Quantcast
Channel: รีวิว คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อสังหาฯ
Viewing all 5526 articles
Browse latest View live

Plum Condo Central Station (พลัมคอนโด เซ็นทรัล สเตชั่น) คอนโดโซนบางใหญ่ติด Central Westgate [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น อยู่ติดกับ Central WestGate ที่ทางเซ็นทรัลจะให้เป็นศูนย์กลางช้อปปิ้งของภูมิภาค ต้อนรับ AEC กำลังจะเปิดตัวในเดือนก.ค.นี้แล้วค่ะ Plum Condo Central Station อยู่ไม่ไกลจาก MRT สามแยกบางใหญ่ และ MRT ตลาดบางใหญ่ บนแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ก็เตรียมเปิดทดลองให้ใช้กันในปลายปีนี้ ซึ่ง Plum Condo ตัวนี้นั้นเป็นตัวแรกที่ทำเป็น High-rise ด้วย  หน้าตาจะเป็นยังไงวันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Plum Condo Central Station

(พลัมคอนโด เซ็นทรัล สเตชั่น)

  • เจ้าของโครงการ >>>  บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ติดกับเซ็นทรัล เวสต์เกต
  • ขนาดที่ดิน >>>  4-0-96 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 38 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน 24, 24.5 และ 26.5 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน (Combined) 49, 51 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  1,208 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 30% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.39 ล้านบาท (ห้อง 24 ตารางเมตร ณ วันที่ 29/05/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  7x,xxx บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.874872, 100.413485

 

  อ่านรีวิว Plum Condo คลิกที่นี่

 

Plum Condo Central Station ดีมั๊ย ดีไหม

 

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 002

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 003

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 004

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 005

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 008

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 010

Plum Condo เซ็นทรัล สเตชั่น - ภาพที่ 012

 

Plum Condo Central Station ข้อมูลโครงการ

 

  อ่านรีวิว Plum Condo คลิกที่นี่

 


Exclusive Interview : 3 โครงการของ AP (Rhythm รางน้ำ, Life อโศก, Aspire สาทร-ราชพฤกษ์) ที่จะเปิดในเดือนมิถุนายนนี้

$
0
0

สวัสดีครับ  ในเดือนมิถุนายนนี้ทาง AP จะเปิดตัวคอนโดอย่างเป็นทางการพร้อมกัน 6 โครงการรวด  พร้อมๆกันใน 6 ทำเล ที่แตกต่างกัน  ทางอยู่สบายได้มีโอกาสแวะเข้าไป Exclusive Interview กับทางคุณวิทการ จันทวิมล Chief Marketing Officer (CMO) ของทาง AP ร่วมกับเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์อีกหลายๆเว็บ  เลยนำข้อมูลมาฝากกัน

โครงการทั้ง 6 โครงการ ที่ AP กำลังจะเปิดตัวทางการพร้อมกันในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ประกอบด้วย

Life Asoke (Life อโศก) 1,642 ยูนิต มูลค่า 6,300 ล้านบาท (MRT เพชรบุรี)

Aspire Erawan (Aspire เอราวัณ)  1,576 ยูนิต มูลค่า 3,680 ล้านบาท (BTS เอราวัณ)

Aspire Sathorn – Ratchapruek  (Aspire สาทร-ราชพฤกษ์) 1,087 ยูนิต มูลค่าร 2,967 ล้านบาท  (BTS บางหว้า)

Aspire Ladprao 113 (Aspire ลาดพร้าว 113)  270 ยูนิต มูลค่า 490 ล้านบาท  (BTS บางกะปิ)

Rhythm Rangnam (Rhythm รางน้ำ)  385 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท (BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)

Aspire Wutthakat (Aspire วุฒากาศ) 166 ยูนิต มูลค่า 395 ล้านบาท (BTS วุฒากาศ)

 

ใน 6 โครงการนี้ก็มีทั้งแบรนด์ Aspire, Life และ Rhythm จะขาดไปก็แต่เพียง The Address พี่ใหญ่ตัวแพงซึ่งก็ไม่มีเปิดตัวในปีนี้  โดยการสัมภาษณ์ครั้งรี้ได้จะเจาะลึกไปที่ 3 โครงการ คือ Rhythm Rangnam , Life Asoke และ Aspire Sathorn – Ratchapruek ครับ  ซึ่งทางอยู่สบายเคยพรีวิวข้อมูลให้ดูไปแล้ว 2 โครงการ คือ Life อโศก และ Rhythm รางน้ำ  ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ทาง  AP  ก็เปิดแปลนแบบใหม่ขนาด 35 ตารางเมตร มาลงในคอนโดมิเนียมใหม่หลายๆโครงการ  โดยแต่ละที่อาจจะแตกต่างกันในดีเทลนิดหน่อย

ซึ่งหลังจากได้สัมภาษณ์มาทางอยู่สบายก็ได้มีการเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนให้อัพเดตมากขึ้นจากที่เคยเขียนบทความไปแล้วครับ  อ่านพรีวิว Life Asoke คลิกที่นี่ // อ่านพรีวิว Rhythm รางน้ำ คลิกที่นี่

นอกจากนั้นทาง AP ก็ได้พาแวะไปดูที่ดินแปลง Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ เพิ่มเติม เลยเก็บภาพมาฝากกันนิดหน่อยครับ

 

Aspire Sathorn – Ratchapruek 

(Aspire สาทร-ราชพฤกษ์) 

  • เจ้าของโครงการ >>> AP(Thailand) , เอพี(ไทยแลนด์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนราชพฤกษ์  ปากซอยเทอดไท บริเวณสะพานข้ามคลองภาษีเจริญ
  • ขนาดที่ดิน >>>  4 – 3 – 16.6 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> 33 ชั้น
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  Studio / 1, 2 bedroom
  • ขนาดห้อง >>>
  • Studio 25 ตารางเมตร (10%)
  • 1 bedroom  30 – 35 ตารางเมตร (75%)
  • 2 bedroom 45 ตารางเมตร (15%)
  • จำนวนยูนิต >>>  1,087 ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 419 คัน (38.5%)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  n/A ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 82,500 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.717151, 100.458719

 

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 6)

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 2)

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 5)

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 4)

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 3)

 

ด้านหน้าของที่ดิน Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ จะมีคลองเล็กๆชื่อคลองสวนเลียบกั้นอยู่  คลองนี้จะไปเชื่อมต่อกับคลองภาษีเจริญครับ

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 1)

 

รูปนี้เป็นถนนเทอไท  ทางฝั่งซ้ายมือคือที่ดินของ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ครับ

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 2)

 

เข้ามาตากแดดดูกันในที่ดินโครงการ  ด้านหน้าก็จะเห็นรถไฟฟ้า BTS วิ่ีงผ่าน

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 6)

 

พื้นที่โซนนี้ยังเป็นสวนอยู่เยอะครับ  ดูแปลกตาอยู่ทีเดียวเมื่อคิดว่าด้านหน้ามีแนวรถไฟฟ้าวิ่งผ่านที่เชื่อมเข้าสาทรได้

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 7)

 

เราลองเดินจากที่ดินของโครงการไปทางคลองภาษีเจริญกันเพื่อดูตำแหน่งของจุดขึ้น-ลง BTS สถานีบางหว้า  จะมีบางช่วงที่มีเสาตอม่อของ BTS ขวางอยู่  ก็ต้องเดินเบียงๆหน่อยครับ

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 5)

 

ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่มองไปเห็นสถานี BTS บางหว้า  ทาง กทม. มีแพลนจะทำทางเดินเชื่อมจากตัวสถานีเกาะตามแนวของโครงสร้าง BTS มาลงตรงจุดนี้  เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนทางฝากนี้ของคลองภาษีเจริญ  ซึ่งรวมคนในชุมชนที่อยู่ตามแนวถนนเทอดไท รวมไปถึงซอยกำนันแม้นในย่านนี้ด้วย (ระยะทางจากตัวสถานีต่อเชื่อมมาจนถึงจุดที่ถ่ายรูปอยู่ประมาณ 200 เมตร) ทีนี้พอ กทม. ทำทางเชื่อมมาลงตรงจุดนี้  ทาง AP ก็เลยออกทุนทำต่อให้และยกให้เป็นสาธารณะประโยชน์โดยทำทางเชื่อมไปลงตรงปากซอยเทอดไท (หน้าคอนโด Aspire สาทร-ราชพฤกษ์) นั่นแหละ ระยะทางที่เพิ่มขึ้นก็อีกประมาณ 160 เมตร  ก็เลยเป็นการได้ประโยชน์ร่วมกันไปทั้ง 3 ฝ่าย คือ คนในพื้นที่เดิมที่ใช้ทางเข้าออกตรงถนนเทอดไท, กรุงเทพมหานคร และก็ AP เองที่เคลมต่อได้ว่า 1 ก้าวถึง(บันไดทางเชื่อมขึ้น)รถไฟฟ้าหล่ะครับ

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ (ภาพที่ 4)

 

ใครสนใจก็ไปลงทะเบียนกันไว้ก่อนได้ครับ

  ลงทะเบียน Rhythm รางน้ำ

  ลงทะเบียน Life Asoke

  ลงทะเบียน Aspire สาทร-ราชพฤกษ์

“อโศก …จากสุขุมวิทถึงเพชรบุรี”พาเดินเล่นดูทำเลและสภาพแวดล้อมบนถนนอโศกในจุดเชื่อมต่อสุขุมวิท –พระราม 9

$
0
0

บทความนี้เราพาไปเดินเล่นกันบนถนนสุขุมวิท 21 หรือถนนอโศกกันครับ  อย่างที่ทราบๆกันดีว่าพื้นที่ย่านอโศกนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่เชื่อมต่อ CBD  อย่างสุขุมวิทเข้ากับพระราม 9 และรัชดาภิเษก  ซึ่งตามปกติแล้วการเจริญเติบโตของเมืองก็ในจุดหลักอย่าง CBD เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มีความหนาแน่นมากๆ  ก็จะเริ่มกระจายตัวออกตามถนนที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลัก  ค่อยๆแตกกระจายเกิดเป็น Hub ใหม่ๆขึ้น

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 5)

ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก)

 

ถนนอโศกนี้เดิมก็เป็นแหล่งของอาคารสำนักงาน (Office Building) และสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร  จนช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาก็มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่และทยอยสร้างเสร็จกันไปเรื่อยๆ   ซึ่งพอระยะเวลาผ่านไปที่ดินแปลงว่างๆที่ให้พัฒนาบนถนนอโศกก็เหลือน้อยลง  มูลค่าของคอนโดมิเนียมโซนนี้ก็ถืบตัวสูงขึ้นตามไปด้วย  คอนโดเก่าๆที่เปิดมานานแล้วก็ได้ Capital Gain กันไป  ส่วนคอนโดที่เปิดใหม่ๆราคาเปิดตัวก็เพิ่มมากขึ้นตามสถานการณ์ตลาด  จนราคาขายแต่ละยูนิตโดยรวมนั้นเริ่มจะเกินลิมิตของพนักงานออฟฟิศทั่วๆไปที่พอจะหาซื้อกันได้แล้ว

วันนี้ผมเลยใช้เวลาไปลองเดินเล่นเพลินๆตั้งแต่ต้นถนนอโศกตรงจุดเชื่อมต่อระหว่าง BTS อโศกไปจนถึง  MRT เพชรบุรี  และเลยไปจนถึง Airport Link มักกะสัน เพื่อดูว่า “อโศก” ในปัจจุบัน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 3)

ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก)

 

อย่างที่รู้ๆกันว่า “อโศก” กับ “รถติด” เป็นของคู่กันครับ  เนื่องจากลักษณะของถนนนั้นจะแคบลงเมื่อเทียบกับถนนอื่นที่เชื่อมต่อเป็นเส้นเดียวกันอย่าง ถนนอโศก-ดินแดง และ ถนนรัชดาภิเษก  แต่ก็ยังดีอยู่ที่มีแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ ARL มาช่วยสนับสนุนการเดินทางเชื่อมต่อกับพื้นนี้

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 4)

แนวรถไฟฟ้า BTS ตามแนวถนนสุขุมวิท

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 4)

แนวรถไฟฟ้า BTS ตามแนวถนนสุขุมวิท

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 7)

บนทางข้ามแยกอโศก-สุขุมวิท เชื่อมต่อไปยัง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท

 

เราเริ่มออกเดินกันครับ  ที่ต้นซอยอโศกเราก็จะเจอกับ Terminal 21 ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดบนถนนอโศก  ก่อนที่จะพัฒนา Terminal 21 นี้ เคยมีการนับจำนวนของคนที่สัญจรผ่านจุดเชื่อมต่อของ BTS อโศก และ MRT เพชรบุรี ว่ามีจำนวนพอๆกับคนที่ผ่านสถานีกลางที่เป็นย่านช็อปปิ้งอย่าง BTS สยาม กันเลยทีเดียว  ชั้นบนสุดของ Terminal 21 นี่เป็นศูนย์อาหารที่น่าจะคึกคักที่สุดแห่งในในกรุงเทพมหานคร  เพราะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะมาก  และที่สำคัญคือ “ราคาถูกมาก” เมื่อเทียบกับค่าครองชีพกลางเมือง  เป็นราคาที่พนักงานออฟฟิศและคนทั่วๆไปซื้อทานได้อย่างสบายใจทุกวัน

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 1)

ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก)

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 8)

บนทางข้ามแยกอโศก-สุขุมวิท เชื่อมต่อไปยัง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท

 

พอออกจาก Terminal 21 ก็จะเชื่อมมาลงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท ได้เลย

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 9)

ทางลงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท

 

เราเดินผ่านสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไป มาตามแนวต้นถนนอโศก  ตรงปากทางเราจะเจอร้านค้าเก่าๆที่อยู่ริมทางของคนเดิมในพื้นที่ ซึ่งก็ได้อานิสงค์จากการเติบโตของเมืองไปโดยปริยาย  เพราะราคาที่ดินตรงนี้แพงมาก  แต่ถามว่าจะขายเอาไปทำอะไรได้ไหม  ก็คงไม่ได้เพราะรูปร่างของที่ดินหล่ะครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 13)

 

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเจอซอยคาวบอย  ตรงนี้ไม่ใช่ Target ของคนไทยทั่วไปนะครับ  เราจะข้ามไปเลยละกัน

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 12)

 

คอนโดที่เด่นที่สุดตรงแยกอโศกก็คือ Las Colinas  ซึ่งสร้างไปหลายสิบปีแล้ว  แต่ด้วยการดูแลที่ดี  ตอนนี้สภาพตึกก็เลยยังเนียนอยู่  ไม่เก่าเลย และที่สำคัญคือราคานั้นก็สูงกว่าเดิมมากมาย  เลยไปหน่อยก็เป็นโรงแรม Grand Millennium Sukhumvit

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 10)

Las Colinas condo

 

เดินเลยมาหน่อย  ที่ฝั่งตรงข้ามกับ Las Colinas เราจะเจอที่ดินของคอนโด Ashton Asoke ของทางอนันดาที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว  ตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างในส่วนฐานรากอยู่ ตรงนี้น่าจะเป็นแปลงท้ายๆที่ใกล้แยกอโศก-สุขุมวิท แหละครับ  ราคาก็จับตลาดบนสำหรับคนกระเป๋าหนักเท่านั้น

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 14)

ที่ดินคอนโด Ashton Asoke

 

เดินเลยมาหน่อยจะเป็น Black Canyon สาขานี้บรรยากาศดีร่มรื่นมาก  อยู่ติดกับสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 15)

 

ผ่านหน้าสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์  เดี๋ยวนี้กลายเป็นที่จัดงานแต่งงานเล็กๆที่ยอดนิยมไปอีกที่แล้ว

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 16)

 

เลยสยามสมาคมฯ มา จะเจอสภาวิชาชีพบัญชี

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 18)

 

 

นี่เป็นด้านหน้าของสภาวิชาชีพบัญชีครับ  ถัดไปหน่อยจะเป็นโรงแรม Furama Xclusive Sukhumvit 21

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 20)

 

จากนั้นเราจะเจอทางแยกไปสุขุมวิท 23 และก็เข้าไปมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒได้  ปากทางมีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก อยู่ที่ใต้ตึก Shino-Thai ซึ่งเป็นออฟฟิศสำนักงาน คนเยอะมาก

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 21)

 

เยื้องๆกับตึก Shino-Thai ก็จะเป็นตึกเสริมมิตร (Serm-Mit Tower)

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 23)

 

ด้านล่างนี่มีธนาคารหลายแบงค์ ทั้งกสิกรไทย, กรุงศรีอยุธยา

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 24)

 

ติดกับตึกเสริมมิตร เป็นอาคารรัชต์ภาคย์ ด้านล่างมีสาขาของธนาคารกรุงเทพ  จะเห็นว่าช่วงเลยต้นซอยมาก่อนจะถึงกลางซอยมีธนาคารแทบจะทุกแบงค์ใหญ่  ซึ่งก็สะท้อนความเป็นย่านธุรกิจและปริมาณผู้คนที่คึกคักมากครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 25)

 

เลยจากตึกเสริมมิตร มองไปทางขวามือจะเห็นกลุ่มคอนโดหลายอาคาร  ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ข้างๆซอยอโศก  คอนโดเหล่านี้ก็สร้างเสร็จไปนานมากแล้วเหมือนกันครับ  เป็นคอนโดยุคแรกๆในโซนนี้ด้วย

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 26)

 

เราเลี้ยวซ้ายเดินเข้ามาสำรวจในซอยสุขุมวิท 21 ซอย 3 ครับ  ซอยนี้เป็นทางเข้าของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยนั่นเอง

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 27)

 

เดินเข้ามาจนสุดซอยจะเป็นโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย  โรงเรียนหญิงล้วนเก่าแก่ของเมืองไทย

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 28)

 

ติดๆกันจะเป็นที่ตั้งของคอนโด Noble Recole Sukhumvit 19 ที่เปิดเมื่อปีที่แล้วและขายหมดในวันเดียว

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 29)

 

จากหน้าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย  เราเดินกลับออกมาตรงถนนสุขุมวิท 21 เส้นหลักกัน  ที่เห็นอยู่นี่คือตึก GMM Grammy ของอากู๋นี่เอง

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 30)

 

ฝั่งตรงข้ามกับตึกแกรมมี่จะมีที่ดินแปลงใหญ่อยู่อีกแปลง ถ้าเข้าใจไม่ผิดแปลงนี้เป็นของทางสิงห์นะครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 32)

 

จากปากซอยตรงที่ดินของสิงห์  เดินเข้ามาในซอยจะเจอคอนโด The Room Sukhumvit 21 ของทาง Lands and Houses ตัวนี้สวยมาก  สร้างเสร็จขายหมดปิดโครงการไปแล้วตั้งแต่ปีก่อน

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 31)

 

เดินเลยมาจะเป็น BB Building  ใครจะสอบ TOEIC ก็ต้องมาสอบกันที่ตึกนี้ครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 34)

 

เดินมาเรื่อยๆ ถัดจาก BB Building จะเป็น ศุภาลัย พรีเมียร์  ทาสีนี่นึกว่าเป็นคอนโดชายทะเล

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 34)

 

ถัดจากศุภาลัย พรีเมียร์ จะเป็นทางเข้าของมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 37)

 

 

ติดๆกันเป็นตึกสำนักงาน Q House Asoke ครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 35)

 

ตรงข้าม Q House Asoke เป็นสำนักงานของธนาคารเกียรตินาคิน

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 36)

 

ติดกับตึกเกียรตินาคินเป็น Asoke Tower ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่เป็นตึกสูงตึกแรกบนถนนอโศกครับ  พอมายุคนี้ถ้าเทียบความสูงกับตึกอื่นๆโดยรอบก็เตี้ยลงไปถนัดตา

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 38)

 

ติดๆกับ Asoke Tower ก็เป็นคอนโดของรายย่อย ชื่อ Sukhumvit Living Town ตอนเปิดขายนั้นเป็นคอนโดหน้าตาเชยๆ  ขายอยู่หลายปีกว่าจะหมด  ตอนนี้ถ้ามีคนเปิดคอนโดทำเลแบบนี้  คงขายกันแป๊ปเดียว

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 39)

 

เดินมาเรื่อยๆเกือบถึงช่วงท้ายถนนสุขุมวิท 21 จะมีโรงพยาบาลตาจักษุรัตนิน  รักษาโรคตาโดยเฉพาะ  ด้านข้างโรงพยาบาลเป็นทางลัดเข้าไปยังมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒได้ด้วย

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 41)

 

เดินข้ามคอลงแสนแสบมา  ท่าเรือตรงนี้เป็นจุดที่คนขึ้นลงเยอะมากในช่วงเช้าและเย็น  เรียกได้ว่าแออัดเลยทีเดียว

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 43)

 

จากบนสะพานข้ามคลองแสนแสบ  จะเห็นที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งเป็นสถานฑูตญี่ปุ่นเดิม  กำลังรอที่จะเติบโตกลายเป็น Singha Complex ในอีกไม่กี่ปีนี้ครับ  พอ Singha Complex เกิดขึ้น  พื้นที่ช่วงปลายถนนนี้น่าจะดูอัพเกรดความเจริญขึ้นได้พอๆกับตรงแยกอโศก-สุขุมวิท >> รายละเอียด Singha Complex 

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 46)

 

ติดกับคลองแสนแสบและตรงข้าม Singha Complex เป็นคอนโด Q Asoke อยู่ตรงหัวมุมแยกอโศก-เพชรบุรี เลย

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 45)

 

ฝั่งตรงข้าม Q Asoke เป็น The Address Asoke ของทาง AP ที่ปิดโครงการไปแล้ว

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 49)

 

หลังจากเดินมาพอเหนื่อย  เราก็มาถึง MRT เพชรบุรีกันแล้ว  แต่ก่อนจะจบผมพาเดินข้ามไปดูอีกฝั่งนึงตรง Airport Link มักกะสัน กันต่อดีกว่า

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 52)

 

แต่ก่อนการจะข้ามไป Airport Link จากตรงสถานี MRT เพชรบุรี นี่ยากเหลือเกิน  เพราะว่าถนนใหญ่และรถเยอะมาก  พอตอนหลัง รฟม. กับ รฟท. คุยกันเรียบร้อย แล้วสร้างทางเชื่อมระหว่าง MRT เพชรบุรี กับ ARL มักกะสัน ก็ทำให้เราสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้สบายๆครับ

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 51)

 

เดี๋ยวเราจะเดินไปกันตรงทางเชื่อมฝั่งนู้นครับ  จะเห็นโรงพยาบาลผิวหนังอโศก  ด้านหลังก็เป็นที่ตั้งของคอนโด Life Asoke ที่กำลังจะเปิดขายปลายเดือนนี้ (25 – 28 มิ.ย.) ในงาน AP Space Connect

จากอโศกถึงเพชรบุรี (ภาพที่ 50)

 

ขึ้นมาจากสถานี MRT เพชรบุรี ประตู 1 ฝั่งถนนอโศก-ดินแดง  พอขึ้นมาเสร็จก็จะมีทางเชื่อมไป ARL มักกะสันได้เลย มีบันไดเลื่อนนะครับ

ทางเชื่อม MRT เพชรบุรี ARL มักกะสัน (ภาพที่ 2)

 

จากจุดนี้เราก็จะเข้ามาในเขตพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว

ทางเข้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ มักกะสันทางเข้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ มักกะสัน

 

เดินตรงไปจนสุดแล้วเลี้ยวขวาก็จะไป ARL มักกะสัน ได้  ตรงหัวมุมนี่กำลังจะทำทางลงอีกจุดนึง  ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนที่ต้องการเดินข้ามมาฝั่งนี้จะได้ไม่ต้องเดินผ่านทางรถไฟด้านล่าง  ถ้าจะมาโรงพยาบาลผิวหนังอโศกก็สะดวก  ทางลงนี้จะไปลงตรงด้านหน้าคอนโด Life Asoke แบบเดินเข้าถึงได้เลยครับ

ทางเดินเชื่อมแอร์พอร์ตลิ้งค์

 

เดินเลยจากทางลง Life Asoke มาหน่อย  ก็จะเข้าไป Airport Link ได้เลย สะดวกดี  พื้นที่ถัดจาก Airport Link ซึ่งอยู่ในพื้นที่แปลงใหญ่อย่างมักกะสัน  ในอนาคตก็คงถูกพัฒนาไปในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง  ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเถียงกันอยู่หลายฝ่ายว่าจะทำเป็นสวนสาธารณะ  หรือจะทำเป็น Makkasan Complex กันดี  ในโมเดลล่าสุดของทาง คสช. ก็มีแนวโน้มจะให้พัฒนาออกมาในรูปแบบผสมผสาน  เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ได้ในหลากหลายแง่มุม  รายละเอียดความเป็นมาต่างๆผมก็เคยเขียนเล่าให้ฟังไปแล้ว >> อ่านบทความพิเศษเกี่ยวกับมักกะสัน 

ทางเชื่อม Airport Link

 

พาเดินชมกันตั้งแต่สุขุมวิทมาจนถึงเพชรบุรีแล้ว  เราผ่านโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS , MRT , ARL ซึ่งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งหัวถนนของเส้นอโศก  ผ่านอาคารสำนักงานหลายตึก ผ่านธนาคาร  ผ่านมหาวิทยาลัย  ผ่านคอนโดหลายแท่งทั้งเก่าทั้งใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา  ตั้งแต่คอนโดยุคแรกๆบนถนนอโศกอย่าง Las Colinas  จนถึงโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวอย่าง Life Asoke   รวมถึงโครงการ Big Project ที่กำลังจะเกิดอย่าง Singha Complex จนมาจบที่แปลงที่ดินผืนใหญ่ของมักกะสัน  ก็คิดว่าน่าจะพอเห็นภาพความคึกคักและภาพของถนนอโศกได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นนะครับ

ลาไปเท่านี้ก่อนครับ  ต้องขึ้น Airport Link กลับบ้านแล้ว

สวัสดีคร้าบบบ.. ^^

รฟม. ประกาศเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เตรียมรื้อสะพานข้ามแยกรัชโยธินและแยกเกษตร [ข่าวอสังหาฯ]

$
0
0

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังจะเริ่มดำเนินการการก่อสร้าง “รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย” ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ครับ  โดยจะต้องปิดการจราจรบางส่วนและรื้อสะพานข้ามแยกหลัก 2 จุด คือ สะพานข้ามแยกรัชโยธินในเดือนกันยายน และรื้อบางส่วนของสะพานข้ามแยกเกษตรในเดือนพฤศจิกายน  เพื่อที่จะเตรียมการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมระยะทาง 18.7 กิโลเมตร

 

ทุบสะพานข้ามแยกเกษตร-รัชโยธิน

 

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. ได้ให้ข้อมูลหลังจากหารือกับทางกรุงเทพมหานครและกองบังคับการตำรวจจราจรว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนที่จะถึงนี้จะเริ่มปิดการจราจรบนถนนพหลโยธินบางส่วน  เพื่อให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)  โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการรื้อย้ายสะพานกว่า 2 ปี  โดยที่แยกรัชโยธินจำเป็นจะต้องรื้อสะพานข้ามแยกออกไป  เนืื่องจากหากสร้างโครงสร้างของรถไฟฟ้าจะมีความสูงมากเกินความจำเป็น  ส่วนที่แยกเกษตรจะปรับให้โครงสร้างสะพานมีขนาดสั้นลงกว่าเดิม  แต่ยังคงให้มีสะพานข้ามแยกบางส่วนเอาไว้เพื่อจะได้มีพื้นที่สำหรับสร้างสถานี

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

 

ซึ่งก็แน่นอนหล่ะครับว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) นี้ก็คงทำให้รถซึ่งปกติติดมากอยู่แล้ว  ยิ่งติดหนักกันมากขึ้นไปอีกในช่วง 4-5 ปี ที่จะถึงนี้  ทางผู้ว่า รฟม. ก็ขอให้ประชาชนอดทน เนื่องจากเมื่อสร้างเสร็จแล้วก็น่าจะทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

“AP SPACE CONNECT ต่อติดชีวิตที่ชอบ”เปิดตัว 6 คอนโดใหม่ ที่สยามพารากอน 25 – 28 มิถุนายน [ข่าวอสังหาฯ]

$
0
0

ผ่านไปแล้วกับงาน AP Space Connect ต่อติดชีวิตที่ชอบ” เปิดตัว 6 คอนโดใหม่จาก AP ที่จะทำให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยแต่ละโครงการมีระยะทางห่างไม่กี่ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้า วันนี้อยู่สบายก็ไม่พลาดที่จะพามาอัพเดทบรรยากาศกับคอนโด 6 โครงการที่ว่านี้ ซึ่งเปิดตัวไปอย่างคึกคักที่ชั้น 1 สยามพารากอน เมื่อวันที่ 25 – 28 มิถุนายนที่ผ่านมา

ด้วย 6 ทำเลที่สามารถตอบโจทย์คนเมืองเป็นอย่างดี เพราะได้เชื่อมโครงข่ายขนส่งมวลชนในปัจจุบันและอนาคต ที่ทาง AP มีจุดขายเรียกว่า Multiple Connection คือการเดินทางแบบไร้รอยต่อ เพียง 1 ก้าวถึง BTS หรือ 1 เมตร ถึง MRT หรือ 1 นาทีถึงทางด่วน ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักแต่ละโครงการให้มากขึ้นกันครับ

AP - (ภาพที่ 010)

บรรยากาศงาน AP Space Connect ที่สยามพารากอน

 

สำหรับโครงการที่เปิดตัวในงาน AP Space Connect ทั้งหมด 6 โครงการ มี 5,126 ยูนิต มูลค่ารวมมากกว่า 16,000 บาท เริ่มจากคอนโดที่อยู่ใจกลางกรุงเทพสุดๆ อย่าง 1) Rhythm รางน้ำ ที่ตั้งอยู่ซอยรางน้ำ ห่างจาก BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพียง 100 เมตร มีทั้งหมด 385 ยูนิต เริ่มต้น 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งอยากจะบอกว่าโครงการนี้ Sold Out ไปแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันแรกเลยทีเดียว ส่วน 2) Life อโศก – พระราม 9  อีกหนึ่งคอนโดที่มีทำเลสะดวกไม่แพ้กัน  เพียง 1 ก้าวสู่ MRT เพชรบุรี และมักกำสัน Airportlink  โดยมี 1,642 ยูนิต เริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท และในงานมีการจองไปแล้ว 90% ด้วยกัน ซึ่งผมเห็นว่าโครงการนี้เป็นชัยภูมิที่ดีจริง เพราะอยู่จุดตัดของรถไฟฟ้า และทางขึ้นทางด่วนที่ไม่ไกลกัน อยู่ใกล้ย่าน New CBD พระราม 9 และทางทิศใต้ยังได้มุมมองสวนมักกะสันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย และเซกเมนต์ต่อมาจะเป็นกลุ่มคอนโด Aspire ประกอบด้วย 3) Aspire ลาดพร้าว 113 เดินเท้าเพียง 100 เมตร จาก MRT บางกะปิ (สายสีเหลืองที่จะเกิดขึ้น กำหนดสร้างเสร็จปี 2562) จำนวน 270 ยูนิต เริ่มต้น 1.65 ล้านบาท 4) Aspire วุฒากาศ เพียง 200 เมตรจาก BTS วุฒากาศ มีจำนวน 166 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.85 ล้านบาท 5) Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ ใกล้ BTS สถานีบางหว้าเพียง 1 ก้าว ซึ่งมีจำนวน 1,087 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าๆ และ 6) Aspire เอราวัณ ใกล้ BTS สถานีเอราวัณ สายสีเขียวอ่อน มีจำนวน 1,576 ยูนิต เริ่มต้น 1.69 ล้านบาท

AP - (ภาพที่ 002)

บรรยากาศงาน AP Space Connect ที่สยามพารากอน

 

ส่วน Rhythm รางน้ำ มีคนสนใจแวะเวียนไม่ขาดสายเลยครับ โครงการนี้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย

AP - (ภาพที่ 008)

 

Life อโศกก็มีคนสนใจไม่แพ้กันปิดยอดไป เกือบ 90% แล้ว

AP - (ภาพที่ 006)

AP - (ภาพที่ 005)

 

มีคนให้ความสนใจ เดินเข้ามาดูเรื่อยๆครับ

AP - (ภาพที่ 004)

AP - (ภาพที่ 001)

ทั้งนี้ทาง AP ได้ยังเปิดตัวการดีไซน์ห้องชุดแบบใหม่ พื้นที่กว้างขวาง 35 ตารางเมตร โดยเพิ่มห้องเอนกประสงค์ ที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนเป็น Walk-in Closet หรือจะเป็นห้องทำงานก็ได้ ส่วนนี้จะต่อเนื่องกับห้องนอนเชื่อมไปยังพื้นที่ระเบียง ซึ่งห้องดีไซน์พิเศษนี้จะมีครบทุกโครงการ แต่สำหรับคอนโดกลุ่ม Aspire จะมีห้องเอนกประสงค์ที่มีขนาดกว้างมากกว่า สามารถทำเป็นห้องนอนอีกห้องได้เลย แต่สำหรับห้องตัวอย่างในงานนี้ ที่กำลังจะรีวิวจะเป็นห้องชุดในคอนโด Rhythm รางน้ำ และ Life อโศก – พระราม 9 ขนาด 35 ตารางเมตร ว่าแล้วก็ไปชมห้องตัวอย่างกันครับ

เปิดเข้าประตูห้องเข้ามา จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเลย

AP Space connect - (ภาพที่ 004)

 

ไม่ใกล้ไม่ไกลจะเป็นส่วนพื้นที่ครัว ซึ่งมีขนาดพื้นที่ที่พอเหมาะพอสมควร

AP Space connect - (ภาพที่ 005)

 

 

 

ครัวที่ได้จะไม่รวมโต๊ะบาร์ทานอาหารครับ

AP Space connect - (ภาพที่ 001)

 

ชุดครัวที่ทางคอนโดให้ครับ จะมีท๊อปครัว อ่างล้างจาน เครื่องดูดควัน เตาเซรามิกทั้งหมดของ Franke

AP Space connect - (ภาพที่ 010)

AP Space connect - (ภาพที่ 009)

 

ห้องน้ำที่เข้าทางด้านครัว

AP Space connect - (ภาพที่ 014)

 

ถัดไปจะเป็นห้องนอน ซึ่งกันพื้นที่ระหว่างกันด้วยกระจกบานเลื่อน

AP Space connect - (ภาพที่ 012)

 

ช่องเปิดของห้องนอน ที่จะสามารถมองเห็น และมีหน้าต่างแบบบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน

AP Space connect- (ภาพที่ 018)

 

ส่วนที่ต่อกับห้องนอน จะเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ได้เพิ่มเติมขึ้นมา ทาง AP ได้จำลองเป็น Walk-in Closet ให้ดูครับ

AP - (ภาพที่ 000)

 

ได้ออกแบบช่องเปิดระหว่างครัวกับห้องเอนกประสงค์ด้วย เพื่อนำแสงสว่างมาสู่ครัว

AP Space connect- (ภาพที่ 017)

 

ถ่ายจากด้านนอกจะเห็นพื้นที่ระเบียงที่เป็นกระเบื้องสีครีม ต่อกับห้องเอนกประสงค์

AP Space connect - (ภาพที่ 020)

 

สำหรับห้องดีไซน์พิเศษพื้นที่รวม 35 ตารางเมตร มีห้องเอนกประสงค์ประมาณ 4 ตารางเมตร ซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะกับคนเมืองอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์พื้นที่นั้นๆในแบบที่ตนชอบได้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการอยู่อาศัยแบบคนเมือง รวมถึงการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเลย ทุกโครงการจึงเชื่อมต่อติดชีวิตแบบคนเมืองได้สมชื่อเลยทีเดียว

Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao (Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว) High rise คอนโดแยกรัชดา-ลาดพร้าว จากแมกโนเลีย

$
0
0

สวัสดีครับ วันนี้ทางอยู่สบายก็ได้พามารีวิวอีกเช่นเคย  กับโครงการคอนโดมิเนียม Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว  บนถนนลาดพร้าวเรียกได้ว่ารถติดอยู่พอสมควร แต่บริเวณสี่แยกรัชดา-ลาาดพร้าว ที่โครงการตั้งอยู่ก็ก็มีรถไฟฟ้า MRT จากที่ขึ้นสถานีลาดพร้าวมาปุ๊ปก็จ๊ะเอ๋กับโครงการเลย  คอนโด Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao  โครงการนี้ได้เปิดขายมาสักพักแล้วครับ ด้วยทำเลที่ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเลยจึงน่าสนใจทีเดียว แต่ภาพรวมจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของ อยู่สบาย เองครับ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao

(Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว)

  • เจ้าของโครงการ >>>  แมกโนเลียส์ (Magnolia Quality Development)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  บนถนนลาดพร้าว ติดสี่แยกรัชดา – ลาดพร้าว
  • ขนาดที่ดิน >>>  3 ไร่ 42 ตารางวา
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 27 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ  /  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน  /  Duplex  /  Penthouse
  • ขนาดห้อง >>>

       สตูดิโอ  27.48-28.0 ตารางเมตร

1 ห้องนอน  30.74-37.98 ตารางเมตร

2 ห้องนอน  47.56-55.91 ตารางเมตร

Duplex 81.35-82.53 ตารางเมตร

Penthouse  111.83-141.72 ตารางเมตร

  • จำนวนยูนิต >>>  497  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 60% (รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  3.95 ล้านบาท (ห้อง 28 ตารางเมตร ชั้น 10 ณ วันที่ 18/6/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  144,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.805465, 100.574212
Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao

คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao


Whizdom Avenue facilities

ชั้น 5 คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao


Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao

ชั้นบนสุด คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

Route

 

วันนี้เราเปลี่ยนการเดินทางใช้ชีวิตแบบคนเมืองด้วยรถไฟใต้ดินบ้างครับ เพราะเห็นว่าโครงการนี้ตั้งอยู่ติดสถานี MRT  ว่าแล้วเราก็เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินมุ่งหน้าไปยังสถานีลาดพร้าวกัน

ถึงสถานีลาดพร้าวเรียบร้อย ทีนี่เราก็มองหาประตูทางออกกัน โครงการนี้จะติดกับประตูทางออกที่ 1 ที่เขียนว่า “ซอยลาดพร้าว 26″

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

 

พอโผล่ขึ้นมาจากสถานี ก็เจอกับตัวโครงการเลย

The Line - ภาพที่ 014

 

อย่าขึ้นประตูผิดนะครับ ย้ำ! ประตูทางออกที่ 1 ครับ (หากผิดแล้ว…อาจจะเดินเหนื่อยหน่อย ^^”)

The Line - ภาพที่ 013

 

ภาพนี้ก็เป็นตัวบอกได้ดีเลยครับ ว่าติดกับรถไฟใต้ดินแค่ไหน จะเห็นว่าซ้ายมือเป็นโครงการ Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว และขวามือเป็นตัวสถานี

The Line - ภาพที่ 011

 

ออกจากสถานี เดินไปทางขวามือ ก็จะเห็น Sale Gallery แบบโมเดิร์นสร้างอยู่ติดถนนเลยครับ

The Line - ภาพที่ 001

 

การเดินทางโดยรถไฟใต้ดินก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก … แต่หากใครที่สะดวกเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า ก็ไม่ยากเลยครับ ถ้ามาจากพระราม 9 วิ่งบนถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออก พอถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว เลี้ยวซ้ายก็จะถึงเลย หรือมาจากเมเจอร์รัชโยธินให้วิ่งบนถนนรัชดาภิเษกเช่นกันครับแต่ฝั่งขาเข้า พอถึงแยกเห็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT ก็ให้เลี้ยวขวาใต้สะพานข้ามแยกได้เลยครับ ตอนที่จะเลี้ยวขวาจะเลี้ยวได้ 2 เลน  ให้อยู่เลนริมซ้ายสุด(ที่สามารถเลี้ยวขวาได้)  เพราะถ้าอยู่ขวาสุดเลี้ยวมาปุ๊ปไม่มีทางเข้าโครงการทันแนนอน  เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับสี่แยกเลย

