Quantcast
Channel: รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ
Viewing all 5526 articles
Browse latest View live

TELA Thonglor (เทล่า ทองหล่อ) คอนโดทองหล่อระดับ Super Luxury จาก เกสร พร็อพเพอร์ตี้ [รีวิวห้องตัวอย่าง]

$
0
0

ในปีนี้คอนโดราคาแพงย่านทองหล่อเปิดตัว(แบบทางการ)กันเยอะมากค่ะ  บางโครงการก็ทยอยขายก่อนเปิดมาตั้งแต่ปีก่อน  เมื่อวานนี้ (10 พ.ค. 59)  Tela Thorlor ซึ่งเป็นคอนโด High Rise ระดับ Super Luxury ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรแพงสุดในปีนี้ก็เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแบบเป็นทางการ  เราเลยแวะเข้าไปเก็บรายละเอียดมาฝากกัน  แม้จะไม่ใช่รีวิวเต็มๆ  แต่ก็ถือว่าดูกันเพลินๆ ว่าของที่ราคาแพงมากๆ ในตลาดบนนั้นเค้าทำกันแบบไหนค่ะ

TELA Thonglor (เทลล่า ทองหล่อ) นั้นใช้คอนเซ็ป Canvas of Life  ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 13 อยู่ช่วงกลางซอยทองหล่อเลยค่ะ โครงการนี้มีมูลค่าโครงการกว่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรนั้นเป็นราคาที่จัดกลุ่มคนรวยและเศรษฐีเงินเหลือใช้  ต่อตารางเมตรก็ประมาณ 300,000 เท่าน้านนน… แม้จะแพงแต่ก็มีคนกระเป๋าหนักซื้อไปแล้ว 50% ค่ะ และส่วนใหญ่เป็นคนไทยซะด้วย

ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ TELA Thonglor นั้นพยายามไม่ขายกับกลุ่มนักลงทุนแต่จะโฟกัสกับตลาดคนซื้ออยู่จริงเองมากกว่า เพราะเงินทำสัญญากับเงินดาวน์ก็ปาเข้าไปร่วม 30% ของราคาขายแล้ว  ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทางของ บเกสร พร็อพเพอร์ตี้ ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการนี้ค่ะ

คอนโด Tela Thorlor นั้น ทางเกสร พร็อพเพอร์ตี้ บอกว่ามีจุดเด่นอยู่ 5 อย่าง คือ

1) ทำเลกลางเมือง ย่านทองหล่อ ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก

2) ที่อยู่อาศัยไม่แออัดและเป็นส่วนตัวมาก เพราะมี 84 ยูนิตเท่านั้น ใน 1 ชั้นจะมีเพียง 4 ห้อง แต่ละห้องจะอยู่ติดหัวมุมได้วิวกันทุกห้องค่ะ

3) ทุกห้องได้ระเบียงยาว โดยเฉพาะห้องแบบ 3 ห้องนอน ที่ได้ระเบียงยาวถึง 17 เมตรเลย ซึ่งเป็นระเบียงที่เชื่อมห้องต่างๆ เข้าด้วยกัน เดี๋ยวจะพาไปดูในหัวข้อล่างๆ ค่ะ

4) ทุกห้องนั้นได้ลิฟต์ส่วนตัว คือเข้าลิฟต์จากชั้นล่างมา เปิดประตูลิฟต์ก็เข้าห้องของตัวเองได้เลย

5) งานออกแบบและของตกแต่งมีคุณภาพดี

 

ก่อนดูห้องตัวอย่าง  เราไปดูข้อมูลโครงการเบื้องต้นกันก่อนค่ะ

คอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 4

TELA Thorlor

 

TELA Thorlor ( เทลล่า ทองหล่อ )

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เกสร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนทองหล่อ ( ปากซอยทองหล่อ 13 )
  • ขนาดที่ดิน >>> 1 – 3 – 63 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> 33 ชั้น
  • จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>
    • 2 ห้องนอน (Tela Sienna, Tela Amber) 111 ตร.ม. จำนวน 40 ยูนิต
    • 3 ห้องนอน (Tela Legacy Suite A&B) 201-202 ตร.ม. จำนวน 40 ยูนิต
    • 3 ห้องนอน (Deplex Signature Suite) 230 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
    • 3 Plus 1 ห้องนอน Deplex (Sky Duplex Suite) 338 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
  • จำนวนยูนิต >>> 84 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 138 คัน ( 156% )
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 10/05/59
    • 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 32 ล้านบาท
    • 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 60 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 300,000 บาท/ตร.ม.
  • พิกัด GPS >>> 13.733633, 100.581980

ที่ตั้งโครงการ

คอนโด TELA Thonglor ตั้งอยู่ในซอยสุขุทวิท 55 หรือซอยทองหล่อ อยู่หัวมุมซอยทองหล่อ 13 ซึ่งเดิมทีเป็นร้านอาหารต้นเครื่อง ด้านข้างโครงการด้านนึงจะติดกับซอยทองหล่อ 13 อีกข้างนึงจะติดกับ Starbucks ทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เป็นร้านอาหารต่างๆ รอบๆ ตัวนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ทั้งร้านค้า Pub&Restaurant ร้านอาหาร ร้านค้า โรงพยาบาล ธนาคาร และคอมมูนิตี้มอล โครงการที่อยู่ใกล้ๆ เช่น J Avenue, Seenspace 13, The Taste Thonglor, Grass on Thonglor และในอนาคตอาจจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่าน ซึ่งที่ตั้งโครงการ เทลล่า ทองหล่อ จะใกล้กับสถานีทองหล่อ 10 เลยค่ะ จะทำให้ยิ่งสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้คอนโดอยู่ไกลจากตัว BTS ทองหล่อมากทีเดียว

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้น หากรถไม่ติดจะสะดวกมากเพราะตั้งอยู่ในซอยที่เชื่อมถนนหลัก 2 เส้น คือ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีค่ะ ซอยทองหล่อ 13 เป็นซอยที่สามารถทะลุไปออกสุขุมวิท 49 หรือ 50 ได้ ซึ่งเมื่อตรงเข้าซอยไปจะเจอกับโรงพยาบาลสมิติเวชพอดีอีกด้วย
แผนที่คอนโด Tela Thonglor - ภาพที่ 1

โครงการไม่มีแปลนหรือผังอะไรให้ดูทั้งสิ้นนะคะ  มีแต่โมเดลกับห้องตัวอย่างให้ดู  เราเลยเก็บรายละเอียดมาฝากกันเท่าที่ทำได้ค่ะ

โมเดล

TELA Thonglor สูง 33 ชั้น ด้านนี้จะเป็นด้านหน้าที่หันเข้าหาถนนทองหล่อค่ะ เป็นทางเข้าหลักของโครงการ

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 3

 

ชั้นล่างเป็น Lobby ชั้น 2 – 4 เป็นชั้นจอดรถ ที่ชั้น 5 จะเป็นชั้น Facilities และเริ่มห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 ขั้นไป

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 2

 

ชั้นล่างด้านหน้าติดถนน จัดเป็นบ่อน้ำ และปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ Facade ชั้นจอดรถทำเป็นต้นไม้แนวตั้ง ( Greenery Wall ) สลับกับแผงบังแดดสีเทาๆ ทำให้คอนโดดูร่มรื่นมากขึ้น

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 9

 

สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 5 มีความยาวรวม 25 เมตร สามารถว่ายแนวยาวพร้อมกันได้ 3 ลู่ และมีบางส่วนลดความลึกสำหรับเด็ก ห้องฟิตเนส พื้นที่สปา บิวตี้ซาลอนส่วนตัว ห้อง Residential Club และห้อง Function Room สำหรับให้ผู้พักอาศัยจัดเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ได้

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 8

 

ด้านข้างของอาคาร ด้านนี้จะไม่มีระเบียงห้องค่ะ

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 7

 

ด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร จะเป็นด้านที่มีระเบียงห้องยาวค่ะ รูปนี้เป็นรูปด้านหลังอาคาร เป็นทิศที่จะหันหน้าเข้าไปในซอยทองหล่อ 13

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 1

 

ชั้น Typical จะเป็นชั้นที่มี ห้องแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน อยู่ด้วยกันอย่างละ 2 ห้อง ที่เห็นในภาพ ทางซ้ายมือคือห้องแบบ 2 ห้องนอน จะมีระเบียงสั้นกว่า แบบห้อง 3 ห้องนอนทางขวามือของภาพค่ะ ซึ่งด้านหน้าโครงการก็จะมีลักษณะนี้เหมือนกัน

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 6

โมเดลห้องตัวอย่างของแบบ 2 ห้องนอน ( Tela Sienna , Tela Amber ) ลองสังเกตทางด้านล่างซ้ายของภาพนะคะ จะเป็นตัวลิฟต์ค่ะ คือ เปิดประตูลิฟต์ก็ออกมาก็เข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นได้เลย ส่วนทางขวามือของภาพจะเป็นระเบียงยาววว ทำให้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นเปิดไปที่ระเบียงได้ค่ะ

โมเดลคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 4



ห้องตัวอย่าง

 

ห้องตัวอย่างนี้ จะเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน ( Tela Legacy Suite A&B ) มีพื้นที่ใช้สอย 201-202 ตารางเมตร ลิฟต์จะอยู่ในสุด ซึ่งออกมาแล้วจะเจอกับตู้สีน้ำตาล เป็นพื้นที่เก็บของด้านหน้า แล้วก็จะมีประตู Digital Door Lock อีกชั้นนึงก่อนจะเข้ามาในห้องค่ะ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะรับประทานอาคารค่ะ แล้วก็จะเป็นระเบียง (ซึ่งเป็นจุดที่ยืนถ่ายภาพนี้) ความสูงในห้องโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3.2 เมตร ที่ Balcony ฝ้าสูง 2.7 เมตร

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 18

 

พื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง ติดกับห้องนั่งเล่น นั่งชิลล์ๆ ไป ระเบียงกว้าง

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 4

 

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และครัวอยู่ด้านใน โครงการนี้นอกจากมีจุดเด่นอยู่ที่ระเบียงยาวแล้ว จะเน้นเลือกใช้วัสดุเกรดดี (ให้สมกับราคาห้องหล่ะนะ) เช่น พื้นไม้ Engineering Wood ที่ทำหน้าไม้เปิดเสี้ยนนิดนึงให้มีผิวสัมผัสแบบไม้จริง ความกว้างแผ่นพื้น 6 – 8 นิ้ว, มีไฟสำรองฉุกเฉินส่องไฟไปที่พื้น ในยามเกิดเหตุเพลิงไหม้ เหมือนกับที่ตามโรงแรม

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 19

ได้เคาน์เตอร์ครัวสั่งทำพิเศษจากหินสังเคราะห์ และตู้เก็บของครบชุดแบบ Soft Close แบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนจะได้สีไม่เหมือนกัน ชุดครัวจากแบรนด์อิตาลี Binova และเครื่องใช้ไฟฟ้า Bertazzoni ได้ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ แต่ไม่รวมเครื่องทำกาแฟที่อยู่ขวามือสุดค่ะ เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นแบบ 2 ห้องนอนจะได้ไม่เหมือนกันเนื่องจากพื้นที่ไม่เหมือนกันค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 20

ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร นั่งได้ 8 – 10 ที่ วางโต๊ะใหญ่ได้สบายมาก

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 17

 

ทางเดินจากพื้นที่ครัวไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง แต่ละห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 6

 

ห้องน้ำกลางเข้าได้จากทางเดิน โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือยี่ห้อ Duravit

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 5

 

ต่อด้วยห้องนอน 2 เปิดเข้ามาเป็นตู้เสื้อผ้าทางขวามือ และมีห้องน้ำในตัว

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 7

 

ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานค่ะ ได้ไฟเป็น LED Lighting ในห้องนอนทุกห้อง

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 15

 

สามารถวางเตียง Queen Size และ King Size ได้สบายๆ

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 14

 

สุดทางเดินเป็น Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้จะมี Walk-in Closet

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 11

 

ได้ห้องน้ำแบบ Sexy Bath พื้นห้องน้ำทำเป็นพื้นหิน (Compressed Mable, Composite quartz) ไม่ใช่พื้นกระเบื้อง เพราะต้องการให้มีอายุการใช้งานยาวนาน และแข็งแรงกว่า

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 8

 

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her จาก Duravit ก๊อกอ่างอาบน้ำต่างๆ จะใช้ยี่ห้อ Hansgrohe รุ่น Select

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 9

 

ส่วนฝักบัวได้แบบ Rain Shower และ Hand Shower จากยี่ห้อ Hansgrohe ค่ะ รุ่น Select ประมาณว่าน้ำจะไม่แรงกระแทกผิว แต่จะให้น้ำนุ่มนวลเหมือนกับอาบน้ำฝนค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 10

 

ตอนนี้เรามายื่นที่ระเบียงแล้วถ่ายรูปกลับเข้าไปในห้องนอน Master Bedroom ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 12

 

เดินผ่านห้อง Master Bedroom ออกมาที่ระเบียงค่ะ ส่วนนี้จะลดระดับจากพื้นห้องลงมาอีกหน่อย ภาพนี้จะเห็นว่าระเบียงเชื่อมห้องนอนทั้งสามห้องและสุดทางเป็นห้องนั่งเล่น ทุกห้องเปิดประตูมาที่ระเบียงได้หมดเลยค่ะ โดยแต่ละห้องจะได้ประตูประจกบานเลื่อน Double Glazed ป้องกันความร้อน พื้นที่ระเบียงทำจาก Composited Wood ไม้ผสมเรซิน มีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปี แต่ระเบียงทางซ้ายมือจะเป็นระเบียงสูงประมาณ 90 เซนติเมตรนะคะ ไม่ใช่สูงแบบนี้

ห้องตัวอย่างคอนโด TELA Thorlor - ภาพที่ 13

 

นอกจากนี้ยังมีห้อง Maid และครัวไทยให้อีกด้วย

จบแล้วค่ะ สำหรับพรีวิวสั้นๆ ของ TELA Thonglor ซึ่งเป็นคอนโดระดับ Super Luxury รายละเอียดก็สรุปมาให้เท่าที่หาได้นะคะ  แน่นอนว่าราคาคอนโดระดับนี้ไม่ใช่ตลาดของเหล่านักเก็งกำไรแน่นอน  และก็ไม่ใช่ตลาดที่มองหาความคุ้มค่าของเงินที่ลงทุนไปด้วย  แต่เป็นตลาดที่ซื้อขายกันด้วย Emotional Benefits ล้วนๆ สำหรับคนรวย มีไลฟ์สไตล์หรูหรา และชอบความเป็นส่วนตัวค่ะ  ส่วนคนทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ก็ถือว่าดูไว้ศึกษากันเนอะ  ^__^

วันนี้ลาไปก่อนนะคะ  สวัสดีค่ะ


Life Sukhumvit 48 ( Life สุขุมวิท 48 ) คอนโดตึกคู่ ซอยสุขุมวิท 48 จาก AP [พรีวิว]

$
0
0

Life Sukhumvit 48  เพิ่งเปิด Teaser ภาพแรกออกมาไม่นาน  หลายคนก็คงรู้ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโดอยู่แล้วว่าอยู่ในซอยสุขุมวิท 48 ซึ่งที่ดินอยู่ด้านหน้าติดกับคอนโด Aspire Sukhumvit 48  ที่ AP ได้ที่ดินมาเก็บไว้ในมือนานแล้วนั่นเอง  ข้อมูลยังมีไม่เยอะ  เลยลงพรีวิวไว้ให้ดูก่อนเป็นน้ำจิ้ม  แล้วเดี๋ยวจะทยอยนำมาเพิ่มให้เมื่อมีข้อมูลมากกว่านี้นะคะ

คอนโด Life Sukhumvit 48 (Life สุขุมวิท 48) เป็นคอนโด High Rise แยก 2 อาคาร  แบบเดียวกับที่ทำที่ Aspire Sukhumvit 48  ระยะเดินจากปากซอยสุขุมวิท 48 ก็ประมาณ 600 เมตร  รวมเข้าซอยอีกหน่อย


คอนโด Life Sukhumvit 48 - ภาพที่ 1

 

Life Sukhumvit 48 ( ไลฟ์ สุขุมวิท 48 )

  • เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand) (บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน))
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 48  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดที่ดิน >>> ประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 99  ตารางวา ( 1,499 ตารางวา)
  • จำนวนอาคาร >>> 3 อาคาร (อาคารที่พักอาศัย 2 อาคาร และอาคารจอดรถ 1 อาคาร)
  • จำนวนชั้น >>> 3 อาคาร
    • อาคาร N สูง 19 ชั้น
    • อาคาร S สูง 31ชั้น
    • อาคาร C สูง 9 ชั้น (เป็นอาคารจอดรถ มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น)
  • ประเภทห้อง และขนาดห้อง >>> เริ่ม 30 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>> 612 ยูนิต + 1 ร้านค้า (กรรมสิทธิ์ของทางAP)
    • อาคาร N มี 153 ห้องพักอาศัย 1 ร้านค้า
    • อาคาร S มี 459 ห้องพักอาศัย
  • ที่จอดรถ >>> N/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.49 ล้านบาท (ณ วันที่ 12/5/2016)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเริ่มต้น 83,000 บาท/ตารางเมตร (Fully Fitted)
  • พิกัด GPS >>> 13.711569, 100.594611
  • เว็ปไซต์ >>> www.apthai.com/คอนโด/life/life-sukhumvit-48/
  • โทร >>> 1623

ที่ตั้งโครงการ

Life Sukhumivit 48  อยู่ลึกเข้าไปในจากปากซอยสุขุมวิท 48 ประมาณ 100 เมตร  ซอยสุขุมวิท 48 นี้เป็นซอยแคบๆ ปลายตันต่ะ  ที่ดินของ Life สุขุทวิท 48 อยู่ด้านหน้าของคอนโด แอสปาย สุขุมวิท 48 โดยใช้รั้วร่วมกัน (อ่านรีวิว > Aspire สุขุมวิท 48)  ซอยนี้เป็นซอยที่อยู่ระหว่าง BTS พระโขนง และ BTS อ่อนนุช ค่ะ สามารถเดินไปขึ้นสถานีพระโขนงได้ใกล้กว่าในระยะ 600 เมตร จากปากซอยสุขุมวิท 48 สามารถใช้ถนนสุขุมวิทไปทางโซนพร้อมพงษ์, อโศกได้  เลี้ยวเข้าพระราม 4 ได้ ในทางกลับกันจะไปทางอ่อนนุช, บางนา ก็ใช้สุขุมวิทขาออก  ทางด่วนที่อยู่ใกล้สุดจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 (ด่านสุขุมวิท 50) ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครได้
แผนที่คอนโด Life Sukhumvit 48 - ภาพที่ 1

Life Sukhumvit 48

กราฟิกสีชมพูที่ไฮไลท์เอาไว้คือแปลงที่ดินของ Life สุขุมวิท 48 นะคะ  รูปนี้ถ่ายจากบนตึก N ของ Aspire สุขุมวิท 48  จะเห็นว่าตัวที่ดินนั้นจะอยู่เฉพาะในแนวของตึก N  ส่วนตึก S ของแอสปาย สุขุมวิท 48 นั้นไม่ชนกับตัว Life สุขุมวิท 48 ค่ะ  แน่นอนว่าการวางแนวตึกของทั้ง 2 โครงการติดกันนี้ จะต้องมีผลกับมุมมองบางส่วนแน่นอน  เดี๋ยวได้ผังจริงมาเมื่อไหร่  จะวางลงในที่ดินแล้วมาวิเคราะห์ให้ฟังกันนะคะ

Origins โชว์ศักยภาพผลประกอบการไตรมาสแรก เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมรายได้เติบโตและสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 32.8%

$
0
0

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  โชว์ศักยภาพการบริหารงานเติบโตอย่างมั่นคง สวนกระแส เศรษฐกิจ โดยในไตรมาสแรกของปี 2559 บริษัทสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเกินกว่ายอดรายได้ที่ประมาณการไว้ถึง 32.8% ส่งผลให้มีรายได้รวม 532 ล้านบาท นอกจากนี้ ในไตรมาสแรกของปี 2559 สามารถสร้างยอดขายพรีเซลสูงถึงกว่า 1,200 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ 6.6% มั่นใจทั้งปีรายได้โตตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ “ORI” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2559  บริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายถึงกว่า 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 773 ล้านบาท มีรายได้ 532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทสามารถสร้างรายได้ และยอดขายที่ดีกว่าเป้าที่วางไว้ แม้ว่ายอดโอนสิทธิ์บางส่วน จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจ แต่ความต้องการซื้อจากลูกค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดขายในไตรมาส 1 ของปี 2559 ที่ดีเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑลยังคงได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง

นายพีระพงศ์ จรูญเอก - ภาพที่ 1

นายพีระพงศ์ จรูญเอก

บริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ดี และสามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและประสบผลสำเร็จในทุกโครงการที่เปิดขาย ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโต เกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทได้ตั้งไว้ ทั้งในส่วนของการรับรู้รายได้ และยอดขาย แม้ว่าจะเกิดความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจขึ้นก็ตาม นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาโครงการตามแผนงานที่วางไว้ในปี 2559 ที่จะเปิดโครงการให้ได้ถึง 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัท ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน  โดยในไตรมาสแรกนี้ มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 45.3% และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 88.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 16.6% ซึ่งนับเป็นประสิทธิภาพที่ดีในลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม

ในแง่ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน บริษัทมีการก่อหนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดย ณ สิ้นไตรมาสหนึ่งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่เพียงแค่ 1.07 เท่า (IBD/E 0.5) ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงทางการเงิน ตลอดจนศักยภาพในการขยายธุรกิจได้อีกมากในอนาคตโดยสำหรับแผนธุรกิจในปี 2559 นี้ บริษัทยังคงแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

CMC Group มอบสิทธิพิเศษ กับ 2 คอนโดใหม่ใกล้สาทร-สีลม พร้อมอยู่เร็วๆ นี้

$
0
0

2-คอนโดใหม่_CMCโครงการ แบงค์คอก ฮอไรซอน สาทร (Bangkok Horizon Sathorn)  คอนโดมิเนียมใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ใจกลางธุรกิจ บนถนนสาทร-นราธิวาส 14 ที่เข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายในทุกการออกแบบ ทุกรายละเอียดได้อย่างลงตัว บนทำเลคุณภาพ ซอยนราธิวาสฯ 14 พื้นที่โครงการกว่า 1-2-62.0 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัย 266 ยูนิต เป็นคอนโดมิเนียมสูง 24 ชั้น โดยมีขนานห้องพักอาศัยให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 27- 42 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 51-56 ตร.ม., และแบบ 1 ห้องนอนชนิด DUPLEX พื้นที่ใช้สอย 49-72 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.2 ล้านบาท

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ด้วยกล้อง CCTV
  • Maibox Room ครบทุกชนิด
  • เข้า-ออกประตูส่วนกลาง ด้วยระบบคีย์การ์ด
  • สวนหย่อมพักผ่อนที่ชั้น 1, 6, 8, 13, 18 Roof และชั้น 20
  • ห้องออกกำลังกาย ที่ชั้น 6
  • Game Room
  • พื้นที่ส่วน Lobby ต้อนรับและพื้นที่นั่งเล่น
  • ระบบ Wireless High Speed Internet Access ในพื้นที่บริเวณ ส่วนกลางห้องฟิตเนส
  • ห้องซาวน่าแยกชาย-หญิง
  • ระบบป้องกันอัคคีภัย เช่น Heat Detector, Smoke Detector และSprinkler

เดินทางสะดวกสบายทุกการเดินทางบนทำเลใจกลางเมือง พร้อมการเข้าสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.บีเอ็นเอช, สนง.ตำรวจแห่งชาติ, ม.จุฬาลงกรณ์, สยามเซ็นเตอร์, สยามสแควร์, มาบุญครอง

และโครงการแบงค์คอก เฟ’ลิซ สาทร-ตากสิน (Bangkok Feliz Sathorn-Taksin)  คอนโดใหม่ ใกล้ BTS สถานีกรุงธนบุรี เพียงแค่ 1 นาที สู่ย่านธุรกิจสาทร พร้อมตอบสนองความต้องการด้วยพื้นที่ที่มีระดับ การอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวออกแบบเพื่อรองรับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ความสุขเต็มรูปแบบด้วยเพื่อรองรับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ความสุขเต็มรูปแบบด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3000 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยกรุงธนบุรี 5 คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 200 ยูนิต ด้วยขนานห้อง แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 30-30.20 ตร.ม., แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ 47-56.20 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สระว่ายน้ำ, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยกล้อง CCTV, สวนหย่อมพักผ่อนที่ชั้น 1,2 และชั้นดาดฟ้า, ห้องออกกำลังกายที่ชั้น 2, ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน บริเวณทางเดินร่วม และบันไดหนีไฟ, ระบบป้องกันอัคคีภัย, ระบบ Wireless High Speed Internet  ในพื้นที่บริเวณชั้น 2, ระบบ Visitor VDO Calling บริเวณโถง Lobby ชั้น 1, สระวายน้ำ สะดวกและใกล้ทุกจุดมุ่งหมายภายใต้การเดินทางที่รองรับทุกความต้องการ คอนโดใกล้ BTS สถานีกรุงธนบุรี ที่ๆ ทำให้ทุกการเดินทาง เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

Siam Discovery โฉมใหม่ เปิดอย่างเป็นทางการ 28 พฤษภาคม นี้ ในฐานะ The Biggest Arena of Lifestyle Experiments

$
0
0

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ประกาศกำหนดการเปิด Siam Discovery (สยามดิสคัฟเวอรี่) อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้ และพร้อมเปิดประตูให้คนรุ่นใหม่หัวใจแรงได้เข้าสู่สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์  โดยสยามดิสคัฟเวอรี่จะกลายเป็น Lifestyle Specialty Store ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังจากพลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท 

นายชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “Siam Discovery โฉมใหม่เป็นการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางในรูปแบบ  Hybrid Retail แห่งแรกของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ซึ่งด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ คาดว่ารายได้ต่อตารางเมตรของ Siam Discovery จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า”

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 2)

Siam Discovery โฉมใหม่

 

Siam Discovery The Exploratorium จะเป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่เปรียบเสมือนสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดตื่นเต้นเร้าใจ เชิญชวนทุกคน ‘มาเล่นสนุกด้วยกัน’! โดยมอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริง โดยทุกมิติของการนำเสนอ ถูกเนรมิตให้ ‘เข้าถึงใจ’ ลูกค้ามากที่สุด นำเสนอโดยผสมผสานหลากหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้คน เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา มอบพลังอำนาจความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ทดลอง ปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อ ให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลได้ จากสินค้าที่มีอยู่มากกว่า 5,000 แบรนด์ ในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 1)

สยามดิสคัฟเวอรี่ โฉมใหม่

Siam Discovery โฉมใหม่ นั้นทางสยามพิวรรธน์ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในงานเปิดตัว โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์เหนือความคาดหมายได้ก่อนใคร  รับสมัครผู้สนใจมาร่วมเป็นหนึ่งใน 500 คนแรก  ทาง www.siamdiscovery.co.th  ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเชิญมาเยี่ยมชมสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่  ก่อนใครในวันที่ 24 พฤษภาคม 2559

นอกจากนี้ จะมีกิจกรรมเดินสายโรดโชว์ของดิสคัฟเวอรี่แมน ขนาดยักษ์  สูงกว่า 5 เมตร ไปยังสถานที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ สวนจตุจักร สะพานลอยข้ามแยกสาทร – นราธิวาส  สีลม และพาร์คพารากอน พร้อมกิจกรรมสนุกๆ มากมาย เพื่อเชิญชวนผู้สนใจร่วมเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้เข้ามาสัมผัสรูปโฉมใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรี่ในรอบเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิวในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ก่อนเปิดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป”

 

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 4)

คุณชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร ให้สัมภาษณ์ในบรรยากาศสบายๆ

 

แบรนด์ดังร่วมขบวนเปิดตัวครั้งแรกในโลก และเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

 

นายชาญชัย กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ  ได้ถูกนำเสนอกระจายตัวอยู่ทั่ว ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 8 ชั้นของสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยแต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามสินค้าบริการและบุคลิกของแต่ละชั้น อาทิ

  • ชั้น G เรียกว่า Her Lab แฟชั่นล้ำเทรนด์และบริการสุดพิเศษสำหรับสุภาพสตรี
  • ชั้น M เรียกว่า His Lab ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสุภาพบุรุษ
  • ชั้น 1 เรียกว่า Street Lab สินค้าแนวสตรีทแฟชั่น
  • ชั้น 2 เรียกว่า Digital Lab สินค้าที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล
  • ชั้น 3 เรียกว่า Creative Lab มอบแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ
  • ชั้น 4 เรียกว่า Play Lab มิติใหม่ของความสนุกสนานและเป็นสังคมของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันมาแลกเปลี่ยน และแชร์ประสบการณ์ร่วม
  • ชั้น 5 และชั้น 6 Virgin Active Fitness

