สวัสดีครับ  เมื่อต้นปี Noble Revolve Ratchada 2 ผ่าน EIA ไปแล้ว  โครงการก็ยังขายได้เรื่อยๆ  เดิมทีเราก็มีรีวิวของ Noble Revolve Ratchada 2 กันไปแล้วรอบนึงตั้งแต่เปิดตัวใหม่  ล่าสุดมีการปรับรูปแบบการขายใหม่ (มิ.ย. 59)  โดยให้เป็นโปรโมชั่นแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ได้เลย  ซึ่งปกติแล้วสำหรับคอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จ  โนเบิลมักจะให้ห้องเปล่าที่ต้องมาตกแต่งเพิ่มเอง  คราวนี้มีเฟอร์มาให้ด้วย  เราเลยมาอัพเดตข้อมูลรีิวิวให้ชมกันเพิ่มเติมครับ

ข้อมูลบางส่วนอาจจะซ้ำกับรีวิวก่อนหน้านี้บ้างนะครับ  แต่ปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ในโซนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไป  และก็โตในแนวทางที่เคยคาดไว้เมื่อหลายปีก่อน  คือเริ่มจะมีความเป็น CBD ชัดขึ้นนั่นเอง  จากทั้งการเปิดอาคาร ตลท. แห่งใหม่ และ AIA Capital Center ที่อยู่เยื้องๆ กับโครงการนั่นเอง  ส่วนคนที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนนู้น  ก็แสดงความยินดีด้วย  เพราะว่าท่านได้ capital gain จากราคาที่ขึ้นไปแล้วกันทั่วหน้านั่นเอง

สำหรับใครที่เคยอ่านรีวิวตัวก่อนหน้านี้มาบ้างแล้ว  สามารถเลื่อนลงไปดูข้อมูลเพิ่มเติมตั้งแต่ตรงห้องตัวอย่างใหม่ได้เลยนะคะ  ^__^

ข้อมูลทั่วไปของโครงการ

Noble Revolve Ratchada 2  

(โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2)

• เจ้าของโครงการ >>> Noble Development (โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรัชดาภิเษก 6 สถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เยื้องๆ กับเอสพลานาด รัชดา
• ขนาดที่ดิน >>>  3-1-66  ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 42 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 22-26 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 38-52  ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 755  ยูนิต
• ที่จอดรถ 40%
• ราคาเริ่มต้น
  • 2.60 ล้านบาท (ราคายูนิตที่ ณ วันเปิดตัวโครงการ pre-sale 4 กันยายน 2556)
  • 3.80 ล้านบาท (ราคายูนิตที่ ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2559)
• พิกัด GPS >>> 13.763875,100.569108
•  UPDATE ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท >> ลงทะเบียน

 

ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโด Noble Revolve Ratchada 2 อยู่ตรงซอยรัชดาภิเษก 6 ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยออกมาที่ทางออก 2 จะเจออาคารจอดรถของ MRT ครับ ถัดไปเป็นจะเป็นพื้นที่ของโนเบิล คอนโด Noble Revolve Ratchada 2 จะอยู่ติดกับ Noble Revolve Ratchada ตัวแรกเลย เลยไปจะมีคอนโด Ivy Ampio, ตึก True Tower ของ True Corporation ฝั่งตรงข้ามที่จะทำเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่รวมถึงตึก AIA Capital Center และ สถานทูตจีน แล้วก็มี Esplanade รัชดา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันติด MRT  นอกจากนั้นถ้าไปใกล้ๆ ตรงแยกพระราม 9 ก็จะมีเซ็นทรัลพระราม 9 และตรงข้ามเป็นฟอร์จูนรัชดา ส่วนด้านหลังของเซ็นทรัลก็เป็นโปรเจคยักษ์ของ Grand Rama 9

นอกจาก MRT หรือรถไฟฟ้าใต้ดินเดิมแล้วนั้น ในอนาคตยังจะรถไฟฟ้าสายสีส้มวิ่งผ่านด้วยครับ โดยสถานีศูนย์วัฒนธรรม จะเป็นจุดตัดพอดี ซึ่งแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะตัดผ่านกรุงเทพจากตะวันออกไปตะวันตก สำหรับสายสีส้มเฟสแรก ระยะทาง 21.2 กม. เชื่อมสถานี “ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี”

เริ่มเดินทาง  ดูทำเล

ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโด Noble Revolve Ratchada2  จะอยู่ติดกับ Noble Revolve Ratchada ตัวแรกเลยครับ  การเดินทางไปแบบเดียวกันเลย  สถานที่ตั้งก็อยู่ซอยรัชดาภิเษก6  ติดๆกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  หาไม่ยากครับ  ผมทำกราฟฟิกเส้นทางโดยใช้ถนนรัชดาภิเษกมาจากบริเวณแยกรัชโยธิน  ขับรถตรงมาเรื่อยๆจะถึงสถานีรถไฟใต้ดิน  MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายตรงซอยรัชดาภิเษก6  ได้เลย   ตัวสำนักงานขายนั้นใช้ที่เดิมกับที่ขายโครงการ Noble Revolve Ratchada ตัวแรกครับ

การเดินทางไปโครงการคอนโด Noble Revolve Ratchada2 (โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2)

เรื่องทำเลนี่ก็ไม่ได้มีอะไรแปลงแปลงจากรีวิวเดิมที่ทำไว้ครับ  ผมทำกราฟฟิกมาให้ดูตำแหน่งของโครงการทั้ง 2 โครงการ  โดย Noble Revolve Ratchada ตัวแรกคือสีแดงในแผนที่  ส่วนสีเขียวคือ Noble Revolve Ratchada2 ที่กำลังรีวิวนี่ครับ

เราก็มาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ดูกันรอบๆก่อนเช่นเคย  ตรงบริเวณเส้นรัชดาภิเษกช่วงที่จะตัดกับถนนพระราม9 นี้ถูกมองกันว่าอนาคตมีสิทธิ์จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New Central Business District , New CBD) ของกรุงเทพได้  เพราะฉะนั้นตรงนี้จะค่อนข้างเริ่มมีตึกสูงๆขึ้นมาพอควร  ตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆกับตัวที่ตั้งของ Noble Revolve Ratchada อยู่แล้วก็มีอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ , True Tower ของ True Corporation  และที่กำลังสร้างอยู่ก็มีคอนโด Ivy Ampio ของพฤกษา  รวมถึงฝั่งตรงข้ามที่จะทำเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่รวมถึงตึก AIA Capital Center ซึ่งเจ้า AIA Capital Center นี้เป็นอาคารสำนักงานที่จัดคลาสอยู่ใน Office Building grade A ที่แรกบนถนนรัชดาภิเษกด้วย (สำหรับใครที่งงว่าไอเจ้า grade A นี่จัดลำดับยังไง  จริงๆเขามีมาตราฐานเป็น standard code อยู่ครับว่าจะต้องมีอะไรบ้าง   ซึ่งตรงนี้ผมไม่เล่าแหละกัน  เดี๋ยวจะนอกเรื่องรีวิวคอนโดไป)

แล้วนอกจากนั้นก็มี Esplanade รัชดา ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันครับ  อยู่ในระยะที่ใกล้มาก   นอกจากนั้นถ้าไปใกล้ๆตรงแยกพระราม9  ก็จะมีเซ็นทรัลพระราม9 และตรงข้ามเป็นฟอร์จูนรัชดา  ส่วนด้านหลังของเซ็นทรัลก็เป็นโปรเจคยักษ์ของ Grand Rama9

แผนที่และตำแหน่งที่ตั้งโครงการ Noble Revolve Ratchada2 (โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2)

*อัพเดท (18/05/2559) พาเดินไปโครงการกันครับ

จากอาคารจอดรถ MRT มองไปเห็น Noble Revolve Ratchada ตัวแรก กำลังก่อสร้างอยู่

ทางเข้าสำนักงานขาย ซอยรัชดาภิเษก 6

Noble Revolve Ratchada ตัวแรกก็ขึ้นสูงไปพอสมควรแล้ว ส่วน Noble Revolve Ratchada 2 ก็ผ่าน EIA แล้วด้วย

เริ่มเปิดประตู  รีวิวโครงการ

เข้ามาสำนักงานขายกันเลย  ใครเคยแวะมาชมโครงการ Noble Revolve Ratchada ตัวแรกแล้วก็อยู่ที่เดิมเลยครับ

มาที่สำนักงานขายกันครับ ถ้าใครจำได้ Noble Revolve รัชดาตัวแรกนั้นจะมีกราฟฟิกเป็นแถบลายเส้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาโครงการ2 เปลี่ยนมาใช้สามเหลี่ยมแทน

บรรยากาศอัพเดทใหม่ของสำนักงานขาย ด้านหลังเห็นคอนโด Ivy Ampio  กับ ตึก True

อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ และ ตึก AIA Capital Center ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบนถนนรัชดาภิเษก

เข้าไปดูด้านในสำนักงานขายกันเลย

เริ่มจากป้าย Noble Revolve Ratchada 2 ด้านใน

ด้านในสำนักงานขาย

ที่นั่งสำหรับลูกค้า

บรรยากาศด้านในสำนักงานขายก็จะตกแต่งแบบเรียบๆ มีเส้นสายกราฟฟิคตรงลายผนังแทน

โมเดลจะอยู่ด้านหน้าห้องตัวอย่างที่มีด้วยกัน 2 ห้องครับ ซึ่งตอนนี้ทางโครงการได้มีการจัดแต่งห้องตัวอย่างใหม่

ดูรูปเปรียบเทียบกัน 2 ตัวครับ

เปรียบเทียบ Noble Revolve Ratchada กับ Noble Revolve Ratchada2

เปิดผังโครงการ

• รีวิวดูผังโครงการ

  ทางเข้าออกของโครงการ Noble Revolve Ratchada 2 นั้นพอเข้ามาจากถนนรัชดาภิเษกจะเจอทางเลี้ยวด้านหน้าทางเข้าคอนโด Noble Revolve Ratchada เป็นทางยาวเข้าไปถึงตัวคอนโดโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2

Master Plan คอนโด Noble Revolve Ratchada 2

• รีวิวดูทิศ มองแดด รับลม

ในส่วนทิศทางแดดนั้นพอมีอาคารขึ้นชิดๆ ติดๆ กันหลายๆโครงการ เวลาดูก็จำต้องดูประกอบกันเป็นกลุ่มอาคารครับ ดูตึกเดียวโดดๆไม่ได้  เพราะบางทีก็จะได้ประโยชน์จากเงาของตึกข้างเคียงเหมือนกัน

ลองดูผังที่ผมทำมาให้ดูกันครับ  ด้านทิศใต้ของ Noble Revolve Ratchada 2 นั้นมีรับแดดอยู่บ้าง  แต่ไม่ตลอดตอนบ่าย พอสักบ่ายสองบ่ายสามจะเริ่มได้ประโยชน์จากเงาของตึก True Tower ช่วยบังอยู่  ส่วนทางทิศตะวันตกคอนโด Ivy Ampio  ก็จะช่วยบังแดดให้ได้อยู่  แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะชั้นบนๆด้านนี้ก็ยังโดนแดดบ่ายอยู่ดี เพราะ Ivy Ampio นั้นสูง 29 ชั้น  ส่วน Noble Revolve Ratchada2 นั้นสูง 42 ชั้น มากกว่ากันพอสมควร  เรียกว่าถ้าเลือกห้องด้านนี้ตำแหน่งความสูงมีผลครับ  ชั้นสูงมากๆ จะเห็นวิวโล่งแต่จะร้อนหน่อย  ชั้นล่างๆจะร่มกว่าแต่ก็จะโดนบังวิว ต้องลองเลือกดูครับ

ส่วนเรื่องผลต่อตัว Noble Revolve Ratchada โครงการแรกนั้น  ถ้าดูจากผังแล้ว  ปีกอาคารด้านที่ติดกับ Noble Revolve Ratchada 2 ก็จะไม่ค่อยโดดแดดเท่าไหร่  เพราะตึกใหม่ช่วยบังไป  แต่ปีกด้านหน้าก็ยังได้รับแดดบ่ายเหมือนเดิม ไม่มีผลอะไรครับ

ทิศทางแสดงแดด การวางตัวอาคารคอนโด Noble Revolve Ratchada2 (โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2)

ผมลองถอดสเกลจากแปลนแล้วเอาผังของทั้ง Noble Revolve Ratchada  และ Noble Revolve Ratchada 2 มาวางเทียบกันให้ดู  จะได้พอเห็นระยะและจินตนาการมุมมองจากจุดต่างๆของตัวคอนโดได้ถูกครับ

Noble Revolve Ratchada VS Noble Revolve Ratchada2

ลองดูตัวโมเดลกันครับ  มีทั้งของคอนโดโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา และ คอนโดโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2 วางใกล้ๆกัน  เห็นภาพดี

ทางเข้าโครงการ แยกกับ Noble Revolve ตัวแรกชัดเจน

เข้าแถวหน้าตรง

โพเดียมด้านหน้าเป็นสวน ถ้าสังเกตจากโมเดลดีๆ จะเห็นว่าสวนรอบๆนั้นมีผนังยกสูงกั้น ดูจากสเกลแล้วคงมองออกไปไม่ได้ หรือถ้าได้ก็ต้องส่องตามช่อง ตรงนี้ช่วยบังไม่ให้มองไปยังสระว่ายน้ำของโครงการแรกได้ตรงๆ

สระว่ายน้ำอยู่ทางด้านหลัง

ถ่ายผ่านสระว่ายน้ำไปให้ดูฟิตเนส

ระยะห่างระหว่าง 2 โครงการ ช่วงแคบสุดประมาณ 26 เมตร

ลองมาดูส่วนที่ซ้อนทับกันอยู่ครับ เกยกันมาประมาณครึ่งนึง

สวนด้านหน้าอาคาร

มาดูมุมจาก Ivy Ampio บ้างครับ

• รีวิวดูพื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งาน

ตัวตึกของคอนโดโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2 เป็นรูปตัว J ครับ  พื้นที่ส่วนนั้นจะมี 2 ส่วน  บนโพเดียมด้านหน้าฝั่งทิศตะวันตกนั้นจะเป็นสวน  ส่วนฝั่งตรงข้ามฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นสระว่ายน้ำ  ที่ชั้นนี้ก็จะมีฟิตเนสอยู่ด้วย  เท่าที่สังเกตดูโนเบิลพยายามทำให้พื้นที่ส่วนกลางโครงการ 2 นี้ดูหลวมขึ้นครับ  ฟิตเนสใหญ่ขึ้น  สระว่ายน้ำใหญ่ก็ขึ้น  น่าจะเป็นการปรับจาก feedback โครงการแรกอยู่พอควร

แปลนคอนโด Noble Revolve Ratchada 2 ชั้น 6

ลิฟต์โดยสารนั้นมี 4 ตัว (เพิ่มขึ้นมาจากโครงการแรก 1 ตัว) จาก 755 ยูนิต  พอเฉลี่ยแล้วเลยตก 189 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ตัวเลขนั้นหลวมขึ้นกว่าโครงการแรกครับ  แต่ก็ยังเป็นอัตราส่วนที่เยอะไปหน่อยอยู่ดี  แล้วก็มีลิฟต์บริการแยกอีก 1 ตัวครับ

ภายในล็อบบี้

ล็อบบี้อีกมุมครับ

สระว่ายน้ำเหนือโพเดียมที่จอดรถครับ

อัพเดทรูปภาพบรรยากาศจำของเพิ่มเติม เริ่มจากสวนส่วนกลางที่ชั้น 6

สวนฝั่งที่อยู่ติดกับฟิตเนสที่ชั้น 6

สวนชั้น 6 อีกมุม

อีกด้านของฟิตเนสที่หันไปเจอสระว่ายน้ำ

• รีวิวดูรายละเอียดและตำแหน่งมุมมองห้องต่างๆในผังโครงการ

ก่อนจะไปลงดีเทลในส่วนของ Typical Floor และแปลนห้อง  ก็ลองย้อนกลับมาดูภาพรวมกันกันก่อนครับว่ามุมไหนจะมองไปเห็นอะไร  ผมทำกราฟฟิกอาคารข้างเคียงมาให้ชมกันง่ายๆเช่นเคย  จะเห็นว่ามุมที่มองไปแล้วโล่งที่สุดทั้งตึกก็คือทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (ด้านที่หันหน้าเข้าหาถนนรัชดาภิเษก)  ถ้าทางทิศตะวันตกบางส่วนที่ยังสูงไม่พ้น  Ivy Ampio

ระยะของอาคารข้างเคียงในบริเวณตัวโครงการคอนโด Noble Revolve Ratchada2 (โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2)

พอดูผังรอบๆแล้วลองมาดูตำแหน่งห้องครับ  ห้องส่วนใหญ่ของโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2  ก็เป็นแบบ 1 ห้องนอนเช่นเคย  จะมีแบบ 2 ห้องนอนอยู่ตรงมุมฝั่งของสระว่ายน้ำและฝั่งของวิวสวนครับ

Typical Floor Plan Noble Revolve Ratchada2

• รีวิวดูแปลนห้องแต่ละแบบ

  แปลนคอนโดโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2  เป็นแบบเดียวกับของโครงการแรกซะส่วนใหญ่ครับ มีห้องแบบ 38 ตารางเมตรที่เพิ่มขึ้นมา  ส่วนห้องนอนเล็กสุดที่ใช้ทำราคาขายที่เคยเล่าในรีวิวโครงการแรกทางโนเบิลก็ปรับเปลี่ยนใหม่ครับ  ดูแล้วลงตัวขึ้นเยอะ

แปลนห้องคอนโด Noble Revolve Ratchada 2 

แบบ 1 ห้องนอน  25.24  ตารางเมตร

เริ่มจากแบบที่ใช้ทำห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนกันก่อนครับ  โดยรวมๆ แล้วทำมาค่อนข้างลงตัว  สเปซเป็นสัดเป็นส่วนดี  เคาท์เตอร์ pantry จะแยกออกเป็น 2 ฝั่งมีเตาและอ่างล้างจานให้อยู่คนละด้านกัน ทั้งส่วนพักผ่อนและห้องนอนอยู่ติดหน้าต่างและระเบียงด้านนอก ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มๆ  ส่วนที่วางแอร์ที่ยื่นเลยออกมาตรงโซฟานั่งเล่นก็มีผนังทึบบังให้ดูจากภายในแล้วเรียบร้อยดี  โดยรวมๆ แล้วจัดได้ดีครับ

แปลนห้อง Noble Revolve Ratchada 2 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.24 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด  Noble Revolve Ratchada 2 

แบบ 2 ห้องนอน

แปลนคอนโด 2 ห้องนอนของโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2 แบบนี้  จะมีทั้งทิศใต้และทิศเหนือ  ส่วนที่เป็นแปลนตามห้องตัวอย่างเลยจะเป็นห้องทิศใต้ครับ   เข้ามาจะมีเคาท์เตอร์ครัวและสเปซส่วนรับประทานอาหารกับส่วนพักผ่อนที่รวมกันอยู่  ห้องนอนจะต้องเดินถัดเข้าไป  ในห้องนอนใหญ่ก็มีพื้นที่มากพอที่จะทำส่วนพักผ่อนเล็กๆ แยกต่างหาก  โดยรวมๆ จัดได้ลงตัวดี  ได้วิวและแสงธรรมชาติจากทั้ง 2 ด้าน

แปลนห้อง Noble Revolve Ratchada 2 แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 52.77 ตารางเมตร

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ดูแปลนแต่ละห้องกันไปแล้ว  ลองไปชมห้องตัวอย่างกันครับ  แต่ยังไงพอดูรูปห้องตัวอย่างอาจจะต้องใช้จินตนาการเพิ่มนิดนึง  เพราะว่าอินทีเรียของโนเบิลตกแต่งมาเต็มสตรีมมีลูกเล่นการตกแต่งเยอะมาก   ผนังบางส่วนที่ของจริงมีก็อาจจะไม่ได้กั้นมาให้เห็นเลยต้องจินตนาการเพิ่มนิดนึงว่าห้องที่ได้จริงๆจะเป็นยังไงครับ  ผมจะพยายามอธิบายแทรกไปด้วย

ห้องตัวอย่างคอนโด Noble Revolve Ratchada 2

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.24 ตารางเมตร

*อัพเดท ห้องตัวอย่างตกแต่งใหม่ (6/6/2559) 

แบบห้องตัวอย่างที่มีการตกแต่งใหม่นั้น แปลนห้องเหมือนเดิมครับ เพียงแต่เปลี่ยนแปลงหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ไปบ้างเท่านั้นเอง  เพราะโครงการขายของแบบนี้เป็น Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และห้องนอน ที่ห้องจริงนั้นจะเป็นผนังทึบ  แต่จะได้ทีวี, ชั้นวางทีวี, โซฟา, โต๊ะกลาง และม่านมาครบเลย

มองย้อนกลับไปทางเข้าห้องที่เป็นพื้นที่ครัว ผนังตกแต่งส่วนที่กั้น pantry จะไม่ได้มาด้วย แต่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้มาหมด  ทั้งเตาเซรามิค, ฮูดดูดควัน, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบอบได้

ด้านในห้องนอนได้มาครบตามห้องตัวอย่าง มีเตียง โต๊ะข้างเตียง และโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง รวมไปถึงม่านก็ได้ครับ

พื้นที่วางโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง

สเปซของส่วนของเตียงกับโต๊ะทำงาน เวลาใช้งานก็นั่งตรงเตียงเอาครับ ลองนั่งดูแล้ว ก็ใช้แทนเก้าอี้ได้อยู่

พื้นที่ตรงส่วนของเตียงกับตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้

หน้าตาห้องน้ำได้กระจกเต็มบานนะคะ

ถ่ายให้ดูพื้นที่การใช้งานครับ ส่วนของจริงจะไม่ได้โล่ง เชื่อมต่อกับให้เห็นแบบนี้ เพราะผนังห้องจะทึบไปเลย ส่วนแอร์ภายในห้องจะได้มา 2 ตัว เป็นแบบแขวน 9000 BTU ไม่ใช่เป็นแอร์ฝังฝ้าแบบในห้องตัวอย่าง

ห้องตัวอย่างคอนโด Noble Revolve Ratchada 2

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 52.77 ตารางเมตร

ส่วนของห้องแบบ 2 ห้องนอน จะตกแต่งมาตาม concept ของคอนโดแบบ “Revolve Living” ซึ่งทางโนเบิลนำเสนอเป็นไอเดียในการตกแต่งห้อง โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องเป็นสไตล์ของเราได้ตามความต้องการ

เปิดประตูห้องเข้ามา เคาท์เตอร์ pantry นั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกัน ไม่แยกเหมือนห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนครับ

