Rhythm “the slow collection” แบบ 1 ห้องนอน 45.2 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาเจอครัวค่ะ ด้านในเป็นห้องนั่งเล่น

ระยะดูทีวีจากโซฟาห้องนั่งเล่นค่ะ

พื้นที่ครัวจากห้องนั่งเล่นค่ะ

ครัวของแบบนี้ค่ะ อาจจะไม่เหมาะกับทำอาหารแบบจริงๆจังๆเท่าไหร่นัก

เข้ามาดูที่ห้องนอนกันค่ะ

ตรงห้องนอน ริมหน้าต่างจะมีเตียงอ่านหนังสือให้เพิ่มมาด้วยค่ะ

ระยะจากทีวีกับเตียงค่ะ ด้านข้างวางโต๊ะเครื่องแป้ง

ฝั่งห้องน้ำค่ะ เป็น Sexy bathroom

Walk-in Closet ด้านหน้าห้องน้ำค่ะ ประตูห้องน้ำฝั่งที่เข้าไปส่วนแห้งจะเป็นบานเลื่อน สามารถออกไปด้านห้องนั่งเล่นได้ค่ะ

จากหน้าห้องน้ำค่ะ

วิวจากห้องตัวอย่างฝั่ง River View ค่ะ เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาเล็กน้อย ยิ่งห้องชั้นสูงขึ้นก็ยิ่งเห็นชัดค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Rhythm “the slow collection” 

แบบ 1 ห้องนอน 44.5 ตารางเมตร “ARCHETYPE” Designed by NAOTO FUKASAWA

พามาชมห้องยูนิตพิเศษค่ะ ตกแต่งโดย Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังจากญี่ปุ่น มีเพียงแค่แบบละ 3 ห้องเท่านั้น ซึ่งทางดีไซเนอร์เองนั้นให้ความสำคัญกับเรื่อง เสปซ ภาพวมจะเป็นแบบ “MINIMALISM” ตามวิถีแบบ SIMPLE LIFE โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้และหิน ให้บรรยากาศกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมากๆ

เริ่มกันที่แบบ 1 ห้องนอน 44.5 ตารางเมตร โดยแบบนี้ ตั้งชื่อไว้ว่า ” ACHETYPE ” ค่ะ แบบนี้จะเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา

เข้ามาในตัวห้อง จะเห็นสเปซนี้เรียบง่าย ฟังก์ชั่นการใช้งานถูกดันไว้ชิดกับกำแพง สเปซต่อเนื่องกันตั้งแต่ครัวไปถึงห้องนั่งเล่น

มุมนั่งเล่นค่ะ วัสดุที่ใช้จะเป็นไม้โทนสีเข้ม คู่กับพื้นกระเบื้องสีดำ

มุมเคาท์เตอร์ครัวไปยังโต๊ะอาหาร เก้าอี้แบรนด์ MURUNI รุ่น HIROSHIMA ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ NAOTO ค่ะ

พื้นที่ครัวค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้คลุมโทนสีออกมาเหมือนกันหมด เน้นที่ความเรียบง่ายแต่สวยงาม

เข้ามาในห้องนอนกัน

ห้องน้ำเป็นแบบ Sexy Bathroom มองเห็นจากด้านนอก

ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังจะเป็นพื้นหิน โทนสีดำค่ะ

ห้องน้ำอีกห้องนึงก็โทนหินสีดำเช่นกัน ดัดกับชุดสุขภัณฑ์สีขาว

มุมห้องนอนจากห้องน้ำค่ะ

มุมทางเข้าห้องค่ะ พื้นสีดำดัดกับผนังสีขาว และเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีเข้ม

ห้องตัวอย่างคอนโด Rhythm “the slow collection” 