ทั้งนี้ มีแบรนด์หรือร้านค้าที่เป็นไฮไลท์ในหมวดหมู่สินค้าประเภทต่างๆ 5 ประเภท

1) สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน (Everyday Products)

2) สินค้านำเทรนด์ที่ก้าวล้ำทุกกระแสโลก (Trend Products)

3) สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด (Innovative Products & Services)

4) สินค้าที่ผลิตสร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products)

5) สินค้าในรูปแบบ Collaboration and Absolute Siam Products

 

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 10)

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 11)

 

สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน (Everyday Products) ที่ตอบสนองทุกความต้องการ อาทิ

  • O.D.S. (Object of Desire Store)  รวบรวมสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดัง โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ คัดสรรสินค้าและงานดีไซน์ที่โดดเด่นจากนักออกแบบที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบ อาทิ Demark นำเสนอกว่า 160 แบรนด์ พื้นที่กว่า 600 ตร.ม.
  • Loft โฉมใหม่กับคอนเซ็ปท์การออกแบบใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลก ซึ่งออกแบบดีไซน์ตกแต่งร้านโดย Nendo ดีไซเนอร์ชื่อดังของโลกร่วมกับทีมนักออกแบบฝีมือดีที่สุดของ Loft Japan  และยังมีสินค้า private brand ของลอฟท์ ที่นำเข้าส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 80%,
  • Nike คอนเซ็ปท์สโตร์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีมีสินค้าที่ครบไลน์  และที่พิเศษคือมีบริการปักชื่อบนเสื้อหรือรองเท้าในแบบเฉพาะบุคคล และนวัตกรรมการเลือกบราสำหรับสาวรักการออกกำลังกาย
  • Barberford Noir นำเสนอบริการ grooming ที่ครบวงจรสำหรับสุภาพบุรุษ
  • Skin Lab ที่คัดสรรแบรนด์สกินแคร์ น้ำหอม เครื่องสำอางสำหรับทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษมานำเสนออย่างครอบคลุม ตลอดจนสินค้า organic ที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

 

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 13)

 

สินค้านำเทรนด์ที่ก้าวล้ำทุกกระแสโลก (Trend Products) อาทิ

  • Issey Miyake เปิดคอนเซ็ปท์ World of Issey Miyake นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในโลก รวบรวมนำเสนอสินค้าแฟชั่น Issey Miyake ที่ครบไลน์มากที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นจะมีสินค้า Issey Miyake สำหรับสุภาพบุรุษเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย
  • Hay, Tom Dixon และ Kartell แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้านยอดฮิตระดับโลก ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ เปิดคอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
  • Artist’s Design Products หรือ สินค้าที่ดีไซน์จากผลงานการออกแบบของศิลปินระดับโลกอย่าง Yayoi Kusama และ Lisa Larson แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย นำเสนอสินค้าหลากหลายโดนใจคนรักงานอาร์ท
  • CAZH รวบรวมสินค้าแฟชั่นแนว Casual และ Street Style หลายแบรนด์  โดยคัดสรรเฉพาะแบรนด์ยอดฮิตทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอกโดยดีไซเนอร์ชั้นนำ พร้อมด้วยบริการพิเศษดีไซน์และตัดกางเกงยีนส์สำหรับทุกรูปร่างแบบเฉพาะบุคคล
  • Pursuit มัลติแบรนด์สโตร์สำหรับสุภาพบุรุษที่จะเป็น Gentlemen Club ใจกลางเมือง แห่งล่าสุด นำเสนอสินค้าแฟชั่นสำหรับผู้ชาย พร้อมบริการตัดสูท เสื้อเชิ้ตแบบเทเลอร์เฉพาะตัวด้วยช่างฝีมือ
  • Hackett คอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย แบรนด์แฟชั่นผู้ชายที่กำลังได้รับความนิยมจากประเทศอังกฤษ นำเสนอสินค้าครบไลน์สำหรับทุกลุคและทุกสไตล์การแต่งตัว พร้อมบริการตัดสูทให้เหมาะกับทุกรูปร่างแบบเฉพาะบุคคล
  • Comme des Garcons แฟล็กชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำเสนอสินค้าที่ครบไลน์มากที่สุด
  • Asian Designers Hub  ครั้งแรกในประเทศไทยกับศูนย์รวมแบรนด์แฟชั่นเอเชี่ยนดีไซเนอร์สุดฮอตในประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Best of Tokyo Fashion หลากหลายแบรนด์แฟชั่นที่ผ่านการคัดสรรแล้วว่าน่าจับตามองที่สุดของญี่ปุ่น นำเสนอแบบจัดเต็มสำหรับทั้งหญิงชาย อวดฝีมือการดีไซน์ของนักออกแบบแฟชั่นชาวเอเชียที่ไม่เป็นรองใคร โดยแบรนด์ที่มาเปิดตัวแห่งแรกในประเทศไทยมากมาย อาทิ Yoshio Kubo, Factotum, Beautiful People, Dressed Undressed และ Discord by Yoji Yamamoto, และ
  • Billboard Café ครั้งแรกในโลก โดยนิตยสาร Billboard นิตยสารดนตรีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดทั่วโลกนำเสนอประสบการณ์ด้านเสียงเพลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ดีไซน์เป็นคาเฟ่สำหรับคนรักเสียงเพลงผ่านการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มีมุมอาหารและเครื่องดื่มจาก Dean and Deluca และมีการจัดรายการวิทยุแบบสดๆ

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 5)

 

สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด (Innovative Products & Services) อาทิ

  • Alpha Runner สปอร์ตคอนเซ็ปท์สโตร์ ที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่นักกีฬาตัวจริงพลาดไม่ได้ ครบครันด้วยสปอร์ตแวร์หลากหลายและโดดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้บริการเลือกรองเท้าที่เหมาะกับสรีระและการใช้งานของแต่ละคน ตอบสนองทั้งการวิ่ง การปั่นจักรยาน และไตรกีฬา
  • Dressing Room นวัตกรรมใหม่ของการบริการในธุรกิจค้าปลีก ที่สยามดิสคัฟเวอรี่คิดค้นขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์สุดล้ำในแบบ Personalized ด้วยบริการพิเศษ  สไตลิสต์ส่วนตัว ช่วยเลือกสินค้าแฟชั่นและ accessories ที่ครบครัน จัดเตรียมไว้ให้ในห้อง Dressing Room ส่วนตัว สำหรับผู้แจ้งรับบริการล่วงหน้าและระบุธีมที่ต้องการ เพื่อทดลองสวมใส่จริง มิกซ์แอนด์แมทช์ ค้นหาตัวตนและแบบที่เหมาะได้อย่างสะดวกสบายและเพลิดเพลิน
  • DISCOVERY HUBBA ซึ่งเป็น Co-working Space ด้วยการร่วมมือกับ Hubba นำเสนอนวัตกรรมทางความคิด และการจัดการที่มากกว่าการมอบพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความฝันในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังเสริมด้วยกิจกรรมพิเศษและการจัดเวิร์คช็อป สร้างสังคมใหม่ของการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก เป็น Retails Startup ให้แก่คนรุ่นใหม่

 

สินค้าที่ผลิตสร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products) อาทิ

  • Tokyobike ที่จะเป็นคอมมูนิตี้กลางเมืองแห่งใหม่ล่าสุดของคนรักการปั่นจักรยาน นำเสนอสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการปั่นจักรยานอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมบริการฟิตติ้งจักรยานคู่ใจให้รับกับร่างกายของผู้ขับขี่โดยเฉพาะ มีพื้นที่สำหรับเทสต์ไรด์พร้อมให้ทดลองปั่นจักรยาน พร้อมพื้นที่ Bike Park สำหรับจอดรถจักรยาน
  • Starbucks Coffee ที่พิเศษกว่าทุกสาขาที่เคยมีมาด้วยคอนเซ็ปท์ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจการตามนโยบายเพื่อสังคม ด้วยการจัดระบบแฟร์เทรดที่มีการจัดซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรงมาจัดจำหน่ายถึงมือผู้บริโภค และยังนำเสนอ coffee drip เพื่อคอกาแฟตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งร้านที่ดีไซน์เพื่อสยามดิสคัฟเวอรี่โดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำกากกาแฟมารีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน
  • Veda Salon โดยแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออร์แกนิกคุณภาพระดับโลก Aveda สร้างสรรค์ขึ้นเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มบริการ Head Spa ซึ่งเป็นบริการพิเศษที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Aveda และมีเฉพาะสาขาสยามดิฟคัฟเวอรี่แห่งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 6)

 

สินค้าในรูปแบบคอลลาโบเรชั่นและสินค้าแอ๊ปโซลูทสยาม (Collaboration and Absolute Siam Products)”

ซึ่งเป็นสินค้า Absolute Siam ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ที่เดียวเท่านั้น พร้อมมอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน อาทิ

  • Toys Station ที่จะเปลี่ยนสยามดิสคัฟเวอรี่ให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของคนรักของเล่นและดีไซน์ทอยส์มารวมตัวกัน และเป็นสังคมแลกเปลี่ยนความรู้และของสะสม ยิ่งไปกว่านั้นจะมีความร่วมมือระหว่าง Toys Station และ Sony เพื่อเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Play Station รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
  • Café Now by Propaganda การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ Propaganda ผนึกกำลังกับเชฟ โบ – ดวงพร ทรงวิศวะ เสิร์ฟอาหารอร่อยภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบให้สนุกสนานในทุกครั้งที่มา พร้อมสินค้า grocery ให้เลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย
  • Must Love Mac คอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรก คอมมูนิตี้สำหรับคนรัก Mac นำเสนอสินค้าครบครันพร้อมอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่หลากหลาย และมีบริการ personalize iPhone และ MacBook Case ที่นี่ที่เดียว
  • Adidas คอนเซ็ปท์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แนวคิด Interactive Store Concept ที่มาพร้อม Exclusive Collection
  • Vans, Palladium, Converse และ Asics ขนรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดมานำเสนอเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ก่อนใคร
  • Mos Bag แบรนด์เครื่องหนังคุณภาพ พิเศษด้วยบริการ Personalized ปัก ตอก ชื่อและลายเพื่อให้ได้สินค้าชิ้นโปรดที่พิเศษเฉพาะบุคคล

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 12)

 

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมนำเสนอที่สุดแห่งปรากฏการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหาร ด้วยการผสมผสานร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันกับพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่กิจกรรมต่างๆ อย่างผสมกลมกลืน โดยได้จัดสรรพื้นที่มากกว่า 2,500 ตารางเมตรครอบคลุมทั่วทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นที่สุดของปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“โดยในช่วงปีแรกที่เปิดบริการ สยามพิวรรธน์ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ 100,000 คนต่อวัน โดย 65% เป็นลูกค้าคนไทย และ 35% เป็นลูกค้าต่างชาติ” นายชาญชัย กล่าว

 

Siam Discovery โฉมใหม่ (ภาพที่ 9)

 

 

“ซีนิคอล กรุ๊ป” เร่งก่อสร้าง “เขาใหญ่ ฟอเรสต้า” คอนโดระดับพรีเมี่ยม เชื่อ “อสังหา-โรงแรม-ท่องเที่ยว” โตไม่หยุด คาดปี 2016 โตกว่า 30%

$
0
0

“ซีนิคอล กรุ๊ป” เปิดเกมรุกไตรมาส 2 เร่งเครื่องก่อสร้าง “เขาใหญ่ ฟอเรสต้า” ตอกย้ำผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเขาใหญ่ โชว์ศักยภาพจุดแข็งเหนือคู่แข่ง ชูจุดขายครบเครื่องด้วยสิทธิประโยชน์ครบครัน ราคาขายพุ่งพรวดจ่อทะลุ 1 แสนบาทต่อตร.ม. คาดให้ผลตอบแทนการลงทุนนานสุด 7 ปี

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 1)

Khaoyai Foresta

เฐาศิริษ ศิวาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีนิคอล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทเปิดเกมรุกธุรกิจ โดยเร่งเดินหน้าก่อสร้างโครงการคอนโดโฮเทลคุณภาพ “เขาใหญ่ ฟอเรสต้า” (Khao Yai Foresta) เพื่อเติมเต็มอาณาจักร “ซีนิคอล เวิลด์” คาดว่าการก่อสร้างน่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้ลูกค้าเข้าตรวจห้องได้ภายในเดือนสิงหาคม 2560   สำหรับ “Khaoyai Foresta”  มีขนาดพื้นที่กว่า 12 ไร่ หรือประมาณ 19,304 ตารางเมตร  ประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัย ขนาดความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 415 ห้อง และอาคารชุดพักอาศัย (Pool Villas) ขนาดความสูง 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวน 19 ห้อง รวมทั้งหมด 434 ห้อง มูลค่าทั้งโครงการรวม 1,380 ล้านบาท ล่าสุดมียอดขายห้องมากกว่า 78% และยังมีลูกค้ารายใหม่สนใจเข้าเยี่ยมชม เพื่อซื้อห้องพักอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 20 ราย แบ่งเป็นกลุ่มคนไทย 90% และชาวต่างชาติ 10%

ในแง่การลงทุน “เขาใหญ่ ฟอเรสต้า” สามารถตอบโจทย์ในกลุ่มนักลงทุนที่สนใจผลตอบแทนที่ได้มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยว่าการลงทุนในหุ้น  ที่สำคัญ  โครงการมีศักยภาพสูง สามารถให้ผลตอบแทนสูงถึง 5% นานถึง 7 ปี ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดในเมืองไทยเท่าที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน หากเปรียบเทียบราคาช่วงเปิดขายปีแรก เริ่มต้นเฉลี่ยที่ 50,000-60,000 บาท ต่อตารางเมตร ล่าสุดขยับสูงถึง 95,500-100,000 บาท ต่อ ตร.ม. เฐาศิริษกล่าว

Khaoyai Floresta (ภาพที่ 8)

เฐาศิริษ ศิวาคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีนิคอล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

 

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์สำรวจพบว่า ปัจจุบันราคาขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่เขาใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 84,500 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่ง “เขาใหญ่ ฟอเรสต้า”  มีราคาซื้อขายพุ่งสูงกว่าภาพรวมตลาดและสูงกว่าคอนโดมิเนียมในจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ คอนโดมิเนียมในพัทยามีราคาขายเฉลี่ย 76,000 บาท ต่อ ตร.ม. หัวหิน ราคาขายเฉลี่ย 76,600 บาท ต่อ ตร.ม. ชะอำ ราคาขายเฉลี่ย 67,500 บาท ต่อ ตร.ม. และขอนแก่น ราคาขายเฉลี่ย 59,500 บาทต่อ ตร.ม.

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้เขาใหญ่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน เฐาศิริษกล่าวว่า เนื่องจากเขาใหญ่เป็นตลาดที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่และตลาดท่องเที่ยวระดับคุณภาพ มีกลุ่มผู้เดินทางมาเขาใหญ่มากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี แม้ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มคนไทยถึง 90% แต่หลังจากเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AEC) ตลาดต่างชาติมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มมาเลเซีย สิงค์โปร์ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และอินเดีย  เชื่อมั่นว่า ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจการท่องเที่ยวในภาพรวมของเขาใหญ่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

“เขาใหญ่ ฟอเรสต้า” เป็นคอนโดฯ มุมมองใหม่ที่นำความสนุกของการใช้ชีวิตเอาท์ดอร์มาเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในการพักผ่อนที่เขาใหญ่ ออกแบบตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล (Modern Tropical) ทันสมัย สวยงาม ขณะเดียวกัน ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่สีเขียว ให้กลมกลืนกับทัศนียภาพอันงดงามของเขาใหญ่ เน้นความเรียบหรู และความสุขสบายของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ห้องออกกำลังกาย, สนามเด็กเล่น, สวนส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รวมทั้งมีระบบโทรทัศน์วงจรปิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เป็นต้น

 

 

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 2)

Khaoyai Foresta

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 3)

Khaoyai Foresta

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 5)

Khaoyai Foresta

 

รูปแบบห้องพักอาศัย

คอนโดมิเนียมมุมมองใหม่ที่นำความสนุกของการใช้ชีวิตเอาท์ดอร์มาเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในการมาพักผ่อนที่เขาใหญ่ โดยได้รับการออกแบบในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ โมเดิร์น ทรอปิคอล (Modern Tropical) ที่ทันสมัย สวยงาม ขณะเดียวกันก็มีความกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ เพื่อให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ พร้อมชมทัศนียภาพของภูเขาอันงดงามของเขาใหญ่ ออกแบบตกแต่งด้วยสไตล์ที่เน้นความเรียบหรู ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย

ภายในโครงการประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัย ขนาดความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวนห้องรวม 415 ห้อง และอาคารชุดพักอาศัย (Pool Villas) ขนาดความสูง 2 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวน 19 ห้องรวมทั้งหมด 434 ห้อง โดยแบ่งเป็นห้องพัก 4 ประเภท ได้แก่ สตูดิโอ (Studio) ขนาด 25.45 – 25.80 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 35.50 – 40.55 ตร.ม., 2 ห้องนอน ขนาด 56.10 ตร.ม. และ พูล วิลล่า (Pool Villa) ขนาด 55.15 ตร.ม. โดยราคาเริ่มต้นที่ 2,400,000 บาท

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 7)

Khaoyai Foresta

Khaoyai Foresta (ภาพที่ 4)

Khaoyai Foresta

 

สิ่งอำนวยความสะดวก        

คอนโดมิเนียมคุณภาพใจกลางเขาใหญ่ ที่พร้อมจะทำให้ชีวิตมุมมองใหม่ของผู้มาเยือนมีความสุขได้ทั้งวัน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ห้องออกกำลังกาย, สนามเด็กเล่น, สวนส่วนกลาง และพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ รวมทั้งมีระบบโทรทัศน์วงจรปิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เป็นต้น

 

ข้อมูลโดยสังเขป

 ชื่อโครงการ                    :           เขาใหญ่ ฟอเรสต้า (Khao Yai Foresta)

เจ้าของโครงการ              :           บริษัท ซีนิคอล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

ที่ตั้งโครงการ                  :           ถนนธนะรัชต์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

พื้นที่โครงการ                 :           10-3-40 ไร่

มูลค่าโครงการฯ              :           1,380 ล้านบาท

แบบของห้องและขนาด   :           ห้องพักมี 4 ประเภท ได้แก่ สตูดิโอ (Studio) ขนาด 25.45 – 25.80 ตร.ม.,

1 ห้องนอน ขนาด 35.50 – 40.55 ตร.ม.

2 ห้องนอน ขนาด 56.10 ตร.ม.

พูล วิลล่า (Pool Villa) ขนาด 55.15 ตร.ม.

ลักษณะโครงการ            :           อาคารชุดสำหรับพักอาศัย 2 อาคาร 7 ชั้น 415 ยูนิต

และอาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร 2 ชั้น ประเภทพูลวิลล่า 19 ยูนิต รวมทั้งหมด 434 ยูนิต

โทรศัพท์                        :           08 9203 5288

เว็บไซต์                          :           www.khaoyaiforesta.com

 

 

อนันดาฯ นำทีมอาสาสมัคร ร่วมสร้างบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ณ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

$
0
0

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นำทีมโดย คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ทีมงานจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง บริษัทออกแบบ พนักงาน Blogger และมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย (Habitat for Humanity Thailand)  รวมกว่า 90 คน ร่วมเป็นอาสาสมัครก่อสร้างบ้านพักอาศัยให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ณ ต.วังจุฬา อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จำนวน 2 หลัง ให้แก่ ในโครงการ “คุณได้บ้าน = คุณให้บ้าน” ปีที่ 3 โครงการดีๆ ด้าน CSR ที่อนันดาฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคม ซึ่งริเริ่มขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการแบ่งปันความสุขด้านปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต คือ ที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ที่ยังต้องการความช่วยเหลือในสังคม สนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยทุกการซื้อที่อยู่อาศัยหนึ่งยูนิตของลูกค้า ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 31 ธันวาคม 2556 บริษัทฯ จะบริจาคเงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อสนับสนุนการสร้างบ้านพักอาศัยให้แก่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติโดยมูลนิธิที่อยู่อาศัย ประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมา อนันดาฯ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิที่อยู่อาศัย (ประเทศไทย) มาอย่างต่อเนื่องในรูปแบบของการสนับสนุนทางการเงินและทีมงานก่อสร้างบ้านพักแก่ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ต่างๆ ด้วยความตั้งใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนานและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขในการมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม

Ananda CSR (ภาพที่ 1)

Ananda CSR (ภาพที่ 6)

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิที่อยู่อาศัยสร้างบ้านให้กับครอบครัวผู้มีรายได้น้อยมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 7 ปี และได้ดำเนินการสร้างและส่งมอบบ้าน รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับชุมชนในพื้นที่แล้ว 29 หลัง โดยเริ่มแรกใน “โครงการจิมมี่-โรสลิน คาร์เตอร์” ที่จังหวัดเชียงใหม่รวมถึงโครงการที่ร่วมให้ความช่วยเหลือในการสร้างศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนริเริ่มจัดทำเป็นโครงการ “คุณได้บ้าน = คุณให้บ้าน” ปีที่ 1 ในปี 2557 และล่าสุด ในปี 2559 กับโครงการ “คุณได้บ้าน = คุณให้บ้าน” ปีที่ 3 ดำเนินการก่อสร้างบ้านให้กับชาวบ้านใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 หลัง เมื่อเร็วๆ นี้

Ananda CSR (ภาพที่ 4)

Ananda CSR (ภาพที่ 7)

Ananda CSR (ภาพที่ 3)

Ananda CSR (ภาพที่ 5)

Ananda CSR (ภาพที่ 2)

 

 

Origins จัดโปรโมชั่นพิเศษในงาน “Origin Combo Condo Set” ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค. นี้ ที่ Terminal 21 บริเวณชั้น M

$
0
0

Origins จัดส่วนลด - ภาพที่ 1

คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จัดโปรโมชั่นพิเศษสุด “คอนโดแจ่มกว่าเดิม เพิ่มเติมเกินครบ” ภายในงาน “Origin Combo Condo Set” ขนโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพเยี่ยมพร้อมอยู่กว่า 10 โครงการ อาทิ โครงการ บีรีพับบลิค (B Republic) โครงการทรอปิคานา (Tropicana) และ โครงการพอส สุขุมวิท 107 (Pause Sukhumvit 107) มาเอาใจลูกค้าด้วยข้อเสนอพิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่จองภายในงานนี้เท่านั้น อาทิ กู้ 100% จ่าย 5,000 รับ Cashback 50,000 บาท ,รับเงินคืน 50,000 – 500,000 บาท, จอง 5,000 ผ่อน 2,000 บาท/เดือน และด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท (เงื่อนไขตามบริษัทกำหนด) เป็นต้น ภายในงานวันที่ 23 – 25 พฤษภาคม 2559 นี้ ณ ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 บริเวณชั้น M

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 020-300-000 หรือ www.origin.co.th


AP เปิดขาย Life สุขุมวิท 48 และ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) คอนโดใกล้รถไฟฟ้า มั่นใจกวาดยอดขาย Pre-Sale 4 – 5 มิ.ย.นี้ ทะลุ 1,500 ล้าน

$
0
0

เอพี (ไทยแลนด์) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย เดินหน้ารุกตลาดคอนโดมิเนียมเต็มสูบ เตรียมเปิดขาย Life สุขุมวิท 48 และ Aspire สาทร – ตากสิน (Copper Zone) คอนโดมิเนียมไฮไลท์ 2 โครงการแรกของปี 2559 บน 2 ทำเลสุดฮอต ใจกลางสุขุมวิทใกล้ BTS พระโขนง และโลเคชั่นเชื่อมต่อย่านสาทรติด BTS วุฒากาศ เจาะกลุ่มลูกค้าคนเมืองระดับกลาง – บน ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในราคาเปิดตัวไม่ถึงแสน หรือเพียง 80,000 – 83,000 บาทต่อตารางเมตร ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับพรีเมียมคอนโด Life สุขุมวิท 48 คอนโดใหม่ใจกลางสุขุมวิทราคาเริ่มต้น 2.49 บาท และ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) คอนโดใหม่พร้อมอยู่ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท มั่นใจกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าลงทะเบียนกว่า 3,000 รายชื่อ  ตั้งเป้าโกยยอดขายรวมวัน Pre-sale 4 – 5 มิถุนายนนี้ ทะลุ 1,500 ล้านบาท

Aspire-Taksin - ภาพที่ 1

นายวิทการ จันทวิมล

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ารุกตลาดคอนโดมิเนียมเต็มสูบ เปิดขายคอนโดมิเนียม 2 โครงการไฮไลท์แรก Life สุขุมวิท 48 มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท และ Aspire สาทร-ตากสิน (Copper Zone) มูลค่าโครงการ 1,440 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการมีจุดเด่นในการเลือก “Location” ใจกลางสุขุมวิทใกล้ BTS พระโขนง และทำเลเชื่อมต่อย่านธุรกิจสาทรติด BTS วุฒากาศ เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้าคนเมืองเซ็กต์เมนต์กลาง – บนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในราคาที่คุ้มค่า พร้อมพื้นที่ใช้สอยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เทียบเท่าคอนโดระดับพรีเมียม ซึ่งบริษัทฯ มองว่าการเปิดตัว 2 คอนโดใหม่ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสของทั้งลูกค้าเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและกลุ่มนักลงทุน เพราะมีราคาเปิดตัวเพียง 80,000 – 83,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นราคาที่หาไม่ได้แล้วในตลาดคอนโดระดับเดียวกันที่เปิดขายในปัจจุบัน ทั้งนี้จากกระแสตอบรับของลูกค้าที่สนใจและลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษทาง apthai.com กว่า 3,000 รายชื่อ ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจในดีมานด์ลูกค้าคอนโดยังดีต่อเนื่องและคาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีมาก โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายรวมของ 2 โครงการใหม่ Life สุขุมวิท 48 และ Aspire สาทร – ตากสิน (Copper Zone) ในวันเปิดขายครั้งแรก 4 – 5 มิถุนายนนี้ รวมกว่า 1,500 ล้านบาท”

 

Life สุขุมวิท 48

สำหรับคีย์ไฮไลท์โครงการ Life สุขุมวิท 48 คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิท ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท บนที่ดินขนาด 3-2-99 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทซอย 48 ใกล้ BTS พระโขนงเพียง 600 เมตร ประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัยจำนวน 2 อาคาร สูง 19 ชั้น และ 31 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 9 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น  ได้รับการจัดสรรเป็นส่วนห้องพักอาศัยจำนวน 612 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1. ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 30 – 40 ตารางเมตร 2. ห้องชุด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47 – 49 ตารางเมตร และ 3. ห้องชุด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 60 ตารางเมตร โดยทุกยูนิตได้รับการจัดสรรฟังก์ชันห้องที่สามารถปรับพื้นที่ใช้สอยให้สามารถใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้อย่างแท้จริง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ Rooftop Facility สระว่ายน้ำ และ Panoramic Fitness ชั้นบนสุดของทั้ง 2 อาคารที่แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน สามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวเมือง และในส่วนของ Lobby ที่มีการเอกลักษณ์การดีไซน์ให้ความรู้สึกหรูหราด้วย Bronzo หินอ่อนระดับ Hi-End ประดับคู่กับ Modern Chandelier Style และเพิ่ม Co-Working Space สเปซฟังก์ชั่นที่ตอบรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตจริงของคนเมืองที่สามารถนัดพบปะสังสรรค์ หรือทำงานร่วมกันในส่วนของตัวห้องถูกออกแบบพื้นที่ได้อย่างลงตัว

Aspire-Taksin - ภาพที่ 3

Life สุขุมวิท 48

 

Aspire-Taksin - ภาพที่ 5

Life สุขุมวิท 48

 

Aspire สาทร – ตากสิน

ในส่วนคีย์ไฮไลท์โครงการ Aspire สาทร – ตากสิน (Copper Zone) คอนโดมิเนียมใหม่พร้อมเข้าอยู่ในราคาและข้อเสนอพิเศษที่คุ้มค่าที่สุด โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3-2-15.4 ไร่ ติด BTS วุฒากาศ เพียง 10 นาทีถึงสาทร ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยจริง ในห้องตำแหน่งสวยถูกใจพร้อมวิวจริงตามชอบใจ อาคารที่พักอาศัยสูง 21 ชั้น ห้องพักอาศัยจำนวน 613 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอย 1. สตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 22.5 ตารางเมตร 2. ห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร และ 3. ห้องชุด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 46 ตารางเมตร ทุกตารางนิ้วได้รับการออกแบบเพื่อการอยู่สบายอย่างแท้จริง เต็มอิ่มด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่พร้อมไบค์เลน (Bike Lane) รอบโครงการ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม อาทิ จุดพลัสกอล์ฟที่ชั้น Rooftop ฟิตเนส – สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามแบดมินตัน และในส่วนล๊อบบี้กับออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ผสานความทันสมัยและความหรูหราเข้ากันอย่างลงในสไตล์ Exotic Vogue ด้วยหินอ่อนนำเข้าจากยุโรป ช่วยสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่แตกต่างตอบรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองรุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง

Aspire-Taksin - ภาพที่ 2

Aspire-Taksin


Aspire-Taksin - ภาพที่ 4

Aspire-Taksin

 

 

Life สุขุมวิท 48 คอนโดมิเนียมใหม่ ใกล้ BTS พระโขนง บนทำเลศักยภาพกับราคาที่ดีที่สุดในสุขุมวิท เริ่มต้นเพียง 2.49 ล้าน และ Aspire สาทร – ตากสิน (Copper Zone) คอนโดมิเนียมใหม่พร้อมอยู่ ติด BTS วุฒากาศ 10 นาทีถึงสาทร เริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท เปิดจองครั้งแรกวันที่ 4 – 5 มิถุนายนนี้ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ apthai.com

Origin เปิดตัวคอนโดใหม่ “Notting Hill สุขุมวิท– แพรกษา” วิวทะเล–แม่น้ำ มูลค่าโครงการ 1.3 พันล้าน เริ่ม 1.09 ลบ.