ส่วนของห้องนอนเล็ก หรือ ห้องอเนกประสงค์ ซึ่ในห้องตัวอย่างจะทำเป็นผนังอคิลิคใสๆ ของจริงจะเป็นผนังทึบธรรมดา

ย้อนกลับไปทางเข้าห้องที่เป็นพื้นที่ครัว อีกฝั่งเป็นห้องน้ำด้านนอก

ห้องน้ำที่อยู่ติดทางเดิน

พื้นที่รับประทานอาหาร ตรงนี้ถ้าดูในแปลนจะจัดโต๊ะรับประทานอาหารไว้ติดผนังและวางโซฟาไว้ด้วย ในห้องตัวอย่างเอาโต๊ะมาวางกลาง แล้วเอาโซฟาไปไว้ในห้องนอนเล็กแทนครับ

ทางเดินเข้าไปห้องนอนใหญ่ ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ห้องนอนเล็ก หรือห้ออเนกประสงค์

เข้ามาดูในห้องนอนเล็กบ้าง ในห้องตัวอย่างจัดเหมือนเป็นห้องนั่งเล่น

เข้าไปดูในห้องนอนใหญ่กันบ้าง

ด้านข้างมีที่ให้วางโต๊ะทำงาน ในห้องตัวอย่างทำ Built-in โต๊ะลอยๆหน้าแคบมาให้ดู ผมลองไปวัดสเกลดูจากของจริงแล้ว ถ้าเอาโต๊ะไซส์ความลึกมาตราฐานก็วางได้ ไม่มีปัญหาครับ

ปลายเตียงจัดเป็นส่วนพักผ่อน  พื้้นที่ก็ดูลงตัวดี

ห้องน้ำด้านในห้องนอนใหญ่ ทั้งขนาดและทางจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนห้องน้ำด้านนอกเลย

ลองมองจาก Master bedroom ไปตามทางเดินบ้าง ของจริงอาจจะมืดกว่าในห้องตัวอย่างหน่อยครับ  เพราะมีช่วงนึงที่แสงจะผ่านห้องนอนเล็กเข้ามาไม่ได้  ส่วนฝ้าที่เห็นของจริงก็จะเป็นฝ้าฉาบเรียบไม่ใช่คอนกรีตปูนเปลือยแบบในห้องตัวอย่างนะครับ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

• อัพเดท (6/6/2559) คอนโดแต่งห้องตัวอย่างใหม่ พร้อมขายแบบ Fully furnished มีเฟอร์นิเจอร์ให้เหมือนในห้องตัวอย่าง เป็นของ Moda รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยครับ 

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาเคาท์เตอร์ครัวแบบ 1 ห้องนอนที่อยู่ติดกับทางเข้าออกห้อง เคาท์เตอร์ Pantry จะแยกออกเป็น 2 ฝั่งมีเตาและอ่างล้างจานอยู่คนละด้านกัน

เคาท์เตอร์ฝั่งอ่างล้างจาน, ไมโครเวฟ และ ที่วางเครื่องซักผ้า

อีกฝั่งจะเป็นเคาท์เตอร์วางเตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควัน และตู้เย็น

ตู้เย็นได้มาด้วย

เคาท์เตอร์ชั้นลอยของฝั่งอ่างล่างจาน

บานเปิดเป็นแบบ Soft close

ชั้นวางเตาไมโครเวฟ และ ไมโครเวฟที่โครงการมีให้

อ่างล้างจานของ MEX

เคาท์เตอร์ด้านที่มีอ่างล้างจานจะมีพื้นที่สำหรับไว้วางของ

มีเครื่องซักผ้าอยู่ตรงเคาท์เตอร์ฝั่งอ่างล้างจานด้วย

ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน

เคาท์เตอร์อีกฝั่งมีลิ้นชักใส่ของ

เคาท์เตอร์ชั้นลอยด้านบนมีเครื่องดูดควันของ MEX

เตาไฟฟ้า 2 หัวของ MEX

เคาท์เตอร์ Top เป็นหินแกรนิตสังเคราะห์สีดำ

เปิดดูที่เก็บของชั้นลอย ติดกับฮูดดูดควัน

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำของแบบ 1 ห้องนอน

กระจกจะได้เต็มบานแบบในห้องตัวอย่าง แต่จะไม่มีไฟตรงกระจกให้ครับ

ชุดเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าของ Cristina

ก๊อกน้ำของ Grohe

ที่เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

หน้าตาโถสุขภัณฑ์

ฉากกั้นอาบน้ำก็มีให้ครับ

เป็นบานเปิด

ฝักบัวของ Grohe

ชั้นวางของข้างโถสุขภัณฑ์ ส่วนถ้าเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ คงต้องติดเพิ่มเอาตรงส่วนของพื้นที่อาบน้ำ จะสะดวกกว่าครับ

พื้นที่อาบน้ำ เกือบๆ เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส

ราวแขวนผ้า

ธรณีห้องน้ำเป็นหิแกรนิตสีดำ ส่วนของพื้นห้องน้ำจะอยู่ต่ำกว่าตัวห้องนอนอยู่นิดนึงครับ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

มือจับก้านโยนตรงประตูทางเข้าออกห้อง

มือจับด้านใน

หน้าตาประตูห้องครับ ถ้าเป็นส่วนของประตูด้านในจะไม่มีบานปิดลามิเนตด้านบนให้

โต๊ะทานข้าว พร้อม เก้าอี้นั่ง 2 ตัว

ชั้นวางทีวีก็ได้ครับ

เปิดให้ดูพื้นที่เก็บของด้านใน บานเปิดเลื่อนค่อนข้างยาก เพราะไม่มีมือจับให้

ทีวีในห้องก็ได้ตามห้องตัวอย่างเป็นของ Samsung

โต๊ะทำงานเล็กตรงโซฟา

โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง

เตียงนอน พร้อมฟูกครับ

โต๊ะข้างเตียง

มีลิ้นชักใส่ของให้ 2 ช่อง

โต๊ะยาวไว้สำหรับนั่งทำงานข้างเตียง

มีลิ้นชักใส่ของให้ 3 ช่อง

ด้านล่างมีชั้นวางของให้ 2 ช่องครับ

พื้นลามิเนตภายในห้อง

บานหน้าต่างบานกรอบอลูมิเนียมตรงห้องนอน พร้อมม่านครับ

ตู้เสื้อผ้า Built-in ให้สูงถึงเพดานห้อง หน้าบานด้านนึงเป็นกระจก

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน

พื้นที่เก็บของด้านในตู้เสื้อผ้าครับ

บานจับตู้เสื้อผ้า

ไฟห้องเป็นดาวน์ไลท์

สวิตซ์ Panasonic

มือจับประตูบานเลื่อนตรงระเบียง

ประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียม

แผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์

พื้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับระเบียง

ระเบียงแคบยาวตามสไตล์โนเบิล

ราวระเบียงทำจากเหล็กกล่องทำสีเทา สูงยาว ดูโปร่ง

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเปิดตัวโครงการนั้นเริ่มที่ 2.60 ล้านบาทครับ  ราคาเฉลี่ยของห้องต่ำสุดนั้นอยู่ที่ 116,800 บาท/ตารางเมตร  เป็นราคายูนิตที่ ณ วันเปิดตัวโครงการ 4 กันยายน 2556 ห้องที่ได้จะเป็นห้องเปล่า มีสุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็มีเคาท์เตอร์ pantry ครัวมาให้ แต่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครับ

อัพเดทล่าสุด 6 มิถุนายน 2559  ทางโครงการมีการปรับเปลี่ยนห้องตัวอย่างใหม่ ราคาเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ 3.8 ล้านบาท เป็นห้องแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบ

ราคา ณ วันที่  6 มิถุนายน 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน เริ่มต้น 3.8 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

*** 18 – 30 มิ.ย. 59 มีโปรโมชั่น Noble D:Day  สามารถตรวจสอบอัพเดตรายละเอียดเพิ่มได้ที่สำนักงานขายครับ

ลงทะเบียนออนไลน์รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  55  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

เยี่ยมชมสำนักงานขาย  รับสิิทธิพิเศษช่วงแคมเปญ Noble D:Day

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน เริ่ม 3.8 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 21,124 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน เริ่ม 3.8 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 22,325 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน เริ่ม 3.8 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 24,337 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน เริ่ม 3.8 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 28,006 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน เริ่ม 3.8 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 35,861 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ที่ตั้งนั้นอยู่ในจุดที่ง่ายต่อการเดินทางครับ  เรื่องรถไฟฟ้านั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะแทบจะติดกับสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมเลย   การขับรถก็อยู่ในจุดที่จ่อเข้าเมืองได้หลายทางเพราะจากแนวเส้นพระราม9  ก็เข้าสุขุมวิทได้หลายเส้นทาง  ไปทางด่วนพระราม9 ไม่ไกลนัก   ถ้าจะขับรถโดยใช้เส้นรัชดาขาออกก็จะลำบากตอนกลับรถนิดนึง  เพราะจุด u-turn นั้นจะอยู่ก่อนถึงโครงการ  ทำให้ต้องไปกลับรถถึงหน้าฟอร์จูน  ซึ่งคงทราบดีว่ารถติดรอ u-turn ยาวเป็นปกติอยู่แล้ว  ในกรณีที่ใช้รถสาธารณะก็ไม่ลำบากอะไรครับ  มีป้ายรถเมล์และวินมอเตอร์ไซด์อยู่ตรงด้านหน้าทางลง MRT เลย  ทำเลนั้นจัดว่าดีมากทีเดียว

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ตรงบริเวณนี้จริงๆก็จัดเป็น Hub ใหญ่ก่อนที่จะเข้าไปในเขตใจกลางเมืองอยู่แล้วครับ   อย่างที่บอกไปว่าจุดนี้มีการเล็งกันว่าจะเป็น New CBD ในอนาคต  ก็คงต้องรอดูกันไปว่าจะไปถึงจุดนั้นได้หรือเปล่า   สำหรับด้านโครงสร้างพื้นฐานที่น่าสนใจคงจะหนีไม่พ้นเรื่องแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะตัดผ่านกรุงเทพจากตะวันออกไปตะวันตก  โดยที่มีสถานีศูนย์วัฒนธรรมเป็นจุดตัดพอดี  ถ้าในระยะยาวแล้วรถไฟฟ้าสายสีส้มเสร็จตรงนี้คงโตกว่านี้อีกเยอะ  ลองไปอ่านข้อมูลเบื้องต้นของรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ทางอยู่สบายเคยหาข้อมูลสรุปมาให้อ่านกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วครับ >> (ดูข้อมุลรถไฟฟ้าสายสีส้ม คลิ๊กที่นี่)  

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

การวางผังตัวอาคารนั้นวางมาเป็นรูปตัว  J  โดยแกนของตัว J วางตั้งฉากกับแกนตัว H ของโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดาโครงการแรก  เพื่อเป็นการหลบให้บังมุมกันน้อยที่สุด  แต่ก็มีบางห้องที่โดนบังวิวอย่างช่วยไม่ได้  ตัวอาคามี character คล้ายๆกับโนเบิล รีวอลฟ์ โครงการแรก  มี gimmick นิดหน่อยในการปรับเปลี่ยนแพทเทริ์นกราฟฟิกต่างๆบนตัวอาคาร  ถ้าลองสังเกตดูจะเห็นว่าโครงการแรกนั้นส่วนโพเดียมเป็นกราฟฟิกรูปสามเหลี่ยมส่วนตัวทาวเวอร์เป็นกราฟฟิกสี่เหลี่ยมผืืนผ้าผอมๆ  พอมาเป็นโครงการนี้สลับกันโดยในส่วนโพเดียมจอดรถเป็นกราฟฟิกสี่เหลี่ยมผืนผ้าผอมๆและตัวทาวเวอร์เป็นกราฟฟิกสามเหลี่ยม

หรือถ้าหากลองดูรูปภายในล็อบบี้ซึ่งใช้โทนสีขาวดำเป็นหลัก  ล็อบบี้ในโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดาจะมีโทนสีขาวมากกว่าสีดำ  แต่ในตัวโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2 จะมีโทนสีดำนำแล้วสีขาวมีสัดส่วนน้อยกว่า  เป็นลูกเล่นที่กลับไปกลับมาเหมือนแฝดคนละฝาดี

แปลนห้องที่จัดมาให้ในแบบมาตราฐานส่วนใหญ่นั้นก็ทำได้โอเคทั้งแบบ 1 และ 2 ห้องนอน  แบบห้องนอนเล็กสุดที่เคยทำตอนโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา โครงการแรกที่ผมเคยคอมเม้นท์ว่าไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ก็เอาออกไป  แปลน 1 ห้องนอนไซส์เล็กสุดแบบใหม่ที่ใส่เข้ามาก็ดูโอเคกว่าเดิมเยอะ  และมีเพิ่มแปลน 1 ห้องนอนขนาด 38 ตารางเมตรเข้ามาด้วย  ซึ่งแปลนก็ดูลงตัวดี   เรื่องวัสดุในห้องก็เป็นสเปกเดียวกับโครงการแรกครับ  รวมๆแล้วอยากให้ดีกว่านี้อีกนิด   จุดที่ปรับดีมากขึ้นคือด้าน Facilities  ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น  สัดส่วนการใช้งานหลวมขึ้นกว่าโครงการแรก  เพียงแต่ความหลากหลายยังมีเท่าเดิมครับ

ด้านตัวเลื่อกอื่นๆ

นอกจาก Noble Revolve Ratchada โครงการแรกแล้ว  ถ้าเอาตัวเลือกอื่นๆแบบติดกับตัวโครงการเลยก็มีReview Ivy Ampio ของทางพฤกษา  ส่วนถ้าจะถัดออกไปตรงแยกพระราม 9  หน่อยก็จะมีเยอะมากทีเดียว  ทั้ง  Review IDEO MOBI พระราม9 , Review Condolette Midst Rama9, Aspire พระราม9 , ฺGrand Belle Rama 9

  UPDATE ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท >> ลงทะเบียน

Score Summary

อ่านรีวิว Noble Revolve Ratchada โครงการแรก >>  Review Noble Revolve Ratchada

AP ย้ำผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ประกาศปิดการขาย Life สุขุมวิท 48 ภายใน 2 วัน โชว์ยอดขายรวมมูลค่ารวมกว่า 2,259 ล้านบาท การันตีความร้อนแรงของดีมานด์คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้า ในราคาเปิดตัวไม่ถึงแสนเจาะลูกค้าคนเมืองระดับกลาง – บน ดันยอดขายคอนโดมิเนียมรวมแตะ 4,790 ล้านบาท (ณ 5 มิ.ย. 59) เตรียมลุยเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการไฮไลท์ในไตรมาส 3/59 มูลค่ารวมกว่า 8,600 ล้านบาท

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจคอนโดมิเนียม 1 และกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่าในวันที่ 4 – 5 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถปิดการขาย Life Sukhumvit 48 จำนวน 612 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,259 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้ายังมีดีมานด์อยู่มาก โดยเฉพาะสินค้าคอนโดมิเนียมที่เจาะโลเคชั่นใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้าในราคาเปิดตัวไม่ถึงแสน หรือ 80,000 – 83,000 บาท/ตารางเมตร ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในการพัฒนาคอนโดมิเนียมสำหรับคนเมืองที่ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์สเปซที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าในเครือเอพี และให้การตอบรับที่ดีจนสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำยอดขายคอนโดมิเนียม (ณ วันที่ 5 มิ.ย.59) รวมกว่า 4,790  ล้านบาท พร้อมเตรียมลุยเปิดคอนโดมิเนียม 2 โครงการไฮไลท์ของปีนี้ใน 2 ทำเลศักยภาพ เจาะทำเลใจกลางเมือง มูลค่ารวมกว่า 8,600 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าทั้ง 2 โครงการใหม่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์คอนโดอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรุกตลาดคอนโดก่อนปิดไตรมาส 2/59 AP ได้จัดอีเว้นท์ URBAN SPACE CONDO EXPO 2016 มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่สนใจคอนโดยูนิตสวย ติดรถไฟฟ้ากว่า 10 ทำเลในเครือ AP ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท และโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในงานอีกมากมาย ณ Teminal 21 ชั้น M ระหว่างวันที่ 6 – 9 มิ.ย. นี้เท่านั้น

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายมีรีวิวคอนโด Tropicana Condo @ BTS Erawan จาก Origin Property มาฝากกัน โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมโอนแล้ว  โครงการเรียกตัวเองว่าเป็นคอนโด Eco Green สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ติดถนนทางรถไฟสายเก่า ใกล้กับ BTS เอราวัณ  พื้นที่โซนนี้ก็จะเป็นโซนโรงงานอุตสาหกรรมและทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองค่ะ  จุดนี้จะเป็นเขตพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการแล้ว  มีแนวถนนกาญจนาภิเษกพาดผ่านไม่ไกลจากโครงการนัก ลูกค้ากลุ่มหลักของคอนโดทรอปิคาน่าก็เป็นคนที่ทำงานในโซนนี้  โดยเน้นเป็นกลุ่มเพิ่มสร้างครอบครัวไม่นาน  ทำราคาขายออกมาไม่สูงมาก

อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิว Tropicana Eco Geen Condo @ BTS Erawan พร้อมภาพโครงการอย่างละเอียดมาไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ตัดสินใจค่ะ  ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Tropicana Condo @ BTS Erawan (ทรอปิคานา คอนโด)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนรางรถไฟเก่า ใกล้ BTS เอราวัณ
• ขนาดที่ดิน >>> 2-0-96.9 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  2 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 21.81-30.30 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Plus 32.06-41.32 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  363 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 30% รวมจอดซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.44 ล้านบาท (1 ห้องนอน 21.50 ตร.ม. ราคา ณ วันที่ 16/3/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 6x,xxx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.629281, 100.587041

คอนโด Tropicana ตั้งอยู่ติดถนนรางรถไฟเก่า เป็นถนน One-way ด้านหน้าโครงการจะเดินรถไปฝั่งถนนปู่เจ้าสมิงพราย ผ่านโรงงานโตโยต้า และ ฮอนด้า โซนนี้เรียกได้ว่าเป็นโซนโรงงานเลยค่ะ มีโรงงานใหญ่ๆ อยู่หลายบริษัท ถ้ามาจากถนนสุขุมวิท ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว พอผ่านทางด่วนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกและช้างสามเศียร ก็จะมีทางเลี้ยวไปถนนรางรถไฟเก่าอยู่ค่ะ ในอนาคตบริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งผ่าน ถึงจะไม่ได้ผ่านหน้าโครงการตรงๆ แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราเริ่มเดินทางจากมาจากบนถนนสุขุมวิทค่ะ ผ่านอิมพีเรียล สำโรง ตรงมาเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จนถึงวนแหวนกาญจนาภิเษก และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ก็เตรียมกลับรถเข้าถนนรางรถไฟเก่า ตัวโครงการจะมีด้านที่ติดถนนใหญ่ แต่ทางเข้าออกจะต้องเข้าไปในซอยย่อยค่ะ

ถึงโครงการแล้วค่ะ เลี้ยวเข้าซอยด้านหน้าโครงการเลย

คอนโด Tropicana นั้นตั้งอยู่ในย่านโรงงานอุตสาหกรรมที่ใกล้เมือง อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการค่ะ บริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) วิ่งผ่านในอนาคต สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีเอราวัณค่ะ ห่างไปประมาณ 800 เมตร จากด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนรางรถไฟเก่านั้น เชื่อมต่อกับถนนปู่เจ้าสมิงพราย ไปถนนสุขุมวิทและถนนเทพารักษ์ได้ ส่วนขาออกนอกเมืองนั้น จากหน้าโครงการจะมีที่กลับรถเข้าถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกนอกเมืองอยู่สามารถวิ่งไปปากน้ำและบางปูที่เป็นย่านของนิคมอุตสาหกรรม ตัวคอนโดใกล้กับถนนกาญจนาภิเษกที่เป็นวงแหวนอุตสาหกรรม ถ้าวิ่งออกทางทิศตะวันตกจะไปถนนพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปถนนสุขสวัสดิ์ และถนนพระราม 2 ส่วนถ้าวิ่งไปทางทิศตะวันออก จะไปถนนเทพารักษ์ บางนา และมอเตอร์เวย์ได้ การเดินทางค่อนข้างสะดวก แต่ก็ติดนิดนึงตรงที่เป็นการเดินรถทางเดียว ก็ต้องไปกลับรถเพื่อเข้าถนนต่างๆ ค่ะ

กลับมาดูพื้นที่โดยรอบคอนโด Tropicanaกันค่ะ ตัวโครงการจะติดกับซอยที่ไม่มีป้ายด้านหน้า แต่จะเรียกกันว่า ซอยจัดสรร ด้านในซอยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ค่ะ สามารถทะลุไปออกซอยวัดบางด้วนได้ ติดกับที่ดินโครงการทางทิศเหนือจะเป็นบริษัท สินสงวนแอนด์ซันส์ จำกัด (หมายเลข 1) เป็นโรงงานเครื่องเชื่อมและเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามกันปากซอยจัดสรรจะเป็นสำนักงานของคอนโดทรอปปิคานา (หมายเลข 2) ถัดไปหน่อยจะเป็นพื้นที่โล่งที่มีเพิงร้านอาหาร และพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถบรรทุกค่ะ เลยไปหน่อยทางทิศใต้จะเป็นซอยวัดบางด้วนค่ะ ปากซอยจะมี 7-Eleven (หมายเลข 3) อยู่ด้วย จากตัวคอนโดทรอปิคานามองไปฝั่งตรงข้ามบริเวณถนนสุขุมวิทจะเป็น พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร (หมายเลข 4) ส่วนถ้าตรงไปตามถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก อย่างที่บอกไปจะมี BTS เอราวัณ ห่างไปประมาณ 800 เมตร เดินไปน่าจะเหงื่อแตกพอสมควร แถมบางช่วงใกล้ๆ โครงการยังไม่มีทางเท้าให้ด้วยค่ะ ก่อนถึงตัวสถานีรถไฟฟ้าจะมีหมู่บ้านบุษบา 2 (หมายเลข 5) ด้านหน้าจะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ มีธนาคาไทยพาณิชย์ตั้งอยู่ ติดกับรถไฟฟ้า BTS จะเป็น สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรปราการ (หมายเลข 6) ค่ะ

