ในปีนี้คอนโดราคาแพงย่านทองหล่อเปิดตัว(แบบทางการ)กันเยอะมากค่ะ บางโครงการก็ทยอยขายก่อนเปิดมาตั้งแต่ปีก่อน เมื่อวานนี้ (10 พ.ค. 59) Tela Thorlor ซึ่งเป็นคอนโด High Rise ระดับ Super Luxury ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรแพงสุดในปีนี้ก็เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแบบเป็นทางการ เราเลยแวะเข้าไปเก็บรายละเอียดมาฝากกัน แม้จะไม่ใช่รีวิวเต็มๆ แต่ก็ถือว่าดูกันเพลินๆ ว่าของที่ราคาแพงมากๆ ในตลาดบนนั้นเค้าทำกันแบบไหนค่ะ
TELA Thonglor (เทลล่า ทองหล่อ) นั้นใช้คอนเซ็ป Canvas of Life ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 13 อยู่ช่วงกลางซอยทองหล่อเลยค่ะ โครงการนี้มีมูลค่าโครงการกว่า 4,100 ล้านบาท ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรนั้นเป็นราคาที่จัดกลุ่มคนรวยและเศรษฐีเงินเหลือใช้ ต่อตารางเมตรก็ประมาณ 300,000 เท่าน้านนน… แม้จะแพงแต่ก็มีคนกระเป๋าหนักซื้อไปแล้ว 50% ค่ะ และส่วนใหญ่เป็นคนไทยซะด้วย
ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ TELA Thonglor นั้นพยายามไม่ขายกับกลุ่มนักลงทุนแต่จะโฟกัสกับตลาดคนซื้ออยู่จริงเองมากกว่า เพราะเงินทำสัญญากับเงินดาวน์ก็ปาเข้าไปร่วม 30% ของราคาขายแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทางของ บเกสร พร็อพเพอร์ตี้ ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการนี้ค่ะ
คอนโด Tela Thorlor นั้น ทางเกสร พร็อพเพอร์ตี้ บอกว่ามีจุดเด่นอยู่ 5 อย่าง คือ
1) ทำเลกลางเมือง ย่านทองหล่อ ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก
2) ที่อยู่อาศัยไม่แออัดและเป็นส่วนตัวมาก เพราะมี 84 ยูนิตเท่านั้น ใน 1 ชั้นจะมีเพียง 4 ห้อง แต่ละห้องจะอยู่ติดหัวมุมได้วิวกันทุกห้องค่ะ
3) ทุกห้องได้ระเบียงยาว โดยเฉพาะห้องแบบ 3 ห้องนอน ที่ได้ระเบียงยาวถึง 17 เมตรเลย ซึ่งเป็นระเบียงที่เชื่อมห้องต่างๆ เข้าด้วยกัน เดี๋ยวจะพาไปดูในหัวข้อล่างๆ ค่ะ
4) ทุกห้องนั้นได้ลิฟต์ส่วนตัว คือเข้าลิฟต์จากชั้นล่างมา เปิดประตูลิฟต์ก็เข้าห้องของตัวเองได้เลย
5) งานออกแบบและของตกแต่งมีคุณภาพดี
ก่อนดูห้องตัวอย่าง เราไปดูข้อมูลโครงการเบื้องต้นกันก่อนค่ะ
TELA Thorlor ( เทลล่า ทองหล่อ )
- เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เกสร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนทองหล่อ ( ปากซอยทองหล่อ 13 )
- ขนาดที่ดิน >>> 1 – 3 – 63 ไร่
- จำนวนชั้น >>> 33 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
- ประเภทห้อง >>>
- 2 ห้องนอน (Tela Sienna, Tela Amber) 111 ตร.ม. จำนวน 40 ยูนิต
- 3 ห้องนอน (Tela Legacy Suite A&B) 201-202 ตร.ม. จำนวน 40 ยูนิต
- 3 ห้องนอน (Deplex Signature Suite) 230 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
- 3 Plus 1 ห้องนอน Deplex (Sky Duplex Suite) 338 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
- จำนวนยูนิต >>> 84 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 138 คัน ( 156% )
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 10/05/59
- 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 32 ล้านบาท
- 3 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 60 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> 300,000 บาท/ตร.ม.