แบบ 1 ห้องนอน 50 ตารางเมตร “ABSENCE” Designed by NAOTO FUKASAWA

ห้องแบบ 1 ห้องนอน 50 ตารางเมตร จะเป็นห้องที่ได้วิวเมืองฝั่งสาทรค่ะ โทนสีของห้องจะอ่อนกว่าห้องแบบ 44.5 ตารางเมตร ยังคงมีโต๊ะ Build-in ติดผนังยาวไปตลอดแนว ส่วนครัวจะอยู่อีกฝั่งนึงแยกจากโต๊ะติดผนังค่ะ ยังคงมีเก้าอี้ซิกเนอเจอร์อยู่เหมือนเดิมค่ะ แต่โทนสีจะเหมือนกันห้องนี้

มุมนั่งเล่น โซฟาชิดติดระเบียง

เข้ามาในห้องนอน ปลายเตียงมีชั้นวางของใต้ทีวีเล็กน้อย

หัวเตียงทั้งสองด้านจะมีโต๊ะข้างเตียงให้

ทั้งพื้นและเฟอร์นิเจอร์จะเป็นโทนสีไม้ธรรมชาติเหมือนกันค่ะ แบบนี้ห้องน้ำจะอยู่ด้านในห้องนอน

ห้องน้ำทั้งพื้นและผนังยังคงเป็นหินโทนสีดำ

มุมอาบน้ำค่ะ มีผักบัวแบบ Rain shower  และแบบปกติให้คู่กัน

อีกมุมเป็นแบบอ่างอาบน้ำ

มุมอ่างอาบน้ำ มองไปจะเห็นวิวเมืองของกรุงเทพค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาโอเค อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ครัวแบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร Sky Kitchen

ครัวแบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร Sky Living ค่ะ

ซูมให้ดูตรงเตาเคาน์เตอร์

เตา 2 หัวของ Franke

ใต้เตามีที่วางไมโครเวฟค่ะ

ฮูดก็ของ Franke

ข้างฮูด มีทำตู้เก็บของไว้ให้ (แบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร Sky living)

ส่วนแบบ Sky kitchen เคาน์เตอร์จะติดผนังหมด ทำให้ตู้เก็บของเพิ่มขึ้นด้วย

ด้านในตู้เก็บของด้านบนค่ะ ตู้เป็น Soft Close

เคาน์เตอร์ครัวแบบ Sky living จะเป็นแบบนี้ กั้นส่วนครัวกับห้องนั่งเล่น

อ่างล้างจาน ฝังด้านในเคาน์เตอร์

ก๊อกตรงอ่างล้างจาน ของ Franke

ให้ดูผิววัสดุกันใกล้ๆ   Top เคาท์เตอร์เป็นหินเทียมสีขาว

ผนังตรงห้องครัว ปูกระเบื้องปิดให้ค่ะ

ลิ้นชักเก็บของใต้เคาน์เตอร์

ส่วนโต๊ะทานข้าวแบบ Sky Living หันไปทานครัวค่ะ ได้ 2 ที่นั่งเท่ากัน

โต๊ะรับประทานอาหารของแบบ Sky kitchen นั่งหันหน้าออกไปด้านนอก

ถังขยะใต้อ่างล้างจาน

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบ 35 ตารางเมตรค่ะ โถสุขภัณฑ์ cotto มีบานประตูเลื่อนไปส่วนห้องอาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์ฝั่งห้อง 45 ตารางเมตร ผนังกระเบื้องจะสีเข้มกว่า ห้องน้ำจะแยกออกเป็น 2 ห้อง ส่วนเปียกกับแห้ง

อ่างล้างหน้าเล็กของ VICTOR ฝั่ง 35 ตารางเมตร ทำมาพอดีฝังผนัง

ส่วนอ่างล้างหน้าเล็กของ 45 ตารางเมตร จะอยู่มุมด้านนึง

อ่างล้างหน้าใหญ่ ส่วนของห้องอาบน้ำ แบบกลม ของ Cristina

ได้มาเหมือนกัน ต่างกันที่สีของกระเบื้องค่ะ

ก๊อกของ KOHLER

ลวดลายกระเบื้องของห้องน้ำแบบ 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตรค่ะ โทนสีดำ