วนกลับมาหน้าคอนโดทรอปิคานาอีกรอบ ตรงไปตามถนนรางรถไฟเก่าที่เป็นถนนวันเวย์ด้านหน้าโครงการ ลอดถนนกาญจนาภิเษกไปจะเป็นโรงงาน Honda (หมายเลข 7) และ โรงงาน Toyota (หมายเลข 8) ตรงไปเรื่อยๆ จะไปออกถนนปู่เจ้าสมิงพราย ส่วนฝั่งตรงข้ามกับโรงงานโตโยต้า ด้านที่ติดถนนสุขุมวิทนั้นจะเป็นออฟฟิศของบริษัท Toyota (หมายเลข 9) อยู่ค่ะ ติดกันเป็นปั๊มน้ำมันปตท. (หมายเลข 11) ฝั่งตรงข้ามบนถนนสุขุมวิทจะเป็นโรงงาน Panasonic (หมายเลข 10) บริเวณนี้จะมีสถานีรถไฟฟ้า BTS ปู่เจ้าสมิงพรายอยู่ นอกจากนี้ยังมี Big C จัมโบ้ (หมายเลข 12) ซึ่งเป็นห้างที่ใกล้สุดของคอนโดทรอปิคานาค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปรอบๆ ที่ตั้งโครงการ ก่อนจะเข้าไปดูคอนโด Tropicana ที่ตอนนี้ตัวอาคารสร้างเสร็จ เตรียมจะส่งมอบห้องแล้วค่ะ

ถนนในซอยจัดสรรที่เข้ามาจากถนนรางรถไฟเก่า ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ

ถนนรางรถไฟเก่าที่เป็นถนนเดินรถทางเดียวค่ะ

บรรยากาศมุมสูงรอบๆ โครงการ ส่วนใหญ่ฝั่งทิศใต้จะเป็นโซนที่อยู่อาศัย

ฝั่งทิศเหนือมีทั้งที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรม

ติดกับด้านข้างทางทิศเหนือจะเป็นโรงงานบริษัท สินสงวนแอนด์ซันส์ จำกัด มองไปเห็นวงแหวนกาญจนาภิเษก

ด้านหลังเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในซอยจัดสรรค่ะ

ติดกับสำนักงานคอนโดทรอปิคานาจะเป็นที่โล่งไว้จอดรถบรรทุก มีร้านอาหารตั้งอยู่ด้วย

ถนนรางรถไฟเก่าอีกรูปค่ะ ด้านบนจะเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ซอยวัดบางด้วนเชื่อมต่อกับซอยจัดสรรที่อยู่ด้านหน้าโครงการ

ปากซอยวัดบางด้วนมีเซเว่น

เลยซอยบางด้วนไปหน่อยจะมีร้านค้า รวมไปถึงวินมอไซต์อยู่ค่ะ

ออกมาบริเวณที่กลับรถจากถนนสุขุมวิทเข้าถนนรางรถไฟเก่า

บริเวณนี้จะมีถนนออกหลายเลนค่ะ ถ้าคนไม่ชินทางอาจจะหลงได้ มีทั้งไปถนนรางรถไฟเก่า ถนนสุขุมวิท ขึ้นทางด่วน

จากฝั่งตรงข้ามบริเวณถนนสุขุมวิท มองไปที่ตั้งโครงการ ด้านหน้าโครงการถ้าเลยไปหน่อยจะมียูเทิร์นกลับรถมาถนนสุขุมวิทขาออกได้

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ หรือ ช้างสามเศียร

สวนสุขุมวิทที่อยู่ข้างๆ ช้างสามเศียร

ออกไปดูพื้นที่รอบๆ ใกล้ๆ กันบ้างค่ะ

เริ่มจากด้านหน้าโครงการที่เป็นถนนรางรถไฟเก่าอีกรอบ

เลยโรงงานสินสงวนไปนิดเดียวก็มีทางกลับรถไปถนนสุขุมวิทขาออก ถ้าตรงไปตามถนนรางรถไฟเก่า จะไปโรงงานฮอนด้า โตโยต้า และถนนปู่เจ้าสมิงพรายค่ะ

ถ้ากลับรถมาถนนสุขุมวิทขาออกแล้ว จะเจอ BTS สถานีเอราวัณ

แถวนั้นจะมีหมู่บ้านเก่าตั้งอยู่ ด้านหน้าจะมีตึกแถว มีธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่

กศน.อำเภอเมืองสมุทรปราการ

รอบๆ BTS เอราวัณจะเป็นตึกแถวค่ะ

กลับไปฝั่งสุขุมวิทขาเข้าเมืองกันบ้าง

จากถนนสุขุมวิทก่อนถึง BTS เอราวัณ มีป้ายบอกทางไปขึ้นทางด่วนเส้นกาญจนาภิเษก

ด่านเก็บเงินทางด่วนตรงวนแหวนกาญจนาภิเษกค่ะ ถ้าจะใช้ทางด่วนต้องไปกลับรถตรงสุขุมวิทขาออกมาก่อน แล้วก็กลับรถอีกที จะมีป้ายบอกทางขึ้นทางด่วนอยู่ค่ะ

ส่วนถ้ามาจากสุขุมวิทฝั่งขาออกจะไปโครงการก็ให้ไปตามทางไปสมุทรปราการค่ะ เลยทางด่วนกาญจนาภิเษกแล้วก็เตรียมกลับรถเข้าถนนรางรถไฟเก่า

ถนนสุขุมวิทบริเวณ BTS ปู่เจ้าสมิงพรายค่ะ

อาคารสำนักงานของ Toyota ที่ติดถนนสุขุมวิท

ตัวสถานีปู่เจ้าสมิงพรายค่ะ

บิ๊กซี จัมโบ้ ติด BTS ปู่เจ้าสมิงพราย

เลยไปข้ามคลองสำโรงก็จะมีอิมพีเรียล สำโรงค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่ดูสำนักงานขายและคอนโด Tropicana กันเลยค่ะ

ก่อนถึงซอยเข้าคอนโด Tropicana จะมีสำนักงานตั้งอยู่ค่ะ

หน้าตาสำนักขายคอนโด Tropicana

เก็บภาพบรรยากาศด้านในมาให้ดูค่ะ

ป้ายด้านหน้าสำนักงานขาย มองไปเป็นตัวคอนโดทรอปิคานา

ซอยด้านหน้าทางเข้าโครงการค่ะ เป็นถนนสองเลนสวนกันพอดีๆ

มองออกไปถนนรางรถไฟเก่าที่เป็นวันเวย์ค่ะ

ตัวอาคารที่สร้างเสร็จแล้วค่ะ มี 2 อาคาร ด้านหน้าติดถนนรางรถไฟเก่าเป็นอาคาร A ส่วนด้านในเป็นอาคาร B

ป้ายด้านหน้าทางเข้าอาคารและป้อมยาม

เข้าไปดูภายในอาคาร A กันค่ะ

ภายในอาคารจะใช้คีย์การ์ดในการเข้าออก

โถงลิฟต์ชั้น 1

ขึ้นมาดูด้านในส่วนห้องพักอาศัยกันค่ะ ตึก A แปลนจะโค้งๆ ทางเดินก็เลยโค้งๆ ตาม

ห้องอีกฝั่งนึงค่ะ

ทางเดินด้านหน้าห้องพักอาศัยอีกรูป

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการ Tropicana จะแคบยาวขนานเข้าไปกับซอยจัดสรรค่ะ จะมีด้านที่ติดกับถนนรางรถไฟเก่าอยู่ แต่ว่าทางเข้าออกโครงการจะอยู่ภายในซอยบริเวณอาคาร A ค่ะ ซึ่งภายในซอยจัดสรรเองก็จะเป็นถนนสองเลนสวนกัน เข้าไปด้านในก็เป็นบ้านพักอาศัยค่ะ ติดกับที่ดินโครงการอีกด้านจะเป็นลำรางสาธารณะ ถัดไปจะเป็นโรงงานสูงประมาณ 3 ชั้นค่ะ ส่วนอีกฝั่งที่ติดกับถนนจัดสรรจะเป็นที่โล่งที่ส่วนหนึ่งเป็นสำนักงานคอนโด Tropicana ในปัจุบัน ส่วนที่เหลือจะเป็นร้านอาหารแบบเพิง กับที่จอดรถบรรทุกค่ะ ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนรางรถไฟเก่านั้น ถนนเส้นนี้เป็นถนนแบบเดินรถทางเดียวค่ะ ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะไปออกถนนปู่เจ้าสมิงพรายและถนนสุขุมฝั่งขาเข้าเมืองได้ จากแผนที่่จะเห็นว่าด้านหน้าโครงการมีถนนวนไปวนมาเยอะไปหมด หลักๆ แล้วถ้าจะไปถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกนั้นใต้วงแหวนกาญจนาภิเษกจะมีทางกลับรถขึ้นสะพานเข้าถนนสุขุมวิทได้ค่ะ ส่วนถ้าจะขึ้นทางด่วนก็ต้องวนไปสุขุมวิทขาออกแล้วกลับรถมาขึ้นทางขึ้นทางด่วนอีกที่ค่ะ ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

คอนโด Tropicana มีด้วยกันทั้งหมด 2 อาคารค่ะ ทั้ง 2 อาคาร วางเรียงกันตามแนวรูปที่กิน หน้าตาอาคารเกือบจะคล้ายๆ เพียงแต่อาคาร A ที่อยู่ด้านหน้าติดถนนรางรถไฟเก่า จะมีเฉียงๆ ตามรูปที่ติดไปบ้าง แต่ห้องพักอาศัยหลักๆ นั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเหมือนกัน คือ ฝั่งที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่เป็นด้านถนนกาญจนาภิเษก และฝั่งที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นฝั่ง BTS เอราวัณ แน่นอนว่าถ้าห้องทางฝั่งทิศตะวันตกและตะวันออกก็โดดแดดแน่ๆ แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้หันเข้าไปแบบตรงๆ ค่ะ

หน้าตาอาคารจริง

ตัวอาคารจะเป็นสีเทาเข้มและเทาอ่อนค่ะ ตัดกับเส้นตั้งที่เป็นสีน้ำตาล ที่ให้เป็นที่บังคอมเพรสเซอร์แอร์และเส้นกรอบที่เหลืองตกแต่งนิดนึง  แต่ก็ไม่ได้เกิด effect อะไรเท่าไหร่

ด้านหน้าอาคาร A ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้

ด้านหลังเป็นอาคาร ไม่มีกรอบอาคารสีเหลืองแบบอาคาร A

ระยะห่างระหว่าง 2 อาคารค่ะ

ตัวอาคาร A ฝั่งที่ติดถนนรางรถไฟเก่า

จากด้านหน้าถนนรางรถไฟเก่าค่ะ ตัวอาคารจะหันด้านแคบออกมา

เอาด้านแคบมาให้ดูแบบตรงๆ

อาคารฝั่งที่หันไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ

จบด้วยภาพบรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับคอนโด Low-rise ที่ได้ ชั้นล่างจะมี Lobby ที่เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลด้วยอยู่ที่อาคาร A ด้านข้างของคอนโดทั้ง 2 จะเป็นสวนยาวต่อกันค่ะ ส่วนชั้นบนของอาคาร A จะมีฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือ และสวน ส่วนอาคาร B จะมีสวนเพียงอย่างเดียวค่ะ ถ้าจะใช้ฟิตเนสต้องเดินทางใช้ที่อาคาร A

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร เฉลี่ยออกมาอาคาร A จะอยู่ที่  99 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว และอาคาร B อยู่ที่ 83 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ไม่ได้แตกต่างกันมาก อยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ   ที่จอดรถ 35% นับรวมจอดซ้อนคัน พื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ของทั้ง 2 อาคาร ไม่ได้แยกกันค่ะ  ถือว่าไม่เยอะนะคะ

Lobby นั่งเล่นที่ชั้น 1 ด้านข้างจะเป็นสวนค่ะ

สวนด้านข้างอาคาร

สวนชั้นล่างนั้นจะยาวเชื่อมต่อพื้นที่กันระหว่างทั้งสองอาคารค่ะ

ตู้จดหมายตรงโถงลิฟต์ชั้น 1

ขึ้นมาชั้นบนสุดเป็นห้องฟิตเนส

เข้ามาดูด้านในกันค่ะ

พื้นที่ฟิตเนสด้านใน มีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 6 เครื่องค่ะ มองไปเป็นวิวฝั่งสุขุมวิทขาออก

แต่งด้วยผนังกระจก ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

มุมดัมเบลค่ะ เป็นช่องเล็กๆ เข้าไป

ติดกับฟิตเนสจะห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ

ขึ้นบันไดมาชั้นดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน (เย็นๆ บรรยากาศน่าจะดีนะคะ แต่พอขึ้นไปตอนบ่าย ร้อนระอุเลยทีเดียว)

จากตรงนี้มองไปแอบเห็นช้างสามเศียรด้วยค่ะ

อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ

ทางเดินลงสระค่ะ แนวกันตกค่อนข้างต่ำ ลมแรงๆ ก็แอบเสียวๆ อยู่เหมือนกัน

ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนดาดฟ้าของอาคาร B

สระว่ายน้ำจะตัดเฉียงๆ นิดนึงค่ะ ยาวประมาณ 7×15 เมตร

ที่นั่งริมสระ

สระว่ายน้ำอีกรูปค่ะ ไม่มีสระเด็กให้

อีกมุมว่ายไปจะได้วิวฝั่งสุขุมวิทขาเข้าค่ะ

รูปสุดท้ายเป็นแนวกันตกและบังสายตาด้วยต้นไม้ค่ะ  ไม่รู้เดินท่อรดน้ำต้นไม้เอาไว้หรือเปล่า  แต่เวลาใส่ปุ๋ยพรวนดินลำบากแน่นอน

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

คอนโด Tropicana มีด้วยกันทั้งหมด 2 อาคารค่ะ ทั้ง 2 อาคาร สูง 8 ชั้น เรียกชื่อง่ายๆ เป็นอาคาร A และ อาคาร B ค่ะ

Typical Floor Plan ชั้น 2-6 คอนโด Tropicana อาคาร A

อาคาร A จะอยู่ติดถนนรางรถไฟเก่า ตัวอาคารวางห้องพักอาศัยหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ติดถนนเข้าออกโครงการในซอยย่อย และทิศตะวันตกเฉียงเหนืออยู่ติดกับลำรางสาธารณะและโรงงานค่ะ จำนวนห้องพักอาศัยมี 29 ยูนิตต่อชั้นค่ะ แปลนห้องของอาคาร A จะมีครบทั้ง 3 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน Type A (แปลนสีเขียวอ่อน) วางสลับกับแปลน 1 ห้องนอน B-Plus (แปลนสีเขียวเข้ม) ส่วนแบบ 1 ห้องนอน Type B (แปลนสีเนื้อ) จะอยู่ฝั่งที่ติดกับอาคาร B ค่ะ แยกเป็นโซนทางเดินต่างหาก เพราะห้อง Type B จะขั้นด้วยโถงลิฟต์ค่ะ ส่วนห้องปลายสุดของอาคารด้านที่ติดถนนรางรถไฟเก่าจะมี Type พิเศษ ที่มีแค่ 1 ห้องต่อชั้นค่ะ

Typical Floor Plan ชั้น 2-6 คอนโด Tropicana อาคาร B

ส่วนอาคาร B นั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 24 ห้องต่อชั้นค่ะ มีความหนาแน่นน้อยกว่าอาคาร A แปลนห้องของอาคาร B นั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type B เกือบหมดเลยค่ะ มีเพียงห้องที่ติดกับบันไดหนีไฟที่เป็น 1 ห้องนอน B-plus 1 ห้อง และ Type Y และ Z ที่มุมอาคารด้านใน อย่างละห้อง

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Tropicana หลักๆ จะมี 3 แบบหลักๆ ค่ะ คือ Type A 1 ห้องนอน 21.81-28.03 ตารางเมตร, Type B 1 ห้องนอน 27.13-30.30 ตารางเมตร และ Type B-Plus 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 32.06-41.32 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีห้องมุม Type X, Y และ Z อีกด้วยค่ะ แต่จะมีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ถ้าดูจากขนาดจะเห็นว่ามีแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน เพราะกลุ่มลูกค้าหลักๆ ที่โครงการจะเป็นคนที่ทำงานในย่านนี้ค่ะ  ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นกลุ่มที่ทำงานในโรงงานที่พอมีตำแหน่งหน่อย  ส่วนใหญ่ก็จะอยู่คนเดียวหรือ 2 คน  ไม่ได้จับกลุ่มครอบครัว  เลยไม่ได้มีห้องขนาดใหญ่ไว้ในโครงการเท่าไหร่

แปลนห้องคอนโด Tropicana

แบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 21.81-28.03 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน ไซซ์เล็กสุดในโครงการค่ะ แปลนห้องเป็นแบบแคบและยาวเข้าไป บางโครงการจะเรียกแปลนแบบนี้ว่าเป็นห้องสตูดิโอค่ะ แบ่งพื้นที่นั่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือทางด้านหน้า จะเป็นพื้นที่ pantry ครัวและพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนค่ะ ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่นอนและห้องน้ำ รวมไปถึงระเบียงด้วยค่ะ

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับเคาท์เตอร์ครัวเข้ามุมห้อง และพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนค่ะ ติดกันเป็นประตูบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและที่นอน ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า มีระเบียงอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำค่ะ พื้นที่ระเบียงนั้นจะไม่ได้มาเพราะโดนห้องน้ำบังไว้ครึ่งนึง ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ไม่เต็มที่ค่ะ  แต่จุดที่ดีอย่างนึงคือระเบียงนั้นใช้งานได้จริง เพราะมีระยะความลึกอยู่  ตั้งเก้าอี้เล็กๆ ตรงระเบียงได้  ส่วนเวลาทานอาหารนั้นต้องไปใช้พื้นที่ตรงโซฟาแทนนะคะ

ต้องบอกว่าลักษณะการวางแปลนแบบนี้ค่อนข้างแปลกตาจากคอนโดขนาดเดียวกันนี้ในท้องตลาด  การใช้สเปซในส่วนต่างๆ นั้นจัดว่าคุ้มค่า เก็บทุกเม็ดเลยทีเดียว  แทบไม่มีพื้นที่เหลือเปล่าที่ไม่ได้ใช้งานเลย

แปลนห้องคอนโด Tropicana

แบบ 1 ห้องนอน Type ฺB ขนาด 27.13-30.30 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน หน้ากว้างห้องจะเพิ่มขึ้นมาจาก Type A ค่ะ จากแปลนห้องจะแยกพื้นที่หลักๆ ได้ถึง 4 ส่วน คือ ห้องนั่งเล่น, ครัวและห้องน้ำ, ห้องนอน และระเบียงค่ะ  เป็นการซอยฟังก์ชั่นห้องที่เยอะมากทีเดียว

เข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลย จะมีประตูบานเลื่อนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือด้านข้างจะเป็นทางเข้าห้องน้ำและ pantry ครัวที่วางตามแนวยาวของห้อง ส่วนอีกด้านจะกั้นตรงๆ ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ด้านในสุดของห้องจะเป็นระเบียงรูปตัว L ยาวตลอดแนวค่ะ  มุมจากห้องนอนมองออกไปจะเห็นเป็นกระจกเข้ามุมตรงระเบียงด้วย  ห้องนี้ถ้าจะรับประทานอาหารก็ต้องทานที่โซฟาเช่นกันค่ะ

แปลนห้องคอนโด Tropicana

แบบ 1 ห้องนอน Type ฺB-Plus ขนาด 32.06-41.32 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนด้านหน้าที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ครัว และห้องน้ำ ส่วนด้านในจะเป็นห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ มีระเบียงยาวตลอดแนวค่ะ  ขนาดของแปลนจะดูมีพื้นที่เหลือโล่งไว้มากกว่าอีก 2 แบบก่อนหน้านี้  ซึ่งก็ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีก่อน แล้วจะมีทางเข้าไปยังพื้นที่ครัวและห้องน้ำ พื้นที่ครัวนั้นจะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องนอนค่ะ ส่วนห้องอเนกประสงค์ที่ได้เพิ่มมาจะอยู่ติดกับที่นั่งเล่นค่ะ แปลนแบบนี้ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์จะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเกือบจะเต็มๆ

ห้องอเนกประสงค์ที่ได้มานั้นถ้าเป็นห้องเด็กเล็กอยู่ยังพอไหวค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตคงต้องขยับขยายและอยู่ไม่สบายแน่นอน  จริงๆ แล้วถ้าปรับฟังก์ชั่นเป็นห้องทำงานหรือห้องอ่านหนังสือก็ยังได้นะคะ  ขนาดเหมาะกว่าจะเป็นห้องนอน  หรือไม่งั้นถ้าทุบผนังเพื่อทำเป็นห้องนอนใหญ่ห้องเดียวเลย  แบบนี้ก็จะได้สเปซโล่งขึ้น และสบายมากขึ้นค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างจะอยู่ในอาคาร A ค่ะ มีให้ดูเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type A ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ค่ะ มีเฟอร์นิเจอร์ที่เป็น Built-in ให้บางชิ้น รวมทั้งครัว และ ห้องน้ำตามห้องตัวอย่าง ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วไปสูง 2.40 เมตร

จริงๆ ทางเราอยากจะเข้าไปถ่ายรูปห้องตัวอย่างมาหลายห้องนะคะ  แต่ขอได้มาห้องเดียว  เพราะฉะนั้นก็ดูห้องนี้เป็นตัวอย่างไปก่อนค่ะ  ใครสนใจห้องแบบอื่นก็ลองไปขอดูที่โครงการได้เลย

ห้องตัวอย่างคอนโด Tropicana

แบบ 1 ห้องนอน Type A ขนาด 24 ตารางเมตร

เปิดเข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านในจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

จากพื้นที่นั่งมองไปทางเข้าห้องค่ะ จะมีมุมเคาท์เตอร์ครัวอยู่

ระยะดูทีวี ชั้นลอยเก็บของใต้ทีวี ทางโครงการให้มาแบบนี้เลยค่ะ

เปิดเข้าไปดูในห้องนอนกันค่ะ

พื้นที่ห้องนอน ด้านในเป็นทางเข้าห้องน้ำ และระเบียงห้องค่ะ

ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต

ระยะทางเดินตรงปลายเตียงค่ะ ติดผนังจะมี Built-in ตู้ลอยเก็บของให้เหมือนตรงห้องนั่งเล่น

ในสุดจะเป็นระเบียง ด้านหน้าระเบียงเป็นตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำค่ะ