ส่วนหากจากบางกะปิก็วิ่งตรงดิ่งมาอย่างเดียวเลย เลยแยกก็พยายามชิดซ้ายไว้และเข้าโครงการได้เลย เช่นเดียวกันหากมาจากห้าแยกลาดพร้าว หลังจากยูเทิร์นก็ต้องปาดเข้าเลนซ้ายสุดทันทีเพื่อเข้าโครงการ  ซึ่งต้องระวังรถที่เลี้ยวมาจากรัชดาด้วยครับ  การอยู่ใกล้ตรงหัวมุมสี่แยกก็จะต้องระวังตรงนี้ด้วย

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เรามาเริ่มต้นจากตัวโครงการกันเลยครับ ถ้าเดินออกจากโครงการ ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT อย่างชัดเจนเลย นอกจากจะเป็นที่ตั้งของ MRT ลาดพร้าวสายสีน้ำเงินแล้ว ในอนาคตยังเป็นจุดเริ่มต้นสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าโมโนเรียลสายสีเหลืองที่ปลายสุดสายจะไปถึงสำโรงอีกด้วยนะครับ (หมายเลข 1) ส่วนด้านหลังหรือทิศใต้ของโครงการ ก็จะเป็นตึกสูงสวนลุมไนท์บาซาร์รัชดา (หมายเลย 2) เป็นอาคาร Mix-used ครับ สร้างมานานมากแล้วไม่เสร็จสักที  ทั้งนี้ก็ในเรื่องปัญหากรรมสิทธิ์ของที่ดินกับการรถไฟที่เป็นเจ้าของที่เช่าอยู่  ช่วงหลังๆก็เริ่มเห็นการก่อสร้างคืบหน้าเร็วมากขึ้น  ภายในมีทั้งส่วนช้อปปิ้ง ร้านอาหาร โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ใครมีห้องติดอยู่ทางทิศนี้ จะมองเห็นตึกทอดยาวขนานกับถนนรัชดาตามพื้นที่เลย  ซึ่งตึกนี้ก็จะบีบมุมมองอยู่พอสมควร  ตึกสวนลุมไนท์บาซาร์นี่สูง 18 ชั้นครับ หากห้องชั้นสูงๆขึ้นไปอาจจะเห็นวิวเมืองในมุมกว้างบ้าง  หากไปยังทิศตะวันออกจะเป็นถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าไปสู่ถนนบางกะปิ จะได้วิวตึกคอนโดเพื่อนบ้าน Haus23 (หมายเลข 3) จากค่าย Dalvey Development ดีไซน์ดูแปลกตา  แบบที่ถ้าเห็นแล้วไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลย (เห็นว่า…มีแรงบันดาลใจจากของเล่น Jenga เคยเล่นกันไหมครับ^^) และเดินไม่ไกลจาก Haus23 นัก จะเป็นโรงแรม Budget Hotel ขนาดเล็ก เป็นตึกแถว 4 คูหา ชื่อ My bed (หมายเลข 4) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจากมุมสี่แยกเช่นกัน

สถานที่ต่างๆรอบโครงการ

 

ถ้าหากมาฝั่งโซนทิศตะวันตกกันบ้าง ไม่ไกลเลยจะเป็นคอนโด low rise  Ideo Ladprao 17 (หมายเลข 5) ถัดขึ้นไปหน่อยเป็นซุเปอร์มาร์เก็ต BIG C (หมายเลข 6) จะเป็นห้างที่ค่อนข้างใหญ่หน่อย สะดวกตรงจับจ่ายใช้สอย  แต่ว่ากันตามตรงก็อาจจะเดินไกลหน่อย จะอยู่ห่างจากวิซดอม อเวนิว ราว 850 เมตร ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดสูงชื่อ The Issara Ladprao (หมายเลข 7) ที่สร้างเสร็จเรียบร้อย และถัดไปอีกไม่ไกลห้าแยกลาดพร้าวถือเป็นแหล่งที่พลุกพล่านอีกที่หนึ่ง ทั้งศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ (หมายเลข 8) และ Central ลาดพร้าว (หมายเลข 10) และบริเวณห้าแยกลาดพร้าวก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเซนจอห์น  ซึ่งอนาคตในพื้นที่เดียวกันจะมีคอนโดสูง The Saint Residence จากที่ ยู่สบายได้รีวิวไปแล้ว  ห้าแยกลาดพร้าวบริเวณนี้ถูกเชื่อมการเดินทางที่สะดวกด้วยรถไฟใต้ดินขึ้นที่สถานีพหลโยธินได้เลย

ส่วนสถานที่ใหญ่ๆสำคัญๆในระแวกนี้ จะมีกรมส่งเสริมการส่งออกถนนรัชดา (หมายเลข 11) ไปเดินเล่นช้อปปิ้งได้ครับ ช่วงจัดงานแสดงสินค้าจะมีร้านต่างๆมาเปิดบูท คงก็ต้องคอยเช็คปฏิทินกับกรมส่งเสริมการส่งออกดู  และถัดไปหน่อยจะเป็นที่ตั้งของศาลอาญา ถนนรัชดา (หมายเลย 12)  คงไม่มีใครอยากแวะข้องเกี่ยวหรอกใช่ไหมครับ ^^”

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ไปเดินเล่นทัวร์แยกรัชดา-ลาดพร้าวกัน ก่อนวกกลับเข้าไปดูโครงการครับ

The Line - ภาพที่ 030

เริ่มจากสถานี MRT ก่อนเลย บริเวณฟุตบาทหน้าสถานีลาดพร้าวทางออกที่ 1 ครับ มีรถเข็นข้างทางขายของอยู่ปะปลาย

The Line - ภาพที่ 009

อาคาร MRT จอดแล้วจรสูง 9 ชั้น ตรงข้ามโครงการ Whizdom Avenue ครับ

IMG_3169

จากหน้าโครงการมองไปทางซ้าย จะมีทั้งตึกแถวพาณิชย์ คอนโด ห้างร้านต่างๆ ซึ่งไม่สูงมากนัก ฝั่งนี้จึงได้รับวิวโล่งๆ  ส่วนถนนมีขนาด 6 เลน มีเกาะกลางถนนกั้น แต่ในช่วงเช้ากับเย็นมีรถติดมากทีเดียว

The Line - ภาพที่ 012

เกือบลืมไปเลยครับ …หน้าโครงการจะมีพี่วินมอเตอร์ไซต์ประจำตำแหน่งคอยให้บริการ ซึ่งเป็นการเดินทางอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดเวลาบนท้องถนนได้มากโขทีเดียว

The Line - ภาพที่ 001

เดินจากโครงการไปทางซ้ายมือ มีฟคบาทให้เดินตลอดแนว

The Line - ภาพที่ 003

มีเซเว่น ก็ตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว 26 เช่นเดียวกัน เดินจากโครงการไม่ไกลประมาณ 150 เมตร  แต่เป็นเซเว่นสาขาเล็กๆ แคบๆหน่อยครับ

The Line - ภาพที่ 004

ใกล้ๆเซเว่นมีป้ายรถประจำทางที่ถัดจากตัวโครงการไปไม่ไกลนัก  แต่ไม่มีที่ให้นั่งรอ  ต้องยืนรอรถอย่างเดียว

The Line - ภาพที่ 008

เมื่อมองไปทางสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จะเห็นว่าแยกนี้ดีมากครับ มีสะพานลอยคนข้ามเชื่อมทั้งสี่มุมของแยกเลย เดินเท้าเลยสะดวกหน่อย

The Line - ภาพที่ 017

อาคารสวนลุมไนท์รัชดาสูง 18 ชั้น โครงสร้างตัวตึกสูงตลอดแนวถนนรัชดา อย่างที่กล่าวไปแล้วครับ…จะมีผลกับวิวฝั่งทางทิศใต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

The Line - ภาพที่ 023

บริเวณพื้นที่ของสวนลุมไนท์บาซาร์รัชดา ที่ติดกับโครงการในอนาคตจะเป็นสวนครับ ทิศตะวันออกจึงพ้นจากการบดบัง จึงเห็นคอนโด Haus23 อย่างเด่นชัดแทน

The Line - ภาพที่ 019

Haus23 คอนโดมิเนียมรูปร่างหน้าตาแปลกจากคอนโดอื่นๆในตลาด ของ Dalvey Development  รวมๆแล้วภายนอกยังเก็บงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ครับ  เห็นงานระบบท่อต่างๆไม่เรียบร้อยอยู่พอควร

The Line - ภาพที่ 018

โรงแรม Mybed สร้างในอาคารพาณิชย์ ขนาด 4 คูหา

จากแยกแล้วมองไปบนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้า ซึ่งจะมีทั้งออฟฟิศ ห้างร้าน ตลอดเส้นทาง

จากแยกรัชดา – ลาดพร้าว มองไปยังถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้า  ตอนแนวนี้ก็มีรถไฟฟ้าใต้ดินยาวตลอดไปจนถึงใจกลางเมือง

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

ว่าแล้ว…เราก็มาส่องจากมุมสูงกันบ้าง รูปนี้ดูที่ดินของ Whizdom Avenue จากบนอาคารจอดแล้วจรของ MRT จะเห็นได้ว่า ห้องที่อยู่ทางทิศใต้จะเห็นตึกสูงข้างเคียง แต่ก็ไม่ถึงกับบังวิวไปซะหมด ได้วิวประมาณ 90 องศา ทางตะวันตกเฉียงใต้แทน  ห้องชั้นบนๆไปแล้วอาจจะได้ Full View เพราะอาคารสวนลุมไนท์สูงเพียง 18 ชั้น

Whizdom Avenue

โชคดีติ่มซำ อยู่ไม่ไกลจากโครงการ (บริเวณลาดพร้าว24)

Whizdom Avenue - Expresso coffee

ร้านกาแฟ Espresso Gallery  อยู่เยื้องๆกับ Big C Extra  เดินมาก็เกือบกิโลนึงเหมือนกัน

Whizdom Avenue -Big C

Big C Extra ลาดพร้าว

Whizdom Avenue - Central

บริเวณห้าแยกลาดพร้าว จะมีเซนทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่พลุกพล่านเช่นกัน

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยครับ

สำนักงานขายบนที่ตั้งโครงการเลย ติดถนนลาดพร้าว

The Line - ภาพที่ 002

 

ด้านในสำนักงานขายครับ

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 032)

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

แนวที่ดินส่วนด้านหน้าโครงการนั้นจะไม่ติดกับฟุตบาทซะทีเดียว เพราะมีพื้นที่โล่งด้านหน้าเล็กๆนั้นเป็นของการรถไฟ ตรงทางเข้าโครงการจะมีทางขึ้นของ MRT ลาดพร้าว ประตูทางออก 1 ซึ่งติดกับโครงการเลย ตรงข้ามจะเป็นอาคารจอดแล้วจรของ MRT และในอนาคตยังจะเชื่อมต่อกับ MRT รัชดา รถไฟฟ้าโมโนเรียลสายสีเหลืองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสถานีแล้ววิ่งไปยังเส้นลาดพร้าว บางกะปิ และไปสิ้นสุดถึงสำโรงนู้นเลยครับ ส่วนข้างๆทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟ ตอนนี้ทางสวนลุมไนท์รัชดาได้ทำสัญญาเช่าระยะยาว 27 ปี  พื้นที่บริเวณมุมใกล้สี่แยกทางโครงการสวนลุมไนท์ยังได้เป็นพื้นที่โล่ง  ซึ่งวิวด้านจึงไม่ถูกบดบังครับ เว้นเสียแต่ทางทิศใต้จะเห็นแนวของตึกสวนลุมไนท์ยาวตามถนนรัชดาอย่างที่เคยเกริ่นไปแล้ว

การเข้าถึงคอนโด Whizdom Avenue

การเข้าถึงคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวอาคารคอนโดนั้นสร้างวางขนานกับแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก  ทางทิศใต้จะได้รับความร้อนและแสงแดดเต็มๆครับ ในส่วนด้านนี้จะมีห้องแบบ 1 ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ ช่วงบ่ายก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่แดดจะส่องเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ครับ

Facilities ต่างๆทั้งสวนลอยฟ้า หรือห้องอ่านหนังสือได้ถูกจัดวางไว้ด้านทิศเหนือหรือด้านหน้าโครงการซึ่งร่มกว่า  ยกเว้นห้องฟิตเนสที่ในช่วงบ่ายได้แดดเต็มๆครับ

ทิศทางแดด

ทิศทางแดดและความร้อน โครงการ Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

ส่องโมเดล

รูปอาคารด้านหน้าโครงการ มุมจากตะวันออกเฉียงเหนือ (มองจากทางแยกรัชดา-ลาดพร้าว) แสงและเงาบนอะคิลิกมันสะท้อนจนหามุมถ่ายรูปยากจริงๆ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)-2

 

ด้านหลังอาคาร ส่วนจอดรถจะอยู่ชั้น 1-4

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 002)

 

สวนลอยฟ้าจะอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งจะมีห้องอ่านหนังสือ และห้องซักรีดอยู่ด้วย

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 003)

 

ส่วนที่จอดรถชั้น 2 ถึง 4 เลือกออกแบบ Facade ด้วย Green Wall ลดความแข็งกระด้างของคอนกรีตได้ดีเลย ซึ่งจะมีรอบอาคารยกเว้นด้านหลังครับ (ว่าแต่ทำไมด้านหลังถึงเกิดจะประหยัดซะงั้น)

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

 

ทางเข้าโครงการ จัดสวนเล่นระดับนิดหน่อย

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 002)

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า ที่ชั้น 5 ทั้งสวนลอยฟ้า ห้องอ่านหนังสือ และห้องซักรีด ออกแบบไว้เหนือชั้นจอดรถ โดยวางตำแหน่งทางทิศเหนือของอาคาร ส่วนฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Sky Lounge จะถูกวางไว้บนดาดฟ้า สระว่ายน้ำและ Sky Lounge จะอยู่ทิศเหนือ ทางทิศใต้นั้นจะมีฟิตเนสซึ่งร้อนหน่อยในตอนบ่าย  โดยรวมแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบตามมาตรฐานที่พึงมีครับ

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ชั้น 5 

Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao floor5

Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue ชั้น 5

 

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ชั้น 28

Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao floor27

Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue ชั้น 28

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ แล้วก็จะมีฟิตเนส ,ห้องอ่านหนังสือ ,Sky Lounge ,ห้องซักรีด ,สวนลอยฟ้า โดยห้องต่างๆนี้ก็จะอยู่ทั้งชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า

สำหรับสัดส่วนการใช้งาน โดยเริ่มแรก จำนวนลิฟต์โดยสารสัดส่วน 4 ตัวกับ 497 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 124 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าเป็นสัดส่วนที่โอเคอยู่ และยังมี Service Lift อีก 1 ตัวด้วย สำหรับที่จอดรถ 60% นับรวมจอดซ้อนคันสำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้าแบบนี้ก็ไม่แย่นัก  เพียงแต่ถ้ามองที่ระดับราคาขายแล้วก็แน่นอนว่าอาจจะคาดหวัังด้วยสัดส่วนที่มากกว่านี้อีกสักหน่อย   และโครงการนี้ได้รางวัลการออกแบบอาคารสีเขียวระดับ Gold จากหลักเกณฑ์การประเมินของ TREES-NC ประเทศไทยด้วยครับ  ซึ่งในมาตราฐานอ้างว่าสามารถลดการใช้พลังงานได้ 50% ซึ่งจะมีรายละเอียดการออกแบบตามจุดๆต่าง ซึ่งจะขอบอกตามแต่ละภาพในลำดับต่อไปนะครับ

ด้านหน้าทางเข้าอาคารลงต้นไม้ใหญ่ให้

Whizdom Avenue - ภาพที่ 001

 

ส่วน Lobby ครับ ตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury ถ้าตามจริงสร้างได้ตามนี้ก็ดูหรูทีเดียว ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 6 เมตรครับ

Whizdom Avenue  - ภาพที่ 003

 

สวนบนชั้น 5 ขนาด 170 ตร.ม. โดยประมาณ ประกอบด้วยพื้นหญ้าเป็นสเต็ป ปลูกต้นไม้ใหญ่พอให้ร่มเงา อยู่ติดกับห้องอ่านหนังสือ Double Space สูง 6 เมตรกระจกรอบด้าน เมื่ออยู่ทิศเหนือจึงไม่โดนแดด

Whizdom Avenue  - ภาพที่ 004

 

มาดูภายในห้องอ่านหนังสือกันบ้างครับ ความสูงอยู่ที่ 6 เมตร เช่นกัน ลูกบ้านสามารถโหลด E-Book ไปอ่านตรงไหนก็ได้

Whizdom Avenue  - ภาพที่ 006

 

Sky Lounge มีความสูง 6 เมตรเช่นเดียวกันครับ ตกแต่งแบบดูหรูมีระดับเลย ถ้าออกมาเป็นภาพอย่างนี้

Whizdom Avenue  - ภาพที่ 005

 

ฟิตเนสชั้นบนสุด จะอยู่ทางทิศใต้ครับ กระจกใสสูงขึ้นไป 6 เมตรเลย ช่วงบ่ายๆเย็นๆมีร้อนแน่ๆ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

 

สระว่ายน้ำยาวตามตัวอาคาร ขนาด 7 x 31 เมตร ลึก 1.2 เมตร  และยังมีส่วน Jacuzzi และสระเด็กครับ ทั้งหมดเป็นระบบสระน้ำเกลือ ด้วยตำแหน่งชั้นบนสุดยังสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งสองฝั่งอีกด้วย (แต่ในภาพจำลองที่ทำมานั้นไม่ได้ใส่ตึกสวนลุมไนท์บาร์ซ่า รัชดา เอาไว้ครับ)

Whizdom Avenue  - ภาพที่ 002

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะพอสมควร แต่ดูจากแปลนแล้วจะไม่เห็น Drop off ชัดเจน  เป็นลักษณะวนรถมาจอดเทียบมากกว่าครับ ถนนในคอนโดจะวิ่งไปเข้าที่จอดรถในตัวคอนโดเลย หน้าโครงการจัดพื้นที่สวนต้นไม้ขนาดใหญ่มองจากล็อบบี้คงคิดว่าร่มรื่นในระดับหนึ่งเพราะสวนด้านหน้าขนาดไม่ใหญ่มาก ตรงนี้ยังไม่เห็นหน้าตาจริงเหมือนกันว่าจะออกมาเป็นยังไง  ต้องส่องดูจากโมเดลรูปด้านบนครับ  เรื่องนึงที่อาจจะต้องคำนึงคือเสียงจากภายนอก  เพราะล็อบบี้คอนโดด้านหน้าอยู่ใกล้ถนนใหญ่มากและเป็นกระจกสูงโปร่งทั้งหมด  ก็อยู่ที่การเลือกวัสดุมาว่าของจริงแล้วจะป้องกันเสียงได้ในระดับไหนครับ

Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao facilities floor1

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

 

Typical Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 7 

แปลนนั้นเป็นรูปตัว L ซึ่งมองดูรูปด้านอาคารแล้วจะไม่เรียบซะทีเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง ห้องแบบสตูดิโอจะอยู่กลางอาคารฝั่งเหนือทั้งหมด ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะอยู่ทั้งสองฝั่งครับ ห้องแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ตรงมุมอาคารแต่ละชั้นจะมี 4 ยูนิต ห้องแบบ Duplex ที่มีบันไดแต่ละยูนิตถือได้ว่าวางตำแหน่งดีมุมดี คือ รับวิวเต็มๆฝ้าสูง 6 เมตร ทิศเหนือไม่มีแดด แต่ละชั้นมี 2 ยูนิต และอยู่ที่ปลายอาคาร ส่วนยูนิตบนๆจะวางตำแหน่งด้วยห้องแบบ Penthouse จะอยู่ชั้นที่ 26 และ 27 ครับ

Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao floor7

Floor Plan ชั้น 7 คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

Typical Floor Plan คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao ชั้น 27

ชั้นนี้จะเป็นชั้นของห้องแบบ Penthouse ครับ ชั้นหนึ่งมี 6 ยูนิตวางทั้งทิศเหนือ-ใต้ และจะมี Penthouse อีกชั้นหนึ่ง อยู่ชั้นที่ 26 ครับ

Whizdom Avenue Ratchada - Ladprao floor26

Floor Plan ชั้น 27 คอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

แปลนห้องดีไหม?

ลักษณะห้องของคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว หลักๆมีอยู่ 4 แบบครับ คือ สตูดิโอ ขนาด 28 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. ขึ้นไป และ 44.60 ตารางเมตร  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนไปเริ่มที่ 47 ตร.ม. แบบ Duplex ขนาด 81 ตร.ม. และแบบ Penthouse พื้นที่มากกว่า 110 ตร.ม. หากสังเกตทางเข้าแต่ละห้องจะถูกออกแบบให้เว้าเข้าไปหรือเรียกว่า Pocket Door ครับ ประตูจึงร่นเข้าไปห่างจากผนังทางเดิน 0.3 เมตร บริเวณ Pocket Door นี้นะครับจะมีช่องระบายที่เป็นกริด แม้ปิดประตูภายในห้องก็สามารถถ่ายเทอากาศได้ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่โครงการได้รางวัลครับ

แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

แบบสตูดิโอ ห้องนอน ขนาด 28 ตารางเมตร

พื้นที่ห้องจะมีลักษณะยาวๆ ตามลำดับการเข้าถึงของฟังก์ชั่น ที่เปิดประตูเข้ามาจะเป็น Pantry ครัว และห้องน้ำ กลางห้องจะเป็นส่วนนั่งเล่น ถัดไปเป็นเตียง และยังมีมุมเล็กๆติดหน้าต่างให้นั่งทำงานด้วย  แบบนี้ขาดในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่เก็บของ  จะต้องนั่งทานอาหารที่โซฟาแทน  ถ้าจะดูทีวีจากบนเตียงก็จะลำบากหน่อยเพราะต้องมองมุมเฉียงๆ  เนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงนั้นต้องเก็บไว้ทำตู้เสื้อผ้า  ส่วนพื้นที่รอบเตียงนั้นเดินวนรอบได้อยู่  ห้อง Type นี้ทางโครงการไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูนะครับ

Whizdom Avenue - Studio 28.00 sqm

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว แบบสตูดิโอ ขนาด 28 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.90 ตารางเมตร

เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลย ด้วยระยะการดูทีวีถือว่าดีไม่ใกล้เกินไป  แต่คนนึงก็จะต้องมองทีวีเฉียงๆเพราะตำแหน่งตรงหน้านั้นเป็นประตูห้องน้ำครับ  ตัวห้องน้ำจะวางชิดติดทางเดินอาคาร  ส่วนฝั่งติดด้านนอกจะมีห้องครัว และห้องนอน ซึ่งถือว่าห้องครัวมีขนาดใหญ่พอเหมาะ แบบใช้งานทำครัวได้เลยครับ และจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นระหว่างครัวกับส่วนนั่งเล่นมาให้ด้วย จึงสามารถทำครัวอย่างเบ็ดเสร็จ ต้ม ผัด แกง ทอด ได้เลย ทำให้ปิดกั้นไม่ให้กลิ่นต่างๆเข้ามาในส่วนนั่งเล่น โดยเลือกใช้ประตูบานเลื่อน 3 ท่อน เวลาไม่ได้ทำครัวจึงเปิดได้กว้าง ถ่ายเทอากาศส่วนนั่งเล่นได้ดี  ประตูกระจกบริเวณระเบียงบานใหญ่  หน้าต่างห้องนอนเกือบเต็มผนังสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้า มีบานเปิดแบบกระทุ้งมาให้ 2 บาน ระยะรอบเตียงต่างๆ 0.55 เมตร เดินได้สะดวกดีครับ

ด้วยการออกแบบทางเข้าห้องที่เว้าเข้า หรือเรียกกันว่า Pocket Door (แม้จะมีประโยชน์ในบางส่วนอย่างที่กล่าวไปแล้ว) จึงทำให้เกิดเสียพื้นที่ไปบ้าง อย่างพื้นที่ข้างๆชั้นวางทีวี ซึ่งนั่นทำให้วางทีวีได้ขนาดเล็กกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอีกฝั่งก็ติดกับประตูห้องน้ำด้วย  ซอกตรงนี้อาจจะทำความสะอาดลำบากหน่อย  หรือถ้าให้ดีก็แนะนำว่าทำชั้นบิวท์อินวางทีวีไปเลยก็ดีครับ  เพราะถ้าเลือกโต๊ะจากร้านเฟอร์นิเจอร์อาจจะหาความกว้างที่พอดียากหน่อย  หรืออีกฝั่งที่ภาพแปลนจัดให้เป็นโต๊ะทำงาน  ในความรู้สึกแล้วดูอึดอัดไปหน่อย ถ้าจะนั่งทำงานตรงนั้น และเวลาที่จะหยิบของด้านข้าง น่าจะลำบากน่าดูเพราะติดกับโซฟาเลย  ถ้าคนนึงนั่งทำงานคนที่นั่งถัดไปก็จะต้องดูทีวีเฉียงๆ  ทั้งหมดนี้ก็วเคราะห์จากแปลนเป็นที่ตั้งนะครับ เพราะห้องแบบนี้ โครงการไม่ได้ทำไว้ครับ

ห้องแบบนี้พื้นที่ครัวนั้นกว้างได้ใจ เพราะหากมีปาร์ตี้เล็กๆ จะเพิ่มเก้าอี้อีกตัวเป็นสามที่นั่งก็ยังได้อยู่ครับ  แถมยังมีประตูระเบียงบ้านใหญ่แสงเข้า  และประตูบานเลื่อน 3 ท่อน ที่กั้นระหว่างครัวกับนั่งเล่น เมื่อเปิดพื้นที่ทั้งสองเชื่อมกัน จะให้เกิดสเปซเดียวกันที่ใหญ่ขึ้น

Whizdom Avenue - 1 Bedroom 30.90 sqm

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.90 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.86 ตารางเมตร

มาถึงห้องขนาด 1 ห้องนอนอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะต่างกับแบบแรกเรื่องการเข้าถึงของฟังก์ชั่นครับ เพราะแบบก่อนหน้านี้ เมื่อได้เปิดประตูปุ๊ปเราจะเห็นส่วนนั่งเล่นก่อนเลย แต่แบบนี้ไม่ใช่เปลี่ยนไปหมดเลยครับ เพราะเข้ามาถึงจะเห็นครัวก่อนเลย แล้วนำส่วนห้องนั่งเล่นไปติดด้านวิวแทน ส่วนห้องนอนยังคงวางติดหน้าต่างเหมือนเดิม แต่คราวนี้ห้องนอนมีสเปซที่เพิ่มมากขึ้น โต๊ะทำงานก็มาอยู่ในห้องนี้ด้วย ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ซึ่งต่างจากแบบแรกข้างต้น ส่วนนั่งเล่นจะได้รับวิวเมือง ถัดจากโซฟาจะเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่ง และเป็นเรื่องยากนิดนึ่งครับที่ครัวเปิดแบบนี้จะสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง เพราะเรื่องกลิ่นที่หากเฟอร์นิเจอร์หรือม่านเป็นผ้าย่อมไม่มีผลดีแน่นอน

ส่วนเรื่อง Pocket Door ห้องลักษณะนี้ทำออกมาได้ดีครับ เพราะตำแหน่งดูลงตัว จากการเป็นพื้นที่ห้องน้ำ และอีกฝั่งก็เป็นบิวท์อินครัวซะเลย และยังเป็นสิ่งที่คอนโดแถมมาให้ด้วยครับ  รวมๆแล้วแบบนี้แก้ปัญหาเรื่องซอกและมุมเล็กๆจากการใช้งานในแบบแรกได้ดีทีเดียวครับ  ข้อจำกัดเดียวคือจะทำอาหารจริงจังไม่สะดวกเท่าไหร่อย่างที่บอกนั่นแหละ

Whizdom Avenue - 1 Bedroom 34.86 sqm

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.86 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Whizdom Avenue Ratchada – Ladprao

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.91 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอนที่มาพร้อมกับ 2 ห้องน้ำ ส่วนนั่งเล่น และส่วนครัว ตำแหน่งของห้องแบบนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงมุมอาคาร แต่ว่าเปิดรับแสงได้ฝั่งเดียว  พื้นที่ห้องนั่งเล่นดูกว้างทีเดียว  สเปซของส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และส่วนครัวจะถูกเชื่อมกัน  ดูเป็นสัดเป็นส่วนดีครับ จากพื้นที่ส่วนนี้กว้างกำลังพอดีจึงทำให้ระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟาได้ระยะที่เหมาะสม แต่ครัวจะเป็นแบบเปิดครับ สำหรับครอบครัวไหนชอบทำอาหาร ก็คงไม่ถูกจริตกับแม่ครัวหรือพ่อครัวเป็นแน่

ถัดไปจะเป็นห้องนอนใหญ่เตียงขนาด King Size ได้ และจะมีห้องน้ำ ซึ่งผนังฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกใสดูเซ็กซี่กันไป  Sexy Bathroom แบบนี้บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ ก็ต้องแล้วแต่หล่ะครับ  ซึ่งผลพลอดได้ก็ทำให้พื้นที่ห้องนอนดูกว้างขึ้น ภายในจะมีสำหรับแต่งตัวที่เกือบจะเป็น Walk-in Closet  ห้องนี้มีพื้นที่รอบเตียงจะกว้างกว่าแบบ 1 ห้องนอนครับ ส่วนอีกห้องนอนนั้นจะเป็นห้องนอนเล็ก ขนาดเตียง 3.5 ฟุต แต่ก็จะมีตู้เสื้อผ้าให้ ความกว้างรอบเตียงก็ไม่ต่างจากห้องนอนใหญ่  ห้องนี้ต้องชมนะครับว่าจัดฟังก์ชั่นออกมาได้สวยดีทีเดียวเลย

Whizdom Avenue - 2 Bedroom 55.91 sqm

แปลนคอนโด Whizdom Avenue รัชดา – ลาดพร้าว แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.91 ตารางเมตร

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

Interior

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน 34.86 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 55.91 ตารางเมตร  ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.80 เมตร  ส่วนห้องน้ำจะสูง 2.60 ครับ  ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า ได้มาแบบ fully-fitted ครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Room สุขุมวิท69 แบบ 1 ห้องนอน 34.20 ตารางเมตร

เข้ามาในห้องดูมุมรวมๆจากส่วนนั่งเล่นครับ จะมีโต๊ะทานข้าวหลบๆมุมอยู่ โดยรวมก็ไม่อึดอัดครับ

Whizdom Avenue - one bedroom 1

 

สเปซบริเวณทางเข้าห้อง ประตูทางขวาคือประตูเข้าห้องนอนครับ

Whizdom Avenue - one bedroom 7

 

มุมห้องนอนที่แปลนไซส์นี้ มีห้องนอนที่กว้างทีเดียว และจะมีตู้เสื้อผ้า สามารถวางโต๊ะทำงานข้างเตียงได้ด้วยครับ  จุดที่ทำให้รู้สึกกว้างก็เพราะได้กระจกบานใหญ่มาเต็มบาน และมีสเปซโล่งๆตรงโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสือผ้าด้วยครับ

Whizdom Avenue - one bedroom 2

 

ขนาดระยะความกว้างทางเดินข้างเตียงตามนี้เลย  พอมารวมกับกระจกบานใหญ่เต็มบานก็ทำให้ดูโล่ง โปร่ง มากครับ

Whizdom Avenue - one bedroom 4

 

มุมมองจากเตียงไปยังห้องน้ำครับ พื้นที่กว้างดี

Whizdom Avenue - one bedroom 3

 

Pantry ครัว ได้วัสดุตามนี้เลยครับ  พื้นที่ตรงซอกด้านข้างโครงการจะทำ Built-in ปิดมาให้เลย ซึ่งก็ดูเรียบร้อยดี

Whizdom Avenue - one bedroom 6

ห้องตัวอย่างคอนโด Whizdom Avenue แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.91 ตารางเมตร 

เปิดเข้ามาในห้องเจอมุมนั่งเล่นติดระเบียง และมุมครัวครับ โดยมีโต๊ะทานข้าวคั่นระหว่างกลาง ภาพรวมดูโปร่งโล่งสบายดีครับ

Whizdom Avenue - 2 ห้องนอน-1

 

ส่วนพื้นที่ครัวเป็นแบบเปิด แต่ก็ดูแยกเป็นสัดส่วนไปเลย และบิวท์อินครัวที่ให้มาก็ยาวเต็มพื้นที่เหมาะกับสเปค 2 ห้องนอน  พื้นที่ใช้งานเหลือเฟือ

Whizdom Avenue - two bedroom 1

 

มุมนี้ถ่ายจากหน้าประตูห้องนอนใหญ่ พื้นที่นั่งก็ให้มาพอสมควร ไซส์โซฟาสามารถปรับเปลี่ยนให้มีขนาดยาวได้กว้างนี้อีกนิดตามแนวผนัง จึงทำให้นั่งเล่นส่วนนี้ได้สะดวกสบายมากขึ้น หากมีปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อน  ลักษณะสเปซที่เป็นสี่เหลี่ยมแบบนี้จัดเฟอร์นิเจอร์ง่ายครับ

Whizdom Avenue - two bedroom 7

 

จากห้องนอนไปบริเวณระเบียงมั่งครับ  บานหน้าต่างของส่วนพักผ่อนจะไม่ได้สูงจรดฝ้าเหมือนบานหน้าต่างในห้องนอนครับ

Whizdom Avenue - two bedroom 3

 

ภายในห้องนอนใหญ่ครับ จะเห็นได้ว่าหน้าต่างกระจกเต็มพื้นที่ผนัง จะมีหน้าต่างบานกระทุังให้ 2 บานครับ  กระจกของ sexy bathroom ก็ช่วยทำให้ดูโปร่งขึ้นมากทีเดียว

Whizdom Avenue - two bedroom 5

 

จากมุมหน้าต่างถ่ายไปยังห้องน้ำที่ด้านหนึ่งเป็นกระจกแอบบเซ็กซี่เลยครับ ^^ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นตู้เสื้อผ้า

Whizdom Avenue - two bedroom 6

 

อันนี้พื้นที่อีกหนึ่งห้องนอน ขนาดกำลังพอดี ดูไม่อึดอัดเท่าไร ส่วนหนึ่งก็คงมาจากช่องเปิดบานขนาดใหญ๋ พร้อมทั่งหน้าบานกระทุ้ง 2 บาน อีกเช่นเคย  พื้นที่ข้างเตียงเหลือเยอะ  เดินสบายมาก

Whizdom Avenue - two bedroom 8

 

ความกว้างของระเบียง  พื้นที่ใช้งานเยอะครับ  เอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่นได้

Whizdom Avenue - two bedroom 4

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็เป็นตามมาตราฐานครับ ผิวสัมผัสของวัสดุนั้นค่อนข้างจะโอเค  ทั้งแบบ 1 ห้องนอนกับ 2 ห้องนอน วัสดุจะเป็นแบบเดียวกัน

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยครับ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 014)

หน้าตาครัวบิวท์อิน ที่เป็นของ Custom made ครับ หน้าบานแบบ Soft Close

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 015)

เปิดหน้าบานภายในจะเป็นแบบนี้ ปริมาตรเก็บของได้ระดับกลางๆครับ  ไม่ได้น้อยแต่ก็ไม่ถึงกับเยอะมาก  เครื่องซักผ้าไม่ได้ให้นะครับ แต่จะเว้นช่องแบบนี้มาให้ ส่วนท็อปจะเป็นหินเทียมครับ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 013)

เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิคของ Teka

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 002)

เครื่องดูดควันก็ของ Teka เช่นกัน

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 014)

อ่างล้างจาน 1 หลุม ฝังใต้เคาเตอร์ของ Teka  ตัวผิวเคาน์เตอร์เป็นหินเทียมสีดำ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

ผนังบริเวณครัวที่ทางโครงการให้กระเบื้องสีเทา จึงทำความสะอาดง่ายเวลาทำครัว

วัสดุห้องน้ำ

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 008)

แยกส่วนเปียกและแห้งด้วยกระจก tempered glass หนา 10 มม.

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 025)

ฝักบัวของ Cotto  หน้าตาโอเค

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 005)

กระจกเงาติดผนังลอยจากอ่างล้างหน้า

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 017)

ภายในห้องอาบน้ำจะมีช่องสำหรับวางของ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 018)

กระจกแบบ Temper กั้นห้องอาบน้ำ พร้อมที่จับของ Cotto เช่นกัน

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto ครับ

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 010)

อ่างล้างหน้าเซรามิคจาก Cotto  เคาน์เตอร์เป็นหินสีดำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 004)

กรอบบานเลื่อนอลูมิเนียมอบสีดำ

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 001)

พื้นลามิเนตหนา 12 มม. สีสวยทีเดียว

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 015)

ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาครับ ลึก 0.8 เมตร บิวท์อินสูงถึงฝ้า และแต่ละบานแบบ Soft Close ครับ  เปิดปุ๊ป ไฟติดเลย

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 009)

เฉพาะห้องแบบ 2 ห้องนอน Duplex และ Penthouse ครับ ที่โครงการจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ conceal มาให้เลย

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 007)

ราวกันตกเหล็กทาสี สูง 1.2 เมตร

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 008)

บริเวณฝ้าตรงระเบียง  ซึ่งจะซ่อน Compressor แอร์ไว้ด้านบน สามารถดึงบานเปิดลงมาซ่อมบำรุงได้ (ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำหน้าบานไว้) เป็นการออกแบบทีดีครับพื้นที่ระเบียงจึงกว้างหน่อย

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 019)

แบบสวิสซ์เปิด – ปิด  สวยดี

Whizdom Avenue - (ภาพที่ 026)

เต้าเสียบบริเวณเคาเตอร์อ่างล่างหน้าในห้องน้ำ  มีฝาปิดกันน้ำด้วย

Whizdom Avenue model - (ภาพที่ 006)

ช่องเปิดบริเวณห้องนอน ขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

Money

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (18 มิถุนายน 2557) แบบสตูดิโอนั้นเริ่มที่ 3.95 ล้านบาทที่ชั้น 10 ครับ  แบบ 1 ห้องนอนเริ่มที่ 4.41 ล้านบาทครับ

ราคา ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2558

ราคาเริ่มต้น :

studio  พื้นที่ 28.00  ตร.ม. ชั้น 10   ราคา 4,053,500 บาท เฉลี่ย 144,768 บาท/ตร.ม.