มีปลั๊กในห้องน้ำด้วยค่ะ มุมนี้ของแบบ 35 ตารางเมตร

ส่วนปลั๊กไฟในห้องน้ำของ 45 ตารางเมตรจะอยู่บนชั้นวางของ

กระจกในห้องน้ำ

กระจกห้องน้ำจบกับกระเบื้องห้องน้ำตามรูปค่ะ

ส่วนห้องอาบน้ำ มีฉากกั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้

ฝักบัวและก๊อกของ kohler เช่นกัน

พื้นที่ตรงส่วนอาบน้ำของ แบบ 35 ตารางเมตร

พื้นที่ส่วนอาบน้ำของ 45 ตารางเมตร เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

อ่างอาบน้ำ kohler ตรงห้อง 45 ตารางเมตร

ก็อกน้ำร้อน-น้ำเย็นของ kohler

ประตูบานเลื่อนระหว่างห้องน้ำ

ถ่ายให้ดูธรณีประตูห้องน้ำค่ะ แบบนี้จากส่วนโถสุขภัณฑ์จะเดินไปอาบน้ำต้องออกมาส่วน walk-in closet ก่อน

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พิ้นระหว่างทางเดินหน้าห้องกับห้องด้านในค่ะ ถ้าเป็นแบบ Sky Kitchen ส่วนหน้าด้านเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น พื้นลามิเนตจะมีตัวปิดแบบนี้

ส่วน Sky living ด้านหน้าเป็นครัว พื้นเลยเป็นกระเบื้องค่ะ

ประตูห้องสีน้ำตาลเข้ม

กรอบบานประตูสีเดียวกับประตู

กลอนประตูห้องด้านหน้าค่ะ

กลอนประตูห้องด้านใน

Door Stopper ด้านบนค่ะ

Door Stopper ด้านล่าง

พื้นไม้ลามิเนต บัวสีเดียวกับพื้นไม้ ส่วนผนังของจริงเป็นทาสีขาวเรียบ ไม่มีwallpaperให้ค่ะ

พื้นลามิเนต ตรงประตูมีรอยต่อของลามิเนตปิดอยู่

สวิทช์ panasonic

สวิทช์ของ panasonic เช่นกัน

ไฟภายในห้องเป็นไฟดาวน์ไลท์

แผงไฟซ่อนอยู่ตรงที่เก็บเครื่องซักผ้า

ห้อง 45 ตารางเมตร แบบ Sky Living ติดทางเข้าห้อง มีทำที่เก็บเครื่องซักผ้าไว้

ด้านในซ่อนเครื่องซักผ้า กับแผงไฟ

ชั้นวางรองเท้าแบบ 35 ตารางเมตร จะอยู่ติดประตูเข้าห้อง

ด้านในชั้นวางรองเท้า

ชั้นวางรองเท้าแบบ 45 ตารางเมตร จะอยู่ติดถัดจากทางเข้าห้องน้ำด้านหน้า

จะได้ชั้นเพิ่มมาจากแบบ 35 ตารางเมตรเล็กน้อย

ด้านบนของชั้นวางรองเท้า

โซฟาแบบ 45 ตารางเมตร

โซฟาที่ได้มีดีเทลเล็กน้อยตรงด้านข้างไว้เก็บหนังสือได้

เตียงเล็กๆสำหรับนอนอ่านหนังสือ ชมวิวค่ะ

ตู้เสื้อผ้า หน้าบานเป็นกระจก

ด้านในของตู้เสื้อผ้าค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

โต๊ะตรงหัวเตียงค่ะ

ประตูบานเลื่อนตรงระเบียง

ตัวล็อค

พื้นระหว่างห้องนอนกับระเบียง

พื้นที่ระเบียงค่ะ

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่อง ส่วนลูกกรงเป็นเหล็กแผ่น ทาสีเทา

ทำแผงตากผ้าไว้ให้ด้วย

พื้นที่ซักล้างตรงระเบียง

คอมเพรสเซอร์แอร์ตรงระเบียงห้องนอนไม่มีแผงบังแอร์ให้

ส่วนห้องที่ระเบียงอยู่ตรงห้องนั่งเล่น คอมเพรสเซอร์แอร์ มีแผงบังให้

มีแผงบังแอร์เปิดปิดได้  เรียบร้อยดี