ด้านในของห้องน้ำค่ะ

จบด้วยห้องนอนมองออกไปด้านหน้าห้อง ข้อดีของการใช้ประตูบานเลื่อนกระจก คือ จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น ตรงนี้ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็ติดม่านตรงห้องนอนเอาค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวม ของห้อง Fully Fitted ได้ Buit-in เฟอร์นิเจอร์อย่าง ชั้นวางของ, ตู้เสื้อผ้า และเตียง ส่วนโซฟา โต๊ะทานข้าว ต้องซื้อเพิ่มเอาเองค่ะ นอกจากนี้ก็มีชุดครัว ของ Index และได้ห้องน้ำเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ส่วนผนังห้องจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาเคาท์เตอร์ครัวจาก index ค่ะ ให้เป็นเคาท์เตอร์ครัวเข้ามุม มีตู้ลอยด้านบนให้

เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Teka

เครื่องดูดควันก็ของ Teka

อ่างล้างจาน hafele

ช่องใส่ไมโครเวลฟตรงเคาท์เตอร์ด้านล่าง

ลิ้นชักใส่ช้อนส้อม

เคาท์เตอร์ด้านล่างมีพื้นที่สำหรักใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

พื้นที่วางของตรงเคาท์เตอร์ครัว

ตู้เก็บของตรงชั้นลอย

ชั้นวางของก็มีค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

หน้าตาห้องน้ำในภาพรวม

บานกระจกตรงอ่างล้างหน้า

อ่างล้างหน้าของ Cotto

มีลิ้นชักใส่ของใต้อ่างล้างหน้า

ก๊อกอ่างล้างมือแบบหมุนของ PREMA

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto

พื้นที่อาบน้ำค่ะ ระดับพื้นส่วนเปียกและส่วนแห้งเท่าๆ กัน

ที่ระบายน้ำในห้องน้ำค่ะ

ฝักบัวอาบน้ำค่ะ

หน้าตาฝักบัวแบบชัดๆ

ที่วางสบู่ค่ะ

ช่องดูดระบายอากาศที่เดินบนฝ้าเพดานแล้วต่อออกไปภายนอก

กลอนประตูห้องน้ำ แบบลูกบิดธรรมดาค่ะ

พื้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำค่ะ มีธรณีประตูกั้น

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

เริ่มจากป้ายเลขที่ห้องเลยค่ะ

ประตูด้านหน้าทางเข้าห้อง

ระหว่างพื้นห้องด้านใน กับพื้นกระเบื้องทางเดินด้านนอก มีตัวปิดขอบเป็นไม้สีเดียวกับพื้นห้อง

บานกรอบประตูทาสีเขียวหม่นๆ

พื้นห้องเป็นกระเบื้องยาง ส่วนผนังห้องของจริงจะทานสีขาวค่ะ

แผงควบคุมไฟอยู่มุมบนตรงเข้าเตอร์ครัว ติดทางเข้าออกห้อง

ไฟห้องเป็นดาวน์ไลท์

สวิทช์ไฟของ Siemens

ประตูบานเลื่อกระจก 3 ตอนตรงห้องนอน

บานประตูสูงจรดเพดานห้องค่ะ

กรอบบานเลื่อนประตูอะลูมิเนียมอบสีดำ

เตียงขนาด 5 ฟุต ได้แต่ฐานเตียง ไม่ได้ฝูกกับผ้าปูเตียงนะคะ

ชั้นลอยวางของตรงพื้นที่นั่งเล่น

ที่เก็บของด้านใน

ชั้นลอยวางของในห้องนอน

ตู้เสื้อผ้าค่ะ

ระหว่างพื้นห้องกับพื้นระเบียงด้านนอกค่ะ มีธรณีประตูยกสูงขึ้นมา

เป็นบานประตูอะลูมิเนียม 2 ตอน สีดำ

พื้นที่ตรงระเบียงค่ะ ในห้องตัวอย่างทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor

ราวระเบียงเหล็กทำสีดำ

คอมเพรสเซอร์ติดลอยตัว หันออกด้านนอก มีแผนบังสีน้ำตาล

มองจากด้านนอก ตัวแผงบังช่วยให้หน้าตาอาคารดูเรียบร้อยมากขึ้น

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (17 พฤษภาคม 2559) ราคาเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท เฉลี่ย 6X,XXX บาทต่อตาราเมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ค่ะ

ราคา ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ชั้น 8 ราคา 1,771,000 บาท เฉลี่ย 73,790 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1.54 ลบ.)

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 1,886,000 บาท เฉลี่ย 66,175 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1.64 ลบ.)

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ชั้น 2 ราคา 2,000,000 บาท เฉลี่ย 54,885 บาท/ตร.ม. (ราคาโปรโมชั่น 1.89 ลบ.)

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

เงินจอง 5,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  38  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 380 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคา 1,771,000 บาท ผ่อนประมาณ 11,690 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ราคา 1,886,000 บาท ผ่อนประมาณ 12,450 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,202 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคา 1,771,000 บาท ผ่อนประมาณ 12,356 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ราคา 1,886,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,158 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,953 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคา 1,771,000 บาท ผ่อนประมาณ 13,470 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ราคา 1,886,000 บาท ผ่อนประมาณ 14,344 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,211 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคา 1,771,000 บาท ผ่อนประมาณ 15,500 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ราคา 1,886,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,506 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 17,503 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน Type A พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคา 1,771,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,847 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B พื้นที่ 28.50 ตร.ม. ราคา 1,886,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,136 บาท/เดือน

1 ห้องนอน Type B-Plus พื้นที่ 36.44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,413 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางเข้าออกโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวกค่ะ คอนโดอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก อีกทั้งถนนสุขุมวิท และถนนปู่เจ้าสมิงพราย จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่ถนนด้านหน้าโครงการเป็นถนนวันเวย์ ตรงไปกลับรถเพื่อเข้าถนนสุขุมวิท หรือไปขึ้นทางด่วนค่ะ ส่วนถ้าจะไปทำงานแล้วโรงงานอยู่ตรงเส้นถนนรางรถไฟเก่า ก็คือว่าสบายเลยค่ะ เพียงแต่ขากลับก็อาจจะอ้อมๆ มาหน่อย ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้น หลักๆ รถไฟฟ้า BTS ก็อยู่ห่างไปประมาณ 800 เมตรค่ะ เดินไปก็ไกลหน่อย ส่วนรถ Taxi หรือ พี่วินมอไซต์เท่าที่เห็นก็มีวิ่งผ่านตลอดค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีรถสองแถว รวมไปถึงรถประจำทางวิ่งเข้าเมืองด้วยค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้ามองในภาพรวมของพื้นที่ในโซนนี้จะเป็นโซนที่ตั้งของโรงงานเป็นส่วนใหญ่ แต่หลักๆ บริเวณที่ตั้งคอนโดจะเป็นพื้นที่พักอาศัย ชุมชนเก่า เลยทำให้มีร้านค้าอยู่บ้าง แต่ถ้าจะพูดถึง Hub ที่ใกล้ๆ ต้องเป็นแถวสำโรงค่ะ ตรงนั้นจะคึกคักกว่า มีศูนย์การค้า ถึงอย่างไรแถวนี้ก็จะเติบโตตามๆ กันไปอยู่ดี เพราะเป็นทางผ่านรถไฟฟ้า และมี BTS เอราวัณ  ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายที่กำลังสร้างอยู่ห่างไป 800 เมตร ไม่ได้วิ่งผ่านถนนด้านหน้าโครงการตรงๆ  โดยจะต่อไปถึงสมุทรปราการเลยค่ะ  ซึ่งก็คงทำให้การเข้าเมืองทางสุขุมวิทสะดวกขึ้นอีกเยอะ  ส่วนสถานีที่อยู่ใกล้ๆกันอย่างสถานีสำโรงก็จะมี Monorail สายสีเหลือง มาเชื่อม จากสำโรงไปถึงลาดพร้าวเลยทีเดียว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ตัวคอนโดนั้นนั้นหน้าตาอาคารจะดูโมเดิร์น มีความเป็นญี่ปุ่นเพิ่มเข้ามาเป็นจุดขายนิดหน่อย ด้วยการตกแต่งด้านในด้วยไม้สีอ่อนๆ ดูละมุน ผสมกับการดึงเอาความเป็น Eco เข้ามาในตัวตึกแล้วการใช้พันธุ์ไม้เขตร้อนชื้น หรือ Tropical เข้ามาผสมผสาน ตัวอาคารวางแปลนออกมาแล้วจะมีด้านที่โดนแดดบ่ายเต็มๆ อยู่ด้วยทั้ง 2 อาคาร วิวรอบๆ ก็อาจจะไม่ได้มีอะไรหวือหวามาก โซนนี้ก็เป็นโซนโรงงานค่ะ อาคาร B อาจจะดีกว่าอยู่ตรงที่อยู่ด้านในมากกว่า เรื่องมลพิษทางเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ก็อาจจะลดลงไปได้บ้าง รวมๆ แล้วก็เป็นคอนโด Low-rise เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ทำงานอยู่ในย่านโรงงาน เดินทางสะดวก ใกล้ที่ทำงาน ไม่ต้องไปเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ค่ะ

ด้านการวางแปลนแบบ 1 ห้องนอนนั้น แบบ 1 ห้องนอนทั่วไป ก็มีให้เลือก 2 ฟังก์ชั่นค่ะ คือ Type A ขนาดเล็กเน้นไปที่การพักผ่อน นอนหลับ หลังจากกกลับมาจากที่ทำงาน ไม่เน้นการทำครัวเท่าไหร่นัก แบบนี้หน้าแคบ แล้วส่วนนึงที่ติดระเบียงเอาไปทำเป็นพื้นที่ห้องน้ำด้วย ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติมาไม่เต็มที่ กับแบบ Type B ที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แบ่งพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วน แยกครัวไว้ติดระเบียง ทำอาหารได้สะดวกขึ้น กลิ่นไม่ติดพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่นอนค่ะ ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนั้นก็ใช้ร่วมกับพื้นที่นั่งเล่นเอา นอกจากนี้ยังมีแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ ห้องเล็กที่กั้นมาเพิ่มจะทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ

ด้านวัสดุนั้นให้มากลางๆ ชุดครัวจะเป็นของ Index มีเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันให้ เหลือแต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ต้องซื้อมาเอง เฟอร์นิเจอร์ห้องทั่วไปก็ได้เตียง ตู้เสื้อผ้า และชั้นลอยใส่ของค่ะ ตรงส่วนโซฟา โต๊ะทานข้าวก็ต้องหามาเอง โครงการทำมาตีตลาดแข่งกับอพาร์ทเม้าท์ที่ไว้สำหรับคนที่ทำงานในโซนนี้เลย ซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มไม่กี่ชิ้นก็เข้าอยู่ได้แล้วค่ะ  เพิ่มเติมตรงห้องน้ำ ตินิดหน่อยตรงที่พื้นส่วนเปียกกับส่วนแห้งนั้นอยู่ในระดับเดียวกันเลยค่ะ ดูไม่ค่อยเป็นสัดเป็นส่วนและทำความสะอาดยากหน่อย

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมทั้ง ล็อบบี้ อยู่ที่อาคาร A คนที่อยู่อาคาร B จะใช้สระกับฟิตเนสก็ต้องเดินขึ้นมาใช้ที่อาคาร A เอาค่ะ เพราะอาคาร B จะมีแต่สวนดาดฟ้า แล้วก็สวนชั้นล่างที่เชื่อมยาวระหว่างอาคาร A และ B ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น แต่ขึ้นไปพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนได้ สัดส่วนการใช้ลิฟต์ อาคาร A อยู่ที่ 99 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ส่วนอาคาร B อยู่ที่ 83 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าโอเคทั้ง 2 อาคาร ส่วนที่จอดรถ 35% นับรวมจอดซ้อนกันที่ชั้นล่างของทั้ง 2 อาคาร ก็อาจจะน้อยไปนิด  เพราะพื้นที่ตรงนี้มีรถก็สะดวกกว่าเยอะค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลกรุงเทพ ฝั่งตะวันตก ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงเตรียมเปิดให้บริการในต้นเดือนสิงหาคม กระตุ้นดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบสูงขึ้น ปลื้ม 3 โครงการใหม่ Lio Bliss กาญจนาภิเษก – ชัยพฤกษ์ (ซอยบ้านกล้วย-ไทรน้อย), Lio Elite กาญจนาภิเษก – เวสต์เกต, Lanceo PRIDE กาญจนาภิเษก-คลองถนน รับอานิสงค์ยอดขายเติบโต 60-100% ในเฟสแรก พร้อมต่อเวลารับสิทธิพิเศษแคมเปญใหญ่ 5 วันพิเศษ ลด 50% รับเพิ่มอีก 5 รายการ วันนี้ถึง 30 มิถุนายนศกนี้ หลังกระแสตอบรับดีอย่างท่วมท้น

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก และจังหวัดนนทบุรี ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้ยังคงมีศักยภาพการเติบโตที่ดี ด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่ปลอดโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทำให้เหมาะกับอยู่อาศัย และยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย และมีไลฟ์สไตล์มารองรับ เช่น การเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต และโครงสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เตรียมจะเปิดให้บริการเป็นทางการในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ล้วนส่งเสริมให้ความต้องซื้อในย่านนี้ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ในเดือนที่ผ่านมา บริษัททยอยเปิดโครงการแนวราบ ครอบคลุมโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ และทาวน์โฮม โดยล้อมรอบพื้นที่กรุงเทพฯ โซนตะวันตก – นนทบุรี และอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงกว่า 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,700 ล้านบาท ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก ได้แก่ ไลโอ บลิสซ์ กาญจนาภิเษก – ชัยพฤกษ์ (ซอยบ้านกล้วย-ไทรน้อย) โดยสามารถปิดยอดขายได้ 100% ในเฟสแรก ไลโอ อีลิท กาญจนาภิเษก – เวสต์เกต สามารถปิดยอดขายได้ 60% ในเฟสแรก และ แลนซีโอ ไพรด์ กาญจนาภิเษก-คลองถนน มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของ ไลโอ บลิสซ์ กาญจนาภิเษก – ชัยพฤกษ์ ( Lio Townhome Kanchanaphisek – Chaiyapruk ) ทาวน์โฮมราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านต้นๆ กับบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 105 ตารางเมตร  หน้ากว้างกว่า 5.7 เมตร บนทำเลที่ดี ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง และเซ็นทรัลเวสต์เกต เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองด้วยถนนชัยพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ และวงแหวนกาญจนาภิเษก สะดวกทุกการเดินทาง

ไลโอ อีลิท กาญจนาภิเษก – เวสต์เกต ( Lio Elite Townhome Kanchanaphisek – Westgate ) พรีเมี่ยมทาวน์โฮม สวยที่สุด ขนาด 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ ตั้งอยู่ใจกลางถนนบางใหญ่ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า (สถานีคลองบางไผ่) ตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต เปิดจองแล้ววันนี้ ในราคาเริ่มเพียง 1.99 ล้านกว่าบาท

แลนซีโอ ไพรด์ กาญจนาภิเษก-คลองถนน ( Lanceo PRIDE Kanchanapisek-Khlong – Thanon) บ้านใหญ่ 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถในร่มทุกยูนิต มีให้เลือก 4 แบบบ้าน 4 สไตล์ ดีไซน์ทันสมัย ลงตัวทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน พื้นที่ใช้สอยสูงสุด 170 ตารางเมตร อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท

นายชูรัชฏ์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมการตลาดประจำเดือนมิถุนายน บริษัทได้ต่อเวลารับสิทธิพิเศษแคมเปญใหญ่ 5 วันพิเศษ ลด 50% รับเพิ่มอีก 5 รายการ ลุ้นรับสิทธิ์พิเศษมากมาย ณ สำนักงานขายทุกโครงการทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ถึง 30 มิถุนายนศกนี้ หลังกระแสตอบรับดีอย่างท่วมท้น

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร 1778 หรือ www.lalinproperty.com

สวัสดีค่ะ วันนี้มีรีวิวฉบับเต็มคอนโด “The Lofts Asoke” ของ Raimon Land ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยพรีวิวทำเลคอนโด เดอะ ลอฟท์ อโศก กันมาแล้วเมื่อตอนโครงการเปิดตัวใหม่ๆ ที่ขายรอบ VIP กับลูกค้าเก่าไป   ล่าสุดเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ไรมอน แลนด์ ก็ได้เปิดสำนักงานขาย และห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน Duplex 120 ตารางเมตรให้ชมกัน  โดยใช้การตกแต่งในรูปแบบ Loft Living  ทางอยู่สบายได้มีโอกาสแวะเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่าง รวมไปถึงอัพเดทข้อมูลมาเป็นรีวิวฉบับเต็มของคอนโด เดอะ ลอฟท์ อโศก มาให้เพื่อนๆ พร้อมแชร์มุมมองต่างๆ เกี่ยวกับ The Lofts Asoke มาได้อ่านกันค่ะ ^^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Lofts Asoke (เดอะ ลอฟท์ อโศก)

• เจ้าของโครงการ >>> ไรมอน แลนด์
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท 21) ปากซอยโรจนา
• ขนาดที่ดิน >>> 1-2-65.8 ไร่
• จำนวนชั้น >>> 45 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 35 และ 49 ตารางเมตร
  • 1 ห้องนอน Duplex 76 และ 77 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 74, 86 และ 87 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน Duplex 120 ตารางเมตร
  • 3 ห้องนอน Duplex 130 และ 145 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  206 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 100%
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 8 ล้านบาท (1 ห้องนอน 35 ตร.ม. ราคา ณ วันที่ 2/6/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 220,000 – 260,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.746747, 100.562765

คอนโด The Lofts Asoke ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี หรือ ถนนสุขุมวิท 21 ค่ะ ซึ่งตัวถนนอโศกนี้เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่เชื่อมต่อ CBD อย่างสุขุมวิทเข้ากับพระราม 9 และรัชดาภิเษก มีอาคารสำนักงาน (Office Building) โรงแรม คอนโดที่มีราคาค่อนข้างสูง และสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร รวมไปถึงโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และ โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (Nist international school)

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ถนนอโศกขึ้นชื่อเรื่องรถติดมาก เนื่องจากลักษณะของถนนจะแคบลงเมื่อเทียบกับถนนอื่นที่เชื่อมต่อกันอย่างถนนอโศก-ดินแดง และ ถนนรัชดาภิเษก แต่ก็ยังดีอยู่ที่มีแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อยู่ทั้งฝั่งแยกอโศกและแยกอโศก-เพชรบุรี ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นตรงพระราม 9 ค่ะ 

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ในเรื่องการเดินทางและทำเลของคอนโด The Lofts Asoke นั้น เราเลยพรีวิวทำเลไปแบบละเอียดเมื่อตอนโครงการเปิดตัวไปช่วงปลายปี 58 ค่ะ

ในเรื่องทำเลที่ตั้งของ The Lofts Asoke นี้ทางอยู่สบายได้พรีวิวทำเลรอบๆ คอนโดเดอะ ลอฟท์ อโศก มารีวิวฉบับเต็มเลยจะขอข้ามไปนะคะ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทำเลได้ในพรีวิวทำเลก่อนหน้าได้เลยค่ะ ^^

อ่านพรีวิวทำเล The Lofts Asoke >>> คลิกที่นี่

อ่านพาทัวร์ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านกาแฟ รอบคอนโด The Lofts Asoke ตั้งแต่อโศกจนถึงเพชรบุรี>>>  คลิกที่นี่

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่คอนโด The Lofts Asoke กันเลยดีกว่าค่ะ

Sales Gallery ของ The Lofts Asoke ตั้งอยู่บนที่ดินของคอนโดเลยค่ะ ติดถนนอโศกมนตรี ปากซอยโรจนา ตรงข้ามกับโรงพยาบาลจักษุรัตนิน

ด้านข้างของที่ดิน The Lofts อโศก จะเป็นอาคาร 253 อโศก สุงประมาณ 30 ชั้น

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ (รูปในสำนักงานขาย 4 รูปจากนี้เป็นภาพของทางโครงการนะคะ  เราไม่ได้ถ่ายเอง)

บรรยากาศด้านใน

ตัวสำนักงานตกแต่งในสไตล์ Industrial Loft ทาสีผนังให้ดูเหมือนเหล็กขึ้นสนิม และปูนเปลือย

ตรงกลางจะเป็นพื้นที่โชว์ Model จำลองอาคาร กับ วัสดุของการตกแต่งห้องที่ทางโครงการมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบด้วยกันค่ะ ซึ่งเราจะไปอธิบายเพิ่มเติมกันในส่วนของโซนวัสดุ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

การเดินทางเข้าออกโครงการด้วยรถยนต์นั้น ถ้ามาจากฝั่งแยกอโศก-เพชรบุรี  จะเลี้ยวขวาเข้าโครงการเลยไม่ได้  เพราะตอนนี้อโศกกั้นเกาะกลางถนนเอาไว้เพื่อลดปัญหาจราจรค่ะ  จะต้องไปเลี้ยวเข้าสุขุมวิท 21 ซอย 3 แล้ววนออกทางสุขุมวิท 21 ซอย 1 (ซอยที่มี Health Land)  แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายกลับมา  ก็จะลำบากเพิ่มขึ้นจากเดิมหน่อยค่ะ

ส่วนระยะทางจาก MRT เพชรบุรีไปถึงหน้าโครงการจะอยู่ที่ 200 เมตร  เดินได้สบายๆ ค่ะ โดยที่ MRT เพชรบุรีนั้นจะมีทางเดินเชื่อมต่อกับ Airport Link มักกะสันด้วย ส่วนถ้าจะไปขึ้น BTS ก็ห่างกันเพียง 1 สถานีค่ะ  ซึ่งถ้าขยันหน่อยจะเดินไป BTS อโศกเลยก็ได้

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

คอนโด The Lofts Asoke วางอาคารไปตามรูปที่ดิน ห้องจะมีหันไปทุกทิศเลยค่ะ ในส่วนของทิศเหนือที่หันไปเจออาคาร 253 Asoke เลยเอาไปเป็นช่องอาคารจอดรถแทน แต่ด้านในๆ ที่เลยอาคาร 253 Asoke มาแล้วก็จะมีห้องแบบ 1 ห้องนอน โผล่มาห้องนึง ส่วนทิศใต้ตรงกลางก็จะเป็นพื้นที่ของลิฟต์ กับห้องแบบ 1 ห้องนอน ไซส์เล็กสุดในโครงการ 2 ห้อง ส่วนด้านทิศตะวันออกที่หันไปทางถนนอโศกมนตรีจะวางห้องแบบ 2 ห้องนอน เช่นด้วยเดียวกันทางทิศตะวันตกที่หันออกไปด้านหลังที่ดินที่เป็นซอยโรจนา ส่วนตั้งแต่ชั้น 31 เป็นต้นไปจะเป็นห้องแบบ Duplex ค่ะ