1 bedroom  พื้นที่ 30.90  ตร.ม. ชั้น 6 ราคา 4,417,200 บาท เฉลี่ย 142,951 บาท/ตร.ม

1 bedroom  พื้นที่ 34.86  ตร.ม. ชั้น 6 ราคา 4,979,400 บาท เฉลี่ย 142,840 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

Studio และ 1 Bedroom จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 5%

  • ผ่อนดาวน์

Studio และ 1 bedroom ผ่อนดาวน์ 10%  24 งวด

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   60  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio   พื้นที่ 28 ตร.ม.  ราคาขาย  4,053,500  บาท  ผ่อนประมาณ  23,350  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  4,417,200  บาท  ผ่อนประมาณ  25,499   บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 34.86 ตร.ม.  ราคาขาย  4,979,400  บาท  ผ่อนประมาณ  28,524  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio   พื้นที่ 28 ตร.ม.  ราคาขาย  4,053,500  บาท  ผ่อนประมาณ  24,679  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  4,417,200  บาท  ผ่อนประมาณ  26,949  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 34.86 ตร.ม.  ราคาขาย  4,979,400  บาท  ผ่อนประมาณ  30,147  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio   พื้นที่ 28 ตร.ม.  ราคาขาย  4,053,500  บาท  ผ่อนประมาณ  26,903  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  4,417,200  บาท  ผ่อนประมาณ  29,378    บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 34.86 ตร.ม.  ราคาขาย  4,979,400  บาท  ผ่อนประมาณ  32,864  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio   พื้นที่ 28 ตร.ม.  ราคาขาย  4,053,500  บาท  ผ่อนประมาณ  30,958  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  4,417,200  บาท  ผ่อนประมาณ  33,806  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 34.86 ตร.ม.  ราคาขาย  4,979,400  บาท  ผ่อนประมาณ  37,817  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  85% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio   พื้นที่ 28 ตร.ม.  ราคาขาย  4,053,500  บาท  ผ่อนประมาณ  39,641  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 30.90 ตร.ม.  ราคาขาย  4,417,200  บาท  ผ่อนประมาณ  43,288  บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 34.86 ตร.ม.  ราคาขาย  4,979,400  บาท  ผ่อนประมาณ  48,424  บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางนั้นจัดว่าค่อนข้างสะดวกเลยที่เดียว  จากการเดินด้วยขนส่งมวลชนรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน ที่สถานี MRT ลาดพร้าวอยู่หน้าโครงการเลยครับ  ทำเลที่อยู่ตรงแยกรัชดา-ลาดพร้าวนั้นทำให้เข้าถึงได้จากถนนเส้นหลักทั้ง 2 เส้น การเดินทางโดยรถนั้นก็สะดวกดี  ข้อสังเกตนิดนึงครับ คือ ถ้าวิ่งมาจากแยกรัชโยธินเมื่อเลี้ยวขวาแยกรัชดา – ลาดพร้าว ซึ่งจะเลี้ยวได้ 2 เลน พยามยามอยู่เลนทางฝั่งซ้าย เพราะว่าตัวที่ดินโครงการนั้นอยู่ใกล้แยกมาก  ถ้าอยู่เลนขวาสุดเวลาเลี้ยวมาแล้วจะเปลี่ยนเลนเข้าไม่ทันอันตรายครับ  เช่นเดียวกับมาจากห้าแยกลาดพร้าว เมื่อยูเทิร์นพยายามชิดซ้ายสุดทันทีครับ เพราะโครงการอยู่ใกล้แยกมาก ส่วนทิศทางอื่นไม่น่าจะมีปัญหา

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ย่านลาดพร้าว ถือว่าเป็นย่านที่คึกคักไม่น้อยครับ แม้จะไม่ได้เป็นฮับหรือศูนย์กลางธุรกิจแต่อย่างใด  แต่ก็จัดเป็นโซนอยู่อาศัยที่คึกคักและมีการสัญจรหนาแน่น  ย่านนี้สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าได้ง่ายและสะดวกมาก เพราะเดินทางไปได้ทั้งเส้นรัชดาภิเษกด้วย จะเห็นว่าไม่ใกล้ไม่ไกลโครงการยังมีคอนโดเจ้าอื่นอยู่ไม่น้อย  แต่ความอุดมสมบูรณ์รอบๆจะไปกระจุกอยู่ตรงห้าแยกลาดพร้าวและพหลโยธินตอนต้นมากกว่า  ในอนาคตจะมี MRT สายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลด้วยนะครับ จากจุดอาคารจอดรถแล้วจรของ MRT ที่อยู่ตรงข้ามโครงการ แล้วสิ้นสุดที่สำโรง โดยวิ่งผ่านเส้นลาดพร้าว , บางกะปิ และศรีนครินทร์ครับ อนาคตถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกไม่น้อย  เพราะตอนนี้ลาดพร้าวนั้นเป็นโซนที่รถติดมากเอาเรื่องทีเดียว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ด้วยความที่ตัวที่ดินของโครงการนั้นเป็นแนวยาวเกือบจะขนานไปกับทิศตะวันออก – ตะวันตก ทำให้พอวางแปลนออกมาแล้วจะมีด้านทิศใต้และทิศตะวันตกที่โดนแดดบ่ายเต็มๆชัดเจน  นอกจากนั้นทิศใต้ยังมีเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่ถูกบีบด้านนึงด้วยอาคารสวนลุมไนท์รัชดาตามแนวถนนรัชดาภิเษก (ตึกสวนลุมไนท์รัชดาสูงที่ 18 ชั้น ส่วนจุดสูงสุดของโครงการจะอยู่ 28 ชั้นครับ)  ต้องชั้นสูงๆถึงจะเห็นวิวเมืองในมุมกว้าง  ซึ่งต่างกับอีกด้านทางทิศเหนือที่มองห็นวิวโล่งๆทางรัชโยธินได้เต็มตาและไม่ร้อนอีกด้วย ซึ่งด้านนี้เอง ทางโครงการได้จัดวาง Facilities อย่างพื้นที่สีเขียว  และห้องอ่านหนังสือ ซึ่งอาจจะไม่เห็นวิวได้ไกลมากนักเพราะอยู่บริเวณชั้น 5 แต่ผมคิดว่าบรรยายภายในคงโล่งโปร่งสบายดีครับ เพราะผนังเป็นกระจกทุกด้านด้วยความสูง 6 เมตร จึงโปร่งแส่งสว่างเข้าได้เต็มที่ และ Facilities อื่นๆ เช่นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Sky Lounge จะวางตำแหน่งไว้ชั้นบนสุด ซึ่งได้วิวเมืองเต็มๆ แต่ห้องฟิตเนสทางใต้จะร้อนหน่อยในช่วงบ่าย

การออกแบบรูปด้านอาคารภายนอกดูมีมิติดีครับ ผลมาจากขนาดห้องแต่ละห้องเล็กบ้างใหญ่บ้างส่วนหนึ่ง และผิวสัมผัสอาคารที่เลือกทาสีน้ำตาลเข้มออกแดงๆหน่อยจึงน่าจะเกิดเฉดอย่างน่าสนใจ เมื่อมารวมกริดเส้นแนวตั้งสีขาวและสีส้มเข้มทำให้ดูโมเดิร์นและมีลูกเล่นขึ้น ทั้งนี้จะออกมาสวยไม่สวยนี่ขึ้นกับการเลือกโทนสีจริงๆเลย  เพราะตอนนี้เวลาดูในภาพจำลองกับโมเดลสีมันยังต่างกันอยู่ด้วย ส่วนโพเดียมอาคารที่เป็นที่จอดรถ จะมี Green Wall โดยรอบ (ยกเว้นทางทิศใต้ – –  ไหนๆทำแล้วก็น่าจะทำให้รอบไปเลยนะครับ) คงน่าสนใจที่เดียวครับเพราะสีเขียวของต้นไม้คงดูเด่นเมื่อมีพื้นหลังเป็นสีน้ำตาล  ต่างจากส่วนด้านหน้าอาคารที่เป็นทางเข้าสู่โถง Lobby ได้ออกแบบภายนอกเป็นระแนงแนวตั้งสีส้มเข้ม ซึ่งทำให้ดูเด็กลงหน่อย

มาถึงการวางแปลนของฟังก์ชั่นแต่ละห้องในภาพรวมครับ  สำหรับห้องสตูดิโอ 28 ตารางเมตร และแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร จะมีสเปซบางจุดที่ใช้งานไม่สะดวกอยู่บ้างอย่างที่เล่าไปแล้ว  ในขณะที่แบบ 34 ตารางเมตร นั้นดูจะสบายๆลงตัวกว่าเช่นเดียวกับแบบ 2 ห้องนอน 55 ตารางเมตร ที่จัดแปนออกมาสวยดีครับ  ลักษณะเด่นของการจัดสเปซของคอนโด Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว นั้นจะอยู่ที่การให้สเปซระหว่างฟังก์ชั่นของแต่ละส่วนครับ  อย่างพื้นที่รอบๆเตียงไม่ว่าจะเป็นแบบห้องนอนเล็กหรือห้องนอนใหญ่ก็จะมีพื้นที่เดินรอบเตียงได้สบาย คล่องตัว ไม่ต้องเดินเบียงตัว ซึ่งทำให้วางขนาดเริ่มต้นของห้องสตูดิโอเอาไว้ที่ 28 ตารางเมตร ในขณะที่ถ้าลองเทียบคู่แข่งในทำเลเดียวกันอย่าง Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24 จะวางขนาดห้องสตูดิโอเริ่มต้นที่ 23 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าต่างกันพอสมควรครับ

จุดที่น่าสนใจอีกจุดที่ไม่ค่อยเห็นจากที่อื่นคือการทำ Pocket Door ซึ่งโดยปกติมักใช้กับโรงแรมเกรดหรูหน่อย เวลาเดินตามแนวโถงทางเดินแล้วจะมองไม่เห็นบานประตูห้องแต่ละห้องครับ  โครงการบอกว่าตรง Pocket Door ที่เว้าเข้าไปจะมีช่องเปิดที่สามารถระบายอากาศจากในห้องได้ด้วย  (แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ทำไว้)  เดี๋ยวคงต้องรอดูของจริงว่าจะออกมาเป็นยังไงครับ  ด้านวัสดุก็ให้มาดีในภาพรวมตามมาตราฐานครับ ได้กระจกบานใหญ่  ผิวสัมผัสของวัสดุดี  แต่ก็อย่าลืมว่าราคาคอนโดนั้นเป็นราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่เปิดตัวสูงที่สุดในโซนแยกรัชดา-ลาดพร้าว แล้ว (ไม่เอาไปรวมกับตรงห้าแยกลาดพร้าวนะครับ  ตรงนั้นถือเป็นฮับใหญ่กว่า)  วัสดุในห้องแต่ละแบบจะไม่ได้แตกต่างกันมากครับ  ได้มาแบบ Fully Fitted มีชุดครัว, ตู้เสื้อผ้า และแอร์มาให้

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ มีสระว่ายน้ำ, ห้องสมุด, ฟิตเนส และ Sky Lounge ชั้นบนให้ลูกบ้านมาชมวิว  ฟิตเนสนั้นจะร้อนแดดบ่ายหน่อย  ช่วงบ่ายคงต้องชักม่านปิด  สเปซในพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Lobby, ห้องสมุด, ฟิตเนส นั้นเป็น Double Space สูง 6 เมตร และผนังเป็นกระจกส่วนใหญ่  ก็น่าจะออกมาโปร่ง โล่ง และน่าใช้งานมากเมื่อดูจากการตกแต่งภายในครับ  ด้านความหนาแน่นนั้นมีลิฟต์ 4 ตัว กับ 497 ยูนิต  สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 124 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นพอโอเคอยู่  ที่จอดรถ 60% กับโครงการติดๆกับรถไฟฟ้าก็ถือว่าใช้ได้ครับ  เพียงแต่ถ้ามองเทียบกับระดับราคาก็น่าจะมีสัดส่วนมากกว่านี้อีกสักหน่อย  เพราะคนที่ซื้อคอนโดราคาเฉลี่ยเท่านี้ก็น่าจะมีรถกันหมด

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้มีเปิดตัวไล่เลี่ยกัน มี 1 โครงการ นั้นก็คือ Chapter One Midtown ลาดพร้าว 24

นอกนั้นก็มีที่สร้างเสร็จขายหมดไปแล้วอย่าง Haus23  บริเวณปากซอยลาดพร้าว 23 หรือเยื้องๆกับ Whizdom Avenue ได้แก่ Ideo ลาดพร้าว 17 กระเถิบไปนิดก็จะเป็นคอนโด Issara บริเวณลาดพร้าว 12 ครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ

เปิดตัว Whizdom 101 โครงการ mixed use คอมมูนิตี้มอลล์และคอนโดในพื้นที่ 43 ไร่ บนถนนสุขุมวิทโดย MQDC มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท [ข่าว]

$
0
0

วันนี้ (7/7/2558) ทาง MQDC (แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น) ได้เปิดตัวโครงการ  Whizdom 101” (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) อย่างเป็นทางการครับ  โครงการนี้อยู่บนถนนสุขุมวิทระหว่างสถานี BTS ปุณณวิถี และซอยสุขุมวิท 101/1 ซึ่งเป็นโครงการ Mixed use ในงบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท  มีทั้งพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่, ที่พักอาศัย และร้านค้า  บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่ ซึ่งซื้อต่อมทาจากเจ้าของเดิมคือ “ปิยรมย์”  นั่นเอง

 

Whizdom101

 

Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) พัฒนาภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ที่ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ  พื้นที่ในส่วนเชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกันในขนาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ในโครงการยังจัดให้มีเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าแบบหลายระดับ (multi-level) ภายในอาคารที่แรกในประเทศไทย ซึ่งใช้ชื่อว่า วิสซ์ดอม แทร็ก (Whizdom Track) มีระยะทาง 1.3 กิโลเมตร วิ่งผ่านทั้งพื้นที่ในอาคารและนอกอาคาร เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สวนลอยฟ้าแบบหลายระดับขนาดยักษ์ของโครงการ

 

โครงการนี้มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 โดยได้ทำงานร่วมกับที่ปรึกษา ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของโลก ทั้งในด้านการวางแผนพื้นที่โครงการ การออกแบบสถาปัตยกรรม การออกแบบภูมิทัศน์ และงานที่ใช้ความชำนาญเฉพาะทางอื่นๆ อีกมากมาย  เนื่องจากมุ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  ที่มองหาโครงการที่ได้มาตรฐานระดับโลก  ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ MQDC ร่วมงานได้แก่ เกนสเลอร์ (Gensler) , ร็อคเวล กรุ๊ป (Rockwell Group) และ คลับคอร์ป (ClubCorp)

 

Whizdom101

 

 

Whizdom 101 (ภาพที่ 10)

 

 

โครงการ Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะมีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากได้จัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่ภายในโครงการ ในสัดส่วนที่ใหญ่ถึง 65% ของที่ดินทั้งหมดของโครงการ ให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง และ 30% ของที่ดินทั้งหมดของโครงการ จะเป็นพื้นที่สำหรับต้นไม้ใบหญ้าที่เชียวชอุ่ม โดยจัดสรรให้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่ขนาดกว้าง 280 เมตร ลึก 325 เมตรโดยประมาณ โดย Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะมีพื้นที่ในอาคาร (GFA) ทั้งสิ้นประมาณ 340,000 ตารางเมตร โดยในจำนวนนี้พื้นที่ประมาณหนึ่งในสามจะเป็นส่วนที่พักอาศัย และสองในสามเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์

Whizdom101-2

 

  • สโมสรกีฬาและสุขภาพ มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีห้องนั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ (Social Lounge), มีโซนสำหรับครอบครัว, คอร์ทเทนนิสในร่ม, และสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ทแห่งแรกในกรุงเทพฯ

 

  • พื้นที่ร้านค้าปลีก จะมีพื้นที่ประมาณ 20,000 ตารางเมตร

 

  • พื้นที่สำนักงาน จะประกอบไปด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 30,000 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่แบบแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ co-working space  ด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Office Park

 

นอกจากนั้น ยังมีพื้นที่เฉพาะสำหรับการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีและการวิจัย เพื่อส่งเสริมให้เกิดเป็นระบบนิเวศของการสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่ (Innovation Ecosystem) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในการคิดค้นทำสิ่งใหม่ ๆ ในด้านต่างๆ ให้เกิดขึ้นอีกมากมาย ซึ่งหมายรวมถึงการเป็นแหล่งความรู้และเทคโนโลยี ที่สามารถสร้างและต่อยอดเครือข่าย ตลอดจนเป็นแหล่งของการระดมเงินทุนจากสังคม หรือที่เรียกว่า Crowd Funding และบริการที่ปรึกษาอย่างมืออาชีพ

 

  • พื้นที่โครงการที่พักอาศัย จำนวน 3 อาคาร มีขนาดพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 140,000 ตารางเมตร  โดยทุกยูนิตจะมี Smart Home Automation System เทคโนโลยีที่ผู้พักอาศัยสามารถสั่งการทำงานต่างๆ ในบ้านได้จากระยะไกลแม้อยู่นอกบ้าน ทั้งการสั่งเปิดปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ มีแอพลิเคชั่นพิเศษ Whizdom Society Apps ที่ผู้พักอาศัยสามารถใช้จองฟิตเนส ร้านอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ ในโครงการวิสซ์ดอม 101 ได้อย่างสะดวกสบาย เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของที่พักอาศัยในชุมชนแห่งนี้  นอกจากนั้นยังมีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง เลนจักรยาน ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้พักอาศัย

 

Whizdom101

 

 

Whizdom 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) จะมีทางเชื่อมต่อแบบสกายวอร์คกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี สามารถเดินเท้าได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที  คาดว่าจะเริ่มงานเคลียร์พื้นที่ได้ในไตรมาสสุดท้ายปี 2558 และมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2561

 

http://youtu.be/yTl0wIvRhaA

AP ผู้นำพรีเมี่ยมทาวน์โฮม จัดแคมเปญ “มูฟชีวิตให้ชิดเมือง” มอบส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท กับ บ้านกลางเมือง 17 ทำเลพร้อมอยู่ทั่วกรุงเทพฯ [ข่าว]

$
0
0

[8 ก.ค. 2558] คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มียอดขาย (Net Sales Booking) รวมกว่า 17,270 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวสูง 11,390 ล้านบาท และแนวราบ 5,880 ล้านบาท หรือโตขึ้นกว่า 86 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพกำลังซื้อสินค้าที่อยู่อาศัยในเมืองและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสินค้าเครือเอพีที่ดีอย่างต่อเนื่อง

คุณวิทการ จันทวิมล

คุณวิทการ จันทวิมล

 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบสำหรับลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ ล่าสุด เอพีได้จัดแคมเปญใหม่นำเสนอพรีเมี่ยมทาวน์โฮม “บ้านกลางเมือง 17 โครงการพร้อมอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ในราคาเริ่มต้น 3.49 – 7.99 ล้าน” ภายใต้ชื่อ It’s Your Move มูฟชีวิตให้ชิดเมือง ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในการเลือกโลเคชั่นสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ “เข้าใจ” ในโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพในวันนี้และอนาคตอย่างลึกซึ้ง อาทิ ทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่และทางด่วน พร้อมไฮทไลท์พิเศษ แปลงสวยที่สุด กับ 5 ทำเลสุดท้ายกลางเมืองก่อนปิดโครงการ ได้แก่ บ้านกลางเมือง รัชโยธิน, บ้านกลางเมือง สาทร – ตากสิน 2,  บ้านกลางเมือง พระราม 9 – รามคำแหง, บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว 71 และ บ้านกลางเมือง โชคชัย 4

บ้านกลางเมือง รัชโยธิน

บ้านกลางเมือง โปรโมขั่น

 

นอกจากนี้  เอพีได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท หรือเลือกรับแพ็คเกจพร้อมอยู่ อาทิ ฟรีแอร์ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ หรือ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน โดยแคมเปญเริ่มแล้ววันนี้ – วันที่ 30 กันยายน 2558 ผู้สนใจสามารถเข้าชมบ้านจริงพร้อมอยู่ แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน กับ บ้านกลางเมืองทั้ง 17 ทำเล

 

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่ www.apthai.com/campaign/ทาวน์โฮม/รวมบ้านกลางเมือง/


Chewathai Interchange คอนโด high rise ติดสถานีเตาปูน อินเตอร์เชนจ์ จากชีวาทัย [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด Chewathai Interchange อยู่ติดสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นจุดแยกระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง หรือที่เรียกว่า Interchange Station คล้ายๆกับ สถานีรถไฟฟ้า BTS สยามค่ะ ที่เวลาเปลี่ยนขบวนแล้วไม่ต้องเดินออกนอกตัวสถานี ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2  กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเกือบจะสมบูรณ์แล้วค่ะ ซึ่งทางโครงการได้มีการแต่งห้องตัวอย่างใหม่เป็นแบบ 2 ห้องนอนอยู่ภายในอาคารให้ได้ชมกัน เพื่อที่จะได้เห็นสเปซจากที่จริงๆกันเลย วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเช่นเคยค่ะ

Chewathai

 

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chewathai Interchange (ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์)

  • เจ้าของโครงการ >>> ชีวาทัย
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ติดสถานีเตาปูน
  • ขนาดที่ดิน >>>  ประมาณ 1-3 -12.5 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 26 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน  /  3 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน 26 – 40.50  ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 51.6 – 67.40 ตารางเมตร
    • 3 ห้องนอน 87 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  เกือบ 60 % (รวมจอดซ้อนคันแล้ว)
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  3.34 ล้านบาท (ห้อง 26.6 ตารางเมตร ชั้น 7 ณ วันที่ 10/7/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ  123,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.806225, 100.529916

ก่อนจะไปดูรีวิวของ Chewathai Interchange นั้นก็ขอเล่าที่มาคร่าวๆของโครงการนิดนึงค่ะ  คือเดิมทีโครงการนี้เป็นของดีเวลลปเปอร์รายย่อยชื่อ ‘โรจน์ธัช ดีเวลลอปเม้นท์‘ เป็นโครงการชื่อคอนโด Cross Point @ Taopoon Station  ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินอยู่และเปิดตัวโครงการไปเรียบร้อยแล้ว  มีใบอนุญาตก่อสร้างและก็ผ่าน EIA แล้วเช่นกัน  จากนั้นทางค่ายชีวาทัยก็ไปลงทุนซื้อโครงการนี้มา  แล้วก็เปลี่ยนชื่อและ re-branding จากชื่อ Cross Point @ Taopoon Station  แล้วก็ดำเนินการก่อสร้าง จนกลายมาเป็นคอนโด Chewathai Interchange ในปัจจุบันนี่แหละค่ะ

ชีวาทัย Interchange

ชีวาทัย Interchange


ชีวาทัย Interchange

ชีวาทัย Interchange

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทาง คอนโด บ้านเดี่ยว แผนที่ map

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนประชาชื่น ตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกประชาชื่น แล้วเลี้ยวเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ผ่านแยกเตาปูนที่ตอนนี้เป็นที่ตั้งของสถานีเตาปูน เป็น Interchange Station ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงค่ะ ตัวที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนเลย

Rev211-การเดินทาง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง A

เริ่มจากบนถนนรัชดาภิเษก เลี้ยวเข้าถนนประชาชื่นค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง B

ขับมาตามทางเรื่อยๆ เราไปช่วงเย็นๆ การจราจรฝั่งขาออกจึงค่อนข้างติดขัดค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง C

ข้ามทางรถไฟมา ขวามือไกลๆนั้นเป็นคอนโดยู ดีไลท์ 2 @ บางซื่อ สเตชั่น ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง D

ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านทางเข้าซอยประชาชื่น 6

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง E

ขับตรงมาเรื่อยๆ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง F

เจอแยกประชาชื่น ให้เลี้ยวขวาค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง g

เลี้ยวมาบนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 จะเห็นสถานีเตาปูนตรงสามแยกเตาปูน เป็น Interchange Station ที่ใหญ่มาก

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - การเดินทาง H

เจอแยกเตาปูนก็ให้ตรงไปค่ะ ตัวที่ตั้งโครงการและสำนักขายจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าพอดี

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

มาดูรอบๆคอนโดกันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 และติดกับสถานีเตาปูน ซึ่งเป็น  Intechange Station ดูจากผังแล้วก็เป็นสถานีที่ใหญ่เลยทีเดียว ตัวสถานีนั้นตั้งอยู่ตรงแยกเตาปูนพอดี ซึ่งถ้าเลี้ยวไปด้านที่เป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่านจะเป็นถนนกรุงเทพฯ- นนทบุรีค่ะ

บริเวณรอบๆโครงการทั้งด้านหน้า ด้านข้างและฝั่งต้องข้ามที่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 จะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์อยู่ตลอด 2 ข้างทาง (หมายเลข 1) มีทั้งร้านค้า ธนาคาร จะมีอพาร์ทเม้นท์ขึ้นบ้างประปราย แต่รวมๆก็เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยอยู่ค่ะ มีตลาดเตาปูน (หมายเลข2) เตาปูนนี่เป็นชื่อเล่น  ส่วนชื่อจริงๆเขาชื่อตลาดสดมณีพิมาณ ที่ตั้งอยู่ระหว่างสี่แยกประชาชื่นกับสามแยกเตาปูนจะเข้าได้จากทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ

Rev211--Surrounding_1

และเนื่องจากทำเลตรงนี้เป็น Interchange Station เลยทำให้มีคอนโดขึ้นมาค่อนข้างเยอะค่ะ และใช้ชื่อ Interchange ต่อท้ายเหมือนกันหมดเลยค่ะ ทั้ง Rich Park @ Taopoon Interchange (หมายเลข 3) ที่เป็นคอรโดเพื่อนบ้านข้างเคียง, The Stage Taopoon Interchange (หมายเลข 4) ที่อยู่ห่างไปหน่อย และ The Tree Interchange (หมายเลข 5) ที่อยู่ติดกับ The stage  เลยจาก The Tree ไปหน่อย จะเป็นห้างชื่อ The Market (หมายเลข 6) ซึ่งแต่ก่อนเป็นห้างบางลำภู สาขาบางโพ และ TCC Capital Land มาเทคโอเวอร์ไป ทำเป็นห้างใหม่ชื่อ The Market แต่ตอนนี้ปิดไปแล้วค่ะ ในอนาคตจะทำเป็นอะไรต่อไปต้องติดตามดูกันไป ส่วนฝั่งตรงข้ามที่เยื้องๆกับ The market จะเป็น โรงพยาบาลบางโพ (หมายเลข 7)

มาดูบริเวณแยกประชาชื่นจะเห็นแนวรถไฟฟ้าผ่านตรงหน้า หัวมุมเป็นโลตัส เตาปูน (หมายเลข 8) เลยจากโลตัสไปจะไปสำนักงานใหญ่ของ SCG และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีบางซื่อ รวมทั้งสถานีรถไฟบางซื่อด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆโครงการกันค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 166

ด้านหน้าทางเข้าโครงการติดถนนประชาราษฎร์สาย 2 และติดกับสถานีเตาปูนเลยค่ะ ในบรรดาชื่อโครงการที่ต่อท้ายด้วย Interchange โครงการของชีวาทัยจะอยู่ติดกับตัวสถานีมากที่สุดค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 167

ฟุตบาทช่วงทางเดินบริเวณตึกแถวที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ เป็นที่ตั้งของธนาคารออมสินด้วย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 057

ด้านหลังโครงการมีอพาร์ทเม้นท์สูง 6 ชั้น นอกนั้นเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 169

ตึกแถวฝั่งตรงข้ามโครงการ ช่วงใกล้ๆกับแยกเตาปูน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 174

ทางเท้าบริเวณใต้สถานีเตาปูนค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 173

ตึกแถวทางด้านหลังสถานีเตาปูน ซึ่งจะอยู่ด้านข้างของโครงการ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 172

ตึกแถวบริเวณสถานีเตาปูน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 170

คอนโด ริชพาร์ค2 @ เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ เป็นโครงการเพื่อนบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 175

แยกเตาปูน เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนประชาราษฎร์สาย 2 กับ ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 165

โลตัส เตาปูน อยู่หัวมุมแยกประชาชื่น

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 176

สำนักงานใหญ่ SCG ตรงบางซื่ิอ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 177

รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีบางซื่อจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ห่างจากสถานีเตาปูนเพียงสถานีเดียวค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ

สำนักขายจะอยู่บริเวณตึกแถวด้านหน้าโครงการค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 0233

 

ด้านหน้าสำนักงานขาย ซึ่งทางโครงการได้เช่าตึกแถวด้านหน้าโครงการมาทำเป็นสำนักงานขายค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 171

 

เข้ามาภายในสำนักงานขาย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 020

 

ภายในสำนักงานขายจะมีห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอนไว้ให้ชมกันพร้อมกับโมเดลโครงการค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 021

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการนั้นวางถามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 แปลงที่ดินจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนเลยค่ะ ซึ่งสถานีเตาปูนจะเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์กันระหว่างสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ส่วนที่ผ่านหน้าโครงการจะเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน พื้นที่อาคารจะเข้ามาจากถนนใหญ่นิดหน่อย ด้านหน้าโครงการจะมีตึกแถวเดิมกั้นระหว่างอาคารกับถนนใหญ่อยู่ บริเวณรอบๆโครงการ ถ้าเป็นริมถนนประชาราษฎร์สาย 2 จะเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์เกือบตลอดทั้งแนว จะมีคอนโดขึ้นบ้างบางพื้นที่ค่ะ อย่างบริเวณที่ใกล้ๆกับโครงการชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ก็เป็นโครงการริชพาร์ค 2 @ เตาปูนอินเตอร์เชนจ์ สูง 26 ชั้นเท่าๆกับโครงการของชีวาทัยเลย ด้านที่เห็นจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ฝั่งทิศตะวันตกค่ะ ส่วนรอบๆจะไม่ค่อยมีอาคารสูงมากนัก สูงมากสุดก็ประมาณ 6-8 ชั้น เป็นอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ด้านหลังโครงการ กับ อพาร์ทเม้นท์ฝั่งตรงข้ามกับโครงการค่ะ

Chewathai Interchange

ผังโครงการชีวาทัย Interchange

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นวางตัวตั้งฉากกันแนวทิศเหนือ-ใต้  จะมีเพียงห้องมุมที่เป็น 2 ห้องนอนที่หันออกไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกค่ะ ด้านทิศเหนือจะหันหน้าออกไปถนนประชาราษฎร์สาย 2 กับแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ส่วนทิศใต้วิวจะโล่งๆ เป็นโซนบ้านพักอาศัย โล่งสบายตากว่าค่ะ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนที่หันหน้าเข้าทิศตะวันตกจะค่อนข้างร้อนกว่า ด้านนี้วิวจะมองเห็นคอนโดข้างเคียงด้วยค่ะ

นอกจากเรื่องทิศทางของแสงแดดแล้วปัจจัยอีกประการก็จะเป็นเรื่องของเสียงค่ะ  ทิศเหนือนั้นร่มกว่าแต่ก็คงมีเสียงจากรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการอยู่พอควร  ด้านหลังทิศใต้เสียงน้อยกว่า แต่ก็จะร้อนกว่า  เป็นข้อดีข้อเสียกันคนละแบบ  ต้องแล้วแต่ปัจจัยที่แต่ละคนมองค่ะ

ทิศทางแดดและความร้อน  Chewathai Interchange

ทิศทางแดดและความร้อน ชีวาทัย Interchange

ส่องโมเดล

มาดูมุมกว้างๆของโมเดลกันก่อน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 022

 

ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 หน้าตาอาคารจะเป็นสีโทนสีฟ้า คราม  ตัดกับเส้นสีขาวค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 007

 

ทางเข้าโครงการค่ะ ตัวอาคารจะอยู่เข้ามาด้านในหลังตึกแถวที่ติดกับถนนใหญ่ตรงที่โค้งๆจะเป็นทางขึ้นอาคารจอดรถในชั้นต่างๆค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 015

 

ตึกแถวที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งปัจจุบันห้องริมสุดใช้เป็นสำนักงานขายค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 014

 

มุมด้านข้างฝั่งที่หันไปเจอกับสถานีรถไฟฟ้าค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 019

 

ส่วนกลางที่ชั้น 6 เป็นสระว่ายน้ำมีทั้งส่วนที่เป็น indoor และ outdoor ตั้งอยู่บนโพเดียมเหนือที่จอดรถ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 009

 

ด้านหลังทางทิศใต้ค่ะ มุมนี้วิวจะโล่งๆส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 010

 

ด้านทิศตะวันตกค่ะ มุมนี้จะเห็นคอนโด Rich Park

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 011

 

ด้านข้างมีพื้นที่สวน เป็นลักษณะปูหญ้า และมีต้นไม้ปลูกล้อมรอบ  ไม่มีส่วนที่เป็น Hard scape ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 012

 

สวนชั้น 23 กับชั้นดาดฟ้าค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 018

 

มุมด้านทิศตะวันออกที่หันไปด้านสถานีรถไฟฟ้าค่ะ ชั้น 23 ทำเป็นสวนไว้ให้

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 017

 

ซูมให้ดูหน้าตาอาคาร ตัวอาคารจะเป็นโทนสีฟ้า-คราม-ขาว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 016

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นโพเดียมเหนือที่จอดรถ  โดยสระว่ายน้ำจะมีทั้งส่วนที่เป็น Indoor และ Outdoor ค่ะ จะอยู่ทางด้านตะวันออก ไม่ได้อยู่ติดกับถนนหรือรถไฟฟ้าค่ะ (ซึ่งวางตำแหน่งไว้ด้านหลังแบบนี้โอเคกว่าวางไว้ด้านหน้าอยู่แล้ว  เพราะถ้าตัวสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าจะมองเห็นจากสถานีรถไฟฟ้าใกล้เกินไป ซึ่งก็จะไม่เป็นส่วนตัวค่ะ) ในชั้นนี้จะมี Fitness กับ Lounge นอกจากนี้ชั้นมีสวนที่ชั้นล่างกับสวนชั้น 23 และชั้นดาดฟ้าอีกค่ะ  ดีไซน์ในส่วนนี้จะมาแบบเรียบๆ  ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากนักค่ะ

Floor Plan ชั้น 6 (Facilities Floor)

Floor Plan ชั้น 6 (Facilities Floor)

 

สระว่ายน้ำที่ชั้น 6 จะเป็นระบบเกลือ  6 แล้วก็มีฟิตเนส , Lounge , Business center นอกจากนี้ยังมีสวนที่ชั้นล่าง, ชั้น 23 และชั้นดาดฟ้า ด้านล่างชั้น 1-5 เป็นที่จอดรถ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัวกับ 279 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 140 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่ากลางๆเมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยในระดับนี้  ที่จอดรถ 170 คัน นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว หรือประมาณเกือบ 60% สำหรับคอนโดติดรถไฟฟ้าแบบนี้ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่โอเคค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities ที่ออกมาก็ดูค่อนข้างหรูดีค่ะ

ล็อบบี้ชั้นล่าง ดูหรูหราดีค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 003-2

 

Waiting area

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 004-2

 

มุม Business center

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 005-2

 

สระว่ายน้ำและฟิตเนสที่ชั้น 6 ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 006-2

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด ชีวาทัย Interchange ชั้น 1

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะพอสมควร ตัวล็อบบี้จะโค้งตามแปลนค่ะ มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง กับ Meeting room นอกนั้นก็เป็นพื้นที่จอดรถค่ะ

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด ชีวาทัย Interchange

 

Floor Plan คอนโด ชีวาทัย Interchange ชั้น 7-8, 12-14, 18-20

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 ซึ่งจะร่วมกับพื้นที่ Facilities ด้วย ส่วนชั้น 7,8,12-14 และ 18,20 แปลนจะเหมือนกันค่ะ แปลนเป็นแนวยาว รูป I  ตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ตรงกลาง แบ่งห้องออกเป็นสองฝั่งมีทางเดินตรงกลาง ที่ปลายทางเดินทั้งสองฝั่งมีช่องเปิดให้แสงภายนอกเข้ามาได้  ยูนิตแต่ละห้องจะหันออกทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาดที่เยอะที่สุดจะเป็นขนาด 26.60 ตารางเมตรค่ะ ส่วนห้อง 2 ห้องนอนนั้นจะอยู่ที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้าน ซึึึ่งทำให้ห้องนอนของ 2 ห้องนอนจะอยู่ตรงปลายฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกค่ะ จำนวนห้องต่อชั้นจะอยู่ที่ 14 ห้องค่ะ

การที่ตำแหน่งลิฟต์อยู่ตรงกลางนั้นก็ทำให้ระยะกการเดินไปยังห้องแต่ละห้องไม่แตกต่างกันมากค่ะ

Floor Plan ชั้น 7-8, 12-14, 18-20 คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์

Floor Plan ชั้น 7-8, 12-14, 18-20 คอนโด ชีวาทัย Interchange

Floor Plan คอนโด ชีวาทัย Interchange ชั้น 9-11, 15-17, 21-22

แปลนของชั้น 9-11, 15-17 และ 21-22 แทบจะเหมือนกับแปลนใน 7-8, 12-14, 18-20 ต่างกันแค่แบบ 1 ห้องนอนที่มีการปรับเปลี่ยนแปลนภายในห้องไปเท่านั้นเอง  (สลับตำแหน่งห้องน้ำซ้าย-ขวา)

Floor Plan ชั้น 9-11, 15-17, 21-22 คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์

Floor Plan ชั้น 9-11, 15-17, 21-22 คอนโด ชีวาทัย Interchange

Floor Plan คอนโด ชีวาทัย Interchange ชั้น 23

ในชั้น 23 แปลนด้านทิศตะวันออกที่เป็นห้อง 2 ห้องนอนจะหายไปและแทนที่ด้วยพื้นที่สวนค่ะ นอกนั้นตำแหน่งห้องอื่นๆยังเหมือนเดิม ทำให้ชั้นนี้เหลือห้องเพียง 12 ห้อง

Floor Plan ชั้น 23 คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์

Floor Plan ชั้น 23 คอนโด ชีวาทัย Interchange

Floor Plan คอนโด ชีวาทัย Interchange ชั้น 24-26

มาที่ชั้น 24-26 ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่บนสุด ห้องจะหายไปอีก 2 ห้องแล้วแทนมาด้วยห้องแบบ 3 ห้องนอน ทำให้เหลือห้องอยู่ที่ 11 ห้องต่อชั้น

Floor Plan ชั้น 24-26 คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์

Floor Plan ชั้น 24-26 คอนโด ชีวาทัย Interchange

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Chewathai interchange มีเป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่  26 – 40.5 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ชนาด 51.6 – 67.4 ตารางเมตร และ 3 ห้องนอน 87 ตารางเมตรค่ะ

แปลนห้องคอนโด ชีวาทัย Interchange

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.60 ตารางเมตร

เริ่มจากแปลนแบบ 1 ห้องนอนกันก่อน ซึ่งภายในโครงการจะมีด้วยกัน 6 แบบ เราเลือกเอาแบบ 1 ห้องนอน ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการมาให้ชมกันค่ะ

แปลนรวมๆนั้นจัดออกมาได้เป็นสัดเป็นส่วนดี  เข้าห้องมาจะเจอสเปซครัวก่อนเลย ส่วนอีกด้านจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารวางติดชิดผนังด้านนึงเอาไว้ ต่อเนื่องกันไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น อยู่่ติดกับระเบียงค่ะ ส่วนตรงกลางระหว่างพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นทางเข้าห้องนอน ห้องนอนสามารถวางตู้ตามแนวขวางได้ ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ภายในห้องนอนค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - roomplan_1br26.60sqm

แปลนคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26.60 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด ชีวาทัย Interchange

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 57.40 และ 59.20 ตารางเมตร

มาดูที่แบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง เป็นแบบที่ใช้เป็นห้องตัวอย่างอยู่ในอาคารจริงด้วยค่ะ แปลนห้องทั้ง 2 ขนาดนี้ ตำแหน่งห้องจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนอีกด้านจะมีพื้นที่โต๊ะทำงานเล็กๆไว้ให้ด้วย เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นค่ะ มีส่วนครัวกับห้องน้ำจะอยู่อีกด้านนึง ซึ่งครัวจะอยู่ติดกับระเบียงที่เชื่อมต่อไปถึงห้องนั่งเล่นค่ะ ส่วนอีกด้านนึงของห้องนั้นจะเป็นโซนห้องนอนค่ะ แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว กับห้องนอนเล็กซึ่งถ้าจะออกมาเข้าห้องน้ำด้านนอกก็ต้องเดินไกลนิดนึง

ในภาพรวมห้องทั้ง 2 ขนาดนี้ เฟอร์นิเจอร์ตรงห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องครัว และห้องน้ำรวมนั้นจะเหมือนกันเลยค่ะ จะมาต่างกันที่การจัดวางพื้นที่ของห้องนอนทั้งสองมากกว่า ในห้องนอนใหญ่ของแปลนแบบ 59.20 ตารางเมตรจะได้ชั้นวางทีวี ส่วนแบบ 57.40 ตารางเมตรนั้นจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแทนค่ะ ส่วนห้องนอนเล็กนั้น ห้องขนาด 59.20 ตารางเมตรจะไม่สามารถวางเตียงคู่ได้ค่ะ เนื่องจากติดเสาโครงสร้างอาคาร ทำให้พื้นที่ภายในห้องนอนเล็กจะเว้าเข้ามาหน่อย แต่ห้องแบบ 57.40 ตารางเมตรนั้นสามารถวางเตียงคู่ queen size ได้สบายๆ  แต่ก็จะได้พื้นที่โต๊ะน้อยลงไปหน่อย

แปลนคอนโด Chewathai Interchange แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 57.40 ตารางเมตร

แปลนคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 57.40 ตารางเมตร


แปลนคอนโด Chewathai Interchange แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 59.20 ตารางเมตร

แปลนคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 59.20 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 87 ตารางเมตร