- พิกัด GPS >>> 13.733633, 100.581980
ที่ตั้งโครงการ
คอนโด TELA Thonglor ตั้งอยู่ในซอยสุขุทวิท 55 หรือซอยทองหล่อ อยู่หัวมุมซอยทองหล่อ 13 ซึ่งเดิมทีเป็นร้านอาหารต้นเครื่อง ด้านข้างโครงการด้านนึงจะติดกับซอยทองหล่อ 13 อีกข้างนึงจะติดกับ Starbucks ทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น เป็นร้านอาหารต่างๆ รอบๆ ตัวนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ทั้งร้านค้า Pub&Restaurant ร้านอาหาร ร้านค้า โรงพยาบาล ธนาคาร และคอมมูนิตี้มอล โครงการที่อยู่ใกล้ๆ เช่น J Avenue, Seenspace 13, The Taste Thonglor, Grass on Thonglor และในอนาคตอาจจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่าน ซึ่งที่ตั้งโครงการ เทลล่า ทองหล่อ จะใกล้กับสถานีทองหล่อ 10 เลยค่ะ จะทำให้ยิ่งสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้คอนโดอยู่ไกลจากตัว BTS ทองหล่อมากทีเดียว
การเดินทางด้วยรถยนต์นั้น หากรถไม่ติดจะสะดวกมากเพราะตั้งอยู่ในซอยที่เชื่อมถนนหลัก 2 เส้น คือ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีค่ะ ซอยทองหล่อ 13 เป็นซอยที่สามารถทะลุไปออกสุขุมวิท 49 หรือ 50 ได้ ซึ่งเมื่อตรงเข้าซอยไปจะเจอกับโรงพยาบาลสมิติเวชพอดีอีกด้วย
โครงการไม่มีแปลนหรือผังอะไรให้ดูทั้งสิ้นนะคะ มีแต่โมเดลกับห้องตัวอย่างให้ดู เราเลยเก็บรายละเอียดมาฝากกันเท่าที่ทำได้ค่ะ
โมเดล
TELA Thonglor สูง 33 ชั้น ด้านนี้จะเป็นด้านหน้าที่หันเข้าหาถนนทองหล่อค่ะ เป็นทางเข้าหลักของโครงการ
ชั้นล่างเป็น Lobby ชั้น 2 – 4 เป็นชั้นจอดรถ ที่ชั้น 5 จะเป็นชั้น Facilities และเริ่มห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 ขั้นไป
ชั้นล่างด้านหน้าติดถนน จัดเป็นบ่อน้ำ และปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ Facade ชั้นจอดรถทำเป็นต้นไม้แนวตั้ง ( Greenery Wall ) สลับกับแผงบังแดดสีเทาๆ ทำให้คอนโดดูร่มรื่นมากขึ้น
สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 5 มีความยาวรวม 25 เมตร สามารถว่ายแนวยาวพร้อมกันได้ 3 ลู่ และมีบางส่วนลดความลึกสำหรับเด็ก ห้องฟิตเนส พื้นที่สปา บิวตี้ซาลอนส่วนตัว ห้อง Residential Club และห้อง Function Room สำหรับให้ผู้พักอาศัยจัดเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ได้
ด้านข้างของอาคาร ด้านนี้จะไม่มีระเบียงห้องค่ะ
ด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร จะเป็นด้านที่มีระเบียงห้องยาวค่ะ รูปนี้เป็นรูปด้านหลังอาคาร เป็นทิศที่จะหันหน้าเข้าไปในซอยทองหล่อ 13
ชั้น Typical จะเป็นชั้นที่มี ห้องแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน อยู่ด้วยกันอย่างละ 2 ห้อง ที่เห็นในภาพ ทางซ้ายมือคือห้องแบบ 2 ห้องนอน จะมีระเบียงสั้นกว่า แบบห้อง 3 ห้องนอนทางขวามือของภาพค่ะ ซึ่งด้านหน้าโครงการก็จะมีลักษณะนี้เหมือนกัน
โมเดลห้องตัวอย่างของแบบ 2 ห้องนอน ( Tela Sienna , Tela Amber ) ลองสังเกตทางด้านล่างซ้ายของภาพนะคะ จะเป็นตัวลิฟต์ค่ะ คือ เปิดประตูลิฟต์ก็ออกมาก็เข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นได้เลย ส่วนทางขวามือของภาพจะเป็นระเบียงยาววว ทำให้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นเปิดไปที่ระเบียงได้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างนี้ จะเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน ( Tela Legacy Suite A&B ) มีพื้นที่ใช้สอย 201-202 ตารางเมตร ลิฟต์จะอยู่ในสุด ซึ่งออกมาแล้วจะเจอกับตู้สีน้ำตาล เป็นพื้นที่เก็บของด้านหน้า แล้วก็จะมีประตู Digital Door Lock อีกชั้นนึงก่อนจะเข้ามาในห้องค่ะ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะรับประทานอาคารค่ะ แล้วก็จะเป็นระเบียง (ซึ่งเป็นจุดที่ยืนถ่ายภาพนี้) ความสูงในห้องโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3.2 เมตร ที่ Balcony ฝ้าสูง 2.7 เมตร