ส่องโมเดล

มาดูที่โมเดลกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากด้านข้างที่อยู่ติดกับอาคาร 253 Asoke จะเห็นได้ว่าตรงกลางค่อนไปทางด้านหน้าที่ติดถนนใหญ่จะเป็นผนังทึบ ไม่มีช่องแสง เป็นส่วนของที่จอดรถอัตโนมัติค่ะ จากชั้นล่างจะเป็นช่องเข้าที่จอดรถได้ 3 ช่องด้วยกัน ด้านหลังที่เลยอาคาร 253 Asoke ไปจะมีห้องแบบ 1 ห้องนอน

ทางเข้าออกคอนโดอยู่ติดถนนอโศกมนตรี

ตัวพื้นที่ส่วนกลางจะเริ่มตั้งแต่ชั้นล่างเลยค่ะ กินพื้นที่ด้านหน้าอาคารไปประมาณ 5 ชั้น

ซูมให้ดูพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าค่ะ จะมี Lobby, Lounge และ ฟิตเนสรวมไปถึงสวนที่ยื่นออกมาด้วยค่ะ

ทางทิศใต้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องพักอาศัยค่ะ ตั้งแต่ชั้น 31 เป็นต้นไปจะเป็นห้องแบบ Duplex ตัวอาคารค่อยๆ ถอยร่นไปเป็นขึ้นบันไดตามกฏหมายอาคารค่ะ

พื้นที่ส่วนกลาง Lobby จะเป็น Triple Volume ฝั่งนี้จะมีที่จอดรถธรรมดาสำหรับ Visitor ให้อยู่ 5 ช่องค่ะ

ด้านข้างทางทิศตกก็จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

หน้าตาด้านข้างของอาคาร จะเห็นได้ว่าตัวห้องพักอาศัยนั้นจะได้พื้นที่กระจกเต็มความสูงห้องเลยค่ะ

ในส่วนของชั้น 31 เป็นต้นไป ตัวอาคารก็จะถอยร่นเป็นขึ้นบันไดเข้าไป

สระว่ายน้ำจะมีทั้งส่วนที่อยู่ Outdoor และส่วนที่อยู่ในร่ม อยู่ที่ชั้น 31 หันออกมาด้านถนนอโศกมนตรี

นอกจากนี้ก็จะมีสวนอยู่ที่ชั้น 33 และ 35 ด้วยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับคอนโด The Lofts Asoke ที่ได้มาตั้งแต่ชั้น 1 ก็จะมี Lobby ที่เป็น Triple Volume, Lounge, Workspace และ ห้องสมุด แบบ Double Volume ที่ชั้น 2 และห้องฟิตเนสแบบ Double Volume เช่นกันที่ชั้น 4 อยู่มาทางด้านหน้าอาคาร

ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 25 เมตรจะอยู่ที่ชั้น 31 พื้นที่รอบๆ สระว่ายน้ำจะมีพื้นที่นั่งเล่นนอกจากนั้นก็มี Steam room ด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่สวนนั้นจะมีตั้งแต่ชั้น 1, ชั้น 4, ชั้น 31, ชั้น 33 และชั้น 35 ค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ต่อ 1 อาคาร เฉลี่ยออกมาได้ 70 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าใช้ได้ค่ะ  ที่จอดรถ 100% เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ และมีที่จอดรถธรรมดาให้อยู่ที่ชั้น 1 ประมาณ 5 คันค่ะ

คอนโด The Lofts Asoke จะได้เป็นที่จอดรถอัตโนมัติ มีด้วยกัน 3 ช่อง ขับรถเลี้ยวเข้าช่องจอดแล้วทาบบัตร รถก็จะถูกยกเข้าไปเก็บในช่องจอดรถอัตโนมัติเองค่ะ จอดรถเสร็จตรงช่องจอดรถจะมีทางออกไปถึงตรง Lobby เลย

ด้านหน้าคอนโดตั้งแต่ชั้น 1-5 จะเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ตรง Lobby จะเป็น Triple Volume ส่วนชั้น 2 ที่เป็น Lounge และชั้น 4 ที่เป็นฟิตเนส ก็จะเป็นห้องแบบ Double Volume ค่ะ ช่วยให้พื้นที่ส่วนกลางดูโปร่ง โล่งสบายมากยิ่งขึ้น

ส่วนของ Lobby ที่ความสูงเพดาน 3 ชั้น

Lounge ก็ตกแต่งมาในสไตล์ Loft ด้วยผนังแบบปูนเปลือย

ห้องฟิตเนสที่ชั้น 4 ค่ะ ความสูงเพดานเป็น Double Space วิวหันออกถนนอโศกมนตรี

ที่ชั้น 31 จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำที่มองออกไปฝั่งถนนอโศกมนตรีค่ะ ได้วิวเมือง

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด The Lofts Asoke

แผนผังโครงการจะมีทางเข้าออกทางเดียว อยู่ติดถนนอโศกมนตรี ตัวอาคารจะอยู่เข้าไปด้านใน พอเข้ามาในอาคารจะมีพื้นที่ Drop off (หมายเลข 4) อยู่ด้านหน้าอาคาร เข้าไปด้านในจะเป็น Lobby (หมายเลข 1) ส่วนที่จอดรถอัตโนมัติจะอยู่ทางด้านข้างของอาคาร มีด้วยกัน 3 ช่องจอด จากช่องจอดจะมีทางเดินเข้า Lobby ถัดจาก Lobby ไปจะเป็นโถงลิฟต์ (หมายเลข 2) มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว ด้านหลังจะเป็นส่วนห้องงานระบบอาคาร

Typical Floor Plan คอนโด The Lofts Asoke ชั้น 6-30

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 4 ซึ่งจะมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ส่วนชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยเพียงอย่างเดียวเลยจะเริ่มที่ชั้น 6 ไปจนถึงชั้น 30 แปลนจะเหมือนกัน คือ จะมีแต่ห้องแบบ 1 และ 2 ห้องนอน แต่ละชั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ห้อง โดยที่ห้องมุมทั้ง 4 ของอาคารจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ แบ่งเป็นด้านที่หันไปทางทิศตะวันออก ฝั่งถนนอโศกมนตรี จะเป็น 2 ห้องนอน ขนาด 74 และ 86 ตารางเมตร ส่วนห้องทางด้านทิศตะวันตก ที่อยู่ด้านหลังจะเป็นห้องแบบ 87 ตารางเมตร ส่วนแบบ 1 ห้องนอนนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ห้องค่ะ แบ่งเป็นฝั่งทางทิศเหนืออยู่ติดกับช่องจอดรถอัตโนมัติ เป็นแบบ 1 ห้องนอน 49 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร 2 ห้องหันไปทางทิศใต้ ส่วนชั้น 31 เป็นต้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยที่เป็นห้องแบบ Duplex มีตั้งแต่ 1-3 ห้องนอนค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Lofts อโศก มีด้วยกันทั้งหมด 10 แบบค่ะ แบ่งเป็นห้องแบบ 1-2 ห้องนอนที่อยู่ชั้น 4-30 และห้อง 1-3 ห้องนอน Duplex ที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 31 เป็นต้นไปค่ะ

ถ้าดูจากการแบ่งรูปแบบของห้องโดยรวม  จะเห็นว่าโครงการนี้เน้นไปที่ห้องใหญ่  พอคูณกับราคาต่อตารางเมตรที่สูงเข้าไปแล้ว  ก็ทำให้ห้องเริ่มต้นนั้นราคาที่ 8 ล้านเลยทีเดียว  ปกติแล้วน้อยโครงการที่จะทำห้อง 2 ห้องนอนในสัดส่วนที่เยอะกว่า 1 ห้องนอน  แถมเป็น 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ด้วย  เรียกว่าวาง positioning มาจับตลาดคนรวยกระเป๋าหนักโดยเฉพาะ

แปลนห้องคอนโด The Lofts Asoke

แบบ 1 ห้องนอน 1A ขนาด 49 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 49 ตารางเมตร ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือติดกับช่องจอดรถอัตโนมัติค่ะ ห้องแบบนี้จะอยู่เยื้องๆ กับอาคาร 253 Asoke สูง 30 ชั้นที่อยู่ติดกัน มีเพียง 1 ห้องต่อชั้น แปลนห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยม แบ่งพื้นที่ในภาพรวมออกเป็น 2 ส่วนเกือบเท่าๆ กัน คือ พื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่น กับ พื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำค่ะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ครัวและพืนที่รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น โดยที่ระเบียงห้องจะอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ตรงกลางของแปลนจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน และห้องน้ำที่อยู่ด้านในห้องนอนติดกับประตูทางเข้าออกห้องนอนค่ะ ห้องน้ำในห้องแบบนี้จะค่อนข้างกว้างค่ะ มีอ่างอาบน้ำให้ในห้องน้ำด้วย

แปลนห้องคอนโด The Lofts Asoke

แบบ 1 ห้องนอน 1B ขนาด 35 ตารางเมตร

แปลนห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร เป็นห้องแบบที่เล็กสุดในโครงการค่ะ ตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ที่ทิศใต้ มีด้วยกัน 2 ห้องต่อชั้น ฟังก์ชั่นภายในห้องจะคล้ายๆ กับ 1 ห้องนอนแบบแรก แต่แปลนห้องจะเป็นรูปตัว L เข้าห้องมาเจอพื้นที่ครัวก่อน พอพ้นพื้นที่ครัวไปห้องจะกว้างขึ้นเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งระเบียงก็จะอยู่ตรงพื้นที่นั่งเล่นเช่นกัน ส่วนห้องนอนและห้องน้ำก็จะอยู่แยกออกไปต่างหาก ห้องแบบนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Lofts Asoke

แบบ 2 ห้องนอน 2A ขนาด 87 ตารางเมตร

แปลนห้อง 2 ห้อง ขนาด 87 ตารางเมตร เป็นแปลนห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ ไม่นับ 2 ห้องนอนแบบ Duplex ตำแหน่งห้องแบบนี้จะอยู่ที่ปลายด้านในสุดของแปลนอาคาร ทางทิศตะวันตก มีด้วยกัน 2 ห้องต่อชั้น ทางเข้าออกห้องจะอยู่ริมสุดของแปลนห้อง เข้ามาในห้องแล้วก็จะเป็นพื้นที่ครัว พื้นที่นั่งประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น มีระเบียงอยู่ตรงพื้นที่นั่งเล่น ส่วนของห้องนอนใหญ่นั้นจะอยู่ใกล้กับพื้นที่นั่งเล่นด้านในสุด ห้องนอนใหญ่ค่อนข้างกว้าง เทียบขนาดแล้วพอๆ กับพื้นที่ของครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นรวมกัน ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีอ่างอาบน้ำให้ ส่วนห้องนอนเล็กนั้นจะอยู่มาทางฝั่งพื้นที่รับประทานอาหาร ด้านหน้าทางเข้าออกห้องนอนเล็กจะติดกับห้องน้ำด้านนอกค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Lofts Asoke

แบบ 2 ห้องนอน Duplex L2A ขนาด 120 ตารางเมตร

แปลนห้อง 2 ห้องนอน Duplex จะอยู่ที่ชั้น 31 เป้นต้นไป ตำแหน่เดียวกันแปลน 2 ห้องนอน แบบ 87 ตารางเมตร คืออยู่ด้านในสุดของแปลนอาคารทางทิศตะวันตก

ที่ชั้นล่าง เข้ามาในห้องจะมีทางเดินเข้าไปพื้นที่นั่งเล่น ครัว และพื้นที่รับประทานอาหารที่เป็นความสูงแบบ Double Volume ซึ่งระหว่างทางเดินเข้าไปจะมีห้องน้ำ และห้องนอนเล็กอยู่ใกล้กับทางเข้าออกห้อง ส่วนของระเบียงห้องจะอยู่มุมติดกับพื้นที่ครัว

ชึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ล้วนๆ ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าที่เป็นรูป L เข้าไป ส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นั้นก็จะมีอ่างอาบน้ำให้ค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูเป็นแบบ 2 ห้องนอน Duplex ขนาด 120 ตารางเมตร ตกแต่งห้องในแบบ Raw เป็นสไตล์ Loft 1 ใน 3 แบบที่ทางโครงการมีไว้ให้เลือกค่ะ ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ค่ะ มีครัว และ ห้องน้ำตามห้องตัวอย่าง นอกจากนี้ก็จะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องแบบ 1-2 ห้องนอนทั่วๆ ไปสูงประมาณ 3.17 เมตร ส่วนห้องแบบ Duplex ที่เป็นความสูงแบบ Duble Volume จะอยู่ที่ 5.7 เมตรค่ะ

เพิ่มเติมหากใครที่นึกภาพการตกแต่งห้องสไตล์ Loft ไม่ออก ทางอยู่สบายเองเคยเขียนไอเดียการแต่งห้องแบบนี้เอาด้วยค่ะ

อ่านไอเดียอยู่สบาย: ตกแต่งบ้านและคอนโดสไตล์ Loft ไม่ยากด้วยหลักการง่ายๆ >>> คลิกที่นี่

อ่านไอเดียอยู่สบาย: รีโนเวทตึกแถวในเมือง New York จากโกดังให้กลายเป็นทาวน์โฮมสไตล์ Modern Loft >>> คลิกที่นี่

ห้องตัวอย่างคอนโด The Lofts Asoke

แบบ 2 ห้องนอน Duplex (L2A) ขนาด 120 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามาตามทางเดินผ่านห้องน้ำ และห้องนอนเล็กไปก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Double Volume

เดินเข้ามาตรงพื้นที่โล่งในห้อง เป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ผนังกระจกจะสูงเกือบจะพอๆ กับความสูงห้องที่อยู่ที่ 5.7 เมตรเลยค่ะ

อีกฝั่งจะเป็นมุมพื้นที่ครัว

ส่วนของพื้นที่ครัวจะมีเคาท์เตอร์ไว้สำหรับทำอาหารและ Pantry

จากครัวมองไปพื้นที่นั่งเล่นและทางขึ้นชั้นบนค่ะ ผนังห้องฝั่งบันไดนั้นจะเป็นทาสีเลียนแบบเหล็กขึ้นสนิมซ้ายมือจะเป็นมุมรับประทานอาหาร ส่วนขวามือที่อยู่ด้านหลังโซฟาจะเป็นห้องนอนเล็ก

เข้ามาดูในห้องนอนเล็กที่ชั้นล่างกันก่อนค่ะ วางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ ส่วนกระจกห้องก็ได้เต็มๆ บานเช่นกัน

ประตูทางเข้าห้องนอนเล็กจะเป็นบานเลื่อนเข้ามุมค่ะ ภายในห้องจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ นอกนั้นก็เป็นพื้นที่โล่งๆ ไป แล้วก็มีแอร์ฝังฝ้าให้ค่ะ

ออกมาจากห้องนอนเล็ก มองไปเห็นพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ติดผนังกระจกห้อง และติดกับทางขึ้นชั้นบน

ครัวอีกมุมค่ะ ผนังห้องทั่วๆ ไป ยกเว้นตรงบันได จะทาสีเหมือนเป็นปูนเปลือยค่ะ

เหงยหน้ามองไปชั้นบนที่เป็นห้องนอนหน่อย

ขึ้นบันไดไปดูที่ชั้นบนกันต่อค่ะ

ขึ้นมาแล้วก็เจอพื้นที่นอนเลย

ทางเดินไปห้องน้ำค่ะ ผนังห้องนอนจะเป็นบานกระจก

ห้องนอนอีกมุม

Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เป็นรูปตัว L เข้าไป

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย

จากหน้าห้องน้ำ มองไปห้องนอนค่ะ บริเวณทางเดินปลายเตียงจะมีที่พอที่จะวางทีวีได้อยู่นิดหน่อย พอวางทีวีแล้ว พื้นที่ทางเดินเข้าออกก็จะแคบลงไปเยอะพอสมควรเลยค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของห้องเป็นแบบ Fully Fitted ทางโครงการมีให้เลือกสไตล์การแต่งห้องแบ่งออกเป็น 3 แบบค่ะ ได้แก่

1. แนว Raw สไตล์ Industrial Loft เหมือนในห้องตัวอย่างที่ได้ดูไป
2. แนว Bold สีวัสดุแต่งห้องก็จะเข้มๆ คล้ายๆ กับแบบ Loft
3. แนว Functional จะสว่างขึ้นมาหน่อยค่ะ

ถ้าพูดถึงห้องตัวอย่างที่เป็นแบบ Raw จะได้ชุดครัวกับห้องน้ำเหมือนห้องตัวอย่าง มี Buit-in ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนให้ แล้วก็ผนังห้องจะเป็นตามแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ

โทนสีแบบ Raw

โทนสีแบบ Bold

โทนสีแบบ Functional

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

พื้นที่เคาท์เตอร์ครัว ไม่รวมตู้เย็น  เคาท์เตอร์ด้านล่างจะมีพื้นที่สำหรับใส่เครื่องซักผ้าให้ด้วยค่ะ

สเปซระหว่างเคาท์เตอร์ทำอาหาร กับเคาท์เตอร์ Pantry

อ่างล้างจาน มีพื้นที่พักจานด้านข้าง

หน้าตาก๊อกตรงอ่างล้างจาน ดูมีดีไซน์ สวยงามดีค่ะ

เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัว พร้อมที่ดูดควันด้านบน

Microwave oven ของ Smeg

ผนังตรงเคาท์เตอร์ก็ติดเป็นกระเบื้องให้ค่ะ เวลาเปื้อนจะเช็ดออกง่ายกว่าเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

Top เคาท์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ส่วนหน้าบานเคาท์เตอร์เป็นลามิเนตลายไม้

พื้นที่เก็บอุปกรณ์ในครัว

เคาท์เตอร์อีกด้านตัว Top จะเป็นหินแท้ค่ะ แข็งแรงและสวยงามดี

วัสดุห้องน้ำ

หน้าตาห้องน้ำที่ชั้นล่างค่ะ ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่พื้นที่นั่งอาบน้ำ พร้อมฉากกั้นอาบน้ำให้ค่ะ

ห้องน้ำชั้นบนในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อีกรูป โถสุขภัณฑ์จะอยู่ด้านในสุด ตรงข้ามกับพื้นที่อาบน้ำที่เป็นฉากกั้น

ส่วนด้านหน้าเปิดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของอ่างอาบน้ำก่อนเลยค่ะ

อ่างล้างหน้าในห้องน้ำชั้นบน พร้อมที่วางของด้านข้างเป็นหินสังเคราะห์สีดำ

อ่างล่างหน้าในห้องน้ำชั้นล่างจะเล็กกว่าค่ะ

หน้าตาก๊อกน้ำสีดำ สไตล์ Loft มีแยกน้ำร้อนน้ำเย็นให้ค่ะ

Top เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ไว้สำหรับวางอุปกรณ์ในห้องน้ำ

ลิ้นชักเก็บของใต้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า

ปล๊กไฟ และ สวิตช์ไฟก็มาโทนสีดำ เข้ากับบรรยากาศในห้องน้ำ

กระจกเหนืออ่างล้างหน้าในห้องน้ำชั้นบนได้มาเต็มพื้นที่เลยค่ะ

เปิดมาเป็นที่เก็บของได้เยอะเลยค่ะ

ส่วนกระจกตรงห้องน้ำชั้นล่างจะได้มาเล็กกว่า

มีที่เก็บของให้อยู่ 1 ตู้

โถสุขภัณฑ์ของ Cristina หรือเทียบเท่า ด้านหลังมีที่วางของให้เล็กน้อย

หน้าตาที่กดค่ะ ก็ยังคุมธีมสีดำ เก๋ไก๋อยู่

อ่างอาบน้ำในห้องน้ำชั้นบน

ติดกันจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบฝักบัว ซึ่งจะมีฉากกระจกกั้นระหว่างอ่างอาบน้ำกับพื้นที่อาบน้ำที่เป็นแบบยืนค่ะ

สเปซตรงพื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อย

หน้าตาฝักบัวสีดำ แนว Industrial Loft แปลกตาไปจากวัสดุในคอนโดอื่นๆ พอสมควร

ฝักบัวทรงกระบอกสีดำเช่นกัน เรียบแต่ดูมีสไตล์

มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำในเล็กน้อย

ช่องระบายน้ำค่ะ

ราวแขวนผ้าก็เป็นสีดำ

ไฟดาวน์ไลท์ในห้องน้ำ และพัดลมระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง ผนังห้องน้ำก็ยังเป็นทาสีคล้ายปูนเปลือยค่ะ บัวพื้นจะสีคล้ายๆ กับสีกระเบื้องพื้น

พื้นระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ ลงระดับลงไปเล็กน้อย ปิดขอบด้วยเส้นอลูมิเนียม

มือจับประตูห้องน้ำก็ยังเป็นก้านโยกสีดำ

ประตูห้องน้ำค่ะ หน้าบานเป็นลามิเนต

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

Digital Door Lock ของ Yale

ประตู Digital Lock ด้านใน

มือจับประตูบานเลื่อนในห้องนอนเล็ก

หน้าบานประตูปิดผัวเป็นลามิเนตค่ะ  สังเกตว่าแผ่นลามิเนตนั้นจะติดเว้นร่องเล็กน้อย  เพื่อเลียนแบบให้ดูเป็นไม้จริงแผ่นย่อยๆ มาติดกันค่ะ  ลงดีเทลกันพอควร

พื้นห้องทั่วไปเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคลายไม้  ตอนแรกใส่รองเท้าเดินเข้าไปนึกว่าไม้จริงนะคะ  เทคโนโลยีเดียวนี้ทำผิวหน้าได้เนียนมากจะดูเผินๆ นี่เหมือนไม้จริงสุดๆ

บัวพื้นสีคล้ายกับพื้นกระเบื้องห้องค่ะ ส่วนผนังห้องส่วนใหญ่จะทาสีเทาคล้ายสีปูนเปลือย ยกเว้นฝั่งบันได

บานกระจกเต็มพื้นที่ความสูงห้อง ส่วนม่านนั้นไม่ได้ให้มานะคะ

บานกระจกเข้ามุม เฟรมกรอบพาวเดอร์โค้ททำสีดำ

บานกระจกบานกรอบพาวเดอร์โค้ทสีดำชั้นบน

ราวจับบันไดเป็นเหล็กทำสีดำ

พื้นบันไดไม้ค่ะ  โทนสีดูเหมือนไม้สัก  แต่ถามโครงการก็ไม่ได้แจ้งว่าเป็นไม้อะไร  ผนังด้านข้างของแบบ Raw ทาสีทำผิวเลียนแบบสนิม  เพื่อความล็อฟฟฟ…