ตำแหน่งของห้องแบบ 3 ห้องนอนนั้นจะมีเพียงชั้นละห้อง ในชั้นที่ 24-26 เท่านั้นค่ะ เข้ามาภายในห้องเจอพื้นที่ทางเดินเข้าห้องโล่งๆ ซ้ายมือห้องแรกที่เจอจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวก่อนเลยค่ะ พอเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนขวามือจะเป็นทางเดินเข้าไปห้องนอนอีก 2 ห้อง แต่ต้องผ่านห้องครัวกับห้องน้ำรวมที่อยู่ตรงข้ามกับห้องครัวค่ะ ติดกับห้องน้ำจะเป็นห้องนอนเล็กห้องแรกสามารถวางเตียงควีนไซส์ได้ ส่วนด้านในสุดทางเดินจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ จะวางเตียงได้แค่แบบ 3 ฟุตครึ่งเท่านั้น ห้องค่อนข้างแคบ  แปลนของห้องนอนเล็กนี่ดูจัดแปลกๆอยู่

จุดดีของแปลนนี้คือจะมีหน้าต่างรอบ 3 ด้าน ฟังก์ชั่นเกือบทุกส่วนติดด้านนอกและได้แสงธรรมชาติทั้งหมด (ยกเว้นห้องน้ำ)  โดยปกติแล้วห้องขนาดนี้ในโครงการอื่นๆมักจะมีอ่างอาบน้ำมาให้สำหรับห้องนอนใหญ่  แต่โครงการนี้ให้มาเป็นห้องน้ำสัดส่วนปกติ  โดยเลือกไปเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและพื้นที่รับประทานอาหารแทน  โดยสเปซตรงนั้นกว้างมากทีเดียว และอยู่หัวมุมได้แสงธรรมชาติจากสองด้านด้วย

แปลนคอนโด Chewathai Interchange แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 67.40 ตารางเมตร

แปลนคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 67.40 ตารางเมตร

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 2 ห้องนอน 57.40 ตารางเมตร และ 59.20 ตารางเมตร เป็นห้องตัวอย่างที่แต่งไว้ในพื้นที่จริงเลยค่ะ จะได้เห็นสเปซกันชัดๆตามจริงกันไปเลย นอกจากนี้ห้องที่ได้ก็จะเป็นแบบ Fully furnished จะได้เกือบเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ ผนังจะได้ทาสีขาว ไม่มี Wallpaper แบบในห้องตัวอย่าง แล้วก็จะไม่มีพวกพรอพตกแต่งต่างๆ ผ้าม่านกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 2 ห้องนอน 57.40 ตารางเมตร

เข้ามาเจอพื้นที่รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 025_1

 

ระยะดูทีวีในพื้นที่ห้องนั่งเล่น กำลังดีไม่ได้ชิดจนเกินไป ติดกันเป็นระเบียงค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 026_1

 

มองย้อนกลับไปประตูทางเข้า จะเห็นสเปซทานข้าวกับสเปซทำงานเล็กๆ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 030_1

 

มุมสเปซทำงานหน้าห้องค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 029_1

 

เข้ามาดูภายในห้องครัวกันบ้าง เคาน์เตอร์จะเป็นแนวยาวไปตามพื้นที่ห้องครัวเลยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 031_1

 

สเปซของห้องครัวจะค่อนข้างแคบและยาว สองคนสวนกันต้องเบียดๆหน่อยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 034_1

 

ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 032_2

 

ภายในห้องน้ำด้านนอกค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 033_2

 

เข้ามาดูที่ห้องนอนเล็กกันก่อน วางเตียงขนาดคิงไซส์ได้แบบชิดผนัง มีที่เหลือด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 037_1

 

ภายในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 035_1

 

ส่วนด้านข้างจะเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 054_1

 

เตียงจะวางชิดกับผนังกระจกเช่นเดียวกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 036_1

 

มุมมองจากห้องนอนใหญ่ค่ะ มุมนี้จะเห็นตัวสถานีชัดเจนมากๆ เวลารถไฟวิ่งเสียงน่าจะดังพอสมควรค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 055

ห้องตัวอย่างคอนโด ชีวาทัย Interchange แบบ 2 ห้องนอน 59.20 ตารางเมตร

เข้ามาดูภายในห้องกัน ส่วนตรงกลางที่เป็นพื้นที่รับประทานอาหารกับพื้นที่นั่งเล่นจะคล้ายๆกับแบบ 57.40 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 049_1

 

มองย้านกลับไป โต๊ะทานข้าวจะอยู่วางชิดติดผนังค่ะ ส่วนอีกด้านเป็นมุมโต๊ะทำงาน Build-in เล็กๆ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 046_1

 

ติดกับมุมทำงานจะเป็นห้องครัว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 048_1

 

สเปซระหว่างพื้นที่ทำงาน ทางเข้าห้องครัว และพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 047_1

 

ภายในห้องครัวก็เหมือนแบบ 57.40 ตารางเมตร มีห้องน้ำอยู่เช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 045_1

 

ออกมาที่ห้องนั่งเล่นอีกรอบ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 051_1

 

สเปซนั่งเล่นพักผ่อนจะอยู่ติดกับห้องนอนใหญ่

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 052_1

 

เข้ามาดูภายในห้องนอนใหญ่กันค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 042_1

 

เตียงจะถูกวางไว้ชิดกับผนังกระจก

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 040_1

 

ระยะระหว่างเตียงกับบานกระจกด้านนอก

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 041_1

 

ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 043_1

 

ห้องนอนเล็กนั้นวางเตียงจะต่างจากในแปลนตรงที่จัดเตียงเอาหัวเตียงไปไว้ตรงส่วนที่เป็นเสา  แล้วทำ built-in ปิดเพื่อความเรียบร้อย  ทำให้พื้นที่ของเตียงนั้นฟิตเต็มพอดี  ซึ่งก็ทำให้ได้สเปซโล่งๆมาอีกค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 053_1

 

กลายเป็นเตียงเข้ามุมพอดี  แบบนี้ก็จะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนยากหน่อยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 038_1

 

มุมมองจากห้องทางทิศใต้ค่ะ วิวจะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยโล่งๆ เลยไปหน่อยจะเป็นโซนของทหารค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 056

 

ส่วนทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะแอบเห็นตัวสถานีอยู่ด้วยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 057

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาแบบจุใจ ตกแต่งมาให้ครบพร้อมเข้าอยู่แบบแทบจะไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่มเติ่ม ยกเว้นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ เนื่องจากเราเข้าไปดูห้องตัวอย่างแค่แบบ 2 ห้องนอน ดังนั้นวัสดุจึงเป็นแบบของ 2 ห้องนอนเท่านั้นนะคะ ส่วนใหญ่เฟอร์นิเจอร์ต่างๆจะเป็นของ Starmark ค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 123

ครัวของ 2 ห้องนอนจะเหมือนกันหมดค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 134

พื้นที่เก็บของด้านในเคาท์เตอร์ครัวทั้งบนและล่าง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 129

ซูมให้ดูเคาท์เตอร์ครัวด้านล่างที่ได้ มีช่องเว้นไว้สำหรับใส่เครื่องซักผ้าให้ด้วยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 124

Top เคาท์เตอร์ครัวจะเป็นสีขาว หน้าบานเป็นลายไม้

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 125

อ่างของ Teka หลุมเดียว แบบฝั่งใต้เคาท์เตอร์

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 126

ก๊อกน้ำของ Mogen เช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 132

เตาอบไมโครเวฟ ของ Teka

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 128

เตาไฟฟ้าของ Teka สี่หัว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 137

Hood ของ Teka เช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 133

เคาท์เตอร์ด้าบนผิวของหน้าบานจะทำ Hi-gloss มีเว้าเป็นช่องทำหรับใส่ตู้เย็น

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 135

ชั้นวางของด้านในค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 131

เพิ่มชั้นวางเครื่องปรุงต่างๆไว้ตรงเคาท์เตอร์ด้วย

วัสดุห้องน้ำ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 163

รอยต่อธรณีประตูห้องน้ำกับพื้นห้องครัวด้านนอกที่เป็นกระเบื้องเหมือนกัน ต่างกันที่ผิวสัมผัส ระดับพื้นจะเท่าๆกัน มียกธรณีขึ้นมากั้นแทนค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 152

ส่วนระหว่างพื้นห้องลามิเนตกับห้องน้ำ มีธรณีประตูเช่นกันแต่จะรอยต่อปิดตรงพื้นลามิเนตเป็นสีเดียวกับพื้นลามิเนตค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 142

อ่างล้างหน้าแบบข้างใต้มีที่เก็บของ ของ Mogen

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 143

ก็อกน้ำของ Mogen ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 164

กระจกตรงอ่างล้างหน้า มีชั้นวางของด้านใน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 157

พื่้นที่เก็บของตรงอ่างล้างหน้าค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 145

พื้นที่ภายในห้องน้ำของ 2 ห้องนอน 57.40 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 162

พื้นที่ภายในห้องน้ำของ 2 ห้องนอน 59.20 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 147

พื้นที่ส่วนอาบน้ำค่ะของแบบ 57.40 ตารางเมตรค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 160

พื้นที่ส่วนอาบน้ำของ 59.20 ตารางเมตร ตรงห้องครัวค่ะ พื้นที่หายไปส่วนนึงเนื่องจากติดเสา สเปซเลยออกมามีพื้นที่เล็กๆเหลืออยู่นิดหน่อย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 148

ฝักบัวมี 2 แบบ เป็นแบบ Rain shower และฝักบัวทรงกระบอก หน้าตาดูดี

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 159

ชั้นวางของสำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ แบบ 59.20 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 144

สุขภัณฑ์ของ Mogen เช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 161

ปลั๊กไฟในห้องน้ำที่มีตัวปิดกันน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 121

พื้นระหว่างห้องด้านในกับทางเดินด้านนอกกั้นด้วยธรณีประตูสีขาว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 120

กลอนประตูก้านโยกจากด้านนอก

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 119

กลอนประตูก้านโยกจากด้านใน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 106

กลอนประตูในห้องทั่วไป

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 118

บานประตูไม้หน้าห้องค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 081

สำหรับบานประตูห้องทั่วไปจะเป็นทาสีขาวค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 117

Door stopper

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 105

กรอบประตูทาสีขาว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 100

ปลั๊กไฟทั่วๆไปของ bticino ผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ ไม่มี Wallpaper ให้

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 099

หน้าตาสวิทช์ไฟของ bticino เช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 110

ไฟ Downlight

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 058

โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 090

ชั้นวางรองเท้าด้านหน้าห้อง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 089

ด้านในชั้นวางรองเท้า ส่วนด้านข้างจะเป็นที่เก็บของค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 116

โต๊ะทำงาน Build-in ตรงห้องนั่งเล่น

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 060

ด้าบนโต๊ะทำงานเป็นตู้เก็บของ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 068

พื้นที่ดูทีวีค่ะ มีตู้วางทีวี ชั้้นวางของ และตู้วางทีวี Build-in ให้เรียบร้อย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 067

พื้นที่เก็บของด้านใน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 101

หัวเตียงก็ได้แบบนี้เลยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 102

โต๊ะข้างเตียง ออกแบมาสามารถวางของด้านล่างได้ด้วย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 073

ตู้เล็กๆสำหรับเก็บของในห้องนอน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 078

ชั้นวางของตรงห้องนอนใหญ่ของแบบ 57.40 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 075

โต๊ะลอย Build-in มาให้ในห้องนอนใหญ่แบบ 2 ห้องนอน 57.40 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 076

ที่เก็บของด้านในค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 084

โตีะเครื่องแป้งในห้องนอนเล็กแบบ 2 ห้องนอน 57.40 ตารางเมตร

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 098

โต๊ะเครื่องแป้งของห้องนอนเล็ก แบบ 2 ห้องนอน 59.20 ตารางเมตร รูปแบบจะได้ต่างจากแบบ 57.40 ตารางเมตร เป็นพื้นลายไม้มีที่เก็บของด้านบน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 077

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ของแบบ 57.40 ตารางเมตรค่ะ เป็นประตูเลื่อนบานกระจก ส่วนด้านข้าง Build-in ชั้นวางของไว้ให้

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 085

ตู้เสื้อผ้าแบบ 59.20 ตารางเมตร จะเหมือนกันค่ะ ต่างกันตำแหน่งของชั้นวางของด้านข้าง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 097

ส่วนห้องนอนเล็กเป็นตู้เสือผ้าบานกระจกเช่นกัน

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 096

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบบานเปิดปิด

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 083

ห้องนอนเล็กแบบ 57.40 ตารางเมตร มี Build-in ชั้นวางของมาให้ในส่วนของพื้นที่เล็กๆที่เหลือมาด้วยค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 103

ชั้นวางทีวีในห้องนอนใหญ่

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 080

บานหน้าตาในห้องนอนใหญ่ ได้ผนังกระจกมาเต็มบาน ส่วนหน้าต่างจะเป็นแบบเปิดด้านข้างค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 082

หน้าต่างของห้องนอนเล็ก จะได้น้อยกว่าห้องนอนใหญ่

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 111

ดรอปรางม่านมาให้เรียบร้อย

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 095

ประตูบานเลื่อนระหว่างห้องนั่งเล่นกับระเบียง

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 093

ระเบียงเป็นแนวยาว

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 092

คอมเพรสเซอร์แอร์วางซ่อนตัวอยู่ค่ะ

ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - ภาพที่ 094

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (10 กรกฎาคม 2558) แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 3.34 ล้านบาท ที่ชั้น 7 ค่ะ  แบบ 2 ห้องนอนก็ไปเริ่มที่ 6.4 ล้านบาท  ซึ่งก็ถือว่าสูงพอควร  แลกมาด้วยทำเลที่ติดรถไฟฟ้า 2 สาย

ราคา ณ วันที่ 10 กรกฎาคม  2558 

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  พื้นที่ 26.60  ตร.ม. ชั้น 7  ราคา 3,345,200 บาท เฉลี่ย 129,774 บาท/ตร.ม.

2 bedroom  พื้นที่ 51.60  ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 6,471,000 บาท เฉลี่ย 125,406 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

Bedroom จอง 30,000 บาท / ทำสัญญา 70,000 บาท

Bedroom จอง 100,000 บาท / ทำสัญญา 100,000 บาท

  • ผ่อนผ่อนดาวน์

Bedroom ประมาณ 7.5% 

Bedroom ประมาณ 7% 

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  50  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom unit A00703 พื้นที่ 26.60 ตร.ม.  ราคาขาย 3.345 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 21,617 บาท/เดือน

2 bedroom unit A01001 พื้นที่ 51.60 ตร.ม.  ราคาขาย 6.471 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 41,817 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom unit A00703 พื้นที่ 26.60 ตร.ม.  ราคาขาย 3.345 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 22,874 บาท/เดือน

2 bedroom unit A01001 พื้นที่ 51.60 ตร.ม.  ราคาขาย 6.471 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 44,196 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom unit A00703 พื้นที่ 26.60 ตร.ม.  ราคาขาย 3.345 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 24,906 บาท/เดือน

2 bedroom unit A01001 พื้นที่ 51.60 ตร.ม.  ราคาขาย 6.471 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 48,179 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom unit A00703 พื้นที่ 26.60 ตร.ม.  ราคาขาย 3.345 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 28,660 บาท/เดือน

2 bedroom unit A01001 พื้นที่ 51.60 ตร.ม.  ราคาขาย 6.471 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 55,441 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom unit A00703 พื้นที่ 26.60 ตร.ม.  ราคาขาย 3.345 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 36,699 บาท/เดือน

2 bedroom unit A01001 พื้นที่ 51.60 ตร.ม.  ราคาขาย 6.471 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 70,991 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านการเดินทางด้วยการขับรถนั้นเข้าถึงไม่ลำบากเพราะอยู่บนถนนหลัก ซึ่งถนนประชาราษฎร์สาย 2 เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนกรุงเทพ-นนท์, ถนนประชาชื่น และถนนประชาราษฎร์สาย 1 เข้าด้วยกัน เดิมที่จะเป็นแค่ทางผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆ แต่พอมีรถไฟฟ้าเข้ามาปุ๊ปคอนโดก็ขึ้นตามๆกันมา กลายเป็นโซนนี้มีความคึกคักพอสมควรทีเดียว

ในบรรดาพื้นที่รอบๆสถานี “เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” ซึ่งคอนโดทั้งหมดในย่านนี้เอาชื่อไปใช้กัน คอนโดของชีวาทัยตัวนี้จะอยู่ใกล้กับสถานีเตาปูนมากที่สุด  ส่วนการเดินทางด้วยทางด่วน  ทางด่วนใกล้สุดก็ต้องไปตรงด่านกำแพงเพชร หรือตรงรัชดาภิเษก ซึ่งก็ถือว่าห่างจากโครงการพอสมควร  ซึ่งเป็นจุดที่ดูจะขาดไปของทำเลตรงนี้  ส่วนถ้าจะใช้บริการรถสาธารณะนั้นหน้าโครงการมีรถเมล์ผ่านตลอด  ไปได้หลากหลายที่มาก ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

รถไฟฟ้าสายสีม่วงกำลังจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้แล้วค่ะ  ซึ่งก็คงจะทำให้พื้นที่ “เตาปูน” เชื่อมต่อกับภายในเมืองได้อย่างสมบูรณฺ์ยิ่งขึ้น  ตามชื่อโครงการที่เป็น Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) และ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ)  และในอนาคตถ้าสายสีน้ำเงินเสร็จทั้งสายก็จะสามารถวนรอบกรุงเทพเป็นลูปไปได้เลย  เพราะพอไปสุดท่าพระก็จะไปถึงหัวลำโพงแล้วก็ไปบรรจบกับระบบของ MRT (บางซื่อ-หัวลำโพง) เดิมที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ส่วนสายสีม่วงนั้นจะมีส่วนต่อขยายไปถึงพระประแดง จากเตาปูนเพียง 2 สถานีก็ไปถึง MRT สถานีวัดมังกร (ใกล้ๆกับเยาวราช) ทำให้ช่วยร่นระยะการเข้าเมืองได้อีกด้วย


ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ - mrtmap

 

 

ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดใช้รถไฟฟ้านั้นทำให้ราคาของตลาดคอนโดเพิ่มขึ้นอย่างมากค่ะ  ลองนึกดูว่าถ้าเป็นเมื่อ 4-5 ปีก่อน มีคนมาบอกว่าคอนโดตรงเตาปูนราคาจะไปเตะที่เกินแสนบาทต่อตารางเมตรก็อาจจะยังนึกกันไม่ออกเท่าไหร่  แต่ตอนนี้ก็มีให้เห็นกันแล้ว  อย่างตอนที่โครงการนี้ยังเป็นชื่อ Cross Point @ Taopoon Station อยู่ ราคาเปิดตัวก็อยู่ประมาณ 9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร  แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นคอนโด Chewathai Interchange ก็ไปขายกันอยู่ที่ 12x,xxx บาทต่อตารางเมตรกันแล้ว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ที่ดินของโครงการนั้นอยู่ติดกับรถไฟฟ้ากันแบบสุดๆ   แปลนของคอนโดเป็นแบบเส้นตรงหันหน้าขนานกับแนวถนน  ลักษณะดีไซน์หน้าตาของคอนโดนั้นก็เป็นตามสมัยนิยมค่ะ  ตัวคอนโดใช้โทนสี 3 สีหลัก คือ น้ำเงินคราม สีฟ้าเทา และสีขาว  ใช้องค์ประกอบพวกระนาบเส้นตั้งเส้นนอนสีขาวมาตกแต่งตัวคอนโด ทำให้เกิดแพนเทิร์นบน   รวมไปถึงด้านล่างที่เป็นพื้นที่จอดรถที่มีการตกแต่งแพนเทิร์นเพิ่มเติมนิดหน่อย   ถ้ามองจากภายนอกของตัวคอนโดจะเห็นได้ว่าโครงการให้หน้าต่างมาเต็มบานเกือบทั้งหมด

ห้องแต่ละห้องในตัวคอนโดจะหันหน้าทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นส่วนใหญ่  จะมีแค่ห้องมุมทั้ง 4 ด้านที่เป็นแบบ 2 ห้องนอน ที่มีบางด้านหันออกทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้วย   ทางทิศเหนือนั้นจะร่มและก็จะเห็นวิวเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งด้วยความที่อยู่ใกล้สถานีมากๆ  เสียงรถไฟฟ้าน่าอาจจะดังพอสมควรเลยค่ะ  ส่วนทางทิศใต้ได้วิวโล่งๆเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่   เสียงจะเบากว่าแน่ๆ  ได้ความสงบมากกว่าด้านหน้าโครงการแต่ว่าจะร้อนกว่าจากแดดบ่าย  ตรงนี้ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักความต้องการของแต่ละคนดูค่ะ

ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาโอเคค่ะ  แบบ 1 ห้องนอนจัดออกมาเป็นสัดส่วนดี  แต่จะมีเฉพาะแบบครัวเปิด  ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับทำอาหารแบบมื้อหนักๆ อย่างจริงจังมากนัก   ส่วนแบบ 2 ห้องนอนทั้ง 2 ขนาดจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานคล้ายๆกัน ต่างกันเพียงตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์บางอย่างเนื่องจากพื้นที่บางส่วนอาจจะหายไปเพราะติดเสาโครงสร้างอาคาร   แต่สำหรับการเอามาทำห้องแบบ Fully Furnished ก็ built-in พื้นที่เก็บของมาให้ค่อนข้างเยอะดีค่ะ   แบบนี้ส่วนครัวนั้นอยู่ติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี  เหมาะสำหรับคนชอบทำครัวค่ะ

ด้านวัสดุนั้นให้มาดีในภาพรวม  ผิวสัมผัสโอเค  ซึ่งก็แน่นอนหล่ะค่ะว่าด้วยราคาเฉลี่ยระดับนี้ก็ต้องคาดหวังวัสดุในเกรดที่ดีตามมาด้วย  ตอนที่เข้าไปรีวิวได้ดูเฉพาะในแบบ 2 ห้องนอน  เลยไม่แน่ใจว่าแบบ 1 ห้องนอนนั้นจะให้มาในเกรดเดียวกันหรือเปล่า   ในแบบ 2 ห้องนอนนั้น  Built-in  เฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ  แบบพร้อมเข้าอยู่ได้เลย (แต่ต้องซื้อพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเพิ่มเองนะคะ) มีชั้นวางของและทำพื้นที่เล็กๆน้อยๆให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ดี

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นมีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Business Center, Lounge  ซึ่งก็เป็นตามมาตรฐานที่ควรได้ค่ะ  สเปซพื้นที่ส่วนกลางภายในคอนโดนั้นตกแต่งด้วยโทนสีทองและเหลืองทองเน้นแนวหรูหรา  ซึ่งการเลือกใช้โทนสีและวัสดุนั้นต่างจากการตกแต่งภายนอกตัวคอนโดพอสมควร  ด้าน สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 140 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นพอโอเคอยู่   ที่จอดรถเกือบ 60% กับโครงการติดๆกับรถไฟฟ้า 2 สายแบบนี้จัดว่าดีทีเดียวค่ะ

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้มีเปิดตัวไล่ๆกันช่วงปีที่แล้วหลายโครงการค่ะ เป็นตระกูลลงท้ายด้วย Interchange เริ่มตั้งแต่โครงการเพื่อนบ้านของ Chewathai Interchange อย่าง Rich Park2 @ Taopoon Interchange ถัดไปอีกนิดก็มี The Stage Taopoon Interchange และ The Tree Interchange ของทางพฤกษาที่อยู่ติดกันค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

Chewathai Interchange

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวคอนโดพร้อมอยู่ B-Republic สุขุมวิท 101/1 พร้อมเผยกลยุทธ์การขายปิดโครงการในไตรมาส 3

$
0
0

เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคมที่ผ่านมา บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ด้วยห้องตัวอย่างแนวคิดReplay by B-Republic”  อีกทั้งยังเผย “จุดแข็งที่เหนือกว่า” กลยุทธ์ที่จะทำให้สามารถขายปิดโครงการได้ในไตรมาส 3 โดยมี นางสาวกนกวรรณ  ใจศรี  ผู้อำนวยการอาวุโส  ผู้บริหารสายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวในการสนับสนุนสินเชื่อรายย่อยในครั้งนี้ด้วย

B-Republic สุขุมวิท 101/1 คอนโดมิเนียม Low Rise นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวแนวความคิดการออกแบบว่า Replay by B Republic – Sukhumvit 101/1  เป็นคอนโดสไตล์ “Modern Scandinavian”  ภายใต้แนวคิด  “Republic of Modern Living”  เน้นการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ซ่อนความเรียบหรู ผสานความคลาสสิค ทันสมัย ด้วยการออกแบบร่วมสมัยกับกลิ่นอายความเป็นสแกนดิเนเวียน

บ่งบอกถึงผู้ที่ชื่นชอบและรักความงามของธรรมชาติให้ใช้ชีวิตได้แบบสำเร็จรูปแนวคิด Smart Design ครบทุกฟังก์ชั่น  คุ้มทุกพื้นที่”   ซึ่งโครงการนี้ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 101/1 (ซอยวชิรธรรม 34)  บนพื้นที่ 2-0-69 ไร่  มูลค่าโครงการรวม 680 ล้านบาท  เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 347 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 23 – 51 ตรม.  ทั้งแบบ 1 ห้องนอนแยกส่วน พร้อมห้องรับแขกและห้องครัว  แบบ 1 ห้องนอนแยกส่วน มีห้องรับแขก พร้อมห้องทำงานส่วนตัวและห้องครัว  รวมถึง 2 ห้องนอน

B.Republic  - (ภาพที่ 004)

Lobby สูง 2 ชั้น คอนโด B-Republic

 

B.Republic  - (ภาพที่ 007)

 

 

นายพีระพงศ์  ได้เปิดเผยอีกว่า  “บริษัทได้วางแผนกิจกรรมการตลาดเข้าหากลุ่มเป้าหมาย  โดยมีแผนการออกบูธงานแสดงสินค้าบ้านคอนโดใหญ่ ๆ อย่างต่อเนื่อง   รวมถึงตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ   ที่จับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการคอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้า  ได้แก่ 1-7 ก.ค. (Booth@Lotus อ่อนนุช),  13-15 ก.ค.(Booth@Terminal21) ในสัปดาห์นี้ 14-20 ก.ค.(Event@site) Replay by B Republic Open house Party    และ   21-28 ก.ค.(Booth@Seacon)  พร้อมทั้งเดินขายบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งที่ผ่านประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม   โดยในไตรมาสนี้  มีแผนเตรียมบุกตลาดประเทศสิงคโปร์,  ญี่ปุ่น  และ  กวางโจว (Guangzhou)

โดยโครงการ Repaly by  B Republic  นี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จากจุดแข็งเรื่องการขายที่พนักงานขายทุกท่าน สามารถเป็นที่ปรึกษาเรื่องของที่อยู่อาศัยไปพร้อม ๆ กับเรื่องของการวางแผนสินเชื่อได้เป็นอย่างดี ซึ่งโปรโมชั่นพิเศษของ โครงการ B  Republic พร้อม Concept เปลี่ยนจากเช่าเป็นเจ้าของ ทางโครงการได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ช่วยวางแผนสินเชื่อและการผ่อนชำระให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่านที่มีความต้องการที่หลากหลายแตกต่างกัน  จะสามารถผลักดันยอดขายสำหรับไตรมาสนี้ได้

ด้วยศักยภาพแห่งทำเลของ B-Republic สุขุมวิท 101/1 สามารถตอบสนองทุกความต้องการของความเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ด้วยการเดินทางที่มีความสะดวกในการเดินทางเพียง 5 นาที จากสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี BTS อุดมสุข และสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนหลัก 5 สาย คือ สุขุมวิท 101, สุขุมวิท 101/1, สุขุมวิท 103, ถนนศรีนครินทร์,  ถนนบางนา-ตราด รวมถึงทางด่วนหลายสาย  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่ครบครัน  อาทิ พื้นที่ส่วนกลางกว่า 1,100 ตรม.  โถง Lobby Double Volume 2  ชั้น  พร้อมชุดรับแขก สวนธรรมชาติอันร่มรื่น  สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แยกสระเด็ก-ผู้ใหญ่  ห้องออกกำลังกาย พื้นที่ Modern Play Room สำหรับพักผ่อนและสังสรรค์  มุมหนังสือ ที่จอดรถ รวมถึงบริการพิเศษ ลูกค้าในโครงการสามารถใช้บริการ Shuttle Van ของโครงการมาส่งยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดได้อย่างสะดวกอีกด้วย

B.Republic - (ภาพที่ 001)

B.Republic - (ภาพที่ 003)

Meeting Room คอนโด B-Republic


B.Republic  - (ภาพที่ 010)

สวนบนชั้นดาดฟ้า คอนโด B-Republic

 

สำหรับโปรโมชั่นพิเศษของโครงการ Replay by  B Republic โอกาส Open House Party  ณ โครงการ ในวันที่  14 – 20 ก.ค. 58 นี้  จองเพียง 4,900.- บาท  กู้เต็มจำนวน  ในราคาเริ่มต้น  1.79 ล้านบาท  ฟรี ค่าโอน  ค่าส่วนกลาง และ ฟรี เฟอร์นิเจอร์  พร้อม Cash Back  สูงสุด 500,000.- บาท  สอบถามรายละเอียดได้ที่ 084-902-0009  หรือ www.brebpubliccondo.com

ส่วนความคืบหน้าด้านการเตรียม Trade นายพีระพงศ์ เปิดเผยว่า  ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) นั้น บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาส3 จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท    ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ แล้ว

ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับ การขยาย และพัฒนาโครงการรวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จํานวน 12โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,065ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีก จํานวน 6โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,570 ล้านบาท  ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการอยู่ในมือ 27 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 17,000 ล้านบาทและพร้อมส่งมอบ Backlog คุณภาพกว่า 5,300 ล้านบาท  นายพีระพงศ์ กล่าวปิดท้าย

การจัดตกแต่ง Indirect Lighting หรือไฟซ่อน ไฟหลืบ และเทคนิคการติดตั้ง [ไอเดียอยู่สบาย]

$
0
0

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวอยู่สบาย ก่อนหน้านี้ไอเดียอยู่สบายได้เคยแนะนำ

“ไอเดียการจัดแสงสว่างภายในห้องบ้าน และคอนโดให้ได้บรรยากาศที่ดี” ไปแล้ว

ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆยังจำกันได้อยู่หรือเปล่าคะ

ถ้าจำกันไม่ได้ หรือยังไม่เคยอ่าน ลองตามกันไปอ่านได้นะคะ

 >>> การจัดแสงสว่างในบ้านและคอนโด <<<

(photo : pinterest.com)

(photo : pinterest.com)

คร่าวๆ คือ ครั้งนั้นได้นำเสนอให้เพื่อนๆได้รู้จักกับการจัดแสงสว่าง โดยแบ่งจากลักษณะของการใช้งานที่สามารถแบ่งออกได้เป็น แสงเพื่อการใช้งาน และแสงเพื่อสร้างบรรยากาศ หรือตกแต่ง

.
.
.
.

แต่ แต่ แต่ ในครั้งนี้อยากจะมานำเสนอไอเดียการจัดแสงสว่าง

ในอีกลักษณะหนึ่งที่แบ่งจากลักษณะของการให้แสงสว่าง

และการกระจายของแสง สามารถแบ่งเป็น

1 แสงสว่างแบบส่องโดยตรง หรือที่เราทุกคนคุ้นหูกันว่า Direct Lighting

เป็นการกระจายของแสงจากแหล่งกำเนิดของแสงโดยตรง ส่องไปในบริเวณที่ต้องการ เพื่อการใช้งานทั่วไป เพื่อการใช้งานเฉพาะจุด หรือเพื่อสร้างบรรยากาศตกแต่งก็ได้ ให้ความเข้มของแสงได้ดีที่สุด ให้ความสว่างแก่พื้นที่ได้เป็นอย่างดี หากไม่ได้แอบหรี่ไฟจากระบบหรี่ไฟที่ติดตั้งไว้นะคะ

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

สังเกตุง่ายๆว่าไฟแบบไหนเป็นแบบ Direact Light จากการที่เราสามารถมองเห็นหลอดไฟได้อย่างชัดเจนภายหลังการติดตั้ง

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

2 แสงสว่างแบบส่องโดยอ้อม หรือ Indirect Lighting ซึ่งโดยส่วนมากทุกคนมักจะเรียกกันว่า ไฟหลืบ ไฟซ่อน

เป็นแสงที่เกิดจากการสะท้อนแสงจากแหล่งกำเนิดแสง หรือหลอดไฟ ส่องกระทบไปบนพื้นที่ระนาบให้มีการส่องสว่าง สามารถกระจายแสง และให้แสงได้อย่างสม่ำเสมอสบายตา โดยส่วนมากมักจะใช้เพื่อสร้างบรรยากาศ และตกแต่ง มากกว่าให้แสงเพื่อการใช้งานทั่วไป  ซึ่งแบบ Indirect Light นี้ก็จะมองไม่เห็นหลอดไฟภายหลังการติดตั้งค่ะ

(photo : via)

(photo : via)

แต่ในความเป็นจริงแล้วในบางพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้ได้แสงสว่างที่จ้าเกินไปนั้นก็สามารถใช้ Indirect Lighting เพื่อการใช้งานทั่วไปได้ เช่น ใช้เป็นไฟส่องทางเวลากลางคืนภายในห้อง สำหรับใครที่อยากลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก แต่ไม่อยากเปิดไฟทั้งห้องรบกวนคนที่นอนอยู่ให้ห้องเดียวกัน (ขอติดป้าย 18+ นะคะ) โดยมากมักติดตามใต้โต๊ะหัวเตียง หรือใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ

(photo : via)

(photo : via)

หรือตามสปาก็ใช้ไฟลักษณะนี้เป็นไฟเพื่อการใช้งาน

(photo : via)

(photo : via)

หรือแม้แต่ไฟฟลูออเรสเซสที่ติดบนฝ้าตามสำนักงาน หรือร้านกาแฟบางแห่งนั้น ก็มีการใส่กระจก ใส่อะคลีลิคครอบปิดตัวหลอดไฟไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ได้แสงนวลสบายตามากขึ้น และไม่ทำให้เกิดแสงจ้าบนระนาบของพื้นที่ทำงาน

(photo : via)

(photo : via)

การติดตั้งระบบแสงชนิดนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าระบบการให้แสงสว่างแบบส่องโดยตรง และไม่เหมาะกับการติดตั้งกับฝ้าเพดานที่มีความสูงมาก หรือติดตั้งในบริเวณที่แหล่งกำเนิดแสงมีระยะห่างจากพื้นที่ระนาบที่แสงตกกระทบมากเกินไป

การติดตั้ง Indirect Lighting สามารถทำได้หลายวิธีนะคะ

ไอเดียอยู่สบายขอเสนอเทคนิคการติดตั้ง Indirect Lighting

ให้เพื่อนๆได้รู้จักกันซัก 8 วิธี ที่มักเห็นใช้กันทั่วไปค่ะ

  1. Cove Lighting
  2. Case Lighting
  3. Toe Kicks
  4. Under Cabinet / Shelf
  5. Curtain / Wall Washing
  6. Backlit Glass / Signage
  7. Railings / Architectural Details
  8. Backlit Mirrors
สีเหลืองที่แสดงในภาพ เป็นบริเวณที่แสงส่องกระทบนะคะ (photo : pinterest.com)

สีเหลืองที่แสดงในภาพ เป็นบริเวณที่แสงส่องกระทบนะคะ (photo : pinterest.com)

ว่าแล้วตามมาดูตัวอย่างไอเดียการจัดไฟตามเทคนิคทั้ง 8 วิธีกันเลยนะคะ . . . .