$
0
0

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ “Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา” สวนกระแสเศรษฐกิจ ชูจุดขาย “คอนโดสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษ วิวสูงแบบ 360 องศาแห่งแรก เห็นทะเล-แม่น้ำ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว” จับกลุ่มหนุ่มสาว Real Demand ที่มีกำลังซื้อ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.09 ล้านบาท ก่อนเล็งจัดงาน Pre-Sales เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ รับส่วนลด 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองภายในงานทันทีพร้อมเปิดสำนักงานขายให้สัมผัสและชมห้องตัวอย่างแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้

 

Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา

คุณพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ “ORI” เปิดเผยว่า จากแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายหลังจากหมดมาตรการของภาครัฐฯ ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีการผลักดันให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น และอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันที่อยู่ในอัตราที่ต่ำ ได้เอื้อประโยชน์ให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่อจากนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ทั้งการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วงที่ไปยังบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และส่วนต่อขยายจากสถานีอ่อนนุชมายังแบริ่ง และล่าสุดโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายจากสถานีแบริ่ง-สมุทรปราการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการทั้งระบบภายในปี พ.ศ.2563 ได้ช่วยให้พื้นที่รอบๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวในทุกๆ ด้าน ทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการเปิดขายและได้รับการตอบรับที่ดีและมียอดขายในอัตราค่อนข้างสูงหลายโครงการ

รถไฟฟ้าสายสีเขียว Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา

 

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม High Rise แห่งแรกบนถนนแพรกษา ภายใต้ชื่อ Notting Hill Sukhumvit-Praksa (นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา) เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Modern Boutique สูง 35 ชั้น จำนวน 980 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้นที่ 23-40 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.09 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า1,300 ล้านบาท

Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา

ORI_Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา (ภาพที่ 05)

 

คอนโด Notting Hill  สุขุมวิท-แพรกษา เป็นคอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น แห่งแรกบนถนนแพรกษา สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา ทั้งวิวทะเล แม่น้ำ และท้องฟ้า สอดคล้องกับแนวความคิด “ใช้ชีวิตให้ต่าง อย่างเหนือชั้น” ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษ พร้อมการบริการแบบโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อรองรับความต้องการและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย อาทิ Lifestyle Fitness, Pool Terrace, Co-working space, Double English Rooftop Garden พร้อมสนามบาส นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สถานีแพรกษา 650 เมตร เชื่อมต่อสถานีอโศกแค่ 30 นาที ใกล้ห้างสรรพสินค้าโรบินสันและบิ๊กซี ใกล้แหล่งงานนิคมอุตสาหกรรมบางปูรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่เป็น real demand และมีกำลังซื้อหรือผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองทดแทนการเช่าอพาร์ทเม้นท์หรือหอพักในพื้นที่

ORI_Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา (ภาพที่ 11)

ORI_Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา (ภาพที่ 02)

Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา

โดยประชากรในจังหวัดสมุทรปราการมีรายได้หลักจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันมีรายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP: Gross Provincial Product)กว่า 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งสูงเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ (ตามสถิติในปี 2554-2557)

Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา

นอกจากนี้ยังมีแผนการสร้างท่าเรือเฟอร์รี่เชื่อมระหว่าง บางปู พัทยา และหิวหินอีกด้วย

ORI_Notting Hill สุขุมวิท-แพรกษา (ภาพที่ 07)

“จากแนวโน้มของการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 1-2 ปีนี้มีการขยายตัวมากพอสมควร โดยเฉพาะในทำเลที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีการปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับ ทำให้กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าหันมาให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากโดยบริษัทเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด และจากนโยบายของบริษัทที่เน้นการพัฒนาโครงการในทำเลที่คู่แข่งมองข้าม เช่น ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า พื้นที่แหล่งอุตสาหกรรม ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเรียลดีมานด์และมีกำลังซื้อ ต้องการที่พักอาศัยที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง ใช้เวลาไม่มากในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง และอยู่ในช่วงราคาที่ไม่สูงมากเกินไปประกอบกับ ในพื้นที่ตามแนวถนนแพรกษายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างมากทั้งร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่น บิ๊กซี มีการเดินทางที่สะดวกสบายจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการทั้งระบบภายในปี พ.ศ.2563 และโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล สุวรรณภูมิ – แพรกษา – สุขุมวิท ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ.2564 – 2565 ทำให้ถนนแพรกษาเป็นอีกทำเลสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยในอนาคตที่คาดว่าจะมีการขยายตัวค่อนข้างมากอย่างแน่นอน ทำให้บริษัทมั่นใจเป็นอย่างมากว่าโครงการนอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” นายพีระพงศ์กล่าว

 

ล่าสุดบริษัท เตรียมจัดงาน Pre-Sales ในวันที่ 18 มิถุนายน 2559 พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ รับฟรี ส่วนลดเงินสดมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจ่ายเงินจองและทำสัญญาภายในงานรับสิทธิ์ในการผ่อนชำระ 0% 10 งวด (เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด) ลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมสไตล์อังกฤษสามารถเข้าร่วมงานและชมห้องตัวอย่าง ณ. สำนักงานขายโครงการ “นอตติ้งฮิลล์ สุขุมวิท-แพรกษา” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 098562900 หรือ www.origin.co.th

KRAAM Sukhumvit 26 คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury จาก NYE ESTATE ในซอยสุขุมวิท 26

$
0
0

วันนี้ (24 พ.ค. 59)  NYE ESTATE เปิดตัวคอนโด KRAAM Sukhumvit 26  คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury  บนสุดยอดทำเลใจกลางเมืองซอยสุขุมวิท 26  ที่มอบทุกสัมผัสของความเป็นบ้านสำหรับครอบครัวควบคู่กับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง  ท่ามกลางอุโมงค์ต้นไม้ใหญ่ของชุมชนที่พักอาศัยคุณภาพสูงมายาวนาน พร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยจำนวนเพียง 128 ยูนิต

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 2

 

อรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “KRAAM Sukhumvit 26 คือโครงการคอนโดมิเนียม high rise ระดับ Luxury โครงการแรกของเรา และเป็นโครงการสำคัญของเราในปีนี้ซึ่งสะท้อนถึงตัวตนของนายณ์ เอสเตท อย่างเด่นชัด ทั้งในด้านจุดขายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ นวัตกรรมการออกแบบ รูปแบบการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราจึงสร้างสรรค์ KRAAM ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นที่พักอาศัยซึ่งครบถ้วนทุกคุณสมบัติและประโยชน์ใช้สอยของความเป็นบ้านสำหรับครอบครัว บนทำเลใจกลางเมืองที่เราคัดสรรแล้วว่าโดดเด่นและแทบจะหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน เพราะนอกจากอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจสำคัญ เดินทางสะดวก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองแล้ว ยังเป็นพื้นที่ซึ่งคงสภาพแวดล้อมดั้งเดิมที่มีความสงบ เป็นส่วนตัว ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียว เป็นชุมชนที่พักอาศัยคุณภาพสูงมายาวนาน”

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 12

คุณอรฤดี ณ ระนอง, คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล และคุณอลิวัสสา พัฒนถาบุตร

 

สุขุมวิท 26 นับเป็นสุดยอดทำเลใจกลางเมืองที่พรั่งพร้อมสำหรับทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน และพักผ่อนหย่อนใจ บนศูนย์กลางย่านธุรกิจและช็อปปิ้งที่ครบวงจร รายล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รวมทั้งอยู่ใกล้ย่านดิ เอ็มดิสทริค แหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย และเดินทางสะดวกสบาย ทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีสุขุมวิท และทางด่วน โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนสุขุมวิทและพระราม 4

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 1

KRAAM Sukhumvit 26  มีมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ตัวอาคารสูง 29 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-3-91 ไร่ ประกอบด้วยทั้งหมด 128 ยูนิต แบ่งเป็น  1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน และ Penthouse 4 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มตั้งแต่ 61 ตารางเมตร จนถึง 228.5 ตารางเมตร ด้วยราคาขายเฉลี่ยเริ่มต้น 275,000 บาทต่อตารางเมตร  จำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 6 – 8 ยูนิต ราคาเริ่มต้นของยูนิตอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาทขึ้นไป

คอนโด KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 2

คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล

 

สุธี ลิมปนชัยพรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า “โครงการ KRAAM สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด Green Living ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมดั้งเดิมอย่างกลมกลืน โดยเราได้รักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปีที่มาพร้อมกับที่ดินดั้งเดิม และสร้างพื้นที่สีเขียวไว้ที่บริเวณสนามหญ้าและสวนหน้าโครงการเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น แนวการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการพักอาศัยสำหรับครอบครัวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ กระจกหน้าต่างสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงและกันความร้อน แผงบังแดดแนวตั้ง (Vertical Façade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคารเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี และการออกแบบเพื่อการใช้ประโยชน์จากพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 4

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 5

 

ด้วยการออกแบบภายในที่ให้ความใส่ใจกับประโยชน์ใช้สอยของความเป็นบ้านอย่างเต็มที่ตามแนวคิด “Home-Like Condominium” แต่ละยูนิตจึงมาพร้อมห้องและพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ รวมทั้งพิเศษสุดด้วยการเตรียมพื้นที่อเนกประสงค์ภายนอก (Yard Area) สำหรับการซักล้างและการถ่ายเทอากาศที่ดี และจัดสรรพื้นที่จอดรถในสัดส่วนถึง 140% ของจำนวนยูนิต พิเศษพร้อมที่เก็บของในที่จอดรถ การตกแต่งภายในใช้วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม เช่น ชุดเครื่องครัว Gaggenau  โครงการยังพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำอินฟินิตี้เอดจ์ขนาดใหญ่ (half-length Olympic) พร้อมห้องออกกำลังกาย ห้องสตีม ห้องโยคะ ห้องสมุด และพาวิลเลี่ยนท่ามกลางสวนที่ตกแต่งอย่างร่มรื่น  ตลอดจนบริการพนักงานต้อนรับ Shuttle Service บริการรถรับส่งถึงสถานที่สำคัญใกล้โครงการและบริการส่วนตัวแบบ A La Carte

อลิวัสสา  พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวถึงรูปแบบของคอนโดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและศักยภาพของทำเลว่า “จากความสำเร็จในการให้คำปรึกษาให้กับคอนโดระดับลักชัวรีหลายโครงการที่ผ่านมาทำให้เราเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง  KRAAM สุขุมวิท 26 เป็นโปรเจคระดับพรีเมี่ยมที่เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้ลูกค้าต่างชาติระดับบน ด้วยทำเลและการวางคอนเซปต์ให้ทุกยูนิตมีความเป็นส่วนตัวสูงและประโยชน์ใช้สอยที่ตรงความต้องการของลูกค้า  จุดเด่นหลักของโครงการในแง่การลงทุนเริ่มตั้งแต่ทำเลสุขุมวิท 26 ที่ไม่มีโครงการใหม่ระดับลักชัวรี่ จึงไม่มีคู่แข่งในทำเลเดียวกัน ในแง่ของการปล่อยเช่า ลูกค้าชาวต่างชาติจะเลือกเช่าห้องที่มีขนาดใหญ่ที่มีห้องครัวที่กว้างและแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนี้โครงการมีเพียง 128 ยูนิตเท่านั้น  CBRE เชื่อมั่นว่า KRAAM จะตอบโจทย์ผู้บริโภคระดับบนที่ต้องการหาซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลดี ที่มีความเป็นส่วนตัว จำนวนยูนิตน้อยและมีฟังก์ชั่นครบตามความต้องการอย่างแท้จริงทั้งในเรื่องสินค้า คุณภาพ และราคา”

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 9

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 8

 

โครงการ KRAAM เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษในการรับข่าวสารก่อนใครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ www.NyeEstate.co.th และจะทำการเปิด Pre Sales เพื่อให้ลูกค้าได้ชมห้องตัวอย่างเป็นครั้งแรกในวันที่  18-19 มิถุนายนนี้ ที่สำนักงานขาย ณ ที่ตั้งโครงการ ซอยสุขุมวิท 26 โดยโครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2562

 

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 6

โครงการ KRAAM Sukhumvit 26

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ซ.สุขุมวิท 26 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
  • ขนาดที่ดิน >>> 1-3-91 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> 29 ชั้น
  • จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
  • ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน ขนาด 61.00 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน ขนาด 102 – 128.5 ตารางเมตร
    • 3 ห้องนอน ขนาด 185 – 188 ตารางเมตร
    • Penthouse 4 ห้องนอน ขนาด 228.5 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 128 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 140%
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 15 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 24/5/2016)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้นประมาณ 275,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.726235, 100.569637
  • เริ่มก่อสร้าง >>> ประมาณไตรมาส 1 ปี 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ >>> ประมาณไตรมาส 3 ปี 2562

สำนักงานขาย

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 18

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 21

ห้องแบบ 1 ห้องนอน


KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 6

KRAAM สุขุมวิท 26 - ภาพที่ 16

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 3

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 4

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 2

ห้องแบบ 2 ห้องนอน

KRAAM สุขุมวิท 26 ห้องตัวอย่าง - ภาพที่ 3

KRAAM สุขุมวิท 26 ห้องตัวอย่าง - ภาพที่ 2

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 5

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 3

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 1

KRAAM Sukhumvit 26 - ภาพที่ 2

เกี่ยวกับ NYE ESTATE

บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ก่อตั้งในเดือนกรกฎาคม 2556 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 1,500 ล้านบาท มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อสังหาริมทรัพย์โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับรูปแบบการใช้สอย งานดีไซน์ โครงสร้าง และคุณค่า รวมทั้งความยั่งยืนในระยะยาว เราสร้างคุณค่าด้วยความพิถีพิถันในการคัดสรรและออกแบบเพื่อความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง และการพัฒนาโครงการอย่างใส่ใจเพื่อเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนให้กับผู้อยู่อาศัยและนักลงทุนในระยะยาว

อยู่สบายพาชมงานคอนโด Origin Condo Combo Set ที่ Terminal 21 วันที่ 23-25 พ.ค. 59 นี้

$
0
0

หลังจากหมดมาตราการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐไปเมื่อปลายเดือนก่อน  หลายบริษัทก็ทยอยกันออกโปรโมชั่นของตัวเองเพื่อกระตุ้นยอดขายกันต่อนะครับ  23 – 25 พ.ค. นี้ทาง Origin ได้จัดงาน Origin Condo Combo Set ขึ้นที่ชั้น M ศูนย์การค้า Terminal 21  โดยเอาคอนโดพร้อมอยุ่ 10 โครงการในโซนแบริ่งและรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายมาลดราคากัน  บางห้องก็ลดกันหลักแสน  บางห้องที่มีขนาดใหญ่นั้นลดกันหลักล้านทีเดียว  เราไปเดินเก็บข้อมูลมาฝากกันครับ

เดินเข้ามาใน Terminal 21 ยังไงก็เห็นครับ  อยู่ลานตรงกลางเลย

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 21)

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 19)

 

ภายในงานก็จัดเล็กๆ เข้าใจง่ายครับ  มีโมเดลโลเคชั่นในสเกลใหญ่ 2 อัน อยู่ตรงกลาง  ให้เห็นความเชื่อมต่อของโครงการรถไฟฟ้าในปัจจุบันและในอนาคต  ทั้งสายสีเขียวที่ปัจจุบันไปสิ้นสุดที่แบริ่ง  กับสายสีเหลืองที่จะมาเชื่อมต่อที่สถานีสำโรง  และไปทางถนนศรีนครินทร์  ใครสนใจบูธคอนโดไหนก็เดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 20)

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 13)

 

มี Pre-Booking ของคอนโด Notting Hill สุขุมวิท – แพรกษา ให้จองได้ในงานครับ  จองแล้วได้ Apple Watch 1 เรือน เฉพาะในงาน เป็นราคาเดียวกับรอบ VIP ที่เปิดขายไปเมื่อกลางเดือนนี้ครับ

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 18)

 

ส่วนคอนโดที่พร้อมอยู่ก็มีลิสออกมาให้รายห้อง  สนใจโครงการไหนก็ไปส่องกันได้

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 17)

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 16)

 

แอบหยิบใบราคาติดมาให้ 3 โครงการครับ  มี B Republic Sukhumvit 101/1  ใกล้กับสถานีปุณณวิถี  ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้าน โครงการนี้จะอยู่ใกล้เมืองหน่อย  อีก 2 โครงการมี Pause Sukhumvit 107 เริ่ม 1.99 ล้าน  ไปตรง BTS แบริ่ง ได้ และ Tropicana โครงการนี้ราคาเริ่มต้นต่ำสุดในงานที่ 1.39 ล้านครับ  อยู่ BTS เอราวัณ ซึ่งเป็นสถานีในอนาคต  ราคาถูกแต่ก็ต้องไปไกลหน่อย

 

origin001
origin003

origin002

งานจัดถึง 25 พ.ค. นี้ เท่านั้นนะครับ  ใครสนใจก็แวะไปดูไปเดินเล่นกันได้

ขอจบบทความเพียงเท่านี้ก่อน  ขอให้ได้คอนโดถูกใจกันทุกคนนะครับ  : )

Origin Combo Condo Set (ภาพที่ 12)

ส่องทำเล The Line Asoke – Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา) คอนโด High rise ใกล้ MRT พระราม 9 จากแสนสิริ [พรีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ วันนี้เราพามาส่องทำเลย่านพระราม 9 ที่หลายๆ คนคาดว่าจะเป็น New CBD ของกรุงเทพฯ กันค่ะ กับโครงการใหม่ คอนโด THE LINE อโศก-รัชดา ทำเลที่ตั้งจะอยู่ตรงถนนดินแดง ใกล้ๆ กับแยกพระราม 9 ซึ่งแบรนด์คอนโดเดอะ ไลน์ นั้นเป็นการร่วมทุนกับระหว่างแสนสิริ กับ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง พัฒนาโครงการคอนโดในแนวรถไฟฟ้าในระยะทางไม่เกิน 500 เมตรจากตัวสถานี ซึ่งโครงการนี้อยู่ห่างจาก MRT พระราม 9 ไปประมาณ 300 เมตร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3.99 ล้านบาทค่ะ

ก่อนหน้าคอนโด เดอะไลน์ อโศก-รัชดา ตัวนี้จะเห็นว่า โครงการในแบรนด์เดอะ ไลน์ นั้นได้รับการตอบรับที่ดี อย่างตัว THE LINE จตุจักร-หมอชิต, The Line ราชเทวี และ The Line สุขุมวิท 71 ก็ Sold out ไปเร็วมาก  ขายหมดกันแบบงงๆ ส่วนนึงก็ไปกวาดลูกค้าต่างชาติที่เป็นนักลงทุนมาเยอะพอควร  เอาจริงๆ แล้วแบรนด์ The Line นั้นชูคอนเซ็ป “Location is Everything” ซึ่งถ้าวัดกันจริงๆ ต้องบอกว่า Exposure ของคอนโด The Line Asoke – Ratchada ตัวนี้ก็ไม่ได้เด่นมากเมื่อเทียบกับคอนโดอีกหลายตัวตรงแยกรัชดา-พระราม 9 ค่ะ (เด่นสุดตรงแยกนั้นก็ยกให้ Ideo Mobi Rama 9 เค้าไป)  ที่ดินหายากขึ้นก็เลยต้องขยับออกไปอีกหน่อย

พรีวิวนี้เลยพาไปเดินเล่นดูทำเลของคอนโด THE LINE อโศก-รัชดา กัน ซึ่งทำเลนี้จะค่อนข้างแตกต่างจาก The Line 3 คอนโดแรกที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า BTS แต่มาตัวเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา จะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แทนค่ะ

(ขอแปะของข้อมูล Fact Sheet เบื้องต้นไว้ก่อน ตอนนี้รายละเอียดยังมีไม่มาก ถ้าโครงการเปิดตัวเมื่อไหร่จะมา Update กันอีกรอบค่ะ ^^)

THE LINE Asoke-Ratchada

(เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

  • เจ้าของโครงการ >>> ร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนดินแดง ใกล้แยกพระราม 9
  • ขนาดที่ดิน >>>  n/A ไร่
  • จำนวนชั้น >>> n/A ชั้น
  • จำนวนยูนิต >>> n/A  ยูนิต
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้องและขนาดห้อง >>> n/A
  • ที่จอดรถ >>> n/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 3.99 ล้านบาท (ราคา ณ วันเปิดตัว)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> n/A บาทต่อตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.756005, 100.563593
  • เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)


THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ส่องทำเล

การเดินทาง คอนโด บ้านเดี่ยว แผนที่ map

ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านพระราม 9 ซึ่งก็เป็นย่านที่มีแนวโน้มที่จะเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสำนักงานออฟฟิศ ที่พักอาศัย ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย (และรถก็ติดมากด้วย) โครงการ The Line อโศก-รัชดา ตั้งอยู่บนถนนดินแดง ฝั่งที่จะไปถนนวิภาวดีรังสิต ถ้ามาจากถนนวิภาดีรังสิต หรืออนุสาวรีย์ฯ จะมีที่กลับรถอยู่ใต้สะพานข้ามแยก ด้านหน้าโครงการเลย ถ้าจะเลี้ยวเข้าคอนโดก็ค่อนข้างกระชั้นชิด แต่ก็ไม่แน่ใจว่าทางโครงการจะทำทางเข้าออกไว้อยู่บริเวณไหน ทำเลที่ตั้งโครงการนั้นใกล้กับสี่แยกพระราม 9 ค่ะ เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนพระราม 9, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนอโศก-ดินแดง และถนนดินแดง จากที่ตั้ง คอนโดเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา เดินไปรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 จะอยู่ประมาณ 300 เมตรค่ะ ซึ่งเราต้องข้ามถนนดินแดงไปอีกฝั่งที่เป็นทางไปถนนพระราม 9 ค่ะ

จากแผนที่เราเส้นทางการเดินทางจาก MRT พระราม 9 มายังโครงการ ลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพระราม 9 แล้วออกทางออกที่ 1 ด้านหน้าฟอร์จูน ทาวน์ เดินไปทางแยกพระราม 9 พอถึงแยกพระราม 9 แล้วเราสามารถเดินไปได้ 2 ทางค่ะ คือข้ามทางม้าลายตรงแยกพระราม 9 เลย (หมายเลข 1) กับเดินเลี้ยวขวา (หมายเลข 2) ไปตามถนนดินแดงแล้วจึงไปข้ามถนนบริเวณช่วงซอยอยู่เจริญที่มีทางม้าลายเหมือนกันก็จะเกือบถึงหน้าโครงการเลย ทั้งสองทางนี้ บรรยากาศก็จะค่อนข้างแตกต่างกัน เราได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันค่ะ

แผนที่การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

บริเวณรถค่อนข้างติด เราเลยแนะนำเส้นทางเป็นการไปโครงการด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 แล้วเดินไปยังโครงการ ระยะทางอยู่ที่ 300 เมตรค่ะ เริ่มจากออกมาทางออกที่ 1 ด้านหน้าห้างฟอร์จูน

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

 

เดินตามทางไปแยกพระราม 9 ทางเท้าด้านหน้าโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ค่อนข้างกว้างขวาง เดินสบายๆ

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

 

เดินมาจนถึงแยกพระราม 9

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

 

ตรงแยกนี้เราสามารถเลือกได้ 2 ทางค่ะ จะข้ามถนนดินแดงไปอีกฝั่งเลยตามลูกศรหมายเลข 1 หรือจะเดินเลี้ยวขวาไปตามถนนดินแดงตามหมายเลข 2


การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

The line อโศก-รัชดา_การเดินทาง (ภาพที่ 10)

เริ่มจากไปตามทางหมายเลข 1 กันก่อนค่ะ รอไฟแดงรถหยุด แล้วก็ตามทางม้าลายลอดได้สะพานข้ามแยกพระราม 9 ไปเลย

The line อโศก-รัชดา_การเดินทาง (ภาพที่ 08)

ข้ามทางม้าลายมาแล้ว จากเกาะกลางมองไปถนนดินแดงฝั่งเดียวกันที่ตั้งคอนโด

The line อโศก-รัชดา_การเดินทาง (ภาพที่ 09)

ข้ามมาฝั่งเดียวกับโครงการก็จะเจอ Amsterdam ที่เป็นสถานบันเทิงสำหรับคุณผู้ชาย

The line อโศก-รัชดา_การเดินทาง (ภาพที่ 07)

พอข้ามมาหน้า Amsterdam แล้วก็เลี้ยวไปทางถนนดินแดงเลยค่ะ เลยอัมสเตอร์ดัมไปแล้วก็เป็นอาคารพาณิชย์

The line อโศก-รัชดา_การเดินทาง (ภาพที่ 06)

เดินมาจนถึงร้านขายรถมือสอง บริเวณนี้ทางเท้าค่อนข้างแคบค่ะ เดินสวนกันบางทีก็ต้องลงไปเดินตรงถนนเอา

The-line-อโศก-รัชดา_การเดินทาง-(ภาพที่-05_1)

พอผ่านเต้นท์รถมือสองไปแล้ว ติดกันก็เป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ก็ถึงตัวที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ อยู่ตรงที่กลับรถพอดี

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

มาดูทางที่ไปตามลูกศรหมายเลข 2 กันบ้าง บริเวณค่อนข้างคึกคักค่ะ มีคนเดินผ่านตลอด

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

เดินมาตามถนนดินแดงฝั่งที่จะไปแยกพระราม 9 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตึกแถว ด้านล่างเป็นร้านค้า

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ทางม้าลายจะอยู่บริเวณซอยอยู่เจริญ หน้าร้านขายอาหารค่ะ

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ข้ามทางม้าลาย ลอดใต้สะพานข้ามแยกมาเลย

ข้ามมาแล้ว ทางม้าลายจะอยู่บริเวณร้านขายวัสดุก่อสร้าง ส่วนตัวโครงการก็จะอยู่ติดกันค่ะ

การเดินทาง THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

 

แอบถ่ายรูปพื้นที่ด้านในมาให้ดูกัน วันที่เราไปถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ กำลังก่อสร้างสำนักงานอยู่พอดีเลยค่ะ

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

พื้นที่ข้างเคียงของคอนโดเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดานั้น ฝั่งทางทิศตะวันตกจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น ส่วนทิศตะวันออกจะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง และเต็นท์รถมือสอง ถัดไปก็เป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการนั้นก็เป็นอาคารพาณิชย์เรียงยาวไปตามถนนดินแดงเลยค่ะ ซึ่งฝั่งตรงข้ามนั้นจะค่อนข้างคึกคักกว่าฝั่งที่ตั้งโครงการ เพราะเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่ด้านในเป็นตึกแถว บ้านพักอาศัย ชุมชนเดิมค่ะ ตัวที่ตั้งโครงการจะอยู่เยื้องๆ กับซอยอยู่เจริญ บริเวณนั้นก็จะมี 7-Eleven (หมายเลข 1), ร้านขายอาหาร รวมไปถึงตลาดสดภายในซอยอยู่เจริญ ถ้าจะหาของกินราคาไม่แพง บริเวณนี้มีให้เลือกเพียบเลยค่ะ นอกจากนี้แล้วอาคารพาณิชย์บริเวณนั้นก็ยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกสิกรไทยอยู่ด้วยค่ะ