พื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง ติดกับห้องนั่งเล่น นั่งชิลล์ๆ ไป ระเบียงกว้าง
ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และครัวอยู่ด้านใน โครงการนี้นอกจากมีจุดเด่นอยู่ที่ระเบียงยาวแล้ว จะเน้นเลือกใช้วัสดุเกรดดี (ให้สมกับราคาห้องหล่ะนะ) เช่น พื้นไม้ Engineering Wood ที่ทำหน้าไม้เปิดเสี้ยนนิดนึงให้มีผิวสัมผัสแบบไม้จริง ความกว้างแผ่นพื้น 6 – 8 นิ้ว, มีไฟสำรองฉุกเฉินส่องไฟไปที่พื้น ในยามเกิดเหตุเพลิงไหม้ เหมือนกับที่ตามโรงแรม
ได้เคาน์เตอร์ครัวสั่งทำพิเศษจากหินสังเคราะห์ และตู้เก็บของครบชุดแบบ Soft Close แบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนจะได้สีไม่เหมือนกัน ชุดครัวจากแบรนด์อิตาลี Binova และเครื่องใช้ไฟฟ้า Bertazzoni ได้ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ แต่ไม่รวมเครื่องทำกาแฟที่อยู่ขวามือสุดค่ะ เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นแบบ 2 ห้องนอนจะได้ไม่เหมือนกันเนื่องจากพื้นที่ไม่เหมือนกันค่ะ
ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร นั่งได้ 8 – 10 ที่ วางโต๊ะใหญ่ได้สบายมาก
ทางเดินจากพื้นที่ครัวไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง แต่ละห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง
ห้องน้ำกลางเข้าได้จากทางเดิน โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือยี่ห้อ Duravit
ต่อด้วยห้องนอน 2 เปิดเข้ามาเป็นตู้เสื้อผ้าทางขวามือ และมีห้องน้ำในตัว
ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานค่ะ ได้ไฟเป็น LED Lighting ในห้องนอนทุกห้อง
สามารถวางเตียง Queen Size และ King Size ได้สบายๆ
สุดทางเดินเป็น Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้จะมี Walk-in Closet
ได้ห้องน้ำแบบ Sexy Bath พื้นห้องน้ำทำเป็นพื้นหิน (Compressed Mable, Composite quartz) ไม่ใช่พื้นกระเบื้อง เพราะต้องการให้มีอายุการใช้งานยาวนาน และแข็งแรงกว่า
อ่างล้างหน้าแบบ His & Her จาก Duravit ก๊อกอ่างอาบน้ำต่างๆ จะใช้ยี่ห้อ Hansgrohe รุ่น Select
ส่วนฝักบัวได้แบบ Rain Shower และ Hand Shower จากยี่ห้อ Hansgrohe ค่ะ รุ่น Select ประมาณว่าน้ำจะไม่แรงกระแทกผิว แต่จะให้น้ำนุ่มนวลเหมือนกับอาบน้ำฝนค่ะ
ตอนนี้เรามายื่นที่ระเบียงแล้วถ่ายรูปกลับเข้าไปในห้องนอน Master Bedroom ค่ะ
เดินผ่านห้อง Master Bedroom ออกมาที่ระเบียงค่ะ ส่วนนี้จะลดระดับจากพื้นห้องลงมาอีกหน่อย ภาพนี้จะเห็นว่าระเบียงเชื่อมห้องนอนทั้งสามห้องและสุดทางเป็นห้องนั่งเล่น ทุกห้องเปิดประตูมาที่ระเบียงได้หมดเลยค่ะ โดยแต่ละห้องจะได้ประตูประจกบานเลื่อน Double Glazed ป้องกันความร้อน พื้นที่ระเบียงทำจาก Composited Wood ไม้ผสมเรซิน มีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปี แต่ระเบียงทางซ้ายมือจะเป็นระเบียงสูงประมาณ 90 เซนติเมตรนะคะ ไม่ใช่สูงแบบนี้
นอกจากนี้ยังมีห้อง Maid และครัวไทยให้อีกด้วย
จบแล้วค่ะ สำหรับพรีวิวสั้นๆ ของ TELA Thonglor ซึ่งเป็นคอนโดระดับ Super Luxury รายละเอียดก็สรุปมาให้เท่าที่หาได้นะคะ แน่นอนว่าราคาคอนโดระดับนี้ไม่ใช่ตลาดของเหล่านักเก็งกำไรแน่นอน และก็ไม่ใช่ตลาดที่มองหาความคุ้มค่าของเงินที่ลงทุนไปด้วย แต่เป็นตลาดที่ซื้อขายกันด้วย Emotional Benefits ล้วนๆ สำหรับคนรวย มีไลฟ์สไตล์หรูหรา และชอบความเป็นส่วนตัวค่ะ ส่วนคนทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ก็ถือว่าดูไว้ศึกษากันเนอะ ^__^
วันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