1

Cove Lighting

ติดตั้งตามหลืบ แบบให้แสงส่องกระทบด้านบน นิยมใช้เป็นไฟหลืบสำหรับหลุมฝ้าเพดาน

(photo : pinterest.com)

(photo : pinterest.com)

(photo : via)

(photo : via)

2

Case Lighting

ติดตั้งแบบมีตัวกรองแสง นิยมใช้ในลักษณะเป็นกล่องไฟ ให้แสงที่มลังเมลือง สามารถใช้ได้ทั้งในระนาบนอน และระนาบตั้ง ตัวกรองแสงที่ใช้ สามารถใช้วัสดุที่โปรงแสงแต่ไม่โปรงใส อาจจะเป็นได้ทั้งกระจกฝ้า อะคลีลิค หรือหิน

(photo : pinterest.com)

(photo : pinterest.com)

(photo : via)

(photo : via)

3

Toe Kicks

ติดตั้งแบบให้แสงส่องกระทบด้านล่าง เน้นให้แสงส่องกระทบลงพื้น จะมีลักษณะตรงกันข้ามกับการติดตั้งแบบที่ 1 กลับทิศกันและไม่จำเป็นต้องมีปีกยื่นออกมาสำหรับบังตัวหลอดไฟ เนื่องจากเป็นการติดตั้งที่ระดับต่ำกว่าสายตามาก เหมาะใช้สำหรับส่องทางเดิน หรือขั้นบันได

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

4

Under Cabinet / Shelf

ติดตั้งใต้เคาน์เตอร์ หรือชั้นวางของ เพื่อให้แสงส่องกระทบวัตถุสิ่งของที่อยู่ภายใน ให้โดดเด่นสวยงามมากขึ้น

(photo : via)

(photo : via)

5

Curtain / Wall Washing

ติดตั้งแบบให้แสงสาดส่องเข้าหาผนัง ม่าน หรือพื้นระนาบแนวตั้ง โดยเน้นให้แสงมาจากทางด้านบน และปล่อยให้มืดดำในส่วนด้านล่าง

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

6

Backlit Glass / Signage

ติดตั้งแบบให้แสงสาดส่องเข้าหาผนัง หรือวัตถุอย่างทั่วถึงทั้งแนวระนาบตั้ง ต่างจากการติดตั้งแบบที่ 5 คือ ให้แสงทั้งส่องลง และส่องขึ้น และบางครั้งสามารถติดตั้งจัดซ่อนไฟเพื่อให้แสงจากทางด้านข้างด้วย นิยมใช้สร้างบรรรยากาศ และจุดเด่นให้กับระนาบตั้ง ผนัง ป้าย หรือช่องเจาะในผนัง

(photo : via)

(photo : via)

7

Railings / Architectural Details

ติดตั้งใต้มือจับราวบันได หรือรายละเอียดองค์ประกอบเล็กๆในงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ลักษณะการให้แสงจะใกล้เคียงการติดตั้งในแบบที่ 4 เพียงแต่จะมีระยะ หรือพื้นที่ติดตั้งหลอดไฟที่น้อยกว่ามาก

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

8

Backlit Mirror

ติดตั้งแบบให้แสงส่องออกมาโดยรอบวัตถุ นิยมใช้กับกระจกแต่งหน้าภายในห้องน้ำ ป้าย หรืองานประติมากรรมต่างๆ

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

จะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้เทคนิควิธีติดตั้งหลายวิธีในพื้นที่เดียวกันได้สบายๆเลยค่ะ

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

(photo : via)

ส่วนการเลือกใช้หลอดไฟสำหรับการให้แสงแบบ Indirect Lighting นั้น สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายด้วยกัน เน้นหลอดไฟที่มีลักษณะเป็นหลอดแนวยาว หรือเป็นสายยาว ไม่ว่าจะเป็น

  • หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp) แบบหลอดยาว T12, T8 หรือ T5
(หลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบหลอดยาว)

(หลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบหลอดยาว)

  • หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) แบบหลอดยาว เหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent Lamp)

Lighting02_022

  • หลอดไฟ LED แบบเส้น หรือแบบสายยาง เช่น หลอด LED Cove Light, หลอด LED Rope Light หรือหลอด LED Strip Light

Lighting02_023

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ติดตั้งว่า มีลักษณะเป็นแนวตรงหรือโค้ง และมีพื้นที่ให้ติดตั้งหลอดไฟได้มากน้อยแค่ไหนนะคะ

สำหรับใครที่อยากรู้จักกับชนิดของหลอดไฟเพิ่มเติมสามารถ ดูได้จากไอเดียอยู่สบายเรื่องการซื้อหลอดไฟค่ะ

>>> “หลอดไฟ และการเลือกซื้อมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม” <<<

ลากันไปก่อนสำหรับครั้งนี้นะคะ พบกันใหม่กับไอเดียอยู่สบายในครั้งหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ

sasivimol_footer_001

โนเบิลฯ จัดงานใหญ่ “Noble DDay” นำบ้านและคอนโดฯ 10 โครงการคุณภาพใกล้รถไฟฟ้า พร้อมส่วนลดและข้อเสนอพิเศษสูงสุด 2.5 ล้านบาท วันที่ 23 – 29 ก.ค. นี้ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

$
0
0

โนเบิลฯ จัดงานใหญ่ Noble DDay” นำบ้านและคอนโดฯ 10 โครงการคุณภาพใกล้รถไฟฟ้า พร้อมส่วนลดและข้อเสนอพิเศษสูงสุด 2.5 ล้านบาท ในวันที่     23 – 29 กรกฎาคมนี้ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

 

Noble D DAY

Noble D DAY

โนเบิลฯ เดินหน้ากระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง รวมสุดยอดโครงการเด่น ทำเลใกล้รถไฟฟ้า BTSและ MRT จัดงานใหญ่แห่งปีNoble DDayรวบรวมโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์กว่า 10 โครงการบนไพร์มโลเคชั่นของกรุงเทพฯ อาทิ ทองหล่อ รัชดา อารีย์ พญาไท พัฒนาการ และอื่นๆ พร้อมมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะงานนี้ รวมมูลค่าสูงสุด 2.5 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างยอดขายกว่า 500 ล้านบาท

นายกิตติ  ธนากิจอำนวย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ การจัดงาน “Noble DDay” ระหว่างวันที่ 23 – 29 กรกฎาคม 2558  บริเวณชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เป็นการรวบรวมเอาโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์กว่า 10 โครงการใกล้แนวรถไฟฟ้ามานำเสนอในงาน  เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ได้เป็นเจ้าของง่ายขึ้น ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3.3 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา คือ โครงการโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2  และโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อีก 9 โครงการ ได้แก่  โครงการ    โนเบิล รีดี อารีย์  ,โนเบิล โซโล ทองหล่อ,  โนเบิลรีมิกซ์ 2 ทองหล่อ, โนเบิล รีเวนต์ พญาไท ,โนเบิล เกเบิล วัชรพล ,โนเบิลจีโอ พระราม5 ,โนเบิลวานา วัชรพล ,โนเบิลคิวบ์ พัฒนาการ, และโนเบิลทารา พัฒนาการ

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จัดข้อเสนอพิเศษเพื่อช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่จองในช่วงเวลา 7 วันนี้เท่านั้น! ด้วยข้อเสนอพิเศษมูลค่าสูงสุด 2.5 ล้านบาท

Noble D DAY

  • รับ Gift Voucher  มูลค่า 20,000 บาท
  • รับส่วนลดเงินสดวันโอนกรรมสิทธิ์ 18%
  • ฟรี!เงินกองทุนแรกเข้า และค่าส่วนกลาง สูงสุด 3 ปี
  • ผ่อนค่าทำสัญญา 0% เป็นเวลา 3 เดือน กับบัตร K Bank Visa

นอกจากนี้นายกิตติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการจัดงาน Noble D Day ในครั้งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งใน        กลยุทธ์กระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้า รวมถึงกระตุ้นภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังให้มีความคึกคักมากขึ้น โดยคาดว่าภายหลังจากการจัดงานจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทำให้มีผู้เข้าเยี่ยมชมงานเป็นจำนวนมาก เพราะโครงการคอนโดมิเนียมของโนเบิล ซึ่งเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นในเรื่องของสุดยอดโลเคชั่นใจกลางกรุงเทพฯและมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยของ Noble ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 500 ล้านบาท ในช่วงวันงาน 23 – 29 กรกฎาคมนี้ อย่างแน่นอน” นายกิตติ กล่าว

หากสนใจโครงการคอนโดและบ้าน เชิญพบกันที่งาน Noble DDay ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-251-9955 หรือ www.noblehome.com

Pause ID สุขุมวิท 107 (Pause ID Sukhumvit 107) คอนโด low rise ซอยแบริ่ง 16 จากออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ [รีวิว]

$
0
0

มาพบกับการรีวิวคอนโดมิเนียมกันอีกเช่นเคยครับ รีวิวนี้เราจะพาไปดูคอนโด Pause ID แบริ่ง 16  เป็นคอนโด Low rise ของ Origin Property   สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือ BTS สถานีแบริ่ง  โดยคอนโดนั้นเข้าจากปากซอยแบริ่งมาประมาณ 900  เมตร  เป็นคอนโดราคาประหยัดแบบหยิบจับง่าย  ส่วนจะมีรายละเอียดยังไงนั้น YuSabuy ก็ขอขันอาสาลงพื้นที่เจาะลึกข้อมูลของคอนโด Pause ID ให้สมาชิกของอยู่สบายกันอีกเช่นเคย

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Pause ID Sukhumvit 107 (Pause ID สุขุมวิท 107)

  • เจ้าของโครงการ >>> Origin Property (ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ซอยแบริ่ง 16 หรือสุขุมวิท 107
  • ขนาดที่ดิน >>>  0-3-90 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น  (อาคารจอดรถรวมอยู่ในตัวคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>

สตูดิโอ (Type Bs)  20.50 – 23.80 ตารางเมตร

1 ห้องนอน (Type B)  24.80 – 26.90 ตารางเมตร

1 ห้องนอน (Type B1)  25.36 – 28.82 ตารางเมตร

2 ห้องนอน (Type B Plus)  30.00 – 36.60 ตารางเมตร

  • จำนวนยูนิต >>>  201  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 30% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.29 ล้านบาท (ห้องสตูดิโอ ชั้น 2 ณ วันที่ 6/7/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  60,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.655003, 100.607448
Pause ID - buildong

Pause ID ซอยแบริ่งหรือสุขุมวิท 107


Pause ID - swimming pool fl.2

ชั้น 2 คอนโด Pause ID ซอยแบริ่ง

 

ซอยแบริ่ง หรือชื่อทางกาารว่าสุขุมวิท 107 นั้น เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์  โดยซอยแบริ่ง 16 นั้นจะอยู่ค่อนมาทางสุขุมวิท  ซึ่งจะเชื่อมออกทางสุขุมวิท 109 ได้ด้วย  ภายในซอยเป็นถนน 4 เลน สวนกัน สภาพถนนดีขับรถได้สะดวกครับ  ถ้าวัดระยะห่างจากถนนศรีนครินทร์ก็ประมาณ 3.5 กิโลเมตรครับ

แผนที่-คอนโด-พอส-ไอดี-สุขุมวิท-107-Pause-ID-Sukhumvit-107

แผนที่ Pause ID

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

Route

 

การเดินทางไปคอนโด Pause ID  จะสามารถเข้าได้จากทางหลัก 2 ทาง คือ จากถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์  ถ้ามาจากทางถนนศรีนครินทร์โดยมาทางเทพารักษ์ ซอยแบริ่งจะอยู่ถัดจากซอยศรีด่าน 13   แต่ถ้าขับมาจากเส้นทางบางนาจะต้องไปยูเทิร์นไกลหน่อยประมาณ 1.1 กิโมเมตร (ไปกลับรถตรงหน้าสนามกอล์ฟเดอะแกรนด์คันทรี่) จะไม่สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยแบริ่งได้เลยเพราะติดเกาะกลางถนน

แต่การเดินทางของเราในวันนี้ เลือกเข้าจากถนนสุขุมวิท ขับรถเส้นสุขุมวิทขาออกตามแนว BTS ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกบางนา เราจะเห็นสถานี BTS บางนา และสถานี BTS แบริ่ง เมื่อผ่านสถานีแบริ่งก็เตรียมชิดซ้ายเพราะซอยไม่ไกลจากสถานีนี้นัก  เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้เลย  หากมาจากเส้นสุขุมวิทขาเข้าก็สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยแบริ่งได้เลยเช่นกันครับ

Rev213--Surrounding-Zoom

Pause-ID-baring---A

ขับรถวิ่งเส้นสุขุมวิทขาออก เหมือนขับรถตาม BTS ไปครับ

Pause-ID-baring---B

สี่แยกบางนา บริเวณนี้จะมีทางขึ้น-ลง ทางพิเศษเฉลิมมหานครด้วยครับ แต่เราขับตรงผ่านแยกนี้ไป

Pause-ID-baring---C

เลยสี่แยกจะเป็นคอนโด High Rise ของ The Coast Bangkok

Pause-ID-baring---D

สถานีบางนาครับ จะมีสถานที่สำคัญๆบริเวณนี้ อย่างศูนย์ประชุมไบเทคบางนา ก็สามารถลงสถานีนี้เพื่อเชื่อมไปยังอาคารจัดแสดงได้เลย

Pause-ID-baring---E

ตรงมาเรื่อยๆ ช่วงกว้างถนน ไปและกลับรวม 6 เลน

Pause-ID-baring---F

พอถึงสถานีแบริ่งก็แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว คอนโดจะอยู่ซอยแบริ่ง เตรียมเลี้ยวซ้ายได้เลย

Pause-ID-baring---G

เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด แต่ระวังรถทางขวาที่จะเลี้ยวเข้ามาในซอยด้วยเช่นกัน

Pause-ID-baring---H

ซอยแบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 จะเป็นซอยที่กว้าง มีถนน 4 เลน  สภาพถนนดีมากมีฟุตบาทอยู่ 2 ข้างทาง

Pause-ID-baring---I

ขับเข้ามาเราจะเห็นสำนักงานขายของ Pause ID ก่อนครับ จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ระยะทางจากปากซอยประมาณ 350 เมตร  เดี๋ยวเราจะมาดูห้องตัวอย่างที่นี่กัน  แต่ตอนนี้ขับรถเลยเข้าไปในซอยอีกหน่อย  เพื่อดูที่ตั้งโครงการกันก่อนครับ

Pause-ID-baring---J

ขับรถเข้าซอยมาอีกเรื่อยๆ  ตัวโครงการคอนโด Pause ID เอง จะอยู่ในซอยแบริ่ง 16 ทางขวามือ  ตรงปากซอยนี้เป็นที่ตั้งของออฟฟิศของ  บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ เองด้วยที่ปากซอย  อยู่ใกล้โครงการในแบบที่ว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็เดินไปหาดีเวลลอปเปอร์กันได้เลย

Pause-ID-baring---K

พอเลี้ยวเข้ามาในซอยแบริ่ง 16 คอนโด Pause ID จะอยู่ทางขวามือ ระยะทางจากปากซอย 100 เมตรครับ  ในรูปคือแนวรั้วสีชมพูนั่นแหละ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ด้วยคอนโด Pause ID แบริ่ง 16 จะตั้งอยู่ลึกจากปากซอยแบริ่ง 16 100 เมตร รอบๆส่วนใหญ่จะรายล้อมด้วยบ้านพักอาศัย ภายในซอยนี้สามารถทะลุไปซอยแบริ่ง 10, 12 และ 14 ที่อยู่ขนานกันได้  แถมยังทะลุไปออกซอยสุขุมวิท 109 ได้ด้วย นอกจากบ้านพักอาศัยที่อยู่ข้างเคียงแล้ว ไม่ไกลมากจะมีสำนักงานของบริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) (หมายเลข 1)  ที่เราได้เห็นจากปากซอยก่อนเข้าโครงการแล้ว ด้านหน้าของคอนโดจะเป็นบ้านพักอาศัยเช่นกัน   ถัดไปหน่อยเป็นโรงงานและมีลานจอดรถของพนักงานที่กว้างมากๆ (หมายเลข 2) …. เดินไปสำรวจซอยข้างๆที่ตั้งคอนโดกันบ้าง เห็นเด่นชัดเลยจะมีหอพักสูง 10 ชั้น (หมายเลย 3) อยู่ขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็นตึกสำนักงานสูง 4 ชั้น (หมายเลข 4) เดินลัดเลาะไปทางแบริ่งซอย 10 ไปสู่ถนนใหญ่กันบ้าง จะมีร้านแฟมิลี่ มาร์ท (หมายเลข 5) อยู่ปากซอยแบริ่ง 10 ครับ เลยไปทางต้นซอยแบริ่ง มีอาคารพาณิชย์ (หมายเลข 6) และร้าน 7-11 ค่อนข้างใหญ่อยู่ตรงข้ามกัน (หมายเลข 7) เลยออกไปหน่อยจะเป็นคอนโดสูง จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับ ทั้งคอนโด The Gallery (หมายเลข 8) จาก The Urban Property และคอนโด Knights Bridge (หมายเลย 9) จะเป็นของทาง Origin Property เจ้าของเดียวกับคอนโด Pause ID นี่แหละ

อย่างที่บอกซอยแบริ่งสามารถทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 109 ได้  ในซอยนั้นก็เป็นที่ตั้งของคอนโดหลายโครงการ เราเลยไปแวะเวียนดูสักหน่อย ไม่ใกล้ไม่ไกลจะเป็นคอนโด D Condo จากแสนสิริ (หมายเลข 10) ทะลุจากซอยแบริ่ง 12 ก็จะเจอโครงการเลย ถัดไปอีกนิดจะเป็นคอนโดลุมพินีวิลล์ จากลุมพินี (หมายเลข 11) ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะเป็นคอนโดประเภท Low Rise เช่นเดียวกับคอนโด Pause ID เลยครับ

Rev213-Surrounding

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่แถวนั้นบ้าง

Pause ID baring - (ภาพที่ 028)

แนวของที่ดินด้านหน้าคอนโดครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 032)

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น  อยู่กันแบบหลวมๆ ไม่หนาแน่นมาก

Pause ID baring - (ภาพที่ 026)

มุมนี้มองออกไปตรงๆทางปากซอยแบริ่ง 16

Pause ID baring - (ภาพที่ 031)

และยังมีที่รับซื้อของเก่าในซอยนี้ด้วย ตั้งอยู่เยื้องๆกับคอนโดครับ  สภาพไม่ค่อยน่าดูนัก แต่ยังดีที่ไม่ได้หันหน้าเห็นตรงๆจากคอนโด

Pause ID baring - (ภาพที่ 034)

ด้านหลังคอนโดจะเห็นตึกสูง 10 ชั้น ชัดเจน ซึ่งเป็นหอพักดูจากสภาพน่าจะสร้างมานานแล้วครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 035)

ที่ติดกับด้านหลังคอนโดจะเป็นบ้านพักอาศัยที่เปิดเป็นอู่ซ่อมรถเล็กๆ  ของที่เห็นกองอยู่นี่คือกำลังเคลียร์พื้นที่จากในโครงการ  เดี๋ยวก็คงเก็บให้เรียบร้อยครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 036)

ข้างๆคอนโดจะเป็นซอยเล็กๆ มีร้านค้ารถเข็นอยู่  ซอยนี้เชื่อมไปยังแบริ่งซอย 10, 12 และ 14 ครับ  รั้วสีโอรสทางขวามือที่เห็นคือบ้านที่เป็นอู่รถที่อยู่ด้านหลังคอนโด

Pause ID baring - (ภาพที่ 040)

สำนักงาน 4 ชั้น แบริ่งซอย 14 อยู่ถัดจากคอนโดไปอีกซอย  มีตู้ ATM ของธนาคารกรุงเทพอยู่ด้านหน้า

Pause ID baring - (ภาพที่ 042)

ร้านแฟมิลี่ มาร์ท อยู่ปากซอยแบริ่ง 10 เดินจากซอยข้างๆคอนโดทะลุไปได้ ระยะทางประมาณ 350 เมตร

Pause ID baring - (ภาพที่ 045)

ตรงหัวมุมแบริ่งซอย 1 จะมีร้าน 7-11 สาขาค่อนข้างใหญ่อยู่ด้วยครับ  ถ้าขับรถกลับคอนโดมาจากสุขุมวิทจะแวะซื้อของเข้าคอนโด ก็แวะตรงนี้ได้  มีที่จอดรถให้ด้านหน้า  สะดวกดี

Pause ID baring - (ภาพที่ 057)

ถ้าเข้าซอยสุขุมวิท 107 ไปเรื่อยๆ จะเจอโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา ครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 053)

ในซอยสุขุมวิท 105 ก็จะมีโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา (ฺBangkok Patana International School) อยู่ เป็นโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอีกแห่งในย่านนี้ครับ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

หน้าตาสำนักงานขายคอนโด Pause ID  ซึ่งใช้เป็นสำนักงานขายร่วมกับอีกโครงการนึง คือ Pause สุขุมวิท 107 ซึ่งอยู่ในซอยแบริ่ง 1 ครับ  ชื่อคล้ายๆกันอย่าสับสนนะครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 006)

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เกือบจะเป็นจตุรัส อยู่ในซอยแบริ่ง 16 ห่างจากปากซอย 100 เมตร ในซอยเป็นถนนสองเลนวิ่งเชื่อมไปยังซอยสุขุมวิท 109 ได้   รอบคอนโดส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยมีสำนักงานและโรงงานกระจายตัวอยู่บ้างแต่ไม่ใช่อาคารสูง  จะมีอาคารสูงอยู่ตึกเดียวเป็นหอพักสูง 10 ชั้น ในแบริ่งซอย 12  ซึ่งจะมองเห็นได้จากทางด้านหลังของคอนโด Pause ID ครับ  ต่างจากทิศอื่นๆที่วิวจะค่อนข้างโล่งในชั้นสูงๆ  ส่วนทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ Pause ID นั้นจะเป็นคอนโดอีกโครงการนึงชื่อ The Urban Attitude แบริ่ง 14 ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลมากนักครับ

คอนโด Pause ID วัดระยะทางห่างจากปากซอยตรงถนนสุขุมวิทได้ 900 เมตร ก็ไกลเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าถึงบันไดรถไฟฟ้า BTS แบริ่งเลยก็ระยะกิโลกว่าๆได้  หากไม่มีรถคงต้องพึ่งมอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือไม่ก็รถสองแถวที่วิ่งไปมาภายในซอยก็ได้เหมือนกัน ซึ่งสะดวกกว่าการเดินเข้าออกแน่ๆ  ในซอยแบริ่ง 16 นี้สามารถเดินทางไปเชื่อมกับสุขุมวิท 109 ได้ด้วย

Pause ID - ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดทำมุมเฉียงๆกับแนวทิศตะวันออก-ตก ด้านหน้าโครงการจะได้แสงยามเช้า ส่วนด้านหลังและด้านข้างของคอนโดที่ขนานกับซอยเล็ๆ จะได้รับความร้อนจากแดดช่วงบ่ายครับ

Pause ID - ทิศทางแดด

ทิศทางแดดและความร้อน Pause ID

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities จะมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 โดยสระว่ายน้ำอยู่กลางคอนโด หากมองจากแปลนอาคารรูปตัวยู (U) จะโอบล้อมสระว่ายน้ำไว้  จุดสังเกตอย่างนึงคือระยะตรงกลางระหว่างห้องนั้นไม่ได้กว้างมาก  ความกว้างของสระว่ายน้ำ 4 เมตร มีระยะด้านข้างอีกนิดหน่อย รวมๆแล้วกะประมาณก็น่าจะห่างกันสัก 6 เมตรแค่นั้น

Pause ID - facilities swimming pool plan

Facilities Floor Plan ชั้น 2

 

ส่วนดาดฟ้าจะเป็นสวนสีเขียวมีพื้นที่พักผ่อน และมุมบาร์บีคิวสำหรับจัดปาร์ตี้ด้วยครับ

Pause ID - facilities deck plan

Facilities Floor Plan ชั้นดาดฟ้า

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4 x 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร แล้วก็มีฟิตเนส ห้องอาบน้ำ โดยห้องต่างๆนี้ก็จะอยู่รวมกันที่ชั้น 2 ด้านล่าง  ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด  … สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัวกับ 201 ยูนิต เฉลี่ยออกมาได้ 101 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาดี  ที่จอดรถ 30% นับรวมจอดซ้อนคันแล้วถือว่าน้อยอยู่ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักกับราคาขายที่ค่อนข้างถูกหยิบจับง่าย  ก็ให้ความแฟร์ไปว่าก็คงต้องยอมรับตัวเลขสัดส่วนประมาณนี้แหละครับ

จากรูปหน้าตา Facilities ที่ออกมาก็ดูเรียบๆไม่หวือหวา  ห้องอาบน้ำที่มีห้องผู้ชายและผู้หญิงอย่างละ 1 ห้อง หากช่วงไหนคนมาว่ายน้ำกันเยอะๆอาจจะต้องรอคิวกันนานหน่อย  ไม่ก็ล้างตัวริมสระแล้วขึ้นไปอาบน้ำบนห้องตัวเองเลยดีกว่าครับ

สำหรับชั้นบนสุดของคอนโด  โครงการเลือกทำพื้นที่สีเขียวโดยคิดเป็น 3 ใน 5 ของพื้นที่ดาดฟ้าทั้งหมด จัดเป็นโซน 4 โซนด้วยกัน คือ Hobby Zone ถัดไปจะเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ  ทำเป็นบาร์บีคิวโซนที่ให้เพื่อนๆมาสังสรรค์กันได้บนนี้  อีกโซนหนึ่งคือ Relaxing Space จะมีที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือ และ Playground ซึ่งจะเป็นพื้นที่โล่งๆครับ แม้จะไม่มีสวนเขียวชอุ่มต้นไม้ใหญ่ด้วยขนาดและราคาของโครงการ แต่ก็ชดเชยด้วยสวนหย่อมนั่งเล่นบนดาดฟ้า

มาดูหน้าตากัน เริ่มจากสระว่ายน้ำชั้น 2 ที่อยู่กลางคอนโด กว้าง 4 เมตร ยาว 16 เมตร

Pause ID - swimming pool fl.2

 

ห้องออกกำลังกาย อยู่ด้านหน้าคอนโด จะเห็นวิวถนน

Pause ID - fitness fl.2

 

พื้นที่สวนนั่งเล่นบนชั้นดาดฟ้า

Pause ID - garden deck

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Pause ID Sukhumvit 107 ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน จะเป็นที่จอดรถเต็มพื้นที่ เข้าออกคนละทาง  ตรงกลางจะเป็นทางขึ้นไปสู่ห้องพักเลย จึงไม่มี Lobby หากเพื่อนมาหา คงไม่มีที่พักคอยครับ  อาจจะต้องพาไปนั่งที่ชั้นส่วนกลางแทน

Pause ID - plan fl.1

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด Pause ID

 

Typical Floor Plan คอนโด Pause ID Sukhumvit 107 ชั้น 2

แปลนนั้นเป็นรูปตัวยู (U) โดยมีสระว่ายน้ำรูปผืนผ้าตรงกลาง จะมีห้องแบบ Studio จำนวน 8 ยูนิต ห้องแบบ 1 ห้องนอน จำนวน 14 ยูนิต และจะมีห้องแบบ  2 ห้องนอนอยู่ 5 ยูนิตครับ จากจำนวนแล้วห้องแบบ 1 ห้องนอนจะเยอะที่สุด  ห้องประเภทต่างๆก็อยู่คละๆกันไป

Pause ID - plan fl.2

Floor Plan ชั้น 2 คอนโด Pause ID

Typical Floor Plan คอนโด Pause ID Sukhumvit 107 ชั้น 3 – 7

การจัดวางรูปแบบห้องจะคล้ายกับชั้น 2 เลยครับ แต่พื้นที่ที่เป็นฟิตเนสนั้นจะถูกเพิ่มเป็นห้องเข้ามาแทน  ลักษณะการวางห้องแต่ละแบบก็ยังคละกันเหมือเดิม  ความหนาแน่นนั้นอยู่ที่ 29 ยูนิตต่อชั้น  โดยจะมี 8 ยูนิตที่ต้องหันหน้าชนกันตรงคอร์ทกลาง  ซึ่งอาจจะดูไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่  ใครซื้อห้องเหล่านี้ก็อย่าลืมติดม่านทึบเพื่อบังสายตาในบางช่วงที่ต้องการความเป็นส่วนตัวกันนะครับ

Pause ID - plan fl.3

Floor Plan ชั้น 3-7 คอนโด Pause ID

Typical Floor Plan คอนโด Pause ID Sukhumvit 107 ชั้น 8

สำหรับชั้น 8 การจัดวางห้องไม่ต่างจากชั้นที่ผ่านมามากนัก ยกเว้นในส่วนด้านหน้าคอนโดที่เปลี่ยนจากห้อง 1 ห้องนอน เป็นแบบสตูดิโอ และห้อง 2 ห้องนอน มีพื้นที่ขนาดเล็กลง เกิดจากระยะร่นตามกฏหมายของอาคาร (เพื่อให้เห็นชัดเจนเลยทำกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงไว้ครับ)

Pause ID - plan fl.8

Floor Plan ชั้น 8 คอนโด Pause ID

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107 มีหลักๆอยู่ 3 แบบครับ เป็นแบบสตูดิโอ ขนาด 20.50 – 23.80 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน ขนาด 24.80 – 26.90 ตารางเมตร  และขนาด 25.36 – 28.82 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 30.00 – 36.60 ตารางเมตร  ในภาพรวมของแปลนนั้นพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากครับ

แปลนห้องคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107

แบบสตูดิโอ ขนาด 20.47 ตารางเมตร

แปลนนี้เป็นห้องขนาดเล็กสุดซึ่งทำออกมาที่ขนาด 20 กว่าตารางเมตร ซึ่งก็น่าจะเป็นหนึ่งในห้องที่เล็กที่สุดในตลาดคอนโดปัจจุบันหล่ะครับ  ด้วยราคาเฉลี่ยของโครงการและพื้นที่เล็กก็ทำให้ราคาห้องนี้ออกมาหยิบจับง่ายสำหรับคนที่มีงบจำกัดครับ  ซึ่งก็คงต้องยอมรับข้อจำกักในเรื่องของขนาดของสเปซไป

ในห้องนั้นจะแบ่งสเปซออกเป็น 2 ส่วน ส่วนนึงจะเป็นที่ตั้งโซฟา, ชั้นวางทีวี และเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ซึ่งอยู่รวมกันแบบกระทัดรัด  อีกส่วนคือสเปซในส่วนนอนที่พอจะวางเตียง Queen Size ได้แบบฟิตๆหน่อย  วางโต๊ะทำงานเล็กๆตรงริมหน้าต่างได้ และมีระเบียงออกไปด้านนอกให้  ในแง่ฟังก์ชั่นนั้นก็ถือว่าจับยัดเฟอร์นิเจอร์มาได้ครบๆแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยจำกัด อย่างห้องน้ำก็ใช้ฉากกั้นที่เป็นกระจกโค้ง เพื่อที่จะได้เดินเข้าไปตรงมุมได้เป็นการประหยัดพื้นที่  เวลาใช้งานจริงก็แนะนำให้ทำตู้ Built-in สำหรับเก็บของต่างๆเพิ่มขึ้น  อาจจะเป็นตู้ลอยแขวนผนังก็ได้ครับ  รวมถึงการเลือกซื้อเฟอร์อย่างโซฟาและเตียงก็ต้องวัดขนาดดีๆ  เพื่อให้ลงล็อกกับสเปซที่เตรียมมาให้  ถ้าซื้อใหญ่เกินเดี๋ยวจะไม่มีที่เดินกัน

Pause ID - studio 20.47 sqm

แปลนคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107 แบบสตูดิโอขนาด 20.47 ตร.ม.

แปลนห้องคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.83 ตร.ม.

ส่วนแบบ 1 ห้องนอน หากเปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเลย และจะผลักครัวไปด้านนอก เป็นครัวแบบปิดสามารถทำอาหารแบบต้ม ผัด แกง ทอดได้ครับ เพราะมีประตูปิดกั้นแยกออกจากส่วนนั่งเล่นพักผ่อนชัดเจน  ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านนอกติดหน้าต่างซึ่งมีพื้นที่รอบเตียง ภายในห้องจะมีตู้เสื้อผ้า และก่อนเข้าห้องน้ำจะมีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆไว้ให้ด้วย  ตำแหน่งนั่งรับประทานอาหารนั้นถ้านั่งสองคนอาจจะต้องขยับเลื่อนโต๊ะออกมาสักหน่อยนึง  ในภาพรวมแล้วก็จัดออกมาได้ค่อนข้างโอเคในพื้นที่ที่ขนาดไม่ใหญ่มากครับ

Pause ID - 1 bedroom 24.83 sqm

แปลนคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107 แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.83 ตร.ม.

แปลนห้องคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 32.13 ตร.ม.

ในตลาดคอนโดโดยปกติด้วยขนาด 32 ตารางเมตร ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนครับ แต่ Pause ID ได้นำมาทำแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  สัดส่วนของสเปซนั้นความลึกของห้องจะเท่ากันกับแบบ 1 ห้องนอน  แต่จะมีความกว้างของหน้าห้องมากขึ้น  ทำให้เปลี่ยนฟังก์ชั่นส่วนครัวมาเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องนึง  และย้ายครัวปิดมาเป็นครัวเปิดโล่งที่อยู่ตรงหน้าห้องน้ำแทน  จริงๆห้องนอนเล็กนี้ถ้าอยู่กันแค่ 2 คนอาจจะทำเป็นลักษณะห้องทำงานหรือเปลี่ยนเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆก็ได้ครับ  แต่ต้องยอมรับว่าถ้าใช้เป็นห้องนอนเล็กจริงก็อาจจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเพราะว่าประตูห้องนั้นเป็นบานเลื่อนกระจกซึ่งกันระหว่างส่วนนั่งเล่นพักผ่อนครับ

Pause ID - 2 bedroom 32.13 sqm

แปลนคอนโด Pause ID สุขุมวิท 107 แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 32.13 ตร.ม.

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

Interior

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบสตูดิโอ ขนาด 20.47 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน ขนาด 24.83 ตารางเมตร  ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.40 เมตร  ส่วนห้องน้ำจะสูง 2.20 เมตรครับ

แต่ต้องอธิบายก่อนว่าห้องตัวอย่างนี้จะเป็นของคอนโด Pause Sukhumvit 107 นะครับ ทางโครงการไม่ได้ทำห้องตัวอย่างของคอนโด Pause ID มาให้  แต่รูปแบบการจัดวางฟังก์ชั่นจะไม่ต่างกันครับ จะต่างตรงขนาดห้องและระยะบางจุด  โดยที่ Pause ID จะมีขนาดพื้นที่เล็กกว่า  โดยหน้ากว้างจะเท่ากับคอนโด Pause 107 แต่ความลึกนั้นจะสั้นกว่า  เพราะทำราคามาให้ถูกกว่า  หยิบจับง่ายกว่า

ห้องตัวอย่างคอนโด Pause ID แบริ่ง 16

แบบห้องสตูดิโอ ขนาด 20.47 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอ Pantry ครัวก่อนเลย เฟอร์นิเจอร์ครัวบิวท์อินต่อเนื่องไปยังชั้นแขวนเล็กๆ ที่อยู่ตรงจุดแขวนทีวี

Pause ID - studio1

 

เดินมาอีกหน่อยจะเห็นพื้นที่ห้องนอนเต็มตา กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย  แต่ระยะข้างเตียงสำหรับคอนโด Pause ID จะไม่มีนะครับ

Pause ID - studio2

 

ส่วนห้องนอนจะมีมุม Sofa bed นั่งเล่นติดหน้าต่าง (ส่วนในแปลนจะเป็นโต๊ะทำงาน สามารถดัดแปลงแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) หน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้ง 1 บานครับ  ช่องหน้าต่างขนาดกำลังดี  ไม่ได้เล็กจนเกินไป

Pause ID - studio5

 

ปลายเตียงจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกเงา ซึ่งคอนโดจะบิวท์อินให้เป็นแบบนี้เลย  ไม่ต้องมาทำเพิ่มเอง

Pause ID - studio4

 

ถ่ายจากมุมเตียงไปยังส่วนนั่งเล่นบ้าง ด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่จัดวาง Pantry และชั้นวางทีวีไปในทิศทางเดียวกัน ดูเป็ระเบียบเรียบร้อยดี และห้องสีขาวก็ทำให้ดูโล่งโปร่งดีครับ

Pause ID - studio3

 

ภายในห้องน้ำอ่างล้างหน้าดูโมเดิร์นดี  มีลิ้นชักเก็บของใต้อ่างล้างหน้ามาให้ด้วย   สำหรับในห้องน้ำนี่ถือว่าให้วัสดุมาดีเมื่อเทียบกับราคาครับ ตู้ชั้นล่างเป็น softed close นั้นให้ของมาดีทีเดียว

Pause ID - studio7

 

ภายในห้องน้ำพื้นที่ไม่เยอะมาก  คอนโดจึงเลือกตู้อาบน้ำสำเร็จรูปแบบเข้ามุมมาให้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้  จริงๆกระจกโค้งนี่น่าจะแพงกว่ากระจกบานเรียบธรรมดาด้วย  แต่พอสามารถลดการใช้พื้นที่ลงไปได้  ก็เลยคุ้มที่จะลงทุนหล่ะครับ

Pause ID - studio6

ห้องตัวอย่างคอนโด Pause ID แบริ่ง 16

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 24.83 ตารางเมตร 

เปิดเข้ามาภายในห้อง แยกสัดส่วนของฟังก์ชั่นชัดเจน  กระจกสูงถึงฝ้านั้นก็ทำให้ยังดูโปร่งอยู่ครับ

Pause ID - 1 bedroom

 

ถ่ายย้อนกลับมาให้เห็นส่วนนั่งเล่น

Pause ID - 1 bedroom2

 

อีกมุมหนึ่งก็จะเห็นห้องน้ำ และโต๊ะทำงาน หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

Pause ID - 1 bedroom5

 

ห้องนอนถูกกั้นอย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจก  ช่องเปิดค่อนข้างใหญ่  หน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน ในภาพมีกระบังม่านแต่ทางคอนโดไม่ได้ให้ครับ

Pause ID - 1 bedroom3

 

ข้างเตียงมีพื้นที่พอเดินได้อยู่

Pause ID - 1 bedroom4

 

ห้องครัวจะบิวท์อินให้  แต่ไม่ได้ให้เครื่องดูดควัน และเตาเซรามิก จะมีแค่อ่างล้างจานเท่านั้น ผนังครัวก็ฉาบเรียบทาสีขาว

Pause ID - 1 bedroom6

 

ห้องน้ำครับ เหมือนกับห้องสตูดิโอเลยที่ให้ลิ้นชักใต้อ่างล่างหน้ามาให้ด้วย แต่กรอบประตูตู้อาบน้ำด้านบนรู้สึกต่ำมาก ขนาดสูง 170 ซม. เกือบจะชนแล้ว ถ้าสูงประมาณ  180 ซม. หัวต้องชนแน่เลย  ใครตัวสูงๆเวลาเดินเข้าออกต้องระวังหน่อยครับ

Pause ID - 1 bedroom7

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมที่ให้มาดีทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาประมาณ 60,000 บาทต่อตร.ม. เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแบบ Fully-Fitted ทั้งห้องครัว ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า และฐานรองเตียง ซึ่งก็สะดวกดีสำหรับคนอยู่อาศัยจริง ทำมาเป็นระเบียบเรียบร้อยดี มีช่องต่างๆไว้ให้ใส่ของพอควรเลยครับ ครัวจะไม่มีเครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้ามาให้  ต้องมาติดตั้งเพิ่มเอง  พื้นจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร  ที่ดูแล้วดีก็จะเป็นวัสดุในห้องน้ำอย่างอ่างล้างมือและฉากกั้นอาบน้ำ (ถ้าไม่นับเรื่องที่ขอบบนเตี้ยไปหน่อย)

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ดูกันง่ายๆเช่นเคยครับ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

วัสดุคอนโด Pause ID

หน้าตาของชุดครัวครับ  ห้องที่ได้จะไม่มีเตาไฟฟ้าและฮูดดูดควัน

Pause ID baring - (ภาพที่ 002)

เปิดดูก็มีช่องให้เก็บของพอสมควรครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 001)

อ่างล้างจาน Teka แบบหลุมเดียว

Pause ID baring - (ภาพที่ 004)

มีดีเทลตัวจบปิดความเรียบร้อยมาให้ด้วย

Pause ID baring - (ภาพที่ 003)

หน้าบานลามิเนตที่ได้ก็เป็นสีครีมเบจ

วัสดุห้องน้ำ

Pause ID baring - (ภาพที่ 002)

ฉากกันอาบน้ำกระจกโค้งสำเร็จรูปแบบเข้ามุม (Tempered Glass)

Pause ID baring - (ภาพที่ 003)

สเปซก็จะเล็กๆหน่อยแบบพอดีหมุนตัวได้

Pause ID baring - (ภาพที่ 001)

ฉากกั้นอาบน้ำของแบบ 1 ห้อจะไม่ใช่กระจกโค้ง  แต่เป็นบานตรงเฉยๆเหมือนปกติครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 002)

พื้นที่อาบน้ำก็จะจำกัดนิดนึงเช่นกัน

Pause ID baring - (ภาพที่ 004)

ฝักบัวของ Prema

Pause ID baring - (ภาพที่ 001)

สุขภัณฑ์จาก Cotto รุ่น ECO

Pause ID baring - (ภาพที่ 006)

อ่างทรงโมเดิร์นเหลี่ยมๆของ Cotto เช่นกัน ลิ้นชักแบบ Soft-closed ด้วย  ชิ้นนี้ชอบเป็นพิเศษครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 007)

ก๊อกน้ำจาก Prema

Pause ID baring - (ภาพที่ 008)

เปิดลิ้นชักให้ดูครับ  เก็บอุปกรณ์ต่างๆได้เยอะพอสมควร

Pause ID baring - (ภาพที่ 009)

กระจกเงาลอยตัวออกจากผนังเล็กน้อย

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

Pause ID baring - (ภาพที่ 021)

ตู้ชั้นใส่รองเท้าบิวท์อินสำหรับแบบ 1 ห้องนอน

Pause ID baring - (ภาพที่ 001)

ชั้นวางของติดผนังตรงจุดติดตั้งทีวี

Pause ID baring - (ภาพที่ 002)

ตู้เสื้อผ้า สำหรับห้องแบบสตูดิโอจะมีกระจกเงามาให้หนึ่งบาน ส่วน 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอนจะไม่มีครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 003)

ภายในตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบนี้

Pause ID baring - (ภาพที่ 025)

โต๊ะทำงาน หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแปรงก็ได้ มีมาให้สำหรับแบบ 1 ห้องนอนครับ

Pause ID baring - (ภาพที่ 024)

ด้านบนจะเป็นชั้นติดผนัง

Pause ID baring - (ภาพที่ 026)

บัวผนัง PVC สีขาว และพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.  ผิวสัมผัสตามมาตราฐานปกติ

Pause ID baring - (ภาพที่ 029)

ขอบประตูยกสูง 5 ซม. กั้นระหว่างพื้นด้านนอกกับภายในห้องน้ำ

Pause ID baring - (ภาพที่ 011)

ประตูกระจกกั้นระหว่างห้อง (แบบ 1 ห้องนอน) สูงจรดฝ้า  ก็ช่วยให้ห้องไม่ทึบจนเกินไปนัก

Pause ID baring - (ภาพที่ 010)

บานกรอบอลูมิเนียมอบสีดำ

Pause ID baring - (ภาพที่ 009)

ช่องเปิดเกือบเต็มผนัง มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน (กระจกจริงๆเป็นสีเขียวตัดแสงนะครับ  เพราะไฟในห้องเป็นไฟเหลือง พอแก้สีตอนถ่ายภาพแล้วทำให้กระจกกลายเป็นสีฟ้า  อันนี้เป็นความผิดพลาดในการถ่ายรูปเอง)

Pause ID baring - (ภาพที่ 013)

หน้าต่างบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมอบสีดำ

Pause ID baring - (ภาพที่ 031)

เต้าเสียบบริเวณชั้นวางทีวีแบบนี้เลย

Pause ID baring - (ภาพที่ 016)

แบบปลั๊กสวิตซ์เปิด-ปิด

Pause ID baring - (ภาพที่ 014)

ขอบประตูยกสูง 10 ซม. กั้นพื้นที่ระเบียงและภายในห้อง  สเปซตรงระเบียงเอาไว้ตั้งเครื่องซักผ้า

Pause ID baring - (ภาพที่ 015)

ราวกันตกเหล็กกล่องทาสีสูง 1.2 ม. ครับ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

Money

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (6 กรกฎาคม 2558) แบบสตูดิโอเริ่มที่ 1.29 ล้านบาทที่ชั้น 2 ครับ  แบบ 1 ห้องนอนเริ่มที่ 1.59 ล้านบาทที่ชั้น 3 ครับ ราคาเฉลี่ยของโครงการนี้ก็อยู่ในช่วงประมาณ 60,000 บาทต่อตารางเมตร

ราคา ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

Studio  พื้นที่ 21.30  ตร.ม. ชั้น 2  ราคา 1,290,000 บาท เฉลี่ย 60,563 บาท/ตร.ม.