ขยับมาดูตรงสี่แยกพระราม 9 ฝั่งหัวมุมถนนดินแดงที่เชื่อมกับถนนอโศก-ดินแดง เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ นั้นคือ Amsterdam (หมายเลข 2) ส่วนถนนดินแดงฝั่งที่เชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษกนั้น หัวมุมจะเป็นโรงแรม Grand Mercure Fortune (หมายเลข 3)  ติดกันเป็นศูนย์การค้า Fortune Town (หมายเลข 4) ที่ร้านพวกอุปกรณ์ไอที ด้านในมี Tesco Lotus อยู่ด้วยค่ะ ซึ่งด้านหน้าฟอร์จูนเองก็เป็นทางลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พระราม 9 ที่มีทางขึ้นลงอยู่ติดทั้งฟอร์จูน และฝั่งตรงข้ามบนถนนรัชดาภิเษกที่เป็น Central Plaza Grand Rama 9 (หมายเลข 6)  ซึ่งตัวเซ็นทรัล พระราม 9 นนั้นอยู่ในพื้นที่ที่เรียกรวมๆ ว่า เดอะ แกรนด์ พระราม9 (The Grand Rama 9) เป็นที่ดินของ G Land ซึ่งทางจีแลนด์ต้องการจะพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นย่าน CBD ใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า,โรงแรม, ศูนย์ประชุม, คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จไปแล้ว อย่าง Belle Grand Rama 9 และสถานที่ท่องเที่ยว บนพื้นที่ 73 ไร่ ตอนนี้ที่เห็นเด่นๆ ติดกับเซ็นทรัลเลยก็เป็น G-Land Tower (หมายเลข 5) ที่เป็นอาคารรูปตัว G และในอนาคตทาง G Land ก็มีโครงการสร้างตึกที่สูงที่สุดในอาเซียนที่มีความสูงถึง 125 ชั้นในพื้นที่นี้ด้วยค่ะ

แผนที่ THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ข้ามมาบริเวณถนนพระราม 9 จะเจอคอนโด Ideo Mobi พระราม 9 (หมายเลข 7) สูง 28 ชั้นจากอนันดาฯ ติดกับโครงการไอดิโอ โมบิจะเป็นคอนโด Condolette Midst (หมายเลข 8) ของพฤกษาค่ะ สูง 30 ชั้นเลย ถัดเข้าไปด้านใน ข้ามคลองสามเสนในจะเป็นคอนโด Aspire พระราม 9 (หมายเลข 9) มี 2 อาคารสูง 23 ชั้น และ 25 ชั้น จาก AP ทั้ง 3 โครงการฝั่งนี้ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปหมดแล้วค่ะ

มาดูฝั่งสุดท้ายทางด้านถนนอโศก-ดิินแดงกันค่ะ  มี 3 คอนโดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คือ คอนโด Rhythm Asoke II (หมายเลข 10)  ฝั่งเดียวกับ Aspire พระราม 9 และคอนโด Rhythm Asoke (หมายเลข 11) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กัน ทั้ง 2 โครงการก็เป็นโครงการของ AP เช่นกันค่ะ และอีกหนึ่งโครงการติดกัน อยู่หัวมุมที่ลงทางด่วนมา หรือมาจากถนนจตุรทิศ คือ คอนโด AQ Aria Asoke (หมายเลข 12) จาก AQ Estate อยู่ระหว่างการก่อสร้างเช่นกัน บริเวณก็จะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 ค่ะ ทางลงทางด่วนจะอยู่บริเวณใกล้กับคอนโด The Mark คอนโด รัชดา-แอร์พอร์ทลิงก์ (หมายเลข 13) ส่วนเลยไปทางถนนดินแดงจะมีคอนโดเพื่อนบ้านอีก 2 ตัว คือ ศุภาลัย ปาร์ค อโศก-รัชดา (หมายเลข 14) และฝั่งตรงข้ามคือ A Space By Areeya (หมายเลข 15) ส่วนถัดจากทางด่วนพระราม 9 ไปก็เป็น Airport Rail Link มักกะสัน เชื่อมต่อกับ MRT เพชรบุรี ซึ่งตรงนี้ก็จะมีโรงพยาบาลผิวหนังอโศก (หมายเลข 16) และคอนโด Life อโศก (หมายเลข 17) ตั้งอยู่ใกล้กับแยกอโศก-เพชรบุรี และย่าน CBD อย่างอโศกค่ะ

เราเริ่มดูกันจากบริเวณด้านหน้าโครงการกันก่อนเลยค่ะ ตัวคอนโดอยู่ติดถนนดินแดง ฝั่งมาจากถนนพระราม 9

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

จากเกาะกลางใต้สะพานข้ามแยกพระราม 9 มองไปที่ดินของคอนโด

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 16)

ฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับตึกแถวสูง 4-5 ชั้น ซึ่งบริเวณมองไปจะเห็นคอนโด The Mark Condo รัชดา-แอร์พอร์ตลิ้งค์ อยู่ตรงถนนจตุรทิศ ติดทางด่วนพระราม 9

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 10)

ตึกแถวที่อยู่ติดคอนโดค่ะ

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 12)

ถัดไปก็ยังเป็นตึกแถวอยู่ ตรงนี้จะมีร้านราเมงอยู่ด้วย

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 15)

ติดกับที่ดินของโครงการนั้นเป็นป้ายรถประจำทางค่ะ (ซึ่งก็ไม่เห็นป้าย แต่มีคนรอรถอยู่)

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ที่กลับรถใต้สะพานอันแรกที่อยู่ด้านหน้าคอนโดค่ะ

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 11)

ถนนดินแดงฝั่งจะไปถนนวิภาวดีรังสิต หรือจะตรงไปตรงแยกถนนประชาสงเคราะห์แล้วออกถนนจตุรทิศขึ้นทางด่วนก็ได้ค่ะ ตรงนี้มองไปเห็นคอนโดศุภาลัย ปาร์ค อโศก-รัชดา

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 18)

อีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับโครงการจะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ทางเท้าบริเวณนี้ค่อนข้างแคบเลยค่ะ เดินสวนกันไม่ได้ ต้องลงไปเดินตรงถนนเอา T T

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 19)

ด้านในร้านวัสดุก่อสร้างค่ะ

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 17)

ติดกับร้านขายวัสดุก่อสร้างจะเป็นเต็นท์รถมือสอง มองไปเห็นคอนโด Rhythm Asoke ฝั่งถนนอโศก – ดินแดง

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ที่กลับรถบนถนนดินแดง อีกฝั่งของตัวที่ดินค่ะ

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ทางม้าลายด้านหน้าเยื้องๆ กับโครงการ

THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ถัดจากเต็นท์รถมือสองไปก็เป็นอาคารพาณิชย์

The line อโศก-รัชดา_ (ภาพที่ 20)

ทางเท้าตรงอาคารพาณิชย์ฝั่งที่จะเดินไปแยกพระราม 9 ด้านเดียวกันที่ตั้งโครงการค่ะ ตรงนี้ก็จะเงียบๆ ไม่มีร้านขายของเยอะแบบฝั่งตรงข้าม

เราข้ามถนนมาดูฝั่งตรงข้ามคอนโด The Line อโศก-รัชดา กันบ้างค่ะ ฝั่งนี้ค่อนข้างคึกคัก เพราะมีซอยย่อยค่อนข้างเยอะ เป็นแหล่งชุมชน ร้านขายของก็เลยมีเยอะตามไปด้วยค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ข้ามถนนมา ฝั่งตรงข้ามก็มี 7-Eleven อยู่บริเวณปากซอยอยู่เจริญ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ภายในซอยอยู่เจริญที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ซอยบริเวณนี้สามารถลัดเลาะไปออกตรงซอยข้างสถานฑูตจีน รวมไปถึงถนนประชาสงเคราะห์ได้

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ปากซอยเลิศแก้วกับร้านขายอาหาร

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

จากฝั่งตรงข้ามมองกลับไปตรงที่ตั้งโครงการค่ะ จะเห็นที่กลับอยู่ด้านหน้าโครงการเลย

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ธนาคารกสิกรและธนาคารไทยพาณิชย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ซอยเลิศแก้วอีกรูป

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

เซเว่นอีกจุดอยู่ไม่ไกลค่ะ อยู่ตรงซอยโพธิ์ปั้น ติดกันเป็นที่ทำการไปรษณีย์ดินแดง

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

เลยตัวโครงการไปจะมีจุดลงสะพานข้ามแยกค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

เลยไปมีคอนโด A space hideaway  จาก Areeya

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

เดินกลับมาทางไปแยกพระราม 9 กันค่ะ

เรากลับมาดูบริเวณแยกพระราม 9 ฝั่งถนนรัชดาภิเษกกันต่อค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

จากถนนดินแดงฝั่จะไปแยกพระราม 9 (ฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ)

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

โรงแรม Grand Mercure Bangkok Fortune  ที่อยู่หัวมุมถนนรัชดาภิเษกตัดกับถนนดินแดง

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ติดกับโรงแรมเป็น ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ หรือ Fortune Town มีโลตัสอยู่ด้านในด้วย

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

บรรยากาศบริเวณถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปห้วยขวาง สุทธิสาร

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

Central Plaza Grand พระราม 9

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าไปถนนอโศก-ดินแดง ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนพระราม 9

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

G Land Tower ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นอาคารสำนักงานอยู่ 26 และ 36 ชั้น ติดเซ็นทรัล และรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 เลยค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

พื้นที่ของ The Grand Rama 9 ที่จะมีตึกที่สูง 125 ชั้นเป็นตึกที่สูงสุดในอาเซียน มองไปเห็นตึก Unilever อยู่ในพื้นที่ของเดอะ แกรนด์ พระราม 9 เช่นกัน

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ถนนพระราม 9 ด้านหน้า The Grand Rama 9

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ฝั่งตรงข้ามกับ The Grand Rama 9 บนถนนพระราม 9 จะมีคอนโด Ideo Mobi พระราม 9 และ Condolette Midst ตั้งอยู่ติดกัน

วนมาจนถึงฝั่งถนนอโศก-ดินแดงแล้วค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ถ้ามาจากถนนอโศก-ดินแดง เลี้ยวเข้าถนนดินแดงได้สบายๆ ไม่ไกลก็ถึงตัวที่ตั้งโครงการแล้ว

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

จากหัวมุมถนนดินแดง ตัดกับถนนอโศก-ดินแดง มองไปเห็นคอนโด Ideo Mobi พระราม 9 และ คอนโด Aspire พระราม 9 ที่มี 2 อาคาร

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ทางเดินบริเวณถนนอโศก-ดินแดง

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

คอนโด ริทึ่ม อโศก II ฝั่งเดียวกับ Aspire พระราม 9

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

คลองสามเสนในค่ะ อยู่ด้านหลังโครงการ ไม่แน่ใจว่าตัวที่ดินนั้นติดกับคลองหรือเปล่าค่ะ

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ด้านหน้า Rhythm Asoke ตัวแรก

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

ติดกับคอนโด Rhythm Asoke เป็นคอนโด AQ ARIA อโศก สูง 29 ชั้น

The line อโศก-รัชดา_view (ภาพที่ 01)

ทางด่วนพระราม 9 ค่ะ มองไปเห็นแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน

เอาวิวจากตรงคอนโด The Mark Condo รัชดา-แอร์พอร์ตลิ้งค์ ที่อยู่ใกล้ๆ กับ The Line อโศก-รัชดามาฝากกันค่ะ  เห็นทั้งฝั่งพระราม 9 และฝั่งทางด่วน ไปจนถึง ARL มักกะสัน

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

 

ซูมไปดูที่ดินของ The Line อโศก-รัชดากันหน่อย ไฮไลท์ไว้คร่าวๆ นะคะ ยังไม่ทราบขอบเขตที่แน่นอน วิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเดอะ ไลน์ จะเป็นโซน The Grand Rama 9 รวมไปถึงเหล่าคอนโดจากถนนพระราม 9 ส่วนวิวทางทิศใต้จะค่อนข้างโล่งค่ะ มองไปเห็นถึงมักกะสัน ยาวไปถึงอโศกเลย

คอนโด THE LINE Asoke-Ratchada (เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา)

พาไปเดินเล่นรอบๆ โครงการ The Line Asoke – Ratchada กันมาแล้ว จะเห็นว่าโซนนี้มีคอนโดขึ้นค่อนเยอะค่ะ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว และอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งตัวเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดานี้ก็เป็นตัวล่าสุดที่มีกำหนดเปิดให้เข้าชมสำนักงานขายกันได้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 59 นี้ค่ะ

รับรองว่า …. ชื่อ The Line ชั่วโมงนี้  ถ้าเห็นราคาแล้ว …
.

.

.

.

ไม่คอมเมนท์ดีกว่าค่ะ  55555

.
.

.

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^

รีวิว พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (Plum Condo พหลโยธิน 89) คอนโดราคาประหยัดราคาเริ่มต่ำกว่าล้าน ใกล้ ม.รังสิต ทางเข้าเมืองเอก จากพฤกษา

$
0
0

รีวิวนี้อยู่สบายพาเพื่อนๆ ไปดูตึกเสร็จของโครงการพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ครับ  โครงการนี้เป็นกลุ่มคอนโดทั้งหมด 5 เฟส เฟสละ 4 ตึก  รวมแล้วก็ 20 ตึก  Plum  Condo พหลโยธิน 89 นี้เป็นโครงการของพฤกษา เรียลเอสเตท ที่ทำออกมาจับตลาดกลุ่มคอนโดราคาประหยัด และพอยิ่งทำเยอะ ต้นทุนราคาต่อหน่วยก็ยิ่งถูกลง  ภาษาของทางธุรกิจเขาเรียกกันว่าการประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) ซึ่งนั่นก็ทำให้ราคาขายออกมาไม่แพง  ซื้อหาง่ายสำหรับคนที่ไม่มีงบประมาณในการซื้อคอนโดมากนักครับ

เราจัดรีิวิวของ พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 มาให้ชมกันอย่างละเอียดครบทุกมุมครับ  รูปจะเยอะหน่อย ค่อยๆ ดูกันไปนะครับ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Plum Condo Paholyothin 89

(พลัมคอนโด พหลโยธิน 89)

  • เจ้าของโครงการ >>> พฤกษา เรียลเอสเตท (Pruksa Real Estate)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนพหลโยธิน 89 ใกล้ปากทางเข้าเมืองเอกและมหาวิทยาลัยรังสิต
  • ขนาดที่ดิน >>>  พื้นที่ดิน 8 ไร่ ต่อ 1 เฟส (โดยประมาณ)
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น  (จอดรถชั้น 1 และรอบอาคาร)
  • จำนวนอาคาร >>>  4 อาคาร ต่อ 1 เฟส (ในโครงการมีทั้งหมด 5 เฟส)
  • ประเภทห้อง >>>  Studio
  • ขนาดห้อง >>> Studio 22, 28 ตาราเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  948  ยูนิต (ต่อ 1 เฟส)
  • ที่จอดรถ >>> 345 คัน  ประมาณ 36%
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  เริ่ม 744,000 บาท (ห้อง 22 ตร.ม. ชั้น 1 ณ วันที่ 1/5/2016)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  33,800 – 38,800 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.973155, 100.617802
  • เว็บไซต์โครงการ >>> Plum Condo Paholyothin 89
  • โทร >>> 1739
Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 1)

Plum Condo พหลโยธิน 89

ก่อนอื่นเรามาเริ่มจากภาพรวมโครงการก่อนครับ  ที่ตั้งของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 อยู่ตรงปากซอยเมืองเอก ที่จะเข้าไปทางมหาวิทยาลัยรังสิตได้นั่นเอง  ซึ่งตรงนี้ทำให้นอกจากคนในพื้นที่แล้วก็ยังได้จับตลาดของนักศึกษา ม.รังสิต ไปด้วย  ทั้งคนที่ซื้อปล่อยเช่าและซื้ออยู่เอง

ตัวที่ดินของพฤษาจะยาวตั้งแต่ตรงปากซอย 87 ไปจนถึง Makro เลย  โดยที่พอสุดรั้วโครงการพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (เฟส 5) แล้วก็จะมีโครงการพลัมคอนโด พรีเมียม พหลโยธิน 89 อยู่ติดกัน (โครงการนี้เปิดขายก่อนด้วย)  ลักษณะคอนโดในโครงการก็เหมือนกันครับ  สิ่งที่แตกต่างคือพลัมคอนโด พรีเมียม จะมีส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำและฟิตเนสมาให้ด้วย  ส่วนพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ที่เรามารีวิวกันวันนี้จะไม่มีสระว่ายน้ำกับฟิตเนส  แต่แลกมาด้วยราคาไม่ถึงล้านแทน

Plum condo พหลโยธิน 89 แผนที่

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทาง คอนโด บ้านเดี่ยว แผนที่ map

 

ในเรื่องการเดินทาง  และภาพถ่ายรอบๆ  ผมขออนุญาตยกยอดให้ไปดูในรีวิวเก่าของพลัมคอนโด พรีเมียม พหลโยธิน 89 แทนได้ตาม Link เลยครับ (ดูทำเลพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 คลิก) เพราะจากวันนั้นเมื่อ 2 ปีก่อน จนถึงวันนี้  ภาพรวมของทำเลรอบๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากอย่างชัดเจนครับ  ลักษณะค่อนข้างจะคล้ายเดิมทั้งหมด  ผมจึงไม่ได้เขียนส่วนนี้ซ้ำ  ขอไปเน้นรายดูละเอียดของตัวคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วดีกว่า

ลงบรีฟทำเลให้ดูกันสั้นๆ นะครับ

ที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าเมืองเอก (ซอยพหลโยธิน 87) ซึ่งเข้าไปยังมหาวิทยาลัยรังสิตได้ แปลงที่ดินนั้นขนาดใหญ่มาก  โดยจะอยู่หลังแนวตึกแถวที่ขนานกับถนนพหลโยธิน  ลักษณะที่ดินแบบนี้มองได้ 2 มุม คือถ้ามองเรื่องความโดนเด่นเวลามองจากภายนอก (Exposure) นั้นความโดดเด่นคงสู้โครงการแบบที่ติดถนนใหญ่เลยไม่ได้  แต่ก็จะได้ในเรื่องของความเงียบที่มากกว่าเพราะมีแนวตึกแถวด้านหน้าช่วยสกรีนเสียงจากรถบนพหลโยธินได้

ลองไล่ดูจากพื้นที่รอบๆที่ทำกราฟิกเอาไว้ให้นะครับ  ตำแหน่งของคอนโดพลัม พหลโยธิน 89 นั้นอยู่ติดๆกับ แมคโคร (หมายเลข 1) ด้านหน้าตลอดแนวของโครงการ  จะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ที่ขนานถนนพหลโยธิน (หมายเลข 2) ตึกแถวพวกนี้ทำพวกอะไหล่และอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์รวมถึงพวกเครื่องยนต์ต่างๆ ครับ  จริงๆ ตลอดหน้าแนวตึกแถวนี้มีถนนสาธารณะที่ขนานกับถนนพหลโยธินเลย  แต่เวลาใช้งานก็จะลำบากหน่อยเพราะตึกแถวแถวนั้นก็ยึดพื้นที่วางพวกอะไหล่ยนต์และเครื่องยนต์ต่างๆ ของออกมากองริมถนนซะเยอะ

แผนที่ Plum Condo Pholyothin 89
ไล่ดูกันมาเรื่อยๆ ตรงปากซอยพหลโยธิน 87 (หมายเลข 3) มีวินมอเตอร์ไซต์ใหญ่อยู่  ตลอดริมถนนก็มีตึกแถวที่ขายอาหารอยู่หลายร้านทีเดียว ไม่อดอยากแน่นอน  ถัดเข้ามาในซอยนิดนึงจะมีคอนโดเพื่อนบ้านอย่าง Condo U รังสิต-เมืองเอก (หมายเลข 4) อยู่ครับ  รั้วด้านทิศเหนือของ Condo U รังสิต-เมืองเอก นี้ติดกับรั้วของ Plum Condo เฟสแรก  พอเลยเข้าไปในซอยอีกหน่อยจะเห็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (หมายเลข 5) ซึ่งที่ดินของมหาวิทยาลัยนั้นยาวขนานไปตลอดแนวของที่ดินด้านหลังของ Plum Condo พหลโยธิน 89 ครับ

ออกมาตรงปากซอยอีกด้านจะเป็นปั๊มเอสโซ (หมายเลข 6) และถ้าลองเลยไปเรื่อยๆ ตรงจุดที่แยกไปรังสิต-ปทุมธานี หรือรังสิต-นครนายก  ก็จะเป็น Hub ใหญ่  มีทั้ง Major Cineplex (หมายเลข 7) , Future Park รังสิต และ ZPELL ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปี (หมายเลข 8) และมี Tesco Lotus รังสิต (หมายเลข 9) ด้วย

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

โครงการนั้นจะเรียงตามแนวหลังตึกแถวที่ขนานกับถนนพหลโยธินนะครับ  ตัว Plum Condo พหลโยธิน 89 นั้นมีทั้งหมด 5 เฟส  ส่วนด้านข้างที่ติดกับแมคโครก็เป็น Plum Condo Premium พหลโยธิน 89 อย่างที่เล่าไปแล้ว

ถนนด้านหน้าโครงการที่ตัดผ่านทุกเฟสจะเป็นที่ของทางพฤกษาเองที่ยกให้เป็นทางสาธารณะเพื่อที่จะได้มีระยะก่อสร้างอาคารได้ตามกฎหมายครับ  ตัวคอนโดทั้ง 5 เฟสนั้นจะเรียงกันไปตามตัวเลขที่ใส่ไว้ให้ในกราฟิกเลย  โดยเฟส 1, 2, 4, 5 จะเป็นห้องแบบ 28 ตารางเมตร  ส่วนเฟส 3 นั้นเน้นไปที่ห้องแบบ 22 ตารางเมตร  ซึ่งเฟส 3 นอกจากเป็นห้องเล็กแล้ว  ลักษณะการตกแต่งด้านนอกคอนโดก็จะทำน้อยกว่าเฟสอื่นๆ  เพื่อให้สามารถทำราคาขายได้ถูกนั่นเอง

จะเห็นว่าในแต่ละเฟสก็จะมี 4 ตึก วางคู่ขนานกันไป 2 แถวครับ  ผังโครงการจะเข้าแถวหน้ากระดานง่ายๆ แบบนี้เหมือนกันทุกเฟส

Plum condo พหลโยธิน89 ผังโครงการ

มาดูที่ตึกกันเลย

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 59)

 

ถนนในรูปคือถนนที่พฤกษายกให้เป็นทางสาธารณะครับ  มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นแนวรั้วที่ปลูกต้นไม้เรียงเป็นแถวนั่นก็ที่ของพฤกษา  ดูจากสเกลที่ดินแล้วถ้าไม่ทำเป็นอาคารพาณิชย์ก็ต้องเป็นพวกโฮมออฟฟิศหล่ะ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 60)

 

ทุกเฟสจะมีป้อมยามแยกกัน  รั้วก็จะแยกกันด้วยครับ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 53)

 

มาดูแต่ละตึกกันครับ  ตึกแรกที่จะพาไปดูเป็นโซนเฟส 1 ซึ่งแบบก็จะเหมือนกันกับเฟส 2, 4, 5

ที่ยอดตึกก็จะมีป้ายบอกชื่อตึกอยู่ 1A  เลข 1 คือตัวเลขเฟส ส่วน A เป็นตำแหน่งตึกครับ  ในแต่ละเฟสก็จะแบ่งเป็น A B C และ D  ด้านข้างของตึกก็จะมีการดีไซน์เล่นแพทเทิร์นอยู่บ้าง

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 55)

 

ส่วนด้านยาวของคอนโดก็จะออกมาเรียบๆ  ตามแบบของคอนโดราคาประหยัด  ไม่แน้นตกแต่งมาก  ด้านล่างจะเป็นที่จอดรถ  ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มจากชั้น 2 ขึ้นไป

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 54)

 

ทางเข้าที่จอดรถใต้ตึกจำกัดความสูงเอาไว้ที่ 2.10 เมตร  ก็เพียงพอกับความสูงของรถทั่วไปอยู่แล้ว

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 50)

 

มีแบ่งส่วนหนึ่งเป็นที่จอดจักรยานยนต์แล้วก็ตีเส้นให้เรียบร้อย  แนวของท่องานระบบอาคารนั้นทาสีเทาเพื่อช่วยพรางตาไปกับท้องพื้นคอนกรีตด้านบน  ก็ดูเรียบร้อยดีครับ ไม่ได้ปล่อยไว้เป็นท่อ PVC สีฟ้าน่าเกลียด  พื้นคอนกรีตในส่วนที่จอดรถก็ทำเป็นคอนกรีตขัดมันตามปกติ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 9)

 

ตรงส่วนของล็อบบี้และโถงลิฟต์จะทาสีน้ำตาลให้ตัดกับสีขาวของตัวอาคารปกติ  ทำให้ดูไม่เลียนจนเกินไป

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 13)

 

ตรงช่องระหว่างอาคารที่ทะลุจากเฟส 1 ไปถึงเฟส 5 ผมไปลองยืนดูแล้วมีลมพัดดี  เป็นช่องอุโมงค์ลมครับ

 

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 42)

 

แหงนหน้าดูยอดตึกกันหน่อย  คุณภาพงานก่อสร้างโดยรวมก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคดีครับ คือ ไม่ได้เนี้ยบมากมาย  แต่ภาพรวมก็ไม่ได้แย่  เพราะระดับราคานี้ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่างานจะต้องออกมาเนียนตาเนี้ยบกริปอยู่แล้ว

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 48)

 

ตรงกลางก็จะมีตัวอักษรบอกแต่ละตึกเอาไว้ครับ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 39)

 

คอร์ทตรงกลางระหว่างตึก A-D และ B-C มีปูหญ้าสลับกับทางเดินนิดหน่อย

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 37)

 

พื้นที่แต่ละเฟสจะกั้นรั้วแยกชัดเจนครับ  ด้านข้างปูหญ้าและปลูกต้นไม้เอาไว้ให้ รอโต

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 38)

 

ทางเข้าล็อบบี้ที่เป็น Double Space

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 52)

 

ด้านหน้าทางเข้าจะมีตัวอักษรติดไว้  กันขึ้นผิดตึก  เพราะในโครงการมีตึกเยอะมาก

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 23)

 

ทางเข้าล็อบบี้ครับ  (ส่วนภาพด้านในเดี๋ยวไปดูในส่วนของรีวิว facilities ด้านล่างต่อนะคร้าบ)

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 5)

ถัดจากเฟส 1 แล้ว เราก็มาดูเฟส 3 กันบ้างครับ  เฟสนี้จะเป็นคอนโดห้อง 22 ตารางเมตร  ราคาต่อตารางเมตรจะถูกกว่าตึกอื่นๆ  มองจากด้านหน้าแล้วดีไซน์การเล่นแพทเทิร์นต่างๆ บนผนังคอนโดมีไม่เยอะเท่าเฟส 1, 2, 4, 5
Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 62)

 

ด้านข้างเนื่องจากว่าห้องทุกห้องมีระเบียงยาว  เลยจะเห็นรูปด้านข้างออกมาเป็นแบบนี้ครับ  อาจจะไม่ได้สวยเท่าไหร่  แต่ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกให้คนที่มีงบประมาณไม่มากนัก  เพราะราคาค่าผ่อนก็ไม่ได้ต่างจากเช่าอพาร์ทเม้นท์รอบๆ  แต่นี่ก็ได้กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของด้วย

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 65)

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นจะวางบิดแกนกับแนวทิศเหนือใต้นิดหน่อย  ถ้าดูตามทิศทางแดดแล้ว  ทางตะวันตกของตึก C กับ D จะร้อนสุด  แต่ชั้นล่างๆ ก็จะไม่โดนแดดช่วงบ่ายแก่ๆ เยอะ  เพราะว่าจะมีเงาจากตึกเฟสที่ติดกันบังอยู่  ชั้นบนๆ ทางทิศตะวันตกก็อาจจะร้อนกว่าส่วนอื่นครับ  แต่ถ้าเป็นชั้นล่างๆ อย่างตึก A ตึก B นั้นถึงอยู่ทิศตะวันตกก็ไม่ร้อนมาก  เพราะมีเงาตึก C กับ D มาช่วยบังให้เยอะ

ทิศทางแดด Plum Condo พหลโยธิน 89

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 นั้นไม่เน้นมากครับ  มีที่จอดรถให้ในบริเวณใต้ถุนตึกและรอบอาคาร  มีสวนด้านหน้านิดหน่อยและสวนตรงคอร์ทกลางระหว่างตึก ที่พอจะให้มีสีเขียวพักสายได้ได้บ้าง  จุดที่ดีคือในแต่ละอาคารจะมีล็อบบี้แยกออกจากกัน  ทุกล็อบบี้ต้องใช้คีย์การ์ดเข้าออก จะไม่สามารถข้ามไปเข้าตึกอื่นได้  และล็อบบี้นั้นตกแต่งมาแบบว่าดูดีเกินราคาที่ขายครับ  เป็น Double Space ที่มีแชนเดอร์เลียห้อยไว้ด้วย  เดินเข้าล็อบบี้แล้วรู้สึกว่าคอนโดดูดีขึ้นทันตาทีเดียว

ผังโครงการ Plum Condo Paholyothin 89 

ในแต่ละตึกจะมี 237 ยูนิต กับลิฟต์โดยสาร 2 ตัว  เฉลี่ยแล้วสัดส่วนออกมาได้ 119 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  โดยรวมก็ถือว่าดีครับ  ไม่มีลิฟต์บริการแต่ก็ถือว่าเป็นปกติสำหรับคอนโด low rise ราคาประหยัด  ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร  ที่จอดรถนั้นมีประมาณ 36% จัดว่าไม่เยอะ  แต่เทียบกับราคาก็เข้าใจได้ครับ  ถือว่าแฟร์

มุมนี้มองจากสวนด้านหน้าของอาคาร A และ D ที่ติดถนน

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 56)

 

จะมีคอร์ทต้นไม้ลงไปนั่งเล่นได้  ต้นไม้ต้นนี้อยู่ตรงกลางแนวของระยะห่างระหว่าง 2 อาคารพอดี

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 2)

 

คอร์ทต้นไม้อีกมุมหนึ่ง

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 57)

 

คอร์ทกลางอาคารก็มีแนวไม้พุ่มช่วยบังรถที่จอดอยู่ใต้ตึก

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 36)

 

ขึ้นตึกไปมองจากด้านบนลงมา  เห็นพื้นที่สีเขียวตรงกลางระหว่างอาคาร A – D และ B – C  ดีไซน์เป็นแพทเทริ์นเรขาคณิต  มีม้านั่งกระจายให้นิดหน่อย

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 22)

 

เข้ามาในล็อบบี้กันดีกว่า

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 6)

 

แตะคีย์การ์ดก่อนเข้านะ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 7)

 

เข้าล็อบบี้มาจะเป็น Double Space

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 25)

 

มีแชนเดอร์เลียให้ทุกตึก  ช่วยอัพระดับความดูดีของส่วนกลาง

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 27)

 

ตรงนี้จะเป็นตู้จัดหมายครับ ทำเป็นบานปิดเพื่อความเรียบร้อย  จะมีเลขบอกบ้านเลขที่เอาไว้ตรงมุมบน  หน้าบานตู้ทำผิวลายเคลือบ glossy

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 29)

 

กดเปิดมาก็จะเป็นแบบนี้  ซ่อนไว้ดูเรียบร้อยดี  ช่วยประหยัดพื้นที่ทำห้องจดหมายด้วย

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 28)

 

ประตูทางเข้าลิฟต์ครับ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 30)

 

อีกมุมหนึ่ง

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 32)

 

ด้านข้างมีเก้าอี้บาร์นั่งรอเพื่อนหรือเปิดโน้ตบุ๊คทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 31)

 

มีตกแต่งเพดานเล็กน้อย  ไม่ให้เรียบเกินไป

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 33)

 

มีการคิดเรื่องรอยต่อและตัวจบของวัสดุมาด้วย ดีเทลดูดีนะครับ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 35)

 

ล็อบบี้อีกมุมนึง

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 26)

 

คราวนี้มาดูล็อบบี้เฟส 3 กันบ้าง  อย่างที่เล่าไปแล้วว่าเฟสนี้ราคาถูกสุด  แต่ล็อบบี้ไม่ได้ลดสเปคนะครับ  ความหรูเท่ากับเฟสอื่นๆ เลย  ดีไซน์แบบเดียวกัน  (จริงๆ ต้องบอกว่าพื้นที่ล็อบบี้ใหญ่กว่าด้วย)

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 69)

 

ดูดีนะครับ  นี่คือล็อบบี้คอนโดราคาเฉลี่ย 7.5 – 8.5 แสน  จัดว่าดี !