ผนังตรงบันไดจะทาสีเลียนแบบเหล็กขึ้นสนิมค่ะ

สวิตซ์ไฟในห้องสีดำ

ปลั๊กไฟปลายเตียงไว้สำหรับทีวี

แอร์จะเป็นแบบฝังฝ้าค่ะ

ในห้องนอนจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้าให้

ประตูบานเลื่อนพาวเดอร์โค้ททำสีดำ

บนประตูบานเลื่อนที่ชั้นล่างก็จะมีบานกระจกสูงเกือบจรดเพดานห้องที่เป็น Double Volume

พื้นที่ระเบียงด้านนอกค่ะ

ขนาดของระเบียงสามารถวางโต๊ะ เก้าอี้แบบ Outdoor ได้อยู่

หน้าตาไฟตรงระเบียง

ราวกันตกเป็น Aluminum Powder Coated

แผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เป็น Powder Coating แบบ Duplex จะวางไว้ด้านข้าง แต่ถ้าเป็น 1-2 ห้องนอน ความสูงห้องทั่วไป จะแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน มีแผงบังเช่นกัน

ซูมให้ดูแผนบังคอมเพรสเซอร์แอร์ ตำแหน่งบานเปิดเข้าไปเก็บพรางตาได้ดี  สังเกตแนวของบานเกล้ดจะวางตีขึ้น  เวลาดูมุมแหงนจากด้านล่างก็จะไม่เห็นคอมฯ แอร์ค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (10 พฤษภาคม 2559) ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตรค่ะ เฉลี่ย 228,000 บาทต่อตาราเมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ค่ะ ตอนเปิดตัวโครงการนั้น ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 6.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นชั้นล่างๆ ค่ะ พอชั้นสูงๆ ขึ้นมาราคาก็ขยับตามมาด้วยค่ะ เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 200,000-260,000 บาท/ตารางเมตรค่ะ

ราคา ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท เฉลี่ย 228,571 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท เฉลี่ย 168,965 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท เฉลี่ย 237,500 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

เงินจอง 100,000 บาท

ทำสัญญา 10%

• ผ่อนดาวน์

ผ่อนดาวน์ 15% 30 เดือน หลังจากจอง

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  85  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  800 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 41,692 บาท/เดือน

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท ผ่อนประมาณ 76,609 บาท/เดือน

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท ผ่อนประมาณ 148,528 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 44,064 บาท/เดือน

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท ผ่อนประมาณ 80,968 บาท/เดือน

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท ผ่อนประมาณ 156,978 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 48,035 บาท/เดือน

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท ผ่อนประมาณ 88,265 บาท/เดือน

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท ผ่อนประมาณ 171,126 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 55,275 บาท/เดือน

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท ผ่อนประมาณ 101,568 บาท/เดือน

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท ผ่อนประมาณ 196,918 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  75% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน 1B พื้นที่ 35 ตร.ม. ชั้น 26 ราคา 8,000,000 บาท ผ่อนประมาณ 70,779 บาท/เดือน

2 ห้องนอน 2A พื้นที่ 87 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 14,700,000 บาท ผ่อนประมาณ 130,056 บาท/เดือน

2 ห้องนอน L2A พื้นที่ 120 ตร.ม. ชั้น 37 ราคา 28,500,000 บาท ผ่อนประมาณ 252,149 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ในด้านทำเลที่ตั้งการเดินทางของ The Lofts Asoke นั้นถือว่าเป็นทำเลที่อยู่กลางใจเมืองเลยค่ะ การเดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะอยู่ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ระยะทางเดินไปสถานีอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งตรง MRT เพชรบุรีนั้นก็จะเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link มักกะสันด้วย ส่วนถ้าจะไปขึ้น BTS ก็ไป BTS อโศกได้  เดินเหนื่อยหน่อย

ส่วนถ้าเดินทางด้วยรถยนต์  ถนนอโศกก็ขึ้นชื่อในเรื่องรถติดหนักมาก จะเข้าออกโครงการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนก็คงจะใช้เวลานานนิดนึง แต่ด้วยความที่คอนโดตั้งอยู่ในกลางเมืองแบบนี้ ถนนอโศกมนตรีนั้นเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท หรือจะไปพระราม 9, นานา หรือ รัชดาภิเษกก็ไม่ไกล  ส่วนทางด่วนนั้นมีตรง พระราม 9  ถ้าเป็นด่วนเพลินจิต และพระราม 4 อยู่ห่างออกไปพอสมควรค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานกลางเมืองนั้นครบๆ อยู่แล้วค่ะในย่านนี้ จะเห็นได้ว่าช่วงหลังมานี้ทำเลย่านอโศกนั้นเรียกได้ว่าฮอตฮิตในหมู่ดีเวลลอปเปอร์พอสมควร มีคอนโดเปิดใหม่อยู่หลายโครงการ ตัวที่ดินบริเวณนี้ก็หายากไปทุกที แถมราคาคอนโดที่เปิดตัวนับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากคอนโดที่เปิดตัวแล้ว บริเวณที่ตั้งโครงการบริเวณใกล้กับแยกอโศก-เพชรบุรี ยังใกล้กับสถานีมักกะสันที่เป็นสถานีที่จะมีความสำคัญในอนาคต รวมไปถึงพื้นที่ของ Singha Complex ที่เป็นโครงการ Mixed-use project  ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, ศูนย์ประชุม และพื้นที่ค้าปลีกที่น่าจะช่วยเพิ่มความคึกคักในพื้นที่นี้เพิ่มเข้าไปอีก (รวมถึงรถติดเพิ่มขึ้นด้วย)  ในแง่ของมูลค่าทำเลนั้นไม่ตกแน่นอนค่ะ  ที่ดินแบบนี้หาไม่ได้ง่ายนัก

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ดีไซน์เนอร์นั้นบอกว่าตัวคอนโด The Lofts Asoke เป็นสไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากพื้นที่ Industrial Warehouse จากย่าน Tribeca  และ Soho ใน Manhattan, New York พื้นที่ส่วนกลางด้านในจะเป็นสไตล์  Loft ส่วนตัวอาคารเป็นโทนสีขาว ดำ เทา ค่อนข้างเรียบ  ลักษณะของเฟรมกระจกจะเป็นเฟรมสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน  ซึ่งเอามาจากยุคโมเดิร์นแรกๆ  ตัวคอนโดเน้นห้องแบบกระจกเต็มบาน เปิดวิวเมือง ส่วนฝั่งที่เป็นอาคารจอดรถอัตโนมัติที่ถูกบล็อควิวก็เพียงปิดเป็นตัวอาคารสีขาวเรียบๆ ไป ด้วย Concept ในแบบ Loft Living ทางโครงการก็เลยมีรูปแบบการตกแต่งภายในห้องให้เลือกเป็น 3 แบบ คือ แบบ Raw หรือแบบ Industrial Loft ที่เห็นในห้องตัวอย่าง และแบบ Bold กับ Functional ที่แต่งแตกต่างกันไป  ก็เป็น option ให้คนที่เกิดอยากซื้อคอนโดนี้  แต่ไม่ได้ชอบดีไซน์ตกแต่งแบบดิบๆ ของ Loft ก็ยังมรตัวเลือกให้อยู่  เรียกว่าเตรียมแผนสำหรับลูกค้าไว้ดีทีเดียว

ในด้านการวางผังโครงการ The Lofts อโศก  จุดสำคัญของที่ดินนี้คือพื้นที่ด้านข้างที่ติดกับอาคาร 253 Asoke เพราะโดนบล้อกวิวเต็มๆ  ดีเวลลอปเปอร์ก็คิดมาดีโดยการวางที่จอดรถซะเลย ก็แก้ปัญหาวิวที่โดนบล้อกไปได้ ห้องติดที่จอดรถ ตำแหน่ง 1A นั้นไม่รู้ว่าจะโดนบังวิวบางส่วนหรือเปล่า  เพราะเล็งยากมาก  อันนี้คงต้องถามที่โครงการเอานะคะ  และจากการเลือกวาง product mix ของห้องแบบต่างๆ  จะเห็นว่าเน้นไปที่แบบ 2 ห้องนอนมากกว่า 1 ห้องนอน  โดยปกติแล้วน้อยโครงการมากที่จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอนมากกว่า 1 ห้องนอน  แถมเป็นขนาดใหญ่ด้วย  แสดงว่าก็เน้นจับกลุ่มคนรวยมีเงินเหลือโดยเฉพาะค่ะ  แน่นอนว่าส่วนใหญ่คนเหล่านี้ไม่ได้มีอสังหาฯ แค่ที่เดียวด้วย

แปลนโดยรวม The Lofts Asoke ของแบบ 1 และ 2 ห้องนอนทั่วไปก็ถือว่าจัดพื้นที่ใช้งานได้สบายๆ และเป็นสัดเป็นส่วนดี  ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่  ไม่ต้องถูกจำกัดด้วยเพดานราคาขายแล้วมาพยายามทำห้องให้เล็กลง  แบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร แม้แปลนจะเป็นตัว L แต่ก็ยังถือว่าจัดออกมาได้ดีและฟังก์ชั่นการใช้งานครบค่ะ  แบบ 1 ห้องนอน 49 ตารางเมตร จะได้อ่างอาบน้ำมาในห้องน้ำด้วย แต่ไม่แน่ใจว่า ตำแหน่งที่อยู่ติดกับที่จอดรถอัตโนมัตินั้น เสียงจะดังหรือเปล่า (ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เหมือนกัน  แนะนำให้ลองถามคอนเฟิร์มกับทางโครงการนะคะ)  ส่วนแบบ 2 Bedroom Duplex ก็ทำก็มาอลังการดี  ห้องนอนเล็กพื้นที่อาจจะเล็กไปหน่อย แต่จะเปลี่ยนเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ  สเปซของห้องนั้นสวยงามตามท้องเรื่อง  ทางด้านวัสดุนั้นก็ต้องบอกว่าให้มาเกรดดีทีเดียวตามราคาที่สูง  ในห้องตัวอย่างที่มาเป็นสไตล์ Loft แปลกตาไปจากวัสดุคอนโดทั่วๆ ไป  และสามารถเลือก option ของ finishing Materials ได้  ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ก็ต้องหามาแต่งให้เข้ากับธีมห้องตามความชอบกันเอง

Facilities จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนชั้นล่างตั้งแต่ชั้น 1-5 ที่ทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Triple กับ Double Volume ตรง Lobby, Lounge และ Fitness ออกแบบมาในแนว Warehouse  ส่วนชั้น 31 ก็จะมีสระว่ายน้ำที่มีทั้งส่วน Outdoor และ Indoor ค่ะ ด้วยจำนวนยูนิตไม่เยอะ  ส่วนกลางก็น่าจะพอเพียงกับคนที่อยู่อาศัย  ดีไซน์สวยงาม

สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 70 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นถือว่าดีมากค่ะ ส่วนที่จอดรถได้มา 100% เต็ม  ถือว่าดี เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ 3 ตัว ไม่ต้องวนขึ้นไป  โดยสามารถเดินจากตรงที่จอดรถที่ขับเข้าไปจอด  แล้วเข้ามาตรงล็อบบี้เพื่อขึ้นห้องได้เลย  แล้วก็มีที่จอดรถสำหรับ Visitor ที่ชั้น 1 จอดได้อีก 5 คัน

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

I am text block. Click edit button to change this text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

ถึงแม้ว่าการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของเหล่าศิลปินไทยในปัจจุบันจะมีความทัดเทียมไม่น้อยไปกว่าผลงานของศิลปินชาวต่างชาติ แต่งานศิลปะนั้นจะเป็นที่รู้จักไปไม่ได้ หากขาดแรงผลักดันและการสนับสนุนที่ดี เหตุนี้เองจึงทำให้คอนโด Beatniq Sukhumvit 32 โดย SC Asset บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย จึงร่วมเป็นหนึ่งในฐานะผู้สนับสนุนการจัดนิทรรศการ HOTEL ART FAIR 2016 โดยฟาร์มกรุ๊ป (FARMGROUP) หนึ่งในองค์กรที่ทุ่มเทเพื่อวงการศิลปะ ต้องการตอกย้ำกระแสงานนิทรรศการศิลปะให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และมีความต้องการที่จะสร้างพื้นที่เชื่อมโยงใหม่ ๆ ให้คนทั่วไปให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจงานศิลปะมากขึ้น ซึ่ง SC ASSET เองก็ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของศิลปะและต้องการยกระดับวงการศิลปะไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

การจัดแสดงผลงานตัวอย่างจาก 2 แกลอรี่ชื่อดัง อย่าง H Gallery และ In-Productions  มาร่วมจัดแกลลอรี่ในห้องตัวอย่างของโครงการบีทนิค สุขุมวิท 32 สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้าชมนิทรรศการตั้งแต่วันที่ 14-23 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. (ไม่เสียค่าเข้าชม) โดยงานนี้จะเปิดโอกาสให้เหล่านักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบได้ชื่นชมผลงานศิลปะกันอย่างใกล้ชิดก่อนใครที่ BEATNIQ Condominium สุขุมวิท 32 Sales Gallery นอกจากนี้ BEATNIQ ยินดีมอบ Exclusive Voucher for Art Piece มูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาทสำหรับผู้สนใจจองคอนโดมิเนียมในงานอีกด้วย

สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะมาพรีวิว บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช โครงการบ้านแฝดจาก AP มาให้ชมกัน ตัวโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุชตั้งอยู่ตรงข้ามกับโครงการทาวน์โฮม บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช เลยค่ะ ซึ่งอยู่สบายได้เคยทำรีวิวแบบละเอียดกันไปแล้ว สามารถย้อนไปการการเดินทาง และดูบรรยากาศรอบๆ ได้ ทำเลนี้จะอยู่ใกล้กับแยกมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ – ชลบุรี สายใหม่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ใกล้กับ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างและสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ

ข้อมูลโครงการเบื้องต้น

บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช

• เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)  บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ใกล้ทางขึ้นลงมอเตอร์เวยและวงแหวนรอบนอก
• ขนาดที่ดิน >>> 16-1-33.9 ไร่
• ประเภท >>> บ้านแฝด
• จำนวนหลัง >>> 98 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • บ้าน 2 ชั้น ( X-Tra Model ) พื้นที่ 125 ตร.ม. จอดรถ 2 คัน
  • บ้าน 3 ชั้น ( X-Trend Model ) พื้นที่ 222 ตร.ม. จอดรถ 3 คัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท (ณ วันที่ 10/06/2016)
• พิกัด GPS >>> 13.728877, 100.703964
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1623

บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 -อ่อนนุช ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ ใกล้กับช่วงแยกมอเตอร์เวย์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษกค่ะ ห่างจาก Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

โครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9-อ่อนนุช ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ- ชลบุรี สายใหม่ ฝั่งขาเข้าเมืองจะผ่าน Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง, เข้าถึงย่านพระราม 9 ได้สะดวก ส่วนฝั่งขาออกจะไปทางสนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะขึ้นทางมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ ไปพัทยาเลยก็ได้ สามารถเลี้ยวเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ไปออกถนนพัฒนาการและถนนอ่อนนุช เพื่อเข้าบางนา หรือไปทางสุวรรณภูมิได้อีกเส้นทางนึง

โครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช อยู่ในย่านที่อยู่อาศัย มีโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมอื่นๆ มากมาย เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีรถยนต์ส่วนตัว เพื่อใช้ไปยังสถานที่ใกล้ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บนเส้นอ่อนนุช – ลาดกระบังค่ะ สถานที่สำคัญใกล้โครงการได้แก่ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมป์ฟอร์ต, Pan Asia International School, Charter International School, The Paseo Mall ถนนอ่อนนุช หรือ Tesco Lotus อ่อนนุช ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลสิรินธร ในซอยอ่อนนุช 90 ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

มี Facilities ให้เป็น Club House พร้อมสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, บริเวณพักผ่อน และสวนสาธารณะ ลูกบ้านเข้าออกโครงการด้วยระบบ Access Card มีป้อมยามรักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดทางเข้า-ออกโครงการ

บรรยากาศหน้าโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช โทนสีขาวดูหรูหราค่ะ

บรรยากาศ Club House ภายในโครงการ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็น บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช ซึ่งจะมีสไตล์ไม่เหมือนกัน โครงการนี้จะดูโมเดิร์นและวัยรุ่นๆ หน่อย

ภายในซอยที่เป็นที่ตั้งโครงการ ในสุดจะเป็นหมู่บ้านนันทวัน พระราม 9

แบบบ้าน

แบบบ้านของ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช เป็นลักษณะบ้านแฝดแต่ออกแบบให้เหมือนเป็นบ้านเดี่ยว มีอยู่ 2 แบบ คือ X-Tra Model บ้านแนวคิดใหม่ สูง 2 ชั้น และ แบบบ้าน X-Trend Model บ้านแนวคิดใหม่ สูง 3 ชั้น

แบบบ้าน X-Tra Model บ้านแนวคิดใหม่ 2 ชั้น

แบบบ้าน X-Trend Model บ้านแนวคิดใหม่ 3 ชั้น

หากอยู่สบายได้ข้อมูลเพิ่มเติมจะทำมารีวิวให้ดูกันในฉบับรีวิวเต็มนะคะ อยากรู้เหมือนกันว่าแปลนบ้านที่ว่าดีไซน์ใหม่จะเป็นยังไง ติดตามกันต่อด้วยจ้าา

ถ้าหากว่าพรีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุด บุกทำเลทองแถบภาคตะวันออกโดยเฉพาะย่านแหลมฉบัง-ศรีราชาจ.ชลบุรี สร้างอาณาจักร “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” (Origin District Laemchabang-Sriracha) โครงการ Mixed Use ที่มีทั้ง คอนโดมิเนียม โรงแรม และ คอมมูนิตี้มอลล์ ไว้ด้วยกัน มูลค่าโครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 14 ไร่พร้อมเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มโรงแรม InterContinental Hotels Group มาพร้อมแบรนด์ Holiday inn and suites สร้างความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรม มั่นใจเมืองศรีราชา ยังมีศักยภาพด้านกำลังซื้อสูง จากปัจจัยจากการย้ายฐาน ผลิตและเงินทุนสู่ภาคตะวันออก

คุณพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ “ORI”  เปิดเผยว่า จากปัจจัยบวกของภาคอุตสาหกรรม การลงทุน และการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสดใส เมื่อเปรียบเทียบกับเซ็กเตอร์อื่น ๆ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2559 โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออก เป็นพื้นที่ที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ทั้งรายใหญ่จนถึงรายเล็ก ให้ความสนใจเข้าไปเปิดตัวทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดฯ รวมไปถึงโรงแรม เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แหลมฉบัง-ศรีราชา จังหวัดชลบุรีถือเป็นจังหวัดที่ถูกจัดว่า มีขนาดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งทั้งของภาครัฐและเอกชน จึงทำให้เป็นเมืองขนาดเล็กที่มีศักยภาพสูงมาก ยิ่งในอนาคตภาครัฐยังมีแผนพัฒนาระบบคมนาคมทั้งทางรางและทางถนนอีกหลายโครงการจะยิ่งส่งผลบวกให้กับพื้นที่นี้ในอนาคต

บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพในทำเลภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่แหลมฉบัง-ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องจึงได้พัฒนาโครงการ “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” (Origin District Laemchabang-Sriracha) มีมูลค่าการลงทุนประมาณ5,000ล้านบาท บนเนื้อที่รวม 14ไร่ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบ mix use หลายรูปแบบอยู่รวมกันประกอบด้วยคอมมูนิตี้ มอลล์ โรงแรม และคอนโดมิเนียมทั้ง Low-rise และ High-rise โดยที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา คนทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและในศรีราชา รวมถึงนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นและนักลงทุน โดยโครงการมีจุดเด่น ด้านการออกแบบสไตล์โมเดิร์น เน้นความโปร่งโล่ง สะดวกสบายด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและโรงพยาบาล รวมทั้งมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ได้เปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มโรงแรม InterContinental Hotels Group ในแบรนด์ Holiday inn and suites ที่จะมาสร้างความแข็งแกร่งและเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ให้กับโครงการ “ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา” เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย

โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์แอนด์ สวีท ศรีราชา แหลมฉบัง เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่  สำหรับการพักอาศัยกว่า 345 ห้อง เป็นอาคารสูง 36 ชั้น  ซึ่งได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับ International hotel chains อย่าง InterContinental Hotels Group เข้ามาบริหารโรงแรมภายใต้ แบรนด์ Holiday inn and suites โดยจะเน้นลูกค้ากลุ่มทำงานในนิคมอุตสาหกรรมชาวญี่ปุ่น เป็นหลัก

โครงการ เคนซิงตันแหลมฉบัง-ศรีราชา (Kensington Leamchabang – Sriracha) เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 798 ยูนิต มูลค่า 1,150 ออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern Loft” ได้แรงบันดาลใจมาจาก Irish Pub ที่เน้นการออกแบบให้มี Double Space ที่เปิดโล่ง ผสมผสานกับการใช้วัสดุ เช่น เหล็ก, อิฐโชว์แนว ภายในโครงการมี Facilities ครบครันรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

โครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ แหลมฉบัง–ศรีราชา (Notting Hill Leamchabang – Sriracha)เป็นคอนโดมิเนียม High-rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 534 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท โดดเด่นด้วยทำเลที่มีศักยภาพ ติดริมถนนสุขุมวิท ใกล้สถานศึกษา และมหาวิทยาลัย การออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Modern Luxury” ผสมผสานความทันสมัยกับความหรูหราอย่างลงตัว พร้อมแต่งแต้มลายเส้นสถาปัตยกรรมอย่างมีรสนิยม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ “Notting Hill” Portobello Mall  เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ สไตล์อังกฤษ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 3,000 ตร.ม. ที่พร้อมสรรพและครบครันไปด้วยระบบสาธารณูปโภคต่างๆ อาทิ ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านซักรีด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านในโครงการ แนวคิดคือ การสร้างชุมชนบ้าน เพื่อตอบโจทย์ของผู้พักอาศัยในการใช้ชีวิตอยู่จริงได้เป็นอย่างดี โดยมีร้านค้าชั้นนำกว่า 10 ร้านค้า อาทิ KFC Drive Thru เป็นต้น “เราเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีสถานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง หรือกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ในแหลมฉบัง-ศรีราชาที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานได้รวดเร็วซึ่งโครงการ ORIGIN District สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด โดยบริษัทต้องการพัฒนาให้เป็นโครงการมิกซ์ยูส ทาวน์ชิป เพื่อตอกย้ำความเชี่ยวชาญของบริษัทที่ต้องการมองหาทำเลศักยภาพใหม่ ยกระดับการพัฒนาเพื่อการลงทุน” นายพีระพงศ์ กล่าวตอนท้าย