1 bedroom  พื้นที่ 25.40  ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 1,590,000 บาท เฉลี่ย 62,598 บาท/ตร.ม

1 bedroom  พื้นที่ 28.20  ตร.ม. ชั้น 17 ราคา 1,640,000 บาท เฉลี่ย 58,156 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

เงินจอง 4,900 บาท

  • ผ่อนดาวน์

ผ่อนดาวน์ประมาณ 11% ของราคาขาย 2,900 – 5,900 บาท/เดือน 23 งวด (นับจาก ก.ค. 58) (งวดสุดท้าย Balloon 1 งวด )

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   38  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  380 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  89% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio  พื้นที่ 21.30 ตร.ม.  ราคาขาย  1.29  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 7,977 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 25.4 ตร.ม.  ราคาขาย  1.59  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 9,833 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 28.2 ตร.ม.  ราคาขาย  1.64  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 10,142 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  89% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio  พื้นที่ 21.30 ตร.ม.  ราคาขาย  1.29  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 8,431 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 25.4 ตร.ม.  ราคาขาย  1.59  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 10,392 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 28.2 ตร.ม.  ราคาขาย  1.64  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 10,719 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  89% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio  พื้นที่ 21.30 ตร.ม.  ราคาขาย  1.29  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 9,191 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 25.4 ตร.ม.  ราคาขาย  1.59  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 11,329 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 28.2 ตร.ม.  ราคาขาย  1.64  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 11,685 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  89% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio  พื้นที่ 21.30 ตร.ม.  ราคาขาย  1.29  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 10,576 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 25.4 ตร.ม.  ราคาขาย  1.59  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 13,036 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 28.2 ตร.ม.  ราคาขาย  1.64  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 13,446 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  89% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio  พื้นที่ 21.30 ตร.ม.  ราคาขาย  1.29  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 13,543 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 25.4 ตร.ม.  ราคาขาย  1.59  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 16,693 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 28.2 ตร.ม.  ราคาขาย  1.64  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 17,218 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางก็ถือว่าสะดวกในระดับหนึ่งครับ  อย่างที่ทราบว่าซอยแบริ่ง 16 นั้นเข้าออกได้ทั้งจากทางสุขุมวิทและทางศรีนครินทร์  โดยซอยย่อยต่างๆสามารถเชื่อมไปออกสุขุมวิท 105 และ สุขุมวิท 109 ได้ด้วย  ส่วนการใช้รถไฟฟ้านั้นจากสถานี BTS แบริ่ง จะต้องใช้บริการพี่วินฯ เอาครับ  ราคามาถึงโครงการก็ 15 บาท  เพราะถ้าเดินมานี่มีเหนื่อยทีเดียว ประมาณกิโลกว่า  ยกเว้นแต่ใครชอบเดินจะถือว่าเป็นการออกกำลังกายก็อีกเรื่องนึง

ส่วนการใช้ทางด่วนนั้นจากโครงการไปขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครตรงแยกบางนาก็ไม่ไกลมาก  ออกจากปากซอยแบริ่งแล้วก็ไปอีกประมาณ 2 กิโลกว่า ก็จะสามารถใช้ทางด่วนเข้าเมืองได้ครับ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานโซนนี้จะเป็นส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว จากแบริ่งไปจนถึงสมุทรปราการ  ซึ่งตามแผนจะเปิดใช้บริการประมาณปี 2562  พอเปิดใช้งานจริงก็คงจะทำให้คนที่อยู่ไกลออกไปสะดวกมากยิ่งขึ้น  แต่บริเวณรอบสถานีแบริ่งเองอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมากนักครับ   น่าจะยังเป็นโซนที่มีปนกันทั้งที่อยู่อาศัย, คอนโด, สำนักงานและโรงงานต่างๆ คละๆกันไป  ราคาของตลาดคอนโดในซอยก็คงเติบโตขึ้นบ้างเรื่อยๆ  แต่อาจจะไม่ได้หวือหวานักครับ  สำหรับการอยู่อาศัยจริงก็รอความหนาแน่นของเมืองขยายมาถึงแค่นั้นเอง

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะของคอนโดจะมีการใช้องค์ประกอบต่างๆมาตกแต่งหน้าตาด้านนอกพอสมควร  ใช้โทนสีเทาเข้มและเทาอ่อนมาสร้างลวดลายแพทเทิร์นบนตัวอาคาร  และด้วยลักษณะการวางแปลนสลับกันของห้องแต่ละแบบทำให้ด้านข้างมีการยื่นเข้ายื่นออกนิดหน่อยจากความลึกของห้องที่ไม่เท่ากัน  ก็ช่วยสร้างพื้นผิวของอาคารภายนอกที่น่าสนใจมากกว่าจะเป็นดีไซน์แบบเรียบๆ ไปอย่างเดียว  ลักษณะการวางผังของคอนโดนั้นเป็นรูปตัว U ซึ่งพื้นที่คอร์ทตรงกลางจะค่อนข้างถูกบีบและอึดอัดหน่อย  เนื่องจากระยะไม่ได้กว้างมากนัก ฝั่งที่โดนแดดบ่ายจะเป็นด้านหลังและด้านข้างของโครงการที่ติดกับซอยย่อยเล็กๆ  ส่วนด้านหน้าและด้านที่หันออกไปทางปากซอยแบริ่ง 16 จะร่มกว่าและไม่ได้แดดบ่ายครับ

การจัดแปลนห้องนั้นก็พยายามจัดฟังก์ชั่นลงไปในพื้นที่ห้องที่ไม่ใหญ่มาก  เพื่อที่จะได้ทำราคาขายได้ไม่แพงและหยิบจับง่าย  ซึ่งสำหรับห้องเล็กๆอย่างสตูดิโอก็เลยจะไม่ได้มีสเปซเหลือโล่งๆ  พื้นที่ทุกจุดถูกใช้อย่างพอดีๆ  การเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (เช่น โซฟา) มาใส่ห้องสตูดิโอน่าจะต้องวัดขนาดกันให้ดีๆก่อนจะไปซื้อนะครับ   ที่ดูจะขาดไปก็คงเป็นเรื่องพื้นที่ห้องเก็บของที่เป็นปัญหาของห้องขนาดเล็กมากๆ ในแทบทุกโครงการอยู่แล้ว   สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน ในเรื่องฟังก์ชั่นก็จัดแปลนมาดูโอเคทีเดียวครับ  จะมีก็แค่ตรงส่วนรับประทานอาหารที่อาจจะแคบไปนิด  เวลาใช้งานจริงต้องขยับโต๊ะออกมา  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้น  ในการใช้งานจริงสามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานหรือเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆก็ได้  เป็นแปลน 2 ห้องนอนที่แปลกตาจากที่อื่นๆในตลาดพอควร

ด้านวัสดุนั้นให้มาดีในภาพรวมกับราคาขนาดนี้  มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ มาให้ เช่น โครงเตียง, ชั้นวางทีวี,  Pantry ครัว, โต๊ะทำงาน, ช่องเก็บของเหนือโต๊ะทำงาน, ตู้เสื้อผ้า ที่ไม่มี คือ เตาไฟ, และฮูดดูดควัน ที่ต้องติดเพิ่มเอง  วัสดุในห้องน้ำก็ให้มาโอเค มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย

ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางนั้น เนื่องจากเป็นคอนโดราคาประหยัด  เลยไม่ได้จัดมาให้แบบอลังการอะไรมาก  มีตามพื้นฐานอย่างสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และสวนที่ดาดฟ้า  แต่จะไม่มีล็อบบี้ด้านล่างสำหรับรับแขกหรือเอาไว้นั่งคุยกับเพื่อนที่มาเยี่ยมที่คอนโด  ลักษณะดีไซน์เป็นเพื่อการใช้งานจริงไม่ได้ตกแต่งหวือหวามาก  เรื่องความหนาแน่นของการใช้งานนั้นเฉลี่ยที่ 101 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  สัดส่วนถือว่าดี  ที่จอดรถที่ 30% นั้นถ้ามองในเชิงตัวเลขก็ถือว่าน้อยอยู่  แต่ถ้าเทียบกับระดับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ครับ  ถ้าทำมาให้สัดส่วนมากกว่านี้ก็จะทำราคาขายเท่านี้ไม่ได้แน่ๆ  เลยต้องยอมรับมีน้ำใจแบ่งๆกันใช้ไป

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

จริงๆต้องบอกว่าตัวเลือกคอนโด Low rise ในซอยแบริ่งและซอยข้างเคียงนี่ถ้าจิ้มลงไป  ก็จะเจอของ Origin Property ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่เยอะเหลือเกิน  มีของเจ้าอื่นๆอยู่บ้าง  แต่ Origin ในซอยนี้เยอะจริงๆ  อย่างเช่น Pause Sukhumvit 107 ที่เปิดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา  โดยระดับราคาจะสูงกว่าไม่มากนัก

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

Pause ID สุขุมวิท 107

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ

ชีวาทัย รามคำแหง (Chewathai รามคำแหง) คอนโด high rise พร้อมอยู่ 33 ชั้น บนถนนรามคำแหง ใกล้ ม.รามฯ และแยกลำสาลี [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีเช่นเคยค่ะ  วันนี้พาไปดูคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ระหว่างซอยรามคำแหง 79/1 และ 79/2 ใกล้ๆกับราชมังคลากีฬาสถานและมหาวิทยาลัยรามคำแหงนิดเดียวค่ะ ซึ่งหลังจากมีการเปลี่ยนกฏหมายผังเมืองไปเมื่อปีก่อน ทำให้บริเวณนี้ไม่อนุญาตให้สร้างตึกสูงได้แล้วค่ะ  เลยทำให้คอนโด Chewathai Ramkhamhaeng เป็นคอนโดสูงเพียงหนึ่งในไม่กี่ที่ในบริเวณรอบๆนี้ค่ะ  ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เลย วันนี้อยู่สบายมีโอกาสได้แวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ  เลยเก็บภาพและรีวิวมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ  เพื่อใครหาข้อมูลเล็งๆอยู่จะได้เอาไว้เป็นตัวช่วยตัดสินใจได้ ^^

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

Chewathai Ramkhamhaeng (ชีวาทัย รามคำแหง)

  • เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนรามคำแหง ระหว่างซอยรามคำแหง 79/1 และ 79/2 
  • ขนาดที่ดิน >>>  ประมาณ 3-3-32 ไร่
  • จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 33 ชั้น  (จอดรถภายในคอนโด)
  • จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
  • ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน
  • ขนาดห้อง >>>
    • 1 ห้องนอน 30 – 35 ตารางเมตร
    • 2 ห้องนอน 58 – 72 ตารางเมตร
  • จำนวนยูนิต >>>  535  ยูนิต
  • ที่จอดรถ >>> 60%
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  เริ่มต้น 2.265 ล้านบาท (ณ วันที่ 20/7/2015)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  75,000-85,000 บาท/ตารางเมตร
  • พิกัด GPS >>> 13.761668, 100.632930
ชีวาทัย รามคำแหง

ชีวาทัย รามคำแหง


ชีวาทัย รามคำแหง

ชีวาทัย รามคำแหง

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทาง คอนโด บ้านเดี่ยว แผนที่ map

 

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนลาดพร้าว เริ่มตั้งแต่ตรงโรงพยาบาลลาดพร้าว เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 122 เป็นซอยที่สามารถออกไปยังซอยรามคำแหง 65 ได้ค่ะ ซึ่งซอยรามคำแหง 65 จะอยู่ตรงข้ามกับอินดอร์สเตเดี่ยมหัวหมากพอดี พอเลี้ยวเข้าถนนรามคำแหงแล้ว ตรงไปไม่ไกลก็จะถึงที่ตั้งโครงการ โครงการจะอยู่ระหว่างซอยรามคำแหง 79/1 และ 79/2 ค่ะ

Rev212-การเดินทาง

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางA

เริ่มจากบริเวณหน้าโรงพยาบาลลาดพร้าว จะมีป้ายบอกทางลัดไปรามคำแหงให้เลี้ยวตามเลยค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางB

เลี้ยวตามป้ายจะเข้าซอยลาดพร้าว 122

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางC

เข้ามาในซอยลาดพร้าว 122 แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย แยกเป็นแยกต่างๆ ให้ตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางD

ภายในซอยจะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆว่าตรงไปจะเป็นซอยรามคำแหง 65

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางE

พอเข้ามาใกล้ๆจะถึงถนนรามคำแหงแล้ว ภายในซอยจะเริ่มมีอพาท์เม้นท์ขึ้นอยู่หลายตึก เนื่องจากใกล้ม.รามคำแหง รวมทั้งพวกร้านค้า มินิบิ๊กซีและปั๊มน้ำมันก็มีค่ะ ถนนจะเป็นสองเลนสวนกัน  ในซอยนี้ถือเป็นซอยที่อุดมสมบูรณ์และคึกคักมาก

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางF

ข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบมา ก็ถึงปากซอยรามคำแหง 65 แล้วค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางG

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ

ชีวาทัย รามคำแหง - การเดินทางh

พอผ่านซอยรามคำแหง 79/1 แล้วให้เตรียมเลี้ยวซ้าย ถึงโครงการแล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

มาดูภาพรวมตำแหน่งที่ตั้งของโครงการกันก่อนค่ะ โครงการตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง เยื้องๆกับโรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งถนนรามคำแหงนั้นจะเชื่อมต่อกับถนนพระราม 9, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนเสรีไทย และถนนศรีนครรินทร์ นอกจากนี้ยังมีซอยรามคำแหงหลายๆซอยยังเชื่อมต่อไปออกถนนลาดพร้าวได้ด้วยค่ะ (เช่น รามคำแหง 43, รามคำแหง 53, รามคำแหง 65, รามคำแหง 81 เป็นต้น) ในปัจจุบันรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็น Airport Link รามคำแหง หรือ Airport Link หัวหมาก ค่ะ ระยะทางพอๆกัน ซึ่งก็ค่อนข้างไกลจากโครงการพอสมควร  ส่วนในอนาคต  บนถนนรามคำแหงจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านหน้าโครงการด้วยค่ะ สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีหัวหมาก อยู่ตรงโรงพยาบาลรามคำแหงค่ะ  ซึ่งนั่นจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานตรงนี้เปลี่ยนไปอีกมากทีเดียว

ชีวาทัย รามคำแหง -location

 

มาดูที่แปลนจริงจาก google map กันบ้าง ด้านหน้าคอนโดจะติดกับถนนรามคำแหง ส่วนด้านหลังนั้นจะติดกับคลองแสนแสบ ซึ่งบริเวณรอบๆนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอพาร์ทเม้นท์สูงไม่เกิน 8 ชั้นค่ะ จากการเดินทางเราใช้ซอยลาดพร้าว 122 มาออกซอยรามคำแหง 65 ส่วนถ้าจากโครงการจะไปทางลาดพร้าวนั้นง่ายๆ ไม่ต้องไปกลับรถเข้าซอยรามคำแหง 65 ค่ะ สามารถเข้าซอยรามคำแหง 81 ไปออกซอยลาดพร้าว 130 ได้เลย ถ้าตรงไปตามถนนรามคำแหงจะเจอแยกลำสาลี ออกไปถนนเสรีไทย หรือถนนศรีนครรินทร์ได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น The Plaza (หมายเลข 1) ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน อยู่ติดกับซอยรามคำแหง 30 ส่วนด้านหลังโครงการที่ติดกับคลอง จะมีท่าเรือวัดกลาง (หมายเลข 2) สามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเข้าเมืองด้วยการเดินทางทางเรือค่ะ นอกจากนี้เยื้องๆกับโครงการจะเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลรามคำแหง (หมายเลข 3) ด้วยค่ะ

 

Rev212--Surrounding_2

 

มาที่ฝั่งด้านที่จะไปถนนพระราม9 กันบ้าง ติดกับซอยรามคำแหง 24 จะเป็น อินดอร์สเตเดี่ยมหัวหมาก และ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน (หมายเลข 4) ส่วนติดกับจะเป็น มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หมายเลข 5) ซึ่งด้านหลังจะมีโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกด้วยค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับม.รามฯ จะเป็นวัดเทพลีลา และ โรงเรียนวัดเทพลีลา (หมายเลข 6) ถัดไปหน่อยจะมี Major Holywood (หมายเลข 7) และ บิ๊กซี หัวหมาก (หมายเลข 8) ส่วนถ้าเลยบิ๊กซีไปอีกก็จะมี The Mall รามคำแหง และ Foodland ด้วยค่ะ ส่วนด้านที่จะไปแยกลำสาลี มีคอนโดของ LPN ชื่อ Lumpini Ville รามคำแหง 44 (หมายเลข 9) เป็นคอนโดเพื่อนบ้านข้างเคียงที่เป็นตึกสูงเหมือนกันเพียงไม่กี่ตึกในบริเวณนี้ (นอกจากนั้นคอนโดสูงๆก็จะไปกระจุกตัวกันอยู่ตรงแยกตัดกับพระราม 9 เช่น The Base พระราม 9)  นอกจากนี้ยังสามารถขับรถไป The Mall บางกะปิ (หมายเลข 10) และ โลตัส บางกะปิ (หมายเลข 11) อยู่ไม่ไกลค่ะ  ถ้าจะไปเดอะมอลล์นี่จะสามารถขับรถข้ามสะพานไปออกด้านหลัง The Mall ได้เลยด้วย  ไม่จำเป็นต้องไปเข้าจากลาดพร้าวค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าคอนโดกันค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 165

ฟุตบาทช่วงทางเดินหน้าโครงการ  กว้างขวาง ทางเท้าเรียบร้อยดี

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 166

ถนนรามคำแหงจากด้านหน้าโครงการ ด้านหน้าจะเป็นทางยกระดับ สูงประมาณ ตึก 4 ชั้นค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 169

ซอยรามคำแหง 79/1 เป็นซอยข้างๆโครงการ ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย และอพาร์ทเม้นท์ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 167

ร้านมินิมาร์ทปากซอยรามคำแหง 79/1

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 164

ประตูระบายน้ำคลองจิก คลองจิกเป็นคลองทีติดฝั่งทิศตะวันตกของโครงการค่ะ  (เห็นตึกโครงการอยู่ด้านข้างด้วย)

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 161

The Plaza อาคารสำนักงานฝั่งตรงข้ามโครงการ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 163

ส่วนฝั่งทิศตะวันออกจะอยู่ใกล้กับซอยรามคำแหง 79/2  มีสะพานลอยข้ามแยกอยู่  เดินไปได้ไม่ไกล

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 162

ฟุตบาทบริเวณฝั่งซอยรามคำแหง 79/2 ด้านนี้จะที่ของร้านตามข้างทางมากกว่าฝั่งซอย 79/1

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 174

ตึกแถวที่อยู่ติดกับด้านหน้าโครงการค่ะ สูงประมาณ 4 ชั้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 172

ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ภายในซอยรามคำแหง 79/1 ค่ะ สูงประมาณ 4-5 ชั้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 171

ด้านหลังโครงการฝั่งติดกับซอนรามคำแหง 79/2 ก็จะติดกับอาคารบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2-3 ชั้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 196

ทางโครงการทำทางออกด้านหลังไว้ให้ลูกบ้านเพื่อใช้เดินเลียบคลองไปท่าเรือค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 107

พื้นที่ข้างเคียงบริเวณด้านทิศตะวันตกค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยและอพาร์ทเม้นท์ที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 024

ด้านทางทิศตะวันออก ก็จะไม่ค่อยมีตึกสูงเหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยและอพาร์ทเม้นท์ มองเห็นสะพานข้ามคลองแสนแสบบริเวณซอยรามคำแหง 81 ด้วย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 176

บนถนนรามคำแหง ตรงไปเรื่อยๆจะออกถนนศรีนครรินทร์ และถนนลาดพร้าว เลยไปหน่อยก็เป็นมีนบุรีแล้วค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 177

ถนนรามคำแหงฝั่งตรงข้ามกับโครงการ เยื้องกันจะมีปั้มน้ำมันเชลล์อยู่

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 178

ทางขึ้นทางยกระดับจะอยู่เยื้องๆกับโครงการ ถ้าจะออกไปพระราม 9 จะต้องไปกลับรถมาก่อนขึ้นทางยกระดับค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 179

อาคารสำนักงานใหม่ของโอสถสภา สูง 13 ชั้น ตึกสวย แปลกตาดีค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 018

สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 181

มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 182

เมเจอร์ ฮอลลีวูด รามคําแหง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 183

บิ๊กซี รามคําแหง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 160

Mini BigC ภายในซอยลาดพร้าว 122

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 159

Foodland บนถนนลาดพร้าว ใกล้ๆกับโรงพยาบาลลาดพร้าวค่ะ ถ้าออกมาทางซอยรามคำแหง 81 เข้าลาดพร้าว 130 ก็สะดวกดี นอกจากนี้ยังมี foodland ตรงรามคำแหงอีกทีด้วยค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่ภายในโครงการกันเลยค่ะ

เริ่มตั้งแต่ป้ายชื่อหน้าโครงการค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 202

 

ป้อมยามหน้าทางเข้าโครงการ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 203

 

ถนนด้านหน้าโครงการ ชั้นล่างที่ยื่นออกมาตอนนี้นอกจากจะเป็น Lobby แล้วยังเป็นสำนักงานด้วยค่ะ ด้านข้างจะมีทางเลี้ยวไปที่จอดรถ Outdoor

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 207

 

หน้าตาอาคารทางด้านหน้า ตัวตึกจะเป็นสีขาว ตัดเส้นด้วยสีเทาอ่อนและเทาเข้มค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 208

 

หน้าตาอาคารด้านหลังโครงการค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 205

 

ย้อนกลับมาดูด้านหน้าโครงการอีกรอบ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 199

 

ที่จอดรถ Outdoor ด้านหน้าโครงการค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 173

 

ทางเดินด้านข้างอาคาร ไปยังที่จอดรถ Outdoor ด้านหลัง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 210

 

Lobby ด้านในที่ตอนนี้เป็นสำนักงานอยู่ด้วยค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 221

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการนั้นด้านหน้าจะติดกับถนนรามคำแหง อยู่ระหว่างซอยรามคำแหง 79/1 และ 79/2 บริเวณด้านหน้าติดกับถนนรามคำแหงส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น ซึ่งถนนรามคำแหงจะมีทางยกระดับข้ามจากพระราม 9 ไปลงลำสาลี เพื่อช่วยลดการจราจรที่ติดขัดบนพื้นราบลงไปได้บ้าง  ตัวทางยกระดับจะสูงประมาณตึก 4 ชั้น  ส่วนด้านหลังจะติดกับคลองแสนแสบค่ะ มีทางเดินเลียบคลอง ทางโครงการจะมีประตูเข้าออกด้านหลังไว้สำหรับลูกบ้านที่จะไปขึ้นเรือที่ท่าเรือวัดกลางเข้าเมืองได้ค่ะ

ส่วนฝั่งทางด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับคลองจิก ถัดจากคลองจิกไปจะเป็นบ้านพักอาศัย และอพาร์ทเม้นท์สูงประมาณ 4-7 ชั้น จากซอยรามคำแหง 79/1 ด้านฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับบ้านพักอาศัยและอพาร์ทเม้นท์สูงประมาณ 4 ชั้น ติดคลองแสนแสบ และซอยรามคำแหง 79/2  ส่วนถัดจากซอยรามคำแหง 79/2 จะเป็นซอยรามคำแหง 81 ซึ่งมีสะพานข้ามคลองแสนแสบไปจะเป็นซอยลาดพร้าว 130 ออกไปถนนลาดพร้าวได้ค่ะ

ผังโครงการคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

ผังโครงการคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นแบ่งห้องออกเป็นด้านที่ออกเยื้องๆกับทางทิศตะวันตก และด้านที่หันหน้าออกทางทิศตะวันออก ด้านที่หันหน้าเข้าทิศตะวันตกจะร้อนกว่าเยอะ  ส่วนเรื่องวิวนั้น ฝั่งทิศตะวันออกจะหันไปทางด้านโซนบางกะปิ ส่วนทางทิศตะวันตกจะหันออกไปฝั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง  เห็นเป็นวิวเมืองมากกว่าค่ะ นอกจากนี้ห้องมุมนั้นจะมีด้านที่หันไปทางทิศเหนือและใต้ด้วยแล้วแต่ตำแหน่งของห้อง ด้านทิศใต้จะติดกับถนนรามคำแหงและทางยกระดับ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากกว่าเพราะทางยกระดับจะสูงแค่ 4 ชั้น และตัวอาคารยังถอยร่นออกจากถนนมาค่อนข้างไกลค่ะ ส่วนทางด้านหลังที่ติดกับคลองจะเป็นทิศเหนือ วิวจะเป็นโซนลาดพร้าตอนปลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยค่ะ

ทิศทางแดดและความร้อน ชีวาทัย รามคำแหง

ทิศทางแดดและความร้อน ชีวาทัย รามคำแหง

วิวทางทิศตะวันตก จะมองเห็นเมืองอยู่ไกลๆ (ถ่ายจากชั้น 33)

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 019

 

ทางด้านทิศตะวันออก ด้านนี้จะออกไปทางนอกเมืองแล้ว วิวเลยโล่งๆ มีตึกสูงประปราย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 025

 

แถมวิวทางทิศใต้ให้อีกเล็กน้อย เป็นด้านที่ติดกับถนนรามคำแหงค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 023

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

Facilities  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 33 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของคอนโดค่ะ จะมีพื้นที่นั่งเล่น Outdoor, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องซาวน่าและสตรีม และฟิตเนสค่ะ

Floor Plan ชั้น 33 (Facilities Floor)

Floor Plan ชั้น 33 (Facilities Floor)

 

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือ แล้วก็มีฟิตเนส , Stream room ที่จะอยู่ในห้องน้ำหญิง , Sauna room ในห้องน้ำชาย และพื้นที่นั่งเล่นชมวิวชั้นดาดฟ้าค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 535 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 178 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ตัวเลขอาจจะดูแน่นแต่ถ้ามองเทียบกับราคาเฉลี่ยในระดับแค่ 70,000 บาทต่อตารางเมตรก็ถือว่าไม่ได้มากจนเกินไป  ที่จอดรถ 60% เป็นสัดส่วนทีก็กลางๆค่ะ สำหรับคอนโดที่ไม่ได้ติดรถไฟฟ้า (ในปัจจุบัน) แต่เมือเทียบกับระดับราคาก็ต้องถือว่าน่าพอใจทีเดียวเช่นกัน  จากรูปหน้าตา Facilities ที่ออกมาก็ดูเรียบๆ ไว้สำหรับการใช้งานค่ะ  ดีไซน์ไม่ได้มีอะไรหวือหวา

พามาชมส่วนกลางรอบๆ ตั้งแต่ชั้นล่างกันเลย เริ่มจากถนนข้างอาคาร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 189

 

พื้นที่จอดรถภายในอาคารค่ะ มีการตกแต่งด้านข้างด้วยแผงอลูมิเนียมแนวตั้งเป็นแพทเทิร์น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 190

 

ทางเข้าอาคารจอดรถ เป็นระบบคีย์การ์ด

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 192

 

ด้านหลังมีที่จอดรถ Outdoor ให้เพิ่มอีก

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 191

 

ประตูทางออกด้านหลัง ออกไปทางเดินเลียบคลองไปท่าเรือค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 194

 

พื้นที่สีเขียวด้านหลังโครงการ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 195

 

กลับเข้าด้านในคอนโดกันค่ะ จะเห็นว่าโครงการสร้างเสร็จมาสักพักนึงแล้ว ต้นไม้เริ่มโตขึ้น ช่วยให้พื้นที่รอบๆโครงการดูเขียวสบายตามากขึ้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 197

 

ตู้จดหมายด้านหน้าทางเข้าออกลิฟต์

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 185

 

ขึ้นมาที่ชั้น 33 ซึ่งเป็น Facilities Floor

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 021

 

ป้ายกราฟิกบอกชั้นและทางหนีไฟของแต่ละชั้นค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 027

 

เข้ามาด้านในกันเลยค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 022

 

เปิดประตูเข้ามาเจอพื้นที่นั่งพักชมวิวในชั้นดาดฟ้า

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 015

 

พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 014

 

สระว่ายน้ำ มีสระเด็กด้านหน้าค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 002

 

ทางเดินด้านข้างจะเจอห้องน้ำหญิงก่อน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 001_1

 

ด้านในห้องน้ำหญิง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 002_1

 

ห้องสตรีมจะอยู่ภายในห้องน้ำหญิง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 003_1

 

ห้องน้ำชายค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 005_1

 

ห้องซาวน่าในห้องน้ำชาย  ตัว N ในคำว่า SAUNA หลุดไปแล้ว  นิติบุคคลอย่าลืมเปลี่ยนนะคะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 004_1

 

ทางเดินริมสระ ด้านข้างจะเป็นห้องฟิตเนส

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 005

 

เข้ามาดูภายในห้องฟิตเนสกันค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 029

 

ลู่วิ่งมองออกจะเป็นวิวทางทิศตะวันออกค่ะ วิวนอกเมือง โล่งๆสบายตา  ตอนบ่ายแดดไม่ร้อน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 030

 

ส่วนสระว่ายน้ำจะได้วิวเมือง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 006

 

พื้นที่นั่งริมสระว่ายน้ำ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 007

 

สระว่ายน้ำอีกมุม

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 008

 

ว่ายไป ชมวิวไป เพลินๆค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 009

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด Chewathai Ramkhamhaeng ชั้น 1 

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ด้านหน้าจากถนนก่อนจะถึงตัวล็อบบี้นั้นมีระยะพอสมควร  เป็นพื้นที่จอดรถ Outdoor แล้วถึงจะเป็นตัวอาคารที่มีทั้ง Lobby, สำนักงาน และห้องนิติบุคคล ส่วนด้านหลังอาคารนั้นจะเป็นพื้นที่จอดรถ Outdoor อีกที่นึงค่ะ นอกจากนี้แล้วด้านหลังจะมีทางเข้าออกไปทางเดินเลียบคลอง และทางโครงการยังทำเป็นพื้นที่สีเขียวไว้ให้ด้วย ถ้าดูจากแปลจะเห็นว่ามีทางเดินยาวตั้งแต่หน้าโครงการไปถึงด้านหลังโครงการเลยค่ะ (เส้นสีน้ำตาลในแปลน)

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan ชั้น 1 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

 

Typical Floor Plan คอนโด Chewathai Ramkhamhaeng ชั้น 6-29

แปลนนั้นเป็นรูปตัว l ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6 แปลนตั้งแต่ชั้น 6-29 จะเหมือนกันค่ะ ตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ค่อนไปทางทิศใต้ด้านที่ติดถนนใหญ่ค่ะ แบ่งห้องออกเป็นสองฝั่งมีทางเดินตรงกลาง ปลายทางเดินทั้งสองฝั่งมีช่องเปิดให้แสงภายนอกเข้ามาได้  ยูนิตแต่ละห้องจะหันออกทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30 ตารางเมตรค่ะ ส่วนห้องมุมอาคารทั้ง 4 ด้านจะเป็น 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร ซึึึ่งทำให้ห้องนั่งเล่นและครัวจะหันออกทิศเหนือหรือไม่ก็ทิศใต้แล้วแต่ตำแหน่งของห้องค่ะ  ความหนาแน่นจำนวนห้องต่อชั้นจะอยู่ที่ 21 ห้องเท่ากันทั้งหมดค่ะ

Floor Plan ชั้น 6-29 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan ชั้น 6-29 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan คอนโด Chewathai Ramkhamhaeng ชั้น 30

พอมาถึงที่ชั้น 30 ห้องพักอาศัยจะหายไป 4 ห้องทางที่ติดกับถนนใหญ่ค่ะ ทำให้จำนวนห้องทั้งหมดในชั้นนี้จะเหลืออยู่ที่ 17 ห้องค่ะ

Floor Plan ชั้น 30 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan ชั้น 30 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan คอนโด Chewathai Ramkhamhaeng ชั้น 31-32

ส่วนพอมาที่ชั้น 31 และ 32 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยบนสุดก่อนที่จะไปถึงตัว Facilities Floor ที่ชั้น 33 ชั้นนี้ห้องทางด้านหลังที่ติดกับฝั่งคลองก็จะหายไปอีก 4 ห้องค่ะ  ห้องที่เหลืออยู่ในชั้นนี้ จะเหลือห้องแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตรอยู่เพียงห้องเดียวบริเวณที่ติดกับ service lift ส่วนห้องที่เหลือนั้นจะเป็นแบบ 2 ห้องนั้นทั้งหมด 6 ห้อง รวมแล้วชั้น 31-32 นี้จะมีห้องเหลืออยู่เพียง 7 ห้องต่อชั้นเท่านั้นค่ะ

Floor Plan ชั้น 31-32 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

Floor Plan ชั้น 31-32 คอนโด ชีวาทัย รามคำแหง

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง มีหลักๆอยู่ 2 แบบค่ะ  เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30- และ 35 ตารางเมตร  และ 2 ห้องนอน 58, 60, 70 และ 72 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Chewathai Ramkhamhaeng

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร

เริ่มจากแปลน 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร ที่เป็นขนาดเล็กสุดและมีมากที่สุดในโครงการค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเจอพื้นที่ครัวอยู่ก่อน ส่วนอีกด้านจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนค่ะ ระเบียงก็จะอยู่ติดกับมุมนั่งเล่นพักผ่อนนี้ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ใกล้กับบริเวณพื้นที่ครัวค่ะ มีห้องด้านในเป็นพื้นที่สำหรับห้องนอนเพียงอย่างเดียว สามารถวางเตียงกับตู้เสื้อผ้าได้เท่านั้นค่ะ ทีวีในแปลนจะเป็นแบบติดผนังเอา  ภาพรวมของการจัดฟังก์ชั่นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร  ออกมาลงตัวดี

แปลนคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร

แปลนคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Chewathai Ramkhamhaeng

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร จะอยู่เฉพาะตรงมุมคอนโดเท่านั้น ทำให้มีบานหน้าต่างเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน  มีระเบียงเข้ามุมตรงส่วนพักผ่อน ซึ่งสเปซตรงบริเวณส่วนพักผ่อนและส่วนรับประทานอาหารก็จะดูโล่งกว่าแบบ 30 ตารางเมตรมากทีเดียว โต๊ะรับประทานอาหารนั้นสามารขยับออกมานั่งเป็นแบบหันหน้าเข้าหากันก็ได้  ส่วนสิ่งที่ได้น้อยลงก็จะเป็นขนาดความยาวของตู้เสื้อผ้าที่สั้นลงหน่อย  ส่วนครัวนั้นยังเป็นครัวเปิดโล่งเหมือนกับแบบ 30 ตารางเมตร เพียงแต่ไม่ได้อยู่ติดกับห้องน้ำแล้ว  จะมีคอมเม้นท์ก็ตรงตำแหน่งวางโซฟาที่ติดเสาโครงสร้างทำให้ต้องวางลอยตัวออกมาจากผนังนิดนึง   ถ้าไม่อยากให้เป็ซอกก็ต้องทำ built in ปิดเข้าไปด้านหลังโซฟาค่ะ  แต่โดยภาพรวมการจัดฟังก์ชั่นของแบบนี้ก็ทำมาดูโอเคอยู่นะคะ

ชีวาทัย รามคำแหง - 35sqm_1

แปลนคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด Chewathai Ramkhamhaeng

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอนจะเป็นห้องที่ combine ระหว่าง 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร 2 ห้องค่ะ เข้ามาก็จะเจอพื้นที่ด้านขวามือเป็นครัว และพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนด้านในที่ติดกับระเบียงนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ มุมพื้นที่ดูทีวี นั่งเล่นพักผ่อน และมุมนั่งทำงานค่ะ ติดกับมุมทำงานจะเป็นห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว พร้อมกับพื้นที่หน้าห้องน้ำที่เป็นมุมแต่งตัว ไว้สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านที่ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ ห้องน้ำนั้นต้องออกมาใช้ด้านนอกแต่ก็เดินไม่ไกล เพราะอยู่ติดกับห้องนอนเลยค่ะ  การ combine รวมห้องสองห้องเข้าด้วยกันนี้ระเบียงจะไม่ได้ติดรวมกัน แต่จะถูกแบ่งออกด้วยเสาโครงสร้างอาคารค่ะ

แปลนคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร

แปลนคอนโด ชีวาทัย รามคำแหง แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน 30 และ 35 ตารางเมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully furnished ค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Chewathai Ramkhamhaeng 

แบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร

เริ่มจาก 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร เปิดห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 036_1

 

มองย้อนกลับไปหน้าห้องจะเจอพื้นที่ครัวค่ะ อยู่ติดกับทางเข้าห้องเลย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 066_1

 

ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่อยู่เชื่อมต่อกันกับพื้นที่นั่งเล่น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 067_1

 

ติดทางเข้าจะมีชั้นวางรองเท้าให้ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 038_1

 

ด้านข้างที่ติดกับพื้นที่ครัวจะเป็นห้องน้ำ ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านใน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 069_1

 

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันค่ะ ห้องนอนจะได้ผนังกระจกมาเกือบจะเต็มบานเลยค่ะ ทำให้แสงเข้ามาได้ค่อนข้างเยอะ  หายากที่คอนโดตารางเมตรละ 70,000 ในปัจจุบันจะให้กระจกมาเต็มแบบนี้

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 052_1

 

พื้นที่ระหว่างเตียงกับผนังกระจกค่ะ เดินวนรอบได้สบาย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 053_1

 

ส่วนอีกด้านที่ติดกับตู้เสื้อผ้าค่ะ ระยะด้านนี้อาจจะค่อนข้างแคบไปนิด สำหรับการใช้งานค่ะ  ขยับเตียงไปใกล้กระจกด้านนอกอีกหน่อยน่าจะทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 056_1

ห้องตัวอย่างคอนโด Chewathai Ramkhamhaeng 

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร 

เข้ามาภายในด้านในของห้องกันค่ะ เจอพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเหมือนห้องแบบ 35 ตารางเมตร แต่ดูสเปซรวมๆจะกว้างขวางกว่า  เจอหน้าต่างสองด้านเข้าไปก็ทำให้โปร่งขึ้นมากทีเดียว

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 070_1

 

ระยะดูทีวีในห้องนั่งเล่นค่ะ ถือว่าไม่ได้แคบจนเกินไป

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 145_1

 

มองกลับไปที่พื้นที่ครัวที่อยู่ติดกับทางเข้าห้องค่ะ ครัวแบบ 35 ตารางเมตรจะได้ขนาดใหญ่กว่าแบบ 30 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 151_1

 

ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง และห้องนอนจะอยู่ด้านในเหมือนแบบ 30 ตารางเมตรค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 092_1

 

ตำแหน่งของชั้นวางรองเท้าจะอยู่ระหว่างห้องน้ำและห้องนอน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 149_1

 

พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนจะมีชั้นลอยไว้สำหรับวางของไว้ให้ด้วยค่ะ  แต่โซฟาที่ติดเสาโครงสร้างทำให้ต้องวางโซฟาลอยออกมาจากผนัง หน่อยนึงก็ทำให้ดูเสียพื้นที่ไปโดยใช่เหตุ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 148_1

 

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 134_1

 

พื้นที่ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้า จะได้มากว้างกว่าแบบ 30 ตารางเมตรค่ะ ดูใช้งานได้สะดวกกว่าเยอะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 135_1

 

ส่วนด้านที่ติดกับผนังกระจกก็ไม่ได้แคบจนเกินไป สามารถเดินได้ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 131_1

 

ห้องนอนอีกมุม เฟอร์นิเจอร์จะได้ตามนี้เลยค่ะ ยกเว้นพวกของตกแต่งต่างๆ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 130_1

 

ส่วนบริเวณทางเข้าห้องนอนจะมีชั้นลอยไว้สำหรับวางของให้เพิ่มเติม โดยที่แบบ 30 ตารางเมตรจะไม่มีให้ค่ะ  สามารถวางตู้เล็กๆด้านข้างผนังได้ด้วย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 140_1

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มากลางๆ ไม่ได้เน้นที่ความหรูหรา แต่เน้นที่การใช้งานจริงๆ ตามราคาห้องค่ะ อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 039

ครัวแบบ 1 ห้องนอน  30 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 040

เปิดให้ดูที่เก็บของด้านในค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 111