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 68)

 

โถงทางเข้าลิฟต์ของเฟส 3

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 70)

 

ใช้ลิฟต์ของ Schindler  ต้องเอาคีย์การ์ดแตะที่เซนเซอร์ด้านข้างก่อน  ถึงจะกดลิฟต์ได้ 

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 14)

 

โถงลิฟต์ในแต่ละชั้นทาสีเทาเป็นหลัก  ใช้ Font กราฟิกสีส้ม

Plum-Condo-พหลโยธิน-89-(ภาพที่-72)

 

ความกว้างของโถงลิฟต์ดี  ไม่แคบและอึดอัด

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 21)

 

แสงเข้ามาได้ครับ  ไม่ต้องเปิดไฟส่วนกลางเยอะ  การตกแต่งก็เน้นทาสีโทนสีเทา

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 19)

 

ตามทางเดินก็จะทาสีเทาหมด  แต่ใช้โทนสีอ่อนว่าโถงลิฟต์ตรงกลาง  มีช่องแสงตรงปลายสุดทางเดิน  ช่วยเรื่องเอาแสงเข้ามาได้หน่อย  สภาพงานฉาบเก็บความเรียบร้อยภายใน (เฉพาะชั้นที่ไปดู) ก็ดูเรียบร้อยดีครับ

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 18)

 

ช่องหน้าต่างให้แสงเข้า และช่วยระบายอากาศที่สุดทางเดิน  ให้มาเต็มบาน

Plum Condo พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 16)

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan Plum Condo Paholyothin 89 ชั้น 1

การวางตำแหน่งตึกแต่ละตึกในทุกเฟสจะเรียงเหมือนกันในรูป คือ ด้านหน้าเป็น A D และด้านหลังเป็น B C  ตรงพื้นที่กลางคอร์ทระหว่าง 4 ตึก จะทำพื้นเป็น stamp concrete ให้รถวิ่งเข้ามาได้  ระยะความสูงของรถที่จะเข้าจอดใต้ตึกจำกัดไว้ที่ 2.10 เมตร นะครับ  โดยรวมแล้วแปลงที่ดินแบบนี้ก็ต้องจัดออกมาแบบนี้แหละครับ  เรียกว่าใช้พื้นที่ได้มีประสิทธิภาพทีเดียว

ผังโครงการ Plum Condo Paholyothin 89

ผังโครงการ Plum Condo Paholyothin 89

 

Floor Plan Plum Condo Paholyothin 89 ชั้น 3-8

ลักษณะการวางแปลนห้องของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ในแต่ละตึกนั้นก็เรียงห้องแนวเส้นตรง เข้าแถวหน้ากระดานตามสูตรของคอนโดราคาประหยัดครับ  ตำแหน่งของโถงลิฟต์ที่อยู่ตรงกลางทำให้ระยะทางการเดินจากแต่ละห้องไปจนถึงโถงลิฟต์ไม่ไกลจนเกินไป  มีบันไดหนีไฟกระจายอยู่ 3 จุดตามกฎหมาย  แปลนที่เอามาให้ดูนี้เป็นชั้น 3-8  ส่วนของชั้น 2 ห้องตรงโถงลิฟต์ก็จะหายไปห้องนึง  เพราะว่าถูกใช้สเปซไปเชื่อมกับ Double Space ของโถงทางล็อบบี้ที่ชั้น 1 นั้นเอง  ส่วนในแง่ดีไซน์อื่นๆ นั้นไม่ได้มีประเด็นให้พูดถึงมากเท่าไหร่

Floor Plan พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ชั้น 3-8

Typical Floor Plan พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ชั้น 3-8

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Plum Condo Paholyothin 89 มี 2 แบบ  เป็น 28 ตารางเมตร ซึ่งมีเยอะสุด  และก็มี 22 ตารางเมตร  ซึ่งมีเฉพาะเฟส 3 ที่เป็นตึกตรงกลางโครงการ

ภาพรวมของการจัดแปลนก็แบ่งสัดส่วนใช้ได้  พยายามใช้พื้นที่แต่ละส่วนให้คุ้มค่าที่สุด  รายละเอียดอ่านกันต่อได้ข้างล่างครับ

แปลนห้องคอนโด Plum Condo Paholyothin 89

แบบ สตูดิโอ Grove ขนาด 28 ตารางเมตร

แปลนห้องพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 นี้ก็ใช้การกั้นห้องแบบง่ายๆ โดยแบ่งพื้นที่ครัวและห้องน้ำไว้ด้านหนึ่ง  ส่วนนอน ส่วนพักผ่อน และส่วนรับประทานอาหารอยู่รวมกันด้านหนึ่ง  โดยรวมๆ ก็ใช้พื้นที่ได้คุ้มดี  ส่วนนอนนั้นดูจากแนวผนังแล้วถ้าจะกั้นประตูกระจกแยกออกจากส่วนนั่งเล่นก็พอได้อยู่  ตำแหน่งของโซฟาจะวางเหลือมกันกับทีวีหน่อยนึง  แบบนี้ตรงพื้นที่ทำครัวกับตรงระเบียงที่วางเครื่องซักผ้าจะไม่ได้มีประตูเลื่อนกระจกกั้นให้นะครับ  ถ้าอยากได้ต้องทำเพิ่มเติมเอง  เวลาอยู่อาศัยจริงก็อาจจะต้องมีทำ built-in ตู้ลอยตัวแขวนผนังเพิ่มบางจุดเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้ห้องให้มากขึ้นครับ

แปลนห้อง พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 แบบ 28 ตารางเมตร

แปลนห้อง พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 แบบ 28 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Plum Condo Paholyothin 89

แบบสตูดิโอ 22.00 ตารางเมตร

แบบสตูดิโอนี้ห้องจะถูกจัดมาแบบ Compact ครับ  จะไม่ได้เหลือที่โล่งมากนัก แต่ก็ใช้พื้นที่แทบจะครบทุกเม็ด ตำแหน่งของโต๊ะรับประทานอาหารนั้นจะวางอยู่ตรงด้านหน้าทีวี  ซึ่งก็คงจะต้องใช้แบบโต๊ะพับเก็บได้  เพื่อเวลาที่ไม่ได้รับประทานอาหารแล้วจะได้พับเก็บแล้วดูทีวีได้สะดวก  ถ้าอยากดูทีวีไปพร้อมรับประทานอาหารก็ต้องมานั่งที่โซฟาแทน  เพราะตำแหน่งโต๊ะทานข้าวในแปลนนั้นนั่งดูทีวีไม่ได้แน่ๆ  ห้องแบบนี้เวลาตกแต่งก่อนเข้าอยู่  ผมแนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ไม่ใหญ่มาก  เพื่อที่ห้องจะได้ไม่ดูแคบครับ  การเน้นโทนสีสว่างหรือติดกระจกเพิ่มเติมก็ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นได้

แปลนห้อง พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 แบบ 22 ตารางเมตร

แปลนห้อง พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 แบบ 22 ตารางเมตร

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

ห้องตัวอย่างมีมาให้ดูทั้ง 2 แบบ ที่สำนักงานขายที่อยู่ด้านโครงการครับ  การจัดวางตกแต่งนั้นทำมาให้ดูเป็นไอเดีย  ของจริงจะได้ห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์  แต่ถ้าใครอยากได้เฟอร์บางชิ้น  โครงการก็อำนวยความสะดวกให้โดยดีลจัดเป็น Package ไว้กับ Supplier ข้างนอก  แล้วก็ไปซื้อได้เป็นเซตสำหรับคนขี้เกียจเสียเวลานั่งหาเองครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด Plum Condo พหลโยธิน 89 

แบบ Studio ขนาด 28.00 ตารางเมตร

มาเริ่มกันจากห้องแบบ 28 ตารางเมตรครับ  จะเห็นว่าในห้องตัวอย่างมีพาร์ทิชั่นกั้นยื่นออกมาแยกสเปซส่วนนอนและส่วนโซฟาออกจากกัน  ตรงนี้ถ้าใครจะติดกระจกบานเลื่อนเพิ่มก็ได้  เพราะว่าแนวของผนังจะไปชนผนังอีกด้าน  ไม่ได้ชนกับประตูทางเข้าครัวครับ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 1)

 

จะเห็นว่าก็ใช้โทนสีสว่าง สบายตามาตกแต่ง มีกระจกช่วยทำให้ห้องกว้างขึ้นหน่อย  ระยะดูทีวีก็โอเคครับ  แต่มุมดูทีวีเวลานั่งที่โซฟาจะต้องเฉียงหน่อย  ไม่ได้อยู่ตรงหน้าแบบ 90 องศา

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 2)

 

นั่งที่โซฟาแล้วมองไปปลายเตียงเห็นตู้เสื้อผ้า และทางเข้าครัวด้านข้าง

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 6)

 

ภายในครัวครับ  สเปซทำงานและหมุนตัวได้  ส่วนประตูกระจกบานเลื่อนที่เห็นในรูปไม่ได้ให้นะคร้าบ  ของจริงต้องเรียกช่างมาติดเพิ่มเองนะ  ห้องที่ได้จะปล่อยสเปซโล่งจนถึงระเบียงเลย  ตรงนี้แนะนำว่าซื้อห้องมาแล้ว  ยังไงก็ควรทำเพิ่ม เพราะจะใช้ประโยชน์สเปซภายในได้ดีกว่าเยอะ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 4)

 

มองกลับไปตรงทางเข้าห้องน้ำบ้าง

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 5)

 

ในห้องน้ำครับ ระยะต่างๆ ใช้งานจริงได้ดี  แต่ไม่มีกระจกกั้นอาบน้ำนะ  ที่เห็นคือของตกแต่งครับ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 3)

ห้องตัวอย่างคอนโด Plum Condo Paholyothin 89

แบบ Studio ขนาด 22.00 ตารางเมตร

มาถึงห้อง 22 ตารางเมตรกันต่อ  เข้ามาแล้วสเปซก็โล่งถึงกันหมด  ห้องนี้ไม่แนะนำให้ทำผนังกั้นนะครับ  เดี๋ยวจะยิ่งดูแคบ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 7)

 

โซฟากับเตียงวางไว้คู่กัน  กระจกเงาช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 8)

 

อีกมุมนึงครับ  เวลาอยู่จริง ตรงผนังข้างโซฟาอาจจะทำตู้แขวนผนังเอาไว้เก็บของใช้ต่างๆ เพิ่มเติม  ห้องจะได้มีพื้นที่เพิ่มครับ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 13)

 

ฟังก์ชั่นต่างๆ อย่าง pantry ตู้เย็น และชั้นวางทีวี ก็จะเรียงกันแบบนี้

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 9)

 

มุมมองหน้าตรง  นั่งดูทีวีจากโซฟา  จะใช้ทีวีเครื่องใหญ่กว่านี้ก็ได้นะครับ  ระยะความกว้างพอ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 10)

 

แบบ 22 ตารางเมตร มีระเบียงยาวกว่าแบบ 28 ครับ  ความยาวตลอดความกว้างของห้องเลย  คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ลอยๆ แบบนี้  ไม่ได้มีที่ปิดซ่อนอะไร

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 11)

 

มองกลับไปอีกด้านนึง

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 12)

 

ภายในห้องน้ำครับ ห้องจริงส่วนที่อาบน้ำจะลดระดับลงไปให้ด้วย  ในห้องตัวอย่างทำไว้เรียบๆ เนื่องจากข้อจำกัดด้านโครงสร้างครับ

พลัมคอนโด พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 14)

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

ไปดูกันต่อที่วัสดุห้องจริงที่ได้ครับ  ในภาพรวมก็เป็นวัสดุตามมาตราฐานคอนโดราคาประหยัด  เป็นเกรดมาตราฐานใช้งานได้  ห้องน้ำสำหรับแบบ 28 ตารางเมตร นั้นได้กระจกบานใหญ่มาด้วย  และเนื่องจากในห้องไม่ได้ให้ pantry มา  เราเลยแบ่งวัสดุออกเป็น 2 ส่วน คือ วัสดุห้องน้ำ กับ วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) ครับ  …  ไปดูกันเล๊ย !

วัสดุห้องน้ำ

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 19)

แบบ 28 ตารางเมตร ได้กระจกเงาบานใหญ่ครับ  ที่วางของเป็นท็อปหิน

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 18)

แบบ 22 ตารางเมตรเป็นกระจกบานเล็กติดผนังธรรมดา  ไม่มีที่วางของให้  ต้องซื้อแบบแขวนผนังมาเพิ่มครับ

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 18)

กะเบื้องพื้นแบบ 28 ตารางเมตรจะสีน้ำตาลอมเทา  ส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงนิดนึง

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 16)

ของแบบ 22 ตารางเมตร กระเบื้องพื้นจะเป็นสีครีมครับ  พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะแคบกว่าหน่อย  ขนาดประมาณ 80×80 ซม.

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 20)

ฝักบัวธรรมดา

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 21)

ประตูห้องน้ำเป็น PVC ครับ

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 15)

สุขภัณฑ์ใช้ American Standard รุ่นทั่วไป

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 14)

อ่างล้างมือแขวนผนังครับ  เหมือนกันทั้ง 2 ห้อง

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 19)

ราวแขวนผ้าครับ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 26)

บานประตูทางเข้าห้องครัวเป็น HDF

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 28)

ติดเบรกเกอร์ไฟไว้ที่มุมสุดเลย

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 26)

มือจับประตูหน้าห้อง  ลองบิดดูแล้วแข็งแรงแน่นหนาดี  สัมผัสดีครับ

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 32)

มี Door Stopper ที่พื้น

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 25)

ผนังห้องจริงติดวอลล์เปเปอร์ให้โทนสีอ่อน  พื้นลามิเนต  บัวผนัง PVC สีเข้มกว่าพื้น

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 24)

กระเบื้องตรงส่วนครัวห้อง 28 ตร.ม. เป็นสีครีมครับ  ธรณีเข้าห้องน้ำที่เห็นเป็นหินสีดำ

Plum Condo Paholyothin 89 (ภาพที่ 23)

ราวกันตกด้านล่างจะปิดทึบ  มีราวจับเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

พลัม พหลโยธิน 89 (ภาพที่ 12)

มีโคมไฟซาลาเปา  ด้านบนมี Smoke Detector ไว้ให้ด้วย

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

ราคาของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 ณ วันที่ไปรีวิว (5 พ.ค. 59) ทำออกมาในระดับหลักแสนปลายๆ จนถึงเกินล้านมานิดหน่อยครับ  ห้อง 22 ตารางเมตรนั้นอยู่ที่ 744,000 – 866,200 บาท (ห้องที่ถูกสุดจะอยู่ที่ชั้น 1 เฟส 3)  ส่วนห้องแบบ 28 ตร.ม. ราคาจะอยู่ในช่วง 994,200 – 1,064,900 บาท  ซึ่งราคาห้องตึก A, D จะเท่ากัน  และแพงกว่าตึก B, C อยู่นิดหน่อยเมื่อเทียบราคาในชั้นเดียวกัน  เพราะเดินใกล้กว่านั่นเอง

ราคาเฉลี่ยของทั้งโครงการก็อยู่ในช่วง 33,xxx – 38,xxx บาทต่อตารางเมตรครับ

ราคา ณ วันที่  5 พฤษภาคม 2559

ราคาเริ่มต้น :

Studio พื้นที่ 22.00  ตร.ม. ชั้น 2 ตึก B,C ราคา 789,200 บาท เฉลี่ย 35,872 บาท/ตร.ม.

Studio พื้นที่ 22.00  ตร.ม. ชั้น 8 ตึก B,C ราคา 855,200 บาท เฉลี่ย 38,872 บาท/ตร.ม.

Studio พื้นที่ 28.00  ตร.ม. ชั้น 2 ตึก B,C ราคา 994,200 บาท เฉลี่ย 35,507 บาท/ตร.ม.

Studio พื้นที่ 28.00  ตร.ม. ชั้น 8 ตึก B,C ราคา 1,060,600 บาท เฉลี่ย 37,878 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

Studio จอง 900 บาท / ทำสัญญา 4,900 บาท

  • ผ่อนดาวน์

ห้องพร้อมอยู่ไม่ต้องผ่อนดาวน์

10 งวด : งวดละ 2,000 บาท 8 งวด / งวดพิเศษ 9,900 บาท 2 งวด

 

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  35  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  350 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio  พื้นที่ 22.00 ตร.ม. ราคาขาย  789,200 บาท  ผ่อนประมาณ 5,209 บาท/เดือน

Studio  พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ราคาขาย  994,200 บาท  ผ่อนประมาณ 6,562 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio  พื้นที่ 22.00 ตร.ม. ราคาขาย  789,200 บาท  ผ่อนประมาณ 5,506 บาท/เดือน

Studio  พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ราคาขาย  994,200 บาท  ผ่อนประมาณ 6,936 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio  พื้นที่ 22.00 ตร.ม. ราคาขาย  789,200 บาท  ผ่อนประมาณ 6,002 บาท/เดือน

Studio  พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ราคาขาย  994,200 บาท  ผ่อนประมาณ 7,561 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio  พื้นที่ 22.00 ตร.ม. ราคาขาย  789,200 บาท  ผ่อนประมาณ 6,907 บาท/เดือน

Studio  พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ราคาขาย  994,200 บาท  ผ่อนประมาณ 7,801 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio  พื้นที่ 22.00 ตร.ม. ราคาขาย  789,200 บาท  ผ่อนประมาณ 8,844 บาท/เดือน

Studio  พื้นที่ 28.00 ตร.ม. ราคาขาย  994,200 บาท  ผ่อนประมาณ 11,141 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ตำแหน่งที่ตั้งที่ พลัมคอนโด พหลโยธิน 89  นั้นอยู่บนถนนพหลโยธินใกล้ถนนเอกทักษิณที่เข้าไป ม.รังสิตได้  การเดินทางเข้าถึงทำได้ง่ายครับ  จากตำแหน่งที่ตั้งสามารถออกไปทางรังสิต-ปทุมธานี หรือรังสิต-นครนายก ก็ยังสะดวกอยู่  ถ้าจะวิ่งเข้าเมืองเลยตัวโครงการไปหน่อยก็จะไปกลับรถใต้สะพานที่ข้างคลองรังสิตฯ ได้ไม่ต้องอ้อมไกลจากตัวโครงการมากนัก  ภาพรวมก็สะดวกดีครับ  บนช่องทางคู่ขนานก็มีรถเมล์ผ่านตลอดแต่ก็มักต้องโบกเอาไม่รู้เป็นอะไรชอบไม่จอดป้ายกัน  ถ้าจะเข้าไปในเมืองเอกหรือเป็นนักศึกษา ม.รังสิต จะไปเรียนก็มีพี่วินฯ อยู่ปากซอย เป็นวินใหญ่รถวิ่งเยอะครับ

ระยะทางระหว่างต้นโครงการตั้งแต่ตรงที่เป็น Plum Condo พหลโยธิน 89 มาจนถึง Plum Condo Premium พหลโยธิน 89 นี้มีป้ายรถเมล์กระจายอยู่ 3 ป้ายด้วยกัน  ช่องทางออกที่เดินผ่านตึกแถวด้านข้างออกมาจะมีทั้งหมด 3 ช่อง  โดยทางออกช่วงพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 จะอยู่ตรงหัวโครงการเฟส 1 และสุดที่ปลายเฟส 5  ส่วนอีกจุดที่เหลือเป็นตรงที่ออกไปแมคโครติดกับ Plum Premium ครับ  ตึกที่ถ้าจะออกไปถนนใหญ่จะต้องเดินไกลสุดก็คือเฟส 3 ที่อยู่ตรงกลางและราคาถูกสุดนั่นเอง

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

หลังจากเปิดโครงการไปเมื่อ 2 ปีก่อน  จนสร้างเสร็จ  ทำเลนี้ก็ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากนักครับ  ที่คืบหน้าก็คือรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-รังสิต นั้นเริ่มก่อสร้างไปได้เยอะแล้ว  แนวรถไฟชานเมืองสายสีแดงนี้ก็จะวิ่งเลียบถนนวิภาวดีมาแล้วเบี่ยงเข้าถนนกำแพงเพชร 6  ตัวสถานีที่ใกล้กับ Plum Condo พหลโยธิน 89 มากที่สุดก็จะเป็นสถานีหลักหกครับ  ระยะคร่าวๆ จากปากซอยพหลโยธิน 87 เข้าไปถึงที่สถานีก็น่าจะประมาณ 1.5 กิโลเมตร  การก่อสร้างก็ทำกันไปเรื่อยๆ  อีกหน่อยถ้าเสร็จก็จะสบายกว่านี้  เพราะจะมีทางเชื่อมต่อกับในเมืองเพิ่มขึ้นจากที่ต้องไปทางวิภาวดีอย่างเดียว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

รูปแบบของ Plum Condo พหลโยธิน 89 นั้นก็ทำมารองรับตลาดคอนโดราคาประหยัดสำหรับคนในพื้นที่รอบโครงการซึ่งเป็นช่วงปลายของดอนเมืองโทลล์เวย์  ลักษณะของตัวสถาปัตยกรรมก็เรียบง่าย  เป็นเส้นตรงธรรมดา  เรียกว่าเป็นโครงการที่ทำออกมาในลักษณะ Mass ซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนต่ำลง  และขายได้ในราคาถูกด้วย  ตัวคอนโดนั้นมีการตกแต่งด้วยแพทเทิร์นบ้างนิดหน่อย  ใช้การทาสีช่วย  รูปแบบการจัดเรียงห้องก็วางเป็นแนวเส้นตรงและมีทางเดินตรงกลางตามปกติ

แปลนของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 นั้น ก็จัดออกมาได้ดีในภาพรวมครับ  ห้อง 28 ตารางเมตร ที่เป็นแบบที่มีมากที่สุดในโครงการถ้าจะกั้นเป็นห้องแยกออกมาก็ได้  จะขอติก็ตรงที่จะต้องมาทำประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างครัวกับระเบียงด้านนอกเองนี่แหละครับ  ตรงนี้จะต้องมาเหนื่อยหาช่างกันหน่อย  และในส่วนของวัสดุนั้นก็ให้มาตามมาตราฐานของคอนโดราคาประหยัดครับ  สิ่งที่ดูจะบวกเพิ่มขึ้นมาให้พิเศษก็คือกระจกห้องน้ำที่ได้บานใหญ่ (ห้อง 28 ตร.ม.) และมือจับประตูเข้าห้องที่ให้มาดูแล้วดีเมื่อเทียบกับสเปคคอนโดในระดับราคาเดียวกันครับ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของพลัมคอนโด พหลโยธิน 89 นั้นไม่ได้เน้นครับ  ก็เนื่องจากต้องการทำราคาขายให้ซื้อหาง่ายนั่นเอง  สิ่งที่ได้มามีสวนและพื้นที่สีเขียวตรงหน้าโครงการ  กับคอร์ทระหว่างตึกที่ปูหญ้าสีเขียวไว้ให้ช่วยพักสายตาได้บ้าง  แม้จะไม่ได้มีส่วนกลางหลากหลายมาก  แต่ที่ต้องชม คือ ล็อบบี้ เพราะว่าล็อบบี้นั้นตกแต่งทำออกมาแล้วดูดีเกินราคาคอนโดมากทีเดียว  ต้องชมว่าการเลือกตกแต่งแบบจัดเต็มเป็นจุดๆ ซึ่งเป็นจุดหลักที่ทุกคนต้องผ่านอย่างตัวล็อบบี้นั้นทำให้คอนโดดูหรูหราขึ้นมาอีกมาก  นอกจากนี้ก็ดีที่มีระบบรักษาความปลอดภัยโดยต้องใช้คีย์การ์ดก่อนเข้าคอนโดทุกตึก และใช้ข้ามตึกกันไม่ได้ด้วย  จะกดลิฟต์ขึ้นไปก็ต้องใช้นะครับ  และสำหรับสัดส่วนความหนาแน่นของลิฟต์นั้นทำออกมาที่ 119 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว  สัดส่วนก็ถือว่าดี  ที่จอดรถนั้นรวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 36% ถือว่าไม่เยอะ  แต่ถ้าเทียบกับระดับราคาขายแล้วถือว่าแฟร์ครับ  แบ่งๆ กันใช้แหละกัน  มีจอดซ้อนบ้างก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดเนอะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

Plum Condo พหลโยธิน 89 ดีไหม ดีมั๊ย

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

รีวิว Siam Discovery โฉมใหม่ใน Concept “The Biggest Arena of Lifestyle Experiments”

$
0
0

หลังจากที่ Siam Discovery ปิดปรับปรุงมานาน และเราก็แอบลุ้นกับ Facade กันมาซักพักแล้ว วันนี้หมดสิ้นการรอคอยเสียทีค่ะ! ได้ฤกษ์ดีเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปได้ชมกันก่อน อยู่สบายเลยได้เก็บภาพ Siam Discovery โฉมใหม่มาฝากกัน โครงการนี้มีชื่อว่า Siam Discovery-The Exploratorium ภายใต้คอนเซ็ป The Biggest Arena of Lifestyle Experiments คือจะเน้นให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับลูกค้า มาเล่นสนุกด้วยกัน ทั้งเล่นกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ชื่มชนงานออกแบบและศิลปะจากทั่วโลกค่ะ

Siam Discovery

  • โครงการ Siam Discovery – The Exploratorium
  • ผู้พัฒนาโครงการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
  • มูลค่าลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท
  • มีแบรนด์มากกว่า 5,000 แบรนด์
  • ขนาดพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร
  • พื้นที่ร้านอาหาร 2,500 ตารางเมตร