สวัสดีค่า วันนี้อยู่สบายได้มีโอกาสไปรีวิว บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น จาก AP บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช  ที่ตั้งโครงการจะอยู่ใกล้กับแยกมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ ตัดกับทางหลวงกาญจนาภิเษกค่ะ ซึ่งแม้ชื่อโครงการจะห้อยท้ายว่า พระราม 9 – อ่อนนุช แต่ในความเป็นจริง ตัวโครงการนั้นอยู่ห่างจากพระราม 9 พอสมควร  ส่วนรายละเอียดนั้นตามไปอ่านกันต่อเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการเบื้องต้น

บ้านกลางเมือง  พระราม 9 – อ่อนนุช

• เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)  บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ใกล้ทางขึ้นลงมอเตอร์เวยและวงแหวนรอบนอก
• ขนาดที่ดิน >>> 17-3-39.3 ไร่
• ประเภท >>> ทาวน์โฮม 3 ชั้น
• จำนวนหลัง >>> 209 หลัง
• พื้นที่ใช้สอย >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 145 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5 เมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.59 ล้านบาท (เนื้อที่ดิน 18.10 ตารางวา ณ วันที่ 18/05/2016)
• พิกัด GPS >>> 13.728025,100.703883
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1623

บ้านกลางเมือง พระราม 9 -อ่อนนุช ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ ใกล้กับช่วงแยกมอเตอร์เวย์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษกค่ะ สามารถขับรถไปรับ-ส่งลูกหลานที่ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างได้ไม่ไกล

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 – ศรีนครินทร์ เข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี จะผ่านหน้าโครงการบ้านกลางเมือง พระราม 9 อีกโครงการของ AP  แล้วก็ขับขึ้นสะพานเกือกม้ากลับรถเพื่อข้ามไปฝั่งขาเข้า พอลงจากสะพานแล้วก็ต้องกลับรถอีกรอบค่ะ (ดูแผนที่ประกอบนะคะ อ่านแต่ตัวหนังสือจะงง) จุดนี้จะกระชั้นนิดนึงอย่าขับเร็วมาก เดี๋ยวจะเลย  ทีนี้ก็ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน Airport Rail Link บ้านทับช้าง ตรงไปเรื่อยๆ ทางจะบังคับเลี้ยวขวาไปวนใต้ทางหลวงกาญจนาภิเษก แล้วก็จะเห็นทางเข้าโครงการบ้านกลางเมืองพระราม 9 -อ่อนนุช อยู่ทางขวามือค่ะ

เนื่องจากจุดตัดของมอเตอร์เวย์กับกาญจนาภิเษกมีทางวกวน  ใครไม่คุ้นเวลาขับครั้งแรกจะงงค่ะ  ตอนเราไปรีวิวครั้งแรกก็ยังเกือบงงในเรื่องการเข้าถึงแม้จะสำรวจเส้นทางแถวนี้มาบ่อยก็ตาม  เลยทำแผนที่ประกอบมาให้ดูกันในหลายเส้นทางเข้าถึง  จะได้ช่วยหาทางไปโครงการได้ง่ายขึ้นนะคะ

ถ้ามาจากแยกพระราม 9 – ศรีนครินทร์ หรือมาจากร่มเกล้า ก็ให้เข้าเส้นเลียบมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ มาได้เลย

ถ้ามาจากพัฒนาการ หรือมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถใช้ถนนอ่อนนุช เลี้ยวเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ที่แยกประเวศ แล้วมาตัดเข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ – ชลบุรี ได้ที่หน้า Dcondo พระราม 9 – อ่อนนุช ค่ะ

ส่วนถ้ามาทางหลวงกาญจนาภิเษก จะต้องเบี่ยงซ้ายลงสุขาภิบาล 2 ไปลงเข้าถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง แล้วก็มาเลี้ยวซ้ายแยกประเวศ เพื่อเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 อีกเช่นกัน

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

โครงการบ้านกลางเมืองพระราม 9-อ่อนนุช ตั้งอยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ- ชลบุรี สายใหม่ สามารถใช้เส้นเลียบมอเตอร์เวย์นี้เดินทางไป Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างได้, เข้าย่านพระราม 9 ได้สะดวก หรือจะไปทางสุวรรณภูมิก็ได้ ถ้าจะไปเส้นอ่อนนุช จะต้องไปเลี้ยวเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ไปออกแยกประเวศก่อน แล้วก็จะสามารถไปทางพัฒนาการก็ได้, เข้าบางนา หรือไปทางสุวรรณภูมิได้เช่นกัน ส่วนถ้าจะไปทางรามคำแหง จะต้องไปกลับรถกันก่อนค่ะ

ย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรร มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม สิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ๆ จะเหมาะกับการขับรถไป รถสาธารณะนั้นเลิกคิดได้เลย สถานศึกษาใกล้บ้าน เช่น มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมป์ฟอร์ต, โรงเรียนนานาชาติก็มี Pan Asia International School, Charter International School  แต่แหล่งจับจ่ายใช้สอยบริเวรใกล้โครงการไม่มีค่ะ ใกล้สุดจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Paseo Mall ที่อยู่บนถนนอ่อนนุช หรือ Tesco Lotus อ่อนนุช ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลสิรินธร ในซอยอ่อนนุช 90 ค่ะ  ความอุดมสมบูรณ์ของโซนนี้จะไปอยู่บนเส้นอ่อนนุช – ลาดกระบังทั้งหมด

ซูมมาดูใกล้โครงการกันบ้าง สิ่งแวดล้อมรอบๆ จะมีแต่โครงการหมู่บ้านทั้งนั้นเลยค่ะ ในซอยเดียวกันจะเป็นหมู่บ้านนันทวัน พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการที่ปิดการขายไปนานแล้ว  และตรงข้ามทางเข้าโครงการจะเป็นโครงการบ้านแฝดจาก AP อีกเช่นกัน ส่วนฝั่งตรงข้ามทางหลวงกาญจนาภิเษกนั้นจะเป็นฝั่งของ Sansiri ค่ะ มีโครงการบ้านเศรษฐสิริ อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ และโครงการคอนโด Dcondo พระราม 9 – อ่อนนุช  ซึ่งทำเลโครงการนี้ดูจะประหลาดอยู่พอควร  โดยส่วนตัวมองว่าคอนโด low-rise แบบนี้  ทำเลไปอยู่บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง น่าจะเวิร์คกว่าเยอะ  ส่วนร้านค้าและร้านอาหารรอบโครงการนั้นไม่มีเลยค่ะ  ต้องขับรถไปถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถึงจะเป็นย่านชุมชนคึกคักมากขึ้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ไปขับรถสำรวจสภาพแวดล้อมกันก่อนเข้าโครงการค่ะ เพื่อจะได้เห็นภาพกันมากขึ้น โดยจะเริ่มจากด้านหน้าโครงการไปเลี้ยวเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 บริเวณหน้าคอนโด Dcondo พระราม 9 – อ่อนนุช ไปที่แยกประเวศ แล้วเลี้ยวเข้าถนนอ่อนนุชค่ะ

บรรยากาศปากซอยค่ะ ทางนี้เป็นทางที่เรามาโครงการ เดี๋ยวเราจะขับย้อนกลับไปทางนี้กัน

ด้านนี้หันออกจากซอยไปทางขวาค่ะ หากไปทางนี้จะมุ่งหน้าไปทางถนนร่มเกล้า, สุวรรณภูมิ

วนกลับมาที่ Dcondo แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ จะเป็นถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9

บรรยากาศถนนด้านหน้าคอนโด Dcondo ค่ะ

มาแอบถ่ายบรรยากาศหน้าคอนโด Dcondo พระราม 9 – อ่อนนุช ให้ดู

ผ่าน Dcondo มาแล้ว ทางจะพาเลี้ยวซ้ายค่ะ ผ่านโครงการบ้านเศรษฐสิริ อ่อนนุช ศรีนครินทร์ ทางซ้ายมือ

ตอนขากลับจะเห็นเป็นภาพนี้

ขับข้ามคลองประเวศมาเรื่อย จนมาถึงแยกประเวศค่ะ ถ้าตรงไปจะมี Pan Asia International School, Charter International School ไปเชื่อมออกพัฒนาการหรือถนนศรีนครินทร์ได้เลย ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางพัฒนาการ แต่เราจะเลี้ยวซ้ายกันค่ะ ไปทางสุวรรณภูมิ, ลาดกระบัง

ถนนอ่อนนุชจะมีอาคารพาณิชย์ตลอด 2 ข้างทาง

มีร้านค้าบ้าง แต่ไม่มีตึกสูงหรืออาคารสำนักงานเท่าไหร่

กลับรถมาอีกฝั่งนึง จะมีศูนย์ Toyota TBN ติดกับคอมมูนิตี้มอล The Paseo Mall ค่ะ เนื่องจากเป็นเจ้าของเดียวกัน

ด้านในพาซิโอมี McDonald’s, MK, Tesco Lotus เปิด 24 ชั่วโมง, ร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วก็มีร้านขายของ ขายเสื้อผ้าทั่วไปค่ะ

ผ่านพาซิโอ้มาไม่นานจะถึงอ่อนนุชซอย 90

ด้านในเป็นโรงพยาบาลสิรินธร

ดูเส้นอ่อนนุชกันไปแล้ว ทีนี้เราไปดูบรรยากาศแถว Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างกันบ้างค่ะ เพราะถ้ามาอยู่แถวนี้คงต้องไปใช้บริการกันบ่อยๆ

ขับออกไปทางเลียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ ฝั่งขาเข้ามาเรื่อยๆ ทางจากโครงการถึงสถานีประมาณ 2.5 กิโลเมตร จะมีป้ายสีแดงๆ ทางซ้ายมือบอกทางเข้าตัวสถานีรถไฟฟ้าบ้านทับช้างค่ะ

เลี้ยวเข้ามาในซอย บรรยากาศไม่ค่อยน่ารื่นรมย์เท่าไหร่ ตอนกลางคงน่ากลัวไม่น้อยค่ะ เพราะมันดูรกๆ แม้จะมีทางเท้าให้ก็ตาม  เมื่อไหร่การรถไฟจะพัฒนาสักทีนะ – -”

ตัวสถานีค่ะ ด้านนี้นี่มีเพิงสังกะสีของใครไม่รู้ ดูไม่สวยงามเอาเสียเลย

มีที่จอดรถใต้สถานีบ้านทับช้างบ้างค่ะ แต่ไม่พอเมื่อเทียบกับคนมาใช้งาน ขนาดไปช่วงกลางวันคนยังเต็มเลย  จะเห็นว่ามีรถจอดอยู่ริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์เยอะเชียวค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ไปดูรอบๆ โครงการกันมาแล้ว ทีนี้ไปดูในโครงการกันค่ะ

ถนนในซอยค่ะ รูปนี้มาถ่ายจากหน้าโครงการออกไปที่ปากซอย โครงการบ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุชจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือจะเป็นโครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 -อ่อนนุช

ซุ้มทางเข้าบ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช โทนสีเทาค่ะ เรียบๆ Modern เข้ากับแบบบ้าน เซาะร่องเป็นสี่เหลี่ยมๆ

โครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 -อ่อนนุช ซุ้มประตูทางเข้าสีขาวเงาๆ ต่างกันที่มีคำว่า The Edition เป็นโครงการบ้านแฝดค่ะ ด้านนี้จะดูหรูหรากว่าฝั่ง บ้านกลางเมือง พระราม9-อ่อนนุช  คนละสไตล์กัน  ซึ่งราคาก็สูงกว่าด้วย

มองกลับเข้าไปในซอย ขับสวนกัน 2 เลนสบายๆ ถนนกว้างดี

ป้ายโครงการค่ะ จากถนนจะมองเห็นด้านหลังของทาวน์โฮมในตัวโครงการเยอะไปหน่อยค่ะ  ถ้าปลูกต้นไม้บังเพิ่มจะทำให้ป้ายโครงการสวยเด่นกว่านี้นะคะ

หน้าโครงการมีทางเท้าให้ด้วย ดูเรียบร้อยดี  แต่คงไม่ได้ใช้เดินไปไหน

เพราะถัดจากโครงการเข้าไป จะเป็นร้านค้าเล็กๆ ทางซ้ายมือ แล้วก็มีโกดังอยู่ทางขวามือค่ะ

ในสุดของซอยจะเป็นโครงการหมู่บ้านนันทวัน พระราม 9 – อ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยวค่ะ เพื่อนบ้านมีอยู่เท่านี้

ทีนี้เข้ามาในโครงการกันบ้าง จากป้อมยามเข้ามาจะเป็นถนนหลักในโครงการกว้าง 12 เมตรค่ะ ยาวไปจนถึงคลองประเวศเลย

สำนักงานขายจะอยู่ในซอยแรก บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ

รวบบ้าน 2 หลังทำเป็นสำนักงานซะเลย ตกแต่งออกมาแนวหวานๆ ดูแล้วเป็นแนวผู้หญิ๊งผู้หญิง  ทาง AP เรียกแนวนี้ว่าสไตล์ Sophisticated Classic เหมือนกับบ้านตัวอย่างค่ะ

โต๊ะรับรองแขกและลูกค้า

ดูผังโครงการ การเข้าถึง

ถนนหน้าโครงการเป็นถนน 2 เลนสวนกัน ตรงข้ามโครงการเป็นบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9 – อ่อนนุช ส่วนด้านข้างจะเป็นที่ดินเปล่าของเอกชน ด้านหลังติดกับคลองประเวศบุรีรมย์ โครงการมีทางเข้าออกทางเดียว มีถนนหลักยาวเข้าไปในโครงการตั้งแต่ประตูทางเข้าไปจนสุดคลองเลย มีความกว้าง 12 เมตร ส่วนถนนย่อยๆ ในโครงการจะกว้าง 9 เมตรค่ะ บ้านในโครงการนี้จะหันหน้าไป 3 ทิศเท่านั้น คือทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้ แบ่งออกเป็น 2 เฟสค่ะ เฟสแรกจะอยู่ช่วงต้นๆ เฟสสองจะอยู่ท้ายโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

เริ่มกันตั้งแต่ประตูทางเข้า มีประตูรั้วกั้น ลูกบ้านจะได้ Access Card เข้าออก

มียามรักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดถ่ายทั้งหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถยนต์ค่ะ พี่ยามหน้าจริงจังมาก

ส่วนทางคนเข้าจะแยกอีกต่างหาก เป็นทางเดินต่อเข้ามาจากทางเท้าด้านหน้า

ถนนเมนกว้าง 12 เมตรค่ะ สวนพักผ่อนอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้กับทางเข้าโครงการเลย

บรรยากาศในสวน ลงต้นไม้ใหญ่พอสมควรค่ะ แต่ยังไม่ถึงกับร่มรื่นต้องรอให้ต้นไม้โตกว่านี้ก่อน  มีลานว่างทำกิจกรรมครอบครัวได้ในสวน

บรรยากาศถนนหลักค่ะ ยาวเข้าไปเลย ตอนนี้ด้านในยังเป็นส่วนของเฟส 2 ซึ่งยังไม่เปิดขายค่ะ ทางซ้ายมือปลูกหญ้าให้ที่ทางเท้าและลงต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ ดูเขียวดี

Clubhouse สีข๊าวขาวค่ะ มีขนาดไม่ใหญ่มาก ต่อเนื่องกับสวนพักผ่อน  ดีไซน์ที่เก๋อย่างนึงคือตรงชั้นล่างจะติดกระจกเงาเอาไว้  ทำให้สะท้อนเงาของต้นไม้  ดูเหมือนว่าชั้นล่างโล่งและทะลุมองออกไปเห็นสวนอีกฝั่ง  ซึ่งจริงๆ แล้วตรงนั้นเป็นล็อกเกอร์และห้องอาบน้ำค่ะ  ดีไซน์แบบนี้ช่วยให้ตัวคลับเฮ้าส์ชั้น 2 ดูเบา และลอยออกมา  ไม่ทึบตัน  จัดว่าเก๋ไก๋ทีเดียว

สระเป็นแบบน้ำล้น ตกแต่งรอบสระด้วยหินกรวดและพุ่มไม้ค่ะ

ชั้นล่างเป็นสระว่ายน้ำ ส่วนฟิตเนสจะอยู่ชั้นบนกับสำนักงานนิติบุคคล

ชั้นล่างถัดจากสระว่ายน้ำเข้าไป จะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ แต่ทำปิดผนังด้วยกระจกเงา ทำให้ตัว Clubhouse ดูโล่งและโปร่ง มุมนี้จะเหมือนชั้นบนลอยอยู่  ส่วนชั้นล่างก็ดูทะลุออกไปอีกฝั่ง

อีกซักรูปให้ชัดๆ

สระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบน้ำล้น ขนาด 7 x 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร

แบ่งเป็นสระเด็กอยู่ทางด้านใน มี Spa Jet ให้เล่นกันด้วย

วิวเมื่อมองออกจากคลับเฮ้าส์ค่ะ

ห้องน้ำพร้อมล็อคเกอร์ แยกชายหญิง ซึ่งยังคงคุมโทนสีขาวเอาไว้

พอขึ้นมาชั้น 2 ส่วนแรกจะเป็นห้องนิติบุคคลค่ะ

ต่อด้วยห้องฟิตเนส ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ วางลู่วิ่งได้ประมาณ 3 เครื่องเห็นวิวสวน

เครื่องออกกำลังกายอื่นๆ

วิวจากชั้นสอง

เปิดแปลนบ้าน

แปลนทาวนโฮม บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช

แปลนของบ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช มีแค่แบบเดียวค่ะ ไม่มีแบบสลับด้านด้วย มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5 เมตร ความยาวโดยเฉลี่ยทุกหลังตั้งแต่รั้วหน้าบ้านถึงรั้วหลังบ้านประมาณ 14.4 เมตร พื้นที่ดินแปลงมาตราฐานจะมีขนาด 18.1 ตารางวา การออกแบบแปลนนั้นไม่ต่างจากโครงการทาวน์โฮมอื่นๆ มากนัก

ชั้นล่างจะจอดรถได้ 2 คัน มีความยาว 5.7 เมตร ทำให้สามารถจอดรถใหญ่ได้ มีชานพักกว้าง 30 เซนติเมตร ก่อนเข้าบ้านให้นิดนึง ชั้นล่างเป็นพื้นที่นั่งเล่น ต่อเนื่องกับพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ครัวค่ะ ซึ่งได้ครัวแบบเปิด แล้วก็มีห้องน้ำให้ 1 ห้องแต่อาบน้ำไม่ได้ ความกว้างของห้องน้ำประมาณ 1.25 เมตร แคบไปหน่อยค่ะ  แต่ก็ช่วยให้มีพื้นที่ด้านนอกที่เป็นในส่วนเตรียมอาหารและรับประทานอาหารกว้างมากขึ้น  ตรงนี้ก็ได้อย่างเสียอย่าง  ส่วนด้านหลังจะเปิดประตูไปส่วนพื้นที่ซักล้างได้ เตรียมที่วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้ด้วยค่ะ

ชั้น 2 เป็นห้องนอน 1 และห้องนอน 2 มีขนาดพอๆ กันทั้งสองห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลางค่ะ โดยห้องที่อยู่ติดหน้าบ้านจะได้ระเบียงยาว วางเตียง Queen Size ได้ทั้งสองห้อง  ส่วนบันไดจะเป็นบันไดรูปตัว U ซึ่งซอยขั้นบันไดตลอด ทำให้ไม่มีชานพัก ต้องเดินกันระวังหน่อยค่ะ โดยเฉพาะคนแก่จะไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะการจัดบันไดแบบนี้ทำให้ราวจับไม่ต่อเนื่องด้วย  ถ้าเป็นวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ทั่วไปก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ

ขึ้นมาชั้น 3 จะเจอพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ก่อน ส่วนนี้จะไม่ได้กั้นห้องค่ะ มีทางออกระเบียงเล็กๆ หลังบ้านด้วย แล้วก็มีห้อง Master Bedroom แบบมีห้องน้ำในตัว ติดระเบียงยาวหันออกหน้าบ้าน  ห้องนี้ได้พื้นที่มาเต็มดี จัดแปลนง่ายค่ะ  ส่วนพักผ่อนด้วยหลังถ้ามีสมาชิกในบ้านเพิ่มก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนเล็กแยกอีกห้องก็ยังได้

โทนบ้านใช้สีเทาอมน้ำเงิน  รูปลักษณ์ภายนอกสวยดีนะคะ ชอบๆ  ติอย่างนึงตรงที่ไม่มีการพรางตาคอมเพรสเซอร์แอร์ให้นี่แหละค่ะ  วางไว้โล่งๆ แบบนี้เลย

ซูมมาดูใกล้ๆ ตัวบ้านนอกจาทาสีเทาอมน้ำเงินแล้ว จะเซาะร่องให้เป็นลายตารางด้วย หน้าบ้านจะได้ไม่ดูเรียบเกินไป  รวมๆ แล้วให้สัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆ ดีนะคะ

โครงการแถมกันสาดผ้าใบบังแดดรถให้ด้วย

ทาวน์โฮมในซอยย่อยค่ะ ในซอยนึงจะมีประมาณ 14 หลัง ถนนกว้าง 9 เมตร ประมาณว่าจอดรถหน้าบ้านได้ทั้งสองฝั่งรถก็ยังขับได้ 1 เลนตรงกลาง

หน้าบ้านไม่ได้แบ่งเป็นที่วางถังขยะให้ เป็นรั้วแบบพับๆ เหมือนบานเฟี้ยม ยาวตลอด 5 เมตร

ส่วนรูปนี้คือด้านหลังของทาวน์โฮม  ระยะห่างระหว่างบ้าน ห่างกันพอสมควร ไม่ติดกันเกินไปค่ะ เพราะมีพื้นที่หลังบ้านยาวกันหลังละประมาณ 2.50 เมตร  รั้วกั้นระหว่างบ้านสูงประมาณ 1.50 เมตร

ที่เห็นเป็นช่องเข้าไปที่ชั้น 3 คือพื้นที่ระเบียงเล็กด้านหลังบ้านค่ะ  เวลาฝนตกก็อย่าลืมปิดประตูบานเลื่อนด้วยเผื่อฝนสาด  ส่วนหน้าต่างที่เห็นตรงชั้น 2 จะเป็นหน้าต่างของห้องนอน 2