ส่วนครัวแบบ 35 ตารางเมตรจะได้เคาท์เตอร์ครัวเพิ่มขึ้นมาอีกค่อนข้างเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านบน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 118

ยิ่งพอเปิดดูพื้นที่เก็บของด้านในก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าได้มาเยอะกว่าแบบ 30 ตารางเมตรจริงๆ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 112

อ่าง Teka ของแบบ 35 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 041

ส่วนอ่างล้างจานของแบบ 30 ตารางเมตร เนื่องจากเคาท์เตอร์มีพื้นที่จำกัด เลยทำให้อ่างต้องเล็กลงตามไปด้วย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 113

ก๊อกน้ำก็ของ Teka ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 043

เคาท์เตอร์ครัวแบบ 30 ตารางเมตร ถ้าวางเตาไฟฟ้อาจจะไม่พอค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทำอาหาร ใช้แต่ไมโครเวฟอุ่นอาหารเล็กน้อยมากกว่า

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 109

ให้ดูผิววัสดุกันใกล้ๆ   Top เคาท์เตอร์สีขาว  ก็ต้องระวังรักษาความสะอาดกันมากหน่อย  ส่วนหน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 042

มีชั้นลอยไว้วางไมโครเวฟขนาดกะทัดรัด แบบ 30 ตารางเมตรค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 110

ชั้นวางไมโครเวฟแบบ 35 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 116

ทางโครงการไม่ได้มีเครื่องดูดควันไว้ให้ แต่ได้เตรียมพื้นที่สำหรับใส่ที่ดูดควันไว้ให้ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 115

แผงควบคุมไฟ ซ่อนไว้ในตู้ด้านบน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 037

โต๊ะทานข้าวที่ได้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่งค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 045

ห้องน้ำของแบบ 30 ตารางเมตร โทนสีขาวสว่าง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 071-2

ส่วนแบบ 35 ตารางเมตรจะเป็นโทนสีเข้มค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 049

พื้นที่บริเวณอ่างล้างหน้าของแบบ 30 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 075

แบบ 35 ตารางเมตร ตรงกระจกจะมีการแต่งด้วยลายกระเบื้องเพิ่มเติมด้านบนและล่าง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 048

อ่างล้างหน้าของ Cotto มีที่วางของให้ด้านข้าง มีปลั๊กไฟไว้ให้แต่ไม่ได้มีตัวปิดกั้นน้ำเข้าให้ค่ะ แต่ตำแหน่งก็อยู่ห่างจากอ่างพอสมควร ถือว่าก็โอเคอยู่ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 076

ก๊อกน้ำ Cotto เช่นกัน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 080

โถสุขภัฑณ์ก็ของ Cotto ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 077

ที่แขวนผ้า Cotto

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 084

Shower block ก็มีให้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 081

ฝักบัวได้มาหน้าตาตามมาตราฐานทั่วไปค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 083

สเปซพื้นที่อาบน้ำค่ะ ไม่ถึงกับกว้างขวางมากนัก แต่ก็ไม่ได้อึดอัดค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 082

ส่วนเปียกมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องน้ำ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 072

พื้นระหว่างห้องด้านนอกกับกระเบื้องห้องน้ำ มีตัวปิดรอยต่อด้วยลามิเนต  ซึ่งตอนล้างทำความสะอาดห้องน้ำก็ต้องระวังน้ำกระเด็นหรือน้ำซึมหน่อยค่ะ  เดี๋ยวนานๆไปลามิเนตจะมีปัญหาได้

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 158

พื้นระหว่างทางเดินด้านนอกเป็นกระเบื้องกับพื้นห้องด้านในห้องเป็นลามิเนต มีตัวจบรอยต่อเช่นกัน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 141

Door stopper

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 087

ลูกบิดประตูหน้าห้องจะเป็นแบบก้านโยก

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 088

ด้านในจะมีตัวล๊อคให้อีกชั้นนึง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 085

ประตูหน้าห้องค่ะ ทาสีขาว

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 157

ส่วนประตูภายในห้องก็ทาสีขาวเช่นกัน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 124

บานกรอบประตูก็ทาสีขาว

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 127

ลูกบิดประตูสำหรับห้องทั่วไปค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 120

พื้นไม้ลามิเนต ผนังห้องทาสีขาว ส่วนบัวผนังห้องนั้นเป็นไม้สีเข้มกว่าพื้นลามิเนต

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 139

พื้นลามิเนตระหว่างห้องเรียบเสมอกันไม่มีรอยต่อ  ผิวสัมผัสก็ทั่วไปตามมาตราฐาน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 125

สวิทช์ bticino

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 119

ไฟห้องเป็นดาวน์ไลท์

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 122

ชั้นวางรองเท้า ส่วนด้านบนมีลิ้นชักไว้เก็บของได้ด้วย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 123

ด้านในชั้นวางรองเท้า 2 ชั้น ใส่ได้ชั้นละประมาณ 3-4 คู่

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 098

ชั้นวางทีวีตรงห้องนั่งเล่นเป็น 3 ตอน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 065

พื้นที่เก็บของด้านในค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 097

ชั้นลอยตรงห้องนั่งเล่นของแบบ 35 ตารางเมตร

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 129

ชั้นลอยตรงห้องนอนของแบบ 35 ตารางเมตรอีกเช่นกัน

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 144

โซฟาสีขาวแบบ 2 ที่นั่ง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 152

สเปซที่วางโซฟาของแบบ 35 ตารางเมตร โซฟายาวกว่าผนังเลยทำให้ต้องเขยิบมาหน่อย ทำให้มีช่องว่างเหลืออยู่แบบนี้อย่างที่เล่าไปแล้ว

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 096

โต๊ะเล็กข้างๆโซฟา

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 132

โต๊ะลอยข้างเตียง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 057

ตู้เสื้อผ้าที่ Build-in ให้ค่ะ ด้านนึงจะเป็นกระจก อีกด้านเป็นลายไม้ สูงจรดเพดานห้อง

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 137

พื้นที่เก็บของด้านใน ส่วนอีกด้านจะมีลิ้นชักไว้ใส่ของได้

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 147

ดรอปรางม่านได้เรียบร้อย ส่วนม่านต้องเลือกลายมาใส่เองนะคะ ทางโครงการไม่ได้มีให้

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 128

แอร์นั้นได้มาพร้อมกับห้องเลยค่ะ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆไม่ได้มีให้ค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 062

ประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียม

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 100

พื้นระเบียงจะลดระดับลงมาหน่อย

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 059

ขนาดระเบียงของแบบ 30 ตารางเมตรค่ะ พอมีพื้นที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 102

ส่วนแบบ 35 ตารางเมตร ระเบียงจะยาวเข้ามุม เนื่องจากตำแหน่งห้องที่อยู่หัวมุมค่ะ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 061

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

ชีวาทัย รามคำแหง - ภาพที่ 101

คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ตรงระเบียง หันออกด้านข้าง และมีแผงบังสายตา เพื่อความสวยงามเรียบร้อยเวลามองมาจากด้านนอกค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคา คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮมราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (3 กรกฎาคม 2558) แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 1.89 ล้านบาท ราคาจะปรับขึ้นทุกๆ 5 ชั้น ประมาณ 60,000 บาท ส่วนเรื่องทิศนั้นไม่ได้มีผลต่อราคาค่ะ ทิศตะวันตกและทิศตะวันออก ราคาจะเท่าๆกัน

ราคา ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  ยูนิต 1720 พื้นที่ 30.01  ตร.ม. ชั้น 17  ราคา 2,265,000 บาท เฉลี่ย 75,475 บาท/ตร.ม.

1 bedroom  ยูนิต 1609 พื้นที่ 35.83  ตร.ม. ชั้น 16  ราคา 3,030,000 บาท เฉลี่ย 84,566 บาท/ตร.ม.

2 bedroom  ยูนิต 1203-4 พื้นที่ 59.58  ตร.ม. ชั้น 12  ราคา 4,949,909 บาท เฉลี่ย 83,080 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

Bedroom จอง 10,000 – 40,000 บาท แล้วแต่ยูนิต

  • ผ่อนผ่อนดาวน์

ไม่มี เป็นคอนโดพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   30  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 30.01 ตร.ม.  ราคาขาย  2.265  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 14,951 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 35.83 ตร.ม.  ราคาขาย  3.030  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 20,001 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 59.58 ตร.ม.  ราคาขาย  4.949  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 32,675 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 30.01 ตร.ม.  ราคาขาย  2.265  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 15,802 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 35.83 ตร.ม.  ราคาขาย  3.030  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 21,139 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 59.58 ตร.ม.  ราคาขาย  4.949  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 34,534 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 30.01 ตร.ม.  ราคาขาย  2.265  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 17,226 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 35.83 ตร.ม.  ราคาขาย  3.030  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 23,044  บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 59.58 ตร.ม.  ราคาขาย  4.949  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 37,647 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 30.01 ตร.ม.  ราคาขาย  2.265  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 19,823 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 35.83 ตร.ม.  ราคาขาย  3.030  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 26,518 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 59.58 ตร.ม.  ราคาขาย  4.949  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 43,321 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 30.01 ตร.ม.  ราคาขาย  2.265  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 25,383 บาท/เดือน

1 bedroom   พื้นที่ 35.83 ตร.ม.  ราคาขาย  3.030  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 33,956 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 59.58 ตร.ม.  ราคาขาย  4.949  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 55,471 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโดนั้นอยู่ระหว่างซอยรามคำแหง 79/1 และ 79/2 บนถนนรามคำแหง ซึ่งถนนรามคำแหงก็เชื่อมต่อกับทั้งถนนศรีนครินทร์ ถนนพระราม 9 หรือจะไปลาดพร้าวก็สามารถใช้ทางลัดออกซอยรามคำแหงที่เชื่อมต่อกับซอยลาดพร้าวได้ค่ะ  เพราะฉะนั้นจากตัวคอนโดเลยเดินทางออกเส้นทางหลักๆได้หลากหลายค่ะ  ถ้าใช้บริการรถสาธารณะด้านหน้าตรงถนนรามคำแหงก็มีรถเมล์ไปไหนมาไหนได้หลายเส้นทาง  และก็สามารถใช้บริการเรือในคลองแสนแสบเข้าเมืองก็ได้ ในแง่การเชื่อมต่อของการเดินทางไปจุดต่างๆจัดว่าดีทีเดียวค่ะ

ส่วนรถไฟฟ้าช่วงนี้ที่ใกล้ที่สุดก็คงจะเป็น Airport Link ทั้งสถานีรามคำแหงและสถานีหัวหมาก แต่ก็ต้องนั่งรถไปขึ้น เพราะอยู่ไกลพอสมควรค่ะ  ในเรื่องโครงข่ายทางด่วนใกล้สุดก็ต้องออกไปพระราม 9 ซึ่งก็ถือว่ามีระยะทางไกลพอสมควรเช่นกัน   ปัญหาหลักของการเดินทางในโซนนี้คือปริมาณการจราจรที่หนาแน่นมากทั้งในช่วงเช้าและเย็น (หลายๆครั้งกลางวันก็แน่น)  แต่ถ้ารู้จักเส้นทางลัดเลาะไปได้บ้างก็น่าจะช่วยได้มากทีเดียว

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

เรื่องโครงสร้างพื้นฐานนั้นก็คงมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม  ที่จะวิ่งผ่านถนนเส้นรามคำแหงในอนาคตค่ะ  สถานนีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีหัวหมาก อยู่ตรงหน้าโรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งระยะทางจากหน้าคอนโดไปโรงพยาบาลอยู่ที่ประมาณ 300 เมตรค่ะ  พอรถไฟฟ้าสร้างเสร็จน่าจะช่วยเรื่องการจราจรได้อีกมากทีเดียว เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าแถวนี้รถติดขนาดไหน  พอรถไฟฟ้ามาแล้วความสะดวกน่าจะเพิ่มขึ้นอีกเยอะเพราะสามารถตรงเข้าสู่รัชดาภิเษก ไปตัดกับ MRT สายสีน้ำเงินได้เลย

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ตัวที่ดินด้านนึงติดถนนใหญ่ทางทิศใต้ อีกด้านติดกับคลองทางทิศเหนือ เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ  การวางแปลนก็วางตามลักษณะของแนวรูปที่ดิน วางแปลนออกมาแล้ว ห้องจะหันออกไปทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นหลัก จึงทำให้มีด้านที่โดนแดดบ่ายเต็มๆชัดเจน (ฝั่งหันไปทาง ม.รามฯ) ส่วนวิวทั้งสองทิศนั้นจะไม่ได้มีอาคารสูงรอบๆให้เห็นมากนัก วิวทางทิศตะวันตกจะได้วิวเมือง ส่วนทิศตะวันออกจะได้วิวจากนอกเมือง  ตัวคอนโดนั้นมีการใช้องค์ประกอบพวกระนาบเส้นตั้งเส้นนอนมาตกแต่งตัวอาคารทำให้เกิดแพนเทิร์นบ้าง แต่รวมๆแล้วออกมาเรียบๆด้วยโทนสีขาว ตัดด้วยเส้นสีเทาค่ะ  สัดส่วนอาคารดีไซน์ออกมาดี

ด้านการวางแปลนนั้น แบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร จะดูเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าแบบ 30 ตารางเมตร แน่นอนเพราะเพิ่มที่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การใช้งานดูลงตัวกว่า  และได้สเปซเพิ่มขึ้นมาด้วย อย่างเช่นพื้นที่ครัวที่แบบ 30 ตารางเมตรนั้นได้เคาท์เตอร์ครัวมาแบบขนาดกะทัดรัด ไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารแน่ๆค่ะ เน้นเวฟสำเร็จรูปจะสะดวกกว่า  ในส่วนห้องนอนนั้น แบบ 35 ตารางเมตร จะได้พื้นที่การใช้งานที่เพิ่มขึ้น ดูใช้งานได้สะดวกกว่าค่ะ ส่วนแบบ 30 ตารางเมตร วางเตียงกับตู้เสื้อผ้าก็เต็มพื้นที่แล้วค่ะ  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้น สเปซจะได้เหมือนรวมห้อง 30 ตารางเมตรเข้าด้วยกัน พื้นที่รวมๆแล้วก็เป็นแบบ 2 ห้องนอนทั่วไปค่ะ ไม่ได้มีข้อติอะไรมากมาย  สามารถใช่งานได้ดี

ด้านวัสดุนั้นให้มาระดับกลางๆค่ะ เนื่องจากคอนโดไม่ได้อยู่ในระดับที่มีราคาสูงมาก เรื่องวัสดุเลยเน้นไปที่การใช้งานจริงมากกว่า ห้อง 35 ตารางเมตรจะได้ Built-in มาส่วนเพิ่มมา อย่างชั้นลอยวางของ เหมือนครัวที่ได้มาขนาดใหญ่กว่าห้อง 30 ตารางเมตร รวมทั้งผนังกระจกตรงห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูกว้างกว่ามาก  จุดเด่นของวัสดุที่ได้มานั้นคงจะต้องยกให้เป็นเรื่องหน้าต่างที่ได้กระจกบานใหญ่มาเต็มบาน  เห็นวิวโล่งๆ ทำให้ดูไม่อึดอัด  โดยเฉพาะห้องมุม 35 ตารางเมตรนั้นดูโปร่งมากทีเดียว  วัสดุในห้องที่ให้มานั้นเน้นไปที่โทนสีขาวเป็นหลัก  ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานจริงคงต้องระมัดระวังกันพอสมควร  เพราะจะเลอะง่ายอยู่เมื่อเทียบกับวัสดุโทนสีเข้มค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบ  แต่ดีไซน์เรียบๆ ใช่วัสดุเรียบๆ ไม่ได้หรูหราอลังการ  พื้นที่ส่วนกลางนั้นเอาไปไว้ชั้นบนหมด ก็เป็นข้อดีอย่างนึง คือ คนที่อยู่ชั้นล่างๆก็สามารถข้นมาใช้งาน ชมวิวด้านบนได้ สระว่ายน้้ำบนสุดที่เห็นวิวเมืองไกลๆกลางคืนก็น่าจะสวยดีค่ะ จุดที่ดูงงๆหน่อยก็คือ Stream Room จะมีเฉพาะห้องของผู้หญิง  ส่วน Sauna Room ก็จะมีเฉพาะผู้ชาย ไม่ได้สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ  สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 178 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นพอโอเคอยู่เมื่อมองเทียบกับราคา  ที่จอดรถ 60% ก็ไม่ได้มาก แต่ก็ไม่ได้น้อยจนรับไม่ได้ค่ะ  อย่าลืมว่าราคาคอนโด high rise ในเมืองที่ 70,000 บาทต่อตารางเมตรในปัจจุบันที่เป็นมือ 1 ก็หากันยากพอสมควร

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

โครงการบริเวณรอบๆและพื้นที่ใกล้เคียงนี้มีเปิดตัวไล่ๆกันจะมีแต่เพียงคอนโด Low-rise ภายในซอยเท่านั้นค่ะ ถ้าเป็นคอนโดสูงๆ จะไม่มีขึ้นเลยบนถนนรามคำแหง เนื่องจากผังเมืองที่เปลี่ยนไป ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถสร้างอาคารสูงแบบนี้ได้แล้วค่ะ จะมีคอนโดเพื่อนบ้านที่เป็นอาคารสูงเหมือนกันก็แค่ Lumpini Ville รามคำแหง 44 ที่สร้างเสร็จขายหมดไปแล้วหลายปีค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ชีวาทัย รามคำแหง

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ

บีซี เดินหน้ากระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง รวบ 100 โครงการกว่า 2,000 ยูนิต ทั่วกรุงเทพฯ ประเดิมจัดงานแรก CITI CONDO EXPO by BC

$
0
0

            บีซี โบรกเกอร์มือหนึ่งในเครือ เอพี ฉายภาพเรียลดีมานด์ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองขยาย เดินหน้าจัดงาน CITI CONDO EXPO by BC ครั้งแรก ยกทัพคอนโดมิเนียมบนทำเลที่ดีที่สุดกว่า 100 โครงการ 2,000 ยูนิต ทั่วกรุงเทพฯ พร้อมอัดโปรโมชั่นสุดแรงเขย่าตลาดครึ่งปีหลัง “ลดทุกยูนิต ต่อติดชีวิตเมือง” เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม  สิงหาคมนี้ 

ที่ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน มั่นใจกำลังซื้อตอบรับ คาด 3 วัน กวาดยอดขายรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

BC City Smart

         

        ขยล ตันติชาติวัฒน์ (กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพ ซิตี้สมาร์ท จำกัด)(Mr.Kayon Tantichatiwat, General Manager, BANGKOK CITISMART Co., Ltd.) บริษัทผู้นำที่ปรึกษาด้านการซื้อ ขาย เช่า และ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองในเครือ เอพี เปิดเผยว่า ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ต่างให้การยอมรับการอยู่ในเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ของคอนโดพร้อมอยู่ เป็นเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง อีก 15 เปอร์เซ็นต์ ลงทุนเพื่อนให้เช่า และเพื่อให้สอดรับกับดีมานด์ที่เกิดขึ้นจริงในตลาด บีซี ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท จัดงาน CITI CONDO EXPO by BC โดยการคัดสรรคอนโดมิเนียมจำนวนกว่า 2,000 ยูนิต จาก 100 โครงการ บนทำเลที่ดีที่สุดจากทั่วกรุงเทพฯ มาให้เลือกซื้อเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของการอยู่อาศัยในเมืองภายใต้สโลแกน ลดทุกยูนิต ต่อติดชีวิตเมือง

         “โดยทุกโครงการที่ บีซี เลือกมาภายในงานนั้น นอกจากเรื่องทำเลซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยแล้ว เรื่องบประมาณก็ยังเป็นโจทย์สำคัญอีกประการหนึ่ง ดังนั้นเราจึงทำการแยกโซนราคาออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซน 3 ล้านบาท ซึ่งจะรวมโครงการราคาสุดฮอต แถมยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าบนดิน (BTS) หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) เช่น แอสปาย สุขุมวิท 48 (Aspire Sukhumvit 48), โซน 5 ล้านบาท ทุกท่านสามารถหาโครงการที่เป็นมัลติเพิล คอนเนคชั่น คือติดทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ รถไฟฟ้าบนดิน และ แอร์พอตลิงค์ (ARL)อาทิริธึ่ม อโศก (RHYTHM Asoke), ไลฟ์ รัชดาภิเษก (Life Ratchadapisek), โซน 9 ล้านบาท เบส อินเวสเมนต์ เช่น ริธึ่ม สาทร (Rhythm Sathorn), ริธึ่ม สุขุมวิท 36-38 (Rhythm 36-38), ริธึ่ม รางน้ำ (Rhythm Rangnam) และโซนซูเปอร์พรีเมี่ยม ที่จะรวม 24โครงการระดับไฮเอนของกรุงเทพ อาทิ นิมิต หลังสวน (Nimit Lungsuan), มหานคร (Mahanakorn), XXXIX สุขุมวิท 39 ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านที่มาให้งานสามารถเลือกที่อยู่อาศัยได้ตรงความต้องการของตัวเองจริงๆ

       พร้อมกันนี้ บีซี เดินหน้าสร้างการรับรู้เพื่อประชาสัมพันธ์งานครบ 360 องศา ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจากการจัดงาน CITI CONDO EXPO by BC ตลอดระยะเวลา 3 วันจะสามารถกวาดยอดขายได้มากกว่า 100 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท” 

Bangkok City Smart

 

 

สำหรับการจัดงาน CITI CONDO EXPO by BC พบคอนโดฮอตบนทำเลฮิตกว่า 100 โครงการ รวม 2,000 ยูนิต จากทั่วกรุงเทพฯ พร้อมโปรโมชั่นสุดแรงแห่งปี ลดทุกยูนิต ต่อติดชีวิตเมือง พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่าล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่กำหนดรวมมูลค่าสูงสุดในแต่ละวันภายในงานรับ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ขนาด 128 GB มูลค่า 34,900 บาท จำนวน 1 เครื่อง หรือเมื่อจองยูนิตรีเซลในงานรับ Paragon Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายจากพันธมิตรทางการเงิน พร้อมร่วมฟังสัมมนาเรื่อง “ซื้อคอนโดอย่างไรไม่ให้เสี่ยง” โดยกูรูอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง “Mr.Oe” จาก Thinkofliving.com ฟรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม – สิงหาคม 2558 ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เพียง 3 วันเท่านั้น

 

        “ผมมองว่าคอนโดมิเนียมเป็นทางออกของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในเมือง และผมเชื่อมั่นว่าถ้าทุกคนได้มาเดินภายในงาน CITI CONDO EXPO by BC จะได้พบข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่คุณต้องการว่าโครงการไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเหมาะกับงบประมาณในกระเป๋าของคุณมากที่สุด ซึ่งที่นี้เราจะมีทีมงาน พรอพเพอตี้ คอนเซาท์แทนท์ (Property Consultant)ที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องอสังหาฯ ที่สำคัญทุกคนสามารถตอบคำถามของคุณได้หมดแบบมืออาชีพ และมี

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.bkkcitismart.com/แคมเปญ/งาน-ซิตี้คอนโด-เอ็กซ์โป-บาย-บีซี

 

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02.661.8999 หรือทางเว็บไซต์ www.bkkcitismart.com


Noble Gable Watcharapol …เมื่อพื้นที่การใช้ชีวิตไม่ใช่แค่กล่องสีเหลี่ยมใต้หลังคา

$
0
0

[Advertorial]

ปัจจุบันทางเลือกหลักๆ ของการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยสักที่นึงถ้าไม่สร้างเองก็คงไม่พ้นตัวเลือกระหว่างคอนโดมิเนียมหรือบ้านจัดสรรแนวราบ  ไลฟ์สไตล์ของหลายๆ คนเลือกความสะดวกสบายคล่องตัวของการอยู่คอนโด  มีต้นทุนการบำรุงดูแลรักษาที่น้อย  ใช้เวลาดูแลไม่เยอะ และเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับไลฟ์สไตล์นอกบ้านเป็นส่วนใหญ่
ในขณะที่อีกหลายๆคนยอมเสียเวลา  ยอมเดินทางไกลกว่า โดยเลือกซื้อบ้านเพื่อได้ที่ดินเป็นของตัวเอง  ได้มีสนามหญ้ากว้างๆ ไว้ให้ลูกๆวิ่งเล่น  ซึ่งความต้องการก็แตกต่างกันไปหล่ะครับ

บทความนี้เราพาไปดูโครงการ Noble Gable Watcharapol ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด ของโนเบิลฯ   ที่ลักษณะของตัวบ้านนั้นก็ฉีกแนวจากบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด ตามท้องตลาดไปมากพอสมควร  ประเด็นที่น่าสนใจคงจะเป็นลักษณะการวางแปลนบ้าน  ที่จะวางห้องนั่งเล่น, ห้องพักผ่อน ที่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมต่างๆของบ้านเอาไว้ด้านหลังเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย  และเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้างบ้าน ให้ได้สเปซที่แตกต่างออกไป  เพราะโดยปกติแล้วแปลนบ้านจัดสรรทั่วๆไปที่เราเห็นกันก็จะเปิดมุมมองออกทางหน้าบ้านเป็นส่วนใหญ่  ถ้าไม่ใช่บ้านแปลงมุม  หน้าต่างด้านข้างก็จะบานเล็กๆ พอให้มีแสงเข้ามาได้บ้าง  แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นผนังทึบอยู่เป็นส่วนใหญ่  ถือว่าการออกแบบก็เป็นเอกลักษณ์แปลกใหม่พอสมควร

 

 

Noble Gable (ภาพที่ 14)

 

ลองดูกราฟิกจากในแปลนจะเห็นว่าช่องหน้าต่างนั้นเชื่อมต่อภายในกับภายนอกได้ดีทีเดียว

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Semi

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Semi

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Aeto

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Aeto

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Pyra Gable วัชรพล แบบ Pyra

แปลนบ้าน Noble Gable วัชรพล แบบ Pyra

 

และจุดสังเกตอีกจุดนึง คือ ตัวบ้านนั้นจะเลื่อนไปชิดกับแนวที่ดินอีกฝั่งหนึ่งมากกว่า  ทำให้เกิดสเปซอีกด้านของตัวบ้านที่กว้างขึ้น  และใช้ประตูเลื่อนกระจกบานใหญ่เป็นตัวเชื่อมสเปซทั้งภายนอกและภายในเข้าด้วยกัน  ในแง่ความรู้สึกก็จะเกิดสเปซที่ดูกว้างขึ้นกว่าภายในตัวบ้านที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยม  นอกจากนี้ถ้าคนนอกมองจากหน้าบ้านเข้าไป  ก็จะไม่เห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นพักผ่อนเลย  ซึ่งก็จะทำให้การนอนเอกเขนกดูทีวีอยู่ในบ้านตัวเองนั้นเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

Noble Gable (ภาพที่ 8)

Noble Gable (ภาพที่ 9)

Noble Gable (ภาพที่ 6)

 

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การวางตำแหน่งของตัวบ้านในผังโครงการสลับกันนิดหน่อย  ทำให้เกิดสเปซโล่งๆ ขึ้นอย่างในรูปด้านล่างครับ

Noble Gable (ภาพที่ 13)

 

ซึ่งก็แน่นอนว่าเมื่อพื้นที่ด้านข้างนั้นมากขึ้น  ก็จะสามารถมีพื้นที่ต่อเติมสำหรับกิจกรรมต่างๆยามอยู่บ้านได้มากขึ้นครับ  ไม่ว่าจะทำเป็นบ่อปลา, มุมรับประทานอาหารภายนอกบ้าน, ปิกนิกตั้งเตาบาร์บีคิว, ตั้งโต๊ะสำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า หรือแม้แต่จัดสวนเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างที่นิยมทำกัน

Noble Gable (ภาพที่ 7)

Noble Gable (ภาพที่ 12)

Noble Gable (ภาพที่ 4)

Noble Gable (ภาพที่ 3)

Noble Gable (ภาพที่ 1)

Noble Gable (ภาพที่ 2)

 

ส่วนถ้าใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปว่ายน้ำ วิ่งออกกำลังกายในฟิตเนส หรือวิ่งรอบสวนกลางแจ้ง  ก็สามารถไปที่คลับเฮ้าส์ของโครงการได้  วัสดุของสระว่ายน้ำนั้นใช้หินภูเขาไฟปูพื้นสระ  ซึ่งก็จะให้สัมผัสของผิวตามธรรมชาติ  ไม่ได้เป็นผิวกระเบื้องเคลือบตามแบบสระว่ายน้ำทั่วไป

Noble Gable วัชรพล - ภาพที่ 012

Noble Gable (ภาพที่ 15)

 

สำหรับผู้ใช้รถเข็น หรืออุปกรณ์ช่วยเดิน รวมไปถึงเด็กเล็กที่ยังต้องให้พ่อแม่ใช้รถเข็นพาไป โครงการก็มีทางลาดเอาไว้เพื่อให้สามารถใช้สอยได้สะดวกครับ

Noble Gable (ภาพที่ 17)

Noble Gable (ภาพที่ 18)

 

ทางเดินเชื่อมตรงไปสู่สวน

Noble Gable (ภาพที่ 16)

 

สวนสาธารณะกลางโครงการที่รอวันเขียวขจี

Noble Gable (ภาพที่ 27)

Noble Gable (ภาพที่ 28)

 

นั่นก็เป็นภาพคร่าวๆ ที่เราเล่าถึงแนวคิดของ Noble Gable Watcharapol ให้อ่านกันครับ  ก็น่าสนใจว่าโครงการที่เลือกใช้แนวคิดทั้งการวางแปลนและรูปแบบหน้าตาบ้านที่ต่างออกไปจากสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ทำกันเป็นแพทเทิร์นในท้องตลาด  จะประสบความสำเร็จขนาดไหน  กับแนวคิดที่พยายามเชื่อมต่อสเปซภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน  เพื่อสร้างพื้นที่ใช้งานเพิ่มเข้ามาให้มีกิจกรรมที่หลากหลายขึ้น  ซึ่งสุดท้ายแล้วเวลาก็จะพิสูจน์เองครับว่า คอนเซ็ป “We’ve created the combination of living … รูปแบบใหม่ของการใช้ชีวิต ที่เราคิดมาเพื่อคุณ” นั้นดีอย่างไร

 

รับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.noblehome.com  หรือโทร. 02-251-9955

 

รีวิว บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 ทาวน์โฮม 3 ชั้น สไตล์ Modernist ย่านอ่อนนุช จาก AP [รีวิว]

$
0
0

สวัสดีครับเพื่อนๆ  รีวิวนี้อยู่สบายพาไปชมทาวน์โฮมโครงการ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 กันครับ  ซอยสุขุมวิท 77 ก็คือซอยอ่อนนุชนั่นเอง  ตัวทาวน์โฮมบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 นั้นอยู่ในซอยอ่อนนุช 17 ซึ่งเข้าออกได้จากทั้งทางอ่อนนุชและจากถนนพัฒนาการครับ  โครงการนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.99 ล้านบาท  ติดตามอ่านบทวิเคราะห์อย่างละเอียดได้จากรีวิวของอยู่สบายเช่นเคยครับ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

  • เจ้าของโครงการ >>>  AP(Thailand) / เอพี (ไทยแลนด์)
  • ที่ตั้งโครงการ >>>  ซอยอ่อนนุช 17 แยก 7 ตรงข้ามหมู่บ้านปัญญา
  • ขนาดที่ดิน >>>  18-1-41.8 ไร่
  • ประเภท >>> ทาวน์โฮม 3 ชั้น
  • จำนวนยูนิต >>>  194 หลัง
  • พื้นที่ใช้สอย >>>   3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ / 178 ตารางเมตร / หน้ากว้าง 5.00 เมตร
  • ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  5.99 ล้านบาท (เนื้อที่ดิน 20 ตารางวา ณ วันที่ 15/7/2014)
  • พิกัด GPS >>> 13.720439, 100.612181
บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - ภาพที่ 2

ทางเข้าบ้านกลางกรุง สุขุมวิท 77


บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - ภาพที่ 1

บ้านกลางกรุง สุขุมวิท 77 แบบหน้ากว้าง 5 เมตร


บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - ภาพที่ 1-2

สวนสาธารณะ บ้านกลางกรุง สุขุมวิท 77

 

จากแผนที่ของ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 จะเห็นว่าโครงการสามารถเข้าถึงได้จากถนนหลักๆ 2 เส้น คือถนนอ่อนนุช  และถนนพัฒนาการอย่างที่เกริ่นไปแล้ว  โดยตัวโครงการจะอยู่ใกล้ทางฝั่งอ่อนนุชมากกว่า  ซอยอ่อนนุช 17 ที่โครงการตั้งอยู่นั้นเรียกกันติดปากว่าซอยสวนหลวงครับ

ระยะห่างจากจุดสำคัญต่างๆรอบโครงการ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

ห่างจาก รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ประมาณ 2.6 กิโลเมตร

ห่างจาก BigC Extra อ่อนนุช 2.0 กิโลเมตร

ห่างจาก ถนนศรีนครินทร์ 4.8 กิโลเมตร

ห่างจาก ถนนพัฒนาการ 2.4 กิโลเมตร

ห่างจาก ปากซอยสุขุมวิท 50 เพื่อขึ้น-ลง ทางด่วน : ขาไป 4.1 กิโลเมตร (รวมกลับรถ) / ขากลับ 2.5 กิโลเมตร

------------------------------------------------------------------------------------77

แผนที่ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

หลังจากดูแผนที่กราฟิกง่ายๆกันไปแล้ว  เรามาดูจากแผนที่ระยะจริงเพื่อเห็นภาพกันมากขึ้นครับ  เราจะเห็นว่าถ้ามาโครงการ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77  โดยเข้าจากทางถนนพัฒนาการจะสามารถเข้าได้ทั้ง 3 ซอย คือ พัฒนาการ 20, 28 และ 30 ถ้าจะเข้าจากทางสุขุมวิทก็เข้าซอยอ่อนนุช 17 ระยะทางจากปากซอยประมาณ 1 กิโลเมตร  หน้าโครงการบ้านกลางเมืองสุขุมวิท 77 นั้น จะมีรถสองแถวแดงวิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆ โดยรถจะวิ่งจากปากซอยอ่อนนุชจากแถวบิ๊กซีไปจนถึงทางฝั่งพัฒนาการ  เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้ขับรถมาเองก็ยังมีรถสาธารณะให้ใช้บริการครับ

route-map-wide

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

Route

 

การรีวิวในครั้งนี้ ตอนแรกจะเข้าไปทางซอยอ่อนนุช  แต่พอใช้บริการอากู๋ Google Map แล้วเห็นทางอ่อนนุชรถติดเอาเรื่อง  เลยเปลี่ยนเลือกใช้เส้นทางบนถนนพัฒนาการแทน  โดยใช้พัฒนาการฝั่งขาเข้า จากแยกพัฒนาการที่ตัดกับถนนศรีนครินทร์ โดยวิ่งตรงมาเรื่อยๆครับ ถนนพัฒนาการเป็นถนน 6 เลน มีเกาะกลางถนน โดยเส้นนี้สามารถเข้าถึงโครงการได้ 3 ซอยเลยครับ ได้แก่ ซอยพัฒนาการ 30 ซอยพัฒนาการ 28 และซอยพัฒนาการ 20 ถ้าหากใครขับเลยซอยแรก หรือซอยที่สอง ก็ยังสามารถเข้าซอยที่สามได้  ถ้าเข้าทางซอยพัฒนาการ 30 ก็เห็นชัดดี เพราะมีโชว์รูมฮอนด้าตรงปากซอยเป็นจุดสังเกตใหญ่ๆ  มีป้ายเขียนชัดเจนว่า “เส้นทางลัดอ่อนนุช”

route-map

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-A

บนถนนพัฒนาการขาเข้าครับ

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-B

พอใกล้จะถึงซอยพัฒนาการ 30 จะเห็นป้ายบอกทางแล้ว ก็เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิทได้เลย

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-C

ถึงซอยพัฒนาการ 30 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าเลย จะมีศูนย์รถยนต์ Honda อยู่ปากซอย

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-D

ในซอยนี้จะมีอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-E

ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอสี่แยกครับ ชื่อสี่แยกตะวันทอง จะมี 7-11 อยู่หัวมุมทั้งซ้ายและขวา ถึงแยกนี้เลี้ยวขวา มีรถสองแถวสีแดงแบบนี้วิ่งผ่านโครงการด้วยครับ (ส่วนรถสองแถวก็จอดพักกันอยู่ตรงหน้าเซเว่นนี่แหละ)

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-F

พอเลี้ยวซ้ายมาแล้ว  จะไปเชื่อมกับซอยพัฒนาการ 20  ก็ให้ขับรถตรงไปเรื่อยๆครับ

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-G

เจอแยกอีกครั้งให้เลี้ยวซ้าย (จะมีเซเว่นอยู่ทางขวามือ)

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-H

พอเลี้ยวมาเสร็จก็จะเป็นจุดที่มาทะลุ ซอยอ่อนนุช 17 แล้วครับ ตรงมาสักพักจะเห็นข้างหน้าเป็นปั๊มน้ำมันบางจาก แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-I

ขับเลยปั๊มน้ำมันมา โครงการอยู่ขวามือ จะเห็นอาคารสีขาวและรั้วต้นไม้ตลอดแนวในรูปนี่แหละครับ

บ้านกลางเมือง-สุขุมวิท-77-J

ถึงแล้วครับ บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ในซอยอ่อนนุช 17 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการแนวราบครับ  หมู่บ้านในซอยนี้มีหลายโครงการเป็นหมู่บ้านเก่า ที่สร้างกันมานับสิบปีแล้ว  เช่น มู่บ้านเศรษฐีปาร์ค (หมายเลย 1)  หมู่บ้านปัญญา (หมายเลข 2)  ซึ่งก็อยู่ในละแวกตรงข้ามโครงการทั้งหมด  ซึ่งทั้ง 2 โครงการ ก็เป็นโครงการบ้านของคนที่ค่อนข้างจะมีฐานะครับ  ในซอยยนี้จะมีคอนโดสูงสุดก็แค่ 9 ชั้น เป็นโครงการ บ้านสุขุมวิท 77 (หมายเลข 7) มีทั้งหมด 6 อาคาร สร้างมานานมากแล้วเช่นกัน

ถ้าออกจากบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 แล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอสี่แยกเล็กๆ เป็นซอยอ่อนนุช 17 แยก 9 และซอยอ่อนนุช 17 แยก 16 บริเวณนี้จะมีร้านขายยา (หมายเลข 3) ตรงหัวมุมสี่แยกจะมี Mini BigC (หมายเลข 4) และปั๊มน้ำมันบางจาก (หมายเลข 5) ที่ขับรถผ่านมาเมื่อสักครู่  ติดๆกันเลยมี Lotus Express (หมายเลข 6) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจับจ่ายซื้อของเล็กๆน่อยๆ  โดยที่ไม่ต้องออกไปตรงปากซอยอ่อนนุช  … ตรงหัวมุมที่เชื่อมซอยพัฒนาการ 20 กับ ซอยอ่อนนุช 17 จะมีเต้นท์ขายอาหาร (หมายเลข 9)  นอกจากนี้ก็จะมีเซเว่นกระจายตัวอยู่เป็นระยะๆ เกือบตลอด (หมายเลข 8, 10)

Rev214-Surrounding

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ไปวนดูรอบๆโครงการกันบ้างครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 1)

บริเวณหน้าโครงการ  ทำป้ายรับกับสายตาคนที่เข้ามาตามแนวถนนได้ดีครับ ทำให้ด้านหน้าโครงการมีระยะเว้นเอาไว้ ดูกว้าง แม้ว่าถนนซอยอ่อนนุช 17 จริงๆแล้วจะค่อนข้างแคบก็ตาม

สภาพแวดล้อม บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 6)

มองจากด้านหน้าโครงการออกไปภายในซอยอ่อนนุช 17 เป็นถนน 2 เลนสวนกัน มีรถวิ่งตลอด เนื่องจากเชื่อม 2 ถนนหลักได้อย่างที่เล่าไปแล้ว

สภาพแวดล้อม บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 5)

แนวรั้วของบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77  ปลูกต้นไม้เขียวตอนแนวรั้ว  เดินไป Lotus Express จากตรงนี้ได้  แต่ต้องเดินบนไหล่ทาง ยังไงก็ระวังรถกันหน่อยนะครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 007)