งานเปิดตัว Siam Discovery

โครงการนี้เด็ดตรงที่ได้ Designer ดังจากประเทศญีปุ่น คุณโอกิ ซาโตะ จากเนนโดะ (Nendo) มาเป็นหัวหน้าที่ปรึกษาออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายใน รวมถึงนิทรรศการ ทำให้งานนี้เป็นที่จับตามองและน่าตื่นเต้นจริงๆ  คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า โครงการนี้ใช้เวลาออกแบบและวางแผนมานานกว่า 18 เดือน และใช้เวลาก่อสร้างนาน 1 ปี ลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาทเลยทีเดียว เพราะทางบริษัท สยามพิวรรธน์ มีเป้าหมายต้องการให้ Siam Discovery นั้น

  • เป็น Lifestyle Special Store ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
  • เป็น Hybrid Retail แห่งแรกของไทย
  • เป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments เพราะมีกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
  • เป็น Art Building เพราะได้นำงานศิลปะจากดีไซเนอร์ชื่อดังมาตกแต่งมากมาย
  • เป็นอาคารที่สนับสนุนการรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น ถังขยะแบบแยกประเภท และกิจกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมต่างๆ

อื้อหือ…มีเป้าหมายให้ Siam Discovery เป็นหลายอย่างเหลือเกินค่ะ เดี๋ยวเราจะไปดูกันค่ะว่ามันได้สื่อออกมาในรูปแบบไหนกันบ้าง แต่ก่อนอื่นแว้บไปดูบรรยากาศในงานแถลงข่าวและรูปภายนอกอาคารกันค่ะ เพราะสถาปัตยกรรมภายนอกนั้นก็ได้ออกแบบเป็นเรื่องราวเดียวกันกับงานออกแบบภายในด้วย

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 3

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 2

คุณพีเค พิธีกร, นางชฎาทิพ จูตระกูล, นายโอกิ ซาโตะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 1

 

ตัว Facade ของสยามดิสคัฟเวอรี่ครั้งนี้ ทำเป็นผนังกระจกรอบอาคารค่ะ แล้วตกแต่งด้วยเทปกาว ……..  เอ้ย !!! ด้วยวัสดุชนิดหนึ่งที่บางมากๆ แปะเป็นทรงกรอบสี่เหลี่ยมสีขาว กระจายอยู่ทั่วกระจกอาคาร ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบ บางคนก็ว่ามันเฉยๆ ไม่อลังการ บ้างก็ชอบว่ามันสวยดี ก็สุดแล้วแต่คนชอบหล่ะค่ะ แต่ Facade นี้มีลูกเล่นนะ เพราะบางช่องนั้นจะเป็นกรอบของหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ค่ะ เอาไว้สื่อสารกับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาในถนน แสดงให้เห็นว่าสยามดิสคัฟเวอรี่พยายาม Interactive กับคนตั้งแต่ภายนอกอาคารกันเลยทีเดียว  เรียกว่าเปลี่ยนจากดีไซน์เดิมที่เป็นกล่องทึบตันมองไม่เห็นอะไรจากภายนอกเลย

Siam Discovery - ภาพที่ 5

Siam Discovery - ภาพที่ 4

 

ซูมดูจอกันใกล้ๆ กรอบสีขาวมันเหมือนแปะเทปจริงๆ นะ +”+

Siam Discovery - ภาพที่ 3

 

มุมจากสะพานลอยระหว่างสยามกับ Siam Center ค่ะ มุมนี้สวยน้าาา

Siam Discovery - ภาพที่ 2

 

บรรยากาศริมทางเท้า ตัวงาน Landscape รอบๆ ยังไม่เสร็จดีค่ะ รอกันอีกนิด

Siam Discovery - ภาพที่ 1

 

ตอนนี้ทางเชื่อมเดิมของ Siam Discovery กับ BTS เดิมปิดอยู่นะคะ แต่อีกไม่นานคงกลับมาเชื่อมกันเหมือนเดิม โดยจะเชื่อมกับชั้น M ค่ะ

Siam Discovery ทางเชื่อม BTS - ภาพที่ 1

CONCEPT

ก่อนที่อยู่สบายจะพาไปดูภายใน Siam Discovery ลองมาดูกันก่อนว่า เค้าได้เตรียมอะไรใหม่ๆ ให้เราไปเล่นกันบ้าง

Siam Discovery Lab : จัด Theme หลักของศูนย์การค้าเป็นเหมือนกับห้อง Laboratory ต่างๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 8 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามสินค้า บริการและบุคลิก ดังนี้

  • ชั้น G – Her Lab: แฟชั่นล้ำเทรนด์และบริการห้องแต่งตัวสำหรับสุภาพสตรี
  • ชั้น M – His Lab: แฟชั่นสุภาพบุรุษ
  • ชั้น 1 – Street Lab: สินค้าแนวสตรีทแฟชั่น
  • ชั้น 2 – Digital Lab: สินค้าดิจิตอล
  • ชั้น 3 – Creative Lab: สินค้าเน้นงานดีไซน์ และตกแต่งบ้าน
  • ชั้น 4 – Play Lab: ร้านเกมส์, ของสะสม, จักรยาน, อาหารสุขภาพ
  • ชั้น 5 – 6 มีไฮไลท์สำคัญ คือ Virgin Active ฟิตเนสคลับระดับโลก
  • นอกนั้นก็จะมีจุดเล่นกิจกรรม ตามชั้นต่างๆ ด้วย

Discovery Lab : จะเป็นจุดกิจกรรมอยู่ตามชั้นต่างๆ

  • ชั้น G – ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ ร่วมกับนิตสารแพรว จะต้องใช้ application เลือกชุดและจองห้องมาก่อนล่วงหน้าจ้า
  • ชั้น M – ร่วมกับ Optimun ให้คุณผู้ชายเข้าไปลองแต่งตัว หาสไตล์ให้กับตัวเอง
  • ชั้น M – Social Discovery ร่วมมือกับ Bangkok Airways ให้เราเข้าไปเล่น โดยจะทำการเรียงรูป Instragram ของเราให้ดูภายใน 1 นาที กะว่าจะให้เราค้นหาตัวเองเจอค่ะ
  • ชั้น 1 – Street Lab อันนี้ไปตอบคำถามกับคอมพิวเตอร์เพื่อหารองเท้าที่เหมาะกับเรา
  • ชั้น 2 – Digital Lab x Rubbers สามารถทดลองขี่มอเตอร์ไซต์ได้
  • ชั้น 3 – Creative Lab x Wallpaper ให้เอาสินค้าไปวางตามจุดที่กำหนด แล้วมันจะมีที่มาที่ไปของสินค้านั้นขึ้นมาบนจอมอนิเตอร์ให้เราได้อ่านค่ะ

Story Telling

  • ชั้น 1 – Run for Another Life ชวนนักวิ่งทุกคนร่วมกันเปลี่ยนพลังแห่งการวิ่ง เป็นพลังแห่งการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยชวนทุกคนมาร่วมวิ่งสะสมระยะทางทุกๆ 500 เมตร สยามดิสคัฟเวอรี่จะมอบเงิน 10 บาท ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการดูแลสวนลุมพินี ปอดใจกลางเมืองของคนกรุงเทพฯ
  • ชั้น 2 – I create my own dream Bangkok ให้เราร่วมต่อเมืองจำลอง ซึ่งจะมองให้เป็นของเล่นให้น้องที่ห้องสมุดของเล่น โดยยอดเงินส่วนนึงจากการซื้อสินค้า Nano Black Smith 3D Puzzle ทาง Loft จะมอบให้กับมูลนิธิ มีชัย วีระไวทยะ ในการสร้างจิตสาธารณะมอบของเล่นให้แก่ห้องสมุดของเล่นประจำหมู่บ้าน
  • ชั้น 3 – Save Our Planet ซื้อสินค้า Eco มานั่งประดิษฐ์ได้ รายได้จากที่ซื้อของ Eco จะนำไปร่วมสมทบทุนการปลูกป่ากับมูลนิธิประเทศสีเขียว

Interior Design : โอกิ ซาโตะ ผู้ก่อตั้งสตูอิโอชื่อดังจากญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายใน และเป็นผู้มอบแรงบันดาลใจด้านคอนเซ็ปต์รูปแบบโดยรวมของสยามดิสคัฟเวอรี่

Restaurant : ร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มจะผสมอยู่กับร้านค้าในชั้นต่างๆ

Exhibition / ART :

  • ชั้น G – Discovery Man งานนิทรรศการหุ่นหัวกล่องสี่เหลี่ยม ที่ออกแบบโดย 25 ศิลปินดังทั่วเอเชีย จัดแสดงวันที่ 28 พ.ค. – 31 สค. 59 งานนี้น่ารักมากๆ ค่ะ
  • ชั้น G – Nendo Exhibition นิทรรศการผลงานการออกแบบ nendo Exhibition ที่จะพาทุกคนท่องไปในโลก ‘Designed by Nendo’ ตื่นตากับผลงานโปรดักส์ดีไซน์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่รวบรวมจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วยผลงานการออกแบบชั้นยอด ทั้งด้านโพรดักส์ดีไซน์ Art Installation และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ผ่านการคัดสรรบรรจงจัดวางในกล่องแห่งไอเดียเป็นนิทรรศการที่ทำหน้าที่เป็น Interior Designn โดยจะเป็น Gallery แนวตั้ง จัดวางให้ลอยอยู่กลางอากาศอย่างโดดเด่นในพื้นที่โล่งใจกลางสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถชื่นชมผลงานได้จากหลากหลายมุมมอง
  • ชั้น G – Chandelierขนาดใหญ่ ทำจากแก้วคริสตัลและกระจกดีไซน์พิเศษโดยเฉพาะ Lasvit แบรนด์ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องแก้วและกระจกชั้นนำจากสาธารณรัฐเช็ก ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าผลงานทุกชิ้นซึ่งเป็นงานแบบแฮนด์เมด ติดตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ทางเข้าฝั่งที่ติดกับ Siam Center

Social Discovery : เป็นนิทรรศการในธีม When Obsession Becomes Indentity ส่วนนี้นักออกแบบชื่อดังระดับโลกจาก New York นาม Black Egg มาร่วมออกแบบให้ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมค้นหาตัวตน มีอยู่ 3 ส่วนซึ่งจะกระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ

  • ชั้น M – My Social Discovery ผลงานศิลปะจัดวางในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ออกแบบโดยทีม Black Egg นำรูปภาพทั้งในอดีตและปัจจุบันจากโซเชียลมีเดียของผู้เข้าชมมาเรียงร้อยจัดแสดงไทม์ไลน์ชีวิตบนจอภาพขนาดยักษ์ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจ เป็นเทคโนโลยีพิเศษสุดที่ทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ตัวเองได้จากความสนใจของตนเอง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ที่ทุกคนต้องเข้ามาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง
  • ชั้น 1 – Their Social Discovery อันนี้เป็นนิทรรศการเรื่องราวของผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเซียล โดยจะจัดแสดงรูปภาพอินสตาแกรมเมอร์ที่ถ่ายทอดตัวตน ไลฟ์สไตล์และความคลั่งไคล้ของตัวเองออกมาผ่านภาพถ่ายบน Instagram เพื่อแชร์ตัวตนกับคนทั่วโลก
  • ชั้น 4 – A Million Montage of You จะให้ถ่ายรูปเซฟฟี่ผ่านมือถือ Samsung Galaxy ภายในบูธที่อยู่ในนิทรรศการ แล้วเชื่อมต่อ Instragram Feed ของเรา ภาพจะไปปรากฎขึ้นบนจอยักษ์ เห็นเป็นภาพของเราไปต่อกับภาพคนอื่นๆ เป็นโฟโต้โมเสคค่ะ

Sustainability / Environment : 

  • “To Sharing For Green World” ลูกค้าช้อปปิ้งครบ 6,000 บาทขึ้นไป สยามดิสคัฟเวอรี่จะสมทบทุนจำนวน 10 บาทให้แก่ โครงการปลูกป่าทั่วประเทศมูลนิธิประเทศสีเขียว เพื่อประโยชน์การวิจัยและส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม
  • แคมเปญรณรงค์ลดการใช้ถุงที่มอบสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ร่วมโครงการ
  • โครงการ “Eco Select  : Save Our Planet” เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ด้วยการเรียนรู้การประดิษฐ์สิ่งของชิ้นใหม่จากวัสดุเหลือใช้ Eco Gift Set  โดยมีวิทยากรให้คำปรึกษา  โดยรายได้ที่ได้จากการจำหน่าย Eco Gift Set  นำไปร่วมสมทบทุนการปลูกป่ากับมูลนิธิประเทศสีเขียว

Siam Discovery Application และ Location Base Service (LBS) : เป็น Application ของทาง Siam Discovery จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลข่าวสารได้เร็วขึ้น ทราบสิทธิ์ประโยชน์ ข้อมูลแนะนำคอลเลคชั่นใหม่ มีฟังก์ชั่น Live Chat ให้ลูกค้าสอบถามทีมงานได้ สามารถจองที่จอดรถ จองห้องแต่งตัว จองร้านอาหาร จอง Co-Working Space หรือนำทางหาสินค้าที่ต้องการภายในสยามดิสฯ แสดงความคิดเห็นและติชมได้ แล้วยังแนะนำสินค้าให้กับลูกค้ารายบุคคลตามความสนใจด้วย

ของฟรี คนไทยชอบ !! … ลูกค้า 1,000 แรก จะได้บัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 500 บาท  และโปรโมชั่นมากมาย เช่น รับของรางวัลและ SIAM GIFT CARD รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท , รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% จาก 7 บัตรเครดิต , และ รับคะแนนสะสม 10 เท่า สำหรับบัตร VIZ Card และ Platinum M Card ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม –  3 กรกฎาคมนี้ เป็นต้น

อ่านๆ กันไปแล้วคงลายตากันไม่น้อย (ขนาดเขียนเองยังตาลาย 555)  มาเล่าให้อ่านกันแบบง่ายๆ ดีกว่าค่ะ  ภายในของศูนย์การค้า Siam Discovery นั้นมีทั้งหมด 6 ชั้น เรียกชื่อว่าชั้น G, M, 1, 2, 3, 4 ค่ะ  (สามารถกดที่รูปซูมดู floor plan ได้นะคะ)

ชั้น G : HER LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น G

เข้ามาในโถงต้อนรับ ฝั่งที่ติดกับ Siam Center ก็จะเจอกับ Chandelier ขนาดใหญ่ค่ะ ห้อยอยู่สูงๆ เป็นแก้วคริสตัลและกระจกงาน Hand Made ผลงานดีไซน์พิเศษจากสาธารณรัฐเช็ก

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 14

 

ถัดเข้ามาเป็นงานนิทรรศการ Discovery Man จะจัดแค่วันที่ 28 พฤษภาคม – 31 สิงหาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับดิสคัฟเวอรี่แมนมากยิ่งขึ้น โดยเนนโดะ จับมือกับ 25 ศิลปินดังทั่วเอเชีย อาทิ ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบผู้สร้างสรรค์ผลงานผ่านเรื่องราว, เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของไทย, ธีรนพ หวังศิลปคุณ นักออกแบบกราฟฟิกที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก, ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ ปอม ชาน นักวาดภาพประกอบดีกรีระดับสากล, อรรถพร คบคงสันติ สถาปนิกหนุ่มไฟแรงที่เคยร่วมงานกับสถาปนิกระดับโลกมาแล้ว, บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง, วสุ วิรัชศิลป์ สถาปนิกหนุ่มผู้มีผลงานที่เป็นเอกลักษณ์, ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบชื่อดังที่ล่าสุดกำลังสนุกกับการทำงานในแวดวงแฟชั่น, กฤษดา ภควัตสุนทร เจ้าของธุรกิจและผลงานหลากหลายสาขา ทั้งงานกราฟฟิก แฟชั่น ภาพประกอบ และงานเพลง, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของไทย, Mick Saylom หัวหน้าแผนกภาพวาดประจำสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติลาว, Goh Beng Kwan ศิลปินชั้นครูจากสิงคโปร์ , Kubota Fumikazu นักวาดภาพสายเลือดญี่ปุ่นที่เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งในออสเตรเลียและอเมริกา, Piao Shou Fan นักออกแบบมากประสบการณ์จากประเทศจีน, PG Timbang นักออกแบบชาวบรูไนเจ้าของรางวัลการประดิษฐ์ตัวอักษรแบบร่วมสมัย, Ilseon Ryu ดีไซเนอร์สัญชาติเกาหลีเจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั่วโลก, Peap Tarr & Lisa Mam ศิลปินคู่หูชื่อดังชาวกัมพูชาที่เชี่ยวชาญงานกราฟฟิตี้และสตรีทอาร์ท, Tiama Sirait ดีไซเนอร์สาวชาวอินโดนีเซียผู้เชี่ยวชาญงานด้านแฟชั่นและสิ่งทอ , Simon Tan จากสมาคมศิลปะ พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์แห่งปีนัง ประเทศมาเลเซีย, Mon Thet ศิลปินหน้าใหม่จากเมียนมาร์, Florence Cinco ศิลปินชาวฟิลิปปินส์เจ้าของรางวัลระดับประเทศ และ Trinh Tuan ศิลปินชาวเวียดนามที่เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั่วโลก มาร่วมกันสร้างสรรค์ตัวแทนแห่งการค้นพบที่ไม่สิ้นสุด นำเสนอดิสคัฟเวอรี่แมนในสไตล์พิเศษเพียง 25 ชิ้นในโลก

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 11

 

ถ่ายมาเป็นตัวอย่างบางชิ้นค่ะ น่ารักอ่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 13

 

ตัวนี้ก็น่ารักเหมือนกัน สดใสดี ตัวที่เหลือไปดูกันเอาเองนะคะ นอกจากที่จัดอยู่ในนิทรรศการแล้ว จะมี Discovery Man หัวเหลี่ยมอยู่ตามชั้นวางสินค้าต่างๆ ด้วย แต่ตัวมันจะเป็นสีขาวทั้งตัว

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 12

 

และ Shop แรกค่ะ ของ Issey Miyake เปิดคอนเซ็ปท์ World of Issey Miyake นอกประเทศญี่ปุ่น มีทั้งของผู้หญิงและของผู้ชาย ชั้น G นี้จะเป็นชั้นของผู้หญิงค่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 10

 

แล้วก็เดินมาถึง Hall ตรงกลางค่ะ สวยยยย  อินทีเรียคุมโทนสีขาวดำได้แบบเนียนตา

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 16

 

สเปซสวยเพราะมีนิทรรศการแนวตั้ง จัดให้ลอยอยู่กลางอาคาร เชื่อมชั้นล่างกันชั้นบนเข้าด้วยกัน ชื่อนิทรรศการ Nendo Exhibition ที่จะแสดงผลงาน Product Design, Art, Architecture ที่รวบรวมจากทั่วทุกมุมโลกให้สามารถมองเห็นกันได้จากทุกชั้นค่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 9

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 5

 

แผนกเสื้อผ้าสตรี จัดเป็น Shop แบบ Open มีหลายแบรนด์ให้เลือกชมค่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 8

 

คัดเลือกผลงานจากแบรนด์ดังมาให้ดูกันใกล้ๆ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 4

 

ชั้นนี้มีนวัตกรรมใหม่ของการบริการในธุรกิจค้าปลีกที่สยามดิสคัฟเวอรี่คิดค้นขึ้น คือ Dressing Room พูดง่ายๆ ก็คือ จะมีบริการ stylish ส่วนตัวมาช่วยเลือกสินค้า Fashion และ Accessories ต่างๆ แบบที่เป็น Personalized ตามความต้องการ

ส่วนตัวตู้กระจกที่เห็นในภาพจะอยู่ไม่นานค่ะ เป็นงานนี้จะร่วมมือกับนิตยสารแพรว โดยจะมีดีไซเนอร์มาช่วยเป็น Stylist ให้กับเราที่ห้อง Dressing Room แต่เราจะต้องเลือกเสื้อผ้าผ่าน Application บนมือถือก่อนค่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 15


ห้องแต่งตัวสำหรับสาวๆ ค่ะ ตกแต่งซะสวยเชียว

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 6

 

มีห้องใหญ่ข้างในด้วย สามารถลองกันพร้อมกับเพื่อนๆ ได้หลายคน แต่ต้องจองห้องล่วงหน้าค่ะ

Siam Discovery ชั้น G - ภาพที่ 7

ชั้น M : HIS LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น M

บรรยากาศบริเวณโถงที่ชั้น M หรือชั้นสำหรับสุภาพบุรุษ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 3

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 16

 

ส่วนนี้เป็น My Social Discovery ผลงานศิลปะที่จัดวางในรูปแบบ Interactive ซึ่งออกแบบโดยทีม Black Egg จะนำรูปภาพทั้งในอดีตและปัจจุบันจากโซเชียลมีเดียของผู้เข้าชมมาเรียงจัดแสดงไทม์ไลน์ชีวิตบนจอภาพขนาดยักษ์  ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ค่ะ  ลองมาเล่นกันดูนะ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 15

 

คนต่อแถวเล่นกันยาวเลย เราเลยขอบายค่ะ  ไปเก็บข้อมูลโซนอื่นต่อกันดีกว่า

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 2

แผนกชายก็จัดเป็น Shop แบบ Open เหมือนกัน พื้นกระเบื้องหลากหลายลายสีขาว-ดำ ฝ้าก็เล่นกับสี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กๆ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 4

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 10

 

งานตกแต่งภายในจัดเต็ม

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 11

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 13

 

โอ้ยๆ โซนรองเท้าค่าาาา ดูบรรยากาศเท่ดี และชั้นวางมันสวยดีจังเลยค่ะ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 14

 

ร้าน Galerie Adler แพทเทิร์นแบบนี้มาจากงานของ Piet Mondrian ชัดๆ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 5
Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 6

 

และโซนนี้ค่ะ เครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย แต่แต่งออกมาได้สวยเว่อวังขนาดนี้ คุณผู้หญิงจะเดินเข้ามากกว่าผู้ชายไหม เรายังต้องถ่ายภาพมาหลายรูปเลย

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 7

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 9

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 8


ร้าน Issey Miyake สำหรับผู้ชายค่ะ

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 12

 

และปิดท้ายด้วย His Lab ร่วมมือกับ Optimum ค่ะ ให้หนุ่มๆ ได้มาหาสไตล์ที่ตัวเองต้องการ ให้ทดลองถ่ายภาพลงปกนิตยสารกัน  ใครอยากขึ้นปก เชิญค่ะ !

Siam Discovery ชั้น M - ภาพที่ 1

ชั้น 1 : STREET LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น 1

ชั้นนี่สตรีท แฟชั่นค่ะ ยังคงเริ่มที่บรรยากาศโถงเหมือนเดิม

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 15

 

ตกแต่งฝ้าเริ่มจะไม่ธรรมดาค่ะ ยังคงเล่นกับรูปทรงสี่เหลี่ยมอยู่ แต่ตอนนี้เอาทรงลูกบาศก์มาด้วย ทำให้ร้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 14

 

อยู่ๆ มี Kiosk ขายน้ำโผล่ขึ้นมาเฉยเลยค่ะ เพราะคอนเซ็ปต์ของที่นี่จะรวมร้านอาหารและร้านค้าเข้าด้วยกัน สาวๆ รอหนุ่มเลือกรองเท้านานเกินก็มานั่งรอได้ตามร้านอาหารต่างๆ  ถ้าราชสีห์คนไหนถือของรอกวางน้อยไม่ไหว  ก็มีที่ให้นั่งพักค่ะ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 13

ร้าน Adidas ที่ได้ปรับปรุงร้านและออกใหม่กับเค้าด้วย คอนเซ็ปท์สโตร์ แนวคิด Interactive Store Concept ที่มาพร้อม Exclusive Collection

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 9

 

ขนรองเท้ารุ่นใหม่มาเพียบ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 11

 

ในห้องแต่งตัวจะจัดเป็นคอนเซ็ปต์เหมือนกับห้องพักนักกีฬาที่สเตเดี้ยมค่ะ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 12

แล้วก็มีจอ Interactive ให้มาเลือกรองเท้าที่เหมาะกับตัวเองกันด้วย อันนี้ชอบค่ะ เพราะว่าเข้ากับคอนเซ็ปต์หลักของทาง Siam Discover ดี

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 10

 

ร้านอุปกรณ์ เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬายี่ห้อ Alpha Runner

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 8

 

มีอุปกรณ์ไฮเทค ให้มาลองวิ่งด้วยเท้าเปล่า เพื่อวิเคราะห์ออกมาว่าเราจะเหมาะกับรองเท้ารุ่นไหนค่ะ อันนี้ก็ชอบเหมือนกัน (ขอบคุณคุณพี่นายแบบจำเป็นในรูปด้วยนะคะ ใครก็ไม่รู้ ^^”)

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 5

 

ต่อมาเป็นร้าน Cazh น้องใหม่ สั่งตัดกางเกงยีนส์ได้ตามที่ต้องการ เลือกผ้าได้ เลือกกระดุม เลือกหนังได้ เลือกได้อีกว่าจะพิมพ์คำว่าอะไรลงไป แล้วก็รอประมาณ 7 วันก็จะได้กางเกงยีนส์ Custom Made ค่ะ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 6

 

ร้านที่อยู่ติดกัน ชื่อร้าน Walkin ก็สามารถสั่งตัดรองเท้าและเลือกส่วนประกอบต่างๆ ได้เช่นกัน

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 7

โซนแว่นตาค่ะ เก๋อ่ะ คือชั้นวางของมันเป็นเหมือนชิ้นงานตกแต่งภายในไปด้วย

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 1

สุดท้ายมาที่หน้าร้าน Onitsuka Tiger มี Lab ให้มาลองตอบคำถามเพื่อดูว่าเราเหมาะกับรองเท้าแบบไหน แล้วก็สามารถปริ้นออกมาเป็นรูปรองเท้าของเราออกมาได้ค่ะ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 2

 

แล้วก็ยังมีลู่วิ่งที่ให้ลูกค้ามาร่วมเล่น ถ้าวิ่งครบ 500 เมตร ทาง Siam Discovery จะสมทบทุนจำนวน 10 บาทให้แก่ โครงการปลูกป่าทั่วประเทศมูลนิธิประเทศสีเขียว เพื่อประโยชน์การวิจัยและส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นถ้ามาเลือกซื้อรองเท้าแล้วก็เอามาลองวิ่งดูจริงๆ กันซักหน่อยค่ะ

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 4

 

รองเท้า Onitsuka Tiger รุ่นนี้ลายพร้อยเชียว

Siam Discovery ชั้น 1 - ภาพที่ 3

ชั้น 2 : DIGITAL LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น 2

ชั้น 2 นี้จะรวมสินค้าดิจิดอลและสินค้าอื่นๆ ให้เลือกซื้อกันค่ะ ชั้นนี้จะตกแต่งออกมาล้ำสมัยหน่อยให้เข้ากับสินค้าดิจิตอล

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 2

 

แอบเจอตัว Discovery Man ด้วยหล่ะ มานั่งแอบอยู่กับสินค้า

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 4

 

พนักงานขายกำลังเล่นโชว์ค่ะ อยากจะลองบ้าง  แต่ดูสกิลการทรงตัวของผู้เขียนเองแล้วก็กลัวจะล้มฟันจะหักเอา =”=  555

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 3

เด่นๆ เลยจะมีร้านขายของน่ารักๆ อย่าง Loft ที่อยู่กับสยามดิสคัฟเวอรี่มานานแสนนาน  คือ ถ้าขาด Loft ไปก็ไม่เป็น Siam Discovery หล่ะค่ะ  Loft คราวนี้มาในโฉมใหม่ คอนเซ็ปต์ใหม่ และที่สำคัญมันใหญ่มาก มีพื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตรให้เดินกันลืมเวลาเลยทีเดียว

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 16

 

ทาง Loft ได้นำเอาสินค้าขายดีจากญี่ปุ่นมาขายในเมืองไทยด้วย เช่น แปรงสีฟันที่ไม่ต้องใช้ยาสีฟัน (มันเป็นยังไงอยากรู้จริงๆ), หวีที่ทำจาก Super Stone และแชมพูขจัดรังแค

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 1

 

ร้าน Flight 001 ที่รวบรวมอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเดินทาง ทั้งกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเก็บสัมภาระ

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 19

 

และก็เหมือนเดิมที่จะมีร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ แทรกอยู่เรื่อยๆ ชั้นนี้จะมีร้าน Starbucks ค่ะ มาพร้อมกับเครื่องชงกาแฟสูญญากาศ หรือ Syphon Coffee Maker ให้คอกาแฟมานั่งกินกันได้ที่ Slow Bars ค่ะ

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 18

 

ตกแต่งร้านด้วยแนวคิด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำกากกาแฟมารีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 17

ร้านค้าจากแบรนด์ต่างๆ

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 15

 

แผนกสมุด

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 14

 