พื้นที่หน้าบ้าน มีชุดประตูทางเข้าบานเลื่อนและช่องแสงให้กับบริเวณบันได

จะมีชานพักเล็กๆ กว้างประมาณ 30 เซนติเมตรก่อนเข้าตัวบ้าน ปูกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนค่ะ  ตรงนี้ใช้วางรองเท้าได้

ส่วนด้านหลังบ้านนั้น บ้านตัวอย่างจัดเป็นสวนพักผ่อนมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ความยาวประมาณ 2.50 เมตร (โดยเฉลี่ย)

รอบๆ บ้านจะโรยกรวดไว้ให้ปิดรอยต่อรอบบ้านให้สวยงาม ภายในบ้านสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณ 15 เซนติเมตรค่ะ

ทั้งประตูและหน้าต่าง จะมีบัวกันน้ำย้อนไว้ให้

พื้นที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ ปูพื้นกระเบื้องและเตรียมท่อ กับปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย อยู่ติดกับห้องน้ำชั้น 1

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

บ้านตัวอย่างมีให้ชมทั้งแบบตกแต่งเต็ม กับแบบบ้านเปล่าค่ะ เราจะพาไปดูทั้งสองแบบ

บ้านตัวอย่าง บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช

เปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น ขวามือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ลึกเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่ครัว เห็นไปจนถึงหลังบ้านเลยค่ะ ได้แสงธรรมชาติเยอะดี

พื้นที่นั่งเล่นติดทางเข้าบ้าน

พื้นที่ครัวติดกับห้องน้ำ ทำเป็นประตูบานเลื่อนสำหรับเข้าห้องน้ำ ประหยัดพื้นที่ดีค่ะ ส่วนทางขวามือสุด จริงๆ แล้วจะเป็นห้องใต้บันได แต่ห้องตัวอย่างทำเป็นผนังตกแต่งเอาไว้

พื้นที่รับประทานอาหารใกล้กับพื้นที่ครัวและทางออกหลังบ้าน ส่วนหน้าต่างบริเวณนี้จะได้เฉพาะบางหลังที่อยู่มุมและมีพื้นที่ดินเพิ่มขึ้น ถึงจะได้หน้าต่างค่ะ

มองกลับไปที่ทางเข้าบ้าน

บันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ จะมีช่องแสงธรรมชาติจากหน้าบ้าน

เดินขึ้นบันไดมาแล้ว เจอกับห้องน้ำชั้น 2 ค่ะ มีตู้ไฟติดลอยอยู่หน้าห้องน้ำ

มองลงมาจากชั้น 3

เข้าห้องนอนที่ติดด้านหน้าบ้านก่อน ห้องจะเน้นแนวยาวค่ะ ฝั่งนี้จัดเป็นตู้เสื้อผ้ากับรวมกับโต๊ะทำงาน ใช้พื้นที่ได้คุ้มดีมาก

อีกฝั่งนึงวางเตียงใหญ่ค่ะ แล้วมีพื้นที่เดินรอบเตียง ติดระเบียงยาวทางหน้าบ้าน

มีที่เดินข้างเตียงประมาณ 50 เซนติเมตร ที่ระเบียงก็กว้างประมาณ 50 เซนติเมตรเช่นกัน คงได้แต่ออกไปยืน

จากห้องนอน 1 มองไปทางห้องนอน 2 ค่ะ

ห้องน้ำกลาง แบ่งเป็นพื้นที่เปียกแห้งชัดเจน มีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศ  กระจกกั้นอาบน้ำต้องมาติดเพิ่มเองค่ะ

ห้องนอน 2 มีความกว้างแคบกว่า แต่ความยาวพอๆ กับห้องนอน 1 ฝั่งนึงจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือ

ส่วนอีกฝั่งนึงวางเตียงเล็กชิดผนังไป ทำให้มีพื้นที่ว่างตรงกลางเหลือเยอะพอสมควร หากจะวางเตียงเหมือนกับห้องนอนแรกก็พอทำได้นะคะ แต่ทางเดินรอบเตียงจะเหลือน้อยกว่า

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ค่ะ ขึ้นบันไดมาแล้วจะเป็นพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ ไม่มีกั้นห้อง จะเป็นรั้วกันตกธรรมดา แต่บ้านตัวอย่างจะลองกั้นเป็นห้องขึ้นมาให้ดูค่ะ จัดเป็นห้องแต่งตัวน่ารักเชียว

สามารถออกไปที่ระเบียงเล็กหลังบ้านได้

มีพื้นที่เกือบจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสค่ะ เอาเก้าอี้ออกไปวางนั่งเล่นได้ แต่แนะนำให้ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ outdoor เพราะถ้าฝนตกจะสาดเข้ามาได้

ห้องนอนใหญ่ค่ะ กว้างเท่ากับห้องนอน 1

มีห้องน้ำในตัว หน้าตาเหมือนกับห้องน้ำชั้น 2 แบ่งพื้นที่เปียก-แห้ง โทนสีเดียวกัน และมีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศให้

บ้านเปล่า บ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช

บ้านจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าค่ะ หลังนี้จะเป็นหลังกลาง หน้าต่างด้านข้างบ้านจะหายไป ผนังภายในทาสีขาว ปูพื้นกระเบื้องสีเทาอ่อนแผ่นใหญ่ ในสุดติดหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ครัว ห้องน้ำอยู่ทางขวามือ มีตู้เก็บของอยู่ใต้บันได จะเห็นท้องบันไดหน่อยนึง ได้ดวงไฟทรงซาลาเปา

พื้นที่ครัวเตรียมท่อไว้ให้สำหรับทำเคาน์เตอร์เรียบร้อย ติดกับหน้าต่างบานเล็กสำหรับระบายอากาศ ห้องน้ำทำเป็นประตูบานเลื่อนสีขาวเนียนไปกับผนังบ้านดี

มุมนี้จะเป็นฝั่งวางทีวีค่ะ พื้นที่วางตู้ทีวีไม่ยาวมากนัก เพราะไม่งั้นจะเปิดประตูเก็บของใต้บันไดไม่ได้ อาจจะเลือกตู้วางทีวีเล็กๆ หน่อย เพราะถ้าทำชั้นวางทีวีเต็มแบบในบ้านตัวอย่างจะเปิดประตูห้องเก็บของไม่ได้ค่ะ

พื้นที่ห้องใต้เก็บของใต้บันไดค่ะ เก็บของได้พอสมควร

มองกลับออกไปหน้าบ้าน

บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2

เมื่อมายืนที่บันไดจะเห็นพื้นที่ตรงนี้ชัดขึ้น ตัวราวจับบันไดช่วงแรกอยู่ชิดกับผนังมากไปหน่อยทำให้จับได้ไม่เต็มมือนัก  ตัวราวจับก็เป็นอะลูมิเนียมไม่ต่อเนื่องกันเวลาใช้งานช่วงแรกอาจจะไม่ค่อยชินค่ะ  ต้องใช้เวลาสักพัก

ขึ้นมาชั้น 2 บริเวณหน้าห้องน้ำเป็นตำแหน่งแผงควบคุมไฟ อย่างที่เล่าไปแล้ว

มองกลับลงไปที่ชั้น 2

ห้องนอน 1 ที่อยู่ติดระเบียงหน้าบ้านค่ะ มีหน้าต่างเล็กๆ ด้านในให้ เหมาะกับวางโต๊ะทำงานค่ะ ได้แสงเข้าทางซ้ายมือพอดี

ห้องนอน 2 ติดหลังบ้าน ได้หน้าต่างมาบานใหญ่ดีนะคะ

ห้องน้ำกลางระหว่างห้องนอน 1 กับห้องนอน 2 ของจริงจะได้แบบโล่งๆ ไม่มีกระจกกั้นอาบน้ำ

พื้นที่อเนกประสงค์ชั้น 3 ทำเป็นห้องนั่งเล่นได้อีกห้อง มีแสงเข้าจากทางด้านข้างได้

มองกลับไปที่บันไดขึ้นชั้น 3 ค่ะ ราวกันตกแบบเดียวกับราวบันได

ห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ภายในห้องจะได้ไฟแบบดาวน์ไลท์

พื้นที่ระเบียงค่ะ  จริงๆ อยากจะแนะนำให้เอาคอมเพรสเซอร์ขึ้นไปแขวนไว้ด้านบนจะดีกว่า  ยอมทำ Hanger เพิ่มเอา  เพราะจะได้ออกไปใช้พื้นที่ตรงระเบียงได้เต็มที่ค่ะ  ถ้านั่งตรงระเบียงแล้วลมแอร์เป่าออกมาคงไม่ดี 

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของบ้านกลางเมืองพระราม 9 – อ่อนนุช นั้นให้มามาตราฐานทั่วไปค่ะ

อยู่สบายแบ่งแบบเป็น 3 ส่วนให้ดูกันง่ายๆ เป็นวัสดุห้องครัว ห้องน้ำ และวัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material) สำหรับส่วนครัวนั้นไม่มีรายละเอียดอะไรมากค่ะ เพราะเตรียมพื้นที่กับงานระบบไว้ให้เฉยๆ

วัสดุห้องครัว

พื้นที่ครัว เป็นครัวแบบเปิด เตรียมท่อและปลั๊กไฟไว้ให้

เอารูปตัวอย่างครัวของบ้านตัวอย่างมาให้ดูเทียบกันค่ะ ถ้าทำตู้สูงชนฝ้าก็สามารถเก็บของได้พอสมควรเลย

วัสดุห้องน้ำ

อ่างล้างมือชั้นทรงกลม ทำจากเซรามิคสีขาว ยี่ห้อ Englefield  เป็นรุ่นแบบแขวนผนัง

อ่างล้างมือชั้น 2 และชั้น 3 หน้าตาเหมือนกันค่ะ แต่จะก่อเคาน์เตอร์หลังอ่างให้เล็กๆ พอวางของได้เล็กน้อย

ชั้น 1 จะได้ก๊อกแบบหัวหมุนเป็นแฉกๆ

ก๊อกน้ำชั้น 2 และชั้น 3 ได้แบบก้านโยก

กระจกเงาติดผนัง เรียบๆ

โถสุขภัณฑ์สีขาว หน้าตาธรรมดา

ฝักบัวอยู่โดดๆ เลย เตรียมพื้นที่สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้  ส่วนที่วางสบู่หรืออุปกรณ์อาบน้ำต้องซื้อมาติดเพิ่มค่ะ

ประตูห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบบานเลื่อน ลูกบิดประตูจะเป็นทรงกลมๆ แบบนี้

ประตูมีรางเลื่อนติดผนัง ทำรางเก็บไว้เรียบร้อย

ส่วนอาบน้ำ จะยกขอบกันน้ำขึ้นมาประมาณ 8 เซนติเมตร พื้นที่ไม่กว้างไม่แคบ อาบน้ำได้สบายๆ ค่ะ ผนังห้องปูกระเบื้องสีขาว ส่วนพื้นจะปูกระเบื้องสีน้ำตาล

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

รั้วประตูทำจากเหล็กกล่อง ทาสีดำ พับได้เหมือนบานเฟี้ยม

ประตูบ้าน วงกบอะลูมิเนียมอบสีดำ เป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน แข็งแรงดี

แบบล็อคกุญแจธรรมดาจากด้านนอก

ส่วนภายในบ้านเป็นมือจับแบบนี้ค่ะ

ประตูทั่วไปในบ้านจะทำจากไม้อัดปิดผิว ทาสีขาวกึ่งเงานิดๆ คุณภาพปานกลาง

มีตัวกันประตูกระแทกไว้ให้ทุกห้อง

ลูกบิดประตูแบบก้านโยก รูปนี้จากด้านนอกห้อง

ก้านโยกประตูจากในห้องค่ะ

บัวเชิงผนัง PVC สีขาว เก็บความเรียบร้อยภายในบ้าน

ปลั๊กไฟและปลั๊กทีวี

ขั้นบันไดทำจากไม้ยางสีอ่อน  ผิวหน้าไม้และลายไม้ที่ได้มาสวยงามนะคะ

บริเวณรอยจบของบันไดกับผนัง

ราวกันตกอะลูมิเนียมทาสีขาว ขั้นบันไดต่อเนื่องมากไม่มีชานพักบันได เด็กวิ่งๆ ต้องระวัง

เพราะซอยขั้นบันไดเยอะ ทำให้ราวบันไดไม่ต่อเนื่อง จึงจะเห็นเป็นหยักๆ ทุกมุม

หน้าต่างในห้องนอน 2 ที่อยู่ติดหลังบ้านค่ะ ให้หน้าต่างกว้างดี วงกบอะลูมิเนียมสีดำเช่นกัน

พื้นบ้านชั้น 1 เปิดออกไปที่ลานซักล้างหลังบ้าน ของจริงจะเป็นพื้นคอนกรีต แต่ห้องตัวอย่างเอาพื้นไม้เทียมมาปูเพื่อให้สวยงามมากขึ้น

ห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากในตัวบ้านประมาณ 4-5 เซนติเมตร ปิดรอยต่อเรียบร้อย

พื้นชั้น 2 และ 3 ปูไม้ลามิเนต สีสว่าง ผิวสัมผัสธรรมดา ระหว่างพื้นในห้องกับนอกห้องจะมีตัวปิดรอยต่อสีเดียวกับพื้น

วงกบประตูสีขาว สีเดียวกับประตู

ราวกันตกบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์ ทำจากอะลูมิเนียม ทาสีขาว วัสดุเดียวกับที่ทำราวบันได

หน้าตาสวิตซ์ไฟ

ที่ล็อคประตูบานเลื่อนออกระเบียงของชั้น 2 และชั้น 3

ระเบียงทั้งชั้น 2 และชั้น 3 กว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ประตูเปิดได้ฝั่งเดียว

ราวกันตกที่ระเบียงทำจากเหล็กกล่องทาสีดำ ตัวระเบียงทาสีน้ำเงินเข้ม เข้ากับตัวบ้านที่ทาสีเทาอมน้ำเงินได้ดี

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (18 พ.ค. 59) แปลงมาตราฐาน 18.1 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาทค่ะ แปลงที่มีที่ดินเยอะหน่อยราคาก็จะเพิ่มขึ้นตารางวาละ 75,000 บาท ส่วนถ้าเลือกแปลงหัวมุมจะเพิ่มเงินอีก 100,000 บาท

ราคา ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

แปลง D02 ( แปลงกลาง ) พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคา 3,790,000 บาท

แปลง C01 ( แปลงริม ) พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคา 4,945,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 10,000 บาท , ทำสัญญา 20,000 บาท ( ภายใน 15 วัน นับจากวันจอง )

• ผ่อนดาวน์

เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  67 บาท/ตารางวา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)

ค่าธรรมเนียมโอน 2%  (ผู้ซื้อชำระ 1% , ผู้ขายชำระ 1%)

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา 7,020 บาท

ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 7,650 บาท

ค่าอากรและค่าพยาน 500 บาท

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 3,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 25,019 บาท/เดือน

แปลง C01 พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคาขาย 4,945,000 บาท ผ่อนประมาณ 32,643 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 3,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 26,442 บาท/เดือน

แปลง C01 พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคาขาย 4,945,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,500 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 3,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,825 บาท/เดือน

แปลง C01 พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคาขาย 4,945,000 บาท ผ่อนประมาณ 37,610 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 3,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 33,170 บาท/เดือน

แปลง C01 พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคาขาย 4,945,000 บาท ผ่อนประมาณ 43,278 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

แปลง D02 พื้นที่ 18.10 ตร.วา ราคาขาย 3,790,000 บาท ผ่อนประมาณ 42,473 บาท/เดือน

แปลง C01 พื้นที่ 29.50 ตร.วา ราคาขาย 4,945,000 บาท ผ่อนประมาณ 55,4117 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางนั้นต้องเน้นรถยนต์เลยค่ะ เพราะในระยะที่เดินหรือขี่่จักรยานไปแทบจะไม่มีร้านค้าเลย มีแค่หมู่บ้านข้างๆ เท่านั้น หากเดินทางไปด้านพระราม 9, Airport Rail Link หรือลาดกระบัง, สุวรรณภูมิ, พัทยา สามารถใช้เส้นเลียบมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี หน้าโครงการไปได้เลย สะดวกมาก แต่ถ้าจะมาใช้ถนนอ่อนนุชจะต้องขับทะลุซอยเล็กๆ ของถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 วนไปวนมากันหน่อย แต่รวมๆ แล้วหากใช้รถยนต์ก็เดินทางไปได้หลากหลายและไม่ลำบากค่ะ  โดยปกติถ้าใช้เส้นทางถนนเลียบมอเตอร์เวย์นั้นรถไม่ติดอยู่แล้ว

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ย่านนี้ยังไม่มีโครงการ หรือโปรเจ็คใหญ่อะไรมาลง หากจะมีการพัฒนาพื้นที่ก็คงเป็นการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบพวกโครงการบ้านจัดสรรไปเรื่อยๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างเด่นชัดในระยะสั้นถึงระยะกลางค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ภาพรวมของงานดีไซน์บ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช นั้นทำออกมาได้สวย ดูทันสมัยนะคะ  สัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆ ดูไปด้วยกันได้  เลือกใช้โทนสีได้ดี  โทนสีแบบนี้นานไปก็จะไม่ค่อยดูเก่า และเลอะยากกว่าใช้โทนสีขาวสว่างเพียงอย่างเดียว  ด้านการวางแปลนนั้นมีทั้งจุดดีและจุดติในบางส่วน  การแบ่งพื้นที่จัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค สเปซบางส่วนอาจจะดูเล็กไปหน่อย เช่น ห้องน้ำชั้นล่าง  แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่มากนัก  เพราะก็ได้พื้นที่ภ่ยในห้องมาชดเชยกันอยู่ดี

การวางตำแหน่งของบันไดไว้ตรงกลางบ้าน  ทำให้แบ่งสเปซบ้านออกเป็นด้านหน้าและด้านหลังด้วยขนาดพอๆ กัน ทำให้ห้องนอนแต่ละห้องขนาดไม่ต่างกันมาก  ห้องนอนใหญ่ชั้น 2 และ 3 ขนาดเท่ากันเลย  มีระเบียงทั้ง 2 ห้อง  ห้องนอนเล็กด้านหลังที่ชั้น 2 ก็ยังพอวางเตียง queen size ได้ด้วย  หน้าต่างของห้องนอนด้านหลังนั้นให้มาใหญ่กว่าที่ทาวน์เฮ้าส์ปกติให้กัน  จุดที่ติหน่อยก็เป็นเรื่องของขั้นบันไดค่ะ  การซอยขั้นบันไดเยอะแบบไม่มีชานพักช่วยประหยัดพื้นที่ได้ก็จริง  แต่อาจจะเดินลำบากหน่อย และก็ไม่ได้ทำที่บังตาคอมฯ แอร์เมื่อมองจากทางหน้าบ้าน  นอกนั้นฟังก์ชั่นอื่นในบ้านไม่มีอะไรติ  ขนาดของห้องนอนทุกห้องนั้นใช้งานได้จริง ไม่มีห้องนอนที่ถูกบีบจนเล็กเกินไป

ส่วนของวัสดุในภาพรวมนั้นให้มาตามมาตราฐานทั่วไปค่ะ  พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องเซรามิคแผ่นใหญ่  ชั้นบนเป็นลามิเนต ประตูไม้อัด กระจกและบานกรอบภายนอกเป็นอะลูมิเนียมอบสีดำ  บันไดไม้ยาง  ราวจับบันไดไม่มีไม้เป็นอะลูมิเนียมเฉยๆ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของบ้านกลางเมือง พระราม 9 – อ่อนนุช  ทำงานออกมาเรียบร้อยดีนะคะ  สะอาด เนี้ยบ  ทำถนนส่วนกลางได้เนี้ยบมาก  อันนี้ต้องขอชมเลย  คลับเฮ้าส์ทำออกมาได้สวยดี ดูขาวสะอาดตาเพราะว่าใช้สีขาวและกระจกเงาสะท้อนสีเขียวของสวนรอบๆ  สระว่ายน้ำจะมองเห็นสวนสีเขียว  ด้านข้างของสระที่ติดถนนในโครงการดูโป๊ไปนิด  ถ้าปลูกแนวของไม้พุ่มหรือมีต้นโมกเพิ่มเอาไว้พรางสายตาน่าจะดีนะคะ (อันนี้เสนอเพิ่มเติมให้  เพื่อโครงการจะเห็นดีด้วย) และก็มีฟิตเนสด้านบน  สวนและลานกิจกรรมปลูกต้นไม้พอโตกว่านี้ก็คงจะร่มรื่นดี มาเดินพักผ่อนกันได้

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมออนไลน์ให้ร่วมสนุกเพื่อเปิดตัวบ้านแบรนด์ใหม่ล่าสุด “โครงการ VENUE (เวนิว) พระราม 5” บ้านสไตล์โมเดิร์นซึ่งตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณผ่านแรงบันดาลใจของโทนสีขาว ในคอนเซ็ปท์ Shade of White ราคาเริ่มต้น 5.79 ล้านบาท ด้วยการแชร์ภาพความสุขในโทนสีขาว พร้อมคำนิยามว่าสีขาวเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคุณอย่างไร?  เพียง Follow IG : SCASSET แล้วแชร์ภาพพร้อมคำบรรยายและติดแฮชแท็ก #feelVENUE #SCASSET มีโอกาสลุ้นรับจักรยาน TOKYO BIKE สีขาวสไตล์วินเทจฟรี มูลค่า 24,300 บาท  สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 59 ติดตามรายละเอียดและการประกาศผลได้ที่ >>> คลิกที่นี่

งานนี้เตรียมตัวเฮกันได้เลย สำหรับผู้ที่รอคอย โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด จากค่าย บมจ. Origins Property ที่ก่อนหน้านี้ซุ่มพัฒนาโครงการย่านเจริญกรุง เตรียมเปิดโอกาสดีๆ สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ โครงการ “Notting Hill The Exclusive เจริญกรุง” ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 93 เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดในย่านนี้ โดยพัฒนาเป็นอาคารชุดแบบ Low rise จำนวน 8 ชั้น  เพียง 132 ยูนิตเท่านั้น ห่างจากศูนย์รวมไลฟ์สไตล์เอเชียทีคเพียง 140 เมตร การออกแบบค่อนข้างจะออกไปในแนว Art Deco ด้วยเส้นสาย Vertical Facade ที่ดูเรียบหรู  ล่าสุด !! บริษัทฯ เตรียมจัดงาน VVIP Day สำหรับผู้ที่สนใจได้สามารถจองเพื่อเป็นเจ้าของสิทธิ์ก่อนใคร ในวันที่ 25 มิ.ย. นี้

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์ 091 774 9099