หมู่บ้านปัญญาตรงข้ามบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 เลย เป็นหมู่บ้านคนมีสตางค์ในย่านนี้แต่เดิม  สร้างมาเป็นสิบปีแล้วครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 003)

หมู่บ้านเศรษฐีปาร์ค ติดกับโครงการบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 ตลอดแนวทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)

เดินไปทางอ่อนนุช 17 แยก 9  ไม่ไกลมาก ประมาณ 200 เมตร มีร้านขายยา

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)

มี Mini Big C ตรงหัวมุมสี่แยก ติดกับร้านขายยาเลย

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 011)

ตรงข้าม Mini Big C เป็นปั๊มน้ำมันบางจาก

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 012)

ติดๆกับปั๊มน้ำมันมี Lotus Express

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

เราออกไปทางปากซอยอ่อนนุช 17 กันบ้างครับ  จะเจอ The Curve Neighborhood Center เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้นั่งชิลล์ได้  ตอนนี้ไปนั้นเป็นช่วงกลางวันเวลาทำงาน  เลยไม่รู้ว่าช่วงวันหยุดและเวลาเลิกงานปกติคนคึกคักขนาดไหน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 005)

ถ้าออกจากปากซอยอ่อนนุช 17 ไปทางศรีนครินทร์สัก 200 เมตร จะมี Max Valu, ปั๊มน้ำมันบางจาก และ B-Quik อยู่ติดๆกัน (ตั้งอยู่ปากซอยอ่อนนุช 17/1)

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 006)

เราออกมาตรงปากซอยอ่อนนุชมี Big C Extra อ่อนนุช เป็นบิ๊กซีใหญ่มาก  หาของกินของใช้สะดวกครับ ถือเป็นฮับใหญ่ของย่านนี้เลย

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยครับ

ป้ายหนัาโครงการ ปูด้วยกระเบื้องหินธรรมชาติ ดูเรียบร้อยสะอาดตาดีมาก  ทำทางเดินสำหรับคนแยกมาอยู่ข้างๆ ทางเข้าออกของรถยนต์

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)

 

ระบบรักษาความปลอดภัยมีประตูเลื่อนอัตโนมัติกัน  ป้อมยามเหลี่ยมๆแบบโมเดิร์น

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)

 

ประตูเปิด – ปิด ด้วยไฟฟ้า

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 003)

 

ถนนโครงการกว้าง 12 เมตร พอเข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นสวนสาธารณะโครงการ  ส่วนตัวบ้านในโครงการก็จะเรียงหน้ากระดานแถวตรงยาวเข้าไป

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

 

สำนักงานอยู่ข้างหน้าเลย (ขวามือหลังที่ 2)

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)

 

พาเข้ามาภายในสำนักงานขายครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

โครงการนี้มี 194 ยูนิต ที่ดินสีเหลี่ยมผืนผ้า โดยโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 เฟสซึ่งจะเปิดขายเฟสแรกด้านหน้าก่อน และจะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนสาธารณะอยู่ด้านหน้า ตรงกรอบสีเขียวในภาพกราฟิกครับ  จากผังเราจะเห็นว่ารอบๆนั้นด้านนึงจะเป็นหมู่บ้านเศรษฐีปาร์คอย่างที่เล่าไปแล้ว  ส่วนอีก 2 ฝั่ง จะติดคลองทองหลาง  พื้นที่รอบๆ บริเวณนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านพักอาศัยและตึกแถวกระจายๆ กันไป มีโรงงานขนาดเล็กๆนิดหน่อยครับ

Rev214-layout

ผังโครงการบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางจะมีแต่สวนสาธารณะครับ ของจริงสร้างเสร็จแล้วมีให้ดูบรรยากาศกันได้

มองออกไปทางหน้าโครงการ  ฝั่งตรงข้ามเป็นหมู่บ้านปัญญา

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 007)

 

สวนสาธารณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้าพื้นที่ประมาณ 966 ตารางเมตร

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 006)

 

ออกแบบเน้นสนามหญ้าตรงกลาง ปลูกต้นไม้ใหญ่ติดรั้วโครงการ  ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 003)

 

พื้นที่นั่งพักผ่อนตามจุดต่างๆ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)

 

ดูกันอีกมุมหนึ่งครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 009)

 

ถ่ายจากท้ายสุดของสวนตรงหน้าห้องนิติบุคคลไปทางด้านหน้าโครงการ  มีปูแผ่นคอนกรีตเอาไว้ให้เป็นทางเดินเล่นในสวน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)

เปิดแปลนบ้าน

Plan บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 หน้ากว้าง 5 เมตร 

แปลน บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 จะมีรูปแบบเดียวทั้งโครงการ เป็นแบบหน้ากว้าง 5 เมตร  ลักษณะการวางแปลนจะวางตำแหน่งของบันไดเอาไว้ขนานกับความลึกของตัวบ้าน  ใช้เป็นบันไดช่วงเดี่ยว  และวางฟังก์ชั่นอย่างห้องน้ำและห้องครัวเอาไว้ทางด้านหลังฝั่งเดียวกับบันได  โดยเปิดพื้นที่อีกฝั่งไว้สำหรับห้องต่างๆ

เรามาเริ่มจากชั้นล่างกันก่อน  ด้านหน้าสามารถจอดรถได้ 2 คัน  โดยมีหลังคาในส่วนโครงสร้างชั้น 2 คลุมมาครึ่งคัน  ซึ่งก็จะมีติดตั้งกันสาดสำหรับยื่นออกมาบังแดดในส่วนที่เหลือให้  พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอสเปซส่วนรับแขกและเชื่อมต่อส่วนรับประทานอาหาร  จุดที่น่าสนใจคือพื้นที่ตรงครัวนั้นอยู่กึ่งด้านนอกและกึ่งด้านในตัวบ้าน  คือต้องเปิดประตูออกไปจากสเปซภายใน  แต่ก็ยังอยู่ภายในของแนวตัวบ้านอยู่  และก็สามารถกั้นประตูปิดเพิ่มเอาเองได้  ชอบไอเดียของการวางตำแหน่งครัว  แต่ก็เสียดายตรงที่สเปซนั้นเล็กไปหน่อยครับ  ถ้ามีคนทำกับข้าวอยู่แล้วอีกคนเปิดประตูเข้าไปอาจจะชนหลังกันได้

พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอห้องน้ำ ห้องนอน และด้านหน้าจะเป็นพื้นที่พักผ่อนซึ่งจะมีระเบียงด้วย ห้องพักผ่อนสามารถกั้นผนังกระจกติดแอร์เป็นมุมพักผ่อนของครอบครัว หรือจะกั้นเป็นอีกหนึ่งห้องนอนก็ได้ครับ

ส่วนชั้น 3 ไม่ต่างจากชั้น 2 เพียงแต่เปลี่ยนห้องพักผ่อนด้านหน้า เป็นห้องนอน ส่วนด้านหลังจะเป็นห้องนอนใหญ่ Master bedroom แต่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะต้องแชร์กับห้องนอนด้านหน้าด้วย  การวางตำแหน่งห้องน้ำสำหรับชั้น 2 และชั้น 3 แบบนี้ก็ดีอย่างตรงที่สามารถระบายอากาศและเอาแสงธรรมชาติเข้ามาตรงพื้นที่ส่วนเปียกได้  ทำให้ห้องน้ำนั้นไม่อับชื้นครับ … ส่วนห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2 และ 3 ห้องชั้น 3 จะใหญ่กว่าชั้น 2 เล็กน้อย จากการกั้นผนังและเปลี่ยนทางเข้า ทำให้มีชั้นวางทีวีใหญ่กว่า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างเต็มผนัง  แต่การวางตำแหน่งห้องนอนไว้ด้านหลังก็จะไม่ได้เห็นวิวที่ดีนักเมื่อเทียบกับมุมมองทางด้านหน้าบ้านครับ

Untitled-1

แปลนบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

 

ดูหน้าตาของบ้านจริงๆ เทียบกับแปลนเพื่อความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นครับ

ด้านหน้านั้นทำมาเรียบๆ  ส่วนที่ตกแต่งคือการใช้ลูกเล่นกรอบสีเหลี่ยมเรขาคณิตสีเทาให้ดูโมเดิร์นขึ้น จะมีทั้งสีเหลี่ยมเล็กและใหญ่ 2 ขนาดสลับกันไป  และมีระแนงแนวตั้งในกรอบสีเหลี่ยมใหญ่ด้วย  เรียกว่าลงทุนในการตกแต่งไม่เยอะแต่ก็ทำให้รวมๆ ออกมาแล้วดูไปได้  โทนสีบ้านจะมีสีเดียวกันทั้งโครงการครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

 

ด้านหน้าอาคารมุมกว้างขึ้น

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 001)

 

มาดูหน้าตาด้านหลังกันบ้าง  ด้านนี้ก็เรียบๆ ไม่มีอะไรครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

Interior

ได้ถ่ายรูปบ้านตัวอย่างที่พร้อมตกแต่งมาให้ดู คงพอได้เห็นคร่าวๆกันครับ ว่าส่วนไหนเป็นห้องอะไร นอกจากนี้ยังมีบ้านเปล่ามาให้ดูกันด้วย จะได้เห็นวัสดุที่ให้มาชัดเจนมากยิ่งขึ้น

บ้านตัวอย่าง  บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

เริ่มที่ชั้น 1 เข้าบ้านมาจะเจอกับโซนรับแขก เชื่อมกับรับประทานอาหารด้านหลัง  โดยที่เห็นประตูเปิดไปด้านหลังขนาดใหญ่  สามารถเอาแสงเข้ามาในตัวบ้านได้พอควร

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 6)

 

 

มุมนี้มองจากตรงทางขึ้นบันไดครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 2)

 

ห้องน้ำที่ชั้น 1 อยู่ใต้บันได จะมีไม่มีส่วนอาบน้ำ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 3)

 

มุมนี้มองจากทางด้านหลังบ้านเข้ามาในครัว  สเปซตรงนี้จะเปิดโล่ง  ถ้าอยากจะกั้นห้องก็ต้องมากั้นเพิ่มเอาตอนหลัง  ตรงนี้เราจะเห็นช่องระบายอากาศของห้องน้ำด้วย  จุดที่ต้องระวังหน่อยก็คือเวลายืนล้างจานอยู่  ถ้ามีคนเปิดประตูออกมาจากในตัวบ้านจะชนหลังของคนที่ยืนอยู่ได้ครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 4)

 

ห้องเก็บของใต้บันได เป็นพื้นคอนกรีตเฉยๆ  ไม่ได้ปูกระเบื้องให้

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 5)

 

ขึ้นมาชั้น 2 ครับ ตรงนี้ไม่มีราวจับมาให้

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 12)

 

โถงทางเดินบริเวณชั้น 2 รูปนี้ถ่ายจากด้านหน้าห้องน้ำ  สเปซจริงๆตรงนี้ก็จะมืดหน่อยครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 11)

 

ภายในห้องนอนชั้น 2 ที่ด้านหลังบ้าน  การติดกระจกแบบในบ้านตัวอย่างก็ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้เยอะ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 8)

 

ห้องพักผ่อนอยู่ด้านหน้าของบ้าน เชื่อมต่อกับระเบียง ห้องนี้ปรับเปลี่ยนเป็นอีกห้องนอนได้

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 1)

 

อีกมุมหนึ่งของห้องพักผ่อน

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 7)

 

สเปซตรงนี้จะตั้งชั้นวางทีวีก็ยังมีที่เหลือนะครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 9)

 

ความกว้างระเบียงประมาณ 70 ซม. พอให้ออกไปยืนสูดอากาศได้  แต่ออกไปนั่งใช้สอยคงจะไม่สะดวกนัก

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 10)

 

โถงบันไดชั้น 3  จะมีหน้าต่างที่ช่วยเอาแสงเข้ามาทัั้ง 2 บาน

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 16)

 

เข้ามาห้องนอนใหญ่ Master bedroom ด้านหลังของบ้าน

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 14)

 

สเปซอีกด้านจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มผนัง  วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้เต็มที่

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 13)

 

มาดูกันที่ห้องนอนด้านหน้ากันบ้าง  เป็นห้องนอนเล็กแต่ตำแหน่งที่อยู่หน้าบ้านเลยได้ระเบียงมาด้วย

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 15)

 

ส่วนห้องน้ำชั้น 2 และ 3 จะเหมือนกันเลย นี้มุมเป็นส่วนแห้ง

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 17)

 

และนี้มุมส่วนอาบน้ำครับ ไม่ได้กั้นฉากมาให้ แต่กั้นพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 18)

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (บ้านเปล่า)

ที่โครงการมีบ้านเปล่าให้ดูด้วย จะได้เห็นว่าบ้านจริงๆที่ให้มาหน้าตายังไง สเปซจะโล่งต้องลองจินตนาการเพิ่มเอาครับ  ลองดูเทียบกับห้องตัวอย่างเมื่อกี้ก็จะเห็นภาพมากขึ้น

บ้านเปล่าที่ทำให้ดูเป็นหลังกลาง  ชั้นล่างจะไม่มีหน้าต่างด้านข้างเหมือนในบ้านตัวอย่างครับ  เป็นพื้นกระเบื้อง ไฟที่ให้เป็นดาวน์ไลท์ 4 ดวง สังเกตดูจะเห็นว่าแนวของไฟดาวน์ไลท์จะไม่ตรงกัน  เนื่องจากว่าวางตำแหน่งของดวงไฟเอาไว้ตรงกลางของพื้นที่สเปศในแต่ละจุดนั่นเอง

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 20)

 

ห้องพักผ่อนชั้น 2 ด้านหน้า  ดวงไฟเป็นแบบทรงซาลาเปา สเปซก็ทาสีขาวโล่งๆมาให้แบบนี้ครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 23)

 

ห้องนอนชั้น 2 ด้านหลัง  พื้นที่หน้าต่างด้านหลังจะเล็กหน่อยครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 22)

 

ถ่ายจากโถงบันไดชั้น 3  ด้านในของหน้าต่างด้านบนจะทำความสะอาดไม่ได้  ส่วนด้านนนอกทำความสะอาดจากระเบียงได้ครับ  แต่ยังไงมีไว้ก็ดีกว่าแน่ๆ  เพราะไม่งั้นโถงบันไดจะมืดครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 021)

 

ในห้องน้ำชั้น 2 กับ ชั้น 3 ก็จะเหมือนๆกัน

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 (ภาพที่ 18)

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุของบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77  ที่ให้มานั้นค่อนข้างจะธรรมดาเมื่อมองเทียบกับราคาครับ  คิดว่าต้นทุนโครงการน่าจะลงทุนกับที่ดินไปเยอะ  เลยต้องไปลดเรื่องของวัสดุลงไปหน่อย  เป็นเกรดใช้งาน  อย่างในส่วนห้องน้ำนี่คิดว่าถ้าอัพเกรดขึ้นมาได้อีกหน่อยก็จะดีครับ  ยังไงไปติดตามรีวิววัสดุกัน

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น วัสดุห้องครัว กับวัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  ส่วนวัสดุครัวนั้นจะไม่ได้มีรายละเอียดอะไร  เพราะเตรียมพื้นที่โล่งกับงานระบบเอาไว้ให้เฉยๆ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 002)

ครัวของจริงจะเป็นสเปซโล่งๆ ซึ่งเตรียมงานระบบท่อและตำแหน่งปลั๊กเอาไว้ให้เฉยๆ ครับ

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 - (ภาพที่ 001)

รูปนี้เป็นเคาน์เตอร์ในบ้านตัวอย่าง  ของจริงไม่ได้  แต่ถ่ายมาเพื่อให้ดูว่าพื้นที่ใช้งานกว้างประมาณไหน

วัสดุห้องน้ำ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 006)

กระจกเงาติดผนัง

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)

ฝักบัวของ American Standard  เตรียมช่องสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 007)

อ่างล้างหน้าของ American Standard ด้วยรูปทรงและเกรด ดูธรรมดาไปหน่อย ด้วยระดับราคาแล้วก็น่าจะมีเคาน์เตอร์มาให้ด้วยครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)

ก๊อกน้ำของ American Standard เช่นกัน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 005)

ขอบผนังที่ก่อยืนมา ใช้วางสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ได้

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 007)

ราวผ้าข้างๆ อ่างล่างหน้า

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 001)-2

โถสุขภัณฑ์ American Standard

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)-2

พื้นที่ส่วนอาบน้ำกั้นขอบปูนแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้  โทนสีกระเบื้องจะมี 2 โทน คือสีน้ำตาลเบจ กับสีเทาเข้ม แล้วแต่ห้องครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 009)

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นในห้องนิดหน่อย

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 025)

เริ่มกันตั้งแต่หน้าประตู รั้วเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ สามารถเปิดประตูได้ตามความกว้างทั้งหมดโดยพับเป็นช่วงๆ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 024)

กันสาดแบบเก็บได้  ตามมาตราฐานของทาง AP

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 026)

พื้นยกระดับก่อนเข้าบ้าน  ด้านข้างมีช่องน้ำยาฉีดปลวกเตรียมไว้ให้

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 007)-2

ตรงทางเข้าบ้านยกสเต็ปขึ้นมา กว้าง 30 ซม.

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 006)-2

มือจับที่เปิดประตูบานเลื่อน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 023)

ที่ล็อคประตูบานเลื่อน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 018)

บัว PVC สีขาว  พื้นเป็นลามิเนต เกรดตามมาตราฐาน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 010)

พื้นบันไดไม้ยาง  ผิวและสีของเนื้อไม้ดูดีทีเดียว

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 011)

ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีขาว  ตรงราวจับก็เป็นแค่เหล็กกล่องเหมือนกัน

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 022)

แผงวงจรไฟฟ้าติดตั้งลอยๆ ตรงโถงบันไดชั้น 2

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 019)

ไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 021)

ดวงไฟแบบทรงซาลาเปา

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 002)-2

พื้นลามิเนตระหว่างห้องมีรอยต่อตรงประตู

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 008)

ลูกบิดประตูแบบคันโยกของ Hafele  บานประตูเป็นไม้อัดทาสีขาว

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 016)

ประตูบานเลื่อนเป็น uPVC สีขาวครับ

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 003)-2

ดีเทลงานตรงรอยต่อระหว่างระเบียงและพื้นลามิเนตในห้อง

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 017)

พื้นระเบียงปูกระเบื้องสีเทา ความกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร

บ้านกลางเมือง - (ภาพที่ 004)-2

ราวกั้นตกเหล็กกล่องทาสีดำ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

Money

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (17 กรกฎาคม 2558)  นั้นราคาเริ่มอยู่ที่ 5.99 ล้านบาท  แบบหน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดที่ดินแปลงมาตราฐานของโครงการอยู่ที่ 20 ตารางวา  บ้านที่หันหน้าทิศตะวันออกราคาจะสูงกว่าทิศตะวันตก  ส่วนหลังมุมเพิ่มอีก 1 แสนบาท เช่นเดียวกับที่ดินเพิ่มลด ที่คิดราคาตารางวาละ 1 แสนบาท ครับ

ราคา ณ วันที่ 17  กรกฎาคม 2558 

ราคาเริ่มต้น :

แปลง E01-02 (หน้าบ้านหันทางทิศตะวันตก) พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคา 5,990,000 บาท

แปลง X01-04 (หน้าบ้านหันทางทิศเหนือ) พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคา 6,190,000 บาท

แปลง E01-01 (หน้าบ้านหันทางทิศตะวันตก) พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคา 8,490,000 บาท

เงื่อนไขการจอง :

  • เงินจอง

จอง 20,000 บาท , ทำสัญญา 30,000 บาท  

  • ผ่อนผ่อนดาวน์

ไม่มี  เป็นบ้านพร้อมขาย

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

  1. ค่าจดจำนอง 1% (กรณีขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน)
  2. ค่าธรรมเนียมโอน  1%  (ผู้ซื้อชำระ 1% , ผู้ขายชำระ 1%)
  3. ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์น้ำประปา  6,378 บาท
  4. ค่าติดตั้งและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า  7,650 บาท
  5. ค่าใช้จ่ายส่วนกลางเก็บในอัตรา 67 บาท/ตร.วา ชำระล่วงหน้า 2 ปี


ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

แปลง E01-02 พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคาขาย 5.99 บาท  ผ่อนประมาณ 39,541 บาท/เดือน

แปลง X01-04 พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคาขาย 6.19 บาท  ผ่อนประมาณ 40,861 บาท/เดือน

แปลง E01-01 พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคาขาย 8.49 บาท  ผ่อนประมาณ 56,044 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

แปลง E01-02 พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคาขาย 5.99 บาท  ผ่อนประมาณ 41,791 บาท/เดือน

แปลง X01-04 พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคาขาย 6.19 บาท  ผ่อนประมาณ 43,186 บาท/เดือน

แปลง E01-01 พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคาขาย 8.49 บาท  ผ่อนประมาณ 59,233 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

แปลง E01-02 พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคาขาย 5.99 บาท  ผ่อนประมาณ 45,557 บาท/เดือน

แปลง X01-04 พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคาขาย 6.19 บาท  ผ่อนประมาณ 47,078 บาท/เดือน

แปลง E01-01 พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคาขาย 8.49 บาท  ผ่อนประมาณ 64,571 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

แปลง E01-02 พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคาขาย 5.99 บาท  ผ่อนประมาณ 52,423 บาท/เดือน

แปลง X01-04 พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคาขาย 6.19 บาท  ผ่อนประมาณ 54,174 บาท/เดือน

แปลง E01-01 พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคาขาย 8.49 บาท  ผ่อนประมาณ 74,303 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

แปลง E01-02 พื้นที่ 20.00 ตร.วา  ราคาขาย 5.99 บาท  ผ่อนประมาณ 67,127 บาท/เดือน

แปลง X01-04 พื้นที่ 20.50 ตร.วา  ราคาขาย 6.19 บาท  ผ่อนประมาณ 69,369 บาท/เดือน

แปลง E01-01 พื้นที่ 55.90 ตร.วา  ราคาขาย 8.49 บาท  ผ่อนประมาณ 95,144 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ที่ตั้งโครงการบ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 อยู่ในซอยอ่อนนุช 17 เข้าถึงได้จากทั้งทางถนนอ่อนนุชและทางถนนพัฒนาการ  โดยถ้าไม่ขับรถเองก็มีรถสองแถววิ่งบริการอยู่  โดยวิ่งจากตรง Big C Extra อ่อนนุช ตรงต้นซอยสุขุมวิท 77 ซึ่งถ้าเดินต่อไป BTS อ่อนนุช ก็อีก 500 เมตรครับ โดยรวมๆ เลยถือว่าไม่ได้ลำบากนักแม้โครงการจะอยู่ในซอยย่อย  จุดขึ้นลงทางด่วนใกล้สุดจะเป็นสุขุมวิท 50 และ สุขุมวิท 62

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานหลักนั้นมีกระจายออกไปจากบริเวณรอบๆ โครงการอยู่แล้ว  ทั้งทางด่วนและระบบรถไฟฟ้า  แต่ก็ยังไม่ได้มีแผนพัฒนาอะไรใหม่ๆ ออกมาอย่างชัดเจนครับ  พื้นที่โซนนี้ก็น่าจะค่อยๆ โตเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่แน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แต่ก็ไม่ได้หวือหวาหรือรวดเร็วมากนัก

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

หน้าตาของบ้านในโครงการจะมีแบบเดียวครับ  มีการใช้รูปทรงง่ายๆ อย่างกรอบสีเหลี่ยม 2 ขนาดที่แตกต่างกัน มาช่วยตกแต่งให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น  หน้าตารวมๆของบ้านเป็นโมเดิร์นเรียบๆ ไม่ได้หวือหวา  ซึ่งพอมีเจ้าตัวกรอบนี่ก็ดูเรียบร้อยดีครับ  ถ้าหากไม่มีเลยจะดูโล้นๆธรรมดาไปหน่อย  โทนสีจะเป็นสีขาวตัดด้วยสีเทาดูสะอาดตาดี

ลักษณะการจัดแปลนห้องทำมาโอเคดีทีเดียว  ได้พื้นที่ใช้สอยหลักๆครบ  จุดที่น่าสนใจเป็นตรงครัวที่ทำเป็นสเปซกึ่งด้านนอกกึ่งด้านในบ้าน  คือ พอเปิดประตูออกไปที่ครัวด้านหลังบ้านก็จะยังอยู่ในตัวบ้านอยู่  ถ้าอยากได้สเปซครัวปิดก็สามารถทำประตูเพิ่มได้โดยที่ไม่ต้องไปต่อเติมหลังบ้านให้ดูไม่สวยงามและอึดอัดเหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไปครับ  ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ตำแหน่งห้องนอนของชั้น 2 และ 3 ไปอยู่ด้านหลังบ้าน  ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นส่วนพักผ่อนและห้องนอนเล็กแทน  ซึ่งจะทำให้ห้องนอนใหญ่ไม่ได้เห็นวิวที่กว้างๆ ที่ด้านหน้าบ้านนักครับ  แต่ถ้าไม่ดูเรื่องวิวแล้ว  ลักษณะการจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆนั้นของบ้านค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว  ส่วนในเรื่องวัสดุนั้นให้มาค่อนข้างธรรมดาไปเมื่อเทียบกับราคาครับ  โดยส่วนตัวแล้วก็คาดหวังมากกว่านี้อีกหน่อย  เลยคิดว่าน่าจะเพราะโครงการใช้สัดส่วนเงินไปลงทุนไปกับที่ดินเยอะ  เนื่องจากทำเลนั้นออกไปไม่ไกลก็ถึงตรงปากซอยอ่อนนุชที่มีรถไฟฟ้าแล้ว

พื้นที่ส่วนกลางที่ให้จัดมามีเฉพาะสวนสาธารณะบริเวณหน้าโครงกร  ซึ่งก็ทำออกมาเรียบร้อยสวยงามดี  ด้วยความที่ตำแหน่งสวนนั้นอยู่ที่ด้านหน้าโครงการ  คนที่บ้านอยู่ด้านในอาจจะต้องเดินไกลกว่าบ้านโซนด้านหน้าพอควร  ตอนนี้ต้นไม้ที่ลงไว้ก็เริ่มเซตตัวแล้ว  อีกไม่นานน่าจะร่มรื่นขึ้นอีกครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

 

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ

อยู่สบายพาดูบรรยากาศงาน Citi Condo Expo by BC ที่ชั้น 1 สยามพารากอน วันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. นี้

$
0
0

สุดสัปดาห์ที่หยุดยาวนี้ (31 ก.ค. – 2 ส.ค.) มีงานคอนโดที่น่าสนใจที่สยามพารากอนครับ  เป็นงานชื่อ Citi Condo Expo by BC ที่จัดโดย BC ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของค่าย AP นำคอนโดในโซนต่างๆทั่วกรุงเทพฯ ที่ปล่อย resale มาขายกัน  จุดนึงที่น่าสนใจของงานนี้คือ แม้ BC จะเป็นโบรกเกอร์ของทาง AP แต่โครงการที่นำมาออกขายในงานนั้นเป็นโครงการที่มาจากหลากหลายดีเวลลอปเปอร์  ไม่ได้เอามาขายแต่เฉพาะคอนโดของทาง AP เท่านั้น    ซึ่งปกติแล้วไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็นงานขายคอนโด resale ของดีเวลลอปเปอร์หลายๆเจ้าพร้อมกันในที่เดียวแบบนี้ครับ

เรามาพามาที่ชั้น 1 ของสยามพารากอน ดูบรรากาศของงานนี้กันครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 9)

 

ขึ้นบันไดเลื่อนจากตรงกลางมาก็จะถึงเลย  เป็นจุดเดียวกับที่จัดงานอีเว้นท์หลักของสยามพารากอนทุกงานครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 17)

 

รูปนี้เอามาฝากหนุ่มๆ ทั้งหลายนะครับ … แฮ่ม!

BKK Citi Smart (ภาพที่ 5)

 

บรรยากาศนั้นคึกคักกันตั้งแต่เริ่มเปิดงานเลยทีเดียว

BKK Citi Smart (ภาพที่ 18)

 

ในภาพ คุณขยล ตันติชาติวัฒน์ GM ของ BC กำลังกล่าวสรุปภาพรวมของงานต่างในส่วนต่างๆให้กับผู้ร่วมงานฟังครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 1)

 

ในงานนี้ทาง BC มองกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อคอนโดออกเป็น 4 กลุ่มหลัก  ตามระดับราคาที่จะซื้อหาได้  โดยแบ่งเป็น กลุ่มราคา(ต่ำกว่า) 3 ล้านบาท, 5 ล้านบาท, 9 ล้านบาท และกลุ่มราคา Super Premium ของคนกระเป๋าหนัก มาให้เลือกซื้อกัน  โดยมีทั้งห้องที่มีคนมาฝากปล่อยขาย resale  และห้องที่นำมาขายโดยตรงจากบางโครงการ  ซึ่งโครงการเหล่านี้ก็จะได้ส่วนลดค่อนข้างเยอะในราคาหลักแสนครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 2)

 

การจัดบูธนั้นจะแยกออกเป็นโซนต่างๆ ชัดเจน  ใครมองหาคอนโดโซนไหนก็เดินดูป้ายแล้วเจาะไปที่ทำเลแต่ละโซนได้เลย

BKK Citi Smart (ภาพที่ 16)

 

แน่นอนว่าไฮไลท์ของแต่ละโซนก็ต้องมีคอนโดของ AP เป็นพระเอก  แต่คอนโดที่เอามาขายทั้งหมดก็มาจากหลากหลายเจ้าอย่างที่เล่าไปแล้วครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 12)

 

ในงานก็มีทั้งโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ และขายหมดไปแล้ว บางตึกสร้างเสร็จแล้วก็มีครับ  อย่าง Aspire Sathorn – Thapra ที่ขายหมดในวันเดียวตอนเปิดจองเมื่อปีก่อน  ก็มีนักลงทุนเอามาปล่อยขายผ่านทาง BC

BKK Citi Smart (ภาพที่ 15)

 

จริงๆ แล้วลักษณะการขายคอนโด re-sale สำหรับห้องที่มีคนฝากขาย  เรื่องราคาสูงต่ำนั้นส่วนหนึ่งก็แล้วแต่ว่าจะตั้งราคาส่วนต่างเพิ่มมากน้อยแค่ไหน  บางทีห้องแบบเดียวกัน  ในตำแหน่งใกล้เคียงกัน ตั้งราคาต่างเยอะกันก็มีครับ  ของแบบนี้เลยต้องอาศัยความขยันดูให้ให้เยอะเข้าไว้ดีกว่า

BKK Citi Smart (ภาพที่ 14)

 

มีการแยกพื้นที่ตามโซนต่างๆ ตามที่บอกไว้ชัดเจนครับ  สนใจโซนไหนก็เจาะไปเฉพาะโซนได้

BKK Citi Smart (ภาพที่ 13)

BKK Citi Smart (ภาพที่ 10)

 

ข้อดีอีกอย่างของงานนี้คือ ถึงแม้ว่า BC จะเป็นโบรกเกอร์ของ AP แต่มีคอนโดจากหลากหลายดีเวลลอปเปอร์ทั้งเจ้าเล็กเจ้าใหญ่  อย่างโซนพญาไท – ราชเทวี  นอกจาก Rhythm รางน้ำ ของทาง AP ก็มี Noble Revent , Ideo Q Ratchethewi ,Wish Signature หรือแม้แต่โครงการที่เสร็จไปแล้วอย่าง Condolette Ize ครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 11)

 

จะมีเซลล์ยืนกระจายกัน รอให้คำแนะนำอยู่ในหลายๆ จุด

BKK Citi Smart (ภาพที่ 7)

 

บางทีก็ต้องลองถามในรายละเอียดเพิ่มดูด้วย  เพราะห้องที่เอามาขายก็ไม่ได้มีแต่เฉพาะที่ติดโชว์เอาไว้  ทาง BC เขาโฆษณาเอาไว้ว่ามีคอนโดมากกว่า 2,000 ยูนิต มาอยู่ในงาน

BKK Citi Smart (ภาพที่ 6)

BKK Citi Smart (ภาพที่ 15)

 

นอกจากโซนของคอนโดในราคาปกติที่คนทั่วไปพอจะซื้อหากันได้แล้ว  ก็มีมุมของคอนโดราคา Super Premium ตัวแพงๆ อย่าง 185 ราชดำริ , Nimit หลังสวน , XXXIX by Sansiri หรือแม้แต่ Mahanakorn ก็มีห้อง re-sale มาปล่อยขายกันครับ

BKK Citi Smart (ภาพที่ 8)

 

ใครสนใจก็ยังสามารถไปร่วมงานกันได้  โดยงาน Citi Condo Expo by BC จะจัดถึงวันที่ 2 ส.ค. นี้  โดยในงานถ้าใครซื้อคอนโดโดยมียอดสูงที่สุดของวัน  ก็จะมีของสมนาคุณเป็น Mac Book Air 13″  ให้ทุกวัน  รวมถึงถ้าจองยูนิต resale ในงาน ก็จะได้รับ Gift Voucher ของสยามพารากอน 10,000 บาทด้วยครับ

 

 

ไอเดียแต่งบ้านให้อยู่สบายด้วย “อิฐช่องลม ” [ไอเดียอยู่สบาย]

$
0
0

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวอยู่สบาย เพื่อนๆ คงจะคุ้นตากันดีกับ อิฐช่องลม” ที่เราใช้เป็นรั้วของที่อยู่อาศัย เพื่อระบายอากาศใช่มั้ยคะ วันนี้ไอเดียอยู่สบาย มีไอเดียการแต่งบ้านให้โปร่งสบายด้วย “อิฐช่องลม” มาฝากกันค่ะ ^^

ปัจจุบันมีการนำ “อิฐช่องลม” มาใช้กันแพร่หลายมากขึ้น  รูปแบบหน้าตาของอิฐช่องลมก็โมเดิร์นเหมาะกับยุคสมัยเรามากขึ้น ทำให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน ได้หลากหลายความต้องการมากขึ้นด้วยค่ะ

 

อิฐช่องลม  - ภาพที่ 1

( photo : via )

ก่อนอื่นเราจะมาบอกข้อดีของ “อิฐช่องลม” กันก่อนดีกว่าค่ะ นอกจากหน้าที่หลัก ซึ่งคือใช้เพื่อกั้นพื้นที่ออกจากกันแล้ว ข้อดีด้านอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ

 

1. ถ่ายเทอากาศได้ดี เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา

( photo : via )

( photo : via )

 

2. แสงธรรมชาติสามารถผ่านเข้าได้ เป็นอีก 1 ทางเลือกในการประหยัดพลังงานค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

3. มีความเป็นส่วนตัว ความถี่หรือห่างของบล็อก สามารถกำหนดได้จากการใช้งานของพื้นที่นั้นๆ ว่าเราต้องการความเป็นส่วนตัวแค่ไหนค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

4. ป้องกันแดด-ฝน ได้ เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่กึ่ง outdoor

( photo : via )

( photo : via )

 5. มีรูปแบบที่หลากหลาย สามารถออกแบบลวดลายเองได้

( photo : pinterest )

( photo : via )

 

เรามาดูไอเดียการนำ ” อิฐช่องลม ” ไปใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานกันค่ะ

การใช้อิฐช่องลมกั้นพื้นที่ระหว่างที่จอดรถ กับพื้นที่สนามหญ้าในบ้าน ทำให้แยกพื้นที่การใช้งานชัดเจน และช่วยบังวิวที่ไม่สวยเท่าใดนักของที่จอดรถได้ด้วยค่ะ

(  photo : via )

( photo : via )

ใช้เป็นผนังกั้นภายในอาคาร  ก็ทำให้ห้องดูมีมิติขึ้นค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

( photo : via )

( photo : via )

เมื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ จะทำให้เกิดเอฟเฟคจากแสงธรรมชาติ สวยงามไปอีกแบบค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

หรือพื้นที่เล็กๆ ก็เกิดเอฟเฟคจากแสงธรรมชาติได้เช่นกันค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

จัดแสงไฟดีๆ ตอนกลางคืนก็ออกมาสวยเหมือนกันนะคะ

( photo : via )

( photo : via )

ปิดท้ายด้วยมุมสระว่ายน้ำสวยๆ กับพื้นหลังที่ตกแต่งด้วย “อิฐช่องลม” ค่ะ

( photo : via )

( photo : via )

เพื่อนๆที่กำลังออกแบบ หรือตกแต่งบ้านสามารถนำไอเดียการใช้อิฐช่องลม ไปใช้กันได้นะคะ นอกจากจะทำให้บ้านเย็นสบายแล้ว ยังทำให้เรามีมุมพักผ่อนที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วยค่ะ ^^

 

 

อนันดาฯ เตรียมจัดงานใหญ่ “ANANDA URBAN PULSE” พร้อมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ วันที่ 12-16 ส.ค. 58 นี้ ที่สยามพารากอน [ข่าว]

$
0
0

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดงาน “ANANDA URBAN PULSE” พบความยิ่งใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่พร้อมนำเสนอที่อยู่อาศัยบนทำเลที่ดีที่สุด ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณลงตัวในทุกมิติ เพียบพร้อมด้วยคุณภาพและความสะดวกสบาย ตอบรับรูปแบบชีวิตคนเมืองยุคใหม่ได้ครบทุกองศา นำ 12 โครงการคุณภาพ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 – 5.5 ล้านบาท และข้อเสนอพิเศษแบบจัดหนักจัดเต็ม “ครั้งเดียวในรอบปี Everything is Freeเฉพาะภายในงานวันที่ 12-16 ส.ค. 58 นี้ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ANANDA-URBAN-PULSE

 

 

  • เปิดตัว!! คอนโดติดรถไฟฟ้า 4 โครงการใหม่ล่าสุด บนสุดยอดทำเลศักยภาพ เริ่ม 1.9 ล้านบาท
  • โครงการ คิว ชิดลม เพชรบุรี (Q Chidlom-Phetchaburi)
  • โครงการ ไอดีโอ โอทู บางนา (Ideo O2)
  • ครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 115 (IDEO Sukhumvit 115)
  • โครงการ Q Thirty-One ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์และข้อมูลก่อนใคร เริ่มเปิดจองครั้งแรกปลายปี 58
  • 5 โครงการ Ready to move in คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ กับโปรโมชั่นพิเศษสุด!! “ครั้งเดียวในรอบปี Everything is Free” อยู่ฟรีสูงสุด 730 วัน / ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน / ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ท / ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB ในราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 29 – 5.5 ล้านบาท
  • ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ, เอลลิโอ สุขุมวิท 64 แต่งครบพร้อมอยู่ / อยู่ฟรี 730 วัน / ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB
  • ไอดีโอ วุฒากาศ อยู่ฟรี 365 วัน / ผ่อน 0% นาน 10 เดือน / ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB
  • เอลลิโอ เดล เรย์ แต่งครบพร้อมอยู่ / อยู่ฟรี 730 วัน / ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า / ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB
  • ไอดีโอ โมบิ จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ รับข้อเสนอพิเศษ อยู่ฟรี 730 วัน พร้อมรับเพิ่ม ทัวร์ญี่ปุ่น และฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB
  • และอีก 3 โครงการคุณภาพติดรถไฟฟ้า
  • ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB
  • ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี ฟรี Samsung Galaxy S6 edge 32GB พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
  • ยูนิโอ จรัญฯ 3 ฟรี เครื่องปรับอากาศ (ในยูนิตพิเศษ จำนวนจำกัด)

 

 

พิเศษสุด เพียงลงทะเบียนได้ที่ www.ananda.co.th เพื่อรับส่วนลดพิเศษ และเข้าร่วมงาน รับสิทธิ์ลุ้นรับ Samsung Galaxy S6 edge ฟรีทันที อีกวันละ 2 เครื่อง สามารถชมห้องตัวอย่างได้ก่อนใคร ก่อนร่วมสนุกกับกิจกรรม
#Colorsofpulse ค้นหาสีสันของคุณได้ที่ ananda.co.th/colorsofpulse และรับข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย ได้ที่งาน ANANDA URBAN PULSE วันที่ 12-16 ส.ค. 58 นี้ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 316 2222 หรือที่ www.ananda.co.th

Viewing all 5526 articles
Browse latest View live