Community แห่งใหม่ Rubbers สำหรับคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์ คันนี้เป็นแบบ Custom เท่ๆ รวมไปถึงหมวกกันน๊อคสุดหวงของเหล่า Bikers ชื่อดังในเมืองไทย

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 11

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 13

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 12

 

มี Lab ผสมสีลิปติกของตัวเองด้วย เชิญสาวๆ ทางนี้เลยค่าาา

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 10

 

DJI by Phantom Thailand เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าและอะไหล่ DJI , ศูยน์บริการ DJI บริการตรวจเช็คเครื่องฟรี ร้านขาย Drone ค่ะ ซื้อมาทำรีวิวดีไหมนะ 555

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 9

 

Billboard Café โดยนิตยสาร Billboard นิตยสารดนตรีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดทั่วโลก นำเสนอประสบการณ์ด้านเสียงเพลงมาให้ฟังกัน

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 8

 

มีโซนให้คอ Big Bike มาลองขี่กันด้วย

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 7

 

สอดแทรกด้วยงานนิทรรศการ Social Discovery จัดแสดงรูปภาพอินสตาแกรมของแต่ละคน

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 6

 

แล้วก็มีโซน Personalize : I create my own dream Bangkok” โซนนี้จะให้ร่วมกันต่อ 3D Puzzle สร้างเมืองจำลองแห่งความฝัน แล้วมอบเป็นของเล่นให้น้องที่ห้องสมุดของเล่น ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งของ Nano Block and Black Smith 3D Puzzle ร้าน Loft จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ อย่างที่เล่าไปแล้วตอนต้นค่ะ

Siam Discovery ชั้น 2 - ภาพที่ 5

ชั้น 3 : CREATIVE LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น 3

ชั้น 3 เป็นชั้นที่ขายสินค้าตกแต่งภายในค่ะ เริ่มกันที่ร้าน Habitat เลย ร้านนี้ก็อยู่กับสยามดิสฯ มานานเหมือนกัน

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 2

 

มีสินค้าใหม่ๆ เช่น เตียงที่มีตู้เก็บของ เหมาะกับคนอยู่คอนโดมากขึ้น, โซฟาเบด

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 3
สินค้าตกแต่งบ้าน

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 4

 

ร้านเฟอร์นิเจอร์ HAY

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 5

 

มีทั้งสินค้าจากศิลปินชาวต่างชาติและชาวไทยค่ะ

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 6

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 7

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 8

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 9

 

แล้วก็มาถึงร้านที่ O.D.S ที่จะรวบรวมแบรนด์เจ๋งๆ ของเหล่าดีไซเนอร์คนไทยเอาไว้ หลายแบรนด์จะส่งขายแต่เมืองนอกค่ะ แต่มาคราวนี้ให้คนไทยได้ไปอุดหนุนกันแล้ว

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 10

 

เก่งกันมากๆ เลยค่ะ น่าสนับสนุน

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 11

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 12

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 13

 

และชั้นนี้ก็มีร้านอาหารแทรกอยู่เหมือนกัน ร้าน Cafe Now ค่ะ  เจ้าของร้านเขายืนยันหนักแน่นว่าคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี  รับรองไม่อ้วน ไม่เพิ่มคอลเลสเตอรอลแน่นอน  ก็ลองไปชิมกันดู

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 14

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 15

 

แล้วก็มีโซน Lab ให้มาเล่นกัน คือถ้าเอาสินค้าที่มีอยู่ไปวาง ณ จุดที่จัดไว้ให้ หน้าจอจะแสดงไอเดียของผลงานชิ้นนั้นๆ ออกมาให้เราได้ดูค่ะ เราจะเข้าใจตัว Product มากขึ้นว่าเค้าคิดอะไรกันมาเยอะแค่ไหนกว่าจะออกมาเป็นชิ้นงานให้เราใช้กัน

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 1

ชั้น 4 : PLAY LAB

Floor Plan Siam Discovery ชั้น 4

 

มาถึงชั้นสุดท้ายแล้ว ชั้นนี้ต้องเดินขึ้นบันไดใหญ่  ซึ่งทำเป็นที่นั่งเล่นเอาไว้บางส่วน  จะมาแวะนั่งพักคุยเล่นกับเพื่อนตรงบันไดนี้ก็ยังได้

Siam Discovery ชั้น 3 - ภาพที่ 16

 

ชั้นนี้จะดูโล่งๆ หน่อยค่ะ ส่วนชั้น 5 – 6 นั้นยังไม่เสร็จดี เป็นส่วนของ Virgin Fitness ค่ะ

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 4

 

ขั้นนี้เหมาะกับเหล่าเกมเมอร์มาก เพราะมี Toy Station ที่ร่วมกับ Sony เพื่อเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Play Station

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 5

 

ร้านนี้ขายโมเดลฟิกเกอร์ต่างๆ ด้วยนะ

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 1

 

แต่ละตัวนั้น ไม่ใช่ถูกๆ นะคะ อย่างชั้นนี้ราคารวมกันหลักล้านบาทเลยทีเดียว

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 2

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 3

 

ร้านจักรยานเก๋ๆ tokyobike

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 6

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 8
Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 7

 

DISCOVERY HUBBA เป็น Co-working Space ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ร่วมมือกับ Hubba ค่ะ พื้นที่ตรงนี้ทำตัวเป็น Retails Startup ให้แก่คนรุ่นใหม่

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 9

 

Co Food Lab ค่ะ มีร้านอาหารน้องใหม่หลายร้านมาให้มากินกัน

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 11

 

ปิดท้ายด้วย Virgin Fitness ที่จะอยู่ชั้น 5 – 6 ที่นี่เป็นสาขาที่ 4 แล้วค่ะ ฟิตเนสนี้มันเด็ดตรงที่มีสระว่ายน้ำในร่มยาว 20 เมตร ห้องออกกำลังกายแบบลด Oxygen เหมือนกับเราอยู่บนยอดเขา ซึ่งจะฝึกให้เราอึดขึ้นและแข็งแรงขึ้นค่ะ เปิดเต็มที่สิงหาคมนี้ค่าาา..

Siam Discovery ชั้น 4 - ภาพที่ 10

จบแล้วนะคะ สำหรับการพาทัวร์สั้นๆ ใน Siam Discovery โฉมใหม่นี้ ต้องยอมรับว่างาน Interior ของเค้าสวยมากค่ะ คุ้มค่าแก่การไปจ้างดีไซเนอร์ต่างประเทศมา  สิ่งที่น่าสนใจคือรูปแบบการจัดวางและดิสเพลสินค้านั้นเปลี่ยนไปจากศูนย์การค้าแบบเดิมๆ ที่เราเห็นกันอยู่เยอะมาก  อยู่สบายไปเดินเล่นแล้วก็เพลินมาก ในระดับคันไม้คันมือไปหมด งานตกแต่งสวย สินค้าก็น่าซื้อ มีสินค้าน่าสนใจเยอะมาก โดยเฉพาะพวก custom made ต่างๆ ส่วนกิจกรรมดิจิตอลที่ Interactive กับลูกค้าที่มีให้เล่นตามจุดต่างๆ นั้น โดยส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าน่าจะทำได้มากกว่านี้อีกนะ (หรือว่าตอนที่ไปดูยังไม่ได้จัดเต็มรูปแบบมากก็ไม่รู้) พวกเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการช่วยเลือกสินค้าจากหลายๆ แบรนด์ที่นับว่าน่าสนใจดี และคงจะอยู่ได้นาน แต่กับบางอย่างเมื่อคนได้เล่นกันไปสักพักแล้วก็คงไม่ได้ตื่นเต้นในครั้งต่อไปมาก  เพราะฉะนั้นก็เป็นโจทย์ว่า Siam Discovery จะจัดการกับประสบการณ์ของผู้ที่เข้ามาศูนย์การค้าไม่ให้จำเจได้ยังไงในระยะยาว  ส่วนตอนเปิดใหม่ๆ นั้นมีการตื่นเต้นและ talk of the town แน่นอน  ในเรื่องของ Application ของทาง Discovery เรายังไม่ได้ลองเล่นกัน ต้องรอดูว่าจะสนุกเข้าใจง่ายได้ขนาดไหน

รีวิวสยามดิสคัฟเวอรี่ของ yusabuy.com ก็จบเพียงเท่านี้  มีอะไรติชมกันได้ตลอดค่ะ  แล้วพบกันใหม่ในบทความรีวิวบ้านและคอนโดรวมทั้งอสังหาฯ โครงการอื่นๆ นะคะ ^____^

โอกิ ซาโตะ

หัวหน้านักออกแบบและผู้ก่อตั้งเนนโดะ

โอกิ ซาโตะ เกิดในปี 2520 ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา  สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวาเซดะ กรุงโตเกียว ในปี 2545 และได้ก่อตั้งสตูดิโอออกแบบ “เนนโดะ” ในปีเดียวกัน เขาได้รับเลือกจากนิตยสาร Newsweek ให้เป็นหนึ่งใน “ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับรับถือมากที่สุด 100 คน” และ ได้รับรางวัล “นักออกแบบแห่งปี” จากหลายสถาบัน รวมทั้งรางวัลจากนิตยสาร Wallpaper และ ELLE DECO ผลงานการออกแบบของซาโตะไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น แต่มีความหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมไปจนถึงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ งานอินสตอลเลชั่น วินโดว์ดิสเพลย์ และอินทีเรียดีไซน์ต่างๆ รวมไปถึงระดับงานสถาปัตยกรรม เรายังสามารถพบเห็นผลงานการออกแบบของเนนโดะได้ในมหานครนิวยอร์คที่ Museum of Modern Art  และ สถาบัน Museedes Arts Decoratifs และ Centre Pompidou ในกรุงปารีส


Univentures อวดรายได้ไตรมาสแรกทะลุ 3,712 ล้านบาท

$
0
0

บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2559 มีรายได้รวม  3,712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2559 มีรายได้อยู่ที่ 3,712 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 975.70 ล้านบาท หรือมีการเติบโตกว่า 36% โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,036.20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82% ของรายได้รวม แบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวสูง มูลค่ารวม 913.90 ล้านบาท และจากโครงการแนวราบ มูลค่ารวม 2,122.30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 6,000 ล้านบาทจาก 22 โครงการ

Siam Discovery โฉมใหม่ - ภาพที่ 1

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่ามีรายได้ 331 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้รวม มาจากอาคารสำนักงานเกรดเอ “Park Ventures Ecoplex” จำนวน 89 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเช่าเต็ม 100% ของพื้นที่ให้เช่า และอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่ากลุ่มแผ่นดินทอง 242.0 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ 344.80 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้” นายวรวรรต กล่าว

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/2559 บริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทยูนิเวนเจอร์ได้นำอาคารสำนักงาน Park Ventures Ecoplex (ไม่รวมพื้นที่ส่วนโรงแรม ดิโอกุระฯ) และอาคารสำนักงาน Sathorn Square เข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงสัญญาแบ่งเช่าช่วงที่ดิน อาคารพร้อมทั้งส่วนควบและงานระบบ กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ ( GVREIT ) โดยได้รับเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,761 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกเป็นรายได้สิทธิการเช่ารอตัดบัญชีและทยอยรับรู้รายได้ตลอดอายุสัญญาเช่าโดยวิธีเส้นตรง อีกทั้งบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งได้เข้าลงทุนใน GVREIT ในอัตราร้อยละ 25.1 เป็นจำนวนเงิน 2,045 ล้านบาท

นายวรวรรต กล่าวเสริมว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเสริมกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจต่างๆ เจริญเติบโตไปในทิศทางที่ต้องการ และไม่หยุดยั้งที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ที่มีความโดดเด่นอยู่เสมอ

รีวิว Life Sukhumvit 48 (Life สุขุมวิท 48) คอนโดใกล้ BTS พระโขนง แยกพระราม 4 จาก AP

$
0
0

รีวิวนี้เราพาไปดูคอนโด Life Sukhumvit 48 จากทาง AP กันครับ  โครงการนี้ AP ซื้อที่ดินเอาไว้นานหลายปีแล้ว  ตั้งแต่ตอนที่เปิดโครงการ Aspire Sukhumvit 48 นู้นเลยทีเดียว  แต่ที่ดินก็ถูกปล่ยทิ้งเอาไว้อย่างนั้น  เพิ่งจะหยิบเอามาปัดฝุ่นพัฒนาคอนโดหลังจากที่ขายและโอน Aspire สุขุมวิท 48 ไปได้เกือบหมดแล้ว  ที่ดินแปลงนี้ก็มีแนวรั้วติดกันเลย  โดยที่ถ้าเข้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 48 จะถึง Life สุขุมวิท 48 ก่อน Aspire  ซึ่งก็แน่นอนที่เลือกวาง Product แบบนี้ก็เพราะโดย Brand Positioning ของ Life นั้นสูงกว่า Aspire อยู่แล้ว  โดยราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของ Life Sukhumvit 48 นั้นก็บวกขึ้นมาจากตอนเปิด Aspire แต่ก็ยังเริ่มที่ 83,xxx บาทต่อตารางเมตร  ซึ่งก็เป็นราคาที่หายากสำหรับคอนโดใหม่ในแนวเส้นสุขุมวิทครับ  ส่วนใหญ่ก็จะวิ่งไปแตะแสนกันหมด

รีวิวนี้ยังไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์นะครับ  เนื่องจากสำนักงานขายยังไม่เปิด  เลยไม่มีห้องตัวอย่างและวัสดุมาให้ดู  ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะนำมาลงให้นะครับ

ลองดูข้อมูลตัวเลขต่างๆ ของ Life Sukhumvit 48 กันก่อนเนอะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Life Sukhumvit 48

(Life สุขุมวิท 48)

  • เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ซอยสุขุมวิท 48
  • ขนาดที่ดิน >>>  3-2-99 ไร่
  • จำนวนอาคาร >>>  2 อาคารที่พักอาศัย  1 อาคารจอดรถ
  • จำนวนชั้น >>> อาคาร N 19 ชั้น, อาคาร S 31 ชั้น, อาคารจอดรถ 9 ชั้น (+ ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น)
  • ประเภทห้อง >>>  1 Bedroom / 2 Bedroom
  • ขนาดห้อง >>> 1 Bed 30, 38 ตาราเมตร และ 2 Bed 47, 60 ตาราเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  612  ยูนิต (ตึก N 153 ยูนิต, ตึก S 459 ยูนิต)
  • ที่จอดรถ >>> 300 คัน  ประมาณ 49% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  เริ่ม  2.49  ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 83,xxx  บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.711569, 100.594611
  • เว็บไซต์โครงการ >>> Life Sukhumvit 48
  • โทร >>> 1623
Life Sukhumvit 48 (ภาพที่3)

Life Sukhumvit 48

เราเคยเขียนพรีวิวคอนโด Life สุขุมวิท 48 ให้อ่านกันสั้นๆ ไปแล้วรอบนึง (แบบสั้นมาก 555) คราวนี้ละเอียดและข้อมูลเยอะขึ้นครับ

ปากซอยสุขุมวิท 48 นั้นอยู่ห่างจาก BTS พระโขนง ประมาณ 600 เมตร  แล้วก็ต้องเดินเข้าซอยไปอีกประมาณ 120 เมตร รวมระยะแล้วก็ 720 เมตร  สถานี BTS พระโขนง  ก็จะเป็นสถานีที่ต่อเชื่อมกับสถานีที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งกลางใจเมืองอย่าง BTS พร้อมพงษ์ ที่มี Emquartier District 3 สถานี  และห่างจากย่านเอกมัย, ทองหล่อ  ไม่ไกลครับ นั่งรถไฟฟ้าก็ 1-2 สถานี ก็ถึงแล้ว

แผนที่คอนโด Life Sukhumvit 48 - ภาพที่ 1

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทาง คอนโด บ้านเดี่ยว แผนที่ map

เราพาเดินไปดูที่ตั้งโครงการโดยใช้รถไฟฟ้ากันครับ  นั่ง BTS มาลงที่สถานีพระโขนง  แล้วเดินไปถึงปากซอยสุขุมวิท 48  จากนั้นเข้าซอยไปอีกหน่อย  เวลาลงรถไฟฟ้าจะมีทางออกให้เลือก 2 ทาง คือ ทางออก 3 และ 4  ทางออก 4 นั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับโครงการ  แต่จากที่เดินสำรวจโซนนี้มาหลายครั้ง  ผมพบว่าลงทางออก 3 แล้วไปเดินข้ามสะพานลอยกลับมาจะง่ายกว่าเยอะครับ  เพราะว่าไม่ต้องข้ามแยกตัดกับพระราม 4  เนื่องจากรถที่มาจากสุขุมวิทขาเข้าจะเลี้ยวซ้ายเข้าพระราม 4 นั้นจะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด  ซึ่งรถส่วนใหญ่ก็ชอบเลี้ยวพร้อมกัน 2 เลน  แม้จะมีไฟแดงแล้ว บ่อยครั้งก็ต้องไปยืนรอตรงกลางถนนอยู่ดี  และถ้ามาจากโครงการเดินไป BTS เวลาข้ามถนนก็จะต้องหันมองข้างหลังว่ามีรถเลี้ยวมาไหม  เพราะฉะนั้นผมว่าออกทางออก 3 แล้วไปข้ามสะพานลอยหน้า W District เลยสะดวกกว่าเยอะครับ  (ทำกราฟิกมาให้ดูแล้วตามรูป)

การเดินทาง Life Sukhumvit 48

 

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ผมเลี้ยวซ้ายออกทางออก 3 นะครับ  ส่วนใครจะออกทางออก 4 ก็ไม่ว่ากัน

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่3)

 

เดินลงมา  เลยจากตัวสถานี BTS พระโขนง มาหน่อยจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์พระโขนง  แนวถนนฝั่งนี้เป็นแนวแบ่งเขตวัฒนากับเขตคลองเตยด้วย  ฝั่งซ้ายมือของเราจะเป็นเขตวัฒนา  ส่วนฝั่งที่คอนโด Life Sukhumvit 48 อยู่จะเป็นฝั่งเขตคลองเตยครับ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่5)

 

มองไปทางถนนพระราม 4 ตรงสามแยกครับ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่6)

 

คอนโด The Room Sukhumvit 69 ของ Land and Houses สร้างใกล้จะเสร็จแล้ว

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่4)

 

ด้านหน้าของ The Room สุขุมวิท 69  ตัวนี้ราคาสูงกว่า Life สุขุมวิท 48 พอควร เฉลี่ยตอนนี้ก็ประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร  เพราะถ้าเทียบ LH กับ AP แล้ว แบรนด์ The Room ก็ต้องไปชนกับ Rhythm ถึงจะถือว่าเป็น Segment เดียวกัน

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่8)

 

เดินมาอีกหน่อยจะเจอ W District เป็นคอมมิวนิตี้ มอลล์ ขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านในมี Art Gallery ด้วย  ตึกที่เห็นคือ Skywalk Condominium ครับ  สร้างเสร็จนานแล้ว

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่10)

 

เราจะข้ามสะพานลอยตรงนี้เพื่อข้ามไปฝั่งของสุขุมวิทเลขคู่ครับ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่9)

 

ส่องดูจากด้านบนหน่อย

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่11)

 

สุขุมวิทขาเข้า  มุ่งหน้าเข้าเมืองครับ  จาก BTS พระโขนง ไปแหล่งช็อปและไลฟ์สไตล์อย่าง BTS พร้อมพงษ์ ก็ 3 สถานี  ถ้าไปไป Hang out เอกมัย, ทองหล่อ ก็ 1 และ 2 สถานีตามลำดับ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่12)

 

ลงบันไดรถไฟฟ้า  ซอยนี้เป็นพื้นที่เอกชนครับ  ขับรถทะลุกับซอยสุขุมวิท 48 ได้นะ  แต่เสีย 10 บาทให้พี่ยามตรงป้อมสีม่วงด้วย

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่13)

 

เดินตามทางไปเรื่อยๆ ครับมีร้านอาหารบ้างนิดหน่อย

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่14)

 

บางช่วงก็จะเป็นตึกแถวปิดตายไว้ ไม่มีคนอยู่

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่15)

 

มีร้านอาหารญี่ปุ่นชื่ออุมะครับ  ไปยืนดูเมนูมา  ราคาก็ตกเซตละร้อยปลายถึงสองสามร้อย

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่16)

 

เดินมาอีกนิดจะเจอ 108 Shop

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่17)

 

ช่วงใกล้ปากซอยจะคึกคักครับ  มีร้านค้าตามตึกแถวเปิดอยู่ต่อเนื่อง  มีร้านถ่ายรูป ร้านนวด คลินิคทำฟัน ฯลฯ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่24)

 

หลังจากนั้นเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงสุขุมวิท 48 รูปถ่ายบริเวณนั้นเดี๋ยวจะลงให้ดูในส่วนของสภาพแวดล้อมรอบโครงการเลยนะครับ  จะได้ไม่ซ้ำซ้อนกัน

ก่อนอื่นเราก็มาดูแผนที่รวมๆ กันอีกที  ระยะทางทั้งหมดจาก BTS มาถึงโครงการก็ 720 เมตรครับ  นอกจาก Aspire Sukhumvit 48 ของทาง AP เอง  โซนนี้ก็มีคอนโด high rise ขึ้นหลายโครงการในช่วงที่ผ่านมาไม่กี่ปี  ที่สร้างเสร็จแล้วก็มี WYNE by Sansiri, The Bloom Sukhumvit 71, Skywalk Condominium ที่อยู่ในที่ดินเดียวกับ W District  คอนโดตัวใหม่หน่อยที่ยังสร้างอยู่ก็มี The Room (ใกล้เสร็จแหละ) และ The Line ของทางแสนสิริอีกโครงการ  สองตัวนี้ราคาเฉลี่ยก็อยู่ที่แสนกลางๆ ขึ้นไป

ถ้าไม่นับ Aspire Sukhumvit 48 แล้ว คอนโด Life Sukhumvit 48 ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรจะถูกกว่าราคาขายปัจจุบันของโครงการอื่นที่เปิดก่อนหน้านี้  ซึ่งก็เพราะว่าที่ดินนี้ซื้อมาด้วยต้นทุนเมื่อหลายปีก่อนอย่างที่เล่าไปแล้วนั่นเอง  แต่ก็จะต้องยอมเดินจาก BTS เหนื่อยกว่าคนอื่นหน่อย  ถือว่าแลกกันไปกับราคา

แผนที่ Life สุขุมวิท 48

ลองมาโฟกัสดูพื้นที่รอบตัวคอนโด ไลฟ์ สุขุมวิท 48 กันบ้างครับ  ช่วงถนนตรงทางเข้าหน้าโครงการจะกว้างแต่พอเลยทางเข้าของทั้ง Life และ Aspire ไปแล้วซอยจะแคบลงนะครับ  ด้านในซอยจะเข้าไปยังชุมชนเดิมที่อยู่มานานแล้ว  ซึ่งซอยตัน  ขับรถเข้าไปทะลุที่อื่นไม่ได้

ตรงข้ามหน้าคอนโดจะมี 7-eleven (หมายเลข 1) อยู่  ตลอดแนวข้างโครงการฝั่งเดียวกับเซเว่นจะเป็นตึกแถวเก่าในซอย (หมายเลข 2) มีพวกร้านขายอาหารตามสั่งประปราย  ด้านหลังตึกแถวนั้นจะมีอพาร์ทเมนท์เตี้ยๆ 8 ชั้น อยู่ 2 ตึก  ทาสีฟ้าแป๋นมาก (หมายเลข 9)  ซึ่งทางเดินระหว่างอพาร์ทเมนท์แถวนี้สามารถเดินไปทะลุสุขุมวิทตรงสะพานลอยข้ามถนนได้ด้วย  แต่ถ้าขับรถผ่านต้องเสีย 10 บาทอย่างที่เล่าไปแล้ว เพราะเป็นพื้นที่เอกชน  จริงๆ แล้วออกถนนใหญ่ตรงปากซอย 48 เลย ผมว่าก็ไม่ต่างอะไรกันเท่าไหร่

แผนที่ Life Sukhumvit 48

ตรงปากซอยสุขุมวิท 48 นั้นมีตลาด (หมายเลข 4) และธนาคารออมสิน สาขาพระโขนง (หมายเลข 3)  ซึ่งพื้นที่รอบคอนโดนั้นจะเป็นบ้านคนในชุมชนเดิม ลักษณะถ้าไม่เป็นตึกแถวก็เป็นบ้านปูนหรือบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้  ความสูง 1-2 ชั้น กระจายอยู่โดยรอบ (หมายเลข 7)  ความสูงขึ้นมาจากชั้น 2 ทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้ก็จะไม่มีอะไรบังครับ

ออกมาตรงถนนสุขุมวิทบ้าง  อีกโครงการที่น่าสนใจที่กำลังก่อสร้างบริเวณนี้คือ โรงแรม Ibis Styles Hotel Bangkok Sukhumvit Phrakanong (หมายเลข 5)  ชื่อโรงแรมนี่ก็ยาวเหลือเกิ๊น  ตัวโรงแรมมีความสูง 25 ชั้นครับ  เป็นที่ดินที่อยู่ใกล้กับ Wyne ของแสนสิริ (หมายเลข 8)  นั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่34)

ด้านหน้าโครงการครับ  ยังทำการก่อสร้างสำนักงานขายอยู่  ต้นเดือน มิ.ย. ก็น่าจะเสร็จแล้ว

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่33)

แนวรั้วด้านหลังของ Life สุขุมวิท 48 ที่ติดกับ Aspire สุขุมวิท 48  ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อยดี

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่35)

ตึกแถวด้านข้างโครงการ  เข้าไปในซอยสุขุมวิท 48 ถนนก็จะเล็กลงเรื่อยๆ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่27)

เซเว่นตรงข้ามหน้าโครงการ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่30)

ทางเข้าคอนโดแบรนด์น้องอย่าง Aspire Sukhumvit 48

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่31)

ด้านหลังตึกแถวมีอพาร์ทเมนท์ 8 ชั้น ตั้งอยู่  มองไปเห็น Wyne ด้วย

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่25)

ธนาคารออมสิน สาขาพระโขนง ตรงปากซอยครับ  ตรงหน้าธนาคารมีวินมอเตอร์ไซต์อยู่ด้วย  เรียกสะดวก

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่24)

ตึกแถวและร้านค้าที่อยู่ช่วงใกล้กับปากซอยสุขุมวิท 48

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่23)

ออกจากปากซอยมาไม่ไกลก็มี Family Mart

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่22)

ที่ดินที่กำลังก่อสร้าง Ibis Hotel อยู่  ตรงหน้าโรงแรมนี้มีสะพานลอยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามด้วย  สามารถข้ามไปตลาดพระโขนงได้

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่21)

คอนโด Wyne by Sansiri

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่20)

ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระโขนง  ก็อยู่ระหว่างทางเดินจากคอนโดไป BTS นี่แหละครับ

สภาพแวดล้อม Life Sukhumvit 48 (ภาพที่18)

โรงแรมโฮปแลนด์ แอนด์ เรสซิเด้นซ์

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

หลังจากดูพื้นที่รอบโครงการไปแล้ว  ก็มาเข้ารายละเอียดตัวโครงการสักทีครับ  ในโครงการนี้จะแบ่งตึกออกเป็นทั้งหมด 3 ตึก  คือตึก N, S ที่เป็นอาคารพักอาศัย  โดยแยกอาคารจอดรถออกมาต่างหาก  ระยะห่างจากอาคารพักอาศัย 2 อาคาร กับอาคารจอดรถนั้นพอๆ กันครับ  การเดินจากที่จอดรถใช้ระยะทางไม่ต่างกัน  ทั้ง 3 อาคารนั้นไม่ได้มีหลังคาทางเดินเชื่อมกันนะครับ

ผมทำภาพกราฟิกมาให้ดู  จะเห็นว่าการวางตำแหน่งอาคาร N และ S นั้นจะวางในแนวตะวันออก-ตะวันตก ทั้งคู่  เพื่อหลบมุมมองกับตึก N ของ Aspire ให้ได้เยอะที่สุด  เพราะถ้าวางอาคารตามแนวเหนือ-ใต้ แล้วก็จะหันหน้าชนกับ Aspire เต็มๆ ซึ่งไม่ดีแน่ๆ

การวางตำแหน่งอาคารแบบนี้ก็จะมีบางส่วนของตึก N (ทิศใต้) กับตึก S (ทิศเหนือ) ที่บังวิวกันเองอยู่นิดหน่อยในช่วงชั้น 1-19  ถ้าชั้นที่สูงกว่านั้น ตั้งแต่ชั้น 21 ขึ้นไป ตึก S ก็จะวิวโล่งครับ  มองไปอีกทีก็เห็น Wyne เลย  ส่วนทางทิศใต้ของตึก S นั้นก็โล่งตลอดอยู่แล้ว  คนที่ซื้อคอนโดแอสปาย สุขุมวิท 48 ทิศตะวันออก ตึก N บางห้อง อาจจะมีงอนอยู่บ้าง  เพราะโดน Life บล็อกวิวไปนั่นเอง

ลองดูตำแหน่งของอาคารที่วางมาให้นะครับ  พยายามทอนให้เข้าสเกลที่สุดละครับ  จะได้เห็นทิศทางมุมมองแต่ละตึกชัดเจนขึ้น

Life สุขุมวิท 48 อาคารโดยรอบ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

มาถึงเรื่องทิศทางแดดกันบ้าง  โครงการ Life สุขุมวิท 48 นั้นตึก N จะร่มเกือบตลอดครับ เนื่องจากไม่มีห้องทางทิศตะวันตกเลย  และห้องทิศใต้ก็น่าจะได้เงาของตึก S  บังให้อีก  ใครเลือกตึกนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแดดเท่าไหร่  ส่วนตึก S นั้นฝั่งทิศใต้ที่หันหน้าไปทางโรงสูบน้ำพระโขนงก็จะร้อนแดดบ่ายที่แยงเข้ามาในมุมเฉียงหน่อยครับ

Life สุขุมวิท 48 ทิศทางแดดและความร้อน

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางของ Life Sukhumvit 48 นั้นมีล็อบบี้, พื้นที่ co-working space, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส ซึ่งในส่วนของสระว่ายน้ำและฟิตเนสก็จัดเป็น Roof Top Facility อยู่ที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร  อาคาร N จะอยู่ที่ชั้น 19 ส่วนอาคาร S จะอยู่ที่ชั้น 31  แน่นอนว่าสำหรับคนที่ซื้อ Life คงต้องคาดหวัง Roof Top Facilities อยู่แล้ว  เนื่องจาก Aspire ติดกัน ยังให้ฟิตเนสและสระว่ายน้ำอยู่ชั้นบนสุด  เห็นวิวโดยรอบ  ถ้า Life ซึ่งเป็นแบรนด์สูงกว่าไม่ให้มา  ต้องโดนเปรียบเทียบแน่นอน

เมื่อเปรียบเทียบความหนาแน่นแล้วถือว่า Life นั้นหนาแน่นน้อยกว่า Aspire พอควร  คอนโด Aspire นั้นมี 837 ยูนิต ส่วน Life มีแค่ 612 ยูนิต  จำนวนยูนิจคิดเป็นแค่ 73% ดังนั้นเมื่อเทียบกับขนาด facilities ที่พอกัน  Life สุขุมวิท 48 เลยถือว่าได้สัดส่วนการใช้งานที่ดีกว่าพอควร

สำหรับลิฟต์โดยสารเป็นลิฟต์ล็อคชั้น  ตึก N มีมาให้ 2 ตัว  จำนวน 153 ยูนิต เฉลี่ยแล้ว 77 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  เป็นสัดส่วนที่ดีมาก แต่ไม่ได้มีลิฟต์เซอร์วิสแยก  ส่วนตึก S มีลิฟต์โดยสารให้ 3 ตัว เฉลี่ยได้ 153 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว สัดส่วนของตึก S นั้นหนาแน่นกว่า N  แต่ก็ยังเป็นเกณฑ์โอเคเมื่อเทียบกับระดับราคา  ส่วนลิฟต์ดับเพลิงนั้นมีแยกออกมาเฉพาะตึก S เท่านั้น  ซึ่งก็ใช้เป็นลิฟต์เซอร์วิสในตัวด้วยเลย   ทั้งนี้ถ้าลองสังเกตจากแปลนจะเห็นว่าตึก N  ตรงโถงลิฟต์จะมีประตูกั้นทุกชั้น  คือ ก่อนจะเดินไปลงลิฟต์ต้องเปิดประตูนั่นแหละ  ตรงนี้คิดว่าคงทำเป็นประตูกันไฟไปในตัวเหมือนกับของ Aspire เนื่องจากไม่มีลิฟต์ดับเพลิงที่ตึก N นั่นเอง  ส่วนตึก S ก็ไม่ต้องมีประตูกั้นตรงโถงลิฟต์ครับ

————————-

มาดูที่ตึก N กันก่อน  จะสามารถเดินขึ้นตึกได้จากทั้ง 2 ฝั่ง คือจากหน้าโครงการ  และจากอาคาร S ด้านหลัง  โดยจะมารวมกันตรงโถงกลางซึ่งเป็น open-air และแยกเป็นล็อบบี้ด้านหนึ่ง  อีกด้านจะเป็นพื้นที่ร้านค้า  มีห้องจดหมายอยู่รวมกับพื้นที่ล็อบบี้  ด้านล่างมีห้องน้ำให้ด้วย

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 1 ตึก N

Floor Plan ชั้น 1 ตึก N

สระว่ายน้ำที่ชั้น 19 ของตึก N จะเป็นเส้นตรงยาว  ว่ายสโตรคได้  สระว่ายน้ำเปิดวิวด้านข้างไปทางทิศเหนือ  ส่วนทิศใต้เป็นฟิตเนส

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 19 ตึก N

Floor Plan ชั้น 19 ตึก N

 

ตัวตึก S จะยาวเป็นเส้นตรงครับ  ตัวล็อบบี้และ co-working space จะเปิดมุมมองออกไปทางฝั่งที่ติดกับตึก N  ส่วนด้านหลังจะเป็นที่จอดรถเสียบเข้ามาในตัวอาคาร  ด้านล่างของตึกนี้ก็มีห้องน้ำไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมเช่นกัน

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 1 ตึก S

Floor Plan ชั้น 1 ตึก S

ขึ้นมาที่ชั้น 31 สูงสุด ตัวสระว่ายน้ำจะเปิดวิวทางทิศใต้  ซึ่งเป็นคนละด้านกับสระว่ายน้ำของตึก N ครับ  เป็นสระยาวที่ว่ายสโตรคได้เช่นกัน  พื้นที่ฟิตเนสของตึก S  จะเยอะกว่าตึก N  ซึ่งก็เป็นธรรมดาเพราะยูนิตเยอะกว่า  แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าโครงการจะอนุญาตให้ใช้ Facilities ข้ามตึกได้หรือไม่ครับ

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 31 ตึก N

Floor Plan ชั้น 31 ตึก S

 

มาดูดีไซน์ของพื้นที่ส่วนกลางต่อครับ  จัดว่าออกมาหรูหราทีเดียว  ในล็อบบี้นั้นพื้นเป็นกระเบื้องหินอ่อน  บรรยากาศคุมโทนให้ดูอบอุ่นแต่ยังหรูอยู่  คล้ายๆ กับอารมณ์ของ AP ช่วงก่อนที่จะมีการ Joint Venture กับทาง Mitsubishi Estate หลายโครงการก่อนหน้า  เพราะสังเกตว่าดีไซน์ของอินทีเรียหลายโครงการที่รวมกับทางญี่ปุ่นจะดูเรียบ นิ่ง เท่ แต่ไม่เน้นให้ดูหรูหราแบบ AP ยุคก่อน

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่4)

 

พื้นที่ล็อบบี้อีกมุมนึงครับ

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่8)

 

พื้นที่ co-working space

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่5)

 

อีกมุมของ co-working ครับ

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่6)

 

สระว่ายน้ำตึก S ครับ  อยู่สูงกว่า Aspire ทั้ง 2 ตึกเลย

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่2)

 

มุมนั่งเล่นด้านบน

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่1)

 

ฟิตเนสมีกระจกเต็มบาน  วิวโล่ง

Life Sukhumvit 48 (ภาพที่7)

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Typical Floor Plan Life Sukhumvit 48 (ตึก N) ชั้น 2-18

Floor Plan ชั้นพักอาศัยของคอนโด ไลฟ์ สุขุมวิท 48 จะเหมือนกันทุกชั้นครับ  ตึก N นี้จะไม่มีห้องทางด้านทิศตะวันตกเลย  ในแต่ละชั้นจะมีความหนาแน่นแค่ 9 ยูนิตต่อชั้น  ถือว่า private มากสำหรับคอนโดราคานี้  จากตำแหน่งลิฟต์เวลาออกมาแล้วแยกเดินไปซ้าย-ขวา ก็จะรู้สึกว่ามีห้องไม่เยอะ  แบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ตรงหัวมุม  มีชั้นละ 3 ห้องครับ  นอกนั้นก็เป็น 1 ห้องนอน ที่ขนาดต่างกันนิดหน่อย

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 2-18 ตึก N

Floor Plan ชั้น 2-18 ตึก N

 

 Floor Plan Life Sukhumvit 48 (ตึก S) ชั้น 2

ที่ชั้น 2 ของคอนโด Life Sukhumvit 48  จะมีแค่ 11 ยูนิต  ซึ่งถือเป็นชั้นที่มีความหนาแน่นน้อยที่สุดในตึก S  ครับ  เนื่องจากพื้นที่ส่วนหนึ่งใช้เป็น Double Space ของล็อบบี้ที่ชั้น 1

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 2 ตึก S

Floor Plan ชั้น 2 ตึก S

Typical Floor Plan Life Sukhumvit 48 (ตึก S) ชั้น 3-30

แปลนชั้น 3-30 นั้นจะเป็นเส้นตรง  มีทางเดินตรงกลางแจกเข้าห้องทั้ง 2 ฝั่งครับ  ตรงปลายสุดของทางเดินมีช่องแสงและช่องระบายอากาศอยู่  ความหนาแน่นของตึก S นั้นจะอยู่ที่ 16 ยูนิตต่อชั้น  โดยที่ห้องใหญ่ก็จะอยู่ตรงหัวมุมเช่นกันครับ  ที่ตึก S นี้จะไม่มีประตูตรงโถงลิฟต์  เพราะว่ามี fireman lift แยกออกมาให้ต่างหากแล้วนั่นเอง

Floor Plan Life Sukhumvit 48 ชั้น 3-30 ตึก S

Floor Plan ชั้น 3-30 ตึก S

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องคอนโด Life สุขุมวิท 48

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30-33 ตารางเมตร

ห้อง 1 ห้องนอน แบบมาตราฐานลักษณะการวางแปลนจะเหมือนกันหมดครับ  เพียงแต่ขนาดจะต่างกันอยู่ 1-3 ตารางเมตร  ขนาดที่ต่างกันก็อาจจะมีผลต่อความรู้สึกได้บ้างนิดหน่อยเวลาอยู่อาศัยจริง  แต่ไม่ได้เป็นผลชัดเจนจนทำให้ฟังก์ชั่นการใช้สอยแตกต่างกันครับ  อันนี้พูดถึงกรณีห้อง 30 ตารางเมตรขึ้นไปนะครับ  ถ้าห้องที่ขนาด 2x ตารางเมตร ขนาดที่เพิ่มขึ้นแค่ 1-2 ตารางเมตร ก็จะมีผลกับการจัดพื้นที่ใช้สอยอย่างมาก  ขนาดที่แตกต่างกันของแต่ละห้องต่างกันที่ “ความลึก” ของห้องครับ  เพราะฉะนั้นระยะการดูทีวี ระยะปลายเตียง หรือระยะหมุนตัวของสเปซทำครัว เลยไม่ได้แตกต่างกัน

ผมวางแปลนให้ดูทั้งแบบขนาด 30, 32, 33 ตารางเมตร  เข้ามาจะเป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อน  สเปซที่ติดด้านนอกคือส่วนของห้องนอนและ pantry กับส่วนรับประทานอาหารที่อยู่ด้วยกัน  สามารถทำอาหารแบบจริงจังได้  โดยที่ควันไม่เข้ามารบกวนในส่วนพักผ่อน  ติดกับ pantry มีระเบียงออกไปเป็นสัดส่วน  ห้องน้ำจะเข้าจากส่วนพักผ่อน  โดยรวมแง่การใช้สเปซก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ  ยกเว้นเรื่องที่ส่วนพักผ่อนอาจจะได้แสงธรรมชาติน้อย  ซึ่งก็เป็นปกติของแปลนที่เอาครัวไว้ติดด้านนอก

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 30 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 30 ตร.ม

 

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 32 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 32 ตร.ม

 

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 33 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 33 ตร.ม

แปลนห้องคอนโด Life สุขุมวิท 48

แบบ 1 ห้องนอน 38, 39 ตารางเมตร

ห้องแบบ 38 และ 39 ตารางเมตร นี้ก็เป็นแปลนแบบเดียวกันครับ  จะเรียก 1 ห้องนอน หรือ 1 ห้องนอน+ ก็ได้  โดยนอกจากห้องนอนใหญ่แล้วก็มีห้องนอนเล็กแยกออกมาซึ่งติดระเบียงด้วย  ในขณะที่พื้นที่ pantry , ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนพักผ่อน จะจัดรวมกันด้านใน  แบบนี้ถ้าเป็นคนชอบทำอาหารอาจจะไม่สะดวกเท่ากับมี pantry แยก เหมือนแบบห้อง 30-33 ตารางเมตรครับ  แต่ถ้าไม่ได้เน้นทำอาหารเองเยอะ  และอยากได้พื้นที่ห้องนอนเล็กซึ่งปรับใช้เป็นฟังก์ชั่นอื่น เช่น ห้องทำงาน ได้ แบบนี้ก็จะตอบสนองได้ดีครับ

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 38 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 38 ตร.ม

 

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 39 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 1 ห้องนอน 39 ตร.ม

แปลนห้องคอนโด Life สุขุมวิท 48

แบบ 2 ห้องนอน 47 ตารางเมตร

ไลฟ์ สุขุมวิท 48 แบบ 2 ห้องนอน จะอยู่ตรงหัวมุมอาคารเท่านั้นครับ  ผมหยิบมาให้ดูกัน 2 แบบ คือ C1 และ D1 ซึ่งขนาดเท่ากัน  ต่างกันหน่อยตรงที่แบบ C1 นั้นตรงกลางระหว่าง 2 ห้องนอน ทำเป็น pantry ครัว ประตูบานเลื่อนกระจก  ส่วนแบบ D1 นั้นทำเป็นห้องนอนแล้วเลือกที่จะเปิดโล่งพื้นที่ส่วนพักผ่อนให้ได้รับแสงธรรมชาติจากด้านนอกห้องแทน

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าแบบ C1 ดูจะใช้ประโยชน์จากการกั้นห้องนอนเล็กได้ดีกว่าครับ  เนื่องจากห้องนอนทั้ง 2 ห้องสามารถวางเตียง Queen Size แล้วยังดูไม่อึดอัด  ถ้าเป็นแบบ D1 เวลาวางเตียง Queen Size แล้วดูจะแน่นไปหน่อย  อยู่จริงน่าจะได้แค่เตียงเดี่ยว  แต่แบบ D1 ก็จะมีข้อดีตรงที่พื้นที่ข้างนอกในส่วนพักผ่อน, รับประทานอาหาร และส่วนเตรียมอาหารนั้นจะได้สเปซเยอะกว่า  แล้วก็สามารถได้แสงธรรมชาติจากด้านนอกด้วย  ส่วนห้องนอนใหญ่ก็ได้พื้นที่ตรงตู้เสื้อผ้าเยอะกว่า  จะทำ walk-in closet ก็ได้  ต้องลองชั่งน้ำหนักกันดูครับ

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน C 47 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน C 47 ตร.ม


แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน D 47 ตร.มแปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน D 47 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน D 47 ตร.ม

แปลนห้องคอนโด Life สุขุมวิท 48

แบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร นี่ก็เป็นแบบใหญ่ที่สุดในโครงการครับ  เป็นห้องที่อยู่ตรงหัวมุมของตึก S และได้วิว 2 ด้าน  พื้นที่ส่วนกลางที่รวมส่วนพักผ่อน, ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนเตรียมอาหาร จัดเป็นแบบเปิดโล่งเชื่อมถึงกันได้หมด  ซึ่งทำให้ค่อนข้าง flexible ในการจัดอินทีเรียตกแต่างภายใน  ถ้าอยากกั้น pantry แยกเป็นครัวปิดสำหรับทำอาหารจริงจังก็ทำเพิ่มได้  ภายในห้องนอนใหญ่มีส่วนแต่งตัวแยกออกมาเป็นสัดส่วน  รวมแล้วแปลนจัดมาโอเคดีครับ  ตกแต่งเพิ่มเติมได้ยืดหยุ่น  จุดติหน่อยของแบบนี้ก็คือห้องน้ำของห้องนอนเล็กนั้นระบายอากาศออกด้านนอกโดยตรงไม่ได้  ต้องใช้ระบบดูดระบายอากาศออกไปครับ

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน 60 ตร.ม

แปลน Life Sukhumvit 48 แบบ 2 ห้องนอน 60 ตร.ม

รีวิวของ Life สุขุมวิท 48 ขอตัดเว้นที่เหลือเอาไว้ก่อนนะครับ  เพราะหมดข้อมูลที่เรามีแล้ว  เนื่องจากสำนักงานขายยังไม่เปิด  และยังไม่มีข้อมูลห้องตัวอย่างกับวัสดุ  เดี๋ยวไว้เราจะเอามาเพิ่มเติมให้ภายหลังนะครับ

ป.ล. โครงการนี้ EIA Approved แล้วนะครับ

^_____^

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

n/A

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

 n/A

ราคา ณ วันที่  xx มิถุนายน 2559

ราคาเริ่มต้น :

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

 

  • ผ่อนดาวน์

 

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  n/A  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า   ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) n/A  บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

n/A

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

n/A

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

n/A

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

n/A

Score Summary

 

n/A

Jas Urban ศรีนครินทร์ พร้อมเปิดปลายปี 59 นี้ ด้วยงบกว่า 600 ล้านบาท โดย Jas Asset

$
0
0

JAS ASSET ปั้นโปรเจ็คช้อปปิ้งมอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ หลังทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท ประกาศเปิดตัวแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ (Jas Urban Srinakarin) ใจกลางย่านศรีนครินทร์ พร้อมปักธง เปิดให้บริการไตรมาสสุดท้ายปีนี้

Jas Urban ศรีนครินทร์ - ภาพที่ 2

 

นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท JAS ASSET จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ เดินหน้า สานต่อความสำเร็จ หลังจากเปิด The Jas วังหิน ในปี 2557 และ The Jas รามอินทรา ในปี 2558 โดยปลายปีนี้ บริษัทฯ มีกำหนดเปิด Jas Urban ศรีนครินทร์ โครงการช้อปปิ้งมอลล์แห่งที่ 3 ของบริษัทฯ โดยโครงการล่าสุดนี้ บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท และใช้คอนเซ็ปต์การออกแบบที่ทันสมัยและโดดเด่น โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ มีเนื้อที่กว่า 11 ไร่ เป็นอาคาร Retail 3 ชั้น และชั้นจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและสะดวกสบายด้วยที่จอดรถกว่า 450 คัน มีพื้นที่ขายกว่า 17,000 ตารางเมตร รวมร้านค้า อินเตอร์และโลคัลแบรนด์ไว้กว่า 100 ร้าน อาทิ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นต่างๆ และโรงภาพยนตร์ โดยใช้ชื่อโครงการนี้ว่า แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ และความทันสมัยของโครงการ

Jas Urban ศรีนครินทร์ - ภาพที่ 5

 

“ลูกค้าเป้าหมายของโครงการ Jas Urban ศรีนครินทร์ มีทั้งกลุ่ม Gen X หรือกลุ่มครอบครัว ที่สนใจสถานที่เดิน เล่นพักผ่อน จับจ่ายใช้สอยสำหรับชีวิตในครอบครัว รวมถึงหากิจกรรมพิเศษให้ลูกๆ กลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นนักศึกษา First Jobber ไปจนถึงกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 18-35 ปี ที่นิยมสถานที่บรรยากาศดีๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารเก๋ๆ สำหรับนัดพบปะหรือทำงานกับเพื่อนฝูง และซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าครบครัน และกลุ่ม Gen Z ที่เป็นเด็กนักเรียนนักศึกษา อายุน้อยกว่า 18 ปี ที่ชอบของกินร้านดังตามกระแส ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) เพื่อนั่งเรียนพิเศษทำรายงานกับเพื่อนๆ รวมถึงมุมสวยสำหรับถ่ายภาพ ซึ่ง แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ได้รวบรวม ร้านค้าไว้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดอย่างครบครัน”

Jas Urban ศรีนครินทร์ - ภาพที่ 1

 

Jas Urban Srinakarin ตั้งอยู่บนทำเลทองย่านศรีนครินทร์ อยู่ติดถนนใหญ่ รอบโครงการฯ มีโครงการบ้าน จัดสรร และคอนโดมิเนียมกว่าร้อยโครงการ บ้านเดี่ยวอีกมากกว่า 80,000 หลังคาเรือน ประชากรรายล้อมกว่า 200,000 คน และโรงเรียนนานาชาติและเอกชนกว่า 20 โรงเรียน ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่หนาแน่นและมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายสุพจน์ กล่าวต่อ

Jas Urban ศรีนครินทร์ - ภาพที่ 4

 

สำหรับคอนเซ็ปต์ของ Jas Urban ศรีนครินทร์ “บริษัทฯ เน้นการออกแบบที่ทันสมัยและโดดเด่น ประกอบกับ สร้างพื้นที่สีเขียวทั้งภายในอาคารและรอบโครงการฯ เพื่อสร้างความร่มรื่นเพลิดเพลินให้กับผู้มาใช้บริการ การ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในบรรยากาศสบายๆ เหมือนในสวน ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มเวลา การจับจ่ายใช้สอยภายในโครงการฯ แต่ยังทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง”

Jas Urban ศรีนครินทร์ - ภาพที่ 3

 

“ปัจจุบัน โครงการฯ เปิด Presale แล้ว และสามารถปิดการขายพื้นที่ไปได้แล้วกว่า 60% และคาดว่าจะปิดได้ครบ 100% ก่อนเปิดโครงการในช่วงปลายปี โดยมีร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ อาทิเช่น Tops Supermarket, Starbucks, Kasa, Jaymart” นายสุพจน์ กล่าวทิ้งท้าย

AP Thailand อายุรอบ 25 ปี เดินหน้าสานต่อพันธกิจสำคัญ ในการพัฒนานวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง

$
0
0

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ประกาศความสำเร็จครบรอบ 25 ปีของการดำเนินธุรกิจกว่า 100 โครงการ มูลค่าราว 112,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสานต่อพันธกิจความเป็นผู้นำด้าน “Space Design” ที่ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียดและองค์ประกอบในการสร้างที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์เอพี ทั้งนี้เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสำหรับ คนเมือง ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต โดยผสานวิสัยทัศน์ระหว่างทีมบริหารรุ่นก่อตั้งและรุ่นใหม่ นำโดย นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการ และนายศิริพงษ์ สมบัติศิริ กรรมการบริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

AP ฉลองครบ 25 ปี - ภาพที่ 2

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยบุคลากร คนรุ่นใหม่ “คนคุณภาพ” พร้อมเดินหน้าสานต่อพันธกิจของเอพี

 

AP ฉลองครบ 25 ปี - ภาพที่ 1

พรีวิว Aspire Sathorn-Taksin (Copper Zone) (แอสปาย สาทร-ตากสิน) คอนโดพร้อมอยู่สูง 21 ชั้น ใกล้ BTS วุฒากาศ จาก AP

$
0
0

วันนี้เรามีพรีวิวของคอนโด Aspire Sathorn – Taksin ( Copper Zone ) มาฝากกันสั้นๆ  โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise ย่านฝั่งธนอีกแห่งนึงจาก AP ค่ะ คอนโดแอสปาย สาทร-ตากสิน คอปเปอร์โซนนี้ นับเป็นคอนโดโครงการที่ 3 ต่อจาก Aspire Sathorn – Taksin (Timber Zone) และคอนโด Low Rise Aspire Sathorn – Taksin (Brick Zone) ที่ได้สร้างและขายเสร็จกันไปหลายปีก่อนหน้าแล้ว  แต่สำหรับ Aspire Sathorn – Taksin ( Copper Zone ) ทำเป็นคอนโดสร้างเสร็จก่อนขายค่ะ สามารถไปเลือกห้องจริง ดูวิวจริงกันก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย

เราลงข้อมูลให้ดูสั้นๆ นะคะ

Aspire Sathorn – Taksin ( Copper Zone )

แอสปาย สาทร – ตากสิน ( คอปเปอร์ โซน)

  • เจ้าของโครงการ >>> AP (Thailand)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> โซน BTS วุฒากาศ ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดที่ดิน >>> 3-2-15.4 ไร่
  • จำนวนอาคาร >>> อาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร
  • จำนวนชั้น >>> 21 ชั้น
  • ประเภทและขนาดห้อง >>> Studio / 1 bedroom / 2 bedroom
    • Studio ขนาดเริ่มต้น 22.50 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>> 613 ยูนิต 1 ร้านค้า
  • ที่จอดรถ >>> N/A
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 80,000 บาท/ตารางเมตร ( Fully Fitted )
  • พิกัด GPS >>> 13.712537, 100.464417
  • เว็บไซต์โครงการ >>> Aspire สาทร – ตากสิน ( Copper Zone )
  • โทร >>> 1623

ที่ตั้งโครงการ

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 1

Aspire สาทร – ตากสิน ( Copper Zone ) ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก ทำเลเดียวกับ Aspire สาทร – ตากสิน Timeber Zone และ Brick Zone เลยค่ะ ถนนราชพฤกษ์ด้านหน้านั้นจะใกล้กับจุดเชื่อมระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนกัลปพฤกษ์ คือ ถ้าขับมาจาก BTS สถานีวุฒากาศผ่านหน้าโครงการไปจะเข้าถนนกัลปพฤกษ์ ไปออกถนนกาญจนาภิเษกได้ ฝั่งนี้จะมี Metro West Town ไปซื้อของกันได้ แต่ถ้าตามเส้นราชพฤกษ์โดยเลี้ยวขวาตามแนวรถไฟฟ้า BTS ไป จะไปบางหว้า, เข้าถนนเพชรเกษมได้ ซึ่งเส้นนี้จะมีมหาวิทยาลัยสยาม, ซีคอน บางแค, รพ.พญาไท 3 และรพ.บางไผ่ ในทางกลับกันใช้ถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาเข้าจะผ่านแยกที่ถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนรัชดาภิเษกแถวๆ BTS ตลาดพลู ซึ่งบริเวณนี้จะมี BRT ราชพฤกษ์, The Mall รัชดา-ท่าพระให้ไปพึ่งพิงกันอีกด้วย

 

แผนที่ Aspire สาทร - ตากสิน ( Copper Zone ) - ภาพที่ 1

แผนนี้ด้านล่างจะแสดงตำแหน่งคอนโด Aspire Sathorn – Taksin ( Copper Zone ) , Aspire สาทร-ตากสิน Timber Zone และ Aspire สาทร-ตากสิน Brick Zone จะเห็นว่าทั้งสามคอนโดมีทางเข้าทางเดียวกันจากถนนราชพฤกษ์ โดย Timber Zone จะอยู่ใกล้ถนนมากที่สุด รองลงมาคือ Copper Zone ที่จะอยู่ช่วงกลางๆ ลึกเข้ามาจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 200 เมตร และ Brick Zone ที่เป็น Low Rise จะอยู่ในสุดติดกับโครงการบ้านกลางเมืองสาทร – ตากสิน 2 แต่พื้นที่ของคอนโดทั้งสามโซนไม่ได้เชื่อมกับของบ้านกลางเมืองนะคะ ระยะทางจากหน้าโครงการหลักจะห่างจาก BTS วุฒากาศประมาณ 420 เมตร เมื่อรวมระยะทางที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยแล้ว Copper Zone จะต้องเดินมาประมาณ 650 เมตรค่ะ ซึ่งก็ยังถือว่าอยู่ในระยะที่พอเดินได้อยู่  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มี The Key สาทร – ตากสิน ของ Land and Houses ที่ระยะเดินจะอยู่ใกล้กับ BTS วุฒากาศมากกว่านะคะ

Aspire-สาทร-ตากสิน-Copper-Zone

พื้นที่ส่วนกลาง

คอนโดแอสปาย สาทร-ตากสิน (คอปเปอร์โซน) ที่ชั้น 1 จะเป็นโถงต้อนรับ ร้านค้า ลานตีแบตมินตันด้านข้าง ลานบาร์บีคิว และเลนปั่นจักรยานหน้าโครงการ จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 2 – 4 โดยเริ่มห้องพักตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป ดังนั้นชั้น 3 และ 4 จะมีทั้งห้องอาศัยและที่จอดรถปนกันอยู่ ชั้น 5 เหนือโพเดียมจอดรถ จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีสระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย ชั้น 6 – 21 เป็นชั้นห้องพักอาศัยเต็มชั้น และชั้นดาดฟ้าหรือชั้น 22 จะมีสวนพักผ่อน ลานพัตต์กอล์ฟ

ส่วนปลอดภัยนั้นจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. กล้องโทรทัศน์วงจรปิด และระบบ Keycard

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 5

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 4

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 3

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 2

โปรโมชั่นวันเปิดจอง 

Aspire Sathorn - Taksin ( Copper Zone ) - ภาพที่ 6

หากมีโอกาสจะทำรีวิวตัวเต็มของ แอสปาย สาทร – ตากสิน คอปเปอร์โซน มาให้ดูกันนะคะ

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

Viewing all 5526 articles
Browse latest View live